ฉลองครบรอบ 95 ปี Jubilee Diamond ประกาศความเป็นที่สุดของเครื่องประดับแบรนด์ไทยระดับเวิลด์คลาส

account_circle

ถือเป็นแบรนด์เครื่องประดับของไทยที่มีอายุยาวนานกว่า 95 ปี โดยส่งต่อประสบการณ์และองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่นมายังเจนเนอเรชั่นที่ 4 ภายใต้การนำทัพของซีอีโอหญิงเก่งคนนี้  คุณอัญ-อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)

ในโอกาสพิเศษที่ Jubilee Diamond ครบรอบ 95 ปี คุณอัญได้เตรียมสิ่งใหม่ๆ มาเซอร์ไพร้ส์ลูกค้ามากมาย ถือเป็นการ kick off สู่หนึ่งศตวรรษในฐานะผู้นำธุรกิจอัญมณีในประเทศไทย

เฉลิมฉลองความสำเร็จ

“เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยูบิลลี่ได้จัดงาน “Jubilee Diamond 95th Anniversary, The House of Excellence” เพื่อเฉลิมฉลองในฐานะแบรนด์เครื่องเพชรระดับมาสเตอร์พีชของคนไทยที่ครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนาน นั่นเพราะเครื่องประดับเพชรยูบิลลี่ผลิตตรงตามมาตรฐานระดับเวิลด์คลาส นอกจากเพชรทุกเม็ดได้ผ่านการคัดสรรและนำเข้าจากแหล่งเจียระไนที่ดีที่สุดแล้ว ปีนี้เรามีเรื่องราวดีๆ และความพิเศษมากมาย เริ่มตั้งแต่ ยูบิลลี่ได้ร่วมกับบริษัทเพชรยักษ์ใหญ่ระดับโลก De Beers เจ้าของแบรนด์เพชรอันดับหนึ่งของโลก De Beers Forevermark ที่มีลูกค้าระดับซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวู้ดใส่ไปร่วมงาน Red Carpet มาอย่างยาวนาน ได้นำเพชรมาตรฐาน และเพชร De Beers Forevermark Black Label Collection ท็อปเกรดในเรื่องความหายาก และที่สุดของความสวยงามและเปล่งประกาย มาจัดแสดงในงานนี้

“อีกหนึ่งไฮไลท์คือ แบรนด์  Love100 (เลิฟวันฮันเดรด) เพชรทรงกลม 100 เหลี่ยม ที่ออกแบบการเจียระไนโดยตระกูลทอลคอฟสกี้ (Tolkowsky) ช่างเจียระไนเพชรที่สืบทอดมาอย่างยาวนานที่สุดของโลกกว่า 200 ปี ผู้คิดค้นการเจียระไนเพชรทรงกลมที่เป็นมาตรฐานระดับโลกจนทุกวันนี้ ซึ่งภายในงานมิสเตอร์ฌองพอล ทอลคอฟสกี้ ทายาทรุ่นที่ 7 ได้เดินทางจากเบลเยี่ยมมาร่วมงานนี้โดยเฉพาะ

“รวมทั้งแบรนด์จากอิตาลี อย่าง Sinfonia d’Oro (ซินโฟเนียดิโอโร่) ถือเป็น Handcraft Gold Jewelry ฝีมือช่างทองชาวอิตาเลียน กับชิ้นงานที่เปล่งประกายเหมือนมีเพชรเม็ดเล็กๆ ซ่อนอยู่ภายใน ถือเป็น Italian Craftmanship งานคราฟท์ที่ประณีต และลอกเลียนแบบได้ยาก

“นอกจากนี้ โรงงานที่เมืองโทยามะ ประเทศญี่ปุ่น ผู้ผลิตเครื่องประดับของยูบิลลี่ทุกชิ้น ถือเป็นโรงงานที่มีนวัตกรรมการผลิตที่ทันสมัยอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งเราทำงานร่วมกันมากว่า 25 ปี ด้วยโอกาสที่ยูบิลลี่ครบรอบ 95 ปี ทางโรงงานได้นำเครื่องประดับชิ้นพิเศษที่ชนะรางวัลระดับประเทศมาจัดแสดง ซึ่งไม่เคยจัดแสดงในประเทศญี่ปุ่นมาก่อนเลย ถือเป็นงานที่รวบรวมแบรนด์ชั้นนำระดับโลกทั้งจาก อิตาลี เบลเยียม อังกฤษ ญี่ปุ่น มารวมไว้ในงานนี้เพื่อลูกค้าของเราโดยเฉพาะ อัญเชื่อว่าไม่มีจิลเวลรี่ไทยแบรนด์ไหนที่สามารถทำได้แบบนี้มาก่อน

“งานนี้ยังเหมือนเป็นการ kick off ที่ทำให้ลูกค้าได้ทราบถึงนวัตกรรมต่างๆ ของเครื่องประดับเพชรยูบิลลี่ ซึ่งตั้งแต่ต้นปี เราได้ทำแคมเปญ “Craft for Excellence ที่สุดเรื่องเพชรเพื่อคุณ” โดยได้เชิญคุณแอฟ – ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ มาเป็น The Friend of Jubilee Dimond คนไทยคนแรกของแบรนด์ โดยเราต้องการที่จะสื่อสารความเป็น DNA หรือตัวตนของยูบิลลี่ออกไปสู่ลูกค้า โดยคุณแอฟเป็นเหมือนตัวแทนในการถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นเวิลด์คลาสของยูบิลลี่

“เหตุผลที่เราเลือกที่จะ Kick off ในโอกาสครบรอบ 95 ปี เพราะปัจจุบันมีแบรนด์ไทยไม่กี่แบรนด์ที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 95 ปี วันนี้เราตั้งใจที่จะบอกกับทุกคนว่า ในอีก 5 ปี ยูบิลลี่จะเป็นแบรนด์ที่เข้าสู่หนึ่งศตวรรษหรือ 100 ปี ดังนั้นตั้งแต่ปีที่ 95 เราจะทำอะไรที่มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น เหมือนกับว่า เราแข่งกับตัวเองในทุกๆ ปี”

DNA ของยูบิลลี่ ไดมอนด์

“อัญถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 ของยูบิลลี่ ซึ่งรุ่นเหล่ากง รุ่นอากง และรุ่นคุณพ่อ ได้ปูพื้นฐานให้กับเราเพื่อที่จะต่อยอดต่อไป แต่ด้วยสถานการณ์ สภาพแวดล้อม และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน เราจึงต้องปรับตัวให้แมตช์กับสถานการณ์หรือความต้องการของลูกค้าในเจเนอเรชั่นนั้นๆ ซึ่งยูบิลลี่มี DNA ที่ถือเป็น Motto ของบริษัทเราคือ ความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ เราจะทำอย่างไรที่จะทำให้แบรนด์ยูบิลลี่อยู่ในใจลูกค้า ดังนั้นอัญจะพูดกับทีมงานเสมอว่า แบรนด์เราก้าวมาสู่ปีที่ 95 จะต้องเป็นปีแห่ง Legacy ที่มีความใหม่เสมอ หรือ always fresh เพราะด้วยความที่แบรนด์เราเติบโตมาอย่างยาวนาน ไม่ได้แปลว่าจะต้องยึดติด แต่เราสามารถนำประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญตลอด 95 ปี มาต่อยอดเพื่อรับมือกับโลก และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ประสานกับเรื่องของดิจิตอล และเทคโนโลยี ยูบิลลี่ก็จะสามารถอยู่ในใจลูกค้า ในฐานะแบรนด์เครื่องประดับเพชรที่มีสิ่งใหม่ๆ คอยเสิร์ฟให้ลูกค้าอยู่เสมอค่ะ

“ปีนี้เป็นปีที่ 22 ของการทำงานที่ยูบิลลี่ของอัญค่ะ อัญเริ่มทำงานที่นี่ตั้งแต่อายุ 22 ปี ซึ่งไม่ได้มีไบเบิลที่จะบอกว่า ควรทำอย่างไร เพราะฉะนั้นทุกอย่างจะเขียนจากกระดาษเปล่า โดยร่างขึ้นมาเองจากพื้นฐานของความเข้าใจในพฤติกรรมของลูกค้าว่าเป็นอย่างไร แล้วสร้างรูปแบบโมเดลทุกอย่างของเราเองทั้งหมด จึงทำให้อัญชอบคิดและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เสมอ  

“ด้วยประสบการณ์การทำงานในฐานะผู้บริหารกว่า 22 ปี อัญอาจจะไม่ได้รอบรู้ไปหมดทุกอย่าง แต่สิ่งที่อัญมีคือ ความตั้งใจ และการเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองทั้งกายและใจ  เรื่องการเตรียมความพร้อมทางใจ เมื่อเรามีองค์ความรู้เพียงพอ ก็จะมั่นใจในการตัดสินใจทำอะไรใหม่ๆ ประกอบกับการมีทัศนคติบวก ทุกการทำงาน ถ้าเราทำจนถึงที่สุดแล้ว ผลที่ออกมาไม่ว่าจะดีหรือร้าย ถือเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ ทำให้เราได้เรียนรู้ และพัฒนาให้ดีขึ้น แต่ด้วยความที่ยูบิลลี่เป็นธุรกิจค้าปลีก เวลาผิดหวัง หรือดีใจได้เพียงไม่นาน เดี๋ยวก็ผ่านไป แล้วทุกอย่างก็เริ่มใหม่อีกครั้ง เหมือนเป็นการฝึกตัวเองว่า ดีใจก็ไม่ต้องสุด  เสียใจก็ไม่ต้องสุด อัญว่าสิ่งที่สำคัญคือ สนุกกับสิ่งที่ทำทุกวันดีที่สุดค่ะ

“สำหรับการเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกาย อัญดูแลรักษาสุขภาพอยู่แล้ว ชอบออกกำลังกาย อาทิตย์ละ 3-4 วัน และตรวจสุขภาพใหญ่ประจำปีมาตลอด เพราะเชื่อว่า ถ้าใจพร้อม ร่างกายพร้อมที่จะลุย  บวกกับการวางแผนและมีแนวความคิดแล้วว่าจะทำอะไร ก็จะสามารถทำงานนั้นๆ ออกมาได้อย่างเต็มที่”

Set New Standard

“ตลอดระยะเวลา 95 ปี ยูบิลลี่พยายามที่จะสร้างมิติใหม่ให้เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมเพชรในประเทศไทยมาโดยตลอด ทุกวันนี้ ธุรกิจจิวเวลรี่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมาก ซึ่งยูบิลลี่ถือเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญ ไม่ว่าจะ การเป็นผู้บุกเบิกในเรื่องการนำเครื่องประดับเพชรไปจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า จนทำให้เกิดแผนกเครื่องประดับขึ้นมา นั่นเพราะเราเริ่มเห็นพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป หรืออาชีพนักขายเพชร เดิมประเทศไทยการที่จะขายเพชรได้ ต้องเป็นคนในครอบครัวหรือญาติเท่านั้น แต่เมื่อยูบิลลี่เกิดโมเดลธุรกิจในการที่จะขยายสาขาขึ้น จึงทำให้มีอาชีพนักขายเพชรเกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งเราได้สร้างนักขายเพชรไปแล้วไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันคน และทุกคนสามารถหารายได้เลี้ยงดูครอบครัวได้ ทำให้สถาบันครอบครัวเข้มแข็ง

“วันนี้เราได้สร้างมาตรฐานใหม่ในการซื้อเครื่องประดับเพชร จากเดิมที่ไม่มีใครรู้จักเพชรน้ำ 100 ว่าคืออะไร หรือใบ certificated คืออะไร หลังจากยูบิลลี่พยายามอย่างหนักในการที่จะให้ความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องกับลูกค้า ทำให้ทุกวันนี้คนไทยจะตามหาซื้อเฉพาะเพชรสวยๆ ดีๆ จนตลาดต่างประเทศ หรือซัพพลายเออร์ถามอัญว่า ทำไมคนไทยใช้เพชรสเปคสูงจัง เพราะที่ต่างประเทศ เพชรประมาณ G color หรือ H color ถือเป็นน้ำเพชรที่สูงแล้ว แต่คนไทยใช้เพชร D color หรือเพชรน้ำ 100 เลยทีเดียว ทำให้วันนี้คนซื้อเพชรทุกคนจะต้องถามว่า มีใบเซอร์ไหม

“นอกจากนี้ ในอดีตจิวเวลรี่จะเป็นธุรกิจครอบครัว แต่ยูบิลลี่สามารถทำให้เป็นบริษัทที่สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และกลายเป็นบริษัทมหาชนได้ วันนี้ยูบิลลี่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นปีที่ 15 แล้ว ทำให้เรามีมุมมอง หรือเห็นโอกาสของอุตสาหกรรมอัญมณีในประเทศไทยกว้างขึ้น และเติบโตขึ้น ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราเป็นผู้บุกเบิกมาตลอด

“สำหรับการก้าวสู่หนึ่งศตวรรษของยูบิลลี่ อัญยังคงมี Passion ในสิ่งที่ทำ และพร้อมที่จะใส่เต็มร้อยให้กับองค์กร เพื่อต่อยอดให้ธุรกิจของเราเจริญงอกงาม และที่สำคัญคือการทำให้ลูกค้ามีความสุข อย่าง เพชรทุกเม็ดที่อัญเลือกให้กับลูกค้าคือสวยแล้ว แต่อัญจะคิดเสมอว่า สวยกว่านี้ได้อีกไหม ดีกว่านี้ได้อีกไหม รวมทั้งนวัตกรรมการผลิตตัวเรือน ถามว่าทำไมอัญจะต้องส่งไปทำที่โรงงานในประเทศญี่ปุ่น เพราะโรงงานแห่งนี้ผลิตให้กับแบรนด์ดังระดับโลก อัญยังใส่ใจไปถึงพนักงานของยูบิลลี่ เพราะหนึ่งในหน้าที่ของผู้นำองค์กรคือ การดูแลพนักงานให้ดี เพราะอัญเชื่อว่าถ้าพนักงานของอัญมีความสุข เขาก็จะดูแลลูกค้าอย่างดีเช่นเดียวกัน

“ในแง่ของการบริหารธุรกิจ การที่จะทำให้บริษัทอยู่ได้อย่างยั่งยืนนอกจากผลงานและผลประกอบการแล้ว สำหรับยูบิลลี่ ประสบการณ์ที่ลูกค้าจะต้องได้รับนั้นมีส่วนสำคัญ เราต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า ยูบิลลี่ให้อะไรมากกว่าที่เขาคาดคิด

“…นั่นคือสิ่งที่อยู่ในใจอัญมาตลอดค่ะ”

Praew Recommend

keyboard_arrow_up