เจาะเทรนด์ & ทริคบิวตี้ ‘หมอกลาง – หมอต่อ’ แห่ง Dermatige Aesthetics

account_circle

ถ้าพูดถึงเทรนด์บิวตี้ยุคนี้ ก็ต้องยกให้กับเหล่าหัตถการความงามต่างๆ ที่เข้ามามีบทบาทต่อคนรักสวยแบบครบทุกมิติ งานนี้ แพรว จึงขอพาทุกคนไปเจาะเทรนด์บิวตี้ พร้อมขอทริคการทำสวยดีๆ จาก ‘หมอกลาง – นพ.ณัฐณกัณฑ์ พิชยะวงศ์ภัค’ และ ‘หมอต่อ – นพ.ภาณุพงศ์ ภัทรกุลทวี’ แห่ง Dermatige Aesthetics กันค่ะ

หัตถการลูกรักของสาวกบิวตี้ยุคนี้

หมอต่อ : “หัตถการที่ได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้ ผมมองว่าเป็นพวกตระกูลยกกระชับครับ โดยเฉพาะโปรแกรมอัลเทอราปี ที่ผู้รับบริการส่วนใหญ่ชื่นชอบ เพราะนอกจากจะช่วยยกกระชับผิวได้ถึงชั้น SMAS แล้ว ยังเป็นหัตถการที่ใช้เวลาพักฟื้นน้อย เจ็บน้อย เรียกว่าเป็นหัตถการที่ตอบโจทย์ปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุด ส่วนอีกหนึ่งหัตถการที่ครองใจผู้รับบริการที่มีปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ก็ต้องยกให้กับโปรแกรมโบเจนใหม่ครับ ซึ่งผมทดลองกับตัวเองแล้วได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ จึงกล้าที่จะแนะนำ ขณะเดียวกันผู้รับบริการส่วนใหญ่ก็รู้สึกประทับใจกับผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

“เชื่อว่าคนที่ติดตามเพจ Dermatige Aesthetics น่าจะเห็นว่าอีกหนึ่งหัตถการที่ได้รับความนิยมคือโปรแกรม ฉีดฟิลเลอร์เบโลจากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งผู้รับบริการส่วนใหญ่ชื่นชอบในตัวผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งเนื้อแข็งและเนื้ออ่อน ช่วยปรับแต่งรูปทรงปากได้ดี ถือเป็นอีกหนึ่งหัตถการยอดฮิตในเวลานี้เลยครับ”

หมอกลาง : “นอกจากหัตถการที่หมอต่อเล่าไป อีกหนึ่งโปรแกรมที่กำลังได้รับความสนใจคือโปรแกรม Reset ผิว Young ซึ่งตอบโจทย์เทรนด์งานผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น แตกต่างจากโปรแกรมดูแลผิวอื่นๆ ตรงที่ลดผลข้างเคียงของการอักเสบบนใบหน้า ผู้รับบริการส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารู้สึกผิวดีขึ้น ถือเป็นหัตถการที่ทำแล้วคุ้มค่า”  

ทริคทำสวย…ต้องรู้

หมอต่อ : “สิ่งสำคัญที่อยากฝากถึงผู้รับบริการทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการทำหัตถการความงามใดๆ ก็ตาม คือการเช็กคุณภาพและความปลอดภัยของเครื่องมือ ยกตัวอย่างโปรแกรมอัลเทอราปีที่มีเรื่องเครื่องแท้เครื่องปลอมที่ต้องระวัง อาจสังเกตได้จากราคาที่แตกต่างกันจนน่าตกใจ จึงอยากให้เช็กชัวร์ก่อนเสมอครับ”

หมอกลาง : “ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นให้ฟังว่า Dermatige Aesthetics ก่อตั้งขึ้นจากแรงบันดาลใจที่มาจากความต้องการของเราครับ และด้วยความที่เราได้ทดลองเครื่องมือและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้วยตัวเองก่อนเสมอ
จึงเป็นส่วนหนึ่งที่เสริมความมั่นใจได้ว่าทุกอย่างที่เราเลือกนำมาใช้เป็นของดีมีคุณภาพ รวมถึงโปรแกรมเสริมความงามต่างๆ ก็เป็นโปรแกรมที่เราชื่นชอบส่วนตัวและเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ เพราะเรื่องการดูแลคุณภาพและความปลอดภัยถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำสวยอย่างปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ครับ”

เซอร์เวย์ 4 เรือนเวลา Swatch PROTEAM แรงบันดาลใจจากกีฬาผาดโผน

Alternative Textaccount_circle

Swatch เปิดตัวคอลเล็คชั่น “Swatch PROTEAM” ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากกีฬาผาดโผนหลากหลายประเภท รวมถึงเหล่านักกีฬามากความสามารถจาก Swatch PROTEAM ไม่ว่าจะเป็น โคโค โฮ (Coco Ho) นักกีฬาเซิร์ฟผู้สร้างกระแสจากโอวาฮู ที่ใช้ทักษะอันน่าประทับใจของเธอเพื่อสร้างชื่อเสียงในวงการเซิร์ฟได้อย่างกว้างขวาง โดยเธอได้กวาดตำแหน่งและรางวัลมามากมายตั้งแต่ปี 2009 และเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กผู้หญิงให้กล้าและมั่นใจทำในสิ่งที่ตนเองรัก แมตเธียส ดันดัว (Matthias Dandols) แชมป์โลกนักปั่น BMX ทางเรียบถึงเก้าสมัยด้วยทักษะการปั่นจักรยานอันชำนาญของเขา มาพร้อมกับความสามารถที่ไม่ธรรมดา แซม พิลกริม (Sam Pilgrim) นักปั่นเสือภูเขาไฟฟรีไรด์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ด้วยลูกเล่นสองล้ออันผาดโผนสุดน่าทึ่ง อีกทั้งยังเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นใหม่ของหลายๆ คน และแอนดี้ แอนเดอร์สัน (Andy Anderson) นักสเก็ตบอร์ดมือโปรที่พลิกโฉมวงการสเก็ตบอร์ดด้วยความคิดสร้างสรรค์และทักษะที่ไม่เหมือนใคร กล้าที่จะฉีกกรอบการเล่นสเก็ตบอร์ดให้แตกต่างจากเดิม

THE PILGRIM – TREAD ON IT

นาฬิกาตระกูล BIG BOLD ที่มาพร้อมกับสายนาฬิกาที่มีลายดอกยางล้อที่ไม่เหมือนใคร หน้าปัดโปร่งใสเนื้อแมตต์ที่มีลายซี่ของล้อจักรยาน หลักชั่วโมงและเข็มนาฬิกาเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova® ที่จะช่วยบอกเวลาได้ในที่มืด และมากไปกว่าดีเทลพิเศษสำหรับเรือนนี้ จะมีชื่อของแซม พิลกริม (Sam Pilgrim) และลวดลายที่รับแรงบันดาลใจมาจากเสือภูเขาตรงลูปทั้งสอง และฟันตรงปุ่มกดสีแดงที่แสดงถึงรอยยิ้มของผู้ชนะได้แบบกวนๆ

TIME WITH ANDY ANDERSON

นาฬิกาที่ทำจากวัสดุ BioSource ดีไซน์ที่สลับซับซ้อนมาพร้อมกับโทนสีเหลืองและดำที่สะดุดตา ลวดลายของหัวดับเพลิงที่โยงกันทั่วสาย สื่อถึงหัวดับเพลิงจากที่แอนดี้ แอนเดอร์สัน (Andy Anderson) มักจะชอบไปเล่นสเก็ตบอร์ดทั่วโลก ด้านหน้าปัดพิมพ์ชื่อเมืองที่แอนดี้เคยได้เข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวในปี 2021และยังมีลายเซ็นของเขาตรงลูปด้วย ส่วนด้านหลังสายนาฬิกาพิมพ์รูปเห็ดสีเหลืองล้อถึงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติให้ล้อกับหัวดับเพลิงที่มนุษย์สร้างขึ้นอีกด้านหนึ่ง

COCO HO BLU

นาฬิกาตระกูล SKIN IRONY ที่มีแรงบันดาลใจมากจากความเก๋และความสง่างามอย่างเป็นธรรมชาติของโคโค โฮ (Coco Ho) รวมถึงเส้นทางกีฬาโต้คลื่นของเธอด้วย รูปทรงดูทะมัดทะแมง ตัวเรือนสแตนเลสสีทองที่บางเป็นพิเศษ หน้าปัดสีเหลือบพร้อมดีเทลสีเทอร์ควอยซ์ผสมผสานกับความเป็นมุกได้อย่างลงตัว

G-TURN

นาฬิกาตระกูล BIG BOLD ที่ทำจากวัสดุ BioSource โดยชื่อรุ่นนั้นได้มากจากท่าไม้ตายที่ แมตเธียส ดันดัว (Matthias Dandols) ชอบใช้ สายนาฬิกาโปร่งใสเนื้อแมตต์ มาพร้อมกับหน้าปัดสีทองที่มีแรงบันดาลใจมาจากเหรียญทองที่ตัวเขาได้พิชิตมาตลอดการเป็นนักปั่น BMX และดีเทลของหน้าปัดที่เป็นลายดอกยางล้อ วงแหวนตรงหน้าปัดเคลือบสาร Super-LumiNova® เพื่อให้เรืองแสงในที่มืดได้ ตรงขอบหน้าปัดมีตัวเลขที่เป็นวันที่สำคัญต่างๆในชีวิตของเขาและเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่สวมใส่


ภาพและข้อมูล: Swatch

จิม ทอมป์สัน พาออกเดินทางอย่างมีสไตล์ ณ หัวลำโพง แลนด์มาร์กสุดไอคอนิก

account_circle

จิม ทอมป์สัน ชวนสัมผัสเสน่ห์สุดคลาสสิกของ ‘สถานีกรุงเทพ’ หรือที่เรียกติดปากว่า ‘สถานีหัวลำโพง’ สถานีรถไฟที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองไทย ผ่านแฟชั่นเซตสุดพิเศษ ชวนนางแบบชื่อดัง น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 และเหล่าเพื่อนนายแบบ-นางแบบ มาถ่ายทอดการออกเดินทางครั้งพิเศษกับหลายลุคจากคอลเล็คชั่นใหม่ท่ามกลางบรรยากาศเปี่ยมเสน่ห์ของหัวลำโพง แลนด์มาร์กทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าแห่งกรุงเทพฯ พร้อมชวนเหล่าแฟชั่นนิสต้าเพลิดเพลินกับลายพรินต์สุดไอคอนิกที่ดึงแรงบันดาลใจจากศิลปะการทอผ้าแสนประณีตและลวดลายพันธุ์ไม้ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ของเมืองไทย

โดยจิม ทอมป์สัน ใส่ดีเทลความทันสมัยน่ามองเข้าไปในทุกไอเท็ม เพื่อให้ผู้สวมใส่ได้ครีเอตลุคสวย-เท่ทั้งในวันที่แวะเช็กอินโลเคชันเก๋ ๆ และวันที่อยากเดรสอัปอย่างมีสไตล์เพื่ออีเวนต์พิเศษ

เริ่มด้วยอีกหนึ่งลายพรินต์ไฮไลต์ของคอลเล็คชั่นนี้อย่าง Hill Tribe ลวดลายที่อินสไปร์มาจากแพทเทิร์นของผ้าทอพื้นเมืองที่เป็นงานหัตถศิลป์ของภาคเหนือ กลายมาเป็นลายพรินต์แนวกราฟิกในพาเลตส้ม-ชมพูละมุนตา เหล่า
พรินต์เลิฟเวอร์ต้องถูกใจลาย Hill Tribe บนหลากหลายไอเท็มทั้งเสื้อเบลาส์ เชิ้ต กางเกง และเดรส ที่ทำจากผ้าไหมคุณภาพสูงใส่สบาย

สำหรับไอเท็มคุณผู้ชาย จิม ทอมป์สัน ได้นำดอกลำดวน ดอกไม้พื้นถิ่นซึ่งพบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย มารังสรรค์เป็นลายพรินต์ Graphic Floral ใส่ความมินิมอลและกราฟิกเท่ๆ ให้ลวดลายฟลอรัลได้อย่างน่าสนใจ
ในคอลฯ นี้ ลาย Graphic Floral มาแต่งแต้มอยู่บนไอเท็มเสื้อเชิ้ตแขนสั้นและแขนยาว นำเสนอในโทนฟ้าอ่อนตัดสีน้ำตาล และในเวอร์ชันสีน้ำเงิน ชวนหนุ่ม ๆ มาเติมความสนุกให้การสไตล์ลิ่งลุคทั้งในวันชิล ๆ และวันทำงาน

ส่วนหนุ่ม ๆ ที่ชอบความเรียบง่ายของไอเท็มสีพื้น คอลเล็คชั่นนี้ก็มาพร้อม Jacket Shirt, Polo Shirt และซิกเนเจอร์ไอเท็มอย่าง Fishermen Pants ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกสำหรับคุณผู้ชาย ให้เลือกนำมาแมตช์กันได้ง่าย ๆ เพื่อเสริมความคูลกันแบบไม่มีเบื่อ

สุดท้ายกับซิกเนเจอร์แอกเซสซอรีที่ขาดไม่ได้อย่างผ้าพันคอในลวดลายสุดพิเศษตามแบบฉบับจิม ทอมป์สัน นำความงามของพืชพรรณดอกไม้มาไว้บนผืนผ้าไหมที่ช่วยคอมพลีตลุคเก๋ในทุกโอกาส อาทิ ลาย Floral Silk Twill และลายFloral Décor Silk Twill ในโทนสีสดใสมองเพลิน

การแวะเช็กอินที่หัวลำโพง เป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของ จิม ทอมป์สัน ในการเดินหน้าครีเอตแฟชั่นแคมเปญที่ร่วมถ่ายทอดเสน่ห์ของโลเคชันอันงดงามของเมืองไทย ให้คนไทยและชาวต่างชาติได้ออกเดินทางอย่างมีสไตล์ สู่
เดสติเนชันใหม่ๆ ในภาคเหนือจรดใต้


ตู่-ณัฐพงศ์

ศิลปะที่เป็นมากกว่าของเล่น ตู่-ณัฐพงศ์ ผู้สร้าง Greenie & Elfie

Alternative Textaccount_circle
ตู่-ณัฐพงศ์
ตู่-ณัฐพงศ์

ในตลาดอาร์ตทอยที่กําลังเติบโตแบบพุ่งทะยาน ท่ามกลางศิลปินมากหน้าหลายตาที่มีโอกาสได้แจ้งเกิด หนึ่งในผู้มาก่อนกาลคือ “คุณตู่ – ณัฐพงศ์ รัตนโชคสิริกูล” ผู้สร้างสรรค์คาแร็คเตอร์ Greenie & Elfie ที่ปีหน้า สองเพื่อนซี้จะฉลองครบรอบ 10 ปีแล้ว

ย้อนกลับไปในปี 2015 ในยุคที่โซเชียลมีเดียยังไม่บูม ไม่มีช่องทางการโปรโมตให้เลือกสรรอย่างวันนี้ คุณตู่กลับพาคาแร็คเตอร์โกอินเตอร์จนมีพาร์ตเนอร์ต่างชาติสนใจร่วมลงทุนการผลิต จนถึงวิธีการสร้างสรรค์ผลงาน ที่ไม่ได้จับตามกระแสเสียทีเดียว แต่มาจากการรู้ความต้องการของแฟน ๆ และเหนืออื่นใดคือการรู้ใจตัวเอง

ตู่-ณัฐพงศ์

Greenie & Elfie

“ผมชอบดูการ์ตูนญี่ปุ่นและชอบวาดรูป กระทั่ง ม.6 แม่ถามว่าจะเรียนต่อด้านไหน ตอนนั้นก็รู้ว่าถ้าบอกแม่ ว่าอยากวาดภาพคงไม่เห็นด้วย เพราะสมัยก่อนไม่มีอาชีพรองรับนักวาดรูป จึงบอกว่าจะเรียนออกแบบตกแต่ง ภายใน เพราะดูเป็นสาขาที่เกี่ยวข้องกับการวาดรูปที่สุดแล้ว ตอนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยจึงเลือกคณะนิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เพราะรู้สึกว่าคณะนี้เรียนหลากหลายด้าน

“ช่วงที่เรียนก็ทํางานเสริมไปด้วย ตอนนั้นมีคนมาจ้างให้วาดปกหนังสือที่รวมการ์ตูนญี่ปุ่นหลาย ๆ เรื่องที่แปล ในบ้านเรา ผมรับทํามาเรื่อย กระทั่งเรียนจบก็ไปเป็นบรรณาธิการหนังสือการ์ตูนไทยชื่อ a.Comix แต่ทําได้ไม่นาน เพราะตลาดการ์ตูนไทยยังไม่เป็นที่นิยม ช่วงที่ออกจากงานมีคนแนะนําให้รู้จักกับพี่บอย โกสิยพงษ์ ซึ่งตอนนั้น คริสติน (มารี นี่เวล) ศิลปินในสังกัดกําลังจะออกอัลบั้มเดี่ยว เขากําลังหาคนวาดตัวการ์ตูนบนปกอัลบั้มพอดี พี่บอยชอบลายเส้นจึงชวนมาทํางานด้วยกัน หลังจากนั้นก็มีโอกาสทํางานด้วยกันหลายโปรเจ็กต์ ผมเคยเป็น บรรณาธิการฝ่ายการ์ตูนให้นิตยสาร Katch และ Manga Katch ร่วมก่อตั้งบริษัทแอนิเมชั่น BeboydCG กับพี่บอย รวมทั้งเคยทําแอนิเมชั่นออกอากาศทางทีวี เช่น หลวงพ่อจํากับหมู่บ้านจักจั่น และ แดร๊กคูล่าต๊อก รวมถึงมีโอกาสทําการ์ตูนเรื่อง นาค ที่ฉายในโรงหนัง แต่รายได้ไม่คุ้มทุน พอถึงปี 2015 บริษัทแอนิเมชั่นที่ทํา
ด้วยกันก็ปิดตัวลง

“ตอนนั้นยังไม่คิดว่าจะทําอะไรต่อ รู้แค่ว่าที่ผ่านมาเราทํางานเกี่ยวข้องกับคาแร็คเตอร์มาหมดแล้ว กระทั่ง วันหนึ่งเพื่อนซึ่งกําลังเริ่มทําอาร์ตทอยบังเอิญมาเห็นภาพสเก็ตช์ของผม เป็นตัวการ์ตูนเด็กผู้หญิงที่สเก็ตช์เก็บไว้ ตั้งแต่ปี 2003 ซึ่งเป็นปีที่ กรีนนี่” ลูกสาวของผมเกิด และการ์ตูนตัวนั้นผมก็ตั้งชื่อว่ากรีนนี่ ที่ตั้งชื่อนี้เพราะอยากให้ คนที่อยู่ใกล้มีความสุข สดชื่น สบายใจ เหมือนได้อยู่กับธรรมชาติ

“เพื่อนบอกว่าคาแร็คเตอร์น่ารักดีนะ ทําไมไม่ลองทําเป็นของเล่นดูล่ะ ประโยคนั้นจุดประกายความคิด เพราะที่ผ่านมาทําแอนิเมชั่นและการ์ตูนเยอะ แต่ไม่มีตัวไหนที่รักเป็นพิเศษ ผิดกับกรีนนี่ที่เปรียบเสมือนตัวแทนลูก ถ้าจะลงมือทําอะไรสักอย่างก็ควรเป็นกรีนนี่นี่แหละ ตอนนั้นก็คิดว่าอยากหาคู่หูให้ จึงนึกถึงช้างน้ํา ก่อนหน้านี้ ผมเคยทําตัวอย่างการ์ตูนเรื่อง อัมพวา ซึ่งเล่าถึงความลี้ลับของช้างน้ําที่มีพระธุดงค์เดินทางไปพบในป่าลับแล ในตํานานเล่าว่าถ้าช้างน้ําหลุดออกมาอยู่โลกภายนอกเป็นเวลา 7 วัน หากไม่กลับเข้าไปในป่าลับแลจะตาย ผม จับช้างน้ํามาดีไซน์ให้เหมือนนกฮัมมิ่งเบิร์ด ใช้ปีกเป็นหู พี่บอยช่วยตั้งชื่อให้ว่าเอลฟ์ ซึ่งมาจากคําว่า Elephant
ผสมกับค่าว่า Greenie”

ตู่-ณัฐพงศ์

เปิดตลาดต่างประเทศ

“พอตั้งใจว่าจะทํากรีนนี่เป็นของเล่น เพื่อนก็ชวนไปโชว์ผลงานในงานแฟร์ Hong Kong ToySoul ที่ฮ่องกง ช่วงปลายปี 2015 ผมปรับเรื่องดีไซน์เพิ่ม โดยตั้งคําถามว่าคนที่ซื้อจะได้อะไรจากคาแร็คเตอร์ตัวนี้ สิ่งแรก ที่นึกถึงกรีนนี่คือความสบายใจ อยากให้คนมองแล้วรู้สึกเหมือนมีลมพัดเย็น ๆ เห็นแล้วหายเหนื่อย จึงเป็นที่มา ที่กรีนนี่นั่งหลับตา แล้ววานให้รุ่นน้องช่วยปั้นเป็นโมเดลต้นแบบ นอกจากนี้ผมยังดีไซน์แบ็กกราวนด์ประกอบ เป็นรูปป่า พอกรีนนี้ไปนั่งในนั้น คนจะเห็นภาพมากขึ้น เพราะกรีนนี่ไม่เคยมีแอนิเมชั่นของตัวเอง คนไม่รู้จักมาก่อน เขาต้องขายได้ด้วยตัวเอง จึงต้องใช้ทุกศาสตร์ที่เคยทํามา เพื่อให้คนเห็น แล้วเข้าใจว่าของเล่นชิ้นนี้ต้องการสื่ออะไร

“ผมไปโดยไม่ได้หวังอะไรมาก แต่ปรากฏว่าบริษัทผลิตอาร์ตทอยชื่อ Unbox Industries ถูกใจ ขอซื้อลิขสิทธิ์ไปผลิต เพราะเขามีโรงงานที่จีนอยู่แล้ว โดย จะออกต้นทุนให้ทุกอย่าง ที่ทําอย่างนี้เพราะเขาอยากซัพพอร์ตศิลปิน และอยากรู้ว่า ถ้าผลิตออกมาวางจําหน่าย คาแร็คเตอร์นี้จะไปได้ไกลขนาดไหน ผมก็ยินดีตกลงเลย ซึ่งล็อตแรกผลิตออกมาทั้งหมด 200 ตัว ใช้เวลาผลิตประมาณ 3 – 4 เดือน ผมขายครั้งแรกในเดือนเมษายน 2016 ที่งาน Thailand Comic Con สยามพารากอน ประมาณ 50 ตัว โดยตั้งราคาขายกรีนนี่กับเอลฟี่เป็นเซตคู่กัน เซตละ 2,800 บาท ตอนนั้นตื่นเต้น แอบคิดเหมือนกันว่าจะขายได้ไหม เพราะ ไม่มีใครรู้จักเราเลย ปรากฏว่าขายหมด ผมถามคนที่มาซื้อว่ารู้จักกรีนนี่ได้ยังไง เขาบอกว่าเห็นจากในงานนี่แหละ รู้สึกว่าน่ารักดีจึงซื้อไป พอจบจากงานที่สยาม พารากอนก็มีงาน Thailand Toy Expo ที่เซ็นทรัลเวิลด์ คนก็ตามไปซื้อจน ของไม่พอ ต้องลงชื่อจองไว้ ตอนนั้นรู้สึกดีใจมากครับที่ได้รับการสนับสนุนตั้งแต่คอลเล็คชั่นแรก

“หลังจากนั้นผมวางแผนเลยว่าแต่ละปีมีงานดีไซเนอร์ทอยที่ไหนบ้าง ซึ่ง สมัยก่อนบ้านเรายังไม่ฮิตเท่านี้ ส่วนใหญ่งานจะจัดที่ต่างประเทศ อาทิ ไต้หวัน และฮ่องกง จําได้ว่าตอนนั้นที่ไต้หวันจัดเดือนตุลาคม ผมก็ดีไซน์เป็นธีมฮัลโลวีน ส่วนที่ฮ่องกงจัดเดือนธันวาคม ผมก็ทําธีมคริสต์มาส จะดีไซน์เพื่อไว้ล่วงหน้า 2-3 เดือน แล้วส่งไปให้พาร์ตเนอร์ผลิต

“ทุกวันนี้ผมก็ยังบินไปไต้หวันกับฮ่องกงทุกปี ผมชอบไต้หวันมาก เพราะ ถ้าแฟน ๆ ชอบของเรา เขาจะชอบอยู่อย่างนั้น และมีความสนใจถึงที่มาที่ไปของ คาแร็คเตอร์ ซึ่งทุกวันนี้ไต้หวันก็ยังเป็นตลาดที่เติบโต และอีกประเทศที่อาร์ตทอยกําลังบูมคืออินโดนีเซีย เพราะคนเริ่มหันมาสะสมมากขึ้นและบินมาซื้อที่ไทยบ่อย

“นอกจากไปขายตามงานแฟร์ ผมก็ขายทีหน้าเพจตัวเอง Greenie & Elfie และในเว็บไซต์ของพาร์ตเนอร์ http://store.unboxindustries.info เราผลิต ครั้งละไม่มาก อยู่ที่หลักร้อยและไม่ผลิต ด้วยความที่ดูแลเองทุกอย่าง ไม่ได้มี ลูกทีม ทั้งการออกแบบ โปรโมต ประกาศขาย ไปจนถึงการจัดส่งของ ข้อดีคือ ได้รับฟีดแบ็กเร็ว อะไรดีหรือไม่ดี จึงแก้ปัญหาได้เร็ว”
แน่นอนว่าทุกการทํางานย่อมเจออุปสรรค สําหรับคุณที่มองว่าถ้าปัญหานั้น ไม่ใช่เรื่องซีเรียส ก็ไม่จําเป็นต้องมองให้ใหญ่เกินไป “การทํางานย่อมเจอปัญหาบ้าง เช่น โรงงานผลิตไม่ตรงใจเรา อาจจะเพี้ยนไปเล็กน้อย ก็แจ้งเขาไป ไม่ได้มอง ว่าเป็นเรื่องใหญ่ อาจเพราะอายุเยอะแล้วมั้งครับ (ยิ้ม) จึงรู้สึกปล่อยวางได้มากขึ้น ต่างจากแต่ก่อนที่ทุกอย่างต้องเป๊ะ ทุกวันนี้ซีเรียสเรื่องเดียวคือการปั้นโมเดลสามมิติ ที่ต้องทําออกมาให้เหมือนต้นแบบที่วาดไว้เป๊ะ ถ้าเหมือน 100 เปอร์เซ็นต์ยิ่งดี

“ตอนนี้มีคอลเล็คชั่นออกทุกเดือน มีคนถามเยอะเหมือนกันว่าทํามา คอลเล็คชั่นแล้ว ผมไม่ได้นับเลย แต่ก็น่าจะเยอะเหมือนกันนะ ล่าสุดท่าซีรีส์ของ เอลฟ์ ดีไซน์เป็นไซส์เล็ก ตั้งใจขายในราคาหลักร้อยเพื่อให้ทุกคนเข้าถึง และไม่ได้ ผลิตเป็นรุ่นลิมิเต็ด จะได้ไม่ต้องรีบซื้อ ตั้งใจว่าจะออกทุกเดือน เดือนละสี อย่าง ตอนนี้มีราว ๆ 30 สี สีละ 200 ตัว ปรากฏว่าแฟน ๆ อยากซื้อเก็บสะสมให้ครบทุกสี กลายเป็นออกมากี่ตัวก็หมด ดีใจมาก ๆ เลยครับ

“นอกจากทําคาแร็คเตอร์ของตัวเอง ที่ผ่านมายังมีโอกาสร่วมงานกับศิลปิน ท่านอื่น อย่างล่าสุดผมทําร่วมกับ Astro Boy ซึ่งเพิ่งจัดงาน Go Astro Boy GO! ที่สยามดิสคัฟเวอร์ไปเมื่อต้นเดือนมิถุนายน นอกจากนั้นก็มี Labubu, Hello Kitty, SpongeBob, Ghostbusters และอีกหลาย ๆ แบรนด์
“ผมคิดว่าความน่ารักของโลกดีไซเนอร์ทอยคือศิลปินซัพพอร์ตกันและกันพวกเราเติบโตมาพร้อม ๆ กัน ถ้าย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว สมัยที่ยังไม่มีค่ายของเล่น เวลาไปออกงานแฟร์ที่ต่างประเทศ ศิลปินจะทําความรู้จักกัน ช่วยซัพพอร์ตงานของ อีกฝ่าย และถ้าเขาชอบงานผม ผมชอบงานเขา ก็ร่วมงานกันเลย เวลาทํางาน ต่างคนต่างออกแบบแล้วส่งให้กันดู โดยที่ชิ้นงานต้องมีส่วนผสมทั้งของเขาและเรา ในสัดส่วนเท่า ๆ กัน ซึ่งแฟน ๆ ให้การต้อนรับดีมาก ยิ่งถ้าเขาเป็นแฟนคลับทั้งสองฝ่าย จะยิ่งฟัน หรืออย่างคอลเล็คชั่นที่ผมทําร่วมกับตัวการ์ตูน Creamy Mami ซึ่งเป็น คาแร็คเตอร์ที่ดังมากในญี่ปุ่น แฟน ๆ ก็ให้การตอบรับดีเช่นกัน

“เวลามีคนมาขอร่วมงาน ผมจะถามก่อนว่าทําไมถึงสนใจกรีนนี่กับเอลฟ์ ถ้าเขาชอบคาแร็คเตอร์เราและแนวคิดตรงกัน ก็อยากจะทํางานด้วยกัน ซึ่งแบรนด์ ที่ผมอยากร่วมงานด้วยในตอนนี้คือ Moomin และ Osamu Goods เพราะ เป็นแฟนคลับอยู่แล้ว”

ตู่-ณัฐพงศ์

ทําด้วยใจ ยังไงก็ Sold Out

“เวลาทํางานคิดว่าเหมือนทําของขวัญให้เพื่อนหรือให้ตัวเอง เพราะรู้ว่าเขา อยากได้อะไร ด้วยความที่ทําทุกอย่างเอง เวลาไปออกงานจะรู้จักแฟน ๆ เป็นอย่างดี กลุ่มคนที่ชอบกรีนนี่กับเอลฟี่ชอบอ่านหนังสือ นั่งร้านกาแฟ และเวลาที่เขามาคุย กับเรา เขาจะบอกความต้องการ เช่น อยากให้พี่ทําชิ้นเล็ก ๆ ที่พกพาง่าย จะได้ พาไปเที่ยวด้วย ผมจําได้ว่ายุคแรกที่เราทํากรีนนี่ตัวโตมีคนพกน้องไปเที่ยวจริง ๆ ทั้งที่พกยาก เพราะใหญ่มาก (ยิ้ม) เราก็ปรับตามความต้องการของเขา หรือตอนที่ ผมทําคอลเล็คชั่นกรีนนี่เสิร์ฟกาแฟ ก็มาจากเหตุที่ว่าภรรยาชอบดื่มกาแฟมาก ประเด็นหลักคือไม่ว่าคุณจะออกแบบอะไรก็ตาม ต้องทําของที่ตัวเองอยากได้และอยากเก็บไว้เองด้วย

ในฐานะศิลปินทีต้องสร้างสรรค์ผลงานทุกเดือน เคยมีวันที่นึกงานไม่ออกบ้าง ไหม “แน่นอนว่าต้องมีวันที่นึกอะไรไม่ออก ก็ต้องหยุดพักก่อน ไปดูหนัง อ่าน หนังสือ ออกนอกบ้านเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ แล้วไอเดียจะมาเอง ที่สําคัญคือการ หาเป้าหมายในการทํางาน เวลาผลิตงานแต่ละชิ้นจะคิดเสมอว่าทําของชิ้นนี้เพื่อใคร เช่น ต้องทําเพื่อลูกค้าคนนี้นะ เขาอยากเอาไปเที่ยว หรือทําปลอบใจในวันที่เขาเครียด ต้องนึกเสมอว่ามีคนกําลังรอเราอยู่ เพราะถ้าออกไปเจอแฟน ๆ แล้วโดนถามกลับ มาว่าพี่จะมีอะไรใหม่ ๆ ออกมาไหม หากมัวแต่ขี้เกียจ ก็จะรู้สึกผิด (หัวเราะ) ผมอยากให้ลูกค้ารู้สึกภูมิใจที่มีชิ้นงานของเรา ต่อให้วันหนึ่งเขาเลิกซื้อแล้วก็ตาม แต่ก็ยังอยากให้เขารู้สึกดีกับกรีนนี่และเอลฟ์อยู่

“วันนี้ที่อาร์ตทอยบูมมาก ผมไม่เคยคิดเรื่องคู่แข่ง เพราะคิดว่าของเล่นก็ เหมือนกับเพลงหรือการ์ตูน ถ้ามีคนถามคุณว่าชอบการ์ตูนเรื่องไหน ชอบเพลงอะไร คําตอบมีเยอะมากใช่ไหมครับ เพราะคนเราชอบอะไรได้หลายอย่าง และโลกของอาร์ตทอยมีพื้นที่กว้างพอให้ทุกคน ขึ้นอยู่กับว่าจะเจอกลุ่มคนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กับคุณหรือเปล่า”

อยากเป็นศิลปิน ฟังทางนี้

“เมื่อก่อนผมคิดว่าการจะทําอาชีพนี้ต้องมีแพตเทิร์น เช่น ต้องวาดการ์ตูน ให้ฮิต แล้วค่อยขยับไปทําแอนิเมชั่น จากนั้นทํารายการทีวี ถ้าผลงานออกมาดี มีชื่อเสียง ถึงจะมีสิทธิ์ทําหนังโรง แล้วค่อยออกโปรดักต์ของตัวเอง แต่ยุคนี้เรา สามารถสลับขั้นตอนได้หมด เราทําของเล่นก่อน พอคนรู้จักค่อยไปทําหนังก็ได้ ทุกอย่างง่ายขึ้นเพราะอินเทอร์เน็ต หรือถ้าอยากรู้ว่าดีไซน์ที่ออกแบบมาดูดีหรือเปล่า ก็โพสต์ถามความเห็นเลย หรือถ้าสนใจศิลปินท่านไหน ก็อินบ็อกซ์พูดคุยได้ เพราะฉะนั้นถ้าอยากทําอะไร ต้องพาตัวเองไปอยู่ในวงการนั้น

“สิ่งสําคัญที่สุดคือต้องมีใจรักและให้คุณค่ากับชิ้นงาน ผมไม่อยากให้คิด ทางลัดว่าแค่ปั้นอะไรสักอย่างออกมาแล้วขายได้ก็เป็นศิลปินแล้ว แต่ต้องรัก คาแร็คเตอร์ของตัวเองด้วย ต้องถามว่าถ้าทําของมาขายในราคานี้ ตัวเราเองจะซื้อ หรือเปล่า และต้องตอบให้ได้ว่าลูกค้าเสียเงินซื้ออะไร จะได้อะไรกลับไป และหาก วางของเล่นชิ้นนี้ที่บ้าน จะสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างไร ทําให้เขาคิดถึงเรื่องอะไร เราต้องตอบสิ่งเหล่านี้ให้ได้ก่อน แต่ถ้าทําเพราะคนอื่น ๆ ทํา สักพักก็จะเบื่อ

“คุณอยากออกแบบอะไร ชอบแนวไหน ทําเถอะครับ เพราะตลาดนี้ไม่ได้ จํากัด ค่อยไปหาคนที่ชอบเหมือนคุณก็ได้ เพราะทุกคนชอบเป็นร้อยเป็นพันอย่าง คิดอย่างนี้แล้วจะสบายใจ ซึ่งเชื่อว่ายังไงก็จะมีคนที่ชอบในสิ่งที่คุณทํา”

อาชีพที่ได้รับค่าขอบคุณ

“เมื่อก่อนบ้านเราอาจไม่ค่อยให้คุณค่ากับคาแร็คเตอร์ แต่ทุกวันนี้วงการเติบโต มาก มีศิลปินออกแบบเก่ง ๆ เกิดขึ้นเยอะ ผมคิดว่าคาแร็คเตอร์จะเกิดประโยชน์ กับหลาย ๆ ภาคส่วน เช่น หน่วยงานรัฐอาจจะนําไปใช้เป็นพรีเซ็นเตอร์ในการ อธิบายงานบางอย่างที่อธิบายเป็นคําพูดออกมายาก แต่ถ้าคนเห็นคาแร็คเตอร์ก็จะ เข้าใจคอนเซ็ปต์งานได้เร็วขึ้น

“ผมคิดว่าคงมีไม่กี่อาชีพในโลกที่เราทํางานได้รายได้ แล้วยังได้รับคําขอบคุณ เพราะทําให้เขารู้สึกดีกลับมาด้วย อาชีพนี้สร้างความสุขให้ผมหลายอย่าง ยังเคยคิด เลยว่าแม่น่าจะมีความสุขมาก ๆ ที่ได้เห็นว่าการวาดรูปก็เป็นอาชีพได้นะ และ รูปวาดก็เป็นตัวแทนของหลานสาวด้วย มันเติมเต็มความรู้สึกมาก ๆ ครับ และยิ่ง ได้ร่วมงานกับคาแร็คเตอร์การ์ตูนที่เราชอบ ก็ยิ่งรู้สึกดีมาก เพราะฉะนั้นหากมีใคร สักคนได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่เราทํา ก็ถือว่าสมบูรณ์แล้ว ถ้าเห็นว่าผมทําได้ “คุณเองก็ทําได้เหมือนกัน”

เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย เปิดตัวแบรนด์ ‘XPENG’ และยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ‘G6’

account_circle

‘เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง ต่อรูปแบบของการเดินทางในอนาคต’  วิสัยทัศน์อันเปี่ยมด้วยความหมายและแรงบันดาลใจ ของ มร. เหอ เสี่ยวเผิง (He Xiaopeng) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ‘เอ็กซ์เผิง’ (XPENG) เป็นพลังขับเคลื่อนให้เกิดการวิจัยและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะจากซีกโลกตะวันออก ไปสู่ตลาดรถยนต์ระดับโลก รวมถึงในเมืองไทย ที่วันนี้ เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ‘เอ็กซ์เผิง’ อย่างเป็นทางการ จัดงานเปิดตัวแบรนด์ พร้อมภูมิใจนำเสนอยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับพรีเมียม-ไฮเทค เอ็กซ์เผิง รุ่น ‘จีซิกส์’ (G6) อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางเหล่าผู้ชื่นชอบยนตรกรรมไฟฟ้า ที่ตบเท้าเข้าร่วมงานพร้อมสัมผัสอย่างใกล้ชิด ที่สเฟียร์ ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้

มร. เจมส์ วู รองประธานฝ่ายบัญชีและการเงิน, เอ็กซ์เผิง มอเตอร์สกล่าวว่า “เอ็กซ์เผิง เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าอัฉจริยะ และเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าทุกระดับ ที่หลงใหลในเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยเราเชื่อว่าเทคโนโลยี เป็นสิ่งที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง ต่อรูปแบบของการเดินทางในอนาคต ปัจจุบัน เอ็กซ์เผิง ได้รับความนิยมเพิ่มต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศแถบยุโรป รวมไปถึงตะวันออกกลาง เรามีนโยบายในการทำตลาดระดับโลก ผ่านความร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายในประเทศ เพื่อสร้างเครือข่ายในการจำหน่ายที่ครอบคลุม พร้อมบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ ผสานการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสม กับกลุ่มลูกค้าในประเทศไทย”

อภิวันท์ สิงห์ทวีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย กล่าวว่า “เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจจาก เอ็กซ์เผิง มอเตอร์ส ให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย ‘เอ็กซ์เผิง’ ยานยนต์ไฟฟ้าอัฉจริยะระดับพรีเมียม-ไฮเทค อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบในประเทศไทย ผ่านยานยนต์ไฟฟ้าที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยได้อย่างลงตัว พร้อมนำเสนอมิติใหม่แห่งการเดินทางอย่างยั่งยืน”

++ XPENG แบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ขับเคลื่อนสู่อนาคต ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย

เอ็กซ์เผิง แบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ก่อตั้งช่วงปี 2557 โดย มร. เหอ เสี่ยวเผิง (He Xiaopeng) ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ว่า ‘เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง ต่อรูปแบบของการเดินทางในอนาคต’ โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับเทคโนโลยีล้ำสมัย พิสูจน์ได้จากสัดส่วนกว่า 40% ของพนักงานทั้งหมดร่วม 20,000 ชีวิต ทำงานอยู่ในแผนกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อผลิตยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่มาพร้อมเทคโนโลยีอันก้าวล้ำ ไปถึงยานยนต์บินได้ หุ่นยนต์สุดไฮเทคและอื่นๆ หลังจากนั้นเพียงสองปี เอ็กซ์เผิง ก็สามารถผลิตยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบรุ่นแรกสำเร็จ

จังหวะการขับเคลื่อนธุรกิจของ เอ็กซ์เผิง ก้าวหน้าเป็นลำดับ นอกจากแผนในการเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะแต่ละรุ่นอย่างต่อเนื่อง อาทิ G3, P7, G9 เป็นต้น ยังนับเป็นก้าวสำคัญกับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (NYSE-New York Stock Exchange) ขณะเดียวกันก็ได้รุกตลาดเข้าสู่ประเทศแถบยุโรป เปิดโชว์รูมในหลากหลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, สิงคโปร์, มาเลเซีย, เนเธอร์แลนด์, สวีเดน และ เดนมาร์ก มีนำเสนอระบบขับอัตโนมัติบนทางหลวง (NGP-Navigation Guided Pilot) เป็นรายแรกในประเทศจีน พร้อมเปิดตัวแฟลกชิปสมาร์ทเอสยูวีรุ่น ‘G9’ ควบคู่ไปกับการเฉลิมฉลองในโอกาสที่รุ่น ‘P7’ ได้รับการผลิตครบ 100,000 คัน

สำหรับปีที่ผ่านมา เอ็กซ์เผิง ได้เปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะสองรุ่น คือ อัลตร้าสมาร์ทเอสยูวีคูเป้ ‘G6’ และ ‘X9’ อัลตร้าสมาร์ทเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ที่พกพาเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย ภายใต้โรงงานผลิต 3 แห่งในประเทศจีน คือ จ้าวชิง, กวางโจว และอู่ฮัน ที่มีกำลังผลิตรวมสูงกว่า 600,000 คันต่อปี พร้อมขยายการทำตลาดไปอีกหลายประเทศทั้งในยุโรป และทวีปอื่นๆ ทั่วโลก

++ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ‘XPENG G6’ ดีไซน์ผสานเทคโนโลยีที่ลงตัว

‘เอ็กซ์เผิง จีซิกส์’ ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะแบบ Ultra-Smart SUV Coupe ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากนัก
เขียนนิยายไซ-ไฟ (Sci-Fi) เป็นยานยนต์ไฟฟ้าแบบมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง แบ่ง 2 รุ่นย่อย คือ G6 Standard
Range ชาร์จไฟเต็ม ขับได้ไกลสุด 505 กิโลเมตร และ G6 Long Range ชาร์จไฟเต็มขับได้ไกลสุด 625 กิโลเมตร มา
พร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800 โวลต์ SiC Architecture ทั้งในส่วนระบบขับเคลื่อนและแบตเตอรี่ ส่งผลให้กินกระแส
ไฟต่ำ ความร้อนสะสมน้อย และประสิทธิภาพโดยรวมสูง ที่สำคัญติดตั้งเป็นส่วนเดียวกับตัวถัง เรียกว่า Cell Integrated
Body (CIB) ช่วยลดน้ำหนักและมีพื้นที่ห้องโดยสารกว้าง มีการอัพเดททั้งเฟิร์มแวร์และซอฟท์แวร์โดยอัตโนมัติ ผ่าน
ระบบออนไลน์ (OTA-Over The Air) ช่วยให้มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยตลอดเวลา และช่วยให้ผู้ขับได้ใช้สิ่งที่ใหม่และทัน
สมัยก่อนใคร ขณะที่ห้องโดยสารสัมผัสได้ถึงความสะดวกสบายด้วยการตกแต่งล้ำสมัยแบบ ‘Intelligent cockpit’ มี
จอแสดงข้อมูลการขับ 10.2 นิ้ว พร้อมทัชสกรีน อเนกประสงค์ (จอกลาง) ขนาด 14.96 นิ้ว พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง
Full scenario voice assistant 2.0 รองรับ Real time continuous voice command recognition, การใช้งานแบบ
มัลติโซน และการใช้งานแบบออฟไลน์ เรียกว่าสวยล้ำด้วยรูปลักษณ์ผสานเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอย่างลงตัว

++ มั่นใจกับเครือข่ายพาร์ทเนอร์ เพื่อส่งมอบบริการที่ดีที่สุด

ที่สำคัญ เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการทำตลาดในประเทศไทย ผ่านยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ‘เอ็กซ์
เผิง’ ที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีล้ำอนาคต ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตยุคใหม่ และเพิ่มความปลอดภัยใน
การขับมากยิ่งขึ้น ได้แต่งตั้งพาร์ทเนอร์จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการกลุ่มแรกในประเทศไทย ในเขตกรุงเทพฯ
ปริมณฑล ตลอดจนจังหวัดหลักในแต่ละภูมิภาคจำนวน 12 แห่ง นำโดย เอ็กซ์เผิง รามคำแหง โชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ
ครบวงจรที่ได้เปิดให้บริการแล้ว ต่อด้วย สุขุมวิท, ประดิษฐ์มนูธรรม, แจ้งวัฒนะ, ราชพฤกษ์, พัทยา, ราชบุรี, ขอนแก่น,
อุบลราชธานี, อุดรธานี, เชียงใหม่ และเอ็กซ์เผิง ภูเก็ต จะทยอยเปิดบริการเร็วๆ นี้ และยังมีผู้สนใจร่วมลงทุนจากทั่วประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

++รังสรรค์บริการครบวงจร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย ภายใต้การบริหารโดยบริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด ผู้นำธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าและบริการครบวงจร มอบประสบการณ์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าสู่ผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์แบบ เช่น สถานีอัดประจุไฟฟ้า บริการประกันภัย บริการสินเชื่อเช่าซื้อ ลิสซิ่ง สินเชื่อรีไฟแนนซ์ และการเงินอย่างครบวงจร บริการหลังการขาย ซ่อมสีและตัวถัง เป็นต้น

โซดา-รัชฎาวัลย์ ฟาวเลอร์

โซดา-รัชฎาวัลย์ ฟาวเลอร์ นางงามรักษ์โลก Miss Earth Thailand 2024

Alternative Textaccount_circle
โซดา-รัชฎาวัลย์ ฟาวเลอร์
โซดา-รัชฎาวัลย์ ฟาวเลอร์

ทำความรู้จัก โซดา-รัชฎาวัลย์ ฟาวเลอร์ นางงามรักษ์โลก Miss Earth Thailand 2024 ตัวแทนสาวไทยไปร่วมเวที Miss Earth 2024 ที่ประเทศฟิลิปปินส์

จบไปอย่างสวยงามสำหรับเวทีประกวด Miss Earth Thailand 2024 ที่จัดโดยโดย ดร.สิริกานต์ อ้นสนกราน ประธานองค์กรฯ และคุณนฤภร นฤปิติ รองกรรมการองศ์กรมิสเอิร์ธ

โดยล่าสุดสาวงามตัวเต็งที่คว้ามงกุฎไปครองได้แก่ MET07 โซดา-รัชฎาวัลย์ ฟาวเลอร์ ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วัย 22 ปี  โดยเธอจะได้รับมงกุฎแห่งเอิร์ธ มูลค่า 10 ล้านบาท เงินรางวัลและสายสะพาย รวมไปถึงรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมทั้งได้เป็นตัวแทนสาวไทยไปประกวด Miss Earth 2024 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในเดือนพฤศจิกายนนี้

โซดา-รัชฎาวัลย์ ฟาวเลอร์

ประวัติ โซดา-รัชฎาวัลย์ ฟาวเลอร์

ชื่อ : รัชฎาวัลย์ ฟาวเลอร์
ชื่อเล่น : โซดา
สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกันวัย 22 ปี
การศึกษา : ปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 2 จากคณะวิทยาศาสตร์โภชนาการ University Of SurreyUK ประเทศอังกฤษ
รางวัล : Miss Earth Thailand 2024

โซดา-รัชฎาวัลย์ ฟาวเลอร์

ทั้งนี้โซดาได้เผยความรู้สึกหลังได้รับตำแหน่งว่า “วันนี้แฮปปี้มากที่ทุกคนเป็นกำลังใจให้โซดา วินาทีที่ประกาศตื่นเต้นมาก เพราะเป็นเวทีแรกของโซดา พูดไม่ถูก ช่วงที่จับมือ มองตากันกับยูก็รู้ว่าเป็นกำลังใจให้ และพูดว่า Good Luck ไม่ได้คิดอะไร และไม่ได้มีความคิดว่าตัวเองจะมงมาตั้งแต่แรก แต่ที่ผ่านมาโซดาทำกิจกรรมต่างๆ ทุ่มเทเต็มร้อยกับทุกสิ่งที่ทำ แล้วผลที่ออกมามันทำให้เราแฮปปี้มาก มั่นใจการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในการเข้าร่วมประกวด Miss Earth ที่ฟิลิปปินส์ มง 1 ต้องมาค่ะ”

Thailand Cyber Wellness Index 2024

AIS เปิดผลดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัลของคนไทย Thailand Cyber Wellness Index 2024

Alternative Textaccount_circle
Thailand Cyber Wellness Index 2024
Thailand Cyber Wellness Index 2024

AIS ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลชั้นนำของไทยที่มุ่งส่งเสริมการใช้งานที่ถูกต้องปลอดภัยและเหมาะสมให้กับลูกค้าและคนไทย ภายใต้โครงการ AIS อุ่นใจ CYBER เปิด “ผลดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัลของคนไทย Thailand Cyber Wellness Index 2024” เป็นปีที่ 2 ตอกย้ำเจตนารมณ์การทำงาน เดินหน้าส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ที่สามารถนำผลการศึกษาไปต่อยอดเพื่อสร้างความรู้ ทักษะ รวมถึงเส้นทางในการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับคนไทยได้ตรงกลุ่มเป้าหมายและสอดคล้องกับปัญหาที่เกิดขึ้นจริง

Thailand Cyber Wellness Index 2024

พร้อมกันนี้ได้พัฒนาเครื่องมือเช็กภูมิคุ้มกันภัยทางไซเบอร์แบบรายบุคคล หรือ Digital Health Check เป็นครั้งแรกในไทยที่ทุกคนสามารถประเมินระดับความสามารถในการรับมือจากภัยไซเบอร์พร้อมศึกษาความรู้จากหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์เพื่อยกระดับทักษะดิจิทัลได้ด้วยตัวเอง มากไปกว่านั้น AIS ยังได้นำเสนอเครื่องมือป้องกันภัยไซเบอร์ด้วยบริการ AIS Secure Net ที่วันนี้ได้เพิ่มการปกป้องที่ครอบคลุมมากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองเว็บไซต์อันตรายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้ลูกค้า AIS ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างอุ่นใจ ปลอดภัย ไร้กังวล และที่สำคัญลูกค้า AIS สามารถใช้บริการ AIS Secure Net ได้ฟรี เป็นระยะเวลา 12 เดือน

AIS เปิดผลดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัลของคนไทย Thailand Cyber Wellness Index 2024 ชี้คนไทยเกินครึ่งขาดทักษะความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พร้อมเปิดตัวเครื่องมือเช็กภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ Digital Health Check ครั้งแรกในไทย

Thailand Cyber Wellness Index 2024

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทย การป้องกันภัยไซเบอร์กลายเป็นประเด็นที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ทำให้การทำงานของ AIS ในฐานะผู้นำด้านบริการดิจิทัลที่มุ่งส่งเสริมการใช้งานออนไลน์ที่ถูกต้องเหมาะสมและปลอดภัยยิ่งทวีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ทั้งในมุมของการสร้างภูมิปัญญาหรือ Wisdom ที่จะนำไปสู่การสร้างพลเมืองดิจิทัลที่มีความรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ และในมุมของการใช้ขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีมาส่งมอบเครื่องมือปกป้องภัยไซเบอร์และมิจฉาชีพที่แฝงมากับการใช้งานออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ”

โดยในปีที่ผ่านมา AIS ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และนักวิชาการ ได้เปิดตัวดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัลของคนไทย หรือ Thailand Cyber Wellness Index ฉบับแรกของไทยที่ทำให้เห็นถึงระดับทักษะการรับรู้และความเข้าใจการใช้งานดิจิทัลในด้านต่างๆ ที่คนไทยยังคงต้องพัฒนาทักษะความรู้เพื่อรับมือกับภัยไซเบอร์ในรูปแบบต่างๆ ทำให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนหยิบเอาผลการศึกษาของเราไปต่อยอดในการเสริมสร้างทักษะดิจิทัลให้ได้ตรงกลุ่มอายุ อาชีพ หรือแม้แต่พื้นที่อย่างสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของแต่ละหน่วยงาน

Thailand Cyber Wellness Index 2024

สำหรับปีนี้ผลการศึกษาก็ยังสะท้อนให้เห็นว่า แม้คนไทยจะมีการพัฒนาความเข้าใจในการใช้งานบนโลกดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นจนผลในภาพรวมอยู่ในระดับพื้นฐาน แต่ยังมีจุดที่น่ากังวล เพราะคนไทยเกินครึ่งยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cyber Security and Safety) โดยเฉพาะในประเด็นที่มีความเสี่ยงต่อภัยที่อาจนำมาซึ่งความเสียหายต่อการใช้งานของตนเองและองค์กร อาทิ การไม่มีความรู้ความเข้าใจการถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์, การใช้ Wi-Fi สาธารณะในการทำธุรกรรมทางการเงิน, การใช้ วันเดือนปีเกิด มาตั้งเป็นรหัสผ่านซึ่งง่ายต่อการคาดเดา แม้แต่การไม่ทราบว่าการเข้าเว็บไซต์ที่ปลอดภัยลิงค์ URL ควรจะเป็น HTTPS เป็นต้น

นางสายชล อธิบายเพิ่มเติมว่า “เราจึงทำงานควบคู่กันทั้งการส่งเสริมทักษะความรู้ และพัฒนาเครื่องมือปกป้องการใช้ งานทำให้วันนี้เราพัฒนาเครื่องมือ “Digital Health Check” เพื่อให้คนไทยสามารถวิเคราะห์และประเมินทักษะด้านดิจิทัลของตนเอง พร้อมทั้งแนะนำช่องทางการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อเสริมสร้างทักษะและองค์ความรู้ในการป้องกันภัยไซเบอร์ให้แก่ลูกค้าและคนไทย”

Thailand Cyber Wellness Index 2024

โดยวันนี้ลูกค้าสามารถสมัครใช้งาน AIS Secure Net ได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงกด *689*6# รวมถึงการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าด้วย บริการ Secure Net+ Protected by MSIG ชูจุดเด่นปกป้องภัยคุกคามทางไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นไวรัส มัลแวร์ เว็บไซต์ปลอมหลอกลวง พร้อมแถมประกันภัยเพอร์ซัลนัลไซเบอร์ จาก MSIG ที่มอบความคุ้มครอง อาทิ การโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล และโจรกรรมเงิน หรือการถูกหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ ทางออนไลน์ ด้วยวงเงินคุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานออนไลน์ในโลกไซเบอร์ได้อย่างมั่นใจ ในราคาสุดคุ้มเดือนละ 39 บาทเท่านั้น สมัครง่ายๆ เพียงกด *689*10# โทรออก

Thailand Cyber Wellness Index 2024

“AIS ยังคงมุ่งมั่นในการเสริมสร้างทักษะด้านดิจิทัลของคนไทย พร้อมเดินหน้าพัฒนาเครื่องมือเพื่อให้คนไทยสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย รวมถึงการสนับสนุนภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาภัยไซเบอร์จากกลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงมากับการใช้งาน ทั้งมาตรการยืนยันตัวตน การควบคุมสัญญาณบริเวณรอยต่อชายแดน หรือ การสนับสนุนการทำงานของพี่ๆตำรวจโดยทีมวิศวกร ทั้งหมดเป็นไปตามเจตนารมณ์ของ AIS เพื่อให้ภัยไซเบอร์หมดไปจากประเทศไทยอย่างยั่งยืน” นางสายชล กล่าวทิ้งท้าย

ผู้ที่สนใจตรวจเช็กสุขภาวะทางดิจิทัลของตัวเอง ได้ที่ https://digitalhealthcheck.ais.th และสามารถอ่านรายละเอียดผลการศึกษาดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัล Thailand Cyber Wellness Index 2024 ของคนไทย เพิ่มเติมที่ https://sustainability.ais.co.th/th/sustainability-projects/thailands-cyber-wellness-index


แซ่บไฟลุก เบื้องหลังเดรสเว้าอกดีไซน์ 80s ของ คามิลล์ ใน Emily in Paris

Alternative Textaccount_circle

จัดจ้านไม่แพ้ตัวละครไหนๆ เปิดดีเทลเดรสเว้าอกดีไซน์ 80s ของ คามิลล์ ใน Emily in Paris ซีซั่น 4

ดูกันหรือยัง Emily in Paris ซีซั่น 4 ที่ลงจอใน Netflix เป็นที่เรียบร้อย บอกเลยว่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของ ‘เอมิลี่’ และคนรอบตัวยังชุลมุนวุ่นวายเหมือนเดิม แถมนี่ยังเป็นแค่พาร์ทแรกเท่านั้น แต่ดูจบก็ปวดขมับเบาๆ อย่างที่บอกไปเพราะเรื่องนี้ไม่ได้นำเสนอเพียงเรื่องราวของสาวชิคาโก้ แต่ตัวละครอื่นก็มีบทบาทเยอะสุดๆ

โดยเฉพาะ ‘คามิลล์’ คนรักเก่าของเกเบรียลที่มีบทบาทมาตั้งแต่ซีซั่นแรก ซึ่งครั้งนี้ก็มีเธอมาวนเวียนอยู่ในเนื้อเรื่องอีกเช่นเคย แตู่ดมากไปเดี๋ยวจะเป็นการสปอยล์ รอให้ทุกคนไปดูกันเองดีกว่า เพราะบทความนี้เราอยากพาไปส่องเดรสสุดแซ่บ ดีเทลเก๋ของ คามิลล์ ที่เธอใส่ในงานเต้นรำสวมหน้ากากไปด้วยกัน! เป็นเดรสที่ถึงเห็นแค่แว้บก็ต้องตราตรึงด้วยดีเทลแหวกอกแถมยังมีวัสดุคล้ายอลูมิเนียมประดับอยู่ ซึ่งเป็นผลงานจากแบรนด์ Kate Barton

นอกจากวัสดุคล้ายอลูมิเนียมที่ประดับอยู่บนอกแล้ว กลางหลังยังมีอีกชิ้นหนึ่งประดับอยู่ซึ่งองค์ประกอบดังกล่าวทำมาจากหนังเคลือบสีเมทัลลิก ส่วนซิลลูเอตของชุดนี้ยังมีกลิ่นอายยุค 80 ที่โดดเด่นด้วยส่วนของไหล่ที่เกินจริง ทรงฮิตของแฟชั่นสมัยนั้น เห็นความอลังการของชุดแทบไม่แปลกใจ เพราะเป็นซีรีส์ที่คอแฟชั่นต้องดูทั้งที จะธรรมดาได้ที่ไหนกัน!


ภาพ: Emily in Paris และ @katebarton

ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของ SK-II เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เผยเคล็ดลับเบื้องหลังความมั่นใจเรื่องผิวสวย

account_circle

ผิวกระจ่างใสดุจคริสตัลหมายถึงอะไรสำหรับคุณ?

SK-II แบรนด์สกินแคร์พรีเมียมชั้นนำระดับโลกขอเชิญทุกท่านเริ่มต้นการเดินทางสู่ผิวสวยกระจ่างใสดุจคริสตัล ด้วยส่วนผสมมหัศจรรย์ PITERA™ ไปกับ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนใหม่ล่าสุดของ SK-II

ในแคมเปญ “Crystal Clear Skin is… #ArigatoPITERA™”  ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใบเฟิร์นได้เผยวิธีสร้างความมั่นใจครั้งใหม่ในการเผยผิวหน้าสด ผ่านขั้นตอนการดูแลผิวประจำวันหลังการใช้ PITERA™ ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ SK-II ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา พร้อมเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงสู่ผิวกระจ่างใส ดุจคริสตัลและความหมายของคำนี้สำหรับเธอ  ซึ่ง SK-II หวังว่า เรื่องราวของใบเฟิร์น จะจุดประกายให้คนที่รัก PITERA™ออกมาแบ่งปันเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงผิวให้กระจ่างใสดุจคริสตัล ของตัวเองให้ทุกๆ คนได้รับรู้

หัวใจสำคัญของ SK-II คือ PITERA™ ซึ่งเป็นส่วนผสมธรรมชาติในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ของแบรนด์ที่ได้มาจาก กระบวนการหมักบ่มยีสต์สายพันธ์พิเศษซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ SK-II ทำให้ PITERA™ได้รับการต้อนรับ ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของผิว เพราะ PITERA™ มีส่วนประกอบที่คล้ายกับ สารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติที่พบในผิวหนังชั้นนอกสุด (Natural Moisturizing Factors)

ทำให้ PITERA™ ถูกดูดซึมได้อย่างรวดเร็วและซึมลึกเข้าสู่ผิว1 พร้อมมอบวิตามินและแร่ธาตุกว่า 50 ชนิดให้แก่ผิว นอกจากนี้PITERA™ยังเป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยแก้ปัญหาผิวจากต้นตอถือเป็นจุดเริ่มต้นของ การเปลี่ยนแปลงสู่ผิวกระจ่างใสดุจคริสตัล

ใบเฟิร์นกล่าวว่า “ผิวกระจ่างใสดุจคริสตัลคือการที่เฟิร์นรู้สึกมั่นใจและภูมิใจในผิวของตัวเอง ด้วย PITERA™ เฟิร์นพร้อมเผชิญทุกสถานการณ์ เพราะเฟิร์นไม่กลัวที่จะทำงานในที่แจ้ง ท่ามกลางฝุ่นและมลภาวะ หรือแม้แต่แต่งหน้าจัดเต็ม เพราะรู้ว่าทุกวันหลังกลับบ้านจากการทำงาน เฟิร์นมี SK-II และ PITERA™ รออยู่”

แคมเปญ “Crystal Clear Skin is…#ArigatoPITERA™” เริ่มต้นด้วยเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับพลังมหัศจรรย์ของ PITERA™ หลายปีที่ SK-II ได้นำเสนอเรื่องราวของ PITERA™และเส้นทางการเปลี่ยนแปลงผิวให้ กระจ่างใสดุจคริสตัลเพื่อทุกคนจะได้สัมผัสกับรูปแบบใหม่ที่มีความหมายต่อผู้คนทุกยุคสมัย ตั้งแต่การบอกเล่า เบื้องหลังของนักแสดงชื่อดัง กับความท้าทายเผยผิวใสไร้เครื่องสำอางกับแคมเปญ “Face The Wild Face the Camera” กับ National Geographic ในปี 2017  และ “Bare Skin Project” กับ Magnum Photos ในปี 2018 ต่อเนื่องด้วยซีรีส์ออนไลน์ชุดแรกที่ผนวกเรื่องของความงามและความบันเทิงเข้าด้วยกันกับ  “Bare Skin Chat” ในปี 2019 และ “PITERA™ & Me” ซึ่งเป็นซีรีส์ภาพยนตร์ของ SK-II ในปี 2022 ที่แบรนด์แอมบาสเดอร์ Gen Z รุ่นใหม่กำกับเองเป็นครั้งแรก รวมถึง “Late Night Portraits” ของปี 2023 ที่ให้นักแสดงชื่อดังของเอเชียทดสอบความเป็นที่สุดของ Facial Treatment Essence และล่าสุด SK-II ได้เปิดตัว “THE SECRET KEY” ที่จะปลดล็อคเรื่องราวที่ไม่เคยเล่าที่ไหนมาก่อนของเหล่าคนดังที่หลงรัก PITERA™ และเผยเส้นทางสู่ผิวกระจ่างใสดุจคริสตัลของพวกเขา

"โซลจา บอย"

อย่างเท่! “ป๊อก” แจม “โซลจา บอย” ขึ้นแท่นแร็ปเปอร์ระดับโลก

Alternative Textaccount_circle
"โซลจา บอย"
"โซลจา บอย"

สะพรึงทั้งวงการแร็ปเปอร์! นาทีนี้ฮอตระดับโลกแบบไม่มีอะไรมาต้านได้ ตัวพ่อตัวปังแร็ปเปอร์สัญชาติไทย “ป๊อก-ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์” หรือ “POKMINDSET” สามีคนเก่งของ “มาร์กี้ ราศรี” ผู้เคยสร้างปรากฎส่งเพลงแร็ปสุดฮิต “WIP WUP” โด่งดังทะลุทุกชาร์ตเพลงอินเตอร์มาแล้วมากมาย ล่าสุดกลับมาเป็นเป็นกระแสทอล์คออฟเดอะทาวน์อีกครั้ง กับซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดชื่อไทยๆจำง่ายตามสไตล์ ซิงเกิ้ล “JING JING” (จริง จริง) โดดไปฟีเจอริ่งกับแร็ปเปอร์ผิวสีคนดัง “SOULJA BOY” (โซลจา บอย) ที่มีเพลงดังอยู่ในลิสต์ชาร์ตเพลงบิลบอร์ดเพียบ ดีกรีและผลงานไม่ธรรมดา มีแฟนคลับจากทั่วทุกมุมโลก โดยแร็ปเปอร์สัญชาติอเมริกันสุดเก๋าคนนี้ เป็นเจ้าของเพลงในตำนานอย่าง Crank That และ Kiss Me Thru The Phone ยอดวิวฉ่ำๆในโลกออนไลน์

"โซลจา บอย"

ซึ่งหลังจากปล่อยเพลงนี้ไม่กี่สัปดาห์ฟีคแบคแรงจนสื่อนอกและวงการแร็ปเปอร์โลกต้องจับตามอง ซึ่งเพลงนี้มีเสน่ห์น่าสนใจ หยิบยกความเป็นไทยและดนตรีไทยคลาสิค สอดแทรกมามิกซ์กับจังหวะแร็ปเปอร์ได้อย่างลงตัว อีกทั้งเนื้อหาและความหมายในเพลงยังอุดมไปด้วย ซอฟต์พาวเวอร์ความเป็นไทยและเอกลักษณ์วิถีความเป็นอยู่ของคนไทยทั้ง โลเคชั่น,อาหาร และศิลปวัฒนธรรม โดยมีไฮไลท์ที่น่าสนใจเพียบทั้ง พระเครื่อง,มวยไทย และ อาหารไทยเด็ดๆอย่าง กุ้งเต้น,น้ำตก,ส้มตำ,น้ำอัดลมถุงหิ้ว และ จอมขโมยซีนคนดังระดับมิชลินอย่าง “เจ๊ไฝ ประตูผี” มาสร้างความปังให้เอ็มวีเพลง “JING JING” จอสระอึ้ง..จึ้งมากแม๊ งานนี้ฮอตจนสำนักข่าวต่างประเทศ The Source ต้องอวยยศว่าซิงเกิ้ลนี้เป๊ะปังสมบูรณ์แบบ

ด้านสื่อแม๊กกาซีนออนไลน์อย่าง Rolling Hype ก็ยังนำเสนอว่าเพลงนี้มีเสน่ห์และน่าสนใจสุดๆ ถือเป็นการโคจรมาแจมกันแม้จะต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรมแต่เคมีของสองแร็ปเปอร์คู่นี้ลงตัวเข้ากันจนเพลงออกมาสมบูรณ์แบบ งานนี้ยังประกาศความยิ่งใหญ่เพิ่มเต็มเมื่อเอ็มวีซิงเกิ้ล “JING JING” ได้มีโอกาสขึ้นฉายที่ Digital Billboard ย่าน Times Square มหานครนิวยอร์ก ของสังกัด BET ช่องทางสำหรับนำเสนอผลงานเพลงและงานบันเทิงของคนผิวสี ที่ต้องผ่านการคัดสรรงานดีมีคุณภาพมาเผยแพร่ ถือเป็นงานยากงานหิน ที่จะมาขึ้นโปรโมทกันที่จุดนี้ เรียกว่าผลงานจากคนไทยมากความสามารถอย่าง “POKMINDSET” ทำถึง! สะกดทุกสายตาชาวต่างชาติ พร้อมชวนหยุดให้ต้องโยกตามไปกับซิงเกิ้ลกลิ่นอายความเป็นไทยผสมผสานความเป็นสากลซิงเกิ้ลนี้ กระแสแรงยอดวิวเพิ่มขึ้นนาทีต่อนาที

นับเป็นเรื่องราวๆที่น่าภูมิใจของศิลปินไทยนาม “POKMINDSET” ที่สามารถเจาะตลาดวงการแร็ปเปอร์ระดับโลกได้สำเร็จแบบมิชชั่นคอมพลีท จนต้องปรบมือ

“วิน เมธวิน”

“วิน  เมธวิน” ห้างแตก ! แฟนคลับสุดฟินช็อตเซลฟี่หล่อทะลุเฟรม

Alternative Textaccount_circle
“วิน เมธวิน”
“วิน เมธวิน”

“Sheep”  แบรนด์เคสสัญชาติไทยผู้ผลิตและออกแบบแก็ดเจ็ต ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดรวมถึงการให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และตัวตนของผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าจากร้าน AppleSheep ที่รวมสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์และ  ไอทีเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ล่าสุดปล่อยหมัดเด็ด ยกระดับงานคอลแลปส์พร้อมกัน 2 คอลเลคชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ  ด้วยการประกาศเข้าสู่จักรวาล Marvel ต้อนรับการมาขอ Avenger Phrase 2 ด้วยการออกเคสโทรศัพท์ที่สัมผัสถึงพลังของซุปเปอร์ฮีโร่อย่าง Marvel  ลาย Spider-Man    และอีกคอลเลคชั่นเป็น อุปกรณ์ตกแต่งมือถือ  จากผลงานการออกแบบลาย Mickey&Friends และ Winnie The Pooh  จาก Global Artist อย่าง ซิโมเน่ เล็กจ์โน่ (Simone Legno) หรือ (Tokidoki) ที่มีเฉพาะในงานนี้เท่านั้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sheep and Friends โดยเปิดตัวในงาน  Disney Toy Expo Thailand 2024      

    

“วิน  เมธวิน”

  ภายในงานพบกับคุณอภินันท์ ตรีรัตน์พิจารณ์  Founder&CEO บริษัท  ชีพ แก็ดเจ็ต จำกัด ร่วมเปิดงานและ นักแสดงหนุ่ม  “วิน” เมธวิน  โอภาสเอี่ยมขจร  มาร่วมในงาน พร้อมพูดคุยถึงสไปเดอร์แมน  ฮีโร่ยอดมนุษย์แมงมุมของคนทุกยุค “ถ้าจะพูดถึงซูปเปอร์ฮีโร่ในจักรวาลมาเวล  สไปเดอร์แมนยอดมนุษย์แมงมุมเลยครับ เป็นตัวละครที่อยู่ในใจผมมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนเลยครับ สไปเดอร์แมน เป็นมนุษย์ธรรมดาที่อยากช่วยเหลือคนอื่นด้วยพลังที่ตัวเองมีตัวเล็กๆแบบสไปเดอร์แมน แต่ก็สามารถทำสิ่งดีๆให้กับโลกใบนี้ได้  พอมาทำเป็นเคสมือถือลายสไปเดอร์แมน เห็นแล้วบอกเลยว่าเท่มากๆครับ” พร้อมกับโชว์ท่าเซลฟี่ยังไงให้หล่อทะลุเฟรมทุกช็อต  เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นจากแฟนคลับที่มาร่วมงานทั่วบริเวณทุกพื้นที่ทุกชั้นของห้างดัง

 นอกจากนั้นยังได้พบกับไอคอนสตรีทอาร์ตระดับโลก ซิโมเน่ เล็กจ์โน่ (Simone Legno)  มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับ Key Visual – Mickey&Friends / Winnie The Pooh  Version Tokidoki พร้อมวาดภาพให้ชมบนเวทีอีกด้วย  พร้อมโชว์คอลเลคชั่นที่ทำร่วมกับแบรนด์ Sheep เป็นการยกระดับงานคอลแลปส์แบรนด์“Sheep”  ร่วมกัน 3 แบรนด์ คือ  Sheep xTokikodu  x Disney  ทำเป็นอุปกรณ์ตกแต่งมือถือ ลวดลายโดดเด่นผู้ที่ชอบคาแรกเตอร์ Mickey&Friends และ Winnie The Pooh ไม่ควรพลาด  งานที่ออกมาจะเป็นสไตล์ถ่ายทอดเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ลงบน Magsafe Griptok, Wallet Magsafe  และ Phone Charm

นอกจากนั้น simone legno มาเป็น live painting พร้อมแจกลายเซนต์แฟนคลับที่บูธแบรนด์ sheep อีกด้วย

มินิมอลและโมเดิร์น ส่องสนีกเกอร์คู่ใหม่ ‘เต ตะวัน – ลุค อิชิคาว่า – ริว วชิรวิชญ์’

Alternative Textaccount_circle

ส่อง SKYHAND™ OG โมเดลสนีกเกอร์รุ่นคลาสสิกจากปี 1994 ที่ผสมผสานความมินิมอลและความโมเดิร์นไว้อย่างลงตัว

ASICS SportStyle เปิดตัวสนีกเกอร์ SKYHAND™ OG รุ่นใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดีไซน์ของรองเท้าแฮนด์บอล SKYHAND™ รุ่นดังในตำนาน เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 1994 โดยรองเท้ารุ่นใหม่นี้ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์และการสวมใส่ในชีวิตประจำวันด้วยวัสดุที่ทันสมัยเพื่อให้รองรับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น

รองเท้ารุ่นนี้ยังคงดีไซน์ที่เพรียวบางและเรียบง่ายตามแบบฉบับดั้งเดิมไว้ โดยทีมออกแบบของ ASICS ได้ปรับปรุงวัสดุรองรับแรงกระแทกด้วยเทคโนโลยี FLYTEFOAM™ PROPEL ที่จะช่วยเพิ่มการดีดตัวในทุกก้าวเดิน รวมไปถึงแผ่นโฟม EVA ที่ส้นรองเท้า ช่วยให้ผู้สวมใส่เคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติและรู้สึกสบายมากยิ่งขึ้นในขณะที่ยังคงดีไซน์แบบมินิมอลของรองเท้าไว้ได้

การกลับมาในครั้งนี้ จะเปิดตัวด้วยโมเดลที่ทำจากวัสดุที่แตกต่างกัน 2 แบบ 2 สไตล์ โดยรุ่นหนึ่งจะมีส่วนบนที่มีลักษณะคล้ายกับดีไซน์ดั้งเดิมในปี 1994 โดยมีแผ่นหนังสังเคราะห์ที่ตัดกับรายละเอียดหนังกลับที่ส่วนร้อยเชือก ส่วนอีกรุ่นหนึ่งจะทำจากวัสดุหนังกลับเป็นหลัก จับคู่กับแถบลวดลายซิกเนเจอร์ของ ASICS และแถบรองเท้าด้านหลังที่ทำจากหนังสังเคราะห์


ภาพและข้อมูล: ASICS SportStyle

สงกรานต์ เตชะณรงค์

สงกรานต์ เตชะณรงค์ เปย์มาก ยกเงินที่ทำงานทุกบาทให้ มายด์-ณภศศิ

Alternative Textaccount_circle
สงกรานต์ เตชะณรงค์
สงกรานต์ เตชะณรงค์

สงกรานต์ เตชะณรงค์ หนุ่มอินโทรเวิร์ต พูดน้อยไม่ค่อยแสดงออกเรื่องความรัก แต่ล่าสุดเปลี่ยนไปกลายเป็นคนพูดเก่งขึ้นจนถูกแซวหนัก เพราะแฟนสาวรุ่นน้อง มายด์-ณภศศิ สุรวรรณ ซึ่งล่าสุดในงาน แกรนด์โอเพ่นนิ่ง สหคลินิกกายภาพบำบัด  “MBS Wellness Clinic”  สงกรานต์ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการเปลี่ยนเปลี่ยนของตนเองว่า

งาน แกรนด์โอเพ่นนิ่ง สหคลินิกกายภาพบำบัด  “MBS Wellness Clinic”
งาน แกรนด์โอเพ่นนิ่ง สหคลินิกกายภาพบำบัด  “MBS Wellness Clinic” 

วันนี้วันเกิดน้องมายด์มีของขวัญพิเศษให้บ้างไหม

สงกรานต์ : “ให้ของขวัญให้ล่วงหน้าไปแล้วครับ จริงๆ ตอนแรกจะพาไปทานข้าว แต่วันนี้เขายุ่ง เดี๋ยวรอวันที่ว่างก่อน จะได้ไปแล้วแบบไม่ต้องเครียด ไม่ต้องคิดเรื่องงาน”

มายด์ : “ของขวัญคือให้เงินที่ได้จากการทำงานทั้งหมดค่ะ (หัวเราะ)”

สงกรานต์ : “ไม่ขนาดใจป้ำเป็นป๋าครับ ก็ทำด้วยกัน”

มายด์ : “คอนเทนต์ต่างๆ ที่ทำมา ที่ให้พี่กานต์มาช่วยถ่ายในคลิป ก็ยกให้เป็นของขวัญวันเกิด หนูก็เอาเงินมาต่อเงินค่ะ เอาเงินมาลงทุนตอนนี้ คลินิกนี้คือลงทั้งงานทั้งแรง ตั้งแต่ก่อนสร้างรับเหมาคือคุยเองหมดเลย ก็โหดอยู่แต่ก็จะเต็มที่ค่ะ สู้ค่ะ ถามว่าปลื้มไหม ที่พี่เขาให้เงินจากงานที่เขาทำ ก็ปลื้มค่ะ ดีค่ะ พี่กานต์บอกว่าจะเอาไปทำอะไรก็จะได้เลือกได้ตามที่เราอยากได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็อาจจะเอาไปช้อปปิ้ง แต่รู้สึกว่าในปีนี้มันเป็นปีที่เราเติบโต และรู้ว่ากว่าจะหาเงินได้มันลำบาก หนูก็เลยเอาไปเก็บกับเอาไปลงทุนต่อยอดค่ะ ส่วนสิ่งของอื่นๆ คือเมื่อก่อนตอนเด็กๆ เราก็มีหวังอยากได้ แต่พอมันโตขึ้น มุมมองเราเปลี่ยนไปเยอะเลยค่ะ แค่พี่กานต์บอกว่าเดี๋ยวชวนไปทานข้าวกัน ไปดินเนอร์ก็แฮปปี้แล้วค่ะ จริงๆ ถามว่าหลักไหม นิดหน่อยค่ะ (หัวเราะ) แต่มีค่าทางใจ หลายๆ อย่างที่พี่เขาคอยทำให้ คอยซัปพอร์ต พี่เขาไม่ได้เป็นคนพูดเยอะหรือพูดหวาน อย่างวันนี้เขาก็แซวว่าเขาจำไม่ได้ เขามีนัดประชุม แต่สุดท้ายเขาก็ตั้งใจแล้วก็มาก่อนเวลา เราก็รู้สึกดีแล้ว”

สงกรานต์ เตชะณรงค์



ความรักแฮปปี้สดใสยังไงบ้าง

มายด์ : “ดีค่ะ (หัวเราะเขิน)”

สงกรานต์ : “ดีครับ โอเครับ สนุกดี พอได้มาเจอคนที่พลังเยอะ เอเนอร์จี้ล้น อะไรที่มันล้นๆ มามันก็มาถึงเรา ทำให้เรารู้สึกมีเอเนอร์จี้ ครึกครื้น เพราะเราเข้าวัย 40 กว่า บางทีมันก็อาจจะดรอปบ้างหลายๆ อย่าง พอได้เจอพลังบวกเข้าไป มันก็เลยกลับมาแอ็กทีฟอีกครับ ดีครับ เด็กลงไหมครับ”

มายด์ : “เดี๋ยวนี้พูดเก่งมาก พูดเก่งกว่ามายด์แล้ว”

สงกรานต์ : “เขามาทำให้สดใส พูดเก่งด้วย เพราะว่าเขาบังคับให้ผมไลฟ์ติ๊กต๊อกทุกวัน (หัวเราะ) มันก็เลยได้ฝึกวิชาไปด้วย เลยทำให้พูดคล่องขึ้น”

มายด์ : “เราเป็นคนที่แตกต่างกัน ด้วยประสบการณ์ในการทำงาน หรือการใช้ชีวิตหลายๆ อย่าง เขาผ่านอะไรมาแล้ว แล้วบางทีการปรึกษา มุมมองมายด์คือเด็ก แล้วเราไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหายังไง แต่ทุกครั้งที่หันไปถามพี่เขา ก็จะได้คำแนะนำที่ดี มายด์ก็ยินดีรับฟังและปรับปรุงค่ะ ธุรกิจอันนี้ปรึกษาพี่กานต์เยอะมาก มีการคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติกัน เขามาสอนให้มายด์เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เป็นระเบียบมากขึ้น แล้วก็รู้จักวางแผนในการใช้ชีวิตได้ดีขึ้นในทุกๆ เรื่องค่ะ”

แผนในอนาคต

มายด์ : “สำหรับมายด์เรารู้สึกคล้ายๆ กัน อย่างที่บอกว่าเราโฟกัสปัจจุบัน แล้วทุกวันนี้มันดีมากๆ ที่เราได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน ได้มีการคุยกันในหลายๆ มิติ ไม่ใช่แค่เรื่องของความรัก คือเราได้รู้จักนิสัยกันจริงๆ เรื่องอนาคตถ้าให้ตอบตรงๆ คือเรารู้สึกว่าไปเรื่อยๆ ถ้ามันดีในจังหวะที่มันใช่ มันก็มีการพัฒนาไปเอง แต่ไม่ได้อยู่ในความคาดหวัง ในเร็วๆ นี้คงยังไม่มีค่ะ รู้สึกว่าปีนี้เราอยากโฟกัสกับงานจริงๆ ค่ะ ยังไม่ได้วาดภาพเอาไว้ว่าเมื่อไหร่เนอะ (หัวเราะ)”

สงกรานต์ : “ก็โอเคครับ ตอนนี้ก็คือด้วยความที่เราคนละเจนเนอเรชั่น ห่างกัน 10 กว่าปี เราอาจจะมองภาพคนละแบบ ในมุมผมคืออาจจะต้องทำเรื่องที่มันเป็นรากฐานให้แข็งแรงก่อน แล้วเดี๋ยวเรื่องอื่นมันจะตามมาเอง พอมันมีอะไรซัปพอร์ตที่ดี ทุกอย่างมันก็จะดีเอง”

ล่าสุด “สงกรานต์” ไปตอบในรายการ “นิกกี้ ณฉัตร จันทพันธ์” ว่ามีแฟนแล้ว

มายด์ : “ใช่ ที่พี่กานต์ไปยกป้ายในรายการพี่นิกกี้ ที่บอกว่ามีแฟนหรือยัง เพราะตอนนั้นเรายังไม่ได้บอกใคร แต่ตอนมายด์อายุ 20 กว่า มันจะมีความคาดหวัง แต่พอถึงจุดหนึ่ง มายด์เพิ่งไปเรียนที่ปรึกษามา แล้วเราลองมาแบ่งพาร์ตในชีวิตของเรา อย่างแรกที่มายด์เลือกคือการทำงาน ปีนี้เป็นปีของการเริ่มต้น เราอยากโฟกัสตรงนี้ ปีหน้าจะได้มีการเติบโต แล้วในอนาคตเมื่อถึงเวลาที่มันใช่ เชื่อว่าทุกอย่างมันจะมาเอง คือเราทำวันนี้ให้ดีที่สุด ให้เต็มที่ เราก็จะไม่เสียใจ แต่ตอนนั้นที่ไปออกรายการ พี่กานต์ยังไม่ได้ขอเลย (หัวเราะ)”



จะมีโมเม้นต์ฉลองครบรอบบ้างไหม

มายด์ : ก็ไม่ เหมือนมันรับรู้ได้ค่ะ ไม่ติด ไม่เป็นไร (หัวเราะเขิน) วันครบรอบเราก็ไม่มีจริงๆ มีเป็นแบบระยะเวลาคร่าวๆ ด้วยซ้ำเนอะ (หัวเราะ)”

สงกรานต์ : “ครับ ถามว่าอยากกำหนดวันเลยไหม เราไม่ได้ยึดติดกับวันอยู่แล้วครับ จริงๆ จะฉลองวันไหนก็ได้ที่ดูแล้วลงตัว ทุกวันนี้มันก็แฮปปี้อยู่แล้ว โมเมนต์แบบนั้นมันก็มีเรื่อยๆ อยู่แล้ว”

มายด์ : “ทุกวันเป็นวันครบรอบค่ะ ทุกวันที่พวกเราว่าง จะเป็นวันที่ชวนกันไปทานข้าว ชอบชวนพี่เขาไปรีวิวร้านส้มตำ”

มายด์ : “จริงๆ อาจจะไม่ต้องเซอร์ไพรส์เลยก็ได้ ถึงจุดหนึ่งมันอาจจะเออๆ อะไรอย่างนี้ค่ะ รอก่อน ยังไม่ได้คิดจริงๆ (หัวเราะ) มายด์รู้สึกว่าเรียบง่ายแต่สม่ำเสมอ ระยะยาวมันมีความสุขมากกว่า บางทีคนเรามันไปอยู่บนความคาดหวัง ตอนเด็กๆ มายด์คาดหวังทุกอย่าง ไม่ว่าเรื่องความรักหรืองาน พอคาดหวังมันก็มาพร้อมความผิดหวัง สุดท้ายเราก็เลยอยากให้ตัวเองอยู่กับปัจจุบัน รู้ว่าสุขทุกข์ยังไง สุขเราก็ไม่ต้องสุขเต็มที่ สุขก็รู้ว่าอยู่ตรงนั้น เวลาทุกข์ก็อย่าไปจมอยู่กับมัน เพราะทุกอย่างมันมีทางออก ปรับชีวิตแบบนี้แล้วความสุขแต่ละวันมันง่ายขึ้น พอเราจัดการความเครียดได้มันทำให้เรานอนหลับ สุขภาพเราก็ดี แต่บางคนมายด์เข้าใจนะ พูดง่ายแต่มันทำยาก แต่ลองทำดูค่ะ แล้วมันจะเป็นความสุขที่เรียบง่าย อยู่กับความไม่คาดหวัง แต่มันก็จะเป็นความรู้สึกที่ดีๆ ค่ะ”



อยู่กับ “มายด์” แล้วสนุก ได้เอ็นจอยไปด้วยเพราะความขยัน

สงกรานต์ : “ดีครับ สนุกดีครับ เอเนอร์จี้เยอะดี มันทำให้เรารู้สึกตื่นตัวตลอดเวลา เขามีความขยัน มันเลยทำให้เราเอ็นจอยไปด้วย แล้วตอนนี้เราได้มาทำงานร่วมกันอีก ต่างคนต่างพุชลิมิตของตัวเอง มันก็มีอรรถรสในการใช้ชีวิตแต่ละวันที่สนุก มันมีชาเลนจ์ สนุกดีครับ”

วิโอเลต

วิโอเลต โปรยเสน่ห์สุดร้อนแรง บนเวที SUMMER SONIC 2024

Alternative Textaccount_circle
วิโอเลต
วิโอเลต

ตั้งแต่มีชื่ออยู่ในไลน์อัพงาน “SUMMER SONIC 2024” เทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ทำเอาแฟนเพลงทั้งไทย และต่างประเทศ ต่างพูดถึงและรอคอยจะได้เห็นการ performance ของ Queen of Pop อย่าง “วิโอเลต วอเทียร์” ศิลปินจากค่าย “Universal Music Group” ที่เธอขึ้นโชว์บนเวทีระดับโลกเป็นครั้งแรก เมื่อวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม แสดงที่เมืองโตเกียว และวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา แสดงที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น  โดย “วิโอเลต วอเทียร์” ปล่อยพลังการแสดงบนเวที แบบไม่มียั้ง ส่งเสน่ห์ถึงคนดูทั้งจากแฟนเพลงชาวไทย รวมถึงกลุ่มแฟนเพลงชาวญี่ปุ่น ที่ไปให้กำลังใจ ส่งเสียงเชียร์ และพร้อมสนุกไปกับเธอ โดยหลังจบโชว์ มีแฟนๆ ชาวปลาดิบ ตามมาให้กำลังใจทางโซเชียลมีเดียอีกเพียบ

วิโอเลต

“วิโอเลต วอเทียร์” บอกเล่าเรื่องราว และ mood and tone ของแต่ละเพลง ผ่านลีลาท่าทางที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วย setlists ที่เริ่มตั้งแต่ intro เข้าเพลง “BRASSAC” เพลงที่มีเนื้อร้องภาษาฝรั่งเศสที่เธอแต่งเอง ตามมาด้วยเพลงล่าสุดที่เธอเพิ่งปล่อยออกมาไม่นานอย่าง “FAVOURITE MISTAKE” เพลงสุดยั่วเย้า ออดอ้อน กับซาวด์ดนตรีป็อป ที่เธอวาดลีลาบนเวทีได้เซ็กซี่จนแฟนเพลงชาวญี่ปุ่นส่งเสียงกรี๊ดให้เธอไม่หยุด

วิโอเลต

ตามมาด้วย “Smoke” เพลงที่เธอสร้างตำนานท่าเลื้อยตัว จนกลายเป็นไวรัล และยากจะหาคนเลียนแบบท่านี้ได้ ก่อนจะไล่ระดับอารมณ์ของเพลงที่ซาวด์ดนตรีหนักแน่นอย่าง “DANCING ON A GRAVEYARD” เพลงที่เธอนิยาม keyword เอาไว้ 5 คำนั่นก็คือ “หลุมศพความสัมพันธ์” พร้อมสลับ mood and tone ด้วย “ENVY” เพลงที่เธอบอกว่า “ฉันอิจฉาตัวเองจังที่มีเธอเป็นคนรัก” เล่นเป็นน้ำจิ้มเบาๆ แต่ก็ตกแฟนเพลงชาวญี่ปุ่นให้หลงเสน่ห์ในน้ำเสียงของเธอได้ไม่น้อย

ไม่เพียงเท่านี้ “วิโอเลต วอเทียร์” ยังเซอร์ไพรส์แฟนเพลงชาวญี่ปุ่นด้วยการร้องเพลง “BACK TO REALITY” และ “BETTER NOT CALL ME NOW” สองเพลงใหม่จาก EP “CALL ME DRAMATIC” ที่กำลังจะปล่อยออกมาให้แฟนเพลงเซฟเข้าเพลย์ลิสต์ส่วนตัวในวันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคมนี้ ก่อนจะปิดโชว์ด้วยเพลง “All that I can do” และเพลงฮิตอย่าง “I’d Do It Again” จากอัลบั้มเพลงสากลแรกอย่าง “Glitter and Smoke” โดยแฟนเพลงชาวไทย และชาวญี่ปุ่นต่างสนุกสนานไปกับโชว์ของเธอ ก่อนที่เธอจะแจกลายเซ็นให้แฟนเพลงที่เรียกว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้เลยก็ว่าได้ เป็นอีกมวลความสุข และความประทับใจที่เต็มอิ่มสุดๆ

นอกจากนี้ “วิโอเลต วอเทียร์” ยังได้รับการต้อนรับที่ดีจากสื่อในประเทศญี่ปุ่นอย่าง TV Groove, VOGUE JAPAN และรายการ Yogaku Tengoku ร่วมสัมภาษณ์เธอถึงผลงานเพลงสากล และการขึ้นโชว์บนเวทีระดับโลกในงานเทศกาลดนตรี  “SUMMER SONIC 2024” เป็นครั้งแรก จนกลายเป็นกระแสแรงที่ทั่วโลกต่างพูดถึง!! บอกได้เลยว่า “วิโอเลต วอเทียร์” คือ Thailand Soft Power ที่เป็นกระบอกเสียงนำผลงานเพลงของศิลปินไทยออกสู่ตลาดสากลระดับโลกได้เป็นอย่างดี ส่วนแฟนเพลงชาวไทยรอชม Show Performance ของเธอในงาน “SUMMER SONIC BANGKOK 2024” เสาร์ที่ 24  และอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2567 ได้เลย รับรองว่าเธอเสิร์ฟความสนุกแบบจัดเต็มอีกเช่นเคย

อาวดี้ เปิดตัว Flagship SUV ตัวท็อป Q8 ขุมพลัง Plug-in Hybrid เจเนอเรชั่นล่าสุด

account_circle

อาวดี้ ประเทศไทย เปิดตัว Flagship SUV ตัวท็อปสุดหรูกับขุมพลัง Plug-in Hybrid เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด  “Q8 TFSI e quattro S line edition one” พรีเมียมสุดในเซกเมนต์  ราคา 5,799,000 บาท  มาพร้อมกับ New Design Language ลุคสปอร์ตสุดดุดัน กระจังหน้าดีไซน์ล่าสุด  ล้อ Audi Sport  พร้อมแนะนำ 3 สีใหม่ Sakhir Gold Metallic / Chili Red Metallic และ Waitomo Blue Metallic  นำเข้า 100% ประกอบนอกทั้งคัน  คุณภาพพรีเมียมมาตรฐานเยอรมัน

Audi Q8 TFSI e quattro S line edition one รถยนต์ Flagship SUV รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวด้วยรูปทรง Sportback กับชุดแต่ง S line Black Edition รอบคันที่มาพร้อมกับล้อ Audi Sport สีดำขนาด 22 นิ้ว ให้ความดุดันผสานความหรูหราได้อย่างลงตัว และเป็นครั้งแรกของรถในตระกูล Plug-in Hybrid ที่เปิดตัวกับ New Design Language กระจังหน้าลุคใหม่ ดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วย Brand CI ใหม่กับ Audi Ring 2D Logo 

ระยะทางวิ่งไฟฟ้า 71.7 กิโลเมตร (WLTP) ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน Plug-in Hybrid แบบ V6 เทอร์โบชาร์จให้พละกำลังรวมสูงสุด 394 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุด 600 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ขนาด 25.9 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ความเร็ว 0-100 ใน 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รองรับการชาร์จด้วยกระแสสลับ AC 3.7 และ 7.4 กิโลวัตต์ และยังมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์และได้รับการยอมรับจากแฟนอาวดี้ทั่วโลก  

ครบครันด้วย Adaptive cruise control with Stop & Go function ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่สามารถหยุดรถได้อัตโนมัติเมื่อรถคันหน้าหยุด ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ (Driving Assistant) เต็มรูปแบบ มอบความปลอดภัยให้กับทุกเส้นทาง 

อาวดี้ Audi Flagship SUV Q8 Plug-in Hybrid

Audi Q8 TFSI e quattro S line edition one ราคา 5.799 ล้านบาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมอาวดี้ทั่วประเทศและติดตามความเคลื่อนไหวแบรนด์ได้ที่ Facebook / Instagram: Audi Thailand / www.audi.co.th


‘รักเก่าจะกลับมาทวงบัลลังก์ความเป็นหนึ่งคืน’ ใช่คุณไหม?? เช็กเลย!! ดวงรายสัปดาห์ 19-25 สิงหาคม 2567

Alternative Textaccount_circle

‘รักเก่าจะกลับมาทวงบัลลังก์ความเป็นหนึ่งคืน’

ดวงรายสัปดาห์ 19-25 สิงหาคม 2567

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์          

การงาน  :   สัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าคุณจะอยู่ไม่เป็นสุขเลยล่ะค่ะ นอกจากจะได้ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ตัวเองไม่ได้รัก ไม่ได้เลือก ไม่ถนัด หรือถูกจับยัดแล้ว ยังมีโอกาสอยู่ท่ามกลางการแก่งแย่งแข่งขันชิงดีชิงเด่น ทั้งในเรื่องของผลประโยชน์ และตำแหน่งหน้าที่การงานอย่างบ้าคลั่ง แล้วหากพูดถึงจุดยืนของคุณ ช่วงนี้ก็นับว่ามีความเป็นตัวเองชัดเจน ยากที่จะเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น จึงมีโอกาสที่งานหรือธุรกิจจะสะดุดกลางคัน ทางที่ดีควรหาช่องทางออกมารับเป็นจ๊อบ หรือทำธุรกิจของตัวเองจะดีกว่า

การเงิน  :  จริงๆ แล้วคุณมีโชคในการลงทุนหรือจากการทำธุรกิจ แต่ก็มีข้อแม้ว่า ต้องดูให้ดีว่าผลตอบแทนคุ้มหรือเปล่าด้วยนะคะ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว คุณมีโอกาสถูกมิจฉาชีพหลอก นอกจากนั้นยังรวมถึงการกู้ยืม การรับประกัน

ความรัก  :   ก็ยังมีโอกาสปะฉะดะกันอยู่นะคะ ซึ่งสัปดาห์นี้มีโอกาสที่จะมีสาเหตุจากบุคคลภายนอกที่ไม่อยากเห็นคุณกับคู่สมานสามัคคีกัน แล้วเป็นไปได้ว่าใจคุณก็ไม่มั่นคงพอให้เขากล่อมได้โดยง่ายด้วย จึงเป็นไปได้ที่จะทะเลาะกันรุนแรงแบบไม่ให้เกียรติกันเลย คนโสด ต้องระวังรักเก่าที่ยังคาราคาซัง ตัดไม่ตายขายไม่ขาดอยู่นะคะ เพราะสัปดาห์นี้เขาจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อทวงบัลลังก์ความเป็นหนึ่งคืน  

สุขภาพ  :   ก็ยังอยู่กับการรับประทาน แต่สัปดาห์นี้จะเกี่ยวเนื่องกับระบบกระเพาะและลำไส้ จึงควรรับประทานอาหารให้ตรงเวลา เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะเป็นโรคกระเพาะ

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  สัปดาห์นี้ของชาวจันทร์ คุณมีโอกาสที่จะเป็นผู้หญิงเก่ง เต็มไปด้วยความรู้ ความสามารถ และบารมีในสายตาของบุคคลภายนอก เพราะฉะนั้นหากคุณกำลังสร้างสรรค์ผลงานหรือกำลังก่อร่างสร้างธุรกิจ หรือมีโปรเจคต์ในสายงานคิดงานเขียน งานประพันธ์ การแต่งเพลง ที่ค้างคาไว้นานแล้ว ยังไม่สำเร็จสักที ช่วงนี้จริงๆ แล้วแสงแห่งความสำเร็จมีให้เห็นอยู่ไม่ไกล แต่ต้องบอกว่า แต่ก็อย่าเพิ่งประมาท หรือดีใจไป เพราะเป็นไปได้ว่าจะมีอุปสรรคหรือปัญหาเข้ามาพิสูจน์และท้าทายความสามารถของคุณ ดังนั้น จึงควรเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมรับมือกับสิ่งต่างๆ ที่จะเข้ามา ขอบอก ไม่ใช่น้อย!

การเงิน  :  ด้วยความสามารถของคุณมีโอกาสที่จะทำงานสร้างรายได้ให้กับตัวเองไม่ยาก ซึ่งคุณก็มีการวางแผนการเงินที่ดีด้วย แต่สัปดาห์นี้อย่าประมาท เพราะมีความเสี่ยงที่สถานการณ์ทางการเงินจะพลิกผันอย่างแรง จนกลายเป็นเดือดร้อน

ความรัก  :  ก็ยังอยู่กับความเป็นหญิงเก่ง ซึ่งสัปดาห์นี้นอกจากสถานการณ์ความรักความสัมพันธ์ของคุณมีโอกาสสูงมากที่จะต่างคนต่างอยู่แล้ว ยังเป็นไปได้ว่าจะมีมือที่สามเข้ามาเป็นชนวนให้ทะเลาะกันรุนแรงจนถึงขั้นแยกกันอยู่เลย  คนโสด  สำหรับสาวชาวจันทร์ เป็นไปได้ที่คุณจะถูกมองจากหนุ่มๆ ที่กำลังหมายปองว่า เป็นผู้หญิงเก่ง มีความเป็นตัวเองสูงมาก แต่ก็ต้องระวัง เพราะพวกเขาไม่ได้หวังดีกับคุณ มีโอกาสโชคร้ายมากกว่าโชคดี

สุขภาพ  :  ก็ยังเป็นสาวทรงพลังอยู่นะคะ แต่ก็อย่าประมาท เพราะสัปดาห์นี้คุณมีโอกาสเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานหนัก พักผ่อนน้อย รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน   สัปดาห์นี้เทพพระอังคาร เทพประจำวันเกิดสถิตอยู่กับคุณ ส่งผลให้ชาวอังคารช่วงนี้ขยันสุดๆหนักเอาเบาสู้ นอกจากนั้นยังมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงกับคุณแบบสุดขั้ว หากใครที่กำลังทำงานหรือดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสาธารณะกุศล สาธารณะประโยชน์ มูลนิธิ จิตอาสา สังคมสงเคราะห์ ฯลฯ มีโอกาสที่คุณจะได้เข้าไปสัมผัสกับสายของเอ็นเทอร์เทน จากสีขาวเปลี่ยนโทนไปทางสีเทา แต่อย่างไรก็ตามเรียกว่าเหนื่อยสายตัวแทบขาดเลยล่ะ ก็วางใจได้ว่า…ผู้ใหญ่จะให้การส่งเสริมและสนับสนุน ส่วนเพื่อนร่วมงานและเจ้านายก็เมตตาเอ็นดูคุณเป็นพิเศษ

การเงิน  :   รางวัลสำหรับคนขยันทำงานก็คือ รายได้ที่งดงาม และจากอิทธิพลของเทพพระอังคารที่จะส่งผลให้คุณมีเงินเข้ามา ทั้งทางขาวและทางเทา ซึ่งเป็นไปได้ว่าคุณจะใจบุญมากเป็นพิเศษ ทำบุญ ทำทานและอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ

ความรัก  :   อิทธิพลของเทพพระอังคารส่งผลให้ความรักความสัมพันธ์ของคุณ หากใครที่เคยเจ้าชู้ เป็นนักท่องราตรีตัวยง ไม่มืดไม่กลับบ้าน สัปดาห์นี้จะกลายมาเป็นอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนมากขึ้น โหยหาความอบอุ่นจากคนในบ้านแทน คนโสด  เป็นไปได้ว่าสัปดาห์นี้ชาวอังคารที่ยังเป็นโสดจะโหยหาความอบอุ่นมากเป็นพิเศษ อยากได้คนกอด ดังนั้น ผู้ที่เหมาะสมน่าจะเป็นชายสูงวัย เพราะพร้อมทั้งความเข้าใจและความอบอุ่น  

สุขภาพ  :   ต้องระวังทั้งการรับประทานและการดื่มเลยนะคะ เพราะจากพฤติกรรมเหล่านั้นจะส่งผลให้คุณน้ำหนักขึ้น มีความเสี่ยงที่ข้อเข่าจะเสื่อม ปวดขา ปวดเข่า ข้อเท้า นอกจากนั้นก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม สะดุด ข้อเท้าพลิก/แพลงได้ง่ายๆ

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน   :  สัปดาห์นี้ของชาวพุธก็ยังวางใจไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในสายสารพัดช่าง นักวิจัย นักค้นคว้า ทดลอง คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสังคม ด้วยแล้ว หากคุณกำลังมีโครงการที่จะเดินทางไปดูงาน ไปอบรม สัมมนา หรือเทรนนิ่ง จนถึงขยายสาขายังต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ หากเป็นไปได้ควรเตรียมแผนสองไว้เลย เพราะมีโอกาสที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดคิด จากที่คุณเคยเป็นตัวเต็งกลายเป็นถูกข้ามหน้าข้ามตาไปซะงั้น หรือไม่ก็เพื่อนที่ร่วมอุดมการณ์ชิงลาออกไปโดยไม่บอกไม่กล่าวกันก็ได้นะ   

การเงิน  :  หากคุณกำลังจะเดินทางไปเจรจาทางธุรกิจหรือผลประโยชน์ ก็ควรตกลงให้ดีว่า ผลตอบแทนได้เป็นเงิน หรือเป็นงานบุญ ได้บุญกลับบ้าน เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด

ความรัก  :  หากคุณกำลังเฝ้ารอคู่ครอง บุตรหลาน หรือครอบครัวที่จะเดินทางมาจากแดนไกล ก็เตรียมใจไว้หน่อยว่า สัปดาห์นี้เขาจะยังไม่มา แล้วจะบังคับให้เขามาหาคุณก็ไม่ได้ด้วย คนโสด  หากสัปดาห์นี้คุณคิดที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวกับคนรัก หรือรอคนรักเดินทางกลับมาหาคุณ ก็อยากให้ทำใจ เพราะเขาจะยังไม่กลับมา หรือหากได้ไปก็ไม่มีความสุขอย่างที่คิด

สุขภาพ  :  สัปดาห์นี้ออฟฟิศซินโดรมจะมาเยือน  หากกำลังนั่งทำงานอยู่ในท่าเดิมนานๆ ก็อย่าชะล่าใจ ควรลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง หรือหาหมอนวดมานวดแก้อาการ  หรือไม่ก็เริ่มฝึกโยคะได้แล้ว  

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :   สำหรับชาวพฤหัสสัปดาห์นี้มีโอกาสที่คุณจะได้ใช้ความสามารถในการติดต่อประสานงาน การโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อสารองค์กร สื่อมวลชน งานขาย ฯลฯ เป็นไปได้ว่าจะได้เข้าร่วมประชุมกับทีมงานคุณภาพ ระดับปรมาจารย์ทางด้านนั้นๆ เลยทีเดียว มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จสูง  

การเงิน  :  มีโอกาสได้รายได้ดีๆ งานงามๆ จากผู้บังคับบัญชาและทีมงานคุณภาพ ซึ่งสัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าคุณจะใจบุญใจกุศล ทำบุญทำทานมากเป็นพิเศษ จนเรียกว่าหาเงินมาเพื่อให้คนอื่นใช้เลยทีเดียว

ความรัก  :  สำหรับใครที่ตัดสินใจอยู่ด้วยกันแบบรวบรัดตัดความ ไม่ทันได้ศึกษานิสัยใจคอกันให้ดีก่อน เพราะฉะนั้นแทนที่จะมีความสุขกลายเป็นทะเลาะกันไม่เว้นวัน จึงเป็นไปได้ว่าสัปดาห์นี้ผู้ใหญ่ทั้งในบ้านและที่ทำงานจะตั้งวงเฉพาะกิจ เพื่อให้คำแนะนำในการใช้ชีวิตคู่กับคุณ คนโสด  อย่าเพิ่งตัดสินใจรับรักใครง่ายๆ นะคะ เพราะเป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่จะไม่แฮปปี้ เพราะพวกท่านตั้งวงคัดเลือกแฟนให้คุณอยู่

สุขภาพ   :   ฟัน และอวัยวะภายในช่องปาก มีโอกาสที่จะสร้างปัญหาให้คุณ นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงที่จะบาดเจ็บและเจ็บป่วยจากการทำงานหนัก และความประมาทอยู่นะ

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  สัปดาห์นี้ชาวศุกร์น่าจะรู้ใจของตัวเองแล้วว่า ระหว่างงานสายบุญ สายธรรมะ สาย CSR เพื่อประโยชน์ของสังคม กับงานที่มีผลตอบแทนดีงาม ทั้งเงิน และตำแหน่งหน้าที่การงานจะเลือกอะไร เพราะมีโอกาสสูงมากที่จะมีข่าวเซอร์ไพร์สเข้ามาจนคุณนั่งไม่ติด ต้องดิ้นรนหาทางออกให้กับตัวเองอย่างรีบด่วน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นไปได้ที่คุณจะเลือกงานที่มีผลตอบแทนดีงาม เพื่อความอยู่รอด    

การเงิน  :   มีโอกาสได้เงินจากผู้ใหญ่นะคะ แต่คาดว่าคุณจะยังไม่พอใจ ณ จุดนี้ ยังอยากทำงานหาเงินได้มากกว่าที่เป็นอยู่

ความรัก :  จริงๆ แล้วครอบครัวรักและเป็นห่วงคุณมากนะคะ ผู้ใหญ่ก็เฝ้ารอ เพียงแต่เขาอาจปากหนักไม่ได้บอกความต้องการที่แท้จริง จึงควรจัดสรรเวลาให้ดี อย่าให้เวลากับการทำงานมากกว่าพวกเขา  คนโสด  หากคุณเป็นคนที่ผิดหวังกับความรักมาตลอด จนผู้ใหญ่เป็นห่วง เพราะฉะนั้นสัปดาห์นี้ก็อย่าเพิ่งหาเรื่องรักใครเลย ทำงานเก็บเงินก่อนดีกว่า

สุขภาพ  :  ในช่วงสัปดาห์นี้อย่าพยายามออกไปตากฝนนะคะ เพราะมีโอกาสที่คุณจะป่วยไข้ไม่สบาย ภูมิแพ้กำเริบ หายใจไม่ออก นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงที่จะเดินสะดุด หกล้ม จนขาเจ็บ ข้อเท้าพลิก/แพลงได้

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :   สำหรับชาวเสาร์ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในสายบริการ เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ รีสอร์ท สปา จนถึงสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับเด็ก หากใครที่กำลังวางแผนว่าจะไปศึกษาหาความรู้หรือแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ ยังต่างประเทศ  ซึ่งหากพูดถึงความรู้ ทักษะ ความสามารถของคุณไปได้ถึงรอบโลกเลย แต่ช่วงนี้เป็นไปได้ว่าจะมีเรื่องต่างๆ เข้ามาแบบไม่คาดฝันจนคุณนั่งไม่ติด ต้องรีบหาทางออกให้กับตัวเองอย่างรีบด่วน

การเงิน  :  มีความสามารถในการหาเงิน แต่ต้องมาจากตัวเอง สัปดาห์นี้นอกจากไม่เหมาะที่จะเข้าหุ้นทำธุรกิจร่วมกับใครแล้ว ยังมีโอกาสเสียเงินเนื่องมาจากบุตรหลาน และบริวารด้วย   

ความรัก  :   มีโอกาสที่จะมีปัญหากับเด็กๆ ในบ้าน ซึ่งเป็นได้ทั้งบุตร บริวาร และลูกหลาน ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะเป็นความอึดอัดที่คุณเก็บกดมานานแล้ว คนโสด  มีโอกาสที่คุณจะได้ใกล้ชิดกับเด็กๆ นะคะ ก็อย่าเพิ่งให้ใจเขาไปเร็วนัก  ยิ่งหากผิดหวังกับความรักมาบ่อยแล้ว ยิ่งต้องใช้เวลา ดูใจกันให้นานๆ

 สุขภาพ   :  สัปดาห์นี้จะรับประทานอะไรต้องระวัง ควรหลีกเลี่ยงอาหารหมักดองๆ สุกๆ ดิบๆ ไม่สดสะอาด หรือถูกสุขอนามัย เพราะมีความเสี่ยงที่ท้องไส้จะไม่ดี อาหารเป็นพิษ มีพยาธิ์ในลำไส้ได้

Mondrian Hong Kong โรงแรมใหม่ในฮ่องกง

วิวจึ้ง! Mondrian Hong Kong โรงแรมใหม่ในฮ่องกง เติมเต็มย่านจิมซาจุ่ย ด้วยศิลปะ สไตล์ และเอกลักษณ์สุดไฮป์

Alternative Textaccount_circle
Mondrian Hong Kong โรงแรมใหม่ในฮ่องกง
Mondrian Hong Kong โรงแรมใหม่ในฮ่องกง

เมื่อโรงแรมสุดเฟี้ยวอย่าง ‘MONDRIAN’ (มอนเดรียน) ในกลุ่ม Ennismore แบรนด์โรงแรมไลฟ์สไตล์ระดับโลก ภายใต้เครือแอคคอร์ (Accor) ที่มีโรงแรมอยู่ตามเมืองมหานครทั่วโลก นิวยอร์ก ลอสแองเจลิส ไมอามี ลอนดอน คานส์ โดฮา สิงคโปร์ และโซล ที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์และสไตล์ ไม่ว่าจะปักหมุดเมืองไหน ก็กำหนดนิยามของย่านท้องถิ่นที่แต่ละโรงแรมตั้งอยู่ให้เก๋ขึ้นทันดี ผ่านการสร้างสรรค์ศิลปะและสิ่งที่ไม่คาดคิดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากผู้คน

เช่นเดียวกับ Mondrian Hong Kong (มอนเดรียน ฮ่องกง) โรงแรม 5 ดาว สไตล์โมเดิร์น ซึ่งเป็นโรงแรมลำดับที่ 3 ในเอเชียของ แบรนด์ Mondrian ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ได้พลิกโฉมเอกลักษณ์และไวบ์ของฮ่องกง สู่เทพนิยายวัฒนธรรมสมัยใหม่ พร้อมนำเสนอประสบการณ์การเข้าพักที่เชื่อมโยงทั้งในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นจากความร่วมมือกับกลุ่มนักฝันและนักออกแบบที่มีวิสัยทัศน์ ตั้งอยู่ในย่านจิมซาจุ่ย (Tsim Sha Tsui) ที่มีชีวิตชีวา ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MTR และไม่ไกลกับแหล่งท่องเที่ยวศิลปะและวัฒนธรรมใหม่ที่กำลังฮอตอย่าง West Kowloon (เกาลูนตะวันตก) โรงแรมสูงตระหง่านขนาด 40 ชั้น มีห้องพัก 324 ห้อง รวมถึงห้องสวีทแบบสองห้องนอน 12 ห้อง

ดีไซน์อันโดดเด่นสะดุดตาของ โรงแรม Mondrian Hong Kong สัมผัสได้ตั้งแต่ชั้นล้อบบี้ ที่ตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องโมเสกชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนเป็นงานอาร์ตขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นภาพของเหล่านักเต้นระบำใต้น้ำ ที่สร้างสรรค์ขึ้นจากภาพถ่ายของ Christy Lee Rogers ศิลปินศิลปะใต้น้ำชื่อดัง ก่อนจะก้าวเข้าสู่ห้องพัก ร้านอาหาร และสิ่งความอำนวยความสะดวกภายในโรงแรม ที่ทุกถูกจัดสัดส่วนและออกแบบมาอย่างพิถีพิถันในทุกตารางนิ้ว โดยการตกแต่งภายในอันชวนดื่มด่ำราวกับอยู่ในแกลเลอรี่นั้น เป็นผลงานการออกแบบจากจินตนาการอันไร้ขอบเขตของ คาริน เคราท์การ์ตเนอร์ (Karin Krautgartner) ผู้ก่อตั้งและครีเอทีฟไดเรกเตอร์แห่ง byKK ที่นำมรดกทางวัฒนธรรมของฮ่องกง มาปรับโฉมให้มีความร่วมสมัย ถ่ายทอดเป็นนิยามใหม่ของที่พักที่ให้ทั้งความหรูหราและสีสันความสนุกของศาสตร์และศิลป์ ในขณะที่สอดแทรกกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ได้อย่างกลมกลืน


ห้องพักของโรงแรม Mondrian Hong Kong มีให้เลือกหลายรูปแบบ ตั้งแต่ห้อง Superior ขนาด 21 ตารางเมตร, ห้อง Premier, ห้อง Deluxe ที่เลือกวิวได้ทั้งวิวเมืองฮ่องกงสุดคลาสสิกหรือวิวอ่าววิคตอเรีย ไปจนถึงห้อง Suite ขนาด 49 ตารางเมตร ที่แยกห้องนั่งเล่น ห้องนอน มุมมินิบาร์ และห้องน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งมองเห็นวิวอันตระการตาของอ่าววิคตอเรียแบบสวยฉ่ำได้ถึง 180 องศา ทุกห้องตกแต่งอย่างพิถีพิถันสไตล์ร่วมสมัย พร้อมเครื่องใช้อำนวยความสะดวกพรีเมี่ยมหรูหรา และกิมมิกงานอาร์ตที่สร้างสีสันในทุกห้อง

โรงแรม Mondrian Hong Kong ประกอบด้วยห้องอาหาร 2 แห่ง ได้แก่ “Avoca” (อโวค่า) ห้องอาหารและบาร์แบบ All-day dining ตั้งอยู่บนชั้น 38 เสิร์ฟเมนูพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเมนูยอดนิยมของฮ่องกง พร้อมเพิ่มความอร่อยสไตล์เอเชีย ออกแบบมาเพื่อเข้าคู่กับค็อกเทลอย่างลงตัว มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่กลมกล่อมและน่าจดจำ ตั้งแต่อาหารเช้าสไตล์เอเชียนและตะวันตก อาหารกลางวัน ไปจนถึงมื้อค่ำที่มาในรูปแบบบาร์ รังสรรค์ค็อกเทลสูตรพิเศษด้วยนวัตกรรม Tayer Cocktail Workstation อันล้ำสมัย โดยการร่วมมือกันของ 2 บาร์เทนเดอร์ระดับรางวัล เติมเต็มฉากบาร์ของเกาลูนด้วยดีเจ เสียงเพลง อาหารสบาย ๆ ที่สร้างสรรค์ และพลังงานอันสดใส

อีกร้านคือ Carna by Dario Cecchini” (คาร์นา บาย ดาริโอ เชคคินี) แห่งแรกในเอเชีย ซึ่งเป็นอีกไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเมื่อไปเยือนฮ่องกง! สเต็กเฮาส์อิตาเลียนร่วมสมัย ตั้งอยู่บนชั้น 39 รังสรรค์โดย ดาริโอ เชคคินี (Dario Cecchini) ทายาทช่างตัดเนื้อชาวอิตาลีในตำนาน จากเมืองปันซาโน ภูมิภาคเคียนติ ทัสคานี ผู้ก่อตั้งร้าน “Carna” ที่จะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารอันเป็นเอกลักษณ์และน่าประทับใจ ผ่านการพาเหล่านักชิมเดินทางผ่านเนื้อสัตว์หลากหลายชนิดกว่า 18 ชนิด ไปพร้อม ๆ กับเชิดชูศิลปะการเป็นช่างตัดเนื้อ และคุณค่าของเนื้อสัตว์ ในรูปแบบที่รับผิดชอบและยั่งยืน ด้วยความเชื่อว่าเนื้อทุกส่วนสามารถนำมาปรุงอาหารได้อย่างถูกต้อง ภายใต้คอนเซปต์ Nose-to-Tail ของ Carna จะช่วยลดการสูญเปล่า ไร้ขยะ มุ่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และใช้ซัพพลายเออร์ท้องถิ่นที่ดีที่สุด สำหรับเมนูจานเด็ดของ Carna ไม่ว่าจะเป็นสเต็กยอดนิยมอย่าง บิสเตกกา อัลลา ฟิออเรนตินา (Bistecca alla Fiorentina) ไปจนถึง บิสเตกกา ทอสคานา (Bistecca Toscana) ที่ผ่านการดรายเอจ (dry-aged) อย่างสมบูรณ์แบบ เมนูไฮไลท์คือ “สเต็ก ย่างถ่าน” (Charcoal Grilled) ที่โดดเด่นด้วยเนื้อสัตว์พิเศษจากฟาร์มชั้นเลิศ

ในขณะที่เครื่องดื่มของ Carna มีไวน์ Chianti Classico หลากหลายชนิด และค็อกเทลสูตรพิเศษ รวมถึงเบอร์บอนผสมไขมันวัว การตกแต่งภายในของร้านอันงดงามนั้น ออกแบบโดย จอยซ์ หวัง (Joyce Wang) นักออกแบบชื่อดังชาวฮ่องกง เน้นความหรูหรา และอบอุ่น สร้างบรรยากาศชวนให้นั่งรับประทานอาหารอย่างผ่อนคลาย

ภายในโรงแรมยังมีห้องออกกำลังกาย (Fitness) ที่ครบครันด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายไฮเทคและทันสมัยแบบจัดเต็ม ถูกใจสายฟิตอย่างแน่นอน รวมถึงบริการ ‘Local Snack & Cultural Tour’ ที่บริการฟรีสำหรับผู้เข้าพักทุกคน ซึ่งพนักงานโรงแรมผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นจะพาไปสัมผัสเสน่ห์วัฒนธรรมของย่านจิมซาจุ่ย ลิ้มลองเมนูและอาหารว่างชื่อดังแบบโลคัล อร่อยแบบที่คนฮ่องกงยกนิ้วให้ นอกจากนั้น ผู้เข้าพักยังสามารถออกไปท่องโลกศิลปะและวัฒนธรรมได้อย่างเต็มอิ่ม รับแรงบันดาลใจและมุมมองใหม่ ๆ ผ่านงานศิลปะที่สร้างแรงบันดาลใจที่ พิพิธภัณฑ์เอ็มพลัส (M+ Museum) ซึ่งตั้งอยู่ในไกลจากโรงแรม ปิดท้ายด้วยการช้อปปิ้งให้จุใจ กับร้านค้าที่รายล้อมโรงแรมมากมาย รวมถึงห้างดังอย่าง K11 และ Harbour City ที่ตั้งอยู่ไม่ไกล

จองห้องพักหรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://book.ennismore.com/hotels/mondrian/hong-kong


ไอคอนสยาม จับมือ FINDING UNICORN จัดงาน “FINDING SUMMER LAND HELLO! BANGKOK” วันนี้ – 29 ส.ค. 67

account_circle

ครั้งแรกของ FINDING UNICORN แบรนด์ดังเจ้าของคาแรกเตอร์สุดน่ารักจากประเทศจีน ในการเดินทางมาเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นทางการ กับ “FINDING SUMMER LAND HELLO! BANGKOK” เปิด Pop-up Shop ครั้งแรกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา เนรมิต ริเวอร์ พาร์ค ชั้น G ไอคอนสยาม เป็นสวนสนุกสีม่วงสุดแฟนตาซี ยกขบวนคาแรกเตอร์ดังมาให้แฟน ๆ ชาวไทยได้จับจองเป็นเจ้าของในคอลเลกชันพิเศษและกล่องสุ่มรุ่นลิมิเต็ด ทั้ง FARMER BOB, zZoton, RiCO, ShinWoo ฯลฯ พร้อมจัดเต็มโปรโมชั่นและกิจกรรมสุดเซอร์ไพรส์ ตั้งแต่วันนี้ – 29 สิงหาคม 2567

FINDING UNICORN แบรนด์ Art Toy ชื่อดังจากประเทศจีนที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เอาใจคนรักของเล่นและนักสะสมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการจับมือ ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยาเปิด Pop-up Shop สร้างสวนสนุกฤดูร้อนภายใต้ธีม “FINDING SUMMER LAND HELLO! BANGKOK” พาเหล่าคาแรกเตอร์รุ่นลิมิเต็ด อาทิ 300% APOLLO BOB, 150% AZTEC BOB (แฮนด์เมดโดยศิลปิน), 65% SMOOTHIE BOB, 105% TRIPLE APPLE กับ APPLE RiCO, 73% SWEET AND POISONOUS ShinWoo ฯลฯ ซึ่งล้วนได้แรงบันดาลใจจากสีสันอันสดใสของฤดูร้อน มาเติมสีสันช่วงซัมเมอร์ให้กับแฟน ๆ ชาวไทย พร้อมเปิดตัวกล่องสุ่มคอลเลกชันใหม่ Pixel Full Universe Series Blind Box ที่จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี FARMER BOB คาแรกเตอร์ลิขสิทธิ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของแบรนด์ และกล่องสุ่มรุ่นลิมิเต็ดของหนูน้อย zZoton อย่าง My Kitten Fruit Party Series Vinyl Plush Blind Box ที่ได้แรงบันดาลใจจากผลไม้ของไทย มาให้ได้ลุ้นและสะสมอีกด้วย

สำหรับ FINDING UNICORN ก่อตั้งเมื่อปี 2018 ในประเทศจีน เป็นบริษัทจัดจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการค้นหาผลงานที่มีเอกลักษณ์จากทั่วโลก และส่งเสริมให้ศิลปินได้สร้างสรรค์ผลงานอันน่าสนใจ เพื่อตอบสนองความสุขและความสนุกของผู้ที่ชื่นชอบในศิลปะและ Art Toy โดยมีคาแรกเตอร์ลิขสิทธิ์ชื่อดังหลากหลาย อาทิ FARMER BOB, zZoton, RiCO, ShinWoo, molinta, Agan, REPOLAR, Tunyun Island, AAMY ฯลฯ และสร้างสรรค์คอลเลกชัน Art Toy ร่วมกับศิลปินในสังกัดมาแล้วกว่า 100 รูปแบบ จนมีฐานแฟนคลับทั่วโลกมากกว่า 20 ล้านคน นับเป็นหนึ่งในแบรนด์ดังที่มีส่วนขับเคลื่อนเทรนด์ศิลปะของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในระดับโลกอย่างแท้จริง

วู๋หยาง (Wu Yang) ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ FINDING UNICORN เผยถึงวัตถุประสงค์ในการร่วมกับ ไอคอนสยาม เปิด Pop-up Shop ครั้งนี้ว่า FINDING UNICORN วางแผนที่จะขยายตลาดมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง ดังนั้นตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป ทางแบรนด์ตั้งใจจะรุกจัดกิจกรรมในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี รวมถึงได้แลกเปลี่ยนมุมมองความสนใจกับแฟนๆ ชาวไทย และยังเป็นการนำศิลปะวัฒนธรรมไทยไปผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมของจีนเพื่อสร้างเทรนด์ใหม่ นำไปพัฒนาเป็นเทรนด์ระดับโลกในอนาคต และพยายามมองหาโอกาสในการร่วมงานกับศิลปินไทยด้วย

ไฮไลต์พิเศษของงาน “FINDING SUMMER LAND HELLO! BANGKOK”  เริ่มต้นด้วยพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 16 สิงหาคม 2567  โดยมีเหล่าศิลปินเจ้าของคาแรกเตอร์ฮิตอย่าง FARMER BOB และ RiCO ตลอดจนเหล่าคนดังมาร่วมงานอย่างคับคั่ง อีกทั้งยังมีกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ Fan Sign ที่เหล่าแฟน ๆ ตั้งตารอคอย โดยวันที่ 17 สิงหาคม 2567 เวลา 16.00 น. พบกับ FARMER วันที่ 18 สิงหาคม 2567 เวลา 16.00 น. พบกับ RiCO และวันที่ 24 สิงหาคม 2567 เวลา 16.00 น. พบกับ A Zhuo พร้อมเซอร์ไพรส์พิเศษ สำหรับผู้ที่ซื้ออาร์ตทอยขนาด 65% รุ่น SMOOTHIE BOB ในวันงาน มีโอกาสลุ้นรับสิทธิ์เป็นเจ้าของ 150%  AZTEC BOB รุ่นแฮนด์เมด นอกจากนี้ยังมีการเปิดจำหน่ายสินค้ารุ่นลิมิเต็ดแบบจำกัดจำนวนในแต่ละวัน ตลอดจนกิจกรรมเช็คอินเพื่อรับของรางวัลสุดพิเศษ

สาวก FARMER BOB และเหล่าคนรัก Art Toy  มาร่วมสะสมความน่ารัก ในงาน “FINDING SUMMER LAND HELLO! BANGKOKPop-up Shop ครั้งแรกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  กับเหล่าคาแรกเตอร์คอลเลกชันพิเศษและกล่องสุ่มรุ่นลิมิเต็ดที่ยกขบวนมาให้ลุ้นเป็นเจ้าของกันถึงที่เมืองไทย ตั้งแต่วันนี้ – 29 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 -22.00 น. ทุกวัน ณ ริเวอร์ พาร์ค ชั้น G ไอคอนสยาม  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.1338 และ Facebook: ICONSIAM

keyboard_arrow_up