เคล็ดลับค้นหาความสวยที่ใช่ ผ่านหลักสำคัญ 7 ข้อจาก "มาสเตอร์จองแซมมุล"

แชร์เมคอัพทริค และค้นหาความสวยที่ใช่ผ่านหลักสำคัญ 7 ข้อจาก “มาสเตอร์จองแซมมุล”

Alternative Textaccount_circle
เคล็ดลับค้นหาความสวยที่ใช่ ผ่านหลักสำคัญ 7 ข้อจาก "มาสเตอร์จองแซมมุล"
เคล็ดลับค้นหาความสวยที่ใช่ ผ่านหลักสำคัญ 7 ข้อจาก "มาสเตอร์จองแซมมุล"

ตอกย้ำกระแสความฮิตของ K-BEAUTY ในประเทศไทยที่เติบโตอย่างเนื่อง CMG ในเครือ Central Retail เปิดบ้านต้อนรับแบรนด์ JUNG SAEM MOOLพร้อมแคมเปญล่าสุด Find YOUTIFUL โดย “มาสเตอร์จองแซมมุล” ผู้เริ่มต้นเทคนิคการแต่งหน้าแบบ Glass Skin ที่โด่งดังไปทั่วโลก ทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ JUNG SAEM MOOL และเมกอัพอาร์ติสต์ชื่อดังระดับโลก

ความสวยงามเพียงหนึ่งเดียวของการแต่งหน้าที่ใครก็ไม่สามารถทำตามได้ คือ เอกลักษณ์และความโดดเด่นเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน ในตลอดระยะเวลาของการเป็นเมกอัพอาร์ติสต์ สิ่งที่ให้ความสำคัญและเชื่อมั่นมาโดยตลอด คือ การค้นหาความโดดเด่นที่ซ่อนอยู่ผ่านศิลปะการแต่งหน้า ที่เน้นดึงความเป็นตัวตนออกมาให้โดดเด่นมากที่สุด ไม่ใช่การเพิ่มสิ่งอื่นเข้าไปเพื่อกลบความสวยงามที่แท้จริงของคุณ เพราะเมกอัพเทรนด์มันจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่สิ่งที่จะอยู่เหนือเทรนด์เหล่านั้น คือ เอกลักษณ์ที่แท้จริงของตัวคุณเองซึ่งควรเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญมากที่สุด” – มาสเตอร์จองแซมมุล

FIND YOUTIFUL’ ความสวยที่ใช่มีไว้ให้ค้นหา สนับสนุนให้ทุกคนมีความมั่นใจในความสวยงามของตัวเอง โดยทุกคนมีจุดเด่น จุดด้อยแตกต่างกันไปในแต่ละคน YOUTIFUL จึงเป็นแคมเปญที่อยากให้ทุกคนกล้าที่จะลองผิดลองถูกในการแต่งหน้า สนุกไปกับการแต่งหน้า เพื่อค้นหาสิ่งที่ใช่ให้กับตัวเอง และหมั่นสำรวจตัวเอง เพื่อให้รู้ว่าจุดเด่นของตัวเองคืออะไร และใช้เมกอัพในการเสริมจุดเด่นนั้นให้เมกอัพลุคดูสวยงาม เข้ากับตัวเอง เหมือนคุณเกิดมาเพื่อเมกอัพลุคนี้โดยเฉพาะ และมันจะเป็นความสวยในแบบของคุณ ซึ่

FIND YOUTIFUL Tips เคล็ดลับการค้นหาความสวยที่ใช่ ผ่านหลักสำคัญ 7 ประการ นอกจากแบรนด์ JUNG SAEM MOOL จะคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์เมกอัพแบบครบวงจรตั้งแต่ Skincare ไปจนถึง Accessory ต่าง ๆ ยังมีหลักสำคัญ 7 ประการ ของศิลปะการแต่งหน้า ที่ถูกนำมาผสานเข้ากับผลิตภัณฑ์ เพื่อให้การแต่งหน้าดูแตกต่างและโดดเด่นยิ่งขึ้น ซึ่งหลักสำคัญ 7 ประการนี้สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

  1. Thick & Thin: เทคนิคการเพิ่มมิติบนใบหน้าอย่าธรรมชาติ โดยการลงผลิตภัณฑ์อิงจากความหนา บางของผิวตามแต่ละส่วนบนใบหน้า
  2. Warm & Cool: การใช้สีคู่ตรงข้าม หรือคู่สีที่ส่งเสริมกัน ในการปรับสภาพผิวให้มีความสม่ำเสมอ แลดูกระจ่างใส สุขภาพดี
  3. Wet & Dry: เทคนิคทำให้เมกอัพติดทน การผสมผลิตภภัณฑ์สูตรต่างๆ เข้าด้วยกัน และการลำดับการลงเนื้อผลิตภัณฑ์ก่อน-หลังอย่างถูกต้อง
  4. Lost & Found: เทคนิคส่วนที่ต้องการไฮไลท์ และส่วนที่ต้องการปกปิด เพื่อสร้างลุคที่มีมิติ
  5. Focal Point: การสร้างความบาลานซ์ให้ใบหน้า โดยการหาจุดโฟกัสบนใบหน้า
  6. Simple & Complex: เทคนิคการเน้นส่วนใดส่วนหนึ่งบนใบหน้าให้ดูโดดเด่น เช่น ตา ปาก หรือแก้ม
  7. Old & New: นำลุคในอดีตที่โดดเด่นมาปรับให้เข้าเทรนด์นิยมในปัจจุบัน เพื่อสร้างลุคใหม่ให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น

FIND YOUTIFUL Make-Up Guide

  1. Essential Mool Micro Fitting Mist: บูสต์ผิวให้สดชื่น เปิดรับการบำรุงด้วยสเปรย์อณูละเอียดพร้อมเข้าปลุกผิวให้สดชื่น
  2. Essential Mool Cream Light : บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น อิ่มฟู ดูเปล่งปลั่ง พร้อมช่วยให้เมกอัพติดทน ด้วยเนื้อครีมบำรุงล้ำลึก บางเบาสบายผิว
  3. Masterclass Ampoule Sun SPF 50+/ PA++++: ปกป้องผิวจากรังสี UV และมลภาวะ ด้วยกันแดดผิวโกลว์ พร้อมกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มเอิบยาวนาน
  4. Masterclass Radiant Cushion : คุชชั่นที่มอบฟินิชผิวแบบเนียนเรียบไร้ที่ติ ผิวโกลว์เปล่งประกายอย่างธรรมชาติ
  5. Artist Eye Palette: อายแชโดว์ พาเลตต์ที่จัดสีมาให้ตาม Personal Color จากสีของดวงตาแต่ละคน เพื่อรังสรรค์ลุคที่เข้ากับตัวเองอย่างลงตัว มาให้เลือก 3 พาเลตต์ สี Red Brown, Orange Brown, และ Yellow Brown
  6. Colorpiece Cream Blush: เติมสีสันบริเวณแก้มให้เปล่งประกายน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น ด้วยครีมบลัชแบบ Dual Texture ที่มี ทั้ง Color Balm และ Highlighter Balm ในตลับเดียว สีชัดและดูธรรมชาติ
  7. Classic Glaze Lipstick: เพิ่มมิติให้ริมฝีปาก ด้วยนวัตกรรม Enamel-Layer Coating ให้ปากชุ่มชื่น ดูแวววาวเล่นแสง แต่ไม่เหนียวเหนอหนะ

หวังว่าทุกคนจะสนุกกับการค้นหาเอกลักษณ์และจุดเด่นของตัวเองผ่านศิลปะการแต่งหน้าที่ต้องอาศัยการฝึกฝน ลองผิดลองถูก จนเกิดเป็นความสวยงามของคุณเองที่ไม่เหมือนใคร


ไอเท็มอัพผิวใส เคลียร์จุดด่างดำ BSC Expert White Spot Clearly Concentrate Serum

account_circle

Praew Survey รอบนี้ขอพาคนรักผิวไปปักหมุดไอเท็มอัพผิวกระจ่างใสตัวเด็ดจาก BSC Cosmetology ที่มาพร้อมกับความเริ่ดในการเคลียร์จบทั้งเรื่องความหมองคล้ำและจุดด่างดำ นั่นคือ BSC Expert White Spot Clearly Concentrate Serum ซึ่งเป็นเซรั่มที่ขอบอกเลยว่าโดดเด่นด้วยส่วนผสมดีต่อผิวแบบทำถึง

สำหรับส่วนผสมที่ถือเป็นตัวเอกของ BSC Expert White Spot Clearly Concentrate Serum ก็ต้องยกให้กับวิตามินซีเข้มข้นที่เพิ่มขึ้น 10% โดยมากกว่าเดิม 5 เท่า ซึ่งนอกจากจะดีงามด้วยความเข้มข้นแล้ว ยังมีการผสานเทคโนโลยีอัพผิวใสอย่าง HydroWHITE Technology+ เอาไว้ด้วย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อช่วยกอบกู้ผิวคล้ำเสียให้กลับมาแลดูกระจ่างใส พร้อมช่วยดูแลปัญหาจุดด่างดำให้แลดูจางลงโดยมีส่วนผสมของ Double Nio C ที่ช่วยปกป้องผิวจากจุดด่างดำและอนุมูลอิสระในชั้นผิว รวมถึงยังมี Opuntia Extract ซึ่งเป็นสารสกัดจากกระบองเพชรที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใส และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ White Peptide ที่ช่วยจัดการปัญหาผิวคล้ำเสียอย่างตรงจุด พร้อมปิดท้ายด้วย Hya Bright ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ตรงเข้าฟื้นบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก

นอกจากส่วนผสมหลักอย่างวิตามินซีเข้มข้น และหลากหลายส่วนผสมดีต่อผิวที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีเริ่ดๆแล้ว BSC Expert White Spot Clearly Concentrate Serum ยังมี Camellia Oil ที่ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้านอีกด้วย

เรียกว่าจัดเต็มส่วนผสมดีๆ มาเพื่อเอาใจคนรักผิวแบบเน้นๆ โดยเฉพาะใครที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำและจุดด่างดำกวนใจ ขอบอกเลยว่าต้องมี! BSC Expert White Spot Clearly Concentrate Serum เป็นไอเท็มลูกรัก โดยสามารถใช้เป็นสกินแคร์รูทีนได้เลย หรือจะใช้ก่อนแต่งหน้าก็ดีงาม เพราะเขาเป็นเซรั่มเนื้อบางเบาสบายผิวที่ซึมซาบดี

เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองหาไอเท็มดูแลผิวให้กระจ่างใส พร้อมช่วยเคลียร์จุดด่างดำได้แบบเอาอยู่ ก็ต้องไม่พลาดเซรั่มวิตามินซีเข้มข้นอย่าง BSC Expert White Spot Clearly Concentrate Serum เลยค่ะ

ส่องความจึ้ง BSC Intensive Matte Ink Lip Stain ลิปลิควิดเนื้อแมตต์ชูริมฝีปากสวยฉ่ำ

account_circle

เชื่อว่าหนึ่งในคีย์บิวตี้สำหรับการเมคอัพของสาวๆ หลายคนยกให้กับการแต่งแต้มริมฝีปากให้สวยฉ่ำ ซึ่งลิปคู่ใจแท่งนั้นๆ จะต้องมาพร้อมกับเฉดสีสวยชัด ติดทน แต่ขณะเดียวกันก็ต้องบางเบาสบายริมฝีปาก อีกทั้งสาวๆ บางคนยังปรารถนาลิปที่ช่วยบำรุงริมฝีปากไปในตัวได้ด้วย อาจจะฟังดูว่าตั้งสเป็กสูง แต่ขอบอกเลยว่าไม่สูงจนเกินไปสำหรับลิปจิ้มจุ่มตัวฮ็อตจาก BSC Cosmetologyเพราะคุณสมบัติที่ว่าไปนั้นมีอยู่ใน BSC Intensive Matte Ink Lip Stain ซึ่งเป็นลิปลิควิดเนื้อแมตต์ที่มาพร้อมกับหลากหลายความจึ้ง สาวๆ ตาม Praew Survey ไปส่องกันเลยค่ะ

ความจึ้งแรก ด้วยความที่ BSC Intensive Matte Ink Lip Stain เป็นลิปลิควิดเนื้อแมตต์ ซึ่งพอเป็นเนื้อแมตต์ก็มั่นใจได้เรื่องความติดทน บวกกับมีฟิล์มสีที่ให้ความสวยแน่นสดชัด และแนบสนิทกลมกลืนไปกับริมฝีปาก จึงช่วยล็อกริมฝีปากสวยได้นานยิ่งขึ้น

ความจึ้งต่อมา แม้ BSC Intensive Matte Ink Lip Stain จะเป็นลิปลิควิดเนื้อแมตต์ที่ติดทน แต่ยังดีงามด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่ทำให้รู้สึกหนาหนักริมฝีปาก รวมถึงยังเกลี่ยง่าย เรียบเนียนไปกับริมฝีปาก 

มาถึงความจึ้งในส่วนของความสวยฉ่ำ ถูกใจสาวๆ ที่รักการบำรุงริมฝีปาก BSC Intensive Matte Ink Lip Stain ก็โดดเด่นด้วยการผสานคุณค่าจาก PunicaGranatum Fruit Extract, Sodium Hyaluronate และ Tocopheryl Acetate ซึ่งช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นไม่แห้งแตก แลดูมีสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ

สำหรับ Punica Granatum Fruit Extractเป็นสารสกัดจากเมล็ดทับทิม มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงยังเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยบำรุงให้ริมฝีปากเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น

ส่วน Sodium Hyaluronateมีคุณสมบัติในการดูดชับน้ำและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก จึงช่วยทำให้เรียวปากแลดูอวบอิ่มอยู่เสมอ

สุดท้ายคือ Tocopheryl Acetateที่เป็นอนุพันธ์ของวิตามินอี และมีคุณสมบัติเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปาก พร้อมทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องริมฝีปากริ้วรอยต่างๆ

สำหรับเรื่องเฉดสี BSC Intensive Matte Ink Lip Stain มาพร้อมกับ 9 เฉดสี ที่ขอบอกเลยว่าสวยจึ้งทุกเฉดสีแบบไม่จกตา สาวๆ ที่เป็นสาวกลิปจิ้มจุ่มห้ามตกขบวนเลยค่ะ

คิม ซองกยู หนุ่มตายิ้มที่จริงใจ กับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในไทย

Alternative Textaccount_circle

คิม ซองกยู หนุ่มตายิ้มที่จริงใจ กับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในไทยที่ฮีลใจเกินเบอร์2024 KIM SUNG KYU CONCERT [LV3 : Let’s Vacay] IN BANGKOK

Let’s Fun กันถ้วนหน้า สำหรับชาวอินสปิริตไทย (Inspirit ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ วง Infinite) และชาวเมือง Citizen ที่ได้มาพักร้อนฟังเสียงเพลงเพราะๆ จากหนุ่มเสียงดี ที่มาพร้อมตายิ้มชวนละลาย คิมซองกยู (KIM SUNG KYU) กับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของเขาที่ประเทศไทย 2024 KIM SUNG KYU CONCERT [LV3 : Let’s Vacay] IN BANGKOK ที่จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ MCC HALL, เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน โดยผู้จัดใจดีฝีมือคุณภาพอย่าง D-SHOW THAILAND

งานนี้มีแต่คำว่าดีแล้ว ดีอีก และดีขึ้นไปอีก! เพราะนอกจากจะเป็นการพบเจอกับหนุ่ม “ซองกยู” ในรอบหลายปี ครั้งนี้แฟนๆ จะได้ฟังเสียงพลังโวคัลของเขาแบบเต็มอิ่มจนเรียกว่าฟินระเบิดหู ที่มาพร้อมกับวงดนตรีเนรมิตเหล่าเพลงเพราะของเขามาให้ฟังในรูปแบบดนตรีสด จึงบอกได้คำเดียวว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ “ซองกยู” เขาจัดให้แบบเกินคุ้ม!

ถึงเวลาออกเดินทาง Let’s Vacay! “ซองกยู” ต้อนรับเหล่าอินสปิริตและชาวเมือง ด้วยเสียงลมทะเล และเสียงคลื่น ก่อนที่เขาจะปรากฏตัวด้วยใบหน้าหล่อเหลาราวกับพระอาทิตย์แรกของวันเป็นสัญญาณที่ดีในการเดินทางไปพักร้อนครั้งนี้

เปิดตัวด้วยเพลง DIVIN, Shine และ Ready To Go เพลงจังหวะเบาๆ ให้โยกโบกบงตามกันเบาๆ ก่อนที่เขาจะเริ่มทักทายแฟนๆ ชาวไทยอย่างเขินอาย ด้วยภาษาไทยว่า “สวัสดีครับ ผมชื่อ คิม ซองกยู ยินดีที่ได้เจอกันครับ”

แค่สต็อปแรกแฟนๆ ก็ต้องยกมือมากุมใจเพราะขนลุกที่ในที่สุดก็ได้เสพย์ความหล่อของเขาด้วยตาเนื้อ และได้ฟังเพลงสดๆ จนหูทิพย์ละลาย ก่อนจะออกเดินทางกันต่อจากจุดพักแรกที่หนุ่มซองกยูตั้งใจสร้างความทรงจำให้ทุกคนเหมือนได้ไปพักร้อนกับเขาจริงๆ เพลงต่อไปอย่าง Because, 41 Day และ Sometimes เลยยิ่งอัพสเต็ปความสนุก ก่อนจะไล่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วยอารมณ์ดนตรีที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กับเพลง The Answer, Sentimental, Sorry และ Till Sunrise

เอ็นจอยกับเสียงเพลงมาตลอดทาง ก็มาถึงจุดเช็คอินที่พร้อมให้ทุกคนใช้เวลาพักร้อนกันอย่างเต็มอิ่ม “ซองกยู” ก็ขออัพเกรดคอสตูมใหม่กับลุคสดใสไวป์ซัมเมอร์ซัมใจ ซึ่งระหว่างนั้นวงดนตรีก็ยังคงเล่นต่อไปไม่มีเบรก คอนฯอื่นมี VTR คั่นโชว์ แต่คอนฯนี้เรามีนักดนตรีเอ็นเตอร์เทนตลอดงาน

ชุดพร้อมแล้วก็ไปกันต่อ กับเพลงสดใสชวนปล่อยใจจอย อย่าง Climax , Small Talk, 60 SEC และ Go Again ก่อนจะเพิ่มบรรยากาศการพักร้อนให้สมจริงไปอีกขั้น เมื่อหนุ่ม “ซองกยู” เริ่มนั่งลงบนเก้าอี้ และเริ่มต้นร้องเพลง FOG และ Like A Dream ในเวอร์ชั่นอะคูสติก แต่ความเซอร์วิสเซอร์ใจยังไม่จบ เขายังนำเพลง Closer มาร้องให้แฟนๆ ฟังเพิ่มอีกหนึ่งเพลง เป็นสัญญาที่แฟนๆ ขอเอาไว้ในตอนกิจกรรมซาวน์เช็คนั่นเอง นอกจากเจ้าตายิ้มชวนละลายแล้วพ่อหนุ่มคนนี้เขากินไมโครเวฟเข้าไปหรือเปล่าทำไมอบอุ่นขนาดนี้นะคุณพรี่

ซึ่งไม่จบเพียงเท่านั้นพ่อหนุ่มกู๊ดบอยของอินสปิริตและชาวเมือง ก็ขอตบท้ายค่ำคืนพักร้อนนี้ ไปกับเพลง Jump , Savior และ It Will Be ก่อนจะชวนแฟนๆ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกในการกลับมาเจอกันครั้งนี้ ด้านแฟนๆ ชาวไทยก็พร้อมใจกันชูป้ายสโลแกนที่มีข้อความว่า “เป็นการรอคอยที่คุ้มค่า เมื่อวันนี้ได้พบหน้ากัน ความรักของฉันจะเป็นของคุณ” ทั้งหวาน ทั้งอบอุ่นแข่งขันกันขนาดนี้ คุณพระอาทิตย์ลาพักร้อนได้เลย เพราะศิลปินและแฟนคลับคู่นี้เขาทำหน้าที่นี้แทนแล้ว

แต่สิทธิพิเศษพักร้อนท่ามกลางวันฝนตกของชาวเมืองและอินสปิริตไทยยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะเมื่อถึงช่วงเวลา Encore แฟนๆ ทั่วทั้งฮอลล์ต่างพร้อมใจกันประสานเสียงร้องเพลง Kontrol ที่แม้ดูเหมือนกำลังดำน้ำ แต่ด้วยเสียงหวานๆ นี้ก็สามารถเรียก “ซองกยู” กลับมาปรากฏตัวบนเวทีอีกครั้ง ด้วยลุคใหม่ที่มาพร้อมกับ “ผ้าขาวม้า” ที่ผูกคาดเอวมาอย่างเก๋ไก๋ดูเข้ากับเขาอย่างลงตัว โดย “ผ้าขาวม้า” ผืนนี้เป็นของขวัญสัญลักษณ์แทนความเป็นไทย ที่แฟนคลับไทยตั้งใจมอบให้กับเขา ในโอกาสที่พิเศษและวันที่พิเศษๆ แบบนี้

ของขวัญถูกใจจนต้องหยิบมาผูกโชว์แบบนี้ หนุ่ม “ซองกยู” ที่แปลงร่างเป็นหนุ่มไทยผูกผ้าขาวม้ามาแล้ว เลยขอมอบ4 เพลงพิเศษ Kontrol, My Everyday Is You, Reply และ Stuck On เป็นของขวัญส่งท้ายให้แฟนๆ ทุกคนเช่นเดียวกัน

เป็นการร้องเพลงส่งทุกคนกลับบ้านจากการไปเที่ยวพักร้อนกับเขาได้อย่างสุดแสนประทับใจ และเต็มอิ่มไปด้วยมวลแห่งความสุข จากความน่ารักอบอุ่นของเจ้าของคอนเสิร์ต รวมถึงเสียงร้องเพลงสุดแสนทรงพลังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ที่แฟนๆ คิดถึง เพลงโปรดที่รอคอยมานานกว่าจะได้มาฟังด้วยหูและตาเนื้อ จึงนับว่าเป็นคอนเสิร์ตที่ฮีลใจสุดๆ ในวันพักร้อนครั้งนี้ ทำให้วันจันทร์ที่กำลังมาถึงนี้ไม่น่ากลัวอีกต่อไป สำหรับชาวเมืองและอินสปิริตไทย

เอม สรรเพชญ์ เด็กเนิร์ดขี้อายไม่กล้าเข้าสังคม

Alternative Textaccount_circle

เปิดใจแบบเจาะลึก เอม สรรเพชญ์ คุณากร ลูกชายสุดหล่อของ “ดู๋ สัญญา” กับความกดดันที่เป็นลูกคนดัง! เคยเป็นเด็กเนิร์ดขี้อายไม่กล้าเข้าสังคม

เรียกได้ว่าเป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้นสำหรับ “เอม สรรเพชญ์ คุณากร” ลูกชายสุดหล่อของ “ดู๋ สัญญา” ซึ่งมาเปิดใจแบบเจาะลึกในรายการ WOODY FM ถึงเรื่องราวชีวิตวัยเด็ก และการเข้าสู่วงการบันเทิง พร้อมเล่าถึงความกดดันที่เป็นลูกของพ่อดู๋ เผยอดีตเป็นเด็กเนิร์ดขี้อายไม่กล้าเข้าสังคม เผยเป็นคนที่ทำอะไรแล้วจะโฟกัส ทุ่มเททุกอย่างทำให้ดีที่สุด

หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยที่ลอสแองเจลิส คุณคาดหวังว่าจะทำงานในด้านไหน ?

เอม สรรเพชญ์ : ตอนแรกเล็งไว้ว่าจะเรียนต่ออีกปี แล้วก็ไปเรียนสัตวแพทย์ พอผมเรียนจบแล้วก็ Gap Year ไว้ก่อน เพราะทั้งชีวิตคือเรียนอย่างเดียวเลยไม่ได้ใช้ประสบการณ์ชีวิต ไม่ได้เข้าสังคม ไม่ได้อะไร ผมก็เลยจะใช้ Gap Year แล้วลองทดสอบว่าเรามีเส้นทางอะไรได้บ้าง เราทำอะไรได้บ้าง มีแพชชั่นอะไรที่เคยอยากลองแล้วมีโอกาสที่จะได้ลองก็ลองไปเลยครับ เช่น การแสดง

ทำไมถึงอยากทำสายนี้คิดมาตลอดไหม ย้อนกลับไปตอนเด็กๆ เคยคิดจะเดินตามรอยคุณพ่อเข้าวงการไหม?

เอม สรรเพชญ์ : ไม่เคยเลยครับ เพราะว่าผมเป็นเด็กที่ขี้อายมาก ไม่ค่อยชอบพูด ไม่ค่อยชอบอยู่กับใครด้วยซ้ำ ชอบใช้เวลาอยู่คนเดียว แต่อาจเพราะมีคุณพ่อเป็นนักแสดงด้วยแหล่ะครับ อีกส่วนใหญ่หนึ่งคือผมอยู่คนเดียวผมก็จะดูแต่หนัง ดูแต่ซีรีย์แล้วมันก็ติดใจครับ เราก็จินตนาการนึกไว้ในหัวเลย บท คาแรคเตอร์ ผมก็แอบชอบมาตั้งนานแล้ว แต่ในฐานะที่เราเป็นเด็กขี้อาย ก็ไม่คิดว่าสักวันหนึ่งเราจะกล้าพอที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone

แต่มันก็สะสมอยู่ในตัวมาตลอด ?

เอม สรรเพชญ์ : ใช่ มันมีความชอบอยู่ตลอดครับ แต่ผมจะไม่ค่อยพูดกับพ่อแม่เรื่องนี้เลย เราเก็บตัวมากครับ

พ่อเคยถามไหมว่า เราสนใจลองไปเทสดูไหม ?

เอม สรรเพชญ์ : ไม่ค่อยนะครับ แต่ว่าตอนมีรายการอะไรเสนอมา เขาก็บอกว่ามีละครสนใจเรานะ มีงานถ่ายแบบที่เขาสนใจนะ แต่ว่าช่วงนั้นผมจะโฟกัสเรื่องการเรียนก่อน ก็เลยปฎิเสธไปเยอะอยู่ครับ

อะไรที่จุดประกายอยากให้คุณเข้ามาในวงการ ?

เอม สรรเพชญ์ : คือตอนที่ผมเรียนอยู่ที่ LA เขามีฟรีคอร์สที่เราจะทำอะไรก็ได้ แล้วมันดันมีคอร์สการแสดงผมก็เลยไปเรียน เพราะผมก็มีฝันไว้อยู่ว่าเราชอบ แล้วกลายเป็นว่าตอนที่เราสามารถพูดภาษาอังกฤษได้มันก็เลยไม่กลัว ก็เลยรู้ว่าสิ่งที่ผมติดจริงๆ คือไม่ใช่การแสดงแต่มันคือภาษา ผมก็เลยคิดว่าเรามีโอกาสขนาดนี้ เราโชคดีขนาดนี้ แล้วเราชอบด้วย แต่เราแค่กลัวเพราะว่าภาษาเราอาจจะยังไม่ถึง ก็เลยไม่ได้แล้วต้องยอมรับแล้ว

หมายถึงว่ากลัวที่จะสื่อสารภาษาไทยไม่ได้ ?

เอม สรรเพชญ์ : ใช่ครับ อ่านบทไม่ทันเขาอะไรแบบนี้ครับ พูดติดขัด

คุณเริ่มเข้าวงการยังไง ?

เอม สรรเพชญ์ : อย่างแรกเลยก็คือกลับมาแล้วพยายามฝึกซ้อมภาษาไทย เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมของผมให้เป็นภาษาไทยเยอะขึ้น เริ่มดูทีวี เริ่มฟังเพลงไทยทุกอย่าง มันจะได้ติดหูครับ

ตอนนี้มีวงโปรดที่ชอบฟังไหมครับ ?

เอม สรรเพชญ์ : รู้จักมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ ผมชอบวง Bodyslam ครับ

แล้วบอกพ่อแม่ตอนไหน ?

เอม สรรเพชญ์ : บอกตอนเรามีความมั่นใจเยอะขึ้นในภาษา พอเราอ่านหนังสืออ่านได้ในมาตรฐานที่พอใช้ได้ ก็เริ่มบอกพ่อว่ามีละครอะไรที่เขาเสนอมาไหมครับ พ่อเขาก็งงนึกว่าเราจะเป็นสัตวแพทย์ไปแล้ว นึกว่าจะเป็นอีกทางหนึ่งไปแล้ว แต่พอผมได้อธิบายให้เขารู้ว่านี่เป็นสิ่งที่จริงๆ เราชอบมานานแล้ว เขาก็สนับสนุนเต็มที่ครับ

หน้าคุณพ่อเป็นยังไง ?

เอม สรรเพชญ์ : เขางงจริงๆ ครับ เพราะตอนแรกเขาก็เห็นภาพลักษณ์เราว่าเป็นเด็กเงียบๆ แนวเนิร์ดๆ หน่อย ขี้อาย สายวิทย์ไม่ได้ครีเอทีฟ แต่ว่าเขาก็แฮปปี้ครับ

ลองทำอะไรเป็นชิ้นงานแรก ?

เอม สรรเพชญ์ : ตอนนี้กำลังเตรียมตัวเปิดกล้องอยู่เลยครับ กำลังจะเริ่มครับ พอลองไปทำเวิร์คช็อปผมก็ชอบตามที่คิดไว้เลยครับ ในฐานะที่เราเป็นคนเก็บตัว เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบพูด การที่เราได้เป็นคนอื่นมันถือว่าอาจจะเป็นการปลดปล่อยของเราก็ได้ ไม่ต้องเป็นตัวเอง ได้ใช้จินตนาการว่าเราเป็นคนโน้นคนนี้

พี่ดู๋ สัญญา เลี้ยงลูกแบบไหน ?

เอม สรรเพชญ์ : คุณพ่อเป็นคนที่เรียกว่าเลี้ยงโดยตรงไม่ได้ครับ เป็นคนที่ทำให้ดูเป็นแบบอย่างครับ เขาจะเป็นคนที่โชว์ตลอดไม่เคยบอกผม เพราะฉะนั้นตอนที่ผมได้เดินตามคุณพ่อ ผมก็เลยกลายเป็นคนที่คล้ายๆ คุณพ่อมากในทางบุคลิก พอได้แบบนั้นแล้ว เขาเหมือนปล่อยเลยครับ ทั้งคุณพ่อคุณแม่จะปล่อยให้เราทำอะไรเอง ตัดสินใจเอง ให้มีความรับผิดชอบเอง ให้เราดูแลจัดการชีวิตด้วยตัวเอง คุณพ่อเขาจะเน้นการได้ประสบการณ์

มีเป้าหมายในหัวไหมว่าจะแสดงถึงขั้นไหนยังไง จะกลับไปเรียนไหมหรือว่าหยุดไว้ก่อน ?

เอม สรรเพชญ์ : ตอนนี้คือหยุดไว้ก่อนครับ เพราะผมจะเด็ดเดี่ยวนิดหน่อยคือเวลาที่ผมทำอะไรจะโฟกัสแล้วทุ่มเททุกอย่างทำให้ดีที่สุด ไม่งั้นก็ไม่ควรทำ

การที่เป็นลูกของคนดัง สำหรับเราเองมันส่งผลทางด้านไหนไหม ?

เอม สรรเพชญ์ : ผมอาจจะไม่รู้สึกกดดันขนาดนั้น เพราะว่าพ่อผมเป็นคนที่อิสระมากครับ เขาปล่อยมาก แต่ว่าผมดันรู้สึกแบบอาจจะมีความรู้สึกผิดนิดหนึ่งเลยครับ ว่าเราต้องทำให้ดีเพราะว่าผมไม่อยากเป็นแบบลูกคนดังเข้าวงการก็ได้ แบบแนวนั้น ไม่ใช่ Nepo Baby แบบนั้น คือเข้าใจแหล่ะว่าชื่อคุณพ่อก็ช่วย แต่ว่าการตัดสินใจ แล้วการที่เราได้เล่นละครเราทำเอง ผมรู้สึกว่าเราต้องพิสูจน์ว่ามีฝีมือจริง ไม่ใช่แค่ว่าลูกพี่ดู๋ สัญญา ก็เล่นได้

นอกจากเป็นนักแสดงคุณพ่อก็เป็นพิธีกรด้วย คุณจะเดินตามเส้นทางนั้นด้วยไหม ?

เอม สรรเพชญ์ : อันนี้ก็น่าสนใจครับ แต่ว่าถ้าเกิดภาษาอังกฤษคือผมสะดวกในการทำแบบนี้ แต่ถ้าเกิดเป็นภาษาไทยก็ต้องฝึกซ้อมครับ เพราะว่าการเป็นพิธีกรยากมากครับ

พ่อของคุณเป็นนักถามที่ดีและได้ทำคอนเทนต์คุยกับผู้คนเยอะแยะมากมาย คุณพ่อได้แบ่งปันที่เป็นบทเรียนชีวิตให้กับเราบ้างไหมเวลาที่มีโอกาสได้คุยกัน?

เอม สรรเพชญ์ : ตลอดเลยครับ แต่ว่าเสียดายเมื่อก่อนผมจะไม่ค่อยฟังในฐานะที่เป็นวัยรุ่นเนอะ เราจะแบบพ่อคุยมาก อะไรไม่รู้ เดี๋ยวนี้ก็เข้าใจแล้วว่าที่เขาแบ่งมาคือเขาได้คุยกับท็อปๆของทุกวงการเลย เหมือนพี่วู้ดดี้แหล่ะครับ คือพิธีกรจะกลายเป็นแบบฟองน้ำ เป้นสิ่งที่ดูดซึมทุกอย่างแล้วมันเป็นสิ่งที่ผมว่าเท่ห์มากเลย

คุณพ่อของคุณนั้นได้สร้างสิ่งเจ๋งๆ ไว้ให้กับวงการเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแสดง การจัดรายการ เขาเป็นไอดอลของหลายคน เป็นคนที่พี่มองเป็นต้นแบบมาโดยตลอด คุณโชคดีมากที่เกิดมาเป็นลูกของ ดู๋ สัญญา แล้วคุณมารู้ตัวตอนไหนว่าพ่อของฉันเจ๋งนะ ?

เอม สรรเพชญ์ : น่าจะช่วงโควิดครับ คือตอนที่ไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ได้แยกจากครอบครัวมาแล้ว ได้เปิดประสบการณ์กับคนใหม่ๆ แล้วก็กลับมาได้อยู่กับพ่อแม่อีกที ก็รู้เลยว่าพ่อเราเป็น ไม่ได้ว่าเขาเก่ง แต่ว่าเขาเป็นคนที่รู้ตัวเอง แล้วแบบรู้เยอะครับ ผมก็เข้าใจว่านี่เป็นคนที่ผมนับถือมากอยู่แล้ว ผมถือว่าโชคดีมากที่ได้เกิดมาเป็นลูกเขา

สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.

การร่วมงานสุดพิเศษของ TAEYEON กับ Sam Smith

Alternative Textaccount_circle

แฟนเพลงทั่วโลกกำลังพูดถึงกันอย่างร้อนแรง! สำหรับการร่วมงานสุดพิเศษของ TAEYEON กับ Sam Smith ในผลงานเพลง ‘I’m Not The Only One’

แฟนเพลงทั่วโลกกำลังพูดถึงกันอย่างร้อนแรง ! สำหรับผลงานเพลงสุดพิเศษ ‘I’m Not The Only One’ เวอร์ชันรีมิกซ์ที่ TAEYEON (แทยอน) วง Girls’ Generation ได้ร้องร่วมกับศิลปินชาวอังกฤษ Sam Smith (แซม สมิธ) ซึ่งปล่อยออกมาให้รับฟังกันเรียบร้อยในวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย 16:00 น. ผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงทางออนไลน์ทั่วโลก โดยเพลงนี้รวมอยู่ในอัลบั้มดีลักซ์ฉลองครบรอบเดบิวต์ 10 ปีของ Sam Smith ชื่อว่า ‘In The Lonely Hour 10th Anniversary Edition (Deluxe)’

การร่วมงานครั้งนี้เกิดขึ้นจาก Sam Smith ที่ครบรอบเดบิวต์ 10 ปี ได้เสนอไอเดียสำหรับเวอร์ชันใหม่ที่มีเนื้อเพลงภาษาเกาหลีไปให้ TAEYEON เพื่อตอบแทนความรักอันร้อนแรงของแฟน ๆ ชาวเกาหลี โดย Sam Smith กล่าวว่า “ผมรู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่ผู้แสดงที่มีความสามารถหลากหลายอย่าง TAEYEON ได้เข้าร่วมในโปรเจกต์นี้ และแสดงเสียงร้องที่น่าทึ่งออกมา”

ก่อนหน้านี้ Sam Smith ได้ร่วมงานกับศิลปินตัวแทนของแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Utada Hikaru ศิลปินระดับชาติของประเทศญี่ปุ่น, Aitana ของประเทศสเปน, IZA ศิลปินและนักเต้นของประเทศบราซิล ต่อด้วย TAEYEON ที่เข้าร่วมในฐานะศิลปินตัวแทนของประเทศเกาหลีใต้ โดย TAEYEON เผยความรู้สึกว่า “ฉันดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ฉลองครบรอบ 10 ปีของ Sam Smith นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ฉันได้แบ่งปันความสามารถและความหลงใหลทางดนตรีของเขา ผ่านการร่วมงานครั้งนี้กับศิลปินชื่อดังระดับโลกอย่าง Sam Smith” และ “โดยเฉพาะอย่างยิ่งการร้องเพลงที่ฉันชอบฟังอยู่เสมอ ‘I’m Not The Only One’ เป็นภาษาเกาหลี ถือเป็นประสบการณ์ใหม่และพิเศษมากขึ้นไปอีก ฉันหวังว่าเพลงนี้จะนำความเข้าอกเข้าใจและกำลังใจมาสู่ผู้คนมากมาย”

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ศิลปินตัวแทนของเกาหลีอย่าง TAEYEON ได้แสดงให้เห็นถึงเสียงร้องที่ไม่มีใครเทียบได้และทักษะที่โดดเด่น ผ่านการทำกิจกรรมวง Girls’ Generation และกิจกรรมเดี่ยว ล่าสุดเธอได้นำเสนอเสน่ห์ของเสียงร้องที่สดชื่นในเพลงใหม่ ‘Heaven’ ยิ่งไปกว่านั้น เพลงไตเติลของมินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘To. X’ ที่ปล่อยออกมาเมื่อปีที่แล้ว ยังติดอันดับต้น ๆ บนชาร์ตเพลงดิจิทัลหลักของเกาหลีจนถึงปัจจุบัน พิสูจน์ถึงพลังของ ‘TAEYEON ที่ทุกคนสามารถเชื่อใจและรับฟังเพลงได้’ นอกจากนี้ TAEYEON ยังประสบความสำเร็จอย่างมากกับการทำกิจกรรมในอีกหลากหลายสาขา เช่น รายการวาไรตี้, พิธีกร, การร้องเพลงประกอบซีรีส์ ฯลฯ  TAEYEON ครองบัลลังก์ศิลปินหญิงเดี่ยวเกาหลีคนแรก ที่สามารถจัดคอนเสิร์ตเดี่ยว ณ อิมแพ็ค อารีน่า ได้สำเร็จ และบัตรทั้ง 2 รอบการแสดง จำหน่ายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่งอย่างรวดเร็ว รวมจำนวนกว่า 18,000 ใบ

ทั้งนี้ ในเดือนสิงหาคมปี 2566 ที่ผ่านมา TAEYEON สร้างสถิติใหม่ด้วยคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบในประเทศไทย TAEYEON CONCERT – The ODD Of LOVE in BANGKOK กับการครองบัลลังก์ ‘ศิลปินหญิงเดี่ยวเกาหลีคนแรกที่สามารถจัดคอนเสิร์ตเดี่ยว ณ อิมแพ็ค อารีน่า ได้สำเร็จ และบัตรทั้ง 2 รอบการแสดง จำหน่ายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่งอย่างรวดเร็ว รวมจำนวนกว่า 18,000 ใบ’

ไฟน์ไลน์ เปิดตัวเพอร์ฟูม คอลเลคชั่น ครบทั้ง ซัก ปรับ รีด พร้อมดึง “ไมกี้” ปณิธาน และ “เก้า” นพเก้า ขึ้นแท่น Friends of Fineline คู่แรก

account_circle

ไฟน์ไลน์ (Fineline) ผู้นำผลิตภัณฑ์ดูแลผ้าครบทุกขั้นตอน หนึ่งในแบรนด์สินค้าคุณภาพที่อยู่เคียงข้างคนไทยมายาวนานกว่า 3 ทศวรรษ ภายใต้บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 ของผลิตภัณฑ์รีดผ้า 13 ปีซ้อน พร้อมฉลองยอดขายผลิตภัณฑ์ซักผ้าอันดับ 1 ของบริษัทคนไทย และ อันดับ 1 ในขนาด 1,400 มล. ด้วยความมุ่งมั่นในการช่วยดูแลชีวิตประจำวันของทุกคนให้ได้รับความสะดวกสบายและมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อยกระดับความสุขของผู้บริโภคให้ทุกวันดียิ่งขึ้น  

ล่าสุดเปิดตัวเพอร์ฟูม คอลเลคชั่น ครบทั้งผลิตภัณฑ์ ซัก ปรับ รีด ใหม่ ! ไฟน์ไลน์ซักผ้าเข้มข้น มิราเคิล เพอร์ฟูม และไฟน์ไลน์ สเปรย์หอมรีดผ้าเรียบ พร้อมด้วย ไฟน์ไลน์ปรับผ้านุ่มเข้มข้นพิเศษ พรีเมียม เพอร์ฟูม ซีรีส์แห่งความหอมหรูควบคู่เทคโนโลยี โดยมีนักแสดงสาวสวย “ญาญ่า” อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรีเซนเตอร์ของแบรนด์ ร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลผ้าแนวกลิ่นหอมพรีเมียม ที่รังสรรค์แนวกลิ่นร่วมกับนักปรุงน้ำหอมระดับโลก เพื่อให้ได้กลิ่นหอมหลากหลาย เข้าได้กับทุกบุคลิก

นอกจากนี้ในงานยังอัพเดทเทรนด์การแต่งตัว และการเลือกกลิ่นหอมให้เข้ากับบุคลิก โดยดีไซเนอร์คนดัง พลพัฒน์ อัศวะประภา แห่ง Asava พร้อมชวนสัมผัสความมหัศจรรย์ของการดูแลผ้า และกลิ่นหอมหรูสุดพรีเมียมของไฟน์ไลน์ และพบกับ Friends of Fineline คู่แรกของแบรนด์ไฟน์ไลน์ “ไมกี้” ปณิธาน บุตรแก้ว และ “เก้า” นพเก้า เดชาพัฒนคุณ สองหนุ่มสุดหล่อ พระเอกหน้าใหม่ที่มาร่วมกิจกรรม Meet & Greet กับแฟน ๆ ผู้โชคดีจากการซื้อผลิตภัณฑ์ไฟน์ไลน์ ในวันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคมนี้ ณ ลานกิจกรรม ชั้น G  สามย่านมิตรทาวน์   

ศิริสุภา อาจสัญจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) เผยถึงเทรนด์ผู้บริโภค และแนวทางของไฟน์ไลน์ในปีนี้ เพื่อตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 ของผลิตภัณฑ์รีดผ้า และยอดขายผลิตภัณฑ์ซักผ้าอันดับ 1 ของบริษัทคนไทยว่า “ด้วยความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค ที่มีความแตกต่าง หลากหลายมากขึ้น และจากปัญหามลภาวะในปัจจุบันที่เกิดขึ้นมากมาย  ทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ไฟน์ไลน์จึงไม่หยุดคิดค้นนวัตกรรมเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทั้ง ซักผ้า ปรับผ้านุ่ม และรีดผ้าเรียบ ให้สามารถแก้ปัญหา ครบทุกความต้องการให้กับผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม อย่างปัญหากลิ่นอับชื้นติดผ้า ที่เราได้นำเทคโนโลยี FX Tech ลิขสิทธิ์เฉพาะของไฟน์ไลน์ มาช่วยกำจัดกลิ่นอับชื้นจากต้นเหตุ ให้ผ้าสะอาด ไม่มีกลิ่นอับชื้น นุ่ม และมีกลิ่นหอมติดผ้ายาวนาน โดยการสร้างสรรค์แนวกลิ่นหอมหรู เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในด้านการเสริมภาพลักษณ์ รวมถึงความมั่นใจเมื่อสวมใส่เสื้อผ้า ซึ่งเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ที่ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์”

นอกจากนี้ ศิริสุภา ได้กล่าวเสริมถึงครั้งแรกของแบรนด์ในการแต่งตั้ง Friends of Fineline คู่แรกว่า ที่ผ่านมาเรามี “ญาญ่า” อุรัสยา เป็นพรีเซนเตอร์หลักที่ช่วยสร้างการจดจำให้แก่แบรนด์ไฟน์ไลน์อยู่แล้ว ซึ่งการเข้ามาเป็น Friends of Fineline ของ “ไมกี้” ปณิธาน และ “เก้า” นพเก้า จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ความแข็งแรงของแบรนด์ และขยายการรับรู้ไปสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งสองหนุ่มเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ที่กำลังมาแรง และจะมีกิจกรรมกับไฟน์ไลน์ตลอดปี เริ่มตั้งแต่งานนี้เป็นต้นไป”    

สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผ้าที่มอบความหอมระดับพรีเมียม มาพร้อม FX Tech เทคโนโลยีกำจัดกลิ่นอับชื้นลิขสิทธิ์เฉพาะจากไฟน์ไลน์ ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ในปีนี้  ได้แก่

ใหม่! ไฟน์ไลน์ซักผ้าเข้มข้น มิราเคิล เพอร์ฟูม (Fineline Liquid Detergent Concentrated Miracle Perfume) พลังซักสะอาดซอกซอนลึกถึงเส้นใยผ้า ขจัดคราบสกปรกฝังแน่น ไม่ว่าจะเป็น คราบอาหาร กาแฟ และคราบลิปสติก พร้อมกำจัดกลิ่นอับชื้นบนผ้าด้วยเทคโนโลยี FX Tech ลิขสิทธิ์จากไฟน์ไลน์ หมดกังวลแม้ตากผ้าในที่ร่ม ไม่โดนแดด นอกจากนี้ยังเพิ่มพลังความหอมบนเนื้อผ้าให้หรูหรายิ่งกว่า ด้วยกลิ่นหอมระดับน้ำหอมเคาน์เตอร์แบรนด์จากดอกแมคโนเลียที่ให้ความหอมแบบพรีเมียม พร้อมความสดชื่นจากกลิ่นผลไม้ซีตรัส และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่  ที่ผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว มีให้เลือก 4 ขนาด 130 มล. ราคา 20 บาท, 430 มล. เพิ่มปริมาณ 40% ราคา 68 บาท พิเศษเฉพาะ 7-Eleven, 700 มล. ราคา 99 บาท และ 1,400  มล. ราคา 189 บาท  

ไฟน์ไลน์ปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้นพิเศษ พรีเมียม เพอร์ฟูม (Fineline Premium Perfume Concentrated Fabric
Softener) กลิ่นหอมพรีเมียม หรูหรา ติดผ้ายาวนาน มาพร้อมเทคโนโลยี Blooming Capsule แคปซูลน้ำหอมเข้มข้น
ยึดเกาะเส้นใยผ้า ล็อคกลิ่นหอมให้ติดผ้ายาวนาน 30 วัน พร้อมกระจายความหอมขณะสวมใส่ และมีเทคโนโลยี Fx
Tech ที่ช่วยลดกลิ่นอับจากทุกต้นเหตุ  ไร้กังวลแม้ตากผ้าในช่วงหน้าฝน หรือซักผ้ากลางคืน กลิ่น RED PASSION แนว
กลิ่นหรูหรา มีระดับ จากมวลดอกไม้และทรอปิคอล สไตล์สาวสดใส ขนาด 450 มล. ราคา 99 บาท และ 1,150 มล.
ราคา 238 บาท

ใหม่ !ไฟน์ไลน์ สเปรย์หอมรีดผ้าเรียบ เพอร์ฟูม คอลเลคชั่น กลิ่นเรด แพสชั่น (Fineline Fabric Starch
Perfume Collection Red Passion) สูตรรีดลื่น เรียบเร็ว ด้วยนวัตกรรม Fabric Smart  ช่วยให้เสื้อผ้าเรียบง่าย เรียบ
นาน ไม่คืนตัว ช่วยสะกดชุดสวย ให้เรียบนานตลอดการสวมใส่ เหมาะสำหรับผ้าทุกประเภทที่รีดยาก
ทั้งเสื้อ กางเกง กระโปรง ผ้าลินิน ผ้ายืดสแปนเดกซ์ ผ้าคอตตอน หรือผ้าที่ต้องการถนอมเป็นพิเศษ เช่น ผ้าไหม
ผ้าชีฟอง ผ้าฝ้าย และผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ ผสานพลังปกป้องความร้อนจากเตารีด ถนอมผ้า คงสีสันสดใส  และช่วย
เสริมประสิทธิภาพการทำงานของน้ำยาปรับผ้านุ่ม ช่วยถนอมผ้าให้เรียบอย่างนุ่มนวล ทั้งยังช่วยลดกลิ่นอับชื้นบนผ้า
ด้วยเทคโนโลยี FX Tech เพื่อบุคลิกที่ดี มั่นใจทุกครั้งที่สวมใส่ พร้อมมอบกลิ่นหอมหรูสไตล์ยุโรปจากดอกไม้ ผสม
ผสานผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ขนาด 450  มล. ราคา 20 บาท   

สัมผัสนวัตกรรมแห่งความหอมหรูระดับเวิล์ดคลาสกับเพอร์ฟูม คอลเลคชั่น ครบทั้งผลิตภัณฑ์ ซัก ปรับ รีด วางจำหน่าย
ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ และร้านค้าใกล้บ้านทั่วประเทศ หรือช้อปออนไลน์ได้ทาง 7-Online, Shopee, Konvy และ NEO
DealDD Officail Store ทาง Lazada ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง FB : FinelineThailand, IG : @finelinethailand,
TikTok : @finelinethailand, Line Official Account : @NEOdealDD

ตัวช่วยเซ็ตรูทีนผิวฉ่ำพร้อมใช้! ของ ‘เกรซ – กาญจน์เกล้า’ ทรีตเม้นต์ฟิลเลอร์งานผิว Belo Revive

account_circle

ด้วยเทรนด์งานผิวที่มาแรงมาก ทำให้ประโยคที่ว่า ‘ผิวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง’ ถือเป็นเรื่องไม่เกินจริง โดยเฉพาะสำหรับคนรักสวยยุคนี้ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพผิวเป็นอันดับแรกๆ และใส่ใจกับขั้นตอนเริ่มต้น Praew Survey รอบนี้จึงขอพาสาวกบิวตี้ไปเปิดวาร์ปทรีตเม้นต์ฟิลเลอร์งานผิว Belo Revive ที่ถือเป็นหัตถการตัวตึงแห่งวงการงานผิวเลยก็ว่าได้ โดยเป็นตัวช่วยดูแลผิวตามเทรนด์ Step Zero รวมถึงยังเป็นทริคการดูแลผิวของสาวผิวใสระดับตัวแม่ ‘เกรซ – กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า’ อีกด้วย

จุดเด่นของทรีตเม้นต์ฟิลเลอร์งานผิว Belo Revive ที่คนรักผิวต้องรู้ คือการช่วยปรับโครงสร้างพื้นฐานผิวให้พร้อม โดยช่วยเซ็ตรูทีนผิวแบบ Step Zero ซึ่งเป็นรูทีนการดูแลผิวรูปแบบใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการเซ็ตพื้นฐานผิวให้ดีตั้งแต่เริ่มต้น เตรียมโครงสร้างผิวด้วยลดการใช้สกินแคร์ที่ไม่จำเป็น เน้นเลือกใช้ตัวที่มีประโยชน์ต่อผิวจริงๆ รวมถึงลดการโบกเมคอัพหนาๆ เพื่อโชว์ผิวที่ดูดีและดูเป็นธรรมชาติ พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว เพราะเมื่อลดสเต็ปเหลือแค่การบำรุงผิวเท่าที่จำเป็นก็ช่วยลดระยะเวลาหน้ากระจกไปในตัว เรียกว่าถูกใจสาวกบิวตี้สาย Skinimalism 

ดังนั้นหากใครที่ต้องการเซ็ตรูทีนผิว ก็ต้องไม่พลาดรู้จักกับทรีตเม้นต์ฟิลเลอร์งานผิว Belo Revive ซึ่งถือเป็นหัตถการงานผิวมาแรง ดีงามด้วยการมาพร้อมกับกรดไฮยาลูรอนิกและสารกลีเซอรอลที่ขึ้นชื่อเรื่องงานผิว จึงช่วยดูแลผิวได้แบบ 4 มิติ อิ่มฟู เนียนเด้ง ชุ่มชื้น ฉ่ำวาว โดยผลลัพธ์อยู่ได้ราวๆ 9 เดือน ซึ่งถือว่าเป็นระยะเวลาที่ไม่น้อยเลย

นอกจากนี้การดูแลผิวด้วยกับทรีตเม้นต์ฟิลเลอร์งานผิว Belo Revive ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยที่ไม่ต้องรอให้ปัญหาผิวเกิดเสียก่อนแล้วค่อยแก้ไข ยังช่วยคงความอ่อนเยาว์ให้กับผิวได้ดียิ่งขึ้น พร้อมช่วยปกป้องผิวจากริ้วรอยแห่งวัยได้อีกด้วย

อย่างที่สาวสวยผิวออร่า ‘เกรซ – กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า’ ได้เผยเคล็ดลับการดูแลผิวเอาไว้ว่า “ทรีตเม้นต์ฟิลเลอร์งานผิว Belo Revive ถือเป็น My Step Zero ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นตัวซัพพอร์ตเตอร์ที่ช่วยโอบอุ้มผิวให้มีคุณภาพดี แถมยังช่วยทำให้ขั้นตอนการบำรุงผิวที่ยุ่งยากกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นและสะดวกขึ้นเยอะเลยค่ะ”

ทั้งหมดนี้คือจุดเด่นของทรีตเม้นต์ฟิลเลอร์งานผิว Belo Revive ที่ช่วยเซ็ตรูทีนผิวแบบ Step Zero เพื่อทำให้ผิวมีพื้นฐานที่ดี พร้อมใช้ทุกสถานการณ์ ดังนั้นหากใครอยากมีผิวใสฉ่ำวาวตามเทรนด์ ขอบอกเลยว่าห้ามตกขบวนทรีตเม้นต์ฟิลเลอร์งานผิว Belo Revive อย่างเด็ดขาด

เลขคำขออนุญาตโฆษณาที่ AD6700893

ใบอนุญาตเลขที่ ฆพ.861/2567

ตอกย้ำการเป็นที่สุด aespa บัตรหมดเกลี้ยงทั้ง 2 รอบการแสดง

Alternative Textaccount_circle

aespa ทุบสถิติใหม่ขึ้นแท่น เกิร์ลกรุ๊ปเค-ป๊อปเจน 4 วงแรกที่จัดคอนเสิร์ต ณ อิมแพ็ค อารีน่า 2 รอบ และบัตรหมดทันทีที่เปิดจำหน่าย

ตอกย้ำการเป็นที่สุดแห่งปรากฏการณ์ความนิยมไปทั่วโลกของจริง ! สำหรับวงที่มาแรงที่สุดในขณะนี้ aespa (เอสป้า) ซึ่งกำลังจัดเวิลด์ทัวร์ครั้งที่ 2 ในเอเชียและออสเตรเลีย รวมทั้งหมด 14 ภูมิภาค โดยมีตารางปิดทัวร์ครึ่งแรกที่กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินหน้าทัวร์ต่อในอเมริกาและยุโรปช่วงต้นปีหน้า 2568 แน่นอนว่า พวกเธอจะกลับมาหาแฟนคลับชาวไทยพร้อมสเกลความยิ่งใหญ่และอลังการกว่าครั้งก่อน ในคอนเสิร์ต 2024 aespa LIVE TOUR – SYNK : PARALLEL LINE – in BANGKOK ทั้งหมด 2 รอบการแสดง วันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2567 เวลา 18:00 น. และวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2567 เวลา 17:00 น. ณ อิมแพ็ค อารีน่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งครั้งนี้ aespa ประสบความสำเร็จทุบสถิติใหม่ที่ดีที่สุด ! กับการขึ้นแท่นเป็น ‘เกิร์ลกรุ๊ปเค-ป๊อปเจน 4 วงแรกที่สามารถจัดคอนเสิร์ต ณ อิมแพ็ค อารีน่า 2 รอบการแสดง และบัตรหมดเกลี้ยงทันทีที่เปิดจำหน่าย’

aespa ได้ส่งคลิปแทนคำทักทายและคำขอบคุณสำหรับความรักและการสนับสนุนจาก MY ชาวไทย (มาย : ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) พร้อมการันตีความปังของคอนเสิร์ตที่จะเกิดขึ้น ดังนี้ ❝ สวัสดีค่ะ พวกเรา aespa ค่ะ วันนี้พวกเรา aespa มีข่าวดีมาบอกทุกคนค่ะ พวกเรา aespa กำลังจะไปพบกับ MY ชาวไทยอีกครั้ง ในงาน 2024 aespa LIVE TOUR – SYNK : PARALLEL LINE – in BANGKOK ค่ะ สำหรับงานนี้จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 28 และวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2567 ณ IMPACT ARENA ค่ะ ได้ยินมาว่า IMPACT ARENA เป็นฮอลล์ในร่มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยนะคะ ต้องขอบคุณความรักและการสนับสนุนจาก MY ชาวไทยทุกคนที่ทำให้เรามีโอกาสได้แสดงในฮอลล์ที่ใหญ่ขึ้นค่ะ พวกเรากำลังเตรียมตัวกันอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะตอบแทนทุกคนด้วยการแสดงที่เท่ยิ่งขึ้น ดังนั้น ช่วยรอติดตามกันเยอะ ๆ นะคะ MY ชาวไทยทุกคนคะ ! วันที่ 28-29 กันยายนนี้ มาเจอกันให้ได้เลยนะคะ รับรองว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ ปังมาก บ๊ายบาย ~ ❞

aespa วงสังกัดค่าย SM Entertainment ที่กำลังครองความสนใจและมาแรงที่สุดในขณะนี้ พวกเธอได้รับคำชื่นชมและการขนานนามในฐานะ ‘วงที่สร้างความฮิตระดับโลก’ และ ‘วงที่นำเทรนด์ใหม่’ แห่งวงการเพลงเค-ป๊อป ด้วยโลกทัศน์ของวงที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนไม่เหมือนใคร ทำให้นอกจากแฟนเพลงเค-ป๊อปแล้ว ผู้คนจากหลากหลายวงการต่างก็รอคอยติดตามผลงานเพลงที่ถูกสร้างสรรค์ออกมาอย่างมีรายละเอียด แปลกใหม่ และคุณภาพสูงขึ้นทุกครั้งที่ปล่อยออกมา ไม่ว่าจะเป็นเพลงฮิตอย่าง ‘Black Mamba’, ‘Next Level’, ‘Savage’, ‘Dreams Come True’, ‘Illusion’, ‘Girls’, ‘Spicy’, ‘Better Things’, ‘Drama’ ฯลฯ โดยเฉพาะการคัมแบ็กล่าสุดในอัลบั้มเต็มชุดแรกนับตั้งแต่เดบิวต์ ‘Armageddon’ ที่รวบรวมคอนเซ็ปต์และอัตลักษณ์ของพวกเธอ อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จเข้าสู่ชาร์ต ‘Billboard 200’ และนิตยสารธุรกิจชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ‘Forbes’ ยังกล่าวชื่นชมว่า “อัลบั้มใหม่ของเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีใต้ทะยานสู่ลิสต์ของอัลบั้มที่ขายได้เยอะที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล” โดยอัลบั้มชุดนี้มาพร้อมดับเบิลไตเติลที่ระเบิดความสำเร็จฮิตทะลุจักรวาลแม้ปล่อยมานานกว่า 2 เดือน ได้แก่ ‘Armageddon’ เพลงฮิปฮอป แดนซ์ ที่ยังคงติดอันดับ TOP10 บนทุกชาร์ตเพลงดิจิทัลหลักในประเทศเกาหลีใต้ และ ‘Supernova’ เพลงแดนซ์สุดติดหูโชว์เสน่ห์ความฮิปตามสไตล์ ที่นั่งแท่นอันดับ 1  บนชาร์ตเพลงดิจิทัลหลักในประเทศเกาหลีใต้จนถึงปัจจุบัน และสร้างสถิติใหม่ที่ดีที่สุดตลอดกาลของวง เช่น เพลงเกิร์ลกรุ๊ปที่สามารถ Perfect All-Kill หรือครองอันดับ 1 บนทุกชาร์ตเพลง ทั้งแบบเรียลไทม์ ประจำวัน และประจำสัปดาห์มากที่สุดในปี 2024, เพลงที่ครองอันดับ 1 ประจำสัปดาห์บนชาร์ตเพลงดิจิทัลหลักในประเทศเกาหลีใต้อย่าง Melon และ Genie ได้ยาวนานที่สุดในบรรดาเพลงที่ปล่อยออกมาในปี 2024, เพลงเกิร์ลกรุ๊ปเค-ป๊อปวงแรกที่ได้รับเลือกให้เป็นเพลงประกอบการแสดงน้ำพลุสุดยิ่งใหญ่ ‘IMAGINE show’ ที่ดูไบ, หนึ่งใน ‘เพลงที่ดีที่สุดในช่วงครึ่งแรกของปี 2024’ (BEST SONGS OF 2024 (SO FAR)) เลือกโดย ‘DORK’ นิตยสารด้านดนตรีในสหราชอาณาจักร และอีกมากมายอย่างนับไม่ถ้วน

ตามชื่อคอนเสิร์ต ‘SYNK : PARALLEL LINE’ คอนเซ็ปต์ได้รับแรงบันดาลใจจากโลกทัศน์ใหม่ของ aespa ที่ขยายไปสู่โลกคู่ขนานที่มีหลากหลายด้าน ซึ่งจะนำเสนอการแสดงที่เหมือนกับละคร ผ่านวีซีอาร์และเซ็ตลิสต์ต่าง ๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวโลกทัศน์ที่ไม่มีใครเทียบได้ ร่วมด้วยโปรดักชันเวทีและการเรียบเรียงเพลงที่ยกระดับเอกลักษณ์และความทรงพลังของการแสดงอย่างเหนือชั้น ตั้งแต่เพลงจากอัลบั้มเต็มชุดแรกทุกเพลงที่จะแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เพลงเมกะฮิตก่อนหน้านี้ ไปจนถึงเพลงโซโล่ใหม่ของแต่ละสมาชิก โดยพวกเธอได้เปิดฉากเวิลด์ทัวร์ครั้งที่สอง ‘2024 aespa LIVE TOUR – SYNK : PARALLEL LINE –’ เมื่อวันที่ 29-30 มิถุนายน 2024 ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ต่อด้วยฟุกุโอกะ นาโกย่า ไซตามะ สิงคโปร์ โอซาก้า ในเดือนกรกฎาคม, ฮ่องกง ไทเป โตเกียว จาการ์ตา ซิดนีย์ ในเดือนสิงหาคม รวมถึงเมลเบิร์น มาเก๊า และปิดทัวร์ครึ่งแรกที่กรุงเทพฯ ในเดือนกันยายน รวมทั้งหมด 14 ภูมิภาคในเอเชียและออสเตรเลีย ซึ่งกระแสตอบรับของเวิลด์ทัวร์ครั้งนี้ถล่มทลายสุด ๆ เพราะนอกจากจะเพิ่มรอบตามคำเรียกร้องของแฟนคลับ บัตรก็ยังหมดเกลี้ยงทุกที่นั่งทันทีที่เปิดจำหน่าย ตอกย้ำถึงพลังการจำหน่ายบัตรในระดับโลกอีกครั้ง หลังจากนี้ aespa (เอสป้า) มีกำหนดเสร็จสิ้นการทัวร์ในเอเชียและออสเตรเลียช่วงเดือนกันยายนนี้ และเดินหน้าทัวร์ต่อในอเมริกาและยุโรปช่วงต้นปีหน้า 2025

ยิ่งไปกว่านั้น คอนเสิร์ตของ aespa ที่กรุงเทพฯ ครั้งนี้ ได้ยืนยันถึงความมีอิทธิพลและความนิยมที่เติบโตไปอีกขั้นในประเทศไทย จากคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก ‘aespa LIVE TOUR 2023 ‘SYNK : HYPER LINE’ in BANGKOK’ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29-30 กรกฎาคม 2023 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี บัตรจำหน่ายหมดทั้ง 2 รอบการแสดง รวมผู้ชมกว่า 10,000 คน สู่การอัปสเกลให้ยิ่งใหญ่ขึ้นในคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งที่สอง ‘2024 aespa LIVE TOUR – SYNK : PARALLEL LINE – in BANGKOK’ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 28-29 กันยายน 2024 ณ อิมแพ็ค อารีน่า โลกทัศน์ที่มีเพียงแค่ aespa (เอสป้า) เท่านั้นที่สามารถแสดงได้ และการกลับมาอย่างน่าทึ่งของ KARINA (คาริน่า), GISELLE (จีเซลล์), WINTER (วินเทอร์) และ NINGNING (หนิงหนิง) จะเชื่อมโยงทุกคนไปสัมผัสกับโลกทัศน์ด้านไหนบ้าง มาร่วมพิสูจน์ไปด้วยกัน !

“TAEMIN” พร้อมระเบิดความมันส์กับคอนเสิร์ตเดี่ยวแรกในไทย

Alternative Textaccount_circle

“TAEMIN” พร้อมระเบิดความมัน เวิล์ดทัวร์คอนเสิร์ตเดี่ยวแรกในไทย ปักหมุดดีเดย์ 28 ก.ย.นี้ “แทมเมทไทย” เตรียมล็อกคิวกดบัตรได้เลย!!

ทนเสียงเรียกร้องว่าคิดถึงไม่ไหว ศิลปินหนุ่มดาเมจรุนแรงต่อใจ ที่การันตีทุกผลงานเพลงฮอต กับเพอร์ฟอแมนซ์สุดเพอร์เฟ็คทุกสเตจอย่าง แทมินพร้อมแล้วที่จะมาระเบิดความมันส์ในเวิล์ดทัวร์คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกกับงาน 2024 TAEMIN WORLD TOUR [Ephemeral Gaze] หลังประกาศทัวร์ ‘แทมเมท’ (TAEMate : ชื่อแฟนคลับ) ทั่วโลกต่างตื่นเต้นไปกับคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดแลนด์ดิ้งของทัวร์นี้

ล่าสุดหนุ่มแทมินไม่รอช้า ส่งข้อความสุดเอ็กคลูซีฟมาอ้อนแฟนๆ ชาวไทย หวังว่าทุกคนจะมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งความทรงจำอันแสนพิเศษกับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทย “สวัสดีครับ แทมินครับ วันนี้ผมมีข่าวดีมาบอกแฟนๆ ชาวไทยด้วยนะครับ ในที่สุดผมก็จะได้จัดเวิล์ดทัวร์ และไปพบกับแฟนๆ ที่ประเทศไทยแล้วนะครับ ในวันที่ 28 กันยายนนี้ ที่ IDEA LIVE, BRAVO BKK งาน 2024 TAEMIN WORLD TOUR [Ephemeral Gaze] IN BANGKOK หวังว่าจะได้พบกับทุกคนในงานนี้นะครับ ผมจะตั้งใจเตรียมตัวกับคอนเสิร์ตครั้งนี้อย่างเต็มที่เพื่อให้แทมเมททุกคนถูกใจ แล้วมาสร้างความทรงจำดีๆ ไปด้วยกันเยอะๆ นะครับ ขอบคุณครับ”

สำหรับงาน 2024 TAEMIN WORLD TOUR [Ephemeral Gaze] IN BANGKOK หนุ่มแทมิน เตรียมขนทุกเพลงหลากหลายแนวมาโชว์ให้แฟนๆ ได้ชมกันอย่างจุใจ พร้อมความพิเศษอัดแน่นที่แฟนๆ ทุกคนต้องมาชม และพบกับแทมินอย่างใกล้ชิดด้วยตัวเอง ที่สำคัญผู้จัด ไอมี่ไทยแลนด์ (iMe Thailand) พร้อมจัดเต็มแสงสีเสียง เพื่อความสนุกเต็มรูปแบบ แล้วพบกันในวันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2567 ณ ไอเดีย ไลฟ์ บราโว แบงคอก (Idea Live, BRAVO BKK)

งานนี้เปิดจองบัตรรอบ TAEMate Membership Presale ในวันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม 2567 เวลา 12.00 – 18.00 น. และจะเปิดจองบัตรในรอบทั่วไปวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ผ่านทาง www.imethai.com บัตรราคา 6,800 / 5,900 / 4,900 / 3,900 และ 2,900 บาท (บัตรนั่งทุกที่นั่ง) งานนี้มีสิทธิพิเศษให้แฟนๆ ได้มาใกล้ชิดแทมินอีกเพียบ ติดตามรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้เลยที่ Facebook @imethailand, IG และ Twitter @ime_th

ชานยอล เดบิวต์โซโล่ในรอบ 12 ปี พร้อมมินิอัลบั้มชุดแรก ‘Black Out’

Alternative Textaccount_circle

ชานยอล เดบิวต์โซโล่ในรอบ 12 ปี พร้อมมินิอัลบั้มชุดแรก ‘Black Out’สั่งสมรายละเอียดทางดนตรีเพื่อถ่ายทอดผ่านเพลงหลากหลายแนวตามสไตล์

CHANYEOL (ชานยอล) นำเสนอเสน่ห์ที่แตกต่างออกไปในฐานะศิลปินเดี่ยวด้วยมินิอัลบั้มชุดแรก ‘Black Out’ โซโล่อัลบั้มแรกของเขาในรอบ 12 ปีหลังจากการเดบิวต์ภายใต้วง EXO (เอ็กซ์โซ) เมื่อปี 2555 ในอัลบั้มชุดนี้จะถ่ายทอดรายละเอียดทางดนตรีที่ CHANYEOL สั่งสมประสบการณ์มาจนถึงปัจจุบัน ก่อนหน้านี้ เขาได้ทำกิจกรรมทางดนตรีที่มีความหลากหลายทั้งแนวเพลงและรูปแบบ ตั้งแต่วง EXO, ยูนิต EXO-SC, เพลงโซโล่ ‘봄 여름 가을 겨울 (SSFW)’ และ ‘Tomorrow’ ที่ปล่อยผ่านโปรเจกต์ SM ‘STATION’, ซิงเกิล ‘그래도 돼 (Good Enough)’ ฯลฯ ไปจนถึงการร่วมงานกับศิลปินท่านอื่น, การร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ ละคร และเว็บตูน เป็นต้น

สำหรับมินิอัลบั้มชุดแรก ‘Black Out’ ประกอบด้วยทั้งหมด 6 เพลงที่ CHANYEOL ได้ลองท้าทายแนวเพลงต่างๆ เช่น ร็อกและฮิปฮอปที่มีพื้นฐานมาจากป๊อป อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในการเขียนเนื้อเพลงที่รวมอยู่ในอัลบั้มนี้ เริ่มจากเพลงไตเติลชื่อเดียวกับอัลบั้มว่า ‘Black Out’ เป็นเพลงแนวป็อปร็อก ผสมผสานจังหวะเร็วเข้ากับกีตาร์อะคูสติกแบบมินิมอลและซินธ์ที่กระตุ้นอารมณ์อันมืดมน เนื้อเพลงเปรียบเทียบปรากฏการณ์ Black Out กับสภาวะที่ไม่มั่นคงที่เกิดขึ้นหลังจากการเลิกรา โดยเฉพาะมิวสิกวิดีโอของเพลงนี้ถ่ายทำขึ้นในฮ่องกง พาผู้ชมเพลิดเพลินไปกับการแสดงอารมณ์อันแสนเศร้าและภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของ CHANYEOL ท่ามกลางฉากหลังที่เป็นถนนยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยป้ายไฟนีออน

ไม่เพียงเท่านี้ ในอัลบั้มยังมีเพลงสำหรับแฟนคลับ ‘I’m on your side too’ แนวพังก์ร็อกที่เนื้อเพลงเขียนโดย CHANYEOL ทั้งหมด ส่งต่อข้อความอันจริงใจที่อยากสื่อถึงคนที่คอยอยู่เคียงข้างมายาวนาน, เพลงแนวอีโมป๊อป ‘Hasta La Vista’ พร้อมคำมั่นสัญญาถึงอนาคตที่จะได้พบกันอีกครั้ง, เพลงอัลเทอร์เนทีฟป๊อป ‘Ease Up’ เกี่ยวกับความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่รู้สึกขณะใช้เวลาทั้งวันร่วมกับคนรักอย่างสบายใจที่สุด, เพลง ‘Back Again’ แนวอัลเทอร์เนทีฟฮิปฮอปที่ให้ความรู้สึกถึงพลังของร็อกและโอลด์สคูลฮิปฮอปไปพร้อมกัน พูดถึงเรื่องราวของการเป็นฮีโร่ในจินตนาการและการต่อสู้เพื่อตามหาตอนจบที่มีความสุขกับคนรัก แต่สุดท้ายก็กลับคืนสู่ความเป็นจริงทั้งที่ยังทำไม่สำเร็จ และเพลงป๊อป ‘Clover’ บอกเล่าเรื่องราวของอารมณ์ต่างๆ ที่มีต่อสัตว์เลี้ยงอันล้ำค่าที่ทำให้ชีวิตประจำวันธรรมดากลายเป็นเรื่องพิเศษ เช่นเดียวกับใบโคลเวอร์สี่แฉกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี

ทั้งนี้ หลังจากปล่อยมินิอัลบั้มชุดแรก CHANYEOL เตรียมเดินทางไปพบกับแฟนคลับอย่างใกล้ชิดผ่านการจัดไลฟ์ทัวร์ ‘2024 CHANYEOL LIVE TOUR : 都市風景 (City-scape)’ ใน 10 ภูมิภาคของเอเชีย เริ่มจากกรุงโซล ในวันที่ 6-7 กันยายนนี้ ณ BLUESQUARE MASTERCARD HALL สำหรับ EXO-L (เอ็กซ์โซ-แอล : ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ชาวไทยรอมาสร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกันใน ‘2024 CHANYEOL LIVE TOUR : 都市風景 (City-scape) in BANGKOK’ วันที่ 26 ตุลาคมนี้ เวลา 17:00 น. ณ ธันเดอร์โดม

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง SM True : Facebook facebook.com/smtruethailand, Instagram instagram.com/smtruethailand, X x.com/SMTrueThailand  และ TikTok tiktok.com/@smtruethailand

กระทรวงมหาดไทย แถลงข่าวการประกวดโครงการนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ประจำปี 2567    

account_circle

เพื่อเปิดเวทีให้ดีไซเนอร์หน้าใหม่ได้มีโอกาสแสดงฝีมือในการออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่นจากผืนผ้าไทย รวมทั้งได้พัฒนาทักษะในการตัดเย็บชุดผ้าไทยให้มีดีไซน์เข้ากับยุคสมัยและใส่สนุกยิ่งขึ้น กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน จึงจัดการประกวดนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ ประจำปี 2567 “New Gen Young Designer 2024” เพื่อเฟ้นหาดีไซเนอร์และนักออกแบบหน้าใหม่ ที่สร้างสรรค์ผืนผ้าไทย ทรงคุณค่าให้สามารถสวมใส่ได้อย่างสนุก สำหรับ ทุกเพศ ทุกวัย ในทุกโอกาสของชีวิตประจำวัน โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนเป็นประธานในการแถลงข่าว พร้อมด้วย จิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ อุปนายกสมาคม (กรมการปกครอง), ธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทยและที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก, นายอารยา อินทรา ที่ปรึกษาด้านแฟชั่น อาจารย์พิเศษด้านแฟชั่น และสไตลิสต์ รวมถึงนายศิริชัย ทหรานนท์ นักออกแบบและเจ้าของกิจการแบรนด์เธียเตอร์ เป็นตัวแทนในการเปิดเผยรายละเอียดของโครงการในงานแถลงข่าว ในวันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2567 ณ ห้องแซฟไฟร์ 202-203 อาคารศูนย์ประชุม อิมแพ็ค ฟอรั่ม

นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยถึงที่มาของโครงการนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ ประจำปี 2567  ว่า “กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้น้อมนำแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา มาขับเคลื่อนในการพัฒนายกระดับคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์ผ้าไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาศักยภาพผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ให้มีทักษะและองค์ความรู้ด้านการออกแบบที่ทันสมัยสอดคล้องกับความต้องการของตลาดสากล โดยในปีพ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา กรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการออกแบบตัดเย็บผ้าไทย ภายใต้โครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ซึ่งผลจากการดำเนินโครงการดังกล่าวทำให้มีนักออกแบบตัดเย็บผ้าไทยรุ่นใหม่ที่เป็นตัวแทนของนักออกแบบจากทั่วประเทศใน 4 ภูมิภาค จำนวน 40 ราย ที่มีความสามารถในการออกแบบชุดผ้าไทยที่สวยงาม ทันสมัย สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศ ทุกวัย และทุกโอกาส นำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และคนในชุมชนให้มีอาชีพ มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็งชุมชนสามารถพึ่งตนเองได้ และเพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาต่อยอดนักออกแบบผ้าไทยที่เป็นคนรุ่นใหม่ให้เข้าสู่ตลาดสากลมากขึ้น กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จึงได้จัดประกวดนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ 2567 (New Gen Young Designer 2024) ขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของโครงการและเพื่อพัฒนาผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย สู่การเป็นนักออกแบบผ้าไทย เพิ่มช่องทางการตลาดให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย และนักออกแบบผ้าไทย รวมไปถึงเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการใช้และการสวมใส่ผ้าไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย”   

สำหรับการประกวดนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ กำหนดจัดประกวดรอบคัดเลือก ในวันที่ 26 สิงหาคม 2567 ณ อาคารศูนย์การประชุม อิมแพ็ค ฟอรั่ม และจัดการประกวดระดับภูมิภาค 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ในวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน 2567 ณ โรงแรมเมอร์เคียว จังหวัดเชียงใหม่ ภาคใต้ ในวันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2567 ณ โรงแรมลากูน่า จังหวัดสงขลา ภาคอีสาน ในวันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2567 จังหวัดอุดรธานี ณ มณฑาทิพย์ฮอลล์ และรอบตัดสินชิงชนะเลิศ ในวันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2567 ณ ไอคอนสยาม สุราลัยฮอลล์ กรุงเทพฯ

สำหรับรางวัลการประกวด ผู้ที่ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท พร้อมจักรเย็บผ้า และ iPad, รางวัล รองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 100,000 บาท, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 75,000 บาท, รางวัลชมเชย จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 40,000 บาท และผู้ที่เข้ารอบการประกวดในระดับประเทศ จำนวน 40 คน/ทีม จะได้รับเกียรติบัตรเข้าร่วมโครงการทุกราย

ได้ถือก่อนใคร ‘ฟรีน สโรชา’ กับกระเป๋า VOLTAIRE จาก SAINT LAURENT

Alternative Textaccount_circle

เตรียมเก็บเข้าลิสต์ It Bag! ซูมอินดีเทลกระเป๋าถือใบใหม่ SAINT LAURENT – VOLTAIRE ของ ฟรีน สโรชา

แค่เห็นรูปที่ปล่อยออกมาก็รู้สึกฮ็อตเกินต้านทานกับ ‘ฟรีน สโรชา’ นักแสดงมากความสามารถที่ SAINT LAURENT เลือกมาเป็นผู้นำเสนอ VOLTAIRE TOP HANDLE กระเป๋าถือรุ่นใหม่ รังสรรค์จากหนังลูกวัวสีดำในดีไซน์คลาสสิกและเรียบหรูเหมือนเคย โดดเด่นด้วยโลโก้ Cassandre ซิกเนเจอร์ประจำแบรนด์ นอกจากนี้สายสะพายยังใช้งานได้ 2 แบบ ไม่ว่าจะสะพายไว้บนไหล่ หรือถือเป็นคลัตช์ก็ได้เช่นกัน หากถามว่ากระเป๋าใบนี้เหมาะกับใคร คงเป็นคนที่มีสไตล์เรียบโก้หน่อยๆ ปนความเปรี้ยวเล็กๆ เหมือนกับลุคที่ฟรีนได้นำเสนอออกมานั่นเอง

อย่างไรก็ตามหากลองไปค้นในเว็บไซต์ทางการของแบรนด์อาจยังไม่พบข้อมูลของกระเป๋าใบนี้ เพราะคงเป็นใบใหม่ที่ยังไม่มีวางจำหน่าย ราคาเปิดตัวจะอยู่ที่เท่าไหร่ ต้องมารอลุ้นไปพร้อมกัน

Outlet

Outlet คืออะไร? ทำไมขายสินค้าราคาต่ำกว่าห้างสรรพสินค้าทั่วไป

account_circle
Outlet
Outlet

หลายคนน่าจะเคยได้ยินหรือเคยเห็นร้านค้าประเภท Outlet ผ่านตากันมาบ้าง ซึ่งร้านค้าเหล่านี้มีจุดเด่นคือ การขายสินค้าแบรนด์เนมในราคาที่ถูกกว่าในร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป ทำให้เกิดคำถามตามมามากมายว่าสินค้าที่ขายนั้นเป็นของแท้หรือไม่ ทำไมถึงขายได้ถูก และมักมีการติดป้าย Sale กระหน่ำให้เห็นบ่อย ๆ จนหลายคนอดใจไม่ไหวต้องเข้าไปซื้อ บทความนี้ขอชวนทุกคนมารู้จักว่าร้านค้า Outlet คืออะไร ขายอะไรบ้าง ใช่ของแท้หรือเปล่า และทำไมถึงขายสินค้าได้ถูก เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน

รู้จัก Outlet Store แหล่งช้อปสินค้าแท้ในราคาประหยัด

ร้านค้าเอาท์เล็ท (Outlet Store) เป็นร้านค้าปลีกประเภทหนึ่งที่มีมานานแล้ว ซึ่งเป็นร้านที่รวบรวมสินค้าแบรนด์ดังหลายแบรนด์มาขายในราคาถูกด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น เป็นสินค้าคอลเลกชันเก่า, สินค้าค้างสต๊อก, สินค้าผลิตมาเกิน หรือสินค้าที่มีตำหนิเล็กน้อยแต่ไม่ส่งผลต่อการใช้งาน โดยแต่ละแบรนด์จะเคลียร์สินค้าเหล่านี้มาขายในราคาที่ถูกลงจากราคาหน้าร้านปกติ เพื่อลดต้นทุนการดูแลสินค้าเก่าและเปิดพื้นที่ให้สินค้าคอลเลกชันใหม่มาแทนที่ ดังนั้นสินค้าที่ขายใน Outlet จึงเป็นสินค้าของแท้ 100% และยังมีคุณภาพดีเหมือนใหม่อีกด้วย

ร้านค้า Outlet ช่วยให้ผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าแบรนด์ดังในราคาที่ถูกลง สามารถเลือกซื้อสินค้าได้หลากหลายแบรนด์โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปหลายแห่ง นอกจากนี้ ยังมีสินค้าลิมิเต็ดบางอย่างของแต่ละแบรนด์ที่ผลิตมาเพื่อขายใน Outlet โดยเฉพาะอีกด้วย ทำให้ Outlet กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแท้ราคาประหยัดที่นักช้อปไม่ควรพลาด

ข้อเท็จจริงของสินค้า Outlet ที่นักช้อปต้องรู้

การซื้อสินค้าที่ร้านค้า Outlet เป็นทางเลือกที่ดีของคนที่ต้องการสินค้าแบรนด์ดังคุณภาพดีในราคาประหยัด อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าที่ Outlet นักช้อปควรทราบข้อเท็จจริงต่าง ๆ เกี่ยวกับสินค้าที่วางจำหน่าย ดังนี้

สินค้า Outlet เป็นรุ่นเก่า

สินค้าที่วางจำหน่ายในร้านค้า Outlet มักเป็นสินค้ารุ่นเก่าหรือเคยอยู่ในคอลเลกชันก่อนหน้า ซึ่งแต่ละแบรนด์ได้คัดเลือกมาขายในราคาถูกเพื่อนำสินค้ารุ่นใหม่ ๆ เข้าไปแทนที่ ดังนั้นหากไม่ซีเรียสว่าจะต้องซื้อเป็นสินค้ารุ่นล่าสุด การซื้อสินค้างาน Outlet ถือเป็นทางเลือกที่ช่วยประหยัดเงินได้มาก

สินค้า Outlet เป็นสินค้าลดราคา

สินค้าใน Outlet มักมีราคาถูกกว่าสินค้าในร้านค้าทั่วไปหรือบนห้างสรรพสินค้า เพราะแต่ละแบรนด์ต้องการเคลียร์สินค้ารุ่นเก่าที่ยังค้างสต๊อกอยู่ออกไปให้หมด จึงมีการจัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม เพื่อดึงดูดให้คนเข้าไปซื้อ ซึ่งบางครั้งอาจมีส่วนลดเพิ่มในช่วงเทศกาลหรือวันสำคัญด้วย ทำให้สามารถซื้อสินค้าแบรนด์ดังได้ในราคาที่ถูกกว่าบนห้างสรรพสินค้าหลายบาท

สินค้า Outlet เป็นสินค้ามีตำหนิ

สินค้าบางรายการในร้านค้า Outlet อาจมีตำหนิเล็กน้อย เช่น รอยขีดข่วน หรือการตัดเย็บที่ไม่เรียบร้อย แต่ตำหนิเหล่านี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานหรือความทนทานของสินค้า ซึ่งแต่ละแบรนด์จะมีการตรวจสอบสินค้าอย่างละเอียดก่อนนำมาวางขาย ผู้ซื้อจึงมั่นใจได้ว่าตำหนิที่มีนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ และไม่กระทบต่อการใช้งานในระยะยาว

สินค้า Outlet บางรุ่นเป็นสินค้าที่ผลิตมาเฉพาะ

สินค้า Outlet บางรุ่นเป็นสินค้าที่ผลิตมาเฉพาะเพื่อขายในร้านค้า Outlet เท่านั้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อที่มีมากขึ้น ซึ่งสินค้าที่วางขายอาจจะเป็นสินค้ารุ่นที่ราคาประหยัด วัสดุที่ใช้อาจเรียบง่ายไม่ละเอียดเท่าสินค้าใน Shop แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นของปลอมแต่อย่างใด

สินค้า Outlet Store กับ Official Shop ต่างกันอย่างไร?

สินค้า Outlet

ความจริงแล้วสินค้าจาก Outlet นั้นแทบไม่ต่างจากสินค้าใน Official Shop เนื่องจากเป็นสินค้าของแท้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าแต่สินค้างาน Outlet นั้นอาจจะเป็นคอลเลกชันเก่าที่ผลิตมานานแล้ว หรือเป็นสินค้ามีตำหนิเล็กน้อยที่แต่ละแบรนด์นำมาขายในราคาถูก เพื่อเคลียร์สต๊อกให้มีพื้นที่ว่างสำหรับคอลเลกชันใหม่ ๆ ซึ่งคุณภาพของตัวสินค้า วัสดุ หรือการตัดเย็บต่าง ๆ ล้วนมีคุณภาพสูง สามารถใช้งานได้เหมือนสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ของแต่ละแบรนด์เช่นเดียวกัน

Outlet Store มีสินค้าราคาโปรโมชั่นจากหลายแบรนด์ชั้นนำ

Outlet Store

อีกหนึ่งข้อดีของ Outlet Store คือเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าจากหลาย ๆ แบรนด์ไว้ในที่เดียว ซึ่งผู้ซื้อสามารถเลือกช้อปสินค้าแบรนด์ดังในราคาที่ถูกกว่าร้านค้าบนห้างสรรพสินค้าหลายบาท รวมถึงมีโปรโมชั่นลดราคามากมาย ตัวอย่างแบรนด์สินค้าใน Outlet ได้แก่ Adidas, Anello, Coach, Champion, Converse, Crocs, Fila, Guess, Mango, New Balance, Wrangler, Lee, Levi’s, Polo Ralph Lauren, Puma, Reebok, Samsonite, Skechers, Timberland หรือ Vans ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง เพราะยังมีแบรนด์ดังและแบรนด์หายากอีกมากมาย

Central Village Outlet ศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมคุณภาพดี ที่สายช้อปไม่ควรพลาด

Outlet Store เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์ดังคุณภาพดีที่มีหลากหลายตัวเลือกในราคาที่คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสินค้าอุปโภคอื่น ๆ การเลือกซื้อสินค้าจาก Outlet ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แต่ยังได้สินค้าของแท้จากแบรนด์ดังที่มีคุณภาพสูงด้วย 

อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งสิ่งที่นักช้อปต้องคำนึงถึงคือการเลือก Outlet ที่น่าเชื่อถือ มีขนาดใหญ่ มีสินค้าจากหลาย ๆ แบรนด์ดังมาขาย มีที่จอดรถสะดวกสบาย และมีรีวิวดีทั้งแบบปากต่อปากและรีวิวในโซเชียลมีเดีย ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นการการันตีว่า Outlet แห่งนั้นมีความน่าเชื่อถือและขายสินค้าของแท้จากแบรนด์จริง ๆ

หากคุณกำลังมองหา Outlet ในกรุงเทพฯ “Central Village Outlet” เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ที่นี่เป็นศูนย์รวมของแบรนด์เนมชั้นนำระดับโลกมากมายที่คุณสามารถเลือกสรรได้ตามใจชอบ

ก้อง-ก้องภพ จิโรจน์มนตรี

ทำความรู้จัก หนุ่มลักยิ้มหล่อใจละลาย ก้อง-ก้องภพ จิโรจน์มนตรี

Alternative Textaccount_circle
ก้อง-ก้องภพ จิโรจน์มนตรี
ก้อง-ก้องภพ จิโรจน์มนตรี

ทำความรู้จัก หนุ่มลักยิ้มหล่อใจละลาย ก้อง-ก้องภพ จิโรจน์มนตรี กับ 5 เรื่องไ่ม่ลับแต่แฟนๆอาจจะยังไม่รู้

นิยามความเป็น “ก้อง”

“ก้องมีเอเนอร์จี้เยอะครับ (ยิ้ม) เป็นเอกซ์โทรเวิร์ต ชอบเข้าสังคม ช่วงที่เข้า มหาวิทยาลัยใหม่ ๆ ผมอยากรู้จักทุกคน เจอใครก็เดินเข้าไปทัก สักพักเริ่มมีปัญหา จําชื่อไม่ได้ เพราะว่าทักเยอะเกิน (หัวเราะ)ก้องเป็นสายกิจกรรมด้วยครับ เล่นกีฬา งานโรงเรียน ทําทุกอย่างเลย และอีกอย่างที่ชัดเจนมาก ๆ คือชอบกิน โดยเฉพาะพวกของหวานเย็น ๆ อย่าง บิงซู น้ําแข็งไส และขนมรสสตรอว์เบอร์รี่ จะชอบเป็นพิเศษครับ”

ก้อง-ก้องภพ จิโรจน์มนตรี

ท้าทายสุด

“เรื่องท้าทายที่สุดตอนนี้น่าจะเป็นการทํางานไปด้วยเรียนไปด้วย ต้องแบ่งเวลารวมถึงความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น ต้องบริหารจัดการให้ดีครับ”

อินสุดใจ

“ช่วงนี้ชอบทําอาหาร เมนูที่ทําบ่อยคือสปาเกตตีซอสครีมไข่กุ้ง แล้วก็อาหารจีน อย่างปลานึ่งขิง เพราะเป็นครอบครัวคนจีน อาหารไทยกําลังฝึกอยู่ครับ ส่วนขนมเคยทํามาการองด้วยนะ แต่ยังไม่ค่อยสําเร็จ ค่อนข้างยากครับมีช่วงหนึ่งเวลาเห็นร้านอาหารน่ากินน่าสนใจจะรีบนอน รุ่งขึ้นจะได้รีบออกไปกินร้านที่จดไว้ คือจริงจังเรื่องกินสุด ๆ ครับ” (ยิ้ม)

ก้อง-ก้องภพ จิโรจน์มนตรี

มุมลับ

“หลายคนอาจเห็นว่าก้องร่าเริง ยิ้มเก่ง แต่มุมเครียดก็มีครับ โดยเฉพาะ ช่วงใกล้สอบ ผมถนัดวิชาที่ไม่ต้องใช้ความจําเยอะ เพราะจะจําได้แค่ช่วงสั้นๆ แต่ ถ้าเป็นวิชาคํานวณ อย่างฟิสิกส์ เลข การวิเคราะห์ จะทําได้ดีกว่า”

เรื่องรัก ๆ

“ความรักเป็นสิ่งสําคัญและจําเป็นสําหรับทุกคน อย่างเวลาที่เราเหนื่อย แล้วได้เจอคนที่เรารักก็จะหายเครียดได้ เป็นพลังทั้งคนให้และคนรับเลย “ผมชอบคนน่ารักทั้งนิสัยและหน้าตา เจอแล้วจะแพ้ทาง แม้ผมจะเอเนอร์จี้ เยอะ ก็ไม่ได้ขอให้เขาต้องมีเอเนอร์จี้ไปกับเราตลอด แค่ไม่นิ่งตลอดเวลาและ ไม่เบื่อผมก็พอ” (หัวเราะ)

ข้อมูล นิตยสารแพรว

โทมัส-ธีร์ทัศน์ จึงมณีรัตน์

หนุ่มหล่อออร่าพุ่ง โทมัส-ธีร์ทัศน์ จึงมณีรัตน์ เจ้าของบท พี่หมื่นฟ้า

Alternative Textaccount_circle
โทมัส-ธีร์ทัศน์ จึงมณีรัตน์
โทมัส-ธีร์ทัศน์ จึงมณีรัตน์

ทำความรู้จัก 4 เรื่องไม่ลับของ โทมัส-ธีร์ทัศน์ จึงมณีรัตน์ เจ้าของบท พี่หมื่นฟ้า จากซีรีส์ กี่หมื่นฟ้า Your Sky Series

ถือเป็นซีรีส์บอยเลิฟที่ได้กระแสตอบรับจากแฟนๆ เป็นอย่างดีสำหรับ กี่หมื่นฟ้า หรือชื่อภาษาอังกฤษ Your Sky Series ที่นำแสดงโดย ก้อง-ก้องภพ จิโรจน์มนตรี รับบท หมื่นฟ้า ซึ่งบทบาทนี้โทมัสได้แสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติและทำให้หลายคนตกหลุมรัก

5 เรื่องไม่ลับแต่อาจไม่รู้ของ โทมัส-ธีร์ทัศน์

 โทมัส-ธีร์ทัศน์ จึงมณีรัตน์


นิยามความเป็น “โทมัส”

“ภายนอกผมอาจจะดูเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด แต่ผมดีใจที่ได้รู้จักคนใหม่ ๆ นะครับ เพียงแต่ อาจจะเขิน ไม่รู้ว่าจะชวนคุยยังไง แต่ถ้าสนิทกันแล้วผมเป็นคนจอย สนุกนะครับ ชอบอยู่ กับเพื่อน ชอบทํากิจกรรม คือมีสองโหมด ทั้งแอ็กทีฟและชอบอยู่นิ่ง ๆอาจจะเรียกว่าเป็นคนเงียบ ๆ ที่ชอบทํากิจกรรม (ยิ้ม) ที่โรงเรียนผมทั้งเล่นกีฬา นาฏศิลป์ เล่นดนตรีไทย ฉิ่ง ฉาบ ทุกอย่างเลยครับ แต่ชอบที่สุดคือเล่นกีฬา ไม่ว่าจะเป็นเบสบอล แบดมินตัน วอลเลย์บอล ฟุตบอล ปิงปอง เทนนิส ฟุตซอล บีชวอลเลย์บอล ทุกอย่างเลย ครับ ตอนเด็กผมชอบเล่นบาสมาก หลังเลิกเรียนต้องเล่นกับเพื่อนถึง 2-3 ทุ่มทุกวัน ส่วนตอนนี้ ชอบตีกอล์ฟมากที่สุดครับ”

 โทมัส-ธีร์ทัศน์ จึงมณีรัตน์

ท้าทายสุด

“ผมชอบเล่นกีฬาเพราะความท้าทาย เป็นความท้าทายที่เราทําได้ด้วยการฝึกฝน ฝึกการใช้ ร่างกาย ฝึกสกิลต่าง ๆ ยิ่งตอนที่ชนะ มันสะใจ ฟินมาก ๆ เลยครับ (ยิ้ม) ซึ่งกีฬาก็เหมือน กับการเรียนและการทํางานนะ ยิ่งเราฝึกเยอะก็จะสามารถข้ามผ่านอุปสรรคนั้นไปได้
“แต่ถ้ามองตอนนี้ เรื่องที่ท้าทายที่สุดของผมคือการทํางานครับ ผมรู้สึกว่าการทํางานสายนี้
ต้องใช้สกิลหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Soft Skill การทํางานกับคนหลากหลายแบบ และ Herd Skill อย่างการถ่ายแบบ การแสดง ทุกอย่างต้องฝึกฝนและเก็บประสบการณ์เยอะ ๆ เพราะผม อยากทําให้ผลงานออกมาดีที่สุด ผมมีความคิดว่าต้องพัฒนาและเจริญเติบโตขึ้นในทางของตัวเอง ในทุกวัน ทั้งด้านร่างกาย จิตวิทยา เรื่องงาน และเรื่องเรียน

อินสุดใจ

“ผมสนใจเรื่องจิตวิทยาตั้งแต่ ม.ต้น ตอนที่เริ่มอ่านหนังสือจิตวิทยาครั้งแรก ทําให้ชอบ ทุกอย่างเกี่ยวกับจิตวิทยา ทั้งทฤษฎี การปฏิบัติ แล้วก็ Case Study ต่าง ๆ ผมรู้สึกว่า ความคิดและสมองของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งน่าสนใจมาก ๆ และทําให้ผมเลือกเรียนด้านนี้ ด้วยครับ” (สาขาจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

มุมลับ

“เรื่องนี้เล่าแล้วแอบเขินนะครับ (ยิ้มเขิน) ผมชอบตุ๊กตามาก ทุกวันนี้ผมนอนกอดตุ๊กตาหมี ที่คุณแม่ซื้อให้ตลอด ติดน้องครับ (ยิ้ม) เพราะคุณแม่ชอบซื้อตุ๊กตา ในห้องน่าจะมีประมาณ 20 – 30
ตัวเลยครับ”

เรื่องรัก ๆ

“ผมค่อนข้างรู้สึกเยอะกับเรื่องความรัก ก็เป็นอะไรที่เจ็บอยู่นะ รักเขามาก แต่แสดงออก ไม่เป็น ค่อนข้างติดสกินชิป แต่พอโตขึ้นก็เรียนรู้มากขึ้น ทั้งการเป็นฝ่ายได้รับและการให้ ความรัก

เสิร์ฟความฟิน รู้จัก ‘ลี่เล่อ – หวังอวิ๋นข่าย – หลี่จวิ้นเหลียง – อชิ ศุกลภัทร’ นักแสดงจากซีรีส์ Meet You At The Blossom ก่อนดอกไม้บาน

Alternative Textaccount_circle

เป็นอีกครั้งที่เราได้รู้จักกับซีรีส์ย้อนยุค แนว Boy Love อย่าง “Meet You At The Blossom ก่อนดอกไม้บาน” ที่ได้ ลี่เล่อ และหวังอวิ๋นข่าย มาเป็นนักแสดงนำ รวมถึงยังมี โค่วเว้ยหลง, หลี่จวิ้นเหลียง, อชิ ศุกลภัทร, หลี่อีมู่ ที่มาช่วยทวีคูณความสนุก ซึ่งตั้งแต่ออนแอร์จนถึงตอนจบกระแสตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ จนทีมซีรีส์ขนกองทัพนักแสดงมาเยือนถึงประเทศไทย แพรวจึงไม่พลาดนำบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟมาส่งต่อความฟินไปด้วยกัน

ความประทับใจที่ได้แสดงซีรีส์ Meet you at the blossom

หวังอวิ๋นข่าย “สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ ผมประทับใจตั้งแต่ซีนแรกเลย เพราะเป็นคิสซีนด้วย เหมือนเป็นตัวช่วยละลายพฤติกรรมให้สนิทกันมากขึ้น อีกอย่างหนึ่งคือเรามีอชิที่เป็นชาวต่างชาติมาร่วมแสดง ตอนแรกแอบกังวลว่าจะมีอุปสรรคเรื่องการสื่อสารไหม แต่สุดท้ายเราก็ช่วยกันสอน อย่างฉากที่ต้องเล่นด้วยกันจะซ้อมให้รู้คิวก่อนว่าพูดตรงนี้จบ แล้วค่อยพูดต่อนะ ทุกอย่างเลยราบรื่นครับ”

ลี่เล่อ “เหมือนกันเลยครับ ผมก็ประทับใจตั้งแต่ฉากแรกที่ในซีนเหมือนเราโดนยาพิษก็ต้องแสดงให้มีความมึนๆ สับสนหน่อยๆ จำได้ว่าต้องจิบแอลกอฮอล์ไปนิดนึงเพื่อให้เข้าถึงบทบาทมากขึ้น”

หลี่จวิ้นเหลียง “ทุกคนพูดถึงฉากแรกกันเลยอยากพูดซีนแรกของตัวเองด้วย เป็นซีนที่ผมต้องขี่ม้า ครั้งนั้นต้องขี่วนอยู่หลายรอบมากกว่าจะได้ซีนที่สวยที่สุด เลยกลายเป็นหนึ่งฉากที่จดจำและประทับใจมากที่สุดครับ”

อชิ “ถ้าพูดถึงความประทับใจสำหรับอชิ คงเป็นการได้มารู้จักพี่ๆ นักแสดงและพี่ๆ ทีมงาน เพราะตอนแรกอชิกังวลมากว่าจะมีกำแพงภาษาหรือเปล่า แต่มาอยู่ในกองทุกคนก็ไนซ์มาก คอยชวนคุยตลอดเลย”

หวังอวิ๋นข่าย “จริงๆ ความประทับใจจากซีรีส์เรื่องนี้มีตั้งแต่ต้นจนจบเลยครับ อย่างในงาน Meet you at the blossom Final Episode Event ที่ให้พวกเราได้ดูอีพีสุดท้ายไปพร้อมแฟนคลับ วันนั้นแฟนๆ มาหาพวกเราเยอะมาก จนทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ทุกคนมอบให้ พวกเราซาบซึ้งกันมากๆ ครับ”

ความรู้สึกที่ได้ทำงานด้วยกัน

(ลี่เล่อ-หวังอวิ๋นข่าย)

ลี่เล่อ “ก่อนเปิดกล้องประมาณ 1 เดือน เราสองคนได้ไปเวิร์คช้อปกันก่อนครับ ทำให้คุ้นเคยและสนิทกันมาตั้งแต่ตอนนั้น ถึงคราวเข้าฉากด้วยกันเลยไม่มีอุปสรรคอะไร ทุกอย่างเลยเป็นไปอย่างราบรื่นครับ”

หวังอวิ๋นข่าย “จากที่ได้ทำงานด้วยกันก็รู้สึกว่าทุกคนตั้งใจ และจริงจังกับการแสดงมากๆ ทำให้ตอนเข้าฉาก หรือไปกองถ่ายผมมีความสุขและสนุกมากครับ” (ยิ้ม)

(หลี่จวิ้นเหลียง-อชิ)

หลี่จวิ้นเหลียง “ตอนที่รู้ว่าคู่ของเราเป็นชาวต่างชาติก็กังวลเรื่องนี้อยู่ครับ เพราะไม่รู้จะสื่อสารยังไง แต่พอเข้าฉากด้วยกันจริงๆ ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ค่อนข้างราบรื่น แม้จะต้องต่อบทจากภาษาไทย”

อชิ “เริ่มแรกชิก็กังวลเหมือนพี่เขานี่แหละว่า ภาษาจะเป็นอุปสรรคหรือเปล่า แต่พอไปถ่ายด้วยกันจริงๆ พี่เขาก็คอยช่วย เหมือนก่อนเข้าฉากพี่เขาจะชวนซ้อมบทว่าจบตรงนี้แล้วค่อยพูดต่อนะ ทำให้ฉากจริงไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ”

จุดเด่นและเสน่ห์ของตัวเอง

อชิ “สำหรับอชิเป็นจุดเด่นเรื่องการทำงานแล้วกันครับ อชิค่อนข้างเป็นคนจริงจังและอดทนมาก ถึงภายนอกเราจะดูสดใส ติดเล่นนิดๆ แต่พอต้องทำงานก็รู้สึกว่าตัวเองเข้าบทได้ไวมาก และเต็มที่กับทุกงานจริงๆ”

หลี่จวิ้นเหลียง “จุดเด่นของผมน่าจะเป็นเรื่องการเทคแคร์คนรอบข้างครับ ไม่ว่าจะเพื่อน หรือคนใกล้ตัว ผมจะคอยสังเกตอยู่ตลอดว่าแต่ละคนกำลังรู้สึกอะไรอยู่ ทำให้เวลารู้จักคนใหม่ๆ จึงเข้ากันได้ง่ายครับ”

ลี่เล่อ “ผมมีเซ้นส์เรื่องการเดินทางและความรับผิดชอบ เวลาใครไปเที่ยวกับผมไม่ต้องกลัวหลงเลย เพราะผมจะเตรียมตัว ดูแผนที่ วางแผนการเดินทางก่อนเสมอ”

หวังอวิ๋นข่าย “อาจไม่ถึงเป็นจุดเด่น แต่ผมว่าน่าจะเป็นข้อดีที่เราเป็นคนค่อนข้างละเอียดอ่อน ไวต่อความรู้สึก และอีกอย่างคือผมรู้วิธีเข้าหาเพื่อนใหม่ได้ดีเลยครับ ”

ข้อความถึงแฟนๆ ชาวไทย

หลี่จวิ้นเหลียง “มาไทยครั้งนี้ถึงจะเป็นครั้งแรกแต่ผมซาบซึ้งมาก จนอยากมาอีกหลายๆ ครั้งเลยครับ ต้องขอบคุณแฟนชาวไทยทุกคนจริงๆ”

หวังอวิ๋นข่าย “ผมก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ได้มาประเทศไทย ตั้งแต่มาถึงก็ได้รับความอบอุ่นจากแฟนๆ เยอะมาก จนรู้สึกประทับใจและมีความสุขมากๆ ครับ”

ลี่เล่อ “ส่วนผมนี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วครับที่ได้มาไทย แต่ความรู้สึกค่อนข้างแตกต่างไปจากครั้งก่อน ต้องขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยที่สนับสนุนกันมาตลอด ผมสัญญาว่าจะทำผลงานดีๆ มาฝากทุกคนต่อไปครับ”

อชิ “สำหรับอชิ ตัวแทนจากประเทศไทย” (หัวเราะ) “อชิอยากขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยและชาวต่างชาติทุกคนมากครับ ไม่คิดเลยว่าจะมีคนสนับสนุนพวกเราเยอะมากขนาดนี้ หลังจากนี้ต้องขอฝากให้รอติดตามผลงานต่อไปของเราทุกคนด้วยนะครับ”


ช่างภาพ : อิทธิศักดิ์
เรื่อง : Mild
สไตล์ : ชัญญาภัค เขมหิรัญกิจ
Digital Editor : Minim
เสื้อผ้า : Painkiller Atelier
ขอบคุณสถานที่ : Valia Hotel Bangkok

ยิ่งใหญ่สมมง! คาริน่า aespa ได้รับเลือกเป็น Brand Ambassador ประจำ Prada

Alternative Textaccount_circle

สิ้นสุดการรอคอย หลังจากร่วมงานกันมาเนิ่นนานในที่สุด คาริน่า aespa ก็ได้รับเลือกเป็น Brand Ambassador ประจำ Prada

หลังจากที่คาริน่า หนึ่งในสมาชิกประจำเกิร์ลกรุ๊ป aespa ได้รับเลือกให้เป็นแขกคนสำคัญไปชมแฟชั่นโชว์คอลเล็คชั่น Fall/Winter 2024 ของ Prada ที่ Milan Fashion Week จนเกิดเป็นกระแสที่ใครๆ พากันติดตามว่าเธอจะมีบทบาทอย่างไรกับแบรนด์ในอนาคต เพราะการไปเยือนของเธอสามารถสร้างยอด Engagement ได้ถึง 22% นับเป็นอันดับที่ 3 รองจาก ไอยู (IU) และ Enhypen อีกทั้งยังสร้างรายได้ไปอีก 4.2 ล้านดอลลาร์ใน EMV เรียกว่าอิทธิพลการปรากฏตัวครั้งแรกของเธอพุ่งทะยานมากเลยทีเดียว

จากนั้นเราก็เริ่มเห็นคาริน่าใช้ไอเท็มต่างๆ ไม่ว่าจะกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า หรือเครื่องประดับของ Prada อยู่บ่อยครั้ง ทำให้หลายคนคาดเดาว่าเธอต้องมีบทบาทสำคัญกับแบรนด์ในอนาคนอย่างแน่นอน จนวันนี้ก็มาถึงเมื่อสื่อต่างประเทศรายงานว่า Prada ได้เลือกเธอให้เป็นแบรนด์แอมบาเดอร์เป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ต้องขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ

เมื่อคิดดูแล้วสมาชิกทั้ง 4 คนของ aespa ก็ได้ครองตำแหน่งในแฟชั่นแบรนด์ระดับโลกอย่างครบถ้วน ทั้ง Polo Ralph Lauren, Versace, Loewe และ Prada ที่ตามมาติดๆ รับรองว่าเส้นทางในวงการแฟชั่นของพวกเธอต้องยิ่งน่าจับตามองแน่นอน!


ข้อมูล: wwd

รูปภาพ: @katarinabluu และ@aespa_official

keyboard_arrow_up