Vicco Salcedo สาวไร้แขนและขาซ้าย ร่วมชิงมง Miss Ecuador 2021

สวยและสู้! Vicco Salcedo สาวไร้แขนและขาซ้าย ร่วมชิงมง Miss Ecuador 2021

Alternative Textaccount_circle
Vicco Salcedo สาวไร้แขนและขาซ้าย ร่วมชิงมง Miss Ecuador 2021
Vicco Salcedo สาวไร้แขนและขาซ้าย ร่วมชิงมง Miss Ecuador 2021

เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานความงามและอื่นๆ ที่เปิดกว้างและถูกยอมรับในสังคมมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่เห็นได้ชัดเจนในปีนี้คือเรื่อง นางงาม ที่ในบางประเทศเปิดกว้างให้กลุ่มหลากหลายทางเพศ LGBTQ+ สามารถเข้าร่วมประกวดนางงามเวทีที่ปกติมักจะเป็นผู้หญิงแท้เท่านั้น โดยล่าสุดที่ปรากฎ คือ Kataluna Enriquez สาวข้ามเพศ คนแรกที่ได้ร่วมประกวด Miss USA 2021 และ Lehlogonolo Machaba สาวข้ามเพศ คนแรกที่ได้ร่วมชิงมง Miss South Africa 2021

และนอกจากความหลากหลายทางเพศเริ่มถูกยอมรับมากขึ้นแล้ว ล่าสุดมี Vicco Salcedo สาวงามผู้มีร่างกายไม่ครบ 32 เธอไร้แขนทั้งสองข้างและขาข้างซ้าย ได้มีโอกาสเข้ารอบเพืื่อร่วมประกวดMiss Ecuador 2021 ซึ่งก็ถือเป็นก้าวสำคัญที่ยิ่งใหญ่ของเธอเลยทีเดียว

1 ชิงมง Miss Ecuador 2021

เรียกได้ว่าไม่มีอะไรที่จะขัดขวางให้ทำตามความฝันได้ถ้าใจเราสู้ Victoria Salcedo นางแบบสาวผู้โด่งดังบนอินสตาแกรมที่มียอดผู้ติดตามกว่าหนึ่งแสนคน เธอเป็นหญิงสาวผู้สูญเสียแขนทั้งสองข้างและขาซ้ายด้วยอุบัติเหตุในวัยเด็ก และเมื่อเติบโตขึ้นในวัย 25 ปี เธอก็ได้ทำตามความฝันของลูกผู้หญิงคนหนึ่ง โดยได้รับโอกาสให้มีสิทธิ์เข้าร่วมประกวดนางงาม Miss Ecuador 2021

นอกจากนี้ เธอยังถือว่าเป็นผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลอีกคน ที่มีผู้คนให้ความสนใจและติดตามเธอมากมาย เพราะทุกไลฟ์สไตล์และอาชีพของเธอนั้นเต็มไปด้วยความหลากหลายและมีแต่เรื่องราวเชิงบวก เธอจึงถูกยกให้กลายเป็นตัวอย่างในการใช้ชีวิตและปรับปรุงชีวิตให้ดีขึ้น แม้จะต้องเจอกับอุปสรรคยากลำบากแค่ไหนก็ตาม เหมือนกับที่เธอก็ต่อสู้มาตลอดชีวิตของเธอเช่นกัน

7 ชิงมง Miss Ecuador 2021

โดยอุบัติเหตุที่ทำให้ร่างกายของเธอต้องเปลี่ยนแปลงไม่ครบ 32 ไปตลอดชีวิต เกิดขึ้นเมื่อปี 2001 ตอนนั้นเธอมีอายุประมาณ 5 ขวบ ในวันเกิดเหตุ เธอเผลอไปจับสายไฟแรงสูงเข้า ทำให้ร่างกายถูกไฟไหม้ระดับ 3 หลังจากที่เธอถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ทีมแพทย์ได้พยายามรักษาชีวิตด้วยการตัดเพียงนิ้วเท้าของเธอก่อน แต่กลับไม่สามารถยับยั้งบาดแผลรุนแรงที่เกิดขึ้นได้ สุดท้ายแพทย์ต้องตัดแขนทั้ง 2 ข้าง และขาซ้ายของเธอ เพราะถูกไฟไหม้เสียหายอย่างหนัก เพราะอาจนำไปสู่การติดเชื้อรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้ และเธอต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งเดือนครึ่ง

เธอเล่าถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุในครั้งนั้นว่า มันเป็นเรื่องยากมากที่ต้องตื่นมาแล้วพบว่าเหลือขาขวาเพียงข้างเดียว ถึงแม้ว่าในตอนนั้นเธอยังเป็นแค่เด็กก็ตาม แต่หลังจากนั้นเธอก็พยายามใช้ชีวิตให้ปกติที่สุด และต่อสู้จนผ่านพ้นความยากลำบากทั้งหมดมาแล้ว

นอกจากเป็นสาวงามใจสู้แล้ว เธอยังมีจิตใจที่ดี มักช่วยเหลืองานการกุศลต่างๆ ผ่านอาชีพนางแบบของเธอที่ได้รับการยอมรับจากผู้คนในประเทศอย่างมากมาย นอกจากนั้นเธอยังเป็นนักพูดและนักเรียกร้องสิทธิที่สร้างแรงขับเคลื่อนในสังคมให้กับผู้พิการ

ปัจจุบันเธอจบการศึกษาจิตวิทยาครอบครัว ที่มหาวิทยาลัย Brigham Young ในสหรัฐอเมริกา และใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างดีอีกด้วย และล่าสุดเธอก็กลายเป็นผู้หญิงที่ผู้คนทั่วโลกอยากรู้จักขึ้นมาทันที เมื่อเธอคือผู้ที่ถูกประกาศรายชื่ออย่างเป็นทางการของกองประกวด Miss Ecuador ในรอบ 20 คนสุดท้าย ที่จะร่วมแข่งขันเพื่อชิงมงกุฎ MissEcuador 2021 และแน่นอนว่านี่จะกลายเป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์สำหรับผู้เข้าร่วมการประกวดนางงามที่น่าจดจำมากที่สุดอีกด้วย

 

สวยและสู้! Vicco Salcedo สาวงามไร้แขนและขาซ้าย ร่วมชิงมง Miss Ecuador 2021

6 ชิงมง Miss Ecuador 2021 8 ชิงมง Miss Ecuador 2021 9 ชิงมง Miss Ecuador 2021 4 ชิงมง Miss Ecuador 2021 5 ชิงมง Miss Ecuador 2021 3 ชิงมง Miss Ecuador 2021 2 ชิงมง Miss Ecuador 2021 ชิงมง Miss Ecuador 2021


ข้อมูลและภาพ : organizacionmissecuador ,vicco_salcedo

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

 

Lehlogonolo Machaba สาวข้ามเพศ คนแรกที่ได้ร่วมชิงมง Miss South Africa 2021

ปังไม่หยุด! Kataluna Enriquez สาวข้ามเพศ คนแรกที่ได้ร่วมประกวด Miss USA 2021

หน้าเป๊ะหุ่นปั๊วะ! ส่องสไตล์ มิสยูนิเวิร์สสเปน 2018 สตรีข้ามเพศคนแรก

 

นพ.สันติ  ไฉไลวณิชย์กุล, ไคโรแพรคติก, คุณหมอไคโรแพรคติก, รักษาด้วยไคโรแพรคติก, หมอไคโรฯ

นพ.สันติ ไฉไลวณิชย์กุล ฟื้นจากคนอัมพาตมาเป็นหมอไคโรแพรคติกเบอร์ต้นของเมืองไทย

นพ.สันติ  ไฉไลวณิชย์กุล, ไคโรแพรคติก, คุณหมอไคโรแพรคติก, รักษาด้วยไคโรแพรคติก, หมอไคโรฯ
นพ.สันติ  ไฉไลวณิชย์กุล, ไคโรแพรคติก, คุณหมอไคโรแพรคติก, รักษาด้วยไคโรแพรคติก, หมอไคโรฯ

จากเด็กยากจนย่านคลองเตย  ที่เริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 10 ขวบ  ทั้งคนงานแบกปูน คนขับรถสองแถว ฯลฯ  แต่เพราะอยากเรียนหนังสือ  ทำให้เขา…  นพ.สันติ ไฉไลวณิชย์กุล  ดิ้นรนทุกหนทาง จนได้ไปเรียนหนังสือต่อที่อเมริกา  ที่นั่นเขาเริ่มต้นใหม่จากศูนย์  ต้องฝ่าฟันบททดสอบชีวิตขั้นทรหดถึงขั้นเป็นอัมพาตไปครึ่งซีก

นี่คือบทคัดย่อเรื่องราวชีวิตของ นพ.สันติ  ไฉไลวณิชย์กุล  แพทย์สาขาไคโรแพรคติกอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่พร้อมเล่าทุกประสบการณ์โลดโผนที่ผ่านมาให้แพรวฟังอย่างอารมณ์ดี  ราวกับชีวิตนี้ไม่เคยผ่านเรื่องเศร้า  หรือไม่เคยลำบากมาก่อน

“ชีวิตลำบากครับ”  คุณหมอสันติพูดประโยคแรกพร้อมรอยยิ้ม  ก่อนเล่าต่อว่า  “ผมมีพี่น้อง 5 คน  พ่อเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ  ใกล้กับที่เช่ารถสามล้อของปู่  พอว่างก็ไปช่วยปู่ซ่อมรถ  แต่ปู่คุมเงินทั้งหมด  พ่อจึงมีเงินติดตัวไม่มาก  ไม่พอเลี้ยงทั้งครอบครัว  แต่แม่อยากให้ผมเรียนหนังสือ  จึงเอาเข็มขัดนากซึ่งมีอยู่เส้นเดียวไปจำนำเพื่อส่งผมเข้าเรียน ป.1  พอเรียนจนถึง ป.7  ก็ต้องออกมาทำงาน

เด็กประถมจะทำงานอะไรได้หรือคะ

แบกปูนซีเมนต์ให้ร้านขายเครื่องสุขภัณฑ์  โอ้ย… เกือบตาย  ปูนถุงหนึ่งหนัก 50 กิโลกรัม  ไปวันแรกโดนแกล้งโยนถุงปูนลงบ่า  ผมถึงกับหัวทิ่ม  แต่พวกที่แกล้งหัวเราะชอบใจ

ทำงานสักพักอยากเรียนหนังสือต่อ  จึงขอเถ้าแก่เลิกงานเร็วขึ้นครึ่งชั่วโมงเพื่อไปเรียนภาคค่ำที่วัดแถวนั้น  เรียนได้ 3 ปีก็จบมัธยม จึงไปช่วยพ่อขับรถสองแถวรับส่งผู้โดยสารแถวถนนเชื้อเพลิงอยู่ 1 เดือน  แต่เบื่อมาก  ไม่ชอบ  จึงเปลี่ยนมาขับรถส่งของ  ก็ไม่ไหวอีก  พอดีเพื่อนชวนไปหุ้นทำกิจการซื้อ – ขายของเก่า  แต่ทำได้ปีเดียว  บอกตัวเองว่าไม่ใช่ทาง

พอดีตอนนั้นพี่ชายคนโตไปอยู่อเมริกาได้ 3 ปีแล้ว  ต้องเล่าย้อนกลับไปว่าพี่ชายต่างจากผม  เขาไม่ชอบให้ที่บ้านบังคับ  จึงหนีไปหางานทำและใช้ชีวิตเอง  กระทั่งดิ้นรนไปอเมริกาได้  ผมจึงเขียนจดหมายหาพี่ว่าอยากไปเรียนหนังสือ  ช่วยหาโรงเรียนกับที่อยู่ให้หน่อย  พี่ถามกลับมาว่าชีวิตที่โน่นลำบากมาก  จะไหวหรือ  แต่ผมยืนยัน  พี่จึงวิ่งหาโรงเรียน  ที่พัก  แถมหางานให้ด้วย

โชคดีว่าตอนนั้นการไปเรียนอเมริกายังไม่มีการตรวจสอบอะไรมาก  กฎมีแค่ว่าต้องอาศัยอยู่กับครอบครัวชาวอเมริกันเท่านั้น  ซึ่งพี่ชายจัดแจงให้แล้ว  ส่วนที่บ้านไม่ว่าอะไร  เพราะช่วงนั้นมีสงครามเวียดนาม  เขากลัวผมถูกจับไปเกณฑ์ทหาร  ผมจึงตีตั๋วเครื่องบินไปขาเดียว… ไม่มีกลับ

นพ.สันติ  ไฉไลวณิชย์กุล, ไคโรแพรคติก, คุณหมอไคโรแพรคติก, รักษาด้วยไคโรแพรคติก, หมอไคโรฯ

ไปถึงอเมริกาวันแรกเป็นอย่างไรคะ

ตื่นเต้นมาก  จำได้ถึงขนาดว่าเป็นวันพฤหัสบดี  พี่ชายมารับที่สนามบิน  แล้วพาผมไปส่งที่บ้านพักในเมืองรัทเธอร์ฟอร์ด (Rutherford)  รัฐนิวเจอร์ซีย์  ส่วนพี่ชายกลับไปอยู่อีกเมือง  ที่ต้องแยกกันอยู่เพราะเขาหาโรงเรียนได้แถวนั้น  ดีว่าเขาฝากเพื่อนฝรั่งในเมืองให้คอยพาผมไปโรงเรียน และไปทำงานร้านอาหารที่สมัครไว้ให้ ซึ่งวันรุ่งขึ้นผมก็ต้องทำงานเลย  เป็นร้านอาหารอิตาลีระดับ 4 ดาว

เริ่มงานวันแรก เจ้าของร้านพูดสอนงานรัวเป็นชุด  ผมฟังไม่รู้เรื่อง  แต่อาศัยสังเกตเอา  เช่น  ถ้าเขาสอนจัดโต๊ะ  เราก็ดูโต๊ะข้างๆ ว่า  อ้อ…วางจานแบบนี้นะ  ส้อม 2 คัน  มีด 2 เล่ม  ช้อน 1 คัน  จึงรอดมาได้  ตอนนั้นผมทำงานทุกวัน ศุกร์-อาทิตย์  ได้ค่าจ้างอาทิตย์ละ 50 เหรียญ  ซึ่งถือว่ามาก  แต่ยังไม่พอใช้

แล้วได้เรียนหนังสือสมใจไหมคะ
(พยักหน้า)  ต้องบอกว่าผมได้อาจารย์ที่ปรึกษาดี  เขาเคยมาเที่ยวเมืองไทยและชอบบ้านเรามาก  จึงวิ่งเต้นให้โรงเรียนเซ็นเอกสารรับรองว่าผมมาเรียนหนังสือและมีที่อยู่ในเมืองนี้  ทำให้ผมได้เรียนโรงเรียนรัฐ  ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก  แต่ช่วงแรกผมยังสื่อสารกับใครไม่รู้เรื่อง  ครูจึงส่งผมเข้าไปนั่งดูวิดีโอการ์ตูนในห้องสมุดเพื่อฝึกการฟังสำเนียงให้เข้าหูก่อน  ที่เหลือค่อยๆ เรียนคำศัพท์จากชีวิตประจำวัน  เช่น  เจอเหตุการณ์รถชนมาแล้วเล่าให้เพื่อนฟังว่า One car go.  One car come. Two car  โครม!  เพื่อนก็  “Oh…accident”  เราก็จำไว้ว่า accident แปลว่า  อุบัติเหตุ

ผมใช้เวลาปรับตัวอยู่ 3 ปี  ภาษาจึงคล่องขึ้น  ตอนนั้นจบไฮสกูลพอดี  แต่ยังไม่ค่อยมีเงิน  แม้จะทำงานไปด้วยตลอดก็ตาม  ผมจึงเลือกเรียนต่อเป็นจูเนียร์คอลเลจ  เพราะค่าเล่าเรียนถูกหน่อย

ความตั้งใจจะเรียนหมอเกิดขึ้นตอนไหนคะ

เรื่องอยากเป็นหมอนั้นมีสัญญาณบอกตั้งแต่เด็ก  มาจากแม่ผมมีความรู้ค่อนข้างมาก  โดยเฉพาะเรื่องยาสมุนไพรจีน  แล้วละแวกบ้านผมมีแต่คนจน  พอใครเจ็บป่วยก็เดินมาหาแม่ที่บ้านเรียก “อาซิ่มๆ  ผมเป็นแบบนั้นแบบนี้”  แม่ก็ซักถามอาการแล้วเปิดตำราเพื่อจดชื่อสมุนไพรต่างๆ ให้เขาไปหาซื้อเอง  เป็นอย่างนี้มาตลอดตั้งแต่จำความได้  ทำให้คิดว่าเป็นหมอก็ไม่เลวแฮะ  ได้ช่วยเหลือคน  ทำให้เขาหายเจ็บป่วย

แต่ระบบการเรียนหมอที่อเมริกา  ต้องเรียนเตรียมแพทย์ 4 ปี  จากนั้นจึงเรียนแพทย์อีก 4 ปี  และฝึกงาน 2 ปี  รวมทั้งหมด 10 ปี  ผมจึงแพลนว่าจะเรียนจูเนียร์คอลเลจ 2 ปี  พอเก็บเงินได้ค่อยทำเรื่องย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัย  ผมทำงานส่งอาหารแช่แข็งให้ภัตตาคารญี่ปุ่นพักหนึ่งก็เลิกเพราะเงินน้อย  พอดีบริษัทของวอลล์สตรีทจากนิวยอร์กต้องการคนตรวจพวกของเก่า  จำพวกเพชร  ทอง  และเงิน  คือพวกตลาดหุ้นเป็นแบบนี้  สมมุติวันนี้มีการซื้อทองราคานี้  เขาต้องรีบส่งทองไปหลอมวันนั้น  แล้วส่งไปยังปลายทางทันที

ผมลองไปสมัครดู  ตอนแรกได้ทำงานในแผนกแพ็คของและส่งของ  จากนั้นได้เลื่อนตำแหน่งไปทำหน้าที่ตรวจเศษเพชรที่เขาซื้อเข้ามา  หากเจอเพชรน้ำหนักมากกว่า 25 สตางค์  ต้องแงะออกมาส่งให้เจ้านาย  แต่ถ้าน้ำหนักน้อยกว่า 25 สตางค์ก็ทุบทิ้ง

บอกให้ตาโตเล่น  ห้องใต้ดินที่ผมทำงานอยู่ตอนนั้นเป็นห้องเก็บเพชรกับทองมูลค่ามหาศาล  เชื่อไหมผมนั่งอยู่ท่ามกลางทองคำแท่งที่กองกันอยู่เป็นตั้งๆ ท่วมตัว  ยุคที่ราคาทองขึ้นสูง  ทองทั้งห้องน่าจะมีมูลค่าราว 400 – 500 ล้านเหรียญ

ตามิพร่าไปเลยหรือคะ

ก็มีบ้าง (หัวเราะ) ผมทำงานที่นั่นอยู่ 3 ปี  ก็เก็บเงินเรียนต่อได้  ช่วงแรกสับสนอยากเรียนศัลยกรรมหัวใจ  แต่ติดขัดหลายเรื่อง  เลยคิดจะเบนไปทางทันตกรรม  แต่มีคนแนะนำให้ลองไปคุยกับหมอกายภาพ  ซึ่งเขาแนะนำให้เรียนจบเป็นหมอ  เพราะถ้าเป็นนักกายภาพอย่างเดียวมีความรู้ไม่พอ  แล้วยังต้องคอยรับคำสั่งจากแพทย์อีกทีหนึ่ง  จะไม่มีอิสระ

ผมคิดดูแล้วน่าสนใจ  จึงลองไปสอบที่ Northwestern Chiropractic College (NWCC)  ที่มินนิโซตา  ซึ่งเชี่ยวชาญด้านไคโรแพรคติก  ปัจจุบันขยายเป็นศูนย์วิจัยทางการแพทย์ที่ทางรัฐบาลอเมริกาให้การสนับสนุน  และเปลี่ยนชื่อเป็น Northwestern Health Sciences University (NWHSU)

นพ.สันติ  ไฉไลวณิชย์กุล, ไคโรแพรคติก, คุณหมอไคโรแพรคติก, รักษาด้วยไคโรแพรคติก, หมอไคโรฯ

การเป็นแพทย์ไคโรแพรคติกต้องเรียนอะไรบ้างคะ

เรียนทุกอย่างเหมือนแพทย์ทั่วไป  แต่ไคโรแพรคติกเน้นความสัมพันธ์ระหว่างโรคต่าง ๆ กับกระดูกสันหลังและระบบประสาท  เปรียบเทียบว่าเส้นประสาทเป็นสายไฟ  อวัยวะคืออุปกรณ์ไฟฟ้าดีๆ นี่เอง  เมื่ออุปกรณ์มีปัญหา  เราต้องดูว่าเกิดจากสวิตช์ไหน  สายไฟเส้นไหน  แล้วเส้นนี้วิ่งไปเชื่อมกับตรงไหน

สมมุติคนไข้บอกว่า  ตามีปัญหาอย่างนี้  แต่ตรวจตาแล้วปกติ  อาจมีปัญหามาจากระบบประสาท  ดังนั้นผมจึงต้องเรียนทุกเรื่องเพราะเชื่อมโยงถึงกันหมด  ตั้งแต่เรื่องเภสัชกรรม  กายภาพ  ตรวจวินิจฉัยโรค  รังสี ถ่ายเอกซเรย์  เคมี  วิตามิน  การทำคลอด  ฯลฯ  เรียกว่ารู้ครอบจักรวาล  อีกอย่างกฎหมายที่นั่นบังคับว่า  ถ้าเรียนแพทย์ต้องทำเป็นทุกอย่าง

โอ้โห… ฟังดูยากจังค่ะ

ทุกอย่างยาก  ไม่มีอะไรง่ายเลยชีวิตนี้(หัวเราะ)  แต่ถ้าตั้งใจก็ทำได้หมดนะ

สำหรับผมเรื่องยากคือ  ภาษาทางการแพทย์ซึ่งเป็นภาษาละตินหรือกรีก  ถือว่ายากมาก  อีกอย่างคือมหาวิทยาลัยนี้มาตรฐานสูงกว่าปกติ  อย่างที่อื่น 1 เทอมมี 16 หน่วยกิต  แต่ที่นี่เรียนเทอมละ 34 – 35 หน่วยกิต  จึงเรียนหนักเป็นสองเท่า  ซ้ำร้ายมีครูที่ปรึกษาคนหนึ่งไม่ชอบคนต่างชาติ  จึงพยายามหาเรื่องแกล้งกดดันให้ท้อถอย

เรียนแพทย์ได้ 2 ปี  เงินหมดอีกรอบ  แต่หนนี้โชคดีมีพ่อแม่บุญธรรมช่วย  ความจริงผมรู้จักครอบครัวนี้นานแล้ว  ตั้งแต่สมัยอยู่ไฮสกูล  เพราะพี่ชายเคยไปเช่าห้องในบ้านของเขาอยู่ตอนมาอเมริกาใหม่ๆ  พอผมปิดเทอม  พี่พาผมไปเที่ยวบ้านเขา  เป็นบ้านไม้เก่าแก่อายุกว่า 300 ปี  สวยมาก  ตั้งอยู่ริมทะเลที่คอนเนตทิคัต  มีทั้งหมด 16 ห้อง  แต่อยู่กันแค่สองคนสามีภรรยา  ไม่มีลูก  จึงสนิทกับพี่ชายผมดี  ภรรยาชื่อ Vivian Knapp  เป็นอดีตดาราบรอดเวย์ที่สวยมาก  ส่วนสามีชื่อ Lewis George Knapp  เป็นนักออกแบบเฮลิคอปเตอร์

วันหนึ่งวิเวียนจะให้ยาสุนัขที่บ้าน  แต่ให้ไม่เป็น  ผมจึงช่วย  พอสุนัขกลืนยาปุ๊บ  เขาบอกเลยว่า You can call me mom. (หัวเราะ)  แล้วผมเป็นคนไม่ค่อยอยู่เฉย  ช่วงหน้าร้อนเวลาเขาไปเที่ยวพักผ่อนต่างเมือง  ผมก็อาสาไปดูแลบ้าน  ทาสีให้ใหม่  ตากแดดจนตัวดำ  พอเขากลับมาจึงประทับใจมาก  ขอให้ผมแวะไปหาทุกปี  เพราะฉะนั้นพอทราบว่าผมไม่มีเงินเรียนหนังสือ  จึงให้ยืมมาหลายล้านบาท  บอกว่าไว้มีเงินค่อยนำไปคืน  ไม่ซีเรียส

มีเงินเรียนแล้ว ชีวิตคงดีขึ้นแล้วใช่ไหมคะ

ตรงกันข้าม  เรียกว่าลำบากที่สุดเลยก็ว่าได้  ตอนนั้นผมอยู่ปี 3 วันนั้นเป็นศุกร์ 13 กุมภาพันธ์ 1996  ที่มินนิโซตามีพายุหิมะเป็นครั้งแรก  รถติดยาวไป 20 ไมล์  รถผมติดอยู่ท้ายแถว  จู่ๆ มีรถ 24 ล้อวิ่งมาแล้วเสยเข้าท้ายรถผมจัง ๆ  รถคันนั้นหนักกว่า 3 หมื่นปอนด์  แรงกระแทกขนาดว่าเข็มขัดนิรภัยล็อกไม่อยู่  ผมจึงถูกอัดเข้ากับพวงมาลัย  แล้วกระดอนกลับมากระแทกพนักที่นั่งจนหักไปครึ่งหนึ่ง  ส่งผลให้สะโพกข้างซ้ายเลื่อน  เสื้อกันหนาวผมถูกแรงอัดจนฉีกออกเป็นชิ้นๆ

ผมนอนจุกครึ่งๆ กลางๆ อยู่ที่พื้นรถ  ได้ยินเสียงเบรกดังลั่นจึงพยุงตัวขึ้นมาดู  เห็นรถอีกคันพุ่งมาชนด้านข้าง  คราวนี้กระจกรถผมแตกละเอียดกระเด็นเข้ามาเต็มปาก  เท่านั้นไม่พอ… รถ 24 ล้อคันเดิมยังไถลกลับมาเสยรถผมต่อ  เนื่องจากรถมีน้ำหนักมากแม้จะเบรกแล้ว  แต่ท้ายรถยาวๆ นั้นยังไม่หยุด  ปัดขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาขี่อยู่บนรถผม

ลุ้นวินาทีระทึกของคุณหมอ กดเลข 2

The Weekend โจลี

คู่นี้ยังไง! แองเจลิน่า โจลี ออกเดทสุดโรแมนติกกับ The Weekend ใน LA

account_circle
The Weekend โจลี
The Weekend โจลี

สื่อต่างประเทศโดย The Sun ได้เผยภาพสุดเอ็กซครูซีฟ พร้อมกับรายงานว่า แองเจลิน่า โจลี กำลังออกเดทในค่ำคืนแสนโรแมนติกกับ The Weekend นักร้อง และนักแต่งเพลงชื่อดัง

คู่นี้ยังไง! แองเจลิน่า โจลี ออกเดทสุดโรแมนติกกับ The Weekend ใน LA

เครดิต: BackGrid

นักแสดงสาวฮอลลีวู้ดชื่อดัง แองเจลิน่า โจลี วัย 46 ปี ถูกพบขณะกำลังออกเดทกับ “อาเบล เทสฟาเย” วัย 31 หรือที่รู้จักกันในชื่อ The Weeknd  ที่ Giorgio Baldi ร้านอาหารยอดนิยมในหมู่คนดังในลอสแองเจลิส ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่าทั้งคู่ใช้เวลาหลายชั่วโมงในร้านอาหารก่อนจะแยกจากกันเพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัย

เครดิต: BackGrid

แองเจลิน่า โจลี ปรากฏตัวในชุดเรียบง่าย เธอสวมชุดเดรสสีดำ เทรนช์โค้ตสีน้ำตาลเข้ม รองเท้าปิดส้นสีนู้ด ขณะที่ The Weekend ก็ใส่ชุดลำลองแบบสบายๆ

การปรากฏตัวของทั้งคู่เรียกได้สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก แองเจลิน่า โจลีที่เพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบ 46 ปี กับลูกๆ อีกทั้งยังมีข่าวว่าเธอกำลังเผชิญกับความตึงเครียดกับการฟ้องร้องเรื่องสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกๆ ทั้ง 6 คนกับอดีตสามี แบรด์ พิตต์ ถึงอย่างนั้นก็ตามเธอมีดูผ่อนคลายขึ้นมาก หลังจากที่กลัดกลุ้มกับผลการตัดสิทธิ์ของศาลที่ให้แบรดร่วมเลี้ยงดูลูกๆ ด้วย

The Weekend เบลล่า

The Weekend เซเลน่า

สำหรับ The Weekend หรือ “อาเบล เทสฟาเย” เรียกได้ว่าเป็นชายเจ้าเสน่ห์ เขาเคยคบหาดูใจกับ นางแบบระดับโลก เบลล่า ฮาดิด ซึ่งคู่นี้เขารักๆ เลิกๆ กันมาหลายรอบ แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด สุดท้ายทั้งคู่จึงตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ นอกจากเบลล่า ฮาดิด อีกหนึ่งสาวสวยคนดังที่เคยคบกับนักร้องหนุ่มคือ เซเลน่า โกเมซ และนักร้องสาว Rosalía


สมาชิกโจลี-พิตต์ พร้อมหน้า แองเจลิน่า โจลี ฉลองวันเกิดลูกๆ ทั้ง 6 คน

สื่อ ตปท. เผย พบ โจลี เดินออกจาก อพาร์ทเม้นท์อดีตสามี จอห์นนี ลี มิลเลอร์

ปกเจ้าหญิงไดอานา

เปิดบันทึกPrincess Diana ครั้งแรก ทรงเปี่ยมด้วยเมตตาแม้ในวันที่โดดเดี่ยว

ปกเจ้าหญิงไดอานา
ปกเจ้าหญิงไดอานา

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานกี่ปีหลังจากการสิ้นพระชนม์ของPrincess Diana เจ้าหญิงไดอาน่า แต่ชาวอังกฤษและทั่วโลกต่างก็ยังคงระลึกถึงเจ้าหญิงผู้ทรงเสน่ห์พระองค์นี้อยู่เสมอ ล่าสุดซึ่งเป็นวันครบรอบ 60 ปี นอกจากจะมีการเปิดตัวประติมากรรมรูปปั้นของพระองค์แล้ว ยังได้มีการเผยบันทึกส่วนตัวของพระองค์ ซึ่งบันทึกฉบับนี้ยังไม่เคยถูกเปิดเผยที่ไหนมาก่อน

พระโอรสของเจ้าหญิงไดอานา

ความยากลำบากในการรับมือกับเรื่องราวที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจ โดยเฉพาะชีวิตหลังการเข้าพิธีเสกสมรสของพระองค์นั้นอาจไม่ได้สวยหรูโรยด้วยกลีบกุหลาบเหมือนในนิยาย แต่ในความโดดเดี่ยวที่พระองค์ต้องพบเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั้น กลับไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำหน้าที่พระมารดาที่ดูแลพระโอรสทั้งสองได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังทรงมีพระเมตตาเผื่อแผ่ไปถึงเด็กๆ ที่พระองค์ได้พบเจอตามที่ต่างๆ

อาลัยเจ้าหญิงไดอานา

ล่าสุดในวันครบรอบ 60 ปี ของPrincess Diana เจ้าหญิงไดอาน่า ยังได้มีการเปิดเผยข้อมูลจากบันทึกที่พระองค์ทรงเคยเขียนไว้ในปี 1993 ให้กับหน่วยงานของสภากาชาดอังกฤษโดยมีใจความว่า

ไดอารี่เจ้าหญิงไดอานา

ในฐานะผู้อุปถัมภ์เยาวชนกาชาด ข้าพเจ้ามีโอกาสมากมายที่จะได้เห็นงานของสภากาชาดอังกฤษในประเทศนี้และในต่างประเทศด้วยตัวข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าได้รับกำลังใจอย่างมากจากความพยายามอันยอดเยี่ยมของอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด งานของสภากาชาดอังกฤษมีความสำคัญในปัจจุบันเช่นเดียวกับที่เคยเป็นมา ความต้องการทรัพยากรที่เพิ่มขึ้นและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทั้งในประเทศและต่างประเทศ หมายความว่าสภากาชาดต้องทำงานเพื่อเพิ่มระดับรายได้โดยสมัครใจ นั่นคือเหตุผลที่การสนับสนุนของคุณในวันนี้มีความสำคัญมาก ขอให้ทุกท่านมีความสุขในค่ำคืนที่สนุกสนานที่สุด

ความช่วยเหลือที่เอื้อเฟื้อของท่านจะช่วยให้สาขา Greater Manchester สามารถให้ความช่วยเหลือผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือได้มากขึ้น

                                                                                                                                         ด้วยความขอบคุณเป็นอย่างสูง ไดอานา, ตุลาคม 1993

 

 

อ่านเรื่องราวอื่นๆ ต่อได้ที่นี่

เหตุผลสุดอบอุ่น ทำไมเจ้าหญิงไดอาน่าไม่ทรงสวมพระมาลาเมื่อต้องเจอเด็กๆ

สไตล์ชุด รูปปั้นเจ้าหญิงไดอาน่า แสดงถึงความเมตตาและวาระสุดท้ายของชีวิต

พี่น้องสมานฉันท์ รอยยิ้มอันงดงามเพื่อพระมารดา ในวันเปิดรูปปั้น เจ้าหญิงไดอานา

Praew Sound Hub : รู้หรือไม่ รองเท้า Christian Louboutin เกิดจากชีวิตรักแสนเศร้าของ เจ้าหญิงไดอาน่า

ชุดรูปปั้นเจ้าหญิงไดอาน่า

สไตล์ชุด รูปปั้นเจ้าหญิงไดอาน่า แสดงถึง ‘ความเมตตา’ และวาระสุดท้ายของชีวิต

ชุดรูปปั้นเจ้าหญิงไดอาน่า
ชุดรูปปั้นเจ้าหญิงไดอาน่า

สไตล์ของชุดที่เลือกสำหรับ รูปปั้นเจ้าหญิงไดอาน่า สามารถบ่งบอกอะไรบ้าง รวมถึงความหมายที่ผู้ออกแบบรูปปั้นต้องการจะสื่อ ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าแม้เวลาจะเดินไปข้างหน้า แต่เจ้าหญิงผู้ล่วงลับก็ไม่เคยถูกลืม และยังทรงเป็นที่รักเสมอ

เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์และเจ้าชายแฮร์รี่ ดยุกแห่งซัสเซกส์ เสด็จฯ เปิดพระอนุสาวรีย์ของพระมารดาผู้ล่วงลับ ที่ Sunken Garden ในพระราชวังเคนซิงตัน ซึ่งในวันที่ 1 กรกฎาคมยังเป็นวันคล้ายวันประสูติครบรอบ 60 ปีของ ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลล์อีกด้วย

รูปปั้นเจ้าหญิงไดอาน่า-3

รูปปั้นเจ้าหญิงไดอาน่า-2

เจ้าหญิงไดอาน่าถือเป็นไอคอนสไตล์สำหรับหลายๆ คนและยังคงสร้างแรงบันดาลใจในการเลือกแฟชั่นของผู้คนในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม สไตล์ของพระองค์เปลี่ยนไปและพัฒนาขึ้นในช่วงชีวิตของพระองค์ หลังจากเข้าพิธีเสกสมรสกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์แล้ว เจ้าหญิงไดอาน่ามักจะสวมเสื้อเบลาส์ ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยม

หลังจากการหย่าร้างของพระองค์ ได้พัฒนาทางเลือกแฟชั่นที่เป็นตัวเองมากขึ้น เพื่อสะท้อนถึงความเป็นอิสระใหม่ของพระองค์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เจ้าหญิงไดอาน่าทรงมีส่วนร่วมกับโครงการการกุศลเป็นอย่างมาก ลุคใหม่ของพระองค์จึงดูสบายๆ มากขึ้น และทรงเลือกใส่ชุดเดรสทรง Low Cut อยู่หลายครั้ง

รูปปั้นเจ้าหญิงไดอาน่า-4

สไตล์ชุด รูปปั้นเจ้าหญิงไดอาน่า แสดงถึง ‘ความเมตตา’ และวาระสุดท้ายของชีวิต

ต้องบอกว่ารูปปั้นของเจ้าหญิงไดอาน่า เหมือนถอดแบบสไตล์ของพระองค์ออกมาจริงๆ เพื่อแสดงถึงช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตของพระองค์ ซึ่งรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ที่ออกแบบโดย Ian Rank-Broadley เราจะเห็นเจ้าหญิงไดอาน่าในชุดกระโปรงยาวที่มีแขนยาวและเข็มขัด

ซึ่งพระราชวังเคนซิงตันแถลงอย่างเป็นทางการว่า “รูปปั้นและสไตล์การแต่งกายบอกเล่าช่วงสุดท้ายในชีวิตของเจ้าหญิงไดอาน่า เนื่องจากพระองค์ทรงได้รับความเชื่อมั่นในบทบาทของทูตด้านมนุษยธรรม ผลงานรูปปั้นชิ้นนี้มีเป้าหมายที่จะถ่ายทอดอุปนิสัยและความเมตตากรุณาของพระองค์ รวมทั้งสะท้อนถึงความอบอุ่น ความสง่างาม และพลังของเจ้าหญิงไดอาน่า”

รูปปั้นเจ้าหญิงไดอาน่า

ชุดรูปปั้นเจ้าหญิงไดอาน่า-1

นักออกแบบ Rank-Broadley เลือกใช้สิ่งที่คลาสสิกสำหรับรูปปั้น และในช่วงปีสุดท้ายของเจ้าหญิงไดอาน่า เจ้าหญิงทรงเคยสวมชุดลำลองแบบสมาร์ท รูปปั้นต้องการแสดงถึงสไตล์ของพระองค์ในช่วงสุดท้ายของชีวิต เดรสทรงดินสอ คอเปิด เอวสูง พร้อมเข็มขัดที่มีหัวเข็มขัดขนาดใหญ่นี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนสำหรับสไตล์เจ้าหญิงไดอาน่าในช่วงสุดท้ายของชีวิต


ภาพและที่มา : www.express.co.uk

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ใครแต่งตัวเด็กแบบนั้น! ชุดสูท เจ้าชายจอร์จ ร่วมเชียร์บอลยูโร ทำแฟนๆ ไม่พอใจ

พี่น้องสมานฉันท์ รอยยิ้มอันงดงามเพื่อพระมารดา ในวันเปิดรูปปั้น เจ้าหญิงไดอานา

เหมือนถอดแบบมา! 10 แฟชั่น เมแกน แต่งตัวคล้ายกับ เจ้าหญิงไดอาน่า

 

โฟร์ซีซั่นส์

การกลับมาอีกครั้งของซันเดย์บรันซ์กองทัพอาหารทะเล ที่ห้องอาหารข้าว บาย โฟร์ซีซั่นส์

โฟร์ซีซั่นส์
โฟร์ซีซั่นส์

การกลับมาอีกครั้งของซันเดย์บรันซ์กองทัพอาหารทะเล ที่ห้องอาหารข้าว บาย โฟร์ซีซั่นส์

ซันเดย์บรันช์ที่คนเชียงใหม่โปรดปรานกลับมาอีกครั้ง พร้อมมอบช่วงเวลาแห่งความเพลิดเพลินให้กับคุณและคนที่คุณรักในบรรยากาศสบายๆ ยามบ่ายวันอาทิตย์

ห้องอาหารข้าว นอกจากจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งห้องอาหารแนะนำในมิชลินไกด์ ประจำปี 2021 แล้ว ยังเป็นดั่งจุดนัดพบในวันอาทิตย์ของผู้ที่ชื่นชอบซันเดย์บรันช์อีกด้วย โดยมีจุดเด่นคือการนำกองทัพอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายชนิดมาให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง “เราคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพเยี่ยมและอาหารทะเลเกรดพรีเมี่ยมเพื่อให้แขกของเราได้อิ่มอร่อย” กล่าวโดยคุณยัง ราห์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม

โฟร์ซีซั่นส์

​โฟร์ซีซั่นส์บรันช์ของฉัน #MyFSBrunch

อิ่มเอมไปกับหลากหลายเมนูซีฟู้ดและรสชาติความสดใหม่ส่งตรงจากท้องทะเลอันประกอบด้วย หอยนางรม ล็อบสเตอร์  หอยทากทะเล หอยแมลงภู่ กุ้ง ปูม้า และสาหร่ายวากาเมะเป็นต้น “ทีมพ่อครัวที่เชี่ยวชาญของเราพร้อมโชว์ฝีมือปิ้งย่างอาหารทะเลจานโปรดของคุณที่โซนบาร์บีคิว แขกทุกท่านสามารถเลือกรับปลาแซลมอน ปลากะพงขาว ปลาแมคเคอเรล หรือกุ้งย่างบาร์บีคิว” กล่าวโดยเชฟเลียม นีลอน หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ ผู้อยู่เบื้องหลังประสบการณ์สุดพิเศษที่ซันเดย์บรันช์ของโฟร์ซีซั่นส์ นอกจากเมนูอาหารทะเลที่มีให้เลือกมากมายแล้ว เชฟเลียมยังนำเอาเมนูอาหารจานโปรดของเขาจากห้องอาหารนอร์ท บาย โฟร์ซีซั่นส์ มาเสิร์ฟที่ซันเดย์บรันช์ให้ได้ลิ้มลองกันอีกด้วย อาทิเช่น สเต็กเนื้อแกะ แฮงเกอร์สเต็ก ไก่บาร์บีคิว และหมูสามชั้นกรุบกรอบซึ่งเป็นที่โปรดปรานของใครหลายๆ คน

โฟร์ซีซั่นส์

รสชาติของวัตถุดิบท้องถิ่น

ทุกๆ จานถูกจัดวางและเสิร์ฟให้กับแขกแต่ละท่านด้วยความใส่ใจ โดยแต่ละเมนูนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากความหลงใหลในรสชาติอาหารทะเลของเชฟเลียม “มันคือความชื่นชอบและความหลงใหลที่ถูกถ่ายทอดออกมาในเมนูเหล่านี้ ซึ่งรับรองว่าเมนูอาหารทะเลปิ้งย่างบนเตาถ่านและเนื้อย่างบาร์บีคิวนั้นคือเมนูไฮไลท์ของมื้อนี้แน่นอน” ทีมพ่อครัวของเรายังเฟ้นหาวัตถุดิบในท้องถิ่นและผลผลิตตามฤดูกาลเพื่อนำมาเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของซันเดย์บรันช์ ซึ่งเปิดโอกาสให้แขกทุกท่านสามารถประยุกต์สร้างสรรค์เบเกิลแซนวิชในแบบฉบับของตนเองได้อีกด้วย

โฟร์ซีซั่นส์

สำหรับสาวกขนมหวาน

นอกจากเมนูอาหารปิ้งย่างแล้ว ยังมีเมนูเรียกน้ำย่อยมากมายไม่ว่าจะเป็นซีฟู้ดออนไอซ์หรือเมนูจากโซนกระทะร้อนและอาหารจานหลักอีกหลากหลายเมนู ที่พร้อมยั่วน้ำลายในยามบ่ายของคุณ  แต่ซันเดย์บรันช์มื้อนี้จะสมบูรณ์ไปไม่ได้หากไม่คุณไม่ได้ลิ้มลองขนมหวานเลิศรสที่สร้างสรรค์โดย เชฟญาณิศา เวียงนนท์ หัวหน้าครัวขนมอบและขนมหวานประจำรีสอร์ทของเรา “ไม่ว่าจะเป็นแพนเค้กนุ่มๆ เสิร์ฟพร้อมวิปครีมที่สุดแสนละมุนและสตรอว์เบอร์รี ครัวซองต์วาฟเฟิลช็อกโกแลตหนึ่งเมนูยอดฮิตจาก “Chiang Mai Whiskers” ไปจนถึงซูเฟล่ชีสเค้ก แอปเปิ้ลทาร์ตตาแต็ง และอื่นๆ อีกมากมาย คลอเคล้าไปกับเสียงเพลงในบรรยากาศสบายๆ พร้อมจิบเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ และนี่ก็คือวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สมบูรณ์แบบ” เชฟญานิศา ยิ้ม

ซีฟู้ดซันเดย์บรันช์

 

เปิดให้บริการทุกวันอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 12.00 น. – 15.00 น. ที่ห้องอาหารข้าว บายโฟร์ซีซั่นส์

ราคา 2,299++ บาทต่อท่านพร้อมเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์แบบไม่จำกัด

และราคา 3,099++ บาทต่อท่านพร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบไม่จำกัด

รับส่วนลดครึ่งราคาสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี

พิเศษส่วนลด 20% สำหรับสมาชิก Gourmet Club

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ 053-298-181 หรือ อีเมล [email protected]

หรือสำรองที่นั่งผ่าน โฟร์ซีซั่นส์แอปพลิเคชัน หรือ Open Table.

 

 

รู้จัก “เป๊ก-เศรณี ชาญวีรกูล” ลูกชายหัวแก้ว หัวแหวน อนุทิน ชาญวีรกูล

Alternative Textaccount_circle

“เป๊ก- เศรณี ชาญวีรกูล” เซเลบริตี้คนดังทายาทของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและ เห็นแบบนี้ขอบอกเลยว่าทั้งหล่อและเก่งไม่ธรรมดา

รู้จัก “เป๊ก- เศรณี ชาญวีรกูล” ลูกชายหัวแก้ว หัวแหวน อนุทิน ชาญวีรกูล หวานใจ “เพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม

“เป๊ก” เป็นทายาทพันล้าน โดยเขาเป็นลูกชายคนเล็กของ “อนุทิน-สนองนุช ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  เป็นหลานปู่ “คุณชวรัตน์ ชาญวีรกูล” อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงพาณิชย์ และยังเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เขาสำเร็จการศึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เป๊ก เศรณีเป็นเซเลบหนุ่มไฟแรงที่กำลังเข้าสู่วัยทำงานอย่างเต็มตัว โดยเขามีเป้าหมายว่าจะทำธุรกิจที่ปู่และพ่อได้สร้างให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป อย่างไรก็ตามเมื่อปี  2563 หนุ่มเป๊กได้เข้ารับการตรวจเลือกทหารกองประจำการประจำปี 2563 ที่กองพันทหารสื่อสาร ทุ่งมหาเมฆ และจับได้ใบแดง ทบ.ผลัด 2 จึงทำให้ต้องเป็นทหารกองประจำการ 1 ปี

สำหรับงานอดิเรกที่หนุ่มเป๊กชื่นชอบคือ การออกกำลังกาย นอกจากฟิตเนสแล้วเขายังมีกีฬาอื่นๆ ที่ชื่นชอบ อาทิ ขับเครื่องบิน, ขี่ม้า, กีฬาทางน้ำ ฯลฯ

ซึ่งความชื่นชอบกีฬาเกือบทุกชนิดทำให้รูปร่างของเขาฟิตแอนด์เฟิร์มเสมอ และนี่เองทำให้เขาได้รับการแนะนำจาก “แหวนแหวน-ปวริศา เพ็ญชาติ” ให้เข้าประกวดหนุ่มในฝัน

แต่เห็นเป็นหนุ่มไลฟ์สไตล์หรูแบบนี้ ทว่าในวัยเรียนเขาใช้เงินต่อวันเพียง 100 บาท เป็นค่าอาหารกลางวัน 50 บาท และค่าจอดรถ 40 บาท

ด้านสเปคสาว “เป๊ก” เคยบอกไว้ว่าต้องเป็นคนที่คุยกันรู้เรื่อง เข้ากันได้ และเป็นคนน่ารักมากกว่า ซึ่งปัจจุบันเขากำลังคบหาดูใจกับ “เพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม” ลูกสาวคนเดียวของ มาดามตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย ปัจจุบันปฎิบัติหน้าที่เป็น นายก อบจ. สมุทรปราการ  และ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม แต่สิ่งที่ทำให้หลายๆ คนตกใจคือ “มาดามตู่” ผู้หวงลูกสาวหนักมากยอมให้ผ่านด่าน ซึ่งนี่อาจจะเป็นคนแรกและคนเดียวเลยก็ว่าได้


ภาพจาก : pek_c

สวีทจนน้ำตาลขึ้น! “เป๊ก-เพลง” ตอบทุกคำถามความรัก ควงคู่โชว์หวานด้วยกันครั้งแรก

‘มีดวงถูกฉวยโอกาส อย่าอยู่ใกล้ชิดใคร ยุคนี้ต้องอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ’ ดูดวงรายวัน 2 กรกฏาคม 2564

ดูดวงรายวัน 2 กรฏาคม 2564 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘มีดวงถูกฉวยโอกาส อย่าอยู่ใกล้ชิดใคร ยุคนี้ต้องอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ’

ดูดวงรายวัน 2 กรกฏาคม 2564

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :  ก็ยังอยู่ที่การใช้ปฏิภาณ ไหวพริบ และความคล่องตัวในการทำงาน เพื่อเอาตัวรอดจากความผิดพลาดและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากวันนี้คุณคิดจะอาสาเจ้านายไปปฏิบัติภาระกิจที่เสี่ยงต่อความผิดพลาด ก็ควรเตรียมความพร้อมให้ดี เพราะดวงบริวารของคุณเสีย มีความเสี่ยงที่จะถูกเทได้ง่ายๆ จึงยิ่งไม่ควรยึดมั่นถือมั่น มีทิฐิ ปล่อยให้โทสะหรือโมหะเข้าครอบงำ ควรใจเย็นๆ อดทน รอคอย จังหวะและโอกาสที่จะมาถึงจะดีกว่า

การเงิน  : จากที่เคยเป็นที่พึ่งให้กับคนอื่น มีความเสี่ยงที่เงินจะเข้ามือซ้ายออกมือขวา บริหารจัดการการเงินเหนื่อยหน่อย วันนี้ก่อนจะควักเงินออกจากกระเป๋าควรมีสติ เพราะอาจต้องเสียเงินก้อนใหญ่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ความรัก : ที่ผ่านมาคุณใช้ชีวิตคู่กันอย่างเจ็บช้ำน้ำใจกับคำพูดแรงๆ ของคู่ ซึ่งคุณก็ทนมาตลอด แต่วันนี้มีความเสี่ยงที่คุณจะไม่ทนแล้ว อาจเพราะมีคนใหม่เข้ามา แต่ก็อย่าเพิ่งไปฝากความหวังกับเขาเลย เพราะมาแบบฉาบฉวย ไม่ได้คิดจริงจังอะไร  คนโสด คุณจะไม่ทนอีกต่อไป วันนี้ขอเป็นโสด

สุขภาพ  :  หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่สะอาด ไม่ถูกสุขลักษณะ รสจัด วันนี้คุณมีความเสี่ยงที่จะท้องเสีย หรืออาหารเป็นพิษ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  หากคุณกำลังอยู่ในช่วงนำเสนองานหรือโครงการ รวมทั้งนำเสนอแล้ว แต่ยังไม่ผ่านการพิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าทีมทำงาน วันนี้มีแนวโน้มว่าก็ยังคั่งค้างอยู่เหมือนเดิม ส่งผลให้คุณอึดอัด และวิตกกังวลมาก ทางที่ดีไม่ควรมีทิฐิ เชื่อมั่นในตัวเองจนไม่สนใจความรู้สึกนึกคิดของคนอื่นเลย เพราะจะทำให้งานเกิดความผิดพลาดเสียหายได้อย่างคาดไม่ถึง จึงควรใจเย็นๆ ระวังคำพูด มีความเป็นไปได้ว่าคุณจะได้ใช้ความรู้ ความสามารถ และทักษะในด้านต่างๆ ริเริ่มงานใหม่ หรือโยกย้ายเปลี่ยนแปลงงานไปเลย

การเงิน :  ควรหลีกเลี่ยงจากงานสีเทา หรือเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งจะมีเข้ามาเป็นจำนวนมาก วันนี้มีความเสี่ยงที่ญาติสนิทมิตรสหายจะมาหยิบยืมเงิน แต่เดี๋ยวเขาก็นำมาคืน

ความรัก : วันนี้หากคุณมีนัดไปติดต่องานกับลูกค้า การที่คุณแต่งตัวสวยเสริมบุคลิกให้กับตัวเองจึงเป็นจุดเด่นให้ผู้คนสนใจในตัวคุณ จนเสี่ยงที่คู่คุณจะเข้าใจผิดได้ คนโสด  วันนี้ไม่ควรให้ความใกล้ชิดหรือไว้ใจใครมากเกินไป ไม่ว่าจะข้องเกี่ยวกันเพราะงานหรือความสนิทส่วนตัว นอกจากคุณจะเสี่ยงถูกฉวยโอกาสแล้วยังเสี่ยงกับโรคอีก  ยุคนี้ต้องอยู่กันห่างๆ อย่างห่วงๆ

สุขภาพ  : มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาในกลไกการรับประทานอาหาร ตั้งแต่ฟัน อวัยวะในช่องปาก ทางเดินอาหาร จนถึงระบบการย่อยอาหาร รวมถึงเสี่ยงต่อการเกิดต่อมทอนซิลอักเสบด้วย

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับการทำงานที่ต้องเดินทางไปโน้นนี่ ไม่ได้นั่งติดออฟฟิศ มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้เริ่มต้นงานใหม่ หรือมีโครงการนำงานเก่าขึ้นมาพัฒนาปรับปรุงใหม่ โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้มุมมองทางด้านความสวยงาม การดีไซน์ออกแบบ และงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งวันนี้คุณมีคุณสมบัติเด่นทางด้านการติดต่อประสานงาน การบริหารจัดการ และการให้คำปรึกษาในด้านต่างๆแต่ไม่ควรเชื่อมั่นในตัวเองมากจนเสี่ยงเป็นเสี่ยงกันอย่างน่ากลัว

การเงิน : ก่อนที่คุณจะรับปากทำงานหรือเซ็นสัญญา โดยเฉพาะเรื่องเงินและผลประโยชน์ วันนี้ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะคุณอาจพลาดท่าเสียที เสียทั้งเงินและเสียทั้งเครดิต ในกรณีที่ทำไม่ได้ตามที่ตกลงไว้

ความรัก :  คุณรักและทำได้ทุกอย่างเพื่อครอบครัว แต่หากคุณสามารถลดทิฐิ และความเชื่อมั่นในตัวเอง ให้อภัยมากกว่าที่จะเอาชนะ ครอบครัวก็จะอยู่กันอย่างมีความสุขขึ้น   คนโสด  คุณโรแมนติก คาดหวังถึงความรักไว้อย่างงดงาม และก็พยายามให้เป็นแบบนั้น จึงไม่แปลกหากจะรักๆ เลิกๆ เริ่มต้นใหม่ วนไป

สุขภาพ  :  วันนี้มีความเป็นไปได้ที่ช่วงขา หน้าแข้ง และข้อเท้าของคุณจะเกิดปัญหา กล้ามเนื้ออักเสบ หรือเส้นเอ็นตึงยึด จึงควรหลีกเลี่ยงจากกิจกรรมที่ต้องเดินหรือยืนนานๆ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  คุณมีภาวะผู้นำสูง มีความรู้ ความสามารถ รับผิดชอบงานได้ดี สามารถทำงานได้หลากหลายมิติ จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้คุณมีความทะเยอทะยานที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทำงานที่เกี่ยวข้องกับสายเอ็นเทอร์เทน เช่น ดีเจ พิธีกร พริตตี้ นักร้อง นักดนตรี รวมถึงผู้ประกอบการสถานบันเทิง วันนี้มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้รับโปรโมทให้ขึ้นระดับผู้บริหารระดับสูง แต่บอกเลยว่า ความสำเร็จในวันนี้ไม่ได้มาด้วยความบังเอิญ แต่ต้องแลกด้วยพลังกายพลังใจที่เข้มแข็ง

การเงิน :  มีความเป็นไปได้ที่รายได้ส่วนใหญ่ในวันนี้จะมาจากงานสีเทา ซึ่งคุณก็มีความสามารถที่จะสร้างความมั่นคงให้กับตัวเอง แต่คุณก็ยังมีรายจ่ายที่จะต้องเลี้ยงดูปูเสื่อเพื่อนฝูง ญาติสนิทมิตรสหายและบริวารอย่างดี

ความรัก : หากวันนี้คุณต้องทำงานนอกบ้านหรือดูแลธุรกิจเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว โดยคู่คุณก็ช่วยสนับสนุนส่งเสริมหน้าที่การงานอยู่เคียงข้าง ควรระวังการเข้าใจผิดเรื่องบุคคลที่สามได้นะคะ คนโสด คุณรอไม่ไหวแล้ว กลัวใครแอบมาอุ้มแฟนคุณไป วันนี้มีความเสี่ยงที่จะตัดสินใจจะไปอยู่กับเขาก่อน

สุขภาพ : ที่ผ่านมาคุณดูแลรักษาสุขภาพตัวเองอย่างดี แต่วันนี้หากคุณยังคงไปดื่มสังสรรค์ ก็ต้องระวังจะพลาดไปติดเชื้อได้นะคะ ยุคนี้ควรต้องรักษาระยะห่างไว้ดีที่สุด

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  มีความเป็นไปได้ที่จะคุณได้ร่วมงานกับคนที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกับคุณทุกอย่าง ในขณะที่คุณก็หมกมุ่นอยู่แต่กับการทำงานจนไม่เป็นอันปฏิบัติภารกิจอื่นใดเลย จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการขัดแย้งกันสูง ยากที่จะราบรื่น วันนี้จึงควรอดทนและรอคอย จังหวะและโอกาสที่จะมาถึง อย่าปล่อยให้โทสะและโมหะเข้าครอบงำ เพราะจะปิดบังหนทางแห่งปัญญาของคุณในการขบคิดปัญหาต่างๆ ให้แตก

การเงิน : มีเงินสะพัด หมุนเวียนเข้าออก ซึ่งวันนี้คุณอาจช่วยเหลือผู้อื่นที่เดือดร้อน จนตัวเองเดือดร้อนต้องบริหารจัดการการเงินตัวเป็นเกลียว

ความรัก : เสี่ยงต่อการที่จะมีความคิดเห็นขัดแย้งกันอย่างยิ่ง เพราะวันนี้มีความเป็นไปได้ที่คุณจะมุ่งมั่นในเรื่องงานสุดๆ แล้วใครก็ห้ามไม่ได้ด้วย  คนโสด ไม่แน่ว่า วันนี้คุณจะเปิดวิวาทะกับคนที่คุณกำลังคบอยู่ในประเด็นที่จะอยู่เป็นโสด หรือแต่งงานดี ซึ่งคุณมีแนวโน้มว่าจะอยู่เป็นโสด ใครก็เปลี่ยนความคิดของคุณไม่ได้ด้วย

สุขภาพ :  มีความเป็นไปได้ที่จะระบบย่อยอาหาร โรคกระเพาะ และลำไส้จะมีปัญหา มีอาการปวดและเสียดท้อง ควรหลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ ไม่ถูกสุขอนามัย รสจัด เพราะเสี่ยงที่จะมีพยาธิ์ในลำไส้

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  คุณเป็นผู้หญิงที่มีความรู้ ความสามารถ และมีบารมีจากตำแหน่งหน้าที่การงาน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องเดินทางเคลื่อนที่ เช่น พนักงานรับส่งเอกสาร ไรเดอร์ส่งอาหาร เดลิเวอร์รี่ โลจิสติกส์ ธุรกิจรถยนต์ ฯลฯ มีความเป็นไปได้ที่ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ คุณจะได้เดินทางไปขยายสาขายังสถานที่แปลกใหม่ งานนี้คุณก็ลุยสุดฤทธิ์ กล้าได้กล้าเสียจนไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นจากใครเลย วันนี้ต้องระวังการตัดสินใจที่เฉียบขาด แต่ขาดความรอบคอบ กับทั้งบริวารที่ไม่ซื่อสัตย์ จะทำให้งานผิดพลาดอย่างไม่น่าจะเกิด

การเงิน : คุณชอบลงทุนและรักการแข่งขัน วันนี้ไม่ควรหลงเชื่อคำพูดที่อ่อนหวานที่จะขอความช่วยเหลือ หรือชักชวนให้คุณลงทุนในธุรกิจหรือทำธุรกรรมต่างๆ เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะถูกมิจฉาชีพแสวงหาผลประโยชน์ ถูกหลอก ถูกโกงทุกรูปแบบ

ความรัก : มีโอกาสที่คุณจะได้โยกย้ายถิ่นฐานไปทำงานยังสถานที่อื่นอย่างกะทันหัน ซึ่งในสถานการณ์แบบนี้ไม่เหมาะที่จะย้ายถิ่นฐาน หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ควรฉีดวัคซีนให้เรียบร้อยก่อนจะดีที่สุด คนโสด หากคุณกำลังมีโครงการที่จะเดินทางไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ยังสถานที่ที่แปลกใหม่ แต่เพราะสถานการณ์โควิด-19 จึงยังไปไม่ได้ ก็อยู่ที่เดิม หาคนคุยเล่นไปก่อน

สุขภาพ :  คุณมีพลังล้นเหลือ ยากที่จะเจ็บไข้ได้ป่วยกับใครเขาหรอก เว้นแต่ว่าหากต้องเดินทางเปลี่ยนสถานที่ มีโอกาสที่ระบบย่อยอาหารจะแปรปรวน เสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพาะและลำไส้

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : สำหรับผู้ที่ต้องการจะเริ่มต้นงานใหม่ จนถึงโยกย้ายเปลี่ยนแปลงไปอยู่ในหน่วยงานที่มีความมั่นคงมากขึ้น ก็ต้องทำใจยอมรับด้วยว่า วันนี้มีความเป็นไปได้ที่คุณจะเข้าสู่การแข่งขันชิงดีชิงเด่นอย่างดุเดือด โดยเฉพาะในเรื่องของผลประโยชน์ และตำแหน่งหน้าที่การงาน นอกจากนั้นยังมีโอกาสที่จะถูกเจ้านายกดดันให้ต้องใช้ความรู้ ความสามารถ ทำงานให้หนักขึ้นกว่าเดิม (จากที่หนักอยู่แล้ว)

การเงิน : หากคิดจะลงทุนร่วมหุ้นกับใคร ไม่ควรทุ่มทุนหมดหน้าตัก เพราะมีการแข่งขันสูง จะทำให้ได้ไม่คุ้มเสีย โดยเฉพาะไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอามิสสินจ้างหรือเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้คุณเดือดร้อน

ความรัก :  จากที่เคยปะทะคารมกันอย่างดุเดือด วันนี้คู่คุณจะปรับเปลี่ยนท่าทีมาเป็นคู่คิดที่ดี คอยแนะนำแนวทางที่มีประโยชน์ให้กับคุณ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่า อาจจะแค่การสร้างภาพ คนโสด หากคุณกำลังอยู่ในช่วงที่พยายามทำทุกอย่าง เพื่อจะแย่งชิงคนๆ นั้นมาเป็นของคุณ วันนี้ ดวงแต่งงานของคุณก็ยังอยู่อีกยาวไกลเช่นกัน   

สุขภาพ :  ก็ยังต้องระวังอันตรายและการบาดเจ็บที่จะเกิดจากการทะเลาะวิวาท หรือจากการดื่มแล้วขับนะคะ ใจเย็นๆ อย่าประมาท ควรดูแลตัวเองให้ดี

 

บ้าน เบคกี้ - รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร

เปิดบ้านสวยสุดหรู สไตล์ชิโน-โปรตุกีสของ “เบคกี้ – รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร”

Alternative Textaccount_circle
บ้าน เบคกี้ - รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร
บ้าน เบคกี้ - รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร

บ้านสีเหลืองสไตล์ชิโน-โปรตุกีสหลังงามบนพื้นที่หนึ่งไร่ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นบ้านสุดหรูหลังเดียวที่สร้างกลางทุ่งหญ้า ให้อารมณ์เหมือนอยู่ต่างจังหวัด หรือไม่ก็อยู่นอกเมืองมาก (เสียงสูง) ทว่าถัดออกไปกลับมองเห็นทางด่วนและแอร์พอร์ตเรลลิงก์อยู่ใกล้ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากความชอบของเจ้าบ้าน ที่ต้องการความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว

ภายในบริเวณบ้านแวดล้อมด้วยไม้ใหญ่ของไทย ทั้งจามจุรีสีทอง พะยอม ปีบ ชมพู่เมืองเพชร ลูกจันทน์ อโศก จิกน้ำ เข็มอุณากรรณ โมกมัน หว้าป่า เพิ่มความร่มรื่นเย็นตาด้วยเฟินหลากสายพันธุ์ ทั้งกลุ่มเฟินชายผ้าสีดาและเฟินบริพัตรขนาดใหญ่ ที่แขวนห้อยลงมาพลิ้วไหวยามต้องลม ส่วนวงเวียนเล็กๆ หน้าบ้านปลูกต้นทองกวาวฟอร์มสวย ชวนให้บ้านดูร่มรื่นเย็นสบาย

เบคกี้ - รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร
สวนสวยให้ความร่มรื่นด้วยไม้ใหญ่ และเฟินนานาชนิด มองเห็นอาคาร 2 หลัง ริมสนามหญ้าก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน

“ดูเหมือนบ้านเราอยู่กลางทุ่งใช่ไหม” คุณเบคกี้ – รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร Executive Director Vice President บริษัทไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้เป็นเจ้าของบ้าน ควบตำแหน่งภรรยาและคุณแม่ลูกหนึ่ง โยนคำถามแบบขำๆ ก่อนเริ่มเรื่องให้ฟังว่า

“เราซื้อที่ดินแปลงนี้ตั้งแต่สิบห้าปีที่แล้ว ความที่ครอบครัวสามี (คุณต้น – ปวัฑฒ์) อาศัยอยู่ย่านนี้ พอคุณแม่สามี (คุณสุวรรณพันธุ์ มณีเสถียร) รู้ว่ามีคนขายที่ดินบริเวณนี้ มีสามแปลง แปลงละหนึ่งไร่ จึงอยากให้ลองมาดู พอเห็นแล้วถูกใจ เราจึงทำถนนทางเข้า ขอไฟฟ้าและน้ำประปาเอง

เบคกี้ - รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร

“มาอยู่แรกๆ ก็กลัวเหมือนกันนะ (ยิ้ม) เพราะมีแค่ห้าชีวิต พ่อแม่ลูกกับแม่บ้านสองคน แต่พอตกกลางคืน กลายเป็นว่าบ้านเรามีแสงไฟจากทางด่วน มองเห็นสว่างทีเดียว และเราทำกำแพงสูง ติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย ทำให้ไม่น่ากลัว” เธอเล่าพลางอมยิ้ม พร้อมกับพาเดินผ่านอาคารริมสนามหญ้าสองหลัง มีทั้งชั้นเดียวและสองชั้น

“เราอยากอยู่บ้านที่ให้อารมณ์แบบไทย จึงสร้างคล้ายๆ เป็นเรือนหมู่รวมกันแบบเรือนไทย แต่ให้สถาปนิกออกแบบตามฟังก์ชันการใช้งาน โดยเรือนชั้นเดียวด้านหน้าทำเป็นห้องเล่นให้ลูกตั้งแต่เขาเล็กๆ จัดของเล่น ทีวี เครื่องเล่นดีวีดี ให้เขาดูรายการต่างๆ ที่ช่วยพัฒนาการและภาษา ส่วนอาคารสองชั้นถัดมาเป็นห้องสมุดประจำบ้าน ชั้นล่างไว้นั่งเล่น เวลาคุณแม่ (คุณเจเน็ต) และพี่สาว (คุณเจน) มาเยี่ยมก็จะชวนกันมานั่งเล่นที่นี่บ้าง”

เบคกี้ - รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร

เปิดบ้านสวยสุดหรู สไตล์ชิโน-โปรตุกีสของ “เบคกี้ – รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร”

“ประเวศบุรีรมย์” บ้านแห่งความทรงจำ

เราถามถึงป้ายชื่อบ้าน “ประเวศบุรีรมย์” ที่ติดอยู่เหนือมุขด้านหน้า คุณต้นช่วยอธิบายที่มาของชื่อนี้ว่า

“คนส่วนใหญ่มักใช้นามสกุลหรือชื่อมงคลตั้งเป็นชื่อบ้าน แต่ผมอยากให้คนสงสัยว่าบ้านนี้อยู่มาเป็นร้อยปีหรือเปล่า เพราะเราสร้างเป็นแบบชิโน-โปรตุกีสและอยู่ใกล้คลองประเวศด้วย จึงเลือกใช้ชื่อคลองเป็นชื่อบ้าน ซึ่งอาคารแนวชิโน-โปรตุกีสเกิดในสมัยรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 จึงพยายามหาฟ้อนต์ตัวหนังสือสมัยนั้นมาทำป้าย แต่หาเท่าไรก็หาไม่ได้ กระทั่งเจอรูปตาลปัตรพัดยศของพระสงฆ์สมัยนั้น จึงนำฟ้อนต์ตัวหนังสือที่เห็นมาออกแบบเป็นป้ายชื่อบ้าน” คุณต้นเล่าด้วยความภูมิใจ

เบคกี้ - รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร
มุมรับแขกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หวายสไตล์จีน มีภาพเขียนโบราณตกแต่งผนัง

ฝ่ายภรรยาเสริมว่า “ก่อนหน้านี้ครอบครัวเราอยู่บ้านโมเดิร์น แต่มีของแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์คลาสสิก ซึ่งนับวันจะล้นมากขึ้นๆ เมื่อสร้างบ้านนี้เราจึงขอเล่นตามสไตล์ของสะสม ตัวเราออกแนวยุโรปๆ หน่อย ส่วนต้นเป็นแนวจีน จึงมาพบกันครึ่งทางด้วยการเลือกบ้านสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ผสมผสานความเป็นจีนและยุโรปเข้าด้วยกัน ต่างจากบ้านสไตล์โคโลเนียลซึ่งดูเป็นยุโรปกว่า”

คุณต้นเล่าบ้าง “ความสวยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมคุยกับเบคกี้ว่าอยากได้ความสวยในอดีตที่เราชอบตั้งแต่เด็กมารวม ไว้ที่บ้านนี้ คนอื่นอาจมองว่าเก่า เชย แต่สวยสำหรับผม เราจึงเลือกสร้างบ้านที่รวมความคลาสสิกแบบนี้ไว้ด้วยกัน จึงออกมาเป็นสไตล์นี้โดยพี่ดุ๊ก (ภาณุเดช วัฒนสุชาติ) มาช่วยดูแลในส่วนของสถาปนิ ก โดยเราสองคนมีข้อมูลจากที่ไปเห็นอะไรสวยก็ถ่ายรูปเก็บไว้ หรือไม่ก็ตัดรูปในหนังสือมาแปะในสมุด เรียกว่าทำเป็นสมุดภาพกันเลย ใช้เวลาศึกษารูปแบบบ้านแนวนี้เป็นปี จนเจอหนังสือเกี่ยวกับ ‘วังลดาวัลย์’ เราบอกเลยว่านี่คือสไตล์ที่อยากได้ พอทีมงานมาคุยด้วย เราก็เปิดหนังสือและสมุดภาพให้ดูว่าอยากได้ บ้านแบบนี้ เขาจึงค่อยๆ บิดดีไซน์จนได้อย่างใจเรา”

เบคกี้ - รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร

คุณเบคกี้แย้งว่า “ที่ถกเถียงกันมากคือสีกระเบื้องหลังคา ใจเราอยากได้สีแดง แต่ต้นกับพี่ดุ๊กบอกว่าต้องเป็นสีเทา เขาชอบสีที่ดูซอฟต์ลงมา พอมีการโหวตออกเสียง เราแพ้ แต่จนทุกวันนี้ก็ยังคิดว่ากระเบื้องหลังคาน่าจะเป็นสีแดงอยู่นะ” เธอเล่ายิ้มๆ และบอกว่า

“บ้านหลังนี้สร้างโดยคุณอาของต้น (คุณวีรพล ศรีมหาโชตะ) มีพี่ดุ๊กช่วยให้คำปรึกษา โชคดีมากที่เราได้ทีมช่างที่เป็นมือวางอันดับหนึ่งในการสร้างวัดมาช่วยด้วย เนื่องจากบ้านชิโน-โปรตุกีส ต้องมีดีไซน์ปูนปั้นย่อมุมตกแต่งประกอบตามจุดต่างๆ เช่น เสา ขอบระเบียง ซุ้มประตู ฯลฯ ซึ่งต้องปั้นขึ้นมาเอง

“ส่วนลายไม้ฉลุเหนือกรอบหน้าต่างเป็นลายไม้ที่เราได้มาโดยบังเอิญ คาดว่าแกะมาจากบ้านคนจีนโบราณ เป็นลายกระถางดอกไม้ที่ไหลไปเรื่อยๆ จึงนำลายนี้มาเป็นต้นแบบ และสั่งร้านทำไม้ย่านบางโพทำเลียนแบบ ถือเป็นซิกเนเจอร์ของบ้าน ทั้งหมดนี้กว่าจะสร้างบ้านเสร็จใช้เวลาถึง 3 ปีทีเดียว”

เบคกี้ - รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร
บรรยากาศภายในห้องสมุดชั้น 2

Classic Style

ภายในบ้านแบ่งพื้นที่เป็นสองฝั่ง มีโถงตรงกลาง ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หวายดีไซน์จีน มีภาพเขียนแอนทีคของชนเผ่าเย้าที่ได้เป็นของขวัญวันแต่งงานจากคุณแม่และพี่สาวคุณเบคกี้ พื้นบ้านทำจากไม้แดงซึ่งได้มาจากพื้นไม้เก่า ส่วนกรอบประตูหน้าต่างทำจากไม้สักทั้งหมด หลังโถงกลางบ้านเป็นทั้งห้องจัดเลี้ยงและห้องอาหาร

“ตอนออกแบบคิดแต่เรื่องฟังก์ชันใช้งานว่าห้องอาหารควรแยกเป็นสัดส่วน เพิ่งมารู้ทีหลังว่าทำแบบนี้ถูกฮวงจุ้ย คือเวลาเข้าบ้านมาไม่ควรมองเห็นโต๊ะกินข้าว ควรทำเป็นห้องหรือมีกำแพงกั้นแยกไป ตกแต่งด้วยโต๊ะรับประทานอาหารสไตล์ยุโรป พร้อมเก้าอี้ทรงชิปเพนเดล 12 ที่นั่ง มุมห้องตกแต่งด้วยโต๊ะบุฟเฟ่ต์สไตล์ยุโรป ที่คุณพ่อ (คุณวันชัย) และคุณลุง (คุณปริญญา) ของต้นให้เป็นของขวัญขึ้นบ้านใหม่

เบคกี้ - รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร
น้องทาช่าที่บันไดโถงกลางบ้าน ตกแต่งผนังด้วยจานโมร็อกโก สั่งซื้อมาจากร้านขายของเก่าที่เชียงใหม่

“ภายในห้องอาหารตกแต่งด้วยตู้เก่าของฝรั่งเศสที่เราค่อยๆ ซื้อมาทีละใบสองใบจนเต็มห้อง ใช้เก็บถ้วยซุป จาน ชาม และชุดน้ำชากระเบื้องวินเทจของอังกฤษ บางเซตเป็นของที่ใครต่อใครพากันตามหา บางเซตเป็นลิมิเต็ด ราคาหลายหมื่น บางชิ้นเป็นลายคลาสสิกของอังกฤษ ซึ่งผลิตออกมาตลอด จึงเป็นของสะสมที่นำมาใช้งานจริง ไม่ต้องกลัวแตก สามารถหาซื้อมาเติมได้เรื่อยๆ” คุณเบคกี้อธิบาย

ฝ่ายสามีเสริมว่า “ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือของสะสม เราจะค่อยๆ หาสะสมไปเรื่อยๆ ได้มาทีละชิ้นสองชิ้น ผมว่าสนุกกว่าเอาเงินก้อนมาวางแล้วบอกให้คนขายหาให้ครบชุดนะ ซึ่งผมกับเบคกี้ชอบของสะสมไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นต่างคนต่างเลือกของที่ตัวเองชอบ เขาชอบจานชาม ผมก็ไม่ไปยุ่ง เพราะมองว่าแพง ส่วนผมชอบรถคลาสสิก ถ้าเขาเห็นก็จะคอยห้ามเหมือนกัน แต่สุดท้ายให้ต่างคนต่างเลือกของที่ชอบเอง”

เบคกี้ - รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร
ชั้นล่างของอาคารที่เป็นห้องสมุด ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สนาม

ถัดจากโถงตรงกลางอีกฝั่งเป็นห้องรับแขก ตกแต่งด้วยผ้าม่านโปร่งจากฝรั่งเศส เพิ่มบรรยากาศด้วยผ้าม่านลายดอกไม้จากอังกฤษ เน้นการตกแต่งให้นั่งสบาย ที่น่าสนใจเห็นจะเป็นตู้เข้ามุมโชว์ ‘ตุ๊กตาแม่ลูกดก’ จากรัสเซีย ซึ่งเป็นของฝากจากเพื่อนรุ่นพี่ สามารถออกลูกได้ถึงสามสิบตัว ทุกตัวเขียนหน้าตาและขอบสีทองครบ ต่อให้เล็กจิ๋วหลิวแค่ไหนก็ยังวาดสีเขียนทองเห็นรายละเอียดครบ ทำเอาเซียนสะสมตุ๊กตาแม่ลูกดกบอกว่าเป็นตุ๊กตาที่มีความพิเศษมาก และราคาแพงกว่าตุ๊กตาแม่ลูกดกปกติอีกด้วย

เบคกี้ - รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร
ห้องรับแขกตกแต่งด้วยม่านโปร่งจากฝรั่งเศส และผ้าม่านลวดลายดอกไม้แบรนด์ Anderson ของอังกฤษ

แผนที่ชีวิต

เราถามถึงการเป็นคุณแม่ลูกสาววัยทีนที่ต้องคอยสนับสนุนลูกสาวคนเดียวให้ได้ทำตามฝัน เนื่องจากน้องทาช่ามีพรสวรรค์และความสามารถด้านบัลเลต์และดนตรีสูงมาก จึงเป็นที่มาที่ทำให้เธอมักจะตั้งโจทย์คำถาม เพื่อให้ลูกสาววัยรุ่นหาคำตอบให้ตัวเองเสมอ ซึ่งคุณเบคกี้เล่าว่า

“บ้านเราไม่ได้เน้นเรื่องเรียนว่าต้องสอบให้ได้เกรด 4 หรือต้องหาที่ติววิชาอะไร เพราะเราเห็นแล้วว่าความสามารถและคอนเน็กชั่นสำคัญกว่า เรามีเป้าหมายเดียวคืออยากให้เขาเรียนอย่างมีความสุข

เบคกี้ - รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร
บรรยากาศในห้องอาหาร ฝั่งหนึ่งมีโต๊ะบุฟเฟ่ต์ดีไซน์ยุโรป ผนังห้องตกแต่งด้วยหัวเตียงเก่าของคนจีน แกะสลักเป็นรูปไก่ตามปีเกิดของคุณเบคกี้ นำมาใส่กระจก ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น

“ความที่ทาช่ามีศักยภาพโดดเด่นมากเรื่องดนตรีและการเต้น ทำให้ยิ่งต้องสนับสนุนให้เขาทำสิ่งที่ทำได้ดีให้เป็ นเลิศมากขึ้น รวมถึงพยายามผลักดันให้ เขาแข่งขัo เพราะเมื่อก่อนเขาขี้กลัว พอเล่าเรื่องในอดีตให้เขาฟังว่าเราเคยเสียโอกาสดีๆ ไป เพียงเพราะการปฏิเสธที่จะเข้าร่วมทำสิ่งนั้น เพราะตอนเป็นนางงามปฏิเสธที่จะเดินถือป้ายในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ซึ่งเพื่อนๆ นางงามคนอื่นเขาไปกัน จึงมีภาพจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ แต่ไม่มีเรา พอเล่าให้ลูกฟัง เขาถึงยอมไปประกวดบัลเลต์ครั้งแรก ได้รางวัลชมเชยกลับมา ซึ่งถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับเขา

“ที่ผ่านมาทาช่าเคยเป็นตัวแทนแข่งขันเปียโนในการแข่งขันเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเขาได้เหรียญทองกลับมา อีกแมตช์หนึ่งของปีนี้เป็นการแข่งบัลเลต์ ซึ่งเขาได้สิทธิ์เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งขัน แต่ต้องรอก่อน เพราะติดสถานการณ์โควิด-19 ทุกครั้งที่เดินทางไปแข่งขัน พวกเราต้องเดินทางไปกับลูก ออกค่าใช้จ่ายเองหมด ถ้าแข่งชนะก็ได้โปรไฟล์และถ้วยรางวัล แต่สิ่งที่ได้นอกเหนือจากนั้นคือการทำให้ลูกมี Self-esteem ซึ่งสำคัญมาก ล่าสุดเขาไปออดิชั่นเพื่อเข้าทีม Soloist ของบางกอกแดนซ์ ต้องฝึกหนักทุกวัน ในหนึ่งสัปดาห์ต้องฝึกเต้นเกินยี่สิบชั่วโมง ซึ่งทาช่าสามารถผ่านเข้าไปอยู่ในทีมได้

เบคกี้ - รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร
โซฟาหนังวินเทจที่เจ้าของชอบมานั่งๆ นอนๆ ในบรรยากาศสบายๆ

“ยังเคยถามเขาว่ามองเห็นอนาคตตัวเองเป็นอย่างไร เขาบอกว่าเขามองเห็นตัวเองยืนอยู่บนเวทีในโอเปร่าเฮ้าส์ พอถามว่าโตขึ้นอยากเรียนอะไร เขาบอกว่าอยากเรียน PE (Physical Education) ซึ่งบ้านเราแปลว่า ‘พลศึกษา’ แต่ที่ต่างประเทศคนเรียน PE สามารถไปได้ไกลกว่านั้น ซึ่งเขารู้ดีว่าในอนาคตทุกคนต้องมีความแตกต่าง ซึ่งสำหรับลูกเป้าหมายของเขาคืออยากไปต่างประเทศ ดังนั้นสิ่งที่ทำอยู่เวลานี้คือการแข่งขันเพื่อเป็นตัวแทนไปแข่งขันในต่างประเทศ”

นอกจากนี้คุณเบคกี้ยังแบ่งเวลาศึกษาต่อปริญญาเอก คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นโค้ชด้วย

“เรารู้ว่าตัวเองถนัดพูดและชอบทำงานด้านการตลาด มีความสนใจเรื่องการพัฒนาคน ซึ่งในอนาคตสิ่งที่สังคมต้องการคือทุนมนุษย์ จึงเริ่มสนใจเรียนการเป็นโค้ชกับอาจารย์ที่มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถสอบวัดระดับจนได้ เป็น Professional Coach ได้รับการรับรองโดยสหพันธ์โค้ชนานาชาติในระดับ PCC (Professional Certified Coach)

เบคกี้ - รมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร
มุมโปรดที่คุณเบคกี้ชอบมานั่งอ่านหนังสือที่มุขปีกหลังของบ้าน บรรยากาศร่มรื่น ใกล้สวนและบ่อปลาคาร์ปชั้น

“นอกจากนั้นครอบครัวเราทำธุรกิจเกี่ยวกับจิเวลรี่ และธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพอยู่แล้ว จึงอยากเรียนต่อเพื่อเพิ่มทักษะ และต่อยอดการทำธุรกิจครอบครัวในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาเรามักมีงานบรรยายให้ผู้บริหารองค์กรต่างๆ ฟังบ่อยๆ อีกทั้งยังทำงานเป็นผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนด้วย จึงอยากเพิ่มวิทยฐานะให้ตัวเองด้วยการเรียนปริญญาเอก คณะครุศาสตร์ ซึ่งเป็นสายการศึกษาและพัฒนามนุษย์ อีกทั้งจะได้ช่วยเด็กๆ ที่ทำความผิดให้พ้นจากวงเวียนของความด้อยโอกาส หรือความผิดพลาดในอดีตของเขา โดยอาศัยการโค้ชที่เรียนมา ซึ่งก็มีเคสที่เราโค้ชให้ จนเขาเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและการใช้ชีวิตของเขาได้ ซึ่งเราก็ดีใจไปกับเขาด้วย แผนการในชีวิตของเราตอนนี้จึงค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นตามที่เราคิดและวางแผนไว้”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 971

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เป็นคนเยอะ อย่ามาง่าย! เปิดบ้านริมน้ำบางปะกง อาณาจักรความสุขของ “ทิปปี้ สุพรทิพย์”

ครั้งแรก! เปิดบ้านริมทะเลสาบสุดอลังของ “ตัน ภาสกรนที” และครอบครัวแสนอบอุ่น

เปิดบ้านสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ญี่ปุ่นของ “หน่อย-เคน” พื้นที่อบอุ่นของครอบครัววงศ์พัวพันธ์

กระเป๋าใส่เหรียญ Chanel ของมิว นิษฐา

รุ่นนี้มาแรง! กระเป๋าใส่เหรียญ Chanel ‘มิว นิษฐา’ ไซส์เล็กพกพาง่าย

กระเป๋าใส่เหรียญ Chanel ของมิว นิษฐา
กระเป๋าใส่เหรียญ Chanel ของมิว นิษฐา

ใบเล็กน่ารักขนาดนี้ Friend of The House จะพลาดได้ยังไง สำหรับ กระเป๋าใส่เหรียญ จาก Chanel ที่ มิว นิษฐา หยิบมาใช้บ่อยในช่วงนี้ แต่เห็นไซส์จิ๋วๆ ขอบอกว่าราคาไม่อ่อนโยนเลยแม่

มิว นิษฐา เป็นอีกคนที่มีกระเป๋าชาเนลในกรุเยอะมาก ชนิดที่นับแทบไม่ไหว เพราะในฐานะ Friend of The House ต้องได้รับการดูแลจาก Chanel อย่างดี อะไรออกใหม่ อะไรกำลังฮิต เธอคนนี้ต้องได้ถือต้องได้ใช้ ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยโปรโมตไอเท็มชิ้นนั้นๆ ไปในตัว เช่นเดียวกับกระเป๋าใส่เหรียญใบจิ๋วที่ตอนนี้กำลังมาแรง คนดังใช้กันเพียบ รวมถึงร้านรับพรีออเดอร์ต่างต้องมีสต๊อก ซึ่งสาวมิวก็เป็นเจ้าของกระเป๋ารุ่นนี้แล้วเรียบร้อย แถมยังหยิบมาใช้บ่อย ไม่บอกก็รู้ว่าถูกใจแค่ไหน

รุ่นนี้มาแรง! กระเป๋าใส่เหรียญ Chanel ‘มิว นิษฐา’ ไซส์เล็กพกพาง่าย

กระเป๋าใส่เหรียญ Chanel ของมิว นิษฐา

กระเป๋าใส่เหรียญ Chanel ของมิว นิษฐา

กระเป๋าใส่เหรียญ Chanel ของมิว นิษฐา

กระเป๋าใส่เหรียญ

กระเป๋าใส่เหรียญ Chanel ของมิว นิษฐา

กระเป๋าใส่เหรียญ Chanel

โดยกระเป๋าชาเนลใบนี้มีชื่อรุ่นว่า Flap Coin Purse With Chain เป็นกระเป๋าใส่เหรียญแบบมีฝาปิดมาพร้อมสายโซ่ ทำจากหนังลูกวัวแบบมีลายเคลือบเงา ซึ่งเป็นรอยยาก ตกแต่งด้วยฮาร์ดแวร์สีทองและไข่มุกเทียมเม็ดโตประทับโลโก้ตัวซีไขว้สีเขียวอ่อนๆ สามารถปิดเปิดกระเป๋าด้วยกระดุมทอง มาในขนาดเล็กพกพาง่าย 2.7 × 4 × 1 นิ้ว ราคาประมาณ 45,500 บาท

กระเป๋าใส่เหรียญ Chanel flap-coin-purse-with-chain-

กระเป๋าใส่เหรียญ Chanel flap-coin-purse-with-chain-

กระเป๋าใส่เหรียญ

กระเป๋าใส่เหรียญ Chanel flap-coin-purse-with-chain-

 


ภาพ : IG@mewnittha  , www.chanel.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

หลักร้อยถึงหลักแสน! กระเป๋า มิว นิษฐา นอกจาก Chanel ยังใช้อีกหลายแบรนด์

กางเกงยีนส์เอวสูง ‘ดัชเชสเคท’ ฮ็อตมาก หลังภาพฉีดวัคซีนโควิด -19 ถูกปล่อย

ฮ็อตไฟลุก! กระเป๋า Longchamp Filet ‘ลิลี่ คอลลินส์’ ในเบื้องหลัง Emily in Paris SS 2

 

ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์

เด็ดขาด รอบคอบ ทำจริง! วิสัยทัศน์ ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ จากบทเรียนถ้ำหลวง สู่วิกฤติโควิด-19

ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์
ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์

เด็ดขาด รอบคอบ ทำจริง! วิสัยทัศน์ ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร จากบทเรียนถ้ำหลวง สู่วิกฤติโควิด-19

ในขณะที่หลายจังหวัดในประเทศไทย การกระจายตัวของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ครอบคลุมไปทั่วแล้ว ซึ่งตอนนี้จะเรียกว่าเป็นวิกฤติโรคระบาดที่หนักหนาเอาการก็คงจะไม่ผิด แน่นอนว่าสิ่งที่ทุกคนต้องทำตามก็คือ มาตรการของรัฐบาลที่ออกมาในเรื่องการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ แต่ประชาชนเองก็คาดหวังว่าการบริหารจัดการ แก้ไขการระบาดของไวรัสให้มีประสิทธิภาพก็มีควาสำคัญ และทำให้เชื่อมันได้ว่าโควิด-19  จะจากไปในเร็ววันนี้ด้วยเช่นกัน

การระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงเป็นอีกหนึ่งภาพสะท้อนของการทำงานของผู้นำต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย ซึ่งอย่างในประเทศไทย บุคคลที่เรียกได้ว่าเป็นความหวังเล็กๆ ของจังหวัดหนึ่งในเวลานี้ คงหนีไม่พ้น ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย  ซึ่งตอนนี้เขาได้ย้ายมาเป็นพ่อเมืองอยู่ที่จังหวัดลำปาง ในช่วงนี้ที่เริ่มมีข่าวไวรัส เขาได้บริหารจัดการ คัดกรองคน เพื่อป้องกันการระบาดอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่เกิดในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน จนขณะนี้ แม้ว่าไวรัสจะกระจายอยู่ทั่วประเทศแล้ว ลำปางยังคงเป็นจังหวัดที่ยังการันตีว่า ไม่พบผู้ติดเชื้อแม้แต่คนเดียว

ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร

ก่อนหน้านี้เมื่อครั้งเหตุการณ์ถ้ำหลวงในปี 2561 ผู้ว่าฯ ได้เคยให้สัมภาษณ์กับแพรวไว้ การพูดคุยในตอนนั้น เราได้ถามถึงวิสัยทัศน์ในการทำงาน ระบบทางความคิดของนักบริหารคนนี้ว่า เขามีวิธีคิดและมองการแก้วิกฤติบ้านเมืองอย่างไรบ้าง ซึ่งทั้งหมดนี้ ก็น่าจะเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นถึงการทำงานของพ่อเมืองที่ชื่อ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ในวันที่เกิดวิกฤติโรคระบาดอีกครั้งได้เป็นอย่างดี

เด็ดขาด รอบคอบ ทำจริง! วิสัยทัศน์ ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ จากบทเรียนถ้ำหลวง สู่วิกฤติโควิด-19

“ผมไม่มีเคล็ดลับอะไรพิเศษในการทำงาน เพียงแค่ต้องมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ต้องยึดมั่นกับเป้าหมายและทำทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นให้ได้ สมัยก่อนเวลาว่าง ผมจะไปอ่านหนังสือ มีคนถามว่าเรียนอะไรเยอะขนาดนี้ บ้าหรือเปล่า ผมว่าการอ่านหนังสือเองกับเรียนหนังสือมันต่างกัน ผมเรียนเพื่อทดสอบความรู้ตัวเองในด้านนั้น ผมชอบอ่านประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ไปจนถึงนิยาย ชอบอะไรที่ขบคิดลับสมอง เพื่อเป็นการสร้างพื้นฐานให้ตัวเอง เวลาที่เจอวิกฤติเราจะไม่ลนลาน มีสติคิดได้ ตัดสินใจได้

“ผมจึงไม่ตื่นเต้นกับปัญหา เพียงแต่ว่าขนาดหรือระดับของปัญหามาไม่เท่ากันในแต่ละครั้ง สไตล์การทำงานของผมก็เลยเป็นแบบ ถ้าอยู่ในภาวะสงครามอย่างในอดีตแล้วผมเป็นแม่ทัพ ถ้าตั้งใจว่าวันนี้จะตีเมืองนี้ให้ได้ เพื่อเข้าไปกินข้าวเย็นในบ้านเขา ผมจะบอกให้ทุกคนรอกินได้เลย แต่ห้ามถามว่าผมจะใช้วิธีอะไรในการยึดเมืองนี้ ผมบอกได้แค่ว่า จงมั่นใจว่ายึดเมืองได้และเข้าไปกินข้าวเย็นได้แน่

ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร

“ผมเติบโตมาในฐานะ Problem Solver รับราชการมา 30 กว่าปีแล้ว ผมไม่เคยได้นั่งแล้วทำงานสบายๆ แต่ต้องไปแก้ปัญหาเกือบทุกที่ ผมถูกฝึกมาให้แก้ปัญหาตั้งแต่อายุยังน้อย ถูกส่งเข้าไปในพื้นที่เพื่อแก้วิกฤติ แต่เมื่อแก้ได้แล้ว แทนที่จะได้อยู่กับมัน ผมมักถูกย้ายให้ไปแก้ปัญหาที่ใหม่ตลอด

“ถ้าคุณเป็นนักแก้ปัญหา คุณแม่น คุณไม่ต้องมัวทำให้เสียเวลา เข้าไปถึงปุ๊บ มองปัญหา วางเป้าหมาย กำหนดทิศทาง จะใช้ตัวละครอะไร ทรัพยากรอะไร วางแผนแล้วรีบแก้ทันที เพราะถ้าไม่รีบแก้ก็จะมีปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกแน่ ชีวิตผมมันเป็นอย่างนี้ จนกลายเป็นว่าอาชีพหลักของผมคือ การแก้ปัญหา

“ตราบใดที่ยังทำงาน เราก็อยากบรรลุเป้าหมาย ทุกปัญหาไม่เคยเหมือนกัน มันเป็นงานลับสมอง สนุก ท้าทาย อยากทำให้สำเร็จ ซึ่งความสำเร็จมันยิ่งใหญ่เสมอนะ”


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เบื้องหลังชีวิตแสนลำบากของ ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย

ทำความรู้จัก เอิร์ธ-พงศกร ลูกชายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

5 เรื่องไม่ลับแต่กินใจมาก ของผู้ว่าฯตงฉิน พ่อเมืองแห่งเชียงราย

ทาเคชิ คาเนชิโระ

5 ข้อดีที่พิสูจน์ว่า ทาเคชิ คาเนชิโระ  เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ

Alternative Textaccount_circle
ทาเคชิ คาเนชิโระ
ทาเคชิ คาเนชิโระ

ในที่สุด ทาเคชิ คาเนชิโระ (Takeshi Kaneshiro) นักแสดงหนุ่มผู้ลึกลับ ซึ่งไม่ค่อยมีผลงานออกมาให้แฟนคลับติดตามสักเท่าไหร่ ได้กลับมามีผลงานอีกครั้งที่ไต้หวัน ถึงจะเป็นเพียงโฆษณาเกมสั้นๆ แต่ก็ทำให้สาวกที่รอชมผลงานได้คลายความคิดถึงหนุ่มคนนี้ลงบ้าง โดยในโฆษณาชิ้นนี้ได้เผยให้เห็นภาพลักษณ์ที่สุขุมและดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ แม้ปีนี้เขาจะอายุ 47 ปี ย่างเข้าสู่วัย 48 ปี แต่ก็ยังหล่อเหล่าตามวัย

ย้อนกลับไปในวัยหนุ่มทาเคชิทำงานอย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่าจะเป็นละคร ภาพยนตร์ ถ่ายแบบ  โดยเฉพาะงานถ่ายโฆษณาที่สามารถเห็นได้จากทั่วทุกที่ ทั้งในจีน ญี่ปุ่น หรือแม้แต่ที่ประเทศไทย ซึ่งจากสาเหตุนี้ทำให้เราไม่ค่อยได้เห็นชีวิตที่นอกเหนืองานของเขาสักเท่าไหร่ และแม้แต่ตอนนี้ที่เขาเริ่มรับงานน้อยลงก็ไม่ได้เห็น จนใครๆ ต่างพากันเรียกว่า นักแสดงหนุ่มผู้ลึกลับ เกี่ยวกับเรื่องนี้ นักแสดงหนุ่มได้เคยออกมาให้สัมภาษณ์ โดยเขาบอกว่า เขาไม่ต้องการที่จะเปิดเผยมากเกินไป เพราะกลัวว่าผู้ชมจะไม่เข้าใจบทบาทที่เขาเล่น

แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่สามารถรับรู้เรื่องราวของนักแสดงหนุ่มคนนี้ได้เลย นิตยสาร cosmopolitan ไต้หวัน ได้เคยรวบรวมเรื่องราวของ Takeshi Kaneshiro ที่หลายคนอาจไม่ค่อยรู้มาให้ได้อ่านกัน ซึ่งจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันเลยค่ะ

Takeshi Kaneshiro

พระเอก ทาเคชิ

ทาเคชิ คาเนชิโระ

5 ข้อดีที่พิสูจน์ว่า ทาเคชิ คาเนชิโระ  เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ

1.ผู้กำกับ Chen Kexin ซึ่งเคยร่วมงานกับนักแสดงหนุ่มในผลงานเรื่อง “Perhaps Love” เล่าว่าปกติแล้ว ดาราหนุ่มไม่ใช่คนช่างพูด แต่กับเวลาทำงานเขาแตกต่างออกไป โดยบทของทาเคชิได้รับในเรื่องนี้ดูจะน่าเบื่อมากที่สุดในละคร แต่เขากลับทำให้บทนี้มีชีวิตชีวามากขึ้น เนื่องจากเขามักถามผมอยู่เสมอว่า “เพราะอะไร ทำให้ต้องเป็นแบบนี้” เขาสอบถามแทบจะทุกบรรทัด ด้วยความที่อยากรับรู้ความรู้สึกของตัวละคร เพื่อถ่ายทอดออกมาให้ผู้ชมได้เเข้าใจมากที่สุด

Perhaps Love

2.ขณะที่ทางด้าน ผู้กำกับ Wu Yusen กล่าวชื่นชมทัศนคติในการทำงานของทาเคชิ ในการทำงานร่วมกันในภาพยนตร์ The Crossing ว่า ฉากที่เรืออับปาง เขาต้องแช่ในสระน้ำขนาดใหญ่ที่เย็นมากๆ หลายชั่วโมง ซึ่งอันที่จริงแล้วในฉากนี้เขาเป็นเพียงส่วนเสริมเพื่อบทของนักแสดงอีกคนหนึ่ง แต่เขาก็ทุ่มเทอย่างเต็มกำลัง

3.ทาเคชิเป็นคนที่เลือกบทอย่างเคร่งครัด เขามักจะอ่านโครงเรื่องและบทสนทนาเสมอ ไม่ใช่แค่ในการแสดงละครหรือภาพยนตร์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงในโฆษณาด้วย เรียกว่าเป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียดมากๆ

4.เมื่อไม่ได้ทำงาน เขามักจะฝั่งตัวอยู่ในบ้านตัวเองตลอด โดยงานอดิเรกที่ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นงานประจำในช่วงที่ว่างก็คือการเล่นเกม เขาเคยถึงขั้นไม่กินไม่นอนมาแล้ว ขณะที่ผู้กำกับ Chen Kexin เล่าว่า ทาเคชิเคยปฏิเสธคำชวนทานอาหารค่ำของเขา เพราะต้องไปเล่นเกม

5.ถึงแม้ว่าทาเคชิจะมีรายได้จากงานแสดงและโฆษณาเป็นจำนวนมาก แต่ชีวิตจริงหนุ่มคนนี้กลับเป็นคนสบายๆ เขามีเสื้อผ้าและรองเท้าไม่กี่ชุดเท่านั้น อีกทั้งไม่ใช่คนจู้จี้จุกจิกกับเรื่องการรับประทาน ผู้กำกับ Chen Kexin เคยพานักแสดงหนุ่มไปร้านอาหารญี่ปุ่นสุดหรู หลังทานเสร็จทาเคชิบอกกับผู้กำกับว่า “ครั้งต่อไปผมจะพาคุณไปกินอาหารอื่น ที่เหมือนกันแต่ถูกกว่า” นั่นสะท้อนให้เห็นว่าเขาก็เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่ง ที่รักในการชีวิตธรรมดาๆ มากๆ เลยทีเดียว


ข้อมูล : www.cosmopolitan.com/tw

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

พ่อพระของคนยาก กู่เทียนเล่อ ไม่หยุดปิดทองหลังพระ สร้างโรงเรียนเพิ่มอีกเพียบ

ดาราจีน เหลียงเซิน เปิดใจทั้งน้ำตาถึงสาเหตุที่ว่า ทำไมเขาถึงไม่มีผม?

นานๆ ทีจะออกจากบ้าน! พระเอกเกาหลี โจอินซอง หวนคืนหน้าจอในรอบ 5 ปี

 

วิธีดูแลเส้นผม แบบยัยตัวร้าย จอนจีฮยอ

5 วิธีดูแลเส้นผม แบบยัยตัวร้าย จอนจีฮยอน นุ่มลื่นพลิ้วสวยน่าสัมผัส

Alternative Textaccount_circle
วิธีดูแลเส้นผม แบบยัยตัวร้าย จอนจีฮยอ
วิธีดูแลเส้นผม แบบยัยตัวร้าย จอนจีฮยอ

จอนจีฮยอน (Jun Ji Hyun) นางเอกระดับแม่เหล็กของเกาหลีใต้ ที่แม้ว่าปีนี้เธอจะอย่างเข้าสู่วัย 40 ปีแล้ว แต่ก็ยังคือต้นแบบความงามเกาหลี ที่สาวๆ หลายคนชื่นชอบ เห็นได้จากผลงานพรีเซนเตอร์ไลน์บิวตี้ที่หลั่งไหลเข้ามาแบบหัวกระไดไม่แห้ง และนอกจากฝีมือการแสดง หน้าตาดี หุ่นดีแล้ว หลายคนก็ยังอิจฉาผมสลวยของเธอ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดขายที่แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ของเธอ 5 วิธีดูแลเส้นผม แบบยัยตัวร้าย จอนจีฮยอน

ย้อนกลับไปในภาพยนตร์เรื่อง My  Sassy Girl ผลงานที่ทำให้นักแสดงสาว “จอนจีฮยอน” มีชื่อเสียงมากที่สุด เธอได้ทำให้ผู้ชมหลงใหลไปกับเสน่ห์อันแสนจะธรรมชาติ ฉากผมดำขลับยามต้องลม ราวกับเทพธิดา ที่ปรากฏซ้ำๆ ในภาพยนตร์ ไม่เพียงจะทำให้พระเอกนายเจียมเจี้ยมตกหลุมรักเธอเท่านั้น แต่มันยังทำให้หนุ่มทั่วกรุงโซลยกหัวใจให้กับสาวเธอ และแม้ว่าเวลาจะผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่ผมสลวยสีดำก็ยังคงเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงของเธอมาจนทุกวันนี้

วิธีดูแลเส้นผม แบบยัยตัวร้าย จอนจีฮยอน

สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับการดูแลเส้นผม วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ ของเธอมาแบ่งปันกันค่ะ บอกเลยว่าไม่ยากอย่างที่คิด เพียวแค่ 5 ข้อเท่านั้น

5 วิธีดูแลเส้นผม แบบยัยตัวร้าย จอนจีฮยอน นุ่มลื่นพลิ้วสวยน่าสัมผัส

ข้อ 1  : สระผมแล้วล้าง 2 ครั้ง 

ในการสระผมแต่ละครั้ง จอนจีฮยอน จะทำความสะอาดผมด้วยแชมพู 2 ครั้ง โดยครั้งแรกคือการทำความสะอาดเส้นผม ขจัดความมันและสิ่งสกปรกบนพื้นผิวของเส้นผม ครั้งที่สองทำความสะอาดหนังศรีษะด้วยการใช้นิ้วนวดเบาๆ เพื่อบรรเทาความดันและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เส้นผมมีสุขภาพดี แข็งแรง และยังกระตุ้นการเจริญเติบโตอีกด้วย

จอนจีฮยอน (Jun Ji Hyun)

ข้อ 2 : ล้างผมด้วยน้ำเย็นหลังสระ

หลังจากที่นักแสดงสาวสระผมแล้ว เธอจะทำอีกหนึ่งขั้นตอน นั่นคือการล้างผมด้วยน้ำเย็น ซึ่งเธอบอกว่าน้ำเย็นทำให้รูขุมขนบริเวณหนังศรีษะหดตัวลงซึ่งจะช่วยให้ผมเงางามมากขึ้น และป้องกันไม่ให้ผมชีฟู แต่ข้อควรระวังคือไม่ควรใช้หัวฉีดน้ำแรงๆ แต่ควรล้างออกแบบช้าๆ เหมือนรดน้ำดอกไม้

นางเอกเกาหลี จอนจีฮยอน

ข้อ 3  : ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าว

จอนจีฮยอนมักเลือกใช้แชมพูและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าว เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวมีความอ่อนโยนตามธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง ทั้งยังใช้ความชุ่มชื้น มีประสิทธิภาพและช่วยซ่อมแซมหนังศรีษะและเส้นผมที่เสีย

น้ำมันมะพร้าว

ข้อ 4 : ดูแลผมบ่อยๆ 

นอกเหนือจากการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นแล้วการดูแลเส้นผมก็สำคัญไม่แพ้กัน หากคุณทาโลชั่นที่ผิวหน้า คุณก็ไม่ควรลืมที่จะใช้เซรั่มที่ไม่ต้องล้างออกดูแลเส้นผมเหมือนกัน เพราะมันจะทำให้ผมไม่ชี้ฟูทั้งยังทำให้ผมเงางามและนุ่มสลวย

Jun Ji Hyun

ข้อ 5 :  ทานวิตามินให้มากขึ้น

จอนจีฮยอนเชื่อว่าอาหารเช้ามีความสำคัญต่อการเติบโตของเส้นผม ดังนั้นเธอจะกินอาหารที่มีวิตามินสูง เช่น ผักโขม เพื่อเสริมสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเส้นผม ป้องกันผมร่วงและช่วยให้ผมงอกใหม่สุขภาพดีขึ้น

จอนจีฮยอน

อย่างไรก็ตาม หากคุณสาวๆ ต้องการมีผมที่แข็งแรง อย่าลืมจดจำเคล็ดลับนี้ไว้ใช้ในชีวิตประจำวันล่ะ 

ข้อมูลจาก : hk.on.cc

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

6 เรื่องที่ทำให้รู้ว่านางเอก จอนจีฮยอน และครอบครัว รวยระดับหมื่นล้าน

เมคอัพเบาหวิว + ทรงคิ้วลดอายุ เทคนิคสวยแบ๊วตลอดกาลของ ‘ซงฮเยคโย’

กินแบบสาวสองพันปี ‘อียองเอ’ วัยใกล้เลข 5 แต่หน้ายังตึง ไม่พึ่งโบท็อกซ์

เจ้าหญิงไดอานา

พี่น้องสมานฉันท์ รอยยิ้มอันงดงามเพื่อพระมารดา ในวันเปิดรูปปั้น เจ้าหญิงไดอานา

account_circle
เจ้าหญิงไดอานา
เจ้าหญิงไดอานา

วันแห่งความสุข พักความบาดหมางในจิตใจ เจ้าชายวิลเลียม-เจ้าชายแฮร์รี่ พี่น้องสมานฉันท์ เผยรอยยิ้มอันงดงามเพื่อพระมารดาในวันเปิดรูปปั้น เจ้าหญิงไดอานา

พี่น้องสมานฉันท์ รอยยิ้มอันงดงามเพื่อพระมารดา ในวันเปิดรูปปั้น เจ้าหญิงไดอานา

เจ้าหญิงไดอานา เจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแฮร์รี่

เจ้าชายวิลเลียม และ เจ้าชายแฮร์รี่ ละทิ้งความบาดหมาง เพื่อเปิดพระอนุสาวรีย์พระมารดาอันเป็นที่รักของทั้งสองพระองค์ในวันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งยังเป็นวันคล้ายวันประสูติครบรอบ 60 ปีของ ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลล์ ทั้งนี้ทั้งสองพระองค์ได้ทรงประกาศว่า

รูปปั้น เจ้าหญิงไดอานา

‘ในทุกๆ วันเราหวังว่าแม่จะยังอยู่กับเรา และหวังว่ารูปปั้นนี้จะเป็นสัญลักษณ์ และเป็นตัวแทนของเธอตลอดไป’

เอียน แรงค์-บรอดลีย์ ผู้ออกแบบ

ในวันนี้พระเชษฐา และ พระอนุชา ยืนเคียงบ่า เคียงไหล่ กันเหมือนในวันวาน ทั้งสองพระองค์ทรงเปิดรูปปั้นของพระมารดาที่ถูกผ้าคลุมไว้ ซึ่งผลงานชิ้นนี้เป็นฝีมือของ เอียน แรงค์-บรอดลีย์ รูปปั้นของเจ้าหญิงไดอานาที่ทรงยืนกับเด็กน้อยทั้งสามคนนั้นทำจากทองสัมฤทธิ์ ล้อมรอบด้วยดอกไม้ที่พระองค์ทรงโปรดปราน 4,000 ดอก

เจ้าหญิงไดอานา เคนซิงตัน

พระอนุสาวรีย์นี้ตั้งอยู่ในสวนซังเคน การ์เดน ภายในเขตพระราชวังเคนซิงตันที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยสถานที่แห่งนี้ที่ปลอบโยนและปลอดภัยสำหรับเจ้าหญิงไดอานาก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์ในปี 1997

การออกแบบครั้งนี้ถูกเก็บเป็นความลับและดูเหมือนว่าจะได้รับแรงบันดาลใจจากการ์ดคริสต์มาสอย่างเป็นทางการของเจ้าหญิงไดอานาในปี 1993 ซึ่งถูกส่งเป็นครั้งแรกโดยไม่มีเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์

รูปปั้นเจ้าหญิงไดอานาสวมเสื้อเชิ้ต กระโปรง และเข็มขัด พระพักตร์ของพระองค์เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และความรักที่มีให้กับพระโอรสทั้งสองของพระองค์ อาจกล่าวได้ว่ารูปปั้นนี้ สะท้อนให้เห็นถึง ‘วาระสุดท้ายของชีวิตเจ้าหญิงไดอานาที่ทรงได้รับความเชื่อมั่นในบทบาทฐานะทูตด้านมนุษยธรรม’

ก่อนจะเริ่มพิธีเปิดนั้น สื่อต่างประเทศโดย Daily Mail ได้เผยว่า เจ้าชายวิลเลียม และ เจ้าชายแฮร์รี่ทรงมีพระอิริยาบถที่ดูผ่อนคลายมากกว่าเดิม โดยเฉพาะเจ้าชายแฮร์รี่ที่ยิ้มกว้าง และหัวเราะอย่างมีความสุขกับญาติของพระมารดา เอิร์ล แห่งสเปนเซอร์ พระมาตุลาของทั้งสองพระองค์ ที่เดินทางมาร่วมงานนี้ด้วย

ในขณะที่เจ้าชายวิลเลียมนั้นดูเคร่งขรึมเล็กน้อยตลอดช่วงพิธีสั้นๆ ทั้งสองพระองค์เดินไปที่ สวนซังเคน การ์เดน ด้วยกัน ทรงพูดคุยกันเล็กน้อยหลังจากที่แทบจะไม่ได้คุยกันเลยเป็นเวลา 18 เดือน

ในแถลงการณ์ร่วมกันของเจ้าชายทั้งสองระบุว่า “วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของแม่เรา เราจดจำถึงความรัก ความเข็มแข็ง คุณลักษณะ คุณภาพที่สร้างพลังสำหรับความดีงามไปทั่วโลก เปลี่ยนแปลงชีวิตของคนนับไม่ถ้วนให้ดีขึ้น”

เจ้าชายแฺฮร์รี่ เจ้าหญิงไดอานา

ภายหลังจากพิธีเสร็จสิ้นมีการคาดว่า เจ้าชายแฮร์รี่อาจเสด็จกลับไปที่ Frogmore Cottage  ซึ่งพระองค์อาจทรงพบกับควีนเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งเสด็จกลับมาที่พระราชวังวินด์เซอร์ เพื่อทอดพระเนตรการแสดงม้าประจำปี หลังจากการทัวร์สกอตแลนด์ หรือ อาจเสด็จไปที่สนามบินฮีทโธรว์เพื่อบินกลับแอลเอโดยทันที

ขณะเดียวกันมีการเผยว่า เจ้าชายแฮร์รี่ทรงร่วมกับโรงเรียนที่เคยศึกษา และ พระสหายทหารบก จัดเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับเด็กๆ

พระญาติ เจ้าหญิงไดอานา

พระญาติ เจ้าหญิงไดอานา

ในงานเปิดพระอนุสาวรีย์ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลล์มีผู้ร่วมงานเพียง 13 คน เช่น เอิร์ล สเปนเซอร์ น้องชายของเจ้าหญิงไดอานา เลดี้ เจน เฟลโลว์ส (พี่สาว) และเลดี้ ซาราห์ แมคคอร์โกเดล ขณะที่สื่อต่างจับตาว่า เคท มิดเดิลตัน จะเสด็จมาร่วมงานหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามคาดว่า ดัชเชสเคทไม่ได้มาร่วมเปิดรูปปั้นเจ้าหญิงไดอานา ซึ่งมีการวิเคราะห์สาเหตุที่พระองค์ไม่มาร่วมงานนั้น เพราะไม่อยากให้เจ้าชายแฮร์รี่รู้สึกลำบากพระทัย

แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม แม้ดัชเชสเคทจะไม่ได้เสด็จเข้าร่วมพิธีเปิดรูปปั้นเจ้าหญิงไดอานา แต่มีการคาดว่า ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พร้อมด้วยลูกๆ ทั้งสามของพระองค์ได้เสด็จทอดพระเนตรรูปปั้นเจ้าหญิงไดอานาเป็นการส่วนพระองค์ก่อนวันพิธี


39 เรื่องไม่ลับ ! เรื่องจริงชวนตรึงใจของ ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์

เจ้าชายแฮร์รี่ โกรธแรง ไม่พอใจปาปารัสซี่ที่ตามถ่ายรูป อาร์ชี ไปโรงเรียนวันแรก

‘เจ้าหญิงไดอาน่า’ ถูกยกเป็นราชวงศ์ที่งดงามที่สุด วัดตามสัดส่วนทองคำกรีกโบราณ

วิธีเลือกแอคเซสเซอรี่

แมตช์เครื่องประดับให้ปังในวันสำคัญ วิธีเลือกแอคเซสเซอรี่ ให้เข้ากับชุดเจ้าสาว

Alternative Textaccount_circle
วิธีเลือกแอคเซสเซอรี่
วิธีเลือกแอคเซสเซอรี่

เพราะเครื่องประดับคือสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมให้เจ้าสาวสวยสง่าและเปล่งประกายยิ่งขึ้น โดย วิธีเลือกแอคเซสเซอรี่ ให้เข้ากับชุดที่สวมใส่จะยิ่งทำให้คุณสวยเพิ่มขึ้นเท่าตัวซึ่งส่วนใหญ่จะดูดีไซน์จากชุดเป็นหลัก

แมตช์เครื่องประดับให้ปังในวันสำคัญ วิธีเลือกแอคเซสเซอรี่ ให้เข้ากับชุดเจ้าสาว

ชุดเกาะอก

ชุดดีไซน์นี้เผยผิวช่วงบนจึงเลือกใส่เครื่องประดับแบบครบเซตจัดเต็มได้ทั้งสร้อยคอ ต่างหูและกำไลข้อมือ ถ้าชุดของคุณเป็นแบบมินิมัลเรียบๆ แนะนำว่าให้เลือกเครื่องประดับดีไซน์โมเดิร์นเพื่อให้รับกัน

ชุดเกาะอกทรงหัวใจ

โชว์เน็กไลน์ที่มีความโค้งรับกับช่วงอกทรงนี้สะท้อนถึงความเฟมินีนและเสน่ห์ของสาว ๆ ได้เป็นอย่างดีและแน่นอนว่าเป็นชุดที่เผยผิวช่วงบนสามารถจัดเต็มเครื่องประดับได้ครบเชตทั้งสร้อยคอ ต่างหู และกำไลข้อมือแนะนำว่าสร้อยคอควรเลือกเป็นทรงหยดน้ำที่ล้อไปกับเน็กไลน์ของชุดอีกทั้งยังช่วยเสริมให้ผิวดูเปล่งประกายขึ้นด้วย

ชุดคอวี

เนื่องจากทรงของเน็กไลน์ที่มีการผ่าบริเวณช่วงคอถึงหน้าคอ จึงเหมาะกับสร้อยทรงยาวดีไซน์มินิมัลที่ไม่ปิดบังผิว หรืออีกตัวเลือกก็คือ การแมตช์กับโช้กเกอร์เด่น ๆ สักเส้นเพื่อเผยผิวช่วงคอ ก็งามไม่แพ้กันค่ะ

วิธีเลือกแอคเซสเซอรี่

ชุดคอสูงหรือคล้องคอ

ดีไชน์ชุดเจ้าสาวแบบคล้องคอ คอจีนหรือดีไซน์วินเทจคอสูงกลับมาได้รับความนิยมอย่างมากจากเจ้าสาวในยุคนี้และด้วยดีไซน์ของชุดที่มีดีเทลค่อนข้างแน่นจึงควรบอกลาสร้อยคอ แล้วเสริมด้วยต่างหูหรือกำไลข้อมือเข้าเซตกันส่วนถ้าเป็นชุดสไตล์วินเทจ แนะนำให้แมตช์ด้วยเครื่องประดับเพชรทรงกลมทรงคุชชั่น หรือถ้าใครชอบเครื่องประดับมุกก็สวยปังไม่ผิดกติกาค่ะ


 

นางเอกเกาหลี ฮันโซฮี

วิวัฒนาการด้านแฟชั่น นางเอกเกาหลี ฮันโซฮี หลากลุคสวยงามละลานตา

Alternative Textaccount_circle
นางเอกเกาหลี ฮันโซฮี
นางเอกเกาหลี ฮันโซฮี

ตามดูวิวัฒนาการด้านแฟชั่นของ นางเอกเกาหลี ฮันโซฮี จากเรื่อง รักนี้ห้ามไม่ได้ (Nevertheless)  หลากลุคสวยงามละลานตา

นับตั้งแต่แจ้งเกิดในวงการจากบทบาทซึ่งเรียกเสียงฮือฮาในซีรีส์เรื่อง หลังภาพแห่งความสุข (The World of the Married) และซีรีส์สุดฮ็อตเรื่องล่าสุดอย่าง รักนี้ห้ามไม่ได้ (Nevertheless) ความสวยสะพรั่งของ นางเอกเกาหลี ฮันโซฮี (Han So Hee) ก็เป็นที่เลื่องลือโดยไม่มีทีท่าว่าจะแผ่วลงเลยซักนิด โดยนักแสดงสาวสวยเคยได้ฝากฝีมือด้านการแสดงไว้ผ่านบทบาทต่างๆ มามากมาย และแน่นอนว่าบทบาทที่หลากหลายที่เธอเคยได้รับมาตลอดเส้นทางการเป็นนักแสดงของเธอนั้น ย่อมมาพร้อมกับสไตล์แฟชั่นที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นลุคสุดหรู ย้อนยุคด้วยชุดฮันบก เสื้อกันหนาวลำลองสุดชิล และอีกมากมายหลายลุคให้เราได้ชื่นชม แต่วันนี้ เราจะพาไปดูลุคสุดปังที่เลือกมาจากคาแร็กเตอร์ที่รับบทโดย ฮันโซฮี ไปดูกันเลยว่าจะมีลุคไหนบ้าง!

นางเอกเกาหลี ฮันโซฮี

อดีตรักพัดหวน (Reunited Worlds)

เปิดฉากกันที่สไตล์แฟชั่นของ “อีซอวอน” จากซีรีส์รักโรแมนติกเรื่อง อดีตรักพัดหวน (Reunited Worlds) ซึ่งเป็นคาแร็กเตอร์ที่เดบิวต์ผลงานการแสดงของเธอ และถือเป็นคาแร็กเตอร์ที่แต่งตัวได้ทันสมัยที่สุดในลิสต์นี้ ในฐานะนักข่าวนิตยสารแฟชั่น แน่นอนว่า อีซอวอน ต้องตามติดทุกเทรนด์แฟชั่นที่กำลังฮ็อตฮิต เสื้อผ้าและไอเทมที่เธอสวมใส่ล้วนมาจากซีซั่นใหม่ล่าสุดชนิดที่ว่ายังไม่ทันได้ลงนิตยสารเลยด้วยซ้ำ และเนื่องจากตัวเธอเองเป็นลูกของผู้อำนวยการโรงพยาบาล แน่นอนว่าเธอนั้นกระเป๋าหนัก จะซื้อเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายให้ทันตามเทรนด์สมัยใหม่แค่ไหนเธอก็ไม่หวั่น ด้วยความที่มีใจรักในแฟชั่นนี้เอง ทำให้เธอแต่งตัวสวยเฉิดฉายไม่ตกเทรนด์ นอกจากนี้ อีซอวอน ยังชื่นชอบการใส่ต่างหูแบบห้อยระย้าที่แมตช์กับสไตล์การแต่งตัวในลุคต่างๆ ของเธอได้ดี

อดีตรักพัดหวน

รัก 100 วันของฉันและองค์ชาย (100 Days My Prince)

ในซีรีส์แนวย้อนยุคอย่างเรื่อง รัก 100 วันของฉันและองค์ชาย (100 Days My Prince) ที่ ฮันโซฮี รับบทเป็น องค์หญิง
“คิมโซฮเย” ผู้ถูกขนานนามว่าเป็นสตรีที่งดงามหาใครเปรียบ รูปโฉมงามไม่พอ ยังเป็นลูกสาวของเสนาบดีฝ่ายซ้ายผู้ทรงอำนาจมากที่สุดของประเทศ และได้แต่งงานกับองค์ชายรัชทายาท อียูล อีกด้วย และเมื่อพิจารณาจากสถานะอันสูงศักดิ์ของเธอ
องค์หญิง คิมโซฮเย มักจะแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดฮันบกที่หรูหราและออกแบบมาอย่างปราณีตที่สุด พร้อมเติมเต็มโททัลลุคด้วยเครื่องประดับผมสุดวิจิตร โดยซีรีส์เรื่องนี้ นับเป็นซีรีส์แนวดราม่าเชิงประวัติศาสตร์เรื่องแรกและเรื่องเดียวจนถึงตอนนี้ของ
ฮันโซฮี เราก็ได้แต่หวังว่านี่จะไม่ใช่ซีรีส์แนวย้อนยุคเรื่องสุดท้ายของเธอเพราะว่า ฮันโซฮี ดูสวยออร่าจับจริงๆ เมื่อสวมใส่ชุด
ฮันบก

ลูกแก้วคืนวิญญาณ (Abyss)

“จางฮีจิน” คาแร็กเตอร์ของ ฮันโซฮี จากซีรีส์แนวแฟนตาซีเรื่อง ลูกแก้วคืนวิญญาณ (Abyss) ผู้ซึ่งได้รับความรักอย่างมากมายจากแฟนหนุ่มที่สุดท้ายได้กลายเป็นคู่หมั้นของเธออย่าง “ชามิน” คาแร็กเตอร์นี้ของ ฮันโซฮี มาในลุคไร้เดียงสาและมักจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีขาว อย่างเสื้อเปิดไหล่และเดรสประเภทต่างๆ นั้นถือเป็นลุคโปรดของเธอ อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังของซีรีส์ที่เธอต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่อันตราย จางฮีจิน ก็เลือกที่จะสวมใส่เสื้อผ้าที่สบายคล่องตัวมากขึ้นอย่างไอเทมยีนส์และเสื้อคาร์ดิแกน และถึงแม้ว่าแฟชั่นของคาแร็กเตอร์ จางฮีจิน จะไม่ได้ดูโดดเด่นสะดุดตามากเท่าแฟชั่นของคาแร็กเตอร์ตัวอื่นๆ ของ ฮันโซฮี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นลุคที่เข้าถึงได้และดูมีเสน่ห์ไม่เบา

หลังภาพแห่งความสุข (The World of the Married)

คาแร็กเตอร์ของสาว ฮันโซฮี ในซีรีส์เรื่อง หลังภาพแห่งความสุข (The World of the Married) ในบทบาทของ “ยอดาคยอง” ซึ่งเป็นลูกคนเดียวของครอบครัวเศรษฐีที่มักจะสปอยลูกสาวด้วยการให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ สไตล์แฟชั่นของ ดาคยอง เป็นที่สะดุดตาด้วยแบรนด์เนมหรูหราและกระเป๋าแพงๆ สไตล์โปรดของเธอเน้นไปที่ลุคคลาสสิกมากกว่าสไตล์ตามสมัยนิยม และไม่ชอบใส่เสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดหรือมากสี เสื้อผ้าส่วนใหญ่ของเธอ จะเป็นโทนสีขาว ดำ และสีเรียบๆ เป็นส่วนใหญ่ โดย ดาคยอง มักจะเลือกเติมเต็มโททัลลุคของเธอให้สมบูรณ์แบบด้วยเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ ในโทนสีทอง

หลังภาพแห่งความสุข

รักนี้ห้ามไม่ได้ (Nevertheless)

ปิดท้ายด้วยซีรีส์เรื่องล่าสุดของสาว ฮันโซฮี ที่เธอรับบทเป็น “ยูนาบี” นักศึกษามหาวิทยาลัยจากเรื่อง รักนี้ห้ามไม่ได้ (Nevertheless) และเพื่อให้สมบทบาทนักศึกษาทั่วไปที่เธอได้รับ สไตล์เสื้อผ้าส่วนใหญ่ของ คาแร็กเตอร์นี้จะมีความเรียบง่าย สวมใส่สบายคล่องตัว ตัวเลือกหลักๆ ที่เราเห็นกันคือเสื้อคาร์ดิแกนและเสื้อฮู้ด และเนื่องจาก ยูนาบี เป็นนักศึกษาสายอาร์ต เธอก็มักจะใส่ผ้ากันเปื้อนหรือชุดหมีอยู่บ่อยๆ เพื่อกันสิ่งสกปรกเลอะเทอะอย่างสีวาดภาพและดินปั้น สรุปสั้นๆ ว่าไม่ว่าจะลุค เดนิมเท่ๆ หรือลุครองเท้าผ้าใบสายลุย หลากหลายสไตล์ของ ยูนาบี จะทำให้ทุกคนได้หวนนึกถึงวันวานหวานๆ ในวัยเรียนด้วยลุคชิลๆ ง่ายๆ มีอะไรก็หยิบมาใส่แบบไม่ต้องคิดเยอะ แต่แค่นี้ก็ดูสดใสเปล่งประกายได้โดยไม่ต้องพยายาม

รักนี้ห้ามไม่ได้

แล้วแฟชั่นสุดปังจากคาแร็กเตอร์ของ ฮันโซฮี ลุคไหนที่โดนใจคุณมากที่สุด อย่าลืมคอมเม้นต์บอกกันนะคะ


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เปิดลุคสวยใสวัยมัธยม “ฮันโซฮี” ก่อนโด่งดังในบทชู้รักจากซีรีส์สุดแซ่บแห่งปี

ปังกว่าเดิมในบทนางเอก! เปิดเคล็ดลับผิวสวยออร่าจับของ ฮันโซฮี ทำตามได้ง่ายมาก

เทียบภาพ ฮันโซฮี เมียน้อยแสนสวยหน้าคล้าย ซงฮเยคโย และ ดิว อริสรา

Stella McCartney ส่งนายแบบนางแบบสวมชุดสัตว์ ชวนยุติ การค้าขนสัตว์

Stella McCartney ส่งนายแบบนางแบบสวมชุดสัตว์ ชวนยุติ การค้าขนสัตว์

Stella McCartney ส่งนายแบบนางแบบสวมชุดสัตว์ ชวนยุติ การค้าขนสัตว์
Stella McCartney ส่งนายแบบนางแบบสวมชุดสัตว์ ชวนยุติ การค้าขนสัตว์

Stella McCartney ส่งนายแบบนางแบบสวมชุดสัตว์ ออกปฏิบัติการชวนยุติ การค้าขนสัตว์ กลางแยกพิคคาดิลลี เซอร์คัส พร้อมการเปิดตัว “Our Time Has Come” แคมเปญฤดูใบไม้ร่วง 2021  

เพื่อฉลองการเปิดตัวแคมเปญสำหรับคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ร่วง 2021 ในชื่อ ‘Our time has come’ Stella McCartney เทคโอเวอร์หน้าจอขนาดใหญ่โอเชียนเอาท์ดอร์ที่บริเวณพิคคาดิลลี เซอร์คัสกลางกรุงลอนดอนเป็นเวลา 7 วัน พร้อมทั้งส่งหนุ่มสาวกลุ่มใหญ่ออกไปปฏิบัติการกลางแยกพิคคาดิลลี เซอร์คัสในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Stella McCartney

Stella McCartney ส่งนายแบบนางแบบสวมชุดสัตว์ ชวนยุติ การค้าขนสัตว์

โดยพวกเขาสวมหัวสัตว์และชุดสัตว์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการพาเหล่าสิงสาราสัตว์เหล่านี้กลับเข้ามาใช้ชีวิตในลอนดอน พร้อมสนับสนุนแคมเปญยุติการใช้ขนสัตว์ในอังกฤษ (Fur Free Britain) ขององค์กร Humane Society International (HSI) และสร้างความตระหนักเรื่องการทารุณสัตว์ผ่านการนำเสนอแคมเปญฤดูใบไม้ร่วง 2021 ของ Stella McCartney

ซึ่งถ่ายภาพโดย Mert & Marcus ช่างภาพแฟชั่นคู่หูชื่อดัง โดยเหล่าสิงสาราสัตว์เหล่านี้จะชักชวนให้คนทั่วไปที่เดินผ่านไปมาในย่านนั้นได้ลงนามในคำร้องขอให้ยุติการค้าขนสัตว์ในสหราชอาณาจักรร่วมกับแคมเปญของ HSI ด้วย

Stella McCartney ชวนยุติ การค้าขนสัตว์-2

Stella McCartney ชวนยุติ การค้าขนสัตว์-1

Stella McCartney ชวนยุติ การค้าขนสัตว์

ทั้งนี้โอเชียนเอ้าท์ดอร์ซึ่งเป็นผู้ควบคุมสื่อโฆษณาที่แยกพิคคาดิลลี เซอร์คัสภายใต้การดูแลของบริษัท แลนด์เซ็ค ยังได้นำภาพยนตร์สารคดีสไตล์ล้อเลียนที่สร้างสรรค์ขึ้นสำหรับแคมเปญโฆษณาฤดูใบไม้ร่วง 2021 ของ Stella McCartney โดยมีนักแสดงตลกชาวอังกฤษ David Walliams เป็นผู้ให้เสียงบรรยาย ไปออกฉายผ่านหน้าจอขนาดใหญ่ที่บริเวณแยกพิคคาดิลลี เซอร์คัสเป็นเวลา 7 วันเต็ม โดยจะออกฉายแบบเต็มจอเป็นเวลา 40 วินาที หลังนาทีที่ 30 ในทุกๆ ชั่วโมง

Stella McCartney ชวนยุติ การค้าขนสัตว์

การค้าขนสัตว์

การค้าขนสัตว์-1

การค้าขนสัตว์-3


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ราคาไม่แรง แต่ดูแพงมาก! นาฬิกา หมอซงฮวา ในซีรีส์ดัง Hospital Playlist SS2

ไม่ซ้ำแบรนด์! ทุบคลัง สนีกเกอร์ โรเซ่ BLACKPINK ที่คุณก็เป็นเจ้าของได้

สวยแซ่บ! แฟชั่นตะเบงมาน คุณนายบีเบอร์ เข้าพบประธานาธิบดีฝรั่งเศส

 

หนูน้อยวัย 3 เดือน เกิดมา ผมสีบลอนด์ หนาฟู

หนูน้อยวัย 3 เดือน ผมสีบลอนด์ หนาฟูจนถูกแซวทรงผมคล้าย ‘บอริส จอห์นสัน’ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ

Alternative Textaccount_circle
หนูน้อยวัย 3 เดือน เกิดมา ผมสีบลอนด์ หนาฟู
หนูน้อยวัย 3 เดือน เกิดมา ผมสีบลอนด์ หนาฟู

หนูน้อยวัย 3 เดือน ผมสีบลอนด์ หนาฟูจนถูกแซวทรงผมคล้ายนายกรัฐมนตรีอังกฤษจนได้ฉายา Mini Boris 

พาไปชมความคิ้วต์ของ David Alexander Barabash หนูน้อยคนดังวัย 3 เดือน ที่มีรูปลักษณ์แสนน่ารักเด่นสะดุดตาในทรง ผมสีบลอนด์ หนาฟู ซึ่งเรื่องราวของหนูน้อยคนนี้ได้ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อชื่อดังหลายสำนักในอังกฤษ จนทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยเอ็นดูหนูน้อยเข้าเต็มเปา

เด็กน้อย ผมสีบลอนด์ 2

โดยทาง Tatiana Doronina คุณแม่ของหนูน้อย David Alexander Barabash เล่าว่า เธอมักจะต้องหยุดอยู่ที่บนทางเท้าบ่อยๆ เพราะผู้คนต่างก็สะดุดตาในทรงผมและสีผมของลูกชายเธอ

และเธอยังเล่าอีกว่า ตอนที่คลอดหนูน้อยออกมา เหล่าพยาบาลและคุณหมอที่ทำคลอดต่างก็หลงรักลูกของเธอตั้งแต่ตอนนั้นเลย เพราะ David Alexander Barabash มีผมสีบลอนด์เต็มศีรษะตั้งแต่เกิด และที่น่าแปลกใจก็คือ ตัวเธอและสามี ต่างก็มีผมสีเข้มทั้งคู่

เด็กน้อย ผมสีบลอนด์ 7เด็กน้อย ผมสีบลอนด์ 5

นอกจากนี้ หนูน้อยยังถูกแซวจากสื่อหลายสำนักว่ามีทรงผมที่คล้ายกับ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร จนถูกขนานนามว่าเป็น Mini Boris ไปอย่างขำๆ

แม้ตอนนี้หนูน้อยจะอายุได้ 3 เดือนแล้ว คุณแม่ของเขาก็ยังยืนยันว่าจะไม่ตัดผมของหนูน้อย David Alexander Barabash เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าเขาจะกลายเป็นนายกในอนาคตก็ได้ (คุณแม่พูดแซวสื่อขำๆ)

โดยล่าสุด คุณแม่ของเขาก็ได้เปิดอินสตาแกรม @david.a.barabash ให้หนูน้อยเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมไปติดตามภาพน่ารักๆ ของหนูน้อยฉายา Mini Boris กันได้นะคะ

David Alexander Barabash หนูน้อยวัย 3 เดือน ผมสีบลอนด์ หนาฟูจนถูกแซวทรงผมคล้ายนายกรัฐมนตรีอังกฤษ จนได้ฉายา Mini Boris 

เด็กน้อย ผมสีบลอนด์ 3เด็กน้อย ผมสีบลอนด์ 8 เด็กน้อย ผมสีบลอนด์ 6 เด็กน้อย ผมสีบลอนด์ 4 เด็กน้อย ผมสีบลอนด์ 1 เด็กน้อย ผมสีบลอนด์เด็กน้อย ผมสีบลอนด์ 9


ข้อมูลและภาพ : david.a.barabash , doronina_tania

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แสบแต่น่ารัก ‘น้องเมญ่า’ หลานสาว ‘เท่ง เถิดเทิง’ สอนแต่งหน้าแบบบิวตี้บล็อกเกอร์

Alena Kravchenko นางแบบสาวที่ไม่ตัดผม 30 ปี ปล่อยผมยาวราวราพันเซล 2 เมตร

หนูปีรีเควสสั้นเท่าติ่งหู! แต่แม่ “แอฟ ทักษอร’ บาร์เบอร์ ตัดผมสั้นประบ่าให้หนูปีใหม่แทน

คาวาอี้เหมือนเดิม! Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น โตเป็นสาวแล้ว

keyboard_arrow_up