แผนการกินแบบ 'Sirtfood Diet' สูตรลดน้ำหนักที่ Adele กินควบคู่ฟิตหุ่นแล้วได้ผล

แผนการกินแบบ ‘Sirtfood Diet’ สูตรลดน้ำหนักที่ Adele กินควบคู่ฟิตหุ่นแล้วได้ผล

Alternative Textaccount_circle
แผนการกินแบบ 'Sirtfood Diet' สูตรลดน้ำหนักที่ Adele กินควบคู่ฟิตหุ่นแล้วได้ผล
แผนการกินแบบ 'Sirtfood Diet' สูตรลดน้ำหนักที่ Adele กินควบคู่ฟิตหุ่นแล้วได้ผล

เรื่องการลดน้ำหนัก ถือเป็นเรื่องที่สาวๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมากไม่แพ้เรื่องเครื่องสำอาง และเคล็ดลับเมคอัพต่างๆ เลยก็ว่าได้ ซึ่งที่ผ่านมา มีเคล็ดลับน้ำหนักวิธีที่นิยมในหมู่คนดังก็ไม่เคยพลาดนำมาแชร์ให้สาวๆ แพรวได้แชร์ลิสต์กันไว้ รอบนี้ก็มีอีกสูตรการกินเพื่อควบคุมน้ำหนักมาฝากเช่นเคย อาจจะเป็นวิธีที่หลายคนทราบและเคยลองแล้ว แต่คนไม่ทราบก็มีอีกเยอะ สำหรับ สูตรลดน้ำหนัก ด้วยแผนการกินแบบ ‘Sirtfood Diet’ สำหรับคนดังที่ใช้วิธีนี้แล้วเห็นผลแบบชัดเจนเลยก็คือ Adele ที่ก่อนหน้านี้ เธอฟิตหุ่นทั้งควบคุมอาหารและออกกำลังกายจนผอมเพรียว กลายเป็นแรงบันดาลใจของใครหลายๆ คน ซึ่งการกินแบบ ‘Sirtfood Diet’ ก็เป็นโปรแกรมที่เทรนเนอร์ของเธอแนะนำให้ทำ แต่จะกินอย่างไร เรามีมาบอกค่ะ

สูตรลดน้ำหนักที่ Adele กินควบคู่ฟิตหุ่นแล้วได้ผล

ทำความรู้จักกับ Sirtfood Diet สูตรลดน้ำหนัก ที่นิยมในหมู่คนดัง

การกินอาหารแบบ Sirtfood Diet เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าดาราและคนมีชื่อเสียงในฝั่งยุโรป ซึ่งสูตรนี้ถูกเผยแพร่ผ่านหนังสือที่ชื่อว่า The Sirtfood Diet เขียนโดยนักโภชนาการชาวอังกฤษ Aidan Goggins และ Glen Matten ในปี 2016 เป็นโปรแกรมการกินที่เน้นกลุ่มอาหารที่อุดมไปด้วย “โพลีฟีนอล” (Polyphenols) สารอาหารจากพืชที่ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกายด้วยการเข้าไปกระตุ้นการผลิตเอนไซม์ในกลุ่มของโปรตีนที่ชื่อว่า Sirtuin (เซอทูอิน) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระบบเผาผลาญและการต้านการอักเสบภายในร่างกาย โดยการกินอาหารที่จะช่วยกระตุ้นการทำงานของ Sirtuin (ที่มาของชื่อ Sirtfood Diet) จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น ซึ่งนักโภชนาการชาวอังกฤษยืนยันว่าวิธีนี้ไม่ใช่เทรนด์แฟชั่น แต่เป็นกุญแจที่นำไปสู่การลดไขมัน และป้องกันโรค

ซึ่งสารประกอบในพืชธรรมชาติบางชนิด อาจเพิ่มระดับโปรตีนในร่างกาย และอาหารที่มีส่วนประกอบเหล่านั้นมักได้รับการขนานนามว่า “Sirtfood Diet” ซึ่งอาหารที่สามารถกินได้ มีดังนี้

  • ผักคะน้า
  • ไวน์แดง
  • สตรอว์เบอร์รี่
  • หัวหอม
  • ถั่วเหลือง
  • พาสลีย์
  • น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์
  • ดาร์กช็อกโกแลต (มีส่วนผสมของโกโก้ 85 เปอร์เซ็นต์)
  • ชาเขียวมัทฉะ
  • โซบะ
  • ขมิ้น
  • วอลนัท
  • อารูกูล่า ร็อคเก็ต (Arugula Rocket)
  • พริกขี้หนู (Bird’s eye chili)
  • โลเวจ (Lovage)
  • อินทผาลัม เมดจูล (Medjool dates)
  • ผักชิโครี่สีแดง (Red Chicory)
  • บลูเบอร์รี่
  • เคเปอร์
  • กาแฟ

โดยการกินอาหารแบบนี้อาจทำให้ร่างกายผลิตระดับเซอทูอินที่สูงขึ้น นอกจากนั้น ผู้คิดค้นวิธีนี้ยังกล่าวว่า “การกินอาหารแบบนี้จะนำไปสู่การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันก็จะรักษามวลกล้ามเนื้อและปกป้องคุณจากโรคเรื้อรัง”

สูตรลดน้ำหนัก แบบ Sirtfood Diet กินอะไรได้บ้าง

ลดน้ำหนักแบบ Sirtfood Diet กินอะไรได้บ้าง

โปรแกรมอาหารของการลดน้ำหนักนั้นจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี โดยจะมีการลดจำนวนแคลอรี่ทั้งหมดของอาหาร ในความเป็นจริงผู้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งกล่าวว่า โปรแกรมการลดน้ำหนักด้วยการกินอาหารแบบนี้ สามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักลงไปได้ 3.2 กิโลกรัม ภายในเวลาสัปดาห์เดียว แต่แผนมื้ออาหารจะค่อนข้างน่ากลัว เนื่องจากในช่วง 3 วันแรก ผู้ที่เข้ารับการลดน้ำหนักจะต้องกินแคลอรี่เพียง 1,000 แคลอรี่ต่อวัน ซึ่งประกอบด้วยอาหารมื้อเดียว และน้ำผลไม้สีเขียว 2 ขวด นอกจากนั้นในช่วงสัปดาห์แรกผู้เข้ารับการลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้จะได้รับแคลอรี่ 1,500 แคลอรี่เป็นเวลา 4 วัน โดยจะแบ่งเป็น 2 มื้อ

โปรแกรมส่วนใหญ่ของการลดน้ำหนักแบบนี้จะมีสารอาหารที่สูง ซึ่งอาหารที่เน้นให้กินนั้นมีหลากหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นคะน้า สตรอว์เบอร์รี่ หัวหอม ผักชีฝรั่ง บลูเบอร์รี่ และธัญพืชบางชนิด เช่น วอลนัท สำหรับเครื่องดื่มที่ดื่มได้ก็จะเป็น กาแฟ ชาเขียวมัทฉะ และไวน์แดง เป็นต้น

สูตรลดน้ำหนัก แบบ Sirtfood Diet กินอะไรได้บ้าง

แผนการลดน้ำหนักเป็นอย่างไร

สำหรับแผนในการลดน้ำหนักแบบนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยใช้เวลา 3 สัปดาห์ ซึ่งส่วนผสมส่วนใหญ่ของการลดน้ำหนักแบบนี้มักจะหาได้ง่าย ซึ่งอาหารส่วนใหญ่ของการลดน้ำหนักแบบนี้ก็คือ น้ำผลไม้สีเขียว ซึ่งคุณจะต้องทำด้วยตัวเอง และดื่มระหว่างวัน 1-3 ครั้ง โดยจะต้องคั้นน้ำผลไม้ และชั่งส่วนผสมต่างๆ ตามที่ได้มีการระบุไว้ ซึ่งสูตรของเครื่องดื่ม มีดังนี้

สูตรลดน้ำหนัก แบบ Sirtfood Diet กินอะไรได้บ้าง

สูตรน้ำผลไม้สีเขียว

  • ผักคะน้า 75 กรัม
  • อารูกูล่า ร็อคเก็ต (Arugula Rocket) 30 กรัม
  • ผักชีฝรั่ง 5 กรัม
  • คื่นฉ่าย 2 ต้น
  • ขิง 1 เซนติเมตร
  • แอปเปิ้ลเขียวครึ่งลูก
  • มะนาวครึ่งลูก
  • ชาเขียวมัทฉะครึ่งช้อนชา

วิธีการทำ: นำส่วนผสมทั้งหมด ยกเว้นผงชาเขียวมัทฉะและมะนาว ผสมเช้าด้วยกันแล้วเทลงในแก้ว คั้นน้ำมะนาวจากมือ จากนั้นเทผงชาเขียวมัทฉะลงไป จากนั้นคนส่วนผสมทั้งหมดของน้ำผลไม้ให้เข้ากัน

อย่างที่กล่าวข้างต้นว่า การลดน้ำหนักแบบนี้จะมี 2 ระยะด้วยกัน ซึ่งแผนการลกน้ำหนักทั้ง 2 ระยะต้องทำ ดังนี้

  • แผนการลดน้ำหนักระยะที่ 1

ในระยะแรกจะใช้เวลา 7 วัน จะต้องจำกัดแคลอรี่และดื่มน้ำผลไม้สีเขียวเป็นจำนวนมาก

โดยการใช้วิธีนี้มีการอ้างว่าจะทำให้น้ำหนักลดลงไปถึง 3.2 กิโลกรัม ในเวลาเพียง 7 วัน ในช่วง 3 วันแรกของระยะที่ 1 ปริมาณแคลอรี่จะถูกจำกัดเอาไว้ที่ 1,000 แคลอรี่ โดยคุณจะต้องดื่มน้ำผลไม้สีเขียว 4 มื้อต่อวัน ในแต่ละวันคุณสามารถเลือกสูตรอาหารซึ่งจะเป็นส่วนหลักของมื้ออาหาร จากหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนักแบบนี้ได้ ตัวอย่างเช่น เต้าหู้ในซุปมิโซะ ไข่เจียว หรือกุ้งผัดกับบะหมี่บัควีต (Buckwheat Noodle)

ส่วนในวันที่ 4-7 ของระยะที่ 1 จำนวนแคลอรี่จะถูกเพิ่มขึ้นเป็น 1,5000 ซึ่งรวมถึงน้ำผลไม้สีเขียว 2 มื้อต่อวัน และอาหารที่อุดมไปด้วย Sirtfood นอกจากนั้นอีก 2 มื้อคุณสามารถเลือกได้จากหนังสือ

  • แผนการลดน้ำหนักระยะที่ 2

ระยะที่ 2 จะใช้เวลาทั้งหมด 2 สัปดาห์ ซึ่งในระยะนี้จะเรียกว่า “ช่วงบำรุงรักษา” ซึ่งควรจะต้องลดน้ำหนักอย่างต่อเนื่อง

ในระยะที่ 2 นี้ไม่มีการจำกัดแคลอรี่ แต่ต้องกินอาหาร 3 มื้อที่เต็มไปด้วย Sirtfood และน้ำผลไม้สีเขียว 1 มื้อต่อวัน และแน่นอนว่าอาหารจะถูกเลือกจากสูตรอาหารที่มีในหนังสือ

สูตรลดน้ำหนัก แบบ Sirtfood Diet กินอะไรได้บ้าง

การลดน้ำหนักแบบนี้มีข้อเสียหรือไม่

ส่วนที่ยากที่สุดของการลดน้ำหนักแบบนี้ก็คือ การจำกัดแคลอรี่และการพึ่งพาน้ำผลไม้สีเขียว ซึ่งอาจไม่ปลอดภัยสำหรับคนบางกลุ่ม

Tanya Freirich นักกำหนดอาหารและนักโภชนาการจากนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า เธอไม่แนะนำอาหารแบบนี้สำหรับผู้ที่ทานยาบางชนิด เช่น คูมาดิน® (Coumadin®) ซึ่งเป็นยาละลายลิ่มเลือด หรือด้วยปัญหาสุขภาพ เช่น โรคเบาหวาน และถ้าหากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรก็ไม่ควรลดน้ำหนักด้วยวิธีการนี้

นอกจากนี้ Tanya Freirich ยังกล่าวเสริมอีกว่า โดยทั่วไปเธอไม่แนะนำอาหารใดๆ ที่พึ่งพากฎที่เข้มขวดเกินไป อย่างไรก็ตามอาหารในกลุ่มส่วนใหญ่ในกลุ่ม Sirtfood Diet นั้นเป็นอาหารที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ จึงขอแนะนำให้ใช้วิธีการนำอาหารเหล่านี้มารวมไว้ในมื้ออาหารที่รับประทาน และที่สำคัญอย่าปล่อยให้ร่างกายรู้สึกหิวโหยจะเป็นการดีที่สุด

ซึ่งทางที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนักแบบเฉพาะตัวเอง คือควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการก่อนที่จะเริ่มโปรแกรมลดน้ำหนัก เพื่อหาดูว่าวิธีไหนที่เหมาะกับตัวเองมากกว่า เพราะแต่ละคนมีร่างกายและระบบการเผาผลาญต่างกัน


ข้อมูล : hellokhunmor.com
ภาพ : adele , Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

“สรัย วัชรพล” แชร์วิธีลดน้ำหนัก ลดลง 18 โล ผอมเพรียว ชัดทั้งรูปร่างและโครงหน้า

‘ซูบิน’ ตั้งเป้าหุ่นลีน ฟิตแอนด์เฟิร์มขึ้นในปีนี้ หลังลดจนน้ำหนักหายไปถึง 80 กว่าโล

วัดโชว์ให้หายข้องใจ! นักแสดงสาวไซส์เล็ก “แอร์ ภัณฑิลา” ขนาดเอวมด แค่ 23 นิ้ว

 

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up