“ขวัญฤทัย ดำรงค์วัฒนโภคิน” เผยเบื้องหลังความสำเร็จกว่า 2 ทศวรรษ “รมย์รวินท์คลินิก”

account_circle

ความสำเร็จตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษ ของ ‘รมย์รวินท์คลินิก’ สะท้อนผ่านชื่อเสียงในหมู่คนรักความสวยความงาม และยังมีรางวัลการันตีมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Praew Iconic Beauty 2024 ที่พิกัดทำสวยแห่งนี้ยังคงติดโผอยู่ในกลุ่มบิวตี้คลินิกเบอร์ต้นของเมืองไทย อะไรคือกุญแจไขความสำเร็จ Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว พาไปพูดคุยกับ “คุณจอย – ขวัญฤทัย ดำรงค์วัฒนโภคิน” แม่ทัพหญิงเก่งของที่นี่กันค่ะ

เดินหน้าตอบโจทย์เทรนด์งานผิว

“กระแสการดูแลความงามปัจจุบัน งานผิวยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง เน้นการดูแลพื้นฐานสุขภาพผิวให้ดี แลดูเป็นธรรมชาติ เพื่อจะไม่ต้องแต่งหน้าเยอะ โชว์ผิวได้ คาดว่าเทรนด์นี้จะยังคงได้รับความนิยมไปจนถึงปี 2025

“รมย์รวินท์คลินิกมีการนำเข้าเครื่องมือและผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ความงามดังกล่าวอย่างครบครัน ไม่เพียงหัตถการงานผิวที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างสารกระตุ้นคอลลาเจน ยังรวมถึงโปรแกรมยกกระชับต่างๆ ที่มีการพัฒนาให้ช่วยได้ทั้งเรื่องงานผิวและงานยกกระชับด้วยเช่นกัน ซึ่งแม้นวัตกรรมความงามในตลาดจะมีให้เลือกมากมาย แต่เราก็ต้องเฟ้นหาอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน และพยายามรวบรวมของดีเอาไว้อย่างเต็มที่ เพราะเข้าใจดีว่าปัญหาของแต่ละคนต้องได้รับการดูแลที่แตกต่างกันออกไป”

2024 อีกสถิติแห่งความสำเร็จ

“ตลอดปี 2024 รมย์รวินท์คลินิกได้นำเสนอนวัตกรรมความงามใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีทันสมัย หรือผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการวิจัยพัฒนาในระดับสากล รวมถึงการเปิดสาขาใหม่อีก 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ และมาร์เช่ ทองหล่อ เพื่อขยายการให้บริการอย่างทั่วถึง ซึ่งปัจจุบันเราได้กระจายไปทั้งหมด 28 สาขาทั่วประเทศไทย ที่สำคัญคือมีการจัดอบรมแพทย์และบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อมอบผลลัพธ์ที่ดีและสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้ารับบริการ”

ยืนหนึ่งในการรักษาคุณภาพ

“การได้รับรางวัลจากเวที Praew Iconic Beauty อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นเครื่องการันตีความมุ่งมั่นและความพยายามของรมย์ร์วินท์คลินิกตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ที่ต้องการมอบสิ่งดีๆ ให้กับผู้เข้ารับบริการ ทั้งผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นทางกายภาพ และความรู้สึกประทับใจ นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เราพัฒนาตัวเองต่อไปแบบไม่หยุดยั้ง เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับเหล่าคนรักความสวย

“ในการรักษาคุณภาพตลอดระยะเวลายาวนาน รมย์ร์วินท์คลินิกให้ความสำคัญกับการคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือการติดตามและค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีความงามใหม่ๆ และงานวิจัยต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ ทั้งเครื่องมือและผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยดูแลความงาม พร้อมส่งมอบผลลัพธ์ที่ดี สุดท้ายคืองานบริการที่เรามุ่งมั่นสร้างความประทับใจสูงสุด ซึ่งทั้งหมดนี้เดินตามคอนเซ็ปต์ For The Better You พร้อมตอบโจทย์ความสวยให้กับทุกคน”


Skin Syrup ปรับโฉมใหม่ด้วยแนวคิดปรับสมดุลจากภายในสู่ภายนอก ชูเอกลักษณ์เด่นสารสกัดธรรมชาติ

Alternative Textaccount_circle

Skin Syrup ผลิตภัณฑ์ดูแลผมและผิวหนังจากสมุนไพรที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ ที่ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผมงอกใหม่และปรับสมดุลให้หนังศรีษะและเส้นผม แต่ยังช่วยปรับสมดุลกายและใจของผู้ใช้ ให้มีความมั่นใจในการใช้ชีวิตและส่งต่อความสุขให้คนรอบข้าง

การปรับโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งนี้ว่าเป็นการปรับรูปลักษณ์ใหม่ของผลิตภัณฑ์ด้วยการใช้สีสันที่หลากหลาย เพื่อบ่งบอกสรรพคุณที่แตกต่างกันไปของแต่ละผลิตภัณฑ์ จำแนกผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น มีผลิตภัณฑ์เด่น 2 ตัว ได้แก่แชมพูและคอนดิชันเนอร์ แต่หลากสูตร ได้แก่ Restorative สูตรที่เน้นปรับสมดุลหนังศรีษะและเส้นผม เน้นการดูแลขั้นพื้นฐาน Abracadabra สูตรสำหรับการลดผมร่วง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการงอกใหม่ของผมที่เคยหลุดร่วง โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีหรือส่วนผสมอื่นที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย Flake Free สูตรขจัดรังแค นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวกาย อย่าง Revive Shower Gel และผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้า อย่าง Radiance Facial Serum แพ็คเกจผลิตจากวัสดุที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอกซื้อผลิตภัณฑ์โฉมใหม่ได้ที่ Sephora, Siam Takashiyama, One nimman


ถูกจริตคนชอบงานผิวกับ บิวตี้ไอเท็มชิ้นล่าสุด Burberry Beyond Wear Perfecting Concealer

ถูกจริตคนชอบงานผิวกับ บิวตี้ไอเท็มชิ้นล่าสุด Burberry Beyond Wear Perfecting Concealer

Alternative Textaccount_circle
ถูกจริตคนชอบงานผิวกับ บิวตี้ไอเท็มชิ้นล่าสุด Burberry Beyond Wear Perfecting Concealer
ถูกจริตคนชอบงานผิวกับ บิวตี้ไอเท็มชิ้นล่าสุด Burberry Beyond Wear Perfecting Concealer

ถูกจริตคนชอบงานผิวแน่นอนกับ Burberry Beauty บิวตี้ไอเท็มชิ้นล่าสุด “Burberry Beyond Wear Perfecting Concealer” คอนซีลเลอร์เนื้อบางเบาแต่ให้การปกปิดเหมือนใส่ฟิลเตอร์ ด้วยแรงบันดาลใจที่ได้รับมาจากเนื้อผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของ Burberry Trench Coat ทำให้เทคโนโลยี Trench Protect ในคอลซีลเลอร์แท่งนี้ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันที่ช่วยปกป้องผิวจากสภาพอากาศ ติดทนนาน 12 ชั่วโมง พร้อมบำรุงและให้ความชุ่มชื้นไปในตัว นอกจากนี้แล้ว ยังช่วยสร้างงานผิวแมตต์สวยด้วยเนื้อสัมผัสที่สามารถบิลด์ได้ พร้อมเฉดสีให้เลือกมากกว่า 14 เฉดสี ที่ทำหน้าที่เหมือนฟิลเตอร์ในการเบลอและปกปิดรอยต่างๆ ทั้งรอยแดง รอยดำ และรอยคล้ำรอบดวงตาได้เป็นอย่างดี แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงมอบเนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่หนักหน้า และระบายอากาศได้อย่างทั่วถึง

โดย Burberry Beyond Wear Perfecting Concealer จะมาช่วยเติมเต็มคอลเล็คชั่นยอดนิยม “Beyond Wear” ให้ครบลูปสร้างผิวสวย ซึ่งดีไซน์ตัวแท่งทรงเรียวยาว ประดับตกแต่งด้วยฝาสีทองจากผ้ากาบาร์ดีน และลาย Monogram ที่เป็นเอกลักษณ์ที่ถูกออกแบบโดย Thomas Burberry (โทมัส เบอร์เบอรี่)


ผิวแข็งแรงครบสูตร ด้วย Target Pro Body by Watsons เทคโนโลยีที่วิจัยและพัฒนาโดยแพทย์ผิวหนังชาวญี่ปุ่น

ผิวแข็งแรงครบสูตร ด้วย Target Pro Body by Watsons เทคโนโลยีที่วิจัยและพัฒนาโดยแพทย์ผิวหนังชาวญี่ปุ่น

Alternative Textaccount_circle
ผิวแข็งแรงครบสูตร ด้วย Target Pro Body by Watsons เทคโนโลยีที่วิจัยและพัฒนาโดยแพทย์ผิวหนังชาวญี่ปุ่น
ผิวแข็งแรงครบสูตร ด้วย Target Pro Body by Watsons เทคโนโลยีที่วิจัยและพัฒนาโดยแพทย์ผิวหนังชาวญี่ปุ่น

ผิวแข็งแรงครบสูตร ด้วย Target Pro Body by Watsons เทคโนโลยีที่วิจัยและพัฒนาโดยแพทย์ผิวหนังชาวญี่ปุ่น

ในปัจจุบันคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับส่วนผสมที่อยู่ในสกินแคร์กันมากขึ้น นอกจากการดูแลผิวหน้า การบำรุงผิวกายก็สำคัญไม่แพ้กัน ประกอบกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ฝุ่น และมลภาวะอันเป็นสาเหตุหนึ่งของผิวอ่อนแอ ทั้งปัญหาผิวแห้ง หยาบกร้าน หมองคล้ำ หรือขาดความชุ่มชื้น ยังคงเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญ เมื่อเกิดเป็นปัญหาผิวสะสม อาการของผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองก็จะตามมา

วัตสัน ประเทศไทย ในฐานะผู้นำด้านสุขภาพและความงาม เข้าใจถึงปัญหาสุขภาพผิว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ Target Pro Body Foaming Cleanser และ Moisturising Lotion ด้วยมาตรฐานการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น มุ่งเน้นการดูแลเรื่องความชุ่มชื้น พื้นฐานสำคัญของปราการผิวที่แข็งแรง มาพร้อมเซราไมด์ที่จำเป็นกับผิวตามธรรมชาติ และเทคโนโลยีเฉพาะอย่าง S7ABELIX™ Hydro-Soothe365 และ Quadra-Hya ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นบำรุงผิวตามธรรมชาติที่เสียสมดุลให้กลับมาแข็งแรง พร้อมช่วยซ่อมแซมปราการให้ผิวดูสุขภาพดีในระยะยาว

ซึ่ง Target Pro Body ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูและทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันปัญหาผิวต่างๆ แต่ยังช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใส พร้อมมอบความชุ่มชื้นยาวนานถึง 72 ชั่วโมง ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ประกอบด้วย โฟมมิ่งคลีนเซอร์ (Foaming Cleanser) และ มอยส์เจอร์ไรซิ่ง โลชั่น (Moisturizing Lotion) ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ตอบโจทย์การดูแลผิวตั้งแต่หัวจรดเท้า ให้ผิวมีสุขภาพดี ดูเปล่งปลั่งในทุกมุมมอง


บรรยากาศความปังอย่างต่อเนื่อง PERFECT 10 ‘THE JOURNEY OF BEAUTY ในงาน PRAEW ICONIC BEAUTY 2024

account_circle

เก็บตกบรรยากาศตอกย้ำความปังของงาน PRAEW ICONIC BEAUTY 2024 งานประกาศรางวัลผลิตภัณฑ์และบริการความงาม โดย นิตยสารแพรว ที่ได้ทำหน้าที่ไกด์ชี้เป้าให้คนรักสวยได้รู้จักกับบิวตี้ไอเท็มและบริการเด่นด้านความงาม ครบรอบ 10 ปี “PERFECT 10 ‘THE JOURNEY OF BEAUTY” จนเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกูรูบิวตี้ที่เป็นตัวตึงแห่งยุคสมัย เพื่อมอบรางวัลอันทรงเกียรติ เป็นการให้แสงแก่ผลิตภัณฑ์และบริการด้านความงามที่มีความตั้งใจจริง มีคุณภาพยอดเยี่ยมจนเป็นที่ 1 แห่งปี ซึ่งภาพความประทับใจในปีนี้เราได้รวบรวมมาให้ชมแล้ว

#PraewIconicBeauty #PraewIconicBeauty2024 #Perfect10 #PraewMag #นิตยสารแพรว


ระดมทุนช่วยเหลือมูลนิธิศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ

โรงแรม วี กรุงเทพ จัดดินเนอร์การกุศล ระดมทุนช่วยเหลือมูลนิธิศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อการรักษาโรคมะเร็งเต้านม

Alternative Textaccount_circle
ระดมทุนช่วยเหลือมูลนิธิศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ
ระดมทุนช่วยเหลือมูลนิธิศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ

โรงแรม วี กรุงเทพฯ เอ็มแกลเลอรี โฮเทล คอลเลคชั่น ประสบความสำเร็จในการจัดงาน Pink October ด้วยการจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำการกุศล Michelin Star Charity Dinner ณ ห้องอาหาร Signature Bangkok เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมีสื่อมวลชน คนดัง และบุคคลสำคัญในแวดวงสังคมของกรุงเทพฯ เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้กับโรคมะเร็งเต้านม

ค่ำคืนแห่งการกุศลนี้เต็มไปด้วยศิลปะการทำอาหารชั้นเลิศ แขกผู้มีเกียรติได้ลิ้มลองเมนูอาหารระดับมิชลินสตาร์ 4 คอร์ส โดยเชฟ Thierry Drapeau พร้อมด้วยไวน์ชั้นเลิศที่เข้ากันอย่างลงตัว บรรยากาศอันน่าหลงใหลยิ่งเพิ่มความพิเศษด้วยเสียงเพลงแซกโซโฟนอันไพเราะจาก Koh Mr. Saxman นักดนตรีแจ๊สชื่อดังของเมืองไทย

งานนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านมและระดมทุนเพื่อช่วยเหลือมูลนิธิศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อการรักษาโรคมะเร็งเต้านม (QSCBCF) โดยมีตัวแทนจาก QSCBCF กล่าวสุนทรพจน์อันน่าประทับใจ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานของมูลนิธิฯ ในการบุกเบิกการรักษาโรคมะเร็งเต้านม และการให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย นอกจากนี้ ยังมีการประมูลของรักของหวง เพื่อระดมทุนเพิ่มเติมอีกด้วย

กิจกรรมนี้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นระดับโลกของ MGallery Collection ในการต่อสู้กับโรคมะเร็งเต้านม โดยตลอดเดือนตุลาคม โรงแรมในเครือ MGallery ทั่วโลก ได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อระดมทุนและให้ความรู้แก่ชุมชนเกี่ยวกับปัญหาด้านสุขภาพที่สำคัญ

VIE Hotel Bangkok – MGallery Collection recently hosted a successful Pink October Michelin Star Charity Dinner at its acclaimed Signature Bangkok restaurant. The event, held on October 10th, 2024, saw a strong turnout from media personalities, celebrities, and prominent figures in Bangkok society, all united in the fight against breast cancer.

The evening was a dazzling display of culinary artistry and philanthropy, with guests treated to a four-course Michelin-starred menu by Chef Thierry Drapeau, accompanied by exquisite wine pairings. The enchanting ambiance was further elevated by the soulful saxophone melodies of Koh Mr. Saxman, one of Thailand’s leading jazz musicians.

The event served as a platform to raise awareness about breast cancer and generate vital funds for the Queen Sirikit Centre for Breast Cancer Foundation (QSCBCF) and its crucial work in pioneering breast cancer treatment and providing state-of-the-art care to patients in Thailand. A silent auction featuring exclusive stays at MGallery hotels further bolstered the fundraising efforts.

This initiative aligns with MGallery Collection’s global commitment to combating breast cancer. Throughout October, MGallery hotels worldwide organize events to raise funds and educate communities about this critical health issue.


ละคร หนึ่งในร้อย

เช็คอิน 4 สถานที่ทำคอนเทนต์ ซีนโรแมนติก ตามรอย ละคร หนึ่งในร้อย

Alternative Textaccount_circle
ละคร หนึ่งในร้อย
ละคร หนึ่งในร้อย

บอกเลยว่าทำถึงเวอร์! กับละครวินเทจงานละมุน “หนึ่งในร้อย” ผลิตโดย “ทอง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์” ทางช่อง 3 กด 33 ที่ตอนนี้มาแรงแซงทางโค้งพากันฟินจิกหมอนกันถ้วนหน้า แถมยังกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดทุกอีพี งานนี้เลยเกิดเป็นกระแสฟีเวอร์ปลุกชีพชุดวินเทจกับแฟชั่นย้อนยุคของสาว ๆ ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง รวมไปถึงการพากันรีวิวเช็คอินโลเคชั่นถ่ายทำละคร สวมวิญญาณเป็นพระเอกนางเอก ต่อ ธนภพ กับ ญาญ่า อุรัสยา บุกทำคอนเทนต์กันฉ่ำ ๆ เรียกได้ว่าทุกคนเป็น”คุณพระ” กับ “อนงค์” กันทั่วพระนคร วันนีัเรามาแจกพิกัด 4 โลเคชั่นถ่ายทำปัง ๆ ให้ทุกคนมาฟินกันต่อนอกจอ

1.บ้านอนงค์ : WAWA HOUSE CAFÉ

คุ้นตากันอย่างดี กับโลเคชั่นบ้านเวอร์วังสถาปัตยกรรมโคโลเนียลหลังใหญ่สีเหลือง ผ่านการถ่ายทำละครพีเรียดมาแล้วมากมาย แต่ละครเรื่องนี้เลือกมุมกล้องพิเศษมีมุมมองใหม่ๆ พรีเซนต์ให้บ้านประจำตระกูล “สุนทรพงศ์” ของนางเอกสาวมั่น “อนงค์” และพี่ชายทั้ง 4 ปักหมุดหาโลเคชั่นตามรอยได้ที่ WAWA HOUSE CAFÉ พิกัดคาเฟ่ในคฤหาสน์โบราณ ซอยวัดพระเงิน ย่านจังหวัดนนทบุรี ร้านเปิดจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 9.00-17.00 น. ส่วนวันศุกร์-อาทิตย์ เปิด 10.00-20.00 ถ้าใครพร้อมอย่าลืมหยิบชุดวินเทจน่ารัก ๆ และพร๊อพแน่นๆ ไปตามรอยกันโล้ด

ละคร หนึ่งในร้อย

2.ถนนพระนคร : ตึกข้างกระทรวงกลาโหม

อีกหนึ่งความละมุนของละคร “หนึ่งในร้อย” โลเคชั่นยอดฮิตที่แฟนละครเลิฟที่สุด คงเป็นริมถนนพระนครในอดีตข้างกระทรวงกลาโหม โลเคชั่นถนนและตึกเก่าในอดีตที่เต็มไปด้วยฉากหวาน ๆ และความอบอุ่นของ “คุณพระ” ที่มีให้กับ “อนงค์” จนกลายเป็นความทรงจำดี ๆ  ที่ไม่มีวันลืม และแน่นอนกับโลเคชั่นวินเทจวินใจที่ต้องปักหมุดกันเลย กับพิกัดข้างกระทรวงกลาโหม สามารถเดินทางได้ง่าย ๆ ด้วยรถสาธารณะ หรือ MRT มาลงที่สถานี สนามไชย เดินตามทางมาเรื่อย ๆ สังเกตหาตัวอาคารสีเหลืองของกระทรวงกลาโหม หรือมองหาชื่อถนนกัลยาณไมตรี แนะนำออกประตูมิวเซียมสยาม แล้วเดินมาทางสนามหลวง แค่นี้คุณก็มีคุณพระเป็นของตัวเอง

3.จุดบอกรัก : สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ

โลเคชั่นสำคัญที่มัมหมีและแฟนละครหวีดหนักมาก คงหนีไม่พ้นสวนสวย ๆ ฟิลลิ่งโรแมนติกที่จำลองเป็นสวนข้างบ้านของ “อนงค์” จุดกึ่งกลางที่ “คุณพระ” ที่ทั้งคู่ใช้มาเป็นแหล่งปรับทุกข์ และบอกความในใจซึ่งกัน จนติ่งทางบ้านเขินตัวบิดทั้งพระนคร พิกัดแท้จริงตั้งอยู่ที่ “สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ” ถนนกำแพงเพชร 2 จตุจักร มองหาสวนหินในสวนสาธารณะ ตอนนี้กลายเป็นโลเคชั่นยอดนิยมในทันที มีคู่รักพากันไปตามรอยและถ่ายพรีเวดดิ้งกันมากมาย สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ การเดินทางสะดวกสบาย สามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน ลงที่สถานีกำแพงเพชร เปิดให้บริการเวลา 05:30 – 19:00 น. รีบตามไปเช็คอินด่วน

4.DECO PLAZA ห้างอนงค์: ชุมชนเลื่อนฤทธิ์

สายช้อปปิ้งตัวแม่แห่งพระนครห้ามพลาด หยิบชุดเก๋ ๆ แล้วไปสะบัดกระโปรงกันต่อที่ห้างสุดเก๋ของพระนคร DECO PLAZA ห้างประจำตระกูลของนางเอกที่สวยและรวยมาก มีขายทุกอย่าง น้ำหอม โคมไฟ รองเท้า เข็มกลัด ยันชุดชั้นใน เนรมิตเซ็ทฉากยกกองไปจำลองเป็นห้างแห่งใหม่ที่แลนด์มาร์ค “ชุมชนเลื่อนฤทธิ์” ตึกวินเทจสีเขียวละมุนละไมไทยแลนด์ ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกวัดตึกถนนเยาวราช สามารถเดินทางด้วยรถสาธารณะ หรือ MRT มาลงสถานีวัดมังกร หรือสถานีสามยอด ทางออก 1 เดินมาอีกสักนิดก็ถึงบริเวณแห่งนี้ ขอกระซิบบอกนิดนีง แลนด์มาร์คนี้กำลังพัฒนาเริ่มมีคาเฟ่เก๋ ๆ มาเปิดหลังแฟนละครแห่ตามรอยเช็คอินกันหนาแน่น ใครไม่อยากพลาดเป็นคนเก๋คนคูลแห่งพระนคร ก็รีบจิกส้นสูงสวมถุงมือลูกไม้แล้วไปเช็คอินกันได้เลย

ไอเท็มซื้อตามได้! เปลี่ยนสไตล์เป็น ‘อนงค์ หนึ่งในร้อย’ ด้วยแบรนด์ไทยดีไซเนอร์

Alternative Textaccount_circle

อนงค์ หนึ่งในร้อย ฟีเวอร์! คนแต่งตัวตามไปถ่ายรูปตามกันให้ควั่ก เราจึงอยากชวนทุกคนไปสำรวจคอสตูมจากไทยดีไซเนอร์ที่นางเอกเปิ๊ดสะก๊าดเลือกสวมใส่

ถือเป็นละครที่สร้างปรากฏการณ์ให้ประเทศไทยอีกครั้ง สำหรับ ‘หนึ่งในร้อย’ ที่ได้รับการพูดถึงทั่วบ้านทั่วเมือง ทั้งเรื่องบท การแสดง โลเคชั่น รวมถึงคอสตูมของ ‘อนงค์’ ที่ผู้คนเริ่มออกมาแต่งตัวตาม และไปถ่ายรูปกันริมกำแพงกระทรวงกลาโหม โพสต์ลงโซเชียลส่วนตัวพร้อมใส่เพลง The Trouble is.. ปัญหาของฉัน

โดยคอสตูมที่คนเลือกแต่งตามมีทั้งซิลลูเอทกระโปรงบาน กระเป๋าดินสอ และที่ขาดไม่ได้คือไอเท็มเสริมอย่าง ถุงมือ เครื่องหัว สร้อยคอ กระเป๋าถือสักใบ และรองเท้ารัดส้น ที่เชื่อว่าหลายคนคงเอาแฟชั่นยุคนี้มาปรับให้กลายเป็นลุค 50s ตามช่วงเวลาของละคร ซึ่งในละครจริงสไตลิสต์ก็ใช้วิธีดังกล่าเช่นกันที่นำเสื้อผ้าในยุคนี้มา Mix & Match ให้ได้ลุคที่ลงตัวที่สุด เราจึงขอเปิดโพยแบรนด์ไทยดีไซเนอร์ที่สไตลิสต์เลือกใช้ เผื่อทุกคนอยากไปช้อปปิ้ง เปลี่ยนสไตล์เป็นสาวเปิ๊ดสะก๊าดเหมือนอนงค์

Anong by Thai Designer

COCO WANG
Peace By Silsupa

Verasalon Maison
CHER’Z BRAND

TuTTi
Valentier

VEASALON STUDIO
@ohmmoro


ภาพ: @verasalon

2 หนุ่ม 'เก่ง - น้ำปิง' แชร์เคล็ดลับดูแลผิวฉ่ำชุ่มชื้น และโกลว์สวยออร่าจับ

2 หนุ่ม ‘เก่ง – น้ำปิง’ แชร์เคล็ดลับดูแลผิวฉ่ำชุ่มชื้น และโกลว์สวยออร่าจับ

Alternative Textaccount_circle
2 หนุ่ม 'เก่ง - น้ำปิง' แชร์เคล็ดลับดูแลผิวฉ่ำชุ่มชื้น และโกลว์สวยออร่าจับ
2 หนุ่ม 'เก่ง - น้ำปิง' แชร์เคล็ดลับดูแลผิวฉ่ำชุ่มชื้น และโกลว์สวยออร่าจับ

เก่ง – หฤษฎ์ บัวย้อย และ น้ำปิง – นภัสกร ปิงเมือง สองหนุ่มนักแสดงนำจากซีรีส์ ‘เขมจิราต้องรอด’ ร่วมแชร์เคล็ดลับการดูแลผิวให้ฉ่ำชุ่มชื้น และโกลว์สวยแลดูกระจ่างใส พร้อมกิจกรรมเซอร์ไพรส์ใน Pop-Up Event สุดพิเศษ #MoistureMatchup ของ TATCHA แบรนด์สกินแคร์ลักซ์ชัวรีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความงามตามแบบฉบับชาวอาทิตย์อุทัยต้อนรับหน้าหนาว ที่ชวนให้ทุกคนมาสัมผัสกับความชุ่มชื้นจาก 2 ไอเท็มหลักประจำฤดูกาลอย่าง The Dewy Skin Cream และ The Water Cream ผลิตภัณฑ์สุด Exclusive มีจำหน่ายเฉพาะที่ Sephora ประเทศไทยเท่านั้น

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ค้นหามอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตรที่เหมาะกับผิวของตัวเองผ่าน Moisturizer Quiz สำหรับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ TATCHA ที่ร้าน Sephora สาขาสยามเซ็นเตอร์ จะได้ดื่มด่ำกับรสชาติของชาเขียวสูตรพรีเมียมจากร้าน Matcha & more มีเฉพาะที่งานนี้เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ TATCHA ตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป ที่ Sephora ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ระหว่างวันที่ 25 ต.ค. 67 – 14 พ.ย. 67 จะได้รับ TATCHA The Essence Skincare Boosting Treatment ขนาด 25 ml ฟรี! ทุกคำสั่งซื้อ

ใครอยู่ทีมไหน? #TeamDewy น้ำปิง และ #TeamWater เก่ง ลงสนามชิงชัยมอยส์เจอไรเซอร์ลูกรัก
เก่ง และ น้ำปิง ได้เผยถึงความตื่นเต้นที่ได้มาร่วมงานอีเว้นท์ TATCHA ในครั้งนี้ว่า “รู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในงานนี้ เพราะนอกจากบรรยากาศความสนุกจากกิจกรรมในงาน ทุกคนยังได้ร่วมค้นหาสกินแคร์ที่ตอบโจทย์กับการบำรุงผิวในช่วงหน้าหนาวอย่างแท้จริง เช่นเดียวกับมอยส์เจอไรเซอร์ทั้ง 2 สูตร ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นสำหรับผิวที่แตกต่างกัน แต่ได้ผลลัพธ์ผิวเปล่งปลั่ง สุขภาพดี ในแบบของ TATCHA”

น้ำปิง เล่าเสริมว่า “ผมอยู่ #TeamDewy เพราะผมชอบผิวชุ่มฉ่ำ ดูสุขภาพดี จาก The Dewy Skin Cream โดยเฉพาะช่วงที่เดินทางบ่อย มักทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น”  ด้านเก่ง เล่าเพิ่มเติมว่า “ผมอยู่ #TeamWater ซึ่งชอบสกินแคร์ที่สามารถปลุกความสดชื่น เบาสบายผิว ที่ช่วยให้ผิวของผมเนียนนุ่ม น่าสัมผัส และยังทำให้รูขุมขนกระชับขึ้นด้วย”

เตรียมผิวพร้อมรับลมหนาวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ 2 สูตรไอคอนิกจาก TATCHA ไม่ว่าจะเป็น The Dewy Skin Cream หรือ The Water Cream ก็สามารถมอบความชุ่มชื้นให้ผิวได้ถึง 3 เท่า และช่วยเสริมการทำงานของเกราะป้องกันผิว ขณะเดียวกันมอยส์เจอร์ไรเซอร์ทั้ง 2 สูตร สามารถเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวที่แตกต่างกันและได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง เนื้อครีมของ The Dewy Skin Cream มีความเข้มข้น ช่วยเติมผิวให้เต็มและได้รับการพิสูจน์ทางคลินิกว่าช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากความแห้งกร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมอบความเปล่งปลั่ง ฉ่ำน้ำ ให้กับผิว ส่วน The Water Cream เนื้อครีมบางเบาและให้ความรู้สึกสดชื่น เมื่อเนื้อครีมสัมผัสกับผิวจะแตกตัว ช่วยขจัดความมันส่วนเกินที่อุดตันรูขุมขน ปรับผิวให้เรียบเนียน และเพิ่มออร่า


อ่อนเพลียระหว่างวัน

วิธีแก้อาการ “อ่อนเพลียระหว่างวัน” ของวัยทำงาน

Alternative Textaccount_circle
อ่อนเพลียระหว่างวัน
อ่อนเพลียระหว่างวัน

คงปฎิเสธไม่ได้ว่าอาการ “อ่อนเพลียระหว่างวัน” คือศัตรูตัวร้ายของวัยทำงานโดยเฉพาะ ในช่วงเวลาหลังพักเที่ยงที่หนังท้องตึงหนังตาหย่อน อยากจะประท้วงขอปิดทำการชั่วคราวให้ได้ ส่งผลถึงประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม ดังนั้น อย่าปล่อยให้ความอ่อนเพลียทำร้ายจนทำงานไม่ได้ดั่งใจ และนี่คือเคล็ดไม่ลับวิธีแก้อาการอ่อนเพลียระหว่างวัน รวมถึงอาการเหนื่อยง่าย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ถ้ารู้ตัวว่านอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ และไม่อยากอ่อนเพลียระหว่างวัน แนะนำให้รีบดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 300-400 มิลลิลิตรทันทีหลังตื่นนอน เพื่อเติมน้ำที่ขาดไประหว่างหลับ สร้างความสดชื่นให้ร่างกาย รวมถึงช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ จากนั้นให้ออกไปรับแสงแดดยามเช้าสักครู่หนึ่ง เนื่องจากจะช่วยกระตุ้นการผลิตสารเซโรโทนินในสมองที่มีบทบาทในการปรับอารมณ์และทำให้รู้สึกตื่นตัว

หลายคนเข้าใจผิดว่าถ้านอนไม่พอ ตื่นมาต้องรีบซัดกาแฟ ยิ่งเข้มยิ่งดี ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะการดื่มกาแฟทันทีหลังตื่นอาจทำให้ระดับคอร์ติซอลในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น วิธีแก้อาการอ่อนเพลียที่ถูกต้องคือ ทิ้งช่วงรอก่อนดื่มประมาณ 1 ชั่วโมงหลังตื่น จะช่วยให้ได้รับประโยชน์จากคาเฟอีนอย่างเต็มที่

อีกหนึ่งเรื่องที่ควรรู้คือ มื้อเช้าควรเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น โดนัท ขนมปัง ซีเรียล เพราะระดับน้ำตาลที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจะเกิดภาวะน้ำตาลตก หลังจากนั้นจะทำให้ง่วงซึมได้ ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร อาหารมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างพลังงานในแต่ละวัน ดังนั้น จึงควรเลือกกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ โปรตีน ไขมันดี คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน วิตามินและแร่ธาตุ เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว และธัญพืช ซึ่งช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทางตรงกันข้าม วิธีแก้อาการเหนื่อยง่ายระหว่างวันคือ ควรหลีกเลี่ยงอาหารเที่ยงที่มีการพองตัวมากในกระเพาะ เช่น ข้าวเหนียว ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง เพราะจะทำให้รู้สึกหนักท้องและง่วงนอนหลังมื้อเที่ยง ดื่มน้ำให้เพียงพอ

วิธีแก้อาการอ่อนเพลียระหว่างวันที่ทำได้ง่ายที่สุดคือ การดื่มน้ำให้เพียงพอ เนื่องจากน้ำมีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย การขาดน้ำเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียได้ ปริมาณน้ำดื่มที่แนะนำต่อวันโดยทั่วไปคือ 30 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หรือประมาณวันละ 8 แก้ว ควรค่อยๆ จิบเฉลี่ยทั้งวัน อย่าดื่มรวดเดียวในปริมาณมาก

อีกหนึ่งวิธีแก้อาการเหนื่อยง่ายระหว่างวันคือ การหาเวลางีบหลับสั้นๆ ประมาณ 10-20 นาที หรือที่เรียกว่า “Power Nap” โดยวิธีนี้ถ้าทำอย่างถูกต้องจะช่วยเติมพลังงานให้สมองได้ดีทีเดียว อ้างอิงจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ระบุว่าการงีบระหว่างวัน 10-20 นาที ช่วยเพิ่มความตื่นตัว เพิ่มความจำ และช่วยตัดสินใจได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ควรงีบนานเกิน 30 นาที เพราะร่างกายจะเริ่มเข้าสู่ช่วงหลับลึก ซึ่งถ้าต้องตื่นขึ้นมาในระยะนี้อาจรู้สึกมึนงงปวดหัวได้

ถ้าต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวันแนะนำวิธีดังนี้ การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ จะทำให้ตาล้าและแห้ง
ดังนั้น วิธีแก้อาการอ่อนเพลียระหว่างวันวิธีสุดท้ายที่อยากแนะนำและเหมาะมากๆ กับวัยทำงานที่ต้องนั่งหน้าจอตลอดทั้งวันคือ ควรพักสายตาทุกๆ 20 นาที โดยมองไปยังวัตถุที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที (กฎ 20-20-20) นอกจากนี้การนั่งทำงานเป็นเวลานานจะทำให้กล้ามเนื้อตึงเครียด และเลือดไหลเวียนไม่ดี ควรลุกขึ้นเดินยืดเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และลดอาการเมื่อยล้าทุกๆ 1-2 ชั่วโมง โดยเมื่อเลือดไหลเวียนได้ดี อาการเหนื่อยล้าก็ย่อมบรรเทาลงด้วยเช่นกัน 

แต่ถ้าทำตามที่กล่าวมาแล้วไม่ดีขึ้น อยากแก้อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง แบบตรงจุด ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย สามารถตรวจหาสาเหตุและรักษาอาการอ่อนเพลียได้อย่างตรงจุด เพื่อให้ร่างกายกลับมาสดชื่น กระปรี้กระเปร่า

ข้อมูล: พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine จาก Addlife Anti-Aging Center ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี)

ภาพ: Pexels


เซฟเรฟแต่งตาม! 11 คอสตูมฮาโลวีน 2024 ของศิลปิน T-POP

Alternative Textaccount_circle

เตรียมตัวต้อนรับ ฮาโลวีน 2024! ส่อง 11 คอสตูมภูต ผี ปีศาจ ของศิลปิน T-POP ไว้เป็นไอเดียไว้แต่งตาม

ใกล้ถึงคืนหลอนกันแล้ว 31 พฤศจิกายนกำลังมาถึง คิดคอสตูมสำหรับฮาโลวีนปี 2024 กันไว้หรือยังคะ? เป็นอีกช่วงเวลาที่ปลุกความสนุกให้กับผู้คนอยู่ไม่น้อย เพราะแต่ละคนคงต้องขุดความครีเอทีฟที่อยู่ในตัวออกมาแปลงกายเป็นภูตผี หรือตัวละครแฟนซีให้เข้ากับเทศกาล บทความนี้เราเลยชวนทุกคนมาส่องคอสตูมของเหล่าศิลปิน T-Pop เซฟเก็บไว้เป็นไอเดียแต่งตามกันค่ะ

เมื่อไม่นานนี้คลื่นวิทยุ Flex 104.5 ได้จัดงาน SIAM HALLOWEEN ที่ชวนเหล่าศิลปิน T-POP กว่าหลายชีวิตมาร่วมสร้างสีสันบนเวทีในคอนเซ็ปต์สุดหลอนที่ทุกคนต้องแต่งกายมาเป็นภูต ผี ปีศาจ ตัวละครต่างๆ ซึ่งแต่ละคนจะแต่งเป็นใครบ้าง แพรวขอรวบรวมมาไว้ให้ค่ะ!


ภาพ: Instagram @flexconnect.th

ชี้เป้า ลิปบาล์มกันแดดสูตรใหม่ จบปัญหาริมฝีปากแห้ง เหี่ยว กับ INGU Nio-Glow Tripeptide Balm SPF 50+ PA+++

ชี้เป้า ลิปบาล์มกันแดดสูตรใหม่ จบปัญหาริมฝีปากแห้ง เหี่ยว กับ INGU Nio-Glow Tripeptide Balm SPF 50+ PA+++

Alternative Textaccount_circle
ชี้เป้า ลิปบาล์มกันแดดสูตรใหม่ จบปัญหาริมฝีปากแห้ง เหี่ยว กับ INGU Nio-Glow Tripeptide Balm SPF 50+ PA+++
ชี้เป้า ลิปบาล์มกันแดดสูตรใหม่ จบปัญหาริมฝีปากแห้ง เหี่ยว กับ INGU Nio-Glow Tripeptide Balm SPF 50+ PA+++

ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายการดูแลตัวเองแบบเฉพาะส่วนอย่างพิถีพิถันก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย แม้กระทั่งส่วนเล็กๆ อย่างริมฝีปากที่หลายคนมักลืมหรือมองข้ามการบำรุง ซึ่งผิวหนังบริเวณริมฝีปากนั้นมีความบอบบางกว่าผิวหนังส่วนที่เหลือของร่างกาย นอกจากนี้ยังไม่มีเม็ดสีเมลานินด้วย จึงเรียกได้ว่าไม่มีอะไรมาช่วยปกป้องผิวในบริเวณนี้เลย แถมแสงแดดยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายคอลลาเจนภายในผิว ฉะนั้น ถ้าปล่อยให้ริมฝีปากแห้งและโดนแสงแดดไปนานๆ ผิวบริเวณนี้ก็ยิ่งจะบางลงตามไปด้วย การทาลิปบาล์มสามารถช่วย บำรุงริมฝีปาก และปกป้องผิวคอลลาเจนบริเวณริมฝีปากได้อีกด้วย

#ลิปตัวจบ ลิปบาล์มกันแดดสูตรใหม่ จบปัญหาริมฝีปากแห้ง เหี่ยว กับ INGU Nio-Glow Tripeptide Balm SPF 50+ PA+++

ครั้งนี้ ขอมาป้ายยาลิปที่ได้ทั้งบำรุงและเติมสวยในชิ้นเดียวอย่าง INGU Nio-Glow Tripeptide Balm SPF 50+ PA++++ ลิปบาล์มกันแดดสูตรใหม่ ที่เป็นตัวจบปัญหาริมฝีปาก ทั้งปากคล้ำ แห้ง และเหี่ยว พร้อมทั้งอัปเกรดค่ากันแดดใหม่ แพ็กเก็จจึ้ง ปรับหัว applicator ให้โค้งตามกับขอบปาก ส่วนผสมปรับใหม่ โดยมีให้เลือก 6 เฉดสี Natural Blush เนื้อลิปสีใส เฉดเดียวกับริมฝึปาก Blooming Pink เนื้อลิปสีชมพูใส เฉดเดียวกับริมฝึปาก ช่วยให้ริมฝีปากดูสุขภาพดี Orange Marmalade เนื้อลิปสีชมพูอมส้ม Rosy Mauve เนื้อลิปสีม่วงพลับอมชมพู Scarlet Red เนื้อลิปสีแดงเข้มโทนกุหลาบ และ Nude Pink (สีใหม่ล่าสุด) เนื้อลิปสีชมพูนู้ด ใครชอบสีไหนก็จัดไปเลยค่า


ณเดชน์ คูกิมิยะ

ณเดชน์ คูกิมิยะ  ลอนหน้าท้องแซ่บ นี่สิ! ตำนานซิกแพคขนมปัง

Alternative Textaccount_circle
ณเดชน์ คูกิมิยะ
ณเดชน์ คูกิมิยะ

ขยันฟิตหุ่นแน่นๆ ให้แฟนคลับได้ใจเต้นแรงอยู่เสมอสำหรับ ณเดชน์ คูกิมิยะ ว่าที่เจ้าบ่าวของนางเอก ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ล่าสุดแหวกเสื้ออวดลอนหน้าท้องสุดแซ่บละม้ายคล้ายคลึงขนมปังปอนด์ให้สาวๆ ได้กรี๊ด ในผลงานถ่ายแฟชั่นล่าสุดของ นิตยสารแพรว เดือนพฤศจิกายน 2567

หากพูดถึงเรื่องออกกำลังกายณเดชน์ยอมรับตอนนี้เขาติดการออกกำลังกาย โดยไม่มีวันไหนที่หยุดพักออกกำลังกายเลย “ย้อนไปก่อนหน้านี้ผมเคยถูกวิจารณ์เกี่ยวกับรูปร่าง แต่ไม่ได้รู้สึกเท่าไหร่เพราะช่วงนั้นพักจากงานเลยไม่ได้รู้สึกว่าร่างกายมีผลกับการทำงาน แต่พอเจอคอมเม้นต์ก็กลับมาคิดว่า “ไม่ได้แล้ว” เหมือนเป็นไฟให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง ตื่นตี5 คุมอาการ เข้าฟิตเนสทุกวัน พอทำมาเรื่อยๆ ประมาณ 4-5 ปี ก็กลายเป็นเสพติดการออกกำลังกาย”

“การได้ออกกำลังกายทุกวันมันเหมือนได้ฝึกฝนตัวเองให้กระฉับกระเฉง อีกอย่างด้วยเราเป็นดารา-นักแสดง เราก็ยังต้องมีภาระหน้าที่ ถึงแม้เราจะมีฝีมือการแสดง แต่ถ้าเราไม่ดูแลตัวเองก็คงเหมาะไม่ควร ผมจึงพยายามจัดการตัวเองในเรี่องของสุขภาพร่างกายให้ดีที่สุด”

ณเดชน์ คูกิมิยะ

ติดตามแฟชั่นเซ็ต ณเดชน์   ได้ที่ นิตยสารแพรว เดือนพฤศจิกายน 2567 Pre – Order นิตยสารแพรว พ.ย. 67 (18 – 31 ต.ค. 67) ทาง

1. แผนกสมาชิกนิตยสาร Line : @amarin-member
2. ร้านนายอินทร์ และ https://book-naiin.com/3YeEHOr
3. ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และ https://se-ed.com/s/dguC
4. ร้านเสียงทิพย์บุ๊คเซ็นเตอร์ : https://bit.ly/3Yqy7pc
5. ร้านบีทูเอส และ https://bit.ly/409t7Xd

#PraewNov24 #nadech_kugimiya #ณเดชน์ #Praewmag 

เซ็นทรัลพัฒนา ชูกลยุทธ์ ‘The Future-Fluent Transformation’ เดินหน้ามิกซ์ยูสใหม่ภาคใต้และพลิกโฉมมิกซ์ยูสในย่านสำคัญครั้งยิ่งใหญ่

account_circle

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน ตอกย้ำความสำเร็จโมเดลธุรกิจ ‘The Ecosystem for All’ เชื่อมโยงทุกธุรกิจทั้ง Retail-Residence-Hotel-Office ประกาศสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ทรานส์ฟอร์มสู่อนาคตด้วยกลยุทธ์ The Future-Fluent Transformation เพื่อพัฒนาย่าน เมือง และประเทศ โดยพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสใหม่และพลิกโฉมโครงการในโลเคชั่นสำคัญต่างๆ รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ “เซ็นทรัล กระบี่” มูลค่า 4,500 ล้านบาท เตรียมเปิด Q3/68 และโครงการ Total Transformation & New Masterplanning ของอีก 4 มิกซ์ยูสสำคัญ มูลค่าโครงการมากกว่า 10,000 ล้านบาท ได้แก่ ‘เซ็นทรัล บางนา’ โฉมใหม่ Q1/69, ‘เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า’ โฉมใหม่ Q2/68, ‘เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ’ โฉมใหม่ Q2/68, และ ‘เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต’ โฉมใหม่ Q1/69 ทั้งหมดนี้เพื่อรองรับการขยายตัวของย่านและเมือง ตอบโจทย์ Sophisticated Lifestyle ของลูกค้าที่มีกำลังซื้อและความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ

นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล Chief Development and Commercial Officer บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เซ็นทรัลพัฒนา พร้อมที่จะทรานส์ฟอร์มสู่อนาคตและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในย่านสำคัญต่างๆ ของกรุงเทพฯ และจังหวัดสำคัญของประเทศ เพื่อตอบโจทย์ Future Consumers โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราเป็นนักพัฒนาที่สร้างสรรค์ Future-Fluent Development ให้กับผู้คน ชุมชน และใส่ใจสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำแนวคิด ‘Centre of Life’ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิต และกระจายความเจริญทั่วประเทศ โดยมีโครงการ Retail-Led Mixed-Use ทั้งหมด 5 โครงการสำคัญที่จะประกาศในวันนี้ ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวมทุกองค์ประกอบทั้งศูนย์การค้า ที่อยู่อาศัย โรงแรม และ Convention Hall รวมกันกว่า 15,000 ล้านบาท นำโดย ‘เซ็นทรัล กระบี่’ โครงการมิกซ์ยูสที่ยิ่งใหญ่แห่งแรกใจกลางกระบี่ และ ยังมีการพลิกโฉมสู่โครงการมิกซ์ยูสแห่งอนาคตครั้งยิ่งใหญ่ในย่านสำคัญต่างๆ แบบ Total Transformation ได้แก่ ‘เซ็นทรัล บางนา’, ‘เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า’, ‘เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ’, และ ‘เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต’ อีกด้วย”

โดยภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากผู้บริหารของเซ็นทรัลพัฒนาร่วมให้วิสัยทัศน์และกลยุทธ นำโดย นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล Chief Development and Commercial Officer, ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา Chief Marketing Officer, นายชาตรี โกวิทานุพงศ์ Executive Project Director Regional Development 1 และนายคุณายุธ เดชอุดม Head of Business Development Strategy

เซ็นทรัล กระบี่ มิกซ์ยูสแห่งอนาคต โครงการใหม่ ยิ่งใหญ่แห่งแรกใจกลาง “กระบี่”

“เซ็นทรัล กระบี่” (Central Krabi) ด้วยคอนเซ็ปต์ New Haven of Life (Destination | Nature Lifestyle) โครงการมิกซ์ยูสมูลค่าโครงการรวม 4,500 ล้านบาท บนพื้นที่ 114 ไร่ ประกอบด้วย ศูนย์การค้า (GBA: 47,500 sq.m.) เตรียมเปิดให้บริการ Q3/68และในอนาคต มีแผนที่จะพัฒนาทั้งบ้านระดับพรีเมียม, คอนโดมิเนียม และโรงแรม

“กระบี่” จังหวัดท่องเที่ยวศักยภาพสูงของไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก และมีกำลังซื้อที่แข็งแกร่ง

  • รายได้การท่องเที่ยวลำดับที่ 6 ของประเทศ และลำดับที่ 3 ของภาคใต้ มีการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวที่ชัดเจน ในปี 2566 ทำรายได้ 52,500 ล้านบาท และมีจำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาแล้วกว่า 4 ล้านคน อีกทั้งมีแผนขยายสนามบินนานาชาติที่จะสามารถรองรับนักท่องเที่ยว 8 ล้านคนต่อปี
  • จังหวัดกำลังซื้อสูงมี GPP per capita ที่ 190,573 บาทต่อปี คิดเป็นอันดับที่ 4 ของภาคใต้ และการใช้จ่ายต่อครัวเรือนที่สูงติด Top 5 ของประเทศ  
  • High-Quality Catchment Area ประมาณ 480,000 คน จากในเมืองกระบี่และผู้อยู่อาศัยในโครงการบ้านและคอนโดราคาสูงตั้งแต่ 2-10 ล้านบาท ที่มีรวมกว่า 1,000 ยูนิต
  • Extensive Range of Unmet Needs จากความหลากหลายของผู้คน เป็นสังคม ‘Biocultural Harmony’ มีความหลากหลายทั้งเชื้อชาติและศาสนา แต่มีวิถีชีวิตที่อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน จึงทำให้เกิดความต้องการพื้นที่ในการใช้ชีวิตที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์หลายรูปแบบ โครงการเซ็นทรัล กระบี่จึงคัดสรรไม่ว่าจะเป็น Premium Lifestyle Brands, Food Destination ทั้งอาหารไทย, นานาชาติ และอาหารฮาลาล, Recreation Space พื้นที่สำหรับเด็กและครอบครัว รวมถึง Retail Magnet จากกลุ่มเซ็นทรัลทั้ง Tops, Supersports, Powerbuy, B2S และ Auto1    

“เซ็นทรัล กระบี่” ปักหมุดเป็นแลนด์มาร์กที่จะเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของชาวกระบี่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ครบตอบโจทย์ทุกกลุ่ม โลเคชั่นที่ดีที่สุด พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย Tourist Hub ที่ครบวงจร

โดยได้รับการออกแบบ Fully-Integration with Nature แบบ Semi-outdoor สะท้อนธรรมชาติของหมู่เกาะและภูเขาอันเป็นเอกลักษณ์ของกระบี่ และอัตลักษณ์วิถีชุมชน โดดเด่นด้วยกลุ่มอาคารที่นำเอารูปฟอร์มของหมู่เกาะมาออกแบบเป็น Floating Jewel of Krabi พร้อมจุดชมวิวภูเขาแบบพาโนรามิกที่ทุกคนต้องมาเช็คอิน และยังมีโซน Authentic Culture & Product ของกระบี่ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ

นอกจากนี้ ในด้านความยั่งยืนโครงการตั้งเป้าลด Carbon Footprint ตั้งแต่กระบวนการก่อสร้างเพื่อให้ได้ ‘EDGE Certification’ เป็นโครงการแรก นับเป็นอีกระดับของมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมโลก รวมถึงใส่ใจด้าน Energy Savings, Low-Carbon Materials และจับมือกับชุมชนในการแยกขยะตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง พร้อมนำขยะจากทะเลและครัวเรือนมา Upcycling อีกด้วย

The District of the Future พลิกโฉมมิกซ์ยูสสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่แห่งอนาคต

ในฐานะผู้นำที่บุกเบิกย่านและเมืองเป็นรายแรก “ศูนย์การค้าเซ็นทรัล” ได้กลายเป็น Centre of District ในปัจจุบัน Affluent Demographic มีความเปลี่ยนแปลง ย่านต่างๆ ขยายเติบโตขึ้น ประชากรมี Sophisticated Lifestyle และกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น จึงมีการพลิกโฉมการพัฒนาโครงการแบบ Total Transformation & New Masterplanning 4 โครงการ ได้แก่ “เซ็นทรัล บางนา” และ “เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า” เป็น 2 ย่านที่ประชากรมีกำลังซื้อสูง แวดล้อมด้วยโครงการที่อยู่อาศัย Luxury โดยเราเห็นกำลังซื้อที่ชัดเจน จากการวิเคราะห์ด้วย AI Data-Driven Insights ของ The1 ว่า 2 สาขานี้ติดอันดับ Top 10 Best Performance ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล โดยมีจำนวนการมาใช้บริการของสมาชิก The 1 ในระดับสูง และมี Affluents Members มากกว่าพื้นที่อื่นถึง 1.5 เท่า และในด้านยอด spending นั้น ติดอันดับท็อปๆ ของเรา

รวมไปถึง “เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ” ที่โครงสร้างเมืองขยายรองรับการเติบโตเทียบเท่าย่าน New CBD และ “เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต”  ที่เมืองเติบโตด้วย Mega Projects และ Tourist Influx

โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในครั้งนี้ เป็นการยกระดับทั้ง Brand Mix, Central Group ปรับโฉมคอนเซ็ปต์ใหม่ทั้งหมด, ออกแบบ Customer Journey & Experience ใหม่, และ Total Redesign ใหม่ทั้งหมด

1) เซ็นทรัล บางนา (Central Bangna) – Live Life Xponentially (Luxe | Lush | Lifestyle)

‘Always the Place’ ของคนในย่าน มีความเติบโตชัดเจนเป็น ‘High Quality Catchment Area’ แวดล้อมด้วยโครงการที่อยู่อาศัยกว่า 9 แสนยูนิต และเป็น Luxury Residence กว่า 5,000 ยูนิต มีโรงเรียนนานาชาติระดับ top-tier กว่า 20 แห่ง ประชากรมีรายได้สูงกว่า Bangkok CBD บางย่าน

จากศักยภาพจึงได้ทรานส์ฟอร์มสู่ New masterplanning ขยายเป็นโครงการมิกซ์ยูสยิ่งใหญ่ของย่านบนพื้นที่ 55 ไร่ โดยเฟสแรกจะโฟกัสในส่วนศูนย์การค้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ Urban Luxe & Lush Lifestyle เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า Upper Class มากขึ้น ยกระดับย่านบางนาไปอีกขั้นหนึ่ง ด้วยการ

  • Curated Merchandising Mix ใหม่: เติมเต็ม Accessible Luxury Brands และมี Upper Lifestyle Brands, Brand Anchors บนพื้นที่ 10,000 ตร.ม. พร้อมด้วยการปรับคอนเซ็ปต์ใหม่ระดับ flagship standard ของห้างเซ็นทรัล และการปรับโฉมใหม่ทั้งหมดของธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล
  • Space Revolution: สร้างสรรค์พื้นที่ใหม่ตั้งแต่ Tops Food Hall ที่มียอดขายติดอันดับ 1 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล, ‘Food Play Yard’ รวมร้านอาหารหลากหลายมากกว่า 100 แบรนด์, ‘Fashion Galleria’ รวมกว่า 100 Modern Luxury Brands และรองรับ 20 Accessible Luxury Fashion Houses, ‘Holistic Wellness’ บนพื้นที่ 3,800 ตร.ม.,‘Multi-Generation Entertainment’ พบกับสวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดของย่าน รวมถึงพื้นที่ Happening Event, Pop-Up Market, Art Exhibition

2) เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า (Central Pinklao) – New Soul of the District (Creative | Moment | Magnetic)

แลนด์มาร์กและเมืองหลวงของฝั่งธนบุรี และ Meeting Point ของฐานลูกค้ากลุ่มครอบครัวมีกำลังซื้อ นักเรียน นักศึกษา และบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลชั้นนำ ปัจจุบันใน Catchment Area มีประชากรหนาแน่นถึง 3,000,000 คน, ราคาที่ดินเติบโตสูง และใกล้โครงข่าย Skytrain Major Interchange ที่ทำให้การเดินทางเชื่อมต่อไปย่านสำคัญอื่นๆ อย่างสีลม, สาทร และเยาวราชได้ง่าย การพัฒนาคอนเซ็ปต์ใหม่จึงยกระดับสู่การสร้างสรรค์ Complete Destination ที่ดีที่สุดในย่าน อาทิ

  • Gastronomy Hub – ครบที่สุดในย่านกรุงเทพฯ ตะวันตก ร้านอาหารกว่า 200 แบรนด์ อาทิ Tops Food Hall และ New Variety ตั้งแต่ Premium, Casual Lifestyle, Grab & Go, Street Food, Family Food Destination พร้อมด้วยพื้นที่แฮงก์เอาท์
  • Uplifted Shopping Experience: มี Key Anchor ที่แข็งแรงหลายแบรนด์ทั้ง Fashion & Sport พร้อมเพิ่ม Affordable Luxury Brands
  • พบกับโฉมใหม่ของธุรกิจในเครือกลุ่มเซ็นทรัล นำโดยห้างเซ็นทรัล ระดับ Flagship Standard
  • โรงภาพยนตร์คอนเซ็ปต์ใหม่
  • Education and Family Destination ศูนย์กลางการเรียนรู้ และพัฒนา Multi-Intelligence Skills มากกว่า 50 สถาบัน สำหรับเด็กและเยาวชนครบทุกด้าน ดีที่สุดในย่านธนบุรี ซึ่งมีทราฟฟิกกลุ่มครอบครัวที่แข็งแกร่งมาก

3) เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ (Central Chaengwattana) – The Life Extraordinaire (Affluent | Vibrant | Art)

ย่านที่เติบโตและเปลี่ยนผ่านจากย่านชานเมืองสู่ New CBD จำนวนประชากรเติบโตเทียบเท่าย่านพระราม 9 และเป็นกลุ่มที่มีรายได้สูงกว่าย่านอื่นๆ ในนนทบุรี โดยเป็นครอบครัวกำลังซื้อสูง และหมู่บ้านชาวต่างชาติ Expat ที่มีจำนวนมาก โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นกว่า 300% แวดล้อมด้วยออฟฟิศของภาครัฐและเอกชนซึ่งคาดว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้าจะมีจำนวน Office Workers เพิ่มขึ้น 300,000 คนรวมถึงมี New Connectivity ของรถไฟฟ้าสายสีชมพู

การพัฒนาคอนเซ็ปต์ใหม่จึงต้องการ Uplift ประสบการณ์เหนือระดับในทุกด้าน โดยจะเป็นที่ที่มีทราฟฟิกดีทุกวันทั้งวันธรรมดาและวันหยุด จากกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ในวัน Weekday จะมีกลุ่มพนักงานออฟฟิศจากบริษัทเอกชนและหน่วยงานรัฐ กลุ่มนักเรียน นักศึกษาถือเป็น High Frequency Shoppers และในช่วง Weekend จะเป็น Quality Shoppers ทั้งกลุ่มครอบครัวและ Expat ซึ่งเป็น The 1 Exclusive หรือกลุ่ม Wealth กว่า 10,000 คน และมียอด Spending มากกว่าที่อื่นถึง 25 เท่า 

  • Complete & Sophisticated Lifestyle: ทั้งห้างเซ็นทรัล ดีไซน์โมเดิร์น, Tops Food Hall กับสินค้าระดับท็อป และ Variety of Fashion Brands ตั้งแต่ International Brands to Street & Sport Fashion และเตรียมพบกับ New Anchor ต่างชาติที่มีแบรนด์ครบทุกไลฟ์สไตล์ ทั้ง Beauty, Food, Fresh Market
  • New Family Magnet: Bounce, HarbourLand, JOYLIDAY รวมพื้นที่กว่า 3,000 ตร.ม.
  • Food Destination: Food Patio เปิดใหม่ที่มียอดขายดี, และร้านอาหารสำหรับครอบครัวอีกมากมาย เช่น MOMO Paradise และ AKA เป็นต้น  
  • Common Space: พื้นที่ Art & Happening ร่วมมือกับศิลปินและสตูดิโอชื่อดัง

4) เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต (Central Chiangmai Airport) – Reimagining Lanna (Authentic | Attraction | Culture)

ปักหมุดใจกลางเมือง ใกล้สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ เมืองขยายตัวอย่างรวดเร็วด้วย Mega Projects ของภาครัฐและแผนเตรียมรับนโยบายเมืองแห่ง Creative Economy Hub ปี 2571 อีกทั้งมี Emerging Demand เพิ่มขึ้นจาก Catchment Area ที่ขยายครอบคลุมประชากรกว่า 2,000,000 คนในจังหวัดเชียงใหม่, ลำพูน, ลำปาง โครงการที่อยู่อาศัยโตขึ้นกว่า 34%, Luxury Hotels ที่เพิ่มมากขึ้น แวดล้อมด้วยโรงเรียนนานาชาติและมหาวิทยาลัย และมี Tourist Influx ล้นหลาม โตขึ้น 300% จากปี 2562

การพัฒนาคอนเซ็ปต์ใหม่ นำเสนอ Local Essence in Modern Twist เพื่อสร้างเดสติเนชั่นที่ผู้คนต้องมาเยือนและตอบ
โจทย์ชาวเชียงใหม่ได้ครบวงจร

  • The Most Complete Mixed-Use Project of the North: เป็น New Masterplanning กว่า 100 ไร่ ทั้ง
    ศูนย์การค้า, Convention Hall, Tourist Hub และ Multi-Generation Space รวมถึง Go Wholesale แห่งแรกใน
    ภาคเหนือที่เปิดให้บริการแล้ว
  • เติมเต็มแบรนด์ใหม่อีกมากกว่า 50% พร้อมด้วยแบรนด์ดังที่ประสบความสำเร็จแล้ว อาทิ Uniqlo, Nike,
    Adidas, Puma และ MUJI Flagship Store แห่งแรกของภาคเหนือและใหญ่ที่สุดในไทย สินค้ากว่า 3,000
    รายการและมีกระแสตอบรับดีมาก
  • Tourist & Family Destinations บนพื้นที่ 17,000 ตร.ม. โดยขยายพื้นที่ “กาดหลวง แอร์พอร์ต” ถึง 9,000
    ตร.ม. ที่ประสบความสำเร็จมากในปัจจุบัน และ Local Food Market ที่ใหญ่ที่สุด มีแบรนด์ Local Michelin
    Brands ที่ชาวเชียงใหม่ชื่นชอบ รวมถึงสินค้า Hug Craft และ Local Craftmanship

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสู่อนาคตภายใต้เจตจำนงค์ของแบรนด์ Imagining better futures
for all ด้วยการสร้างและพัฒนาพื้นที่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและชุมชน รวมถึงสิ่งแวดล้อม พร้อมดำเนิน
กลยุทธ์ The Ecosystem for All เป็นระบบที่แข็งแกร่งและยั่งยืน เพื่อเติบโตไปกับทุกฝ่ายควบคู่ไปกับการเป็นพลังขับ
เคลื่อนหลักที่ช่วยผลักดันเศรษฐกิจและประเทศ

ในปี 2566 เซ็นทรัลพัฒนาก้าวสู่อันดับ 1 องค์กรยั่งยืนระดับโลก โดยได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความ
ยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Top
1% S&P Global Score) จากจำนวนทั้งหมด 299 บริษัททั่วโลก อีกทั้งยังได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในบริษัทใหญ่
ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใน 2024 Fortune Southeast Asia 500 โดยขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในกลุ่มบริษัท
Real Estate ไทยทั้งหมดที่ได้รับการคัดเลือกในครั้งนี้ด้วย


เผยผิวเนียนกริบ ความสวยที่เกินฝัน ด้วย Dreamy Glow Cushion จาก KMA

account_circle

KMA Cosmetics แนะนำ Dreamy Glow Cushion คุชชั่นผิวเนียนกริบ ความสวยที่เกินฝันมอบฟินิชลุคผิวซอฟท์โกลว์ สวยเปล่งประกาย แลดูสุขภาพดี สามารถปกปิดผิวได้ทุกระดับตามความต้องการ ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำจากประเทศเกาหลี ที่ช่วยปกปิดริ้วรอยและจุดด่างดำได้เนียนละเอียด เนื้อสัมผัสบางเบา ควบคุมความมันได้ดี ติดทนนานกว่า 8 ชม. มีประสิทธิภาพในการกระจายแสงให้ผิวแลดูแวววาว มีมิติ  พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยค่า SPF 50+ PA+++  มีให้เลือก 3 เฉดสี ซึ่งสามารถปรับสีได้ตามโทนผิวของคนไทยอย่างเป็นธรรมชาติ  มาพร้อมพัฟทรงหยดน้ำ ที่มีเทคโนโลยี Rubycell Puff  ช่วยให้เนื้อคุชชั่นกระจายตัวได้ดี สัมผัสนุ่มนวล เข้าถึงทุกอณูผิว


เจาะเบื้องหลังความพิถีพิถันของ SO’BiO étic สกินแคร์ออร์แกนิกจากฝรั่งเศส

account_circle

ด้วยกระแสแรงของสกินแคร์ออร์แกนิกที่ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่คนรักผิว Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว จึงพาไปพูดคุยกับ “คุณพรรณนิภา สุขานนท์สวัสดิ์” นักธุรกิจหญิงเก่งผู้นำเข้าแบรนด์สกินแคร์ออร์แกนิกจากฝรั่งเศส SO’BiO étic (โซ ไบโอ อิธิค) ที่เพิ่งจะได้รางวัลจาก Praew Iconic Beauty Award 2024 ไปเมื่อต้นเดือน

เราจะพามาเจาะลึกเบื้องหลังความพิถีพิถันของแบรนด์  ซึ่งส่งให้หลากหลายผลิตภัณฑ์ขึ้นแท่นสกินแคร์ลูกรักของคนรักผิวสายออร์แกนิกไปเรียบร้อยแล้ว

อยากให้คนรักผิวได้ลองของดี

“ที่มาของการนำ SO’BiO étic เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย มีจุดเริ่มต้นมาจากประสบการณ์ส่วนตัวของเพื่อนสนิทที่เป็นหุ้นส่วนกันค่ะ ด้วยความที่ปัจจุบันโลกของเราเกิดมลภาวะต่างๆ มากมาย เช่น ฝุ่น PM2.5 บวกกับการเผชิญปัญหาสุขภาพที่ค่อนข้างหนักของเขา ในช่วงที่รักษาจึงพยายามลดการใช้สารเคมีกับร่างกาย ลองหันมาเป็นสายออร์แกนิก ทั้งปรับเปลี่ยนวิถีการกิน สรรหาผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกมาใช้ เพราะด้วยวิธีการรักษาทำให้ช่วงนั้นเขามีปัญหาผิวแห้งมาก จนได้มาเจอกับ SO’BiO étic ซึ่งเป็นสกินแคร์ออร์แกนิกจากฝรั่งเศส ปรากฏว่าเขาใช้แล้วดี ประทับใจกว่าที่คิด

“ด้วยความที่เราก็สนใจผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกอยู่เหมือนกัน จึงลองใช้บ้าง พอใช้กับตัวเองแล้วดีจริง จึงจุดประกายความคิดว่าอยากบอกต่อ และอยากให้ทุกคนได้ลองใช้ ซึ่งพอหลายๆ คนได้ลองใช้ตามเรา ก็รู้สึกชอบเหมือนกัน ประกอบกับเทรนด์ Clean Beauty กำลังมาพอดี ทำให้กระแสการใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกได้รับความสนใจ พอเรามองเห็นความเป็นไปได้ในตลาด สุดท้ายจึงตัดสินใจนำเข้า SO’BiO étic มาให้กับคนไทยค่ะ”

สกินแคร์ออร์แกนิกสุดพิถีพิถัน

“จุดเด่นของ SO’BiO étic ด้วยความที่เป็นแบรนด์ของฝรั่งเศส จึงขึ้นชื่อเรื่องความพิถีพิถันและความจริงจัง คือถ้าประกาศตัวว่าเป็นสกินแคร์ออร์แกนิก ก็แปลว่าทุกอย่างจะต้องออร์แกนิกจริงๆ ไม่ใช่หมายถึงแค่บางส่วนผสมเท่านั้น และประสิทธิภาพต้องถึง ใช้แล้วได้ผลชัดเจน ซึ่งเรารู้สึกชอบในความเป๊ะตรงนี้ บวกกับพอได้ศึกษาเบื้องหลังของแบรนด์ ก็พบว่าเข้มงวดมากๆ ยกตัวอย่างสถาบันที่แบรนด์ผ่านการรับรอง ก็จะมีการตรวจสอบตั้งแต่เรื่องสถานที่ตั้งของฟาร์มวัตถุดิบ พืชที่นำมาใช้เป็นส่วนผสมมีวิธีปลูกอย่างไร มีวิธีเก็บเกี่ยวอย่างไร ปราศจากการใช้สารเคมีในทุกขั้นตอนจริงหรือไม่ เรียกว่ากว่าจะผ่านการรับรองมาได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ซึ่ง SO’BiO étic ได้รับการรับรองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกแท้จาก Cosmebio และ Ecocert ซึ่งเป็นองค์กรรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่มีชื่อเสียงระดับโลก และขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวดในการตรวจสอบ

“อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญคือการเป็นสกินแคร์ออร์แกนิกประสิทธิภาพสูง เพราะ SO’BiO étic มีความใส่ใจเป็นพิเศษในการคัดสรรส่วนผสม และใส่ในปริมาณที่ให้ประโยชน์ต่อผิวจริงๆ ไม่มีเด็ดขาดที่จะใส่นิดๆ หน่อยๆ แค่พอเป็นพิธี ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ใส่ Argan Oil ก็จะใส่ไปเลย 5% ซึ่งถือเป็นปริมาณที่เยอะมาก ทำให้รู้สึกได้ถึงผลลัพธ์หลังใช้ที่มีประสิทธิภาพจริงๆ  

“ย้อนกลับไปถึงผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่เรานำเข้ามาลองตลาด เริ่มที่มอยส์เจอร์ไรเซอร์ แม้จะดูเบสิก แต่ถือเป็นสกินแคร์ตัวสำคัญ เพราะผิวสุขภาพดีจะต้องมีความชุ่มชื้นเป็นตัวนำร่อง อันนี้แหละที่ลองเองตัวแรกแล้วเห็นว่าผิวฟูชุ่มชื้นชัดเลย ปรากฏว่ากระแสตอบรับดีเกินคาด หลายคนได้ลองใช้แล้วชอบ ทำให้เกิดการตามมาลองใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของแบรนด์ต่อ อย่างผลิตภัณฑ์ล่าสุดคือ Lift’ Grenade Smooth + Glow Intense Serum ซึ่งเป็นเรตินอลออร์แกนิกที่อ่อนโยนแต่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ 84% กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำมาจากสารสกัด Criste Marine พืชชายฝั่งแอตแลนติกของฝรั่งเศส และสารสกัดทับทิมออร์แกนิก ตัวนี้เพิ่งเปิดตัวที่ไทยไม่กี่เดือน แต่กระแสตอบรับดีมาก โดยสังเกตได้ว่ามาจากลูกค้าเก่าเกินกว่า 50% เลยค่ะ”

จากความจริงใจสู่ความสำเร็จก้าวแรก

“เรามองว่า ‘ความจริงใจ’ และ ‘ความตั้งใจ’ สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจด้านความงาม ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ผลิตเป็นแบรนด์ตัวเอง หรือนำเข้ามา ก็ต้องมั่นใจว่ามีคุณภาพดีจริง เพราะตลาดความงามมีการแข่งขันสูง และผู้บริโภคมีการลงลึกในรายละเอียดของสินค้ากันมากขึ้น ทำให้การชวนเชื่อ หรือการตลาดแบบผิวเผิน ใช้ไม่ได้แล้วในสมัยนี้ ดังนั้นความจริงใจและความตั้งใจในการส่งมอบของดีมีคุณภาพให้กับผู้บริโภค จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ

“ความท้าทายของการนำ SO’BiO étic เข้ามาในประเทศไทย คือการทำให้ผู้บริโภคลองเปิดใจให้กับสกินแคร์ออร์แกนิก เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ใช่สายออร์แกนิกเป็นทุนเดิม ดังนั้นสิ่งสำคัญจึงขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่ต้องทำถึงจริงๆ จนกลายเป็นที่ยอมรับให้ได้ เช่นเดียวกับ SO’BiO étic ที่ตอนแรกเราอยากให้เป็นทางเลือกสำหรับคนรักผิว แต่ตอนนี้หลายๆ ผลิตภัณฑ์กลายเป็นทางหลักไปแล้วค่ะ”


Giuseppe Zanotti ฉลองครบ 30 ปีด้วยแคปซูลคอลเลคชันสุดพิเศษกับซิกเนเจอร์ดีไซน์ที่นำมาตีความใหม่อย่างงดงาม “THE ICON RING”

account_circle

Giuseppe Zanotti ฉลองครบ 30 ปีด้วยแคปซูลคอลเลคชันสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ถ่ายทอดความสง่างามเหนือกาลเวลา โดยแคปซูลคอลเลคชันได้ผสมผสานเทคนิคของการรังสรรค์เครื่องประดับชั้นสูงเข้ากับงานฝีมืออันประณีตและล้ำเลิศของชาวอิตาเลียน เพื่อเฉลิมฉลองการเดินทางอันเปี่ยมไปด้วยความสร้างสรรค์

โดยชิ้นงานอันโดดเด่นของคอลเลคชันคือรองเท้าแตะรุ่น The Ring หนึ่งในซิกเนเจอร์ดีไซน์ที่ได้รับความนิยมมากว่า 20 ปีจนกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของแบรนด์ “มันเป็นมากกว่ารองเท้า สำหรับผม The Ring ยังบอกเล่าถึงแนวคิดสำคัญที่ว่าด้วยปรัชญาประจำใจของผม นั่นคือการส่งเสริมมิใช่แอบซ่อน อีกทั้งยังอาศัยดีไซน์แบบมินิมัล เช่นการใช้เส้นหนังเรียวบางเป็นพิเศษเพื่อสร้างลุคเปล่าเปลือยให้กับเรียวเท้า แล้วประดับด้วยแหวนคริสตัลแวววาว สร้างประกายระยิบระยิบ” มร. จูเซปเป ซานอตติ กล่าว

วันนี้ รองเท้ารุ่น The Ring แบบดั้งเดิมได้ถูกนำมาตีความใหม่พร้อมยกระดับให้แลดูหรูหราเป็นพิเศษยิ่งจึ้นด้วยการเลือกใช้คริสตัลแร่เซอร์คอนคัตสามแบบ ได้แก่ แบบแท่งผลึก, แบบสี่เหลี่ยม และแบบกลม ในหลากหลายขนาดที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างประกายแวววาวให้แลดูสว่างไสวและมีมิติ โดยรองเท้า The Ring ในแต่ละแบบนั้นถูกรังสรรค์ขึ้นโดยงานฝีมือขั้นสูง รวมถึงคริสตัลที่ผ่านการเจียระไนและประดับด้วยมืออย่างพิถีพิถัน

ขอแนะนำรองเท้าดีไซน์ใหม่สำหรับคอลเลคชันนี้ นั่นคือรองเท้า The Ring ที่มีส้นตันในโทนสีดำและสีขาว ประดับด้วยสีทอง สีแดง และแผ่นหนัง โดยทั้งสองรุ่นได้สลักลวดลายคำว่า 30th Anniversary ลงบนแผ่นรองเท้าด้านใน เพื่อตอกย้ำถึงโอกาสสุดพิเศษนี้  

แคปซูลคอลเลคชันสำหรับการฉลองครบรอบนี้ได้ถูกนำมาจัดแสดงที่ Milan Fashion Week ในวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมกับคอลเลคชัน Spring/Summer 2025 และจะวางจำหน่ายที่บูติคของแบรนด์ รวมถึงร้านค้าออนไลน์ และร้านรวมแบรนด์ต่างๆ ในเดือนธันวาคม 2024 เป็นต้นไป


‘ทบทวนใจตัวเองว่า จะปล่อยไหลตามยถากรรมหรือคบต่อ ใช่คุณไหม?? ต้องเช็กแล้ว!!’ ดวงรายสัปดาห์ 28 ตุลาคม-3 พฤศจิกายน 2567

Alternative Textaccount_circle

‘ทบทวนใจตัวเองว่า จะปล่อยไหลตามยถากรรมหรือคบต่อ’

ดวงรายสัปดาห์ 28 ตุลาคม-3 พฤศจิกายน 2567

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์          

การงาน  :   สัปดาห์ชนเดือนของชาวอาทิตย์ออกจะบู๊ๆ หน่อยน้า มีโอกาสที่จะเดินหน้าลุยงานอย่างไม่เกรงกลัวใคร ซึ่งก็มาจากตัวคุณนั่นล่ะที่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จ แล้วต้องไปให้ถึงฝั่งฝันด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้อารมณ์และความรู้สึกในการถ่ายทอดผลงาน เช่น งานเขียน งานในแวดวงบันเทิง นักร้อง ศิลปิน โฆษณา-ประชาสัมพันธ์  ดีไซเนอร์ สำหรับใครที่กำลังร่วมงานหรือร่วมหุ้นกับเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิง ภายในสัปดาห์นี้ก่อนจะตัดสินใจควรมีสติ อย่าใจร้อนเด็ดขาด เพราะมีโอกาสที่คนใกล้ตัวจะไม่ซื่อสัตย์ ใส่ร้ายป้ายยา จนถึงกับขึ้นโรงขึ้นศาลได้เลย

การเงิน  :   ดีขึ้น ทั้งรายได้ประจำที่จะมาจากวาสนาและบารมี ส่วนนักธุรกิจก็มีโอกาสเพิ่มทุน ยิ่งในช่วงสัปดาห์นี้จะกล้าได้กล้าเสียมากขึ้น แล้วโชคก็อยู่ข้างคุณด้วยสิ แล้วเมื่อมีมากก็จะใช้เยอะ หมดไปกับการช็อป เลี้ยงเพื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนหญิง ญาติผู้หญิง ก็ต้องระวังสัปดาห์นี้ไม่ควรค้ำประกันเงินกู้ หรือเซ็นสัญญากู้ยืมเงินแทนใคร เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะต้องรับผิดชอบแทน

ความรัก  :  เป็นสัปดาห์ที่คุณเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนหญิง หรือญาติผู้หญิงมากกว่าคู่ครอง เป็นไปได้ว่าสาเหตุมาจากการทะเลาะกันจนถึงขั้นต้องแยกกันอยู่ ดังนั้น จึงควรลดทิฐิในตัวเองลงบ้าง แล้วหันหน้าเข้าหากัน ปรับความเข้าใจกันนะ คนโสด  สัปดาห์นี้อารมณ์ของคุณร้อนแรงเลยทีเดียว เป็นไปได้ว่าจะมีเข้ามาทั้งหนุ่มๆ และสาวๆ เลยทีเดียว มีแนวโน้มจะเกิดจากความใกล้ชิด ซึ่งคุณก็ไม่แคร์แม้จะเป็นรักที่ไม่ถูกต้อง

สุขภาพ  :  อวัยวะที่ควรให้การดูแลรักษาเป็นอันดับหนึ่งคือ หัวใจ รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับหัวใจทุกประเภท รองลงมาคือสายตา ตระกูลต้อกำลังจะมาเยือน นอกจากนั้นระบบหมุนเวียนเลือดก็ไม่ควรประมาท มีโอกาสที่จะป่วยไข้ไม่สบาย รวมถึงโรคเลือดจาง เกล็ดเลือดต่ำ

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  สัปดาห์ชนเดือนของชาวจันทร์ต้องบอกว่าเทพพระจันทร์สถิตอยู่กับคุณ จึงทำให้คุณมีจินตนาการที่กว้างไกล ยิ่งหากคุณทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น งานโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน วงการบันเทิง นักร้อง นักแสดง ดีไซเนอร์ รวมถึงงานวิชาการ งานประพันธ์ จะไปโลด หากยังไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ สัปดาห์นี้โอกาสมาถึงคุณ แต่คงต้องทำใจไว้นิดหนึ่งนะว่า อาจไม่ใช่ธุรกิจที่ตัวเองถนัด หรือได้เลือกเอง แต่น่าจะเป็นผลพวงมาจากสัญญาที่เคยให้ไว้ ทั้งที่เป็นเอกสารและสัญญาใจ  

การเงิน  :  มีโอกาสได้ลาภลอย หรือได้รับมรดก ประมาณว่านั่งอยู่เฉยๆ โชคลาภก็หล่นใส่ แต่ก่อนจะตัดสินใจรับเงินควรพิจารณาให้ดี เพราะมีโอกาสได้เพื่อนเป็นมิจฉาชีพ มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกหลอก ช่วงนี้จึงควรงดให้ใครยืมเงิน หรือค้ำประกันใคร

ความรัก  :  จากอิทธิพลของเทพพระจันทร์จะทำให้ช่วงนี้คุณรู้สึกรักคู่ครองมากมาย ไม่อยากจะให้เขาไปไกลจากสายตา เรียกว่าแทบจะผูกมือกันไว้ทีเดียว แต่ยิ่งรักก็ยิ่งมีมารมาผจญ ดังนั้น ในช่วงสัปดาห์นี้ต้องระวังบุคคลภายนอกที่จะเข้ามาทำให้คุณแตกแยกกัน แล้วเธอคนนั้นก็คว้าคนของคุณไปครอง คนโสด  อิทธิพลของเทพพระจันทร์จะทำให้คุณมีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม มีโอกาสได้แฟนสูงมาก แต่ก็ต้องระวังจิตใจตัวเองที่จะอ่อนไหว สับสนจนไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้ คนเก่าคนใหม่ยุ่งเหยิงอีรุงตุงนังไปหมด

สุขภาพ  :  มีความเสี่ยงที่ระบบน้ำย่อย กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี และต่อมน้ำเหลืองจะมีปัญหานะคะ แล้วหากคุณเป็นประเภทที่ไม่ชอบไปหาหมอ ซื้อยามารับประทานเองแล้วล่ะก็ อีกนานเลยค่ะกว่าจะหาย หรือไม่ก็มีโอกาสที่จะเป็นเรื้อรัง จึงควรไปหาหมอดีกว่า  

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  เป็นสัปดาห์เดือนชนเดือนของชาวอังคารที่คงต้องเหนื่อยหน่อย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ บ้าน ที่ดิน อาคารสำนักงาน สิ่งปลูกสร้าง ร้านอาหาร เป็นไปได้ว่าจะเป็นช่วงที่ต้องเวิร์คหนักเพราะต้องทำยอดให้ถึงเป้า ขณะที่คุณก็มีความคิดและจินตนาการที่กว้างไกล มีความมั่นใจในตัวเองสูงมากเกินกว่าที่จะร่วมงานกับใครได้ราบรื่น ดังนั้น จึงควรรับงานเองจะดีกว่า และควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วย เพื่อป้องกันการตัดสินใจผิดพลาด ซึ่งจะส่งผลต่อหน้าที่การงานอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้น   

การเงิน  :  ทำงานหนักก็มีรายได้เข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการซื้อ-ขาย หรือให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ บ้าน คอนโด ซึ่งสัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าคุณจะใจดีมากๆ พร้อมหยิบเงินให้ใครได้อย่างง่ายๆ จนส่งผลกระทบต่อยอดเงินในบัญชีของคุณ

ความรัก  :   สัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าคุณจะมีอุดมการณ์ในการทำงานแน่วแน่ ไม่มีเวลามาทำหวานใส่กัน จะคุยกันก็เฉพาะเรื่องงานกับเรื่องธุรกิจล้วนๆ ก็แบ่งเวลามาให้กับครอบครัวบ้างนะคะ เพราะไม่เช่นนั้นคุณจะรู้สึกสนุกกับการทำงานจนลืมสามีและลูกไปเลย  คนโสด เป็นสัปดาห์ที่คุณอุทิศเวลาให้กับงานในหน้าที่ และงานสังคม เป็นไปได้ว่าจะคุยกับลูกค้ากับเพื่อนมากกว่าคุยกับคนรู้ใจค่ะ  

สุขภาพ  :  หักโหมทำงาน ไม่ได้พักผ่อนนอนหลับอย่างเต็มที่ รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา มีความเสี่ยงที่จะถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ แล้วหากเครียดมากๆ ก็มีโอกาสที่จะเป็นอาหารอันโอชะของเจ้ามะเร็งอีก

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  ต้องบอกว่าสัปดาห์เดือนชนเดือนของชาวพุธมีเทพพระพุธสถิตอยู่กับคุณ ดังนั้น หากใครที่อยู่ในสายงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้ความสามารถทางวาทศิลป์ในการติดต่อประสานงาน โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน สื่อสารองค์กร งานขายทุกประเภท เป็นไปได้ว่าในช่วงนี้คุณจะได้ทำงานที่เกี่ยวกับการบริการ เช่น ร้านอาหาร เครื่องดื่ม สปา จัดดอกไม้ จนถึงสินค้าบริการที่เกี่ยวกับเด็กๆ  แล้วมีโอกาสสูงมากที่จะประสบความสำเร็จ จนกลายเป็นที่อิจฉาริษยาของเพื่อนร่วมงาน มีโอกาสถูกใส่ร้ายป้ายสี ถูกแทงข้างหลังได้ อย่างที่เขาบอกว่า ทำดีอย่าเด่นจะเป็นภัย

การเงิน  :  หากในช่วงสัปดาห์นี้มีแผนที่จะไปเจรจาผลประโยชน์ หรือเจรจาธุรกิจ มีเปอร์เซ็นต์สูงมากที่จะไม่สำเร็จ ถูกหักหัวคิว ถูกขโมยทรัพย์สิน ก็อย่าใจดีใจอ่อน เอ็นดูใครง่ายๆ ล่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กน้อย

ความรัก  :  หากชีวิตคู่ของใครกำลังมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กันอยู่ เป็นไปได้ว่าสัปดาห์นี้น่าจะมาถึงจุดแตกหัก นอกจากจะชิงรักหักสวาทแล้ว ยังมีโอกาสที่จะชิงลูกกันด้วยสิ  คนโสด  มีโอกาสที่คุณจะแอบไปรักผัวเขาอะนะ แล้วไม่ใช่แค่นั้น แถมด้วยเด็กน้อยอีกต่างหาก  

สุขภาพ  เป็นไปได้ว่าฟันจะสร้างปัญหาให้คุณจนต้องไปพบทันตแพทย์ มีความเสี่ยงที่จะไปถึงการผ่าฟันคุด หรือถอนฟันได้ด้วย นอกจากนั้นยังต้องระวังติดเชื้อไวรัสในกระแสเลือด เช่น ไวรัสเอ ไวรัสบี

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :   สัปดาห์เดือนชนเดือนของชาวพฤหัสบดีก็ยังพอจะหายใจได้คล่องขึ้นบ้าง เป็นสัปดาห์ที่คุณจะมีความคล่องตัวสูง มีจิตอาสา มีความขยันขันแข็ง ทั้งงานที่อยู่ในขอบข่ายหน้าที่ของตัวเอง รวมถึงงานพิเศษที่รับอาสาเจ้านายมา ซึ่งคุณก็สามารถทำงานได้อย่างดีไม่มีที่ติ แต่ก็ไม่ควรไว้ใจใครมาก เพราะมีความเสี่ยงที่จะถูกเพื่อนเทกลางคัน ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะแต้มบุญคุณยังดี จึงเหมือนกับกำจัดคนที่ไม่เก่งให้ออกไป เปิดโอกาสให้คนที่ใช่เข้ามาแทน แล้วเป็นคนที่มีความสามารถระดับปรมาจารย์เสียด้วย  

การเงิน  :  ช่วงต้นสัปดาห์มีโอกาสที่คุณจะเสียเงินให้กับคนใกล้ชิดอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อน เรียกว่ากว่าจะผ่านสิ้นเดือนไปได้แทบตาย แต่พอช่วงปลายสัปดาห์ผู้บังคับบัญชาจะส่งงานดีๆ เงินงามๆ มาให้

ความรัก  :  คู่ครองของคุณกำลังหลงทางอยู่หรือเปล่าคะ เพราะช่วงนี้มีโอกาสที่คุณจะโหยหาเวลาและความอบอุ่นจากคู่ครองจนถึงขั้นทุกข์หนักเลยทีเดียว จนผู้ใหญ่ต้องเข้ามาให้คำปรึกษา หรือไม่เช่นนั้นคุณอาจตัดสินใจไปพบจิตแพทย์เลยนะ   คนโสด  เจ้าชู้มาก เบื่อง่ายอีกต่างหาก ก็ระวังนะคะ เพราะสุดท้ายแล้วมีความเสี่ยงที่คนที่คุณเลือกจะไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง จนผู้ใหญ่ต้องเข้ามาดูแลคัดสรรให้เองเลย

สุขภาพ   :   เป็นไปได้ว่าจากความเครียด ความทุกข์ ทั้งในเรื่องงาน เงิน และความรัก จะส่งผลให้ระบบย่อยอาหาร ลำไส้ และกระเพาะอาหารทำงานได้ไม่ดี มีความเสี่ยงที่คุณต้องไปพบแพทย์หลากหลายสาขาเลยนะ

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :   สัปดาห์เดือนชนเดือนของชาวศุกร์คาดว่าจะเริ่มต้นด้วยความเครียดและกดดัน ทั้งจากความคิดและจินตนาการที่กว้างไกลของตัวเอง และจากความคาดหวังที่สูงลิ่วของเจ้านายที่อยากได้งานดีๆ เพราะเป็นไปได้ว่าในช่วงนี้คุณจะมีโอกาสได้ริเริ่มหรือบุกเบิกงานหรือธุรกิจใหม่ๆ ช่องทางทำมาหากินใหม่ๆ ซึ่งก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จอยู่น้า แต่ก็อาจยังไม่เพียงพอกับมาตรฐานของเจ้านาย แล้วคุณก็เชื่อมั่นในตัวเองสูงด้วย มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดปัญหากัน ทางที่ดีควรรับงานเองดีกว่า    

การเงิน  :  ในช่วงต้นสัปดาห์ความคล่องตัวยังคงน้อยอยู่ แต่หากงานเสร็จ มีผลงานออกมาแล้ว ทั้งรายได้และชื่อเสียงจะตามมาแบบไม่ขาดสายเลยทีเดียว ทั้งนี้ทั้งนั้นควรหลีกเลี่ยงจากเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายทุกชนิด เช่น เงินสินบน ใต้โต๊ะ ฮั้ว เพราะมีความเสี่ยงที่จะล้มละลายได้เลย  

ความรัก :  สัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าคุณจะเริ่มเบื่อกับความรักความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนแล้วล่ะ เริ่มพบหนทางของตัวเอง ตั้งอุดมการณ์แน่วแน่ว่า จะเปิดตัวเข้าหาเพื่อน เข้าหาสังคม ส่วนคู่ครองก็มีโอกาสที่จะถูกปล่อยให้ไหลไปตามยถากรรม คนโสด  สัปดาห์นี้เป็นช่วงเวลาที่คุณจะได้อยู่กับตัวเอง ค่อยๆ ทบทวนความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัว หากคบแล้วมีความสุขก็คบต่อ แต่หากอยู่คนเดียวดีกว่าก็ปล่อยไหลเช่นกันค่ะ

สุขภาพ  :   สำหรับใครที่กำลังทำงานหนัก พักผ่อนไม่เต็มที่ รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา ก็อย่าประมาท เพราะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระเพาะและลำไส้ จนถึงเรื้อรังรักษาไม่หายลุกลามกลายเป็นโรคร้ายเลยทีเดียว

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :   สัปดาห์เดือนชนเดือนแบบนี้ชาวเสาร์ไม่ปล่อยให้ตัวเองงานเบาแน่ๆ ตรงกันข้ามคุณจะยิ่งทุ่มเททั้งกายและใจให้กับการทำงานหรือธุรกิจจนไม่ใส่ใจกับอะไรเลย กระทั่งความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานและคนรอบข้าง แม้คุณจะมีผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดที่สนับสนุนและส่งเสริมให้ได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกใส่ร้ายป้ายสี จนเกิดผลร้ายและส่งผลกระทบกับหน้าที่การงานได้อย่างกะทันหัน

การเงิน  :  สัปดาห์นี้คุณก็ยังให้ความสำคัญกับเรื่องเงินๆ ทองๆ แต่จะมุ่งเน้นกับเนื้องานมากกว่าผลตอบแทน เป็นไปได้ว่าจะปล่อยการเจรจาผลประโยชน์ให้เป็นหน้าที่ของคนใกล้ตัว หรือผู้จัดการแทน

ความรัก  : จากภาระความรับผิดชอบที่รัดตัว สัปดาห์นี้จึงเป็นช่วงเวลาที่คุณให้ความสำคัญกับการทำงานมากกว่าครอบครัว ขณะที่อารมณ์คุณก็ไม่แน่นอน เปลี่ยนใจง่ายมาก จนคนรอบข้างเดาใจไม่ถูกเลยทีเดียว คนโสด  อารมณ์ก็ยังคงแปรปรวนอยู่ แต่สัปดาห์นี้น่าจะเป็นอิทธิพลจากเรื่องงานที่ทำให้คุณเครียดมากถึงมากที่สุด เบื่อง่ายมากถึงมากที่สุด

 สุขภาพ   :   เครียดมาก ทำงานหนัก ก็รับประทานเยอะขึ้น จึงมีโอกาสที่น้ำหนักจะขึ้น นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจากการโหมงานหนัก ทางที่ดีอย่าประมาท ควรพักผ่อนนอนหลับให้เต็มที่

keyboard_arrow_up