“เมสัน” จัดงานเปิดตัวโชว์เคส “เนรมิตงานแต่งงานสุดหรูริมทะเล” ในงาน A Sense of Love Intimate Wedding Showcase

account_circle

เมสัน (MASON) รีสอร์ทพูลวิลล่าอันหรูหราในสไตล์ Ultra-modern luxury private pool villas จุดหมายปลายทางสุดโรแมนติกของคู่รักที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ในบรรยากาศอันหรูหราที่ออกแบบอย่างโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะ ผสานความสวยงามยามอาทิตย์อัสดงบนชายหาดนาจอมเทียนอันแสนสงบ เพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบาย อาหารรสเลิศที่คัดสรรโดยเชฟมากประสบการณ์ พร้อมห้องพักดีไซน์หรูที่การันตีด้วยรางวัลมากมาย เมสันจึงกลายเป็นหนึ่งในรีสอร์ทพูลวิลล่าที่คู่รักเลือกให้เป็นสถานที่แสนพิเศษที่จะสร้างประสบการณ์การแต่งงานสุดโรแมนติกที่สุดในชีวิต

ในโอกาสช่วงปลายปีซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูหนาวและเป็นช่วงเวลาที่คู่รักนิยมจัดงานแต่งงานมากที่สุด เมสันในฐานะรีสอร์ทพูลวิลล่าที่มีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งสถานที่จัดงาน บรรยากาศ อาหาร เครื่องดื่ม บริการแบบส่วนตัวพิเศษ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมทีมงานมืออาชีพ ได้จัดโชว์เคสเปิดตัวสถานที่จัดงานแต่งงานริมทะเลที่ไม่ไกลจากกรุงเทพเป็นครั้งแรก กับงาน A Sense of Love Intimate Wedding Showcase เพื่อให้ทุกคู่รักได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรัก ความโรแมนติก ความประณีต หรูหรามีสไตล์ สำหรับงานแต่งงานริมทะเลในฝันที่สามารถที่เนรมิตให้เป็นจริงได้ที่ เมสัน

ภายในงานได้รับเกียรติจากคุณปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา, คุณมัลลิกา สุดเสน่ห์ รองผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา, คุณเอื้ออังกูล สุธัญญวินิจ เครื่องเพชรสุดอลังการจากแบรนด์ Chateau Des Gems และคุณณัจสิยาภรณ์ เลิศประธานพร จากชุดแต่งงานร้าน Monique Wedding เข้าร่วมงานที่จำลองบรรยากาศเสมือนจริงของงานแต่งงานและงานเลี้ยงพิเศษสุดหรูริมทะเลให้แขกทุกท่านได้สัมผัส พร้อมการตกแต่งสถานที่ด้วยดอกไม้ที่บรรจงรังสรรค์อย่างประณีต มีสไตล์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สวยงามหรูหราและเปี่ยมไปด้วยความหมาย ตอบโจทย์ในทุกความต้องการ

เริ่มต้นด้วย Beachside Bar สำหรับงานแต่งงานริมทะเลอันเป็นงานในฝันของคู่รักในบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกดิน Sky Pool สำหรับงานแต่งริมสระว่ายน้ำในสไตล์ตะวันตก มีความโดดเด่นด้วย Wedding Archway และ Walkway Decoration และอีกหนึ่งความโด่ดเด่นคือเวทีลอยน้ำที่เต็มไปด้วยการจัดตกแต่งดอกไม้สร้างความสดชื่นท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกพร้อมวิวทะเลพาโนรามาที่แสนพิเศษ และ Function Room ที่สามารถใช้จัดได้ทั้งพิธีสงฆ์และห้องจัดเลี้ยง ตกแต่งอย่างหรูหรา ครบครันทุกฟังก์ชันการจัดงาน ตั้งแต่งานพิธีเช้าไปจนถึงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ พร้อมเยี่ยมชมบูธพาร์ทเนอร์ระดับมืออาชีพทางด้านนี้โดยเฉพาะ อาทิ PAR Wedding, Anuchart Photography, Manita Wedding, G.O.A.T Photobooth และเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ทเนอร์อีกมากมายที่ช่วยเติมเต็มโชว์เคสครั้งนี้ให้สมบูรณ์แบบ ยิ่งไปกว่านั้น เมสันได้จำลองห้องส่งตัวสุดแสนโรแมนติกริมชายหาดที่ Beachfront Grand Pool Villa ซึ่งเป็นไฮไลต์พูลวิลล่าส่วนตัวของเมสัน ให้ทุกคู่รักได้สัมผัสด้วย

ในช่วงค่ำคืนของงาน A Sense of Love Intimate Wedding Showcase ยังได้จัดดินเนอร์ริมทะเลมื้อพิเศษที่ Beachside Bar เสิร์ฟความโรแมนติกในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความรัก โดยเชฟผู้มากประสบการณ์ที่รังสรรค์เมนูขึ้นชื่อของเมสันผสานการตกแต่งจานอย่างประณีตสวยงามราวงานศิลปะให้แขกทุกท่านได้ลิ้มรสชาติแสนพิเศษในคืนอันแสนพิเศษ อีกทั้งเมสันยังร่วมกับเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ทเนอร์จัดแฟชั่นโชว์ชุดแต่งงานจากร้าน Monique Wedding นำเสนอถึงความงามสง่าของชุดแต่งงานที่ตัดเย็บจากผ้าชั้นดีและงานปักคริสตัสแวววาวอย่างประณีตที่คัดสรรมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ พร้อมเสริมบรรยากาศที่หรูหราราวกับอยู่ในเทพนิยายให้เหนือกว่าด้วยเครื่องประดับเพชรสุดอลังการจากแบรนด์ Chateau Des Gems ที่ส่องประกายระยิบระยับยามต้องแสงไฟบนรันเวย์ที่เป็นเอกลักษณ์แห่งเดียวที่เมสัน ชวนให้นึกถึงความโรแมนติกของงานแต่งงานสุดหรูริมทะเลที่จะเกิดขึ้นที่นี่ เติมเต็มโชว์เคสสุดหรูในค่ำคืนแสนพิเศษนี้ได้อย่างน่าจดจำ

สำหรับเมสันเป็นรีสอร์ทพูลวิลล่าสุดหรูที่ถูกออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในสไตล์ Ultra-modern luxury หนึ่งเดียวในนาจอมเทียนจังหวัดชลบุรียกระดับประสบการณ์การจัดงานเฉลิมฉลองแต่งงานให้เหนือระดับยิ่งขึ้น พร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษริมทะเลที่รังสรรค์เฉพาะคุณ สัมผัสวิวทะเลแบบพาโนรามาและบรรยากาศโรแมนติก ยามอาทิตย์อัสดงบนชายหาดส่วนตัวที่แสนเงียบสงบ ผสานการบริการอย่างเหนือระดับที่มาพร้อมบริการส่วนตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และสามารถเดินทางสะดวกจากตัวเมืองพัทยาและเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพมหานคร ส่วนท่านใดต้องการจัดงานแต่งงานสุดยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้ก็สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่ เมสัน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่

Website: masonpattaya.com

Facebook: MASON PATTAYA

Instagram: @masonpattaya

LINE OA: @MASONPATTAYA

Tel. +66 (0) 38 194 699

Address: 285 หมู่ 3 ถนนสุขุมวิท ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 20250


Pre Wedding

4 สถานที่วิวสวย ไอเดียถ่ายภาพ  Pre Wedding @ สิงคโปร์

Alternative Textaccount_circle
Pre Wedding
Pre Wedding

บอส- อัฒมาส อิศรางกูร ณ อยุธยา ช่างภาพเวดดิ้งชื่อดังได้แนะนำ 4 สถานที่วิวสวย ไว้ให้เป็นไอเดียถ่ายภาพ  Pre Wedding ในประเทศสิงคโปร์

สิงคโปร์ไม่ใช่แค่เพียงมหานครที่ทันสมัยและก้าวล้ำ แต่ยังเป็นอัญมณีอันมีค่าในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหารทั้งอาหารต้นตำรับและอาหารร่วมสมัย มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าเปี่ยมเสน่ห์ รวมถึงพื้นที่สีเขียว ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเขียวขจีของหมู่เเมกไม้ที่ทวีคูณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ บอส- อัฒมาส อิศรางกูร ณ อยุธยา ช่างภาพเวดดิ้งชื่อดังได้แนะนำ 4 สถานที่วิวสวย ไว้ให้เป็นไอเดียถ่ายภาพพรีเวดดิ้งต่างประเทศ

บอส- อัฒมาส อิศรางกูร ณ อยุธยา

1.Marina bay

คอมเพล็กซ์ที่ใหญ่มโหฬารอย่าง Marina Bay Sands® สวยโดดเด่นกว่าที่อื่นๆ บนพื้นที่ของ Bayfront ทั้งหมด และเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์บนเส้นขอบฟ้าสิงคโปร์ นับตั้งแต่มีการเปิดตัวอาคารที่โดดเด่นแห่งนี้ในปี 2010

Pre Wedding

2.Gardens by the bay

สวนพฤษศาสตร์ที่อลังการไปด้วยดอกไม้ พืชพรรณ และบรรยากาศสุดพิเศษ เป็นจุดหมายปลายทางที่โดดเด่น แถมยังเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ และเป็นจุดหมายอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ต้องมาเยือนให้ได้สักครั้ง

3.The buddha Tooth Relic Temple and Museum

หรือวัดพระเขี้ยวแก้วและพิพิธภัณฑ์ วัดพุทธที่งดงามแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระสารีริกธาตุและเอกสารอันเป็นภูมิปัญญาของพระพุทธเจ้า รวมทั้งยังเป็นแหล่งรวมโบราณวัตถุที่ควรค่าแก่การเคารพสักการะ

Pre Wedding

4.Marina Barrage

คือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างการให้ความรู้และความสนุกสนานของกิจกรรมกลางแจ้ง ทั้งยังเป็นสถานที่แห่งนวัตกรรมนี้ไม่เพียงแต่จ่ายน้ำให้คนสิงคโปร์และช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมเท่านั้น หากยังเป็นสถานที่นันทนาการสำหรับครอบครัวอีกด้วย

AiStudio.wedding ผู้ให้บริการด้านการถ่ายภาพแบบครบวงจร เอาใจคู่รักสายทราเวล จัดโปรโมชั่นพิเศษ “Ai Pre Wedding @ Singapore” พาคู่รักที่หลงรักการเดินทาง บินลัดฟ้าถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกับแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองสิงคโปร์ อาทิ Merlion Park, Marina Bay, Gardens by the Bay และ Universal Studios เป็นต้น ในราคาสุดพิเศษเพียง 69,999 บาท ภาพนิ่งและวิดิโอ รวมค่าเดินทางสำหรับ 2 ท่าน ห้องพักจำนวน 1 คืน และ ทีมงาน AiStudio.wedding

พิเศษสำหรับลูกค้าแพรวออนไลน์ที่ตัดสินใจภายใน 31 ธันวาคม 67 นี้เท่านั้น

สำหรับคู่รักที่สนใจสามารถสอบถามช่วงเวลาที่ต้องการ และจองคิว ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2567 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 085-355-4449, 098-449-9992 หรือ Line ID : @aistudio.wedding ติดตามโปรโมชั่นและผลงานได้ที่ IG : aistudio.wedding

ข้อมูลจาก  AiStudio.wedding และ www.visitsingapore.com

ICS Lifestyle Complex จับมือพันธมิตรจัดงาน “ICS BEAUTY AND THE LISTS” มหกรรมความงามแห่งปี ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 10 พฤศจิกายน 2567

account_circle

ไอซีเอส ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ลูกค้าให้ครบทุกมิติ โดยเฉพาะด้านสุขภาพและความงาม รวมคลินิกและร้านค้าผู้ให้บริการในกลุ่ม Health & Beauty หลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นคลินิกเสริมความงาม ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ เครื่องสำอาง สถานบริการด้านสุขภาพ มาเปิดให้บริการครอบคลุมทุกความต้องการ เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าที่ใส่สุขภาพและความงาม ICS Lifestyle Complex จึงได้จัดงาน ‘ICS BEAUTY AND THE LISTS’ ขึ้น เพื่อตอกย้ำแลนด์มาร์กใหม่ฝั่งธนบุรี ตอบโจทย์ความครบครันทุกมิติ ทุกไลฟ์สไตล์

โดยงานในครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม 2567- 10 พฤศจิกายน 2567 ณ Event Space ชั้น M ไอซีเอส โดยได้จัดให้มีพิธีเปิดงานขึ้นในวันนี้ (30 ตุลาคม 2567) ได้รับเกียรติจากคุณ คุณปัณณิตา วรรณโกวิท ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมการตลาด บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด พร้อมด้วยผู้บริหารจากพันธมิตร และ 4 สาวเซเลบริตี้ ได้แก่ คุณเบลล์ รินทร์รตา อินทามระ, คุณปอนด์ หฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยา, คุณโบว์ ณชา จึงกานต์กุล และคุณจุ๋ย จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา เข้าร่วมงาน พร้อมกันนี้ยังได้นักแสดงสาวหน้าใส คุณแก้มบุ๋ม-ปรียาดา สิทธาไชย มาเผยเคล็ดลับหน้าใส พร้อมเปิดกระเป๋าเครื่องสำอางเผยบิวตี้ไอเท็มที่ขาดไม่ได้ และโชว์เทคนิคการแต่งหน้าสไตล์เฉพาะตัวให้แฟน ๆ ได้ชมกันด้วย

ทั้งนี้ตลอดการจัดงาน “ICS BEAUTY AND THE LISTS” รวมกิจกรรมเอาใจคนรักความงามไว้มากมาย ไฮไลต์คือกิจกรรม “ICS Beauty Happy Fan” ที่เปิดโอกาสให้แฟน ๆ ได้ร่วมลุ้นกระทบไหล่ศิลปินสุดฮอต เพียงซื้อสินค้าภายในไอซีเอส ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2567 – 1 พฤศจิกายน 2567 ก็สามารถแสดงใบเสร็จเพื่อลงทะเบียนรับสิทธิที่นั่งชมกิจกรรม ICS Beauty Happy Fan กับ ไบร์ท-นรภัทร วิไลพันธุ์ ในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17.00-18.00 น. พิเศษยิ่งขึ้น เมื่อซื้อสินค้าภายในงานในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 (ไม่มีขั้นต่ำ) ยังจะได้รับคูปองร่วมลุ้นเป็น 10 ผู้โชคดีที่จะได้รับสิทธิทำกิจกรรมกับไบร์ทบนเวที

นอกจากนี้ เมื่อซื้อสินค้าภายในไอซีเอสครบ 1,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2567 – 8 พฤศจิกายน 2567 สามารถลงทะเบียนรับสิทธิที่นั่งร่วมชมกิจกรรม ICS Beauty Happy Fan กับ เติร์ด-ลภัส งามเชวง ในวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน เวลา 18.00-19.00 น. (จำนวนจำกัด) Exclusive มากขึ้น!! เมื่อซื้อสินค้ากลุ่ม Beauty และสินค้าภายในงานครบทุก 1,000 บาท รับคูปองร่วมลุ้นเป็น Beauty Happy Fan 20 ท่าน ที่จะได้ร่วมกิจกรรม Hi Five และ Photo Group กับเติร์ด (จำนวนจำกัด)

นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายกิจกรรมน่าสนใจ อาทิ กิจกรรม “Personal Color” เช็กโทนสีที่ใช่สำหรับคุณพร้อมรับผลิตภัณฑ์บิวตี้ (จำนวนจำกัด) ซึ่งเปิดให้ร่วมสนุกฟรี! และอีกหนึ่งไฮไลต์คือกิจกรรม “Beauty Pool Lucky Time: All You Can Beauty” ที่ให้ทุกคนได้โกยผลิตภัณฑ์ความงามกลับบ้านอย่างจุใจในเวลา 10 วินาที เพียงมียอดซื้อสินค้าภายในงานครบ 600 บาท และร่วมสนุกตามเงื่อนไขที่กำหนด

พบความพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำซึ่งรวบรวมผลิตภัณฑ์และกิจกรรมเกี่ยวกับความงามมานำเสนอ พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษจากร้านค้าชั้นนำต่างๆ มากมาย อาทิ APEX, THE RITZ CLINIC, GANGNAM CLINIC, BEAUTRIUM, SKINTIFIC, BAREME, FEEV, COSMIC, INGU, LESASHA, GEM SCIENTIFIC BEAUTYนอกจากนี้ยังมีร้านค้ากลุ่ม Health & Beauty ใน ICS ได้แก่ BOOTS, CUTE PRESS, DOCTOR DELIGHT CLINIC, FLASH NAIL, MONET SPA & SALON, ORIENTAL PRINCESS, PASOOK DENTAL CLINIC, REALMED STORE, RELAX PLACE HEALTH & MASSAGE, SOAP FOR SOUL, 24 HOURS MINERALS และ SIRIRAJ H SOLUTIONS ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันและบูรณาการสมดุลชีวิต พร้อมส่งมอบความสวยสุขภาพดีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

พร้อมกันนี้ ICS ได้จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจคนรักความงามให้พิเศษมากยิ่งขึ้น กับ “ICS BEAUTY AND THE LISTS”
ลุ้นรับแพคเกจเสริมความสวยสุดปังและรับของรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม 2567 –
10 พฤศจิกายน 2567 สำหรับสมาชิก ONESIAM ลุ้นรับโชค 2 ต่อ ภายในงาน ต่อที่ 1 เมื่อช้อปสินค้าหรือรับบริการจาก
ร้านค้าที่ร่วมรายการในไอซีเอสครบทุก 1,000 บาท รับคูปองชิงโชค 1 ใบ (พิเศษ ใบเสร็จจากร้าน APEX, GANGNAM
CLINIC และ THE RITZ CLINIC รับเพิ่มอีก 10 ใบ) ลุ้นรับแพ็กเกจทำสวยจาก APEX, THE RITZ CLINIC GANGNAM
CLINIC จำนวน 3 รางวัล (รางวัลละ 1 ท่าน, รวม 3 รางวัล ตลอดรายการ) รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท, ต่อที่ 2 แลกรับ
SIAM GIFT CARD ตามเงื่อนไข เมื่อซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้ากลุ่ม Health & Beauty ครบ 8,000 บาทขึ้นไป
แลกรับ SIAM GIFT CARD มูลค่า 600 บาท และเมื่อซื้อครบ 20,000 บาทขึ้นไป รับ SIAM GIFT CARD มูลค่า 2,000
บาท

สาวกความงามและเหล่าบิวตี้เลิฟเวอร์ มาร่วมเติมความสวยแบบจัดเต็มกับ “ICS BEAUTY AND THE LISTS” ได้ระหว่าง
วันที่ 30 ตุลาคม 2567 – 10 พฤศจิกายน 2567 นี้ ณ Event Space ชั้น M ไอซีเอส ติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง
Facebook: ICS


“RAVIPA” ขยายสาขาสู่แลนด์มาร์กใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ เปิด “RAVIPA Concept Boutique” ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ณ One Bangkok

account_circle

“RAVIPA” แบรนด์เครื่องประดับสัญชาติไทยที่มีดาราชั้นนำ และศิลปินระดับโลกสวมใส่ ปัจจุบันมีรวมกว่า 40 สาขาในไทย ด้วยความตั้งใจจะมอบพลังบวกและความหมายดีๆ ให้ทุกวันของทุกคนมีความหมายและเปี่ยมด้วยความสุข เปิด “RAVIPA Concept Boutique” สาขาใหม่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่ One Bangkok ชวนเหล่าคนดังร่วมฉลองคับคั่ง พร้อมเปิดต้อนรับคนรักเครื่องประดับความหมายดีตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2567 ณ One Bangkok ชั้น 1 โซน Parade

ธนิสา วีระศักดิ์ศรี ผู้ก่อตั้งแบรนด์ RAVIPA กล่าวว่า “RAVIPA Concept Boutique สาขา One Bangkok ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ไทยดีไซน์เนอร์ที่พร้อมจะมอบเรื่องราวดี ๆ และส่งต่อพลังงานบวกให้กับลูกค้าทุกคน ด้วยการออกแบบและตกแต่งภายในร้านให้สวยหรู แฝงด้วยเรื่องราวและความหมายผ่านลวดลาย อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ อาทิ เชือกถักสร้อยข้อมือ BABY GANESHA องค์ใหญ่ สูงรวมกว่า 160 เซนติเมตร เพื่อให้ทุกคนที่มาเยือนได้รับพลังงานที่ดี เป็นมงคล และได้สัมผัสประสบการณ์การเลือกซื้อเครื่องประดับในรูปแบบที่แตกต่างจากที่อื่นอย่างแท้จริง”

โดยไฮไลต์การตกแต่งภายในของ RAVIPA Concept Boutique สาขา One Bangkok จุดแรกคือ “BABY GANESHA ปางนาคปรก” พระพิฆเนศเทพแห่งความสำเร็จที่ทรงประทับนั่งบนบัลลังก์พญานาค เพื่อประทานพรในเรื่องของทรัพย์สินเงินทอง ร่ำรวยไม่มีที่สิ้นสุด เสริมโชคลาภ วาสนาบารมี พร้อมมอบพลังงานดีๆให้กับทุกคน สร้างบรรยากาศให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงพลังบวก และ “เชือกถักสร้อยข้อมือ” เป็นการนำเชือกถักอันเป็นเอกลักษณ์ของสร้อยข้อมือ RAVIPA Reminder มาตกแต่งสร้างความสวยงามให้กับร้าน พร้อมกับสื่อความหมายในการนำพาพลังบวกเหมือนเช่นทุกครั้งที่สวมใส่สร้อยข้อมือของ RAVIPA นอกจากนี้ยังมีมุมถ่ายรูปที่ไม่เพียงสวยสะกดตายังเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ของแบรนด์อีกหลายจุดที่ RAVIPA จัดเตรียมไว้ เพื่อมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งอันแสนพิเศษ ซึ่งจะกลายเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายและน่าจดจำของลูกค้าทุกคน

สำหรับวัน Grand Opening 25 ตุลาคม 2567 นอกจากจะมีเหล่าคนดังมาร่วมยินดีและฉลองเปิดสาขาใหม่อย่างคับคั่ง อาทิ แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์, เต-ตะวัน วิหครัตน์, นิว ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ, เก่ง-หฤษฎ์ บัวย้อย และ น้ำปิง-นภัสกร ปิงเมือง แบรนด์ RAVIPA ยังถือโอกาสนี้ ต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของ Art Toy – BABY GANESHA ผลงานศิลปะที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านคาแรกเตอร์พระพิฆเนศสุดน่ารักพร้อมความหมายเสริมสริมงคล โดดเด่นในเรื่องของความสำเร็จและด้านอื่น ๆ ของแต่ละปาง ซึ่งเคยเปิดตัวและถูกจับจองหมดอย่างรวดเร็วไปก่อนหน้านี้ โดยมีให้สะสมทั้งหมด 4 ปาง ได้แก่ BABY GANESHA ปางประทับสังข์ ประทานพรไว สมหวังในรัก, BABY GANESHA ปางปฐมพรหม เริ่มต้นใหม่ สร้างสิ่งดี เสริมอำนาจบารมี, BABY GANESHA ปางสมาธิ เสริมสติปัญญา เมตตามหานิยม คนรักใคร่เอ็นดู และ BABY GANESHA ปางนาคปรก ร่ำรวยเงินทอง มีทรัพย์ล้นเหลือ นอกจากนี้ยังมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษ เพื่อฉลองเปิด RAVIPA Concept Boutique สาขา One Bangkok โดยลูกค้าทุกคนสามารถซื้อ BABY GANESHA และ MOOSHIKA SET ได้ในราคา 1,990 บาท จากปกติ 2,470 บาท และซื้อ BABY GANESHA ครบชุด 4 ปาง ได้ในราคา 4,990 บาท จากปกติ 5,960 บาทไม่เพียงเท่านั้นหากซื้อสร้อยข้อมือ RAVIPA Reminder ครบ 6 เส้น แถมฟรีทันที 3 เส้น และซื้อครบ 3 เส้นแถมฟรี 1 เส้น พิเศษ ทุกการสั่งซื้อจะได้รับ ปฏิทินมงคล RAVIPA Calendar 2025 ฟรี! ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2567- 3 พฤศจิกายน 2567

“เราเชื่อว่าการมอบสิ่งที่ดีที่สุดเริ่มต้นมาจากความรักและการอยากส่งมอบพลังงานดี ๆ ให้กับคนที่รักเครื่องประดับทุกชิ้นของ RAVIPA จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องประดับ แต่ยังคงคุณค่าภายในตัว ผ่านเรื่องราวที่ RAVIPA ใส่ใจเข้าไปในทุกกระบวนการ ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต จนกระทั่งส่งตรงถึงมือลูกค้าคนสำคัญเชิญมาสัมผัสความงดงามและเรื่องราวความหมายดี ๆ ผ่านจิวเวลรี่ ทั้งสร้อยข้อมือ สร้อยคอ ต่างหู และแหวนได้ที่ RAVIPA Concept Boutique สาขา One Bangkok และอีกหลายสาขาทั่วกรุงเทพฯ” ธนิสา วีระศักดิ์ศรี ผู้ก่อตั้งแบรนด์ RAVIPA กล่าว

RAVIPA Concept Boutique สาขา One Bangkok เปิดให้บริการแล้ววันนี้ที่ชั้น 1 โซน Parade, One Bangkok หรือเยี่ยมชมและสั่งซื้อเครื่องประดับความหมายดีได้ทาง www.ravipa.com, IG: @ravipajelwery, Facebook: RAVIPA รวมถึง RAVIPA ทุกสาขาทั้ง 40 สาขา


เสิร์ฟความฟิน 2 คู่จิ้น จากจักรวาล ซีรีส์ “FOUREVER YOU เพราะรักนำทาง”

account_circle

แพรว เสิร์ฟความฟินกับภาพเซ็ตพิเศษจาก “ปอนด์ – พลวิชญ์, เอิร์ธ – กัษมนณัฏฐ์, แม็กกี้ – รชต และ บาส – หัสณัฐ” 4 นักแสดงนำจากซีรีส์ “FOUREVER YOU เพราะรักนำทาง”

.

เรื่องราวเกี่ยวกับ ‘อีสเตอร์’ (เอิร์ธ กัษมนณัฏฐ์) ที่หนีมาเรียนไกลถึงภาคเหนือ ด้วยหวังว่า ระยะทางกับสถานที่ใหม่ๆ จะทำให้ลืมความรักที่จบลงอย่างค้างคาได้ในที่สุด แต่ใครจะคิดล่ะว่าในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้นี่เอง ที่ทำให้เขาได้เจอกับ ‘ฮิลล์’ (ปอนด์ พลวิชญ์) คนในความทรงจำคนนั้นอีกครั้ง นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ครั้งใหม่และตอนจบที่ไม่เหมือนเดิม ขณะเดียวกันรูมเมตของอีสเตอร์อย่าง ‘นอร์ธ’ (บาส หัสณัฐ) ก็ต้องพบเจอกับเรื่องยุ่งเหยิงไม่ต่างกัน เมื่อเขาดันเมาจนก่อเหตุทะเลาะวิวาทและตื่นขึ้นมาพร้อมกับหนี้สินติดตัว แต่ดูเหมือนเท่านั้นชีวิตจะยังวายป่วงไม่พอ เพราะพระเจ้าได้ส่งเจ้าหนี้จอมเจ้าชู้ ร้ายกาจ และเอาแต่ใจเป็นที่หนึ่งที่ชื่อ ‘โจฮัน’ (แม็กกี้ รชต) มาด้วยนี่สิ เรื่องราวของสองรูมเมตจึงเริ่มขึ้น ท่ามกลางเสียงหัวเราะของผองเพื่อน มิตรภาพในรั้วมหาวิทยาลัยและเรื่องราวความรักที่จะกลายเป็นบันทึกหน้าสำคัญของพวกเขาไปอีกนานแสนนาน….

ติดตามชมซีรีส์ “FOUREVER YOU เพราะรักนำทาง” EP.5 ในวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคมนี้ เวลา 20.30 น. ทางช่อง GMM25 และดูย้อนหลังแบบ Uncut ได้ที่ WeTV เวลา 21.30 น.

และแฟนๆ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ทาง Facebook : StudiowabisabiTH | Youtube : StudioWabiSabi | IG : studiowabisabith | X : wabisabith

  • ช่างภาพ : ภาดร ขจรฤทธิ์
  • เรื่อง & สไตล์ : Minim
  • ผู้ช่วยสไตลิสต์ : ชัญญาภัค เขมหิรัญกิจ
  • เสื้อผ้า : HOMONIC

นับถอยหลัง พร้อมออกสตาร์ท กับงานวิ่งแห่งปี ‘Watsons Run 2024 วิ่งสวย สุขภาพดี สมทบทุนบริจาคมูลนิธิขาเทียมฯ’

account_circle

วัตสัน ประเทศไทย ผู้นำค้าปลีกด้านสุขภาพและความงาม จัดใหญ่ เชิญชวนทุกคนมาสวยทั้งกาย สวยทั้งใจ กับงาน ‘Watsons Run 2024 วิ่งสวย สุขภาพดี สมทบทุนบริจาคมูลนิธิขาเทียมฯ’ งานวิ่งเพื่อการกุศล ตอกย้ำแนวคิดการสร้างสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับทุกคนในสังคม พร้อมรับของที่ระลึก และ Lucky Bag สุดเซอร์ไพรส์!

ประเดิมปีแรก ‘Watsons Run 2024’ กับความพิเศษสุดน่ารักที่ไม่เหมือนใคร ดึงเอากระต่าย Usagyuuun (อูซากูน) คาเรคเตอร์ที่โด่งดังจากประเทศญี่ปุ่นมาอยู่บนเสื้อวิ่ง เหรียญรางวัล ไปจนถึงถุงของที่ระลึก!  โดยกิจกรรมนี้ จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2567 ณ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งภายในงานทุกคนสามารถสนุกสนานกับจุดเช็คพ้อยท์น่ารักๆระหว่างทาง เก็บภาพไปอวดเพื่อนบนโซเชียลได้แบบเก๋ๆ รวมถึงรับ Lucky Bag ที่คละผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Biore UV, Dermaction Plus, Eucerin, Laroche-Posay, Vistra, Neobun, Oxecure, B’lue, SoS, Srichand และ VITARA สำหรับผู้เข้าเส้นชัย พร้อมจุดกิจกรรมให้ร่วมสนุกในงานอีกมากมาย อีกทั้งทุกคนที่เข้าร่วมงาน ยังได้บุญไปด้วยแบบฉ่ำๆ เพราะรายได้ทั้งหมดจากการลงทะเบียน จะถูกนำไปสมทบทุนมอบให้กับมูลนิธิขาเทียมฯ แบบไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นอีกด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเลือกลงทะเบียนได้ทั้งการวิ่งในรูปแบบระยะทาง 10 กิโลเมตร และรูปแบบระยะทาง 4 กิโลเมตร ในราคา 500 บาท โดยสามารถลงทะเบียนได้แล้วที่ https://watsonsonline.store/npzs ตั้งแต่วันนี้ – 20 พฤศจิกายน 2567 นี้เท่านั้น (รับจำนวนจำกัด 1,000 คน)


เปิดวาร์ป…หัตถการงานผิวมาแรง…กับ “หมอตั๋ง – หมอติ๊บ – หมอบอล” แห่ง Aestima Clinic

account_circle

ด้วยความที่หลายคนอยากรู้ว่า หากต้องการดูแลผิวแบบจัดเต็ม หัตถการไหนถึงจะตอบโจทย์ แพรว จึงพาไปพูดคุยกับ คุณหมอตั๋ง – นพ.ฤทธี อาทรธรรมรัตน์” , “คุณหมอติ๊บ – พญ.ศุกลภัทร ฉ่ำเลิศวัฒน์” และ “คุณหมอบอล – นพ.ปรัชญา บุญโญปกรณ์” แห่ง Aestima Clinic (เอสติมาคลินิก) เพื่อเจาะลึกความรู้ดีๆ เกี่ยวกับหัตถการที่ช่วยดูแลผิวพรรณกันค่ะ

ทำความรู้จัก Aestima Clinic

หมอตั๋ง : “จุดเริ่มต้นของ Aestima Clinic คือ เราอยากนำเสนอนวัตกรรมความงามใหม่ๆ ที่มีคุณภาพและมีผลการวิจัยรองรับจากหลายประเทศให้กับคนไทย ซึ่งตรงตามสโลแกนที่ว่า BEAUTY WITH INNOVATION

สำหรับชื่อ Aestima มาจากคำว่า Aesthetic ที่แปลว่าความงาม บวกกับ Esteem ที่มาจากคำว่า Self-Esteem ซึ่งหมายถึง การเห็นคุณค่าในตัวเอง เพราะเราเชื่อว่านอกจากความสวยด้วยรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ความสวยยังเกิดขึ้นจากความรู้สึกมั่นใจภายในจิตใจอีกด้วย ถือเป็นความสวยที่เกิดจากการที่เรามองเห็นข้อดีของตัวเอง จึงกลายเป็นชื่อ Aestima Clinic ขึ้นมาครับ”

หมอติ๊บ : “คอนเซ็ปต์ในการดูแลความสวยของ Aestima Clinic หัวใจสำคัญ คือ เรื่องมาตรฐานคุณภาพและทำให้มีความปลอดภัย ยกตัวอย่าง เช่น ทุกผลิตภัณฑ์ที่เราใช้จะต้องผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศไทย รวมถึงเครื่องมือต่างๆ ก็ต้องมีมาตรฐานทั้งของประเทศไทยและในระดับชั้นนำ เพื่อมอบความสวยให้กับผู้รับบริการทุกคน”

หมอบอล : “นอกจากนี้ในการเลือกสรรเครื่องมือและผลิตภัณฑ์ต่างๆ เราจะมีการทดลองใช้กับตัวเองก่อนเสมอ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้รับบริการ ซึ่งจากการทดลองใช้กับตัวเองยังทำให้เราสามารถพัฒนาเทคนิคเฉพาะตัวสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์และเครื่องมือได้อีกด้วยครับ” 

ดูแลงานผิวตามเทรนด์ด้วยหัตถการกระแสแรง

หมอติ๊บ : “เทรนด์ความงามมีการเปลี่ยนแปลงและมีเทรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเรื่อยๆ เราทำงานตรงนี้มา 10 กว่าปี ก็จะเห็นสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอด อย่างปัจจุบันนี้ที่เทรนด์การดูแลผิวมาแรง ก็จะไม่ได้จำกัดแค่การดูแลผิวหน้า แต่คนสมัยนี้ยังใส่ใจไปถึงผิวส่วนอื่นๆ ของร่างกายด้วย เช่น ลำคอ เนินอก แขน มือ เรียกว่าอยากดูแลผิวให้สวยทั้งตัวนั่นเองค่ะ”

หมอบอล : “สำหรับ Aestima Clinic เรามีหัตถการที่ช่วยดูแลเรื่องผิวพรรณอย่างครอบคลุม ยกตัวอย่าง เช่น หัตถการมาแรงในตอนนี้อย่าง Biostimulator ที่เราเรียกว่าโปรแกรม Reset ผิว Young ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ โดยนอกจากจะช่วยดูแลผิวหน้าได้ดีแล้ว ยังช่วยดูแลผิวบริเวณอื่นๆ ได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผิวบริเวณลำคอที่หลายคนใส่ใจกันมากขึ้น ส่วนอีกหนึ่งจุดที่ถูกถามถึงไม่น้อยเลย คือ มือ เพราะหลายคนชอบใส่เครื่องประดับที่มือ เช่น แหวน นาฬิกา กำไล จึงกังวลกับผิวหลังมือ ทั้งเรื่องริ้วรอย ความไม่กระชับ และความไม่กระจ่างใส ซึ่งโปรแกรม Reset ผิว Young สามารถช่วยได้ครับ”

หมอตั๋ง : “ในการสร้างสรรค์ผลลัพธ์ที่ดีให้กับผู้รับบริการ เรามีการประยุกต์ใช้หัตถการร่วมกัน เช่น ใช้โปรแกรมยกกระชับใบหน้าเป็นหลัก แล้วเสริมด้วยโปรแกรม Reset ผิว Young เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี โบเจนใหม่ ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะโดดเด่นด้วยคุณสมบัติที่มีส่วนประกอบของโปรตีนต่ำกว่าทั่วไป ข้อดีคือทำให้มั่นใจได้ว่าจะให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น คลายกังวลเรื่องการดื้อยา ซึ่งทั้งหมดนี้คือความตั้งใจของ Aestima Clinic ในการคัดสรรนวัตกรรมความงามระดับชั้นนำมาให้กับทุกคนครับ”


เหล่าคนดังร่วมแชร์ประสบการณ์ทำ กายภาพบำบัด หลังใช้ร่างกายหักโหมจากการออกกำลังกายและชีวิตประจำวัน

เหล่าคนดังร่วมแชร์ประสบการณ์ทำ กายภาพบำบัด หลังใช้ร่างกายหักโหมจากการออกกำลังกายและชีวิตประจำวัน

Alternative Textaccount_circle
เหล่าคนดังร่วมแชร์ประสบการณ์ทำ กายภาพบำบัด หลังใช้ร่างกายหักโหมจากการออกกำลังกายและชีวิตประจำวัน
เหล่าคนดังร่วมแชร์ประสบการณ์ทำ กายภาพบำบัด หลังใช้ร่างกายหักโหมจากการออกกำลังกายและชีวิตประจำวัน

ปัจจุบันการทำกายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูและรักษาร่างกาย เริ่มเป็นที่นิยมในหมู่นักกีฬา คนที่ชอบออกกำลังกาย และกลุ่มคนวัยทำงานมากขึ้น ล่าสุด Bangkok Physiotherapy Center คลินิกกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์ฟื้นฟูแบบครบวงจร เปิดสาขาใหม่แห่งที่ 2 ณ ศุภาลัย ไอคอน สาทร หลังประสบความสำเร็จจาก สาขาสุขุมวิท 39 โดยมีเหล่าคนดัง อาทิ หญิง – รฐา โพธิ์งาม, ตุลย์ – ตุลยเทพ เอื้อวิทยา, ซาบีน่า – อจิรภา ไมซิงเกอร์ และ บอล – ภราดร ศรีชาพันธุ์ มาร่วมแสดงความยินดี พร้อมแชร์ประสบการณ์ทำกายภาพ

เริ่มกันที่คู่รักนักออกกำลังกายตังยงอย่าง หญิง – รฐา โพธิ์งาม และ ตุลย์ – ตุลยเทพ เอื้อวิทยา กล่าวถึงปัญหาหลังออกกำลังกายว่า “หญิงออกกำลังกาย 4 วันต่อสัปดาห์ โดยเน้นวิ่ง พิลาทิส โยคะ และบอดี้เวทในบางวัน แต่ด้วยงานที่ต้องใช้ร่างกายค่อนข้างเยอะ เช่น การเต้น อาจจะมีปัญหาของการใช้ร่างกายที่ผิดรูปแบบ เช่น ท่าเต้นจะเป็นลักษณะของการหมุนตัว กระโดด และกระแทก บวกกับการวิ่งมาราธอนทำให้หญิงมีปัญหาเกี่ยวกับการปวดหลังส่วนล่างและเข่า และอีกปัญหาคือเรื่องออฟฟิศซินโดรม เพราะหญิงเป็นคนที่เล่นโทรศัพท์เยอะ จึงเป็นปัญหาสองจุดที่ไม่ค่อยหาย ซึ่งการมาคลินิกกายภาพก็คือช่วยให้รู้เรื่องการทรงตัวเมื่อเราออกกำลังกายหนัก เราต้องรู้เรื่องการฟื้นฟูร่างกาย ซึ่งบางทีตัวเราอาจจะรู้ไม่ถูกจุด เช่น คิดว่ายืดเส้นแค่นี้พอแล้ว แต่ในความเป็นจริงมันไม่พอ เพราะฉะนั้นเราก็ควรจะอยู่ในมือของผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และเครื่องมือที่พร้อมช่วยให้เราฟื้นฟูได้เร็วขึ้น เพื่อให้เราได้ทำกิจกรรมที่เราชอบได้อย่างต่อเนื่อง

ซาบีน่า – อจิรภา ไมซิงเกอร์ กล่าวถึงวิธีการดูแลตัวเองว่า ช่วงนี้จะมีสติในการกินและการใช้ชีวิตมากขึ้นกว่า ซาบีน่าคนเดิมค่ะ เราจะ Be aware ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งมันเป็นข้อดีของร่างกายและจิตใจเราด้วย ซาบีน่าคิดว่าการดูแลตัวเองที่ดีที่สุดคือการมี Awareness เกี่ยวกับตัวเรา กิจวัตรประจำวันของซาบีน่าคือ ออกกำลังกายเป็นประจำ 3 วันต่อสัปดาห์ แต่ถ้าช่วงที่ไม่ได้ยุ่งก็จะพยายามออกให้ได้ 4 – 5 วันต่อสัปดาห์ เวลาชีวิตประจำวันของเรายุ่งหรือไปโฟกัสกับโปรเจคที่ทำอยู่ เราต้องมี Time Management ที่ดี สำหรับเคล็ดลับในการดูแลตัวเองสำหรับการออกกำลังกายคือ เริ่มต้นก็ต้อง warm up หลังออกกำลังกายก็ต้อง cool down เป็นสิ่งที่ซาบีน่าบอกเพื่อนนักกล้ามหลายคนว่ามันจำเป็นมากในการออกกำลังกายในแต่ละครั้ง และอีกหนึ่งสิ่งคือการกายภาพบำบัด ซึ่งซาบีน่าคิดว่ามันช่วยมากสำหรับคนที่ไม่รู้ลิมิตของร่างกายตนเอง เพราะมันช่วยได้มากจริงๆ”

และ บอล -ภราดร ศรีชาพันธุ์ ขอส่งต่อถึงประสบการณ์การเป็นนักกีฬาว่า “ด้วยประสบการณ์ของการเป็นนักกีฬา ทำให้เรารู้จักดูแลสุขภาพตัวเองเบื้องต้น หลังจากที่เล่นกีฬาระดับการแข่งขันแล้ว รู้สึกว่าการดูแลสุขภาพร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ และแน่นอนว่าการที่เราออกกำลังกายหรือเล่นเวท จะมาพร้อมกับการบาดเจ็บเสมอ การยืดกล้ามเนื้อจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักกีฬาและคนที่ออกกำลังกาย เราควรจะทำทั้งก่อนและหลังออกกำลังกายเพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ ทั้งนี้การป้องกันก็เป็นสิ่งสำคัญ คือป้องกันและเสริมสิ่งที่ไม่แข็งแรงควบคู่ไปกับการออกกำลังกายให้มีความแข็งแรงมากขึ้น”

ปิดท้ายที่ นายแพทย์ภานุ กรเณศ ประธานกรรมการ บางกอก ฟิสิโอเทอราปี เซ็นเตอร์ กล่าวว่า “ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมานั้นแวดวงกีฬาในประเทศไทยมีพัฒนาการขึ้นอย่างต่อเนื่อง สังคมมีการกระตุ้นและส่งเสริมให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาสุขภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้จำนวนประชากรที่ให้ความสนใจในการออกกำลังกายและเล่นกีฬามีจำนวนมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้อัตราการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาก็สูงขึ้นตามลำดับ การที่จะดูแลรักษาคนไข้ที่ได้รับการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬานั้นจำเป็นที่จะต้องใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญเป็นอย่างสูง ทางนักกายภาพจึงจำเป็นที่จะต้องมีความเข้าใจพื้นฐานการเคลื่อนไหวในกีฬานั้นๆ อย่างลึกซึ้ง เพื่อที่จะสามารถออกแบบแผนการป้องกันการบาดเจ็บหรือแผนการฟื้นฟูร่างกายได้อย่างเหมาะสม” 


เทรนด์ดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ดูแลได้ทั้งกายและใจสำหรับสาวยุคใหม่

account_circle

หลายปีที่ผ่านมา ผู้คนหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพแบบองค์รวมมากขึ้น และพร้อมปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแต่ละวัน เราจึงเห็นเทรนด์การดูแลสุขภาพใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารแบบ สมดุลหรือ Balanced Diet เมนูสุขภาพ Plant -based หรือเลือกเมนูอาหารจากวัตถุดิบไม่แปรรูป เทรนด์ออกกำลังกายให้เลือกตามความชอบและเป้าหมายของแต่ละคน ทั้ง HIIT เวทเทรนนิ่ง และล่าสุดที่สาวๆ หลายคนชื่นชอบ อย่างพิลาทิส การดูแลสุขภาพจึงไม่เคยตกเทรนด์ เพราะนอกจากจะได้ประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพกายแล้ว ยังเป็นการสร้างกำลังใจ ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ที่ท้าทายขีดจำกัด และทำตามเป้าให้สำเร็จให้ได้ นี่จึงอาจเป็นความสนุกให้ได้ทดลองทำอะไรใหม่ๆ แถมยังส่งผลดีต่อจิตใจให้ผ่อนคลาย สร้างพลังบวกในแต่ละวัน

เห็นหลายๆคนหันมาใส่ใจสุขภาพกันอย่างนี้แล้ว แพรว จึงอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ Preventive Care หรือ เวชศาสตร์ป้องกันโรค ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เทรนด์มาแรงของสายเฮลท์ตี้ยุคนี้ ถือเป็นศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้คน จากเดิมที่เราจะเข้าสู่ขั้นตอนการรักษาก็ต่อเมื่อเกิดโรค กลายเป็นการใส่ใจดูแลสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันโรคภัยไข้เจ็บก่อนจะสายเกินแก้ รวมถึงเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย และชะลอวัย

Friends cooking in the kitchen

หัวใจสำคัญของ Preventive Care คือการป้องกันและลดความเสี่ยงของการกระจายโรคโดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลตัวเองจากการรักษามาเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดสาเหตุเป็นโรคนั้นแทน ศาสตร์นี้ทำตามได้ง่าย หลายคนอาจจะเลือกทำเป็นประจำอยู่แล้ว เริ่มจากการเลือกรับประทานอาหารอย่างสมดุล นอนหลับให้เพียงพอ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จัดการกับความเครียด หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจเป็นเหตุของโรคร้ายได้ เช่นการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การสูบบุหรี่เป็นประจำ และที่สำคัญคือจะต้องเข้าเช็คอัพสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อพูดถึงศาสตร์การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน Ice Bath หรือการแช่น้ำแข็ง ถือเป็นหนึ่งในเทรนด์สุขภาพที่กำลังได้รับความสนใจ เพราะการทำ Ice Bath เป็นศาสตร์แห่งความเย็นที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลากหลายมิติ หลักการคือการหลอกให้ร่างกายรู้สึกว่าอยู่ในภาวะวิกฤต ซึ่งเหมือนเป็นการบังคับให้ร่างกายต้องกระตุ้นภูมิต้านทานเพื่อเอาตัวรอดโดยเตรียมอ่างน้ำเย็นที่มีน้ำแข็งที่อุณหภูมิประมาณ 10-15 องศาแล้วค่อยๆ ลงแช่ตัวจากเท้า จนถึงระดับหน้าอก ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ระหว่างแช่ เราจะได้ควบคุมการหายใจ ช่วยให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับความเย็น หลังจากนั้น ให้เช็ดตัวให้แห้งพร้อมสวมเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น เพื่อให้อุณหภูมิร่างกายกลับมาปกติ

Ice Bath จึงเป็นอีกทางเลือกที่ทั้งสนุก ท้าทายของใครหลายๆ คน แถมยังมีประโยชน์ในการเสริมสร้างสุขภาพแบบองค์รวมได้ เช่น ช่วยลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายหรือมีอาการบาดเจ็บ ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดเพิ่มขึ้น ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้นซึ่งนอกจากการช่วยฟื้นฟูร่างกายแล้ว การทำ Ice Bath ยังช่วยฮีลใจได้อีกด้วย เพราะการแช่น้ำเย็นจัดจะทำให้เกิดการหลั่งสารโดพามีน หรือฮอร์โมนแห่งความสุข เพิ่มขึ้น 250% เรียกว่าดีต่อกายและใจเลยทีเดียวสำหรับผู้สูงวัยและผู้มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนและได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด

Couple doing yoga together indoors

อย่างที่ทราบกันดีกว่า แม้เราจะทุ่มเทดูแลสุขภาพตัวเองมาดีแค่ไหน โรคร้ายก็อาจมาเยือนโดยไม่คาดคิด จากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม หรือสิ่งแวดล้อมแม้ว่าปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ในการรักษาโรคร้ายต่างๆ ก้าวหน้าขึ้น ทำให้มีโอกาสรักษาหายเพิ่มมากขึ้นแต่โอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำอีกครั้งหลังจากรักษาหายขาดแล้วก็ยังคงมีเช่นเดิมการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันอาจไม่เพียงพอ ครอบคลุมต่อสิ่งที่ไม่คาดฝันในอนาคตได้

เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับโรคร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากันครั้งแรก หรืออีกครั้งก็ตามแพรว ขอแนะนำให้รู้จักกับ “CI Re-Claim Re-Care” ประกันโรคร้าย หายห่วง เคลมขั้นกว่า แคร์ขั้นสุด ซึ่งเป็นความอุ่นใจจาก FWD ประกันชีวิต ผู้นำในตลาดประกันโรคร้ายแรง ที่มุ่งผลักดันให้คนไทยมีความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่ครอบคลุม โดดเด่นด้วยหลักการทำงานแบบ Customer-led ที่ยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก จึงพัฒนาและนำเสนอซีรีส์ความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่หลากหลาย เพื่อช่วยคลายกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล พร้อมเป็นแรงใจให้ทุกคนที่เผชิญโรคร้ายแรงได้ออกไปใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ “ได้อีก” ครั้ง

CI Re-Claim Re-Care

เพราะ “CI Re-Claim Re-Care” เป็นประกันโรคร้ายแรงที่มาพร้อมกับ 6 ความอุ่นใจ “ขั้นสุด” ดังนี้

  1. ครอบคลุมมากที่สุด 110 โรค โดยคุ้มครองโรคร้ายแรงครบทุกระยะ ระดับต้นถึงระดับปานกลาง 50 โรค และระดับรุนแรง 60 โรค
  2. คุ้มครองสูงสุด ด้วยผลประโยชน์รวมสูงถึง 1,100% ของทุนประกันภัย CI Re-Claim Re-Care เมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลาง รับรวมสูงสุด 200% ของทุนประกันภัย และระดับรุนแรงรวมสูงสุด 900% ของทุนประกันภัย
  3. อุ่นใจที่สุด แม้เกิดโรคร้ายหลายครั้ง เพราะเคลม “ได้อีก” รวมสูงสุด 14 ครั้ง ระดับต้นถึงระดับปานกลางสูงสุด 5 ครั้ง (ครั้งละ 40%) และระดับรุนแรงสูงสุด 9 ครั้ง (ครั้งละ 100%) พร้อมจัดเต็มสูงสุด
  4. ดีต่อใจที่สุด เคลมซ้ำโรคเดิมได้อีกครั้ง หมดกังวลกับ 5 โรคร้ายแรงที่พบบ่อยในคนไทย ได้แก่ โรคมะเร็งระยะลุกลามกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตันแผลไหม้ฉกรรจ์ และการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก
  5. คุ้มค่าขั้นสุด หยุดชำระเบี้ยประกันภัยของสัญญาเพิ่มเติม CI Re-Claim Re-Care เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงระดับรุนแรงเป็นครั้งแรก
  6. ต่อเนื่องไม่สะดุด ใช้ชีวิตคุ้มสุด กับความคุ้มครองยาวสูงสุดจนถึงอายุ 99 ปี รับประกันภัย ตั้งแต่อายุ 1 เดือน 1 วัน ถึง 70 ปี

นอกจากความอุ่นใจ “ขั้นสุด” จาก “CI Re-Claim Re-Care” ที่ แพรว ได้แชร์ไปแล้วนั้น FWD ประกันชีวิต ยังเติมเต็มความอุ่นใจให้กับทุกคนยิ่งขึ้นไปอีกด้วยแพ็คเกจความคุ้มครองชีวิตและโรคร้ายแรง “CI Re-Claim Re-Care Plus” ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ เรียกว่ากรมธรรม์เดียวครบทั้งการดูแลโรคร้าย แบบเคลมขั้นกว่า แคร์ขั้นสุด และพลัสด้วยคุ้มครองชีวิตตลอดชีพ แม้เกิดโรคร้ายซ้ำก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมั่นใจได้อีกครั้ง พร้อมยกเว้นเบี้ยประกันภัยทั้งแพ็กเกจกรมธรรม์ เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงระดับรุนแรงเป็นครั้งแรก ช่วยเติมเต็มความอุ่นใจแบบครบจบจริงๆ

CI Re-Claim Re-Care

ความพิเศษจาก FWD ประกันชีวิต ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะเขายังทำหน้าที่เป็น Health Companion ให้กับลูกค้าทุกคน เพื่อมอบสิทธิประโยชน์สูงสุดเพิ่มเติมจากผลประโยชน์ที่ได้รับจากกรมธรรม์ ด้วยบริการพิเศษที่ดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนไปจนถึงหลังการเคลมแบบครบวงจรนั่นคือ “FWD Care recovery plan” บริการพิเศษหลังการเคลมที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “ดูแลจากใจ ใส่ใจทุกช่วงเวลา” กับ 8 บริการช่วยเหลือพิเศษและบริการพิเศษ “FWD MyWell : The ultimate health solutions ที่สุดแห่งการดูแลสุขภาพ” ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพกายและใจเชิงป้องกัน เช่น การรักษาอาการออฟฟิศซินโดรม การตรวจวัดอายุและความเสื่อมสภาพของเซลล์ การฉีดวัคซีนป้องกันโรค คลาสออกกำลังกาย เป็นต้น เรียกว่าทั้งคอยซัพพอร์ต เป็นกำลังใจ และให้การดูแลอย่างจริงใจ

ทั้งหมดนี้คือความอุ่นใจที่จัดเต็มเอาไว้ใน “CI Re-Claim Re-Care” ประกันโรคร้ายแรง หายห่วง เคลมขั้นกว่า แคร์ขั้นสุด และแพ็กเกจความคุ้มครองชีวิตและโรคร้ายแรง “CI Re-Claim Re-Care Plus” จาก FWD ประกันชีวิต  ซึ่งจะทำให้คุณพร้อมรับมือกับโรคร้ายแรงแบบไร้กังวล สามารถออกไปใช้ชีวิตในแบบที่ชอบได้อีกครั้ง และมีความสุขกับการใช้ชีวิตอย่างอุ่นใจที่สุด


คู่นี้ผิวเลิฟ! GUERLAIN ออก 2 เมคอัพไอเท็มใหม่จากคอลเล็คชัน PARURE GOLD SKIN

คู่นี้ผิวเลิฟ! GUERLAIN ออก 2 เมคอัพไอเท็มใหม่จากคอลเล็คชัน PARURE GOLD SKIN

Alternative Textaccount_circle
คู่นี้ผิวเลิฟ! GUERLAIN ออก 2 เมคอัพไอเท็มใหม่จากคอลเล็คชัน PARURE GOLD SKIN
คู่นี้ผิวเลิฟ! GUERLAIN ออก 2 เมคอัพไอเท็มใหม่จากคอลเล็คชัน PARURE GOLD SKIN

คู่นี้ผิวเลิฟ! Guerlain (เกอร์แลง) หนึ่งในแบรนด์ระดับสูงของเครือ LVMH เปิดตัวคู่ผลิตภัณฑ์เมคอัพสุดหรูจากคอลเล็คชัน PARURE GOLD (ปาเลอร์ โกลว์) ที่ผสานความงดงามของทองคำเข้ากับวิทยาการล้ำสมัย สร้างสรรค์ผลงานที่จุดประกายความงามให้กับผู้หญิงทั่วโลก โดย ‘ทองคำ’ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองและมั่งคั่งเป็นที่ปรารถนาของผู้คนทุกยุคทุกสมัย นอกจากนี้ ทองคำยังเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการพัฒนาคอลเล็คชันผลิตภัณฑ์ Parure Gold ซึ่งมีทั้งสีและประกายแสงอันเป็นเอกลักษณ์ที่จะช่วยขจัดความหมองคล้ำ ให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งอย่างแท้จริง

ล่าสุดในปี 2024 นี้ได้เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างความงามของผิวอย่างสมบูรณ์แบบในกิจวัตรประจำวันมากยิ่งขึ้น ได้แก่ PARURE GOLD SKIN DOUBLE VEIL ไพรเมอร์สูตรพิเศษช่วยเตรียมความพร้อมให้ผิว เสริมเนื้อรองพื้นให้ติดทนนานยิ่งขึ้น พร้อมปกป้องและฟื้นบำรุงผิว ด้วยเนื้อสัมผัสบางเบา ผสานอณูแห่งมุก (Mother-of-Pearl) และละอองทองคำ 24 กะรัต ถนอมผิวมากถึง 96% ช่วยลดริ้วรอยและข้อบกพร่องด้านโทนสีผิว รูขุมขนแลดูกระชับ ปกป้องจากมลภาวะและรังสียูวีด้วย ค่า SPF 50+ และ รังสียูวีเอ PA+++ PARURE GOLD SKIN DIAMOND MICRO-POWDER แป้งฝุ่นเนื้อละเอียดผสานอณูทองคำบริสุทธิ์ 24 กะรัตและและผงประกายเพชรบริสุทธิ์ ให้ผิวหน้าแลดูสว่างสดใส เรียบเนียน ทั้งยังช่วยเซ็ตเมคอัพ เบลอรูขุมขน และยกระดับความกระจ่างใสด้วยผลลัพธ์ที่บางเบาเป็นพิเศษ

ลองเมคอัพใหม่จากคอลเล็คชัน PARURE GOLD SKIN เพื่อผิวสวยเปล่งประกายหรูหราในทุกมิติอย่างแท้จริงได้ที่ เคาน์เตอร์ GUERLAIN ทุกสาขา (ยกเว้น สาขาเซ็นทรัลพระรามสาม) สอบถามเพิ่มเติมและสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่ Line Official Account: @guerlainth


Sabai arom คว้ารางวัลผลิตภัณฑ์สำหรับคนรักสุขภาพแห่งปี ในงานชีวจิต Awards 2024

account_circle

“Sabai arom (สบายอารมณ์)” แบรนด์ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Thai Home Spa และ Aromatherapy คว้ารางวัลจากงานชีวจิต Awards 2024 ซึ่งเป็นงานที่เชิดชูเกียรติ บุคลากร และคัดเลือกผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคที่รักสุขภาพ โดย Sabai arom ได้รับรางวัลสาขา Guru’s Pick ประเภท Natural หมวด Consumer Products ในผลิตภัณฑ์ประเภท Aroma Mist และ Hand Cream โดยมีคุณมีนา อัครพงศ์พิศักดิ์ ผู้ช่วยประธานบริหารด้านการตลาด บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ “Sabai arom (สบายอารมณ์)” เป็นผู้รับรางวัลอันทรงเกียรติในครั้งนี้ ณ ห้องจูปิเตอร์ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2024 ที่ผ่านมา

สำหรับรางวัลชีวจิต Awards 2024 สาขา Guru’s Pick คัดเลือกโดยคณะกรรมการผู้ทรงเกียรติในหลากหลายสาขา ประกอบด้วยคณะกรรมการ 6 ท่าน ได้แก่ คุณผกา เส็งพานิช กูรูด้านสุขภาพ และอาหารชีวจิต , คุณวาสนา พลายเล็ก บก.แบรนด์ชีวจิต , ผศ.ดร.เอกราช บำรุงพืชน์ นักวิจัยและนักโภชนบำบัด , ร.อ.นายแพทย์สรชา ลีลายุทธการ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย , คุณวนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ และคุณนุ่น สินิทธา บุญยศักดิ์ ดาราและนักแสดง ซึ่งผลิตภัณฑ์ของ Sabai arom ประเภท Aroma Mist ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ Sabai arom Sleep Well Pillow Mist ตัวช่วยแก้ปัญหาหลับยาก , Sabai arom Stress Away Aroma Mist ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ปรับสมดุลอารมณ์ , Sabai arom Calm Down Car Mist ช่วยในการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ เพียงแค่ฉีดผลิตภัณฑ์ภายในห้องหรือบริเวณที่ต้องการ ส่วนผลิตภัณฑ์ประเภท Hand Cream ที่ได้รับรางวัลจะมีทั้งหมด 6 กลิ่น ได้แก่ Malila Jasmine Ritual , Homegrown Lemongrass , Mahachanok Mango Orchard , Chiang Rai Osmanthus Tea , Rose De Siam และ Siamese Blossoms โดยทุกตัวจะมีกลิ่นหอมจากดอกไม้ไทยที่เป็นเอกลักษณ์ ใช้ทามือเพื่อความชุ่มชื่น ให้มือหอมละมุน เนียนนุ่ม ชุ่มชื้นยาวนาน การได้รับรางวัล  Awards 2024 นับเป็นรางวัลที่ทรงคุณค่าและสร้างความเชื่อมั่นได้ว่า Sabai arom เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่ม Thai Home Spa และ Aromatherapy ที่มีคุณภาพจากธรรมชาติตามคอนเซปส์ “Pamper your Mood, Soothe Your day” 

สามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นต่างๆของสบายอารมณ์ได้ทาง Facebook : Sabai arom https://www.facebook.com/SabaiAromNaturals , ช่องทางจัดจำหน่ายออนไลน์ Shopee : Sabaiarom_officialstore Lazada: Sabai-arom และ Website : https://sabaiarom.com/ 


สวยคลาสสิก! ซูมอินลุค Ariana Grande ในงานแสดงภาพยนตร์ Wicked 

Alternative Textaccount_circle

Ariana Grande ปรากฏตัวในงานแสดงภาพยนตร์ Wicked ด้วยลุค Aterlier Versace สวยคลาสสิกและปนไปด้วยความเฟมินีน

ปกติแล้วเมื่อถึง Versace เราคงชินกับความเซ็กซี่ เท่ และหรูหรา แต่ใครจะไปคิดว่า Ariana Grande ในชุดเซ็ทผ้าเครปสองชิ้นมาจาก Aterlier Versace ว่ากันว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากลุคแรกของ Glinda จากการแสดงละครเวทีต้นฉบับขณะร่วมงานแสดงภาพยนตร์ Wicked ณ DGA Theatre ในนครนิวยอร์ค

“โดยเซ็ทนี้ประกอบไปด้วยเสื้อกั๊กแบบไม่สมมาตรที่มาพร้อมปกแหลมและกระดุม Medusa สีเงิน และกระโปรงยาวคลุมเข่า เสริมความสมบูรณ์แบบให้ลุคนี้ด้วยถุงมือและกระเป๋าถือ Medusa ’95”


นีเวีย ครีม ตลับน้ำเงินในตำนาน ปรับโฉมใหม่ รับเทรนด์รักษ์โลก พร้อมการดูแลผิวที่ทุกคนวางใจ

account_circle

เป็นเวลากว่าหนึ่งศตวรรษที่ นีเวีย ครีม เป็นเหมือนเครื่องหมายของความไว้วางใจในการฟื้นฟูและปกป้องผิวพรรณ  ในขณะเดียวกัน รูปลักษณ์ของครีมตลับน้ำเงินในตำนานนี้ยังได้รับการปรับพัฒนาอยู่เสมอเพื่อให้มีความร่วมสมัย จึงทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่เหนือกาลเวลาไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย วันนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่นีเวียมีความเคลื่อนไหวให้ทันกับกระแสโลก ด้วยการแนะนำบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่ตัวตลับนอกจากจะผลิตจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 80% แล้วยังมีการปรับโลโก้แบรนด์ให้ทันสมัยและมีสีสันสดใสมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงไว้คือคุณภาพของ นีเวีย ครีม ซึ่งเป็นที่นิยมมาช้านานด้วยสูตรเนื้อครีมเฉพาะตัวและกลิ่นที่คุ้นเคย

สุภสิตา ไกรศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์นีเวีย ภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่ได้แนะนำ นีเวีย ครีม ตลับใหม่ที่ผลิตจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 80% ก้าวย่างครั้งสำคัญนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในเรื่องความยั่งยืนและการลดฟุตพรินต์ในการจัดการกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้งานนี้ นอกจากจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้อย่างมีนัยสำคัญแล้วยังส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนอีกด้วย การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้เป็นอีกบทพิสูจน์ถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ของเราที่จะดูแลสิ่งแวดล้อม และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในประเทศไทยที่ชื่นชอบและไว้วางใจใน นีเวีย ครีม จะยังคงได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพต่อไป ซึ่งเป็นนิยามของ นีเวีย ครีม จากรุ่นสู่รุ่น สำหรับประเทศไทยถือเป็นตลาดที่ผู้บริโภคกระตือรือร้น ใส่ใจ และรักษ์โลก ได้จุดประกายให้เราได้พยายามสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาคำมั่นสัญญาที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ดูแลผิวคุณภาพสูงพร้อมกับความใส่ใจด้านความยั่งยืน ที่แสดงให้เห็นว่า นีเวีย ไม่เพียงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดูแลผิว แต่เรายังปกป้องโลกใบนี้เพื่อคนรุ่นต่อไปอีกด้วย”

สุภสิตา ไกรศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์นีเวีย ภูมิภาคอาเซียน

นีเวีย ครีม ตลับน้ำเงินในตำนาน ปรับโฉมใหม่เพราะใส่ใจมากกว่าการดูแลแค่ผิวพรรณ

ในย่างก้าวของการพัฒนา นีเวีย ครีม ตลับน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ได้รับการปรับเปลี่ยน ซึ่งยังเป็นครั้งแรกที่บรรจุภัณฑ์ผลิตจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 80% อีกด้วย การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของนีเวีย ที่จะทำตามพันธกิจด้านความยั่งยืนโดยการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในบรรจุภัณฑ์ การเปลี่ยนผ่านไปหาทางเลือกที่เป็นมิตรต่อทรัพยากรยิ่งขึ้นนี้เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เกิดจากบรรจุภัณฑ์ลง 8,000 ตันภายในปี 2568[1]  นั่นคือ นีเวีย ครีม ได้เคลื่อนตัวสู่การนำแนวทางหมุนเวียนที่ช่วยลดปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติลงได้ ซึ่งเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของนีเวียที่มีต่อการดูแลผิว ด้วยการขยายการดูแลไปยังโลกใบนี้

การดูแลและการปกป้องที่ปรับเปลี่ยนให้ทันยุคสมัย

เมื่อมองดูถึงยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นองค์กรที่มีความคิดทันสมัย นั้นคือการที่บรรจุภัณฑ์นีเวีย ครีม ทุกแบบได้รับการปรับโฉมใหม่ โดยตัวอักษรโลโก้มีความเพรียวบางลง และโทนสีฟ้าที่สว่างขึ้น เพื่อให้ดูทันสมัยและสดใสกว่าที่เคย ในฐานะผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ได้รับความไว้วางใจมาตลอดจากรุ่นสู่รุ่น และยังเป็นที่ยอมรับในด้านประสิทธิภาพ ด้วยสูตรที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของนีเวีย ครีม ยังคงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการดูแลและปกป้องผิวได้เป็นอย่างดี ที่ได้รวมเอาปรัชญาในการส่งมอบการดูแลด้วยสูตรที่มีประสิทธิภาพและได้รับการยกย่องมายาวนานที่รับรองประสิทธิภาพด้านการกักเก็บความชุ่มชื้น และเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวด้วยไฮโดรไลปิดตามธรรมชาติ ผู้ใช้ทั่วโลกต่างยืนยันความน่าเชื่อถือของสูตรที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยคงความสุขภาพดีและความงามของผิวอย่างไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะเผชิญกับสภาวะที่ท้าทาย


[1] แนวทาง Cut-Off Approach ที่เป็นไปตามนโยบาย GHG Protocol, Cradle to gate

งามสง่า เจาะดีเทลชุดไทย ‘ดุสิตาปัทมาราค’ ของ โอปอล สุชาตา

Alternative Textaccount_circle

ทุกรายละเอียดมีความหมาย ‘โอปอล สุชาตา’ ในชุดไทย ‘ดุสิตาปัทมาราค’ ที่งานเฉลิมฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เม็กซิโก

ชุดไทย ‘ดุสิตปัทมาราค’ ของเธอ ออกแบบโดย ‘ภูษาผ้าลายอย่าง’ ซึ่งถือเป็นชุดไทยดุสิต หนึ่งในชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ สำหรับชุดนี้โดดเด่น ด้วยความงดงามของตัวเสื้อแบบสากล และนุ่งหน้านางตัดเย็บอย่างปราณีต มักในโอกาสสำคัญในงานสมาคมระดับสากล โดย อ.ธนิต พุ่มไสว ได้ออกแบบลวดลายการปักประดับ ขึ้นใหม่ทั้งเสื้อและผ้านุ่ง อย่างเรียบโก้ สง่างาม

แสงระยิบระยับของงานปักบนตัวเสื้อ เกิดจากการปักประดับด้วยโลหะชุบทอง เงิน และอัญมณี ที่ออกแบบลวดลายขึ้นใหม่ทั้งหมด ทั้งดอกไม้ประจำชาติไทย “ดอกราชพฤษษ์” ดอกไม้ประจำชาติแม็กซิโก “ดอก Dahila หรือรักเร่” มาผูกลายขึ้นเป็นลายไทยบริเวณช่วหน้าอกที่ผสานความเป็นตะวันตกเข้าไป และนำตัวอักษร T (Thailnd) พร้อมกับ M (Mexico ) มาผูกลายขึ้นบริเวณรอบคอเสื้อ เกิดเป็นความอ่อนช้อยร้อยพันเกี่ยวกัน ดั่งความสัมพันธ์ของไทยและเม็กซิโก

ลวดลายบนผืนผ้าที่นำมาตัดเย็บเป็นผ้านุ่ง นั้น คือผ้าลายเทียมยกทอง “ลายเพชรสุวรรณ” ออกแบบขึ้นใหม่ด้วยกระบวนลายไทย ให้ความหมายว่า ความทรงพลังของเพชรและทองดั่งความงามผู้สวมใส่ แล้วพิมพ์ลายลงบนไหมแท้ยกดอก เกิดเป็นผ้านุ่งที่มีเพียงหนึ่งเดียว ปักประดับด้วยคริสตัลและวัสดุปักประดับสีเงิน ทอง ตามลวดลายของผ้าบริเวณเชิงผ้านุ่ง และหน้านาง ให้ความระยิบระยับยามต้องแสงไฟ

สุดท้ายชุดนี้ให้โครงสร้างสีสำคัญ เป็นสีแดงทับทิม ที่เรียกว่า “ปัทมราค” ซึ่งสีแดง เป็นหนึ่งในสีของธงชาติไทย และเม็กซิโก ผสานกันเป็นหนึ่งเดียว แสดงถึงความกล้าหาญอย่างสง่างามของผู้หญิง


ภาพและข้อมูล: @suchaaata และ ภูษาผ้าลายอย่าง

เปิดตัว 40 ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ฝีมือดีจากทั่วประเทศร่วมชิงชัยการประกวดนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ ระดับประเทศ  

account_circle

ประกาศผลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ การประกวดนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ประจำปี 2567 “New Gen Young Designer 2024” รอบชิงชนะเลิศ ระดับประเทศ เวทีในการเฟ้นหาดีไซเนอร์หน้าใหม่จากทั่วประเทศ ให้ได้มีโอกาสแสดงฝีมือในการออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่นจากผืนผ้าไทยอันทรงคุณค่า ให้สามารถสวมใส่ได้อย่างสนุกสำหรับ ทุกเพศ ทุกวัย ในทุกโอกาสของชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ กระทรวงมหาดไทย โดย กรมการพัฒนาชุมชน ได้น้อมนำแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา มาขับเคลื่อนในการพัฒนายกระดับคุณภาพ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ผ้าไทย เมื่อวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 ณ สุราลัยฮอล์ ชั้น 7 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานในพิธี และนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมกล่าวเปิดงานแสดงแบบ “ชุดผ้าไทยใส่ให้สนุก” และมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวด พร้อมด้วย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบตัดเย็บ นายศิริชัย ทหรานนท์ นักออกแบบและเจ้าของแบรนด์ THEATRE คุณอารยา อินทรา ที่ปรึกษาด้านแฟชั่น อาจารย์พิเศษด้านแฟชั่น และสไตลิสต์ คณะกรรมการการตัดสินการประกวดฯ ระดับประเทศ ได้แก่ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นางอรจิรา ศิริมงคล ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน ดร.ศรินดา จามรมาน นักวิชาการอิสระด้านการจัดการความรู้และการศึกษา นายภูภวิศ  กฤตพลนารา  นักออกแบบเจ้าของแบรนด์ ISSUE ผศ.ดร.รวิเทพ มุสิกะปาน ประธานหลักสูตรแฟชั่น สิ่งทอและเครื่องตกแต่ง วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อาจารย์ ดร.กรกลด คำสุข รองคณบดี ฝ่ายวิชาการและรักษาการแทน ผู้อำนวยการสำนักวิชาการสร้างสรรค์วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ นายวิชระวิชญ์ อัครสันติสุข นักออกแบบเจ้าของแบรนด์ WISHARAWISH และนายธนาวุฒิ ธนสารวิมล นักออกแบบเจ้าของแบรนด์ TANDT ร่วมด้วย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย และอุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ตลอดจนดีไซเนอร์รุ่นใหม่จากทั่วประเทศ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน

กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การประกวดนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ ระดับประเทศ (รอบ Final) เพื่อตัดสินผลงานการออกแบบตัดเย็บชุดผ้าไทยของผู้เข้าประกวด จำนวน 40 ราย/ทีม ให้เหลือผู้ชนะ จำนวน 9 ราย/ทีม โดยพิจารณาจาก 1) แนวคิดและแรงบันดาลใจในการออกแบบสอดคล้องกับแนวคิด “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” 2) รูปแบบและความสวยงามของชุดที่ตัดเย็บ 3) ความประณีต และคุณภาพของชุด และ 4) การนำเสนอผลงานของชุดที่ออกแบบตัดเย็บ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมแฟชั่นโชว์ การแสดงแบบ “ชุดผ้าไทยใส่ให้สนุก” สุดยิ่งใหญ่ จากผลงานการออกแบบของ 40 ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่เข้าประกวดผ่านการสวมใส่ โดยนายแบบ นางแบบมืออาชีพ จำนวนทั้งสิ้น 40 คน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุกนี้ เป็นพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่พระองค์ท่านได้ทรงทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้สินค้าที่ออกแบบโดยคนไทย หรือ ‘ผ้าไทย’ ได้ถูกประทับตราไว้ว่า “เราไม่เป็นที่สองรองใคร” ซึ่งทุกครั้งที่ตนได้มีโอกาสเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท จะไม่ทรงรับสั่งเรื่องอื่นใดนอกจากเรื่อง “ผ้าไทย” เพราะพระองค์ท่านทรงฝากความหวังไว้กับพวกเราทุกคนในการที่จะจรรโลงรักษา สืบทอด ต่อยอด ให้ผ้าไทยซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนไทยเป็นที่แพร่หลายไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่พระองค์ท่านทรงฝากความหวังไว้ว่า “จะต้องทำผ้าไทยของเราเป็นที่นิยมของคนทั่วโลก” กระทรวงมหาดไทยจึงได้น้อมนำพระดำริและพระดำรัส มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชนเพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ “คำว่า “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ตนได้รับพระราชทานคำอรรถาธิบายจากพระองค์ท่านว่า ไม่ใช่ชุดผ้าไทยแบบคอตั้งแขนยาวใส่แล้วร้อน แต่ผ้าไทย คือ ผ้าที่ทำจากผ้าคนไทย วัตถุดิบไทย ดีไซเนอร์ไทย จะใส่เป็นเสื้อเชิ้ตก็ได้ ชุดซาฟารีก็ได้ เสื้อแจ็กเกตก็ได้ กระโปรงแบบญี่ปุ่นก็ได้ ออกเป็นเสื้อใส่ตามสบายก็ได้ แต่ขอให้เป็นผ้าไทย จนทำให้ตนเข้าใจแล้วว่า ผ้าไทยนั้นมีเอกลักษณ์ คือ วัสดุที่ผลิตขึ้นมาเป็นของไทย ดังนั้น พวกเราทุกคนถือว่าเป็นข้าทูลละอองพระบาทของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และเรามีเจ้านายที่ทรงทุ่มเทในเรื่องของผ้าไทยให้กับพวกเรา จึงเป็นความภาคภูมิใจและเป็นวาสนาอย่างยิ่งที่เราได้มีโอกาสรับสนองพระดำริพระองค์ท่าน ดังที่นายแบบและนางแบบทั้งหลายที่ได้สวมใส่ผ้าไทยจากการออกแบบโดยคนไทยมาเดินแบบในที่นี้ ทำให้เราได้เห็นความสวยงามของผ้าไทย รูปแบบการออกแบบตัดเย็บของดีไซเนอร์ไทยมีความสวยงามจริง ๆ ตนอมยิ้มอยู่ในใจและภาคภูมิใจอยู่ในใจว่า เราใส่ผ้าแบรนด์หรูต่างประเทศมาเยอะแล้ว วันนี้เราเห็นคนต่างชาติที่เป็นนางแบบนายแบบมาใส่เสื้อผ้าไทยของเรา ดีไซน์ของเรา ดูแล้วไม่เห็นว่า ผ้าไทยสวยกว่าด้วยซ้ำ เข้ากับประเทศเมืองร้อนอย่างเรา ออกแบบดีไซน์มาอย่างมีสีสันตระการตา จึงอยากให้พวกเราทุกคนโดยเฉพาะลูก ๆ หลาน ๆ ได้มีความภาคภูมิใจ ไม่มีชุดไหนไม่สวยเลย สวยทุกชุด ดังนั้นเราต้องภูมิใจที่เราได้แสดงเอกลักษณ์ของประเทศไทยให้ต่างชาติได้ชื่นชม”

นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอแสดงความชื่นชมบรรดานักออกแบบ ช่างตัดเย็บ ที่ตัดเสื้อผ้าให้มีความงดงามอย่างยิ่ง ตลอดถึงอาจารย์ที่ปรึกษา คณะกรรมการ แม้กระทั่งผู้หลักผู้ใหญ่ของกระทรวงมหาดไทยทั้งในปัจจุบันและในอดีต ที่ได้ทุ่มเทเสียสละและทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น ซึ่งตนมั่นใจว่าเราจะสามารถทำให้ผ้าไทยของเราเป็นที่ยอมรับในทั่วโลกในระยะเวลาอีกไม่นานนี้ และตนขอมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการใช้ผ้าไทยของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ด้วยการใส่ผ้าไทย ใช้ผ้าไทย ให้ชาวบ้านของพวกเรามีรายได้ ให้เอกลักษณ์ของประเทศเราได้รับการยอมรับ ให้สินค้าของประเทศไทยของเราโดยเฉพาะ “ผ้าไทย” ได้ส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศและประชาชนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเราจะยกระดับให้เพิ่มมากขึ้นด้วยความร่วมไม้ร่วมมือ น้อมนำพระปณิธานสู่การขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมด้วยความตั้งใจอย่างเต็มที่ ทำให้มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ใส่ใจ ใส่ฝีมือ ใส่สิ่งที่ดีที่สุดในเซลล์ของเรา ในเลือดของเรา เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีงาม เกิดเศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคง พี่น้องประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืน

นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการผ้าไทยที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งส่งเสริมให้คนไทยทุกคนได้สวมใส่ผ้าไทยหลากหลายรูปแบบที่มีความทันสมัยสู่สากล เป็นที่นิยมในทุกเพศ ทุกวัย ทุกโอกาส โดยการสวมใส่ผ้าไทยได้ในทุกโอกาสนั้น รูปแบบของการออกแบบตัดเย็บที่สวยงาม และทันสมัย มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างความมั่นใจแก่ผู้สวมใส่ “การจัดประกวดนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ ระดับประเทศ ที่กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินการในครั้งนี้ จะนำไปสู่การพัฒนาเทคนิคการออกแบบตัดเย็บ และการผลิตชิ้นงานชุดผ้าไทยที่ร่วมสมัย เกิดการรังสรรค์การออกแบบตัดเย็บผืนผ้าไทยให้เป็นที่ต้องการของตลาด สอดคล้องกับแฟชั่นสมัยนิยม ตามแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก”

นางสาวซาบีดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณท่านผู้เชี่ยวขาญด้านผ้าไทยและการออกแบบตัดเย็บ ตลอดจนผู้ทรง
คุณวุฒิทุกท่าน ที่ได้ให้เกียรติมาเป็นคณะกรรมการตัดสินการประกวดในวันนี้ ขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้มี
กิจกรรมที่ดีเช่นนี้เกิดขึ้น ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับผู้เข้าประกวด ทั้ง 40 ราย และคาดหวังว่าทุกท่านจะมีความมุ่ง
มั่นตั้งใจในการเป็นนักออกแบบตัดเย็บผ้าไทยหรือดีไซเนอร์ผ้าไทยที่มีชื่อเสียง สามารถยกระดับผลิตภัณฑ์ผ้าไทยให้
เป็นที่ยอมรับในระดับสากล อันจะนำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ เกิดความเข้มแข็งของวงจรเศรษฐกิจต่อไป

นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า “กรมการพัฒนาชุมชนได้จัดการประกวดนัก
ออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ ตามโครงการนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ 2567 (New Gen Young
Designer 2024) เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย นักเรียน นิสิต
นักศึกษา ที่ศึกษาหลักสูตรแฟชั่นดีไซน์ และประชาชนที่สนใจและมีใจรักด้านการออกแบบตัดเย็บผ้าไทยทั่วทุกภาค
ของประเทศได้มีพื้นที่ในการแสดงผลงาน โดยได้คัดเลือกตัวแทนผู้เข้าประกวดจากทั่วประเทศจำนวน 285 ราย ให้
เหลือจำนวน 40 ราย เพื่อเข้าประกวดในระดับประเทศในวันนี้ และคาดหวังว่าโครงการนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ทุกท่านมี
ความมุ่งมั่นตั้งใจในการเป็นนักออกแบบ ตัดเย็บผ้าไทยหรือดีไซเนอร์ผ้าไทยที่มีชื่อเสียงในอนาคต เพื่อสามารถยก
ระดับผลิตภัณฑ์ผ้าไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล อันจะนำไปสู่การสร้างงาน สร้างายได้ เกิดความเข้มแข็งของ
วงจรเศรษฐกิจต่อไป”

สำหรับผู้ชนะเลิศการประกวดนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ (New Gen Young Designer 2024) โดยผู้ที่ชนะ
การประกวดฯ ตำแหน่งต่าง ๆ ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศ นายรุจ กล้ำศรี ได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท พร้อมจักร
เย็บผ้า และ iPad จำนวน 1 เครื่อง, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 นายนูรดีน แวกะจิ จากกลุ่มทำผ้าค่ายสิรินธร ได้รับเงิน
รางวัล 100,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 นางสาวธนัชพร วรธงไชย ได้รับเงินรางวัล 75,000 บาท และ
รางวัลชมเชย จำนวน 6 รางวัล รางวัลละ 40,000 บาท ได้แก่ นายนภัต ตันสุวรรณ, นางสาวมยุรี แซ่ท้าว, นายภา
วิต ประวัติ, นางสาวชนาธินาถ ไชยภู, นายรัฐพล ทองดี และ นายอนาวิล ทองน้อย


PLAY WIN GLOW ร่วมสนุกและเผยผิวโกลว์ไปด้วยกัน ในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองนี้กับ SK-II ARCADE!

account_circle

SK-II เผยประสบการณ์ PITERA™ รูปแบบใหม่ ต้อนรับช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ด้วยการยกระดับความกระจ่างใสผ่าน SK-II Arcade โลกแห่งความสนุกที่เปี่ยมด้วยความมหัศจรรย์จากส่วนผสม PITERA™ พร้อมมอบผิวกระจ่างใสดุจคริสตัลเป็นของขวัญสุดพิเศษส่งท้ายปีนี้

ช่วงเทศกาลเป็นเวลาที่เราทุกคนจะได้ปลดปล่อย เฉลิมฉลอง และให้รางวัลสุดพิเศษกับตัวเองหลังจากการทำงานหนักมาตลอดทั้งปี SK-II เปิดตัว SK-II Holiday Limited Giftbox1 ชุดของขวัญสุดพิเศษรุ่น Limited Edition ใหม่ล่าสุด1 ที่ถูกออกแบบอย่างสวยงามหรูหรา มอบความรู้สึกสุดตื่นเต้นในการเปิดของขวัญเพื่อผิวกระจ่างใสดุจคริสตัล เมื่อเปิดกล่อง SK-II Holiday Limited Giftbox1 จะพบกับกระเป๋าถือสีแดงสุดพิเศษ รวมถึงผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของ SK-II ภายในกล่อง ซึ่งก็คือFacial Treatment Essence และผลิตภัณฑ์ขนาดพกพาที่ประกอบไปด้วย Facial Treatment Gentle Cleanser, Facial Treatment Clear Lotion และ SKINPOWER Advanced Cream หรือจะเลือกเป็นชุดของขวัญ SKINPOWER Advanced Cream และผลิตภัณฑ์ขนาดพกพา ที่ประกอบไปด้วย Facial Treatment Clear Lotion และ Facial Treatment Essence

หัวใจสำคัญของ SK-II คือ PITERA™ ซึ่งเป็นส่วนผสมธรรมชาติที่ได้มาจากกระบวนการหมักบ่มยีสต์ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ SK-II โดย PITERA™ ได้รับการต้อนรับราวกับเป็นส่วนหนึ่งของผิว เพราะ PITERA™ มีส่วนประกอบที่คล้ายกับสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติที่พบในผิวหนังชั้นนอกสุด (Natural Moisturizing Factors) ทำให้ PITERA™ ซึมลึกเข้าสู่ผิว[2] ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมส่งมอบสารอาหารไมโครนิวเทรียนท์มากกว่า 50 ชนิด  ทั้งนี้ PITERA™ จึงเป็นส่วนผสมสำคัญในทุกผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ช่วยดูแลปัญหาผิวจากต้นตอ และเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงสู่ผิวกระจ่างใสดุจคริสตัล  

สัมผัสประสบการณ์เทศกาลสุดพิเศษไม่เหมือนใครกับชุดของขวัญบำรุงผิวสุดหรูจาก SK-II ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังจาก PITERA™ ผ่าน SK-II Arcade เพื่อเฉลิมฉลองความงามจากภายใน พร้อมดื่มด่ำความสุขในฤดูกาลนี้


[1] ตัวกล่องในชุดของขวัญไม่มีจำหน่ายแยก จะได้รับเมื่อซื้อ Facial Treatment Essence ขนาด 230 ml และ SKINPOWER Advanced Cream ขนาด 80 g เท่านั้น โดยชุดของขวัญมีจำนวนจำกัด

[2] ภายในผิวหนังชั้นนอกสุด (Stratum Corneum)

“ขวัญฤทัย ดำรงค์วัฒนโภคิน” เผยเบื้องหลังความสำเร็จกว่า 2 ทศวรรษ “รมย์รวินท์คลินิก”

account_circle

ความสำเร็จตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษ ของ ‘รมย์รวินท์คลินิก’ สะท้อนผ่านชื่อเสียงในหมู่คนรักความสวยความงาม และยังมีรางวัลการันตีมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Praew Iconic Beauty 2024 ที่พิกัดทำสวยแห่งนี้ยังคงติดโผอยู่ในกลุ่มบิวตี้คลินิกเบอร์ต้นของเมืองไทย อะไรคือกุญแจไขความสำเร็จ Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว พาไปพูดคุยกับ “คุณจอย – ขวัญฤทัย ดำรงค์วัฒนโภคิน” แม่ทัพหญิงเก่งของที่นี่กันค่ะ

เดินหน้าตอบโจทย์เทรนด์งานผิว

“กระแสการดูแลความงามปัจจุบัน งานผิวยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง เน้นการดูแลพื้นฐานสุขภาพผิวให้ดี แลดูเป็นธรรมชาติ เพื่อจะไม่ต้องแต่งหน้าเยอะ โชว์ผิวได้ คาดว่าเทรนด์นี้จะยังคงได้รับความนิยมไปจนถึงปี 2025

“รมย์รวินท์คลินิกมีการนำเข้าเครื่องมือและผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ความงามดังกล่าวอย่างครบครัน ไม่เพียงหัตถการงานผิวที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างสารกระตุ้นคอลลาเจน ยังรวมถึงโปรแกรมยกกระชับต่างๆ ที่มีการพัฒนาให้ช่วยได้ทั้งเรื่องงานผิวและงานยกกระชับด้วยเช่นกัน ซึ่งแม้นวัตกรรมความงามในตลาดจะมีให้เลือกมากมาย แต่เราก็ต้องเฟ้นหาอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน และพยายามรวบรวมของดีเอาไว้อย่างเต็มที่ เพราะเข้าใจดีว่าปัญหาของแต่ละคนต้องได้รับการดูแลที่แตกต่างกันออกไป”

2024 อีกสถิติแห่งความสำเร็จ

“ตลอดปี 2024 รมย์รวินท์คลินิกได้นำเสนอนวัตกรรมความงามใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีทันสมัย หรือผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการวิจัยพัฒนาในระดับสากล รวมถึงการเปิดสาขาใหม่อีก 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ และมาร์เช่ ทองหล่อ เพื่อขยายการให้บริการอย่างทั่วถึง ซึ่งปัจจุบันเราได้กระจายไปทั้งหมด 28 สาขาทั่วประเทศไทย ที่สำคัญคือมีการจัดอบรมแพทย์และบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อมอบผลลัพธ์ที่ดีและสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้ารับบริการ”

ยืนหนึ่งในการรักษาคุณภาพ

“การได้รับรางวัลจากเวที Praew Iconic Beauty อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นเครื่องการันตีความมุ่งมั่นและความพยายามของรมย์ร์วินท์คลินิกตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ที่ต้องการมอบสิ่งดีๆ ให้กับผู้เข้ารับบริการ ทั้งผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นทางกายภาพ และความรู้สึกประทับใจ นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เราพัฒนาตัวเองต่อไปแบบไม่หยุดยั้ง เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับเหล่าคนรักความสวย

“ในการรักษาคุณภาพตลอดระยะเวลายาวนาน รมย์ร์วินท์คลินิกให้ความสำคัญกับการคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือการติดตามและค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีความงามใหม่ๆ และงานวิจัยต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ ทั้งเครื่องมือและผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยดูแลความงาม พร้อมส่งมอบผลลัพธ์ที่ดี สุดท้ายคืองานบริการที่เรามุ่งมั่นสร้างความประทับใจสูงสุด ซึ่งทั้งหมดนี้เดินตามคอนเซ็ปต์ For The Better You พร้อมตอบโจทย์ความสวยให้กับทุกคน”


Skin Syrup ปรับโฉมใหม่ด้วยแนวคิดปรับสมดุลจากภายในสู่ภายนอก ชูเอกลักษณ์เด่นสารสกัดธรรมชาติ

Alternative Textaccount_circle

Skin Syrup ผลิตภัณฑ์ดูแลผมและผิวหนังจากสมุนไพรที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ ที่ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผมงอกใหม่และปรับสมดุลให้หนังศรีษะและเส้นผม แต่ยังช่วยปรับสมดุลกายและใจของผู้ใช้ ให้มีความมั่นใจในการใช้ชีวิตและส่งต่อความสุขให้คนรอบข้าง

การปรับโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งนี้ว่าเป็นการปรับรูปลักษณ์ใหม่ของผลิตภัณฑ์ด้วยการใช้สีสันที่หลากหลาย เพื่อบ่งบอกสรรพคุณที่แตกต่างกันไปของแต่ละผลิตภัณฑ์ จำแนกผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น มีผลิตภัณฑ์เด่น 2 ตัว ได้แก่แชมพูและคอนดิชันเนอร์ แต่หลากสูตร ได้แก่ Restorative สูตรที่เน้นปรับสมดุลหนังศรีษะและเส้นผม เน้นการดูแลขั้นพื้นฐาน Abracadabra สูตรสำหรับการลดผมร่วง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการงอกใหม่ของผมที่เคยหลุดร่วง โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีหรือส่วนผสมอื่นที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย Flake Free สูตรขจัดรังแค นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวกาย อย่าง Revive Shower Gel และผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้า อย่าง Radiance Facial Serum แพ็คเกจผลิตจากวัสดุที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอกซื้อผลิตภัณฑ์โฉมใหม่ได้ที่ Sephora, Siam Takashiyama, One nimman


keyboard_arrow_up