5 นางร้ายหน้าสวยในละคร ที่สมหวังกับพระเอกในชีวิตจริง

1.เป้ย – ปานวาด เหมมณี
11850384_718147468329407_1963759297_n

เป้ย3

เป้ย2

เริ่มกันที่อดีตนางร้ายสุดเซ็กซี่ในตำนานอย่างสาวเป้ย ที่ตั้งแต่แต่งงานกับผู้กองป๊อบ หรือเรือเอกนิธิ บุญยรัตกลิน หนุ่มหล่อไฮโซไป ก็ได้เปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลาม และในตอนนี้ก็มีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนสุดน่ารักอย่างน้องโปรดที่กลายเป็นขวัญใจชาวโซเชียลไปแล้ว ทำให้สาวเป้ยหันหลังให้กับบทนางร้ายมารับบทคุณแม่ในชีวิตจริงแทน ซึ่งชีวิตครอบครัวของสาวเป้ยก็ดูจะแฮปปี้จนหลายคนอิจฉา เพราะมีทั้งสามีและลูกๆ ที่น่ารักแบบนี้ จะให้กลับไปเป็นนางร้ายอีกทำไมล่ะเน๊อะ

2.เมย์ เฟื่องอารมย์
เมย์1

เมย์3

เมย์4

มาถึงนางร้ายสุดแซ่บ! อีกคนของวงการ เพราะไม่ว่าจะแสดงเรื่องไหนสาวเมย์ก็ได้รับบทนางร้ายตลอด แต่ในชีวิตจริงใครๆ ต่างก็รักสาวเมย์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนพ้องในวงการบันเทิงและสามีอย่างหนุ่ม – กรรชัย กําเนิดพลอย ที่ในอดีตอาจจะมีข่าวเรื่องความเจ้าชู้ของหนุ่มกรรชัยมาให้เราปวดหัวแทนสาวเมย์อยู่บ้าง แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ประคองความรักไว้ได้จนถึงวันแต่งงาน และตอนนี้ก็มีน้องมายู ลูกสาวสุดที่รักมาเป็นโซ่คล้องใจ ทำให้ชีวิตของสาวเมย์ลงตัวมากขึ้น จนตอนนี้กลายเป็นคุณแม่ที่สวยแซ่บอีกคนของวงการบันเทิงบันเทิงไปแล้ว

3.เอ๋ – พรทิพย์ สกิดใจ
เอ๋1

เอ๋2

เอ๋3

สำหรับสาวเอ๋ถึงแม้จะเป็นนางร้อยแต่เป็นนางร้ายที่ในชีวิตจริงได้แต่งงานกับพระเอกจริงๆ อย่างหนุ่มป๋อ – ณัฐวุฒิ สกิดใจ พระเอกนิสัยดีผิวสีเข้ม ที่ตอนนี้ย้ายจากช่อง 7 มาอยู่ช่อง 3 แต่ก็ยังมีผลงานมาให้เราดูกันเรื่อยๆ ซึ่งทั้งคู่ก็ได้ปลูกต้นรักกันมานมนาน ตลอดเวลาที่ทั้งคู่คบกันก็ไม่เคยจะมีข่าวเสียหาย จนกระทั่งวันที่แต่งงานและตอนนี้ก็มีน้องภู ภูดิศ ลูกชายที่ถอดแบบความหล่อตามคุณพ่อมาติดๆ ให้ได้ชื่นใจ นอกจากงานละครหรืองานในวงการที่ทั้งคู่ขยันทำงานแล้ว ก็ยังมีธุรกิจที่ทั้งคู่ร่วมกันสร้างอีก แหม่ เป็นอีกคู่รักหนึ่งของวงการบันเทิงที่น่ารัก และน่าเอาอย่างมากเลยล่ะ

4.หนิง – ปณิตา ธรรมวัฒนะ
หนิง1

หนิง2

หนิง4

ส่วนชีวิตคู่นอกจอของนางร้ายอย่างสาวหนิงที่ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีข่าวเรื่องครอบครัวหรือข่าวของสามีอย่างไฮโซตระกูลดัง จิน – จรินทร์ ธรรมวัฒนะ ทายาทเจ้าของตลาดยิ่งเจริญออกมาไม่ค่อยดีนัก แต่สาวหนิงก็ไม่หวั่น ยังมั่นคงจนพาชีวิตคู่ผ่านมาได้ด้วยดี แถมยังได้ยินมาแว่วๆ ว่าตอนนี้น้องนิรินก็อยู่ในวัยที่กำลังน่ารัก ทำเอาคนทั้งบ้านหลงสาวน้อยคนนี้กันใหญ่ ถือเป็นครอบครัวที่อบอุ่นอีกครอบครัวหนึ่งที่หลายๆ คนฝันหาเลยล่ะ ส่วนเรื่องงานละครถึงแม้ตอนนี้จะไม่เห็นสาวหนิงรับบทเป็นนางร้ายแล้ว แต่ก็ยังมีบทบาทใหม่จากงานพิธีกรมาให้เราได้หายคิดถึงกันอยู่เรื่อยๆ นะ

5.เนย – โชติกา วงศ์วิลาศ
เนย1

เนย2

เนย3

เห็นนางร้ายรุ่นพี่หลายคนแต่งงานมีลูก มีครอบครัวกันไปหมดแล้ว ล่าสุดก็คงจะถึงคิวของนางร้ายรุ่นน้องอย่างสาวเนยบ้างแล้วล่ะ เพราะในงานวันเกิดที่ผ่านมา ไฮโซอาร์ม นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อ ที่คบกันมาถึง 6 ปี คุกเข่าขอสาวเนยแต่งงานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงแม้จะยังไม่มีกำหนดวันแต่งงานที่ชัดเจน แต่ก็มีรูปชุดแต่งงานของสาวเนยหลุดออกมาให้เราได้ตื่นเต้นกันแล้ว แหม่ อีกไม่นานเราก็จะได้เห็นนางร้ายในจออย่างสาวเนย ได้เป็นนางเอกในชีวิตจริงกับเขาสักที เดี๋ยวถ้ามีข่าวดีออกมาเมื่อไหร่เราจะอัพเดทข่าวคราวให้ฟังกันนะ

เห็นไหมล่ะว่านางร้ายทั้ง 5 คนที่เรานำมาฝากวันนี้ ถึงแม้ว่าบทบาทในละครจะทำให้เราหมั่นไส้จนอยากเอาทุเรียนไปฟาดหน้าก็ถามเถอะ แต่ชีวิตนอกจอของพวกเธอน่ะ คือนางเอกตัวจริงเลยล่ะ

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : @ppanward, @noeychotika, @mayfuang, @aey_pornthip, @ningpanita, facebook : Jakawin Photography

ดูแลหนังศีรษะให้สุขภาพดี เพื่อผมนุ่มสลวยในวันแต่งงาน

account_circle

เรื่อง : โชติกา    ภาพ : สรยุทธ พุ่มภักดี

          เจ้าบ่าวและเจ้าสาวสุดเพอร์เฟ็กต์ควรจะต้องดูดีตั้งแต่เส้นผม โดยเฉพาะหนังศีรษะที่หลายคนอาจมองข้ามไม่เห็นความสำคัญ แต่จริงๆ แล้วกลับเป็นส่วนที่ต้องให้การดูแลเป็นพิเศษเพื่อลดปัญหาต่างๆ ที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ความมัน ผมขาดหลุดร่วง กลิ่น และรังแค ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งไม่สราญใจที่บ่าวสาวไม่อยากให้เกิดขึ้นในวันสำคัญแน่นอน

          Shiseido Salon and Spa ร้านดูแลเส้นผมจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เล็งเห็นถึงปัญหานี้และอยากให้บ่าวสาวได้ยิ้มกันถ้วนหน้า และด้วยความคิดที่ว่าสุขภาพผมที่ดีต้องดูแลตั้งแต่หนังศีรษะจึงได้คิดค้นโปรแกรม Fuente Forte for Scalp Care ที่ช่วยดูแลหนังศีรษะเป็นพิเศษ เพื่อช่วยลดปัญหาอาการคัน ความมัน กลิ่นไม่พึงประสงค์ และรังแค โดยทรีตเม้นต์นี้จะตรงเข้าปรับสมดุลของหนังศีรษะเพื่อลดปัญหาต่างๆ ได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้สำหรับเจ้าสาวที่ต้องมีการเสริมความงามให้กับเส้นผมทั้งการทำสี ดัด ย้อม หรือยืด หากได้ทำทรีตเม้นต์นี้เสริมไปด้วยจะช่วยลดการระเคืองจากสารเคมีและทำให้หนังศีรษะแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
          โดยขั้นตอนการทำ Fuente Forte for Scalp Care นั้นไม่ยุ่งยากและใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง ซึ่งจะเน้นการดูแลที่บริเวณหนังศีรษะเท่านั้น
          – เริ่มจากชำระคราบสกปรกบนหนังศีรษะด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นโฟมเนื้อละเอียด พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ  จากนั้นล้างออกด้วยแชมพู
          – ต่อด้วยการทำทรีตเม้นต์เฉพาะบริเวณหนังศรีษะ เพื่อบำรุงและขจัดตัวการของปัญหาต่างๆพร้อมนวดเบาๆ ประมาณ 5 นาที แล้วแร็พด้วยพลาสติกให้ทั่วศีรษะ เข้าเครื่องอบประมาณ 10 นาที จากนั้นล้างออกด้วยแชมพูให้สะอาด
          – ขั้นตอนสุดท้ายคือการบำรุงด้วยเซรั่ม โดยหยดให้ทั่วบริเวณหนังศีรษะจากนั้นนวดเบาๆ เพื่อให้เซรั่มซึมซาบ ซึ่งจะช่วยลดความแห้งกร้านและหยาบกระด้าง พร้อมปรับสภาพหนังศีรษะให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของเส้นผมต่อไป
          เพื่อการบำรุงอย่างถึงขีดสุดให้กับปลายเส้นผมที่แห้งเสีย จึงต้องคืนความงามด้วยโปรแกรม Salon Solution Hair Revitalisation ที่สามารถทำควบคู่ไปกับโปรแกรม Fuente Forte for Scalp Care ได้เลย เพื่อช่วยฟื้นบำรุงปลายผมที่ผ่านการทำสีหรือเคมีมาบ่อยครั้งจนแห้งกรอบให้ฟื้นคืนชีพเงางามนุ่มชุ่มชื้นจนคุณสัมผัสได้ ซึ่งทรีตเม้นต์นี้จะช่วยกำจัดแคลเซียม ไอออนโต ตัวการสำคัญที่คอยทำร้ายเส้นผมและมักสะสมอยู่ภายใน ด้วยทรีตเม้นต์ 5 ขั้นตอน ดังนี้
          Off – ลอกสิ่งที่อยู่บนผิวของเส้นผมให้หลุดออก เพื่อให้สารบำรุงต่างๆ ซึมเข้าสู่เส้นผมได้ดีขึ้น
          Out – ทำความสะอาดเส้นผมอย่างล้ำลึก เพื่อกำจัดแคลเซียม ไอออนโต ภายในเส้นผม
          Up – มาส์กฟื้นคืนเส้นผมให้นุ่มสลวย เงางามขึ้นในทันที
          In – สเปรย์ฟื้นบำรุงชนิดพิเศษ ที่ตรงเข้าดูแลเส้นผมแห้งเสียโดยเฉพาะ
          On – เคลือบเส้นผมเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อปกป้องและคงสภาพเส้นผมหลังการทำทรีตเม้นต์ไว้ได้อย่างยาวนาน
          เพราะฉะนั้นหากบ่าวสาวอยากมีผมนุ่มสลวยสวยเก๋ในวันวิวาห์ หรือจะเอาไว้พลิ้วตามไปกับจังหวะการเคลื่อนไหวในทริปฮันนีมูน ขอแนะนำให้ทำทั้ง 2 โปรแกรมควบคู่กันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีของสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผม

เครดิต : ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม ชั้น 2 (ทางเข้า-ออกที่จอดรถ) ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00-20.00 น. โทร. 0-2664-8543-44

8 เรื่องที่ต้องรู้ ก่อนไปงานแพรวแชริตี้ มหกรรมช็อปปิ้งแบรนด์เนมที่ได้บุญที่สุดในไทย

ของแต่ละชิ้นล้วนเป็นของรักของหวงจากคนดัง ใครที่เคยไปงานนี้มาแล้ว หรือยังไม่เคยไป วันนี้จึงพามาทำความรู้จักกันก่อน เดี๋ยวจะช็อปไม่ทันคนอื่นนะ

1. งานแพรวแชริตี้นั้นจัดขึ้น 2 ปีครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งจัดในเดือนกันยายน ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงวันเกิดของนิตยสารแพรว

2. หากคุณเป็น Shopaholic เห็นของแบรนด์เนมแล้วเกิดอาการแพ้ อยากได้ การมาช็อปปิ้งที่งานแพรวแชริตี้ถือว่าตอบโจทย์มากๆ เพราะมีสินค้าแบรนด์เนมคุณภาพให้เลือกเพียบ บางชิ้นคุณอาจจะไม่สามารถตามหาจากที่อื่น ที่สำคัญราคาถูกเหลือเชื่อ แต่ได้คุณภาพอย่างออริจินัลแบรนด์เหมือนกัน

ตัวอย่างสินค้าแบรนด์เนมที่มีขายในงานแพรวแชริตี้
ตัวอย่างสินค้าแบรนด์เนมที่มีขายในงานแพรวแชริตี้
ตัวอย่างสินค้าแบรนด์เนมที่มีขายในงานแพรวแชริตี้
ตัวอย่างสินค้าแบรนด์เนมที่มีขายในงานแพรวแชริตี้

3. การช็อปปิ้งของแบรนด์เนมที่งานแพรวแชริตี้นอกจากคุณจะสามารถเลือกสิ่งที่คุณชอบได้ตามใจแล้ว เงินที่ได้จากการจำหน่ายทั้งหมดยังสมทบรว่มทำบุญเข้ากองทุนแพรวแชริตี้ เพื่อช่วยเหลือเด็ก สตรี ผู้ยากไร้ และสัตว์ทุกข์ยาก ดังนั้นนอกจากได้ของถูกใจ ยังได้ทำบุญใหญ่อีกด้วย

4. อย่าแปลกใจที่มาช็อปปิ้งที่นี่ แล้วจะได้กระทบไหล่บรรดาเซลบริตี้คนดัง เพราะเราเปิดโอกาสให้ทุกคนที่อยากได้จริงๆ สามารถเข้าถึงได้ แต่ถ้าชิ้นไหนที่มีคนอยากได้กันมากๆ เพื่อความยุติธรรมจะมีการจัดประมูลสดๆ ณ บูธที่วางขายสินค้าชิ้นนั้น ใครประมูลชนะก็ได้ไปเลยจ้า

5. งานนี้เตรียมเงินสดมาช็อปปิ้งด้วยนะจ๊ะ รูดปื๊ดหมดสิทธิ์ บัตรเครดิตไม่รับจ้า

6. ความพิเศษของงานแพรวแชริตี้ นอกจากจะได้สินค้าแบรนด์เนมไปในราคาถูก และได้บุญกันถ้วนหน้าแล้ว กิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ซึ่งพลาดไม่ได้เลยก็คือ เหล่าบรรดาซูเปอร์สตาร์แถวหน้าของเมืองไทยมาร่วมงานนี้กันเพียบแน่นอน อย่างในปีนี้ไฮไลท์อย่างการเดินแฟชั่นโชว์ก็มีเซอร์ไพรส์ให้ทุกคนติดตาม ซึ่งปีนี้ขอบอกว่า ปังมาก!  อย่าลืมไปดูบรรยากาศสดๆ บนเวทีตอนค่ำกันนะจ๊ะ

ตัวอย่างสินค้าแบรนด์เนมที่สามารถประมูลได้ทางเว็บไซต์แพรว
ตัวอย่างสินค้าแบรนด์เนมที่สามารถประมูลได้ทางเว็บไซต์แพรว
ตัวอย่างสินค้าแบรนด์เนมที่สามารถประมูลได้ทางเว็บไซต์แพรว
ตัวอย่างสินค้าแบรนด์เนมที่สามารถประมูลได้ทางเว็บไซต์แพรว

7. สำหรับคนที่เลือกสินค้าในงานไม่ทัน อีกช่องทางหนึ่งที่สามารถทำได้ก็คือมาร่วมประมูลของแบรนด์เนม และของรักของหวงจากเหล่าคนดังที่มีมากกว่า 33 ชิ้น โดยสามารถดูรายละเอียด และร่วมประมูลได้ที่ praew.com 

8.อีกหนึ่งช่องทางของการร่วมทำบุญในงานแพรวแชริตี้ก็คือ การร่วมกันแชร์ภาพนี้ลงใน Facebook ของคุณ

Share-Charityในส่วนของ Instagram สำหรับผู้ที่มางานแพรวแชริตี้ ก็สามารถร่วมทำบุญได้ง่ายๆ เช่นกัน โดยถ่ายภาพบรรยากาศภายในงานแพรวแชริตี้และติด #praewcharity

charity-for-hashtag-new31 Hashtag เท่ากับได้ร่วมทำบุญ 1 บาท เพื่อสมทบเข้ากองทุนแพรวแชริตี้ เพื่อช่วยเหลือเด็ก สตรี ผู้ยากไร้ และสัตว์ทุกข์ยาก ได้เช่นเดียวกันซึ่งการร่วมทำบุญจากสองช่องทางนี้สามารถเริ่มแชร์ได้ตั้งแต่เที่ยงวันถึงเที่ยงคืนของวันที่ 11 กันยายน 2558

งานนี้พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง และพบกันในงานแพรวแชริตี้ ที่สยามพารากอนศุกร์ที่ 11 ก.ย.นี้แน่นอนจ้า

 

เรื่อง : แพรวดอทคอม

 

ความพิเศษของเทียร่า เลอค่าสมการรอคอย

CHARMING TIARA by Beauty Gems

คุณหนึ่ง - สุริยน ศรีอรทัยกุล แห่งบิวตี้ เจมส์
คุณหนึ่ง – สุริยน ศรีอรทัยกุล แห่งบิวตี้ เจมส์

แค่ชื่อ “บิวตี้ เจมส์” ก็การันตีแล้วว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็นแบรนด์เครื่องประดับฝีมือ คนไทยที่ดังไกลไประดับโลก จนเป็นที่ไว้วางใจของบรรดาเจ็ตเซตและราชวงศ์ต่าง ๆ ในยุโรป

แบบร่างของเทียร่าชิ้นงาม
แบบร่างของเทียร่าชิ้นงาม

1. ใช้เวลาในการทำ 3 เดือน ตั้งแต่ออกแบบจนกระทั่งขั้นตอนสุดท้าย ทุกกระบวนการผ่านขั้นตอนที่ซับซ้อน ละเอียดอ่อนดังนั้นต้องใช้ช่างที่ชำนาญและมีฝีมือดีเท่านั้น
2. ตีโจทย์ในการออกแบบเทียร่านี้โดยมุมมองที่ว่า แพรวมีความเป็นอิสรเสรี มีความงดงาม มั่นคง และยืนยง ขณะเดียวกันก็เป็นนิตยสารที่ให้ความสำคัญกับการนำเสนอเนื้อหาใหม่ ๆ ที่ทั้งสวยงามและ หลากหลาย

เทียร่าเพชรที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความพลิ้วไหวของขนนก เพื่อผู้อ่านแพรว
เทียร่าเพชรที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความพลิ้วไหวของขนนก เพื่อผู้อ่านแพรว

3. เทียร่าชิ้นนี้ได้ แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากความพลิ้วไหวของขนนก เพื่อสื่อถึงความอิสรเสรี ความงดงาม ความยืนยงของนิตยสารแพรว ขณะเดียวกันก็สื่อถึงผู้อ่านแพรวที่หลงใหลในความสวยงามและความมีเสน่ห์ จึงดีไซน์ออกมาเป็นขนนกสองเส้นมาบรรจบกัน
4. ใช้เพชรทั้งหมด 567 เม็ด น้ำหนักรวมประมาณ 8.28 กะรัต ซึ่งเพชรทั้งหมดนี้คัดสรรมาอย่างดี เป็นเพชรกลมทั้งหมด น้ำ 97 คุณภาพ SI 1 เรียกว่าน้ำสวย เซตติ้งดี คุณภาพเป็นเลิศ

ช่างฝีมือขณะกำลังทำการฝังเพชรที่ต้องอาศัยความทุ่มเทเป็นอย่างยิ่ง
ช่างฝีมือขณะกำลังทำการฝังเพชรที่ต้องอาศัยความทุ่มเทเป็นอย่างยิ่ง

5. ตัวเรือนทำจากทองคำขาว น้ำหนักประมาณ 48.94 กรัม เรียกว่าเป็นเทียร่าขนาดพอดี ๆ ไม่ใหญ่ไป ไม่เล็กไป ใส่แล้วดูอ่อนหวาน แต่หรูหราสง่างามไปในตัว
6. เป็นเทียร่าแบบเดียวกับเจ้าหญิงในยุโรปใส่ รับรองว่าเหมาะกับผู้หญิงอย่างผู้อ่านแพรวเป็นอย่างยิ่ง
7. เทียร่างานระดับนี้ ถ้าตีตราแบรนด์ใหญ่ ๆ ของเมืองนอก ราคาจะสูงขึ้นไปเป็นหลายล้านบาทเลยทีเดียว

LIFE CELEBRATIONS with Gems Pavilion

คุณหนึ่ง - จนิษฐา ธีรวรชัย Managing Director and Creative Director แห่งเจมส์ พาวิลเลี่ยน
คุณหนึ่ง – จนิษฐา ธีรวรชัย Managing Director and Creative Director แห่งเจมส์ พาวิลเลี่ยน

ไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะเห็น “เจมส์ พาวิลเลี่ยน” แบรนด์จิเวลรี่ชั้นนำ ที่มีเอกลักษณ์เรื่องดีไซน์ โดดเด่น ลุกขึ้นมาทำเทียร่า งานนี้ คุณหนึ่ง – จนิษฐา ธีรวรชัย Managing Director and Creative Director แห่งเจมส์ พาวิลเลี่ยน บอกว่า เพื่อคุณผู้อ่านแพรวแล้ว ขอทุ่มสุดตัว!!

ลำพังแค่การสเก็ตช์ร่างแบบทีมดีไซเนอร์ก็ต้องแก้กันอยู่หลายรอบ เพื่อให้ออกมาลงตัวที่สุด
ลำพังแค่การสเก็ตช์ร่างแบบทีมดีไซเนอร์ก็ต้องแก้กันอยู่หลายรอบ เพื่อให้ออกมาลงตัวที่สุด

1. ความพิเศษของไอเดียการออกแบบดีไซน์นี้มาจาก อยากให้ผู้ที่สวนใส่เทียร่านี้สามารถใส่ได้ทุก ๆ วัน จึงดีไซน์ให้ใส่ได้ 2 แบบ โดยสามารถถอดออกมาแล้วกลับหัวลง เป็นโช้กเกอร์หรือสร้อยคอได้
2. ตัวเรือนทองคำขาว 18 เค ประดับเพชรและมุกหลายขนาด นำวัสดุหลายชนิดมามิกซ์กันเพื่อให้เกิดมิติและมูฟเมนต์ เหมือนตัวโน้ตที่มีจังหวะขึ้นลง อีกอย่างมุกเป็นสิ่งที่ดูอ่อนหวาน สื่อถึงความโก้ เรียบง่าย แต่คลาสสิก เป็นอมตะ สามารถใช้ได้เรื่อย ๆ ไม่ตกยุค

ขั้นตอนการเซตติ้งเพชรที่ต้องใช้ความละเอียดและประณีตบรรจงเป็นอย่างมาก
ขั้นตอนการเซตติ้งเพชรที่ต้องใช้ความละเอียดและประณีตบรรจงเป็นอย่างมาก

3. น้ำหนักรวมเพชรทั้งหมดประมาณ 4.13 กะรัต เพชรที่คัดมานี้เป็นเพชรคุณภาพเดียวกับที่ใช้กับงานปกติที่เป็นมาตรฐานของเจมส์ พาวิลเลี่ยน เรียกว่าเป็นคอลเล็คชั่นคัลเลอร์ ขาวขนาดที่มองด้วยตาก็ยังเห็นถึงความขาว และเจียระไนดีเลิศ คือใส่แล้วต้องวูบวาบ
4. ไฮไลท์อยู่ที่เพชรเม็ดยอดซึ่งมีขนาด 1 กะรัตขึ้นไปนั้น เมื่อรวมเฉพาะเม็ดยอดเข้าด้วยกันแล้วจะมีน้ำหนักรวม 37 กะรัต เท่ากับจำนวนปีที่ 37 ของแพรวพอดี

เทียร่าชิ้นเก๋ประดับมุกและเพชร ที่สามารถปรับใช้เป็นโช้กเกอร์ได้ เหมาะกับผู้อ่านแพรวสุดๆ
เทียร่าชิ้นเก๋ประดับมุกและเพชร ที่สามารถปรับใช้เป็นโช้กเกอร์ได้ เหมาะกับผู้อ่านแพรวสุดๆ

5. ใช้เวลาหาวัตถุดิบที่จะนำมาทำอยู่ 3 – 4 เดือน โดยคัดเพชรที่มีคุณภาพสูงสุดมาจากทั่วทุกมุมโลก
6. ช่างที่ทำละเอียดทุกขึ้นตอนมีการแก้ไขจนกว่าจะพอใจ แม้จะเอียงแค่ 0.5 มิลลิเมตร หรือเอียงแค่ไม่กี่องศา ก็ต้องแก้ทันที นี่เป็นมาตรฐานของเรา ซึ่งช่างทราบ บางครั้งยังไม่ทันสั่งแก้ เขาเห็นว่าไม่สวยเขาก็แก้เองแล้วเรียกว่าลงทุกรายละเอียด
7. ผู้ที่มีส่วนร่วมในการทำเทียร่านี้จะมีหลักเกณฑ์ว่า “ถามตัวเองว่าถ้าเราเป็นผู้ใส่ของชิ้นนี้ เราจะยอมให้ผ่านไหม” จึงกล้าพูดว่าทีมงานทุกคนทำงานหนักมากกับเทียร่าชิ้นนี้เพื่อให้ออกมาดีที่สุด

ทุกขั้นตอนเราตั้งใจเพื่อมอบให้เป็นของขวัญสำหรับผู้อ่านแพรวเท่านั้น ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความพิเศษแค่ส่วนหนึ่งของเทียร่าทั้ง 2 ชิ้นนี้ ถ้าใครอยากเป็นผู้โชคดีเพื่อรับของขวัญจากแพรว สามารถเข้ามาอ่านกติกาได้ที่ praew.com

 

ความในใจที่ไม่มีใครรู้ของ ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ อ่านแล้วจะยิ่งรักผู้ชายคนนี้มากขึ้น

ความในใจที่ไม่มีใครรู้ของ ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ อ่านแล้วจะยิ่งรักผู้ชายคนนี้มากขึ้น

ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี หนุ่มหล่อที่สาวๆ ทั่วประเทศหลงใหล เขาไม่ได้มีเสน่ห์แค่ภายนอก จนทำให้ทุกคนรักเขา แต่การใช้ชีวิต และความคิดของผู้ชายคนนี้ยังมีอีกหลายมุมที่มีเสน่ห์มากกว่า และน้อยคนนักที่จะรู้

ติ๊ก-เจษฎาภรณ์
ชีวิตวัยเด็กของ ด.ช. เจษฎาภรณ์ ผลดี เขาเกิดมาในครอบครัวฐานะปานกลาง ซึ่งไม่ได้ถูกพ่อแม่เลี้ยงดูมาแบบตามใจ เขาเล่าว่าของเล่นแทบไม่มี ถ้าอยากได้อะไรก็ต้องเก็บเงินซื้อเอง ตอนเด็กๆ ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน เพราะที่บ้านไม่มีเงินพาเที่ยวถ้าอย่างหรูสุดก็คือไปเขาดินกับห้างสรรพสินค้า กว่าจะได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองนอกครั้งแรกก็ตอนที่ได้เล่นภาพยนตร์ 2499 อันธพาลครองเมือง เพราะหนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จมาก จึงมีการพาทีมงานไปฉลองที่สิงคโปร์ ถือเป็นช่วงที่เขารู้สึกตื่นเต้น ดีใจมาก เพราะเป็นการได้ไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของเขา

และกว่าจะกลายเป็นพระเอกชื่อดังในวันนี้ เส้นทางการเป็นพระเอกของหนุ่มติ๊กก็ไม่ได้มาง่ายๆ เขาเริ่มจากการเป็นตัวประกอบ ได้เงินวันละ 500 บาท รวมถึงโหนรถเมล์ นั่งแท็กซี่ไปแคสต์งานตามโปรดักชั่นเฮ้าส์แถวรัชดา ลาดพร้าว และสุขุมวิท เขาจึงเปรียบชีวิตตัวเองว่าเป็นเหมือนแบ็กแพ็คเกอร์ เพราะกว่าจะมีวันนี้ต้องผ่านอะไรมาไม่น้อย

ติ๊ก-เจษฎาภรณ์

เขาบอกว่าจริงๆ แล้วเขาเองก็ไม่ใช่นักแสดงที่ดีมมาก อย่างก่อนเปิดกล้องจะมีการเวิรค์ชอปกับคุณครูสอนการแสดง เขาเป็นนักเรียนที่ไม่ค่อยตั้งใจ เวลาครูมีเคสตัวอย่างให้ฝึก แต่ถ้าเขาไม่อยากทำแซวครูก็มีเหมือนกัน

หลลายคนบอกว่าเขาเป็นคนติดดิน เป็นกันเองกับทุกคน แต่ถ้าเป็นเรื่องการทำงาน หนุ่มคนนี้ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนยาก เพราะอยากคุยรายละเอียดของงานให้ชัดเจนก่อนเพื่อความสบายใจ จะได้ไม่มีความขัดแย้งกัน เมื่อจบแล้ว พอทำงานกันเขาจะกลายเป็นคนที่ทำงานด้วยง่ายที่สุด และพร้อมทำงานทุกอย่างตามที่ตกลง

แม้ว่าใครจะมองว่าเขาเป็นพระเอกซุปเปอร์สตาร์ แต่เจ้าตัวกลับบอกว่า ดาราก็คืออาชีพหนึ่งที่ไม่ได้มีความรับผิดชอบอะไรเกินจากสิ่งที่รับมา แค่พยายามใส่ใจบทบาทที่ได้รับ แลละพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ทำงานตามที่ผู้กำกับต้องการให้ได้ ทุกอย่างเหมือนกับอาชีพอื่นๆ เขาจึงไม่คิดว่าดาราคือซุปเปอร์สตาร์ที่ออกไปทำงานแล้วต้องมีแสงส่องเจิดจรัส และเจ้าตัวเองก็อยากเป็นคนมืดๆ มากกว่า เพื่อทำงานให้ทุกคนได้ดูกัน
ติ๊ก-เจษฎาภรณ์

ชีวิตของเขานอกจากการเป็นทำอาชีพนักแสดงแล้ว ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า เขาคือคนรุ่นใหม่ทีหันมาเอาดีกับการทำรายการที่ส่งเสริมเรื่องอนุรักษ์ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมซึ่งตอนนี้เป็นเวลาสิบปีแล้ว จนกลายเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ทำให้เขามีโอกาสได้ช่วยเหลือสังคม ไปบรรยายตามสถานศึกษาต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง และการไปบรรยายแต่ละครั้งของเขา แม้ว่าจะมีค่าตอบแทนให้ แต่เขาจะคืนให้กับสถานศึกษานั้นเพื่อนำไปทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ทุกครั้ง โดยเขาให้เหตุผลว่า ถ้ารับเงินมาคงไม่สบายใจ เพราะได้เงินจากการเล่นละคร ทำรายการทีวี และออกอีเว้นต์แล้ว ไม่อยากให้การบรรยายกลายเป็นอาชีพ แต่อยากให้เป็นอีกวิธีที่จะทำให้เขาสามารถตอบแทนสังคมได้มากกว่า

ความน่ารักขอองผู้ชายคนนี้นอกจากจะเป็นคนที่คอยให้ความรู้และกระตุ้นจิตสำนึกเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติแล้ว เรื่องที่น่าประทับใจเกี่ยวกับหนุ่มคนนี้อีกอย่างก็คือ เมื่อประมาณ สี่ถึงห้าปีที่แล้ว เขาได้ทำรายการเกี่ยวกับคนตาบอด และตอนนั้นอาจารย์ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพขายสลากกาชาดแล้วเหลืออยู่เจ็ดใบ เขาจึงเหมามาหมดแล้วดันถูกรางวัลที่หนึ่ง ได้ทองคำที่ตีมูลค่ามาได้สามแสนบาท เขาจึงบริจาคคืนให้โรงเรียนสอนคนตาบอด บวกกับแฟนคลับของเขาเองช่วยสมทบเงินอีก รวมๆ แล้วเงินที่บริจาคได้มากกว่าล้านบาท เงินตรงนี้เอาไปซ่อมแซมสระว่ายน้ำของโรงเรียน แถมติดป้ายชื่อเจษฎาภรณ์ ผลดี และแฟนคลับด้วย เขาบอกว่าเห็นป้ายแล้วก็ประหลาดใจ เพราะตัวเองใจจริงอยากทำแบบเงียบๆ ไม่อยากให้มีชื่อติดแบบนั้น

ติ๊ก-เจษฎาภรณ์มาที่เรื่องครอบครัวของหนุ่มติ๊กบ้าง ทุกวันนี้เขาแต่งงานมีลูกชายที่น่ารักหนึ่งคน กิจกรรมของครอบครัวผลดีนั้น เขาเล่าว่าถ้าว่างๆ ก็จะพาลูกไปเที่ยวสวนสัตว์ แต่ถ้าอยู่บ้าน เขาจะทำหน้าที่พ่อเต็มตัว เพราะสมัยก่อนก็เคยเลี้ยงน้องชายคนเล็ก การเปลี่ยนผ้าอ้อมจึงเป็นเรื่องที่ไม่ยากนัก แค่ทบทวนความจำนิดหน่อย แต่มีอีกทักษะที่ได้เพิ่มมาก็คือ การร้องเพลงแมงมุมให้ลูกฟังจนหลับปุ๋ย

การเลี้ยงลูกสไตล์ติ๊ก เขาให้ความสำคัญในการปลูกฝังลูกในหลายๆ เรื่อง เช่นการโตไปต้องเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ไม่ทำปัญหาให้สังคม เคารพในสิทธิของผู้อื่น ทุกช่วงเวลาที่ลูกชายของเขาเติบโตขึ้นในตอนนี้จึงสอนให้ลูกรู้จักการแบ่งปัน ยกตัวอย่างเวลาที่น้องเต็นท์กินผลไม้ แทนที่จะกินคนเดียว ก็จะสอนให้เขาป้อนพ่อแม่ ป้อนคุณยาย และคุณย่า จนกระทั่งวันนึงหนุ่มติ๊กบอกว่า น้องเต็นท์กินผลไม้ แล้วยื่นมาให้โดยไม่ต้องบอกก่อน ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เขาสอนแล้วได้ผล ทำให้เขายิ้มได้ไม่น้อย

ใครที่อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ จะบอกว่าไม่หลงรักผู้ชายคนนี้มากขึ้น ก็คงไม่ได้แล้วล่ะ

เรียบเรียง : แพรวดอทคอม
ที่มา : คอลัมน์ Speak Out นิตยสารแพรรว ฉบับ 864 ปักษ์ 25 กันยายน 2558

Twitter : sriploi17

‘ฟรีแลนซ์’ หนังจีทีเอชสายอินดี้ ส่องชีวิตจริงของคนทำงาน

ถ้านับผลงานเด่นๆ ที่ผ่านมาอย่าง Mary is Happy, Mary is Happy ก็ถือว่าถูกใจคอหนังอินดี้แบบสุดๆ ต้องยอมรับแบบจับใจเลยว่า หนังของเขาดูง่ายกว่า ผกก. สายอินดี้คนอื่นตรงที่ไม่ต้องปีนกระไดดู เต๋อ นวพลเล่าเรื่องได้เข้าใจง่าย แต่สำหรับคอหนังสายบันเทิงแบบไม่อินดี้อาจจะเฉยๆ กับหนังของเขา ณ จุดนี้จึงทำให้ ‘ฟรีแลนซ์.. ห้ามป่วย.. ห้ามพัก.. ห้ามรักหมอ’ หนังลูกผสมระหว่างความเป็นอินดี้กับโรแมนติกคอมเมดี้ GTH มีภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้คนดูเกิดอาการประมาณว่า ถ้าชอบก็ชอบเลย ถ้าเฉยก็เฉยเลย
freelance1

ถ้าให้ว่ากันไปตามท้องเรื่องแบบคนดูหนังทั่วๆ ไป ไม่ใช่คอหนังอินดี้จ๋า ก็ถือว่าฟรีแลนซ์ฯ เป็นหนังอินดี้ที่หยอดมุกแบบหนัง GTH ได้ชนิดที่เกือบลงตัว ที่บอกว่าเกือบ เพราะหนังแอบหลงทางในบางช่วงไปหน่อย โดยเฉพาะตอนต้นที่ดูอินดี้จ๋ามาก ก่อนจะกลับมาโหมดหนังอินดี้แบบซอตฟ์ๆ ทำให้ขาดความสมูธไปบ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้เรายิ้มตามในบางฉาก ด้วยความที่บทค่อนข้างไหลลื่น ตัวละครหลักเล่นได้เป็นธรรมชาติดีมาก (มีโอกาสสูงที่จะเกาะกลุ่มกันเข้าชิงรางวัลสาขานักแสดงกัน รวมทั้งสาขาเขียนบทและกำกับ) องค์ประกอบฉากที่ดูพบเห็นได้จริง ถือเป็นส่วนผสมที่กลมกล่อมลงตัว และที่ได้รับชัวร์ๆ คือความเรียลเหมือนไม่ใช่หนัง เหมือน ผกก. กำลังพาเราไปส่องชีวิตของคนทำงานฟรีแลนซ์คนหนึ่งอยู่
freelance2

ซึ่งฟรีแลนซ์คนนั้นก็คือยุ่น (ซันนี่) ฟรีแลนซ์ขั้นเทพที่ทำงานยุ่งตลอดจนแทบไม่มีเวลาได้พักผ่อน ไม่ว่าจะงานด่วนสักแค่ไหน เขาก็จัดการได้หมดโดยมีรุ่นน้องอย่างเจ๋ (วี ไวโอเลต เล่นดีมากกก) คอยจ่ายงานให้อยู่เสมอ แต่ก็มีลูกค้าอยู่รายหนึ่งที่เขาไม่สามารถเอาชนะได้ คือร่างกายของเขานั่นเอง เมื่ออยู่ๆ ก็เริ่มมีผื่นขึ้นตามตัวเขาเป็นจำนวนมาก และดูเหมือนจะไม่มีทีท่าลดลงเลย การไปหาหมอจึงทำให้เขาได้เจอกับหมออิม (ใหม่ ดาวิกา) แพทย์ผิวหนังที่ทำให้เขาเขินได้ หลังจากวันนั้นเขาก็ตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงวันที่หมอนัด ขณะเดียวกันเขาก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองทำงานได้ช้าลง หรือการคิดถึงใครสักคนจะเป็นโรคที่รักษาไม่ได้
freelance4

หนังสะท้อนภาพของคนทำงานฟรีแลนซ์ได้อย่างตรงจุดและน่าจะตรงใจ เหมารวมถึงคนทำงานประจำที่ต้องขนงานกลับบ้านก็น่าจะร้องไห้หนักมากตามได้ไม่แพ้กัน ยิ้มอ่อน นี่มันตลกร้ายแต่ชวนละมุนชัดๆ เห็นได้อย่างหนึ่งเลยว่า ไม่ว่าจะเป็นงานแขนงไหน ก็ล้วนแล้วแต่มีเวลาเข้ามาเป็นตัวกำหนดและส่งผลต่อการดำเนินชีวิต ซึ่งผลที่ได้รับกลับมาคืออะไร ในหนังมีคำตอบอยู่แล้ว เพราะแต่ละซีนที่ใส่มาก็ล้วนสมจริง เป็นเรื่องใกล้ตัว สามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ขณะที่บางซีนอาจจะตั้งใจคอมเมดี้เกินไป และบางซีนก็เห็นในตัวอย่างไปแล้ว เลยทำให้ขำไม่สุด
freelance3

ขณะในส่วนของความเป็นหนังรัก ก็สามารถทำได้ดีในแนวทางที่ควรจะเป็น ไม่ล้นจนเกินไป ทั้งยังเติมเต็มให้เรารู้สึกเขินและอมยิ้มตามความสัมพันธ์ของตัวละครหลักทั้งสองได้แบบอยู่หมัด ที่ต้องชื่นชมเลยคือการนำอาชีพของตัวละครพระเอกนางเอกมาทำความรู้จักกันได้อย่างไม่ดูตั้งใจเกินไป แถมยังทำให้ลุ้นตามได้อยู่ หากแต่ความโรแมนติกยังไม่ฉีกจากสไตล์ GTH สักเท่าไร โดยภาพรวมทั้งหมด นี่คือหนังรอมคอม (โรแมนติกคอมเมดี้) อินดี้ที่บทดี ให้แง่คิดเกี่ยวกับการทำงานในปัจจุบัน นักแสดงเด่น เพลงประกอบเพราะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบอะไรแปลกใหม่ และเบื่อสไตล์ GTH แบบเดิมๆ ว่าแต่ดูจบแล้วใครอยากกินขนมจีบกุ้งบ้างมั้ยเอ่ย 8.5/10

เรื่อง : คิมคานา
ขอขอบคุณภาพจาก : GTH และ https://www.facebook.com/gthchannel

5 สะใภ้ตระกูลดังใครว่าสบายเป็นคุณนาย!…ณ จุดนี้ขอยืนด้วยลำแข้งฟินกว่าเยอะ!

กว่าจะได้แต่งงานกันต้องฝ่าด่านอรหันต์พิสูจน์ตัวเองสารพัดรูปแบบ พอสมหวังก็ใช่ว่าชีวิตจะสบาย แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นสะใภ้ตระกูลดัง แต่ก็ไม่คิดง้อเงินสามี

Screen Shot 2015-09-08 at 11.53.13 PM copy Screen Shot 2015-09-08 at 11.59.57 PM copy Screen Shot 2015-09-09 at 12.05.03 AM copyชมพู่ อารยา

เริ่มกันที่ชมพู่ ถ้าย้อนไปเมื่อหลายปีก่อนนางเคยลงทุนธุรกิจเปิดร้านทำผมชื่อ Celeb’Room ย่านสุขุมวิท 24 และเปิดร้านขายตุ๊กตาบลายธ์ชื่อ The Dolls House ก่อนที่จะมาร่วมกับเพื่อนสมัยเรียนทุบกระปุกนำเงินที่เก็บหอมออมริบร่วม 100 ล้าน เปิดธุรกิจเต้าหู้เพื่อสุขภาพแบรนด์ Daughter Brand (ตราลูกสาว) นับเป็นการวางรากฐานอนาคตไว้ให้มีความมั่งคงมากยิ่งขึ้น และเป็นสร้างสร้างฐานะด้วยตัวเองโดยไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจของหนุ่มน็อตแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าตัวแอบกระซิบมาว่าธุรกิจเต้าหู้ไข่ไปได้ดี ตีตลาดประเทศเพื่อนบ้านได้ แถมมียอดสั่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วยจ้า

Screen Shot 2015-09-09 at 12.13.58 AM copy Screen Shot 2015-09-09 at 12.20.31 AM copy Screen Shot 2015-09-09 at 12.23.06 AM copyนุ่น วรนุช

ถึงจะแต่งงานกับทายาทตระกูลภิรมย์ภักดี แต่สาวนุ่นก็ไม่เคยคิดที่จะเกาะคนในตระกูลแล้วนั่งๆ นอนๆ เป็นคุณนายอยู่กับบ้านเฉยๆตรงกันข้ามนางได้วางแผนอนาคตไว้แล้วว่าจะต้องทำมาหากินเลี้ยงชีพด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเปิดโรงเรียนนาฏศิลป์ชื่อ โรงเรียนนาฏก, ร้านส้มตำแสนแซ่บ นอกจากนี้ยังทำคอนโดมิเนียม The Peace condominium แล้วมีรถสุขาเคลื่อน อีก รวมทั้งธุรกิจขายหมวกนำเข้าจากต่างประเทศ และล่าสุดที่หุ้นกับเพื่อนสาวเจี๊ยบ โสภิตนภา ทำชุดเจ้าสาว Bride by Worra บอกเลยว่านางลุยเมคมันนี่เต็มสตรีมจริงๆ

5 ดารา ไร้สังกัด รุ่งหรือร่วงไม่แคร์ แต่ขอวัดดวงมายาด้วยฝีมือ

เคยมีคนบอกว่า อยากจะโด่งดัง มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง ต้องมีสังกัด เพราะค่ายจะป้อนผลงานให้ติดตาผู้ชมแบบเต็มที่ เราจึงเห็น ดารา นักร้อง มีนามสกุลเป็นค่ายเป็นช่องเต็มเมืองไปหมด

แต่ช่วงหลัง ถ้าสังเกตจะเห็นว่ามีดาราหลายคนที่ออกมาประกาศผ่านสื่อว่าตัวเองเป็นดาราไร้สังกัดเต็มตัว ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวมเอา 5 ดารา ระดับนางเอก ที่เลือกเดินทางชีวิตด้วยตัวเอง ไม่ของพึ่งสังกัดใดๆ ซึ่งแม้จะไม่มั่นคงเท่าเดิม แต่เพื่อแลกกับความอิสระแล้ว หลายคนก็ยอมแลกนะ ไปดูกันดีกว่าว่าทั้ง 5 สาวที่เรานำมาฝากวันนี้มีใครรุ่ง มีใครร่วง หลังจากเป็นดาราไร้สังกัดแล้วบ้าง

นุ่น – วรนุช ภิรมย์ภักดี
10570172_440005889473512_1709148288_nj

10387850_572349589544766_2003761941_n

 

เริ่มคนแรกกันที่ซุปตาร์หน้าหวานอย่างสาวนุ่น  วรนุช หลังจากที่อยู่กับช่อง 7 มานานหลายปีจนแจ้งเกิด ยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้แล้ว พอหมดสัญญาสาวนุ่นก็เลือกขอจบสัญญากับทางช่อง  แต่ก็ไม่ได้ย้ายไปเซ็นกับค่ายไหน เลือกเป็นนักแสดงอิสระแทน เพราะด้วยประสบการณ์ที่เธอได้รับมา ถือว่าแกร่งกล้าพอที่จะอยู่แบบไร้สังกัด อีกอย่างหนึ่งคือตอนนี้สาวนุ่นแต่งงานมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว จึงอยากรับงานที่อยากทำจริงๆ ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากที่ข่าวของสาวนุ่นไร้สังกัดแพร่ออกไป งานแสดงต่างๆ ก็จ่อแถวกันเข้ามามากมาย โดยละครเรื่องแรกที่เธอรับหลังจากเป็นนักแสดงอิสระแล้วก็คือละครเรื่อง “อีสา” ทางช่อง 5 ซึ่งถือว่าฟีดแบคดีทีเดียว แต่ที่ดังจนใครๆ ก็ต้องจดจำสาวนุ่นแบบต้องคุยกันทุกเช้าช่วงที่ละครออนแอร์ ก็คือบทอีลำยองในละครเรื่อง “ทองเนื้อเก้า” ของค่ายAct art ช่อง 3  และล่าสุดที่กำลังเปรี้ยงปังอยู่ตอนนี้ก็คือละคร พิษสวาท ที่ออกอากาศทางช่อง One จนมีแฮ็กแท็ก #พิษสวาทกันทั้งบ้านทั้งเมือง ติดท็อปทวิตเตอร์ต่อกันหลายสัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวการันตีว่า ถึงแม้จะไร้สังกัด แต่ก็เกิดได้นะจ๊ะ

‘น้ำตาล ณัชชา’ ถอดแบบ ‘ตั๊ก มยุรา’ มาเป๊ะ! สวยใส สาวสะพรั่ง

Screen Shot 2015-09-08 at 1.03.45 AM copyScreen Shot 2015-09-08 at 12.12.03 AM copyน้ำตาลมีกรุ๊ปเลือด B ซึ่งเป็นกรุ๊ปเดียวกันกับตั๊ก แล้วที่สำคัญคือ  สายตาสั้นตั้งแต่อายุ 14 ปีเหมือนทั้งแม่ตั๊กและพ่อธาดาอีกด้วยScreen Shot 2015-09-08 at 12.13.18 AM copy

Screen Shot 2015-09-08 at 12.12.45 AM copyนอกจากนี้เรื่องความเป็นคนเจ้าระเบียบ และรักสะอาดเป็นชีวิตจิตใจของตั๊กก็ทำให้ลูกสาวคนนี้ได้รับเอานิสัยส่วนนี้ของคุณแม่มาแบบเต็มๆ ส่วนเรื่องการเรียนนั้นก็ดีเลิศ รวมทั้งกีฬาด้วย โดยเฉพาะการว่ายน้ำ เล่นเทนนิส รวมถึงการเล่นเปียโน  เพราะทั้งหมดนี้เป็นกิจกรรมสุดโปรดที่แม่ตั๊กรักนักรักหนา จึงเคี่ยวเข็นให้ลูกสาวเอาเป็นแบบอย่าง

อนาคตจะเจริญรอยตามคุณแม่เข้าวงการหรือเปล่านั้นต้องติดตามจ้า

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : namtarnnatchaa

คอสตูมละคร คนดูปลื้ม นางเอกสวยปัง ชุดพังนางเอกดับอนาถ

คอสตูมละคร คนดูปลื้ม นางเอกสวยปัง ชุดพังนางเอกดับอนาถ

องค์ประกอบของละคร แน่นอนว่ามีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ทำให้ภาพรวมของเรื่องนั้นมีความลงตัวมากที่สุด และหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องเสื้อผ้า หน้า ผม ที่ต้องเตรียมมาอย่างดีเพื่อให้บทบาทของนักแสดงดูเหมาะสมเข้ากับตัวละครที่เล่น ซึ่งที่ผ่านมาการวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง คอสตูมละคร ก็มีพูดถึงกันอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะตัวนางเอกที่เป็นผู้สวมบทบาทและสวมใส่เสื้อผ้าซึ่งก็มีทั้งโดนใจคนดู และทำให้คนดูตกใจมาก็หลายเรื่อง

คอสตูมละคร
จากละครเรื่องรอยมาร

เริ่มที่นางเอกดาวรุ่งของช่อง 3 อย่างเบลล่า – ราณี แคมเปญ หากใครยังจำได้กับผลงานละครเรื่องแรกของเธอ ในบทเมธาวี จากเรื่องรอยมาร ก็คงยังจำภาพชุดสีสันสไตล์คัลเลอร์บล็อกที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักได้ เพราะแต่ละชุดนอกจากจะได้สีสันตัดกันเกินไปแล้ว ทรงผม และเครื่องประดับที่ประโคมใส่ลงไปก็ดูไม่ข้ากันสักอย่าง ดูทุกอย่างมันแน่นไปหมด แต่แม้ว่าจะถูกตำหนิเรื่องคอสตูมจนชาวเน็ตนำภาพไปล้อเลียนบ้างก็ตาม แต่เรื่องนี้ถือว่าแจ้งเกิดสาวเบลล่าได้อย่างเต็มตัว แม้ว่าจะเล่นบทร้ายแต่ก็เล่นได้น่าหมันไส้ และน่าสงสารช่วงท้ายเรื่องให้คนดูอินกันมาแล้ว

คอสตูมละคร
จากละครเรื่องอันโกะ กลรักสตรอเบอร์รี่
คอสตูมละคร
ออกทุกฉากเซอร์ไพรส์ทุกชุดจริงๆ

จะขาดสาวคนนี้คงไม่ได้ สำหรับชมพู่ – อารยา เอ ฮาร์เก็ต กับบทบาทสาวมั่นอันโกะ ในกลรักสตรอเบอร์รี่ ที่เจ้าตัวออกไอเดียเรื่องเสื้อผ้าการแต่ตัวเอง แน่นอนว่าแต่ละชุดไม่มีใครคาดถึงว่าแต่ละฉากสาวชมจะใส่อะไรมา เรียกว่าเป็นละครที่ใช้ชุดนางเอกเปลืองมากที่สุด และก็เป็นเรื่องที่ฉีกกฎการแต่งตัวของนางเอกมากที่สุดด้วย

คอสตูมละคร
จากละครเรื่องสูตรเสน่หา
คอสตูมละคร
แต่งตัวดี ไม่เคยมีที่ติเลยจริงๆ สำหรับสาวแอน

มาต่อที่ละครสุดฮอตอย่างสูตรเสน่หา ที่มาแรงแซงทุกเรื่องในช่วงที่ออนแอร์ เพราะนอกจากบทบาทการแสดงของพระนางอย่างเคน ธีรเดช และแอน ทองประสมจะลงตัวเหมาะเจาะกันมากๆ จนเกิดกระแสคู่จิ้นคุณนายอลินกับครูกุ๊กไปพักใหญ่แล้ว อีกเรื่องที่นักวิจารณ์และคนดูทั่วๆ ไปต่างชื่นชมก็คือการจัดเสื้อผ้าให้กับสาวแอนที่สวยเป๊ะ ดูดีมีคลาสทุกฉากสมกับนางเอกไฮโซเจ้าอารมณ์สุดๆ เรื่องนี้ขนาดว่าลาจอไปแล้วกระแสคุณนายอลินก็ยังไม่หายไปง่ายๆ แถมตบท้ายด้วยการที่สาวแอนคว้ารางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากละครเรื่องนี้ไปได้อีกด้วย

คอสตูมละคร
จากละครเรื่องเพื่อนรักเพื่อนริษยา

ล่าสุดที่ตอนนี้กำลังถูกชาวเน็ตโจมตีย่างหนักคงหนีไม่พ้นเรื่อง เพื่อนรักเพื่อนริษยา ที่ออนแอร์ไปได้ไม่ทันไร ก็ถูกพูดถึงแทบทุกประเด็นทั้งเรื่องการคัดเลือกนักแสดงที่คนดูรู้สึกว่ายังไม่ฟินจิ้นไม่พอ รวมไปถึงกระแสคอสตูมของนางเอกสาวสวย นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี ที่แม้จะแบรนด์เนมทั้งตัว แต่กลับไปลงตัวไปในทางเดียวกันสักอย่าง ขัดกับลุคของสาวนุ่นตัวจริงที่สวยใสไฮโซสุดๆ งานนี้เรื่องฝีมือการแสดงของสาวนุ่นจึงไม่ถูกพูดถึงมากนัก เพราะดันเจอกระแสคอสตูมทำพิษไปแล้วเต็มๆ

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : IG @nuneworanuch/@bellacampen/@chomismaterialgirl/@annethong

ขอขอบคุณภาพละครจาก ไทยทีวีสีช่อง 3

 

Twitter : sriploi17

 

ติดตามอัพเดตเรื่องราวต่างๆจากนิตยสารแพรวให้สนุกยิ่งขึ้นได้ที่

www.facebook.com/praewmagazine

Instagram : @praewmag

และติดตามอ่าน แพรว E-Magazine ได้แล้ววันนี้เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

  • Praew E-magazine
  • NaiinPann
  • Ookbee

 

 

 

PRAEW SELECTED : แจกรางวัลสัปดาห์ที่ 40

1.พิมพ์คำตอบว่า “งานแพรวแชริตี้มีสินค้าแบรนด์เนมร่วมประมูลทั้งหมด…..ชิ้น” และใส่ #praewselected #แพรวดอทคอม #นิตยสารแพรว ลงในComment กิจกรรมนี้ พร้อมกด also post on facebook เพื่อแชร์กิจกรรมนี้ให้ขึ้นที่หน้าFacebook ของคุณ (ตั้งค่าเป็นสาธารณะ)

2.กดไลค์เพจ Praew magazine https://www.facebook.com/praewmagazine?ref=tn_tnmn

*หาคำตอบได้ที่ https://praew.com/17883/lifestyle/praew-charity/

ผู้ที่ทำถูกต้องตามกติการายชื่อทั้งหมดจะนำมาคัดเลือกเพื่อหาผู้โชคดีที่ เพื่อรับของรางวัล

–          RJK Multi Whitening Serum 30 ml. มูลค่า 920 บาท

–          RJK Multi Whitening Day & Night Cream 15+15 ml. มูลค่า 690 บาท

–          RJK Multi Whitening Foam Oil Control 100 ml. มูลค่า 415 บาท

จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 2,025 บาท

Multi Whitening_SDNF
รวมมูลค่า 10,125 บาท

หมดเขตร่วมกิจกรรมวันที่ 13 กันยายน 2558 ประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 14 กันยายน 2558

คอสตูม ” เพื่อนรักเพื่อนริษยา ” ดับคาจอ หรือเพราะมันเป็นแฟชั่น?

เพิ่งออนแอร์ไปได้ไม่กี่ตอนกับละครสุดร้อนแรงแห่งปี “ เพื่อนรักเพื่อนริษยา ” ที่ออนแอร์ทางช่อง 3 ผลงานจากค่ายโพลีพลัส ทำให้หลายคนคาดหวังกับเรื่องนี้มาก รวมทั้งได้ 3 นางเอกแถวหน้าของวงการ นุ่น วรนุช, คริส หอวัง และลีเดีย ศรัณย์รัชต์ มารับบทตัวเอก 3 สาวเพื่อนรักที่ต้องกลายเป็นเพื่อนริษยา ทำให้คนดูเฝ้าหน้าจอตั้งแต่ตอนแรก

เพื่อนรักเพื่อนริษยา

แต่พอออนแอร์ไปไม่กี่ตอนก็เจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลายเรื่อง ทั้งเรื่องอายุของนักแสดงกับบทที่ได้รับ ดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะสาวนุ่นที่ดูจะโดนหนักกว่าเพื่อน แต่ที่ฮือฮาไม่แพ้กันก็คงจะเป็นแฟชั่นการแต่งตัวของสาวนุ่นกับหนุ่มก้องที่ทางคอสตูมจัดให้ทั้งชุด เสื้อผ้า หน้าผม ที่ถึงแม้จะเป็นแบรนด์เนมทั้งตัว แต่ก็ขัดใจคนดูและชาวเน็ตเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่ากระแสแฟชั่นการแต่งตัวของสาวนุ่นและหนุ่มก้อง แรงกว่าเนื้อเรื่องในละครซะอีก ไปดูกันดีกว่าว่าจะจริงอย่างที่เขาว่ากันรึเปล่า

เพื่อนรักเพื่อนริษยามาเริ่มที่แฟชั่นการแต่งตัวของสาวนุ่นในเรื่องก่อนเลย อย่างแรกที่เป็นจุดเด่นจนทำให้ชาวเน็ตช็อค! ก็คือสร้อยคอที่สาวนุ่นใส่ ถึงจะติดยี่ห้อว่าเป็นแบรนด์ดังอย่าง Chanel ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เพราะด้วยดีไซน์ที่ดูยังไง๊ ยังไงก็คือโซ่กับแม่กุญแจดีๆ นี่เอง แถมยังใหญ่เกินหน้าเกินตาสาวนุ่น แย่งซีนสุดๆ บวกกับการแมตช์ชุดและเสื้อผ้า หน้าผม ที่ดูขัดกันสุดๆ อย่างเช่น การเล่นสีของเสื้อสีเขียวกับเครื่องประดับอย่าง สร้อยสีเหลือง กระเป๋าสีคัลเลอร์ฟูลจนหลายคนออกมาแซวอย่างเจ็บๆ คันๆ ว่าดูคล้ายกับนกแก้วบ้างล่ะ สีไฟจราจรบ้างล่ะ
แล้วไหนจะรวมถึงการแต่งหน้า ทำผม ที่ทำสาวนุ่นดูแก่ไปสักหน่อยและไม่เข้ากับชุดเอาซะเลย งานนี้ถึงฝ่ายคอสตูมจะออกมาแก้ตัว “มันคือแฟชั่น” แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เท่าที่ได้ลองดูแฟชั่นของเมืองนอกกับสร้อยเจ้าปัญหาอย่าง Chanel padlock necklace ก็คิดว่าดูลงตัวกว่าฉบับของสาวนุ่นอยู่นะ

เพื่อนรักเพื่อนริษยา
สร้อยคอ chanel padlock necklace Fall-Winter 2014/15 collection เครดิตภาพ chanel

ต้องยอมรับว่าของเมืองนอกเขาแต่งออกมาแล้วดูแพงกว่าของเราเยอะ แต่จะอ้างว่าเพราะนางแบบของเขาระดับอินเตอร์ก็ไม่ถูกนะ เพราะถ้าสังเกตดูให้ดีๆ การมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้า หน้าผม ของต่างประเทศเขาทำออกมาได้ลงตัวมาก เช่น ถ้าอยากจะให้สร้อยคอเด่น อย่างอื่นก็ไม่ควรเด่นเกิน เสื้อผ้าควรน้อยๆ แต่เรียบหรูไว้ก่อนจะดีที่สุด เพราะไม่งั้นทั้งชุดก็คงแย่งซีนกันเอง แทนที่จะสวยกลับกลายเป็นพัง! เอาได้ง่ายๆ อีกอย่างหนึ่งที่ควรใสใจด้วยก็คือ ทรงผม ถ้าย้อนกลับขึ้นไปดู จะเห็นว่าทรงผมของสาวนุ่น ม้วนลอนมากองไว้ข้างหน้าทำให้ดูรก ลองเปลี่ยนมารวบผมไว้ข้างหลังหรือทำทรงง่ายๆ ที่ดูธรรมดาๆ แทน หรือไม่ถ้าอยากจะเล่นสีสันก็ควรเลือกมาสักอย่างว่าจะโชว์ หรืออยากจะให้อะไรเด่น ซึ่งที่จริงก็เป็นกฎพื้นฐานของแฟชั่นการแต่งตัวอยู่แล้ว

เพื่อนรักเพื่อนริษยา

มาดูฟากของหนุ่มก้องกันบ้าง ที่โดนวิจารณ์เรื่องแฟชั่นการแต่งตัวซึ่งดูเยอะ! เกินผู้ชาย จนหลายคนมองว่าดูเกย์มากกว่าจะดูแมน ไม่ว่าจะเป็น แฟชั่นเสื้อลายเสือดาวที่มาคิดๆ ดูแล้ว จะมีผู้ชายสักกี่คนที่เขาใส่กัน? ยังไม่หมดเพียงแค่นี้ ยังรวมไปถึงเครื่องประดับที่หนุ่มก้องจัดเต็มมากทั้งต่างหู สร้อยคอ และแหวนทอง จัดมาครบเซ็ตเลยทีเดียว ซึ่งมันทำให้ดูเยอะเกินผู้ชายไปซักนิด เพราะด้วยหน้าตาของหนุ่มก้องที่ขาวตี๋ปากแดงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้ดูสำอาง ยิ่งประโคมแฟชั่นเซ็ตนี้เข้าไป ไม่แปลกที่คนจะคิดอย่างนั้น แนะนำให้ลดความเป็นแฟชั่นจ๋าลงหน่อย เพื่อให้ลุคของหนุ่มก้องดูเข้มขึ้นมาอีกนิด ก็คงจะลงตัวมากจ้า

เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : chanel, www.drama.tlcthai.com

 

ติดตามอัพเดตเรื่องราวต่างๆจากนิตยสารแพรวให้สนุกยิ่งขึ้นได้ที่

www.facebook.com/praewmagazine

Instagram : @praewmag

และติดตามอ่าน แพรว E-Magazine ได้แล้ววันนี้เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

  • Praew E-magazine
  • NaiinPann
  • Ookbee

ณ จุดนี้มีกรามแล้วไง! 5 นางเอกดังเชิดใส่ไม่สนหน้าวีเชฟ ก็สวยได้!

นางเอกดังเชิดใส่ไม่สนหน้าวีเชฟ เน้นสวยแบบมีเอกลักษณ์

นางเอกดังเชิดใส่ไม่สนหน้าวีเชฟ ยังมีให้เห็นอยู่  ไม่ต้องทำตามกระแส บล็อคหน้าไม่ต้องเหมือนใคร แถมยังดูสวยมีเอกลักษณ์ไปอีกแบบ มีใครกันบ้างไปดูกันเลยจ้า

cheap lace front wigs 

cheap lace front wigs 

Screen Shot 2015-09-06 at 8.15.36 PM copy curly wigsมาร์กี้-ราศรี บาเล็นซิเอก้า

เริ่มที่สาวมาร์กี้ใครเคยเห็นตัวจริงแล้วจะยิ่งเข้าใจว่า ออร่าคืออะไร เพราะหน้าเด่นมาแต่ไกล จริงๆ สาวมาร์กี้ไม่ได้หน้าใหญ่อะไรเลย ตรงกันข้ามหน้าเล็กมาก แต่เรียวเล็กแบบมีเอกลักษณ์ ไม่เกลื่อนเหมือนที่เห็นกันทั่วๆ ไป

“KTB” เปิดประตูเล้าจน์สุดหรู “เคทีบี พรีเชียส พลัส เล้าจน์” สัมผัสประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟเหนือระดับ

1

คุณวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เล่าถึงที่มาของเล้าจน์สุดหรูหราที่ตั้งอยู่กลางศูนย์การค้าสยามพารากอนแห่งนี้ว่า “นับเป็นครั้งแรกที่ทางธนาคารกรุงไทย ได้มีการปรับโฉมภาพลักษณ์ของธนาคาร โดยนำร่องเปิด เคทีบี พรีเชียส พลัส เล้าจน์ แห่งนี้ขึ้น บนพื้นที่ 273 ตารางเมตร โดยเป็นเล้าจน์เอ็กซ์คลูซีฟแห่งแรก ที่ถูกออกแบบขึ้นอย่างประณีต รังสรรค์ขึ้นจากความตั้งใจเพื่อลูกค้าคนสำคัญโดยเฉพาะ โดยในด้านของดีไซน์มีการออกแบบให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าธนาคารเป็นหลัก โดยคงสีฟ้าสีประจำธนาคารไว้กับเฉด สี Mid Night Blue (มิดไนท์ บลู) ซึ่งเป็นสีหลักของ KTB Precious Plus และสัญลักษณ์ นกวายุภักษ์ของธนาคาร ส่วนคอนเซ็ปต์ยังคงเน้นถึงการเติบโตไปพร้อมๆ กัน นั่นคือ KTB Growing Together มาเป็นจุดเริ่มต้นของแนวความคิดในการออกแบบ และเนื่องจากลูกค้า KTB Precious Plus เป็นกลุ่มลูกค้าที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ หน้าที่การงานและสังคม การดีไซน์และตกแต่งจึงต้องมีความพิเศษเฉพาะตัว อาทิ การใช้กระจก 3 ชั้น สีคอปเปอร์ ที่มีแพตเทิร์นสลักลายในกระจกประยุกต์มาจากขนนกวายุภักษ์ สะท้อนความเป็นไทยที่ผสมผสานกับความทันสมัยของปัจจุบัน อีกทั้ง วัสดุที่ใช้ไม้วิเนียร์ที่ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและเป็นกันเอง นอกจากนั้นยังเพิ่มความหรูหราด้วยสแตนเลส คอปเปอร์ เพิ่มประสบการณ์ที่พิเศษแก่ลูกค้า เสมือนเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวเพื่อพักผ่อนหรือทางธุรกรรมทางการเงินได้อย่างสะดวกสบาย”

2

คุณวรภัค เล่าเพิ่มเติมว่า “จุดเด่นของเล้าจน์ที่นอกเหนือจากด้านดีไซน์แล้ว เรายังคำนึงถึงเรื่องการบริการที่ต้องมีความเลิศที่สุด โดยเราได้นำแนวคิดเรื่อง Sensory Branding (เซ้นส์ซอรี่ แบรนดิ้ง) มาปรับใช้ อาทิ

การให้บริการด้านเครื่องดื่มและเมนูสุดพรีเมียมจาก Dean & Deluca แบรนด์ชื่อดังจากนิวยอร์ก รวมทั้งกลิ่นหอมพิเศษ KTB Sense สุดเอ็กซ์คลูซีฟ จากแบรนด์ HARNN Natural Home Spa ที่คิดค้นกลิ่นเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อเล้าจน์แห่งนี้โดยเฉพาะ และยังมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของธนาคารที่มี IP License (Investment Planner) คอยให้บริการเป็นที่ปรึกษาและบริการด้านการเงิน พร้อมจัดพอร์ตการลงทุนภายในเล้าจน์อีกด้วย พร้อมทั้งมีพื้นที่จอดรถส่วนตัวตั้งแต่ขับรถเข้ามาภายในศูนย์การค้าเลย นอกเหนือจากส่วนของเล้าจน์เพื่อลูกค้ากลุ่มบัตรเครดิต KTB Precious Plus Infinite และ KTB Precious Plus แล้ว ทางธนาคารยังมีส่วนพื้นที่สาขาสำหรับบุคคลทั่วไปได้มาใช้บริการเต็มรูปแบบด้วยเช่นกัน โดยมีจุดเด่น คือ การนำเครื่อง Virtual Teller Machine (VTM) ที่สามารถเปิดบัญชี ทำและรับบัตรเอทีเอ็ม (ATM) ไปใช้งานได้ทันที ให้การทำธุรกรรมเป็นเรื่องง่าย สะดวก และรวดเร็ว ซึ่งนับว่าเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีให้บริการในรูปแบบนี้”

3

ภายในงาน ได้รับเกียรติจาก 3 หนุ่ม กรณ์ ณรงค์เดช, ณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์, ธนทัต ชวาลดิฐ ที่มาร่วมบอกเล่าถึงไลฟ์สไตล์ในการออมเงิน รวมทั้งประสบการณ์ประทับใจในการได้ใช้บริการเล้าจน์กันอีกด้วย เริ่มต้นด้วย กรณ์ ณรงค์เดช บอกเล่าว่า “ปกติจะชอบมาทำธุรกรรมเอง ยิ่งถ้าได้พบกับพนักงานคนเดิมที่คุ้นเคย ก็เหมือนเพื่อนที่รู้ใจ มีความเข้าใจในความต้องการของเรา แถมถ้าธนาคารนั้นมีบรรยากาศแวดล้อมที่ดี เป็นมากกว่าธนาคาร ก็ทำให้เราได้ใช้เวลาอยู่ในธนาคารได้นานขึ้น นั่งพักทานกาแฟได้ก็จะยิ่งดีครับ” ด้านหนุ่ม      ณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ บอกเล่าถึงการเป็นพันธมิตรที่ดีมาอย่างยาวนานว่า “อย่างธุรกิจที่บ้าน คือ ช.การช่าง เรียกว่ามีความผูกพันธ์มากว่า 40 ปี เรียกว่าอยู่ร่วมกับเรามาตั้งแต่ต้น ไม่ใช่เพียงแค่คู่ค้า แต่นับเป็นพาร์ทเนอร์ที่ได้ทำธุรกิจร่วมกันตั้งแต่ผมเกิดมาเลยก็ว่าได้” ส่วน ธนทัต ชวาลดิฐ ก็เล่าว่า “ผมชอบการที่ได้มาแล้วได้ปรึกษาบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะเราจะได้มีความมั่นใจได้ว่า เงินที่เราออมหรือลงทุนนั้นจะไปอยู่ที่ไหน อย่างไรก็ตาม ถ้าได้โค้ชที่ดีการออมของเราก็จะไม่ได้นิ่งอยู่กับที่ น่าจะมีการเติบโตไปอย่างที่ตั้งใจครับ”

4 5 6

นอกจากนั้น ค่ำคืนแห่งการฉลองยังเต็มไปด้วยบุคคลระดับวีวีไอพี นักธุรกิจชั้นนำ และเหล่าเซเลบริตี้ ร่วมสัมผัสดีไซน์เล้าจน์สุดหรู พร้อมสัมผัสบริการทางการเงินระดับวีไอพีรูปแบบใหม่ภายในเล้าจน์

KTB Precious Plus Lounge (เคทีบี พรีเชียส พลัส เล้าจน์) เพื่อลูกค้ากลุ่มบัตรเครดิต KTB Precious Plus และ ธนาคารกรุงไทย สาขาสยามพารากอน สำหรับลูกค้าทั่วไป เปิดให้บริการแล้ว       ณ ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ตั้งแต่เวลา 10.30 น. – 19.30 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม      โทร.02-111-1111

Bovet Amadeo® Fleurier Braveheart ความสามารถด้านกลไกที่เหนือกว่า กับศิลปะแบบจัดเต็ม

นอกจากความหรูแบบมีระดับกับแฟชั่นนาฬิกา ที่แต่ละเรือนต่างโชว์ความพิเศษแห่งกลไก ความล้ำแห่งเทคโนโลยี ความก้าวหน้าด้านวิศวกรรม รวมถึงคุณสมบัติที่คนรักนาฬิกาปรารถนาจะมีไว้ในครอบครอง ภายในงานยังมีแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟระดับโลก อย่าง Bovet (โบเว่ต์) ที่นำนาฬิกาไฮไลท์ร่วมจัดแสดงเฉพาะในงาน “เซ็นทรัล อินเตอร์เนชั่นเนล วอทช์ แฟร์ 2015” เท่านั้น อาทิ

Bovet Amadeo® Fleurier Braveheart โบเว่ต์ อะมาดิโอเฟอร์ริเย่ร์ เบรฟฮาร์ท ตัวเรือนอัจฉริยะ ปรับเปลี่ยนได้สามรูปแบบ โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ ตัวเรือนเรดโกลด์ขนาด 45.2 มม. หน้าปัดใส เผยโฉมชิ้นส่วนของเครื่องเสมือนเป็นดาวเด่นของเรือนเวลา ประดับเพชรบาเก็ตคัท 72 เม็ด น้ำหนัก 1.6 กะรัต และดูเวลาได้ 2 ด้าน เครื่องนาฬิกาแบบขั้นลานอัตโนมัติ มีกำลังลานสำรองนานถึง 22 วันในตัวเรือน กลไกลทูริบิญอง อบบสเกลตันที่ฉลุลวดลาย มาพร้อมกับสายหนังจระเข้และสายสร้อย ผลิต 30 เรือนทั่วโลก ราคา 25,500,00.- บาท

1 2 3

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : Bovet

8 สาวสะบัดบ๊อบแล้วเกิด…ยิ่งไว้ยิ่งหน้าเด็กเว่อร์!

Screen Shot 2015-09-06 at 12.08.55 AM copyScreen Shot 2015-09-06 at 12.06.00 AM copyแมท-ภีรนีย์ คงไทย

Screen Shot 2015-09-05 at 11.36.54 PM copy Screen Shot 2015-09-05 at 11.36.45 PM copyแพทตี้ อังศุมาลิน

Screen Shot 2015-09-06 at 12.59.18 AM copy Screen Shot 2015-09-06 at 12.58.48 AM copy Screen Shot 2015-09-06 at 12.58.27 AM copyเอ๋ มณีรัตน์ คำอ้วนScreen Shot 2015-09-06 at 1.05.43 AM copy Screen Shot 2015-09-06 at 1.05.28 AM copy Screen Shot 2015-09-06 at 1.05.05 AM copyเพชร-รัตนารัตน์ เอื้อทวีกุล Screen Shot 2015-09-06 at 1.02.28 AM copyScreen Shot 2015-09-06 at 12.20.51 AM copyพลอย หอวัง

Screen Shot 2015-09-06 at 12.42.53 AM copy Screen Shot 2015-09-06 at 12.42.15 AM copy Screen Shot 2015-09-06 at 12.41.47 AM copyนิว- นภัสสร ภูธรใจ Screen Shot 2015-09-06 at 12.28.40 AM copyScreen Shot 2015-09-06 at 12.23.56 AM copyScreen Shot 2015-09-06 at 12.22.07 AM copyหลิน มชณตScreen Shot 2015-09-06 at 12.26.30 AM copy Screen Shot 2015-09-06 at 12.25.17 AM copy Screen Shot 2015-09-06 at 12.24.42 AM copy แพรว คณิตกุล

ภาพ:Preawkanitkul,Paloyh,linn_mashannoad,brandnew_nj,mattperanee,pattieung,ae_manee,@petchnla

keyboard_arrow_up