เบนซ์ ปุณยาพร เป็นอีกหนึ่งนางเอกสาวที่ผันตัวออกมาเป็นนักแสดงอิสระหลังตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัดเดิม ทำให้เกิดกระแสทางโซเชี่ยลว่าเป็นคนเนรคุณ ไม่ต่อสัญญาเพราะเรื่องเงิน !!

ล่าสุด สาวเบนซ์ ได้ออกมาเปิดใจในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง One 31 รวมถึงเผยสาเหตุที่ยังไม่เปิดตัวหวานใจเพราะเชื่อเรื่องดวง กลัวงานหด !!

ตอนนี้เป็นนักแสดงอิสระเต็มตัว ไร้สังกัด ?

เบนซ์ : ใช่ค่ะ ตัดสินใจออกมาเพราะอยากออกมาหาประสบการณ์ใหม่ๆ ตัวเราก็โตขึ้นด้วย อยู่มาก็ 10 กว่าปี มีความรู้สึกว่าการที่เราได้รับแต่บทเดิมๆ เราก็อยากจะเปลี่ยนบ้าง อยากเจอกองใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆบ้าง

ได้คุยกับที่เดิม ?

เบนซ์ : เรียบร้อยค่ะ คุยกันโอเค ตอนที่เรียกเข้าไปคุยว่าจะต่อสัญญามั้ย ก็คุยกันว่าเราก็อยากโตขึ้น

ปกติเขาเรียกเราเข้าไปหรือเราเข้าไปเวลาครบสัญญา ?

เบนซ์ : เขาจะมาบอกค่ะ ว่าตอนนี้จะหมดแล้ว เบนซ์อยากจะต่อมั้ย เบนซ์มีความรู้สึกว่าอยากเปลี่ยนแล้ว เราเลยคุยกับเขาว่าไม่ต่อก็แล้วกัน

กับที่เดิมช่องมากสีอยู่กับเค้ามากี่ปีแล้ว ?

เบนซ์ : ประมาณ 14-15 ปีค่ะ ตั้งแต่อายุ 18 เราเข้าวงการโดยการประกวดดัชชี่ มาทำงานด้วย มาเรียนด้วย เหมือนจับพลัดจับผลูว่ามาประกวด ได้ตำแหน่ง แล้วก็ได้มาทำงาน

สาเหตุที่ไม่ต่อสัญญาเพราะน้อยใจหรือเปล่า ช่องดันแต่เด็กใหม่ๆ ?

เบนซ์ : เรื่องนี้เบนซ์ว่าคนในวงการบันเทิงน่าจะเจออยู่แล้ว แล้วมันก็ต้องมีรุ่นใหม่ๆเกิดขึ้นเรื่อยๆอยู่แล้ว เราก็มองภาพตัวเราเองว่าเราก็อายุมากขึ้น เค้าก็ต้องดันคนอื่นอยู่แล้ว ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติ แล้วก็มีความรู้สึกว่าเราควรให้รุ่นน้องขึ้นมาแล้วเราก็ไปหาที่อื่นๆ เอาดีกว่า น่าจะมีความหลากหลายมากกว่า เบนซ์ก็เลยตัดสินใจว่าไม่ต่อดีกว่า

จริงๆตั้งแต่เข้ามาส่วนใหญ่รับบทอะไรบ้าง ?

เบนซ์ : จริงๆถือว่าโชคดีมากๆ จับพลัดจับผลูได้เป็นนางเอกเลย แก่นเซี้ยว เล่นตั้งแต่เด็กจนโตเป็นแม่ ทุกคนก็จะแบบทำไมเอาเด็กอายุ 18 มาเล่นเป็นแม่ในตอนนั้น ในเรื่องอีกเรื่องหนึ่ง มันเป็นบทบาทที่ยากสำหรับเราเพราะเล่นตั้งแต่เป็นเด็ก มาเป็นผู้ใหญ่ จนแก่ มันยากมากสำหรับเรา ก็มีความกดดัน

เหตุผลบอกว่าได้เล่นแต่บทเดิมๆ แต่จริงๆ ก็เปลี่ยนเยอะเหมือนกันนะ ? ร้ายเล่นมั้ย ?

เบนซ์ : ร้ายก็เล่นค่ะ เล่นหมดทุกอย่าง แต่ว่าช่วงหลังๆ ก็จะได้รับแต่บทเรียบร้อยเกินไป ซึ่งไม่ใช่ตัวเรา คือจริงๆ แล้วรู้สึกว่าตัวเราน่าจะมีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง ให้คนดูได้เห็นอย่างอื่นบ้าง

ไม่ต่อสัญญาเพราะเรื่องเงินเกี่ยวมั้ย ?

เบนซ์ : เรื่องเงินเป็นอะไรที่เราก็อยากได้ไปทุกช่อง เพราะว่าด้วยภาระของเรามี ยอมรับว่าเบนซ์ก็ซื้อบ้านด้วยที่กรุงเทพฯ แล้วเป็นช่วงที่เราต้องหาเงินไม่อยากเป็นหนี้ แล้วเราก็อยากจะปิดบ้านให้หมด เราก็ตั้งเป้าหมายในชีวิตว่าอีก 5 ปีอยากจะปิดบ้านให้หมด ก็เลยตัดสินใจว่าออกมาดีกว่า ถามว่ายอมรับมั้ยก็ยอมรับนะ ทุกคนก็อยากได้เงินมั้ย ? อีกอย่างเบนซ์ก็ทำธุรกิจด้วยก็อยากจะโฆษณาช่องอื่นด้วย ถ้าเราอยู่แค่ช่องๆเดียวมันก็ได้แค่ช่องเดียว

วันที่ผู้ใหญ่เรียกเข้าไปคุยแล้วเราต้องบอกเหตุผลเขาแบบนี้ เขาว่ายังไงบ้าง ?

เบนซ์ : พูดเรื่องนี้ทีไรแล้วรู้สึกอึดอัด ตอนนั้นเราคิดนานมากเลย เราทำงานในวงการที่นี่มาเกือบ 15 ปี คือเหมือนกับเขาให้เงินแล้วก็ดูแลเราเป็นอย่างดี ไม่เคยมีใครรู้เลยว่าหนูรู้สึกยังไงเวลาที่เห็นคอมเม้นท์ต่างๆ มากมายว่าทำไมอกตัญญูกับช่องเดิม ทำไมไม่อยู่ที่เดิม แต่เขาไม่รู้ข้างหลังเลยว่าเรามีภาระจะต้องทำงาน ตอนที่เราตัดสินใจไปบอกเขา ช่วงนั้นเป็นช่วงใกล้ๆ วันเกิดเรา ก็คิดว่าเขาคงไม่มีเค้กให้เราแล้วเพราะเราออกไปแล้ว แต่เขาก็ยังโทรมาบอกว่า “น้องเบนซ์เดี๋ยวมารับเค้กวันเกิดของเราด้วยนะ” วันนั้นเลยโทรไปหาแม่ว่ารู้สึกใจหายจังเลย เราเป็นเหมือนพนักงานออฟฟิศคนหนึ่ง ที่เราทำงานแล้วยอยู่ดีๆ ก็ต้องย้าย ออกจากที่เดิม มันก็ใจหาย พอพูดเรื่องนี้ทีไรรู้สึกแบบนี้ตลอกเวลา มันตื้นตัน ก็ยังรักอยู่เหมือนเดิม ตอนที่ไปบอกเขา เขาก็บอกว่าถ้ามีคาแร็คเตอร์อะไรที่เหมาะ อยากให้เบนซ์กลับมาร่วมงานกันอีกนะ

เขาได้มีการยื่นสัญญาตัวใหม่ให้เราดูก่อนมั้ยหรือเค้ามีการคุยว่าแพลนเราในอนาคตว่ายังไง ?

เบนซ์ : คือเค้าบอกว่าลองคิดดูก่อนมั้ย ลองกลับไปคิดอีกรอบนึงก่อน แต่ว่าเราเป็นคนที่ถ้าเดินแล้วก็ขอเดินแล้ว ชัดเจน

ตอนนั้นที่โดนคอมเม้นท์ มีคอมเม้นท์ไหนที่เราอ่านแล้วรู้สึกเสียใจ ?

เบนซ์ : มีเยอะมากค่ะ เขียนมาจนแบบเรารู้สึกว่าทำไมเค้าไม่เข้าใจเราเนอะ อกตัญญูทำไมถึงทรยศช่อง ออกมาแล้วไม่มีทางจะไปได้ดีแน่นอน

พอเจอคอมเม้นท์แบบนั้นแล้วรู้สึกยังไงบ้าง เห็นว่าอ่านไปร้องไห้ไป ?

เบนซ์ : เสียใจค่ะ ก็รู้สึกว่าทำไมคนเค้าถึงไม่เข้าใจเรา

อยากบอกอะไรกับคนที่เค้ายังไม่เข้าใจเรา ?

เบนซ์ : อยากบอกว่าคนเราทุกคนมีภาระของตัวเองอยู่แล้ว มีภาระต้องรับผิดชอบอยู่เบื้องหลัง ซึ่งบางทีคนบางคนไม่รู้ อยากให้ทุกคนเข้าใจ มาติดตามผลงานเบนซ์เหมือนเดิม ยังรักเบนซ์เหมือนเดิม

ถ้ามีโอกาสอยากบอกกับสังกัดเดิมที่สร้างเรามา อยากจะบอกอะไร ?

เบนซ์ : ก็อยากจะบอกว่ายังรักเหมือนเดิมนะคะ ยินดีที่จะร่วมงานด้วย ยังไงที่นี่ก็เป็นจุดแรกที่ทำให้เรามีชื่อเสียง มีเงินทอง แล้วก็มีทุกๆ อย่างในวันนี้ ก็ยังรักเหมือนเดิมค่ะ

เคยได้ฉายาเด็กหน้าหนอน ?

เบนซ์ : จริงค่ะ ตอนนั้นเราอายุ 18 เป็นช่วงที่เราเข้ามาวงการบันเทิงแรกๆ แล้วไม่รู้จักดูแลตัวเอง เราแต่งหน้าแล้วล้างหน้าไม่สะอาดแล้วมันสะสมก็ขึ้นเป็นผดตลอดเวลา ถ่ายละครอัดกันสามเรื่องแล้วเรียนไปด้วย ไม่มีเวลาพักผ่อนเลย แล้วก็โดนล้อตลอดเวลาว่าเป็นนางเอกหน้าหนอนได้ยังไง ช่างแต่งหน้าที่สนิทกันเค้าก็ล้อ แต่มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร แต่พอโดนบ่อยๆแล้วเราไปเช็คในมอนิเตอร์มันก็เห็นจริงๆ ก็แอบร้องไห้ที่บ้าน มันเหมือนปมด้อยในชีวิตเลย แล้วก็ไม่อยากทำงานเลยตอนนั้น

เลิฟซีนเป็นกระแสดุเดือนมาก ตอนแรกแม่หวงมาก ไม่เล่นเลิฟซีนเลย ? เล่นจริงใช่มั้ย ?

เบนซ์ : จริงสิคะ เรื่องนี้ที่รับเพราะจริงๆ แล้วอยากเปลี่ยนด้วย คาแร็คเตอร์ใหม่ๆบ้าง ไม่อยากเล่นบทเดิมๆ ตอนนั้นยังไม่ได้คุยกับแม่ พอละครออนแอร์แล้วเขามาเห็น แม่ก็โทรมาเลยว่า ลูกแม่ว่าเยอะไปหน่อย คือถ้าเป็นอย่างอื่นได้ แต่อันนี้อาจจะนิดนึง

นิดนึงของเรามันเป็นฉากยังไง ?

เบนซ์ : ในเรื่องมันมันจะเป็นยาเสน่ห์ มันจะทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ แล้วในฉากมันจะต้องลูบขาด้วย พอตัดภาพออกไปมันจะดูเซ็กซี่มากเกินไป

แม่งอนไม่เท่าไหร่ แต่คนที่เป็นตัวจริงของเราล่ะ ?

เบนซ์ : ไม่เลยค่ะ ถ้างานเขาก็จะไม่อะไรเลย คนที่มีปัญหามากที่สุดน่าจะเป็นแม่

เป็นกฎเหล็กของบ้านนี้ไม่ใช่หรอว่าแม่ห้ามเล่นเลิฟซีน ?

เบนซ์ : อาจจะไม่ได้เลิฟซีนดุเดือดขนาดนี้ ถ้าจุ๊บปากได้

อย่างนี้แม่ก็เปิดทางให้แต่งงานได้แล้วซิ ?

เบนซ์ : จริงๆ แล้วตัวเขาก็อยากแหละค่ะ แต่เราอ่ะยัง เหมือนเราเชื่อเรื่องดวงว่ามันยังไม่ถึงเวลาก็ยังไม่อยากเปิด เพราะเดี๋ยวงานหาย

ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.30-14.30น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

เจ้าแม่วงการนางงาม ลักษณ์ Thaimiss มองนางสาวไทยในเวทีโลก มั่นใจ “น้องบิ๊นท์” สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ มีดีไม่แพ้นางงามชาติไหนอย่างแน่นอน

ออกเดินทางไปร่วมกิจกรรมเก็บตัว มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ “น้องบิ๊นท์” สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ เจ้าของตำแหน่ง นางสาวไทย ประจำปี 2562 ดีกรีเภสัชกรหญิงจากมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่การประกวดนางสาวไทยได้ไปในเวทีโลก หลังจากที่ร้างลามานาน โดยรอบตัดสินจะมีขึ้นในวันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน 2562 เวลา 12.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

พอเห็นสาวงามจากหลายประเทศรวมตัวกันแบบนี้ทำเอาแฟนนางงามอดหวั่นใจไม่ได้ งานนี้ “แพรวดอทคอม” ได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าแม่วงการนางงาม “ภูมิรัตน์ เลิศวิศิษฎ์ชัย” หรือที่รู้จักกันในนาม “ลักษณ์ Thaimiss ” เจ้าของเว็บไซต์ไทยมิส ผู้จัดการประกวด Miss International Thailand และ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบรด์โฮลเซล จำกัด ซึ่งได้ให้ความมั่นใจกับแฟนนางงามเมืองไทยว่า “น้องบิ๊นท์” โดดเด่นในเวทีนี้พอสมควรเลยทีเดียว

จุดเริ่มต้นของ ลักษณ์ แห่ง Thaimiss เจ้าแม่วงการนางงามที่ไม่มีใครไม่รู้จัก

“จุดเริ่มต้นแรกคือการไปเป็นพี่เลี้ยงนางงาม ซึ่งที่เข้าสู่เส้นทางนี้ได้เพราะโชคชะตาขีดให้เราไปรู้จักกับพี่เลี้ยงนางงาม หนึ่งในนั้นก็คือ “พี่ศรีเวียง” (ศรีเวียง ตันฉาย) คลุกคลีจนได้รู้หลายอย่างและพอมีประสบการณ์ จากนั้นจึงเริ่มส่งเพื่อนตัวเองประกวดนางงาม โดยเวทีแรกที่ส่งประกวดคือ เทพีลอยกระทง ของจังหวัดนนทบุรี เราส่งผู้ประกวดไปถึง 3 คน แต่ไม่ได้สักตำแหน่ง เพราะมันเป็นครั้งแรก เรายังไม่เชี่ยวชาญพอ แต่หลังจากนั้นเริ่มเดินสายประกวดทั้งเวทีเล็กและใหญ่ เก็บเป็นประสบการณ์ให้ทั้งเราและน้องที่ประกวด โดยเวทีแรกที่เรารู้สึกได้ว่าสัมผัสถึงชัยชนะก็คือ “ธิดา 73 จังหวัด” แม้ผู้เข้าประกวดของเราจะไม่ได้รางวัลชนะเลิศ แต่ก็ทำให้เรารู้สึกถึงความสุข เวลาเราปั้นใครสักคนแล้วเขาได้ตำแหน่ง เรามีความสุขมากๆ เมื่อมีประสบการณ์ก็เริ่มได้ชัยชนะมากขึ้น จนถึงตอนนี้นับๆ รวมเวทีที่ชนะในชีวิตก็ประมาณ 1 พันเวทีเห็นจะได้”

“ด้วยความที่เราตระเวนประกวดหลายเวที และมีความรู้ทางด้านออนไลน์ เราจึงได้ทำเว็บไซต์ WWW.THAIMISS.COM ขึ้นมาเพื่อเป็นช่องทางสำหรับการประกวด ไม่ว่าจะเป็นการเก็บโปรไฟล์ผู้เข้าประกวด ปฏิทินในการประกวดเวทีต่างๆ เพื่อให้ทราบว่าในแต่ละเดือนนั้นมีเวทีไหน เราจะได้เตรียมตัวได้ ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเราเองที่ส่งเด็กๆ ประกวดแล้ว ก็ยังเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ ที่เป็นพี่เลี้ยงนางงามด้วย ซึ่งรวมระยะเวลาที่ทำมาก็ประมาณ 30 ปีแล้ว ถือเป็นเว็บไซต์นางงามที่เปิดมานานที่สุด”

จากพี่เลี้ยงนางงาม คนทำเว็บไซต์ จนมาเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ “Miss International Thailand”

“ถึงจะเป็นพี่เลี้ยงนางงาม แต่ชีวิตของพี่ไม่ได้มีจุดพลิกผันข้ามคืนแบบพวกเขา ทุกอย่างมาจากการสั่งสมประสบการณ์ทีละเล็กทีละน้อย หลังจากที่พี่พาน้องๆ เดินสายประกวดในประเทศแล้ว เราก็เริ่มมองหาเวทีระดับนานาชาติและส่งเด็กเข้าประกวด ในระหว่างนั้นเราก็ได้รู้จักกับนายทุนเป็นจำนวนมาก มีหลายคนที่สนใจซื้อลิขสิทธิ์เวทีต่างประเทศ ด้วยความที่เราส่งนางงามไปประกวดอยู่แล้ว จึงคิดว่าเป็นช่องทางที่น่าสนใจ จากนั้นก็ได้ติดต่อซื้อลิขสิทธิ์เวทีการประกวด Miss International เข้ามาขายในเมืองไทย เราจึงเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ “มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์” (Miss International Thailand )

ผู้ผลักดันการกลับมาของเวทีเก่าแก่ “นางสาวไทย” ไปเวทีโลก

เวทีนางสาวไทยถือเป็นการประกวดที่เป็นประวัติศาสตร์และเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย เพราะมีผู้ที่ไปคว้ามงกุฎจักรวาลและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยด้วยกันถึง 2 คน ก็คือ “อาภัสรา หงสกุล” นางงามจักรวาลปี 1965 และ “ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก” นางงามจักรวาลปี 1988 กระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงโดยได้มีการก่อตั้งเวที “มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส” (ต่อมาเปลี่ยนเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์) ทำให้ปี 2000 เป็นปีแรกที่เจ้าของมงกุฎนางสาวไทยไม่ได้ประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์สหรือนางงามจักรวาล จึงทำให้ค่อยๆ ลดความนิยมลงเรื่อยๆ แต่ในปีนี้เวทีนางสาวไทยไม่เหมือนเดิม เนื่องจากผู้ชนะจะได้ไปประกวดต่อในเวที Miss International 2019 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น

โดย “ลักษณ์” เปิดเผยว่า “เวทีนางสาวไทยเป็นเวทีที่เก่าแก่ที่สุด มันยังมีมนต์ขลังเสมอ ไม่ว่าจะมีเวทีประกวดนางงามอีกมากมายสักเท่าไหร่ก็ตาม แต่ตัวแทนนางงามไทยก็ยังเรียกกันว่านางสาวไทยกันอยู่ดี ซึ่งปีนี้พิเศษเพราะร่วมกับ Thaimiss ไปประกวด Miss International 2019”

 “น้องบิ๊นท์”  นางสาวไทย 2562 ความหวังของไทยแลนด์

“บิ๊นท์-สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์” ไม่เคยประกวดนางงามมาก่อนเลย นางสาวไทย 2562 เป็นเวทีแรกที่เธอร่วมประกวดและเกินคาดเธอสามารถคว้ามงกุฎได้สำเร็จ มันไม่ใช่โชคหรือเพราะแค่สวย แต่เพราะเธอมีความสามารถ ไหวพริบ บุคลิกภาพ และทัศนคติที่เหมาะสมกับตำแหน่งมาก ซึ่ง “ลักษณ์-ภูมิรัตน์ เลิศวิศิษฎ์ชัย” ก็มั่นใจมากๆ

“เหตุผลที่ทำให้เขาตั้งความหวังไว้สูง เพราะน้องบิ๊นท์ มีจุดเด่นตรงที่มีความรอบรู้ในทุกๆ เรื่องด้วย ฉลาดคิดฉลาดพูด ทั้งยังสวยหวาน เฟรนลี่ ซึ่งตรงกับบริบทของเวทีนี้ที่ชอบผู้หญิงสวย อ่อนหวาน น้องยังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ ทั้งยังความกระหายที่จะประสบความสำเร็จ เชื่อว่าสาวงามตัวแทนประเทศไทยจะทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมแน่นอน”

สถานที่ถ่ายภาพ : Bride Wholesale ห้างวอเตอร์เกท โรงแรมเซนทารา ประตูน้ำ ราชปรารภ 2 กรุงเทพ โทร 092-2545343