คำแนะนำในการเก็บรักษาชุดแต่งงานให้ยังใหม่อยู่เสมอ

account_circle

คงสภาพ ชุดแต่งงาน ให้ใหม่อยู่เสมอไม่ใช่เรื่องยาก

แม้ในเมืองไทยนั้นเจ้าสาวส่วนใหญ่จะนิยมเช่า ชุดแต่งงาน กันเสียมากกว่า เนื่องจากราคาค่อนข้างสูงและใส่เพียงแค่ครั้งเดียว แต่สำหรับเจ้าสาวอีกหลายคนที่เลือกจะตัดชุดแต่งงานใหม่เพื่อจะเก็บเอาไว้เป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่นวันแห่งความสุข การเก็บรักษาชุดแต่งงานไม่ให้เหลืองเก่าจึงเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นเราจะเก็บรักษาชุดแต่งงานที่ลงทุนตัดเป็นหมื่่นๆ หรือบางชุดก็เป็นแสนๆ ได้อย่างไรบ้างหลังจากส่งทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น วันนี้ แพรว wedding มีคำแนะนำมาฝากค่ะ

1. อย่าเก็บชุดในห้องเก็บของใต้บันได หรือห้องใต้หลังคาที่มีความชื้นสูง บริเวณที่ดีที่สุดที่จะใช้เก็บชุดแต่งงานคือตู้เสื้อผ้า หรือพื้นที่ใต้เตียงนอนนะคะ

2. หลังจากที่นำชุดไปซักแห้งเรียบร้อยแล้ว อย่าเก็บชุดแต่งงานของคุณไว้ในถุงพลาสติก เพราะสารเคมีที่อยู่ในพลาสติกจะซึมออกมาจะทำลายสีของเนื้อผ้าได้

3. ถ้ามีเข็มหมุดปักอยู่ที่เนื้อผ้าให้เอาออก อย่าทิ้งเอาไว้ เพราะเข็มหมุดมีโอกาสขึ้นสนิมได้ถ้าปล่อยไว้นานๆ และยังทำให้ชุดของคุณมีรอยอีกด้วย อย่าแขวนชุดแต่งงานคุณทิ้งไว้นานเกินไป เพราะการแขวนเป็นการตึงตะเข็บเสื้อและรูปทรงของชุด

4. ไม่แนะนำให้เก็บชุดแต่งงานในกล่องที่ทำจากพลาสติกเป็นเวลานานๆ เพราะกล่องพลาสติกจะเกิดความชื้น ได้ง่าย ทำให้เกิดเชื้อราควรจัดเก็บชุดแต่งงาน ไว้ในกล่องที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับเก็บชุดแต่งงานเท่านั้น แต่อย่าหาตัดเอากล่องกระดาษธรรมดาจากไหนก็ไม่รู้มาใช้เก็บชุดแต่งงานเป็นอันขาดนะคะ เพราะภายในเนื้อของกล่องกระดาษจะมีส่วนผสมของกรด ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปมันจะซึมออกมาถูกเนื้อผ้า และจะทำลายสีของเนื้อผ้า

5. ห่อชุดแต่งงานด้วยกระดาษที่ไม่มีกรดเป็นส่วนผสม (acid-free tissue paper) ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ชุดแต่งงานของคุณกลายเป็นสีเหลือง อย่าใช้กระดาษที่มีสีมาห่อ เพราะว่ากระดาษพวกนี้ จะผ่านการย้อมสีนานๆไปสีที่ย้อมไว้อาจจะตกออกมาโดนชุดคุณได้

6. ถ้าคุณไม่เก็บชุดแต่งงานไว้ในกล่อง ระวังอย่าให้ชุดของคุณโดนแสงแดดหรือแสงไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อผ้าเสื่อมสภาพ

7. อย่าเก็บชุดแต่งงานของคุณไว้ในบริเวณที่เคยมีปัญหาเรื่องความชื้น ปลวกหรือแมลง

8. แกะและคลี่ชุดแต่งงานของคุณออกมาตรวจสอบบ้างอย่างน้อยปีละครั้ง (หรือทุกๆ 6 เดือนก็ยิ่งดี) ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ชุดแต่งงานคุณเกิดรอยพับถาวรได้ และยังทำให้คุณได้หวนนึกถึงความทรงจำที่แสนหวาน และน่าประทับใจในวันแต่งงานคุณอีกด้วย

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าสาวเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

cr : allure.com, thespruce.com

บล็อกเกอร์สาวไทยในปารีส แชร์ประสบการณ์ป่วยโควิด-19 ดูแลตัวเองจนหาย

บล็อกเกอร์สาวไทยในปารีส แชร์ประสบการณ์ป่วยโควิด-19 ดูแลตัวเองจนหาย

Alternative Textaccount_circle
บล็อกเกอร์สาวไทยในปารีส แชร์ประสบการณ์ป่วยโควิด-19 ดูแลตัวเองจนหาย
บล็อกเกอร์สาวไทยในปารีส แชร์ประสบการณ์ป่วยโควิด-19 ดูแลตัวเองจนหาย

เชฟสาวไทยในปารีส บล็อกเกอร์เจ้าของเฟซบุ๊กเพจ Fern’s Simple Journal แชร์ประสบการณ์ป่วยโควิด-19 พร้อมบอกเล่าฮาวทูดูแลตัวเองจนหาย

คุณเฟิน อายุ 25 ปี เจ้าของเฟซบุ๊กเพจ Fern’s Simple Journal เธอเป็นเชฟด้านเบเกอรี่ ทำงานอยู่ที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก โดยเธอได้แชร์ประสบการณ์การติดเชื้อโควิด-19 และสามารถดูแลตัวเองจนหายดี โดยไม่ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เนื่องจากมาตรการในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ของแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกันไป โดยเธอได้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ เอาไว้ดังนี้

เมื่อฉันติดโควิด-19 ที่ปารีส

ฮัลโหลทุกคน นี่เฟินเอง ยังจำกันได้อยู่ไหม? ขออภัยที่หายไปนานมาก นานจนมีคนตามอะคิดดู 5555 ยังอยู่จ้า ยังไม่สู่ขิตเด้อ แค่เกือบๆ ไม่รู้จะเริ่มเล่ายังไงดีเลย เอาเป็นว่าย้อนกลับไปเมื่อ 3 อาทิตย์ที่แล้วกัน ที่โรงแรมยังทำงานกันปกติ แต่พวกร้านอาหาร ร้านขนมเริ่มเงียบ อีเว้นท์ต่างๆ ก็เริ่มยกเลิกรัวๆ ขนมจากเซ็ต afternoon tea เหลือกลับมาบาน อิตาลีปิดประเทศไปแล้ว ยอดคนติดเชื้อที่ฝรั่งเศสก็หลายพันคนแล้ว สถานการณ์เริ่มไม่ดีมากๆ

วันพฤหัสบดี มีประกาศจากรัฐบาลสั่งให้ปิดโรงเรียน มหาวิทยาลัย

วันศุกร์ ตอนสายๆ มี HR เดินเข้ามาเรียกตัวยูกิซังไป หายไปประมาณชั่วโมงหนึ่ง ยูกิซังเดินร้องไห้กลับมาบอกว่า ญี่ปุ่นเรียกตัวกลับด่วน! ตอนนั้นใจเริ่มเสียแล้ว

คุณเฟินและคุณยูกิซังถ่ายภาพเป็นที่ระลึก สำหรับการทำงานวันสุดท้ายของคุณยูกิซังก่อนกลับญี่ปุ่น

วันเสาร์ ยูกิซังชวนไปเดินห้างเพื่อซื้อของฝาก ประมาณ 2 ทุ่มห้างบอกว่าให้รีบไปทำ tax refund ด่วนๆ เพราะพรุ่งนี้ห้างปิดแบบไม่มีกำหนดเปิด รัฐบาลสั่งปิดห้าง ร้านค้า ร้านอาหาร เย็นวันนั้นรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ แต่เข้าใจว่าใส่เสื้อกันหนาวอยู่ในห้าง เลยรู้สึกไม่สบายตัวเท่าไหร่

บรรยากาศซูเปอร์มาร์เก็ตที่แกเลอรี่ลาฟาแยต คืนสุดท้ายก่อนทุกอย่างจะปิด

วันอาทิตย์ เฟินตื่นมาเพราะรู้สึกหนาวมาก ปวดหัว ปวดตัว เลยลองวัดไข้ ปรากฏว่าได้ 38.6 ในใจก็เริ่มคิดว่าเอาแล้วเรา หวยออกแล้ว เพราะว่าเฟินเพิ่งเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ไม่ถึงเดือน ไม่น่าจะเป็นซ้ำเร็วขนาดนี้ ตอนบ่ายๆ เชฟโทร.มาบอกว่าไม่ต้องมาทำงาน 2 วีคนะ โรงแรมปิด

วันจันทร์ (16 มีนาคม 2563) รัฐบาลเห็นประชาชนไม่สะทกสะท้าน จึงสั่งห้ามออกจากบ้านไปเลยจ้า ปิดประเทศ ห้ามคนต่างชาติเข้า ถ้าออกจากบ้านโดยไม่มีใบอนุญาตคือปรับขั้นต่ำ 5-6 พันบาท ส่วนเฟินนอนง่อยเป็นไข้ ปวดไปทั้งตัว เพิ่มเติมคือเริ่มไอ แล้วก็ไม่มีแรงเลย แค่ไปเข้าห้องน้ำก็เหนื่อยแล้ว เลยต้องนอนโซฟาเพราะขึ้นไปนอนบนห้องไม่ไหว ใจไม่ดีเลย ได้แต่กร่นด่าตัวเองที่ไม่ยอมกลับไทยไปตั้งแต่แรก เพราะป๊าโทร.มาเรียกให้กลับตั้งแต่ก่อนอิตาลีปิดประเทศแล้ว

วันอังคาร (17 มีนาคม 2563) อาการแย่เหมือนเดิม เฟินเริ่มหายใจไม่เต็มปอด เหนื่อยมากๆ รีบโทร.หาหมอเลย เพราะเขาห้ามไปหาหมอเอง ถ้าป่วยเป็นไข้ให้โทร.ปรึกษาหมอก่อน หมอบอกว่าเฟินเพิ่งเป็นไข้ได้ 3 วัน ให้ดูอาการที่บ้านไปก่อน อาจจะเป็นไข้หวัดธรรมดา แต่ด้วยความแพนิค กลัวมาก เฟินเลยโทร.เบอร์ฉุกเฉิน โทร.นานมาก กว่าจะมีคนรับ เขาก็ถามอาการ นี่ก็เล่าไป เขาบอกว่าฟังเสียงแล้วอาการยังไม่แย่มาก ต้องเข้าใจว่ามีคนโทร.มาฉุกเฉินเยอะมาก เขาต้องรับเคสที่ฉุกเฉินจริงๆ ก่อน เขาบอกว่าถ้าหายใจติดขัดเมื่อไหร่ค่อยโทร.เรียกอีกที

วันพุธ วันพฤหัสบดี วันศุกร์ อาการไม่ดีขึ้นเลย ตอนนี้เฟินไม่ได้กลิ่นอะไรเลย แบบที่ฉีดน้ำหอมใส่จมูกแล้วก็ไม่ได้กลิ่น ประสาทหลอนมาก กลัวมาก โทร.หาหมอ โทร.หาฉุกเฉิน ก็ได้รับคำตอบว่า บิงโก! เฟินน่าจะเป็นผู้ติดเชื้อ Covid-19 ให้ไปทำแบบสอบถามในเว็บ (ทำแล้วในเว็บก็บอกว่ามีความเป็นไปได้ว่าติดเชื้อ) แต่ก็ยังยืนยันให้รักษาตัวที่บ้านเองไปก่อน ซึ่งเขาคงประเมินจากเสียงเฟินแล้วว่ายังอาการไม่หนักมากเท่าเคสอื่นๆ อันนี้เฟินเข้าใจมากๆ เลยนะ เพราะที่นี่ตายกันเป็นพันแล้ว เคสที่อาการหนักก็มีเยอะมาก ผู้ป่วยหนักยังต้องส่งไปรักษาที่เยอรมันเลย เพราะมีเยอะเกินกำลังหมอพยาบาลที่นี่

สภาพจิตใจเฟินเรียกว่าแย่มาก แย่กว่านี้ไม่ได้แล้ว ป่วยกายไม่เท่าไหร่ แต่แบบใจก็ป่วยมาก เฟินกลัวมากๆๆๆ ไปหาหมอก็ไม่ได้ ถ้ากลับไทยคงได้ไปโรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกแล้ว กลัวว่าถ้าเป็นหนักขึ้นมาจะทำยังไง กลัวไม่ได้รับการรักษา กลัวต้องมาตายคนเดียวที่นี่ กลัวไม่ได้เจอหน้าพ่อแม่อีก กลัวไปหมด นอกจากพาราฯ ยาอื่นๆ ก็ไม่มี กลัวจนประสาทหลอน ร้องไห้จนหัวเราะแล้ว เพราะทำอะไรไม่ได้เลย

ช่วงนั้นเพื่อนๆ พี่ๆ หลายคนช่วยกันติดต่อสถานทูตให้ ทางสถานทูตก็รับเรื่องไว้แล้วติดต่อเฟินกลับมา ให้คำแนะนำแล้วก็บอกว่าถ้าขาดเหลืออะไรบอกเขาได้ตลอด พี่ที่สถานทูตบอกว่าที่ไทยออกมาตรการ ถ้าจะกลับไทยต้องไปตรวจสุขภาพให้แพทย์ออกใบ fit to fly แล้วก็เอาไปยื่นขอหนังสือรับรองจากสถานทูตอีกที ไม่งั้นสายการบินไม่ให้ขึ้นเครื่อง

อันดับแรก คือเฟินตอนนั้นไม่สามารถหอบสารร่างไปหาหมอเพื่อขอใบรับรองได้ และถ้าหอบร่างนี้ไป หมอที่ไหนถ้าเจอสภาพเฟิน คงไม่มีทางออกใบรับรองให้แน่ๆ จริงๆ มีคนแนะนำหลายคนเลยว่าให้เฟินกินยาลดไข้ แล้วให้พี่ที่สถานทูตพาไปขอใบรับรองแพทย์ เพราะถ้าไม่มีไข้ หมอก็ให้ผ่านหมด เฟินก็อยากทำแบบนั้นนะ แต่แบบถ้าเธอเป็นพี่ที่สถานทูต ใจเธออยากจะมาเสี่ยงเอาตัวเองมาพาคนที่ติดเชื้อไปหาหมอจริงหรอ? คงไม่หรือป่าว แล้วไหนจะคนที่สนามบิน เจ้าหน้าที่เอย แอร์ฯเอย เพื่อนร่วมไฟลท์ และอีกหลายๆ คนที่เขาต้องเสี่ยงมาติดเชื้อจากเฟินอีก เออ นอนง่อยอยู่นี่แหละ ตายก็กลัว แต่ความรับผิดชอบต่อสังคมก็ต้องมี มงต้องลงแล้วอะ บอกเลย 55555

วันเสาร์ (21 มีนาคม 2563) ครบ 1 สัปดาห์ เฟินไม่มีไข้แล้ว ยังรู้สึกเหนื่อยอยู่ หายใจไม่เต็มปอดอยู่ ไออยู่ ไม่ได้กลิ่น ไม่ได้รสเหมือนเดิม นอกจากไข้ลดแล้วก็ยังไม่ดี

วันเสาร์ (28 มีนาคม 2563) อาการดีขึ้นมากๆ แล้ว มีเพลียๆ อยู่หน่อย แล้วก็เหลือแค่ไอ ไอหนักเลยแหละ ยังไม่ได้กลิ่นด้วย นอนดูซีรีส์ครบทุกเรื่องแล้ว 5555555 ตั้งแต่คาซ่าเดอปาเปล สหายผู้กอง พัคแซรอย ยุพิน สารวัตรไทน์ เหลือคิงดอมไว้เพราะกลัวผีเด้อ ไม่ได้ออกจากบ้าน 2 วีค ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเลยแม่ ขาวซีดเหมือนผีแล้วตอนนี้ โชคดีเป็น introvert เลยไม่ประสาทกินเท่าไหร่

วันนี้นี่ก็พิมพ์ไปไอไปจ้า ไอจนรำคาญ ไอจนปวดท้อง แต่เริ่มได้กลิ่นแล้วนะ ได้รสแล้วด้วย กินอร่อยแล้ว เย่! ที่เฟินกังวลคือเรื่องปอด เพราะไม่ได้ตรวจ เลยไม่รู้ว่าปอดอักเสบหรือเปล่า เป็นหนักแค่ไหนแล้ว ไวรัสกินปอดหมดยัง กลัวมาก แต่กลัวคนลืมมากกว่า เลยต้องมาอัพเดตเพจบ้าง ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ เดี๋ยวเฟินก็หายแล้ว

ทั้งนี้ล่าสุด (23 เมษายน 2563 เวลา 01.05 น.) คุณเฟินได้โพสต์คลิปอัพเดตและสรุปประสบการณ์การป่วยโควิด-19 พร้อมแนะนำวิธีการดูแลตัวเอง แชร์ลงในเฟซบุ๊กเพจ Fern’s Simple Journal อีกครั้ง ซึ่งคราวนี้เธอเล่าว่าหายดีแล้ว โดยดูแลรักษาตัวเองด้วยการนอนเยอะๆ ดื่มน้ำเยอะๆ และสังเกตจากประสบการณ์ของตัวเองพบว่า อาการของโรคโควิด-19 จะหนักในช่วงสัปดาห์แรก หลังจากนั้นจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ โดยเธอป่วยอยู่ประมาณ 4 สัปดาห์ ซึ่งเธอคิดว่าน่าจะเป็นเพราะอายุยังน้อย จึงสามารถดูแลตัวเองจนหายได้ พร้อมระบุว่าเพื่อนร่วมงานของเธอก็ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยเช่นกัน สุดท้ายคุณเฟินขอส่งกำลังใจถึงทุกคนที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดนี้ ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี


 

ข้อมูลและภาพ : Fern’s Simple Journal

ไบร์ท วชิรวิชญ์

ดูดีไม่มีเบื่อ! รวมชุดเก่งของ ไบร์ท วชิรวิชญ์ แฟชั่นใส่ซ้ำที่คุ้มค่าทุกเม็ดเงิน

Alternative Textaccount_circle
ไบร์ท วชิรวิชญ์
ไบร์ท วชิรวิชญ์

ตามส่องแฟชั่นใส่ซ้ำจนแฟนคลับจำได้ของ ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี หนุ่มฮ็อตที่ร้อนกว่าอากาศเดือนเมษายน ใช้บ่อยคุ้มค่าทุกเม็ดเงิน

ถือเป็นนักแสดงหนุ่มที่ตอนนี้มีคนพูดถึงมากที่สุดเลยสำหรับ ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี นักแสดงนำจากซีรีส์ “เพราะเราคู่กัน” ที่กำลังฮิตทั้งในประเทศไทยและเมืองจีน ประเด็นความหล่อไม่ใช้ท็อปปิกเดียวที่ถูกพูดถึง เพราะหนุ่มคนนี้ยังเป็นที่ชื่นชมในฐานะนักแสดงที่เป็นตัวอย่างของความพยายาม

ไบร์ทเข้าสู่วงการบันเทิงตอนอายุ 15 ปี หลังจาก 1-2 ปี เขาเริ่มรับงานในวงการเป็นพาร์ทไทม์และไม่ขอเงินจากทางบ้าน นอกจากนี้ในการเรียนมหาวิทยาลัยหนุ่มคนนี้ก็ยังส่งตัวเองเรียนด้วย

ถึงจะเป็นดารา แต่ก็ใช่ว่าจะหาเงินได้เยอะทุกคน ซึ่งไบร์ทเล่าว่าตอนแรกที่เข้าวงการ เขาไม่ได้หวังว่าจะต้องดังเป็นพระเอก ไม่ว่าจะบทอะไรก็รับเล่นหมด แม้กระทั่งตัวประกอบที่ไม่มีบทพูดเลย เนื่องจากเขามองแค่ว่ามีงานได้ส่งตัวเองเรียนก็พอแล้ว

ดูเหมือนว่าการยืนด้วยลำแข้งของเขาตั้งแต่อายุน้อย จะทำให้หนุ่มคนนี้ยิ่งรู้จักคุณค่าของเงินมากขึ้น สะท้อนจากแฟชั่นการแต่งกายที่คุ้มเงินทุกเม็ดที่จ่ายไป เพราะแม้ว่าเขาจะหยิบไอเท็มต่างๆ มาใส่ซ้ำบ่อยจนแฟนคลับจำได้ แต่ก็ดูดีไม่เบื่อเลย

รวมชุดเก่งของ Bright – วชิรวิชญ์ ชีวอารี

1.เสื้อตัวเก่งของหนุ่ม Bright จากแบรนด์ RIP CURL ไม่ว่าจะเป็นลุคออกงานหรือลุคสบายๆ เชิ้ตตัวนี้ก็เอาอยู่

ไบร์ท วชิรวิชญ์

ไบร์ท วชิรวิชญ์

2.แจ็กเก็ตคู่ใจที่มักใส่เวลาไปทำงานต่างประเทศ จากแบรนด์ LACOSTE  

ไบร์ท วชิรวิชญ์

ไบร์ท วชิรวิชญ์

3.เสื้อยีนส์ไม่ทราบแบรนด์หยิบมาสวมทีไรก็เปลี่ยนลุคธรรมดาๆ ให้ดูดีขึ้นได้

ไบร์ท วชิรวิชญ์

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันหนุ่มไบร์ทกลายเป็นคนดังที่ถูกจับตามองของโลกแฟชั่นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะหลังจากที่ซีรีส์ “เพราะเราคู่กัน” ดังเป็นพลุแตก แบรนด์สินค้าต่างๆ จับจองซื้อโฆษณาผ่านการพรีเซนต์เสื้อผ้าของเขาเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว


ภาพจาก : IG  : @brightworeitbefore @bbrightvc @onePlusone 

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

หน้าตาดียกบ้าน เปิดภาพ 4 พี่น้องของหนุ่มฮ็อต วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร

แซ่บฉุดหัวใจ! “ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี” หนุ่มหล่อลูกครึ่งไทย-อเมริกัน

สวย หล่อ น้ำใจงาม ศิลปิน – แฟนคลับ บริจาคเงินเพื่อร่วมดับไฟป่า

นักร้องชาวไต้หวัน

ปาย ปิง-ปิง นักร้องชาวไต้หวัน สุดช้ำ ชาวเน็ตโพสต์ เธอควรตายในน้ำเหมือนลูกสาว

account_circle
นักร้องชาวไต้หวัน
นักร้องชาวไต้หวัน

ปาย ปิง-ปิง นักร้องชาวไต้หวัน ใช้เวลากว่า 15 ปีในการกำจัดความทรงจำอันเลวร้าย เกี่ยวกับคดีฆาตกรรมลูกสาวของเธอ แต่โซเชียลมีเดียรื้อฟื้นและตอกย้ำเธอด้วยการโพสต์คำพูดอันโหดร้าย

นักเลงคีย์บอร์ด เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำนี้ คนจำพวกนี้มักพิมพ์ข้อความอันหยาบคาย โหดร้าย และบางครั้งก็ไม่เป็นเรื่องจริง สร้างความเดือดร้อน และ ทุกข์ทรมานใจให้กับผู้ที่โดนข้อความเหล่านั้น เฉกเช่นเรื่องราวที่เรากำลังจะเล่าให้คุณฟัง

ปาย ปิง-ปิง นักร้องชาวไต้หวัน สุดช้ำ ชาวเน็ตโพสต์ เธอควรตายในน้ำเหมือนลูกสาว

นักร้องชาวไต้หวัน

เว็บไซต์ scmp โดยหนังสือพิมพ์ South China Morning Post สื่อฮ่องกง ได้รายงานว่า ปาย ปิง-ปิง นักร้องและนักแสดงชาวไต้หวันได้ถูกชาวเน็ตบังคับให้เล่าเรื่องการฆาตกรรมอันโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของเธอเมื่อ 23 ปีที่แล้ว โดยผู้ใช้อินเตอร์เน็ตรายหนึ่งกล่าวว่า “เธอควรตายในน้ำเหมือนลูกสาว”

คอมเม้นต์ที่ทำร้ายจิตใจเธอนั้นเกิดขึ้น หลังจากที่ ปาย ปิง-ปิง อัพโหลดวิดีโอลงเฟสบุ๊คส่วนตัวเพื่อรำลึกวันครบรอบการจากไปของลูกสาว “ปาย เชา-เยน” ทันที่เธอได้อ่านข้อความเหล่านั้นทำให้เธอรู้สึกว่าเรื่องราวความเจ็บปวดในวันนั้นกลับมาอีกครั้ง

ปาย ปิง-ปิง ตัดสินใจยื่นรายงานต่อตำรวจเกี่ยวกับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรายนี้เพื่อดำเนินคดีกับเธอ ซึ่งภายหลังพบว่าชาวเน็ตคนนี้มีประวัติป่วยทางจิต

การลักพาตัว และ สังหาร ปาย เชา-เยน นั้นสร้างความตกใจให้ชาวไต้หวันมามากกว่าสองทศวรรษ และยังนำไปสู่วิกฤตทางการเมืองบนเกาะไต้หวัน รวมถึงมีการต่อต้านการรายงานข่าวของสื่อที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ด้วย

นักร้องชาวไต้หวัน
เจ้าหน้าที่กำลังห่อร่างอันไร้วิญญาณของ ปาย เชา-เยน

ย้อนกลับไปเมื่อ 23 ปีที่แล้ว ปาย เชา-เยน ถูกลักพาตัวขณะเดินทางไปโรงเรียนเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2540 ครอบครัวของเธอถูกส่งจดหมายเรียกค่าไถ่จำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (163 ล้านบาท) พร้อมกับนิ้วที่ถูกตัดและรูปถ่ายของเด็กหญิงที่ถูกผูกไว้ สองสัปดาห์ต่อมาพบร่างเปลือยเปล่าของ เชา-เยน ในคูระบายน้ำใกล้กับเขตอุตสาหกรรมของ Wugu เขตย่านชานเมืองของไทเป

จากการตรวจสอบพบ เชา-เยน เสียชีวิตมาแล้ว 10 วัน ร่างของเธอถูกเชือกมัดไว้อยู่ใต้น้ำซึ่งถ่วงไว้ด้วยดัมเบล เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเธอถูกฆาตกรรมอย่างแน่นอน และก่อนเสียชีวิตนั้นสาวน้อยได้ถูกฆาตกรทรมานก่อนที่จะถูกฆ่า

คดีนี้มีชายสามคนถูกระบุว่าเป็นผู้ต้องสงสัยในการฆาตกรรม เชา-เยน ทั้งนี้ในรายงานระบุด้วยว่า เธอถูกล่วงละเมิดทางเพศกว่า 20 ครั้ง ซึ่งในระหว่างการจับกุมผู้ต้องหา นาย Lin Chun-sheng และ Kao Tien-min ได้ยิงตัวเองตายขณะที่กำลังต่อสู้กับตำรวจ

นักร้องชาวไต้หวัน
นาย Chen Chin-hsing หนึ่งในผู้ต้องหาคดีนี้

ทั้งนี้ นาย Chen Chin-hsing หนึ่งในผู้ต้องหาคดีนี้ยังถูกจับในข้อหาลักพาตัวครอบครัวทหารแอฟริกาใต้ และถูกประหารเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2542 หลังจากถูกตัดสินลงโทษในข้อหาฆาตกรรม ปาย เชา-เยน และคดีอาชญากรรมอื่นๆ

การฆาตกรรมครั้งนี้นำไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเมือง โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้ เหลียน ชาน ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไต้หวัน ในข้อหาการเพิ่มขึ้นของการก่ออาชญากรรมรุนแรงบนเกาะไต้หวัน นอกจากนี้ยังมีความโหดร้ายของสื่อมวลชนที่วิ่งเข้าไปถ่ายร่างกายอันเปลือยเปล่าของ เชา-เยน อีกด้วย
ปาย เชา-เยน เป็นลูกสาวคนเดียวของ ปาย ปิง-ปิง และ อิกกิ คาจิวาระ นักเขียนการ์ตูนชาวญี่ปุ่น และ โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ ปาย ปิง-ปิง เริ่มอาชีพการทำงานในวงการบันเทิงของไต้หวันในฐานะนักร้องในปี 1970 ก่อนที่จะได้รับชื่อเสียงในฐานะนักแสดงและพิธีกรรายการโทรทัศน์

นักร้องชาวไต้หวัน

ปาย ปิง-ปิง กล่าวในงานแถลงข่าวว่า เธอรู้สึกได้รับบาดแผลจากสื่อโซเชียลมีเดียที่โพสต์บอกให้ “เธอควรตายในน้ำเหมือนลูกสาว” ซึ่งเธอรู้สึกว่าเป็นภัยคุกคามต่อเธอ ทั้งนี้ ปาย ปิง-ปิง ยังบอกอีกด้วยว่า มันทำให้เธอหวนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกสาวในครั้งนั้น
ปาย ปิง-ปิง เผยว่า เธอเก็บรูปศพของ เชา-เยน และยอมรับว่าต้องใช้เวลากว่า 15 ปีที่จะหยุดร้องไห้ในการจากไปของลูกสาว

“ฉันใช้เวลา 15 ปีในการลบความทรงจำเมื่อครั้งที่พบลูกสาวในวันนั้น แต่ความคิดเห็นของชาวเน็ตกระตุ้นความสนใจพวกเขาอีกครั้ง”

นักร้องชาวไต้หวัน
ปาย ปิง-ปิง ในงานแถลงข่าวการเสียชีวิตของ เชา-เยน

ปาย ปิง-ปิง ได้รวบรวมภาพซึ่งมีคอมเม้นต์ที่แสดงความคิดเห็นในทางที่ไม่ดีบนเฟสบุ๊คของเธอ ซึ่งมีหลายคนสนับสนุนให้เธอดำเนินคดีกับผู้คนเหล่านี้ต่อไป ทั้งนี้ ปาย ปิง-ปิง ได้โพสต์เฟสบุ๊คในวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมาว่า

“ทุกคนแนะนำให้ฉันทำอะไรบางอย่างและอย่าให้คนที่เป็นอันตรายซ่อนอยู่หลังแป้นพิมพ์และรังแกคนดี ดังนั้นฉันจึงโทรหาตำรวจวันนี้ ขอบคุณสำหรับความห่วงใยของคุณ ฉันจะจัดการให้ถูกต้อง”

หลังจากตำรวจไปที่บ้านของชาวเน็ตรายหนึ่งที่ชื่อ “Lei” ซึ่งเธอได้คอมเม้นต์ข้อความสะเทือนใจนั้น พบว่ามีประวัติป่วยเป็นโรคทางจิต

ทั้งนี้ครอบครัวของชาวเน็ตรายนี้ได้ไปพบตำรวจ และ กล่าวคำขอโทษไปยัง ปาย ปิง-ปิง อย่างไรก็ตามปายปฏิเสธที่จะยอมรับคำขอโทษและบอกว่าเธอจะดำเนินคดีทางกฎหมายต่อผู้หญิงคนนี้ในข้อหาหมิ่นประมาทและข่มขู่

ปาย ปิง-ปิง กล่าวว่า ต้องการให้ “Lei” ได้สัมผัสกับผลที่จะตามมาจากการกระทำของเธอ “ ฉันไม่ยอมรับคำขอโทษของเธอ ซึ่ง Lei เองก็บอกว่าเธอไม่กลัวที่จะรับโทษ

“ฉันต้องการให้เธอรู้ว่าสิ่งที่เธอทำและคิดว่าดี ซึ่งฉันในฐานะบุคคลสาธารณะ ฉันจะทำตามขั้นตอนทางกฏหมาย เพื่อให้เธอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเธอทำผิดทางกฏหมาย”

งานแถลงข่าวของปายถูกอัพโหลดไปยัง YouTube ซึ่งดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมาก มีข้อความที่แสดงความเห็นอกเห็นใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งสนับสนุนการตัดสินใจของเธอที่จะยืนหยัดและปฏิบัติตามรายงานของตำรวจ

นักร้องชาวไต้หวัน

ขณะเดียวกันมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตรายหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นว่า “ใครจะสัมผัสได้ถึงความกลัวที่ เชา-เยน ต้องเผชิญ? ใครสามารถเข้าใจความเจ็บปวดของ ปาย ปิง-ปิง ที่สูญเสียลูกสาวของเธอ?”
หลังจากที่ลูกสาวของเธอเสียชีวิต ปาย ปิง-ปิง ได้ก่อตั้งมูลนิธิวัฒนธรรมและการศึกษา Pai Hsiao-Yen Foundation เพื่อเผยแพร่ข้อความการต่อต้านยาเสพติดและให้ความช่วยเหลือแก่เด็กด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ ทั้งนี้ในระหว่างการแถลงข่าวปายกล่าวว่ามูลนิธิต่างๆ ได้ดิ้นรนที่จะอยู่ต่อไปเนื่องจากขาดเงินทุนและการบริจาค
ทั้งนี้เธอได้กล่าวปิดท้ายว่า “ความจริงที่ว่าการตายของลูกสาวทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดและปวดใจ แต่มันก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับสาธารณชนด้วย” “ขอบคุณผู้ที่ใส่ใจเราและแสดงความห่วงใย และประชาชนทั่วไปที่ยังคงบริจาคเงินจำนวนเล็กน้อย”
สำหรับพ่อของ เชา-เยน นั้นเสียชีวิตในปี 2530 ในวัย 50 ปี หลังจากที่ลูกสาวของเธอเสียชีวิต ปัจจุบัน ปาย ปิง-ปิง อายุ 64 ปี เธอพยายามที่จะตั้งครรภ์อีกครั้ง แต่ไร้ซึ่งผลเพราะเด็กผ่านการปฏิสนธินอกร่างกาย

เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในสังคม การแสดงความคิดเห็นในเชิงลบ การบูลลี่ มีให้เห็นบ่อยครั้งในยุคนี้ ยุคที่ใครๆ ต่างก็แสดงความคิดเห็นผ่านโลกออนไลน์ได้โดยง่าย แต่สิ่งเหล่านี้อาจจะสร้างความกระทบกระเทือนใจให้กับผู้ที่เราวิจารณ์ เฉกเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เพราะฉะนั้นเราไม่มีสิทธิที่จะไปตัดสินใคร ไม่มีสิทธิที่จะใช้ถ้อยคำที่หยาบคายต่อคนที่เราไม่รู้จัก เราควรเคารพต่อผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นเพศไหน วัยใดก็ตาม


 

 

 

 

 

‘อายที่จะแสดงความรู้สึก จะมีผู้ใหญ่ช่วยเป็นแม่สื่อ’ ดูดวงรายวัน 25 เมษายน 2563

ดูดวงรายวัน 25 เมษายน 2563 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  วันนี้คุณอาจต้องเรียกร้องขอความเห็นใจถึงการทำงานที่ผิดพลาดไป ด้วยการนำงานชิ้นนั้นมาปรับปรุงใหม่ หรือไม่ก็พยายามที่จะทำงานใหม่เลย อย่างไรก็ตามไม่ควรคาดหวังมาก ก่อนจะรับปากหรือตกลงทำสัญญาใดๆ โดยเฉพาะการเงินและผลประโยชน์ ควรไตร่ตรองให้รอบคอบ เพราะมีโอกาสผิดพลาด และถูกเอารัดเอาเปรียบ รวมถึงคดโกงอย่างไม่น่าให้อภัย

การเงิน :  อาจเสียเงินให้กับคนที่คุณไว้ใจ ซึ่งเกี่ยวกับความหรูหรา และของใช้ฟุ่มเฟือย

ความรัก :  รักใครรักจริง ทุ่มเทกายใจจนเรียกว่าลุ่มหลง วันนี้คุณอาจแสดงความเป็นเจ้าของ จนคู่คุณรับไม่ได้ ตีตัวออกห่าง แม้คุณพยายามตามไปงอนง้อ เขาก็ไม่กลับ ก็ปล่อยวางบ้าง คนโสด คนที่คุณถูกใจ เขาไม่เหมาะสมกับคุณเลย

สุขภาพ :  ระวังความเจ็บป่วยที่เกิดจากการเดินทาง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อช่วงขา เท้า และหน้าแข้ง เพราะใช้งานเขาหนักเกินไป

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  คุณอาจได้ร่วมงานหรือร่วมหุ้นกับเพื่อนสนิทผู้หญิง ทำธุรกิจทางด้านสายการศึกษา เช่น ครูบาอาจารย์ นักวิชาการ โค้ชชิ่ง หรือเทรนนิ่ง ที่เชี่ยวชาญทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน บ้านจัดสรร ร้านอาหาร การจัดสวน วันนี้ควรระวังความเชื่อมั่นในตัวเอง อาจทำให้การตัดสินใจประกอบอาชีพผิดพลาด ทำให้ประสบกับปัญหาในหน้าที่การงานอย่างไม่น่าเชื่อ

การเงิน :  คุณมีรายได้หลักจากงานประจำ แต่ก็อาจมีรายได้พิเศษจากการขายอสังหาริมทรัพย์ หรือได้รับมรดกเป็นที่ดิน

ความรัก : เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในเครือญาติที่เป็นผู้หญิงๆ รวมถึงผู้ใหญ่ในบ้าน วันนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องที่อยู่อาศัย ซึ่งน่าจะเป็นสัดเป็นส่วนและมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าที่อยู่ปัจจุบัน คนโสด คุณอาจตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่กันกับเพื่อนหญิงคนสนิท ซึ่งผู้ใหญ่ก็เห็นดีด้วย เพราะเธอดูแลคุณมาตั้งแต่ยังเด็ก

สุขภาพ :  ระบบการหมุนเวียนน้ำในร่างกาย เช่น น้ำเหลือง น้ำเลือด หรือน้ำย่อย อาจผิดปกติ เช่น อาจเป็นโรคเลือด หรือน้ำเหลืองไม่ดี จนถึงน้ำในหูไม่เท่ากัน

                                                                            

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  หากคุณกำลังจะเดินทางไปบุกเบิกงานในสถานที่ที่แปลกใหม่ วันนี้คุณอาจตกอยู่ท่ามกลางการแข่งขันชิงดีชิงเด่นในเรื่องของผลประโยชน์ และหน้าที่การงานอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ก็ถือว่าคุณโชคดี เพราะผู้ใหญ่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ เพื่อนร่วมงาน และผู้บังคับบัญชาก็ให้ความเอ็นดูคุณเป็นพิเศษ จนอาจต้องเผื่อใจว่าจะถูกเขม่น หรืออิจฉาริษยาไว้ด้วย

 การเงิน :  อาจช่วยเหลือสงเคราะห์ญาติสนิทมิตรสหายจนตัวเองเดือดร้อน อย่าหลงเชื่อคำพูดที่อ่อนหวานที่มาชวนคุณให้ลงทุนในธุรกิจหรือธุรกรรมต่างๆ เพราะอาจถูกหลอกหรือถูกฉ้อโกง

ความรัก  :  คุณอาจมีความคิดเห็นไม่ลงตัว ในเรื่องที่จะย้ายครอบครัวไปลงหลักปักฐานที่อื่น เพราะสถานการณ์ตอนนี้อาจยังไม่เหมาะสมให้ทำเช่นนั้น ซึ่งคุณไม่ชอบที่จะถูกตั้งกฎเกณฑ์บีบบังคับ หรือตั้งเงื่อนไขใดๆ วันนี้จึงรู้สึกหงุดหงิดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด  คุณเคยเจ็บมาก่อน จึงไม่กล้าที่จะเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ วันนี้ผู้ใหญ่อาจเข้ามาเป็นที่ปรึกษา แต่คุณก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งอีก

สุขภาพ :  ระวังหกล้ม หรือบาดเจ็บกล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นเอ็นต่างๆ โดยเฉพาะช่วงขาและหลัง ควรออกกำลังกายด้วยการบริหารกล้ามเนื้อ บริเวณข้อและกระดูก

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  คุณอาจกำลังเริ่มต้นงานใหม่ หรือมีโครงการที่จะปรับปรุงงานที่มีอยู่เดิม เพื่อนำเสนองานเข้าแข่งขัน หรือเข้าประมูล วันนี้คุณคาดหวังความสำเร็จอย่างแรงกล้ามาก สามารถทำได้ทุกอย่างแม้อาจไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องนัก ก็ต้องระวังเพื่อนร่วมงาน หรือคนใกล้ชิดให้ดี เพราะเขาอาจแย่งความดีความชอบไป แล้วโยนความผิดมาให้คุณ

การเงิน :  อาจได้รับเงินพิเศษจากงานพิเศษ แต่ควรระวังคำพูดในการติดต่อประสานงาน โดยเฉพาะเรื่องผลประโยชน์ ก่อนเซ็นเอกสารสัญญาควรพิจารณาให้ดี เพราะคุณอาจถูกชักดาบ

ความรัก : คุณทุ่มเทให้กับความรัก และรักครอบครัวมาก หาเงินทุกบาททุกสตางค์ก็เพื่อครอบครัว เพราะฉะนั้นจึงรับไม่ได้ หากรู้ว่า คู่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ หลอกลวงคุณ วันนี้จึงพยายามที่จะล่อหลอกให้เขายอมรับให้ได้ คนโสด ควรทุ่มเทให้กับครอบครัวดีกว่าที่จะพยายามเอาชนะใจคนที่คุณถูกใจ เพราะวันนี้เขาไม่ได้ถูกใจคุณคนเดียว

สุขภาพ :  อาจเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุจากการเดินทาง ต้องระวังกล้ามเนื้อช่วงขา เท้า และหน้าแข้งให้ดี เพราะถูกใช้งานหนัก

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน :  คุณอาจถูกชวนให้เข้าไปทำงานกับญาติพี่น้อง หรือคนใกล้ชิดสนิทสนม ซึ่งต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ค่อนข้างมาก อาจเป็นในลักษณะที่ปรึกษา หรือฝ่ายข้อมูล หรือเทรนนิ่ง วันนี้ควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างของเพื่อนร่วมงานด้วย ไม่เช่นนั้นคุณอาจทำงานลำบากขึ้น

การเงิน :  รายได้หลักมาจากงานประจำ แต่ก็อาจได้เงินพิเศษจากการเข้าไปช่วยงานของครอบครัว หากลงทุนวันนี้ควรเลือกการลงทุนระยะสั้น จะสร้างผลกำไรได้มากกว่าระยะยาว

ความรัก :  คุณเปรียบเหมือนหางเสือของครอบครัว จะยึดติดอยู่กับกฏเกณฑ์และขนบธรรมเนียมประเพณีมาก วันนี้คุณอาจต้องปรึกษาผู้ใหญ่ หรือปรึกษาผู้รู้ผู้มีประสบการณ์ในเรื่องของการครองรักครองเรือน เพราะไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดขึ้น คนโสด  คุณอาจเจอคนถูกใจจนอยากจูงมือไปร่วมชีวิตกันเลย แต่หากคุณยังอาย ไม่กล้าแสดงออก วันนี้จะได้ผู้ใหญ่ช่วยเป็นสื่อกลาง

สุขภาพ :  ระบบหมุนเวียนเลือดอาจไม่ปกติ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย มีอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ ควรรับประทานอาหาร และผักผลไม้ที่ช่วยในการบำรุงเลือด รวมถึงวิตามินเสริม

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ บ้านจัดสรร ที่ดิน ที่พักอาศัย รวมถึงธุรกิจร้านอาหร ปลูกผัก จัดสวน วันนี้อาจต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และทักษะในการติดต่อประสานงาน การพีอาร์ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร แต่ก็ต้องระวังความเชื่อมั่นสูงของคุณอาจทำให้เลือกงานผิด ส่งผลให้หน้าที่การงานพังได้เลย

การเงิน :  อาจได้เงินจากการซื้อขายที่ดิน หรือได้รับมรดกเป็นที่ดินด้วยความเสน่หา แต่ก็มีโอกาสที่จะเสียเงินเพราะคนใกล้ชิด และคนรัก ในการเข้าสังคม การลงทุน และการเดินทาง

ความรัก :  ตามธรรมดาคุณก็แบกรับเรื่องราวของสมาชิกในครอบครัวไว้อย่างหนักอึ้ง ยิ่งวันนี้มีเรื่องเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยเข้ามาเกี่ยวข้องอีก อาจเป็นโครงการสร้างเรือนหอ หรือขยับขยายบ้านเพิ่มเพื่อเตรียมต้อนรับสมาชิกใหม่ คนโสด คุณอาจกำลังวางแผนที่จะสร้างเรือนหอ แต่ก็คงต้องรอให้ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ผ่านไปก่อน

สุขภาพ :  หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องเดินหรือยืนเป็นเวลานาน เพราะจะปวดเมื่อยตั้งแต่สะโพกลงมา อาจเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :  หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับสายการเกษตร ได้แก่ ออกแบบภูมิสถาปัตย์ ธุรกิจนำเข้าส่งออกสินค้าทางการเกษตร เจ้าของสินค้าโอท็อป เป็นต้น วันนี้คุณจะอยู่ท่ามกลางการแก่งแย่งแข่งขันชิงดีกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ซึ่งคุณต้องสู้อยู่บนหลักการ และบารมีที่สะสมมาตลอดชีวิตการทำงาน จึงจะเอาชนะได้อย่างเบ็ดเสร็จ

การเงิน : ดีเลิศ มีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ แต่หากลงทุนโดยที่ยังไม่เห็นผลตอบแทน ก็ต้องคิดหน่อยนะ เพราะการลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง

ความรัก : ตามธรรมดาคุณก็ได้รับความรักและการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัวอย่างดีเสมอต้นเสมอปลาย แต่วันนี้อาจมีเรื่องผิดหูผิดใจกันนิดหน่อย ว่าด้วยเรื่องของศักดิ์ศรีที่คุณยอมไม่ได้  คนโสด คุณมีความรู้ ความสามารถ และมีบารมี จึงทำให้ใครๆ ก็อยากได้คุณไปเป็นแฟน วันนี้อาจมีการเปิดศึกหน้านางแย่งชิงคุณ

สุขภาพ :  อาจต้องรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพราะคุณจะเลือกรับประทาน

เช็กดวงย้อนหลังได้ที่นี่

ธาตุแท้หนุ่มที่คุณหมายตา อาจรุนแรงกว่าภาพที่เห็น ดูดวงรายวัน 18 เมษายน 2563

แฟนเก่าทักแชทมา แต่ก็แค่โยนหินถามทาง ดูดวงรายวัน 19 เมษายน 2563

ระวัง!!! บุคลิกที่ดูภูมิฐาน แต่คือนักฉวยโอกาสดีๆ นี่เอง ดูดวงรายวัน 20 เมษายน 2563

พรหมลิขิตรัก ที่สามารถล้มมาตรฐานทั้งปวงได้ ดูดวงรายวัน 21 เมษายน 2563

อย่านำพิมเสนไปแลกกับเกลือ ไม่คุ้ม!!! ดูดวงรายวัน 22 เมษายน 2563

มุ่งหาทรัพย์ ไม่สนใจแฟนเก่าขอรีเทิร์น!!!! ดูดวงรายวัน 23 เมษายน 2563

เป็นนักรบในเกมรัก เพื่อหวังเช็กเรตติ้ง!!! ดูดวงรายวัน 24 เมษายน 2563

ตอบโจทย์สายสุขภาพ กับนวัตกรรมการ ดีท็อกซ์ลำไส้และตับ PHYTOVY LIV

ตอบโจทย์สายสุขภาพ กับนวัตกรรมการ ดีท็อกซ์ลำไส้และตับ PHYTOVY LIV โฉมใหม่

ซัคเซสมอร์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “PHYTOVY LIV” รสแบล็คราสเบอร์รี่ นวัตกรรมการ ดีท็อกซ์ลำไส้และตับ ที่ส่งเสริมการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อุดมด้วย Probiotic  และเส้นใยอาหารช่วยให้ระบบขับถ่ายดียิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ ปรับสมดุลร่างกาย ขจัดและเร่งการขับสารพิษตกค้างในตับ ด้วยเทคโนโลยี FIR พร้อมยับยั้งการสะสมของไขมันส่วนเกินในร่างกายด้วยสารสกัด Garcinia Extract จากผลส้มแขก การันตีด้วยรางวัลนวัตกรรม Grand Prize จากประเทศเกาหลี ตอบโจทย์ไลฟสไตล์คนยุคปัจจุบันได้อย่างตรงจุด

เพื่อนเจ้าสาวทำอะไร เรามีคำตอบ ตั้งแต่เริ่มวางแผนจนถึงวันแต่งงาน

account_circle

รองจากเจ้าสาวก็เพื่อนเจ้าสาวเนี่ยแหละที่เป็นดาวเด่นของงาน แต่ใช่ว่าเป็นเพื่อนเจ้าสาวแล้วจะแค่แต่งตัวสวยๆ คอยถ่ายรูปกับเจ้าสาวและเหล่าเพื่อนเจ้าบ่าวเท่านั้นนะ แต่ เพื่อนเจ้าสาวทำอะไร บ้าง เรามีคำตอบมาให้แล้ว สำหรับสาวๆ ที่กำลังเตรียมตัวจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวคนต่อไป

เพื่อนเจ้าสาวทำอะไร

  • ให้ความคิดเห็น

หน้าที่ของเพื่อนเจ้าสาวเริ่มต้นตั้งแต่คู่บ่าวสาววางแผนจัดงานแต่งงานเลยทีเดียว กับการช่วยมองหาสถานที่จัดงาน ออกไอเดียเรื่องชุด เรื่องการตกแต่งงานแต่งงาน หรือบางทีอาจต้องตระเวนไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำกับว่าที่เจ้าสาวเพื่อเฟ้นหาสิ่งที่ดีที่สุด แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่เราว่า จะทำก็ต่อเมื่อคุณบ่าวสาวเขาร้องขอ แต่ถ้าคุณเชี่ยวชาญในด้านที่เกี่ยวข้องจริงๆ จะเสนอตัวรับผิดชอบไปเลยก็ได้ ถือเป็นการแบ่งเบาหน้าที่ของเจ้าสาวอีกแรง

เพื่อนเจ้าสาวทำอะไร

  • จัดงานปาร์ตี้สละโสดให้เพื่อนสาว

เป็นสิ่งที่เพื่อนเจ้าสาวร่วมมือร่วมใจกันทำเพื่อเจ้าสาว กับการจัดงานปาร์ตี้ให้ไม่ว่าจะเป็น Bridal Shower งานเลี้ยงสละโสดแบบใสๆ ให้ของขวัญกันน่ารักๆ หรือจะเป็น Hen’s Night งานเลี้ยงอำลาความโสดฉบับยัยตัวร้าย ส่วนใหญ่ก็มักเป็นงานที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานกับเกมส์ต่างๆ แต่บางครั้งก็อาจมีความซึ้งของมิตรภาพระหว่างเพื่อนให้เป็นซีนเรียกน้ำตาอยู่บ้าง

เพื่อนเจ้าสาวทำอะไร

  • เป็นผู้ประสานงาน

บ่าวสาวมีอะไรต้องทำมากมาย บ้างครั้งหลังจากที่เขาและเธอติดต่อเรื่องต่างๆ แล้ว เพื่อนเจ้าวสาวอาจต้องรับหน้าที่ประสานงานต่อ หรือติดตามงานเพื่อให้ได้ในสิ่งที่บ่าวสาวต้องการให้เกิดขึ้นในวันสำคัญ  ซึ่งคุณก็ต้องทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาแทน ไปจนถึงในวันแต่งงานเลยทีเดียว เผลอๆ อาจต้องทำหน้าที่ประสานงานกับหนุ่มๆ เพื่อนเจ้าบ่าว และไม่แน่…อาจทำให้เกิดคู่รักคู่ใหม่ก็ได้นะ อิอิ

  • เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉิน

ในวันแต่งงานมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ตั้งแต่ของขาด ชุดเสียหาย ไปจนถึงอุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งเพื่อนเจ้าสาวแต่ละคนอาจจะต้องพกอุปกรณ์ฉุกเฉินกันคนละอย่างสองอย่าง บางคนพกชุดเข็มด้าย อีกคนพกชุดปฐมพยาบาลอะไรแบบนี้ ซึ่งเราแนะนำว่าควรหาชุดเพื่อนเจ้าสาวที่มีกระเป๋าเล็กๆ ซ่อนอยู่เพื่อจะพกของเหล่านี้ไว้กับตัวได้ พอเกิดเหตุปุ๊บก็เข้าช่วยได้ทันที

  • ดูแลเจ้าสาว

ในวันแต่งงานเป็นวันที่เจ้าสาวยุ๊ง ยุ่ง ยุ่งจนบางทีลืมดื่ม ลืมกิน เลยจะเห็นเจ้าสาวเป็นลมกันอยู่บ่อยๆ หน้าที่อีกอย่างของเพื่อนเจ้าสาวที่ดีก็คือ ดูแลว่าที่บ่าวสาวให้ได้ดื่มน้ำ กินอาหาร และพักผ่อนอย่างเพียงพอพร้อมจะลุยงานได้ทั้งวันแบบลมไม่จับ กระเพาะไม่ถามหา

นี่แหละคือหน้าที่ที่แท้จริงของเพื่อนเจ้าสาว เหล่าคนสวยรองจากเจ้าสาว และก็ยุ่งตัวเป็นขิงรองจากเจ้าสาวด้วยเช่นกัน ยังไงเราก็เป็นกำลังใจให้นะคะ และเพื่อเพื่อนเจ้าสาว เรามีรวม >> แบบชุดเพื่อนเจ้าสาว <<มาฝากด้วยนะ

ภาพเปิด pixabay
ภาพประกอบ pinterest

ไอเดีย ถ่ายรูปหมู่ ในงานแต่งงาน ยังไงให้ดูดีเว่อร์ดังมีมืออาชีพมาเซตให้!

account_circle

กิจกรรม ถ่ายรูปหมู่ ไม่ว่าจะเป็นรูปหมู่ครอบครัวหรือเพื่อน งานแต่งไหนก็ต้องมีใช่มั้ยละคะ แต่พอกันทีเถอะการยืนเรียงกันแข็งๆเหมือนเคารพธงชาติ! ยุคโซเชียลมีเดียแบบนี้เราต้องเซตท่าและคอมโพสให้สวยปังประหนึ่งมีสไตล์ลิสต์ส่วนตัวมาช่วยจัด แต่ไม่ต้อง! เพราะแค่เรารู้เทคนิคและไอเดียในการถ่ายรูปหมู่เหล่านี้ เจ้าบ่าวเจ้าสาวและบรรดาครอบครัวหรือเพื่อนๆ ก็จะได้รูปหมู่ดูดีมีระดับไปลงเฟซบุคหรือไอจีให้คนอื่นอิจฉากันแล้วล่ะ

นั่งบ้างยืนบ้าง บวกแอททิจูตจิกสไตล์นางแบบนายแบบ

ถือเป็นโพสสำหรับการถ่ายรูปหมู่สุดฮิต ภาพสไตล์นี้ถ้าจะให้ออกมาดูชิคอย่าลืมให้เพื่อนๆใส่แอททิจูตหน้าจิกสไตล์นางแบบนายแบบด้วยละ

2ถ่ายรูปหมู่

ใช้สถานที่ให้เป็นประโยชน์

ไม่ว่าจะเป็นบันไดวน ทางเดินสวยๆ สวนกว้าง หรือประตูบานใหญ่ ลองกระจายสมาชิกครอบครัวหรือเพื่อนๆ ตามขั้นบันได ยืนเรียงกันบนทางเดิน หรือโผล่หน้าออกมาจากขอบประตู ไหนๆสถานที่ก็เอื้ออำนวยแล้ว ยังทำให้รูปเราออกมาดูมีครีเอทีฟด้วยนะ

ถ่ายรูปหมู่

เดินๆ เผลอๆ สไตล์เซเลบริตี้

ไหนๆก็อยากเป็นเซเลบกะเค้าซักวัน ลองถ่ายภาพสไตล์เดินเผลอๆ อินเนอร์เหมือนเซเลบริตี้ถูกปาปารัสซี่ตามถ่าย อย่าลืมให้เพื่อนเดินขนาบรอบข้าง หัวเราะกันประหนึ่งไม่รู้ตัวเล้ยว่าโดนถ่ายรูปอยู่นะเนี่ย 555 แต่รูปออกมารับรองว่าดูสวยไฮโซค่ะ

ถ่ายรูปหมู่

ถ้าสมาชิกเยอะมาก ใช้ภาพมุมสูงซะ!

แต่ถ้าปริมาณเพื่อนๆล้นทะลักจอซะขนาดนี้ ลงทุนปีนบันไดถ่ายรูปจากมุมสูง จะสามารถเก็บภาพของทุกคนได้ครบค่ะ (แถมยังช่วยให้ดูหน้าเล็กเพราะไม่ใช่ภาพมุมเสยด้วยนะ)

ถ่ายรูปหมู่

ใช้เพื่อนเป็นแบ็คกราวน์ซะเลย!

สุดท้าย ไหนๆก็สมาชิกเยอะแล้ว บ่าวสาวลองครีเอทรูปหมู่โดยการใช้เพื่อนเราเป็นแบ็คกราวน์แบบในภาพซะเลย รับรองภาพออกมาทั้งดูหวานน่ารักและยังเก๋ไก๋ เอาลงไอจีรับรองปังค่ะ!

ถ่ายรูปหมู่

หวังว่าคุณว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว และบรรดาเพื่อนๆหรือครอบครัว จะสามารถนำเอาไอเดียถ่ายภาพหมู่สุดครีเอทเหล่านี้ไปใช้ แล้วอย่าลืมแทคเราด้วยละคะ (ถ้าลงเฟซบุ๊ก tag เราได้ที่ page: praewwedding แต่ถ้าลงไอจี tag เราได้ที่ @praewwedding นะ)

ถ้าชอบคอนเท้นต์นี้ของเรา ลองอ่าน >> ไอเดียแบ็คดร็อปสุดโมเดิร์น << ที่จะยิ่งช่วยครีเอทงานของว่าที่บ่าวสาวให้ดูชิคขึ้นไปอีก

Credit Photo: pinterest

บียอนเซ่

บียอนเซ่ บริจาคเงิน 194 ล้าน ช่วยคนผิวสีและผู้ที่ได้รับความเหลื่อมล้ำในสังคม

Alternative Textaccount_circle
บียอนเซ่
บียอนเซ่

ในนามคนผิวสีและศิลปินหญิงผู้ทรงอิทธิพล บียอนเซ่ ได้บริจาคเงินจำนวนมากถึง 194 ล้านบาท โดยร่วมมือกับซีอีโอทวิตเตอร์ ในการแก้ปัญหาสุขภาพจิต ช่วยเหลือคนผิวสี และผู้ที่ได้รับความเหลื่อมล้ำในสังคม จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19

  บียอนเซ่

บียอนเซ่ (Beyoncé) ศิลปินหญิงผิวสีผู้ทรงอิทธิพลในวงการ เป็นคนดังคนล่าสุดที่ออกตัวช่วยเหลือผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 โดยงานนี้เธอได้บริจาคเงินเป็นจำนวน 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 194 ล้านบาท) ผ่านองค์กรบรรเทาทุกข์ BeyGOOD ร่วมมือกับ “แจ็ค ดอร์ซีย์” ซีอีโอและผู้ก่อตั้งทวิตเตอร์ บริจาคเงินให้กับหลากหลายองค์กร

บียอนเซ่

และยังได้ร่วมมือกับ National Alliance in Mental Health, University of California Los Angeles เพื่อปรับปรุงสุขภาพจิตของคนในท้องถิ่น โดยโฟกัสไปที่กลุ่มคนแอฟริกัน-อเมริกัน เยียวยาด้านสุขภาพจิต เพราะคนกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยเธอกล่าวว่านอกจากสิ่งจำเป็นพื้นฐานที่หลายคนไม่สามารถเข้าถึงได้ การดูแลด้านจิตใจก็เป็นสิ่งที่ต้องรีบแก้ไข

บียอนเซ่โดยแถลงการณ์เปิดเผยว่า ชุมชนผิวสีกำลังทุกข์ทรมานจากการขาดแคลนในช่วงการระบาดของไวรัส Covid-19 หลายครอบครัวอาศัยอยู่ในพื้นที่ด้อยโอกาส ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย เงิน การศึกษา และสุขภาพ ซึ่งขณะที่พวกเขามีอัตราการติดเชื้อที่น่าตกใจ พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงการทดสอบการติดเชื้อหรืออุปกรณ์ป้องกันพื้นฐานที่จะใช้ดูแลสุขภาพได้อย่างเท่าเทียม


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

22 วัน 6.8 โล เผยวิธีลดน้ำหนัก ‘บียอนเซ่’ กับการกินแบบ Plant Based Diet

เปิดใจเอ็กซ์คลูซีฟ! ความสุขที่แท้จริงของ 'เจนี่' บทบาทคุณแม่ที่เฝ้ารอมาทั้งชีวิต

เปิดใจเอ็กซ์คลูซีฟ! ความสุขที่แท้จริงของ ‘เจนี่’ บทบาทคุณแม่ที่เฝ้ารอมาทั้งชีวิต

Alternative Textaccount_circle
เปิดใจเอ็กซ์คลูซีฟ! ความสุขที่แท้จริงของ 'เจนี่' บทบาทคุณแม่ที่เฝ้ารอมาทั้งชีวิต
เปิดใจเอ็กซ์คลูซีฟ! ความสุขที่แท้จริงของ 'เจนี่' บทบาทคุณแม่ที่เฝ้ารอมาทั้งชีวิต

อัพเดตชีวิตแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ‘เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร’ คุณแม่สุดปังแห่ง พ.ศ. นี้ กับบทบาทสำคัญที่ทำให้ค้นพบความสุขที่ตามหามาทั้งชีวิต

“ตอนนี้มีความสุขที่สุดเลยค่ะ” นี่คือคำพูดแรกที่ ‘เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร’ คุณแม่มือใหม่อธิบายถึงชีวิตวันนี้ ที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังแทบไม่เชื่อว่าจะมีวันนี้จริงๆ วันที่ได้ทำหน้าที่คุณแม่เต็มตัวของน้องโนล่า-เด็กหญิงณเพชร ณ ป้อมเพชร และหน้าที่ภรรยาของสามีสุดที่รัก มิกกี้-นนท์ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร

ตั้งแต่เป็นคุณแม่แบบฟูลไทม์ ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างคะ

“โอ้โฮ…เปลี่ยนทุกอย่างเลยค่ะ (ยิ้ม) ถ้าย้อนกลับไปถึงชีวิตที่ผ่านมา เจนี่คิดว่าตัวเองเจออะไรมาแบบครบทุกรส คือผ่านมาหมดแล้ว ทั้งการทำงาน อุปสรรค เรื่องราวต่างๆ ในชีวิต ก่อนจะลงเอยที่การมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ

“ชีวิตคนเราจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีก นอกจากมีชีวิตคู่ที่ดี มีคนที่รักเรา มีลูกด้วยกัน นี่คือชีวิตที่เจนี่ฝันมาตลอด แต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริง จนถึงเวลาที่ฟ้าส่งมาให้…บอกได้เลยว่าตอนนี้ทุกอย่างในชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีมากๆ ดีแบบคาดไม่ถึง โดยเฉพาะเมื่อมีลูกเข้ามาเติมเต็มให้ชีวิตของเราสมบูรณ์แบบ ทุกเช้าเวลาเจนี่เห็นพ่อกับลูกอยู่ด้วยกันจะรู้สึกทุกครั้งว่า…ทำไมเราโชคดีขนาดนี้ มีทั้งคนรักที่ดี มีลูกที่น่ารัก โดยเฉพาะเวลาที่มองโนล่า มันคือความรู้สึกที่มหัศจรรย์มากๆ เป็น Unconditional Love จริงๆ ซึ่งอาจจะไม่ได้เพอร์เฟ็กต์ในสายตาของใครคนอื่น แต่สำหรับเจนี่ นี่แหละ…คือความสมบูรณ์แบบและความสุขที่สุดในชีวิต

“ก่อนหน้านี้คิดภาพตัวเองตอนมีลูกไม่ออกเลยนะคะ อย่างเวลาได้อยู่กับหลานๆ เจนี่ก็ว่าตัวเองมีความสุขมากแล้วนะ แต่พอมีลูกเอง เข้าใจเลยว่าความรักของแม่เป็นอย่างไร ยิ่งใหญ่ขนาดไหน รู้แล้วว่าจะทำงานเพื่ออะไร ทำเพื่อใคร อยู่เพื่อใคร ลูกคือคำตอบของทุกอย่างในโลกของเจนี่เลยค่ะ ที่สำคัญคือบอกตัวเองว่า เราตายไม่ได้…เราต้องอยู่เพื่อลูก”

เปิดใจเอ็กซ์คลูซีฟ! ความสุขที่แท้จริงของ 'เจนี่' บทบาทคุณแม่ที่เฝ้ารอมาทั้งชีวิต

แสดงว่าเมื่อก่อนมีคำถามกับตัวเองค่อนข้างเยอะสิ

“ใช่ค่ะ…ความที่ทำงานในวงการมาตั้งแต่อายุ 20 ปี ซึ่งเจนี่ก็รักหน้าที่การงานตรงนี้มากๆ นะ พอถึงจุดหนึ่งรู้สึกว่าชีวิตเริ่ม Slow Down เลือกรับงานมากขึ้น เลือกบทที่เหมาะกับตัวเองจริงๆ เพราะด้วยประสบการณ์และอายุที่โตขึ้น ทำให้เราไม่ได้รับงานทุกอย่างเหมือนตอนวัยรุ่นแล้ว จึงกลายเป็นว่าทุกสิ่ง ที่เราทำตอนนี้คือสิ่งที่เรารักจริงๆ

“และพอทำงานมา อยากได้อะไรก็ซื้อ อยากทำอะไรก็ทำ ตอบทุกความต้องการของตัวเอง จนเมื่อ 5-6 ปีที่แล้วถึงจุดที่รู้สึกว่าเรามีทุกอย่างครบแล้วอะ จนบางครั้งรู้สึกว่ามันใกล้จะล้นแล้ว จึงเกิดคำถามกับตัวเองว่า…แล้วยังไงต่อ ทำงานไปทำไม ซื้อของเพื่ออะไร แต่พอมีลูก…ทำให้เจนี่เข้าใจทุกอย่างเลยนะ ตอบคำถามตัวเองได้ทุกข้อว่าตอนนี้เราทำทุกอย่างเพื่อลูก เพื่อโนล่า”

เปิดใจเอ็กซ์คลูซีฟ! ความสุขที่แท้จริงของ 'เจนี่' บทบาทคุณแม่ที่เฝ้ารอมาทั้งชีวิต

ชื่อ “โนล่า” มาจากอะไรคะ

“ตอนตั้งชื่อลูก เจนี่คิดแค่ว่าอยากให้มีชื่อพ่อกับแม่ผสมกัน ซึ่งโนล่ามาจากชื่อของมิกกี้ผสมกับเจนี่ค่ะ (ยิ้ม) มิกกี้ชื่อจริงว่านนท์ มีตัว ‘น’ แต่ทีแรกพอจะหยิบมาผสมกับ ‘จ’ ในชื่อเจนี่ รวมกันเป็น ‘จน’ (หัวเราะ) คงไม่ดีมั้ง เปลี่ยนๆ แล้วจู่ๆ ก็พูดชื่อ ‘โนล่า’ ออกมา ซึ่งคล้องกับชื่อจริงของพ่อเวลาเขียนเป็นภาษาอังกฤษ Nol ส่วนลูก Nola รู้สึกว่าน่ารักดี ก็เลยเลือกชื่อนี้ค่ะ” (ยิ้ม)

ตอนนี้กิจวัตรประจำวันของคุณแม่มือใหม่เป็นอย่างไรคะ

“จากเมื่อก่อนเวลาทำอะไร ทั้งหมดคือทำเพื่อตัวเอง แต่เดี๋ยวนี้คิดถึงแต่ลูกค่ะ ตื่นเช้ามาต้องทำอะไรให้ลูกบ้าง จะซื้ออะไรให้ลูกดี ต้องอาบน้ำ เตรียมนมให้ลูกก่อนนะ แล้วค่อยทำของตัวเอง คือลูกต้องมาเป็นอันดับหนึ่งในทุกเรื่อง

“ตอนนี้กิจวัตรประจำวันของเจนี่เริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ โดยมิกกี้จะตื่นก่อน ประมาณตี 5 มาล้างขวดนม จากนั้นเขาก็ออกกำลังกาย ส่วนเจนี่ตื่นมาก็ปั๊มนมให้เรียบร้อย แล้วค่อยสลับหน้าที่กัน ให้มิกกี้ดูลูก ส่วนเจนี่ไปออกกำลังกาย (ยิ้ม) ถ้าบางวันที่มิกกี้ออกไปทำงาน เจนี่ก็ต้องทำภารกิจตัวเองให้เสร็จก่อน 9 โมงเช้า จากนั้นก็อยู่กับลูกทั้งวัน (ยิ้ม)

“เพราะบ้านเราไม่มีพี่เลี้ยง เจนี่กับมิกกี้ช่วยกันสองคน เนื่องจากเราอยากเข้าใจเขาในทุกๆ เรื่อง ไม่อยากพลาดสักนาทีของลูก ตอนนี้จึงตัวติดกันตลอดเวลา บางทีลูกนอน เราก็ต้องแอบงีบด้วยสักแป๊บ เพราะเจนี่ต้องปั๊มนมทุกๆ 3-4 ชั่วโมง จึงแทบไม่ได้นอนยาวเลย ตั้งใจไว้ว่าอยากให้ลูกกินนมแม่ให้นานที่สุดเท่าที่ทำได้ อาจจะถึง 1 ขวบ ยังไม่อยากให้เขากินนมผง”

คุณพ่อมิกกี้ล่ะคะ ช่วยเลี้ยงลูกอย่างไรบ้าง

มิกกี้พักเบรกจากการอุ้มลูกแล้วมาช่วยเล่าต่อ “ช่วงลูกเดือนแรก ผมกับเจนี่ก็หนักหน่อยครับ ได้นอนวันละ 3-4 ชั่วโมงสลับกัน แต่ตอนนี้โนล่าเริ่มนอนยาวตอนกลางคืนแล้ว ก็เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ผมนอนเยอะกว่าเมื่อก่อนอีก เพราะนอนหลับพร้อมลูกตั้งแต่ 2 ทุ่ม – ตี 5 (ยิ้ม) แต่เจนี่ต้องตื่นทุก 3 ชั่วโมงเพื่อปั๊มนมให้ลูก ผมก็เกรงใจเขานะ เลยถือว่าผมนอนกับลูกเผื่อละกัน” (หัวเราะ)

เจนี่อธิบายเสริม “มิกกี้ดูแลได้ทุกอย่างค่ะ เราทำแทนกันได้ทุกเรื่อง ถึงบอกว่าเจนี่โชคดีมากที่เจอคนที่เหมือนกัน เหมือนเห็นตัวเองในตัวมิกกี้ เราจึงไม่ได้รักที่เขาเป็นเขาเท่านั้น แต่รักที่เขาเป็นเราด้วย เป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไขเลยค่ะ”

ตั้งแต่มีลูก มิกกี้ดูแลเจนี่เป็นพิเศษขึ้นไหมคะ

“ไม่นะ…เพราะเขาดูแลเป็นพิเศษตั้งแต่แรกอยู่แล้วค่ะ (ยิ้ม) ไม่มีพิเศษมากกว่านี้ ทุกอย่างดีมากๆ อยู่แล้ว” (หันไปมองหน้ามิกกี้)

มิกกี้ยิ้มเขิน “หลักๆ ผมก็ยังเน้นดูแลเรื่องอาหารการกินกับการออกกำลังกาย ดูว่าช่วงนี้ควรกินอะไรเพิ่ม หรือออกกำลังกายแบบไหนเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ ผัก ผลไม้ โปรตีน ให้เพียงพอ ผมจะคอยถามตลอดว่าวันนี้กินผักกินผลไม้หรือยัง

“ส่วนเรื่องออกกำลังกายไม่ต้องห่วงเลยครับ เพราะเขาชอบออกกำลังกายอยู่แล้ว ตอนนี้เริ่มกลับมาออกกำลังกายได้ปกติ แต่ยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะแผลจากการคลอดยังไม่หายสนิท อย่างบางทีเวลาอุ้มลูกหรือให้กินนม บางครั้งลูกก็เตะถีบขาไปโดนแผลอีก”

โนล่าเลี้ยงง่ายไหมคะ

(ยิ้ม) “ง่ายนะคะ โนล่าเป็นเด็กอารมณ์ดี ยิ้มง่าย จะมีช่วงยากแค่สัปดาห์แรกหลังออกจากโรงพยาบาลกลับมาบ้าน เพราะทั้งเจนี่และมิกกี้ก็มือใหม่มาก แล้วช่วงนั้นลูกตื่นบ่อยทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เราก็ต้องปรับตัวหนักเหมือนกันค่ะ (หันไปคุยกับโนล่า) โนล่า…หนูตื่นบ่อยใช่ไหมคะ (โนล่าหันมองเจนี่ทันที) เขาเป็นเด็กที่มีอายส์คอนแท็กต์ค่ะ เวลาคุยกับเขา เขาจะมองตาเราตลอด”

คุณพ่อกับคุณแม่ ใครหวงลูกสาวมากกว่ากันคะ

เจนี่รีบยกมือ “เจนี่…หนักเลยค่ะ ทั้งหวง ทั้งห่วง ช่วงที่ออกจากโรงพยาบาลกลับมาบ้านใหม่ๆ ร้องไห้เลย อาจเพราะอาการเบบี้บลู ฮอร์โมนแปรปรวนมั้งคะ (Baby Blue ภาวะอารมณ์เศร้าของคุณแม่หลังคลอด) แบบว่าลูกตัวนิดเดียว ดูมือกับเท้าเขาสิ บอบบางมาก เราจะเลี้ยงเขาได้อย่างไร โอ้ย… กังวลไปหมดเลย (หัวเราะ) ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ปรับตัวยังไงดี จะหยิบจับอะไรกังวลไปทุกอย่าง

“ซึ่งตอนแรกคิดว่าตัวแม่น่าจะเป็นแม่ชิลๆ นะ แต่ก็ลืมไปว่าตัวเองเป็นคนที่ทุกอย่างต้องดีที่สุด จะซื้อของแต่ละอย่างก็ต้องเสิร์ชจนเจอที่ดีที่สุด หรืออย่างตอนนี้ที่มีทั้งเรื่องฝุ่น เรื่องเชื้อโรค ความสะอาดสำคัญมาก ทุกอย่างต้องสะอาดที่สุด เรียกว่าทำความสะอาดกันทั้งวัน ล้างมือจนมือสากไปหมดแล้ว (หัวเราะ) คอยอ่านหนังสือ เสิร์ชข้อมูลในอินเทอร์เน็ตอัพเดตตลอดเวลา

“เจนี่กลัวตัวเองจะสติแตกเหมือนกันนะ กังวลจนต้องไปปรึกษาคุณหมอว่าเป็นแบบนี้ปกติหรือเปล่า ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าคุณแม่มือใหม่ก็แบบนี้แหละ เดี๋ยวก็ดีขึ้น สักพักพอฮอร์โมนเข้าที่ก็ดีขึ้นจริงๆ ค่ะ (ยิ้ม) แต่ก็ยังมีความกังวลอยู่บ้างนะคะ”

มองอนาคตลูกไว้อย่างไรคะ

“ยังไม่อยากมองไปไกลนะ ค่อยๆ ดูกันไปวันต่อวัน พอโตค่อยให้เขาเลือกเองว่าชอบอะไร อยากทำอะไร แล้วดูไปตามความเหมาะสม ไม่อยากไปจู้จี้กับลูก กลัวเขารำคาญ กลัวลูกไม่รักค่ะ (หัวเราะ) ถ้าในอนาคตเขาอยากเข้าวงการก็ให้เขาเลือกเอง เพราะแม่ไม่ใช่เจ้าชีวิตลูก เจนี่อยากเป็นแม่ที่คอยสนับสนุนอยู่ข้างๆ คอยช่วยเหลือ ให้กำลังใจ เป็นเหมือนเพื่อนที่เขาไว้ใจ ปรึกษาได้ และจะไม่บังคับลูกว่าต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนี้ แต่จะให้เขาเลือกเอง

“อย่างตอนนี้ที่เห็นชัดๆ คือโนล่าชอบมองกล้อง (หัวเราะ) เวลายกมือถือขึ้นถ่าย เขาจะมองตามตลอด แม่จะแอบถ่ายไม่ได้เลย ก็เลยมั่นใจว่าลูกน่าจะ พร้อมสำหรับการถ่ายแบบแล้ว แต่พอวันนี้ที่เป็นการทำงานครั้งแรก โนล่างอแงไปหน่อย คงเพราะตื่นเต้นเจอคนเยอะ ก็เลยให้คะแนนโนล่า 1 คะแนนก่อน แต่คิดว่าครั้งต่อไปต้องดีขึ้นแน่นอนค่ะ ยังไงก็ฝากผลงานโนล่าด้วยนะคะพี่ๆ” (ยิ้ม)

พอมีลูก เจนี่เตรียมรับมืออย่างไรกับโลกโซเชียลที่เต็มไปด้วยคำพูดต่างๆ มากมาย

“ถ้าลูกโตคงบอกเขาว่าอย่าสนใจ ซึ่งจริงๆ มันเป็นเรื่องปกติของโลกนะ การที่จะมีทั้งคนรักและคนเกลียด แต่สิ่งเหล่านั้นทำอะไรเจนี่ไม่ได้เลย เพราะเรารู้ว่าความสุขของเรา…อยู่เหนือทุกสิ่งบนโลกใบนี้ อย่าไปสนใจกับคำพูดของใครก็ไม่รู้ อย่างคอมเม้นต์ต่างๆ ในโซเชียล เจนี่ไม่สนใจเลยค่ะ ใช้วิธีตัดออก จากชีวิต และไม่เคยคิดจะโต้ตอบกับใครที่เราไม่รู้จักอยู่แล้ว

“เจนี่คุยเฉพาะกับคนที่เรารักและเขารักเรา ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะนั่งเครียด หรือหาคำอธิบายให้คำพูดร้ายๆ ในโซเชียล เพราะเรามีแต่จะเสียใจนะ คนที่ทำเขาไม่เสียอะไรเลย มันเป็นเกมของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา จึงไม่รู้ว่าจะเอาชีวิตตัวเองไปแลกกับสิ่งนั้นทำไม

“จริงๆ ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่ ทุกคนมีความแข็งแกร่งในตัวเองอยู่แล้ว เหมือนมีพลังอะไรบางอย่างที่ธรรมชาติสร้างมาให้คุณแม่ทุกคน แต่ความที่เราเป็น ‘เจนี่ เทียนฯ’ เลยบวกความแกร่งเข้าไปอีก (หัวเราะ) แบบว่าเราต้องอยู่เหนือเรื่องพวกนี้ให้ได้ พอไม่เครียด ไม่กังวล ไม่ทุกข์ เราก็จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข หน้าก็จะไม่เหี่ยว เด็กตลอดไป” (ยิ้ม)

เปิดใจเอ็กซ์คลูซีฟ! ความสุขที่แท้จริงของ 'เจนี่' บทบาทคุณแม่ที่เฝ้ารอมาทั้งชีวิต

มีแผนจะกลับมารับงานหรือยังคะ

“จริงๆ ตอนนี้ก็เริ่มมีรับงานบ้างแล้วนิดๆ หน่อยๆ อย่างถ่ายแฟชั่นกับ แพรว วันนี้ก็เป็นงานคู่งานแรกเลยนะ (ยิ้ม) ส่วนเร็วๆ นี้จะมีงานโฆษณาคู่กับมิกกี้ แต่ ถ้างานละครต้องขออีกสักพักเลยค่ะ อาจจะรอให้โนล่าสักขวบนึงก่อน เพราะเจนี่ยังทำใจไม่ได้ ติดลูกมาก-ก-ก-ก บางวันต้องออกไปข้างนอกก็เหมือนใจอยู่ไม่สุข อยากรีบกลับบ้าน แล้วงานละครบางวันต้องเลิกดึก กลัวตัวเองจะร้องไห้อยู่กลางกองถ่าย (หัวเราะ)

“ส่วนธุรกิจส่วนตัวอย่าง 911 ก็ให้คุณแม่ช่วยดูแลแทนก่อนค่ะ ตอนนี้เจนี่ยังไม่สามารถออกไปทำงานได้ เพราะลูกกำลังโตขึ้นทุกวัน เราปล่อยเขาไม่ได้แม้แต่วินาที ก็เลยขอพักหน้าที่ซีอีโอไว้ชั่วคราว ขอทำงานของแม่เป็นงานหลักก่อนค่ะ เพื่อให้เวลากับลูกเต็มที่”

สุดท้ายค่ะ มีความสุขขนาดนี้ อยากมีน้องอีกคนไหมคะ

(หยุดนึก) “อาจจะ…แต่เดี๋ยวก่อนดีกว่าค่ะ เจนี่อยากเลี้ยงโนล่าให้ดีที่สุด อยากให้เขาได้รับความรักจากพ่อและแม่เต็มที่ เพราะโนล่าคือทุกอย่างในชีวิตค่ะ”


 

ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารแพรว ฉบับเมษายน 2563

ภาพเพิ่มเติม : janienineeleven

The World of the Married กระเป๋า จีซอนอู

แม่ใช้แต่แบรนด์เนม! เปิดคลังกระเป๋า ‘จีซอนอู’ เมียหลวงสุดฮ็อตที่ใครก็พูดถึง

The World of the Married กระเป๋า จีซอนอู
The World of the Married กระเป๋า จีซอนอู

สมฐานะรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล ‘จีซอนอู’ รับบทโดย ‘คิมฮีแอ’ กับคลังกระเป๋าแบรนด์เนมที่แม่มีแต่รุ่นดัง!

ตอนนี้กระแสซีรีส์เกาหลีเรื่อง A World of Married Couple กำลังฮ็อตและถูกพูดถึงมากที่สุด กับเรื่องราวของคู่สามีภรรยาที่มีมือถือที่ 3 เข้ามาในความสัมพันธ์ ด้วยบทที่ดราม่าเข้มข้น และเดาทางไม่ถูก ทำให้แฟนๆ ซีรีส์ยิ่งดูก็ยิ่งลุ้น ไม่มีใครคาดเดาได้เลยว่า ‘จีซอนอู’ เมียหลวงสุดตรองที่รับบทโดยนักแสดงมากฝีมือ ‘คิมฮีแอ’ จะตอบโต้หรือฟาดกลับอีกฝั่งแบบไหน

ซึ่งบทบาทเมียหลวงนี้ ทำให้ ‘คิมฮีแอ’ ได้รับความสนใจและมีแฟนๆ ติดตามเธอเพิ่มมากขึ้น รวมถึงแฟชั่นต่างๆ ของเธอในซีรีส์ก็ถูกค้นหามากที่สุด หากลองเสิร์ชชื่อซีรีส์เรื่องนี้ มักจะมีชื่อของคิมฮีแอปรากฏขึ้นมาและตามหลังด้วย กระเป๋า เสื้อผ้า หรือรองเท้า นั่นหมายความว่านอกจากบทบาทสุดเข้มข้นแล้ว การแต่งตัวหรือลุคของ ‘จีซอนอู’ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็ถูกโฟกัสไม่แพ้กัน

เพื่อไขข้อข้องใจเกี่ยวกับไอเท็มต่างๆ เราจึงไปสืบค้นว่าตู้เสื้อผ้าของจีซอนอูมีอะไรบ้าง และก็ได้พบว่ากระเป๋าของแม่มีแต่แบรนด์เนม ราคาแต่ละใบสูงยิ่งกว่ากำแพง โดยเฉพาะ Hermes Birkin นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ดังๆ อีกเพียบ บางใบ Sold out ไปแล้วก็มี รวมถึงแบรนด์ของเกาหลีเองก็มีมาแจมด้วย ถ้าคุณส่องจนครบทุกชิ้น อาจจะมีสักใบถูกใจคุณก็ได้นะ

แม่ใช้แต่แบรนด์เนม! เปิดคลังกระเป๋า ‘จีซอนอู’ เมียหลวงสุดฮ็อตที่ใครก็พูดถึง

The World of the Married
Valextra Iside medium leather bag ราคาประมาณ 85,000 บาท

The World of the Married จีซอนอู

The World of the Married จีซอนอู
Alaïa Small Leonie Leather Top Handle Bag สี Sahara ราคาประมาณ 82,000 บาท

The World of the Married จีซอนอู

DELVAUX Brillant MM Bag ราคาประมาณ 200,000 บาท

The World of the Married จีซอนอู

Roger Vivier So Vivier Medium Leather Shoulder Bag ราคาประมาณ 94,000 บาท

The World of the Married จีซอนอู

The World of the Married จีซอนอู
Hermes Birkin 35 Gold Togo Gold ราคาประมาณ 550,000 บาท

ALEXANDER MCQUEEN The Story  Pre Fall 2019 Collection ราคาประมาณ 66,000 บาท

The World of the Married จีซอนอู

The World of the Married จีซอนอู
TOM FORD Tote Bag (Sold Out) ราคาประมาณ 39,000 บาท

Alaïa Small Leonie Leather Top Handle Bag สีดำ ราคาประมาณ 87,000 บาท

JOY GRYSON Ricky Tote Medium, Heather Grey ราคาประมาณ 15,000 บาท

The World of the Married จีซอนอู

The World of the Married จีซอนอู
DELVAUX Brillant East West Mini Box Calf

The World of the Married จีซอนอู

JOY GRYSON Sierra Hobo Bag, Heather Grey ราคาประมาณ 12,000 บาท

The World of the Married จีซอนอู

The World of the Married จีซอนอู
Roger Vivier Flower Buckle Satin Clutch ราคาประมาณ 60,505 บาท

ภาพ : IG@heeae_official , The World Of The Married

เรื่อง : Hana_แพรวนิสต้า (ฮานะ)

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แหล่งข่าวเผย แหวนแต่งงานมูลค่า 12 ล้านของ ‘ดัชเชสเคท’ ควรเป็นของ ‘เมแกน’

นางเอกขวัญใจตลอดกาล! เปิดลุค ‘เคียวโกะ ฟูคาดะ’ ทั้งหวานทั้งแซ่บในวัย 37 ปี

ยกอันดับ 1 ให้เลย! สื่อเกาหลีพูดถึงสไตล์ ‘ลิซ่า’ แฟชั่นนิสต้าที่ได้รับการยอมรับ

ปังไม่ไหว! THIS IS ME VATANIKA เวอร์ชั่น StayHome ส่องวิถีดีไซเนอร์ยุคโควิด

สวยจบในชิ้นเดียว! แฟชั่นจั๊มสูท เทรนด์ที่สุภาพสตรีในราชวงศ์ต่างประเทศชื่นชอบ

เจ้าพ่อซูเปอร์แบรนด์ บาส-นิติ DIY หน้ากากจากผ้าแอร์เมส-ชาเนล พร้อมทำบริจาค

เปิดห้องเสื้ออีกครั้ง! Dior ผลิตหน้ากากอนามัย มอบให้บุคลากรทางการแพทย์

ไปให้สุดค่ะแม่! แฟชั่น STAYHOME ฉบับ ‘วทานิกา’ ดีไซเนอร์สุดแซ่บ

หล่อมาดนายแบบ! ‘เกาเหว่ยกวง’ หรือ ‘มหาเทพตงหัว’ กับแฟชั่นมิดชิดช่วงโควิด-19

เหตุใด ดัชเชสเคท แต่งตัวผ่อนคลายขึ้น หลัง เมแกน ออกจากการเป็นราชวงศ์ชั้นสูง

ถูกวิจารณ์เยอะเกินพอดี! คอสตูม ดั่งดวงหฤทัย ไม่เรียบง่ายตามบทนิยาย

บลิ๊งค์ขอความเท่าเทียม! สปอร์ตแบรนด์ดังตัดภาพ จีซู BLACKPINK บนเว็บไซต์จีน

#ดูเอาเถิด ลุคเข้าสวน-ทำครัวของ เจ้าแม่แฟชั่น ‘ชมพู่ อารยา’

เปลี่ยนลุคเหมือนลดอายุ! ซงฮเยคโย ถ่ายแฟชั่นเซ็ตรับซัมเมอร์

 

 

 

 

โย่ง อาร์มแชร์

ก่อนโควิด Vs หลังโควิด ส่องลุคคูลๆ ของหนุ่มหล่อมีสไตล์ โย่ง อาร์มแชร์

Alternative Textaccount_circle
โย่ง อาร์มแชร์
โย่ง อาร์มแชร์

จากหนุ่มหน้าใสสู่ความหล่อในสไตล์คมเข้ม เปิดภาพก่อนและหลังเก็บตัวช่วง Covid-19 ของนักแสดงมาดอบอุ่น โย่ง อาร์มแชร์ หรือ “พี่ริ” ในละคร อกเกือบหักแอบรักคุณสามี

โย่ง อาร์มแชร์

ไม่ได้มีผลงานทางโทรทัศน์สักพักแล้ว สำหรับนักแสดงหนุ่ม โย่ง อาร์มแชร์ หรือ อนุสรณ์ มณีเทศ ล่าสุดเขาได้กลับมาเรียกความนิยมจากสาวๆ อีกครั้งผ่านผลงานชิ้นใหม่ อกเกือบหักแอบรักคุณสามี ของค่าย ทอง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ออกอากาศทางช่อง3 กด 33 และด้วยเสน่ห์บวกกับนิสัยอบอุ่นทั้งในจอและนอกจอ จึงไม่แปลกใจเลยที่ออกอากาศไปแค่ตอนแรก จะได้กระแสตอบรับที่ดีมากมายจากแฟนละคร

โย่ง อาร์มแชร์

ถึงในจอหนุ่มโย่งอาจจะหน้าใสเกลี้ยงเกลา แต่อันที่จริงแล้ว ตอนนี้เขากลายเป็นหนุ่มสไตล์เข้มๆ ไปแล้ว กับการไว้เคราแบบพิมพ์นิยมเสริมลุคความเป็นชายให้ชัดเจน ซึ่งเขาได้เผยภาพผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวในช่วงที่ล็อคดาวน์จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19

อันที่จริงแล้วไม่ใช่ครั้งแรกที่นักแสดงหนุ่มคนนี้เปลี่ยนลุค ย้อนหลับไปเมื่อหลายๆ ปีก่อน เรามักจะได้เห็นเขาไว้หนวดเคราที่หลายคนเรียกว่า “เคราแพะ” แต่หลังจากละครเรื่อง “คนละขอบฟ้า” หนุ่มคนนี้ก็ตัดสินใจเปลี่ยนลุคด้วยการโกนหนวดโกนเคราทิ้ง และล่าสุดเขาก็ได้มีการเปลี่ยนลุคอีกครั้ง เห็นแล้วถูกใจกันไหมคะ

ในละครเรื่องคนละขอบฟ้า

ภาพล่าสุดของ “โย่ง-อนุสรณ์ มณีเทศ”

โย่ง อาร์มแชร์

โย่ง อาร์มแชร์

โย่ง อาร์มแชร์

โย่ง อาร์มแชร์


ภาพจาก : IG @yongarmchair

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

สามีดีเด่น! โย่ง อาร์มแชร์ เขียนบันทึกครบรอบ 3ปี เลิกบุหรี่เพราะรักภรรยามากกว่า

ซึ้ง! เจอหน้าลูกครั้งแรก ลีเดีย & แมทธิว ดีน ทำคลิปขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์

สมกับร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด คิมแทฮี แจ้งเกิดใหม่ในฐานะแม่ที่แท้จริง!

มูลนิธิช้าง แม่แตง เชียงใหม่

วิกฤติช้างเสี่ยงอดตาย! “เล็ก-แสงเดือน” นางฟ้ากลางหุบเขา ทุ่มเททั้งชีวิตดูแลเพื่อนร่วมโลก

มูลนิธิช้าง แม่แตง เชียงใหม่
มูลนิธิช้าง แม่แตง เชียงใหม่

ช่วงเวลาที่ยากลำบากที่เราทุกคนต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 เชื่อว่า บางคนอาจท้อแท้ สิ้นหวังกับสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น บางคนถึงขั้นตกงาน รายได้แทบเป็นศูนย์ แต่ในขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็ยังมีอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ขนาดเราเองที่เป็นมนุษย์ ก็ยังต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด

มูลนิธิช้าง แม่แตง เชียงใหม่

เช่นเดียวกัน..เพื่อนร่วมโลกที่อยู่กับเรา อย่างบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ ที่ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ ทั้งยังเป็นสัตว์ที่ต้องพึ่งพาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ก็ย่อมเกิดผลกระทบด้วยเช่นกัน แต่พวกเขาเหล่านั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งในเวลานี้ จำนวนสัตว์ต่างๆ ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะของความอดยากมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ ช้าง ที่ตอนนี้อยู่ในภาวะวิกฤติเสี่ยงอดตายสูงมาก

วิกฤติช้างเสี่ยงอดตาย! “เล็ก-แสงเดือน” นางฟ้ากลางหุบเขา ทุ่มเททั้งชีวิตดูแลเพื่อนร่วมโลก

มูลนิธิช้าง แม่แตง เชียงใหม่

เล็ก-แสงเดือน ชัยเลิศ ผู้อำนวยการศูนย์บริบาลช้าง และผู้ก่อตั้งมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้เล่าถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับช้าง และสัตว์อื่นๆ ที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ ตอนนี้ว่า หลังจากที่ไวรัสโควิด-19 ได้เริ่มระบาดมาตั้งแต่ต้นปี สถานการณ์ของช้างไทย ที่เดิมที ก็ต้องอาศัยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ กำลังจะอดตายในไม่ช้า เนื่องจากถูกทอดทิ้งจากนายทุนที่ทำธุรกิจปางช้างขนาดใหญ่ เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ ซึ่งส่งผลให้ควาญช้างตกงาน ขาดรายได้ที่จะมาเลี้ยงดูช้างให้กินอิ่มเหมือนที่ผ่านมา

“บ้านเรานั้นช้างอยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แล้วตอนนี้มีมากกว่า 3,000 เชือก พวกควาญช้างและชาวบ้านที่ทำธุรกิจท่องเที่ยวขนาดเล็ก ก็เจอผลกระทบหนัก รายได้ที่เอามาเลี้ยงช้าง ก็มาจากนักท่องเที่ยว พอเกิดวิกฤตินี้ขึ้นมา นักท่องเที่ยวก็ไม่มี

โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นกลุ่มหลักเลย ทั้งในภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา ซึ่งผลกระทบมันเริ่มตั้งแต่ที่ทางจีนเองเขาประกาศปิดประเทศแล้ว คนเลี้ยงช้างก็ได้รับผลกระทบทันทีเลย เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวบินเข้ามา ซึ่งที่ผ่านมาเวลาเจอวิกฤติโรคระบาด เราก็ยังสามารถพยุงไปได้บ้าง แต่ครั้งนี้มันลามไปทั่วโลกถึงขั้นปิดเส้นทางการบิน และกินเวลานาน รายได้ที่เคยรับมาจากการท่องเที่ยวมันเป็นศูนย์ แต่ขณะเดียวกันเรายังมีรายจ่ายที่จะต้องเลี้ยงช้างอยู่ 100% ไม่เหมือนปางช้างใหญ่ที่มีพวกนายทุน ซึ่งตรงนั้นส่วนใหญ่เขาใช้วิธีเช่าช้างให้มาอยู่ในปาง พอเจอเหตุการณ์นี้เขาไม่ต้องรับภาระเลี้ยงดูช้าง เขาแค่ส่งให้ช้างกลับบ้านไปอยู่กับเจ้าของ คนที่เดือดร้อนจริงๆ จึงเป็นเจ้าของช้างค่ะ”

มูลนิธิช้าง แม่แตง เชียงใหม่

ด้วยเหตุนี้ทำให้ทางมูลนิธิฯ ที่คุณเล็ก-แสงเดือนเป็นผู้ดูแล กลายเป็นที่พึ่งสุดท้ายของช้างที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติครั้งนี้ โดยล่าสุดเดิมทีทางมูลนิธิฯ มีช้างที่ต้องดูแลมากถึง 84 เชือกแล้ว ยังมีช้างที่ควาญช้างนำมาฝากอีกหลายสิบเชือก ซึ่งทางมูลนิธิฯ ก็เป็นผู้ที่เข้ามาดูแล และรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมด

“ในแต่ละวันมีค่าใช้จ่าย ค่าอาหารของช้างประมาณ 1,000 บาท ต่อเชือก ช้างในมูลนิธิฯ ที่อยู่ในความดูแลของเรามีอยู่ 84 เชือก และมีช้างจากที่อื่นที่ควาญช้างเองไม่สามารถหาที่อยู่และอาหารให้ช้างได้ มาฝากอยู่ที่นี่อีกรวมๆ 35 เชือก แต่ด้วยพื้นที่เรามีไม่พอ ตอนนี้ก็เลยจัดการเอาช้างที่เขาฝากมาไปอยู่ตามมูลนิธิช้างใกล้ๆ กับที่นี่ แต่ทางเราจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ทั้งค่าอาหาร ค่าน้ำค่าไฟ รวมถึงที่พักของควาญช้างเราก็ไปช่วยเหลือเรื่องค่าซ่อมแซมให้”

“ด้วยจำนวนช้างที่มีเยอะ และเขากินทั้งวันทุกวันด้วย เราเลยต้องแบ่งงานกันให้ควาญช้างออกไปหาแหล่งอาหารตามธรรมชาติด้วย อะไรที่ช้างเขากินได้ก็ต้องเอามาทั้งข้าวโพด ต้นกล้วย ไผ่ เพราะถ้าเราจะมาหวังเอาแต่เงินบริจาคเพื่อมาซื้ออาหารให้ช้างอาจจะไม่ได้ ก็ต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย เราทำทุกอย่างเพื่อให้ช้างได้กินอิ่ม

วันนึงช้างต้องกินอาหารอย่างน้อย 10% ของน้ำหนักตัว อย่างช้างหนัก 4 ตัน เขาก็ต้องกินอาหารวันนึง 400 กิโลกรัม  ดื่มน้ำหลายร้อยลิตร พอเจ้าของไม่มีรายได้ ก็ทำให้ไม่มีเงินมาซื้อวัตถุดิบเพื่อมาทำอาหารให้ช้างกิน ตอนนี้ก็เลยต้องลดปริมาณอาหาร แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่เขายังพออิ่มในแต่ละวันได้ และด้วยจำนวนของควาญช้างที่ตกงานด้วย การดูแลช้างก็ไม่ทั่วถึง ก็ต้องล่ามโซ่บางตัวไว้บ้าง ซึ่งช้างเองก็จะเกิดความเครียด”

มูลนิธิช้าง แม่แตง เชียงใหม่

นอกจากปัญหาเรื่องปากท้องของช้างแล้ว สิ่งที่น่าเป็นห่วงอีกอย่างก็คือ ปัญหาช้างแก่และป่วย ซึ่งมีจำนวนมากกว่าช้างที่ยังแข็งแรงมีร่างกายปกติ โดยช้างกลุ่มนี้ คุณเล็กเล่าว่า ต้องใส่ใจเรื่องการให้อาหารมากกว่าช้างปกติทั่วไปด้วย

“เรามีช้างที่ป่วยอยู่เยอะ เรื่องนี้คือปัญหาที่หนักใจมาก เพราะ 70% ช้างที่อยู่ที่นี่คือช้างแก่ ส่วนใหญ่เป็นช้างที่ปลดระวางมาจากการทำงานลากซุงและจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สภาพก่อนที่เขาจะมาอยู่ที่มูลนิธิฯ ก็คือ ตาพร่ามัว ไม่มีฟัน หูไม่ได้ยินแล้ว และช้างคุณยายส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องระบบการขับถ่าย ซึ่งถ้าท้องผูกขึ้นมาเขาจะตายทันที บางเชือกก็เดินไม่ตรงแล้ว และยังมีที่เรารับมาช่วยเหลืออีก ซึ่งป่วย พิการ บาดเจ็บมา การดูแลช้างเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องให้อาหารอ่อน ให้อาหารปกติไม่ได้เลยค่ะ”

มูลนิธิช้าง แม่แตง เชียงใหม่

“นอกจากนี้ที่มูลนิธิฯ ก็ไม่ได้มีแค่ช้างอย่างเดียว เรารับหมาและแมวมาดูแลด้วยประมาณ 1,500 ตัว รวมถึงสัตว์อีกหลายชนิดที่อยู่ในมูลนิธิฯ และเรายังมีโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือในการรักษาคนในชุมชนด้วย ตอนนี้ทางโรงพยาบาลเรายังขาดอุปกรณ์ทางการแพทย์หลายอย่างมาก ทั้งเครื่องเอ็กซเรย์ เครื่องช่วยหายใจ คือใครที่สามารถให้ความช่วยเหลือเราได้ ก็รับหมด ไม่ว่าจะเป็นยา และอุปกรณ์ที่จำเป็นใช้ในโรงพยาบาล

แม้กระทั่งผ้าเช็ดตัวเก่าๆ ที่ไม่ใช้แล้ว เราก็ยินดี เพราะเรามีหมาแมว พิการเป็นร้อยตัว ซึ่งต้องใช้ผ้าเช็ดตัวเยอะมากในการทำความสะอาดเขาแต่ละวัน หรืออย่างพวกอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สึกหรอแล้วทางเราก็รับ เพื่อจะเอามาซ่อมแซมให้กลับมาใช้ได้อีกครั้ง ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ จะได้เอาเงินไปซื้ออาหารให้มากขึ้น   หรือถ้าจะบริจาคอาหารสัตว์ต่างๆ ให้กับช้าง หมา แมว กระต่าย วัว ควาย ม้า เราก็รับ คือเรามีสัตว์เยอะและหลายชนิดมาก ที่เขาเอามาฝากเลี้ยงให้เราช่วยดูแล”

มูลนิธิช้าง แม่แตง เชียงใหม่

มูลนิธิช้าง แม่แตง เชียงใหม่

มูลนิธิช้าง แม่แตง เชียงใหม่

มูลนิธิช้าง แม่แตง เชียงใหม่

มูลนิธิช้าง แม่แตง เชียงใหม่

มูลนิธิช้าง แม่แตง เชียงใหม่

หวังว่าวิกฤติที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะผ่านไปโดยเร็ว ซึ่งใครที่อยากช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้ สามารถบริจาคได้ทั้งเงิน หรืออุปกรณ์ และอาหารสัตว์ตามที่คุณเล็กแจ้งได้เลย โดยส่งไปที่เลขที่ 1 ถ.ราชมังคลา ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200

หรือบริจาคเงินได้ที่เลขบัญชี ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 047-2-93300-0 ชื่อโครงการแพรวแชริตี้โดย บมจ.อมรินทร์พริ้นติ้งฯ และธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 116-406089-7 ชื่อบมจ. อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่งโครงการแพรว แชริตี้

 

มิว นิษฐา

วิธีตัดหน้าม้าสุดคิวต์สไตล์น้องเมย หรือ มิว นิษฐา ทำได้ด้วยตัวเองที่บ้านไม่ยาก

Alternative Textaccount_circle
มิว นิษฐา
มิว นิษฐา

วิธีตัดหน้าม้าสุดคิวต์สไตล์น้องเมย หรือมิว นิษฐา ทำได้ด้วยตัวเองที่บ้านไม่ยาก

ไหนใครอินกับความน่ารักของนางเอกสาวมิว นิษฐา จิรยั่งยืน กับบทบาทน้องเมย ในละครเรื่องอกเกือบหักแอบรักคุณสามี บ้างคะ ทางเราถูกใจกับทรงผมหน้าม้าสุดคิวต์ของสาวมิวมากๆ เพราะเป็นลุคที่ดูหน้าเด็ก น่ารัก สดใสมากๆ จนอยากตัดตามทันที แต่ช่วงโควิด-19 นี้ ซาลอนทุกที่ก็ปิดหมด จะออกไปตัดตามก็ไม่ได้ แพรวดอทคอม เลยขอเสนอให้สาวๆ ตัดหน้าม้าบางๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน รับรองทำได้ไม่ยาก เรามีสเต็ปและคลิปการตัดหน้าม้ามาบอก

5 สเต็ปตัดทรงผมหน้าม้าซีทรูเก๋ๆ ด้วยตัวเองทำได้ไม่ยาก ลองดูตามนี้

  1. เริ่มจาก แบ่งผมด้านหน้าให้เป็นทรงสามเหลี่ยมคว่ำ โดยใช้เฉพาะผมช่วงกึ่งกลางเพียงนิดเดียวเท่านั้น
  2. แล้ววัดระยะว่าต้องการจะตัดออกให้เหลือยาวประมาณไหน บางคนชอบให้คลุมช่วงคิ้ว บางคนเลยคิ้วขึ้นมานิดหนึ่ง เลือกได้แล้วว่าจะให้สั้นประมาณไหน เวลาตัดต้องเผื่อไว้อีกนิดด้วย ไม่งั้นหน้าม้าจะสั้นเกินไป หลังจากที่กะระยะความสั้นยาวหน้าม้าได้แล้ว ก็หวีให้เรียบ จับให้ตึง แล้วตัดตามที่กะความสั้นยาวของหน้าม้าไว้เลย
  3. จากนั้น แบ่งผมหน้าม้าที่ตัดเป็นสามส่วน โดยส่วนตรงกลางให้เล็มเป็นแนวตรง เพื่อไม่ให้ปลายผมดูทื่อจนเกินไป
  4. ส่วนที่เหลือฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ให้ตัดเฉียงลง 45 องศา และเล็มปลายเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ปลายผมทื่อจนเกินไปเช่นกัน
  5. และที่สำคัญผมหน้าม้าสไตล์สายเกาคิวต์ๆ จะต้องมีการม้วนผมหน้าม้าให้งุ้มเล็กน้อย เพิ่มความน่ารัก โดยอาจจะใช้โรล หรือเครื่องม้วนผมเป็นตัวช่วยก็ได้

 

มิว นิษฐา

นอกจากนี้ เพื่อให้เห็นภาพ แพรวดอทคอม ได้แปะลิงก์คลิปวิธีการตัดผมหน้าม้าน่ารักๆ ด้วยตัวเองมาฝากสาวๆ ด้วยค่ะ 

 

https://www.youtube.com/watch?v=Lw6cdquLVOQ

 

มิว นิษฐา มิว นิษฐา มิว นิษฐา มิว นิษฐา มิว นิษฐา มิว นิษฐา


ภาพ IG : mewnittha และ Ch3 Thailand

 

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สวยเท่ เก๋เว่อร์ “มารีน่า” กับลุคผมสั้นเปรี้ยวเข็ดฟัน พร้อมล้วงทริครักษาหุ่นสุดแซ่บ

หน้าม้าคัมแบ็กพร้อมผมสีดำ ยัยหนู ลิซ่า เปลี่ยนสีผมใหม่ แถมต่อผมยาวขึ้น คูลมาก

เปิดลุคสวยใสวัยมัธยม “ฮันโซฮี” ก่อนโด่งดังในบทชู้รักจากซีรีส์สุดแซ่บแห่งปี

ภาพสมัยมัธยมช่วงยุค 80’s “คิมฮีแอ” เมียหลวงสุดสตรองและเต็มไปด้วยเสน่ห์

เบลล่า ราณี ลองรีวิวลิปแบบ บิวตี้บล็อกเกอร์ ครั้งแรก! ให้การอยู่บ้านเป็นเรื่องสนุก

เวิร์คมาก! กูรูแนะทิปส์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะด้วยตัวเอง ระหว่างกักตัวอยู่บ้าน

คัพเล็กแต่เซ็กซี่มาก! ส่องลุคนอกจอ Bae Doona หรือ หมอซอบี ซีรี่ส์ Kingdom

 

 

 

เรื่องเล่า 'ถุงยังชีพพระราชทาน' แม้ไม่ใช่ถุงวิเศษแต่สร้างพลังใจได้มหาศาล

เรื่องเล่า ‘ถุงยังชีพพระราชทาน’ แม้ไม่ใช่ถุงวิเศษแต่สร้างพลังใจได้มหาศาล

Alternative Textaccount_circle
เรื่องเล่า 'ถุงยังชีพพระราชทาน' แม้ไม่ใช่ถุงวิเศษแต่สร้างพลังใจได้มหาศาล
เรื่องเล่า 'ถุงยังชีพพระราชทาน' แม้ไม่ใช่ถุงวิเศษแต่สร้างพลังใจได้มหาศาล

ชวนประทับใจกับเรื่องเล่ายามวิกฤต ประสบการณ์การได้รับ ‘ถุงยังชีพพระราชทาน’ ของประชาชนตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ซึ่งทำให้ประจักษ์ว่า ทำไมสิ่งนี้ถึงมีค่ามหาศาลสำหรับใครหลายๆ คน

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย นอกจากความช่วยเหลือจากภาครัฐบาล ภาคเอกชน รวมถึงประชาชนผู้มีกำลังทรัพย์และจิตสาธารณะแล้ว ความช่วยเหลือจากสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการต่อสู้กับวิกฤตนี้

ดังจะเห็นได้จากหลากหลายน้ำพระราชหฤทัยของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่พร้อมพระทัยกันพระราชทานความช่วยเหลือแก่ประชาชนนานัปการ

สำหรับ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี นั้น นอกจากความช่วยเหลือสำคัญอย่างการพระราชทานเครื่องช่วยหายใจ จำนวน 100 เครื่อง แก่โรงพยาบาลต่างๆ เพื่อเสริมกำลังให้กับบุคลากรทางการแพทย์แล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งน้ำพระราชหฤทัยที่ดูเหมือนจะไม่ยิ่งใหญ่อะไรนัก อย่าง ‘ถุงยังชีพพระราชทาน’ แต่เรื่องราวของคุณ Varisorn Ditsaranont ซึ่งเล่าไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว กลับทำให้เรารู้ซึ้งว่า ของสิ่งนี้มีค่ามหาศาลสำหรับใครหลายๆ คนในยามวิกฤตเช่นนี้จริงๆ

ทั้งนี้เพราะประสบการณ์การได้รับถุงยังชีพพระราชทานที่คุณ Varisorn Ditsaranont บอกเล่าเอาไว้นั้น ทำให้เรารู้ว่าภายในถุงยังชีพพระราชทานเต็มไปด้วยข้าวของจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต ทั้งเครื่องอุปโภคและบริโภค เช่น ข้าวสาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุง ยาสามัญประจำบ้าน สบู่ แชมพู ผงซักฟอก หน้ากากผ้า ฯลฯ อีกทั้งข้าวของจิปาถะอย่างทิชชู่และถุงขยะ ที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดของผู้ให้ ซึ่งนั่นทำให้ถุงยังชีพพระราชทานมีความหนักมาก เมื่อลองชั่งดูก็พบว่ามีน้ำหนักเกือบ 20 กิโลกรัมเลยทีเดียว

ด้วยความที่ถุงยังชีพพระราชทานมีน้ำหนักมากถึงเพียงนี้ จึงเป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงน้ำใจของผู้ที่ทำหน้าที่แจกจ่ายอีกด้วย โดยคุณ Varisorn Ditsaranont เล่าว่า รู้สึกเห็นใจทหารที่แบกถุงยังชีพพระราชทานหนักๆ ไปมอบตามบ้านเรือนต่างๆ แค่ละแวกนั้นก็ประมาณ 500 หลังคาเรือนแล้ว อีกทั้งยังต้องเร่งรีบปฏิบัติภารกิจให้เสร็จสิ้นก่อนถึงเวลาเคอร์ฟิวจนเหงื่อชุ่มกาย เพราะเจ้าหน้าที่เลือกปฏิบัติภารกิจนี้ในช่วงกลางคืน เพื่อไม่ให้เอิกเกริกจนกระทบชีวิตประจำวันของประชาชน ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เขาเข้าใจด้วยว่า ทำไมถึงต้องประกาศให้ประชาชนทราบก่อน เพื่อเตรียมตัวรับถุงยังชีพพระราชทาน

นอกจากนี้ คุณ Varisorn Ditsaranont ยังเล่าถึงความรู้สึกดีใจและซาบซึ้งที่มีโอกาสได้รับถุงยังชีพพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ซึ่งถือเป็นความปลาบปลื้มใจสูงสุดในชีวิต อีกทั้งยังน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งประชาชนในยามวิกฤต และไม่ทรงแบ่งแยกว่าใครมีมากหรือน้อยอย่างไร พระองค์พระราชทานความช่วยเหลืออย่างทั่วถึงเท่ากันหมด

โดยคุณ Varisorn Ditsaranont เล่าปิดท้ายว่า ด้วยความที่เขาไม่เดือดร้อนมากนัก จึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตส่งต่อสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นเหล่านี้ให้แก่ผู้ที่ขาดแคลน ส่วนถุงนั้นขอเก็บไว้เป็นที่ระลึก เพื่อเอาไว้เป็นเครื่องเตือนใจในการทำความดีต่อไป  

สำหรับการแจกจ่าย ‘ถุงยังชีพพระราชทาน’ ยังคงดำเนินต่อไป โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จิตอาสาพระราชทาน เชิญถุงยังชีพพระราชทานไปมอบให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดของกรุงเทพมหานคร จำนวน 642 ชุมชน กว่า 170,000 ครัวเรือน รวมถึงจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศด้วย โดยเริ่มการแจกจ่ายตั้งแต่ช่วงค่ำของเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2563 และภายในเดือนนี้จะทยอยเชิญถุงยังชีพพระราชทานไปมอบให้แก่ประชาชน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนครบทุกหลังคาเรือน


 

ข้อมูลและภาพ : Varisorn Ditsaranont, พระราชกรณียกิจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมวงศานุวงศ์, มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์

ดีแทคเปิด 3 โครงการฝีมือเยาวชน แสดงมุมมองวิธีการแก้รับมือกัยภัยบนโลกออนไลน์ หลังผ่านค่าย dtac Young Safe Internet Leader Camp 1.0

เยาวชนไทยสนใจที่จะเปลี่ยนบทบาทตนเองจาก “ความเป็นเหยื่อ” บนโลกออนไลน์ สู่ “การเป็นผู้นำในการสร้างความเปลี่ยนแปลง” พัฒนาโครงการเพื่อสร้างสังคมโรงเรียนและชุมชนเพื่อนที่เข้มแข็ง สร้างภูมิคุ้มกันเพื่อรับมือกับความเสี่ยงออนไลน์  ติดตามรายละเอียดของทั้ง 10 โครงการได้ที่นี่ https://www.safeinternet.camp/bestparctice

UNICEF องค์กรกลางภายใต้สหประชาชาติ ผู้ทำหน้าที่ส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองสิทธิของเด็กทั่วโลก ได้กำหนดความเสี่ยงของเด็กที่อาจเกิดขึ้นจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีอย่างไม่เหมาะสม แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่

  • Content risk ความเสี่ยงที่เกิดจากการเข้าถึงข้อมูลเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและไม่ปลอดภัย
  • Contact risk ความเสี่ยงในการตกเป็นเหยื่อจากการมีปฏิสัมพันธ์กับมิจฉาชีพ และบุคคลที่ไม่น่าไว้ใจ
  • Commercial risk ความเสี่ยงในการตกเป็นเหยื่อทางการค้าการซื้อขายที่ไม่ปลอดภัย และการโฆษณาเกินจริง
  • Conduct risk ความเสี่ยงในการมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและกลายเป็นผู้กระทำต่อผู้อื่น
  • Time-consuming risk ความเสี่ยงในการใช้อินเทอร์เน็ต และการใช้เครื่องมือสื่อสารเป็นเวลานานเกินไป

นางอรอุมา ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานสื่อสารองค์กรและการพัฒนาที่ยั่งยืน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ เด็กและเยาวชนถือเป็นกลุ่มเปราะบางที่จำเป็นต้องได้รับการให้ความรู้และเสริมสร้างทักษะในการใช้ชีวิตบนโลกดิจิทัลอย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ และหนึ่งในปัญหาที่เราตระหนักดีคือ Cyberbullying ซึ่งเชื่อว่าเด็กส่วนใหญ่ต่างมีประสบการณ์ทั้งเป็นผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ ดังนั้น น้องจะเป็นคนที่เข้าถึงและมีแรงผลักดันที่จะอยากแก้ปัญหานี้ดีที่สุด และในฐานะที่ดีแทคเป็นส่วนหนึ่งของ digital ecosystem เราได้ร่วมมือกับภาคีภาครัฐและประชาสังคมในการแก้ไขปัญหาที่เกิดในเด็กและเยาวชนผ่านโครงการ Young Safe Internet Leader Camp โดยปีนี้กำลังดำเนินขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้ว”

ค่าย YSLC ได้ใช้ Design thinking มาเป็นกระบวนการเรียนรู้หลักช่วยให้เด็กๆ เข้าใจต่อปัญหาหนึ่งๆ ถ่องแท้และอย่างเป็นระบบ ผสานกับความคิดสร้างสรรค์และมุมมองจากคนหลากหลายมิติมาสร้างไอเดีย ตลอดจนแนวทางแก้ไข เพื่อให้แก้ไขปัญหาได้อย่างลึกซึ้งและรอบด้าน ที่ยิ่งไปกว่านั้น ค่าย YSLC ยังให้ทุนจำนวนหนึ่งเพื่อให้น้องๆ ได้นำไปต่อยอด สามารถแก้ไขปัญหาที่น้องๆ สนใจด้วยมุมมองของน้องเอง

3 โครงการ ฝีมือเยาวชนจาก แคมป์ YSLC 1.0 ที่ได้รับเลือกได้รับทุนไปต่อยอด คือ

1. เข้าใจคนแกล้งและคนถูกแกล้งผ่าน “การ์ดเกม”

จากโจทย์ที่ว่า ‘จงออกแบบกิจกรรมเพื่อต่อต้านภัยร้ายในโลกออนไลน์’ ทีม Good Net Good Life จากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กทม. จึงเลือกหยิบประเด็น‘Cyberbullying’ มาเป็นโจทย์สำคัญ เนื่องจากแนวโน้มพฤติกรรมการล้อเลียนและดูถูกของเด็กด้วยกันเอง

ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการสร้างการรับรู้ ข้อเสีย ผลกระทบจาก Cyberbullying ในเพื่อนๆ นักเรียนด้วยกันเอง แต่ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ “วิธีการ” นั้นมีประสิทธิภาพ จำต้องมี “ความสนุก” เข้ามาเป็นแกนกลาง เพื่อให้กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งก็คือเพื่อนๆ สนใจ และเมื่อระดมสมอง สุดท้ายก็ตกลงกันได้ว่าเราจะทำ ‘การ์ดเกม’ ขึ้นมา เพราะเป็นสิ่งที่น้องๆ เองก็ชอบเล่นอยู่แล้วด้วย และมันคงดีมากแน่ๆ ถ้าทุกคน ได้เล่นการ์ดเกมสนุกๆ ที่ผู้เผชิญปัญหาเป็นคนออกแบบด้วยตัวเอง พวกเขาจะได้ทั้งเพลิดเพลินไปกับเกม และเรียนรู้เรื่อง Cyberbullying ไปพร้อมๆ กันเลย

“สิ่งแรกที่เราทำเป็นการกำหนดคอนเซปต์ของการ์ดเกม ออกแบบให้ผู้เล่นสามารถรับบทบาทเป็นได้ทั้งคนแกล้งและคนถูกแกล้ง เพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าใจความรู้สึกของทั้งสองฝ่าย การ์ดเกมจึงประกอบไปด้วยการ์ดคำถาม การ์ความรู้สึก และการ์ดรูปภาพ เปิดโอกาสให้ผู้เล่นเปิดอกอธิบายความในใจเมื่อโดนกลั่นแกล้ง ซึ่งมีหลากหลายความรู้สึก ทั้งอายมาก เสียใจ เมื่อเพื่อนๆ ที่ร่วมเล่นในวงได้ฟังจึงเข้าใจมากขึ้นว่าการกลั่นแกล้งนั้นไม่ดีอย่างไร

2. ยั้งคิดยั้งทำ ฮาวทูตั้งสติก่อนแชร์ข่าวมั่ว

จากการสำรวจสื่อออนไลน์ในช่วงปี 2561-2562 ในเครือข่ายโรงเรียนรัตนศึกษา จ.สุพรรณบุรี พบว่าปัญหาออนไลน์หนึ่งที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นคือ ปัญหาการแชร์ข่าวที่มีเนื้อหาเกินจริงหรือข้อมูลที่เป็นเท็จในสื่อสังคมออนไลน์ มากไปกว่านั้นคือมีการกระจายข้อมูลเหล่านี้สู่กรุ๊ปแชตของพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือเพื่อนต่างโรงเรียน ทำให้ข้อมูลผิดๆ ขยายวงกว้างออกไป

ทีม Young kids…ยั้งคิด จากโรงเรียนรัตนศึกษา จ.สุพรรณบุรี จึงได้นำกิจกรรมส่งเสริมความรู้ในรูปแบบ “ฐานเกม” มาใช้ในการกระตุ้นความสนใจและการเรียนรู้เรื่อง ‘ข่าวปลอม’ ของเด็กนักเรียน “ฐานเกม” มีที่มาจากฐานเกมในงานกีฬาสี ซึ่งในแต่ละฐานจะแทรกความรู้เรื่อง การใช้งานโซเชียลมีเดียอย่างถูกต้องและปลอดภัยเข้าไปด้วย

นอกเหนือจากกิจกรรมที่เป็นเกมแล้ว น้องๆ ยังจัดกิจกรรมอีก 2 กิจกรรม ในช่วงเวลาก่อนและหลังการทำฐานเกมด้วย โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นก่อนวันที่ทำฐานเกมคือการเปิดห้องเวิร์กช็อป ในหัวข้อ ‘การใช้อินเทอร์เน็ตแบบยั้งคิด’ โดยได้เชิญทีมพี่ๆ วิทยากรจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้เข้ามาช่วยทำกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการใช้งานโซเชียลมีเดียผ่านการนันทนาการ ซึ่งทั้งสนุก ได้ความรู้ และสอนบทเรียนหลายอย่างให้กับน้องๆ

และกิจกรรมสุดท้ายคือ ‘กิจกรรมจริงหรือมั่ว’ ซึ่งเราจัดขึ้นในช่วงหลังจากการทำฐานเกม โดยกิจกรรมนี้คือการทำบอร์ดที่จำลองการแชร์ข่าวปลอมขึ้นมาในโรงเรียน โดยเราจะเปิดให้มีการแสดงความคิดเห็นลงไปบนบอร์ดว่าข้อมูลนี้จริงหรือมั่ว ผ่านการเขียนคอมเมนต์ลงบนกระดาษ รูปอีโมจิต่างๆ

3. Chatbot นวัตกรรมส่งต่อเหยื่อจาก Cyberbullying สู่ผู้เชี่ยวชาญ

โปรเจกต์นี้ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยทีม The Project Breaker จากโรงเรียนสวนศรีวิทยา จ.ชุมพร โดยน้องๆ ในทีมได้รับแรงบันดาลใจมาจากปัญหาในโรงเรียน โดยนักเรียนกลุ่มหนึ่งได้มีปากเสียงกันในชีวิตจริง และได้เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือ เหน็บแนมคู่กรณีผ่านสื่อโซเซียลจนเรื่องบานปลาย และเมื่อกลุ่มคนนั้นมาเจอกันในโลกแห่งความเป็นจริง จนทำให้เกิดปัญหาทะเลาะวิวาทขึ้นในโรงเรียน

ด้วยปัญหาการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ที่มีจำนวนมากขึ้นประกอบกับความรู้ความเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ จึงได้ริเริ่มพัฒนา Chatbot ที่น้องๆ มีความรู้ในระดับพื้นฐาน โดยฟังก์ชั่นหลักมีหน้าที่ในการรับฟังปัญหาและส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญได้เข้ามาแก้ปัญหา

อาจารย์ชวนันท์ ทัศนาภูมิ ครูที่ปรึกษากลุ่ม The Project Breaker บอกว่า “สิ่งที่ค่าย YSCL พิเศษกว่าค่ายอื่นๆ คือการออกแบบวิธีการเรียนรู้ที่ทลายกำแพงของห้องเรียน เรียนรู้โลกกว้างได้อย่างเต็มที่ ได้พบเจอสังคมภายนอก จัดสิ่งแวดล้อมเอื้อต่อความสนใจของน้องๆ เอง ไม่จำกัดว่าถูกหรือผิด พร้อมกับการพัฒนาผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง ไม่นิ่งอยู่กับที่ ขณะที่การให้ทุนต่อยอดเป็นแรงจูงใจให้น้องๆ นักเรียนกล้าที่จะคิด ลงมือและต่อยอด เพื่อให้สามารถพัฒนาสู่โซลูชั่นในการแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เกินความคาดหมายไปมาก เรียกได้ว่าปลดล็อคศักยภาพของน้องๆ สู่โลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างแท้จริง”

Young Safe Internet Leader Camp จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ช่วยให้เด็กๆใช้เวลาในช่วงซัมเมอร์ ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม จากการที่ต้องอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ โดยแคมป์ YSCL Version 2.0 ปีนี้เปลี่ยนไปสู่รูปแบบใหม่ cyber camp เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อCOVID-19 โดยมีเยาวชนตอบรับเข้าร่วมแคมป์อย่างคึกคักกว่า 500 คน เริ่มเปิดค่ายในวันที่ 27 เมษายนนี้

WFH อย่างไรให้สวยเป๊ะทุกลุค แชร์เทคนิคเลือกแว่นตาให้เข้ากับรูปหน้า

WFH อย่างไรให้สวยเป๊ะทุกลุค แชร์เทคนิค เลือกแว่นตาให้เข้ากับรูปหน้า

สถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังคุกรุ่นในประเทศไทยทำให้ทุกคนต่างหาแมสก์มาสวมใส่กันทั้งเมือง แต่รู้หรือเปล่าว่าอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่คุณหมอและพยาบาลแนะนำให้เราสวมใส่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันละอองฝอยให้มากยิ่งขึ้นก็คือ “แว่นตา” และถ้าเป็นแว่นที่มีขนาดใหญ่ก็จะยิ่งป้องกันไม่ให้ละอองฝอยลอยเข้าสู่ดวงตาของเราได้ดีขึ้นด้วย

สิ่งสำคัญของเลือกแว่นตาในช่วงนี้คือควรมีขนาดใหญ่ (Oversize) เพื่อช่วยป้องกันละอองฝอยและลดโอกาสการติดเชื้อ Covid-19 ที่กำลังระบาดในขณะนี้

เมื่อได้ยินดังนี้แล้ว สายแฟอย่างเราต้องไปให้สุด! จะสวมแว่นตาทั้งที มันต้องมีสไตล์โดดเด่น เสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจ ให้เราสวยบาดใจ และรอบนี้ โบลอน (BOLON) ได้แชร์เคล็ดลับการเลือกแว่นตาดีๆ มาฝาก

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกกรอบแว่นตาก็คือ “รูปทรงใบหน้า” ของเรานั่นเอง

เลือกแว่นตาให้เข้ากับรูปหน้า 

ใบหน้ากลม หนุ่มสาวหน้ากลมต้องปวดหัวกับการเลือกแว่นตาอย่างมาก เพราะยิ่งใส่แว่นตากลมๆ ก็ยิ่งหน้ากลมไปกันใหญ่ ดังนั้น คุณควรเลือกกรอบแว่นทรงหลี่ยมเก๋ๆ หรือแว่นที่เอาทรงคลาสสิกมาดีไซน์ใหม่ให้มีหลายเหลี่ยมมุม ช่วยเพิ่มความสดใสให้ใบหน้าของเราโดดเด่นรับกับกรอบแว่นได้เป็นอย่างดี และควรเลือกกรอบที่มีความหนาสักหน่อย เพื่อช่วยสร้างกรอบหน้าของเราดูมีมิติมากขึ้น

เลือกแว่นตาให้เข้ากับรูปหน้า

สำหรับคนที่มีใบหน้าเหลี่ยม มักจะมีปัญหาใบหน้าที่ดูแข็งจากแนวกรามที่เด่นชัด แต่คุณสามารถทำให้ใบหน้าดูซอฟต์ลงได้ด้วยการใช้กรอบแว่นทรงกลม หรือ แว่นทรงนักบิน หรือ เอวิเอเตอร์ จะช่วยเพิ่มความละมุนละไมบนใบหน้า ดูมีสไตล์ขึ้นไปอีกสเต็ป ใส่แล้วไม่ดูแก่แน่นอน

 เลือกแว่นตาให้เข้ากับรูปหน้า

สำหรับหนุ่มสาวที่มีใบหน้ารูปไข่ คุณคือผู้โชคดีที่เลือกกรอบแว่นได้แทบจะทุกรูปทรง และด้วยสัดส่วนใบหน้าที่สมดุลทำให้คุณสามารถเลือกแว่นตาได้ทั้งแบบคลาสสิก หรือแม้แต่ทรงแฟชั่นที่โฉบเฉี่ยวแบบสุดๆ ถ้าจะเลือกเป็นแว่นกันแดดก็เพียงแค่เลือกสีเลนส์ให้เหมาะสมกับสไตล์การแต่งตัวในวันนั้นของคุณเท่านั้น

 เลือกแว่นตาให้เข้ากับรูปหน้า

และสุดท้ายซึ่งเป็นรูปทรงใบหน้าที่หาได้ไม่ง่ายนัก นั่นก็คือใบหน้ารูปหัวใจ ซึ่งมีสัดส่วนใบหน้าช่วงบนบริเวณหน้าผากกว้างกว่าช่วงล่างบริเวณแก้มและกรามค่อนข้างชัดเจน การแก้ปัญหาจะคล้ายกับผู้ที่มีใบหน้ากลม โดยเลือกกรอบแว่นทรงเหลี่ยมที่มีขนาดใหญ่เพื่อพรางสัดส่วนให้ใบหน้าช่วงล่างดูใหญ่สมดุลกับช่วงบน ผสมกับการเลือกกรอบแว่นที่มีความหนาสักเล็กน้อย เพื่อสร้างมิติความลึกให้ใบหน้าดูกลมกลืนไม่ว่าจะมองจากด้านใดก็ตาม 

ค้นหาแฟชั่นที่ใช่ ทรงที่ชอบได้ที่ร้านแว่นชั้นนำทั่วประเทศไทย หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://bolon.co.th/ เฟซบุ๊ก “Bolon eyewear Thailand” และอินสตาแกรม “Boloneyewearth”

 

 

‘เป็นนักรบในเกมรัก เพื่อหวังเช็กเรตติ้ง!!!’ ดูดวงรายวัน 24 เมษายน 2563

ดูดวงรายวัน 24 เมษายน 2563 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  ช่วงนี้คุณทำงานหนักแทบจะเรียกว่าอาบเหงื่อต่างน้ำเลยทีเดียว วันนี้ควรระวังเพื่อนร่วมงาน หรือคนใกล้ตัวให้ดี เพราะนอกจากเขาจะมีความคิดเห็นขัดแย้งกับคุณแล้ว เขายังแอบแทงข้างหลัง ด้วยการเอาความดีเอาชอบเข้าตัว แล้วโยนความผิดให้คุณ

การเงิน :  อาจมีการทะเลาะเบาะแว้งเรื่องการขอยืมเงิน หรือคดโกงจากคนใกล้ชิด จนทำให้สถานการณ์ทางการเงินของคุณย่ำแย่และผันผวน ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินที่ไม่ถูกต้อง

ความรัก :  คุณอาจพบว่าคู่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ หลอกลวงด้วยวิธีการต่างๆ นานา แม้สอบถามเขาก็ไม่ยอมรับ แต่เพราะคุณเชื่อในความคิดของตัวเองไปแล้ว วันนี้จึงกลายเป็นทะเลาะกัน ไม่ใช่เรื่องมือที่สาม แต่เป็นเรื่องความคิดของคุณมากกว่า คนโสด คุณพยายามทำทุกอย่าง เพื่อแย่งชิงคนที่คุณหมายปองมาเป็นของตัวเอง ก็ต้องระวัง วันนี้เขาไม่ได้มีคุณคนเดียว

สุขภาพ :  อย่าเครียด ปล่อยวางบ้าง เพราะไม่อย่างนั้นไมเกรนถามหาแน่ๆ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : คุณอาจกำลังนำเสนองานเพื่อเข้าสู่การแข่งขัน หรือประมูลงาน ซึ่งคุณปรารถนาความสำเร็จอย่างแรงกล้า จึงทำทุกอย่างโดยที่ไม่คำนึงว่าจะถูกต้องหรือเปล่า ต้องระวังเรื่องสัญญา ทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษร และคำพูดปากเปล่า เพราะอาจทำให้คุณต้องตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องทำงานที่ไม่ถนัด หรือถูกใส่ร้ายป้ายสี

การเงิน :  อาจได้เงินพิเศษจากงานพิเศษ แต่ก็ต้องระวังถูกฉ้อโกง ซึ่งอาจมากกว่าที่ได้รับเสียอีก ไม่ควรให้ใครกู้ยืมเงิน หรือเซ็นเอกสารค้ำประกันให้ใคร

ความรัก : ต้องระวังอาจมีมือที่สามเข้ามายุ่งวุ่นวายในครอบครัว อาจไม่ใช่เรื่องชู้สาว แต่เพื่อต้องการผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วเมื่อเธอได้สมใจก็จากไป วันนี้จึงไม่ควรไว้ใจใครง่ายๆ    คนโสด คุณอาจติดบ่วงรักอย่างหน้ามืดตามัว ทำได้ทุกอย่างเพื่อจะให้ได้เขามาครอบครอง

สุขภาพ : ระวังจะเจ็บป่วยแบบออดๆ แอดๆ  โรคเก่ายังไม่ทันหาย โรคใหม่มาอีกแล้ว จึงไม่ควรทำงานหนักจนไม่ดูแลสุขภาพ เพราะกว่าจะรู้ตัว อาการก็หนักแล้ว

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  คุณเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถในการนำกลยุทธ์ใหม่ๆ มาใช้กับงานอยู่ตลอด แต่อย่างไรก็ตามวันนี้ไม่ควรให้เวลากับการทำงานชิ้นนั้นๆ มากเกินไป เพราะอาจทำให้เสียงานใหญ่ ซึ่งเพื่อนร่วมงานคุณไม่เข้าใจ จนเกิดประเด็นถกเถียงกัน สุดท้ายแล้วคุณนั่นล่ะที่จะเสียใจ ท้อแท้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

 การเงิน :  อาจได้โชคลาภแบบฟลุ๊คๆ แปลกๆ เช่น ถูกหวย หรือได้รับมรดก แต่ก็อย่าคาดหวัง เพราะขึ้นอยู่กับดวง

ความรัก  : คุณทุ่มเทให้กับความรักจนน่ากลัว จึงทำให้คุณทั้งคาดหวังและกดดันกับคู่ของคุณสูงมาก วันนี้อาจมีการแสดงความหึงหวงอย่างออกนอกหน้า ก็ควรปล่อยวางบ้าง ไม่ควรยึดติดที่จะเป็นเจ้าของใคร คนโสด  เวลาที่คุณถูกใจใคร มักจะนำไปเปรียบเทียบกับคนอื่นก่อนว่า ดีพอหรือยัง จึงทำให้คุณไม่กล้าที่จะจริงใจหรือจริงจังกับใครสักที ดูเป็นคนที่มีความลับมากมายอยู่ในใจ

สุขภาพ :  เครียดหลาย จนความเครียดลงกระเพาะแล้ว มีผลต่อระบบย่อยอาหาร เสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก โรคกระเพาะ ลำไส้ อาหารเป็นพิษ เป็นต้น

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับกฎหมาย เช่น ทนายความ  ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย หรือนักปกครอง เป็นต้น วันนี้คุณดูเป็นผู้หญิงที่มีอำนาจบารมีอยู่ในตัว ลุยงานหนัก ประหนึ่งผู้ชาย โดยเฉพาะงานที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งคุณก็ค่อยยอมไม่รับฟังความคิดเห็นจากใครด้วย จึงต้องระวังอาจได้รับงานหนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

การเงิน :  หากกำลังคิดจะร่วมหุ้นกับเพื่อนหรือแฟน วันนี้จะมีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ ซึ่งคุณก็ต้องเป็นหลักในงานนี้ อย่าเพิ่งนำเงินไปหมุนทำอย่างอื่นก่อนล่ะ

ความรัก : คุณอาจต้องแบ่งเวลาระหว่างครอบครัวกับงาน เพราะเหมือนคุณให้เวลากับงานมากกว่าครอบครัว หากเป็นอย่างนี้ไปนานๆ ครอบครัวอาจมีปัญหา คนโสด คุณให้เวลากับการทำงานมากกว่าที่จะมีใครเป็นตัวเป็นตน วันนี้จึงอาจมีกรุ๊บกริ๊บไม่จริงจัง

สุขภาพ :  ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะจนเคยชิน เพราะจะทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา อาจติดเชื้อในกระแสเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน :  หากคุณกำลังนำเสนองาน หรือการประมูลงาน ซึ่งคุณปรารถนาความสำเร็จอย่างบ้าระห่ำมาก ทำได้ทุกอย่างแม้อาจไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องนัก แต่อาจกำลังอยู่ในช่วงของการพิจารณางาน ส่งผลให้คุณอึดอัดและเบื่อหน่าย วันนี้ก็อาจจะพอโล่งใจได้บ้าง เพราะคุณมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จ

การเงิน :  อาจได้เงินพิเศษจากการทำงานพิเศษ หรือผลตอบแทนจากการลงทุน แต่ก็ต้องดูให้ดีว่า ได้มาแบบโปร่งใสหรือเปล่า

ความรัก : คุณมีความเป็นผู้นำสูง ชอบให้คู่ตามใจและเป็นกำลังใจคอยสนับสนุนในทุกสิ่งที่ทำ โดยที่วันนี้คุณอาจหลงอยู่กับความสุขอย่างใดอย่างหนึ่ง จนไม่สนใจเรื่องราวในบ้านใดๆ  จึงเป็นสาเหตุให้เป็นปัญหาโลกแตก ทะเลาะกันเป็นรายวัน  คนโสด  คุณมีเสน่ห์ เพราะฉะนั้นวันนี้อย่าพยายามอยู่กับใครสองต่อสอง เพราะคุณอาจเจอผู้ชายนักฉวยโอกาส

สุขภาพ :  ปล่อยวาง อย่าเก็บเรื่องไร้สาระมาคิด มาเครียด แล้วเมื่อเครียด จน กินเหล้า ก็จะทำให้สุขภาพไม่ดี และจะจนหนักขึ้น

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  วันนี้ความเครียดก็ยังไม่เบาลงแต่อย่างใด น่าจะเรียกว่าหนักมากขึ้นด้วย เพราะอาจมีปัญหาและอุปสรรคเข้ามาจากหลายๆ ด้าน จนคุณต้องรับมืออย่างเหน็ดเหนื่อย เรียกว่าอาบเหงื่อต่างน้ำกันเลยทีเดียว ต้องระวังอาจถูกทรยศหักหลัง ซึ่งจะทำให้คุณเสียความรู้สึกกับความไว้ใจที่เคยมี

การเงิน :  คุณขยัน หาเงินเก่ง แต่ต้องเสียเหงื่อจึงจะได้มา หากไม่เหนื่อยต้องสงสัยแล้วว่า มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า

ความรัก :  คุณทำงานหนัก เพื่อสร้างครอบครัวให้ทัดเทียมกับคนอื่น โดยเปรียบเทียบกับครอบครัวอื่นตลอดเวลา  หากคุณคิดเช่นนี้ก็จะเหนื่อยและเครียดตลอดเวลาเช่นกัน คนโสด คุณเหมือนนักรบในเกมรัก ต่อสู้เพื่อแย่งชิงคนที่หมายปองมาเป็นของตัวเอง โดยที่ไม่ได้หวังจริงจัง แค่ต้องการเช็กเรตติ้งตัวเอง

สุขภาพ :  ต้องระวังอุบัติเหตุ หรือได้รับบาดเจ็บจากของมีคม หรือแผลไฟไหม้ จึงไม่ควรประมาท

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  : วันนี้คุณอาจติดต่อประสานงานทั้งวัน จนไลน์ร้อน สายแทบไหม้ ก็ต้องระวังไม่ควรให้ความเป็นกันเองหรือสนิทสนมกับใครมาก เพราะเขาอาจโยนความผิดให้คุณ แล้วเอาความดีความชอบไปซะงั้น ทางที่ดีควรนิ่ง รับรู้และดูปฏิกริยาอย่างมีสติ

การเงิน : อาจมีการทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องการหยิบยืมเงิน หรือถูกทวงถามเรื่องหนี้สิน ต้องระวังของหาย ถูกขโมย

ความรัก : คุณอาจแต่งงานอยู่ด้วยกันมานาน จนวันนี้อาจพบว่า คู่มีพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ หลอกลวงอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อถึงตอนนี้คุณก็อาจรับรู้สถานการณ์อย่างสงบนิ่งแล้ว  คนโสด คุณอาจกำลังมีศัตรูหัวใจ แต่ก็ไม่ควรหาทางช่วยทางลัดด้วยการทำเสน่ห์เล่ห์กลเลย

สุขภาพ :  หากคุณออกนอกบ้านมี 2 อย่างที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือการใช้สิ่งของสาธารณะ เพราะอาจติดเชื้อที่มองไม่เห็นได้ กับควรพกยาดม ยาหอมไว้ด้วย อาจมีอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ ควรหาที่เหมาะๆ ถอดหน้ากากอนามัยเพื่อการหายใจบ้าง

เช็กดวงย้อนหลังได้ที่นี่

ธาตุแท้หนุ่มที่คุณหมายตา อาจรุนแรงกว่าภาพที่เห็น ดูดวงรายวัน 18 เมษายน 2563

แฟนเก่าทักแชทมา แต่ก็แค่โยนหินถามทาง ดูดวงรายวัน 19 เมษายน 2563

ระวัง!!! บุคลิกที่ดูภูมิฐาน แต่คือนักฉวยโอกาสดีๆ นี่เอง ดูดวงรายวัน 20 เมษายน 2563

พรหมลิขิตรัก ที่สามารถล้มมาตรฐานทั้งปวงได้ ดูดวงรายวัน 21 เมษายน 2563

อย่านำพิมเสนไปแลกกับเกลือ ไม่คุ้ม!!! ดูดวงรายวัน 22 เมษายน 2563

มุ่งหาทรัพย์ ไม่สนใจแฟนเก่าขอรีเทิร์น!!!! ดูดวงรายวัน 23 เมษายน 2563

keyboard_arrow_up