รู้หรือไม่? ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จากโรค COVID-19 และ ไข้หวัดใหญ่ เป็นกลุ่มเดียวกัน
Covid-19 เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มโคโรนาที่ทำให้มีไข้และอาการระบบทางเดินหายใจ ส่งผลให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก บางรายอาจมีอาการปอดอักเสบรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ มากไปกว่านั้นผู้ป่วย 1 คนสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ 2-4 คน มีรายงานการเสียชีวิตจากโรคประมาณ ร้อยละ 4.6
ส่วน ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีอาการทางระบบทางเดินหายใจคล้ายคลึงกับโรค Covid-19 ส่วนใหญ่จะหายเป็นปกติภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่อาจมีบางรายที่มีอาการรุนแรง
สาเหตุการเสียชีวิตของทั้งสองโรคนี้ มากจากภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ คือ ปอดบวม ซึ่งอาจส่งผลทำให้ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงมีภาวะแทรกซ้อน และเสียชีวิตได้มากกว่ากลุ่มอื่น ได้แก่ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ดังนั้น องค์การอนามัยโลกภูมิภาคพื้นยุโรป จึงแนะนำและให้ความสำคัญกับการให้วัคซีนป้องกัน โรคไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ (Pneumococcal) ในประชากรที่เป็นกลุ่มเสียงในช่วงการระบาดของโรค Covid-19
Covid-19 กับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
การแยกระหว่างโรคไข้หวัดใหญ่กับ Covid-19 อาจจะทำได้ยากหากดูเพียงอาการภายนอก เพราะอาการของโรคทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ
ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่หรือ Covid-19 ก็มีโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากการติดเชื้อเช่นเดียวกันคือ ปอดบวม ดังนั้นหากเราไม่ได้ป้องกันตัวเองก็อาจจะโชคร้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ร่วมกับ Covid-19 ได้ และการติดเชื้อสองตัวพร้อมกัน อาจส่งผลทำให้การรักษานั้นยุ่งยากมากขึ้น
ในประชากรที่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น หากเป็นโรคร่วม อาจจะส่งผลให้อาการของโรครุนแรงมากขึ้น
ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค Covid-19 ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัย ส่วนวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นั้นมีใช้มายาวนานแล้ว องค์การอนามัยโลก จึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในช่วงการระบาดของโรค Covid-19 แม้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จะไม่ได้ป้องกัน Covid-19 แต่ก็ยังคงแนะนำให้ฉีดเป็นประจำทุกปีเนื่องจากมีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ทุกปี
ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในช่วงที่มีการระบาดของโรค Covid-19 ปลอดภัยหรือไม่?
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นวัคซีนที่ควรฉีดเป็นประจำทุกปี ฉีดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป และเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไข้หวัดใหญ่ และ การได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่เกี่ยวข้องและไม่กระทบกับการตรวจพบเชื้อไวรัสทางเดินหายใจอื่น และไม่ได้เพิ่มโอกาสที่จะทำให้ติดเชื้อ Covid-19 รวมถึงการติดเชื้อไวรัสตัวอื่น
อาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
- อาจจะมีอาการปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ หรือมีไข้อ่อนๆ ได้บ้างแต่จะหายไปเองภายในเวลา 1-2 วัน
- จะไม่พบ อาการไอ คัดจมูก เจ็บคอแบบรุนแรงหลังฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
- ควรปรึกษาแพทย์หากพบอาการรุนแรง หรือไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่แล้ว หากมีการติดเชื้อ Covid-19 ภายหลังร่างกายจะสามารถสร้างภูมิต่อ Covid-19 ได้ตามปกติหรือไม่?
การได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่เกี่ยวข้องและไม่กระทบกันการตรวจพบเชื้อไวรัสทางเดินหายใจอื่น และไม่ได้เพิ่มโอกาส ที่จะทำให้ติดเชื้อ Covid-19 รวมถึงติดเชื้อไวรัสตัวอื่น หลังฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่แล้วร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันที่เฉพาะเจาะจงกับเชื้อไข้หวัดใหญ่หากมีการติดเชื้อ Covid-19 ภายหลัง ร่างกายก็สามารถที่จะสร้างภูมิที่เฉพาะเจาะจงต่อเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ภายหลัง
โรคระบาดอื่นๆ อาจกลับมาถ้าไม่ป้องกัน
นอกจากโรค Covid-19 แล้ว หากไม่ฉีดวัคซีนหรือเลื่อนการฉีดวัคซีนในโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนอาจก่อให้เกิดโรคระบาดอื่นๆ ตามมาได้
การเลื่อนการฉีดวัคซีน หรือสร้างภูมิคุ้มกันของโรคต่างๆ แม้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ อาจจะส่งผลกระทบในการเพิ่มความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรคอื่นๆ ที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน (Vaccine Preventable Disease) ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตจากโรคที่ป้องกันได้
ข้อมูล : พญ. สมรรจน์ ลิ้มมหาคุณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท
ภาพ : Pexels
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
โควิด-19 ยังไม่ทันซา “ไข้หวัดใหญ่-ไข้เลือดออก” ก็แซงหน้าอัตราป่วยทำสถิติสูง
นอนไม่หลับ น้ำหนักขึ้นเก่ง! เพราะเครียดเกินไปหรือเปล่า ลอง 8 วิธีลดระดับความเครียดกัน
ยึดหลัก 6 Safety 4 FERS วิธีดูแลสุขภาพภายในและภายนอกง่ายๆ ด้วยตัวเอง