RIIZE เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง แฟนคอนครั้งแรกบัตรหมดเกลี้ยงทุกที่นั่ง

Alternative Textaccount_circle

เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ! RIIZE พิสูจน์ความนิยมที่พุ่งทะยานต่อเนื่อง ในแฟนคอนเสิร์ตครั้งแรกพร้อมผู้ร่วมงานกว่า 10,000 คน

RIIZE (ไรซ์) บอยกรุ๊ปกระแสแรงที่ทั่วโลกต่างจับตามองจาก SM Entertainment พิสูจน์ความนิยมที่พุ่งทะยานต่อเนื่อง ในแฟนคอนเสิร์ตครั้งแรกซึ่งบัตรหมดเกลี้ยงทุกที่นั่งทันทีภายในวันเปิดจำหน่าย ‘2024 RIIZE FAN-CON ‘RIIZING DAY’ in BANGKOK (ทูเธาซันด์ทเวนตี้โฟร์ ไรซ์ แฟน-คอน ‘ไรซิ่ง เดย์’ อิน แบงค็อก) เมื่อวันเสาร์ที่ 27 (เวลา 18:00 น.) และอาทิตย์ที่ 28 (เวลา 16:00 น.) กรกฎาคม 2567 ณ ธันเดอร์โดม พร้อมผู้ร่วมงานกว่า 10,000 คน

เริ่มวันที่ดีที่สุด ‘RIIZING DAY’ (ไรซิ่ง เดย์) ด้วยความน่าตื่นเต้นของโปรดักชันคุณภาพสูง ทั้งหมอกและไฟราวกับพายุและสายฟ้า RIIZE เปิดสวิตช์ความร้อนแรงบนเวทีด้วยเพลงแนวฮิปฮอปทรงพลัง ‘Siren’ โชว์สเปเชียลเอฟเฟกต์สุดอลังการ ทั้งไพโรเทคนิก เปลวไฟ และแสงเลเซอร์ มุ่งมั่นให้ทุกสายตาจ้องมาที่พวกเขา พร้อมนำเสนอแนวเพลงอันเป็นเอกลักษณ์ “Emotional Pop” ซึ่งถ่ายทอดอารมณ์ของสมาชิกผ่านดนตรีในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่เพลงเดบิวต์ ‘Get A Guitar’ เพลงป๊อปแห่งแรงบันดาลใจ และ ‘Memories’ เพลงแห่งความทรงจำและสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นใหม่ จนถึงเพลงจากมินิอัลบั้มชุดแรก ‘RIIZING’ (ไรซิ่ง) แบบครบทุกเพลง พาแฟน ๆ ปรับจูนจังหวะเบสให้เข้ากันกับเพลงไตเติลแนวป๊อป แดนซ์ ‘Boom Boom Bass’ และเพลงแดนซ์ที่มีการริฟฟ์แซกโซโฟนชวนโยกตัวตาม ‘Talk Saxy’ รวมถึงเพลงในธีมความฝันอย่างเพลงแดนซ์ ‘9 Days’ เดินหน้าสู่ฝันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ราวกับ 1 สัปดาห์มี 9 วัน, เพลงเฮาส์ ‘Impossible’ เอาชนะความเป็นไปไม่ได้ด้วยความฝันเดียวกัน และเพลงในธีมความรักอย่างเพลงป๊อป แดนซ์ ‘Love 119’ เปรียบเทียบรักแรกกับสถานการณ์ฉุกเฉิน, เพลงป๊อป อาร์แอนด์บี ‘Honestly’ บอกลาความรักที่เจ็บปวดแล้วกลับมารักตัวเอง อีกทั้งยังมอบความรู้สึกเปี่ยมล้นในเพลงป๊อปจังหวะปานกลางที่แต่งขึ้นเพื่อแฟนคลับอย่าง ‘One Kiss’ จูบเดียวดั่งคำสัญญาของรักนิรันดร์ ซึ่ง “BRIIZE” (บรีซ : ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ได้ร่วมใจเติมเต็มความทรงจำอันมีความหมาย ผ่านโปรเจกต์ซึ้ง ๆ ให้กับ ‘RIIZE’ ที่เปล่งประกายอยู่บนเวที ทั้งป้ายเชียร์ว่า “หลังจากเดินทางมาด้วยกัน 327 วัน ในที่สุดก็ได้เจอกันแล้ว” และ “อยู่ด้วยกันตลอดไปเลยนะ RIIZE” ตลอดจนการแปรกล่องไฟเป็นคำย่อภาษาเกาหลีสื่อความหมายว่า “라(이즈) 브(리즈) 뜨(뜬다) หรือ RIIZE BRIIZE บินไปกันเถอะ” และ “ RIIZE”

นอกจากนี้ ยังมีหลากหลายช่วงที่พวกเขาได้แสดงตัวตนและพูดคุยผ่านเรื่องราวมากมาย ซึ่งเผยเสน่ห์ของแต่ละคนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นช่วง “แคปซูลจาก BRIIZE ถึง RIIZE” เปิดคำถามจากผู้ชมและตอบอย่างจริงใจ รวมถึงการแยกทีมเพื่อพิชิตเกมต่าง ๆ แบ่งออกเป็น ‘ทีมพี่’ อย่าง SHOTARO (โชทาโร่), EUNSEOK (อึนซอก), SUNGCHAN (ซองชาน) และ ‘ทีมน้อง’ อย่าง WONBIN (วอนบิน), SOHEE (โซฮี), ANTON (แอนตัน) ซึ่งต้องใช้ทั้งความสามัคคีและเคมีความใกล้ชิดกัน ทำเอาทั้งฮอลล์ส่งเสียงเชียร์ลุ้นกันสุดตัว โดยทีมที่แพ้จะต้องทำภารกิจ “เรื่องราวการเติบโตแบบเรียลไทม์” เพื่อแสดงให้เห็นถึงเส้นทางการเติบโตของ RIIZE ระหว่างการทัวร์แฟนคอนครั้งนี้พร้อมรับชมและตัดสินภารกิจก่อนหน้าของทีมที่แพ้ไปด้วยกันไฮไลท์ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพื่อให้การมาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้เป็นที่น่าจดจำมากขึ้น ‘RIIZE’ ได้สร้างสรรค์การละเล่นที่เสริมกิมมิคความเป็นไทยอย่างน่าประทับใจ ทั้งการพูดชื่อเต็มของกรุงเทพฯ และโพสท่าถ่ายโฆษณาเครื่องดื่มโปรดอย่างแตงโมปั่น สร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

ที่สำคัญ ต้นสังกัดในประเทศไทย บริษัท เอสเอ็ม ทรู จำกัด ได้ยืนยันความสำเร็จของ RIIZE ด้วยกิจกรรมโปรโมตเต็มรูปแบบที่สร้างปรากฏการณ์ ‘RIIZING’ ในประเทศไทย ตั้งแต่งานป๊อปอัปสโตร์สุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ‘THE 1st MINI ALBUM <RIIZING> POP-UP STORE in BANGKOK by SM True’ ร่วมด้วยสินค้าคอลเล็กชันพิเศษสำหรับประเทศไทยเท่านั้น (THAILAND LIMITED EDITION MD) ต่อด้วยงานแจกลายเซ็นที่ยอดจำหน่ายอัลบั้มถล่มทลาย และปิดท้ายด้วยแฟนคอนที่บัตรจำหน่ายหมดเกลี้ยงทั้ง 2 รอบการแสดง ตอกย้ำกระแส RIIZE ฟีเวอร์ในประเทศไทย ที่ความนิยมของพวกเขาเติบโตก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมมุ่งหน้าสู่เป้าหมายอันท้าทายต่อไปในอนาคต

SUHO วง EXO โชว์เดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทย

Alternative Textaccount_circle

SUHO (ซูโฮ) วง EXO แบ่งปันทุกความรู้สึกกับแฟนคลับ EXO-L ชาวไทยในคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกที่เปรียบดั่งบ้าน ‘2024 SUHO CONCERT IN BANGKOK’

SUHO (ซูโฮ) วง EXO (เอ็กซ์โซ) แบ่งปันทุกความรู้สึกกับแฟนคลับ EXO-L (เอ็กซ์โซ-แอล : ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ชาวไทยในคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกที่เปรียบดั่งบ้าน ‘2024 SUHO CONCERT <SU:HOME> IN BANGKOK’ (ทูเธาซันด์ทเวนตี้โฟร์ ซูโฮ คอนเสิร์ต <ซู:โฮม> อิน แบงค็อก) เมื่อวันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม 2024 เวลา 18:00 น. ณ พารากอน ฮอลล์

คอนเสิร์ตนี้สมกับเป็นโชว์เดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรกในรอบ 12 ปีนับตั้งแต่เดบิวต์ของ SUHO ศิลปินที่มุ่งมั่นและแสดงความจริงใจออกมาให้เห็นผ่านการกระทำอยู่เสมอ ทั้งตั้งใจร่วมเสนอความคิดในการกำกับและคอนเซ็ปต์การแสดงโดยรวม เพื่อสื่อความหมายของการเชื้อเชิญมาบ้านที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของเขา ซึ่งทุกคนสามารถสัมผัสและเพลิดเพลินไปด้วยกันได้ อีกทั้งฉากและองค์ประกอบต่าง ๆ ยังถูกเนรมิตจากโปสเตอร์คอนเสิร์ตมาไว้บนเวทีราวกับอยู่ในบ้าน ซึ่งมีห้องนอน ห้องนั่งเล่น สวนดอกไม้ ที่ช่วยปรับเปลี่ยนบรรยากาศไปตามแต่ละช่วง พร้อมเสริมความอลังการเติมอรรถรสในการรับชม ด้วยการใช้สเปเชียลเอฟเฟกต์และวงดนตรีสดแบบจัดเต็ม นำเสนอดนตรีหลากหลายสีสันผ่านเพลงโซโล่ที่เขาได้มีส่วนร่วมในการแต่งเองทุกเพลง ตั้งแต่มินิอัลบั้มชุดแรก ‘Self-Portrait’ และมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ‘Grey Suit’ จนถึงผลงานล่าสุดมินิอัลบั้มชุดที่ 3 ‘점선면 (1 to 3)’ (วัน ทู ทรี) และเพลงอื่น ๆ

เปิดประตูต้อนรับผู้ชมเข้าสู่ SU:HOME บ้านของ SUHO ที่ตื่นขึ้นมาบนเตียงก่อนจะคว้ากีตาร์ไฟฟ้าปล่อยออร่าสุดเท่ละลายใจในเพลงแนวอัลเทอร์เนทีฟ ร็อก ‘Mayday’ เกี่ยวกับการเริ่มต้นเดินทางเสาะหาคนรักที่สูญหายไปในอวกาศ ต่อด้วยเพลงที่เหมือนลุกจากฝันมาพบเจอความสมหวังที่รอคอย ‘Morning Star’ รวมถึงเพลงไตเติลจากอัลบั้มก่อนหน้าอย่าง ‘Grey Suit’ ก้าวผ่านพ้นช่วงเวลาสีเทาอันหม่นหมองสู่ความสดใส และ ‘자화상 (Self-Portrait)’ แต่งเติมภาพวาดของอีกคนที่ยังชัดเจนในความทรงจำ จากนั้นจึงกล่าวทักทายผู้ชมอย่างเป็นทางการพร้อมบอกเล่าถึงเรื่องราวของคอนเสิร์ตในครั้งนี้ และแนะนำเพลงถัดไป ‘무중력 (Zero Gravity)’ สื่อถึงการได้มารวมตัวกันอีกครั้งอย่างน่าอัศจรรย์ใจของ EXO และแฟนคลับ EXO-L

ยิ่งไปกว่านั้น SUHO สวมมาดร็อกเกอร์ชวนผู้ชมไต่ระดับความสนุก โยกไปด้วยกันกับเพลงร็อกสไตล์ต่าง ๆ จากมินิอัลบั้มใหม่ ไม่ว่าจะเป็นดับเบิลไตเติลเพลงแนวป๊อป ร็อก ‘치즈 (Cheese) (Feat. WENDY)’ และเพลงแนวบริทิช ร็อก ‘점선면 (1 to 3)’ ตลอดจนเพลงแนวอินดี้ ร็อก ‘Moonlight’, เพลงแนวอัลเทอร์เนทิฟ ร็อก ‘Wishful Thinking’ และเพลงแนวฟังกี้ ร็อก ‘Alright Alright’ ที่เขาได้เซอร์ไพรส์สวมหมวกหูกระต่ายลงจากเวทีมาสร้างความตื่นเต้นให้แฟน ๆ อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังจับไมค์ส่งเสียงอันนุ่มนวลในเพลงช้า ‘너의 차례 (For You Now)’ และ ‘사랑, 하자 (Let’s Love)’ ที่ผู้ชมต่างร่วมใจช่วยกันร้องอย่างน่าประทับใจ ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะเขาได้นำเพลงดังระดับโลกของ EXO (เอ็กซ์โซ) มาแสดงเป็นเมดเลย์ ทั้งเพลงประจำฤดูหนาว ‘첫 눈 (The First Snow)’ และเพลงฮิตอย่าง ‘으르렁 (Growl)’, ‘중독 (Overdose)’, ‘Monster’ เรียกเสียงเชียร์และร้องตามกันกระหึ่มฮอลล์

ด้าน EXO-L ได้ตอบรับคำเชิญในการเยี่ยมเยือนบ้าน SU:HOME ด้วยความอบอุ่น ทั้งการแต่งกายตามเดรสโค้ด “สีม่วง” ที่กำหนดโดยเจ้าบ้าน SUHO และแฟนโปรเจกต์น่ารัก ๆ มากมาย ได้แก่ เฟรมแท่งไฟรูปดาว และรูปหูกระต่ายอันเป็นสัญลักษณ์ของ SUHO, กำไลข้อมือแท่งไฟเรืองแสง และการแปรอักษรด้วยกล่องไฟที่มีความหมายว่า “ประเทศไทย ❤ พี่จุน 🐰” (ย่อมาจาก JUNMYEON (จุนมยอน) ชื่อจริงของ SUHO (ซูโฮ)) รวมถึงแบนเนอร์ความหมายซึ้ง ๆ อย่าง “มารักกันเถอะ ตลอดไปเลยนะ” กับ “ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา และนับจากนี้ตลอดไป EXO-L ชาวไทย จะอยู่เคียงข้าง SUHO เสมอ” ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที ผ่าน 21 บทเพลง ทั้งเจ้าบ้าน SUHO และลูกบ้านคนสำคัญ EXO-L ได้สานสายสัมพันธ์ดั่งครอบครัวที่ใช้เวลาร่วมกันพร้อมแบ่งปันทุกความรู้สึกอย่างแน่นแฟ้น ทำให้คอนเสิร์ตหลังนี้เปรียบดั่งบ้านพักพิงใจที่ไม่ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ก็มีแต่ความทรงจำที่อบอวลด้วยความสุขอยู่เสมอ

แจกฟาร์มสดใสของเหล่าทูตสวรรค์ “Sonny Angel” ในคอลฯ Sonny Angel x CASETiFY

Alternative Textaccount_circle

CASETiFY แบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลก ชวนทำฟาร์มกับน้อง “Sonny Angel” เหล่าทูตสวรรค์ตัวน้อย บนเคสมือถือและอุปกรณ์ตกแต่งไอทีสุดน่ารัก ในคอลเล็คชั่นใหม่ Sonny Angel x CASETiFY ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากซีรีส์ฟาร์มปลูกผัก (Harvest) อันโด่งดัง ให้ได้สนุกกับผักผลไม้หลากสีสัน

Sonny Angel (ซอนนี่ แองเจิล) เหล่าน้อง “พ่อมด” หรือ “ทูตสวรรค์” โมเดลตัวน้อยที่มีเวทย์มนต์ดลใจให้เหล่านักสะสมหลงรักโดยจุดเริ่มต้นของหนูน้อยสัญชาติญี่ปุ่น Sonny Angel ถือกำเนิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2004 กับโมเดลรุ่นแรก “เด็กชายตาโตในชุดวันเกิด” เอกลักษณ์คือมีปีกเล็ก ๆ เปรียบเป็นเทวดาตัวน้อย มีหลากหลายธีมไม่ว่าจะเป็น สัตว์ ผัก ผลไม้ ดอกไม้ และขนมหวานต่าง ๆ สร้างความน่าสนใจอย่างมากที่ใคร ๆ ต่างก็ตามหามาครอบครองจนถึงปัจจุบัน

การร่วมมือกันครั้งแรกของ CASETiFY กับ Sonny Angel จะนำเสนอความสุขที่เหล่าทูตสวรรค์น้อยมอบให้กับแฟนคลับ ผ่านคอลเล็คชั่นเคสสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์ตกแต่งไอทีหลากหลายไอเท็ม ออกแบบโดยใช้ลวดลายจากซีรีส์ Harvest หรือฟาร์มปลูกผัก ที่ขายดีที่สุดของ Sonny Angel บนเคส Impact (เคสกันกระแทก) และ Mirror Case (เคสกระจก) ที่เป็นรุ่นยอดนิยมของ CASETiFY ไปจนถึงลวดลายพิเศษ 3 แบบ ได้แก่ Sonny Angels Harvest Medley Case, Heavenly Angel Case และ Harvest Heart Series Case

นอกจากนี้ คอลเล็คชั่นนี้ยังมีเครื่องประดับเสริมอื่น ๆ อีกด้วย เช่น Sonny Angel Phone Charm สายคล้องโทรศัพท์รุ่นพิเศษ และ Metal Heart Phone Strap สายโลหะแบบสะพายข้าง ที่มาพร้อมกับตัวห้อยรูปตุ๊กตาสตรอเบอร์รี่ ปีกเทวดา หัวใจ และอื่นๆ อีกมากมาย ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ CASETiFY.com


โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ จัดงานเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลก ครั้งที่ 24 (World Gourmet Festival) 24-29 กันยายน 2567

account_circle

โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ภูมิใจนำเสนอ งานเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลก ครั้งที่ 24 หรือ World Gourmet Festival 2024 (เวิลด์ กูร์เมต์ เฟสติวัล) งานยิ่งใหญ่ประจำปีที่รวบรวมสุดยอดเชฟมิชลินสตาร์และเชฟชื่อดังจากทั่วโลก เมนูชั้นเลิศ อาหารและไวน์ชั้นเยี่ยม ตั้งแต่วันที่ 24-29 กันยายน 2567

สำหรับปีนี้ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ได้เชิญเชฟระดับมิชลินสตาร์และเชฟชื่อดังที่ได้รับรางวัลรับรองฝีมือและรสชาติอาหารในระดับสากล 16 ท่าน บินตรงมาจาก 12 ประเทศทั่วโลก ทั้งเอเชียและยุโรป รวมทั้งสิ้น 30 ดาว เพื่อมาปรุงอาหารรสเลิศให้ได้ลิ้มรสสุดยอดฝีมือเชฟ ตลอดเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็ม โดยเชฟที่ยืนยันมาร่วมงานทั้งหมด ได้แก่

เชฟมิชลินสตาร์ระดับ 3 ดาว จำนวน 4 ท่าน

  • เชฟโทมัส บูฮ์เนอร์  (Thomas Bühner) จากห้องอาหารLa Vie in Osnabrück เยอรมัน  
  • เชฟวิกิ กีเนส  (Viki Geunes) จากห้องอาหาร Zlite เบลเยียม  
  • เชฟสเตฟาน สติลเลอร์  (Stefan Stiller) จากห้องอาหาร Taian Table เซี่ยงไฮ้
  • เชฟจิมมี่ ลิม (Jimmy Lim) จากห้องอาหาร JL Studio ไต้หวัน

เชฟมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาว จำนวน 8 ท่าน

  • เชฟแมทิโอ เฟอร์รันติโน  (Matteo Ferrantio) จากห้องอาหาร Bianc เยอรมัน
  • เชฟอีริค ราตี  (Eric Raty) จากห้องอาหาร  Arbor ฮ่องกง
  • เชฟคาซูยูกิ ทานากะ  (Kazuyuki Tanaka) จากห้องอาหาร  Racine ฝรั่งเศส
  • เชฟซาง ฮุน เดครัมเบรอ (Sang Hoon Degeimbre) จากห้องอาหาร L’air du temps เบลเยียม
  • เชฟมาร์ค โดนัล (Mark Donald) จากห้องอาหาร The Glenturret สก็อตแลนด์
  • เชฟเฮนริค ซา เปซซัว (Henrique Sa Pessoa จากห้องอาหาร Alma โปรตุเกส
  • เชฟหลุยส์ ฟิลิป วิจิลองค์ (Louis Philippe Vigilant) จากห้องอาหาร The Glenturret ฝรั่งเศส
  • เชฟริชชี นารีนดรา (Rishi Naleendra) จากห้องอาหาร Cloudstreet สิงคโปร์

นอกจากนี้ พบกับเชฟมิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว ที่จะมามอบประสบการณ์การรับประทานอาหารมื้อค่ำสุดพิเศษเป็นครั้งแรกที่อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท โดยเชฟเอนริโก มาร์โม (Enrico Marmo) จากห้องอาหาร Balzi Rossi อิตาลีและล่องเรือดินเนอร์สุดหรูบน Loy Pela Voyages (ลอย เพลา โวยาจส์) ที่อนันตรา ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท กรุงเทพฯ โดยหลุยส์ แอนโจ (Louis Anjo) จากห้องอาหาร Al Sud โปรตุเกส ในวันที่ 27-28 กย.67  

สำหรับไฮไลท์ของงานเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลกครั้งที่ 24 (World Gourmet Festival 2024) มีความพิเศษ และน่าสนใจมากมาย ตลอดทั้ง 6 วันเต็ม ได้แก่

  • พิธีเปิดงานเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลกครั้งที่ 24 “Constellation of Stars Gala Dinner” กับกาล่าดินเนอร์สุดหรู ที่รวมเชฟมิชลินสตาร์ 6 ท่าน และ Executive Pastry Chef ของโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ร่วมมือกันเพื่อสร้างมื้อสุดวิเศษนี้ขึ้นมาให้เป็นที่จดจำและประทับใจ ในวันที่ 24 กันยายน 2567 ณ ห้องบอลรูม ราคาคอร์สละ 9,500++ รวมไวน์แพริ่ง   
  • Special Dinner มื้อค่ำสุดพิเศษและเอ็กซ์คลูซีฟที่สุด 5 วันเต็ม โดยเชฟมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาวและ 3 ดาว รับเชิญ 14 ท่าน จะเป็นเจ้าภาพรังสรรค์คอร์สอาหารค่ำ ในแต่ละห้องอาหารของโรงแรมฯ ตามสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละคน เพื่อมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ยอดเยี่ยม ในราคาเริ่มต้นคอร์สละ 10,900++บาท รวมไวน์แพริ่ง ตั้งแต่วันที่ 25-29 กย. 67
  • เติมเต็มช่วงเวลาบ่ายสุดหรูหรากับ Afternoon Tea Set โดยเชฟขนมหวานชื่อดังระดับเอเชีย 2 ท่านได้แก่ เชฟกิโยม ลอปเวต (Guillaume Lopvet) หัวหน้าพาสทรีเชฟจากร้าน The Valrhona Chef -Asia Pacific ที่นำเสนอเมนูขนมหวานแบบพิถีพิถัน พรีเมียมในสไตล์ฝรั่งเศส ในวันที่ 25 กย.67 และเชฟเหวย ลุน ตัน (Wei Loon Tan) พาสทรีเชฟจากมาเลเซีย ที่คว้ารางวัลระดับโลกมาแล้วมากมาย อาทิ Asia’s Best Pastry Chef, World Pastry Champion 2019, Asian Pastry Champion ฯลฯ พร้อมครีเอทเมนูของหวานรสเลิศ ผ่านศิลปะในการนำเสนอที่โดดเด่น ในวันที่ 28-29 กย.67 ณ ล็อบบี้ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ในราคาเซ็ทละ 1,450++บาท ตั้งแต่เวลา 14:00-17:00 น.
  • นอกจากนี้ ในทุกค่ำคืนตลอดการจัดงาน ยังได้สุดยอดบอร์เทนเดอร์ และ Mixologist ระดับมือพระกาฬ รางวัลการันตี Asia’s 50 Best Bars 2024 มาครีเอทเครื่องดื่ม ค็อกเทลสูตรพิเศษให้ที่ AQUA Bar รวม 6 คน สลับหมุนเวียนไปทุกค่ำคืน อาทิ Jon Lee จากร้าน Penrose มาเลเซีย ซึ่งติดอันดับที่ 8 จาก Asia’s 50 Best Bars 2024, บาร์เทนเดอร์ตัวท็อปอย่าง Colin Chai จากร้าน Nutmeg & Clove ที่คว้าอันดับ 6 จาก Asia’s 50 Best Bars 2024 รวมถึงบาร์เทนเดอร์ขั้นเทพของไทยหนึ่งเดียวในงานนี้ ณิกษ์ อนุมานราชธน จาก G.O.D (Genius On Drugs) นอกจากนี้ ยังมีบาร์เทนเดอร์ที่สายดื่มไม่ควรพลาดได้แก่ Raiza Carrera จาก Agita Club สเปน, Michito Kaneko จาก Lamp Bar ประเทศญี่ปุ่น ที่คว้าอันดับ 23 จาก Asia’s 50 Best Bar 2023 เป็นต้น ในระหว่างวันที่ 24-29 กย.67 ตั้งแต่เวลา 20.00-23.00 น.

ทั้งนี้ รายได้จากการจำหน่ายบัตรรับประทานอาหารมื้อค่ำ 600 บาทต่อ 1 ใบ และรายได้ทั้งหมดจากการประมูลของรางวัลในงานกาล่าดินเนอร์ จะนำไปร่วมบริจาคสมทบทุน มูลนิธิอนุเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถีในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ต่อไป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งงานเทศกาลอาหารและไวน์ชั้นเลิศครั้งที่ 24 ณ  โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โทร. 0-2126-8866 หรือ เว็บไซต์ www.worldgourmetfestival.asia

เสิร์ฟถึงไทย! ส่อง ‘Versace Mercury’ สนีกเกอร์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนวัตกรรมแห่งโลกอนาคต

Alternative Textaccount_circle

Versace เปิดตัวรองเท้าที่มาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่กับรุ่น Versace Mercury ที่สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศ โดยรองเท้าผ้าใบรุ่นล่าสุดนี้ตัดเย็บจากหนังลูกวัวที่ผลิตด้วยพื้นรองเท้าเพียงชั้นเดียว ซึ่งหัวใจหลักของการออกแบบได้มุ่งเน้นถึงโลกอนาคต และการสวมใส่ได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังตอกย้ำความทุ่มเทในการออกแบบและการบุกเบิกเทคนิคจากช่างฝีมืออย่างทันสมัย

รองเท้าผ้าใบ Versace Mercury ถูกสร้างสรรคขึ้นให้เป็น… ‘สิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคต’

รองเท้าผ้าใบรุ่น Mercury เป็นตัวอย่างของงานฝีมือเชิงนวัตกรรมอย่างแท้จริง โดยเป็นการผสมผสานความก้าวหน้าของอนาคต และความซับซ้อนในการออกแบบอันเป็นเอกลักษณของเฮาส์ได้อย่างลงตัว การออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากนิยายเชิงวิทยาศาสตร์ปกคลุมโครงสร้างอันซับซ้อน ซึ่งประกอบด้วยชิ้นส่วนต่างๆ กว่า 86 ชิ้น ถูกนำมาเย็บติดกันอย่างไรรอยต่อ รวมกับองค์ประกอบส่วนบนและการบุภายในรองเทา 30 ชิ้นต่อคู่ ทั้งหมดนี้ส่งผลให้รองเท้ารุ่นนี้เป็นดั่งรังไหมที่ให้ความสบาย ปกปองและพยุงเท้าได้อย่างดี รองเท้าผ้าใบรุ่น Mercury ยังสะท้อนถึงความคล่องตัว ความอเนกประสงค์ และความคลาสสิกตามแบบฉบับของเทพ Mercury พร้อมเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้สวมใส่ได้รู้สึกถึงการเดินทางครั้งใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม ด้วยการผสมผสานองค์ประกอบจากรองเท้าประเภทตางๆ เพื่อก้าวข้ามความธรรมดาไปสู่ความพิเศษ

นอกจากรากฐานของการสร้างสรรค์ที่สืบทอดมาอย่างยาวนานแล้ว รองเท้าผ้าใบรุ่น Mercury ยังสื่อถึงการสำรวจในสิ่งที่ไม่เคยมีใครล่วงรู้ ซึ่งแสดงให้เห็นบนสัญลักษณ์ของแคมเปญ ที่ออกแบบโดยใช้แสงและเงา รวมกับแรงบันดาลใจจากแนวคิดของสวรรค์ผสมผสานกับเทคโนโลยีล้ำสมัย รูปทรงและผิวสัมผัสของรองเท้า ถอดแบบจากผิวของปลากระเบน รวมกับลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของเฮาส์ ในขณะเดียวกันยังสื่อถึงการเปลี่ยนแปลงจากช่วงเวลากลางวันสู่กลางคืนได้อย่างไร้ที่ติ


ข้อมูลและภาพ: Versace

ป้ายยาตัวช่วยคลีนน้องสาวจาก BeNice สะอาด สดชื่น มั่นใจเอาอยู่

account_circle

Praew Survey ครั้งนี้ขอเอาใจผู้หญิงที่รักการดูแลน้องสาวให้สดชื่นเป็นประจำ กับการป้ายยาไอเท็มทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น BeNice Natural 10 in 1 Feminine  ซึ่งขึ้นแท่นลูกรักของสาวๆ และเป็นเจ้าของรางวัล Iconic Feminine Cleanser For Sensitive Skin จากสุดยอดเวทีความงามแห่งปีอย่าง Praew Iconic Beauty ที่สำคัญคือคว้ารางวัลไปครองถึง 2 ปีซ้อน  

ความจึ้งของ BeNice Natural 10 in 1 Feminine Cleansing ที่ทำให้สาวๆ เทใจให้ หนึ่งคือเขาเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นสูตรอ่อนโยนพิเศษ ช่วยลดกลิ่นอับ เสริมความมั่นใจให้กับน้องสาวได้แบบเอาอยู่ โดยเฉพาะในวันมามากที่สาวๆ มักกังวลเป็นพิเศษ เพราะเขามีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติอย่าง Butterfly Lavender ที่ช่วยคุมกลิ่นได้แบบอยู่หมัด

ความจึ้งต่อมาคือ BeNice Natural 10 in 1 Feminine Cleansing พร้อมกับ สารทำความสะอาดจากธรรมชาติ 100% จึงไม่ระคายเคืองผิว อีกทั้งยังผ่านการทดสอบโดยสูตินรีแพทย์ว่าอ่อนโยน ใช้ได้ทุกวัน ที่สำคัญคือมีค่า pH เหมาะกับจุดซ่อนเร้น จึงช่วยคงความสมดุลความสะอาด ตามธรรมชาติเอาไว้ ทำให้น้องสาวรู้สึกชุ่มชื้น ไม่แห้งตึง รวมถึงยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารตกค้าง ดีต่อน้องสาวในระยะยาว สาวๆ สามารถใช้ทำความสะอาดน้องสาวเป็นประจำได้อย่างสบายใจ

นอกจากการใช้ BeNice Natural 10 in 1 Feminine Cleansing  เป็นไอเท็มดูแลน้องสาวตอนอาบน้ำรอบเช้าและก่อนนอนแล้ว สาวๆ ยังสามารถใช้ทุกครั้งหลังทำธุระในห้องน้ำหรือทำกิจกรรมออกเหงื่อ ได้ด้วย โดยแนะนำให้ล้างน้องสาวด้วยน้ำและใช้ทิชชู่ซับเบาๆ แล้วเพิ่มขั้นตอนอีกนิดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นจาก BeNice เพื่อเสริมความมั่นใจให้น้องสาวสะอาดสดชื่นสุดๆ ไปเลยค่ะ

การจับมือครั้งพิเศษของ ICONCRAFT และแบรนด์ SIRIVANNAVARI เปิดตัวกระเป๋าผ้าไหมไทยคอลเลคชั่นประจำปี S’CRAFT: Craftsmanship 2024

account_circle

การกลับมาอีกครั้งของจัดงานส่งเสริมสนับสนุนอนุรักษ์ผ้าไทยสุดยิ่งใหญ่ “ICONCRAFT Thai Textile Hero 2024” ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นแบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดยไอคอนคราฟต์ พื้นที่แห่งงานฝีมือสุดสร้างสรรค์ของคนไทย ร่วมกับแบรนด์ SIRIVANNAVARI  จัดงานเปิดตัวกระเป๋าผ้าไทยดีไซน์เก๋คอลเล็กชั่น “S’CRAFT: Craftsmanship 2024” เพื่อน้อมถวายเป็นราชสดุดีในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระชนมายุครบ 92 พรรษา และเฉลิมฉลองให้กับวันผ้าไทยแห่งชาติในปีนี้

นับเป็นประจำทุกปีที่ไอคอนคราฟต์จัด “ICONCRAFT Thai Textile Hero” ขึ้นในเดือนสิงหาคม เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงอนุรักษ์ ส่งเสริม และสืบสานผ้าไทย ซึ่งเป็นมรดกแห่งภูมิปัญญาอันล้ำค่าไม่ให้สูญหายไป และร่วมฉลองให้กับวันผ้าไทยแห่งชาติซึ่งตรงกับเฉลิมพระชนมพรรษาฯ 12 สิงหาคมของทุกปี สำหรับปีนี้การจัดงาน “ICONCRAFT Thai Textile Hero 2024” มีความพิเศษที่ไอคอนคราฟต์ได้ร่วมกับแบรนด์ SIRIVANNAVARI เปิดตัวกระเป๋าผ้าไหมไทยในคอลเลกชันสุดเอกซ์คลูซีฟ “S’CRAFT: Craftsmanship 2024” ลิมิเต็ด เอดิชั่น พร้อมแฟชั่นโชว์จากเหล่าเซเลบริตี้กว่า 40 ท่าน ในวันที่ 8 สิงหาคม 2567 ณ ICONLUXE HALL ชั้น 1 ไอคอนสยาม และจัดแสดงผลงานกระเป๋าผ้าไหมไทยคอลเลกชัน “S’CRAFT 2024” ให้ประชาชนทั่วไปและลูกค้าของไอคอนสยามได้ชมและเลือกซื้อ ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม – 1 กันยายน 2567 ที่ ICONLUXE Hall  ชั้น 1 และไอคอนคราฟต์ ชั้น 4-5 ไอคอนสยาม

ทั้งนี้กระเป๋าผ้าไหมไทยคอลเลกชัน “S’CRAFT 2024” เกิดขึ้นด้วยพระปณิธานของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้ทรงเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI ที่ทรงยึดมั่นและสืบสานพระราชปณิธานในสมเด็จพระพันปีหลวง ผู้ทรงก่อตั้งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในการฟื้นฟูและอนุรักษ์หัตถศิลป์ จึงทรงเกิดแรงบันดาลใจในการออกแบบกระเป๋าผ้าไหมไทยเพื่อน้อมถวายเป็นราชสดุดีในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระชนมายุครบ 92 พรรษา ภายใต้แนวคิด “ดอกไม้พระนาม” สะท้อนถถึงความเป็นขัตติยนารีผู้เปี่ยมไปด้วยความสามารถ ที่เปรียบดั่งดอกไม้อันทรงคุณค่าที่แผ่ความงดงามและความร่มเย็นสู่ผืนแผ่นดินนานนับทศวรรษ

คอลเลกชันกระเป๋าผ้าไหมไทยประจำปี  “S’CRAFT: Craftsmanship 2024”จัดทำขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 75 ใบ ทุกใบรังสรรค์ขึ้นจากผ้าไทยและช่างฝีมือชั้นครูในดีไซน์ร่วมสมัย โดยคัดสรรผ้าไหมที่เนรมิตขึ้นจากฝีมือของช่างทอผ้าจากศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด จังหวัดอยุธยา และศูนย์ศิลปาชีพ สวนจิตรลดา เน้นสีเหลืองและสีฟ้าอันสดใสราวกับสวนในฤดูใบไม้ผลิอันบานสะพรั่งอย่างงดงาม นำมาเพิ่มความโดดเด่นด้วยงานปักและเย็บซ้อนแบบ 3 มิติสุดวิจิตร โดยช่างปักชั้นครูแห่ง SIRIVANNAVARI Atelier & Academy ลงฝีเข็มอันบรรจงนับร้อยเข็ม เรียงร้อยเป็นกลีบดอกไม้นานาชนิด จากภาพวาดฝีพระหัตถ์ขององค์ดีไซเนอร์ เช่น ดอกกุหลาบควีนสิริกิติ์ (Queen Sirikit Rose)  และดอกไอริสที่ทรงโปรดปรานและพระองค์ทรงออกแบบไว้ในคอลเลกชั่นจิวเวลรี่ชั้นสูง ต่อยอดมาสู่งานหัตถศิลป์ที่เชิดชูคุณค่าแห่งไหมไทย ด้วยเทคนิคงานปักแบบสามมิติทำให้ดอกไม้ทุกดอกมีมิติดูเสมือนจริง นอกจากนี้ใช้เทคนิคการจับสม็อคด้วยมือที่ต้องใช้เวลานานนับสิบชั่วโมง ตลอดจนเทคนิคการสานผืนหนังอันบรรจงงดงาม  จนได้ออกมาเป็นผลงานชิ้นเอกของคนไทยอันน่าภาคภูมิใจ ซึ่งผสมผสานความงามของผ้าไทยเข้ากับแฟชั่นอันเป็นสากลได้อย่างลงตัว

ผลงานกระเป๋าผ้าไหมไทยคอลเลกชัน “S’CRAFT: Craftsmanship 2024” ประกอบด้วยกระเป๋า 7 ดีไซน์ ในรูปทรงที่หลากหลาย เหมาะสำหรับทุกโอกาสใช้งาน และวาระสำคัญ โดยแต่ละดีไซน์และสีสันต่างๆ รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น

  • S Signature Pouch กระเป๋ารุ่นไอคอนของคอลเลคชั่น S’CRAFT มีเอกลักษณ์ด้วยปากกระเป๋ารูดปิดเพื่อเนรมิตให้เกิดรูปทรง ขนาดกะทัดรัดและใช้งานได้แบบเอนกประสงค์ สำหรับปีนี้มาพร้อมกับงานปักคริสตัลอันวิจิตรงดงามที่เข้ามาเพิ่มลูกเล่นสลับกับลายผ้าและงานจับสม็อคอันประณีตซึ่งลดหลั่นลงมาอย่างเป็นจังหวะ
  • บุษบา (Busaba Clutch)  กระเป๋าคลัทช์ขนาดเล็กแสนหรูหรา เสน่ห์แห่งความเป็นเฟมีนีนเรียงร้อยอยู่บนความอ่อนโยนของผ้าไหม โดดเด่นด้วยงานปักและการจับสม็อคอันประณีต พร้อมลูกเล่นการสอดแขน ดุจเครื่องประดับแห่งข้อมือ เคียงคู่ชุดราตรีอันงามสง่า  
  • มาลา (Mala Shoulder Bag) กระเป๋าสำหรับสะพายไหล่รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ใช้งานง่าย
    โดดเด่นด้วยงานปักดอกไม้อันประณีต เหมาะสำหรับทั้งลุคกลางวันและกลางคืน
  • บุษบง  (Busabong Bucket Bag)  กระเป๋าทรงขนมจีบ ซึ่งโดดเด่นด้วยงานผ้าไหมจับสม็อคชั้นสูงอย่างปราณีต  เจือกลิ่นอายสไตล์โมเดิร์นวินเทจด้วยโครงฐานและด้านข้าง ไปจนหูกระเป๋าสายสั้น จากหนังลูกวัวชั้นดี  ปากกระเป๋ารูดปิดสไตล์ขนมจีบ ตกแต่งสายด้วยโลโก้นกยูง
  • บุปผา (Bupa Wrislet) กระเป๋าคล้องข้อมือ แอ็คเซสเซอรีส์ดีไซน์เก๋ที่เหมาะสำหรับงานค็อกเทลปาร์ตี้ หรืองานกลางคืน ดีไซน์มีความแตกต่างด้วยการนำผ้ามาจับให้เป็นทรงกลีบดอกไม้ราวกับงานประติมากรรมอันงามสง่า
  • ผกา (Baga Tote Bag) กระเป๋าทรงโท้ต ไอเท็มคลาสสิคตลอดกาล สามารถถือได้อย่างคล่องตัวในลุคกลางวัน มีเอกลักษณ์ด้วยงานจับสม็อคเป็นรูปดอกไม้ที่เข้ามาเพิ่มสีสันและความมีชีวิตชีวา โดยมีให้เลือกทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่

และความพิเศษสุดของปีนี้คือ กระเป๋าคลัชท์สิริพฤกษา “SIRIPruksa ซึ่งเป็นกระเป๋าผ้าไหมรูปนกยูงรำแพนแสนสง่างาม ตัวนกยูงประดับด้วยทอง เงินแท้ และคริสตัลล้ำค่า ส่วนตัวคลัชท์รูปครึ่งวงกลมเย็บจับสม๊อคหรูหรา เป็นลิมิเต็ด เอดิชั่น ซึ่งรังสรรค์ขึ้นเพียงสีละ 1 ใบเท่านั้น คือ สีเงิน และสีทอง นอกจากนี้คอลเลกชัน “S’CRAFT 2024” ยังมีแอคเซสเซอรีสำหรับตกแต่งกระเป๋าให้เลือกเติมความสวยเก๋ อย่างพวงกุญแจผ้าไหม  รวมถึง เนคไทและโบว์ไท สำหรับสุภาพบุรุษ เพื่อความโดดเด่นเข้าคู่กันอย่างสมบูรณ์แบบ

พิเศษ! สำหรับสมาชิก ONESIAM และลูกค้าต่างชาติ ซื้อสินค้าจากไอคอนคราฟต์ ไอคอนสยามครบ 5,000 บาท/ใบเสร็จ แลกรับ ICONCRAFT Gift Voucher มูลค่า 300 บาท ซื้อสินค้าในร้านครบ 50,000 บาท/ใบเสร็จ แลกรับ ICONCRAFT Gift Voucher มูลค่า 4,000 บาท และซื้อสินค้าครบ 100,000 บาทขึ้นไป/วัน รับเพิ่ม 10,000 ONESIAM COINS  โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด  

ร่วมชื่นชมและเลือกจับจองเป็น  “S’CRAFT: Craftsmanship 2024”  จากแบรนด์ SIRIVANNAVARI  ได้ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2567 ที่ ICONLUX Hall  ชั้น 1  และวันที่ 9 สิงหาคม –  1 กันยายน  2567 ไอคอนคราฟต์ ชั้น 4-5    สอบถามข้อมูลโทร 1338 หรือ Facebook ICON CRAFT

แมริออท บอนวอย เฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ด้วยชุดขนมไหว้พระจันทร์อันเป็นมงคลหลากหลายรูปแบบ

account_circle

แมริออท บอนวอย ฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ในประเทศไทยด้วยชุดขนมไหว้พระจันทร์หลากหลายแบบจากโรงแรมและรีสอร์ทในเครือ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล 9 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต ทั้งขนมไหว้พระจันทร์สไตล์ดั้งเดิมและร่วมสมัย ที่มีรสชาติละเมียดละไมพร้อมรูปลักษณ์อันประณีตสวยงาม บรรจุลงในกล่องสุดหรู เหมาะแก่การมอบเป็นของขวัญให้แก่คนในครอบครัว เพื่อน ผู้ร่วมงาน และคนที่รัก เพื่อร่วมดื่มด่ำและอิ่มเอมกับรสชาติแห่งความอบอุ่นในช่วงเวลาอันเปี่ยมความหมายนี้ไปด้วยกัน

เริ่มต้นที่ โรงแรม ดิแอทธินี โฮเทล แบงค็อก อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล (The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel) นำเสนอขนมไหว้พระจันทร์รสชาติพิเศษทั้งแบบคลาสสิกและซิกเนเจอร์เซ็ต โดยซิกเนเจอร์เซ็ตประกอบด้วย 4 รสชาติ ได้แก่ ไส้งาดำกับคัสตาร์ดไข่เค็ม, ไส้คัสตาร์ดทองกับไข่เค็ม, ไส้ดาร์กช็อกโกแลตกับทุเรียนจันทบุรี และไส้ส้มแมนดารินยูซุกับแมคคาเดเมีย ส่วนเซ็ตคลาสสิก มี 3 รสชาติ คือ ไส้ทุเรียนจันทบุรีไข่เค็ม, ไส้เมล็ดบัวขาวและเมล็ดแตงโมไข่เค็ม และไส้ผลไม้รวมกับถั่วธัญพืช 5 ชนิด มาพร้อมกล่อง Signature Box ลายดอกไม้และขนนก ราคาเริ่มต้นที่1,088 บาท สำหรับรสชาติคลาสสิค 4 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีกล่อง Pastel Art Box ที่ออกแบบเป็นพิเศษโดยศิลปินชาวอิตาลี Arianna

โรงแรม เจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ (JW Marriott Hotel Bangkok) ร่วมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ปีนี้ด้วยขนมไหว้พระจันทร์จากห้องอาหารจีน มาน โฮ (Man Ho) สานต่อแรงบันดาลใจจากงานศิลป์โบราณอย่างภาพวาดพู่กันจีน นำเสนอบนกล่องขนมไหว้พระจันทร์ ทั้งภาพสายน้ำอันพริ้วไหวไหลเอื่อยคดเคี้ยวไปตามเส้นโค้งของภูเขา ภาพนกนางแอ่นบินข้ามเส้นขอบฟ้า และภาพดอกหอมหมื่นลี้ที่ยืนต้นตระหง่านแผ่กิ่งก้านสาขาสีทองอร่าม ซึ่งล้วนสื่อความหมายอันเป็นสิริมงคลให้กับขนมไหว้พระจันทร์สไตล์คลาสสิก 4 รสชาติ ได้แก่ ไส้ทุเรียนหมอนทองไข่เดี่ยว, ไส้ลูกบัวไข่เดี่ยว, ไส้โหงวยิ้งไข่เดี่ยว และไส้เต้าซาดำไข่เดี่ยว เพิ่มความพิเศษด้วยกล่องหกเหลี่ยมซึ่งแต่งแต้มด้วยสีเหลืองนวลและสีทองอันสะท้อนถึงความสุขและความมั่งคั่ง โดยชุด 4 ชิ้น จำหน่ายในราคา 1,388 บาท

ด้าน โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ (The St. Regis Bangkok) มาพร้อมความหรูหรากับคอลเลคชั่น “Exquisite Mooncakes” ที่รวมขนมไหว้พระจันทร์ 4 รสชาติ มาในกล่องเก็บนาฬิกา ตกแต่งด้วยลายนกยูง สัญลักษณ์แห่งความงาม ความเจริญรุ่งเรือง และความสง่างามในวัฒนธรรมจีน ซึ่งสามารถปรับใช้เป็นกล่องเก็บนาฬิกาได้ 4 เรือน โดยขนมไหว้พระจันทร์แต่ละรสชาติแฝงความหมายที่แตกต่างกัน รสทุเรียนหมอนทองไข่เค็ม สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ รสลูกบัวไข่เค็ม สื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง รสเต้าซาดำไข่เค็ม ส่งเสริมความสัมพันธ์ และรสชาเขียวถั่วพิสตาชิโอ สื่อถึงความสุขและมิตรภาพ นำเสนอในราคาพิเศษ กล่องละ 1,688 บาท เมื่อสั่งซื้อล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้ถึง 15 สิงหาคม 2567

สำหรับ โรงแรม ดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ (W Bangkok) ผสมผสานประเพณีดั้งเดิมเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ผ่านขนมไหว้พระจันทร์สองชนิด ทั้งแบบดั้งเดิมที่มาพร้อมเนื้อแป้งอบคลาสสิก 4 รสชาติ ได้แก่ ทุเรียน, บานอฟฟี่, ชาอู่หลงมะนาว, ช็อกโกแลตและพริก และขนมไหว้พระจันทร์สโนว์สกิน (Snowskin) เนื้อสัมผัสเบาบาง นุ่ม หอมละมุน 4 รสชาติ ได้แก่ แอปเปิ้ล, บลูเบอร์รี่และชากล้วยไม้, สัปปะรดคาราเมล และรสคัสตาร์ดฟักทองและทรัฟเฟิล มาในกล่องซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากกระเป๋าเดินทางตกแต่งด้วยลวดลายมังกร ที่พร้อมจะพาทุกคนเดินทางไปสัมผัสความอร่อยของขนมไหว้พระจันทร์สูตรพิเศษในปีมังกรทองนี้ด้วยกัน สามารถสั่งจองล่วงหน้าได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 31 สิงหาคม 2567 ในราคาพิเศษเพียงกล่องละ 1,699 บาท

ส่วน โรงแรม เรเนซองส์ กรุงเทพ ราชประสงค์ (Renaissance Bangkok Ratchaprasong) ชวนสัมผัสประสบการณ์อันน่าหลงใหลกับ “REN Mooncakes Radiance” จาก ห้องอาหารเฟยยาที่จะมอบความสุขผ่านรสชาติขนมไหว้พระจันทร์ 4 รสของปีนี้ ทั้งไส้ทุเรียนไข่เดี่ยว, ไส้ลูกบัวไข่เดี่ยว, แมคคาเดเมียและเกาลัด และไส้คัสตาร์ดมะพร้าวใบเตย บรรจุมาในกล่องดีไซน์สวยหรู รูปมังกรทองบนพื้นหลังสีน้ำเงินเข้ม สัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรือง เหมาะอย่างยิ่งที่จะมอบเป็นของขวัญในเทศกาลอันเป็นสิริมงคลนี้ สั่งจองล่วงหน้าในราคากล่องละ 888 บาท ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 7 กันยายน 2567

อีกหนึ่งความพิเศษที่ไม่อยากให้พลาดคือขนมไหว้พระจันทร์ของ โรงแรม แบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ (Bangkok
Marriott Hotel The Surawongse) ที่ร่วมกับ The Gallery ออกแบบกล่องขนมไหว้พระจันทร์รุ่น The Lunar Pouch
และ Dragon’s Treasure Chest เพื่อนำเสนอการผสมผสานของงานศิลปะร่วมกับการเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ พร้อมคัดสรรขนมไหว้พระจันทร์ที่มีรสชาติสหลากหลายจากทุกห้องอาหารของโรงแรม ได้แก่ ไส้ทุเรียนหมอนทองไข่เดียว,ไส้ชาไทยกับไข่เดี่ยว, ไส้โหง่วยิ้งหมูแผ่นไข่เดี่ยว และไส้ส้มยูซุ โดยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,288 บาทต่อกล่อง

สำหรับ โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค (Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park) นำเสนอเรื่อง
ราวของปีแห่งมังกร ด้วย Story of The Dragon Box กล่องลิมิเต็ด อิดิชัน ที่มีลายมังกร สัญลักษณ์แสดงถึงอำนาจของ
จักรพรรดิในประเทศจีน อีกทั้งยังเชื่อว่าเป็นตัวแทนของสุขภาพที่ดี โชคลาภ และความแข็งแกร่ง โลดแล่นอยู่บนกล่อง มาพร้อมกับขนมไว้พระจันทร์สูตรโฮมเมดแบบดั้งเดิม ทั้งไส้ราสเบอร์รีและโกโก้ผสมถั่วพิสตาชิโอกับอัลมอนด์, ไส้ทุเรียนจันทบุรีและเม็ดบัวกับไข่แดง, ไส้เม็ดบัวและเมล็ดแตงโมกับไข่แดง และไส้หมูแผ่นปรุงรสและสารพัดถั่ว รวมถึงสูตรซิกเนเจอร์อย่าง ไส้ช็อกโกแลตมอลต์โร่เช่ร์, ไส้ราสเบอร์รีและโกโก้ผสมถั่วพิสตาชิโอกับอัลมอนด์ และไส้ชาเขียวคัสตาร์ดและถั่วสน ชุดขนมไหว้พระจันทร์ 4 ชิ้นราคาเริ่มต้นที่ 1,288 บาท

คอร์ทยาร์ด บาย แมริออท พัทยาเหนือ (Courtyard by Marriott North Pattaya) ก็ไม่พลาด ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาล
ไหว้พระจันทร์ด้วยขนมไหว้พระจันทร์ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยวัตถุดิบสดใหม่จากธรรมชาติ มี 2 รสชาติให้เลือก คือ ไส้ทุเรียนกับเมล็ดแตง และไส้ถั่วรวมแบบดั้งเดิม วางจำหน่ายที่ Café 22 ตั้งแต่วันนี้ถึง 17 กันยายน 2567 ในราคากล่องละ 818 บาท สำหรับขนมไหว้พระจันทร์ 4 ชิ้น

ปิดท้ายกันที่ คอร์ทยาร์ด บาย แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ (Courtyard by Marriott Phuket Town) ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาล
ไหว้พระจันทร์เป็นครั้งแรกในปีนี้ ด้วยขนมไหว้พระจันทร์แบบคลาสสิกทั้งสี่ชิ้นบรรจุในกล่องสีแดงที่หรูหรา ตกแต่งด้วย
สัญลักษณ์รูปดอกพลัม นก และโลโก้สีทองของห้องอาหารเย่ว เรสเทอรองท์ แอนด์ บาร์ พร้อมขนมไหว้พระจันทร์ที่เลือกสรรมาเปี่ยมไปด้วยความหมายมงคลและดีต่อสุขภาพ 4 รสชาติ ได้แก่ ไข่แดงคู่และเม็ดบัวขาว, ถั่วแดงและเก๋ากี้, ลูกบัวใบเตยกับเม็ดแตง และชาเขียว กล่องละ 4 ชิ้น ราคาเริ่มต้นที่ 1,288 บาท

ทั้งนี้ ตามประเพณีแล้วเทศกาลไหว้พระจันทร์เป็นการเฉลิมฉลองร่วมกันของผู้คนทางเอเชียตะวันออก โดยวันไหว้
พระจันทร์ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี เป็นเทศกาลที่ทุกครอบครัวจะอยู่พร้อมหน้าและร่วมเฉลิมฉลองด้วยขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อยกับคนที่รัก เพื่อเติมความสุขให้กับช่วงเวลาพิเศษ เทศกาลไหว้พระจันทร์ปีนี้ อย่าลืมเลือกขนมไหว้พระจันทร์จากโรงแรมและรีสอร์ทในเครือ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ไปเพิ่มรสชาติความอบอุ่นให้กับครอบครัว หรือมอบเป็นของขวัญสุดพิเศษให้ญาติมิตร คนใกล้ชิด เพื่อน ผู้ร่วมงาน หรือคู่ค้าทางธุรกิจ ซึ่งเปรียบเสมือนส่งต่อความเป็นสิริมงคลให้แก่กัน

สั่งซื้อขนมไหว้พระจันทร์หรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ restaurants.marriottbonvoy.com/th สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงแรมและรีสอร์ทของแมริออท บอนวอย ในประเทศไทย กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ www.marriott.com

ฉลองใหญ่ครบรอบ 2 ปีแห่งความสนุกที่ท็อปกอล์ฟ กับแคมเปญ “FUN SURE” พร้อมเปิดตัวไม้กอล์ฟ “The Sure Thing”

account_circle

ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ แลนด์มาร์กสำหรับคนรักกีฬาและความบันเทิงแบบครบวงจร เปิดตัวแคมเปญ “FUN SURE” สุดพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 2 ปี โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคม ไปจนถึงกันยายน  ท็อปกอล์ฟ ขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมสนุก ไปกับเกม อาหารรสเลิศ และความสนุกแบบเต็มอิ่ม กับเวลาเล่นที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงเปิดตัวไม้กอล์ฟใหม่ล่าสุด “The Sure Thing” เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่ท็อปกอล์ฟ เท่านั้น

สนุกเต็มที่ กับราคาสุดคุ้ม

เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ ท็อปกอล์ฟขอเชิญชวนทุกคนมาสนุกไปกับ 2 ชั่วโมงเต็มอิ่ม พร้อมรับอีก 1 ชั่วโมงฟรี! ตลอดเดือนสิงหาคมถึงกันยายน ให้ทุกคนได้เพลิดเพลินกับช่วงเวลาแห่งความสนุก และสร้างความทรงจำสุดพิเศษไม่รู้ลืม พร้อมอำนวยความสะดวกด้วยไม้กอล์ฟฟรี อีกทั้งยังไม่มีข้อจำกัดเรื่องการแต่งกาย  (เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใข้บริการ)

เปิดตัวไม้กอล์ฟ “The Sure Thing”

อีกหนึ่งความพิเศษ กับการเปิดตัวไม้กอล์ฟใหม่ล่าสุด “The Sure Thing” ที่ออกแบบร่วมกับ Callaway โดยออกแบบมาให้หน้าไม้กอล์ฟมีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้ผู้เล่นมือใหม่ได้สัมผัสกับความตื่นเต้นในการตีลูกกอล์ฟได้ง่ายกว่าที่เคย นอกจากนี้ ยังออกแบบให้มีองศาหน้าไม้ทำมุม 20 องศา ทำให้ลูกกอล์ฟลอยสูงขึ้นหลังจากการตี รวมถึงด้ามจับที่สั้นลง ทำให้ควบคุมลูกกอล์ฟได้ง่ายขึ้น เรียกได้ว่าเป็นไม้กอล์ฟที่ทำให้การเล่นกอล์ฟง่ายและสนุกมากยิ่งขึ้น

ในระยะเวลาเพียงสองปี ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ ได้กลายมาเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ สำหรับคนรักกีฬาและผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมสังสรรค์ โดยนับตั้งแต่เปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนจำนวนมาก ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ ได้เข้ามาทำให้ผู้ที่ไม่เคยสัมผัสกอล์ฟหลงรักกีฬากอล์ฟมากขึ้น และเป็นสวรรค์สำหรับนักกอล์ฟตัวยง ไม่ว่าะเป็นนักกอล์ฟมือโปรหรือผู้เล่นมือใหม่ ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทั้งกลุ่มเพื่อนและครอบครัว ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีกอล์ฟสุดล้ำ อาหารแสนอร่อย และความบันเทิงแบบไม่รู้จบ ซึ่งการครบรอบสองปีนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองวันเกิด แต่ยังสะท้อนถึงความสุขและความผูกพันที่เติบโตขึ้น และพิเศษมากยิ่งขึ้นกับการเปิดตัวไม้กอล์ฟ The Sure Thing ที่จะเข้ามาทำให้ทุกคนสามารถร่วมสนุกได้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าเป็นโอกาสพิเศษที่ต้องห้ามพลาด!

ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ แลนด์มาร์กสำหรับคนรักกีฬาและความบันเทิงแบบครบวงจรที่ไม่ซ้ำใคร พร้อมที่จะต้อนรับทุกคนด้วยเกมแสนสนุก และอาหารรสเลิศ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมือโปรด้านกอล์ฟก็ไม่สำคัญ ที่ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้มีทุกสิ่งที่เหมาะสำหรับทุกคน ด้วยแพ็คเกจเริ่มต้นเพียง 550++ ต่อเบย์ ต่อชั่วโมง โดยรองรับได้สูงสุด 6 คนต่อเบย์ ที่มาพร้อมกับโซฟาแสนสบาย และระบบปรับอากาศ มั่นใจได้ว่าทุกคนจะได้รับความสะดวกสบายและเพลิดเพลินได้ทุกสภาพอากาศ นอกจากนี้ ที่ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ ยังมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยผู้เล่นสามารถตีลูกกอล์ฟฝังไมโครชิพไปยังหลุมขนาดยักษ์ทั้ง 11 จุด บนสนามที่มีขนาดใหญ่ถึง 205 หลา เพื่อทำคะแนน รับรองว่าทุกคนจะมีแต่ช่วงเวลาที่ดีที่เต็มไปด้วยความสนุกอย่างแน่นอน

ท็อปกอล์ฟ ขอเชิญทุกคนมาร่วมฉลองครบรอบ 2 ปี กับแคมเปญ “FUN SURE” ไม่ว่าคุณจะต้องการเล่นเกมแสนสนุก พร้อมทดลองเล่นไม้กอล์ฟใหม่ล่าสุด The Sure Thing หรือต้องการเพลิดเพลินไปกับอาหารและเครื่องดื่มรสเลิศ ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ ตั้งอยู่ติดกับศูนย์การค้าเมกาบางนา พร้อมที่จะต้อนรับทุกคนกับความบันเทิง อาหารรสเลิศ และความสนุกแบบเต็มอิ่ม!

“เบลล่า” ราณี ปลุกกระแสความหอมหรู ชวนอาบน้ำแบบลักชูด้วย “บีไนซ์ เพอร์ฟูม ชาวเวอร์เจล” และอัพผิวโกลว์ใส กับ “บีไนซ์ โกลว์ แอนด์ เพอร์ฟูม บอดี้ เซรั่ม”

account_circle

ครั้งแรกกับการเปิดโลกแห่งการอาบน้ำหอมที่ให้ฟิลลิ่งลักชูกับ บีไนซ์ เพอร์ฟูม ชาวเวอร์เจล และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย ใหม่! บีไนซ์ โกลว์ แอนด์ เพอร์ฟูม บอดี้ เซรั่ม มอบความกระจ่างใส โกลว์สวย เผย 2 สเต็ปการดูแลผิวเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการอาบน้ำและการบำรุงผิวด้วยบอดี้เซรั่มสูตรใหม่ เพื่อผลลัพธ์ผิวสวยสัมผัสได้ พร้อมเพิ่มเสน่ห์หอมฟุ้งยาวนาน 24 ชั่วโมง(1)  ด้วยความหอมเทียบเท่าเคาน์เตอร์แบรนด์  บีไนซ์ (BeNice) ผู้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวกาย หนึ่งในแบรนด์สินค้าคุณภาพภายใต้บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) บริษัทสินค้าอุปโภคสัญชาติไทย คุณภาพระดับสากล  

ร่วมเปิดประสาทสัมผัสไปกับการอาบน้ำหอมจาก บีไนซ์ เพอร์ฟูม ชาวเวอร์เจล และเปิดไฟให้ผิวกระจ่างใสกับ บีไนซ์ โกลว์ แอนด์ เพอร์ฟูม บอดี้ เซรั่ม พร้อมกับพรีเซนเตอร์สาวสวย “เบลล่า” ราณี    แคมเปน” ที่มาร่วมโชว์ผิวหอมโกลว์ใส เล่นแสง สะกดทุกสายตา ท่ามกลางบรรยากาศแสนลักชู และหอมหรูจากผลไม้และมวลดอกไม้สุดสะพรั่ง ภายในงานBeNice Live in Perfume ที่สุราลัย ฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม เมื่อเร็ว ๆ นี้

ศิริสุภา อาจสัญจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน)  กล่าวถึงเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตมากขึ้น จึงมองหาผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ดีกว่าสินค้าทั่วไป อย่างการเลือกใช้ครีมอาบน้ำ นอกจากตอบโจทย์เรื่องความสะอาดแล้ว ยังต้องการประสบการณ์ในการอาบน้ำที่แตกต่างตามอารมณ์และความรู้สึกในแต่ละวันอีกด้วย

“บีไนซ์ ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมกลุ่มผลิตภัณฑ์อาบน้ำในทุกช่วงวัย ภายใต้แนวคิดการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคอย่างแท้จริง เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มอาบน้ำพรีเมียม บีไนซ์ เพอร์ฟูม ชาวเวอร์เจล ให้ความรู้สึกลักชัวรีในทุกครั้งที่อาบน้ำ ด้วยเนื้อสัมผัสผสมผงไข่มุกช่วยผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใส พร้อมแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด! ที่จะเข้ามาเสริมทัพไอเทมเด็ดบำรุงผิวให้ใสเล่นแสง บีไนซ์ โกลว์ แอนด์ เพอร์ฟูม บอดี้ เซรั่ม อุดมด้วยสารบำรุงผิวแบบเน้นๆ พร้อม Deep Transfer เพื่อผลลัพธ์ผิวกระจ่างใสสัมผัสได้ และให้กลิ่นหอมหรูหราเทียบเท่าน้ำหอมเคาน์เตอร์แบรนด์ติดผิวยาวนาน 24 ชม.ด้วยเทคโนโลยี Blooming Bomb หอมฟินยาวนานยิ่งขึ้นเมื่อใช้คู่กับครีมอาบน้ำกลิ่นเดียวกัน  

“นอกจากนี้ บีไนซ์ ยังมีอีก 2 ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าพรีเมียมแมส ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวบีไนซ์ แอนติแบคทีเรีย         เนเชอรัล โพรเทคชั่น ชาวเวอร์เจล  ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องความสะอาดและความอ่อนโยน โดยให้ประสิทธิภาพการชำระล้างแบคทีเรียได้ถึง 99% แต่อ่อนโยนสำหรับทุกสภาพผิว เพราะเป็นสูตรที่มาจากธรรมชาติถึง 95% และผลิตภัณฑ์เพื่อจุดซ่อนเร้น บีไนซ์ เนเชอรัล 10 อิน 1 มีส่วนผสมอ่อนโยนจากสารทำความสะอาดธรรมชาติ 100% พร้อมทั้งรวมคุณสมบัติที่ดี 10 ประการไว้ด้วยกันในขวดเดียว เพื่อตอกย้ำจุดแข็งของบีไนซ์ที่มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มเป้าหมายในทุกด้าน”

โดยพรีเซนเตอร์สาวผิวสวยสุดโกลว์  “เบลล่า” ราณี แคมเปน ร่วมเผยเคล็ดลับความหอมลักชูแบบดับเบิล ว่า “ต้นเหตุแห่งความหอม ผิวโกลว์ใสของเบลในวันนี้ แน่นอนว่ามาจากบีไนซ์ เพอร์ฟูม ชาวเวอร์เจล กลิ่น Lychee & Roseโดยใช้คู่กับบีไนซ์ โกลว์ แอนด์ เพอร์ฟูม บอดี้ เซรั่ม กลิ่นเดียวกันที่ให้ความรู้สึกคลาสซี่ และโรแมนติก แล้วก็มี Top note เป็นกลิ่นลิ้นจี่ ซึ่งเป็นผลไม้เมืองร้อนที่มีทั้งความหอม และความหวานฉ่ำ ผสมเข้ากับกลิ่นกุหลาบ ที่เพิ่มความมีเสน่ห์ให้มากยิ่งขึ้น และนอกจากทำความสะอาดผิวแล้วยังบำรุงให้ผิวโกลว์ใสด้วยคุณสมบัติของสารสกัดต่าง ๆ ที่ช่วยบำรุงผิว ทั้งยังมีส่วนผสมของผงไข่มุกที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น รวมถึงเบบี้ คอลลาเจนจากญี่ปุ่น ที่ช่วยให้ผิวรู้สึกนุ่มนวลเหมือนผิวเด็กอีกด้วย ส่วนกลิ่น Pomelo & Poppyจะให้ความรู้สึกสดชื่น และให้เอเนอร์จี้ดีๆ โดยมี Top note เป็นกลิ่นส้มโอซึ่งเป็นกลิ่นในตระกูลซีตรัส ผสมผสานเข้ากับกลิ่นแชมเปญและตระกูลดอกไม้สีขาว ที่ให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และสดใส เหมาะสำหรับวันที่เราไปแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อน ๆ  รวมทั้งช่วยให้ผิวที่หมองคล้ำแลดูกระจ่างใสยิ่งขึ้น แล้วก็มีสารต้านอนุมูลอิสระจากอะโวคาโดออยล์ให้ผิวของเราแข็งแรงขึ้นด้วยค่ะ”

นอกจากนี้ เบลล่า ยังเล่าถึงบรรยากาศในถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณาชุดล่าสุดของบีไนซ์ เพอร์ฟูม ชาวเวอร์เจล ว่า “บรรยากาศในวันถ่ายทำอบอวลไปด้วยความหอมและความสนุก โดยเบลได้ถ่ายทอดจินตนาการในช่วงเวลาอาบน้ำที่เหมือนเราได้ระเบิดความหอมมาแบ่งปันให้กับทุกคนที่อยู่รอบข้างได้มีความสุขกับกลิ่นหอมของเราด้วยกัน ที่สำคัญกลิ่นหอมยังช่วยให้อารมณ์ดี และรู้สึกมั่นใจ ทำให้อยากส่งต่อเอเนอร์จี้ดี ๆ ให้ทุกคน และอยากให้สาว ๆ ทุกคนได้มีผิวหอมโกลว์ใสเหมือนอย่างเบลนะคะ”

อาบสะอาดพร้อมปรนนิบัติผิวด้วย บีไนซ์ เพอร์ฟูม ชาวเวอร์เจล ขนาด 450 มล. ราคา 189 บาท และ บีไนซ์ โกลว์ แอนด์  เพอร์ฟูม บอดี้ เซรั่ม ขนาด 170 มล. ราคา 179 บาท หาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าทั่วประเทศใกล้บ้าน และติดตามกิจกรรมเพื่อผิวสวยสัมผัสได้ทาง www.facebook.com/BeNiceThailand

อ้างอิง:

(1) จากผลการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบกลิ่นน้ำหอมประเทศสิงคโปร์

ชวนเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยว “เกาะฟู้โกว๊ก เวียดนาม”

account_circle

แพรว พาเช็คอิน เกาะฟูโกว๊ก ประเทศเวียดนาม กับ Sun Group (ซันกรุ๊ป) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในเวียดนาม ชวนคนรักการเดินทางชาวไทย ไปเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวบน “เกาะฟู้โกว๊ก เวียดนาม” (Phu Qouc) สัมผัสกับเสน่ห์อันน่าหลงใหล ทั้งที่พักระดับโลกแห่งใหม่ โชว์สุดอลังการ สวนสนุก ธรรมชาติ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา

ใช้เวลาเดินทางจากประเทศไทยประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ด้วยสายการบินสัญชาติเวียดนามอย่าง VietJet
เกาะฟู้โกว๊ก เป็นสถานที่ยอดนิยมระดับโลกสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาความงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตอนใต้ของเกาะมีอัญมณีแห่งนี้มีความพิเศษมากมาย ทั้ง Bai Kem Beach ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งใน 50 ชายหาดชั้นนำของโลกโดย Flight Network และ Bai Sao Beach ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน 10 หาดทรายที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยในปีนี้ Sun Group ได้เปิดตัวจุดหมายปลายทางแห่งใหม่พร้อมทั้งกิจกรรมมากมาย เพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

เริ่มต้นที่ใจกลางทางตอนใต้ของเกาะฟู้โกว๊กคือ ‘Sunset Town’ จุดหมายปลายทางแห่งความรักและศิลปะ เผยให้เห็นสีสันอันสดใสของกลิ่นอายเมืองเมดิเตอร์เรเนียน ในขณะเดียวกันก็มีกลิ่นอายและสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ด้วยสวนเขียวชอุ่มและความงามแบบทรอปิคอลที่อยู่รอบ ๆ ช่วยให้เกาะฟู้โกว๊กกลายเป็นหนึ่งในสถานที่หายากในโลกที่มีการจัดแสดงดอกไม้ไฟตลอดปี มีสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าหลงใหลมากมาย ได้แก่ Kiss Bridge ที่เหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ตกดินอันตระการตา สัมผัสประสบการณ์การแสดง Sunset Jetski & Flyboards Show ซึ่งมีการแสดงโลดโผนระดับโลกของนักกีฬานานาชาติ ยามค่ำคืนเตรียมตื่นตาตื่นใจไปกับ Kiss of the Sea การแสดงทางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก พบกับแสงสี กายกรรม และพลุดอกไม้ไฟบนเวทีน้ำทะเล ต่อด้วยการแสดงดอกไม้ไฟสุดอลังการที่ออกแบบท่าเต้นตามเสียงเพลง พลาดไม่ได้กับการแสดงหุ่นกระบอกเวียต (Viet Puppet Show) แสดงหุ่นกระบอกน้ำและดนตรีแบบดั้งเดิม และเดินชม VUI-Fest Bazaar (ตลาดกลางคืนริมทะเล) ที่มีชีวิตชีวาเพื่อสัมผัสประสบการณ์การช็อปปิ้งและทำอาหารที่ไม่เหมือนใคร พร้อมด้วยการแสดงบนท้องถนนที่น่าหลงใหลไปตามถนน Loang Xuong

ผู้แสวงหาการผจญภัยสามารถสำรวจเกาะ Hon Thom ด้วย Hon Thom Cable Car เป็นเคเบิลคาร์ต่อเนื่องที่ยาวที่สุดในโลกโดย Guinness World Records (มากกว่า 7,899 เมตร) ลอยอยู่เหนือน้ำทะเลสีฟ้าครามและทัศนียภาพอันงดงามตระการตา แล้วไปใช้เวลาและสนุกสนานที่ Sun World Hon Thom เกาะสวรรค์ขนาด 5.7 ตารางกิโลเมตร ที่มีชายหาดที่สวยงาม หาดทรายขาว ต้นมะพร้าว และจุดถ่ายรูปในตำนาน เพลิดเพลินไปกับสวนสนุก (Exotica Village), สวนน้ำ (Aquatopia), โรงแรม, กิจกรรมทางน้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย! แล้วไปดำดิ่งสู่สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของเกาะด้วยกิจกรรมดำน้ำ ‘Sea Walk’ เพื่อชมปะการังที่ Eco Beach Diving Center ที่สร้างขึ้นบนบ้านแพลอยน้ำที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบ้านแพปลาแบบดั้งเดิมของหมู่บ้านชาวประมงฟูโกว๊กที่ให้ประสบการณ์ที่ปลอดภัยและน่าตื่นเต้นสำหรับทุกวัย

นอกจากนี้ ยังแนะนำโรงแรมและรีสอร์ทที่รวบรวมแก่นแท้ของ “สวรรค์เขตร้อน” ซึ่งตั้งอยู่บนหาด Bai Kem หนึ่งในชายฝั่งทะเลที่สวยงามที่สุดในโลก หนึ่งในนั้นคือ La Festa Phu Quoc, Curio Collection by Hilton ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกของความรู้สึกที่แสดงออกถึงจินตนาการแห่งเมดิเตอร์เรเนียน ด้วยทำเลใจกลางเมือง Sunset Town สามารถเพลิดเพลินไปกับดอกไม้ไฟอันตระการตาและชมสะพาน Kiss Bridge อันเป็นเอกลักษณ์จากห้องนอนที่สะดวกสบาย

ยังมีตัวเลือกอื่นในบรรดารีสอร์ตของ Sun Group ในฟู้โกว๊ก ได้แก่ JW Marriott Phu Quoc Emerald Bay Resort ซึ่งนำเสนอการออกแบบธีม “มหาวิทยาลัย” สุดแปลกตาของ Bill Bensley เพื่อประสบการณ์หรูหราที่ไม่เหมือนใครอย่างแท้จริง; Premier Village Phu Quoc Resort  รีสอร์คยอดนิยมของคนดัง มีวิลล่าส่วนตัวริมหน้าผา พร้อมทิวทัศน์มหาสมุทรพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกสุดพิเศษ ความสนุกสนานสำหรับครอบครัวกำลังรอคุณอยู่ที่ New World Phu Quoc ซึ่งวิลล่าหลังคามุงจากที่มีเสน่ห์เหมาะสำหรับครอบครัวที่กำลังมองหาการผสมผสานระหว่างเสน่ห์แบบชนบทและสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู และ Premier Residences Phu Quoc Emerald Bay by Accor ให้บริการที่พักระดับ 5 ดาวราคาประหยัด เหมาะสำหรับคู่รักหรือครอบครัวขนาดเล็กบนชายฝั่งอันบริสุทธิ์ของ Bai Kem Beach

ใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกาะฟู้โกว๊กและ Sun Group ได้ที่ www.sungroup.com.vn/en เลยค่ะ


Dr.Thitima Clinic

แพรวพาเช็คอิน Dr.Thitima Clinic พิกัดทำสวยขึ้นชื่อแห่งจังหวัดอุบลราชธานี

Alternative Textaccount_circle
Dr.Thitima Clinic
Dr.Thitima Clinic

ณิชชา แพรวนิสต้า พาไปปักหมุดพิกัดทำสวยขึ้นชื่อแห่งจังหวัดอุบลราชธานี Dr.Thitima Clinic พร้อมขอคำแนะนำดีๆ จากผู้ก่อตั้งคลินิกความงามแห่งนี้ นั่นคือ “คุณหมอก้อย – แพทย์หญิงฐิติมา อินทรา” กับหลากหลายทริคอัพสวย โดยเฉพาะเรื่องการปรับรูปหน้าและการดูแลผิวพรรณ งานนี้ขอบอกเลยว่าคนรักสวยห้ามพลาดค่ะ

แพรวพาเช็คอิน Dr.Thitima Clinic พิกัดทำสวยขึ้นชื่อแห่งจังหวัดอุบลราชธานี

“บุหลันมันตรา”

ถอดรหัสฉากถวายตัว ธรรมเนียมปฏิบัติ ในละคร “บุหลันมันตรา”

Alternative Textaccount_circle
“บุหลันมันตรา”
“บุหลันมันตรา”

ผ่านพ้นกันไปแล้วสำหรับฉากสำคัญ ในอีพี 9 ของละคร “บุหลันมันตรา” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป ใครที่อยากชมฉากนี้อีกรอบ สามารถไปรับชมย้อนหลังได้ที่ TrueID ซึ่งเป็นฉากที่พูดถึงด้านความสวยงาม เกร็ดประวัติศาสตร์สำคัญที่หาดูยาก โดยเป็นฉากที่ “ยีน-เกวลิน ศีรวรรณา” ในบทยี่สุ่นต้องเข้าพิธีถวายตัวเป็น บาทบริจาริกาของวังหน้า หรือ เจ้าฟ้าสุทัศน์ ที่รับบทโดย “โอ-อนุชิต สพันธุ์พงษ์” แต่เบื้องหน้าฉากที่ออกไปสวยงามนั้น แท้จริงสิ่งเหล่านี้ล้วนมีที่มาที่ไป วันนี้เราจะมาถอดรหัสแบบหมดเปลือกกับฉากนี้ให้ทุกคนได้อ่านกัน

สถานที่ถ่ายทำจากสถานที่จริง

โดยฉากถวายตัวที่เห็นในละครบุหลันมันตรา ทีมงานได้ยกกองไปถ่ายทำในสถานที่จริงคือ พระราชวังจันทรเกษม หรือ วังหน้า ตั้งอยู่ ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระราชวังที่ปรากฏหลักฐานตามพระราชพงศาวดารสันนิษฐานได้ว่า สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2120 ในสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช เพื่อให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช นอกจากนี้ยังเคยเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ และพระมหาอุปราชที่สำคัญถึง 8 พระองค์ หนึ่งในนั้นคือ สมเด็จพระเอกาทศรถ และ เจ้าฟ้าสุทัศน์ เป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญของเรื่องนั่นเอง

ทำไมหญิงที่จะต้องเข้าถวายตัวต้องทาตัวขาว คิ้วโก่ง ?

การนำลูก และ หลานสาวทูลเกล้าถวายตัวให้เป็นบาทบริจาริกาของกษัตริย์ เพื่อพยุงฐานะทางเศรษฐกิจสังคม และการเมืองของสมาชิกในตระกูลตน จึงทำให้พระราชสำนัก คับคั่งไปด้วยสุภาพสตรี คอยผลัดเปลี่ยนปรนนิบัติรับใช้ไม่ขาด แล้วทำไมหญิงสาวที่ต้องเข้าถวายตัวเป็น บาทบริจาริกา ของกษัตริย์ ต้อง ทาหน้าขาว คิ้วโก่ง ปากแดง ? นั่นก็เป็นเพราะ ตามความเชื่อของคนไทยสมัยโบราณมีความเชื่อว่า “พระมหากษัตริย์” เปรียบดั่งองค์สมมติเทพ ซึ่งก็คือพระนารายณ์ที่อวตารลงมาบนโลกมนุษย์ ดังนั้นผู้หญิงที่จะเข้าถวายตัวต่อพระมหากษัตริย์ จำเป็นจะต้องทาหน้าขาว เปรียบเสมือนนางฟ้า บนสรวงสวรรค์ตามลงมาคอยปรนนิบัติรับใช้ โดยตามความเชื่อนั้น นางฟ้าต้องมีรูปลักษณ์กายที่ขาว คิ้วโก่งดั่งคันศร มีผมสีดำขลับ ปากแดงดั่งสีชาด รวมถึงการตกแต่งใบหน้า เพื่อให้ได้มองเห็นโครงหน้าและรูปร่างได้ชัดเจน เพราะสมัยก่อนจะใช้การจุดเทียนไขให้แสงสว่างในยามค่ำคืน ไม่มีไฟฟ้าอย่างปัจจุบัน ดั่งฉากที่ได้เห็นในเรื่องที่ยี่สุ่น (ยีน เกวลิน) กำลังแต่งองค์ทรงเครื่องจัดเต็มในชุดถวายตัว ทาหน้าขาว เขียนคิ้วโค้งดังคันสร ริมฝีปากแดงด้วยสีชาดดังนางอัปสร ตามแบบต้นฉบับโบราณราชประเพณีที่กล่าวไว้ข้างต้น

“บุหลันมันตรา”

ทำไมต้องทำท่าพับเป็ด?

ท่าพับเป็ดเป็นท่าถวายตัวที่ใช้ต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นท่าแรกที่ถูกกำหนดไว้ในกฎมณเฑียรบาลตั้งแต่สมัยอยุธยา และเป็นท่าแรกที่บังคับตามจารีตประเพณี โดยสาเหตุที่ต้องใช้ท่านี้เป็นเพราะ เพื่อไม่ให้เท้าของหญิงที่กษัตริย์กำลังทรงร่วมเพศ ไปสัมผัสพระวรกายของพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งตามความเชื่อว่าเท้าเป็นของต่ำ ไม่สามารถถูกหรือสัมผัสพระเจ้าแผ่นดินที่ประหนึ่งเทพเจ้าอันสูงสุดได้ ฉะนั้นท่าพับ

เป็ดของผู้หญิงจึงกลายเป็นท่าแรกและท่าบังคับตามจารีตประเพณี ซึ่งการถวายตัวจะขึ้นไปนอนบนพระแท่นบรรทมไม่ได้ เพราะเนื่องจากผู้ที่เป็นกษัตริย์เท่านั้นที่สามารถบรรทมใต้นภปดลเศวตฉัตรซึ่งแขวนอยู่เหนือพระแท่นบรรทม ผู้อื่นมิสามารถอยู่ใต้ร่มของพระมหาเศวตฉัตร 9 ชั้นนั้นได้ เพราะฉะนั้นจึงจะมีพระแท่นรองเวลาถวายงาน ซึ่งเท้าของผู้หญิงจะชี้ไปที่พระแท่นบรรทมก็ไม่ได้ จึงมีท่ากามสูตร ท่าพับเป็ดที่จะเก็บเท้าไม่ให้ชี้ นั่นเอง ผู้หญิงมีตระกูลที่จะถวายตัว ต้องฝึกท่าพับเป็ดกันตั้งแต่เด็ก โดยปัจจุบันท่าพับเป็ดนี้ยังถูกนำมาประยุกต์ใช้ให้เป็นหนึ่งในท่าโยคะเพื่อสุขภาพที่มีชื่อว่า Supine Hero Pose ที่จะช่วยยืดกล้ามเนื้อด้านหน้าต้นขาได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ยังมีเรื่องราวและเกร็ดประวัติศาสตร์อีกมากมายที่รอแฟน ๆ ได้เรียนรู้ไปพร้อมกับละครบุหลันมันตราสามารถติดตามรับชมได้ ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 18.00 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27 สามารถรับชมย้อนหลังที่แรกที่เดียวที่ TrueID ผ่าน 3 ช่องทางแอปพลิเคชัน, เว็บ และกล่อง TrueID TV ดูฟรีทุกเครือข่าย

พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรเลี่ยง ป้องกันการเกิด 'มะเร็งศีรษะและคอ'

พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรเลี่ยง ป้องกันการเกิด ‘มะเร็งศีรษะและคอ’

Alternative Textaccount_circle
พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรเลี่ยง ป้องกันการเกิด 'มะเร็งศีรษะและคอ'
พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรเลี่ยง ป้องกันการเกิด 'มะเร็งศีรษะและคอ'

ขึ้นชื่อว่า มะเร็ง ก็น่ากลัวและนับเป็นปัญหาสุขภาพที่ใหญ่มากทั้งนั้น ที่สำคัญมะเร็งมักจะไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่จะแสดงอาการเมื่อมีการลุกลามแล้ว ปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก นับเป็นหนึ่งในสาเหตุสําคัญของการเสียชีวิต

สำหรับ มะเร็งศีรษะและคอ เป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นบริเวณทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจส่วนบนและบริเวณคอ หรือเรียกว่า มะเร็งของหู คอ จมูก ซึ่งมะเร็งศีรษะและคอที่พบบ่อย คือ มะเร็งช่องปาก ช่องคอ กล่องเสียง โพรงจมูกและไซนัสโพรงหลังจมูก ต่อมไทรอยด์ และต่อมน้ำลาย การจะพิสูจน์ว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ ทำได้ไม่ยาก แต่จะมีมะเร็งบางตำแหน่งที่อาจตรวจหายากขึ้น ต้องใช้ความชำนาญ และอาจจะต้องใช้วิธีการตรวจพิเศษบางอย่างช่วย เช่น มะเร็งในจมูก มะเร็งโพรงหลังจมูก มะเร็งกล่องเสียง เป็นต้น

สำหรับประเทศไทยพบว่า ปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งศีรษะและคอ มาจากการดื่มเหล้า การสูบบุหรี่ ส่วนการเคี้ยวหมากร่วมกับใบยาสูบเป็นพฤติกรรมที่พบบ่อยในอดีต และเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเกิด “มะเร็งช่องปาก” โดยเฉพาะบริเวณกระพุ้งแก้ม ผู้ป่วยบางรายอาจมีความผิดปกติระดับยีนที่เสริมให้เกิดมะเร็งจากการดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ ซึ่งมะเร็งช่องปากสามารถเกิดได้ทุกตำแหน่งในช่องปากโดยอาจมาด้วยลักษณะตุ่มก้อนเนื้อหรือรอยแผลที่รักษาไม่หายนานเกิน 2–3 สัปดาห์ ทั้งนี้ อาจพบเลือดออกจากรอยแผล อาการชาจากการลุกลามทำลายเส้นประสาท หรือการกระจายไปต่อมน้ำเหลือง ทำให้สามารถคลำเป็นก้อนได้ที่ลำคอ

การป้องกันมะเร็งช่องปากที่สำคัญ คือ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า งดการเคี้ยวหมากพลู ดูแลรักษาสุขภาพช่องปากให้สะอาด พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ

ข้อมูล: โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์
ภาพ: Pexels

ซูมอินลุค CHANEL High Jewelry คอลเล็คชั่น Sport ของเหล่าเซเลบฯ ในงานเปิดตัวที่ไทเป

account_circle

เมื่อไม่นานมานี้ CHANEL ได้ทำการเปิดตัวคอลเล็คชั่นเครื่องประดับชั้นสูง “HAUTE JOAILLERIE SPORT” โดย CHANEL ได้นำชิ้นงานดังกล่าวมาให้ผลโฉมกันที่ Taipei Music Center

โดยงานนี้มีเหล่า House ambassadors อาทิ นักแสดงหญิงชาวไต้หวัน กุ้ย หลุนเหม่ย์, สวี่เหว่ยหนิง, คิมโกอึน, ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง, นักแสดงชาวฮ่องกง Carina Lau หรือ หลิว เจียหลิง และ friends of the House ได้แก่ 9m88, มูน หลี่, Yu-Ping Wang และ Yu-Xuan Wang มาร่วมถ่ายความงดงามในครั้งนี้ด้วยไม่ว่าจะเป็น

ซูมอินลุค CHANEL High Jewelry คอลเล็คชั่น Sport ของเหล่าเซเลบฯ ในงานเปิดตัวที่ไทเป


ทรู คอร์ปอเรชั่น

ทรู คอร์ปอเรชั่น “ทำความ ดี ด้วยหัวใจ” สานต่อโครงการจิตอาสาพระราชทาน

Alternative Textaccount_circle
ทรู คอร์ปอเรชั่น
ทรู คอร์ปอเรชั่น

ทรู คอร์ปอเรชั่น รวมพลัง “ทำความ ดี ด้วยหัวใจ” บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ตามโครงการจิตอาสาพระราชทาน ต่อเนื่องปีที่ 7 เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

ทรู คอร์ปอเรชั่น “ทำความ ดี ด้วยหัวใจ” สานต่อโครงการจิตอาสาพระราชทาน

โดย นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และพนักงานกว่า 100 คน ร่วมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ในโครงการจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งในปีนี้ได้จัดกิจกรรมรณรงค์เชิญชวนเพื่อนพนักงานและประชาชนทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟนเก่า โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์เสริม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กที่เลิกใช้งานแล้วให้ถูกที่ เพื่อรวบรวมนำไปรีไซเคิลอย่างถูกวิธีและปลอดภัย ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สร้างโลกที่ยั่งยืนไปด้วยกัน ณ อาคารทรู ทาวเวอร์ ถ.รัชดาภิเษก

ทรู คอร์ปอเรชั่น

สำหรับกิจกรรมดังกล่าว ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมสืบสานกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน ชุมชนและร่วมทำกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์จิตอาสานี้มาอย่างต่อเนื่อง  นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่ได้แสดงพลังแห่งความสามัคคี ร่วมกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ให้แก่สังคมต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 พร้อมกับกลุ่มธุรกิจในเครือเจริญโภคภัณฑ์ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ประชาชนทั่วไปที่สนใจ สามารถร่วมเป็นอีกหนึ่งพลังทำความดี ทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้ถูกที่ ดีต่อใจ ได้ที่ ทรูช็อป ทรูแบรนด์ดิ้งช็อป ทรูสเฟียร์ ทรูสเปซ และศูนย์บริการดีแทค รวม 155 สาขาทั่วประเทศ


ดีไซน์เก๋ขยี้ตา! BREDA เปลี่ยนนาฬิกาข้อมือเป็น ‘โชคเกอร์’ ประดับคอ

Alternative Textaccount_circle

เมื่อความน่าเบื่อไม่เคยมีจริงในโลก ‘แฟชั่น’ ล่าสุด BREDA แบรนด์เครื่องบอกเวลาที่หลายคนตกหลุมรักเปลี่ยนนาฬิกาข้อมือให้อยู่ในดีไซน์โชค์เกอร์ประดับคอ มีชื่อคอลเล็คชั่นว่า ‘The Time Choker’ ถือเป็นไอเท็มสร้างสีสันให้เครื่องประดับยุคนี้สุดๆ

โดยคอลเล็คชั่น ‘The Time Choker’ เป็นการกำหนดนิยามใหม่ของการบอกเวลาที่แสดงถึงความล้ำสมัย โดดเด่นด้วยดีไซน์คลาสสิกสามแบบทั้ง Jane, Groove และ Sync ว่ากันว่า เหมาะสำหรับโอกาสพิเศษและในชีวิตประจำวัน โดยผสมผสานความหรูหราล้ำยุคแฟชั่นเข้ากับการแสดงออกถึงตัวตนที่หลากหลาย

The Jane

นำเสนอตัวเรือนทรงวงรีขนาด 23 มม. พร้อมหน้าปัดหอยมุกสีเหลือบให้ความแวววาว ทำจากสเตนเลสสตีลโทนสีทอง มีขนาด 13 นิ้ว และ 14 นิ้ว ราคาประมาณ 8,800 บาท

Groove

ดีไซน์ต่อมาโดดเด่นด้วยตัวเรือนสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 16 มม. และสายนาฬิกาขนาด 16 มม. ที่มีขอบอันประณีต หัวเข็มขัดอันละเอียดอ่อน และตัวล็อค ทั้งนี้มีให้เลือกสองขนาดไม่ว่าจะเป็น 13.5 นิ้ว และ 15 นิ้ว ราคาประมาณ 8,800 บาท

Sync

สุดท้ายมาในดีไซน์ตัวเรือนทรงกลมขนาด 25 มม. ดูเข้ากับกลไกบานพับไร้รอยต่อ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างสีทองและสีเงิน มีขนาด 13.5 นิ้ว และ 15 นิ้ว ราคาประมาณ 8,800 บาท

หากถามว่านาฬิกาคอลเล็คชั่นนี้เหมาะกับใคร คงตอบได้ว่าเหมาะกับคนที่ชอบความล้ำสมัย สนุกไปกับแฟชั่นและความไม่เหมือนใคร รับรองว่าไอเท็มชิ้นนี้จะช่วยสร้างลุคโดดเด่นได้ดีเลยทีเดียว


รูปภาพและข้อมูล: breda.com

“โคคา-โคล่า”

“โคคา-โคล่า” ยกระดับดนตรีสุดมันส์ COKE STUDIO™ 2024 ซ่าให้สุด

Alternative Textaccount_circle
“โคคา-โคล่า”
“โคคา-โคล่า”

กลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย อันประกอบไปด้วย บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมสร้างปรากฎการณ์ทางดนตรีสุดซ่า เปิดตัว “COKE STUDIO™” 2024 ซ่าให้สุด คอนเสิร์ต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ COKE STUDIO™ 2024 แพลตฟอร์มทางดนตรีระดับโลกของ “โคคา-โคล่า” พร้อมชวนสนุกซ่ากันต่อตลอดช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 กับ COKE STUDIO™ Campus Tour 2024 ที่ขนทัพศิลปินสุดฮอตบุกไปเสิร์ฟความมันส์กันถึงภายในรั้วมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ ตอกย้ำแนวคิดของ “โคคา-โคล่า” ที่เชื่อว่า “ดนตรี” คือหนึ่งในพลังสำคัญที่เชื่อมโยงผู้คนที่แตกต่างหลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน

 “COKE STUDIO™” 2024 ซ่าให้สุด คอนเสิร์ต ถือเป็นกิจกรรมแรกของ COKE STUDIO™ 2024 ในประเทศไทย โดยชวนเหล่าแฟน ๆ มาร่วมสร้างประสบการณ์ทางดนตรีและพบกับศิลปินคนโปรดแบบใกล้ชิด ณ สยามสแควร์วัน โดยเปิดงานด้วยการแสดงจากวงดนตรีของนักเรียนซึ่งเป็นตัวแทนของพลังคนรุ่นใหม่ที่รักในเสียงดนตรี พร้อมระเบิดความมันส์ด้วยโชว์สุดพิเศษ และครั้งแรกกับการแสดงสดของซิงเกิลใหม่ “ซ่าให้สุด” จาก Three Man Down และ YourMOOD มาร่วมทำเพลงด้วยกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Mass the Unmass” เพื่อสร้างแรงบันดาลให้กับเหล่า Gen Z ที่หลงใหลในเสียงเพลง พร้อมยกระดับประสบการณ์ทางดนตรีแบบสนุกซ่าไม่ซ้ำใคร

“โคคา-โคล่า”

นอกจากนี้ยังจะมี COKE STUDIO™ Campus Tour 2024 พร้อมเสิร์ฟความสนุกซ่าในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 นำโดย Three Man Down และ YourMOOD ในฐานะ COKE STUDIO™ Artist 2024 และทัพศิลปินสุดฮอตมากมาย นำประสบการณ์สุดมันส์แบบป็อปอัพ (Pop-Up Experience) ไปบุกตามมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ อาทิ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา อีกทั้งยังจัดกิจกรรมมากมายให้นักศึกษาได้ปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์ทางดนตรี อย่าง COKE STUDIO™ Recording Box ห้องอัดเพลงเคลื่อนที่ขนาดยักษ์ ให้น้อง ๆ นักศึกษาได้สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับการทำคอนเทนต์ และแชร์ลงบนโซเชียลมีเดีย 

สำหรับแฟน ๆ ที่ต้องการเข้าชมคอนเสิร์ต COKE STUDIO™ Campus Tour 2024 แบบวีไอพี ร่วมสนุกได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้ 

  • นำขวดพลาสติก PET “โค้ก” ใช้แล้วขนาดใดก็ได้จำนวน 4 ขวด หรือแสดงใบเสร็จจากร้านอาหารที่ร่วมรายการเมื่อใช้จ่ายขั้นต่ำ 99 บาท โดยมี “โค้ก” เป็นหนึ่งในรายการสั่งซื้อ รับบัตรชมคอนเสิร์ตโซนวีไอพี
  • นำขวดพลาสติก PET “โค้ก” ใช้แล้วขนาดใดก็ได้จำนวน 6 ขวด หรือแสดงใบเสร็จจากร้านอาหารที่ร่วมรายการเมื่อใช้จ่ายขั้นต่ำ 299 บาท โดยมี “โค้ก” เป็นหนึ่งในรายการสั่งซื้อ รับบัตรชมคอนเสิร์ตโซนวีไอพี พร้อมพรีเมียมสุดเอกซ์คลูซีฟ “Coke Studio Gym Sack”

หากไม่อยากพลาดโอกาสสำหรับที่นั่งที่ดีที่สุดและรางวัลสุดพิเศษ สามารถสะสมขวดพลาสติก PET “โค้ก” หรือเก็บใบเสร็จตามเงื่อนไขได้ตั้งแต่วันนี้!

COKE STUDIO™ เป็นแพลตฟอร์มทางดนตรีของ “โคคา-โคล่า” ที่เกิดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับแฟน ๆ ที่รักในเสียงดนตรี โดยมีจุดมุ่งหมายในการเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลกโดยการผสมผสานวัฒนธรรมและเสียงดนตรีเข้าด้วยกัน โดยแคมเปญในระดับโลกได้ร่วมมือกับ NewJeans ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอตในการทำโชว์พิเศษเพื่อ COKE STUDIO™ พร้อมเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ “โคคา-โคล่า” ในการสร้างคอมมูนิตี้ผ่านการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ด้วยเสียงเพลง ซึ่งในระดับภูมิภาคได้มีการเปิดตัวเพลงใหม่ล่าสุดของ COKE STUDIO™ Artist ในแต่ละประเทศที่โดดเด่นโดนใจแฟน ๆ  พร้อมการแสดงสุดมันส์ไปแล้วทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนและแปซิฟิกใต้ อาทิ ฟิลิปปินส์ ปาปัวนิวกินี นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย

ติดตามข่าวสารล่าสุดและกิจกรรมของ COKE STUDIO™ ได้ทาง YouTube Coca-Cola Thailand หรือติดตามกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้งปีได้ที่ COKE STUDIO™ Thailand 2024 และสามารถติดตามช่องทางของ COKE STUDIO™ Global เพื่ออัปเดตรายชื่อศิลปินและข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติม

รับฟังซิงเกิลพิเศษ “ซ่าให้สุด” จาก Three Man Down และ YourMOOD ที่มาร่วมทำเพลงด้วยกัน ได้ที่ JOOX และ Spotify แล้ววันนี้! พร้อมติดตามมิวสิกวิดีโอตัวเต็มได้ที่ YouTube Coca-Cola Thailand เร็ว ๆ นี้ 

keyboard_arrow_up