VATANIKA x MISTY MYNX

“VATANIKA x MISTY MYNX” คอลลาบอเรชั่นสุดแกลมเผยเสน่ห์ของผู้หญิงยุคใหม่

account_circle
VATANIKA x MISTY MYNX
VATANIKA x MISTY MYNX

MISTY MYNX (มิสตี้ มิงซ์) อวดโฉมด้วยความมั่นใจ ตอกย้ำแนวคิด Empowering Women ด้วยการดึงตัวดีไซเนอร์สาวสวยมากความสามารถ แพร – วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา เจ้าของแบรนด์ VATANIKA ร่วมออกแบบคอลลาบอเรชั่นสุดพิเศษ “VATANIKA x MISTY MYNX”

โดยดึงเอาเอกลักษณ์ที่เป็นดั่ง DNA ของแบรนด์อย่างความแกลม และแพทเทิร์นดีไซน์ที่ช่วยเน้นส่วนเว้าโค้ง เพื่อเผยเสน่ห์ความเป็นผู้หญิง (Feminine) ผสานเข้ากับเปรี้ยวและโฉบเฉี่ยว ส่งเสริมความมั่นใจในตัวตนของผู้หญิงยุคใหม่ที่พร้อมเป็นผู้นำในการทำงาน และกล้าเผยตัวตนอย่างมั่นใจ สนุกไปกับการใช้ชีวิตด้วยความโดดเด่น

คอลเล็คชั่น “VATANIKA x MISTY MYNX” มีรายละเอียดที่น่าสนใจอย่างดอกกุหลาบที่รังสรรค์ขึ้นด้วยวิธีการแฮนด์เมดชิ้นต่อชิ้น การจับเดรปที่เป็นดั่งศิลปะการทำเสื้อผ้าแบบโอต์ กูตูร์ เพื่อเพิ่มมิติและเสน่ห์ให้เสื้อผ้า รวมถึงให้ความสำคัญกับแพทเทิร์นที่ช่วยเน้นสรีระของผู้หญิงให้ดูโดดเด่นและเผยเสน่ห์ได้อย่างเต็มที่ ไอเท็มไฮไลท์ที่ห้ามพลาด! อาทิ กระโปรงเข้ารูปจับจีบบริเวณสะโพกแมตซ์กับเกาะอกตกแต่งด้วยดอกกุหลาบเพิ่มเลเยอร์ด้วยเบลเซอร์ก็ให้ลุคที่สาวๆ ที่ออกไปใช้ชีวิตตั้งแต่เช้าจรดค่ำอย่างมั่นใจ หรือจะเพิ่มความทะมัดทะแมง แต่คงแฝงความเฟมินีนด้วยจั๊มพ์สูทสีหวาน อัปลุค


เอเลแกนซ์ด้วยมินิเดรสที่มีดีเทลความระยิบระยับของเนื้อผ้า หรือจะเป็นกระโปรงสั้นเข้าเซ็ตกับเบลเซอร์ผ้าทวีต เรียกได้ว่าเป็นคอลเล็คชั่นที่สาวๆ Mynx Girl สามารถหยิบมามิกซ์แอนด์แมตช์ได้อย่างหลากหลายและตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต

ภายในงานเปิดตัวคอลลาบอเรชั่นสุดพิเศษนี้ได้รับเกียรติจากนักแสดงและแฟชั่นไอคอนชื่อดังที่เป็นเสมือนตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ กล้าที่จะโดดเด่นและมั่นใจในเส้นทางของตัวเอง อาทิ อแมนด้า ออบดัม, จีน่า – วิรายา ภัทรโชคชัย,  ซาบีน่า อจิรภา ไมซิงเกอร์ และ นัท นิสามณี พร้อมด้วยเหล่าเซเลบริตี้ที่มาอวดลุคความเซ็กซี่ด้วยแฟชั่นไอเทมจากคอลเล็คชั่นนี้ ณ ร้าน MISTY MYNX ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์


"นอนไม่หลับ" เพราะเครียด..แต่ไม่รู้ตัวหรือเปล่า?

“นอนไม่หลับ” เพราะเครียด..แต่ไม่รู้ตัวหรือเปล่า?

Alternative Textaccount_circle
"นอนไม่หลับ" เพราะเครียด..แต่ไม่รู้ตัวหรือเปล่า?
"นอนไม่หลับ" เพราะเครียด..แต่ไม่รู้ตัวหรือเปล่า?

จากสถิติที่เผยโดยกรมสุขภาพจิต พบว่าคนไทยกว่าร้อยละ 40 กำลังเผชิญวิกฤตที่เรียกว่า “ภาวะนอนไม่หลับ” สมองไม่หยุดคิด จนทำให้ไม่สามารถข่มตาลงได้ หนึ่งในสาเหตุที่กำลังพังนาฬิกาชีวิตของคนรุ่นใหม่ก็คือ ความเครียดที่สะสมโดยไม่รู้ตัว คนส่วนใหญ่ในวัยทำงานต่างกำลังเผชิญกับอาการนอนไม่หลับ เพราะสมองไม่หยุดคิดกันอย่างถ้วนหน้า นี่คือหนึ่งในสัญญาณสุขภาพที่เกิดจากภาวะเครียดสะสม ใครที่ร่างกายกำลังแสดงอาการอ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน ไม่มีสมาธิ จนส่งผลถึงขั้นนอนไม่ได้ รีบเช็กด่วน

อาการ นอนไม่หลับ คือสภาวะร่างกายที่ไม่ปกติ ครอบคลุมตั้งแต่ความยากในการข่มตานอน ไปจนถึงอาการหลับไม่สนิท ซึ่งส่งผลให้รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าในเวลากลางวัน การทำงานด้านการรับรู้บกพร่อง อารมณ์แปรปรวน และคุณภาพชีวิตโดยรวมลดลง ซึ่งวิธีการรับมือก็แตกต่างกันออกไป เนื่องจากอาการนอนไม่หลับยังสามารถแบ่งได้อีกถึง 2 ประเภทจากการวินิจฉัยของแพทย์ ได้แก่

  • อาการนอนหลับยาก กลุ่มอาการที่ต้องใช้เวลาและความพยายามในการนอนมากกว่าปกติ
  • ตื่นบ่อยในช่วงกลางดึก กลุ่มอาการหลับไม่สนิท รู้สึกตัวอยู่ตลอดทั้งคืน

ทั้งสองกลุ่มอาการ ถือเป็นสัญญาณที่จะนำไปสู่โรคมากกว่าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพการนอน และส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบร่างกายส่วนอื่นๆ ทั้งทางกายภาพและจิตใจ ทำให้การสังเกตอาการตัวเอง และหาวิธีรับมือ รวมไปถึงการพบแพทย์จึงเป็นทางเลือกที่สำคัญ

สาเหตุของอาการนอนไม่หลับ

  • สาเหตุทางกายภาพ มีอาการไม่สบาย เจ็บป่วย หรือเป็นอาการข้างเคียงของโรคบางชนิด เช่น ปวดหัวไมเกรน ปวดฟัน โรคบริเวณหู คอ จมูกต่างๆ ตลอดจนระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวัยทอง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ส่งผลต่อสุขภาพการนอนด้วยกันทั้งสิ้น
  • สาเหตุทางจิตใจ อาการนอนไม่หลับบางครั้งก็เป็นเพราะความเครียด สมองไม่หยุดคิดจากสภาวะวิตกกังวล ทั้งจากการใช้ชีวิต การทำงาน การเล่นโทรศัพท์ รวมถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่บีบคั้นให้เกิดความรู้สึกตกค้างในจิตใจ ส่งผลให้ร่างกายต่อต้านและแสดงอาการออกมาในสภาวะที่ไม่ยอมพักผ่อน จนทำให้นอนไม่หลับนั่นเอง

ระดับความรุนแรงของโรคนอนไม่หลับ
นอกเหนือจากกลุ่มอาการที่ควรรู้แล้ว การป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพการนอนยังมีระดับความรุนแรงที่ต่างกันออกไป ใครที่รู้ตัวว่ากำลังเผชิญหน้ากับอาการนอนไม่หลับ รับมือกับความเครียดสะสมไม่ได้ ต้องรีบตื่นตัวและหาหนทางการรักษาได้ทันก่อนที่จะสายเกินไป

  • ระดับชั่วคราว (Transient Insomnia) เป็นอาการเริ่มต้นที่สัมพันธ์กับสภาพแวดล้อม อาจเกิดขึ้นเมื่อต้องเปลี่ยนที่นอน หรือเดินทางข้ามไทม์โซน เมื่อร่างกายปรับตัวไม่ได้ก็จะเกิดอาการนอนไม่หลับนั่นเอง
  • ระดับกลาง (Short-term Insomnia) อาการนอนไม่หลับระยะสั้น เป็นสภาวะที่สอดคล้องกับความเครียด โดยจะเกิดขึ้นเพียงหลักวันหรือสัปดาห์ และจะหายไป
  • ระดับเรื้อรัง (Long-term or Chronic Insomnia) อาการเรื้อรังที่กินเวลานาน หลักเดือนหรือหลักปีขึ้นไป โดยเกิดได้จากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอาการนอนไม่หลับเพราะสมองไม่หยุดคิด วิตกกังวล ความเครียด ตลอดจนการใช้ยารักษาบางประเภท ซึ่งนี่ถือเป็นความผิดปกติขั้นรุนแรงที่สุดของอาการดังกล่าว และควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสม

วิธีทำให้นอนหลับง่ายขึ้น

  • ฝึกหายใจลึกๆ หากิจกรรมทำเพื่อผ่อนคลายความเครียดสะสมที่เกิดขึ้นในใจ
  • ปรับกระบวนความคิดใหม่ จัดลำดับความสำคัญ และให้เวลากับตัวเองมากขึ้น
  • ทำสมาธิ และสติ เพื่อใช้จินตภาพในการนำทางให้เราหลุดพ้นจากปัญหาในใจ
  • ผ่อนคลายความเครียด เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เป็นการพาตัวเองออกมาจากเรื่องเครียดสักระยะ
  • ออกกำลังกาย ยืดเส้น ยืดสายเป็นประจำ จะช่วยทำให้อาการนอนไม่หลับดีขึ้น ลดความเครียดได้ด้วย

สำหรับใครที่ได้ลองทำทุกวิถีทางแล้ว แต่ยังไม่หลุดพ้นจากอาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ และยังรู้สึกถึงภาวะเครียดรุมเร้า ควรรีบเข้ามาปรึกษาเพื่อวางแผนการดูแลรักษาแต่เนิ่นๆ

ขอบคุณข้อมูล: พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine จาก Addlife Anti-Aging Center ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี)

ภาพ: Pexels


บลู ดอร์จี

ครั้งแรกในภูฏาน SARAAN และ บลู ดอร์จี กับงานหัตถศาสตร์สร้างสรรค์แห่ง 2 ราชอาณาจักร

account_circle
บลู ดอร์จี
บลู ดอร์จี

ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ราชอาณาจักร ไทย – ภูฏาน กับความร่วมมือเพื่อออกแบบคอลเล็คชั่นสุดพิเศษจาก บลู ดอร์จี (Chuni Dorji Privé) แบรนด์ท้องถิ่นระดับลักซ์ชูรีของประเทศภูฏาน และ ศรัณญ อยู่คงดี นักออกแบบเครื่องประดับชาวไทย เจ้าของแบรนด์ SARRAN ที่เคยได้รับทั้งรางวัลด้านการออกแบบ และความยั่งยืน ภายใต้แรงบันดาลใจจากมรดกทางวัฒนธรรมอันรุ่มรวย รวมถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่โอบกอดประเทศบนเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้

ครั้งแรกในภูฏาน SARAAN และ บลู ดอร์จี กับงานหัตถศาสตร์สร้างสรรค์แห่ง 2 ราชอาณาจักร

โดยทั้งผลงานการออกแบบเสื้อผ้า และเครื่องประดับในคอลเล็คชั่นพิเศษนี้ ได้จัดแสดงเป็นแฟชั่นโชว์ที่โรงแรม ศิวา ลิงค์ (Zhiwa Ling Hotel) ที่เมืองพาโร สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับทุกคนที่เข้าร่วมงาน

ความร่วมมือในการสร้างสรรค์งานศิลป์ครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากกรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศภูฏาน (Bhutan’s Department of Tourism) ผ่านโครงการ กองทุนสิ่งแวดล้อมโลกเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (GEF Ecotourism) โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดบทสนทนาเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพสู่ภาคการท่องเที่ยวของภูฏานอย่างกว้างขวาง ซึ่งเป็นผลจากความพยายามตลอดทั้งปีนี้ เพื่อเน้นย้ำถึงฝีมืออันยอดเยี่ยมในด้านการออกแบบของดีไซเนอร์จากทั้งประเทศไทยและภูฏาน ผลงานของแบรนด์ Chuni Dorji Privé เข้ากันได้ดีกับคอลเล็คชันเครื่องประดับจากแบรนด์ SARRAN แสดงให้เห็นถึงการหยั่งรากลึกในแก่นแท้ของความงามตามธรรมชาติ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สิ่งแวดล้อม และมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศภูฏาน

เครื่องประดับจาก SARRAN ในคอลเล็คชั่นนี้ นำเสนอเรื่องราวภายใต้ธีม DRAGON IN THE SKY ให้สมกับสมญานาม ดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า ตามตำนานกำเนิดประเทศภูฏานที่เชื่อกันว่ามังกรสายฟ้าเป็นผู้สร้างดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ โดย ศรัณญ อยู่คงดี ได้ถ่ายทอดความบริสุทธิ์ของธรรมชาติในคอลเล็คชั่นนี้ผ่านสีฟ้า ซึ่งได้มาจากสีของดอกบลูป๊อปปี้ (Blue Poppy) ดอกไม้ประจำชาติภูฏานที่ได้รับการยกย่องให้เป็นราชินีดอกไม้แห่งเทือกเขาหิมาลัย และเบ่งบานในธรรมชาติบนพื้นที่สูงกว่า 3,000 ฟุต แบรนด์ SARRAN ยังหยิบยกความเชื่อจากสโลแกนของประเทศ ‘BELIEVE’ ซึ่งสะท้อนคติเกี่ยวกับวัฒนธรรม อารยธรรม จิตวิญาณแห่งดินแดนสรวงสวรรค์ จนสร้างสรรค์ออกมาผ่านชิ้นงานที่เป็นมาสเตอร์พีซอย่าง ‘มังกรสีทอง’

กว่าหนึ่งปีของการทำงานในโปรเจ็คท์นี้ SARRAN และ Chuni Dorji Privé ได้ร่วมกันจัดแฟชั่นโชว์อย่างยั่งยืนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2567 ที่โรงแรมศิวา ลิงค์ ในเมืองพาโร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองปีที่ 50 ของการท่องเที่ยวภูฏาน และเป็นครั้งแรกของประเทศที่เกิดความร่วมมือกับดีไซเนอร์ระดับนานาชาติ อีกทั้งยังเป็นเวทีในการแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์และงานฝีมือแบบภูฏานกับคนทั่วโลก โดยสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่เปิดรับการออกแบบร่วมสมัย

สำหรับการสร้างสรรค์จากแบรนด์ Chuni Dorji Privé ได้นำเสนองานปัก และเพ้นท์สีด้วยมือ ผสมผสานประเพณีและความทันสมัยของภูฏานได้อย่างลงตัว ชิ้นงานทำจากทั้งผ้ากำมะหยี่ชั้นดี ผ้าพัชมีนา และหนังแนปป้าที่หาได้ในประเทศ ด้วยลวดลายแบบภูฏานอันเป็นโดดเด่น และหาจากที่อื่นไม่ได้ เสื้อผ้าของ Chuni Dorji Privé  จึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ให้ความรู้สึกถึงค่านิยมแบบดั้งเดิม แต่ก็ทันสมัยในเวลาเดียวกัน


บิว-วราภรณ์ ปิยะนันทสมดี

ก่อนจะเป็น บิว-วราภรณ์ ปิยะนันทสมดี เจ้าของช่อง Bew Varaporn

Alternative Textaccount_circle
บิว-วราภรณ์ ปิยะนันทสมดี
บิว-วราภรณ์ ปิยะนันทสมดี

วันนี้ถ้าถามว่าอยากทําอาชีพอะไร วัยรุ่นจํานวนไม่น้อยจะตอบว่าบล็อกเกอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งปัจจุบัน มีบล็อกเกอร์หน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่ระดับนาโนไปจนถึงไมโคร แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังความสําเร็จของการเป็น เจ้านายตัวเองไม่ใช่เพียงแค่การถ่ายคลิปแล้วโพสต์ลงโซเชียลเท่านั้น แต่คือการวางแผน คิดคอนเซ็ปต์ เพื่อให้ได้เนื้อหา
ที่น่าสนใจและโดนใจผู้คนหนึ่งในนั้นคือ “บิว – วราภรณ์ ปิยะนันทสมดี” เจ้าของช่อง Bew Varaporn ที่มีผู้ติดตามใน YouTube กว่า 1.03 ล้านคน แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ ใครจะรู้ว่าเธอเคยลองผิดลองถูก เคยทํามาแล้วกว่า 20 อาชีพกว่าจะเจอสิ่งที่ใช่!

ก่อนเป็น “Bew Varaporn”

บิว-วราภรณ์ ปิยะนันทสมดี

“จุดเปลี่ยนแรกในชีวิตของนิ้วคือตอน 9 ขวบ ประมาณ ป.3 เป็นช่วงที่พ่อเสีย แต่ตอนนั้นบิวยังเด็กมาก ไม่ค่อยเข้าใจ อะไร รู้แค่ว่าเรามีหน้าที่ตั้งใจเรียน จนอายุ 15 – 16 ปีเหมือนได้เห็นโลกมากขึ้น เริ่มตั้งคําถามว่า “ทําไมผู้ใหญ่ขายของกัน เราเลยเริ่มทําตามคนอื่นบ้าง แต่ลึก ๆ ไอดอลในใจคือพ่อที่ทํางานเก่งมาก เมื่อก่อนพ่อเปิดโรงงานไม้ มีพนักงานกว่า 150 – 200 คน ซึ่งทุกคนรักพ่อมาก จนพ่อเสียเขาก็ทยอยลาออก จากนั้นญาติ ๆ ก็มาดูแลกิจการแทน
“จนถึงอายุที่เริ่มสมัครงานได้ บิวลองไปสมัครงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่ตอนนั้นไม่ผ่านโปร จึง เป็นพนักงานขายไอศกรีมแทน แต่ด้วยนิสัยขี้อายตั้งแต่เด็ก เวลาต้องต้อนรับลูกค้าคนเดียวจะรู้สึกว่าทําได้ไม่ดี ทําได้ไม่กี่วันก็ตัดสินใจลาออก

“ต่อมาช่วงปี 2554 ที่น้ําท่วมหนัก บิวต้องย้ายจากบ้านพระราม 2 มาอยู่บ้านญาติในเมือง ได้ใช้ชีวิตแบบใหม่ ได้ เปิดหูเปิดตา และทําให้นึกขึ้นได้ว่าเราเคยเสียโอกาสในวงการบันเทิงเพราะเป็นเด็กขี้อาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้พ่อรู้จักกับผู้กํากับ หนังจักรๆ วงศ์ ๆ แต่ได้รับคําชวนทีไรก็ปฏิเสธตลอด ตอนนั้นจึงมีความคิดว่าอยากทํางานในวงการบันเทิง
“สิ่งแรกที่คิดออกคือคงต้องไปประกวด นิ้วประกวดมาทั้ง S Cawaii!, อุทัยทิพย์, Miss Teen Thailand และ Miss Grand มีเข้ารอบบ้าง แต่ไม่เคยได้รางวัลอะไร บิวหวังว่าจะมีแมวมองมาเห็นเราจากเวทีต่าง ๆ บ้าง ซึ่งก็ได้ผล เพราะ พอเริ่มประกวดก็มีโมเดลลิ่งมาติดต่อให้ไปแคสติ้งงานจริงๆ

“บิวลุยประกวดเวทีต่าง ๆ อยู่ 2 – 3 ปี จนรู้สึกว่าต้องพัฒนาตัวเองเพิ่ม จึงไปสมัครเรียนพัฒนาบุคลิกภาพ ตอนแรก ญาติ ๆ ก็ไม่สนับสนุนนะคะ แต่สุดท้ายก็ยอม ซึ่งการเรียนครั้งนั้นกลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตนิ้วเลย เพราะหลังจากเรียน ไป 4 เดือน โรงเรียนโทร.มาบอกว่าทางค่าย RS มีโปรเจ็กต์ใหม่ชื่อว่า YAAK TV เขาต้องการหาพิธีกรรายการเพลง ซึ่งตอนนั้นบิวยังพูดไม่เก่ง สัมภาษณ์ใครก็ไม่ได้ แต่เราตกลงไปก่อน ส่งรูปไปแคสต์ ปรากฏว่าทีมงานโทร.กลับมาว่าเราได้ทํางานนี้ ทําให้ได้เข้าไปทํางานในวงการบันเทิง เต็มตัวครั้งแรก เป็นงานประจําแรกที่มีเงินเดือน

“หลังจากนั้นก็มีงานโฆษณา ได้ถ่ายแบบ เล่นเอ็มวีบ้าง และระหว่างนั้น บิวก็เริ่มทําสินค้าสกินแคร์ของตัวเองขาย เพราะเราเห็นคนอื่นทําแล้วขายดี เลย อยากลองบ้าง โดยจ้างโรงงานผลิต จ้างบริษัทยื่น อย. เปิดขายแค่ในเฟซบุ๊ก ของตัวเอง ตอนนั้นลงทุนแค่หลักหมื่น แต่ได้ยอดขายหลักแสนต่อเดือน จึง ตัดสินใจซื้อบ้านหลังแรก พาแม่กับน้องย้ายออกมาอยู่กัน

“แต่พอวันหนึ่งมีแบรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้น คู่แข่งมากขึ้น จากที่ยอดขายหลัก แสน เหลือแค่หลักหมื่น แต่เรามีภาระต้องผ่อนบ้านเดือนละ 25,000 บาท งาน ในวงการแคสติ้งก็รายได้ไม่พอ ตอนนั้นรู้แค่ว่ายังไงก็ต้องหาเงินผ่อนบ้านให้ได้ “จึงหาข้อมูลเกี่ยวกับการไปต่างประเทศ แล้วเจอว่ามีโครงการ Au Pair เป็นพี่เลี้ยงเด็กที่สหรัฐอเมริกา แต่ก่อนจะไปทํางานได้ต้องมีการฝึกงานที่โรงเรียน นานาชาติในไทยก่อน เลยไปสมัครเป็นผู้ช่วยครู ต้องตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้า ขับรถ ไปโรงเรียนย่านสุขุมวิท เลิกงานบ่าย 3 โมง แต่ได้เงินเดือน 9,000 บาท ไม่พอ ค่าใช้จ่ายจริง ๆ เลยต้องหางานใหม่อีกครั้ง

“ตัดสินใจไปเป็นเซลส์ที่บริษัทซอฟต์แวร์แห่งหนึ่ง เพื่อให้มีเงินเดือนพอ ผ่อนบ้าน ตอนนั้นใช้ชีวิตเดือนต่อเดือนเลยค่ะ แต่ความที่ทํางานประจํา ทําให้บิว ไม่ค่อยมีเวลาไปแคสติ้งงาน ทําได้ 2 – 3 เดือนจึงตัดสินใจลาออก แต่โชคดีว่า ตอนนั้นยังพอมีงานถ่ายแบบ ถ่ายเอ็มวี และได้ไปถ่ายรายการ Take Me Out ทําให้มีคนรู้จักมากขึ้น และมีงานโฆษณาเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงนั้น

“อีกงานที่ขอบคุณมาก ๆ คือช่วงนั้นแพลทินัมกําลังบูม เขาก็จ้างเราไป ถ่ายแบบเสื้อผ้า ครั้งหนึ่งถ่ายไม่ต่ํากว่า 100 ตัว อาทิตย์ละ 3 – 4 ร้านค้า เคยถ่าย เยอะสุด 200 ตัวต่อวัน บอกเลยว่าตอนนั้นอาชีพนี้แหละที่ปลดล็อกเรื่องเงิน เพราะรายได้ค่อนข้างดี แต่ถามว่าเป็นงานที่เป็นตัวเรามากที่สุดไหม ก็ยังไม่ใช่เพราะในหัวเรายังคิดตลอดว่าจะทําอะไรต่อไปดี

เริ่มด้วยแพสชั่น

บิว-วราภรณ์ ปิยะนันทสมดี

“มิวชอบคิดชอบลองอยู่ตลอด และช่วงนั้นเริ่มมีคนทําคอนเทนต์ในออนไลน์ แต่ตอนนั้นยังไม่เคยมีใครบอกว่าจะเป็นอาชีพจริง ๆ ได้ไหม บิวจึงตัดสินใจใช้เงินเก็บ ที่ได้จากการถ่ายแบบไปซื้อคอมพิวเตอร์ จําได้ว่าตอนนั้นราคา 60,000 บาท พร้อม กล้องถ่ายภาพอีก 1 ตัว บอกเลยว่าทุ่มหมดหน้าตักเพื่อทํา YouTube แต่ยัง ไม่ได้คิดจะทําเป็นงานหลัก ทําเพราะความชอบล้วน ๆ ใช้เวลาว่างถ่ายคลิปตัวเอง แต่งหน้า ไปคาเฟ่ แล้วก็ลองติดต่อเอง

“เรียนรู้ทุกอย่างจากในอินเทอร์เน็ต ตอนนั้นบิวนั่งตัดคลิปตั้งแต่ 6 โมงเย็น ยัน 6 โมงเช้าได้แบบไม่ท้อเลย สนุกมากๆ ปรากฏว่าทําไปประมาณ 2 เดือนเริ่มมี ลูกค้าเข้า เลยบอกแฟน (ธนิน ศรีธวัชพงษา เจ้าของช่อง YouTube : Tanins) ว่าจะเลิกถ่ายแบบเสื้อผ้าแล้วนะ จะหันมาทํายูทูบจริงจัง

“แต่ธนินเป็นสายเซฟโซน จึงยังบิวไว้ว่าอย่าเพิ่งตัดสินใจแบบนั้น แค่ค่อยๆ จนคลิปที่เปลี่ยนชีวิตเลยคือแต่งหน้าสาย ฝ. มียอดดูกว่าลดงานถ่ายแบบลง2 ล้านวิว ทําให้มีงานจ้างเข้ามาต่อเนื่อง ทั้งที่เราเพิ่งทําแค่ 3 เดือน จึงกลายเป็น จุดเริ่มต้นของอาชีพบล็อกเกอร์อย่างจริงจังตั้งแต่ตอนนั้น”

คอนเทนต์ = การปรุงอาหาร

“สําหรับบิวไม่เคยมีวันที่คิดคอนเทนต์ไม่ออก อาจเพราะความชอบคิดชอบ ลองที่เราเป็นมาตั้งแต่เด็ก มีแต่คิดเยอะเกินไปแล้วทําไม่ทัน (หัวเราะ) นิ้วบอกน้อง ทีมงานตลอดว่าให้สแตนด์บายนะ เพราะบางทีบิวคิดอะไรขึ้นมาได้จะทําทันทีเลย

“อย่างธุรกิจของบิว Bondi Jelly (ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม) และ Bonnana (เค้กกล้วยหอม) ก็เกิดจากการอยากลอง อยากทําอะไรที่เป็นตัวเอง จําได้ว่าตอนทํา Bondi Jelly คือคิดตอนเช้าแล้วบ่ายลุยเลย บิวคิดว่าการทําคอนเทนต์เหมือน การปรุงอาหาร ถ้าไม่สดใหม่ก็จะไม่อร่อย ไม่สนุก

“อย่างก่อนมาสัมภาษณ์วันนี้ เมื่อเช้ามีเค้ก Bonnana ที่โกดัง 50 ชิ้น จึง ลองเปิดบริการเดลิเวอรี่ พอเราถามตัวเองแล้วได้คําตอบว่าใช่! นิ้วก็ลุยเลยค่ะ เปิดระบบ เป็นแอดมิน ตอบทุกอย่างเอง คนจึงมองว่านิ้วทํางานเยอะ แต่ จริง ๆ คือคิดแล้วท่าเลยมากกว่าค่ะ”

ใช้ชีวิตแบบ “วันต่อวัน”

“ทุกวันนี้มีคําถามเยอะว่าบิวมีกี่ร่าง ไม่เหนื่อยเหรอ บิวใช้ชีวิตแบบวันต่อวัน คือคิดแค่ว่าทําวันนี้ให้เต็มที่ เคล็ดลับคือโฟกัสสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด แม้ว่า บางวันทํางานมาเหนื่อยแค่ไหน นิ้วก็ต้องลุกไปวิ่งตอน 6 โมงเช้าให้ได้ เพราะบิว คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ความเหนื่อยคือเรื่องของเมื่อวาน ฉะนั้นเช้านี้คือการเริ่มต้น ใหม่แล้ว เป็นการใช้ชีวิตแบบวันต่อวัน ซึ่งการคิดแบบนี้ทําให้บิวไม่เครียดด้วยค่ะ

“บิวเคยอ่านหนังสือที่บอกว่าแค่เรากล้าที่จะเป็นตัวเองก็ถือว่าสําเร็จแล้ว แต่ก่อนหน้านี้บิวไม่กล้าเป็นตัวเอง เพราะด้วยข้อจํากัดเรื่องเงิน หนี้สินต่าง ๆ เราต้องทําอะไรหลายอย่าง ต้องอดทน ต้องสู้ แต่สุดท้ายก็มาถึงวันนี้ “ส่วนเรื่องความทุกข์ ความเครียด ความเศร้า สามอย่างนี้อยู่ในทุกช่วง ของบิวเลย แต่สุดท้ายมันอยู่ที่ใจเราเลยค่ะ ถ้าเราทําใจให้ราบรื่น และไม่มองว่า มันคือความทุกข์ เราก็จะไม่ทุกข์ อย่างเวลาเจอเรื่องหรือสถานการณ์ที่ดี บิว จะทําให้ตัวเองรู้สึกดีที่สุดให้ได้ ไม่ทําให้ตัวเองเจ็บหรือทุกข์ มันคือการรักตัวเอง “สิ่งสําคัญอีกอย่างคือชีวิตเป็นการลองผิดลองถูก ขอแค่ให้เราได้ลอง เพราะ ถ้าแค่คิด แต่ไม่ลอง มันก็จะเป็นแค่ความคิด หรือบางทีเรามัวแต่คิดว่าไม่อยากลอง เพราะมันยาก มันเหนื่อย มันก็อยู่แค่ในความคิดนั่นแหละ

“สําหรับบิว ความสําเร็จจึงไม่มีสูตร มันคือความคิดและใจของเราค่ะ”


ข้อมูล: นิตยสารแพรว

จูจีฮุน (Ju Ji Hoon)

จูจีฮุน (Ju Ji Hoon) นักแสดงคุณภาพ พระเอกตัวท็อปของเกาหลี

Alternative Textaccount_circle
จูจีฮุน (Ju Ji Hoon)
จูจีฮุน (Ju Ji Hoon)

สัมภาษณ์ จูจีฮุน (Ju Ji Hoon) นักแสดงคุณภาพ พระเอกตัวท็อปของเกาหลี ผู้มีผลงานมากมายที่ล้วนสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ

“จูจีฮุน” ถือเป็นนักแสดงหนุ่มตัวท็อปของเกาหลีที่มีผลงานมากมายที่ล้วนสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ เป็นอย่างมาก ทั้งซีรีส์คุณภาพอย่าง “Princess Hours” (2006), “Item” (2019), “Hyena” (2020), “Kingdom 1-2” (2019-2020)” และ “Jirisan” (2021) รวมถึงภาพยนตร์อันโด่งดังอีกหลายเรื่อง อาทิ “Asura: The City of Madness” (2016), “Dark Figure of Crime” (2018), “The Spy Gone North” (2018) และ “Along with the Gods 1-2” (2017-2018)

จูจีฮุน (Ju Ji Hoon)

และล่าสุดกับ “Project Silence เขี้ยวชีวะคลั่งสะพานนรก” ภาพยนตร์มหันตภัยบล็อกบัสเตอร์ครั้งประวัติศาสตร์ที่ถือเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ “จูจีฮุน” จากภาพลักษณ์หนุ่มสุดขรึมสู่บทบาท “โจบัก” คนขับบรรทุกจอมโวยวายที่ชีพจรลงเท้าตลอดเวลาโดยมีสุนัขคู่ใจ “โจดี้” ไปไหนไปกันจนบังเอิญพบกับหายนะครั้งใหญ่บนสะพานปิดตายแบบไม่คาดฝัน เขาต้องเผชิญหน้ากับหมอกปริศนาและ “เอ็กโค” สุนัขชีวะพันธุ์โหดที่ดัดแปลงพันธุกรรมจากโครงการลับของรัฐบาลในนาม “Project Silence” ที่ทุกคนต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดจากการไล่ล่าของพวกเขี้ยวชีวะนี้ให้ได้

“ใน‘Project Silence’ ผมรับบทเป็น‘โจบัก’ คนขับรถลากหัวใจอิสระและไม่ชอบถูกควบคุม ช่วงเริ่มเรื่องผมเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ‘จองวอน’ ซึ่งรับบทโดย‘อีซอนคยุน’ เรียกได้ว่าไม่ชอบขี้หน้ากันเลยด้วยซ้ำ แต่เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น พวกเราทั้งคู่จำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อความอยู่รอด ถึงแม้ว่าตัวละครของผมจะคอยเรียกเสียงฮา แต่เขาก็เป็นคนที่จริงจังเมื่อถึงเวลาต้องเผชิญกับความเป็นตาย เป็นตัวละครที่จะทำให้ผู้ชมได้พักหายใจด้วยจังหวะคอมเมดี้ของเขา แต่แทนที่จะพยายามตลกโดยตั้งใจ ผมพยายามแสดงอารมณ์ขันออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งผมก็เป็นคนที่ชื่นชอบหนังตลกอยู่แล้วเหมือนกัน” นักแสดงหนุ่มแถวหน้าเผยถึงคาแร็กเตอร์ที่ได้รับ

ด้านการทำงานร่วมกับนักแสดงผู้ล่วงลับ “อีซอนคยุน” ในเรื่องนี้ “จูจีฮุน” ได้กล่าวว่า“เขาเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีและเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยม ผมเรียนรู้อะไรมากมายจากเขา โดยเฉพาะความละเอียดในการทำงาน ผมเป็นคนที่ชอบด้นสดไปลองเอาที่หน้ากอง แต่เขาจะซ้อมอย่างละเอียดจนกว่าจะหมดข้อสงสัยก่อนถ่ายทำ ฉากที่เราแสดงร่วมกันจึงเต็มไปด้วยพลังและความจริงจัง ผมรู้สึกประทับใจในความเป็นมืออาชีพของเขามากครับ”

เขาทิ้งท้ายถึงประสบการณ์การทำงานในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ว่า“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ทำงานในหนังภัยพิบัติที่สเกลใหญ่และน่าตื่นเต้นขนาดนี้ มันเต็มไปด้วยความสนุกและความระทึกจนลืมหายใจ ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์นี้ และผมหวังว่าผู้ชมจะสนุกและตื่นเต้นเช่นเดียวกับผม ‘Project Silence’ คือหนังบล็อกบัสเตอร์ป็อปคอร์นที่สมบูรณ์แบบ คุณจะได้ประสบการณ์สุดบันเทิงจุใจ”

เตรียมพบกับการแสดงเหนือชั้นในการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของซูเปอร์สตาร์หนุ่มสุดฮอต “จูจีฮุน” ร่วมด้วยนักแสดงคุณภาพระดับเอบวก “อีซอนคยุน” และ “คิมฮีวอน” และนักแสดงดาวรุ่งน่าจับตา “คิมซูอัน”, “พัคจูฮยอน” และ“พัคฮีวอน” ที่จะมาแท็กทีมฝ่ามหันตภัยสุดโหดบนสะพานนรกปิดตายใน “Project Silence เขี้ยวชีวะคลั่งสะพานนรก” 29 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

Bad Genius

Bad Genius จากหนังไทยพันล้าน สู่ภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด

Alternative Textaccount_circle
Bad Genius
Bad Genius

เปิดฉากเกมโกงข้อสอบสุดระทึกครั้งใหม่จากเด็กจีเนียสทีมใหม่ ในภาพยนตร์ที่ทุกคนห้ามพลาด “Bad Genius” ผลงานฮอลลีวูดเรื่องล่าสุดสร้างจากหนังไทยระดับปรากฏการณ์ที่กวาดรายได้ทั่วโลกกว่าพันล้านบาทอย่าง “ฉลาดเกมส์โกง” (2017) โดยผู้กำกับ “บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ”

ล่าสุด “มงคลเมเจอร์” ยืนยันจัดให้ทันใจเตรียมเอาเข้าฉายให้แฟนชาวไทยได้ดูกันแน่นอน พร้อมปล่อย “โปสเตอร์แรกและภาพชุดแรกจาก Bad Genius” เปิดหน้าเหล่าจีเนียสนำทีมโดย “ลิน” ที่กำลังเปิดเกมโกงข้อสอบสุดเข้มข้นโดยมีชะตาชีวิตของเธอเป็นเดิมพัน

Bad Genius

“Bad Genius” เล่าเรื่องราวของ “ลินน์” (คัลลินา เหลียง) สาวนักเรียนทุนมากพรสวรรค์ของโรงเรียนได้มองเห็นช่องทางและโอกาสที่จะได้รับจากความชาญฉลาดของตัวเองมากกว่าทุนการศึกษานี้ เธอจึงเริ่มต้นรับจ้างโกงข้อสอบภายในห้องเรียนเพื่อหารายได้จากเพื่อนร่วมชั้นผู้ร่ำรวย ก่อนจะถลำลึกไปถึงการโกงข้อสอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตนักเรียน นั่นคือการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่การันตีทั้งความยาก ท้าทาย และแบกความหวังสุดกดดันจากกลุ่มเพื่อนและผู้จ้างให้โกงในครั้งนี้มากกว่าแค่การโกงเล็กน้อยภายในห้องเรียนหลายสิบเท่า งานนี้เธอไม่สามารถทำมันได้คนเดียวจึงต้องแท็กทีมโกง

นำทีมโดยผู้กำกับ“เจ.ซี. ลี” ที่เคยฝากผลงานโปรดิวซ์และเขียนบทซีรีส์ชื่อดังอย่าง “How To Get Away With Murders” (2015-2017) โดยเรื่องนี้เขาร่วมเขียนบทกับ “จูเลียส โอนาห์” ซึ่งเคยเข้าชิงรางวัล “ผู้กำกับยอดเยี่ยม” จาก “Luce” (2019) บนเวที “Film Independent Spirit Awards 2020”

เสริมทัพด้วยโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงตัวท็อป “มาริอุส เดอวรีส” (La La Land, Elvis) และผู้กำกับภาพมือฉมัง “เบรตต์ ยุตคีวิซ” (Stranger Things) ที่จะมาร่วมมือกันรังสรรค์ภาพและเสียงในสนามสอบให้ได้ลุ้นระทึกถึงใ
จ ปิดท้ายด้วยการการันตีคุณภาพด้วยสตูดิโอผู้สร้างที่เคยคว้ารางวัลออ สการ์มาแล้วจากภาพยนตร์ “CODA” (2021)

Bad Genius

อัปคะแนนให้ปังสุดขีดด้วยทีมนักแสดงรุ่นใหม่น่าจับตาที่มารับบทแก๊งนักเรียนแบดจีเนียสในมิชชันโกงข้อสอบระทึกโลก พบกับ “คัลลินาเหลียง” (Tell Me Everything, Presence) ในบท “ลินน์”นักเรียนระดับหัวกะทิของห้องที่ใช้ความจีเนียสเอาคืนระบบการศึกษาร่วมทีมกับ “จาบารี แบงส์” (Bel-Air) ในบท “แบงค์”สุดยอดมันสมองของแก๊งแบดจีเนียสที่ชะตาชีวิตบีบบังคับให้เขาต้องโกง
 
พร้อมด้วยชาวแก๊งสุดแสบ “เทย์เลอร์ ฮิกสัน” (Deadpool,Incident in a Ghost Land) ในบท “เกรซ”ดาวเด่นสุดฮอตผู้เป็นเพื่อนสนิทของลินน์ และ “แซมมวล บรอน” (Percy Jackson: Sea of Monsters) ในบท “แพต”แฟนหนุ่มของเกรซที่พร้อมเปย์ไม่อั้นให้กับเกมโกงนี้

เตรียมตัวเปิดข้อสอบแล้วส่งต่อโพยคำตอบกันให้ดีเพราะในสนามสอบครั้งนี้ทุกสกอร์คือตัวเปลี่ยนเกม! “Bad Genius
แบด จีเนียส” 12 กันยายนนี้ เปิดสนามสอบพร้อมกันในโรงภาพยนตร์

มนต์เสน่ห์ความหอม Aesop เปิดตัว น้ำหอมกลิ่นใหม่ Virēre Eau de Parfum

สดชื่นแบบคลาสสิก Aesop เปิดตัว น้ำหอมกลิ่นใหม่ Virēre Eau de Parfum

Alternative Textaccount_circle
มนต์เสน่ห์ความหอม Aesop เปิดตัว น้ำหอมกลิ่นใหม่ Virēre Eau de Parfum
มนต์เสน่ห์ความหอม Aesop เปิดตัว น้ำหอมกลิ่นใหม่ Virēre Eau de Parfum

Aesop (เอสอป) เปิดตัว น้ำหอมกลิ่นใหม่ Virēre Eau de Parfum สร้างสรรค์โดย Barnabé Fillion นักปรุงน้ำหอมที่ร่วมงานกับเอสอปมาอย่างยาวนาน โดย Virēre Eau de Parfum จะพาสู่ห้วงความฝัน และช่วงเวลาที่อยู่ใต้ร่มไม้ท่ามกลางแสงแดด ใบไม้พลิ้วไหวไปตามสายลมที่หอมกรุ่น สดชื่นมีชีวิตชีวา อันมีรากฐานมาจากธรรมชาติอันทรงพลังในการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ

Virēre มาจากภาษาละตินซึ่งแปลว่า “เขียวชอุ่ม” หรือ “เต็มไปด้วยชีวิต” ได้รับแรงบันดาลใจจากความทรงจำอันแสนสุขในช่วงพักร้อนริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตั้งแต่การปั่นจักรยานไปตามทางสวนผลไม้ ไปจนถึงการเตรียมชายามเช้าใต้ร่มเงาของต้นมะเดื่อ ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความเรียบง่ายที่ช่วยเติมเต็มร่างกายและจิตใจ โดยมีกลิ่นหลักคือ Bergamot, Fig และ Green Tea จัดอยู่ในกลุ่มน้ำหอมประเภท Fresh ของเอสอป น้ำหอมกลิ่นนี้ทลายกรอบการจำแนกแบบง่ายๆ ด้วยความละเอียดอ่อนและความไม่เป็นไปตามบรรทัดฐานเฉกเช่นเดียวกับ Eau de Parfum ทุกกลิ่นของเอสอปนั่นเอง

Virēre Eau de Parfum สะท้อนถึงการหวนคืนของความทรงจำในรูปแบบที่ไม่ได้เรียงเป็นเส้นตรงและไม่คาดคิด ผสมผสานกลิ่นอันซับซ้อนที่ทลายกรอบขนบของกลิ่นแนว Fresh แบบคลาสสิก ตั้งแต่ท็อปโน้ต ฮาร์ทโน้ต และเบสโน้ต ถ่ายทอดมิติของต้นมะเดื่อที่มีความเป็นไม้เนื้อแน่นไปจนถึงความเขียวชอุ่มของกลิ่นซิตรัสที่ได้รับความอบอุ่นจากแสงแดด อีกทั้งความสดชื่นของ Bergamot ที่เปล่งประกายแต่มีความอบอุ่นลุ่มลึกแนวสมุนไพรของ Green Tea, Mastic และ Pink Pepper อันเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณที่มีชีวิตชีวา มอบความหอมละมุนที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพฤกษานานาพรรณ

สดชื่นแบบคลาสสิก Aesop เปิดตัว น้ำหอมกลิ่นใหม่ Virēre Eau de Parfum

ความหอมของกลิ่น Virēre Eau de Parfum เสมือนการได้เยือนร้าน Aesop ที่ได้สัมผัสกับประสบการณ์อันเงียบสงบและฟื้นฟูจิตใจท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเพราะการเสิร์ฟชา แสงไฟที่นุ่มนวล หรือพื้นที่ที่เป็นระเบียบ ดั่งเฉกเช่นเดียวกัน Virēre Eau de Parfum ที่ได้มอบกลิ่นหอมที่จะพาคุณก้าวออกจากวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ไปสู่พื้นที่แห่งความทรงจำอันสดใสอบอุ่นด้วยไอแดดใต้ร่มไม้ใหญ่อันเป็นเวลาแห่งความเรียบง่ายที่มีคุณค่าและนิรันดร์

ร่วมสัมผัสประสบการณ์ของช่วงเวลาใต้ร่มไม้ท่ามกลางแสงแดด ใบไม้พลิ้วไหวไปตามสายลมที่หอมกรุ่นของ Virēre Eau de Parfum สู่ความหอมอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครได้ที่ Aesop ทุกสาขา


เซียวจ้าน

ซูมอิน 4 ลุค หล่อเทพสร้างของ เซียวจ้าน ในโททัลลุคจาก Tod’s 

account_circle
เซียวจ้าน
เซียวจ้าน

ซูมอิน 4 ลุค หล่อเทพสร้างของ Xiao Zhan (เซียวจ้าน) ในโททัลลุคจาก Tod’s แคมเปญ Fall/Winter 2024 “Italian Stories” โดยแคมเปญนี้ถ่ายโดยช่างภาพชื่อดัง Xu Chuang

ซูมอิน 4 ลุค หล่อเทพสร้างของ เซียวจ้าน ในโททัลลุคจาก Tod’s 

โดยลุคแรกของ Xiao Zhan “Global Brand Ambassador” ของ Tod’s โดดเด่น สะดุดตาด้วยตัว “T” ของ Tod’s แจ็คเก็ตสั้นสีน้ำตาลทำจากผ้าวูล จับคู่กับเสื้อสเวตเตอร์ผ้าวูลผสมแคชเมียร์ที่มอบความอบอุ่นอันหรูหราสำหรับฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว

ลุคนี้เสริมด้วยกระเป๋าสะพายข้าง T Timeless crossbody bag และเข็มขัดเข้าชุดจากคอลเลคชั่น Fall-Winter ของ Tod’s โดยในฤดูกาลนี้ Tod’s ขยายกลุ่มรองเท้าผ้าใบด้วยคอลเลคชั่น T Vintage ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์ย้อนยุค รองเท้าผ้าใบเหล่านี้มีการผสมผสานระหว่างผ้าเทคนิคและดีเทลหนัง รองเท้าผ้าใบ T Vintage ในโทนสีธรรมชาติที่ Global Brand Ambassador ของ Tod’s อย่าง Xiao Zhan สวมใส่นั้น ยังมีให้เลือกในโทนสีสัน รวมถึงรุ่นที่ทำจากหนังพรีเมียม ซึ่งผสานความหรูหรากับความสง่างามแบบสปอร์ตได้อย่างลงตัว

สำหรับลุคที่ 2 Xiao Zhan สวมใส่บอมเบอร์แจ็กเก็ตที่ทำจากผ้าเทคนิค จับคู่กับกางเกงที่เข้าชุดกัน คอมพลีทลุคด้วยแอคเซสเซอรี่สุดคลาสสิกจาก Tod’s เสื้อแจ็คเก็ตบอมเบอร์รุ่นนี้สามารถสวมใส่ได้ทั้งสองด้าน มาพร้อมกับคุณสมบัติกันลมและกันน้ำ เหมาะสำหรับฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว

กระเป๋า Di Swing bag รุ่นใหม่ล่าสุดมาพร้อมนวัตกรรมใหม่กับหูจับแบบกลับด้านได้ ถือเป็นการแสดงออกถึงความมั่นใจที่ผสมผสานความหลากหลายและความสะดวกสบายได้อย่างลงตัว รวมไปถึงรองเท้าหนัง Derby แบบผูกเชือกสีดำ มอบทั้งความสบายและสไตล์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินในเมืองที่พลุกพล่าน ด้วยก้าวย่างที่สง่างาม

ลุคที่สาม เท่แบบมีไสตล์ Xiao Zhan สวมแจ็กเก็ตหนังสไตล์ Biker ที่ทำจากหนังแกะซึ่งรังสรรค์ด้วยเทคนิคทำมือหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการผสมผสานหนังกลับด้านเข้ากับหนังนัปป้ากึ่งเงา เน้นย้ำถึงความภาคภูมิใจของ Tod’s ในงานฝีมือทำหนัง รองเท้าบู๊ตหุ้มข้อ Winter Gommino ในฤดูกาลนี้ ทำจากหนังกลับเนื้อนุ่มและหนังนัปป้าชั้นดี

และยังคงเน้นย้ำถึงความเชี่ยวชาญในการประดิษฐ์วัสดุผ่านงานฝีมือชั้นเลิศ กระเป๋า Di Folio bag ที่มีการเย็บแบบอานม้าอันโดดเด่น ยังคงดีไซน์ Di Bag อันเป็นไอคอนิกเอาไว้ แต่ในขณะเดียวกันยังส่งเสริมรูปร่างของกระเป๋าให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ทำให้ความนุ่มของหนังกลายเป็นจุดเด่นของรสนิยมอันล้ำค่า

Everyday Look ไปกับ Xiao Zhan ในลุคที่สี่ พระเอกหนุ่มจีนสวมใส่เสื้อฮู้ด Tod’s Light Hoodie Caban ที่ทำจากผ้าเทคนิค จับคู่กับรองเท้าโลฟเฟอร์ Gommino แบบคลาสสิกและประณีต และกระเป๋าสะพายหลัง Tod’s backpack ที่ทำจากผ้าและหนัง ซึ่งล้วนสะท้อนถึงสไตล์ที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ของชีวิตในเมือง

ท่ามกลางดีเทลที่แฝงความหรูหรา Xiao Zhan แสดงออกถึงความสงบและความมั่นใจในทุกชิ้นงานที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน


โรคหัวใจ ภัยร้ายเงียบที่มาโดยไม่ทันตั้งตัว แต่จะรู้และป้องกันได้อย่างไรในเมื่อบ้างครั้งก็เกิดขึ้นฉับพลับไม่ทันตั้งตัว

วิธีสังเกตความเสี่ยงเป็น “โรคหัวใจ” แม้ไม่มีอาการแสดง

Alternative Textaccount_circle
โรคหัวใจ ภัยร้ายเงียบที่มาโดยไม่ทันตั้งตัว แต่จะรู้และป้องกันได้อย่างไรในเมื่อบ้างครั้งก็เกิดขึ้นฉับพลับไม่ทันตั้งตัว
โรคหัวใจ ภัยร้ายเงียบที่มาโดยไม่ทันตั้งตัว แต่จะรู้และป้องกันได้อย่างไรในเมื่อบ้างครั้งก็เกิดขึ้นฉับพลับไม่ทันตั้งตัว

จากข้อมูลองค์การอนามัยโลก (World Health Organization-WHO) ระบุว่า โรคหัวใจขาดเลือด ถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของโลก โดยคิดเป็นร้อยละ 13 ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา โรคนี้ถือเป็นโรคที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้นจาก 2.7 ล้านคนเป็น 9.1 ล้านคนในปี 2564 นอกจากการป้องกันและคอยตรวจดูความเสี่ยงแล้ว สิ่งสำคัญคือเราทุกคนควรเรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพเบื้องต้น (Basic Life Support) ซึ่งมีส่วนสำคัญมากในการเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับผู้ที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ซึ่งสามารถเกิดกับใครก็ได้

เพราะทุกวินาทีคือชีวิต โรคหัวใจ ภัยร้ายเงียบที่มาโดยไม่ทันตั้งตัว แต่จะรู้และป้องกันได้อย่างไรในเมื่อบ้างครั้งก็เกิดขึ้นฉับพลับไม่ทันตั้งตัว ซึ่งอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่รุนแรงหรือแม้แต่ถึงแก่ชีวิตได้ มาหาคำตอบกันในบทความนี้ถึงคุณลักษณะที่น่ากังวลแม้ไม่มีอาการแสดง ร่างกายแข็งแรง แต่ก็ถูกจัดเป็นกลุ่มเสี่ยง มีแบบไหนบ้าง เพื่อจะได้นำไปสังเกตอาการและเป็นแนวทางในการป้องกัน จะได้รักษาโรคหัวใจได้อย่างทันท่วงที

กลุ่มแบบไหนดังต่อไปนี้ ที่จัดว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง (ถ้าเข้าลักษณะในข้อใดข้อหนึ่งก็ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่น่ากังวล)

1. เพศชายอายุเกิน 40 ปี หรือเพศหญิงอายุเกิน 50 ปี
2. มีโรคทางพันธุกรรม หรือคนในครอบครัวเคยเป็นโรคหัวใจ
3. พฤติกรรมที่มีความเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ การบริโภคน้ำตาลปริมาณมาก
4. มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน คอเลสเตอรอลสูง โรคอ้วน หรือโรคเรื้อรังอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง รวมถึงความเครียดสะสม

การตรวจเพื่อประเมินหรือป้องกันโรคหัวใจเบื้องต้นมีอะไรบ้าง ใช้เวลานานไหม ต้องลาทั้งวันรึป่าว

1. การตรวจสุขภาพประจำปี เป็นสิ่งสำคัญเพราะจะช่วยตรวจจับปัญหาที่อาจไม่มีอาการแสดง รวมทั้งการทดสอบความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เช่น การวัดความดันโลหิต การตรวจคอเลสเตอรอล และการทดสอบความอดทนของหัวใจ โดยปกติแล้วจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือขึ้นอยู่กับแพ็กเกจที่ตรวจ

2. การตรวจ CT Calcium Score หากมีพฤติกรรมความเสี่ยงชัดเจนเข้าเกณฑ์หลายรายการ ก็อาจจะเริ่มกันที่การตรวจ CT Calcium Score หรือการถ่ายภาพด้วยเอ็กซ์เรย์หัวใจ เพื่อที่ช่วยดูความเสื่อมของหลอดเลือด คราบหินปูในหัวใจ เบื้องต้นก่อน โดยจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง

3. การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram – ECG) คือการบันทึกกิจกรรมไฟฟ้าของหัวใจ เพื่อตรวจสอบจังหวะและค้นหาความผิดปกติของการเต้นของหัวใจ การตรวจนี้สามารถตรวจจับหัวใจวาย การขาดเลือดชั่วคราวของหัวใจ และอื่นๆ โดยจะใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที

โรคหัวใจมีหลากหลายแม้จะไม่มีอาการชัดเจนก็สามารถระบุได้โดยการตรวจในรูปแบบต่างๆ อย่างใกล้ชิด และการตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ การตรวจสุขภาพประจำปี และการตรวจด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถช่วยให้แพทย์และผู้ป่วยตระหนักถึงสัญญาณเตือนเหล่านี้ได้ก่อนที่จะเกิดอาการรุนแรง หากมีปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์อย่างเร่ง เพื่อวางแผนการตรวจสุขภาพและการดูแลที่เหมาะสม

ขอบคุณข้อมูล: พญ.วริษฐา เล่าสกุล อายุรแพทย์โรคหัวใจ ศูนย์หัวใจและทรวงอก (Cardiology Center) โรงพยาบาลนวเวช
ภาพ: Pexels


เตรียมตกหลุมรัก “JUNNY” ในงาน “2024 JUNNY TOUR: Dopamine in BANGKOK” 20 ต.ค. 67 นี้

account_circle

JUNNIVERSE (จุนนิเวิร์ส:ชื่อกลุ่มแฟนคลับ) ชาวไทยเตรียมหูเคลือบทองกันได้เลย! เพราะเจ้าของเสียงเอกลักษณ์ อย่าง “JUNNY” ศิลปินและโปรดิวเซอร์มากความสามารถภายใต้สังกัด “MAUVE Company” เตรียมบินลัดฟ้ามา จัดคอนเสิร์ตเดี่ยวที่ประเทศไทยอีกครั้ง โดยงานนี้ได้ผู้จัดอย่าง “BEX” บริษัทอีเว้นท์ออกาไนเซอร์ในเครือเวิร์คพอยท์กรุ๊ป ร่วมกับ “YJ PARTNERS” และ “PROUD2” พาร์ทเนอร์ทีมคุณภาพร่วมกันสร้างสรรค์ มาฟังเพลงเพราะ ๆ กันแบบใกล้ชิด สุด Exclusive ผ่านงาน Production คุณภาพ ในงาน “2024 JUNNY TOUR : Dopamine in BANGKOK” โดยงานสุดพิเศษนี้ หนุ่ม JUNNY ตั้งใจฝึกซ้อมมาก ๆ ที่จะแสดงเพื่อทุกคน ทั้งยังขนดนตรีสดและดีเจมาพร้อมสำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้! รับรองได้เลยว่าจะต้องเป็นโชว์ที่สุดยอดแน่นอน หวังว่าทุกคนจะมาหากันในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2567 เวลา 17:00 น. ณ CENTERPOINT STUDIO โดยมีบัตร 4 ราคาพร้อมสิทธิพิเศษต่าง ๆ ดังนี้

บัตร VIP (Standing) 6,000 บาท จะได้รับสิทธิพิเศษ Photo Session ถ่ายภาพกับ JUNNY แบบ 1:1 / อัลบั้มพร้อมลายเซ็นสดรับกับมือศิลปิน / Soundcheck / Hi-bye และ Poster (with digital sign)

บัตร ROYAL (Standing) 5,000 บาท จะได้รับสิทธิพิเศษ Photo Session ถ่ายภาพกับ JUNNY แบบ 1:6 / Soundcheck / Hi-bye และ Poster (with digital sign)

บัตร PREMIUM (Standing) 3,500 บาท จะได้รับสิทธิพิเศษ Soundcheck / Hi-bye และ Poster

และบัตร GERERAL (Standing) 2,900 บาท จะได้รับสิทธิพิเศษร่วมลุ้นเข้าร่วม Soundcheck 200 คน / Hi-bye และ Poster

โดยจะเปิดจำหน่ายในวันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2567 เวลา 10:00 น. ทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.bexconcert.com JUNNIVERSE ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อย่าลืมตั้งตารอ ล็อกคิวให้พร้อม เพราะงานจัดเพียง “1 รอบการแสดง” เท่านั้น! เตรียมมาตกหลุมรัก “JUNNY” อีกครั้งไปด้วยกัน โดยสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมและข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Facebook: BEX Concert และ X: @BEX_Concert

Rituals Cosmetics แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามยอดนิยมจากเนเธอร์แลนด์ เปิดสาขาใหม่ที่ Fashion Island

Rituals Cosmetics แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามยอดนิยมจากเนเธอร์แลนด์ เปิดสาขาใหม่ Fashion Island

Alternative Textaccount_circle
Rituals Cosmetics แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามยอดนิยมจากเนเธอร์แลนด์ เปิดสาขาใหม่ที่ Fashion Island
Rituals Cosmetics แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามยอดนิยมจากเนเธอร์แลนด์ เปิดสาขาใหม่ที่ Fashion Island

หลังจากแบรนด์ Rituals Cosmetics แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากใน Amsterdam เปิดสาขาแรกในไทยที่ Central World ไปเมื่อปลายปีธันวาคม 2566 นี้ ล่าสุดปีนี้กับสาขาใหม่ Fashion Island ชั้น 1 ที่พร้อมเปิดประสบการณ์ความงามที่จะดูแลคุณทั้งภายในและภายนอกจาก @ritualscosmeticsth ไม่ว่าจะเป็นสินค้าดูแลผิวกาย โลชั่น สบู่ แชมพู ครีม ฯลฯ หรือจะเป็นสินค้าที่ใช้ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น Room diffuser หรือเทียนหอม ที่ทุกผลิตภัณฑ์ผ่านการคิดค้นและกระบวนการผลิตที่ใส่ใจจนออกมาเป็นสินค้าในหลากหลายกลิ่นให้ผู้บริโภคได้เลือกสรร

แบรนด์ Rituals เป็นแบรนด์ที่มีต้นกำเนิดจากเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อตั้งโดย Raymond Cloosterman ผู้ทำงานในวงการสินค้าประเภท ความงามและไลฟ์สไตล์มาอย่างยาวนาน โดยมีแนวคิดที่ว่า อยากให้ผู้ใช้ได้ “ซึมซับและค้นพบความสุขจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน” ผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าภายในบ้าน หรือผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย เพราะแบรนด์เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันเล็กๆ ก็สามารถทำให้เกิดช่วงเวลาที่มีความหมายขึ้นได้

Rituals Cosmetics แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามยอดนิยมจากเนเธอร์แลนด์ เปิดสาขาใหม่ Fashion Island


Holiday Inn Resort Samui Bophut Beach

IHG Hotels & Resorts เดินหน้าสร้างการเติบโตโรงแรมกลุ่ม Mainstream ในประเทศไทย

account_circle
Holiday Inn Resort Samui Bophut Beach
Holiday Inn Resort Samui Bophut Beach

IHG Hotels & Resorts (IHG) หนึ่งในบริษัทโรงแรมชั้นนำระดับโลก เดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอโรงแรมในกลุ่ม Mainstream ชั้นนำในประเทศไทย เพื่อเสริมแกร่งตำแหน่งผู้นำตลาดในโรงแรมกลุ่มนี้

IHG ได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ส่วนหนึ่งมีผลมาจากความสำเร็จของแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Holiday Inn Hotels & Resorts และ Holiday Inn Express ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติและในประเทศที่มองหาความคุ้มค่าและที่พักคุณภาพ นอกจากนี้ แบรนด์ใหม่ล่าสุดอย่าง Garner ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตและเป็นผู้นำในกลุ่มโรงแรม midscale

ปัจจุบัน บริษัทกำลังมุ่งเน้นการขยายการเติบโตของโรงแรมในกลุ่ม Mainstream ในประเทศไทย ด้วยการมอบประสบการณ์เหนือระดับที่แขกผู้เข้าพักชื่นชอบในโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้วกว่า 22 แห่ง และมีโรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 16 แห่งเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเดินทางในอนาคต ซึ่งความพยายามนี้เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายของกลุ่มในการเพิ่มจำนวนโรงแรมทั้งหมดในประเทศไทยเป็นสองเท่า เป็นจำนวนรวมมากกว่า 70 แห่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

คุณวิเวก บัลลา กรรมการผู้จัดการ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี IHG กล่าวว่า “IHG รู้สึกภูมิใจในตำแหน่งผู้นำตลาดของแบรนด์โรงแรมในกลุ่ม Mainstream และรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ขยายการเติบโตของแบรนด์กลุ่มนี้ในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นหนึ่งในตลาดหลักของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปอย่างต่อเนื่อง

“ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งหมดในประเทศไทย เพิ่มขึ้นถึง 13%[1] เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และการขับเคลื่อนความต้องการเดินทางอันเป็นผลจากนโยบาย visa-free เราคาดการณ์ถึงการเติบโตในระดับสองหลักจากตลาดหลักของเราในไตรมาสที่สี่นี้ ซึ่งภูเก็ต สมุย และกรุงเทพฯ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ในขณะที่นักท่องเที่ยวภายในประเทศยังคงความนิยมเดินทางท่องเที่ยวโดยรถยนต์ไปยังจุดหมายปลายทางต่าง ๆ เช่น หัวหิน ระยอง พัทยา และเขาใหญ่

“แนวโน้มการเดินทางยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปัจจุบันไปจนถึงปี 2571 จะเพิ่มขึ้นถึง 14.8% โดยกรุงเทพฯ คาดว่าจะเติบโตถึง 6.5% ในปีนี้ และเติบโตอีก 2.1% ในปี 2568[2] และเพื่อตอบสนองต่อความต้องการนี้ เราได้มุ่งขยายพอร์ตโฟลิโอของเราไปทั่วประเทศ อีกทั้งยังดึงดูดนักท่องเที่ยวในกลุ่ม Millennials และ Gen Z ที่ต้องการความคุ้มค่าพร้อมประสบการณ์ที่น่าจดจำ”

มากกว่าครึ่งหนึ่งของโรงแรม IHG ที่เปิดให้บริการในประเทศไทยและโรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกเกือบ 50% เป็นโรงแรมในกลุ่ม Mainstream โดยมีโรงแรมที่จะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้ ได้แก่ Holiday Inn Express Phayathai และ Holiday Inn Express Bangkok Asoke

คุณวิเวก กล่าวเสริมว่า “เรายังคงมุ่งหน้าขยายการเติบโตของพอร์ตโฟลิโอของเราอย่างต่อเนื่อง และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับแขกผู้เข้าพักที่ Holiday Inn Express Phayathai และ Holiday Inn Express Bangkok Asoke รวมไปถึงสถานที่อันยอดเยี่ยมอื่นๆ ของเรา”

Garner Oklahoma City - Quail Springs
Garner Oklahoma City – Quail Springs

“นอกจากนี้ เรายังมองเห็นโอกาสในการนำแบรนด์ใหม่ล่าสุดของ IHG อย่าง Garner เข้ามาในประเทศไทย โดยเฉพาะในทำเลเมืองและพื้นที่รีสอร์ทยอดนิยมต่าง ๆ เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา นับตั้งแต่การเปิดตัวแบรนด์ Garner ในเดือนสิงหาคม 2566 Garner ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้วถึง 4 แห่ง และมีโรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 79 แห่งทั่วโลก ซึ่งแบรนด์มุ่งเน้นถึงความต้องการของแขกผู้เข้าพักเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้งที่เดินทางสะดวก ประสบการณ์การพักผ่อนที่แสนสบาย และ Wi-Fi ความเร็วสูง”

Holiday Inn & Suites Siracha Laemchabang
Holiday Inn & Suites Siracha Laemchabang

โรงแรมในกลุ่ม Mainstream ชั้นนำในประเทศไทยของ IHG มีจุดเด่นมากมาย อาทิ Holiday Inn ที่มีการออกแบบแบบ Open Lobby อีกทั้งยังมีการยกระดับประสบการณ์อาหารและเครื่องดื่มรูปแบบใหม่ สำหรับ Holiday Inn Express มีการเปิดตัว Express Café & Bar – ที่มีตัวเลือกอาหารและเครื่องดื่มแสนอร่อย ให้บริหารตลอด 24 ชั่วโมง และหมวดหมู่ ‘Suite’ ที่เหมาะสำหรับแขกผู้เข้าพักแบบระยะยาวหรือแขกผู้เข้าพักกลุ่มใหญ่ ในขณะที่ Holiday Inn Resorts ก็ได้สร้างสรรค์ประสบการณ์ครอบครัวที่น่าจดจำด้วย KidSuites, Kids Club และสระว่ายน้ำ

Holiday Inn Express Rayong Map Ta Phut
Holiday Inn Express Rayong Map Ta Phut

คุณวิเวก กล่าวเพิ่มเติมว่า “IHG เข้าใจดีว่าการพัฒนาประสบการณ์ของแขกผู้เข้าพักในทุกแบรนด์ของเรานั้นนับเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสมาชิก IHG One Rewards และแขกผู้เข้าพักจำนวนมากล้วนให้ความสำคัญกับมาตรฐาน คุณภาพ และความน่าเชื่อถือในการจองที่พัก”

“IHG มุ่งมั่นทุ่มเทกับการมีส่วนร่วมกับประเทศไทย โดยการสร้างประสบการณ์การเข้าพักที่ดีที่สุดให้กับแขกผู้เข้าพักของเรา และเพิ่มผลตอบแทนให้กับเจ้าของโรงแรม”

*ตัวเลข เมื่อ 30 มิถุนายน 2567


[1] STR data

[2] STR data

อัพเดทตู้เสื้อผ้า เปิดกระเป๋า McQueen Sling Bag ผลงานใหม่จาก Seán McGirr 

Alternative Textaccount_circle

ถึงเวลาเติมไอเท็มใหม่แล้วทุกคน ซูมอินดีเทลกระเป๋า McQueen Sling Bag จากคอลเล็คชั่น Fall/Winter 2024 ออกแบบโดย Seán McGirr 

หนึ่งไอเท็มน่าจับตามองสำหรับแฟชั่นนิสต้าที่ชอบความเท่ และคล่องตัว McQueen Sling Bag น่าจะเป็นคำตอบได้ดี ซึ่งกระเป๋าใบนี้ได้ปรากฏตัวครั้งแรกบนรันเวย์ Fall/Winter 2024 ที่ได้ Seán McGirr มาเป็นหัวเรือใหญ่ สำหรับดีไซน์มาในรูปแบบสุดล้ำที่ออกแบบให้มาในแนวเฉียงและอสมมาตร สายสะพายถูกคาดไว้แนบชิดลำตัว ควบคู่ไปกับการพับอย่างเป็นรูปทรง ผลิตด้วยหนังพื้นผิวชั้นเดียว ถูกพับและเย็บอย่างเป็นรูปทรง

ความโดดเด่นอยู่ที่หัวเข็มขัด Cross-Bar อันเป็นเอกลักษณ์ในโลหะโทนสีเงิน สลักด้วยโลโก้ McQueen พร้อมรายละเอียดการถักทอประจำคอลเล็กชั่น ฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว 2024 โดย McQueen Sling bag มีให้เลือกสรรในเฉดสีดำ สีแทน สีเลือดวัว และสีขาวในวัสดุหนังลายแตกที่ผ่านการเคลือบอย่างดี

เดอะ แลงแฮม ปักหมุดเปิดตัวโรงแรมใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา กับ ‘เดอะ แลงแฮม แบงค็อก’ ณ Customs House

account_circle

สิ้นสุดการรอคอย แลงแฮม ฮอสปิทาลิตี้ กรุ๊ป (Langham Hospitality Group: LHG) และ แรบบิท โฮลดิ้งส์ บริษัทในเครือของ บีทีเอส กรุ๊ป ประกาศการเปิดตัวโรงแรม เดอะ แลงแฮม แบงค็อก (The Langham Bangkok) ณ โรงภาษีร้อยชักสาม หรือ ศุลกสถาน (Customs House) ในปี ค.ศ. 2026 ที่จะถึงนี้ โรงแรมระดับ 5 ดาวสุดหรู แลนด์มาร์คแห่งใหม่ย่านบางรัก โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ตัดผ่านใจกลางกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย โดยนำเอาอาคารมรดกเก่าแก่ โรงภาษีร้อยชักสาม รวมถึงอาคารที่ทำการไปรษณีย์เก่าที่เสื่อมโทรมตามการใช้งาน มาชุบชีวิตและบูรณะอย่างสมบูรณ์แบบให้กลับมารุ่งเรืองดังในอดีต โดยยังคงเก็บคุณค่าทางประวัติศาสตร์เอาไว้อย่างครบถ้วน และจะกลายมาเป็นห้องพัก 78 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและโครงสร้างที่ทันสมัย

โครงการนี้ซึ่งนำโดยแรบบิท โฮลดิ้งส์ มีจุดมุ่งหมายไม่เพียงเพื่อสร้างสถานที่พักผ่อนระดับโลก แต่มุ่งเน้นที่จะเติมเต็มคุณค่าทางวัฒนธรรมและเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจให้กับย่านบางรัก ซึ่งสอดคล้องกับโครงการ MATCH ของบริษัทที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูเมืองและชุมชน ด้วยความเชื่อมั่นในความสำเร็จที่เคยร่วมกันสร้างมาอย่างยาวนาน แลงแฮม ฮอสปิทาลิตี้ กรุ๊ป ซึ่งเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งและเหมาะสมในการดำเนินโครงการในลักษณะนี้ จึงได้รับเลือกให้เข้ามาดูแลการบริหารโรงแรมแห่งนี้ในที่สุด

คุณกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการแรบบิท โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้แต่งตั้ง แลงแฮม ฮอสปิทาลิตี้ กรุ๊ป เข้ามาบริหารจัดการอาคารแห่งนี้ ความทุ่มเทของบริษัทในการสร้างโรงแรมหรูเหนือกาลเวลาและความสำเร็จในการอนุรักษ์มรดกตกทอดต่าง ๆ ทำให้ แลงแฮม เป็นพันธมิตรในอุดมคติที่จะส่งเสริมวิสัยทัศน์ของเราในการสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการท่องเที่ยวและการโรงแรมระดับห้าดาวในภูมิภาค รวมถึงเชิดชูมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนานของอาคาร Customs House และเขตบางรักได้อย่างแท้จริง”

เดอะ แลงแฮม แบงค็อก ณ อาคาร Customs House ดำเนินการตามโครงการอนุรักษ์มรดกที่ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมายของ แลงแฮม ฮอสปิทาลิตี้ กรุ๊ป ได้แก่ เดอะ แลงแฮม บอสตัน ซึ่งเป็นโรงแรมหรูที่ตั้งอยู่ในอาคารเก่าของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เดอะ แลงแฮม ชิคาโก สถานที่พักผ่อนอันหรูหราตั้งอยู่ในอาคาร Mies van der Rohe อันเป็นเอกลักษณ์ และ เดอะ แลงแฮม แพซาดีนา ซึ่งเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ฮอลลีวูดซึ่งมีอายุย้อนไปถึงปี ค.ศ. 1907 นอกจากนี้ล่าสุด แลงแฮม ฮอสปิทาลิตี้ กรุ๊ป ได้เข้าไปบูรณะโรงงานกระจกเก่าบนเกาะมูราโน ในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ให้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนอันหรูหราเหนือกาลเวลา

คุณ Bob van den Oord ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ แลงแฮมฮอสปิทาลิตี้ กรุ๊ป กล่าวว่า “โปรเจค เดอะ แลงแฮม แบงค็อก ณ Customs House ได้มาเติมเต็มความตั้งใจของเราในการบูรณาการการอนุรักษ์วัฒนธรรมเข้ากับการพัฒนาโรงแรม และในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้แก่แขกผู้มาเยือนและชุมชนที่เราดำเนินธุรกิจไปพร้อม ๆ กัน”

เลือกสรรความเป็นเลิศจาก เดอะ แลงแฮม

เดอะ แลงแฮม แบงค็อก ณ อาคาร Customs House นำเสนอความหรูหราที่เป็นเอกลักษณ์ของเดอะ แลงแฮม ซึ่งแฝงไว้ด้วยมนต์เสน่ห์ ไฮไลต์สำคัญของที่นี่คือการนำภัตตาคาร ถัง คอร์ท (T’ang Court) ร้านอาหารกวางตุ้งระดับมิชลินสามดาวจากฮ่องกงมาสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เหนือระดับ พร้อมด้วยบาร์เครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์และขนมหวานระดับโลก ที่จะทำให้โรงแรมแห่งนี้กลายเป็นหมุดหมายใหม่ที่นักชิมทั่วโลกจะพลาดเสียไม่ได้ นอกจากนี้ แขกผู้เข้าพักยังสามารถสัมผัสกับความผ่อนคลายเพื่อฟื้นฟูร่างกาย จิตวิญญาณ และจิตใจ ที่ ฉวน สปา (Chuan Spa) สถานที่พักผ่อนเพื่อสุขภาพชั้นนำที่เดอะ แลงแฮม ภูมิใจนำเสนอได้อีกด้วย

หวนคืนสู่กลิ่นอายแห่งความรุ่งเรืองในอดีต

อาคาร Customs House ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1888 เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงงานฝีมืออันยอดเยี่ยมด้วยการออกแบบสไตล์นีโอ-ปัลลาเดียนโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน Joachim Grassi ในส่วนของตัวอาคารมีพื้นไม้สัก บันไดกลางขนาดใหญ่ และโถงทางเดินสี่ชั้นอันงดงามเปี่ยมมนต์ขลัง เป็นตัวอย่างอันน่าทึ่งที่บ่งบอกถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนาน อาคารหลังนี้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นหน้าเป็นตาของกรุงเทพฯ เป็นประตูสู่ประเทศไทยและมีเรื่องราวในอดีตที่เคยเป็นที่จัดงานสังสรรค์ของราชวงศ์ รวมถึงยังเคยเป็นสถานที่เฝ้ารับเสด็จรัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินกลับจากการประพาสทวีปยุโรปเมื่อ พ.ศ. 2450 อีกด้วย

เฉลิมฉลองการถือกำเนิดของสยามประเทศ

เดอะ แลงแฮม แบงค็อก ณ โรงภาษีร้อยชักสาม จะยกย่องยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของสยามในอดีต ด้วยการถักทอความงดงามของวัฒนธรรมไทยแบบดั้งเดิมเข้ากับสถาปัตยกรรมตะวันตกของอาคารอย่างประณีต การผสมผสานที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์นี้จะสะท้อนออกมาให้เห็นในทุกส่วนของโรงแรม ตั้งแต่ห้องพักหรูที่อบอุ่น ห้องบอลรูมที่มองเห็นวิวแม่น้ำ ไปจนถึงสปาที่สงบร่มเย็น และพื้นที่ส่วนกลางที่อบอุ่น สร้างบรรยากาศที่สื่อถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของไทยอย่างซาบซึ้ง พร้อมมอบความหรูหราทันสมัยที่ไม่อาจหาได้จากที่อื่นใด

ผสานความเก่าและใหม่อย่างลงตัว

แลงแฮม ฮอสปิทาลิตี้ กรุ๊ป และ แรบบิท โฮลดิ้งส์ มุ่งมั่นที่จะอนุรักษ์แก่นแท้ทางประวัติศาสตร์ของอาคาร Customs House ไปพร้อมกับการผสมผสานความหรูหราและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว การบูรณะอย่างพิถีพิถันนี้จะเชิดชูลักษณะทางสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของอาคาร ควบคู่ไปกับการเสริมการออกแบบร่วมสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกตามศาสตร์และศิลป์อันทันสมัย ซึ่งการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความเก่าและใหม่นี้จะทำให้แขกผู้เข้าพักได้รับประสบการณ์พิเศษที่เฉลิมฉลองทั้งประวัติศาสตร์อันยาวนานและอนาคตอันสดใสของสถานที่สำคัญอันเป็นสัญลักษณ์แห่งนี้อย่างไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอน

เปิดคอนเซ็ปต์ Intimate Spaces & Sensual of Living จาก Vertier

Alternative Textaccount_circle

Vertier ร่วมถ่ายทอดแรงบันดาลใจงานศิลป์อิตาลี ผ่านอาณาจักร อิตาเลเซีย กรุ๊ป ภายใต้คอนเซปต์ Intimate Spaces & Sensual of Living

เวอร์เทียร์ แฟล็กชิพ แกลเลอรี่ ราชดำริ จับมือพันธมิตรจาก อิตาเลเซีย กรุ๊ป ส่งมอบประสบการณ์งานดีไซน์ระดับโลกจากเฮาส์แบรนด์ดังอย่าง Alessi บนพื้นที่สร้างสรรค์กว่า 800 ตารางเมตร ที่ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ ‘The Museum for Eternal Living & Admiration’ ซึ่งจุดประกายแรงบันดาลใจให้กับแขกผู้มีเกียรติและเหล่าเซเลบริตี้ที่ชื่นชอบงานดีไซน์

เป็นเวลากว่า 60 ปี ที่อิตาเลเซีย กรุ๊ป ผู้นำเข้าสินค้าคุณภาพระดับพรีเมียมจากประเทศอิตาลี ซึ่งอยู่เคียงข้างและเป็นพันธมิตรสำคัญที่สนับสนุนกลุ่มงานอาหารและเครื่องดื่มให้กับร้านค้า ร้านอาหารและโรงแรมชั้นนำในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งงานนี้ อิตาเลเซีย กรุ๊ป พร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษ ผ่านงานศิลปะชิ้นเอกจากแบรนด์ระดับตำนานจาก Alessi ที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบผลิตภัณฑ์เครื่องครัว ของใช้บนโต๊ะอาหารและเฟอร์นิเจอร์ อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ครองใจนักแต่งบ้านทั่วโลกมาอย่างยาวนานและหนึ่งในผลงานสุดพิเศษจาก Poêle Collection อย่างเก้าอี้รุ่น Poêle Chair ได้รับการออกแบบจากดีไซน์เนอร์ชื่อดังชาวฝรั่งเศส Philippe Starck ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระทะ โดยคิดค้นและออกแบบผ่านการเชื่อมต่อขาเก้าอี้ที่ดัดแปลงมาจากไม้บีช สะท้อนให้เห็นถึงความคงทน แข็งแรง และยังถูกจัดให้เป็น Sustainable ไอเท็มที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นอีกชิ้นหนึ่ง 

โต๊ะ Nebula หนึ่งในงานไม้ดีไซน์คลาสสิกที่สะท้อนถึงความพิถีพิถันในรายละเอียด ถ่ายทอดความรู้สึกอบอุ่น เรียบมน ผ่านผิวสัมผัสของเนื้อไม้ธรรมชาติที่ทำมาจากไม้แอช ถือเป็นงานออกแบบอันเป็นหัวใจของเวอร์เทียร์ โดยประสานความร่วมสมัยได้อย่างลงตัวกับเก้าอี้รุ่น Poêle Chair ซึ่งให้ความรู้สึกสงบ และกลมกลืนไปกับบริบทของภาพรวมโต๊ะ Nebula หนึ่งในงานไม้ดีไซน์คลาสสิกที่สะท้อนถึงความพิถีพิถันในรายละเอียด ถ่ายทอดความรู้สึกอบอุ่น เรียบมน ผ่านผิวสัมผัสของเนื้อไม้ธรรมชาติที่ทำมาจากไม้แอช ถือเป็นงานออกแบบอันเป็นหัวใจของเวอร์เทียร์ โดยประสานความร่วมสมัยได้อย่างลงตัวกับเก้าอี้รุ่น Poêle Chair ซึ่งให้ความรู้สึกสงบ และกลมกลืนไปกับบริบทของภาพรวม

พร้อมด้วย Alessandro Mendini อีกหนึ่งดีไซน์เนอร์ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Alessi ซึ่งเป็นผู้คิดค้นและออกแบบ Anna Gong เค้กสแตนด์อันเลื่องชื่อที่มาพร้อมกับความน่ารัก ฟังก์ชั่น และดีไซน์อันน่าหลงไหลพร้อมมอบความสุขและรอยยิ้มบนโต๊ะอาหาร หรือหากนำมาเป็นไอเดียแต่งบ้าน ก็ถือเป็นงานศิลป์ชิ้นเอกที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวของผู้ครอบครองได้อย่างมีสไตล์  

Dinemaster หนึ่งในโต๊ะ Center Piece ที่ได้รับความนิยมตลอดกาล และถือเป็นออริจินัลดีไซน์ จากแบรนด์ เวอร์เทียร์ อันแสดงถึงประติมากรรมงานศิลป์ชิ้นเอกที่ยังคงเรื่องราวซิกเนเจอร์ของแบรนด์ผ่านรูปขาทรง  V Shape ที่สามารถเชื่อมต่อทุกองศาการใช้งานได้อย่างลงตัว และยังสามารถ Custom – made โดยมีทีมที่ปรึกษาพร้อมให้การแนะนำอย่างใกล้ชิดในแบบฉบับที่เป็นคุณ

โดยภายในงานยังได้รับเกียรติจากคุณ กัญญารัตน์ พลาดิศัย ให้เกียรติร่วมแบ่งปันถ่ายทอดเรื่องราวอันน่าประทับใจ When in Italy และเทคนิคการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ร่วมด้วยกับกิจกรรมเวิร์คช็อปโดยทีมบาริสต้าผู้เชี่ยวชาญจาก ‘illy’ เแบรนด์กาแฟชั้นนำคุณภาพระดับโลก นำเสนอศิลปะการดื่มกาแฟที่มีต้นกำเนิดจากอิตาลี และถือเป็นผู้นำวัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่ใส่ใจในการคัดสรรเมล็ดกาแฟอราบิกาที่ดีที่สุดจาก 9 ประเทศ เพื่อสร้างความสุนทรีย์ในการดื่มด่ำอโรมาของกาแฟได้อย่างลงตัว


เพราะสุขภาพที่ดีคือสิ่งที่ทุกคนใส่ใจ เริ่มตั้งแต่การเลือกบริโภคสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย น้ำแร่พรีเมียมจากอิตาลีแบรนด์ ‘San Benedetto’ คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดี เพราะเป็นน้ำแร่ธรรมชาติที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุสำคัญจากเทือกเขาโดโลไมต์และได้รับการยอมรับในฐานะ ‘Ancient Spring of Health’ หรือน้ำพุโบราณแห่งสุขภาพ พร้อมเสิร์ฟความสดชื่นไปกับ ‘Festilia’ แบรนด์น้ำผลไม้แบบพรีเมียมออร์แกนิกจากอิตาลี ที่ส่งตรงความสดชื่นจากเมือง ซิซีลี ซึ่งประวัติศาสตร์กว่า 100 ปีในการนำสูตรลับของครอบครัวมาผสมผสานระหว่างศาสตร์และศิลป์ของการทำน้ำผลไม้ ส่งตรงคุณค่าโภชนาการด้วยการสกัดเย็น เพื่อให้แขกทุกท่านได้สัมผัสกับรสชาติจากอิตาลีฟาร์มอย่างแท้จริง

ไลฟ์คอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบของชานยอล เปิดจองบัตร 6 กันยานี้ !

Alternative Textaccount_circle

SM True จะนำคุณไปปลดปล่อยหัวใจให้เป็นอิสระในเมืองของชานยอล กับไลฟ์คอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบ เปิดจองบัตร 6 กันยายนนี้ !

SM True จะนำคุณไปปลดปล่อยหัวใจให้เป็นอิสระพร้อมสัมผัสทัศนียภาพอันน่าหลงใหลในเมืองของศิลปินมากความสามารถ CHANYEOL (ชานยอล) วง EXO ผ่านหลากหลายสีสันทางดนตรีใน 2024 CHANYEOL LIVE TOUR : 都市風景 (City-scape) in BANGKOK (2024 ชานยอล ไลฟ์ ทัวร์ : ซิตี้-สเคป อิน แบงค็อก) ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2567 เวลา 17:00 น. ณ ธันเดอร์โดม

CHANYEOL เป็นที่รู้จักในศิลปินที่มีความสามารถรอบด้าน ผู้อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังความสำเร็จของบทเพลงฮิตมากมาย รวมถึงซิงเกิลเดี่ยวที่เขามีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อร้องซึ่งกลั่นกรองมาจากความนึกคิดและอารมณ์ศิลปินอันลึกซึ้งของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเพลงแนวป๊อปเปรียบความรักเหมือน 4 ฤดูที่วนมาซ้ำ ๆ ‘봄 여름 가을 겨울 (SSFW)’, เพลงแนวอะคูสติก ป๊อปเกี่ยวกับอนาคต ‘Tomorrow’, เพลงแนวซินธ์ ป๊อปปลอบโยนความกังวล ‘그래도 돼 (Good Enough)’ รวมถึงเพลงประกอบซีรีส์อันโด่งดังที่ร้องร่วมกับ PUNCH อย่าง ‘Stay With Me’ ซึ่งได้รับความรักจากแฟนเพลงทั่วโลก ขึ้นแท่นมิวสิกวิดีโอเพลงประกอบซีรีส์ที่มียอดรับชมมากที่สุดบน YouTube ทะลุ 495 ล้านวิวเรียบร้อย ยิ่งไปกว่านั้น เขายังประสบความสำเร็จกับทัวร์แฟนคอนเดี่ยว CHANYEOL FANCON TOUR “THE ETERNITY” ซึ่งการแสดงในประเทศไทย บัตรถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยง พาผู้ชมกว่า 5,000 คน ไปสัมผัสห้วงเวลาอันแสนพิเศษร่วมกันเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมา

ล่าสุด CHANYEOL ได้ปล่อยโซโล่มินิอัลบั้มชุดแรก ‘Black Out’ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งประกอบด้วยเพลงหลากหลายแนวถึง 6 เพลง อีกทั้งเขายังมีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อร้องและใส่รายละเอียดทางดนตรีในแบบฉบับของตัวเอง จากนั้นเตรียมเดินหน้าเต็มกำลังสู่การทำกิจกรรมและไลฟ์ทัวร์ 2024 CHANYEOL LIVE TOUR : 都市風景 (City-scape) ซึ่งมีกำหนดเปิดการแสดง ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 6 และ 7 กันยายนนี้ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังเมืองต่าง ๆ ในเอเชีย ได้แก่ โฮจิมินห์, มะนิลา, กรุงเทพฯ, โตเกียว, ฟุกุโอกะ, โอซาก้า, นาโกย่า, จาการ์ตา และฮ่องกง ซึ่งภาพโปรโมตหลักของไลฟ์ทัวร์ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยภาพลักษณ์อันอบอุ่นชวนฝันของ CHANYEOL บนพื้นหลังภาพทิวทัศน์เมืองในยามค่ำคืนที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อคอนเสิร์ต City-scape (ซิตี้-สเคป) โดยทัศนียภาพเมืองอันหลากหลายจากมุมมองของ CHANYEOL จะถูกเปิดเผยผ่านเวทีและเพลงใหม่ ๆ ตลอดทั้งไลฟ์ทัวร์นี้ ไม่เพียงเท่านี้ เขาได้บอกคิดถึงแฟนคลับชาวไทยผ่านคลิปทักทาย แถมย้ำคำชวนมาเจอกันที่งานอีกด้วย

มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ กรุงเทพฯ เมืองของ EXO-Lชาวไทย เป็นเมืองที่สวยงามและน่าจดจำที่สุดตลอดกาลสำหรับ CHANYEOL พร้อมสัมผัสทุกท่วงทำนองแห่งดนตรีจากหลากหลายบทเพลง รวมถึงผลงานเพลงใหม่ที่จะช่วยขับกล่อมทุกหัวใจให้ประทับใจไม่รู้ลืม เปิดจำหน่ายบัตรรอบสมาชิก “EXO-L” Membership (GL) Pre-Sale ในวันศุกร์ที่ 6 กันยายน 2567 เวลา 19:00 น. – วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 เวลา 4:59 น. ทางเว็บไซต์เท่านั้น และรอบบุคคลทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 11:00 น. เป็นต้นไป ทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ และทางเว็บไซต์ www.allticket.com/event/CHANYEOL_LIVE_TOUR_in_BANGKOK บัตรราคา 6,500 / 5,900 / 5,600 (บัตรยืน) / 4,900 / 4,600 / 3,600 / 2,600 บาท พร้อมสิทธิพิเศษสำหรับผู้ซื้อบัตร ติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางบัญชีโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของ SM True : Facebook (เฟซบุ๊ก) facebook.com/smtruethailand, Instagram (อินสตาแกรม) instagram.com/smtruethailand, X (เอ็กซ์) x.com/SMTrueThailand และ TikTok (ติ๊กต๊อก) tiktok.com/@smtruethailand สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อบัตรได้ทาง Counter Service : อีเมล [email protected] และไลน์ @counterservice

Rejuran

รู้จัก Rejuran ตัวช่วยฟื้นฟูสภาพผิวจากสารสกัดธรรมชาติ

account_circle
Rejuran
Rejuran

ปัญหาผิวหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน สามารถฟื้นฟูสภาพผิวได้ด้วยการฉีดรีจูรัน (Rejuran) อีกหนึ่งหัตถการยอดนิยมจากประเทศเกาหลีใต้ที่มีจุดเด่นเรื่องการฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส สุขภาพดี ด้วยการฉีดสารสกัดจากธรรมชาติเข้าสู่ชั้นผิวหนังโดยตรง พร้อมเติมเต็มผิวให้อิ่มฟู สำหรับใครที่สงสัยว่า Rejuran คืออะไร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ผลลัพธ์หลังฉีดอยู่ได้นานแค่ไหน? บทความนี้เราได้รวบรวมคำตอบและสาระน่ารู้มาให้คุณที่ด้านล่างนี้แล้ว

Rejuran (รีจูรัน) คือสารอะไร?

Rejuran คือ สารสกัดที่มีส่วนประกอบหลักของสารโพลีนิวคลีโอไทด์ (Polyneucleotide) ซึ่งเป็น DNA จากปลาแซลมอนในแหล่งธรรมชาติที่มีความเข้มข้นสูงและบริสุทธิ์ ช่วยฟื้นฟูพร้อมซ่อมแซมผิวให้เรียบเนียน ปรับผิวหน้าดูกระจ่างใส รูขุมขนกระชับมากขึ้น โดย DNA จากปลาชนิดนี้มีความใกล้เคียงกับ DNA ของมนุษย์ จึงเป็นหัตถการที่ปลอดภัย ผู้ที่ฉีดรีจูรันมีโอกาสเกิดอาการแพ้น้อย 

นอกจากนี้ รีจูรันซึ่งผลิตจากประเทศเกาหลี ได้รับการรับรองจาก KFDA และอย. ประเทศไทย ทำให้รีจูรันจัดเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีทางการแพทย์สำหรับฟื้นฟูผิวหน้าที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Rejuran ฉีดบริเวณใดบ้าง?

Rejuran สามารถฉีดได้ในหลายตำแหน่งบนใบหน้าและบริเวณอื่น ๆ เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพผิวและลดเลือนริ้วรอย ดังนี้

  • หน้าผาก : ทำหัตถการฉีดรีจูรันเพื่อลดเลือนริ้วรอยหน้าผากขนาดเล็ก ทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์
  • รอบดวงตา : ลดเลือนรอยคล้ำและร่องลึกใต้ตาให้ดูตื้นขึ้น 
  • แก้ม : การฉีดรีจูรันสามารถช่วยกระชับรูขุมขน ฟื้นฟูผิวหน้าให้แข็งแรง ทำให้จุดด่างดำดูจางลง และผิวเรียบเนียนขึ้น 
  • ริมฝีปาก : เป็นบริเวณที่มีริ้วรอยและสภาพผิวค่อนข้างแห้ง รีจูรันจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวชุ่มชื้น เรียบเนียน
  • ลำคอ : สำหรับผู้ที่มีอายุมาก การฉีดรีจูรันจะช่วยลดเลือนริ้วรอยบริเวณลำคอ เพิ่มผิวให้ชุ่มชื้นมากขึ้น
  • หลังมือ : มอบผิวบริเวณหลังมือให้เนียนนุ่ม ดูสุขภาพดี

Rejuran มีขั้นตอนฟื้นฟูผิวอย่างไร?

Rejuran ประกอบด้วยสารโพลีนิวคลีโอไทด์ (Polyneucleotide) ที่เข้ามาช่วยฟื้นฟูผิวและสร้างเซลล์ใหม่ โดยสารดังกล่าวจะเข้าไปซ่อมแซมผิวส่วนที่เสียหายด้วยการกระตุ้นผิวหนังให้ต้านการอักเสบ (Anti-Inflammatory Effect) ซึ่งส่งผลให้เกิดการหลั่ง Growth Factor กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวขึ้นมาใหม่ ตลอดจนการสร้างคอลลาเจน ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน พร้อมเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว

โพลีนิวคลีโอไทด์ในรีจูรันเป็นสารบริสุทธิ์ที่มีคุณสมบัติเข้ากันได้กับผิวของมนุษย์ โดยไม่ส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านใด ๆ มีลักษณะเป็นเจลโปร่งใส หลังฉีดรีจูรันเข้าไปแล้วสารจะค่อย ๆ กลืนไปกับร่างกาย อีกทั้งเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวชั้นหนังแท้และชั้นหนังกำพร้า

Rejuran เหมาะกับใครบ้าง?

รีจูรัน ดีไหม

ผู้ที่กำลังสนใจฉีดรีจูรันแต่ยังไม่แน่ใจว่าเหมาะกับตนเองไหม เนื่องจากการฉีดรีจูรันมีราคาค่อนข้างสูง และมีหลายรุ่นให้เลือก แต่โดยรวมนั้น Rejuran สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวได้ดังต่อไปนี้ 

  • ผู้ที่มีผิวหน้าหมองคล้ำ มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ
  • ผู้ที่มีริ้วรอยบนใบหน้าชนิดตื้น เช่น ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว แก้ม ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน 
  • ผู้ที่ใบหน้าเริ่มมีความหย่อนคล้อยไม่รุนแรง และต้องการปรับสภาพผิวด้วยการกระตุ้นคอลลาเจน ให้ผิวหน้ากระชับ เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ลง
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น
  • ผู้ที่มีปัญหารอยดำ รอยแดง และหลุมสิว
  • ผู้ที่ต้องการเสริมเกราะป้องกันให้ผิว เสริมความแข็งแรงให้ผิว

Rejuran ผลลัพธ์หลังฉีดอยู่ได้นานแค่ไหน?

รีจูรันเป็นหัตถการสำหรับฟื้นฟูผิวหน้าในรูปแบบการฉีดสารสกัดเข้าสู่ผิวหนังโดยตรง ซึ่งผู้เข้ารับบริการสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-5 วัน หากต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แนะนำให้ฉีดรีจูรันอย่างต่อเนื่องจำนวน 3-4 ครั้งขึ้นไป เว้นระยะห่างทุก 3-4สัปดาห์ โดยผลลัพธ์โดยรวมหลังฉีดสามารถอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล สูตรที่เลือกฉีด และวิธีการดูแลตนเองหลังฉีด 

Rejuran ตัวช่วยฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน อิ่มน้ำ ดูกระจ่างใส

Rejuran เป็นการฉีดสารสกัดที่มีส่วนผสมหลักของโพลีนิวคลีโอไทด์เข้าสู่ชั้นผิวโดยตรงเพื่อฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียน ลดความหมองคล้ำและริ้วรอย พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวดูกระจ่างใสได้อย่างมีประสิทธิภาพ หัตถการนี้มีความปลอดภัย โดยสามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้าบริเวณผิวที่มีปัญหา เช่น หน้าผาก, ระหว่างคิ้ว, หน้าแก้ม หรือบริเวณรอบ ๆ ปาก โดยเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล 

สำหรับใครที่กำลังสนใจฉีดรีจูรันและต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจทำหัตถการ ที่แอป SkinX ก็มีบริการให้คำปรึกษาปัญหาผิวโดยแพทย์ผิวหนังจากสถานพยาบาล และคลินิกชั้นนำบนช่องทางออนไลน์แบบตัวต่อตัว พร้อมดีลความงามจากคลินิกดังมากมายที่เข้าร่วมกับทางแอป สำหรับการปรึกษากับแพทย์ครั้งแรก ไม่เสียค่าใช้จ่าย

‘คนแอบรัก รักเขาข้างเดียว มีดวงเปิดใจปุ๊บติดใจปั๊บ ใครกันน้า?? ต้องเช็ก!!’ ดวงรายสัปดาห์ 2-8 กันยายน 2567

Alternative Textaccount_circle

‘คนแอบรัก รักเขาข้างเดียว มีดวงเปิดใจปุ๊บติดใจปั๊บ’

ดวงรายสัปดาห์ 2-8 กันยายน 2567

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์          

การงาน  :   สำหรับชาวอาทิตย์ขอให้เริ่มต้นสัปดาห์แรกของเดือนด้วยความไม่ประมาทนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้อารมณ์ความรู้สึกในการแสดงออก เช่น โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ งานเขียน งานบันเทิง นักแสดง ดีไซเนอร์ ศิลปิน ด้วยแล้ว รวมถึงที่เกี่ยวข้องกับน้ำทุกชนิด  ยิ่งต้องระวังตัวให้มาก เพราะมีโอกาสที่เพื่อนคู่หู หรือหุ้นส่วนจะมีใจเป็นอื่น เกิดการขัดแย้งอย่างรุนแรงจนไม่สามารถร่วมงานกันได้อีก มีความเสี่ยงสูงที่จะไปต่อกันไม่ได้

การเงิน  :  หากสัปดาห์ที่แล้วยังพอมีเงินเหลืออยู่ ช่วงนี้ก็ขอให้ใช้อย่างประหยัด เพราะมีโอกาสที่เงินจะสะดุด ชักหน้าไม่ถึงหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรงดเที่ยว งดช็อปปิ้งกับเพื่อนผู้หญิง หรือญาติผู้หญิงสักพัก

ความรัก  :  รักมากก็หวงมากนะคะ ดังนั้น สัปดาห์นี้จึงควรวางตัวให้ดี ไม่ว่าคุณหรือคู่ครองก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสนิทสนมที่มีต่อเพื่อนหญิง หรือญาติผู้หญิง เพราะมีโอกาสที่ต่างคนจะไม่เข้าใจถึงขั้นหึงหวงได้เลย แล้วไม่ใช่แค่ธรรมดา มีความเสี่ยงที่จะทะเลาะกันบ้านแตกเลยทีเดียว  คนโสด  ช่วงนี้เนื้อหอมนะคะคุณ ไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็มีโอกาสเข้ามาขอแอ๊ดเฟรนด์ด้วยทั้งนั้น ขอย้ำว่าจะเกิดจากความใกล้ชิด เช่น เพื่อนร่วมงาน เพื่อนสนิท แม้ว่ายังไม่ตกลงเป็นแฟน แต่ความหึงหวง ความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของใส่กันรัวๆ ไปแล้ว  

สุขภาพ  :  มีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นไข้หวัด เลือดจาง ปอดบวม ความผิดปกติในเม็ดเลือด นอกจากนั้นยังมีโอกาสที่จะเป็นโรคความดันและน้ำในหูไม่เท่ากัน

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  เป็นไปได้ที่ชาวจันทร์จะเริ่มต้นสัปดาห์แรกของเดือนกับโอกาสใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการ การติดต่อประสานงาน หรือให้บริการคำปรึกษาแนะนำในด้านต่างๆ สัปดาห์นี้มีโอกาสที่คุณจะได้เริ่มต้นธุรกิจใหม่ๆ หรือโยกย้ายหน่วยงานไปอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ที่มั่นคงขึ้น ซึ่งจะตรงกับความถนัดของคุณด้วย นั่นคือ ใช้ความสามารถทางการติดต่อสื่อสาร เช่น โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อสารองค์กร สื่อสารมวลชน งานขาย เป็นต้น แต่สิ่งที่ต้องระวังคือความใจร้อน ตัดสินใจแบบกล้าได้กล้าเสีย เพราะจะทำให้งานหรือธุรกิจสะดุดอย่างที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น  

การเงิน  :  จริงๆ แล้วคุณมีโชคทางด้านทรัพย์สินและการลงทุน ซึ่งคุณก็บริหารจัดการทรัพย์สินตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ช่วงนี้ต้องระวังความใจดี ใจอ่อนของตัวเองที่มีโอกาสควักเงินให้คนอื่น ทั้งที่รู้จักและมิจฉาชีพได้ง่ายมาก แล้วเป็นไปได้ว่าจะให้คนอื่นมากกว่าให้ตัวเองอีก  

ความรัก  :  สัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าชาวจันทร์จะหันมุมความเก่งไว้ข้างหลัง แล้วส่องประกายความเย้ายวนนวลตารายรอบตัว แล้วไม่ใช่แค่คู่ครองตัวเอง แต่ยังมีออร่าไปถึงคนรอบข้างด้วย ก็อย่าเคลิบเคลิ้มมากนัก เพราะมีโอกาสที่ครอบครัวจะเดือดร้อนได้ คนโสด  ชาวจันทร์สัปดาห์นี้ก็ยังวนๆ อยู่กับความมีเสน่ห์ เนื้อหอม ที่เพิ่มเติมคือใจอ่อน สามารถตกปากรับคำคบกันอย่างง่ายเลย

สุขภาพ  :   ทรงพลังไม่ไหวแล้วค่ะสัปดาห์นี้ ต้องระวังจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ทอลซินอักเสบ หลอดลมอักเสบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟันที่จะเป็นปัญหาใหญ่ของคุณ

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน    สำหรับชาวอังคารเริ่มต้นสัปดาห์แรกของเดือน พร้อมกับเทพพระอังคารซึ่งเป็นเทพประจำวันสถิตอยู่กับคุณ นั่นหมายถึงว่า จะเป็นสัปดาห์ที่คุณจะขยันเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำหรือเจ้าของธุรกิจ เป็นไปได้ว่าคุณจะเหนื่อยและหนักมากๆ เรียกว่าสายตัวแทบขาดเลยทีเดียว นอกจากนั้นคุณยังมีโอกาสได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับงานหรือธุรกิจสีเทาด้วยนะ แต่ไม่ว่าจะทำงานหรือดำเนินธุรกิจอะไร ผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดจะส่งเสริมและสนับสนุนคุณให้ได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้

การเงิน  :   สัปดาห์ของคนขยันทำงานก็ย่อมจะมีโอกาสเพิ่มพูนรายได้ให้กับตัวเองได้มากกว่าปกติอยู่แล้ว นอกจากนั้นยังมีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะอุปถัมภ์ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินหรืองานสีเทา จนถึงดำ เพราะมีความเสี่ยงที่จะทำให้คุณเสียชื่อเสียงได้  

ความรัก  :   เป็นไปได้ว่าคุณจะให้เวลากับงานมากกว่าเวลาของครอบครัว แล้วจากที่คุณทุ่มเททำงานหนักและเหนื่อยเพื่อให้ครอบครัวได้อยู่อย่างสุขสบาย สัปดาห์นี้จึงเอาแต่ใจมากกว่าใช้เหตุผล เรียกว่าคนข้างๆ ตัวเดาใจไม่ถูกกันเลย  คนโสด  สัปดาห์นี้ของชาวอังคารมีโอกาส work hard play hard สูงมาก แล้วเอาแต่ใจตัวสุดๆ ด้วย

สุขภาพ  :  เป็นไปได้ว่าจากความเหนื่อยและเครียด ก็เลยทั้งดื่มและรับประทานแบบหนักหน่วง จึงมีโอกาสที่น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว นอกจากนั้นผลจากการดื่มรัวๆ  ยังมีโอกาสที่จะเจ็บป่วยได้อีกด้วย

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน   :   สำหรับชาวพุธนะคะ เริ่มต้นสัปดาห์แรกของเดือนต้องไม่ประมาทกับตำแหน่ง ชื่อเสียงหรือรางวัลที่ได้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้สติปัญญา ความสามารถเฉพาะตัวค่อนข้างสูง หรือต้องใช้ทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น นักบริหาร นักการเมือง การปกครอง นักการทูต นักธุรกิจ จนถึงแพทย์ หรือซินแส เพราะสัปดาห์นี้มีความไม่แน่นอนสูงมากว่า จากผลงานที่เคยเป็นท็อปฟอร์มอาจหลุดโผ หากคุณเสนอโครงการไปแล้ว หรือตั้งใจจะเสนอในเร็ววันนี้ มีโอกาสไม่ผ่านสูงมาก ดังนั้น จึงควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นให้มากๆ อย่ามองคนที่คิดต่างเป็นปฏิปักษ์ไปหมดนะคะ

การเงิน  :  จริงๆ แล้วคุณมีโอกาสที่จะได้เงินทองและชื่อเสียง รวมถึงผู้ใหญ่ใจดีอุปถัมภ์ไม่ให้เดือดร้อนเลยนะ ซึ่งคุณเองก็มีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว แต่ในช่วงสัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าจะมีรายจ่ายเข้ามารัวๆ ให้ชักหน้าไม่ถึงหลังเลยทีเดียว  

ความรัก  :  สัปดาห์นี้คุณค่อนข้างจะเอาจริงเอาจังกับความรักความสัมพันธ์นะคะ หากชีวิตคู่ของใครที่ยังดำเนินไม่ถูกต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณี สัปดาห์นี้งานพิธีต้องเข้าล่ะ  คนโสด  หากใครที่ยังแอบรัก เฝ้ามองเขาอยู่ฝ่ายเดียว สัปดาห์นี้สนับสนุนให้แสดงตัว เพราะคุณมีเสน่ห์เป็นอำนาจอยู่ เรียกว่าเปิดใจปุ๊บติดใจปั๊บเลยทีเดียว  

สุขภาพ  :   ดวงสุขภาพของชาวพุธเด่นมากเลยเรื่อง กิน ดื่ม เที่ยวกลางคืน ดังนั้น ต้องระวังเรื่องน้ำหนักที่จะขึ้นมาแบบไม่มีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นมีความเสี่ยงที่อาการปวดศีรษะจะกลายเป็นโรคประจำตัวได้ 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :   สำหรับชาวพฤหัส มีโอกาสที่จะเริ่มต้นสัปดาห์แรกของเดือนด้วยการทำงานหรือดำเนินธุรกิจกับคนใกล้ชิด ครอบครัว เพื่อนสนิท และเป็นไปได้ที่เขาจะวางตัวคุณให้เป็นผู้บุกเบิกเปิดตลาดใหม่ๆ หรือวางนโยบายขับเคลื่อนองค์กร แล้วด้วยความสามารถและประสบการณ์ของคุณที่ดีเยี่ยม กับความเชื่อมั่นในตัวเองที่สูงลิ่ว จึงมีความเสี่ยงที่จะทำให้คุณไม่เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น จนยากที่จะร่วมงานกับคนอื่นได้อย่างราบรื่น  ทางที่ดีควรทำงานของตัวเองจะดีกว่า

การเงิน  :   มีโอกาสสร้างรายได้ที่งดงามจากวาสนาและบารมีของตัวเอง รวมถึงหากทำธุรกิจกับครอบครัวก็มีโอกาสได้เงินปันผล ขณะเดียวกันรายจ่ายของคุณก็สูงตามตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีสังคม ซึ่งสัปดาห์นี้มาบ่อยจนเงินเข้ามือขวาออกมือซ้ายทันที  

ความรัก  :  หากใครที่เพิ่งแต่งงานหรือที่โกรธกันไปแล้วเพิ่งกลับมาคืนดีกัน สัปดาห์นี้มีโอกาสที่จะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข โลกทั้งใบเป็นสีชมพู ยกเว้นว่าคุณจะไม่เคารพความคิดเห็นของกันและกัน พยายามจะครอบงำให้เขาคิดเหมือนคุณ บรรยากาศมีโอกาสกร่อยได้ง่ายๆ เลยนะ คนโสด มีโอกาสที่คุณจะได้พบกับรุ่นน้องที่มีหน้าที่การงานที่สดใสและจิตใจดี ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะปิ๊งกันตั้งแต่แรกเห็น แต่ก่อนจะไปต่อควรเคลียร์ความคิดเห็นมุมมองต่างๆ ให้ตรงกันก่อนนะ จะได้ไม่เสียเวลา  

สุขภาพ   :   แม้คุณจะพยายามดูแลรักษาสุขภาพตัวเองก็ตาม แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ระบบหมุนเวียนโลหิตในร่างกายจะขึ้นไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ มีอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ จนถึงวูบกลางอากาศได้เลย

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  สำหรับชาวศุกร์ คุณมีโอกาสที่จะเริ่มต้นสัปดาห์แรกของเดือนด้วยการทำงานหรือดำเนินธุรกิจกันเป็นหมู่คณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังจะลงสนามแข่งขัน ไม่ว่าจะประมูลงาน ประกวดผลงานประกวดราคา สอบเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง สอบสัมภาษณ์เข้างาน หรือศึกษาต่อก็ตาม ซึ่งคุณคาดหวังและปรารถนาความสำเร็จอย่างแรงกล้า และพยายามทุกวิถีทางที่จะไปให้ถึงจุดนั้น โดยไม่ได้คิดถึงความถูกต้องชอบธรรม ขอบอกว่าด้วยทักษะความรู้ ความสามารถของคุณมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จอยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องไปทางลัดหรือทางลับเลย นอกจากนั้นยังมีความเป็นไปได้ที่คุณจะมีทีมงานที่เก่งระดับปรมาจารย์เสริมอีก  

การเงิน  :  มีโอกาสได้รับรางวัลจากการทำงานหรือธุรกิจ  นอกจากนั้นทีมงานและผู้ใหญ่ก็จะส่งงานดีๆ เงินดีๆ ให้คุณด้วย แต่หากเป็นไปได้ สัปดาห์นี้ควรทำงานคนเดียวดีกว่าร่วมหุ้นกับคนอื่นนะ

ความรัก :   หากใครที่เพิ่งจะผิดพลาดล้มเหลวจากชีวิตคู่มาหมาดๆ  สัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่จะมาดูแลเทคแคร์คุณเป็นคณะ เรียกว่าอบอุ่นจนอึดอัดเลยทีเดียว คนโสด  ก็เช่นกัน หากใครที่เพิ่งจะอกหักเป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่จะยกทีมกันมาดูแลเทคแคร์จิตใจคุณ แต่ยามนี้คุณอยากพักใจเงียบๆ คนเดียวมากกว่า

สุขภาพ  :  ระวังโรคในช่องปากและระบบทางเดินหายใจ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะลุกลามไปถึงระบบการย่อยอาหาร นอกจากนี้อย่าพยายามกดดันตัวเอง เพราะมีโอกาสที่จะกลายเป็นความเครียด จนไปถึงซึมเศร้าได้

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :   สำหรับชาวเสาร์ คุณมีโอกาสที่จะเริ่มต้นสัปดาห์แรกของเดือนด้วยการทำงานหรือดำเนินธุรกิจเป็นหมู่คณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นงานที่เกี่ยวกับสาธารณะประโยชน์ สาธารณะกุศล เช่น มูลนิธิ จิตอาสา สังคมสงเคราะห์ ฯลฯ มีโอกาสที่คุณจะได้อยู่ท่ามกลางผู้ทรงคุณวุฒิที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ซึ่งเป็นไปได้ที่พวกท่านจะชักชวนคุณให้ไปทำงานในโอกาสต่อไปด้วย

การเงิน  :  มีโอกาสที่คุณจะได้เข้าไปร่วมงานบุญ งานอาสา งานสังคม แม้คุณจะไม่ได้หวังผลตอบแทน แต่มีโอกาสที่คุณจะได้รับมากกว่าที่ให้ไป  

ความรัก  :   มีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะจัดการตระเตรียมชีวิตคู่คุณให้อย่างพร้อมสรรพ เป็นไปได้ที่คุณก็พอใจกับสิ่งที่ท่านได้จัดเตรียมไว้ให้ คนโสด  ก็ยังมีโอกาสที่คุณจะพบรักประดุจสายฟ้า ซึ่งครั้งนี้คาดว่าผู้ใหญ่จะประทานมาให้จากฟากฟ้า

 สุขภาพ   :  สัปดาห์นี้เลือดลมก็ยังทำงานได้ไม่ค่อยดีอยู่นะคะ ยังมีอาการเลือดจาง มีโอกาสหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ เป็นลมวูบได้ไม่รู้ตัว ดังนั้น จึงควรนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่นะคะ ควรรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงเลือด ส่วนของมัน ของทอด ของหวาน งดไว้ก่อน

keyboard_arrow_up