จากเมทาลิคสู่กรีนเนอรี่กับ 5 แบบการ์ดแต่งงานมาแน่ปลายปี 2017

account_circle

ใช่ว่าจะมีแต่ชุดเจ้าสาวหรือเครื่องประดับเท่านั้นที่จะมีเทรนด์ เพราะ การ์ดแต่งงาน ก็มีเทรนด์เช่นกัน โดยเฉพาะในปี 2017 นี้ บอกเลยว่ามีให้คุณเลือกถึง 5 แบบเลยทีเดียว อยู่ที่ว่าคุณอยากจะสร้างความประทับใจให้กับวันพิเศษของคุณด้วยธีมอะไร

ส่วนเรื่องกระดาษที่จะนำมาจัดพิมพ์ เราขอแนะนำให้สอบถามมืออาชีพจากทางร้าน รับรองไม่ผิดหวัง ส่วนตอนนี้ไปดูกันว่า จากเทรนด์ปีที่แล้วสู่เทรนด์ปีนี้ มีอะไรยังไงบ้าง ถ้าคุณอยากตามโลกแห่งการแต่งงานให้ทันต้องทำการ์ดแบบไหนบ้าง

1. MONOCHROME COLORS

เลือกโทนสีหลักที่ใจชอบสุดๆ ได้แล้วก็ไม่จำเป้นต้องหาคู่สีตรงข้ามเสมอไป แต่เลือกเฉดสีให้ต่างกันก็ทำให้การ์ดแต่งงานของคุณเป็นอะไรที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณได้มากมายอยู่แล้ว ก็แหม…สีในโลกมีมากมายสารพัดเฉด ต้องมีสักสีที่ตรงใจคุณแน่ๆ

2. TOUCHES OF GOLD LEAF

เทคนิกการใส่ความแวววาวจากโลหะลงไปในตัวการ์ด เพิ่มความเมทาลิคให้การ์ดแต่งงานของคุณดูมีอะไรมากกว่าสีเรียบๆ ที่แอบดูเหงาๆ ในบางดีไซน์

3. PANTONE’S PICK—GREENERY

ถ้า Pantone’s Color ของปี 2017 คือ Greenery แล้วคุณจะยอมเอาต์ไปได้ยังไง เลือกสีเขียวเป็นหัวใจหลักของความชุ่มฉ่ำหัวใจ พร้อมนำรูปทรงของใบไม้ เส้นสายที่แลดูอิงธรรมชาติมาใส่ไว้ในการ์ดเชิญ แค่นี้ก็อินแบบไม่มีเอาต์

4. ORGANIC AND WOOD GRAIN TEXTURES

จัดงานแต่งเอาต์ดอร์หรือเปล่าคะ ถ้าใช่แล้วยังหาแบบการ์ดไม่ได้ เราขอแนะนำให้ใส่ลวดลายบนผิวไม้ลงไปบนการ์ด รวมถึงเลือกสีน้ำตาลจากไม้ชนิดต่างๆ มาเพิ่มความเป็นงานเอาต์ดอร์ให้กับงานแต่งงานของคุณสิคะ

5. USE OF CITRUS ELEMENTS

การ์ดแต่งงาน

งานแต่งงานเมืองร้อนอย่างบ้านเรา ถ้าจะให้ดีงามในการ์ดแต่งงานควรมีสีสันสดใสที่ช่วยย้ำความเป็นซัมเมอร์หลายเดือน ด้วยการเลือกสีส้มมาเป็นหัวใจหลักในการใช้สีแจ่มๆ กับการ์ดแต่งงาน รับรองว่างานไม่มีจืด แต่จะเปี่ยมไปด้วยสีสันที่สดชื่นหัวใจทั้งคนแต่งและแขกเหรื่อ

กชพร วงศ์ศักดิ์วานิช

เซลฟี่ยังไงให้รอดทุกมุม!! เซเลบสาว โจมิ – กชพร มีไอเท็มตัวเด็ดและเมคอัพกลบจุดบกพร่องมาบอก

Alternative Textaccount_circle
กชพร วงศ์ศักดิ์วานิช
กชพร วงศ์ศักดิ์วานิช

เห็นเซเลบบางคนลงรูปผ่านโซเชียล แล้วรู้สึกอยากรู้ที่มาและเคล็ดลับงานละเอียดที่ทำให้พวกนางสวยเป๊ะปังทุกมุมอย่างสาวสวยคอเซลฟี่ “โจมิ – กชพร วงศ์ศักดิ์วานิช” เบื้องหลังหรือเคล็ดลับหลักๆ คือการมีไอเท็มตัวช่วยและเมคอัพกลบจุดบกพร่องเสริมจุดเด่นเสกความปัง เพื่อที่เมื่อมีนาทีรัวชัตเตอร์ไม่ว่ามุมไหนจึงสวยรอดบอกเลยว่า…แอพแต่งรูปเป็นแค่ส่วนรองที่เหลือคืองานฝีมือนะเธอ

A post shared by ♬ ۵ ♪ (@jomiwsvn) on

A post shared by ♬ ۵ ♪ (@jomiwsvn) on

จุดเรียกไลค์

                                     

“ส่วนตัวคืองานโชว์ผิวเลยค่ะ โจมิไม่เคยต้องใช้แอพแต่งรูปหน้าใสหรือลบรอยสิว เคล็ดลับคือ ต้องมีวินัยในการดูแลผิว นอกจากดื่มน้ำเยอะๆ แล้ว ยังมาสก์หน้าเป็นประจำอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ ไอเท็มที่แนะนำคือ ‘Anne Semonin’ Mineral Mask และชีทมาสก์ ‘SK-II’ Facial Treatment Mask บวกกับปัญหาขนบนหน้าค่อนข้างเยอะ ทุกเดือนจึงต้องไป Anastasia แว็กซ์ขนบนหน้าผากและหนวด เพื่อให้ผิวดูเกลี้ยงเกลาและช่วยให้เมคอัพได้เนียนยิ่งขึ้น

A post shared by ♬ ۵ ♪ (@jomiwsvn) on

ต่อให้ชอบการแต่งหน้าอย่างไรก็ต้องหาเวลาพักผิวให้หายใจบ้าง พยายามแต่งหน้าให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมคอัพจัดหนักแค่สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้งเท่านั้น

A post shared by ♬ ۵ ♪ (@jomiwsvn) on

เทคนิคเมคอัพเผยผิว เริ่มจากลงไพรเมอร์ ‘Benefit’ The Porefessional Face Primer เน้นทาแค่เรียบเนียน เลือกใช้ซีซีครีมที่ให้ลุคบางเบาแทนรองพื้น ‘it Cosmetics’ Your Skin ButBetter CC Cream with SPF 50 + วอร์มบนหลังมือให้ เนื้อครีมแตกตัว แล้วใช้แปรงรองพื้น ช่วยเกลี่ย จากนั้นลงคอนซีลเลอร์ บริเวณใต้ตา โดยใช้นิ้วนางค่อย ๆ แตะ และเบลนด์ให้เข้ากับผิว”

A post shared by ♬ ۵ ♪ (@jomiwsvn) on

A post shared by ♬ ۵ ♪ (@jomiwsvn) on

สยบจุดบกพร่องชั้นตาไม่เท่ากัน

เดิมเวลาถ่ายรูปต้องหันข้าง เพราะชั้นตาสองข้างไม่เท่ากัน โชคดีมากที่ผู้หญิงเรามีเมคอัพ โจมิจะลงอายไพรเมอร์เพื่อควบคุมอายแชโดว์ไม่ให้ หลุดเลอะ แล้วใช้อายแชโดว์ ‘Urban Decay’ Naked3 Eyeshadow Palette ช่วยสร้างแสงเงาหลอกตา

เริ่มจากทาสีน้ำตาลอ่อนให้ทั่วเปลือกตา แล้วเติมน้ำตาลเข้มบริเวณหางตาให้เบ้าตาดูลึก จากนั้นแต้มอายแชโดว์สีอ่อนที่ผสมชิมเมอร์บริเวณหัวตาไปจนถึงกลางตา เพื่อเพิ่มมิติและอำพรางชั้นตา ที่เวิร์คสุดคือการเขียนอายไลเนอร์กลบจุดด้อย โดยใช้อายแชโดว์สีเข้มวาดชิดขอบตาด้านบนเป็นโครงก่อน แล้วจึงเขียนทับด้วยอายไลเนอร์แบบลิควิดสีดำสนิท ‘Kat Von D’ Tattoo Liner เน้นหางตวัดเล็กน้อยทำให้หน้าดูเฉี่ยวขึ้น สำหรับคนที่ชั้นตาน้อยให้เขียนไลเนอร์เส้นบางหน่อย ตาจะดูโตขึ้นค่ะ

A post shared by ♬ ۵ ♪ (@jomiwsvn) on

คอนแท็คท์เลนส์ก็ช่วยหักเหจุดสนใจได้นะคะ โจมิชอบคอนแท็คท์เลนส์สีน้ำตาลและเทา เพราะให้ลุคที่ดูลึกลับน่าค้นหา ที่หลีกเลี่ยงอย่างแรงคือบิ๊กอาย ยิ่งสำหรับสาวเอเชียที่มีเบ้าตาค่อนข้างเล็ก เลนส์ของบิ๊กอายจะดูใหญ่กว่าตาจริง ดูหลอกเกินไปค่ะ”

A post shared by ♬ ۵ ♪ (@jomiwsvn) on

A post shared by ♬ ۵ ♪ (@jomiwsvn) on

หน้าผากกว้างชัด

“มุมกล้องไม่เคยช่วยกับจุดนี้ เซลฟี่ทุกทีต้องมีเซ็ง เรื่องหน้าผากเป็นจุดเดียวที่ต้องพึ่งแอพ แต่งรูปบวกกับเทคนิคเมคอัพช่วยอำพราง เคล็ดลับ คือ ใช้บรอนเซอร์ปัดวนเบาๆ คล้ายกับการระบายสี เพิ่มเงาบนหน้าผาก แต่อย่าลงน้ำหนักแรงมาก จะทำให้หน้าดูคล้ำดำไปทันที

“ชอบตลับ ‘Too Faced’ Dark Chocolate Soleil Bronzer เฉดสีน้ำตาลของบรอนเซอร์ เนียนเข้ากับผิว ให้ความเป็นธรรมชาติเหมือนผิวเพิ่งบ่มแดดมา และยังสามารถใช้คอนทัวร์กรอบหน้าให้ดูมีมิติ และปัดใต้คางบังเหนียงได้ด้วย”

A post shared by ♬ ۵ ♪ (@jomiwsvn) on

เมคอัพพลาด…เมื่อเจอแสงแฟลช

“ความผิดครั้งใหญ่ตั้งแต่เคยเซลฟี่มาคือ ใช้สีไฮไลท์ที่เข้มเกินไปไม่เหมาะกับผิวขาวเหลืองเอเชียอย่างเรา สีทองเข้ม เปล่งประกาย สวยแค่นอกกล้อง แต่พอเจอแสงแฟลชเข้าไปจบเลย ผิวจะดูเป็นปื้นๆ เหมือนหน้าโดนระเบิดมา ข้อห้ามอีกอย่างสำหรับสาวผิวขาวเหลือง คือ ลิปสติกสีอ่อนอย่างชมพูนมเย็นหรือ ชมพูบาร์บี้ ถ่ายรูปแล้วดูป่วยมากกว่าสวย”

A post shared by ♬ ۵ ♪ (@jomiwsvn) on

A post shared by ♬ ۵ ♪ (@jomiwsvn) on

A post shared by ♬ ۵ ♪ (@jomiwsvn) on

โพสหน้าxแอพกล้อง

“สำหรับสาวปากค่อนข้างหนา โพสหน้าด้วยการปล่อยปากนิดๆ เรียวปากจะดูอวบอิ่มน่าจูบ ส่วนแอพลิเคชั่นแต่งรูปที่แนะนำคือ Facetune ใช้ดึงผมกลบความกว้างของหน้าผากได้เนียนมากค่ะ”

เครดิต : นิตยสารแพรว ฉบับที่ 904 คอลัมน์ BEAUTY SECRET
ภาพจาก Instagram : jomiwsvn

มือใหม่หัดแต่งลองเลย!! สอนแต่งหน้า 6 สเต็ปสำหรับสาวแรกรุ่น สวยเนเชอรัล งดสีสันจัดจ้านเกินวัย

Alternative Textaccount_circle
เรื่องความสวยความงามสำหรับผู้หญิงเรานั้นถือเป็นของคู่กันมานาน ไม่ว่าจะสาวน้อย หรือสาวใหญ่ ต่างก็อยากมีใบหน้าที่สวยงามกันทั้งนั้น แอบเห็นสาววัยแรกรุ่นหลายคน เริ่มดูแลตัวเองและหัดแต่งหน้า แต่จะแต่งหน้าอย่างไรให้เหมาะสมกับวัย ไม่ให้ดูเกินวัย แพรวดอทคอม และเครื่องสำอาง Make Up Factory มีเทคนิคดีๆ มาฝาก 6 สเต็ป โดยจะเป็นการแต่งแบบเบาๆ อ่อนๆ ไม่ใช้สีสันที่จัด และไม่ใช้รองพื้นในการแต่งหน้า ที่สำคัญสามารถแต่งตามได้ง่ายๆ แม้จะเป็นมือใหม่อย่างน้องๆ วัยใสก็ตาม

 6 ขั้นตอนการแต่งหน้าสาววัยแรกรุ่น

ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนนี้เป็นพื้นฐานสำคัญของการแต่งหน้า คือขั้นตอนการใช้เมคอัพเบส ซึ่งในการแต่งหน้าครั้งนี้ เลือกใช้ Illuminating Skin Perfector และตามด้วยหรือใช้ผสมกับ Strobing Fluid เพื่อให้ใบหน้าแลดูเปล่งปลั่งเป็นประกาย โดยใช้คู่กับแปรงทรงแบน Foundation Brush หรือแปรง Multitalent Powder and Foundation Brush แปรงชนิดทรงกลมเกลี่ยง่าย สาววัยแรกรุ่นที่ยังไม่มีความชำนาญในการแต่งหน้า ขอแนะนำให้ใช้แปรงทรงกลมเพราะจะเกลี่ยได้ง่ายกว่าแปรงทรงแบน


ขั้นตอนที่ 2 : ลงแป้งฝุ่นชนิดโปร่งแสง ในครั้งนี้เลือกใช้แป้งฝุ่นชนิด Light Reflecting Loose Powder ที่ไม่มีสีเพื่อให้ใบหน้าใกล้เคียงกับผิวสีจริงๆ โดยใช้คู่กับแปรงทรงกลมโดยวิธีปัดให้ใช้วนเบาๆ ทั่วใบหน้า ยกเว้นบริเวณตา


ขั้นตอนที่ 3 : เขียนคิ้วโดยจะเน้นการตั้งโครงคิ้วเพราะคิ้วเป็นส่วนที่สำคัญในการแต่งหน้า ช่วยให้โครงหน้าแลดูได้รูป โดยเริ่มต้นด้วยการทำให้คิ้วได้รูปด้วยการถอนหรือกันคิ้ว ไม่แนะนำให้สาวแรกรุ่นกันคิ้วหรือถอนขนคิ้วเองนะคะ แต่แนะนำให้ผู้เชี่ยวชาญและชำนาญในอาชีพเป็นผู้ทำให้ดีกว่าค่ะ

เมื่อขนคิ้วแลดูได้รูปแล้ว จากนั้นระบายขนคิ้วด้วย Eye Brow Powder with Stencils#2 วิธีเขียนคิ้วให้แลดูสวยงามนั้น เริ่มจากการเขียนโครงคิ้วโดยเริ่มวางโครงของการเขียนคิ้วบริเวณใต้ท้องคิ้วเพื่อให้คิ้วมีโครงขึ้น และระบายคิ้วเบาๆ ไปตามขนคิ้วโดยไม่ให้เกินมานอกแนวขนคิ้ว (สำหรับคนที่ขนคิ้วบางก็ให้ระบายตามเส้นคิ้วและตามด้วยมาสคาร่าเจล Tinted Eyebrow Gel #3สีน้ำตาลมอคค่า) เพื่อให้แลดูสมวัย

ในการแต่งหน้าของสาวแรกรุ่นเน้นคิ้วเป็นส่วนสำคัญและใช้ Mascara brush เพื่อจัดระเบียบขนคิ้วเพื่อให้คิ้วแลดูเรียงกันเป็นเส้น  ข้อแนะนำ ไม่ควรระบายคิ้วให้เป็นสีเข้มหรือเขียนออกมานอกแนวขนคิ้วนะคะเพราะจะแลดูเกินวัย


ขั้นตอนที่ 4 : ขั้นตอนของการแต่งตาโดยใช้ Sensitive Eye Shadow Base เหมือนกับเป็นการรองพื้นตาเพื่อให้ Eye Shadow ดูชัดขึ้นและติดทน เมื่อลงเบสที่ตาแล้ว ใช้ Luxury Glitter Cream ครีมชนิดที่ช่วยให้ตาแลดูมี Glitter พอควร ทาลงที่เปลือกตา

ต่อด้วยทา Eye Shadow โดยเลือกสีให้ดูสมวัย Eye Color#7 สี Earth Tone โดยการทาอายแชโดว์ 2 สี เริ่มด้วยการทาสีกลาง โดยทาตามแนวกระบอกตาจากหัวตาถึงหางตา จากนั้นใช้สีไฮไลท์ลงบริเวณหัวตาเพื่อให้ตาแลดูสว่างขึ้น หลังจากนั้นใช้ไลน์เนอร์ Kajai Definer 01 กรีดขอบตาให้ตาแลดูคมขึ้น โดยเขียนติดเส้นแนวขอบตา


ขั้นตอนที่ 5 : ปัดแก้มเป็นทรงกลมบริเวณแนวหน้าแก้มเท่านั้น เลือกใช้สีออกแนวพีชอมชมพูด้วย Rosy Shine Blusher 07 เพื่อให้แก้มแลดูสดใสสมวัย


ขั้นตอนที่ 6 : ขั้นตอนของการทาปาก แนะนำให้ใช้ High Shine Lip Gloss #45 สีชมพูอ่อนใสแตะเบาๆ บริเวณกลางปากหรือแตะ 3 จุดก็ได้ แตะและเม้มปาก สำหรับเด็กวัยแรกรุ่นนั้นแนะนำให้ใช้ลิปกลอสก็เพียงพอแล้ว ไม่แนะนำให้ใช้ลิปสติกหรือลิปกลอสที่สีเข้ม


เพียงเท่านี้ก็แลดูสวยน่ารักสมวัยแล้ว

 

เรียบเรียง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพ : เครื่องสำอาง Make Up Factory

PRADA ทวงรันเวย์มิลาน จัดแฟชั่นโชว์กับคอลเล็คชั่น RESORT 2018

จบไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมากับงานแฟชั่นโชว์ของPRADAที่ขนทัพคอลเล็คชั่นใหม่อย่าง “RESORT 2018” บุกรันเวย์มิลานอีกครั้ง งานครั้งนี้ถึงจะไม่ได้เว่อร์วัง แต่เต็มไปด้วยดีเทลและการครีเอทที่ทำให้ทุกอย่างดูลงตัวสุดๆ วันนี้แพรวเลยเอาใจสาวกPRADAตัวแม่ พาไปดูว่าคอลเล็คชั่นใหม่นี้มีอะไรโดนจนน่าสอยบ้าง มาดูเลย

 

งานแฟชั่นโชว์ของPRADAครั้งนี้มีเซเลบริตี้อย่าง ซูเซิน ซาแรนดอน  (Susan Sarandon)  บิอันกา แจ็กเกอร์ (Bianca Jagger) และคอร์ทนีย์ เลิฟ (Courtney Love) ที่นั่งอยู่แถวหน้ามาร่วมงานด้วย คนดังเหล่านี้ถือเป็นแบบอย่างของผู้หญิงพราด้า คือเป็นผู้หญิงที่มีความคิดเป็นของตัว มีความเชื่อมั่นในตัวเอง

แฟชั่นของคอลเล็คชั่น “RESORT 2018”  มีดีไซน์ที่เต็มไปด้วยกระโปรงจีบ เสื้อและกระโปรงอ่อน บางส่วนมีลูกปัดตกแต่งอยู่ด้วย สีสันของชุดมีความซนและสนุกสนานปนหวานกันไป

นอกจากนี้ ยังมีชุดกีฬาสไตล์ blousons ด้วย และแทบทุกชุดของPRADAจะใส่ถุงเท้าที่ยาวถึงเข่า สวมใส่กับรองเท้าผ้าใบสไตล์ใหม่ที่มีสีสันสดใส ดีไซน์ของคอลเล็คชั่นนี้เหมาะกับผู้หญิงยุคใหม่ที่ดูทันสมัยจริงๆ

แฟชั่นโชว์จัดขึ้นที่ Osservatorio เป็นสถานที่ใหม่ที่ซ่อนอยู่ด้านบนของย่านช้อปปิ้ง Galleria ซึ่งมีชื่อเสียงมากของมิลาน และเป็นโดมอยู่เหนือร้านของPRADAด้วย ที่นั่งของแขกถูกจัดเรียงกันและถูกปรับทิศทางไปยังโดมที่อยู่เหนือหน้าต่างบานใหญ่ ซึ่งจะสะท้อนแสงและโปร่งแสง นอกจากแฟชั่นโชว์เลิศๆ ที่PRADAได้จัดไว้ แขกที่มาก็จะได้เห็นรายละเอียดของสถาปัตยกรรมที่สลักไว้ด้วย

โชว์ครั้งนี้ให้อารมณ์เป็นกันเองแบบสุดๆ ใกล้ชิดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว คนดูแค่เอื้อมมือออกไปไม่ทันสุดแขน ก็สามารถโดนตัวนางแบบได้แล้ว ให้ความรู้สึกแบบเอ็กซ์คูลซีฟสุดๆ บรรยากาศภายในโชว์ นางแบบเดินไปตามหน้าต่างที่อยู่ระหว่างท้องฟ้ากับโดมเหล็กหรูหรา ซึ่งทำเป็นฉากหลังของการแสดง ระหว่างเดินเพลงจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพื่อให้เข้ากับมูดแอนด์โทนของเสื้อผ้าในแต่ละดีไซน์

เหมือนจะดูเรียบง่ายกับแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่พยายามจะสื่อออกมา ทำให้เห็นถึงความใส่ใจในการทำงานของPRADAสุดๆ และชุดในคอลเล็คชั่นนี้ก็สวยเด็ดจนอยากเอามาไว้ในตู้เสื้อผ้าของตัวเองบ้างแล้วสิ

 

ภาพ : www.prada.com

 

 

แฟชั่นนางเอกหลบไป 4 นางร้ายแม่ลูกอ่อน สวยใส แบ๊วซะ! สามีตะลึง

ดูแฟชั่นของเหล่านางเอกกันบ่อยแล้ว วันนี้มาดูแฟชั่นของนางร้ายหน้าเป๊ะกันบ้าง ที่สำคัญ ทั้ง 4 สาวมีลูกกันหมด แต่ยังแต่งตัวได้ใสๆ แบ๊วๆ มันแกว ฟัวกราส์มากกกกกกกกกกกก

‘ปทิดา กำเนิดพลอย’ หรือที่ทุกคนรู้จักในชื่อ ‘เมย์ เฟื่องอารมย์’ 

 

เสื้อยีนส์และกางเกงยีนส์ขาสั้นขาดๆ ที่แต่งด้วยเลื่อมสีเทอควอยซ์ กับผมทรงดังโงะ เหมือนสาววัย 20 ต้นๆ เลย

เอี้ยมกระโปรงผ้ายีนส์ เสื้อสีขาวแขนยาว กับรองเท้าผ้าใบสีเทา ทรงผมถักเปีย ลุคนี้ดูเด็กลงไป 20 ปี

 เสื้อยืดสีเทาแนวร็อค กางเกงยีนส์สีดำขาดปลาย มากับผ้าใบอีกแล้ว รวบผมขึ้นเป็นดังโงะ ดูวัยรุ่นเปรี้ยวซ่าส์มาก

 


 

ต่อด้วยคุณแม่แสนแซ่บ ‘หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ’

เชื่อไหมล่ะว่าเป็นคุณแม่แล้ว พอสาวหนิงใส่ชุดนี้ จับคู่เสื้อยืดสีขาวกับกระโปรงยีนส์ขาดๆ เข้ารูปมาไว้ด้วยกัน

เสื้อสีขาวลายน่ารักแขนกุด กางเกงยีนส์สีดำขาสั้น ขาดหน่อยๆ ผ้าใบสีขาว กับผมทรงดังโงะ ดูเด็กมาก

เอี้ยมสีดำขาสั้นกับเสื้อแขนกุดสีเทา ใส่แว่นเลนส์ใสเข้าไป ทำให้ได้ลุคเด็กแบบบอยๆ


 

ตามมาติดๆ กับคุณแม่ลุคเซ็กซี่  ‘เป้ย ปานวาด เหมมณี’ ก่อนหั่นผมสั้น

เสื้อยืดสีดำกับกระโปรงยาวสีขาวอมเทา แค่ถักเปียก็ได้ลุคใสๆ

เสื้อกล้ามกับกางเกงยีนส์ ใส่หมวกสลับหน้าหลัง เอียงข้างนิดหน่อย ก็ดูเด็กลงแล้ว

เอี้ยมมาอีกแล้ว อยากดูเด็กต้องมี ทำผมดังโงะสองข้าง ได้ลุคน่ารักๆ


 

จบด้วยคุณแม่เด็กสุดจากทั้ง 4 คน ‘กระแต  ศุภักษร เรืองสมบูรณ์’

แนวเซ็กซี่ก็ดูเด็กได้ แค่แมตช์ยีนส์เข้ากับเกาะอก

เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ขาสั้นสีขาว รวบหางม้าแบบง่ายๆ ใส่หมวกเข้าไป 

ชุดขาวเกาะอกแบบติดกัน กับส้นสูง ก็ดูเด็กได้แค่ใส่หมวกแก๊ป

 

การแต่งตัวช่วยลดอายุได้จริงๆ สาวคนไหนที่วัยใกล้เคียงกับคุณแม่ดาราเหล่านี้ ก็เอาไปเป็นไอเดียแต่งตัวได้ ถ้าอยากดูเด็ก ไม่แก่ล้ำเกินอายุ ก็ต้องเอาลุคของแม่ๆ คนดังไปใช้แล้วล่ะ

 

ภาพ : @mayfuang @ppanward @ningpanita @iamkratae

“ญาดา วิลลาเรจ” สาวลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศสได้รับเลือกให้ถ่ายแบบชุดชั้นใน Victoria’s Secret PINK

เชื่อว่าเป็นความฝันของนางแบบหลายคนที่อยากจะเป็นหนึ่งในนางฟ้าวิคตอเรีย ซีเคร็ท (Victoria’s Secret) แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ใครจะทำได้ เพราะการก้าวเข้าสู่นางแบบระดับโลกไม่มีคำว่าเส้นสาย มีแต่ความพยายามล้วนๆ เช่นเดียวกับ ญาดา วิลลาเรจ (Yada Villaret) นางแบบสาวลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส วัย 18 ปี เธอเป็นอีกหนึ่งสาวที่ได้มีโอกาสเข้าไปแคสติ้งจนได้รับเลือกให้ถ่ายแบบชุดชั้นในแบรนด์ดังอย่าง วิคตอเรีย ซีเคร็ท (Victoria’s Secret)

จะเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสาวไทยก็คงไม่ผิด เพราะแม้เธอจะเป็นลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส แต่สามารถพูดไทยได้คล่องปร๋อเลยทีเดียว ซึ่งตอนนี้เธอขึ้นแท่นกลายเป็นนางแบบที่น่าจับตามองที่สุดอีกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เธอไม่ได้แค่ฮอตแค่ในวงการแฟชั่นไทยเท่านั้น แต่ยังโกอินเตอร์รับงานถ่ายแบบต่างประเทศมาแล้วหลายงาน จนใครๆ ต่างก็ตั้งฉายาให้เธอว่าเป็นเคท มอสส์ เมืองไทย เลยแหละ ซึ่งปีนี้ดูเหมือนว่าความพยายามของเธอใกล้ความฝันเข้ามาอีกนิดแล้ว โดยเธอได้มีโอกาสถ่ายแบบให้ชุดชั้นใน Victoria’s Secret PINK ซึ่งเป็นไลน์ชุดชั้นในสำหรับวัยรุ่นของแบรนด์นี้

โดยก่อนหน้านี้เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่าจริงๆ แล้วแทบจะไม่ได้คาดหวังการงานถ่ายแบบที่ต่างประเทศเลย เพราะหุ่นเธอเมื่อเทียบกับนางแบบที่นี่ เธอกลายเป็นผู้หญิงตัวเล็กไปเลยทีเดียว แถมยังเป็นนางแบบหน้าใหม่มากๆ เริ่มจากศูนย์เลยก็ว่าได้ ซึ่งอาชีพนางแบบของที่นี่ดุเดือดและการแข่งขันสูงมาก แต่ละวันเธอต้องวิ่งไปแคสติ้งงานตลอด กว่าจะได้มาแต่ละงานนั้นไม่ง่ายเลยทีเดียว แต่เธอก็แฮปปี้เพราะอย่างน้อยๆ ตอนนี้ก็ถือว่าเริ่มได้งานถ่ายแบบชิ้นใหญ่มาบ้างแล้ว อย่างเช่นการถ่ายแบบชุดชั้นใน Victoria’s Secret PINK ชิ้นนี้ แต่เรื่องจะได้เป็นหนึ่งในนางฟ้าที่จะได้เดินเฉิดฉายบนรันเวย์นั้นคงอีกไกล เพราะเมื่อปีที่แล้ว เรแกน เคมเพอร์ (Regan Kemper) นางแบบลูกครึ่งไทย-อเมริกันก็ได้ร่วมงานกับ Victoria’s Secret PINK เหมือนกัน แถมยังถูกเชิญให้ไปแคสติ้งเพื่อร่วมเดิน 2016 Victoria’s Secret Fashion Show ด้วยแต่แคสติ้งไม่ผ่าน เช่นเดียวกับเธอที่ยังต้องสะสมประสบการณ์และพัฒนาตัวเองกว่านี้อีกเยอะ กว่าจะไปถึงเวทีนั้น

เรแกน เคมเพอร์ (Regan Kemper) นางแบบลูกครึ่งไทย-อเมริกันอีกคนที่เคยร่วมงานกับ Victoria’s Secret PINK
ญาดา วิลลาเรจ (Yada Villaret)
ญาดา วิลลาเรจ (Yada Villaret)
ญาดา วิลลาเรจ (Yada Villaret)
ญาดา วิลลาเรจ (Yada Villaret)
ญาดา วิลลาเรจ (Yada Villaret)
ญาดา วิลลาเรจ (Yada Villaret)
ญาดา วิลลาเรจ (Yada Villaret)
ญาดา วิลลาเรจ (Yada Villaret)
ญาดา วิลลาเรจ (Yada Villaret)
ญาดา วิลลาเรจ (Yada Villaret)
ญาดา วิลลาเรจ (Yada Villaret)

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : Victoria’s Secret Angels & Models

ดูดวงรายวัน ประจำวันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2560

ดูดวงรายวัน ประจำวันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2560 เช็คทุกวัน ทันทุกดวงกับ แพรว ดอทคอม

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : เป็นวันของผู้หญิงห้าวหาญค่ะ กล้าเสี่ยง มีภาวะความเป็นผู้นำสูง เหมาะกับงานวันแมนโชว์มากกว่างานที่ทำเป็นทีม เพราะบริวารไม่ซื่อสัตย์อาจเป็นต้นเหตุให้งานผิดพลาดได้

การเงิน :  ยึดการลงทุนด้วยอารมณ์ กล้าได้กล้าเสีย จึงทำให้การเงินผันผวนสูง ท่านมีความใจใหญ่ จึงต้องเก็บเงินด้วยการซื้ออสังหาฯ

ความรัก : ความที่ท่านเป็นคนมุทะลุดุดันและเด็ดขาด  อารมณ์จึงฉุนเฉียวและโมโหร้าย สิ่งนี้ล่ะที่จะทำให้ชีวิตคู่มีปัญหา ฝึกสมาธิสามารถช่วยได้ คนโสด มีเสน่ห์มากมาย เนื้อหอม ท่านเน้นความถูกใจโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องนัก

สุขภาพ : ระวังและดูแลเรื่องโรคที่จะมากับสมองกับหัวใจให้ดี

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : กดดัน เพราะท่านได้งานที่เซ้นส์สิทีฟ เสี่ยงต่อความผิดพลาดตลอดเวลา แม้ท่านจะมีอำนาจในการแก้ไข แต่ขอให้ระวังอุปสรรคและความผิดพลาดจะเข้ามาแบบปัจจุบันทันด่วน

การเงิน : ใช้เงินในการลงทุนสูงมาก หรือช่วยเหลือญาติพี่น้อง แต่ท่านก็ได้รับอุปถัมภ์จากผู้ใหญ่ไม่ขาดมือ ระวังอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินที่ได้มาไม่สะอาดหรือจากการทุจริต ผิดกฎหมาย

ความรัก : คู่ครองดี จะช่วยเหลือส่งเสริมในทุกๆ ด้าน  โดยเฉพาะเรื่องเงินทอง คนโสด : คบกัน ชิลด์ไปเรื่อย น่าจะเป็นเพื่อนเที่ยวมากกว่าคิดถึงการเป็นคู่ชีวิต

สุขภาพ : ท่านหักโหมงานหนัก อาจมีเกณฑ์ผ่าตัดจากโรคที่เป็นมาเรื้อรัง

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : วันพระ วันหยุด แต่ไฟในการทำงานของท่านไม่หยุดง่ายๆ รวมทั้งบริวารก็พร้อมที่จะไม่หยุดไปกับท่าน ให้ความร่วมมือจนงานประสบความสำเร็จ

การเงิน : มีโชคด้านการเงิน ท่านหาเงินเก่ง ห่างไกลคำว่าจนหรือหมดตัว

ความรัก :  ชีวิตคู่ราบรื่น คุยกันได้ดี ทัศนคติไปด้วยกันได้ คนโสด ท่านเป็นคนเก่งจึงเป็นจุดเด่นของผู้คน จึงทำให้ท่านเลือกมาก จากมีเสน่ห์อาจกลายเป็นน่าเบื่อไปเลย

สุขภาพ : ระวังอย่ากลั้นปัสสาวะ เสี่ยงต่อการเกิดโรคกรวยไตอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : ท่านแบกรับภาระเรื่องราวของบริวาร คนรัก คนใกล้ชิด ค่อนข้างมาก ซึ่งวันนี้ท่านยังมีความลังเล ไม่กล้าตัดสินใจ หรือกำลังมองหาคำตอบ คงต้องใช้เวลาและการวางแผนให้ดี

การเงิน   :  มีโชคด้านการเงิน แต่เก็บเงินไม่อยู่ หมดไปกับการเดินทาง เข้าสังคม และช่วยเหลือคนจนตัวเองเดือดร้อน

ความรัก : เครียด เพราะท่านรับผิดชอบชีวิตคนในครอบครัวเยอะเกินไป ปล่อยวางบ้าง ช่วยเท่าที่จำเป็น ไม่เช่นนั้นความสุขในครอบครัวก็หายไป คนโสด ท่านได้เจอคนมากมาย ค่อยๆ สกรีนจนคบแต่เนื้อจริงๆ

สุขภาพ :  โดยทั่วไปแข็งแรงดี แต่ให้ระวังอวัยวะตั้งแต่สะโพกลงมา จากการยืนและเดินเป็นเวลานาน

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : วันนี้โชคยังเป็นของท่าน โดยเฉพาะผู้หญิง ความสวยงาม การบันเทิงจะโดดเด่น ได้รับการยอมรับเป็นพิเศษ

การเงิน : มีโชคจากงานที่ต้องใช้การพูด ติดต่อประสานงาน แต่ระวังหมดกับการซื้อของสวย งาม ราคาแพง

ความรัก : ผู้หญิงเด่นในครอบครัวนะคะ ให้เธอช่วยแล้วจะประสบความสำเร็จทุกอย่าง ย้ำค่ะเฉพาะวันนี้ คนโสด หากท่านเป็นหญิงจะมีเสน่ห์ในดวงตา สามารถสะกดใจชายได้อยู่หมัด แต่หากเป็นชาย ก็อย่าเผลอจ้องตาหญิง เพราะจะต้องมนต์เสน่ห์

สุขภาพ : ไม่ค่อยเจ็บป่วยมากนัก แต่ตอนนี้โรคอ้วนเริ่มมาแล้วค่ะ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : ท่านจะได้รับมอบหมายให้ไปบุกเบิกงานใหม่ หรือเปิดกิจการใหม่ในระยะเวลาอันใกล้ ขอให้ท่านเตรียมพร้อมและตั้งใจทำงาน เพราะมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จ

การเงิน : ผลงานจะนำมาซึ่งชื่อเสียงและเงินทอง

ความรัก : ชีวิตคู่ท่านมีโลกส่วนตัวสูงมากกว่าโลกของครอบครัว เพราะฉะนั้นก็ควรใช้เวลาในการทำความเข้าใจ ปรับทัศนคติเข้าหากัน คนโสด อกหักจนเข็ดกับความรัก ขอพักก่อน

สุขภาพ  : โหมงานหนักจนรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา จนทำให้เป็นโรคกระเพาะเรื้อรัง

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : วันนี้ชิลด์ๆๆ ค่ะ เพราะท่านปิดจ็อบได้อย่างสวยงามแล้ว ไปเที่ยวหรือหยุดพักผ่อนให้สบายใจ รองานใหญ่เข้ามา

การเงิน : หมดเปลืองกับการซื้อของสวยงาม รวมถึงเดินทางท่องเที่ยว

ความรัก :  ท่านอาจคาดหวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้กับคู่มากเกินไป จนทำให้เกิดมีปากเสียงกัน คนโสด ท่านมีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม เข้ากับคนอื่นได้ง่าย มีแต่คนมารุมรักจ้า

สุขภาพ : ระวังโรคไข้หวัด ปวดบวม โรคเลือดจาง หรือมีความผิดปกติในเม็ดเลือด

10 ไอเดียเนรมิตทางเข้างานแต่งสุดชิค

account_circle

ทางเข้างานถือเป็นจุดสำคัญสำหรับงานแต่ง เพราะเป็นจุดแรกที่แขกได้พบเจอก่อนจะเข้าสู่ตัวงาน…จะประทับใจหรือไม่เริ่มจากจุดนี้ก่อนเลยก็ว่าได้ เราจึงไม่รีรอที่จะนำไอเดียการตกแต่งทางเข้างานหลากสไตล์มาฝากคุณผู้อ่านค่ะ

1.ทางเข้างานเล่นไฟระยิบระยับ  ทางเดินทอดยาวสีแดงดูมีลูกเล่นมากขึ้นเมื่อมีไฟระยิบระยับจับตาประดับภายใต้หลังคาทรงโค้ง เมื่อแขกเดินผ่านจะให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจไปตลอดทาง

1WD-1

2.ทางเข้างานประดับมวลดอกไม้สะพรั่ง สองข้างทางเต็มไปด้วยดอกไม้น้อยใหญ่ปกคลุมตลอดทางเดิน ให้ความรู้สึกสดชื่นและอ่อนหวานในคราวเดียวกัน

2WD-13.ทางเข้างานแบบย้อมไฟ การย้อมไฟตั้งแต่ทางเข้างานเป็นการใส่อารมณ์ความรู้สึกเพิ่มเข้าไปในบรรยากาศ เช่น ย้อมไฟสีชมพูให้ความรู้สึกหวานละมุน ย้อมไฟสีม่วงให้ความรู้สึกแฟนตาซีชวนฝัน เป็นต้น

3WD-14.ทางเข้างานพรมแดงหลากบรรยากาศ พรมแดงมักเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหรา การปูพรมแดงจึงช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหราให้กับงานเอ้าท์ดอร์ที่มักจะดูสบายๆไม่เป็นทางการได้ดี

4WD-35.ทางเข้างานกลิ่นอายแดนซากุระ บ่าวสาวผู้หลงใหลในดินแดนอาทิตย์อุทัย สามารถเนรมิตทางเข้างานให้มีบรรยากาศโรแมนติกโดยนำต้นซากุระจำลองมาวางเรียงรายตลอดสองข้างทางเดิน หรือนำอุปกรณ์อื่นๆที่สื่อถึงความเป็นญี่ปุ่นมาวางประกอบจะช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับแขกที่มางานได้อินกับบรรยากาศมากยิ่งขึ้น

5WD-16.ทางเข้างานในรูปแบบของฟาร์ม  การจัดงานธีมฟาร์มนั้น นอกจากซุ้มประตูไม้แล้วการนำกองฟางวางเรียงรายบริเวณทางเข้างานจะช่วยให้แขกรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของฟาร์มอย่างแท้จริง

6WD-17.ทางเข้างาน = ทางเข้าบ้าน การแปลงโฉมทางเข้างานให้กลายเป็นทางเดินสู่บ้านของบ่าวสาวช่วยสร้างบรรยากาศความเป็นกันเองได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสื่อถึงครอบครัวแสนสุขในอนาคตด้วย

7WD-18.ทางเข้างานที่มาจากความประทับใจในเรื่องราวของความรัก หากบ่าวสาวมีความประทับใจในการเจอกันครั้งแรก หรือมีความชอบร่วมกันในบางสิ่งบางอย่าง เช่น ชอบเพลงรักเพลงเดียวกัน ก็สามารถนำเนื้อเพลงมาสกรีนบนทางเข้าเพื่อเพิ่มความโรแมนติกให้กับงาน

8WD-19.ทางเข้างานแบบป่าเขาลำเนาไพร เอาใจบ่าวสาวที่รักธรรมชาติด้วยบรรยากาศทางเข้างานแบบป่าเขาลำเนาไพรเพิ่มความสดชื่นให้กับแขกผู้ร่วมงาน

9WD-110.ทางเข้างานที่ได้แรงบันดาลใจจากสถานที่สุดประทับใจ คู่รักที่มีสถานที่สุดประทับใจร่วมกันสามารถเนรมิตโถงทางเข้างานแบบเรียบๆ ให้กลายเป็นสะพานสถานที่สวยงามได้ดังใจฝัน เช่น สะพานพระราม 8 ประดับไฟ  ทอดยาวไปสู่บริเวณงาน

10WD-1

เราหวังว่าบ่าวสาวจะได้ไอเดียทางเข้างานสวยๆ ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างสวยงามนะคะ

ภาพเปิด : SmallmoonPhoto ตกแต่งโดย Marisa The Planner and Organizer

แอบดูห้องน้ำในฝันของแก้มบุ๋ม ที่มาของความสวย เผ็ดช์ ตลอดเวย์ อยากรู้เป็นไง คลิกชม!

คำว่า “สวยในทุกมุมมอง” เป็นอะไรที่สาวๆ อย่างเราโหยหาเป็นที่สุด แพรวจึงชวนสาวๆ ไปดูที่มาของความสวยล้ำในสไตล์สาวแก้มบุ๋ม ปรียาดา สิทธาไชย กับการแต่งห้องน้ำโทนสีชมพู ดำ ที่บ่งบอกถึงความหวานที่แฝงไว้ด้วยความเท่ เผ็ดซ์ และแซ่บลืม กับผู้ช่วยที่รู้ใจ บอกเลยว่าดูแล้วต้องอยากแชร์เพราะมันดีจริงๆ # สนใจบริการเรื่องบ้านครบวงจร ปรึกษาได้ที่ Home Service จาก HomePro

COCCINELLE

Bag Focus!!!! this week is COCCINELLE Happening มากคะ ‘กระเป๋าที่ดาราแห่ใช้กันหนักมาก’

COCCINELLE
COCCINELLE

 

อย่าที่บอกว่า ‘ว่าง’ เป็นต้องส่อง แต่รอบนี้ส่องแล้วเจอนี่เลย แฮปเพ้นนิ่งมากคะ ดาราไทยยกทัพ แครี่กระเป๋าจากแบรนด์ Coccinelle ที่ไม่ได้มาแบบรุ่นเดียว ใบเดียวนะจ๊ะ มาแบบเต็มคราบทุกแบบทุกไซส์ 

ไปคะ ไปดูกัน ว่าทำเนียบดารารอบนี้ มีใครบ้าง

Pound_Praewnista รวบมาให้ละ ^_^

ประเดิมที่สาวคนนี้ ที่ Lucky in Game และ Win in Love สุดๆ กับ ปู-ไปรยา ที่เดี๋ยวนี้ชีพจรลงเท้า เดินทางงว่อนโลกสุดๆ ลุคเที่ยวเจแปนนี้ ปูเลือก กระเป๋า รุ่น Clessidra สีน้ำตาล ราคา 15,900 บาท มาแนวหรูหรา แต่ก็ทะมัดทะแมงดีเหมือนกัน

ด้านสาวมิ้นต์ ชลิดา พี่สาวของน้องชายหุ่นแซ่บที่พี่ขอยอมตายสลบแทบ Six Pack ^_^ กับกระเป๋าสะพายไหล่เก๋ บนวัสดุสานๆ ตัดสลับหนัง ชิคสุดและให้อารมณ์ซัมเมอร์นี้มากๆ กับรุ่น รุ่น Carousel ราคา 14,500 บาท

ส่วนคุณแม่บี – น้ำทิพย์ ที่สลับคราบแซ่บ มาแอ๊บแบ๊ว ที่ได้คุณเมียหลวง – จุ๋ย วรัทยา เสริพทัพแบ๊ว กับ กระเป๋าเป๋ รุ่น Liya ในราคา 17,500 บาท

นี่ก็หน้าเด็กอมตะมาก กับสาวริต้า ที่แครี่ กระเป๋า รุ่น Liya หนังพิมพ์ลายงู สีเมทัลลิค ไซส์เล็ก ( ราคา 17,500 บาท) ออกงาน สวยสลบ จบทุกความเคลื่อนไหวค่า

ด้านคุณแม่ต่าย – ชุติมา มาแนวหวานเว่อร์ เธอเลือกกระเป๋าสีพาสเทลตัดแดง  รุ่น B14 Limited Edition (Valentine’s 2017 Collection) ระดับสาวต่ายซะอย่าง ลิมิเต็ดเท่านั้นคะคุณ!

รถเมย์ก็อินกับเขาด้วยเหมือนกัน ใบที่เธอถือ เราชอบมากนะ (เสียงสูง) คือมันขาว เรียบ คลาสสิค ใช้ได้แบบทั้งเป็นกระเป๋าถือ ก็หรูหราดีนะเธอ แต่พอใส่สายครอสบอดี้เข้าไป ‘เปรี้ยงปังและเท่ขึ้นทันที’ ใบนี้พี่ว่าคุ้ม! ( รุ่น B14 ราคา 10,900 บาท)

ปิดท้ายที่สาวแพน – แพนเค้ก ดูท่าจะเลิฟจริง เพราะถือให้เห็น 2 รุ่นเลยค่าาาา ใบแรก คือ รุ่น B14 ราคา 10,900 บาท ที่มาแบบเรียบหรูบนหนังสีขาว ส่วนอีกใบ ก็จุใจเว่อร์ ใส่ได้หมดทั้งเครื่องสำอาง ยาดม ยาหม่อง กับรุ่น Clotilde ราคา 21,900 บาท ที่เราว่าคุ้ม เพราะความสวยคลาสสิค ปนน่ารักของใบนี้ ใช้ได้ดีทั้งครอบครัว ไม่นั้นจะเห็นคุณแม่น้องแพนถือไปไหนมาไหนอยู่บ่อยๆ หรา (^_^)

ลองแวะไปดูกันเน๊อะ ที่นี่เลย ใกล้ที่ไหน ก็แวะไปนยูว์

สยามดิสคัฟเวอรี่ชั้น G โทร. 091-770-8886

เซ็นทรัลชิดลมชั้น 2 โทร. 091-120-2872,

ดิ เอ็มโพเรียมชั้น 1 โทร. 02-259-9518สยามพารากอน, ชั้น M, โทร. 090-665-9026

เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น1 โทร. 088-088-4820

เซน ชั้น 2 โทร.095-365-3323

เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น1 โทร.095-364-8480, 

เซ็นทรัลบางนา ชั้น1 โทร. 095-365-3321

แล้วมาพบกันใหม่รอบหน้า ว่า Pound_Praewnista จะเอา ‘เป๋าใบไหน’ มาพลิกตะเข็บให้ดู!!!

ผมเชียร์คุณอยู่ คุณก็รู้

เรื่อง : Pound_Praewnista

 

Today and Tomorrow “ชีวิตมีทางไปเสมอ” ของหมิว-ลลิตา ปัญโญภาส

แพรวฉบับ 905 ชวนแม่หมิวพร้อมลูกชายที่ตอนนี้โตเป็นหนุ่ม แถมหล่อมากกกก…มาขึ้นปก พร้อมอัพเดตทุกเรื่องในชีวิตของหมิวให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงกันจ้า

ไม่คิดว่าเวลาจะผ่านไปรวดเร็วขนาดนี้ จากหนุ่มน้อยของแม่หมิว แพลงต้อนและอีตั้นโตเป็นหนุ่มกันแล้ว แถมยังหล่อ และสูงเลยแม่ไปอีก ไม่รู้ว่าในอนาคตจะกลายเป็นสามีแห่งชาติตามรอยรุ่นพี่ไปหรือเปล่าน้า บรรยากาศในการถ่ายแฟชั่นเซตปกในวันนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนาน สองหนุ่มถ่ายแบบได้อย่างเป็นมืออาชีพ โดยเฉพาะอีตั้นที่ดูชอบงานบันเทิงมากกว่าแพลงต้อน ซึ่งล่าสุดที่ผ่านมาอีตั้นก็ได้เดินแบบครั้งแรกในงาน Bangkok International Fashion Week 2017 ส่วนแพลงต้อนนั้นมีความเป็นผู้ใหญ่มาก ทุกอย่างต้องเป๊ะ อย่างวันนี้ที่มาถ่ายกับแพรว หากต้องขาดเรียน แพลงต้อนไม่ยอมแน่นอน แม่หมิวแอบกระซิบมาแบบนี้

อัพเดตเรื่องลูกไปบ้างแล้ว มาที่แม่หมิวกันบ้างดีกว่า หลายคนที่ส่งกำลังใจและความรักไปให้ ต้องบอกเลยว่าเธอได้รับทั้งหมด เห็นได้จากรอยยิ้มในวันนี้ หมิวบอกกับแพรวว่า “เธออยากเป็นนักสู้ที่ไม่ท้อถอยง่าย” ได้ยินแบบนี้หายห่วงได้เลย ส่วนเรื่องงาน เร็วๆ นี้เราจะได้เห็นเธอในบทบาทของพิธีกรรายการ The Queen ราชินีโต๊ะกลม และละครเรื่อง “ล่า” ที่กำลังถ่ายทำอยู่ รับรองว่าแฟนๆ ได้เห็นฝีมือขั้นเทพของเธออีกแน่นอน

ยังมีบทสัมภาษณ์แบบจัดเต็มของสองหนุ่มและแม่หมิวมาให้อ่านกันอย่างจุใจจนวางไม่ลง บอกเลยว่าไม่ควรพลาดจริงๆ รีบพุ่งตัวไปแผงหนังสือ หรือจะสั่งออนไลน์ก็ได้นะจ๊ะ ช้าอดหมดสิทธิ์

ดี้ ชนานา

ดี้-ชนานา นางร้ายวัย 53 ปีสุดแซ่บ เน้นเล่นโยคะ ท่องเที่ยว ชีวิตก็สวยและสุขได้ไม่ยาก

ดี้ ชนานา
ดี้ ชนานา

เป๊ะปังอลังการดาวล้านแปด สำหรับนางร้ายสุดแซ่บ ดี้ – ชนานา นุตาคม ที่เรียกได้ว่าเป็นสาวสองพันปีก็ว่าได้ เพราะอายุแตะเลข 53 ปีแล้ว แต่เรื่องหุ่นนั้นยังเป๊ะ ปัง แซ่บ จนสาวๆ วัยแรกรุ่นอาจต้องยอม ที่สำคัญสุขภาพแข็งแรง รูปร่างดี แถมหน้าตาและจิตใจยังดูสดใสแบบนี้ ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยนะจ๊ะ แต่มาจากการดูแลตัวเองของสาวดี้ทั้งนั้น ส่วนเหล่าสาวน้อยสาวใหญ่ ถ้าจะหันมาดูแลตัวเองให้สวยเลอค่า บอกเลยว่าไม่มีอะไรสายเกินจ้า…

ดี้ ชนานา

เห็นนักแสดงสาว ดี้ – ชนานา บาลานซ์ชีวิต ไม่ว่าเรื่องงานหรือการใช้ชีวิตดีแบบนี้ มองดูแล้วก็น่าเอาเป็นแบบอย่าง เพราะในปีนี้หลังจากสาวดี้จบละครเรื่อง บัลลังก์ดอกไม้ ไป อีกสองผลงาน อาทิ ละครคน ทางช่อง GMM TV และดั่งพรหมลิขิตรัก ทางช่อง 3 ก็มีคิวตามมาติดๆ และถ้าพูดถึงสาวๆ ทั่วไปวัย 50 อัพ หลายคนอาจจะรู้สึกห่อเหี่ยวกับการใช้ชีวิต หรือคิดว่าความสาวความสวยอย่างไรก็ต้องมีลดน้อยลง สู้อย่าเสียเวลาดูแลตัวเองไปเลยดีกว่า แพรวดอทคอม บอกเลยว่าอยากให้ลองปรับเปลี่ยนทัศนคติกันเสียหน่อย เพราะความสวยของผู้หญิงก็อยู่ติดตัวเราตลอดนี่แหละจ้า เพียงแต่ตัวเราต้องเป็นคนใส่ใจดูแลตัวเองและรักตัวเองให้มากเท่านั้นเอง

ดี้ ชนานา

ดี้ ชนานา

ดี้ ชนานา

ดังเช่นสาวดี้ ที่เห็นรูปร่างเป๊ะ แต่งตัวเปรี้ยวแซ่บ ชอบเดินทางไปท่องโลกทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ แถมเรื่องงานในวงการบันเทิงก็ยังมีมาให้แฟนๆ ได้ชมอยู่ตลอดแบบนี้ ก็แบ่งเวลาให้ความสำคัญกับเรื่องการออกกำลังกายมากเหมือนกันนะ โดยสาวดี้ได้เลือกวิธีเล่นโยคะมาช่วยดูแลสุขภาพและรูปร่างตัวเอง ซึ่งก็เล่นโยคะกับป้าจิ๊ – อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ ที่ Agaligo Yoga Studio ด้วย หรือแม้แต่เรื่องเต้นอย่างระบำหน้าท้อง สาวดี้ก็เต้นเช่นกัน ซึ่งก็ได้ทั้งรูปร่างเฟิร์มและความสนุกสนานควบคู่กันมาเลย เรียกว่าสลับสับเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายให้เหมาะกับตัวเอง แพรวดอทคอม ก็ขอสนับสนุนให้สาวๆ หันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น เหมือนนางร้ายสุดแซ่บ ดี้ – ชนานา คนนี้… 
ดี้ ชนานา

ดี้ ชนานา
29.4.17 have a nice day💋 แดดรัอนลมหนาว แต่สาวไทยไม่หวั่น มาถึงนี่ยอมได้ไง!!😍ชุดสวยเพื่อนจัดให้ขอบใจจ้า@huskyeaster (IG @chanana_dee)

ดี้ ชนานา

ดี้ ชนานา
1May17 in front of my room😍 ย้ายมาเมือง #Mamarola 1ใน5เมืองของ#cinqueterre หกโมงครึ่งแดดเปรี้ยง เห็นแดดอย่างนี้หนาวมาก เมื่อเช้าฝนตก ลมแรงและป่วย พอแดดมาชนาสลัดเสื้อหนาวรีบแช๊ะก่อน อากาศไม่แน่นอนเจงๆ😍 ชุดสะทัอนแสง โดย บีวัลวิภา @2girlfriendsclosets #ดี๊ดีทริป #italy #แม่สายแข็ง #นางร้ายสายแข็ง (IG @chanana_dee)

ดี้ ชนานา

ดี้ ชนานา
You can stand under my umbrella☔ แดดเมืองไทยก่อนออกไปไหนต้องทาครีมกันแดด ใส่หมวกหรือกางร่มถึงจะเอาอยู่ ที่จริงฉันก็แก่แดดมานาน กลัวแดดที่ไหน กางเก๋ๆไปงั้นๆ😁😀 #hot #lady #chinatown #แม่สายสตรอง #นางร้ายสายแข็ง #bangkok (IG @chanana_dee)

ดี้ ชนานา ดี้ ชนานา

ดี้ ชนานา
26.3.17 The great whisperers💋 จิตกรรมฝาผนังในโบสถ์อันแสนจะเลื่องลือว่างดงามตามแบบล้านนา ปู่ม่าน ย่าม่าน👫 ที่ได้ฉายาว่า”กระซิบรัก”โรแมนติกมะละ😀 #deedy_trip #traveler #thailand #arts #painting (IG @chanana_dee)

ส่งท้ายด้วยรูปนี้ บอกเลยว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ

ดี้ ชนานา


เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @chanana_dee

10 ลุคน้อยแต่มาก แมตช์แฟชั่นลายทางได้ไม่ซ้ำ เทรนด์นี้กี่ปีก็ไม่มีเบื่อ

จะว่าไปแฟชั่นก็ไปๆ มาๆ อยู่แบบนี้แหละ วนลูปของเก่าของใหม่สลับปรับดีไซน์กันไป แต่เชื่อไหม แฟชั่นลายทาง (Stripe Fashion) ยังเป็นอะไรที่ฮ็อตไม่เลิกจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเชิ้ต เดรส หรือแบบที่แอบมีลูกเล่นเป็นระบายเบาๆ ด้วยความเรียบแต่ดูดีของเทรนด์นี่แหละ ที่ทำให้ยังคงอยู่ในกระแสแฟชั่นได้ตลอด

ไอเดียการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าลายทางก็ไม่ได้จะซับซ้อนอะไรมากนะ แมตช์กันง้ายง่ายกับไอเท็มที่เรามีอยู่ในตู้เสื้อผ้านี่แหละ แต่ก็ได้แนวการแต่งตัวที่แปลกตาขึ้นด้วย เทรนด์นี้จะเป็นที่เมืองนอกหรือในไทยก็ยังเห็นสาวๆ เขานิยมกันอยู่นะ เพราะมันเปลี่ยนลุคได้เยอะมาก ไม่เชื่อมาดู!

 

พับแขนขึ้นหน่อย ปล่อยชายเสื้อลงมาข้างหนึ่ง เก็บเข้าข้างหนึ่ง ก็ทำให้ดูชิคได้


ใส่คู่กับกระโปรงสีน้ำเงินเข้ม เข้ากับเสื้อสีฟ้าอ่อนๆ ผูกชายเสื้อขึ้น ดูหวานปนซน


ใส่เสื้อไว้ด้านในกางเกง พับแขนขึ้นประมาณศอก ใส่เข็มขัดเสริมเข้าไป ดูคูลมาก


ไม่ต้องพับแขนก็ดูสวยได้ แค่ปล่อยชายเสื้อด้านหลังไว้ เก็บเข้าด้านในแค่ข้างหน้า ใส่กับกางเกงพอดีตัวทำให้ดูผอมลง


ใส่คู่กับ Pencil Skirt สีดำ ปลดกระดุมเสื้อมากหน่อย พับแขนขึ้นหลวมๆ คือสวยเลย


ต่อไปมาดูคนดังของไทยกันบ้างว่าใส่แฟชั่นลายทางแบบไหน และแมตช์กับอะไรบ้าง

                                                  ปุ๊กลุก – ฝนทิพย์ วัชรตระกูล

มาในสไตล์เรียบๆ แต่ปลดกระดุมออกเยอะกว่าปกติ โชว์เซ็กซี่แบบพอดีๆ


ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์ 

ญาญ่าในลุคแฟชั่นลายทางทั้งชุด ปลดประดุมโชว์ไหล่ ใส่คู่กับผ้าใบสีขาวก็สวยไปอีกแบบ


เมย์ เฟื่องอารมย์

เสื้อลายทางมีดีเทลเป็นระบายตรงแขน ใส่คู่กับกางเกงยีนส์ขาดๆ เซอร์กับหวานก็ดูเข้ากันได้ 


โมเม – นภัสสร บุรณศิริ

เสื้อลายทางคอกว้างเปิดไหล่ มีสายผูกตรงเอวทำให้ดูเข้ารูป ใส่กับกางเกงยีนส์สีเข้ม ดูเก๋ดีเหมือนกัน


                                                    หญิง – รฐา โพธิ์งาม

สายหวานต้องจัด เสื้อลายทางเล่นระบาย แถมยังปาดไหล่แบบนี้ ใส่กับกางเกงขาสั้นสีขาว รองเท้าผ้าใบ ดูไม่มากไม่น้อย ลงตัวดีจริงๆ


ใครปลื้มสไตล์ไหน ลองนำไปแต่งตามกันดู อาจจะได้ลุคใหม่ที่เข้ากับตัวเองก็ได้

ภาพ : www.lefashion.com , IG@urassayas , @realyingrhatha , @dailycherie , @pooklook_fonthip , @mayfuang

ใต้ร่มฉัตร

ใต้ร่มฉัตร เปิดเรื่องราวชีวประวัติ หม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์ เตรียมตัวไปเรียนเมืองนอก (ตอนที่ 6)

ใต้ร่มฉัตร
ใต้ร่มฉัตร

ใต้ร่มฉัตร เปิดเรื่องราวชีวประวัติ หม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์ เตรียมตัวไปเรียนเมืองนอก (ตอนที่ 6)

ใต้ร่มฉัตรดำเนินมาถึงตอนที่หม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์ ทรงเดินทางไปเรียนต่อที่เมืองนอก เพื่อให้ได้ชื่อว่าไปเห็นความเป็นอารยะของบ้านเมืองอื่น ซึ่งการไปเรียนต่างประเทศของเด็กนักเรียนไทยในยุคก่อนนั้น อาจจะเป็นความฝันที่ไกลเกินเอื้อม แต่หม่อมเจ้าการวิกก็ทรงได้รับพระมหากรุณาธิคุณนั้น อย่างที่ท่านเองก็ไม่คาดฝัน…

ความใฝ่ฝันอย่างหนึ่งของเด็กนักเรียนสมัยก่อนคือ การเดินทางไปเรียนต่อที่เมืองนอก เพื่อให้ได้ชื่อว่าไปเห็นความเป็นอารยะของบ้านเมืองอื่น ซึ่งโอกาสเช่นนี้มิใช่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ จะต้องพร้อมด้วยปัจจัยต่างๆ ถ้าใครได้ไปก็เหมือนกับถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ ตัวผมก็ไม่เคยคิดว่าจะได้รับโอกาสดีเช่นนี้ แม้ว่าการเดินทางไปนั้น ผมรู้สึกกลัวที่จะต้องพบกับสิ่งแปลกใหม่และสภาพสังคมชีวิตที่แตกต่างจากเดิมอยู่บ้าง แต่ความรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่จะได้พบเห็นนั้นมีมากกว่า

การเดินทางจากเมืองไทยครั้งแรกของผมนั้น ผมไม่คิดเลยว่าจะต้องจากไปนานถึงกว่า 10 ปี และในช่วงเวลานั้นเหตุการณ์ต่างๆ ในบ้านเมืองได้เกิดขึ้นอย่างมากมาย อันส่งผลต่อชีวิตของผมให้แปรเปลี่ยนไปจากที่เคยคิดหวังไว้

ในหลวงรัชกาลที่ 7 ทรงขี่พระศอหม่อมเจ้าการวิกเมื่อวัยเด็ก

เหตุที่ผมได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯให้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศนั้น เป็นเพราะว่าท่านทูตทหารชาวฝรั่งเศสท่านหนึ่ง ชื่อพันเอกโรแบรต์ เดอ ลาโปมาแรด์ (COLONEL ROBERT DE LAPOMAREDE) ได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวในพระราชพิธีสวนสนามเมื่อราว พ.ศ.2472 และได้กราบบังคมทูลว่าขณะนี้ไม่มีนักเรียนไทยไปเป็นนักเรียนนายร้อยฝรั่งเศสเหมือนแต่ก่อน พระองค์ท่านจึงรับสั่งว่า แล้วจะหาให้ไปสักคนหนึ่ง เดิมทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯจะให้เป็นอีกคนหนึ่ง แต่ติดตรงที่ว่าคนนั้นมีอายุมากไป ทรงเกรงว่าไปแล้วจะทำให้ต้องเรียนช้ากว่าอายุ จึงโปรดเกล้าฯเปลี่ยนมาเป็นผมแทน ซึ่งในความคิดของผมตอนนั้นอยากจะไปอังกฤษมากกว่า โดยเฉพาะอยากไปเรียนที่สกอตแลนด์ เพราะชอบเครื่องแบบของทหารชาวสกอตที่นุ่งกระโปรงแต่รบเก่ง เมื่อไม่ได้ไปผมก็ไม่เสียใจ ไปฝรั่งเศสก็ถือว่าเป็นโอกาสพิเศษที่สุดแล้ว

หลังจากนั้นก็โปรดเกล้าฯให้พระยาบรมบาทย์บำรุงมาสอนภาษาฝรั่งเศสที่โรงเรียนราชกุมาร ไม่นานผมก็ต้องเตรียมตัวเดินทางอย่างเร็ว พระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้คุณสอาด มีชูธน พาผมไปทำหนังสือเดินทางที่กระทรวงการต่างประเทศ และไปตัดเสื้อผ้าสำหรับใส่ที่เมืองนอกที่ห้าง S.T. DOST ของชาวเยอรมัน อยู่แถวสี่กั๊กพระยาศรี ตรงบริเวณถนนเจริญกรุงตัดกับถนนบำรุงเมือง จำได้ว่าตัดเสื้อเชิ้ตกับกางเกงขาสั้น 2 ชุด เป็นผ้าสักหลาดสีเทาแก่ มีเน็คไทและถุงเท้าด้วย

ผมเข้าไปกราบบังคมทูลลาพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีในคืนก่อนวันเดินทาง พระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งว่า

“ให้ไปเรียนนะ ไม่ใช่ไปเที่ยว ตั้งใจเรียนให้ดี ฉันอยากเห็นแกเป็นนายพลก่อนฉันตาย อย่าเผลอไปก็แล้วกัน” ซึ่งตอนนั้นทรงตั้งพระราชหฤทัยให้ผมไปเรียนด้านทหาร และได้พระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์ที่ทรงลงพระปรมาภิไธยไว้เพื่อเตือนใจว่าทรงส่งไปเรียน ไม่ใช่ไปเที่ยว

หม่อมเจ้าการวิกช่วงวัยรุ่นที่ฝรั่งเศส

ผมออกเดินทางตอนเช้าของวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2472 อันตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระเจ้าอยู่หัวด้วย โดยขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพง ซึ่งการเดินทางไปเมืองนอกแต่ก่อนเป็นเรื่องใหญ่มาก พ่อแม่พี่น้องญาติผู้ใหญ่ต้องมาส่งกันคับคั่ง เพราะว่าคนที่ไปแล้วมักหายเลย จนกว่าจะเรียนจบกลับมา เนื่องจากพาหนะโดยสารมิได้สะดวกรวดเร็วเหมือนตอนนี้ ผมเองก็เช่นกัน เสด็จพ่อ แม่ และยายก็มาส่งพร้อมพี่น้องหลายองค์ ทีแรกผมคิดว่ายายมาส่งผมต้องร้องไห้แน่ แต่ผิดคาด ยายให้พรน่ารักตามประสาว่า

“ท่านชายของยายต้องไปเรียนให้เก่งเหมือนทวี (ลูกของป้าคนหนึ่ง) แต่ต้อง ‘ไล่’ ให้ได้ที่ 3 นะ” (ยายหมายถึงสอบไล่)

“ทำไมต้องที่ 3 ด้วยล่ะยาย”

“ไม่ได้หรอก ที่ 1 ต้องเป็นพระองค์ชาย (พระองค์เจ้าจุมภฏพงศ์บริพัตร) ที่ 2 ต้องเป็นท่านกาติ๊บ (หม่อมเจ้าคัสตาวัส จักรพันธุ์) ยายได้ข่าวท่านเรียนเก่งมาก อย่าบังอาจไปแข่งกับท่านนะ”

ความจริงทั้งพระองค์เจ้าจุมภฏพงศ์บริพัตรและพี่คัสตาวัสกำลังศึกษาอยู่ประเทศอังกฤษ แต่ความเข้าใจของยายคือ เมืองนอกทั้งหมดเป็นประเทศเดียวกัน และเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน ใช่ว่าจะมีแต่ยายคนเดียวที่เห็นโลกแคบเป็นแค่จุดเดียว ยังมีคนอื่นอีก คือ มีผู้ใหญ่คนหนึ่งเขาฝากน้ำพริกเผากระปุกหนึ่งถึงลูกชาย ถามว่าอยู่ที่ไหน เขาบอกว่าอยู่เมืองนอก แต่ที่ไหนไม่รู้ เอาไปให้ด้วยก็แล้วกัน ผมก็รับฝากมา

ในตอนท้ายยายยังอวยพรอีกว่า ขอให้ไปโดยปลอดภัย อย่าให้เรือแตก ส่วนแม่ไม่ได้พูดสั่งอะไร ขณะที่เสด็จพ่อขึ้นมาส่งถึงบนรถไฟและรับสั่งว่า

“ใจแข็งนะลูก ลูกเป็นตัวแทนของเมืองไทย อย่าไปทำอะไรให้ขายหน้า ที่สำคัญ ลูกผู้ชายอย่าร้องไห้” พอรับสั่งเสร็จเท่านั้น ผมร้องไห้เลย หลังจากกลั้นมานาน เพราะอดใจหายไม่ได้ และที่สำคัญที่สุด ผมไม่คิดเลยว่าการเดินทางครั้งนั้นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เห็นเสด็จพ่อกับยาย…

คณะเดินทางคราวนั้นมีกันหลายคน โดยหม่อมเจ้าดำรัสดำรง เทวกุล ทรงได้รับมอบหมายให้เสด็จไปรับตำแหน่งทูตที่อังกฤษ และทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองดูแลทุกคนในระหว่างการเดินทาง ท่านเสด็จพร้อมพระชายาและโอรส-ธิดาอีก 3 คน และหม่อมเจ้าหญิงอุบลพรรณี (วรวรรณ) หรือท่านหญิงตัด ซึ่งเป็นพระขนิษฐาในพระชายาของหม่อมเจ้าดำรัสดำรงด้วย (ต่อมาทรงลาออกจากฐานันดร และสมรสกับชาวอังกฤษ เป็นมิสซิส CRABB) นอกจากนั้นก็มีคุณพื้นทอง ทองเจือ คุณอั๋น ผลพันธิน ไปเรียนที่อังกฤษ คุณเฉลิม ศรีวรรธนะ บุตรชายคนใหญ่ของพระยาบรมบาทย์ฯเรียนที่ฝรั่งเศส ทั้งสามคนอยู่ในวัยหนุ่ม มีอายุมากกว่าผม เฉพาะคุณเฉลิมยังได้ทำหน้าที่เป็นครูสอนภาษาฝรั่งเศสแก่ผมต่อจากเจ้าคุณบรมบาทย์ฯในระหว่างที่เดินทางอีกด้วย

หม่อมเจ้าการวิกกับครอบครัวชาวฝรั่งเศสที่ทรงพำนักด้วย

ตอนที่รถไฟออกจากหัวลำโพง ผมยังแต่งตัวแบบไทย คือ สวมเสื้อราชปะแตน นุ่งโจงกระเบน แต่ก็จินตนาการไปตามประสาเด็กบ้านนอกที่ยังไม่รู้จักเมืองนอก คือเข้าใจไปว่าเมืองนอกต้องมีอากาศหนาวเย็นเหมือนที่เคยเห็นในหนัง พอตกค่ำผมเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำหรูของรถไฟ เปลี่ยนเครื่องแต่งตัว ด้วยเห็นว่าจวนจะถึงเกาะปีนังเข้าเขตมลายูซึ่งเป็นเมืองนอกแล้ว ต้องใส่เสื้อเชิ้ตที่เป็นเนื้อผ้าประเภทมีขนสัตว์ปนอยู และผูกเน็คไท ปรากฏว่าผดขึ้น เพราะร้อนเหลือเกิน

จากปีนังต่อไปยังสิงคโปร์เพื่อลงเรือสัญชาติฝรั่งเศส ชื่อ “อองเดร เลอ บง” (ANDRE LE BON) เป็นเรือหรู มีอาหารการกินอย่างดี อยู่สบาย เขาจัดตกแต่งอย่างเรือสำราญที่เคยเห็นในหนังสือ มีดาดฟ้าสำหรับให้ไปนั่งพักผ่อน ในห้องอาหารมีเวทีลีลาศ เวลาไปนั่งอยู่ที่ไหนก็มีบ๋อยฝรั่งคอยมาถามเพื่อเสิร์ฟเครื่องดื่มจำพวกชา กาแฟ หรือซุปใส ภาพฝรั่งที่เห็นทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นแกมประหลาดใจอยู่บ้าง ด้วยสมัยนั้นผมมักเห็นฝรั่งที่เดินอยู่ในเมืองไทยใส่หมวกโก้ แต่งชุดสากลเดินเหงื่อแตก จมูกแดง เพราะพวกเขาจะถือศักดิ์ศรีของชาติตัวเองมาก ผมไม่เคยเห็นฝรั่งที่มาคอยเสิร์ฟอาหารและเช็ดโต๊ะเลย ส่วนอาหารในเรือก็เป็นอาหารฝรั่งทั้งหมด ผมก็คิดว่าต้องรับประทานอย่างเขาถึงจะโก้ จึงสั่งเนื้อไก่กับหมูแฮมทุกมื้อ แต่พวกเรารับประทานกันได้สักสัปดาห์หนึ่งก็ไม่ไหว เริ่มมองมาที่กระปุกน้ำพริกเผา ความซื่อสัตย์ที่มีแต่แรกและคิดว่าอาจจะตามหาเจ้าของพบมีอันต้องเลิกไป

เมื่อพวกเราตัดสินใจสั่งขนมปังมาในห้อง บ๋อยที่มาเสิร์ฟขนมปังก็ยังอดไม่ได้ที่จะขอชิมด้วย…

 

ชุดแต่งงาน

แกลม สวย รวยจัด ก็จัดไป! ชุดแต่งงานแพงที่สุดในโลก 74 ล้านบาท! อลังการแค่ไหน ถามใจเธอดู

ชุดแต่งงาน
ชุดแต่งงาน

ชุดแต่งงานแพงที่สุดในโลก 74 ล้านบาท!

ชุดแต่งงานกับความเว่อร์วังมักมีมาให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ยิ่งใกล้ช่วงเทศกาลงานแต่งงานที่กำลังจะกลับมาอีกครั้ง หลายคนกำลังมองหาชุดเจ้าสาวแสนสวยสุดปัง แต่สำหรับเจ้าสาวที่มีงบไม่อั้น ต้องการแค่ความปังเว่อร์ ขอแนะนำชุดนี้เลย! 

ชุดเจ้าสาวประดับเพชร (แท้) ที่จะทำให้คุณเปล่งประกายแวววาวราวดาวฤกษ์เจิดจรัส ด้วยสนนราคากว่า 74 ล้านบาท (2.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ครองแชมป์ชุดเจ้าสาวที่แพงที่สุดในโลกไปเลย

โดยชุดเจ้าสาวราคาแสบทรวงนี้เป็นของแบรนด์ Reem Acra จากนิวยอร์ก คอลเล็คชั่นที่คอลลาบอเรตเป็นพิเศษกับ Tiffany & Co. แบรนด์เครื่องประดับชื่อดัง

มีไฮไลท์เป็นชุดเจ้าสาวเกาะอกกระโปรงสุ่มสีขาวเนื้อแวววาว ซิลลูเอตต์เรียบง่าย แต่ที่ทำให้ไม่ธรรมดาคือ บรรดาเข็มกลัดเพชรรูปแมลงปอและผีเสื้อที่สยายปีกเกาะอยู่ตามเสื้อและกระโปรงกว่าหลายสิบตัว โดยแต่ละตัวล้วนประดับเพชรและอัญมณีน้ำงามจาก Tiffany & Co. รวมน้ำหนักเพชรกว่า 165 กะรัต และน้ำหนักอัญมณีกว่า 61.91 กะรัต โดยแบรนด์ Reem Acra บอกว่า ตั้งใจให้ชุดนี้เป็นตัวแทนแห่งการเฉลิมฉลองให้กับความแกลมและพลังของผู้หญิง
แกลม สวย รวยจัด…ก็จัดไป

เรื่อง Tomalin

ภาพ Reem Acra

ไม่เจอกับตัวไม่รู้! นักแสดงรุ่นใหญ่ นุ่น-ดารัณ เปิดใจ ชีวิตเปลี่ยนเพราะมะเร็ง!

นักแสดงรุ่นใหญ่ นุ่น – ดารัณ ในวันนี้ที่เปลี่ยนไปเยอะ เพราะ…

นักแสดงรุ่นใหญ่ นุ่น – ดารัณ แม้วันนี้เธอจะเปลี่ยนชื่อใหม่ แต่สำหรับครอบครัวหนุ่มสาวแพรว เธอยังคงเป็น “นุ่น – รุ้งทอง” สาวฟิตแอนด์เฟิร์มที่เข้ามาประกวดเมื่อ 15 ปีก่อน ติด 1 ใน 5 สาวแพรวปี 1992 ที่วันนี้มะเร็งเต้านมก็ทำอะไรเธอไม่ได้ หุ่นและหน้ายังเป๊ะปัง

 ภาพ : @noondaran

“ตอนประกวดหนุ่มสาวแพรว นุ่นเรียนอยู่ปี 4 คณะนิเทศศาสตร์ เอกละครเวที มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เพื่อนชวนมาประกวด เพราะเวทีนี้เป็นที่ใฝ่ฝันของนักศึกษาที่อยากเข้ามาประกวด แต่นุ่นปฏิเสธ ไม่มั่นใจ อาจได้ที่ความสูง แต่ก็คิดว่าตัวเองไม่เพอร์เฟ็คท์ ซึ่งเราใหม่กับการเดินแบบถ่ายแบบมาก เพื่อนส่งรูปเข้ามาให้ นุ่นนิ่งเงียบ แต่ใจเต้นผ่างๆๆ ขณะนั้นมีความกดดันว่าแต่ละคนสวยๆ กันทั้งนั้น แล้วเราจะทำได้ไหม เพราะเราไม่ได้สวยเท่าคนอื่น นุ่นเชื่อในลิขิตว่า ได้เข้ามาตรงนี้ถือเป็นโอกาส จะดีหรือไม่ ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองก่อน มุ่งหน้าต่อไปแต่ละขั้นแต่ละตอน แล้วหากนุ่นทำอะไรก็ทำให้ดีที่สุด ก็พยายามทำอย่างเต็มที่ หนุ่มสาวแพรวปีนั้นคือ ‘ปิงปอง – กนกพร’ กับ ‘อัษฏาวุธ เหลืองสุนทร’ นุ่นติด 1 ใน 5 จากนั้นก็จับพลัดจับผลูมาเล่นละครที่กันตนา เรื่อง ‘ทายาทอสูร’ คู่กับพี่เหมียว – ชไมพร จตุรภุช จากนั้นมีละครต่อเนื่องมาตลอด เข้าวงการพร้อมกับคำว่าสาวแพรวติดตัวมาด้วย เหมือนลิขิตให้เรามาทางสายนี้ คิดถึงขนาดว่าจบปริญญาตรีแล้ว ทำงานสักพัก จะไปเรียนต่อทางด้านละคร แต่มีงานเข้าจนไม่สามารถปลีกตัวไปเรียนได้เลย จากนั้นก็มีละครต่อเนื่องมาถึงวันนี้

“นุ่นโชคดีตรงที่ไม่เคยมีปัญหาสุขภาพเลย เพราะเป็นนักกีฬาโรงเรียนมาตั้งแต่ ม.ต้น จนย่ามใจที่จะดูแลตัวเอง ไม่เคยต้องคิดว่าวันหนึ่งควรนอนกี่ชั่วโมง นอนน้อยก็ตื่นไปทำงานได้ อึด ใครจะคิดว่าคำที่นุ่นชอบบ่นแม่ว่า ทำไมแก่แล้วเป็นโน่นเป็นนี่ วันหนึ่งจะประสบกับตัว เพราะพออายุขึ้นเลข 3 จากที่ร่างกายแข็งแรง นอนน้อยเริ่มคัดจมูก ไอ พอขึ้นเลข 4 มีอาการปวดเนื้อปวดตัว

สปิริตแรง! “เจนี่” ข้อเท้าพลิกตอนซ้อมคอนเสิร์ต แต่ฮึดสู้ใส่เฝือกถ่าย เพลิงบุญ ต่อจนปิดกล้อง

สปิริตแรงเว่อร์! สมคำ The Show Must Go On! นาทีนี้คงต้องยกให้นักแสดงสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ที่ถึงแม้จะเกิดอุบัติเหตุข้อเท้าพลิกระหว่างซ้อมรันทรู สำหรับโชว์ในคอนเสิร์ตครบรอบ 47 ปี Love is in the Air ทางช่อง 3 จนขึ้นเวทีโชว์ร่วมกับแอน ทองประสม และศรีริต้า เจนเซ่น ไม่ได้ อีกทั้งคุณหมอยังสั่งให้สาวเจนี่ใส่เฝือกนาน 3 เดือน แต่เมื่อยังมีภารกิจถ่ายทำละครเรื่อง เพลิงบุญ ที่ยังค้าง ไม่ปิดกล้อง สาวเจนี่ก็ขอสู้ตาย ถ่ายทำจนปิดกล้องได้อย่างสวยงาม

ถือว่าเป็นนักแสดงที่มีใจสู้คนหนึ่งเลย สำหรับเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ที่เกิดอุบัติเหตุข้อเท้าพลิกระหว่างซ้อมคอนเสิร์ตของช่อง 3 จนต้องใส่เฝือกนาน 3 เดือน พร้อมทั้งคอยมีไม้ค้ำยันเป็นเพื่อนคู่ตัว แต่แม้ขาจะไม่พร้อมมาก แต่ถ้าถามใจของสาวเจนี่แล้ว เธอมีสปิริตแรงเว่อร์! โดยสาวเจนี่ก็ยังคงมาถ่ายทำละครเรื่อง เพลิงบุญ ของผู้จัดฯ จ๋า – ยศสินี ณ นคร ร่วมกับเพื่อนนักแสดง อาทิ ป้อง – ณวัฒน์, เบลล่า – ราณี, หลุยส์ สก๊อต ฯลฯ ทั้งๆ ที่ยังมีเฝือกติดขาอยู่ ซึ่งผู้จัดฯจ๋าก็ถึงกับกล่าวชม เพราะเจนี่ยังถ่ายทำต่อได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะซีนอารมณ์หนักแค่ไหน เพียงแต่จะถ่ายครึ่งตัวช่วงบนเท่านั้นเอง รวมถึงไม่ปล่อยให้เจนี่ใช้แรงที่ขามาก อย่างถ้ามีฉากที่เจนี่ต้องวิ่ง ก็จะใช้สแตนด์อินมาวิ่งแทน

นอกจากนี้นักแสดงคนอื่นๆ ก็ยังร่วมสร้างบรรยากาศครึกครื้นแซวสาวเจนี่ จนงานนี้ไม่มีดราม่า แต่มีความเฮฮาและแฮ็ปปี้รอบกอง…! มีสปิริตมากขนาดนี้ แฟนๆ คงส่งกำลังใจไปให้สาวเจนี่เพียบ ปรบมือให้รัวๆ เลยจ้า

 

A post shared by Maker Family (@maker_family) on


เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @janienineeleven @yossiebistro @ch3fanclub #เพลิงบุญ

กุชชี่เปิดคอลเล็คชั่นกระเป๋าสุดหรู Pre-Fall 2017 ราคาแรง แต่งานดีเหลือเกิน!

ถ้ารักในแฟชั่น สิ่งหนึ่งที่แฟชั่นนิสต้าจะขาดไม่ได้เลยก็คือกระเป๋า ที่ช่วยส่งให้ลุคดูปังได้มากเลยทีเดียว ใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ แต่แค่ถือกระเป๋าเริดๆ สักใบ ลุคก็ดูแพงได้แล้ว ส่วนใครจะชอบสไตล์ไหน ก็เป็นเรื่องของความชอบส่วนตัวล้วนๆ แต่วันนี้แพรวอยากจะเสนอกระเป๋าดีไซน์หรูจากกุชชี่ให้สาวๆ ได้ดูกัน กับคอลเล็คชั่น Pre-Fall 2017 เป็นกระเป๋าถือ 2 รุ่นใหม่ คือ Queen Margaret และ Iside เผื่อว่าเห็นแล้วจะชอบ สอยมาเป็นของตัวเองสักใบ ส่วนเรื่องราคาน่ะเหรอ ไปดูกันเอาเองดีกว่า

เริ่มด้วยรุ่น Queen Margaret ตัวปิดล็อกกระเป๋าเป็นผึ้งที่ทำมาจากโลหะ พร้อมไข่มุกและคริสตัลอยู่ด้านหน้า ซึ่งเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้เลย

 

Gucci Snakeskin Queen Margaret Top Handle Bag – £2,830.00 หรือประมาณ 127,059 บาท


 

Gucci Leather Queen Margaret Top Handle Bag – £2,020.00 หรือประมาณ 90,692 บาท


 

Gucci Quilted Queen Margaret Bamboo Top Handle Bag – £2,420.00 หรือประมาณ 108,651 บาท


 

Gucci Quilted Queen Margaret Bamboo Top Handle Bag – £2,420.00 หรือประมาณ 108,651 บาท


 

Gucci Bi-color Quilted Queen Margaret Backpack Bag – £2,150.00  หรือประมาณ 96,529 บาท


 

Gucci Quilted Queen Margaret Backpack Bag – £2,020.00 หรือประมาณ 90,692 บาท


 

ส่วนกระเป๋ารุ่น Iside ก็ตั้งชื่อตามเทพธิดาในตำนานเทพเจ้าอียิปต์ ปุ่มล็อกโลหะ มีหัวแมวดวงตาสีแดงที่มาจากคริสตัลสวารอฟสกี้

Gucci Leather/Snakeskin Iside Top Handle Bag – £2,260.00 หรือประมาณ 101,467 บาท


 

Gucci Leather/GG Supreme Iside Top Handle Bag – £1,940.00 หรือประมาณ 87,100 บาท


 

นอกเหนือจากรูปแบบใหม่ 2 รุ่นด้านบนแล้ว กระเป๋าคลัตช์ GG Marmont ในฤดูกาลนี้ก็ปรับโฉมใหม่ด้วย มาในงานปักดอกไม้ที่มีสีสันและคริสตัล Appliqués

Gucci Loved Embroidered Velvet GG Marmont Medium Shoulder Bag – £1,790.00 หรือประมาณ  80,366 บาท


 

Gucci Modern Embroidered Velvet GG Marmont Medium Shoulder Bag – £1,610.00 หรือประมาณ 72,284 บาท


 

Gucci Dragonfly Embroidered GG Marmont Mini Shoulder Bag – £2,420.00 หรือประมาณ 108,651 บาท


 

Gucci Feather Embroidered GG Marmont Mini Shoulder Bag – £2,030.00 หรือประมาณ 91,141 บาท

ถึงราคาจะทำให้มือสั่นไปสักหน่อย แต่เชื่อว่าสาวๆ คงอยากได้กันอยู่ดี คอลเล็คชั่นเลอค่าขนาดนี้ แถมยังมีรุ่นเก่าที่ปรับดีไซน์ใหม่ด้วย คิดว่าบรรดาตัวแม่ทั้งหลายคงเตรียมตัวหาเรื่องเปลี่ยนกระเป๋าใบใหม่กันบ้างแหละ อิๆ

 

 

ภาพ : www.spottedfashion.com , www.gucci.com

keyboard_arrow_up