สาว ๆ ต้องรู้! ทริคการเลือกสุขภัณฑ์แบบมือโปร ตอบโจทย์ Living Quality ที่ดี

สาว ๆ ยุค New Normal ต้องรู้! ทริคการเลือกใช้สุขภัณฑ์แบบมือโปร เพื่อสร้าง Living Quality ที่ดี “โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว VS โถสุขภัณฑ์แบบสองชิ้น” แบบไหนใช่กว่ากัน

วิถีชีวิตแบบ New Normal อยู่กับสาว ๆ มาสักพักใหญ่ ๆ แล้ว ทำให้เกิดเทรนด์การใส่ใจเรื่องสุขอนามัยแบบละเอียดยิบ โดยเฉพาะเรื่องใกล้ตัวสุด อย่างการเลือกใช้สุขภัณฑ์ภายในบ้าน ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้าง Living Quality ที่ดีให้กับตัวเองและสมาชิกในครอบครัว เพราะสุขภัณฑ์ที่ดีสามารถช่วยอัปเกรดไลฟ์สไตล์ให้สมบูรณ์แบบได้ ทั้งในแง่สุขอนามัย สุขภาพ ความสะดวกสบาย และความสวยงาม

สุขภัณฑ์

พูดง่าย ว่า หากเลือกใช้สุขภัณฑ์ดี ชีวิตก็ดีตามไปด้วยนั่นเอง ดังนั้นในการเลือกโถสุขภัณฑ์จึงไม่ใช่อะไรก็ได้ สาว ๆ ควรรู้ทริคง่าย ๆ กันก่อนตัดสินใจ เพื่อให้เจอตัวที่ใช่และดี เหมาะกับห้องน้ำและตอบโจทย์เรามากที่สุด ซึ่งหลัก ๆ จะมีให้เลือกอยู่ 2 แบบ คือ โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว และโถสุขภัณฑ์แบบสองชิ้น

อ๊ะ ๆ! งงกันใช่ไหมล่ะคะ เพราะ แพรวดอทคอม เชื่อว่าน่าจะมีสาว ๆ หลายคนเลยแหละที่ไม่เคยรู้เลยว่า โถสุขภัณฑ์มีความต่างหรือแบ่งประเภทกันได้ด้วยเหรอ งานนี้จึงต้องขอพาไปดูกันสักหน่อยว่า โถสุขภัณฑ์แต่ละแบบมีข้อดี ข้อจำกัด แตกต่างกันอย่างไรบ้าง เพื่อให้สามารถเลือกใช้กันได้อย่างเหมาะสมและโดนใจ

สำหรับ “โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว” ตัวโถกับถังพักน้ำจะถูกหลอมขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน สังเกตง่าย ๆ ว่าจะเห็นเป็นเนื้อเดียวกันเลย ไม่มีรอยต่อตรงกลาง ซึ่งข้อดีที่เห็นได้ชัดอย่างแรกคือความสวยงาม ส่วนการใช้งานก็ถือว่าดีงามมาก เพราะพอเป็นชิ้นเดียวแบบนี้ ก็ติดตั้งง่าย ไม่ต้องประกอบชิ้นส่วนให้ยุ่งยาก หมดปัญหาน้ำรั่วซึมเมื่อใช้ไปนาน ๆ ระบบชำระล้าง (ระบบฟลัช) ทำงานเงียบขึ้นกว่ารุ่นเดิม ๆ และที่สำคัญคือโดนใจสาว ๆ ที่รักความสะอาดแบบสุด ๆ เพราะพอไม่มีรอยต่อ ไม่มีซอกมุม ก็ไม่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค จึงดูแลทำความสะอาดง่าย เช็ดนิดเดียวก็สะอาด เรียกว่าเทคะแนนให้แบบเต็มสิบไม่หัก ถ้าจะให้หาข้อจำกัดของโถประเภทนี้ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวจะมีราคาสูงกว่า และถ้าเกิดชำรุด แตกหรือหัก ก็ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งชิ้น

American Standard

โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว รุ่น Signature จาก American Standard

ส่วน “โถสุขภัณฑ์แบบสองชิ้น” ตัวโถกับถังพักน้ำจะแยกชิ้นกัน ข้อดีคือราคาสบายกระเป๋ากว่า ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เป็นที่นิยมกว่าตามไปด้วย และหากเกิดชำรุดก็ไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด แต่ถ้าจะหักคะแนนก็เป็นเรื่องที่ทำความสะอาดยากตรงบริเวณรอยต่อและซอกมุมต่าง ๆ ที่อาจกลายเป็นแหล่งสะสมคราบสกปรกและเชื้อโรค อีกทั้งระบบชำระล้างจะทำงานเสียงดังกว่าแบบชิ้นเดียว แถมยุ่งยากกว่าในการติดตั้ง เพราะต้องเพิ่มขั้นตอนติดตั้งตัวถังพักน้ำเข้ากับตัวโถนั่นเอง

American Standard

โถสุขภัณฑ์แบบสองชิ้น รุ่น Kastello จาก American Standard

เมื่อลองเปรียบเทียบดูแล้ว สาว ๆ ชอบโถสุขภัณฑ์แบบไหนมากกว่ากันคะ สำหรับ แพรวดอทคอม ขอเทใจให้ “โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว” เพราะพอคิดไปคิดมาถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ตัวเราเองและสมาชิกในครอบครัวสามารถใช้สุขภัณฑ์ได้อย่างสบายใจ ทั้งเรื่องสุขอนามัยและความสะดวกสบาย หมดกังวลกับเชื้อโรค ไม่ต้องเหนื่อยกับการทำความสะอาด เรียกว่าเป็นการสร้าง Living Quality ที่ดีให้กับตัวเองและสมาชิกในครอบครัวอย่างแท้จริง

พอเห็น “โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว” ดีงามขนาดนี้ แพรวดอทคอม ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบสุขภัณฑ์ 2 รุ่นฮ็อต ซึ่งเป็นโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวจาก American Standard มาแนะนำสาว ๆ เผื่อไว้ทำห้องน้ำใหม่กันด้วย

รุ่นแรก ขอเอาใจสายมินิมัลด้วยรุ่น Signature ที่มาพร้อมกับดีไซน์เรียบง่ายแต่สวยงาม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ American Standard โดดเด่นด้วยความโค้งมน โครงกรอบสี่เหลี่ยม และลายเส้น ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว จนเกิดเป็นรูปทรงโค้งรีที่เรียกเก๋ ๆ ว่า Superellipse ส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานก็ดีงามไม่แพ้กัน โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยี HygieneClean ที่ให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น ระบบชำระล้างแบบ Siphon Max ที่ทำงานด้วยหลักสุญญากาศ พร้อมด้วยรูเจทที่ช่วยขับสิ่งสกปรกลงไปได้อย่างดี ขอบโถดีไซน์ใหม่ Power Rim แบบไร้ขอบ ที่สามารถชำระล้างได้ทั่วถึง แถมทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นกว่าแบบเดิม ๆ อีกทั้งยังมีสารชนิดพิเศษ Comfort Clean ที่ผสมอยู่ในเนื้อเซรามิกที่จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและอีโคไลอย่างมีประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งาน และสารเคลือบผิวภายในโถสุขภัณฑ์ Aqua Ceramic ที่ช่วยป้องกันคราบสกปรกเกาะบนพื้นผิวเซรามิก ลดการเกิดคราบน้ำหรือคราบเหลืองฝังแน่น สาว ๆ จึงไม่จำเป็นต้องออกแรงเช็ดทำความสะอาดให้เหนื่อย แถมได้เซฟเวลาไปทำอย่างอื่นที่สนุก ๆ ได้อีก

American Standard

สุขภัณฑ์ รุ่น Signature จาก American Standard

อีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมคือ Acacia Supasleek ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์สไตล์โมเดิร์น ทรงเหลี่ยมขึ้นมาหน่อย มาพร้อมกับ CrystaSleek ฝารองนั่งเทรนด์ใหม่ ใสวิ้ง บางเฉียบ แต่แข็งแรงทนทาน และฟังก์ชั่นล้ำ ๆ จากเทคโนโลยี HygieneClean แบบครบถ้วน ต่างกันแค่ที่ระบบฟลัชจะเป็นแบบ Double Vortex คือระบบแบบหมุนวนที่สามารถฟลัชสิ่งสกปรกได้สะอาดและลดเสียงขณะฟลัช ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ทั้ง Power Rim ขอบโถดีไซน์ไร้ขอบ และสารเคลือบพิเศษทั้ง 2 ชนิดอย่าง Comfort Clean และ Aqua Ceramic ยังคงจัดเต็ม เพื่อความสะอาดและสุขอนามัยของผู้ใช้เหมือนเดิม

สุขภัณฑ์

สุขภัณฑ์ รุ่น Acacia Supasleek จาก American Standard

ความเริ่ดของสุขภัณฑ์ 2 รุ่นนี้จาก American Standard น่าจะทำให้สาว ๆ เห็นประโยชน์ของการเลือกใช้สุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อกันแล้ว ว่าช่วยสร้าง Living Quality ที่ดีได้อย่างเพอร์เฟ็กต์จริง ๆ เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่า สุขภัณฑ์เป็นหัวใจสำคัญของห้องน้ำ จึงไม่ใช่อะไรก็ได้จริง ๆ นะ 

นอกจากนี้ สุขภัณฑ์แบบไร้รอยต่อยังช่วยอัปเกรดชีวิต ด้วยการมอบความสบายใจให้กับผู้ใช้ โดยผ่านการออกแบบและผลิตอย่างพิถีพิถัน จึงมีดีไซน์สวยงาม สะท้อนรสนิยมเหนือระดับของผู้ใช้ รวมถึงสามารถรองรับทุกสรีระได้ดี และยังสามารถใช้งานได้ยาว ๆ หมดปัญหาจุกจิกกวนใจ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

สุขภัณฑ์

นี่แหละค่ะ ทริคการเลือกใช้สุขภัณฑ์ที่ แพรวดอทคอม นำมาเป็นไอเดียให้กับสาว ๆ ในการสร้าง Living Quality ที่ดีให้กับตัวเองและสมาชิกในครอบครัว หากสาว ๆ สนใจสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อมาใช้งานที่บ้าน เพื่ออัปเกรดความสะอาดและยกระดับความสบาย ก็สามารถตามไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ : https://www.americanstandard.co.th เฟซบุ๊ก : American Standard Thailand และ โทร. 02-102-2222

รองเท้า Onitsuka Tiger รุ่น D-TRAINER BORO

ในไทยมีแค่ 24 คู่! รองเท้า Onitsuka Tiger สไตล์คัลเลอร์บล็อก ที่สาวกต้องมี

รองเท้า Onitsuka Tiger รุ่น D-TRAINER BORO
รองเท้า Onitsuka Tiger รุ่น D-TRAINER BORO

รองเท้า Onitsuka Tiger (โอนิซึกะ ไทเกอร์) แบรนด์แฟชั่นสัญชาติญี่ปุ่น นำเสนอคอลเล็คชั่นร่วมสมัยที่ผสมผสานแฟชั่นกับกีฬา และมรดกของแบรนด์เข้ากับนวัตกรรม

สำหรับคอลเล็คชั่น Autumn & Winter 2020 ที่กำกับโดย Andrea Pompilio (อันเดรีย ปอมปิลิโอ) ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์ ที่นอกจากจะประกอบไปด้วยหลากหลายไอเท็มที่ผสมผสานความโมเดิร์นเข้ากับเอกลักษณ์ของ Onitsuka Tiger แล้ว ยังมีแคปซูลคอลเล็คชั่นที่เป็นการร่วมงานกับศิลปินจากนิวยอร์กอย่าง Brian Kenny (ไบรอัน เคนนี่) อีกด้วย ซึ่งคอลเล็คชั่นนี้คือการนำเสนอป๊อปคัลเจอร์ผ่านดีไซน์แพทช์เวิร์กที่น่าตื่นเต้นและการใช้สีแบบคัลเลอร์บล็อกที่เพิ่มความสนุกสนานให้กับลุคสไตล์เออเบิร์นสปอร์ตได้เป็นอย่างดี

หนึ่งไอเท็มที่เป็นจุดเด่นของแคปซูลคอลเล็คชั่นนี้คงหนีไม่พ้นสนีกเกอร์รุ่น D-TRAINER BORO ที่เป็นการนำเอาองค์ประกอบต่างๆ จากสนีกเกอร์รุ่นไอคอนิกทั้งหลายของ Onitsuka Tiger มารวมไว้ด้วยกัน แต่ถูกนำเสนออกมาในสไตล์ inside-out ที่ดึงดูดความสนใจไปที่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจไม่มีใครสังเกตเห็น

ซึ่งสำหรับประเทศไทยนั้นสนีกเกอร์รุ่น D-TRAINER BORO มีวางจำหน่ายเอ็กซ์คลูซีฟที่ร้าน Onitsuka Tiger Global Flagship Store Siam Square One ในจำนวนจำกัด เพียง 24 คู่เท่านั้น (ราคา 6,500 บาท)


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ขายของเก่ง! พ่อค้ารุ่นจิ๋ว สายฟ้า พายุ รีวิวชุดเซ็ตราคาหลักพัน ใส่ไปไหนก็น่ารักกก

รีไซเคิลเป็นปุ๋ยได้! นาฬิกา SWATCH คอลเล็คชั่นใหม่สุดล้ำ ผลิตจากพืช

สวนกระแส! เหตุใดความต้องการซื้อ สินค้าแบรนด์เนม ของจีนจะเพิ่มขึ้น 30% ในปีนี้

 

วิธีเลิกนิสัยเครียดแล้วกิน

น้ำหนักพุ่งไม่รู้ตัว! 5 วิธีเลิกนิสัยเครียดแล้วกิน ดูแลสุขภาพวิถีใหม่แบบนิวนอร์มัล

Alternative Textaccount_circle
วิธีเลิกนิสัยเครียดแล้วกิน
วิธีเลิกนิสัยเครียดแล้วกิน

แชร์ 5 วิธีเลิกนิสัยเครียดแล้วกิน ดูแลสุขภาพวิถีใหม่แบบ New Normal

ตอนนี้เราทุกคนกำลังเรียนรู้วิถีชีวิตแบบใหม่ที่เรียกว่า New Normal ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการติดต่อสื่อสารของเรา รวมถึงการทำงาน ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เช่นการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายของเราไปอย่างสิ้นเชิง การเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีใครคาดคิดนี้ส่งผลให้เราต้องปรับตัวและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกเครียดไม่น้อยเลย

แต่รู้หรือไม่ว่า…ความเครียดและความกังวลที่เกิดขึ้นอาจส่งผลต่อพฤติกรรมการทานอาหารของเรา และนำไปสู่อาการ “ทานตามอารมณ์” (emotional eating) หรือ “ทานเพราะความเครียด” (stress eating) ที่ทำร้ายสุขภาพได้

อาการ กินเพราะเครียด คืออะไร

การทานอาหารเพราะความเครียดหรือทานตามอารมณ์ คือการที่เราทานอาหารเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติเพื่อหลบหนีจากอารมณ์ด้านลบที่เรากำลังเผชิญอยู่ และหวังว่าอาหารที่ทานเข้าไปจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้

บางครั้งเราก็เลือกทานอย่างมีสติ แต่บ่อยครั้งเมื่อเราเกิดอารมณ์ด้านลบ เราก็มักเผลอทานจุบจิบแก้เครียดโดยไม่รู้ตัว ความเครียดและความรู้สึกเบื่อหน่ายอาจกระตุ้นให้เราทานตามอารมณ์ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่คุณต้องอยู่แต่ในบ้านและสามารถหยิบทานอาหารได้ตามใจตลอดเวลา

กินเพราะเครียด

ไม่ว่าเราจะสั่งอาหารคอมฟอร์ทฟู้ดหรืออาหารที่ทานแล้วให้ความรู้สึกดีๆ ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก รสชาติถูกปาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารที่มีแคลอรี่และน้ำตาลสูง หรือเราจะปรุงอาหารทานเองที่บ้านด้วยวัตถุดิบที่มีอยู่ในครัว เราก็อาจทานอาหารต่างไปจากปกติได้ถ้ารู้สึกเครียดหรือมีอารมณ์ด้านลบ

เพราะความเครียดทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้าและซึมเศร้าได้ เราจึงอยากทานเมนูคอมฟอร์ทฟู้ดที่ดีต่อใจมากกว่าทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพในเวลานั้น อาหารคอมฟอร์ทฟู้ดที่มีแคลอรี่สูงเหล่านี้จะไปกระตุ้นสารเคมีในสมองที่ช่วยให้เรารู้สึกดีและทำให้เกิดความอยากทานอีกเรื่อยๆ และเมื่อเราทานมากเกินไป น้ำหนักตัวก็เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้เราเครียดและยิ่งทานมากขึ้นไปอีก กลายเป็นวงจรทำร้ายสุขภาพไม่รู้จบ

กินเพราะเครียด

เผยเคล็ดลับ วิธีหยุดกินเพราะเครียด ที่ดีที่สุด

สิ่งสำคัญที่สุดที่เราควรทำตอนนี้ก็คือดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองให้ดี รวมถึงฝึกนิสัยการทานอาหารที่ดีที่จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ซูซาน โบเวอร์แมน ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการศึกษาและการฝึกอบรมโภชนาการระดับโลกของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น ได้ให้คำแนะนำดีๆ ที่จะช่วยให้เราเลิกทานตามอารมณ์ หรือ emotional eating อย่างได้ผล ดังต่อไปนี้

1. ยอมรับความรู้สึกด้านลบที่เกิดขึ้นในใจ

เรารู้อยู่แล้วว่าอารมณ์ความเครียดเป็นตัวกระตุ้นให้เราเกิดพฤติกรรมการทานที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ทางแก้ก็คือเราควรยอมรับความรู้สึกด้านลบที่เกิดขึ้น และเข้าใจว่าเราสามารถรู้สึกโกรธ ไม่พอใจ เหงา และเบื่อได้ในบางครั้ง แม้มันจะไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีแต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นอันตราย และเราไม่จำเป็นต้องหาทาง “แก้” อารมณ์เหล่านั้นเสมอไป ปล่อยให้ความรู้สึกมันเกิดขึ้นและปล่อยวางโดยไม่ต้องไปคิดว่ามันเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีบ้าง

วิธีเลิกนิสัยเครียดแล้วกิน

2. หาวิธีผ่อนคลายอารมณ์แบบอื่นๆ แทน

ลองออกไปเดินเล่นหรือดื่มชาสมุนไพรสักถ้วยอาจจะช่วยคลายเครียดได้ดีกว่า ถ้าคุณรู้สึกอยากทานอาหารจริงๆ ให้เลือกอาหารที่แข็งและกรุบกรอบ เช่น อัลมอนด์ เมล็ดถั่วเหลือง หรือเบบี้แครอท เพราะการใช้ฟันขบเคี้ยวและการบริหารขากรรไกร จะช่วยลดความเครียดได้

3. ทานอาหารให้ครบทุกมื้อ อย่าอดอาหาร

บอกตัวเองให้ทานอาหารทุกมื้อตามปกติ บางครั้งเวลาที่เราเครียด เราอาจเลื่อนเวลาทานอาหารออกไปหรือไม่ทานเลย แล้วเราจะสูญเสียระดับพลังงานที่ร่างกายต้องการ และพอถึงเวลาที่เราทานจริงๆ เราอาจจะลงเอยด้วยการทานมากเกินความต้องการ ถ้าความเครียดทำให้เราไม่รู้สึกอยากอาหาร ลองทานในปริมาณที่น้อยลงแต่ทานให้บ่อยขึ้นในระหว่างวันแทน

กินเพราะเครียด

4. ลดคาเฟอีน

เวลาที่เราเครียด ร่างกายเรามักรู้สึกขาดพลังงานและหันไปหาเครื่องดื่มคาเฟอีนเพื่อให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้ประเปร่า แต่ก็ทำให้เรานอนไม่หลับตอนกลางคืน แนะนำให้ดื่มกาแฟและชาที่ไม่มีส่วนผสมของคาเฟอีนแทน

5. ฝึกทานอาหารอย่างมีสติ (mindful eating)

เวลาที่เราทานอาหารอย่างมีสติ เราจะสังเกตเห็นสัญญาณร่างกายตัวเองได้ดีขึ้นเวลาที่รู้สึกหิวหรืออิ่ม และมองเห็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เรารู้สึกอยากทานตั้งแต่แรกได้ง่ายขึ้นด้วย การทานอย่างมีสติช่วยให้เราเลี่ยงการทานมากจนเกินไปและทำให้เราเพลิดเพลินกับอาหารที่ทานได้มากขึ้น แม้ในตอนที่เราทานน้อยลงก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น เราจะใส่ใจเลือกสรรอาหารที่ดีให้แก่ร่างกายมากขึ้น

กินเพราะเครียด

จำไว้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เราจะจำกัดปริมาณอาหารที่ทานเข้าไป แต่เป็นเวลาที่เราต้องให้ความสำคัญกับการทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเพียงพอแก่การสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันที่ดี แม้วิกฤติการแพร่ระบาดโควิด-19 นี้จะสร้างความเครียดแก่เราทุกคน แต่การรู้จักรับมือกับความเครียดที่เกิดขึ้นอย่างเข้าใจและรู้วิธี จะช่วยให้เราและคนที่เรารักมีสุขภาพกายและใจที่เข้มแข็ง และสามารถก้าวผ่านช่วงเวลายากลำบากนี้ไปด้วยกันนะคะ


ภาพ : Pexels

 

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

กินอย่างไรไม่ให้แก่! 5 สารอาหารชะลอวัย เสริมคอลลาเจน ต้านริ้วรอย

3 กฎเหล็กสำหรับ ไดเอท ที่สาวอยากหุ่นโป๊ะเชะ สุขภาพเป๊ะ ต้องทำตาม!

อาหาร 5 ชนิด ปรับฮอร์โมน เปลี่ยนอารมณ์แปรปรวนให้สดใสไกลวัยทอง

 

 

Mouawad เตรียมเผยโฉมมงกุฎเพชร รังสรรค์ครั้งแรกเพื่อ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์

account_circle

ตระกูลโมอาว็าด” ปรากฏตัวในงานเก็บตัว MUT 2020 เตรียมเผยโฉมมงกุฎเพชรระดับโลกแบรนด์ Mouawad ที่รังสรรค์แก่เวที มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เป็นครั้งแรก

มร.เฟรด โมอาว็าด ทายาทรุ่นที่ 4 ของ “โมอาว็าด” (Mouawad) แบรนด์จิวเวลรี่หรูชั้นนำระดับโลก พร้อมด้วย มร.จิมมี่ โมอาว็าด ทายาทรุ่นที่ 5 บุตรชายสุดหล่อแห่งวงการอัญมณี ปรากฏตัวในทริปเก็บตัวสาวงาม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ณ เมืองหัวหิน

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์

โดยทั้งคู่ได้ร่วมกิจกรรมกับสาวงามอย่างใกล้ชิด ทั้งงานกาล่าไนท์ ชมการประกวดรอบปริศนา และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการรอบชุดว่ายน้ำ เรียกเสียงฮือฮาจากทั้งผู้ร่วมงานและผู้เข้าประกวด เพราะออร่าสองพ่อ-ลูกเจิดจรัสไปทั้งงาน ชวนจินตนาการไปถึงมงกุฎ MUT 2020 จากแบรนด์ “โมอาว็าด” ว่าจะงดงามดาวล้านดวงแค่ไหน

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์

ปีนี้ “โมอาว็าด” ได้รังสรรค์มงกุฎขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับสาวงามผู้คว้าตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เป็นครั้งแรก พิเศษสุดกว่านั้น คือไม่เคยทำมงกุฎให้เวทีไหนมาก่อน นอกจากเวทีนางงามจักรวาลอย่าง “Miss Universe” โดยมงกุฎเพชรสุดล้ำค่าจะถูกเผยโฉมในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ ณ ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ ซึ่งเฟรดและจิมมี่รับรองว่า วิจิตรตระการตาสมกับที่ทุกคนรอคอยอย่างแน่นอน

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์

ทั้งนี้ “โมอาว็าด” นับเป็นแบรนด์จิเวลรี่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 125 ปี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1890 มีผลงานเครื่องประดับเพชร นาฬิกา ตลอดจนมงกุฎอันเลอค่า ซึ่งมีทั้งคนดังระดับโลก ดาราฮอลลีวูด  รวมถึงราชวงศ์ชั้นสูงที่หลงใหลในความประณีตงดงาม โดย “โมอาว็าด” มีฐานการผลิตใหญ่และสำคัญที่สุดอยู่ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมอัญมณีแห่งเอเชีย


ล้วงลึกวิธีคิดในแบบ เฌอเอม-ชญาธนุส ศรทัตต์ สาวงามผู้ฉายแสงสู่จักรวาล

ชีวิตยิ่งกว่าละคร ซามีน่า MUT2020 อยู่ห้องเช่าเดือนละ 1,500 บาท แต่สู้ชีวิตยิบตา

5 ปี กับตราบาปในชีวิต พรฟ้า-ปุณิกา ยืนยันบริสุทธิ์ ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

 

‘อย่ากลัวว่าจะไม่มีแฟน จนคว้าคนผิดมาร่วมชีวิต’ ดูดวงรายวัน 25 กันยายน 2563

ดูดวงรายวัน 25 กันยายน 2563 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : สำหรับคุณที่เป็นผู้บริหาร หรือทำงานบริหาร มีลูกน้องอยู่ในการปกครองดูแล หากช่วงนี้เป็นช่วงที่คุณตั้งใจว่าจะพักแล้ว อาจเพราะใกล้วันเกษียณ หรือเป็นวันหยุดพักร้อนของคุณ ก็อาจต้องเตรียมใจไว้หน่อย เพราะคุณจะไม่ได้หยุดอย่างที่ตั้งใจไว้ ตรงกันข้ามกลับต้องลุกขึ้นมาลุยงานใหม่ ซึ่งคุณก็ทำได้ดี แรงไม่ตก จริงๆ แล้วอาจไม่อยากพักก็ได้

การเงิน : สามารถใช้เงินทำงานสร้างรายได้ที่สูงให้กับตัวเอง ชอบหมุนเงินไปลงทุนต่อเงินไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ดีควรทำด้วยตัวเองดีกว่าที่จะเข้าหุ้นลงทุนกับใคร

ความรัก : หากคุณเป็นหัวหน้าครอบครัว ก็เป็นหัวหน้าที่คาดหวังและใส่ใจในรายละเอียดมากเสียจนอาจไปขัดอารมณ์และความรู้สึกของสมาชิกโดยไม่รู้ตัว ซึ่งคุณก็ไม่อาจเปลี่ยนนิสัยได้ คนโสด หากคุณผิดหวังมาไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง อย่าเพิ่งถอดใจ วันนี้มีลุ้นได้เจอรักแท้

สุขภาพ : ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะจนติดเป็นนิสัย เพราะอาจทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา เสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่มีรูปแบบกฎเกณฑ์ตายตัว เช่น งานในหน่วยงานราชการต่างๆ งานธุรการ งานบัญชี ฯลฯ แม้คุณจะไม่ชอบเปลี่ยนงาน แต่วันนี้อาจถูกโยกย้ายไปอยู่ที่ใหม่ อาจเป็นสาขาที่ต่างจังหวัด ก็ต้องระวังเพื่อนใหม่ที่จะต้อนรับด้วยการใส่ร้ายป้ายสีในความผิดที่คุณไม่ได้ก่อ หรือให้ทำงานในสิ่งที่คุณไม่ถนัด ก็ควรปรึกษาขอคำแนะนำจากผู้ใหญ่ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร

การเงิน : มีโชค อาจได้ยวดยานพาหนะใหม่ แต่ควรระวังอย่าหลงเชื่อคำพูดที่มีหลักการและเหตุผล เพราะคุณจะถูกเอาเปรียบ หรือถูกหลอก

ความรัก : หากคุณรู้สึกว่าอยากเดินทางโยกย้ายถิ่นฐานหรือย้ายบ้านบ้าง ก็ควรคิดดังๆ อย่าเก็บเงียบไว้ในใจ เพราะวันนี้คู่คุณเห็นด้วยเต็มที่ เดี๋ยวผ่านจากวันนี้ไป เขาอาจไม่เห็นด้วยแล้วก็ได้นะ คนโสด อาจได้พบคนถูกใจระหว่างเดินทาง หรือไม่ คนที่คุณแอบชอบอยู่ก็กำลังเดินทางกลับมา ก็ระวังเรื่องความหึงหวงไว้หน่อย เพราะเป็นอุปสรรคตัวสำคัญของคุณเลย

สุขภาพ : เป็นคนแข็งแรง จึงไม่ค่อยใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเองมากนัก กว่าจะรู้ตัวก็เป็นแบบเรื้อรังรักษายาก โดยเฉพาะระบบย่อยอาหาร ลำไส้ และกระเพาะอาหาร ทางที่ดีจึงควรตรวจเช็กร่างกายอย่างสม่ำเสมอ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานศิลปะทุกแขนง เช่น ศิลปิน ดารานักแสดง นักเขียน หรืองานที่เกี่ยวกับความสวยความงาม ฯลฯ วันนี้อาจมีญาติผู้ใหญ่ หรือคนรู้จักมาชักขวนให้ไปทำงานพิเศษที่นอกเหนือจากงานประจำ ก็ควรทำการบ้านก่อนที่จะตกลงรับปากนะคะ เพราะดูเหมือนจะราบรื่น แต่จริงๆ แล้วจะติดขัดในเรื่องของเอกสารสัญญา รวมถึงสัญญาใจ

การเงิน : มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ด้วยความสิเน่หา แต่หากมีคนมาขอให้เซ็นค้ำประกัน หรือกู้ยืมเงิน ควรเซย์โนนะคะ  ไม่เช่นนั้นคุณอาจต้องรับผิดชอบหนี้สินนั้น

ความรัก :  คุณมีภาวะผู้นำสูง ดูแลงานทั้งในครอบครัว และส่งเสริมหน้าที่การงานของสามี กระนั้นแล้วก็ยังมิวาย มีบุคคลที่สามที่เข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ แล้วเมื่อเธอได้สมใจแล้วก็จากไป ปล่อยให้คุณอยู่กับความร้อนรุ่มในจิตใจ คนโสด คุณมีเสน่ห์มากมาย มีทั้งหนุ่มและไม่หนุ่มที่ยินยอมพร้อมใจมาติดอยู่ในบ่วงรักของคุณ เรียกว่าไม่ยอมไปไหนกันเลยทีเดียว

สุขภาพ : เดทเยอะ ต้องระวังน้ำหนักที่ตามมาด้วยนะคะ ยิ่งวันนี้ระบบหมุนเวียนโลหิตอาจมีปัญหา ทำให้มีอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ ก็ควรบำรุงด้วยอาหาร ผักและผลไม้ที่ช่วยในการบำรุงเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจ หรือกำลังจะเริ่มต้นธุรกิจ วันนี้คุณอาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับงานสายบุญ งานกุศล หรือการเป็นจิตอาสาทำประโยชน์ให้กับสังคม ก็ควรทำอะไรให้ถูกต้องตามตัวบทกฎหมายนะคะ เพราะเสี่ยงต่อการมีคดีความตามมา

การเงิน :  ก็ยังมีโชคอย่างไม่คาดฝัน หากกำลังทำธุรกิจร่วมกับแฟนก็จะได้ผู้ใหญ่ช่วยอุปถัมภ์ แต่ก็ควรแบ่งเงินไปทำบุญทำกุศล หรือบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือสังคมบ้างนะคะ

ความรัก : คุณแต่งงานเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ดีมีชาติตระกูล ซึ่งเขาก็ดูแลและเอาใจใส่คุณอย่างดี แต่อย่าเพิ่งวางใจ วันนี้อาจมีเรื่องคดีความมาเกี่ยวข้องกับการแบ่งทรัพย์สิน หรือจัดการอะไรบางอย่าง คนโสด คุณพร้อมจะออกเรือนแล้ว แต่ทางบ้านคุณอาจไม่พร้อมให้คุณไป จึงควรเคลียร์กับผู้ใหญ่ให้เข้าใจ

สุขภาพ : ภูมิแพ้มาแล้วจ้า อากาศไม่ค่อยดี กลางวันร้อนจัด เลิกงานฝนตก  จึงต้องระวังอาจแพ้อากาศ ทำให้หายใจไม่สะดวก เป็นไซนัส

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานสายเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เช่น ศิลปิน นักร้อง ดีเจ หรือผู้ประกอบการสถานบันเทิง วันนี้หากคุณอยากพบกับความสำเร็จ อยู่นิ่งๆ ไม่ได้แล้ว เพราะคนที่คุณเคยไว้วางใจอาจเปลี่ยนท่าที ควรจะวิ่งเต้นเข้าทางผู้ใหญ่ผู้หญิง เพราะเธอจะช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้คุณได้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานเลยทีเดียว

การเงิน : หารายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีผู้ใหญ่ช่วยเหลือดูแลอย่างดี ซึ่งคุณใช้เงินเก่ง จึงต้องระวังจะละลายหายไปอย่างรวดเร็ว ควรเก็บเงินไว้บ้าง

ความรัก :  วันศุกร์หรรษา ที่บ้านคุณอาจจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ โดยมีสมาชิกในบ้านมาอยู่กันอย่างพร้อมหน้า แต่ก็เหมือนเป็นความรักความสัมพันธ์กันแบบหลวมๆ มาตามหน้าที่ยังไงไม่รู้ คนโสด ระวัง!! คุณอาจตกอยู่ในสถานะนารีอุปถัมภ์ผู้ที่มีเจ้าของแล้ว พูดง่ายๆ  คือถูกหลอกให้เลี้ยงนั่นล่ะ

สุขภาพ : ต้องระวังปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับมดลูก หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  วันนี้หากมีญาติผู้ใหญ่หรือคนรู้จักมาชักชวนคุณให้ไปทำงานพิเศษ  ซึ่งนอกเหนือจากงานประจำ ก็ควรทำการบ้านก่อนที่จะรับปากนะคะ เพราะมีแนวโน้มว่าคุณอาจได้เจอเจ้านายกับเพื่อนร่วมงานที่ขัดแย้งกับคุณทุกอย่าง ซึ่งคุณก็มั่นใจในไอเดียของตัวเองมากเสียจนไม่ยอมปรับเปลี่ยน ฟังดูแล้วท่าจะเหนื่อย จึงควรทำงานของตัวเองดีกว่า

การเงิน : มีรายได้เข้ามา แต่ก็ผันผวนขึ้นลงตลอดเวลา อาจเพราะคุณใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน จนตัวเองเดือดร้อน

ความรัก : คุณอาจแต่งงานกันโดยไม่ทันได้ศึกษานิสัยใจคอกันให้ลึกซึ้ง วันนี้จึงพบว่าความคิดเห็นขัดแย้งกันทุกอย่าง เพราะต่างฝ่ายต่างมีอุดมการณ์และความคิดเป็นของตัวเอง จนไม่มีใครยอมปรับเปลี่ยน ก็ต้องค่อยๆ ศึกษาเรียนรู้กันไป คนโสด อย่ากลัวว่าจะไม่มีแฟน แล้วรีบคว้าใครก็ได้มาเป็นแฟน เพราะผลที่ตามมาอาจทุกข์ใจมากกว่าตอนไม่มีแฟนก็ได้นะคะ

สุขภาพ :  ระบบหมุนเวียนโลหิตยังมีปัญหา ทำให้เกิดอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ จนถึงเป็นลม จึงควรรับประทานอาหาร ผักผลไม้ที่ช่วยในการบำรุงเลือด หรือวิตามินเสริม

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  : หากคุณกำลังทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานสายเกษตร ตั้งแต่เกษตรกร นักออกแบบตกแต่งสวน นักธุรกิจส่งออกอัญมณี สินค้าโอท็อป จนถึงศิลปินพื้นบ้าน ฯลฯ  ต้องบอกเลยว่า ความสำเร็จในวันนี้ไม่ได้มาเพราะความบังเอิญ  แต่ต้องแลกด้วยพลังกายพลังใจเกินร้อย หากคุณไม่สู้ อาจพับโครงการเก็บเลยก็ได้ แต่หากอดทนจนผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ ผลตอบแทนเรียกว่าเกินความคาดหมายเลย

การเงิน : ก็ยังเกี่ยวข้องกับที่ดิน แต่จะเป็นที่ดินทางการเกษตร ซึ่งจะได้มาด้วยอำนาจและบารมี แต่คุณก็อาจต้องเสียเงินกับการเลี้ยงดูปูเสื่อบริวาร หรือผู้ร่วมงานหนักหน่อย

ความรัก :  คุณแต่งงานอยู่ในครอบครัวที่มีหน้าที่การงานดี อาจเป็นข้าราชการระดับผู้ใหญ่ผู้โต แม้ทุกคนจะให้ความรักและเอาใจใส่คุณอย่างดี แต่คุณก็อาจเบื่อหน่ายกับรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน ก็คงต้องค่อยๆ ปรับตัว คนโสด มีหนุ่มๆ หน้าที่การงานดี มีอนาคตมาชอบ พร้อมจริงใจด้วยเลย แต่พอดีช่วงนี้คุณอาจกำลังเบื่อโลก และขี้เกียจเริ่มต้นใหม่กับใครอีกแล้ว จึงไม่สนใจใดๆ

สุขภาพ : ปกติคุณดูแลและเอาใจใส่สุขภาพอย่างดีอยู่แล้ว แต่ก็อาจพลาดตรงที่ไปรับเชื้อจากภายนอกเข้ามา หากออกนอกสถานที่ หรือใช้ของสาธารณะ ควรดูแลความสะอาดส่วนตัวให้ดี อย่าประมาท การ์ดอย่าตก

 

เช็กดวงย้อนหลังได้ที่นี่

ไม่ควรเล่นกับไฟ เพราะคุณจะร้อนรุ่มจนทนไม่ไหว ดวงรายวัน 21 กันยายน 2563

ของมันแรง แค่แอบมองก็ดุเดือดเลือดพล่านแล้ว ดวงรายวัน 22 กันยายน 2563

หากใครกำลังรอแฟน (หญิง) กลับมาคืนดี วันนี้สมหวังจ้า ดูดวงรายวัน 23 กันยายน 2563

เสน่ห์ร้ายเหลือ มาหมด ทั้งผมดำ ผมทอง และสีดอกเลา ดูดวงรายวัน 24 กันยายน 2563

อาร์ชี แฮร์ริสัน

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ปลื้มใจ หลัง อาร์ชี แฮร์ริสัน หลานรักเรียกปู่ครั้งแรก

account_circle
อาร์ชี แฮร์ริสัน
อาร์ชี แฮร์ริสัน

งานนี้คุณปู่ “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” ถึงกับเป็นปลื้ม เมื่อ อาร์ชี แฮร์ริสัน หลานรักคนที่ 4 ของพระองค์ ลูกชายคนเดียวของ เจ้าชายแฮร์รี่ และดัชเชสเมแกน เรียก “pa” (ปู่) ครั้งแรก ผ่านวิดีโอคอล Zoom

สื่อต่างประเทศ dailystar ได้รายงานถึงเรื่องราวสุดประทับใจนี้ว่า เมื่อไม่นานมานี้ “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” ถูกทำให้ดีใจหนักมาก หลังจากที่เบบี้อาร์ชีเรียกพระองค์ว่า “pa” (ปู่) ระหว่างที่พระองค์ทรงวิดีโอคอลผ่าน Zoom กับ เจ้าชายแฮร์รี่ และ เมแกน มาร์เคิล เพื่อฉลองวันเกิดปีที่ 36 ของดยุกแห่งซัสเซกซ์

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ปลื้มใจ หลัง อาร์ชี แฮร์ริสสัน หลานรักเรียกปู่ครั้งแรก

อาร์ชี แฮร์ริสัน

ทั้งนี้แหล่งข่าวยังเผยด้วยว่า เจ้าชายแฮร์รี่ทรงเป่าเค้กที่ ดัชเชสเมแกน อบให้เพื่อฉลองวันคล้ายวันประสูติที่บ้านพักใน ซานตาบาร์บารา แคลิฟอร์เนีย โดยขณะที่พระองค์ทรงเป่าเค้กอยู่นั่น เบบี้อาร์ชีก็ได้ทำท่าเป่าตาม งานนี้ทำเอาทั้งคู่ถึงกับหัวเราะออกมา ที่ได้เห็นความน่ารักของลูกชาย

อาร์ชี แฮร์ริสัน

ขณะเดียวกันมีการอ้างว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงวิดีโอคอล Zoom หา เจ้าชายแฮร์รีในวันเกิด ซึ่งขณะที่ทรงพูดคุยกับ ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกส์นั้น เบบี้อาร์ชีก็เรียกพระองค์ว่า “pa” (ปู่) เล่นเอาคุณปู่ถึงกับยิ้มแก้มปริเลยทีเดียว นอกจากนี้ อาร์ชี ยังเริ่มใช้คำต่างๆ เช่น “Dada” “Mama” “book” และ “dog” ได้แล้วอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวบอกกับ The Sun ว่า “เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก เจ้าชายแฮรี่ทรงตรัสกับครอบครัวว่า พระองค์ทรงคิดถึงพวกเขามากแค่ไหน”


ภาพวันเกิดในปีแรกของ อาร์ชี พระโอรสในเจ้าชายแฮร์รี่แห่งราชวงศ์อังกฤษ

 

 

10 ไอเดียงานแต่งให้ว่าที่บ่าวสาวได้หยอดความเป็นตัวเองลงไปแบบจัดเต็ม

account_circle

จะคู่แต่งงานไหนๆ ก็อยากให้ ไอเดียงานแต่ง มีความเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานตั้งแต่เล็กไปจนใหญ่ ทั้งดอกไม้ เค้กหรือรูปแบบของการตกแต่งต่างๆ แต่จะมีวิธีอะไรบ้างที่จะดึงความเป็นตัวของตัวเองออกมาให้เห็นในงานได้มากที่สุด วันนี้ แพรว wedding จึงรวบรวมมาให้แบบจัดเต็มถึงใจ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

ป้ายต้อนรับ

ป้ายต้อนรับคือสิ่งแรกที่แขกที่มาร่วมงานจะเห็น ลองตกแต่งป้ายต้อนรับด้วยข้อความหรือคำคมที่แสดงถึงความเป็นตัวตนของเจ้าของงาน และอาจทำป้ายต้อนรับแบบนี้ในขนาดเล็กลงเพื่อทำเป็นของชำร่วยด้วยก็ได้

แบ๊กดร็อปถ่ายภาพ

เพิ่มความสนุกสนานสำหรับงานแต่งงานมากขึ้นด้วยฉากหลังสำหรับการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นฉากหลังที่มีข้อความหรือรูปภาพต่างๆ ที่สื่อถึงความรักและงานแต่งงาน หรือฉากหลังที่ตกแต่งเต็มไปด้วยริบบิ้นสีสันสวยๆ เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานได้ใช้เวลาร่วมกันในการถ่ายภาพ

ภาพถ่ายส่วนตัว

ครอบครัวและเพื่อนคือสิ่งสำคัญสำหรับงานแต่งงาน  ลองจัดวางรูปถ่ายของครอบครัวและเพื่อนลงบนโต๊ะที่จัดเอาไว้ในงานแต่งงานพร้อมข้อความดีดีที่สื่อถึงความผูกพันและความทรงจำที่มีค่าระหว่างกัน หรืออาจทำเป็นแบบสมุดเยี่ยม เพื่อแขกพิเศษที่มาร่วมงานจะได้รู้สึกถึงความผูกพันเมื่อเห็นภาพของตัวเองในงานแต่งงาน

การตั้งชื่อและตัวเลข

การตั้งชื่อและตัวเลขที่มีความหมายสื่อถึงความทรงจำดีดีในอดีตเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับงานแต่งงาน พยายามเลือกเรื่องราวที่แขกจะสนใจและนำมาเป็นหัวข้อสำหรับการสนทนาได้ โดยชื่อและตัวเลขอาจเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่ชอบ สถานที่ที่พบรัก เพลงหรืออะไรที่ดูพิเศษ และอาจอธิบายความหมายด้านหลังการ์ดที่เขียนชื่อและตัวเลขแต่ละอันเพื่อเพิ่มความเข้าใจให้กับแขกถึงความหมายหรือความทรงจำที่ต้องการจะสื่อด้วย

ของชำร่วย

การแจกของชำร่วยเป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นสำหรับงานแต่งงาน และเป็นสิ่งง่ายๆที่จะทำให้งานแต่งงานเป็นที่จดจำ คู่บ่าวสาวสามารถใส่ความเป็นตัวของตัวเองลงไปในของชำร่วยได้อย่างเต็มที่และไม่มีขีดจำกัดของการสร้างสรรค์ชิ้นงานเหล่านี้ขึ้นมา

อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารและเครื่องดื่มเป็นสิ่งสำคัญสำหรับงานแต่งงาน อาจใส่ความเป็นตัวของตัวเองลงไปในอาหาร เครื่องดื่มหรือของหวานได้ตามความต้องการ

ดนตรี

ดนตรีที่บรรเลงประกอบในงานแต่งงานมีส่วนสำคัญในการช่วยสร้างอารมณ์และบรรยากาศทั้งในขั้นตอนพิธีและการรับรองแขก คู่บ่าวสาวสามารถใส่ความเป็นตัวของตัวเองลงในบทเพลงและส่งให้ DJ หรือวงดนตรีเปิดหรือเล่นสดในงานแต่งงานได้ นอกจากนี้ยังสามารถให้แขกที่มาร่วมงานส่งเพลงที่ต้องการฟังให้ DJ หรือวงดนตรีเปิดได้ด้วยเช่นกัน

CAKE TOPPER

CAKE TOPPER คือสิ่งสนุกๆ สำหรับคู่แต่งงานที่จะช่วยกันคิดและสร้างสรรค์ร่วมกัน โดยอาจแต่งด้านบนของเค้กด้วยนามสกุลหรือตัวการ์ตูนตัวเล็กๆ ตามความความชอบและความต้องการของแต่ละคน

HASHTAG

hashtag คือความสนุกเล็กๆ แบบง่ายๆ ที่แขกสามารถใช้ประกอบรูปภาพเมื่อแบ่งปันรูปบนโซเชียล มีเดีย มันเป็นสิ่งง่ายๆ ที่จะช่วยแชร์ประสบการณ์ในวันแต่งงานให้คนอื่นได้รับรู้

เจ้าบ่าว

ไอเดียงานแต่ง

ในงานแต่งงานส่วนใหญ่ เจ้าบ่าวมักไม่ค่อยมีบทบาทสำคัญอะไรมากนักสำหรับการจัดเตรียมงานในขั้นตอนต่างๆ และความต้องการของเจ้าบ่าวเองอาจถูกละเลยจากเจ้าสาวไปเลยก็ได้ สำหรับทางออกของเรื่องนี้คือการทำให้เจ้าบ่าวได้มีโอกาสแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งอาจเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างกระดุมข้อมือหรือหูกระต่ายที่เจ้าบ่าวสามารถเลือกเพื่อให้เหมาะกับบุคลิคและเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติม คลิกเลย! <<

cr : modernwedding.com.au, fionasweddingphotography.co.uk

ประสบการณ์ดีๆ ที่อยากบอกต่อ แหวนแต่งงาน จาก Vijittra’s Jewelley ราคาดี คุณภาพแน่น พร้อมบริการที่น่าประทับใจ

account_circle

แหวนแต่งงาน คือสิ่งสำคัญที่เปรียบเหมือนสัญลักษณ์และตัวแทนแห่งความรักของคนสองคน เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่คู่รักจะให้ความสำคัญกับการเลือกแหวนแต่งงานมากๆ ซึ่งแหวนแต่งงานวงนี้นอกจากที่จะต้องมีดีไซน์สวยงาม เหมาะกับการใส่ติดนิ้วในชีวิตประจำวันแล้ว เรื่องราคาและคุณภาพก็เป็นสิ่งที่ต้องมาคู่กัน ซึ่ง Vijittra’s Jewelley ร้านเพชรชื่อดังที่มีชื่อเสียงมายาวนั้นสามารถตอบโจทย์ทุกอย่างได้ตามที่คู่รักต้องการ ถ้าไม่เชื่อ ลองมาดูประสบการณ์ดีๆ จากลูกค้าตัวจริงที่จะมาการันตีให้ว่า “ดีไซน์หลากหลาย ราคาจับต้องได้ คุณภาพเกินราคา” นั้นมีอยู่จริง

รีวิวแหวนแต่งงาน Vijittra’s Jewelley จากคุณคะแนน & คุณเรเน

แหวนแต่งงาน

  • เริ่มต้นมองหาแหวนแต่งงานยังไง?

เราหาข้อมูลร้านต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตก่อนที่จะออกไปเซอร์เวย์ตามร้านต่างๆ ด้วยกัน  ซึ่งเราไม่ได้มีแบบแหวนแต่งงานในใจ แค่อยากได้แหวนแต่งงานที่มีดีไซน์สวยงาม เหมาะกับผู้หญิงและผู้ชายในยุคปัจจุบัน ซึ่งจากที่เราได้เดินดูหลายๆ ร้านก็ได้ข้อสรุปว่าร้านที่ถูกใจเรามากที่สุดคือร้าน Vijittra’s Jewellery ซึ่งเป็นร้านที่มีชื่อเสียงมากในเรื่องของคุณภาพเพชร น่าจะไว้ใจได้ มีสาขาเยอะ และมีสาขาที่ใกล้บ้านด้วย ซึ่งสะดวกในการเดินทางก็เลยลองตัดสินใจลองไปที่ร้านดู

  • ทำไมต้องเป็นที่ Vijittra’s Jewellery

อย่างแรกเลยคือ เรื่องการบริการที่ค่อนข้างต่างจากที่อื่น และมีแหวนแต่งงานหลากหลายแบบให้เลือก ที่สำคัญทางร้านสามารถแนะนำแหวนแต่งงานที่เหมาะกับงบประมาณที่เรามีได้ พร้อมมีใบ certificated รับรองแหวนแต่งงานทุกแบบให้กับลูกค้า รวมไปถึงการให้คำแนะนำต่างๆ ที่พนักงานของร้านพร้อมตอบทุกปัญหาของเราอย่างเต็มใจ ไม่มีการบังคับให้ซื้อ แต่ให้เราดูและกลับไปตัดสินใจก่อน ซึ่งรู้สึกประทับใจในเรื่องนี้มากๆ

แหวนแต่งงาน

  • ก่อนหน้านี้มีความรู้เรื่องเพชรไหม

แฟนผมคือไม่รู้เลย ส่วนผมมีศึกษาข้อมูลในเว็บไซต์มาบ้าง เพราะก่อนหน้านั้นผมเคยซื้อสร้อยเพชรให้เขา ตอนนั้นก็ต้องหาข้อมูลคร่าวๆ ว่าซื้อเพชรต้องมีใบเซอร์ไหม? แล้วถ้าไม่มีก็ต้องดูว่าเป็นเพชรมาจากที่ไหน อะไรยังไง ก็รู้แค่ข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งตอนที่ไปร้าน Vijittra’s Jewellery ทางร้านให้คำแนะนำดีมาก บอกว่าต้องเป็นน้ำประมาณไหน ขนาดต้องเท่าไหร่ พร้อมนำเพชรตัวอย่างมาให้ลองส่องกล้องดู ถึงแม้ตอนนั้นผมยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะซื้อแหวนแต่งงานที่ร้านเขาด้วยซ้ำ ทางร้านก็สอนให้ดูว่าเพชรแบบ D Color เป็นยังไง น้ำ 100 น้ำ 99 ต่างกันยังไง ซึ่งผมก็ได้ความรู้ตรงนี้เพิ่มขึ้น เลยรู้สึกว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างหนึ่ง

  • ความประทับใจบริการก่อนและหลังการขายของร้าน Vijittra’s Jewellery

ความประทับใจก่อนซื้อเพชรที่ร้าน Vijittra’s Jewellery คือ ประทับใจการให้บริการของพนักงานขายที่คอยให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ ไม่ได้พูดเพื่อมุ่งเน้นการขายของเพียงอย่างเดียว ถึงแม้เราจะยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อ  ส่วนหลังการขายทางร้านก็ยังดูแลเราเป็นอย่างดี แนะนำวิธีการดูแลแหวนว่าต้องทำยังไงหลังจากซื้อไปแล้ว พร้อมบอกว่าหากมีปัญหาอะไรก็สามารถนำแหวนมาให้ทางร้านแก้ไขได้ ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มไซส์ สลักชื่อฟรี และมีบริการล้างแหวนฟรีตลอดอายุการใช้งานด้วย อีกทั้งยังสามารถติดต่อได้ตลอดทุกสาขาไม่จำเป็นว่าต้องเป็นสาขาที่ซื้อ ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับการซื้อมากๆ ทำให้รู้สึกอุ่นใจว่าทางร้านจะดูแลเราตลอดอายุการใช้งานจริงๆ

แหวนแต่งงาน

  • ความประทับใจที่มีกับร้าน Vijittra’s Jewellery

รู้สึกประทับใจในเรื่องการบริการ ดีไซน์ ภาพลักษณ์ของแบรนด์ ความสะดวกเพราะมีหลายสาขา และแบบแหวนแต่งงานหน้าร้านที่มีให้เลือกเยอะมาก หลากหลายดีไซน์ ที่สำคัญเรื่องราคาคือตอบโจทย์มาก ทางร้านมีตัวเลือกราคาที่หลากหลาย ถ้าเรามีบัตเจ็ตเท่านี้ทางร้านก็สามารถจัดสรรให้ได้ว่าเราควรจะเลือกแหวนแบบไหน เพื่อให้ตรงกับงบประมาณที่เรามีมากที่สุด

  • ให้คำแนะนำกับคู่รักที่กำลังมองหาแหวนแต่งงาน

ก่อนอื่นต้องคำนึงถึงความชอบของเราก่อน และดูว่าดีไซน์แบบไหนที่เราสามารถใส่ได้ในชีวิตประจำวันหรือในโอกาสอื่นๆ ได้ด้วย เช่น หากใส่ทุกวันก็ควรเลือกดีไซฯให้เหมาะกับงานที่ทำ และมีความคงทน ต่อมาต้องคำนึงเรื่องงบประมาณว่าสามารถจ่ายได้เท่าไหร่ วิเคราะห์ว่าจ่ายไปแล้วคุ้มค่าไหม ได้ในสิ่งที่ต้องการหรือเปล่า เพราะแหวนวงนี้เราต้องใส่ทุกวัน ที่สำคัญคือขายไม่ได้ หรือถ้าเกิดเป็นความตกลงใจของทั้งคู่ว่าอยากจะอัพเกรดแหวนทางร้าน Vijittra’s Jewellery ก็ยินดีให้บริการ เช่น สามารถนำกลับไปเปลี่ยนดีไซน์ได้ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นความน่าสนใจอีกแบบของที่ร้าน เพราะมีทางเลือกให้บ่าวสาวต่อไปในอนาคต

ทั้งผมและแฟนแฮปปี้มาก เพราะแหวนแต่งงานที่ได้ตรงกับความต้องการของเราทุกอย่าง และรู้สึกว่าคุ้มค่ากับการซื้อมากๆ ทั้งเรื่องราคาคุณภาพ และดีไซน์ที่ตอบโจทย์ ที่สำคัญที่ร้านยังมีใบรับรองจาก GIA ให้ด้วย

อ่านมาถึงตรงนี้ ก็การันตีได้จริงๆ ว่าที่ Vijittra’s Jewellery พร้อมที่จะตอบโจทย์เรื่องแหวนแต่งงานให้กับคู่รักมากๆ ทั้งเรื่องราคา ดีไซน์ คุณภาพ และบริการ ที่คงต้องบอกว่าให้เต็มสิบไม่มีหักเหมือนอย่างเช่นที่คู่รักคู่นี้เทใจให้

Vijittra’s Jewellery
โทร. 06-1614-5096
ไลน์ : @Vijittra
ชั้น 3 เซ็นทรัล ลาดพร้าว โทร. 0-2103-4008
ชั้น 1 ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต โทร. 0-2958-0598
ชั้น 1 เจ.เจ.มอลล์ โทร. 0-2265-9618
ชั้น 1 เดอะมอลล์ บางกะปิ โทร. 0-2363-3044
ชั้น 1 เดอะมอลล์ บางแค โทร. 0-2454-9159
ชั้น 2 แฟชั่นไอส์แลนด์ โทร. 0-2116-4889

ชวนส่องเครื่องประดับผมเจ้าสาวว่าเขาใช้แบบไหนบ้าง มาดูกัน

account_circle

เจ้าสาวยุคนี้ เครื่องประดับ ผมเจ้าสาว เขาฮิตใช้แบบไหนกันบ้าง?ต้องจับคู่กับทรงผมแบบไหนดี? แล้วแบบที่เราเคยเห็นเรียกว่าอะไร? เรามีคำตอบค่ะ

เครื่องประดับ ผมเจ้าสาว ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้สด ดอกไม้ประดิษฐ์ มาลัยดอกไม้ เทียร่า หรือแอ็คเซสเซอรี่อื่นๆหลากชนิด ล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องประดับที่ช่วยเสริมให้ทรงผมเจ้าสาวยิ่งดูเลอค่า เสริมลุค และเป็นลูกเล่นที่ช่วยให้ลุคของเราดูตรงกับธีมงานมากขึ้นได้ด้วยค่ะ เหล่าว่าที่เจ้าสาวหลายคนน่าจะพอมีไอเดียเครื่องประดับทรงผมชุดของเราทั้งชุดไทยและชุดเจ้าสาวงานเลี้ยงกันบ้างแล้ว แต่ถ้ายังไม่มี ลองมาดูกันค่ะว่ายุคนี้เจ้าสาวเขาฮิตเครื่องประดับผมแบบไหนกันบ้าง และแบบที่เราชอบนั้นเค้าเรียกว่าอะไรนะ?

ดอกพุด

ดอกพุดเป็นดอกไม้สีขาวที่เหล่าเจ้าสาวในชุดไทยนิยมนำไปประดับผมกันมาก ซึ่งดอกพุดมีหลายสายพันธุ์ แต่ดอกพุดที่นิยมนำมาติดผมเจ้าสาวเพราะมีรูปร่างสวยงามนั้นคือ ดอกพุดซ้อนที่มีกลิ่นหอม และ ดอกพุดกุหลาบที่ลักษณะกลีบดอกสวยงามคล้ายกุหลาบค่ะ

ผมโดย (จากซ้ายไปขวา) IG @teethory, IG @gee_jiwat

ดอกกุหลาบ

อีกหนึ่งดอกไม้ยอดฮิตของเจ้าสาวที่สื่อถึงความรักนิรันด์ และยังเข้ากับทั้งชุดไทยและชุดเจ้าสาวสีขาว ดอกกุหลาบสายพันธุ์ที่นิยมนำมาประดับผมเจ้าสาวคือดอกกุหลาบหนูที่มีขนาดดอกเล็กกว่ากุหลาบปกติ และกลีบดอกเรียงตัวกันแน่นสวยงามค่ะ

ผมโดย (จากซ้ายไปขวา) IG @teethory, IG @gee_jiwat

ดอกไม้นำเข้า

ยุคนี้เหล่าเจ้าสาวยังนิยมนำเอาดอกไม้สดชนิดใหม่ๆ หน้าตาสวยแปลกตามาประดับผมกันอีกด้วย อย่างดอก ฟรีเชีย (ภาพซ้ายมือ) ที่มีจุดเด่นคือลักษณะช่อดอกไม้จากดอกตูมไปถึงดอกบานเรียงกันเหมือนโคมระย้าสวยงาม หรือ ดอก ลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์ (ภาพขวามือ) ที่เป็นดอกไม้ซึ่งดาราสาวชื่อดัง ซอง เฮ เคียว ใช้เป็นช่อดอกไม้เจ้าสาวในวันแต่งงานเพราะสื่อถึงความรักที่บริสุทธิ์อันเป็นนิรันด์ค่ะ

ผมโดย (จากซ้ายไปขวา) IG @gee_jiwat, IG @teethory

มาลัยดอกพุด

อีกหนึ่งเครื่องประดับผมสุดฮิตของเจ้าสาวชุดไทย แมทช์กับผมหวีเรียบเพิ่มความเรียบร้อยเลอค่าประดุจแม่หญิงไทยแท้ๆ จะเป็นมาลัยดอกพุดแบบบิดเกลียว หรือแบบตรงธรรมดา จับคู่กับดอกไม้สดชนิดอื่น หรือเครื่องประดับผมชุดไทยอื่นๆอย่างปิ่น หรือเกี้ยว ก็ได้ค่ะ

ผมเจ้าสาว
ผมโดย IG @gee_jiwat

มาลัยแบน

จุดเด่นของมาลัยแบนร้อยแบบลายยกดอก (แบบในภาพทั้งซ้ายและขวา) หรือแบบลายคุณหญิง คือเป็นมาลัยติดผมเจ้าสาวชุดไทยที่มีลวดลายสวยงาม และยังสามารถเปลี่ยนสีกลีบดอกไม้ให้เข้ากับสีชุดเราด้วย ไม่ว่าจะจับคู่กับผมหางม้า หรือผมเกล้ามวยก็สวยเลอค่าแบบคุณหญิงสูงศักดิ์ จะจับคู่กับปิ่นปักผมแบบไทยโบราณก็ได้อีกเหมือนกันค่ะ

ผมเจ้าสาว
ผมโดย (จากซ้ายไปขวา) IG @teethory, IG @gee_jiwat

ปิ่นปักผม หรือเกี้ยว

ชุดไทยสไตล์โบราณแท้ๆ ก็ต้องคู่กับเครื่องประดับผมสไตล์ไทยอย่างปิ่นปักผม และเกี้ยวประดับศีรษะ ซึ่งเกี้ยวที่นิยมใช้สำหรับผมเจ้าสาวชุดไทยคือเกี้ยวชนิดครึ่งวงกลม และมักจะจับคู่กับปิ่นปักผมที่เข้าคู่กัน ว่าที่เจ้าสาวคนไหนสนใจอยากประดับผมด้วยเครื่องประดับเลียนอย่างโบราณ อย่าลืมแมทช์สีของเครื่องประดับให้เข้ากับสีชุดนะคะ ทางที่ดีลองปรึกษาร้านที่เราเช่าชุดไทยดูค่ะ

ผมเจ้าสาว
ผมโดย (จากซ้ายไปขวา) IG @teethory, IG @gee_jiwat

เทียร่า และแอ็คเซสเซอรี่ผมอื่นๆ

สำหรับเจ้าสาวยุคโมเดิร์นที่ต้องการสไตล์เก๋ไก๋แนวแฟชั่น หรือแนวหรูหราแบบเจ้าหญิงในเทพนิยาย ลองเลือกเครื่องประดับผมหลากสไตล์ให้เข้ากับธีมและชุดของคุณดูค่ะ อย่างเทียร่า (Tiara) หรือมงกุฏเจ้าสาวที่ช่วยส่งให้คุณดูเป็นเจ้าหญิงแห่งค่ำคืนสำคัญ หรืออาจจะเป็นเครื่องประดับรูปแบบอื่นๆ เช่น กิ๊บติดผม หรือ ที่คาดผมที่ดูหรูหรา ประดับด้วยเพชร ไข่มุก หรือดอกไม้ประดิษฐ์ ก็ดูดีไม่แพ้กันค่ะ

ผมเจ้าสาว
ผมโดย IG @gee_jiwat

ดอกไม้สดจัดเป็นช่อ หรือ มงกุฏดอกไม้

ธีมงานแต่งงานในสวนเป็นอะไรที่กำลังมาเลยนะคะตอนนี้ เหล่าว่าที่เจ้าสาวก็เลยน่าจะสนใจเครื่องประดับผมสไตล์มงกุฏดอกไม้สด หรือดอกไม้สดที่จัดเป็นช่อเล็กๆ ติดผม อย่าลืมให้ช่างจัดดอกไม้ของคุณดูธีมงานและสีของธีมงานให้ชัดเจน เพื่อให้โทนสีของดอกไม้เข้ากับสีธีมงานของคุณด้วยละคะ หรือจะเซฟภาพสวยๆ จาก Pinterest ไปประกอบด้วยก็ได้นะ

ผมเจ้าสาว
ผมโดย (จากซ้ายไปขวา) IG @teethory, IG @gee_jiwat

ได้ไอเดีย เครื่องประดับผมเจ้าสาว กันไปเยอะแล้ว เราแนะนำให้อ่าน >> วิธีการแมทช์ทรงผมกับต่างหูและรูปหน้าให้เข้ากันไม่เยอะเกิน << ที่นี่เลยค่ะ

ผมโดย: Instagram @gee_jiwat, @teethory

6 ข้อดีของการมีชีวิตคู่ที่รู้แล้วจะซึ้งใจว่ามีรักที่ดีมันเป็นอย่างนี้นี่เอง

account_circle

เพราะเห็นตัวอย่างความรักที่ผิดหวังหรือเคยมีประสบการรักสุดแป้กมาจนสุดทน สาวๆ ยุคนี้ก็เลยเกิดอาการขยาดที่จะฝากหัวใจให้ใครดูแล แต่อย่าเพิ่งผลีผลามตัดสินใจครองตัวโสดไปตลอดช่วงอายุขัยค่ะ ลองมาอ่านข้อดีของการมี ชีวิตคู่ จากแพรวเวดดิ้งกันก่อนเพราะทั้ง 6 ข้อข้างล่างนี้ คือเรื่องดีๆ ที่คนมีคู่เขาโหวตมาแล้วว่านี่แหละคือข้อดีที่เธอและเขาตัดสินใจเป็นคู่ชีวิตกัน

 1. มีเพื่อนอยู่ด้วยเสมอเรื่อยๆ ไปจนแก่

ข้อดีสุดฮอตที่แทบจะทุกคนที่ตัดสินใจแต่งงานกันบอกกับเราก็คือ ความรู้สึกที่ว่าจะมีเพื่อนอยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ  จนแก่เฒ่า ซึ่งแม้การอยู่นั้นจะเป็นการอยู่แบบเลิฟมากไม่มีนาทีไหนทะเลาะกันเลยหรือยู่แบบลิ้นกับฟันที่กระทบกันมากบ้างน้อยมาก แต่สุดท้ายก็คือความเป็นเพื่อนที่แฝงอยู่นฐานะสามีภรรยาที่ไม่เคยทิ้งกัน ทำให้บ้านหลังนั้นไม่เงียบเหงา และอย่างน้อยๆ เดินไปในบ้านยังมีเพื่อนคนนี้นั่งอยู่เสมอ

2. มีคนคอยอยู่ดูแลกันไม่ห่างเมื่อยามเจ็บป่วย

จริงอยู่ที่ความไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ แต่ใครบ้างจะไม่มีโรคจริงไหมค่ะ ซึ่งนี่แหละคืออีกหนึ่งข้อดีของการมีคู่ นั่นคือเมื่อคุณเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาเมื่อไหร่ จะมีคนๆ หนึ่งที่คอยอยู่ดูแลคุณไม่ห่าง หรือแม้บางคู่ที่อาจจะเถียงว่า ไม่จริงอะ เวลาป่วยยังต้องไปหาหมอคนเดียวเลย แต่ลองคิดดีๆ สิคะ อย่างน้อยๆ คุณก็บอกอีกคนใช่ไหมล่ะว่าป่วย ซึ่งหลังจากนั้น คุณจะได้รับความห่วงใยดูแลไม่มากก็น้อยในสไตล์ของคนๆ นั้น ซึ่งนั่นก็คือรูปแบบหนึ่งของการดูแลกันไงคะ

3. ได้ที่ปรึกษาส่วนตัว

เวลาที่มีปัญหากับที่ทำงานหรือเรื่องส่วนตัว คู่ชีวิตของเรานี่แหละที่เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวที่คุณจะเอ่ยปากบ่นละขอความเห็นเป็นอันดับแรก เพราะคุณก็อยู่กันแค่สองคนผัวเมียแล้วจะบ่นให้ใครฟัง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อบ่นไปแล้ว คุณจะได้คำปรึกษาหรือความเห็นกลับมาไม่มากก็น้อย ซึ่งจะมีประโยชน์ไหมก็ว่ากันไปแล้วแต่กรณี แต่อย่างน้อยๆ คุณก็ไม่ต้องนั่งคิดคนเดียวให้ปวดหัว เพราะสามีหรือภรรยาของคุณคือเพื่อนคู่คิดที่พร้อมจะให้คำปรึกษากับคุณเสมอ

ชีวิตคู่

4. ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายในโลกกว้าง

คู่รักนักเที่ยวบอกกับเราว่า การมีคู่ชีวิตคือมีบัดดี้ไปไหนต่อไหนด้วยกันเสมอ เป็นคนที่ได้เห็นโลกกว้างไปพร้อมๆ กัน ทำให้ได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ แบบคนมีประสบการณ์ร่วมที่คุยกันในเรื่องเดียวกันได้สบายๆ เพราะคู่ของคุณจะเป็นส่วนหนึ่งในประสบการณ์นั้นเสมอ ทำให้การผจญภัยของคุณที่อาจเคยลุยเดี่ยวไม่เดียวดายหรือเงียบเหงาอีกต่อไป ทั้งนี้ทั้งนั้นรวมไปถึงการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตที่เคยทำคนเดียวตอนเป็นโสด ก็จะมีคนมาร่วมทำด้วยมากขึ้น แม้จะทำได้ไม่ดีแต่อย่างน้อยๆ ก็ไม่ต้องวิ่งคนเดียว กินข้าวคนเดียว หรือขับรถคนเดียวจริงไหม

5. มีคนช่วยเรื่องเงินทองไม่ว่ามากหรือน้อย

สำหรับข้อนี้บางคนอาจรู้สึกว่าไม่จริงอ่ะ เพราะคู่เราแยกกระเป๋ากันใช้เงิน แต่เป็นข้อดีที่อีกหลายคู่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันในประเด็นนี้อย่างตรงไปตรงมาว่า เมื่อประสบปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่ว่าจะหมุนเงินไม่ทัน เพื่อนยืมตังไม่จ่ายหรือใช้หนี้บัตรเครดิตไม่ได้ อย่างน้อยๆ คู่ชีวิตของคุณนี่แหละจะเป็นคนแรกๆ ที่รับรู้ และยื่นมือเข้าช่วยเหลือตามกำลังที่ทำได้ หรือแม้ช่วยไม่ได้ก็จะเป็นคนช่วยคิดแก้ไขเรื่องการเงินร่วมกับคุณ

6. มีคนร่วมฝันและช่วยกันทำให้เป็นจริง

ข้อสุดท้ายเรียกได้ว่า สำคัญมากๆ สำหรับการมีคู่ชีวิตที่คู่รักทั้งหลายบอกกับเรา นั่นคือ ความฝันที่ฝันไว้มีคนร่วมรับรู้และร่วมแชร์ภาพฝันไปจนถึงช่วยกันเติมฝันให้เป็นจริง แม้บางคู่จะฝันกันไปคนละทาง แต่การอยู่กันเป็นคู่ชีวิตยทำให้สามารถนำฝันของเธอและฉันมาร่วมกันได้ หรือบางฝันที่นำมารวมเป็นฝันของเราไม่ได้ อย่างน้อยก็ยังมีอีกคนร่วมรับรู้และสนับสนุนให้อีกคนได้มุ่งไปสู่ฝันได้ในที่สุด

แต่ทั้งนี้ทั้งนี้ ทุกเรื่องที่เราบอกจะเป็นจริงได้ คุณต้องเลือกและมั่นใจในคู่ชีวิตที่ใช่ที่ถูกตั้งแต่แรก ไม่ใช่การเลือกเพียงเพราะผู้ใหญ่เห็นชอบ หรืออายุมากแล้วก็เลยแต่งงานกัน เพราะถ้าเป็นแบบนั้นละก็ รอไปเถอะค่ะ กว่าจะบิ้วความสัมพันธ์จนเจอข้อดีแบบที่เราบอกไปได้คงต้องใช้เวลา

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

เรื่อง : ดอกปีบ
ภาพ :  https://www.insideweddings.com

ขอผู้ชายแต่งงาน ได้ไหม? แล้วขอยังไงไม่ให้น่าเกลียด?

account_circle

ก็ในเมื่อเขาคนนั้นไม่ยอมเอ่ยปากซักที! เป็นสาวเป็นนางอย่างเรา จะ ขอผู้ชายแต่งงาน กับเขาบ้างได้ไหมนะ? แล้วจะขอยังไงไม่ให้โดนเม้าท์ไปสามบ้านแปดบ้าน? อ่านเลย

ใครกำลังตกอยู่ในสภาพการณ์แบบนี้บ้าง อยาก ขอผู้ชายแต่งงาน เพราะคนรักข้างกายน่ะก็มีกับเขาอยู่หรอก คบกันมาก็นานพอสมควร พาเขาเข้าบ้านเรา เราก็เข้าบ้านเขา สนิทสนมกลมเกลียวกันดีเหมือนทุกอย่างจะเพอร์เฟ็คแต่วันแล้ววันเล่าเดือนเคลื่อนผ่านไปเป็นปีที่รอคำขอจากปากเขา แต่ใกล้เคียงที่สุดที่เขาพูดคงเป็นการชวนไปกินชาบูหน้าหมู่บ้านแค่นั้น รอแล้วรอเล่าจนเกิดความสงสัยว่าจะให้รอถึงเมื่อไหร่กันนะ หรือว่าที่จริงแล้วควรเป็นชั้นเองที่จะต้องเอ่ยปากขอ  เขา? แล้วจะเริ่มยังไงดี? พูดแล้วไปแล้วเขาเซย์โนจะทำยังไงละ? แถมใครรู้มิโดนเม้าท์ไปสามบ้านแปดบ้านจนพ่อแม่ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนรึเปล่าเนี่ย? ใจเย็น..ตั้งสติก่อนที่จะเอ่ยปากขอผู้ชายข้างกายของเราร่วมหอลงโรง ไม่ต้องยกหูโทรศัพท์โทรหาพี่อ้อยพี่ฉอด อ่านสิ่งที่เราแนะนำต่อไปนี้ แล้วพูดออกไปเลย!

ขอผู้ชายแต่งงาน

ต้องแน่ใจว่าเขาคิดจะแต่งงานกับเราเหมือนกัน

เราเชื่อว่าดูไม่ยาก ระหว่างผู้ชายที่คิดจะคบกับเราไปเรื่อยๆ ไร้จุดหมาย กับผู้ชายที่คิดจะจริงจังกับเราเพียงแต่ยังไม่ได้เอ่ยปากพูดเป็นเรื่องเป็นราว สิ่งสำคัญคือคุณสาวๆต้องไม่เข้าข้างตัวเองว่าการกระทำของเขานั้นชัดเจนกับเราแค่ไหน สัญญาณที่บ่งบอกว่าเขาคิดจริงจังกับคุณ เช่น เขาเปิดเผยสถานะที่ชัดเจนกับคุณเวลาไปเจอเพื่อนหรือญาติๆ เขาดูมีการวางแผนที่ชัดเจน เช่น อยากซื้อบ้าน อยากมีกิจการ หรืออยากวางแผนอนาคตร่วมกับคุณ รวมทั้งถ้าหากถูกถามเรื่องการแต่งงานจากเพื่อนหรือญาติๆ เขาอาจจะตอบทำนองว่ารอเวลาแต่ไม่ได้บ่ายเบี่ยง เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะยังรอเวลาให้ชีวิตมั่นคงกว่านี้ อยากซื้อบ้านก่อน หรืออยากประสบความสำเร็จในการงานก่อนแล้วค่อยเอ่ยปากขอคุณ ถ้าเป็นในกรณีนั้นแล้วคุณแน่ใจมากๆว่าชีวิตของคุณทั้งคู่สามารถดำเนินไปด้วยกันได้แม้สิ่งที่เขาตั้งใจจะยังไม่เกิดขึ้น ก็เอ่ยปากขอเขาเลยค่ะ

อย่าขอเพราะขี้เกียจรอเขาแล้ว

อย่าคิดว่าการเอ่ยปากเรื่องแต่งงานจะเป็นเครื่องมือในการเร่งรัดเขาทางอ้อมได้ เพราะผู้ชายนั้น (ย้อนกลับไปอ่านข้อแรก) ถ้าเขาไม่คิดจะแต่งงานกับคุณ ต่อให้คุณไปเร่งรัดเขาแค่ไหนสิ่งที่คุณต้องการก็จะไม่มีวันเกิดขึ้น ถ้าหากคุณแน่ใจมากๆว่าเขาอยากแต่งงานกับคุณแน่ เปลี่ยนจากการเอ่ยปากขอเขาแต่งงาน เป็นการนั่งจับเข่าคุยกันจะดีกว่า ว่าแผนการแต่งงานนั้นจะอีกกี่ปี? มีอะไรที่คุณจะช่วยเหลือเขาได้ไหมเพื่อให้ชีวิตคู่ของคุณทั้งสองเริ่มเร็วขึ้น เน้นย้ำกับเขาว่าคุณไม่ได้ต้องการที่จะเร่งรัด แต่การจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันได้นั้น คุณทั้งสองต้องมองภาพปลายทางเป็นภาพเดียวกันเท่านั้นเอง

ขอผู้ชายแต่งงาน

ไม่จำเป็นต้องทำตามธรรมเนียมปฏิบัติ

ถ้าหากคุณแน่ใจเต็มอกว่าการแต่งงานของคุณและเขาจะเกิดขึ้นแน่นอน แต่ดูท่าทีแล้วเขาคงไม่ใช่ฝ่ายที่จะพูดแน่ๆ เราเชียร์ให้คุณเป็นฝ่าย ขอเขาแต่งงาน ได้เลย ลืมธรรมเนียมปฏิบัติทั้งสิ้นไปให้หมด! คุณไม่ต้องเป็นฝ่ายคุกเข่าแล้วเปิดกล่องใส่แหวนต่อหน้าเขาเหมือนที่ผู้ชายทั้งหลายทำหรอกค่ะ ลองหาวิธีอื่นที่น่ารัก เช่น ซ่อนแหวนในเค้กที่คุณทำ ในแก้วแชมเปญ หรือใช้น้องหมาน้องแมวที่คุณสองคนเลี้ยงด้วยกันเป็นสื่อกลาง แต่เราแนะนำว่าให้คิดดีๆเรื่องการขอเขาแต่งงานในที่สาธารณะหรือท่ามกลางหมู่เพื่อนๆของเขาและเรา เพราะผู้ชายโดยธรรมชาติเป็นเพศที่เปี่ยมด้วยอีโก้ ถ้าหากเขาไม่เปิดใจยอมรับ การขอเขาแต่งงานต่อหน้าเพื่อนๆเขาและเราอาจจะทำให้เขารู้สึกอายและไม่พอใจได้ค่ะ

แล้วคนอื่นจะมองเรายังไง”?

แน่นอนว่านี่คือคำถามที่หลายคนต้องคาใจและเป็นคำถามที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนลบความคิดที่จะขอผู้ชายแต่งงานก่อนออกไปจากหัว เพราะกลัวโดนเม้าท์นี่แหละ เราอยากจะบอกว่า  ถ้าคุณคิดจะเอ่ยปากขอผู้ชายข้างกายแต่งงานแล้วจริงๆ คนที่คุณควรจะแคร์ มีเพียงคนสำคัญที่สุดก็คือ คนข้างกายของคุณ รวมทั้งคนในครอบครัวที่คุณรัก และเพื่อนสนิทจริงๆเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นคนอื่นๆจะว่าอย่างไรเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรจะสนใจ เพราะเราไปห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้อยู่แล้วแหละค่ะ

ขอผู้ชายแต่งงาน

แล้วถ้าเขาดันตอบว่าไม่”!

อีกหนึ่งฝันร้ายของสาวๆที่คิดจะขอแฟนหนุ่มแต่งงานก่อน ถึงแม้จะแน่ใจแล้วขนาดไหนว่าเขาคิดเหมือนกับเรา แต่ก็อาจจะมีผิดแผนตอนหลังได้เหมือนกัน ถ้าหากเขาตอบว่า ไม่ สิ่งแรกที่สาวๆควรทำคือตั้งสติ อย่าวีน อย่าดราม่า นั่งลงคุยกับเขาตรงๆ ถึงสิ่งที่อยู่ในใจเรา ถามเขาตรงๆก็ได้ว่าที่จริงแล้วความสัมพันธ์เรากำลังดำเนินไปทางไหน? เราสองคนมองเป้าหมายเดียวกันหรือเปล่า? และถึงแม้ว่าการแต่งงานอาจจะไม่ใช่ปลายทางที่เขากำลังมองหา แล้วเขายังต้องการเราให้อยู่เคียงข้างเขาต่อไปหรือเปล่า? และสุดท้ายแล้วถ้าเขาและเราจะต้องแยกจากกัน อย่างน้อยคุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลากับความสัมพันธ์ที่ไม่ได้มองจุดหมายปลายทางเดียวกันอีกต่อไปค่ะ

สุดท้ายอย่าลืมนะคะสาวๆ ว่าการแต่งงานไม่ใช่จุดสิ้นสุดหรือเส้นชัยของความสัมพันธ์ แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นอีกจุดหนึ่งของชีวิตคู่เท่านั้น การที่เขาไม่ได้เอ่ยปากขอเราแต่งงานไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่มีปัญหา สุดท้ายแล้ว อยู่ที่คุณทั้งสองคนเข้าใจกันและกันมากแค่ไหน และพร้อมจะจับมือเดิมร่วมทางกันต่อไปหรือไม่ แม้ว่าจะมีการแต่งงานเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตามค่ะ

ชอบคอนเท้นต์นี้ของเราไหมคะ? >> ลองอ่าน 5 วิถีคนขี้กั๊กถ้าเจอแบบนี้ให้รู้ไว้เลยว่า คุณคือตัวเลือก

credit photo: telegraph.co.uk, shanghaiist.com

เฌอเอม-ชญาธนุส

ล้วงลึกวิธีคิดในแบบ เฌอเอม-ชญาธนุส ศรทัตต์ สาวงามผู้ฉายแสงสู่จักรวาล

Alternative Textaccount_circle
เฌอเอม-ชญาธนุส
เฌอเอม-ชญาธนุส

สัมภาษณ์พิเศษผู้เข้าประกวดหมายเลข 82 เฌอเอม-ชญาธนุส ศรทัตต์ สาวงามผู้ฉายแสงสู่จักรวาล กับวิธีคิดคำตอบที่ทัชหัวใจผู้คน

เฌอเอม-ชญาธนุส

ดูเผินๆ การประกวดนางงามอาจเป็นการแข่งกันที่ความสวย แต่ในหลายครั้งของการประกวด ก็ทำให้เราได้รู้ว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป เพราะแก่นแท้ของการประกวดแท้จริงแล้ว เราไม่ได้ต้องการคนสวยเพียงอย่างเดียว แต่ยังอยากสื่อออกไปให้โลกได้รู้ว่า ผู้หญิงก็มีศักยภาพและขับเคลื่อนสังคมได้เหมือนกัน

สำหรับผู้เข้าประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 (Miss Universe Thailand 2020) ในปีนี้ แต่ละคนนอกจากพกความสวยมาสู้ศึกขาอ่อนแล้ว พวกเธอยังพกความรู้ความสามารถมาฟาดฟันกันแบบไม่มีใครยอมใคร ซึ่งหากพูดถึงสาวงามที่กลายเป็นที่พูดถึงในประเด็นนี้มากที่สุดก็คงเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก ผู้เข้าประกวดหมายเลข 82 เฌอเอม-ชญาธนุส ศรทัตต์ ซึ่งแพรวดอทคอม ได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอในระหว่างกิจกรรมเก็บตัว ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า เธอคือสาวงามผู้ฉายแสงสู่จักรวาลจริงๆ

เฌอเอมเป็นลูกหลงของครอบครัว

“เอมเป็นลูกหลงค่ะ มีพี่น้องสามคน เป็นพี่ชาย พี่สาว และเอมเป็นคนสุดท้อง เอมเองเป็นลูกหลง พี่ๆ โตหมดแล้ว เพราะฉะนั้นจะไม่ค่อยได้เล่นกับใครเท่าไหร่ เลยมักจะอยู่คนเดียวและอ่านหนังสือ ถามว่าสนิทกับพี่ๆ ไหม ก็คือตอนเด็กๆ ไม่ค่อยได้คุยเพราะพี่ๆ เขาโตมากแล้ว แต่เราก็มองเขาเป็นแบบอย่าง แต่ไม่ได้เป็นเพื่อน”

เฌอเอม-ชญาธนุส

ไม่ได้เป็นคนขี้อาย แต่เป็นพูดไม่เก่ง เลยไม่ชอบพูด

“อาจมีคนเข้าใจผิด แต่จริงๆ แล้วหนูไม่ใช่คนขี้อายนะคะ เอมพูดไม่เก่งเพราะเราขี้เกียจจะพูด เนื่องจากเวลาเราพูดคนมักจะล้อ ฉะนั้นเวลามีอะไรเราเลยไม่พูด แต่เราจะคิดในหัว สำหรับจุดเปลี่ยนคือ เรารู้สึกว่าพอเราไม่พูด พื้นที่เราก็หายไปด้วย ซึ่งมันทำให้ชีวิตเรามีข้อจำกัดและไม่ได้รับสิทธิ์บางอย่างเท่ากับคนอื่น หรือว่าเราไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดี เพราะเขาคิดกับเราว่าต่อให้ปฏิบัติกับเราไม่ดี เขาก็จะไม่พูดอะไร แต่มันไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ต้องการสิ่งดีๆ พอมันถึงจุดหนึ่งเอมรู้สึกไม่โอเค เลยคิดว่าเราต้องออกมาพูดบ้าง”

ช่วงชีวิตในวัยเด็กของเฌอเอม

เอมเป็นคนตัวสูงและผอม เลยดูเก้งก้างเลยมักจะโดนล้อ จึงชอบอยู่กับหนังสือและวาดรูปคนเดียวมากกว่า บางทีก็พูดคนเดียว เพราะเราชินกับจินตนาการโลกขึ้นมาจากหนังสือ บวกกับตอนนั้นไม่มีตัวเลือกอื่นเท่าไหร่”

“สำหรับการเรียนของเอม เอมว่าเอมโอเคนะคะ แต่ตอนนั้นในวัยเด็ก พอเราคิดว่าตัวเองไม่เก่ง และถูกเพื่อนล้อเยอะ มันทำให้เราเลยไม่มีความมั่นใจเหมือนอย่างคนอื่น ถึงใครจะบอกว่ารูปร่างหน้าตาเอมว่ามันไม่เกี่ยว แต่ความจริงแล้วมันก็เกี่ยว เพราะพอเด็กมีความมั่นใจ เขาก็จะกล้าที่จะเรียนรู้มากขึ้น แต่กระบวนการเรียนรู้ของเรามันยุ่งเหยิงตั้งแต่เด็ก เราก็จะคิดว่าเราไม่เก่งตลอด เอมเคยตั้งใจกาข้อสอบแบบมั่วๆ เพราะคิดว่าทำไปมันก็ไม่ได้อยู่แล้ว เป็นความรู้สึกที่เราไม่อยากรู้ว่าเราเก่งหรือไม่เก่ง แต่พอโตขึ้นมาก็รู้ว่าเราเก่งแหละ แต่กลายเป็นว่าเราไม่ได้ใช้เวลาตรงนั้นตั้งแต่เด็ก”

เรียนโรงเรียนไทยมาตลอด แต่ภาษาอังกฤษเป๊ะปังหายห่วง

เอมก็เรียนโรงเรียนไทยปกติค่ะ คนอาจจะมองว่าภาษาเอมดีแต่บางครั้งก็ต้องยอมรับว่าเรามึนๆ ท้นต์อยู่บ้าง สำหรับสิ่งที่หล่อหลอมให้เรามีภาษาที่ดีแบบนี้เอมคิดว่ามันคือความคล่องตัวของภาษาเมื่อเราใช้บ่อยๆ โดยเริ่มต้นจากสิ่งที่ชอบ อย่างเอมเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือและการ์ตูนค่ะ แล้วเรื่องที่หนูอ่านมันไม่มีภาษาไทยก็เลยทำให้ต้องอ่านเป็นภาษาอังกฤษไปโดยปริยาย เพราะความที่อยากจะอ่านมัน ก็เลยทำให้หนูสู้อดทน พยายามอ่านภาษาให้แตก เอมคิดว่าการอ่านมันคือการฝึกภาษาที่ดีค่ะ”

ล้วงลึกวิธีคิดคำตอบในแบบของเฌอเอม

“จริงๆ หนูเองก็ช็อตคำตอบเยอะเหมือนกัน อย่างเวลาที่มีคนเดินเข้ามาถามทันที  สำหรับการตอบคำถามของเอมนั้น เอมคิดว่าเราคิดอะไรเราก็แค่พูดอย่างนั้น และตอบคำถามให้ง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้แค่นั้นเอง เอมเป็นคนที่ไม่ค่อยได้พูดกับคนอื่นเท่าไหร่ หน้าตาจะนิ่งๆ คนอาจไม่อยากเข้าใกล้เรา เลยอยากให้เวลาพูดอะไรออกไป ก็พูดให้ตรงประเด็นที่สุด เพื่อให้เขารู้สึกว่าเขาได้คำตอบ ให้เขารู้สึกว่าเราคุยรู้เรื่อง น่าเข้าใกล้มากขึ้น”

ชญาธนุส ศรทัตต์

ความกดดันในการตอบคำถามแต่ละครั้งของเฌอเอม

เอมได้รับรู้กระแสที่คนพูดถึงเรามันรู้สึกเหนือความคาดหมาย เพราะเราก็แอบคิดนิดหนึ่งว่า บางทีทุกครั้งที่เราตอบ มันจะไม่ได้อย่างนั้นตลอดมันต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย แต่เราก็ไม่อยากให้เขาคาดหวังมากเกินไป ซึ่งเอมว่ามันไม่ได้กดดันในแบบที่ว่าเราต้องทำให้ดีขึ้นนะคะ แต่มันกดดันให้เราปล่อยไปบ้าง เพราะทุกครั้งเราอาจจะไม่ได้เป๊ะปังตลอด อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่เอมมักคิดอยู่เสมอก็คือ ต้องคำนึงถึงคนอื่นมากกว่าตัวเองด้วย เอมคิดว่าการที่เราดูแลพื้นที่อยู่รอบตัวดูบริบทของงาน บางทีอะไรที่มันแหลมเด่นแหลมเกินไป มันก็ไม่ดี คือการที่เราอยู่กับคนอื่นได้ มันสำคัญกว่าการหาซีนเข้าตัวเองตลอดเวลา เพราะฉะนั้นบางเรื่อง จุดกึ่งกลางของเอมจะไม่เหมือนกับคนอื่น บางเรื่องอาจจะตรงใจคนบางเรื่องก็อาจจะไม่ตรงใจคน”

“แต่แอตติจูดของเอมเกือบทั้งหมดไม่ได้มาจากทางใดทางหนึ่งเท่านั้น แต่มันเกิดจากการที่เอมคิดย้อนไปย้อนมา การเป็นเด็กที่สังคมไม่ต้องการมาตลอดเอมว่ามันเป็นโชคดีในโชคร้ายนะคะ  เพราะเมื่อรู้สึกว่าเราผิดที่ตรงไหน มันเริ่มรื้อกระบวนการคิดและทำให้ได้อะไรใหม่ๆ  ที่มันอาจจะเป็นช่องโหว่อย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง เหมือนกับเราอยู่ยอดตึกเราคงมองไม่เห็นช่องโหว่ต่างๆ แต่เมื่อเราเลือกที่จะลงไปแล้วขึ้นตึกมาใหม่อีกครั้ง มันจะทำให้เราเห็นอะไรชัดเจนขึ้น”

ชญาธนุส ศรทัตต์

ผันชีวิตจากนางแบบรันเวย์สู่เวทีการประกวดจักรวาล

“ตอนที่เอมเป็นนางแบบเอมไม่ได้มีปัญหาเรื่องการพูดไม่ชัด เพราะนางแบบไม่จำเป็นต้องพูดชัดถูกไหมคะ พอคิดจะมาเป็นนางงาม เราต้องเริ่มสำรวจตัวเองว่าเราจะต้องพูดชัดแค่ไหน ต้องใช้อะไรบ้าง ซึ่งเอมใช้เวลา 1 เดือนเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองก่อนที่จะมาออดิชั่น โดยอย่างแรกที่ต้องทำคือการทลายกำแพงความรู้สึกของเรา เพราะก่อนที่เราจะไปพูดกับคนโดยเฉพาะพูดให้คนฟังรู้สึกทัชใจ เราต้องรู้ก่อนว่า เราอยากพูดกับตัวเองอย่างไร ถ้าตัวเราเองเรายังรู้สึกไม่โอเค คนอื่นก็คงไม่ได้รู้สึกโอเคเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราต้องคิดก่อนว่า ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์ คนเขาอยากจะฟังอะไรจากเรา แล้วเรากล้าไหมที่จะพูด เพราะบางทีเมื่อมาคิดดูดีๆ  เราไม่ได้เก่งหรือเข้าใจชีวิตคนทุกรูปแบบ”

พูดจาฉะฉานแต่จริงๆแล้ว เอมเป็นโรคไม่ชอบสบตากับผู้คนหรือกล้อง

“คือหนูจะเป็นคนที่ไม่ชอบสบตากับผู้คน ตาเอมจะค่อนข้างหลุกหลิกมองโน่นมองนี่ เนื่องจากเราจะกลัวสายตาคน เหมือนตอนนี้หนูมองตาพี่ซึ่งเป็นคนจริงๆ หนูก็ต้องใช้ความพยายามนิดหนึ่ง แต่ถ้ากลัวมากกว่าก็คือกล้อง คือหลังจากวันนี้พี่อาจจะลืมเอมก็ได้ แต่ถ้าเอมมองกล้อง เมื่อไหร่ที่ถูกบันทึกทั้งภาพ เสียง และใบหน้ามันจะอยู่กับเราตลอดไป”

แข็งแรงกว่าร่างกายคือความคิดที่แข็งแกร่ง

” ตอนที่มีฟีดแบ็คคนชื่นชม ยอดfollowขึ้นมาเยอะเลย เอมก็ค่อนข้างตกใจมากเพราะว่าในชีวิตไม่เคยมีใครมีฟีดแบ็คนี้กับเราเลย และเราเองก็ไม่ชินเหมือนกันค่ะ”

“คือเอมพยายามย้อนคิดเหมือนกันนะว่า เวลาเพื่อบอกว่าเอมเก่ง เราก็จะตอบกลับไปว่าเราเก่งตรงไหน ด้วยความที่มันไม่ได้เห็นเป็นภาพเป็นรูปธรรมมันก็เลยวัดยาก เอมมานั่งนึกนะว่าเราเก่งอะไร เราเก่งกับการอดทนต่อชีวิตเหรอ หรือว่าเรามีจุดมุ่งหมายอะไร”

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เวทีที่เปลี่ยนชีวิตของเฌอเอม

“ก็ส่วนหนึ่งนะคะ เพราะว่าการที่เราจะมาตรงนี้ ตอนนั้นเอมไม่ได้คิดถึงเรื่องสวยหรือว่าเดินดี คือครั้งแรกที่มาไม่ได้คิดถึงตำแหน่งอะไรขนาดนั้น แค่คิดว่าอยากทำให้ดีที่สุด”

“ตอนที่มาประกวดเราคิดมาก่อนว่า เรามีอะไรอยากจะบอกกับโลกนี้ไหม เพราะเราก็เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าอยากหนีจากสปอร์ตไลท์มาตลอด ซึ่งพอเราอดทนกับหลายอย่างในชีวิต มันทำให้เรารู้ว่าถ้าเรามันแต่อดทนมันคงไม่เกิดกลายเปลี่ยนแปลงดังนั้นเราควรที่จะลงมือทำหรือออกมาพูด ฉะนั้นเราต้องลอง พอเอมเคลียร์ตรงนี้ได้อย่างอื่นมันมาที่หลังเลยค่ะ”

ชีวิตของเฌอเอมทำให้เราได้เรียนรู้หลายอย่าง โดยเฉพาะการเปลี่ยนมุมมองในชีวิต จนกล้าที่จะก้าวออกมาจากโลกใบเดิม โดยที่ไม่ต้องรอให้ใครมาพาออกไป เอาเป็นว่าแพรวขอเป็นกำลังใจให้กับเฌอเอม รวมถึงสาวงามท่านอื่นๆ ทุกคนด้วยนะคะ


ภาพจาก : IG @cheraimnations_

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

นางแบบไทย เฌอเอม-ชญาธนุส เกือบโดนต่อย หลังถูกเหยียดเรื่องไวรัส Covid-19

5 ปี กับตราบาปในชีวิต พรฟ้า-ปุณิกา ยืนยันบริสุทธิ์ ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

ชีวิตยิ่งกว่าละคร ซามีน่า MUT2020 อยู่ห้องเช่าเดือนละ 1,500 บาท แต่สู้ชีวิตยิบตา

สวยไม่ได้จำกัดแค่ขาว Samina ขอพิสูจน์ ค่านิยมความงาม เปลี่ยนไปแล้วหรือยัง?

คมกว่าปังตอ! น้ำ-พัชรพร นางงามคนล่าสุดของเวที มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2020

พ่อค้ารุ่นจิ๋ว สายฟ้า พายุ

ขายของเก่ง! พ่อค้ารุ่นจิ๋ว สายฟ้า พายุ รีวิวชุดเซ็ตราคาหลักพัน ใส่ไปไหนก็น่ารักกก

พ่อค้ารุ่นจิ๋ว สายฟ้า พายุ
พ่อค้ารุ่นจิ๋ว สายฟ้า พายุ

ขายของเก่งไม่ไหวแล้ว พ่อค้ารุ่นจิ๋ว สายฟ้า พายุ ใส่เสื้อผ้าแบรนด์ตัวเอง รีวิวจัดเต็มใส่ไปทุกที่ พร้อมแชะภาพเท่ๆ มุมหลุดๆ เรียกรอยยิ้มให้คุณลูกค้า

หลังจากเปิดตัวแบรนด์ SAIFAH BHAYU และวางขายอย่างเป็นทางการไปเมื่อ 15 กันยายนที่ผ่านมา กระแสตอบรับก็กระหน่ำเข้ามาไม่หวั่นไม่ไหวเลยแม่ ในอินสตาแกรมของแบรนด์มีคุณพ่อคุณแม่สนใจและเข้ามาคอมเม้นต์ถามข้อมูลเกี่ยวกับชุดที่สายฟ้า พายุใส่เยอะมากกกก แถมยังเรียกร้องให้ทำไซส์ผู้ใหญ่ออกมาขาย เพราะดีไซน์ยั่วใจจนหลายคนอยากช้อปเลยล่ะ

โดยเสื้อผ้าแบรนด์ SAIFAH BHAYU มีความสตรีทและเป็น unisex คอลเล็คชั่นแรกมีชื่อว่า Fun Park เสื้อผ้าจะเป็นแบบโอเวอร์ไซส์ มีทั้งหมด 4 ไซส์คือ S , M , L และ XL ขนาดเหมาะสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 2 ขวบไปจนถึง 8 ขวบ มาในราคาสบายๆ ไม่เจ็บหนัก ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันต้นๆ

ซึ่งชุดที่สองแฝดใส่ถ่ายแบบเป็นเสื้อและเอี๊ยม มีทั้งสีขาว-แดง , สีดำ-เรนโบว์ มาในราคาเซ็ตละ 1,590 บาทเท่านั้น งานนี้พี่สายและน้องยุขออาสารีวิวให้ดูกันไปเลยว่าชุดใส่สบาย ใส่ไปไหนก็เท่ แม้แต่เข้าเซเว่นซื้อของซื้อผักก็ยังดูดี เป็นชุดที่เด็กๆ ใส่แมตช์กันแล้วน่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ

พ่อค้ารุ่นจิ๋ว สายฟ้า พายุ เสื้อผ้า สายฟ้า พายุ  

แต่ถ่ายแบบเซ็ตเดียวอาจจะน้อยไป เจ้าของแบรนด์เลยจัดมาให้ดูกันอีกเซ็ต รอบนี้น้องพายุมีพร็อพเป็นพลั่วตามไปด้วยทุกที่ ส่วนพี่สายฟ้าก็แจกความสดใสน่ารักเต็มเฟรมเลยลูกกก เห็นแบบนี้รับรองว่าลูกค้าแน่นกว่าเดิมแน่นอน เพราะพ่อค้าขยันรีวิว ขยันขายของแบบนี้ ใครจะอดใจไม่กดซื้อไหวล่ะคะพี่สายน้องยุ


ภาพ : IG@chomismaterialgirl

เรื่อง : ฮานะ_แพรวนิสต้า

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เรียบหรู งดงาม ‘แก้ม วิชญาณี’ ใส่ชุดไทยจิตรลดาจาก POEM ทำบุญวันเกิด 31 ปี

ลูกสาว CELINE ตัวจริง! ลิซ่า ขึ้นแท่นแอมบาสเดอร์ระดับโลกคนแรก

แฟชั่นตามใจ ไม่มีกฎ! ถอดสไตล์ ดัชเชสเคท ก่อนเข้ามาเป็น สะใภ้ราชวงศ์อังกฤษ

สตีเบล เอลทรอน เผยธุรกิจทรงตัว แม้เจอโควิด เดินหน้าองค์กรสีเขียวด้วยเครื่องทำน้ำอุ่นรุ่น DX ECO พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ 11 โมเดลประจำปี 2563

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – สตีเบล เอลทรอน ผู้นำตลาดด้านเครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อน เครื่องกรองน้ำ ปั๊มน้ำ ฮีทปั๊มและเครื่องเป่ามือประจำประเทศไทย ประกาศเดินหน้าแผนงานธุรกิจ เพื่อก้าวสู่ความเป็น “องค์กรสีเขียว” อย่างจริงจัง  พร้อมเผยว่ายังคงรักษาตัวเลขผลประกอบการแปดเดือนแรกในปี 2563 ได้อย่างทรงตัว แม้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19  โดยได้มีการปรับตัวและปรับกลยุทธ์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์อย่างรวดเร็ว พร้อมเผยโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ “Comfort Through Technology” ตอกย้ำความเป็นหนึ่งในด้านคุณภาพและเทคโนโลยี ด้วยมาตรฐานเยอรมันที่เป็นเลิศ

“ด้วยพันธกิจของสตีเบล เอลทรอน ประเทศไทย ในการผลักดัน “ธุรกิจอย่างยั่งยืน” ชูสินค้าและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย “เทคโนโลยีสีเขียว” (Green Tech) โดยเฉพาะการใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด (sufficiency) และมีความยั่งยืน (sustainability) ผ่านการจัดการด้านการผลิต และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเพื่อคงความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจและความเป็นผู้นำในตลาดต่อไป  ความร่วมมือในครั้งนี้กับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ จีซี ในฐานะผู้เชี่ยวชาญและผู้นำธุรกิจด้านเคมีภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนด้านพลังงานของเมืองไทย ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของสตีเบล เอลทรอน ในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก  ในการต่อยอดคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อน ด้วยวัสดุที่สามารถนำมาใช้ซ้ำ แต่ยังคงคุณภาพ แข็งแรง คงทนและปลอดภัยตามมาตรฐานเยอรมันที่เรายึดมั่นตลอดมา รวมทั้งยังช่วยลดอัตราการปล่อยมลภาวะในขั้นตอนการผลิตได้เป็นอย่างดี” มร.โรลันด์ เฮิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด กล่าว

มร.โรลันด์ เฮิน (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด
และ
คุณพัลลภ เชี่ยวชาญวิทยเวช (ขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด

ทั้งนี้ จากความร่วมมือระหว่างสตีเบล เอลทรอนและ จีซี ในการผลักดันสินค้าที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้วัสดุหลักที่เป็นพลาสติก ABS รีไซเคิล 100% ในการผลิตฝาครอบเครื่องทำน้ำอุ่น เพื่อให้ได้มาซึ่งคุณภาพตามมาตรฐานหรือสูงกว่าการใช้เม็ดพลาสติกปกติ โดยเครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อนรุ่น DX ECO  เป็นผลิตภัณฑ์รุ่นแรกซึ่งเป็นนวัตกรรมเชิงรักษ์สิ่งแวดล้อม ผสานการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์บนพื้นฐานแนวคิด Green Design  ด้วยการนำทรัพยากรธรรมชาติ หรือวัสดุเหลือใช้มาพัฒนาต่อยอดสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีมูลค่าสูงขึ้น โดยยังคงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งในตัวผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต ซึ่งนับได้ว่าตรงตามเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจระยะยาวของสตีเบล เอลทรอน

บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด และ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ จีซี เปิดตัวเครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อนรุ่น DX ECO  เป็นผลิตภัณฑ์รุ่นแรกซึ่งเป็นนวัตกรรมเชิงรักษ์สิ่งแวดล้อมที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้วัสดุหลักที่เป็นพลาสติก ABS รีไซเคิล 100% ในการผลิตฝาครอบเครื่องทำน้ำอุ่น เพื่อให้ได้มาซึ่งคุณภาพตามมาตรฐานหรือสูงกว่าการใช้เม็ดพลาสติกปกติ

เป็นเวลากว่า 22 ปี ของสตีเบล เอลทรอน ประเทศไทย ที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูง ครองใจผู้บริโภคจนเป็นผู้นำตลาดเครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อน  ด้วยส่วนแบ่งการตลาดในปี 2562 ที่มากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ หรือมูลค่ารวมกว่า 650 ล้านบาท พร้อมทั้งตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำอย่างแท้จริงกับสโลแกน “เรื่องน้ำ มั่นใจ สตีเบล เอลทรอน จากประเทศเยอรมนี” หรือ “Comfort Through Technology”

อย่างไรก็ตามในปี 2563 นี้ถือเป็นอีกปีที่ท้าทายในส่วนของผู้ดำเนินธุรกิจ จากวิกฤตการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ 2019 (โควิด-19) ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก และแน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อสตีเบล เอลทรอนด้วยเช่นกัน แต่ด้วยการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจได้อย่างทันท่วงทีผสานกับความแข็งแกร่งขององค์กร  จึงทำให้ผลประกอบการในช่วงแปดเดือนแรกของปี 2563 ยังทรงตัวผ่านมาได้  สืบเนื่องจากการพยายามเข้าถึงลูกค้าและวางกลยุทธ์ร่วมกับพันธมิตรในทุกๆ ช่องทาง ทั้งกลุ่มธุรกิจขายปลีกและกลุ่มธุรกิจงานโครงการ ส่งผลให้ภาพรวมยอดขายสะสมยังไม่ตกลงกว่าปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ สตีเบล เอลทรอน ยังเดินหน้าต่อยอดแผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการมองเห็นพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ปรับเข้าสู่ช่องทางอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มมากขึ้น เป็นโอกาสให้บริษัทได้ปรับแนวทางการทำตลาดผ่านทางช่องทางออนไลน์ในรูปแบบอออนไลน์ถึงออฟไลน์ (O2O) ส่งผลให้ช่องทางการขายออนไลน์มีอัตราการเติบโตสูงถึงห้าเท่าจากปีที่ผ่านมา

“ต้องยอมรับว่าบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้ามองในภาพรวมถือว่าเรายังปรับตัวได้ดี ซึ่งเห็นได้จากยอดขายโดยรวมในช่วงแปดเดือนแรกของปี 2563 ที่ยังเป็นที่น่าพอใจ ถึงแม้ช่องทางหลักอย่างห้างสรรพสินค้าจะได้รับผลกระทบหนัก จนทำให้ยอดขายตกลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่กับช่องทางอื่นๆ เรายังสามารถสร้างการเติบโตได้อยู่ ทั้งช่องทางการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายหรือดีลเลอร์ที่เติบโตเพิ่มขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์  เช่นกันกับกลุ่มลูกค้า B2B เรายังสามารถเติบโตได้มากกว่า 10% จากกลุ่มลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่แนวโน้มทางธุรกิจดูไม่สู้ดีนัก แต่เราได้พยายามเพิ่มโอกาสจากโครงการที่ยังคงมีอยู่ และเร่งผลักดันให้สินค้าของเราเข้าติดตั้งให้แล้วเสร็จทันที่โครงการจะส่งมอบงาน นอกจากนี้สตีเบล เอลทรอน ยังทำได้ดีกับการเพิ่มโอกาสในการขายไปยังสถานประกอบการต่างๆ อาทิ ร้านอาหาร โรงพยาบาล หรือสปา รวมถึงการปรับกลยุทธ์ให้เข้าถึงพฤติกรรมการซื้อผ่านช่องทาออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ยอดขายอีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นหลายเท่า ทั้งหมดนี้แน่นอนว่าเกิดจากที่เราทำงานกันอย่างหนัก ประกอบรวมกับอีกหลายๆ ปัจจัย ส่งผลให้บริษัทฯยังมีตัวเลขสะสมของปีนี้ดีกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ จากนี้ในการสื่อสารทางการตลาด สตีเบล เอลทรอน ยังคงเน้นเรื่องผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับ “น้ำ” ซึ่งในปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่ง สตีเบล เอลทรอน ถือเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าให้ความเชื่อถือและมั่นใจมาอย่างยาวนาน จึงเชื่อว่าจะเป็นทิศทางที่ดีต่อจุดยืนในการพัฒนาสินค้าตามมาตรฐานเยอรมันที่เราทำอยู่” มร.โรลันด์ กล่าวปิดท้าย

และเพื่อเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจในฐานะผู้เชี่ยวชาญในเรื่องน้ำ สตีเบล เอลทรอน พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาดประจำปี 2563 ได้แก่ 

  • เครื่องทำน้ำอุ่นน้ำร้อน (Instantaneous Water Heater) 7 รุ่น ซึ่งรวมถึงเครื่องทำน้ำอุ่นรุ่น DX ECO
  • หม้อต้มทำความร้อน (Storage Water Heater) 1 รุ่น 
  • เครื่องกรองน้ำ (Water Filter) 1 รุ่น (FOUNTAIN7S ANTHRACITE)

และล่าสุดกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่จะมาเสริมประสบการณ์ Comfort Through Technology กับความรื่นรมย์ในยามอาบน้ำประหนึ่งใช้บริการจากสปาชั้นนำ ได้แก่

  • ชุดฝักบัวอาบน้ำ (Shower Head) – STIEBEL AQUA  3 รุ่น คือ Neutral, Matte Black และ Chromium 
  • ตัวกรองอาบน้ำ VITA SHOWER FILTER ประสบการณ์ใหม่ในการอาบน้ำ ที่ให้ความสดชื่น สะอาด และกลิ่นหอมที่ผ่อนคลาย มีให้เลือก 3 กลิ่น คือ กลิ่นกุหลาบ (VITA Rose) กลิ่นชาเขียว (VITA Green Tea) และกลิ่นสตรอเบอร์รี่ (VITA Strawberry) ที่เหมาะสำหรับเด็ก

สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของสตีเบล เอลทรอน ผู้นำด้านการผลิตเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำน้ำร้อน เครื่องกรองน้ำ และเครื่องเป่ามือ ชั้นนำจากประเทศเยอรมนี ได้ที่ www.facebook.com/stiebeleltronasia หรือ http://www.stiebeleltronasia.com

กินอย่างไรไม่ให้แก่

กินอย่างไรไม่ให้แก่! 5 สารอาหารชะลอวัย เสริมคอลลาเจน ต้านริ้วรอย

Alternative Textaccount_circle
กินอย่างไรไม่ให้แก่
กินอย่างไรไม่ให้แก่

กินอย่างไรไม่ให้แก่ 5 สารอาหารชะลอวัย เสริมคอลลาเจน ต้านริ้วรอย

เมื่อพูดถึง “ความแก่” เชื่อว่าหลายๆ คนคงไม่อยากเผชิญ แต่ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งที่เราทำได้ก็คือ การชะลอความแก่หรือความเสื่อมให้ช้าลงนั่นเองค่ะ พญ.อนงนุช ชวลิตธำรง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จาก Addlife Medical Center ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) ได้ให้ข้อมูลว่า สาเหตุหลักของความแก่ ก็คือ สารอนุมูลอิสระ หรือ Free radical ซึ่งเป็นสารที่ขาดอิเล็คตรอน เลยไม่เสถียร ต้องมาแย่ง อิเล็คตรอนจากเซลล์ปกติ ทำให้เซลล์เราเสื่อม เป็นโรค เป็นมะเร็ง ผิวหนังเหี่ยวย่น เป็นต้น ดังนั้น การแก้ความแก่มี 2 วิธีหลักๆ ก็คือ

อาหารชะลอวัย

  1. ต้องทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระน้อยลงทั้งจากภายใน ได้แก่ อาหาร (ไม่ทานหวาน มัน เค็ม แปรรูป) เลี่ยงความเครียด เสี่ยงติดเชื้อ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ และจากภายนอก ได้แก่ มลภาวะทางอากาศ ฝุ่น PM2.5 อาหารและน้ำปนเปื้อนสารพิษ โลหะหนัก ยาฆ่าแมลง รังสี UV จากแสงแดด เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ยาก
  2. วิธีที่ 2 เป็นวิธีที่ควรเน้น คือ การเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถทำได้โดยการให้สารอาหารช่วย ชะลอความแก่ (เสื่อม) ได้แก่
  • Vitamin C มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็ง ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวใส เต่งตึง พบในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว มะขามป้อม ฝรั่ง เป็นต้น
  • Vitamin E ช่วยปกป้องไขมันจากการถูก Oxidized ช่วยลดการเกิดหลอดเลือดอุดตัน ซึ่ง Vitamin E มีหลายฟอร์ม เช่น Alpha tocopherol, Gamma tocopherol ในธรรมชาติ พบมากในอาหารจำพวกธัญพืช จมูกข้าวสาลี เมล็ดทานตะวัน ดอกคำฝอย
  • Vitamin A สำคัญสำหรับภูมิคุ้มกัน การมองเห็น สายตาและผิว วิตามินเอละลายในไขมันจึงพบในน้ำมันตับปลา เครื่องใน ไข่แดง นม ผักสีส้มเหลือง เขียวเข้ม เช่น แครอท ฟักทอง ผักโขม เป็นต้น
  • Astraxanthin เป็นสาร carotenoid สร้างจากสาหร่ายสีแดง คือสารสีแดงที่พบในอาหารทะเล กุ้ง ลอบสเตอร์ แซลมอน
  • Coenzyme Q10 ร่างกายสร้างเองได้บางส่วน แต่เมื่ออายุมากขึ้น ก็สร้างได้ลดลง มีหน้าที่ช่วยขนส่งอิเล็กตรอนในกระบวนการสร้างพลังงานระดับเซลล์ ซึ่งจำเป็นสำหรับเซลล์หัวใจ เซลล์สมอง เซลล์กล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วย โคเอนไซม์คิวเทน พบในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ ปลา เป็นต้น

อาหารชะลอวัย

โดยปกติแล้วสารต้านอนุมูลอิสระส่วนใหญ่ อยู่ในอาหารที่เป็นผัก ผลไม้ ซึ่งเราต้องทานให้มากเพียงพอที่จะป้องกันความแก่ เช่น ทานสลัดผักให้ได้ 5-7 จานต่อวัน และต้องทานให้หลากหลายชนิด  ดังนั้น การทานจากอาหารอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องได้รับในรูปแบบอาหารเสริมค่ะ  แต่ก็ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่จะได้รับปริมาณที่เหมาะสม ไม่เกิดอันตรายค่ะ

และถ้าไม่อยากแก่ นอกจากการกินแล้ว ก็ต้องอย่าลืมทา ครีมกันแดด ด้วยนะจ๊ะ


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อายุเท่ากัน แต่หน้าตาและผิวพรรณกลับดูต่างกันอย่างเห็นได้ชัด มีสาเหตุจาก

เมนู อาหารบำรุงผิว ที่ผู้หญิงต้องมีไว้ในลิสต์ และเพื่อวันนั้นของเดือน!

คุมน้ำหนัก! ควรเลือกน้ำสลัดรสชาติแบบไหน ปริมาณแคลอรี่เท่าไร มีบอกครบ

 

มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้! ส่อง รถคลาสสิก ของสะสมกว่า 100 ล้านบาทของ “บ้านบูรณะพันธุ์”

เปิดโรงรถบ้านบูรณะพันธุ์ ส่องความอลังการที่คงไว้ซึ่งความคลาสสิก ของสะสมสุดรักของคุณ “ปุ๊ – ศิริพงษ์” อย่าง รถคลาสสิก ที่แพรวบอกเลยว่า มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้จริงๆ เพราะแต่ละคันมี เรื่องราวที่ไม่ธรรมดา บางคันมีประวัติศาสตร์ยาวนานเป็นร้อยปี ผ่านประสบการณ์มากมายที่ไม่สามารถเปลี่ยนค่าเป็นเงินได้!

เริ่มต้นกันด้วย คันแรก เบนซ์ SL 300 Gullwing เพชรน้ำงามสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
สัญชาติเยอรมัน ที่ไปโด่งดังในอเมริกา

“สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เอเย่นต์รถอเมริกันบอกบริษัทเบนซ์ว่า ทำไมไม่ผลิตรถสำหรับคนรวย เบนซ์จึงออกแบบรถรุ่นนี้มาประมาณ 1,000 คัน ได้ชื่อว่าดีไซน์ลงตัวที่สุดในโลก คันนี้มีฝรั่งขายให้ผม 5 ล้านบาท สมัยกว่า 20 ปีที่แล้วถือว่าราคาสูงมาก สภาพก็ไม่สมบูรณ์เครื่องไม่ฟิต สีถลอก ณ ตอนนั้นในประเทศไทยมีไม่ถึง 4 คัน ผมจ้าง ช่างเบนซ์จากบริษัทที่เยอรมนีเกษียณแล้วมาซ่อมให้ เสียค่าซ่อมประมาณ 3 – 4 ล้านบาท ความที่เป็นรถแข่งสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จึง ค่อนข้างเร็ว เรียกว่ารถยุโรปตามไม่ทัน แรก ๆ มีขับบ้าง แต่ตอนนี้ ไม่กล้าขับแล้ว เพราะขับยาก ไม่มีกระจกข้าง แอร์ก็สู้ไม่ไหว ปัจจุบัน มีคนมาขอซื้อ 60 ล้านบาท มาตื๊อถึงบ้าน 3 – 4 หน แต่ผมไม่ขาย”

มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้! ส่อง รถคลาสสิก ของสะสมกว่า 100 ล้านบาทของ “บ้านบูรณะพันธุ์”

02-1
คุณปุ้ย – อภิพร (ลูกชายคุณ ปุ๊ – ศิริพงษ์ บูรณะพันธุ์) กับ เบนซ์ SL 300 Gullwing  มูลค่า 60 ล้านบาท
04-1
เบนซ์ SL 300 Gullwing มูลค่า 60 ล้านบาท

เบนซ์ SL 280 Pagoda คันนี้รอมา 60 ปี

05-1
เบนซ์ SL 280 Pagoda

“สมัยเด็กผมเห็นคุณป้าเพื่อนคุณพ่อขับเบนซ์สปอร์ตสีแดงมา กินข้าวที่บ้าน เท่มาก ผู้หญิงขับรถสปอร์ต ภาพนั้นอยู่ในความทรงจำ มาตลอด จนเวลาผ่านไป 60 ปี ผมพยายามซื้อรถรุ่นเดียวกันนี้ กี่คัน ก็ไม่สวยถูกใจ ทำอย่างไรก็ไม่สามารถลบภาพเบนซ์สปอร์ตกับคุณป้า ท่านนี้ได้ วันนี้ยังไม่สาย ผมตามไปที่บ้านคุณป้าท่านนั้นแถวถนน เพชรเกษม ไม่น่าเชื่อว่า เบนซ์คันนี้จอดอยู่ที่บ้านสภาพเดิมทุกอย่าง เพิ่งได้มาสด ๆ ร้อน ๆ ยังไม่ได้ทำสี”

เบนซ์ทูโทน S Class Coupé ซูเปอร์สตาร์ หรูแกมเท่ และ
ฟอร์ด Thunderbird ปี 1955 รถรุ่นเดียวกับในหนัง เจมส์ บอนด์ 007

07-1
(ซ้าย) เบนซ์ทูโทน S Class Coupéในละคร วนิดา กับ เลือดรักเลือดทรนง(ขวา) ฟอร์ด Thunderbird ปี 1955รุ่นเดียวกับหนัง เจมส์ บอนด์ 007160

09-1

เบนซ์ทูโทน S Class Coupé เท่ตรงที่ 2 ประตู เปิดประทุน เครื่องดีมาก ไม่ค่อยจุกจิก ถูกยืมไปถ่ายละคร วนิดา ในเรื่องเป็นรถของติ๊ก – เจษฎาภรณ์ ล่าสุด ปรากฏในละคร เลือดรักเลือดทรนง ราคาตอนนี้อยู่ที่ 5 – 6 ล้านบาท ส่วน ฟอร์ด Thunderbird รถรุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รุ่นแรกที่เป็นเกียร์ออโต้ คันนี้ เป็นอดีตรถยนต์พระที่นั่งส่วนพระองค์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้รับการ เปลี่ยนมือจนมาอยู่ที่ผมเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ในราคา 1,200,000 บาท สภาพไม่สมบูรณ์ เครื่องไม่ดี ไม่มีประทุน ผมต้องเดินทางไปซื้อ ประทุนจากอเมริกามาใส่ใหม่”

 

Austin รถน่ารักยุคชาร์ลี แชปลิน

10-1
Austin ยุคชาร์ลี แชปลิน ตามหาอะไหล่ไกลถึงอังกฤษ

“รถในยุคแรกของการสร้างรถ สตาร์ทโดยใช้มือหมุนด้านหน้า สมัยก่อนเป็นรถยอดนิยมของคนกรุงเทพฯ จึงคิดว่าน่าจะมีไว้ขับสนุก ๆ ผมได้มาตอนหลังน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 มาแบบสตาร์ทไม่ติด ผมไปตาม หาอะไหล่ถึงอังกฤษ จากสนามบินต้องจ้างแท็กซี่ขับไปชานเมืองอีก 100 กิโลเมตร อะไหล่ชิ้นละประมาณ 60,000 บาท เพิ่งซ่อมเสร็จ ราคาตอนนี้อยู่ที่ 2 ล้านบาท”

11-1
เอกลักษณ์ของ Austin คือสตาร์ทเครื่องโดยใช้มือหมุน

12-1

 

Porsche 911 Carrera เปิดประทุน
ที่ซื่อมาในราคา 2 ล้านบาท ขณะนี้ยังซ่อมไม่เสร็จ มีคนขอซื้อในราคา 6 ล้านบาท

รถคลาสสิก
Porsche 911 Carrera เปิดประทุน

 

นอกจากนี้ยังมี จากัวร์ E-type สุดยอดของจากัวร์ ที่กำลังทำสีอยู่จึงไม่มีภาพมาฝาก โดยคุณปุ๊ – ศิริพงษ์ บอกว่า เป็นซีรี่ส์ 1 รุ่นแรกที่น่าจะมีเพียงแค่ 1 คันในเมืองไทย โดยคุณปุ๊ซื้อมาเมื่อ 20 ปีที่แล้วในราคา 1 ล้านบาท ขณะที่วันนี้สามารถขายได้ในราคา 10 ล้านบาทแบบสบายๆ

ชีวิตของรถอยู่ที่อะไหล่ที่ใช้ในการขับเคลื่อน คุณปุ๊บอกเลยว่า รักจะเล่นรถคลาสสิกต้องทำให้ถึง จึงลงทุนเปิดอู่ที่บ้าน จ้างช่างของตัวเองเพื่อคงชีวิตที่คลาสสิกนั้นไว้ จนเขาได้รับเลือกให้ได้รางวัล Mcguire Award 2005 รางวัลสำหรับ คนรักรถเป็นคนแรกของเมืองไทย


เรื่องและภาพ : นิตยสารแพรว ฉบับที่ 890 คอลัมน์ UNEXPECTED

4 มหาเศรษฐีโลก รวยระดับล้านล้าน ใช้ชีวิตเรียบง่าย แต่ไม่สโลว์ไลฟ์

แก้มบุ๋ม ปรียาดา จากเจ้าแม่สายมู สู่สายธรรมะ ผลบุญส่งแฟนหนุ่มคุยเรื่องแต่งงาน

account_circle

แก้มบุ๋ม ปรียาดา จากเจ้าแม่สายมู พาตัวเองเข้าสู่สายธรรมะด้วยการรับศีล ล่าสุดผลบุญหนุนนำจนแฟนหนุ่มสะกิดคุยเรื่องแต่งงาน

ขึ้นแท่นเป็นตัวแม่สายมูตัวยงที่ไม่ว่าจะได้ยินสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตรงไหนดี ตรงไหนเด็ด แก้มบุ๋ม ปรียาดา สิทธาไชย ต้องไปบูชาขอพรเสริมความปังทั้งเรื่องงาน เงิน และความรักให้กับตัวเอง และด้วยแรงอธิษฐานนี้เอง สาวแก้มบุ๋ม ที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ก็ได้เผยแบบหมดเปลือกว่าความรักดีที่เกิดขึ้นอยู่ ณ ตอนนี้กับหวานใจที่ชื่อ พีท กันตพร นักธุรกิจหนุ่ม ทายาทเครือโรงพยาบาลดัง มาพบรักเพราะจากการดูดวง

จุดเริ่มต้นการ มู ใครชักนำเข้าไป ??

แก้มบุ๋ม : พี่ปุยฝ้ายค่ะ เป็นคนชักนำเข้าไป จริงๆ ก่อนหน้าที่จะถูกชักนำเราก็มี มู บ้าง คือ คุณแม่เราเป็นสายที่ มู หนักมากที่ไหนดีแม่ก็ไปลูกก็เลยติดเชื้อแม่ พอมาเจอพี่ฝ้าย คือเราทำรายการด้วยกัน แล้วเราก็ได้ยินพี่ฝ้าย คุยแบบผ่านหูว่าไป มูที่นี่ดีมากเลยนะ เราก็เข้าไปถามเขาเลยว่าอะไรตรงไหนดีเหรอค่ะ พี่ฝ้าย เขาก็แนะนำเรามาตรงนั้นดีโน้นนี่นั่น ไม่ใช่ไปแค่ดูหมออย่างเดียวนะ เรื่องรับศีลด้วย คือการรับศีลถามว่ามันดียังไง ทำผิดในศีลมันเป็นยังไง แล้วผลรับได้อะไร เราได้ฟังแบบนี้เราบอก คุณพ่อ เลยว่าไม่ได้ล่ะต้องไปที่นี่ล่ะ

พิธีกร (ปุยฝ้าย) : คุณอาณัติ โหดมหัน การรับศีลปรมัตถ์ คือ อย่างมนุษย์ทุกคนบอกว่ารักษาศีล 5 จะมีอาการเผลอเรอนิดๆ หน่อยๆ ไม่เป็นไรหรอก แต่การที่เราถือศีลนี้แล้วเราต้องทำให้ได้ตลอด ไม่สามารถที่จะตบยุงได้หรือหลงเผอเรอได้ เพราะเราได้ ปวารณาตน ไปแล้วได้ให้คำมั่นสัญญาไปแล้ว แต่เราต้องไปเข้าพิธีนะคะ ถ้ามดจะกัด ยุงจะกัด ปล่อยเขากัดไปค่ะ  แต่เราเลือกได้นะคะ เราเอาข้อที่เรามั่นใจว่าเราสามารถที่จะทำได้ ไม่จำเป็นต้องทำได้ทั้งหมด 5 ข้อ

แก้มบุ๋ม ปรียาดา

แก้มบุ๋ม : ส่วนตัวรับมาแค่ 2 ข้อค่ะ คือ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่ลักทรัพย์ เพราะเรารู้สึกว่าถ้าอยู่ๆ วันใดวันหนึ่งเรารู้สึกว่าเราอยากพูดโกหก คือ ไม่ได้ ถึงจะพูดโกหกโดยที่ไม่เจตนาก็ไม่ได้

 แล้วที่ว่าไปดูหมอดูมาเป็นยังไงบ้าง

แก้มบุ๋ม : แม่นมากดีมาก ไปอาทิตย์ละ 1 ครั้งเลยค่ะ คือเพราะด้วยความที่เราเป็นคนฟุ้งซ่าน คือความเชื่อของเราไม่มีผิดไม่มีถูกค่ะ ที่เราไปถามก็จะมีเรื่องงาน เรื่องเงิน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของหัวใจ บางทีก็แบบทำอะไรไม่ได้ ที่เราไปดูทุกอาทิตย์เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่สบายใจเราเลยไปดู เหมือนเราไปหาเพื่อนแล้วปรึกษามากกว่า

แล้วสิ่งที่เขาดูให้เรา หรือหมอดูบอกเราแม่นไหม ??

แก้มบุ๋ม : แม่น !! มากเขาบอกว่าเราจะเจอคนที่ทำเกี่ยวกับโรงพยาบาลเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะเราก็คิดว่าเป็นสัตวแพทย์ เพราะเรามีความชอบของเราสัตว์เลี้ยง ผ่านไป 1 ปีแฟนคนปัจจุบันทำเกี่ยวกับโรงพยาบาลตรงมาก

ทุกวันนี้ยังไปไหม

แก้มบุ๋ม : ช่วงนี้มีความสุขเลยไม่ค่อยได้ไปเจอหมอดูเลย เพราะช่วงไหนที่เรามีความสุขมากเราก็ไม่ได้ไปเลย คนเราพอแบบถ้าจิตใจไม่ได้แบบมีความรู้สึกว่าเศร้าก็จะรู้สึกว่าโหยหาอะไรที่ต้องยึดเหนี่ยว

จากการที่หมอดูคนนี้บอกว่าจะมีผู้ชายเข้ามาในชีวิต และก็เข้ามาแล้วจริงๆ แถมตอนนี้ผู้ชายกำลังเปรยๆ เรื่องแต่งงานแล้วจริงไหม ??

แก้มบุ๋ม ปรียาดา

แก้มบุ๋ม : (ยิ้มแบบเขิน) ไม่ ยังๆ ค่ะ แต่เขาก็มีถามบ้างว่าชอบแบบไหน บ้านเราชอบแบบไหน เขาต้องจ่ายเงินเป็นแสนให้หมาแล้วเหรอต่อไปนี้ เขาอาจจะพูดเฉยๆ ก็ได้

 ถ้าเขาขอเราพร้อมที่จะตอบหรือยัง ??

แก้มบุ๋ม : เป็นเรื่องของอนาคตค่ะ

มีความรักดีๆก็ไม่วายโดนคนบูลลี่เรื่องแฟน

แก้มบุ๋ม : อย่างภาพที่เห็นเลยค่ะ เพราะเราเป็นผู้หญิงที่สูงมากกว่ามาตรฐานเกินผู้หญิงคือสูง 171 เลย เราก็ไม่ได้โต้ตอบคนที่บูลลี่อะไรเรามากนะคะ เราแค่ตอบไปว่า สงสัยหนูจะเป็นผู้หญิงที่สูงเกินกว่ามาตรฐานมั้งคะ แต่อีกคนคือ ด่าเลย เดี๋ยวนี้เขาไม่บูลลี่กันแล้วค่ะ ด้วยความที่เราเป็นเราแบบนี้ เขาก็มาต่อ เดี๋ยวนี้ทำไมไม่สวยเลยนะคะ เราก็ตอบเขาอีกนะว่าช่วงนี้ไม่สวยเลยค่ะ คือที่เราตอบไปเบาๆแบบนั้นเพราะเราเอาความโกรธของเราแสดงออกไปทำให้เราเคยดูแย่มาแล้ว ตอนนี้เราเลยคิดว่าเราเอาความโกรธของเราเก็บไว้ข้างในแล้วเอาเขียนลงในกระดาษระบายความโกรธแทน ฉันเกลียดแกๆ แต่เราไม่จำเป็นต้องเขียนลงในโซเชียลเพราะมันจะอยู่ในนั้นตลอดกาล

อีกเรื่องหนึ่งที่มีคนพูดถึงอยู่คือ การเปิดคาเฟ่สัตว์เลี้ยง ??

แก้มบุ๋ม : เป็นเรื่องเข้าใจผิดในช่วงโควิดคือร้านปิดร้านหยุด มีคนมาดูสัตว์ตลอด แต่ด้วยความที่มีคนคนหนึ่งเขารักสัตว์แต่เขามาหาว่าเราทารุณกรรมสัตว์หาว่าเราปล่อยสัตว์ทิ้งไว้ ปล่อยกินอึตัวเอง อยู่ในที่ร้อนซึ่งพอเราไปอธิบายให้เขาฟังเขาไม่ฟังเรา แล้วเขาบอกว่าสิ่งที่เขาเห็นสิ่งที่เขาเจอเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด คือตอนเราด่าเราทำไมเขาโพสต์ได้ว่าเราได้ แต่ตอนจะขอโทษเราทำไมต้องมาถามเราว่าจะต้องโพสต์อะไรพูดอะไร เราก็บอกว่าเราไม่เอาแล้วเราจะฟ้องไม่รับคำขอโทษแล้ว นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เราต้องฟ้องเพราะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู

Emily in Paris (เอมิลี่ในปารีส) ซีรีส์แนวโรแมนติกคอเมดี้

Emily in Paris ซีรีส์แนวโรแมนติกคอเมดี้จากทีมผู้สร้างในตำนานSex and the City 

Alternative Textaccount_circle
Emily in Paris (เอมิลี่ในปารีส) ซีรีส์แนวโรแมนติกคอเมดี้
Emily in Paris (เอมิลี่ในปารีส) ซีรีส์แนวโรแมนติกคอเมดี้

Emily in Paris (เอมิลี่ในปารีส) ซีรีส์แนวโรแมนติกคอเมดี้ ที่มีจำนวนตอนทั้งหมด 10 ตอนด้วยกัน จากทีมผู้สร้างซีรีส์ในตำนานอย่าง ดาร์เรน สตาร์ (Darren Star) จาก Sex and the City 

ซึ่งใน Emily in Paris เขายังรับหน้าที่เขียนบทและอำนวยการสร้างเช่นเดิม และนำแสดงโดย นักแสดงสาว ลิลี่ คอลลินส์ (Lily Collins) จาก Mirror Mirror, Love Rosie และ To The Bone โดยจะเริ่มตอนแรกในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ทาง Netflix 

ซึ่งซีรีส์เรื่อง Emily in Paris (เอมิลี่ในปารีส) เป็นเรื่องราวของเอมิลี่ รับบทโดย ลิลี่ คอลลินส์ (Lily Collins) นักการตลาดรุ่นใหม่ไฟแรงวัย 20 กว่าๆ จากชิคาโก ที่ได้มีโอกาสย้ายไปทำงานที่ปารีสอย่างไม่คาดฝัน เมื่อบริษัทของเธอเข้าซื้อกิจการบริษัทการตลาดสุดหรูในฝรั่งเศส และหน้าที่หลักของเธอครั้งนี้ ก็คือการปรับโฉมกลยุทธ์โซเชียลมีเดียให้กับริษัท ชีวิตใหม่ของเอมิลี่ในปารีสเต็มไปด้วยการผจญภัยอันน่าตื่นเต้น และความท้าทายที่น่าประหลาดใจ เมื่อเธอต้องพยายามหาวิธีเอาชนะเพื่อนร่วมงาน ในขณะที่ต้องหาเพื่อนใหม่ และตามหาความรักครั้งใหม่ไปพร้อมกัน

เอมิลี่ในปารีส
EMILY IN PARIS (L to R) LILY COLLINS as EMILY in episode 102 of EMILY IN PARIS. Cr. CAROLE BETHUEL/NETFLIX © 2020

เอมิลี่ในปารีส ถือผลงานการผลิตโดย Darren Star Productions, Jax Media และ MTV Studios โดยได้ ลิลี่ คอลลินส์ (Lily Collins) รับหน้าที่โปรดิวเซอร์ให้กับซีรีส์เรื่องนี้ด้วย และยังได้ แพทริเซีย ฟิลด์ (Patricia Field) สไตลิสต์ระดับไอคอนผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จแฟชั่นที่ทุกคนหลงรักของ Sex and the City มารับหน้าที่ที่ปรึกษาในการออกแบบเครื่องแต่งกายให้กับซีรีส์เรื่องนี้ ร่วมกับ มาริลีน ฟิทูสซี่ (Marylin Fitoussi)

เอมิลี่ในปารีส
EMILY IN PARIS (L to R) LILY COLLINS as EMILY in episode 105 of EMILY IN PARIS Cr. CAROLE BETHUEL/NETFLIX © 2020

นอกจากนี้ แพรวดอทคอม ยังจะพาไปคุยกับ ดาร์เรน สตาร์ (Darren Star) ผู้อำนวยการสร้าง และ ลิลี่ คอลลินส์ (Lily Collins) นักแสดงนำ ผู้รับบท เอมิลี่ จากงาน Virtual Press Junket

1. คุณได้สร้างตัวละครหญิงที่น่าทึ่งมากมายเหล่านี้และตัวละคร เอมิลี่ ก็เช่นกัน ฉันอยากรู้ว่าคุณสามารถเข้าถึงตัวละครเหล่านี้และเรื่องราวของพวกเขาได้อย่างไร?

ดาร์เรน: ผมคิดว่ามันมาจากผู้หญิงที่อยู่รอบข้างผม คนที่ผมเติบโตมาด้วยอย่างแม่และพี่สาว แต่ผมไม่ได้มองตัวละครเหล่านี้จากมุมมองของผู้หญิงคนใดคนหนึ่ง ผมมองตัวละครจากมุมมองของผมเอง แล้วก็จินตนาการให้ตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์เดียวกับพวกเธอ ผมคิดว่าผู้ชายและผู้หญิงมีความรู้สึกร่วมที่เหมือนกันมากมายแต่ในขณะเดียวกันผมก็พบว่าตัวละครที่เป็นผู้หญิงมีเรื่องราวที่สามารถนำมาเขียนได้สนุก พวกเธอแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาให้นำไปเขียนถึงได้มากมาย และผมคิดว่าพวกเขามีอารมณ์ขันที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ผมชอบเขียนถึงผู้หญิงที่ทรงพลัง เป็นแรงบันดาลใจ ผมสนุกกับการดูตัวละครเหล่านั้นและผมก็ชอบที่จะเขียนตัวละครเหล่านี้ด้วยตัวของผมเอง

เอมิลี่ในปารีส
EMILY IN PARIS (L to R) LILY COLLINS as EMILY in episode 106 of EMILY IN PARIS. Cr. CAROLE BETHUEL/NETFLIX © 2020

2. ในเรื่องเราจะเห็นว่าเอมิลี่มีชุดที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมายและเธอยังเป็นตัวละครผู้หญิงที่เข้มแข็งมากเช่นกัน คุณคิดว่าเสื้อผ้าของเธอแสดงถึงความแข็งแกร่งและความทะเยอทะยานของเธออย่างไรบ้าง?

ลิลี่: ฉันคิดว่าเธอเป็นคนสดใส กล้าหาญ ค่อนข้างชัดเจนและสนุกสนาน และถ้าคุณมองจากชุดของเธอ คุณจะรู้ว่าเธอกล้าที่จะเสี่ยงทั้งในด้านการทำงานและความรัก ซึ่งแสดงออกมาผ่านเสื้อผ้า ทั้งสีสัน ลวดลาย และสไตล์ของชุด

เอมิลี่ในปารีส
EMILY IN PARIS (L to R) CAMILLE RAZAT as CAMILLE and LILY COLLINS as EMILY in episode 104 of EMILY IN PARIS Cr. CAROLE BETHUEL/NETFLIX © 2020

3. ซีรีส์นี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความแตกต่างทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศของเธอกับส่วนอื่นๆ ของโลก มันเป็นสิ่งที่คุณต้องการนำเสนอผ่านประสบการณ์ต่างๆ ในซีรีส์หรือไม่?

ดาร์เรน: ก่อนอื่นผมคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้มันสร้างด้วยอารมณ์ขันจากทั้งสองวัฒนธรรม ผมคิดว่าอเมริกันมีความผูกพันกับฝรั่งเศสมานานย้อนกลับไปตั้งแต่ยุคของโทมัส เจฟเฟอร์สัน เรารักปารีสและผมคิดว่าคนฝรั่งเศสก็รักอเมริกา แต่ในขณะเดียวกันเราก็มีความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งเกลียดด้วยบ้าง ผมคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นการนำประเด็นเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรมมาเน้นย้ำและเฉลิมฉลอง ในมุมมองว่าถึงพวกเราจะมีความแตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญคือการที่คนจากต่างวัฒนธรรมได้ใช้เวลาร่วมกันและทำความเข้าใจกันและกัน ผมคิดว่าประเด็นหลักของซีรีส์คือการเดินทางไปในวัฒนธรรมอื่นๆ และทำความเข้าใจโลก โดยเฉพาะคนอเมริกันที่ไม่ค่อยได้เดินทางมากเท่ากับคนประเทศอื่นๆ  ผู้หญิงอเมริกันที่เข้ามาทำงานกับบริษัทฝรั่งเศสแต่ไม่รู้ภาษาฝรั่งเศสหรือสิ่งที่จำเป็นสำคัญมาก ผมคิดว่าเธอได้เรียนรู้อะไรมากมายจากพวกเขาและพวกเขาก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเธอ ผมคิดว่านั่นเป็นข้อคิดสำคัญที่ซีรีส์อยากจะส่งต่อให้คนดู และผมคิดว่าเอมิลี่ก็ได้พบมิตรภาพที่ดีจากเพื่อนชาวฝรั่งเศสในตอนท้ายของซีรีส์ตอนแรกนี้

เอมิลี่ในปารีส
EMILY IN PARIS (L to R) PHILIPPINE LEROY-BEAULIEU as SYLVIE GRATEAU and LILY COLLINS as EMILY in episode 102 of EMILY IN PARIS Cr. CAROLE BETHUEL/NETFLIX © 2020

4. ในตัวอย่างของซีรีส์มีตอนที่ความคิดเห็นของเอมิลี่ถูกมองข้ามในที่ทำงาน คุณคิดว่าผู้หญิงควรพูดหรือแสดงออกในที่ทำงานอย่างไร?

ลิลี่: ฉันคิดว่าเธอถูกมองข้ามไม่ใช่แค่เพราะว่าเธอเป็นผู้หญิง แต่ฉันคิดว่าเธอถูกมองข้ามในตอนแรกเพราะหัวหน้าของเธอไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับมุมมองของเธอ เพราะเธอเป็นแค่พนักงานใหม่ ฉันคิดว่าที่จริงแล้วเธอทำได้ดีมากในการแสดงความคิดเห็นออกมาในฐานะผู้หญิงที่เข้มแข็งคนหนึ่ง ซึ่งทำให้ซิลวี่ เจ้านายของเธอรู้สึกประหลาดใจและ ฉันคิดว่าจริงๆแล้วซิลวี่รู้สึกชื่นชมในสิ่งที่เอมิลี่พูด แต่ด้วยความที่ไม่เคยมีพนักงานทำแบบนั้นกับเธอมาก่อน เธอจึงปฏิเสธเพราะมันเป็นสิ่งที่เธอไม่ได้คาดคิด และเป็นสิ่งที่ซิลวี่ควรจะคิดได้ก่อน ดังนั้น มันมีหลายเหตุผลที่ทำให้เธอไม่ยอมรับความเห็นของเอมิลี่ในตอนแรก แต่ในที่สุดเธอก็ยอมรับในตอนหลังเพราะเธอก็รู้ว่ามันเป็นความคิดที่ดี เพียงแต่เธอต้องใช้เวลาเท่านั้นเอง ฉันคิดว่าเอมิลี่ทำได้ดีมากในการพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการออกมา และฉันเชื่อว่ายิ่งเธอสร้างความคุ้นเคยกับเพื่อนร่วมงาน ปรับตัวกับสถานที่ทำงานใหม่และความแตกต่างทางวัฒนธรรมได้มากขึ้น เราก็จะได้เห็นเธอทำแบบนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันชอบดูหรือแสดงเป็นตัวละครที่ทำแบบนั้น เพราะมันเป็นแรงผลักดันให้ฉันทำแบบนั้นในชีวิตจริงของตัวเองเช่นกัน

เอมิลี่ในปารีส
EMILY IN PARIS (L to R) LILY COLLINS as EMILY in episode 103 of EMILY IN PARIS. Cr. COURTESY OF NETFLIX © 2020

5. จากมุมมองของคุณ คุณเห็นอะไรในตัวของลิลี่ และทำไมคุณถึงเลือกให้เธอเป็นเอมิลี่?

ดาร์เรน: ลิลี่เป็นนักแสดงที่เก่งและยอดเยี่ยมมาก ผมเคยดูผลงานของเธอและรู้สึกชื่นชมมาก เมื่อผมได้เจอเธอตัวจริง ผมก็ยิ่งประทับใจขึ้นไปอีกกับความเป็นเธอ ผมได้เห็นว่าเธอมีคุณสมบัติบางอย่างที่ผมต้องการ เราคอนเฟิร์มนักแสดงที่จะมาเป็นนักแสดงนำโดยที่บทยังไม่ได้เขียน เราจึงอยากได้รับแรงบันดาลใจจากนักแสดงคนนั้นด้วย และผมคิดว่าลิลี่จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เราในการสร้างตัวละครนี้ได้ แล้วผมก็ยังถามตัวเองด้วยว่าฉันอยากจะใช้เวลา 4 เดือนในปารีสกับใคร นอกจากนี้สิ่งที่ผมคาดไม่ถึงก็คือวิธีที่ลิลี่แสดงความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นแน่วแน่ของเอมิลี่ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมมาก เธอทำให้เราเห็นทั้งความกล้าหาญ ความมีเสน่ห์ และความเปราะบางของเอมิลี่ออกมาได้อย่างสมดุลในเวลาเดียวกัน

เอมิลี่ในปารีส
EMILY IN PARIS (L to R) PHILIPPINE LEROY-BEAULIEU as SYLVIE GRATEAU and LILY COLLINS as EMILY in episode 110 of EMILY IN PARIS Cr. STEPHANIE BRANCHU/NETFLIX © 2020

6. ถ้าคุณสามารถเลือกเพียง 3 คำเพื่ออธิบายสไตล์แฟชั่นของเอมิลี่ 3 คำนั้นคืออะไร?

ลิลี่: ความสดใส (Bright) , ชัดเจน (Bold), การสรรหาสิ่งที่ดีที่สุด (Eclectic)

7. จากการที่คุณทำงานกับดาร์เรน คุณรู้หรือไม่ว่าทำไมเขาสามารถสร้างตัวละครที่น่าทึ่งเหล่านี้และทำสิ่งเหล่านี้ออกมาได้อย่างไร?

ลิลี่: เขาสร้างตัวละครขึ้นมาจากประสบการณ์ต่างๆของเขาเอง หรือไม่ก็ของเพื่อนเขา อย่างในซีรีส์เรื่อง Sex and the City คุณจะสัมผัสได้ถึงบุคลิกและธรรมชาติที่แท้จริงของตัวละครแต่ละตัว เพราะมันมีพื้นฐานส่วนหนึ่งมาจากความเป็นจริง อย่างในเรื่องนี้ ดาร์เรนและทีมงานคนอื่นๆ เขียนบทบางส่วนในขณะที่พวกเขาอยู่ที่ปารีสกับพวกเราจริงๆ  ดังนั้นตัวละครทั้งหมดจึงมีความสมจริงมาก และนั่นทำให้เกิดความแตกต่างในพัฒนาการของตัวละคร ฉันตกหลุมรักตัวละครทั้งหมดของเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมาทั้งในเรื่อง Sex and the City และ เรื่อง Grosse Pointe ที่แม้จะมีเพียงซีซั่นเดียว แต่ฉันติดใจวิธีการที่ดาร์เรนเขียนตัวละครหญิงมาก

เอมิลี่ในปารีส
EMILY IN PARIS (L to R) PHILIPPINE LEROY-BEAULIEU as SYLVIE GRATEAU, SAMUEL ARNOLD as LUKE and LILY COLLINS as EMILY in episode 106 of EMILY IN PARIS Cr. CAROLE BETHUEL/NETFLIX © 2020

8. เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงภาพที่ชัดเจนของของวงการแฟชั่น ดาร์เรน คุณมีตัวอย่างอะไรจากอุตสาหกรรมแฟชั่นในชีวิตจริงที่ใช้เป็นแรงบันดาลใจหรือไม่?

ดาร์เรน: โดยหลักๆแล้วคือบริษัทอย่าง Supreme และ กูตูร์ เฮ้าส์ก็มีส่วนที่ทำให้เราตั้งคำถามว่านิยามของแฟชั่นคืออะไร ผมคิดว่าตอนนี้ที่มีการระบาดของโคโรน่าไวรัสนิยามก็เปลี่ยนไปมาก แม้กระทั่งช่วงเวลาที่เราถ่ายทำกันในปีที่แล้วก็ยังมีคำถามว่าแฟชั่นคืออะไร และมันก็เป็นสิ่งที่ผมอยากจะค้นหาในซีรีส์ เพราะอย่างที่คุณก็รู้ว่าฝรั่งเศสเองเป็นเมืองหลวงของแฟชั่น

เอมิลี่ในปารีส
EMILY IN PARIS (L to R) LILY COLLINS as EMILY in episode 106 of EMILY IN PARIS Cr. STEPHANIE BRANCHU/NETFLIX © 2020

9. ความคิดบวกและมองโลกในแง่ดีในตัวละครเอมิลี่ คุณคิดว่ามีความคล้ายคลึงกันระหว่างเธอกับตัวคุณในชีวิตจริงหรือไม่?

ลิลี่: ฉันเป็นคนที่ชอบมองหาด้านบวกของสถานการณ์และคุณก็รู้ดีว่าฉันเป็นคนมองโลกในแง่ดี ฉันหลงใหลในสิ่งที่ฉันทำ คนที่ฉันรัก และประสบการณ์ต่างๆที่ฉันพบเจอมา ฉันเป็นคนตั้งใจแน่วแน่ ดังนั้นเวลาที่ใครบอกว่า “ไม่” ฉันก็จะไม่คิดว่าเขาหมายความอย่างนั้นตลอดไป แต่ฉันจะคิดว่าอาจจะแค่หมายความว่าไม่ใช่ในตอนนี้หรือเอาไว้ก่อน แน่นอนว่าฉันจึงรู้สึกผูกพันกับเอมิลี่มาก และฉันก็รักในสิ่งที่ทำเพราะมันทำให้ฉันมีความสุข และเอมิลี่ก็พูดอย่างนั้นเหมือนกัน ฉันเลยคิดว่าเรามีส่วนที่คล้ายกันมาก

เอมิลี่ในปารีส
EMILY IN PARIS (L to R) LILY COLLINS as EMILY in episode 101 of EMILY IN PARIS. Cr. CAROLE BETHUEL/NETFLIX © 2020

10. การย้ายไปยังประเทศใหม่ เพื่อไล่ตามความฝันของคุณ อาจทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ แล้วคุณเอาชนะมันได้อย่างไร?

ลิลี่: ฉันย้ายจากอังกฤษมาที่ลอสแอนเจลิสตอนอายุ 5 – 6 ขวบและเห็นได้ชัดว่ามันแตกต่างจากประสบการณ์ของผู้หญิงวัย 20 กลางๆมาก แต่เราก็อยากจะกลมกลืนกับสังคมรอบตัวไม่ต่างกัน ตอนที่ย้ายมาฉันพบกับความแตกต่างทางวัฒนธรรมมากมาย ทั้งเรื่องสำเนียงและวิธีการแต่งตัว ฉันค่อยๆเปลี่ยนสำเนียงหลังจากที่ได้ยินเพื่อนคุยกันมากขึ้น ตอนนั้นฉันยังเด็กมาก แต่ฉันก็จัดการกับมันได้ ฉันจะรู้สึกประหม่าหรือทำตัวไม่ถูกเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย เช่นตอนคุณไปที่กองถ่ายเรื่องใหม่ คุณไม่รู้จักใคร ไม่รู้จักทีมงาน คุณจะรู้สึกกดดันและมีความวิตกกังวลอยู่รอบตัว แต่คุณก็ต้องเข้าหาผู้คน เพราะคุณรู้ว่าคุณอยู่ที่นั่นเพื่อทำงานและมีเป้าหมายร่วมกัน ดังนั้นมันจึงเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นแต่ก็ชวนกังวลมากทุกครั้งที่เริ่มงานใหม่ แต่คุณรู้ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของงานและฉันก็รักมันมาก


ภาพ : Netflix

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

จากตัวร้ายสู่ตัวเอก! ฮันโซฮี และ อันโบฮยอน คอนเฟิร์มแสดงนำ Undercover

เผยโฉมแก๊ง นักแสดง F4 ฉบับไทยแลนด์ คาด ไบร์ท-วชิรวิชญ์ สวมบท เต้าหมิงซื่อ

ปังปุริเย่ ‘กงยู’ ประกบ ‘แบดูนา’ ในซีรีส์ไซไฟแฟนตาซี พร้อมเปิดวาร์ปออริจินัลซีรีส์ 2021 จุกๆ

 

 

keyboard_arrow_up