เซรั่ม

เซรั่มบำรุงผิวสวย ช่วยชะลอแก่ เผยความเปล่งปลั่งบนใบหน้า

account_circle
เซรั่ม
เซรั่ม

หลายคนนิยมใช้เซรั่ม (Serum) หรือซีรัมเป็นสกินแคร์หลักในการบำรุงดูแลผิวหน้า เพราะเนื้อมีลักษณะเป็นน้ำ ไม่เหนียวข้นจนหนักหน้า แต่ให้ความบางเบา ซึมซาบไว เหมาะสำหรับคนทุกเพศ ทุกสภาพผิว แม้ทาเพียงเล็กน้อยก็สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีได้แล้ว

นอกจากนี้เซรั่มยังมีสูตรให้เลือกหลากหลาย พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเซรั่มลดริ้วรอย เซรั่มหน้าใส หรือเซรั่มลดสิว ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูสุขภาพดีได้อย่างรวดเร็ว

เซรั่มคืออะไร พร้อมข้อดีที่ทำให้หลายคนติดใจ

เซรั่ม คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีเนื้อโมเลกุลขนาดเล็ก ลักษณะเป็นน้ำใสหรือเซรั่มบางยี่ห้อจะมีลักษณะเป็นกึ่งของเหลว เมื่อทาลงบนผิวจะรู้สึกเบาสบายมากกว่าเนื้อครีมประเภทอื่น ๆ ช่วยลดโอกาสเกิดสิวอุดตัน ซึมซาบล้ำลึกถึงระดับโครงสร้างผิว อีกทั้งยังมีความเข้มข้นของสารบำรุงผิวที่เรียกว่า สารออกฤทธิ์สำคัญ (Active Ingredients) สูงกว่าสกินแคร์ตัวอื่น ช่วยให้เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วแม้ทาเซรั่มเพียงเล็กน้อย

เซรั่มบำรุงผิวหน้า ยังมีข้อดีเพิ่มเติมเรื่องความหลากหลายของสูตร สามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น เช่น เซรั่มเพิ่มความชุ่มชื้นที่เหมาะกับคนผิวแห้งกร้าน หรือ เซรั่มลดฝ้า กระ จุดด่างดำ เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานกลางแจ้งและผิวถูกทำร้ายจากแดด เป็นต้น ควรสำรวจสภาพผิวและปัญหาบนใบหน้าของตนเองก่อนซื้อเซรั่ม เพื่อผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจ

วิธีเลือกเซรั่มให้เหมาะกับปัญหาผิว 

เซรั่มบำรุงผิวหน้า

อยากใช้เซรั่มให้เห็นผล จะต้องเริ่มจากการสำรวจสภาพปัญหาผิวที่มีเสียก่อน จากนั้นค่อยมาเลือกเซรั่มที่มีส่วนประกอบเพียงพอในการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น 

ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส

ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการถูกแสงแดดทำร้าย การทากันแดดไม่เพียงพอ ไม่สวมอุปกรณ์ป้องกันแดด หรือมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่าง เช่น นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด หรืออาการท้องผูก ถ่ายไม่ออก ก็มีผลทำให้ผิวดูหมองคล้ำได้

ควรเลือกเซรั่มที่มีส่วนผสมของ PHA ซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวคล้ำเสียออกอย่างอ่อนโยน หรือเลือกใช้เซรั่มหน้าใส ที่มีวิตามิน C และ B3 เป็นส่วนประกอบ จะช่วยปรับสีผิวให้ดูสว่างสดใส

ริ้วรอย ความเหี่ยวย่น

เซรั่มบำรุงผิวที่จะช่วยเรื่องริ้วรอย ความเหี่ยวย่นบนใบหน้าได้ มักจะมี Multipeptide และ Hyaluronic Acid ผสมอยู่ในเซรั่ม เพราะสารเหล่านี้มีสรรพคุณในการช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ให้กลับมาอิ่มฟู ผิวดูมีความเรียบเนียนอีกครั้ง พร้อมเติมความตึงกระชับด้วย Ectoin ที่สามารถปรับโครงสร้างตาข่ายผิวให้แข็งแรงขึ้นได้ ริ้วรอยที่มีก็จะดูจางลง

ผิวเป็นสิวง่าย

สำหรับผิวที่เป็นสิวง่าย มักมีอาการหน้ามันหรือมีผิวบอบบางแพ้ง่ายร่วมด้วย ควรเลือกเซรั่มที่ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย จะช่วยป้องกันไม่ให้ใบหน้าเกิดสิว ส่วนประกอบที่นิยมใช้ในเซรั่มลดสิว ได้แก่ สังกะสี หรือ Zinc นั่นเอง 

นอกจากนี้ อาจมองหาเซรั่มที่มีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิวก็จะช่วยให้ปัญหาสิวดีขึ้น

รูขุมขนกว้าง ไม่เรียบเนียน

ปัญหารูขุมขนกว้าง สามารถเลือกเซรั่มที่มี Hyaluronic Acid ซึ่งช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มน้ำ รูขุมขนดูตื้นขึ้น นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากเห็ดแถบยุโรปตะวันออกที่เรียกว่า Fomes Officinalis extract ออกฤทธิ์คล้ายคลึงกัน คือการเติมความชุ่มชื้น ปรับผิวให้ดูเรียบเนียน รูขุมขนมีความกระชับ

ฝ้า กระ จุดด่างดำ 

เซรั่มลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ควรเลือกสูตรที่มี AHA/BHA ผสมอยู่ เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวให้จุดด่างดำดูจางลง และควรมี Niacinamide ที่ช่วยลดรอยดำ รอยแดง พร้อมเติมความชุ่มชื้นแก่ผิว สองสารสกัดดังกล่าวจะช่วยปรับสีผิวให้มีความสม่ำเสมอกันอีกครั้ง

ผิวหยาบ แห้งกร้าน 

ผู้ที่มีผิวหยาบ แห้งกร้าน ควรใช้เซรั่มสำหรับผิวแห้ง โดยจะเน้นไปที่การเติมความชุ่มชื้น กักเก็บน้ำในผิว เพราะหากมีน้ำในผิวน้อยเกินไป อาจมีอาการผิวลอก เกิดรอยพับ และมีริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้ แนะนำให้หมองหาเซรั่มที่มี Hyaluronic Acid หรือ Ceramide 3 เพื่อช่วยฟื้นฟูไม่ให้ผิวแห้งกร้าน.

ควรใช้เซรั่มตอนไหน ให้ผิวดูดซึมได้ดีที่สุด

หลักการทาสกินแคร์ให้ได้ผลดี คือควรทาหลังล้างทำความสะอาดหน้าเรียบร้อยแล้ว จากนั้นให้เรียงลำดับความเข้มข้นของเนื้อครีม จากน้อยไปหามาก ดังนั้นจึงควรทาเซรั่มซึ่งมีเนื้อเบาบางมากที่สุดก่อนเป็นลำดับแรก โดยควรทาในขณะที่ใบหน้ายังมีความชื้นอยู่เล็กน้อย เพื่อให้เนื้อครีมเซรั่มซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึกและรวดเร็ว หลังจากนั้นจึงค่อยทาครีมอื่น ๆ ทับลงไป 

เซรั่มใช้อย่างไรให้ปลอดภัย ไม่เกิดผลข้างเคียง

การจะใช้เซรั่มให้ปลอดภัยและได้ผลดี ควรมีการทดสอบก่อนใช้ โดยทาเซรั่มไว้ที่ใต้ท้องแขน ว่ามีอาการแพ้เกิดขึ้นหรือไม่ พร้อมอ่านคำแนะนำการใช้งานให้ถี่ถ้วน เนื่องจากเซรั่มบางตัวสามารถใช้ได้แค่เฉพาะเวลากลางคืน และควรเลือกซื้อเซรั่มจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเท่านั้น

สรุป เซรั่ม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับทุกปัญหาบนใบหน้า

เซรั่ม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีเนื้อบางเบา เหมาะกับทุกสภาพผิว แต่หากต้องการให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ควรสำรวจปัญหาบนผิวหน้าอย่างถี่ถ้วน และเลือกใช้เซรั่มสูตรที่เหมาะสม จะสามารถช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาสุขภาพดี กระจ่างใสได้ สำหรับเซรั่มของรมย์รวินท์ คอสเมติค ถูกพัฒนาโดยแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง จึงอุดมไปด้วยสารสกัดมากคุณภาพ พร้อมดูแลทุกปัญหาผิว

ไมค์-ภัทรเดช สงวนความดี

ส่องลุค ไมค์-ภัทรเดช สงวนความดี อิน SEOUL FASHION WEEK 2025

Alternative Textaccount_circle
ไมค์-ภัทรเดช สงวนความดี
ไมค์-ภัทรเดช สงวนความดี

กรีดร้องให้กับความปังของ “ไมค์ ภัทรเดช สงวนความดี” ที่ล่าสุดเจ้าตัวได้บินลัดฟ้าไปร่วมงาน แฟชั่นโชว์ระดับประเทศ ที่ร่วมเหล่าคนดัง แวดวงโมเดล ในฐานะ เซเลบริตี้ชื่อดังของไทย หนุ่มไมค์ได้มีโอกาสเดินทางร่วมนั่งชมแฟชั่นโชว์ ในงาน SEOUL FASHION WEEK 2025 SS ที่ถูกจัดขึ้นใน Dongdaemun Design Plaza (DDP) ณ ประเทศเกาหลีใต้

ไมค์-ภัทรเดช สงวนความดี

สำหรับงานดังกล่าว ซึ่งเพียงแค่หนุ่มไมค์ได้ปรากฏตัวที่งานก็สร้างความฮือฮา น่าสนใจจากทางสื่อมวลชนและผู้เข้าร่วมงาน จนเรียกแสงแฟลชจากตากล้อง ที่พร้อมใจกันกดรัวชัตเตอร์ให้กับความปัง ของโททัลลุคที่คุมโทนเท่ ๆ  เสื้อผ้าสไตล์มิกซ์แอนด์แมตช์แบบเล่นสีดำ ด้วยเสื้อหนังดำเก๋ อินสไปร์ความเท่ให้เป็นไมค์สไตล์ ผสมกับแว่นตาดำและบูทดำ บอกได้คำเดียวโดดเด่น สุดจึ้ง อีกคนหนึ่ง ในงาน พร้อมเสียงชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันว่า…หนุ่มหล่อคนนี้ใช่อปปาคนดังแดนโสมไหมนะนอกจากนี้

หนุ่มไมค์ ยังได้เผยความรู้สึกผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “ประทับใจมาก ๆ เป็นครั้งแรกที่ได้มางานที่ยิ่งใหญ่ ระดับวงการแฟชั่นชั้นนำอย่าง งาน SEOUL FASHION WEEK ได้เห็นการทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของแต่ละโชว์ แถมยังได้แรงบันดาลใจนำกลับมาทำงานหลายอย่างเลยครับ และโชว์ในวันนี้เป็นโชว์ที่ผมตื่นเต้นมาก เพราะยังเป็นโชวฃ์แรกของคุณปุ๊กลุกด้วย พอออกมาแล้วต้องปรบมือให้กับความมืออาชีพให้ เขาไม่เคยทำให้ผิดหวังในเพอร์ฟอร์แมนซ์เลยจริง ๆ เดินได้ธรรมชาติ ดูสนุก สบายตา แอตติจูตกำลังดี อวยประมาณนี้พอหอมปากหมอคอ แต่ต้องยอมรับว่าทำได้ดีจริง ๆ ครับ”

ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์

ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ นักแสดงหญิงไทยคนแรก บนรันเวย์ Seoul Fashion Week

Alternative Textaccount_circle
ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์
ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์

ปังอินเตอร์ สำหรับ ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ วัชรตระกูล ปีนี้ได้เดินรันเวย์ 2025 S/S Seoul Fashion Week คอลเล็คชั่น spring / summer ที่ Dondaemun Design Plaza หรือ DDP Art Hall 1

เรียกได้รูปภาพและคลิป VDO ส่งตรงมาจากเกาหลีสด ก็ว่าได้การเดินแบบ แฟชั่นครั้งนี้ ปุ๊กลุกได้รับเกียรติจาก 3 แบรนด์ Doucan , duckdrive เดินแบบ ถึง 3 เซ็ท 3 สไตล์ ความเจิดจรัส ของนางเอกคนดัง..กระทบสายตาชาวต่างชาติและกระหึ่มโซเชียลได้ตะลึงขนาดไหน

งานครั้งนี้กว่าจะออกสวยสง่างามดีไซน์เนอร์ของแต่ละแบรนด์ จะมีการนัดแนะ ก่อนวันจริงๆ ให้นางแบบ ได้ฟิตติ้งชุด และมีการฝึกซ้อมเพื่อเลือกให้ตรงกับนางแบบผู้สวมใส่ให้มากที่สุด ที่สำคัญเบื้องหลังเวทีนี้ นางเอกสาวคนดัง ทำงานหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เพราะมีหนุ่มหวานใจ ไมค์ ภัทรเดช สงวนความดี มาคอยเชียร์ให้กำลังติดขอบเวทีไม่ห่างซะด้วย

โดยปุ๊กลุกเผยความรู้สึกว่า“ไปคราวนี้ อยากลองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยทำกับงาน Seoul Fashion Week 2025 ต้องขอบคุณแบรนด์ดังๆ @duckdive_official @doucan_official @man.g_studio ที่ให้เกียรติปุ๊กลุก และไว้วางใจให้ได้เป็นส่วนหนึ่งในโชว์ดีๆ ทั้ง 3 โชว์ ถือว่าได้ประสบการณ์ใหม่ที่ดีมากๆ ในการทำงานครั้งนี้ พอได้ลองทำรู้สึกสนุก และท้าทายตัวเองมากๆ ในการทำสิ่งที่ตั้งใจมากๆเลย ดีใจที่ได้ร่วมงานกับทีมงานมืออาชีพของเกาหลีทุกคน ขอบคุณเพื่อนๆนางแบบ ขอบคุณทีมงานทุกคน สนุกมากค่ะ “

First Look ประจำรันเวย์! เผยดีเทลสูทสีแดงเบอร์กันดี ของ Jenna Ortega

Alternative Textaccount_circle

Jenna Ortega, นักแสดงหญิงชาวอเมริกันวัย 21 ปีผู้โด่งดังจากบทบาท ‘Wednesday Addams’ จากซีรีส์ยอดนิยมเรื่อง ‘Wednesday” ฉายผ่านช่องทาง Netflix ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2024 ที่ผ่านมา ได้สวมใส่ชุดของ McQueen โดยสวมแจ็กเก็ตสูทกระดุมสองแถวสีแดงเบอร์กันดี ตัดเย็บจากผ้าวูลโมแฮร์ ตกแต่งด้วยปกผ้าซาตินสีแดง จาก McQueen พรีคอลเล็คชั่น ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูร้อน 2025 โดย Seán McGirr สำหรับงานโปรโมทภาพยนตร์ ‘Beetlejuice Beetlejuice’ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

McQueen พรีคอลเล็คชั่น ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูร้อน 2025 โดย Seán McGirr: ลุค 01

McQueen เผยเสน่ห์แห่งความงดงามและความพิถีพิถัน ผ่านงานฝีมือชั้นสูงที่ผสานทักษะการสร้างสรรค์ด้วยมือเข้ากับเทคโนโลยีอย่างลงตัว ความปราณีตในการตัดเย็บอันล้ำเลิศที่หยั่งรากลึกจาก Savile Row ปรากฏชัดในความพอดีไร้ที่ติของเสื้อแจ็กเก็ตสูทกระดุมสองแถวในลุคที่ 1 จาก McQueen พรีคอลเล็คชั่น ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูร้อน 2025 โดยฝีมือการออกแบบของ Seán McGirr ซึ่งสะท้อนถึงประเพณีแห่งการตัดเย็บแบบอังกฤษที่แบรนด์ McQueen ได้รับการยอมรับ


JAI by ONESIAM โดยสยามพิวรรธน์จัดอีเวนต์ระดับสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ณ พิพิธภัณฑ์สุดไอคอนิกในกรุงโซล

account_circle

ก้าวล้ำไปอีกขั้นสำหรับกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ โดย JAI by ONESIAM ลักซ์ซูรี่ไลฟ์สไตล์คลับระดับโลก ร่วมเฉลิมฉลองงานเทศกาลศิลปะระดับโลก FRIEZE ณ กรุงโซล ด้วยการจัดค่ำคืนพิเศษในพิพิธภัณฑ์สุดไอคอนิก Korea Furniture Museum มอบสุดยอดประสบการณ์ล้ำค่า ซึ่งเป็นการจัดงานระดับโลก นอกกรุงเทพฯ เป็นครั้งที่ 2

JAI by ONESIAM มอบโอกาสให้สมาชิกได้เข้าถึงประสบการณ์และสิทธิประโยชน์สุดพิเศษทั่วโลก โดยทุกอีเวนต์ได้รับการคัดสรรออกแบบมาเป็นการเฉพาะโดยพันธมิตรระดับโลกและผู้เชี่ยวชาญชั้นแนวหน้าของวงการ

งานสุดเอ็กซ์คลูซีฟมีแขกผู้มีเกียรติ 60 ท่านเข้าร่วมงานและได้รับเกียรติจากซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่างอีมินโฮ (จากผลงานเรื่อง Boys over Flower และ Pachinko) และอีจองแจ (จากผลงานเรื่อง Star Wars และ Squid Game) รวมถึงนักแสดงหญิงพัคจูมี (จากผลงานเรื่อง Beautiful Seoul และ Ladies of the Palace) และฯพณฯ ธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐเกาหลี

บรรดาแขกผู้มีเกียรติในงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟครั้งนี้ ประกอบด้วยนักธุรกิจชั้นนำ ผู้มีชื่อเสียงในสังคม และเจ้าของแบรนด์ชื่อดังในเกาหลี อาทิ อิมแซรยอง (รองประธานกลุ่มแดซัง) อีแทซอง (ซีอีโอของเซอาโฮลดิ้ง) และ คิมฮันกุก (ซีอีโอของเจนเทิล มอนสเตอร์)

นอกจากนั้น ในงานนี้ ผู้มีอิทธิพลระดับโลกอย่างอีวา โชว์ (คี โซจู) ไซมอน ฟ็อกซ์ ผู้อำนวยการใหญ่ Frieze และ นักออกแบบชื่อดังเจ้าของรางวัลอย่างทีโอ ยาง (ทีโอ ยาง สตูดิโอ) ได้พบปะสังสรรค์กับแขกชาวไทยที่มาร่วมงาน อาทิ มาริษา เจียรวนนท์, กุลพัทธ์ ยันตรศาสตร์,นิษฐา คูหาเปรมกิจ, ธราภุช คูหาเปรมกิจ, มรกต แสงทวีป, คณชัย เบญจรงคกุล, กุลวิทย์ เลาสุขศรี, ธนวลัย วัชรพล, เดนนิส คาร์ลสัน, พริษฐ์ จิตตโรภาส และ ชญาภา จูตระกูล

“สยามพิวรรธน์มุ่งมั่นแสวงหาแนวทางล้ำยุคใหม่ๆ เพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับให้แก่ลูกค้าและสมาชิก JAI by ONESIAM มาโดยตลอด ค่ำคืนสุดพิเศษนี้ไม่เพียงแต่เป็นก้าวสำคัญให้คอมมูนิตี้สมาชิกคนพิเศษของเราได้สร้างเครือข่ายและเดินทางแบบไร้พรมแดนเท่านั้น แต่ยังเป็นการเฉลิมฉลองสายสัมพันธ์กับพันธมิตรระดับโลกที่มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกับเราอีกด้วย” ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ กล่าว

งานครั้งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือกับ ฮุนได ซึ่งเป็นพันธมิตรระดับโลกด้านการสร้างประสบการณ์ของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ คุณจองจียอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ห้างสรรพสินค้าฮุนได กล่าวว่า “ทั้งสององค์กรจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบประสบการณ์หลากหลายและทรงคุณค่าให้แก่ลูกค้าของเรา นอกจากนั้น เรายังพร้อมทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อนำเสนอเทรนด์และนวัตกรรมล่าสุดที่ผสานวัฒนธรรมดั้งเดิมเข้ากับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้าของเรามีชีวิตที่รุ่มรวยและอิ่มเอม”

ประสบการณ์เหนือระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน โดย JAI by ONESIAM

เมื่อก้าวเข้าสู่พิพิธภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์เกาหลี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศเกาหลีใต้ แขกผู้มีเกียรติได้รับการต้อนรับด้วยการแสดงดนตรีเกาหลีดั้งเดิม ในบรรยากาศหมู่บ้านจำลองที่ประกอบด้วยบ้าน “ฮันอก” ซึ่งเป็นบ้านโบราณ 10 หลัง แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชนชั้นสูงในยุคราชวงศ์โชซอน จากนั้นได้เยี่ยมชมเรือนหลักซึ่งจัดแสดงเฟอร์นิเจอร์หายากกว่า 2,500 ชิ้นจากคอลเลกชั่นส่วนตัวของเจ้าของ ก่อนจะเข้าสู่ห้องอาหารที่ได้รับการตกแต่งออกแบบเองโดยคุณ ชยองมีซุก เจ้าของพิพิธภัณฑ์

จุดเด่นของงานคือ อาหารค่ำ 6 คอร์สสุดพิเศษ ที่นำเสนอในธีม “การเดินทางไร้พรมแดน” ซึ่งเป็นการผสานฝีมือระหว่างเชฟ 3 ท่าน ได้แก่ เชฟ ยิมจองซิก เจ้าของ 2 ดาวมิชลิน (จากร้านจองซิกโซลและจองซิกนิวยอร์ก) เชฟ 1 ดาวมิชลิน วิลฟริด อ็อกเกต์ (จากร้าน Blue by Alain Ducasse) และเชฟ เดช คิ้วคชา (จากร้าน Kyo Bangkok) ซึ่งนำวัตถุดิบหายากชั้นเลิศจากประเทศบ้านเกิดของตนมาผสมผสานกันเป็นเมนูสุดพิเศษ

ประสบการณ์มื้ออาหารสุดพิเศษในครั้งนี้เริ่มต้นด้วยออร์เดิร์ฟเย็นที่รังสรรค์โดยเชฟยิมจองซิก ผู้พยายามนำเสนอองค์ประกอบทางวัฒนธรรมที่คุ้นตาในอาหารเกาหลีในมุมมองแปลกใหม่เพื่อสร้างความสนุกสนานและน่าตื่นเต้นจนเกิดเป็นเมนู “คิมบับ” ซิกเนเจอร์ของร้าน เชฟคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบชั้นเลิศเพื่อสร้างความแตกต่างให้คิมบับของจองซิกโซลเหนือกว่าคิมบับแบบดั้งเดิม

เชฟยิมจองซิก กล่าวว่า “ประสบการณ์มื้ออาหารสุดพิเศษครั้งนี้เป็นความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างเชฟสามคนจากวัฒนธรรมอาหาร ในส่วนของผม ผมรับผิดชอบอาหารจานหลัก ผมทดลองผสมผสานรสชาติต้มยำจากประเทศไทย และเลือกนำเนื้อวัวเกาหลีมาปรุงด้วยเทคนิคการทำอาหารแบบฝรั่งเศส แล้วเสิร์ฟคู่กับริซอตโต้ต้มยำ นับเป็นการผสานรสชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลายไว้ในจานเดียว”

นอกจากนั้น อีเวนต์ในครั้งนี้ยังได้รับการสนับสนุนจาก เจนเทิล มอนสเตอร์ แบรนด์แว่นตาชื่อดังของเกาหลีที่ขยายธุรกิจไปทั่วโลก คิมฮันกุก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเจนเทิล มอนสเตอร์ ได้รังสรรค์ของขวัญสุดพิเศษสำหรับค่ำคืนนี้โดยเฉพาะ เป็นของที่ระลึกทำจากโลหะที่แขกและสมาชิกของ JAI by ONESIAM สามารถนำไปแลกรับแว่นตารุ่นใดก็ได้จากร้านเจนเทิล มอนสเตอร์ทั่วโลกโดยไม่จำกัดราคา

คิมฮันกุก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเจนเทิล มอนสเตอร์ กล่าวว่า “เจนเทิล มอนสเตอร์มุ่งสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ท้าทายความธรรมดาจำเจและเชิดชูความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคลมาโดยตลอด การร่วมมือกับ JAI by ONESIAM ในการจัดอีเวนต์ที่พิพิธภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์เกาหลีในครั้งนี้เป็นการร่วมมือที่ลงตัวสำหรับเราอย่างมากเพราะเป็นการบรรจบกันของศิลปะ วัฒนธรรม และนวัตกรรม เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้มอบของขวัญที่ออกแบบและผลิตขึ้นเป็นพิเศษสำหรับงานสุดพิเศษในครั้งนี้ เพื่อเป็นของที่ระลึกที่สะท้อนวิสัยทัศน์ร่วมกันของเราสู่การเดินทางไร้พรมแดนด้านความหรูหราและสไตล์”

ในช่วงท้ายของค่ำคืน แขกผู้มีเกียรติได้ร่วมกันถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับเหล่าคนดังและพูดคุยสร้างเครือข่ายเพื่อเตรียมจัดอีเวนต์ครั้งถัดไปกับ JAI by ONESIAM ก่อนจะเดินชมสวนอันงดงามของพิพิธภัณฑ์ร่วมกัน

พอล สิริสันต์ ซีอีโอของไวบอลคอร์ปอเรชั่น หนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้ง JAI by ONESIAM กล่าวว่า “งาน Journey Without Borders ในครั้งนี้เป็นอีเวนต์ที่พิเศษมาก ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นสมาชิกและได้รับสิทธิประโยชน์ที่ JAI by ONESIAM มอบให้”

ธนวลัย วัชรพล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของไทยรัฐออนไลน์ กล่าวว่า “ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นและประทับใจมากกับผู้คนทั้งหมดที่ได้มารวมตัวกันเพราะ JAI ทำให้ดิฉันได้พบปะและสานสัมพันธ์กับผู้คนมากความสามารถจากหลากหลายวงการซึ่งอาจนำไปสู่ความร่วมมือที่น่าตื่นเต้นมากมายในอนาคต จึงเป็นเรื่องที่น่าติดตามอย่างยิ่งว่า JAI จะนำพาเราไปพบเจอใครใหม่ๆ อีกจากทั่วโลก JAI สร้างสรรค์สิ่งที่เหนือความคาดหมายได้เสมอและงานนี้ก็ได้ตอกย้ำถึงตัวตนของ JAI ได้อย่างชัดเจน”

สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข จับมือ โรช ไทยแลนด์ ลงนาม MOU หนุนการพัฒนาระบบสุขภาพให้ชาวไทย

account_circle

สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และ โรช ไทยแลนด์ ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อส่งเสริมและให้ความร่วมมือในการพัฒนาและดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับระบบสุขภาพในประเทศไทย โดยมี นายแพทย์ ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการ พร้อมคณะผู้บริหารจากสวรส. ลงนามร่วมกับ คุณแมทธิว โคตส์ ผู้จัดการทั่วไป โรช ไทยแลนด์ เพื่อนำร่องแนวคิดและผลักดันให้ทุกภาคส่วนมีการลงทุนงบประมาณกับระบบสาธารณสุขในทุกมิติโดยมีเป้าหมายในการสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับชาวไทย

การลงนามในครั้งนี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่ทั้งสององค์กรร่วมมือกันในการสนับสนุนและพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศไทยให้มีความยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยความร่วมมือระหว่าง สวรส. และ โรช ไทยแลนด์ จะมุ่งเน้นไปที่การวิจัย และกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยและเป็นแนวทางในการพัฒนานโยบายทางด้านสุขภาพที่แข็งแกร่ง

ช่วงทศวรรษที่ผ่านมาโรช ไทยแลนด์ ได้มีการรักษาผู้ป่วยกว่า 3 ล้านคนทั่วประเทศ ด้วยนวัตกรรมยาที่ผ่านการทดลองและได้รับการอนุมัติการนำเข้าเป็นยานวัตกรรม ทั้งนี้ โรช ยังได้ร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการสนับสนุนและดำเนินการวิจัยเชิงระบบสุขภาพเพื่อส่งเสริมให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาสร้างความมั่นคงและส่งเสริมความยั่งยืนให้ระบบสุขภาพในประเทศไทย ทั้งด้านสังคม คุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจ

โดยในปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา โรช ไทยแลนด์ ได้ร่วมมือกับ ยอนเดอร์ บริษัทวิจัยในอังกฤษ สำรวจความคิดเห็นของประชาชนชาวไทยต่อระบบสุขภาพในประเทศพบว่าประชาชนกว่า 47% ต้องการให้ภาครัฐลงทุนงบประมาณในระบบสาธารณสุข  ทั้งนี้บุคลากรทางการแพทย์ยังให้ความเห็นว่าการลงทุนงบประมาณในการสนับสนุนระบบสุขภาพถือเป็นเรื่องเร่งด่วนในสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศ ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยควรเพิ่มการลงทุนด้านระบบสาธารณสุขมากที่สุด ซึ่งการร่วมลงนามระหว่าง สวรส. และ โรช ในวันนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันให้ความต้องการของชาวไทยเกิดขึ้นจริง

นายแพทย์ ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ได้กล่าวในพิธีลงนามว่า “สวรส. มุ่งเน้นพัฒนางานวิจัยเชิงระบบ (system-based research) ที่ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับระบบสุขภาพของไทยตามวัตถุประสงค์และปรัชญาขององค์กร ยกตัวอย่างผลงานวิจัยที่เป็นที่รู้จักแพร่หลายเช่น 30 บาทรักษาทุกโรค หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และ การพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์ รวมถึงงานทางด้านการวิจัยทางชีวการแพทย์ (Biomedical Research)  ซึ่งครอบคลุมทั้ง เวชภัณฑ์ยา และเครื่องมือแพทย์ เป็นต้น แต่ถึงอย่างไร สวรส. จะไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้หากต้องเป็นผู้ดำเนินการเองฝ่ายเดียว ความร่วมมือในวันนี้กับ โรช ไทยแลนด์ จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาระบบสุขภาพที่ยั่งยืนและมีคุณภาพในประเทศไทย”

คุณแมทธิว โคตส์ ผู้จัดการทั่วไป โรช ไทยแลนด์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “โรช เชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างสวรส.ในการส่งเสริมการพัฒนาและดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับระบบสุขภาพในประเทศไทยครั้งนี้จะสามารถเพิ่มโอกาสให้คนไทยเข้าถึงยานวัฒกรรมได้อย่างเท่าเทียมในทุกสิทธิการรักษา รวมทั้งผลักดันนโยบายและเพิ่มการลงทุนในระบบสาธารณสุข โดยเฉพาะกลุ่มโรคมะเร็ง ที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆในประเทศไทย ทั้งนี้ โรช ยังคงมุ่งมั่นคิดค้นวิทยาศาสตร์ล้ำสมัย เพื่อเสริมสร้างการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนทั้งในปัจจุบันและอนาคต”

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้เป็นเพียงก้าวแรกของความร่วมมือที่จะขับเคลื่อนการวิจัยและนโยบายด้านสุขภาพในประเทศไทย ด้วยเป้าหมายในการยกระดับการดูแลสุขภาพและสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบสาธารณสุขไทย ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนและความยั่งยืนต่อระบบสุขภาพในระยะยาว

ไมกี้ ปณิธาน

ไมกี้ ปณิธาน พระเอกฮ็อตมาแรง ค่าตัวครึ่งล้านจริงหรือไม่?

Alternative Textaccount_circle
ไมกี้ ปณิธาน
ไมกี้ ปณิธาน

แจ้งเกิดเป็นพระเอกน้องใหม่ของช่อง 3 อย่างเต็มตัวเลยทีเดียว สำหรับพระเอกหนุ่มน่ารัก ขี้เล่น “ไมกี้ ปณิธาน” จากละครเรื่อง “ขวัญฤทัย” ในซีรี่ส์ชุด “ดวงใจเทวพรหม” ที่เพิ่งลาจอไป ซึ่งล่าสุดก็ได้ไปร่วมงานเปิดบ้าน “HOUSE OF TOUCH” สุขภาพดีเริ่มต้นได้ เพียงคุณก้าวเข้ามา ฉลองการเดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 13 THE TOUCH CLINIC ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ก็สร้างปรากฎการณ์ห้างแตก มีแฟนๆ มารอส่งเสียงกรี๊ดกันสนั่น

งานนี้ “ไมกี้” ก็ได้ประกาศข่าวดีเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยรังสิต ในเวลาแค่ 3 ปี ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.51 แถมยังลุ้นคว้าเกียรตินิยมอันดับ 2 ด้วย พร้อมยังได้เปิดใจข่าวเม้าท์สนั่น หลังถูกโยงเป็นพระเอกดังค่าตัวแพงแซงหน้ารุ่นพี่ จนไม่มีใครกล้าจ้าง จนทำให้คู่จิ้นต้องชวดงานไปด้วย

ล่าสุดเรียนจบแล้ว?

“ผมเพิ่งส่งธีสิสปิดจ๊อบไปเมื่อวาน อาจารย์ทักไลน์กลุ่มมาบอกว่ายินดีกับนักศึกษาที่จบ และส่งเล่มแล้ว รีกรุ๊ปได้ (ยิ้ม)”

มันยากลำบากยังไงกว่าจะจบ?

“ผมใช้เวลาเรียนมา 3 ปี ก็ทำเล่มจบ ก็เป็นช่วงที่ต้องบาลานซ์ชีวิตในการทำงานเยอะมากๆ เพราะผมก็อยากจะทำด้วยตัวเอง”

แล้วกว่าจะเรียนจบ ยากลำบากแค่ไหน เพราะก่อนจะจบก็เป็นช่วงเวลาที่เราได้เป็นนักแสดงแล้ว?

“จริงๆ ก็เริ่มเรียนเลย ผมก็ได้มาเป็นนักแสดง ตอนนั้นก็พยายามหาเวลาให้ได้ไปเรียนมากที่สุด จริงๆ ที่ ม.รังสิตเขาช่วยเยอะมาก อาจารย์ทุกคนน่ารักมากๆ รวมถึงเพื่อนๆ”

ช่วงที่ยากที่สุดคือปีไหน?

“ปี 3 ครับ แล้วตอนนั้นมีงานเยอะด้วย และเป็นช่วงที่ต้องทำเล่มจบจริงๆ บางคณะหรือสาขาจะไม่มีธีสิส เวลาผมพูดกับคนอื่นเขาจะงงว่า ทำไมปริญญาตรีต้องทำธีสิสจบด้วยหรอ แต่คณะ/สาขาผมมี”

แล้วตอนที่ทำธีสิส ละครกำลังดัง เคยคิดว่าจะดร็อปไหม?

“เคยมีความคิดครับ แต่เราก็สู้ไปเรื่อยๆ เราอย่าดูถูกศักยภาพของตัวเองนะทุกคน ผมเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังเรียนอยู่ ผมเข้าใจความรู้สึกว่าเป็นยังไง ก็สู้ๆ นะครับ”

3 ปีเกรดดีแค่ไหน?

“ผมพึ่งไปเช็กมา ได้ 3.51”

คุณครูที่บ้านว่ายังไงบ้าง?

“คุณแม่เหรอครับ จริงๆ คุณแม่ผมอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำ เพราะผมยังไม่ทันบอก”

เป็นความภูมิใจเราที่เรียนจบ หลังจากนี้มารับงานเต็มตัวแล้วใช่ไหม?

“ใช่ ก็คือภูมิใจมากๆ ที่ตัวเองเรียนจบได้แล้ว เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจในชีวิตเลย”

เตรียมฉลองยังไง?

“รอวันรับปริญญาแล้วกันครับ”

ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่เราเคยสัญญากับแม่ไว้แล้ว?

“ใช่ ก็เคยสัญญากับทั้งคุณแม่ ครอบครัว และตัวเอง ว่าจะไม่ทิ้งการเรียน ไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหน เราก็ต้องบาลานซ์ให้ดี”

แล้วเราวางแผนกับอนาคตไว้ยังไงบ้าง?

“จริงๆ ก็อยากโฟกัสทำงานเลย เพราะผมเริ่มมีความสุขกับการทำงานมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้ผมก็อยากจะจริงจัง และหาอะไรที่ท้าทายใหม่ๆ มาลองกับชีวิตบ้าง”

สนุกแค่ไหนกับกันเรียนจบแค่ 3 ปี?

“ผมไม่ได้อะเมซิ่งเกินไปนะที่เรียนจบ 3 ปี คือหลักสูตรผมเขาวางไว้ 3 ปีอยู่แล้ว สามารถที่จะจบ 3 ปีได้ แล้วก็ต้องเรียนซัมเมอร์ให้ครบ (เรียนคณะ?) ผมเรียนคณะนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารการตลาดดิจิทัลและแบรนด์ดิ้ง (เรียนจบแล้วทำอะไร) สายงานผมจะเป็นการวิเคราะห์ แบรนด์ดิ้ง เปรียบเสมือนคุณหมอช่วยตรวจสุขภาพของแบรนด์ แบรนด์มีปัญหามาหาเรา เราจะช่วยแก้ปัญหาให้กับแบรนด์ได้ สามารถปรึกษาผมได้เลย ที่ผมเรียนมาก็เพื่ออยากจะมาอะแดปในชีวิตส่วนตัวด้วย”

จริงๆ เราอยากลองทำเมนูขนมที่เราหัดทำไหม?

“ไม่แน่นะ (ยิ้ม) ทุกๆ คนก็น่าจะมีความคิดอยากเปิดธุรกิจเป็นของตัวเองอยู่แล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือเปล่า เอาเป็นว่าเป็นเรื่องของอนาคตแล้วกันนะครับทุกคน ช่วงนี้ก็ทำงานโฟกัสกับการแสดง”

รับปริญญาวันไหน?

“ผมคิดว่าถ้าจบช่วงนี้ น่าจะภายในปีนี้”

ตอนที่อาจารย์บอกว่าเรียนจบ ตอนนั้นความรู้สึกเราเป็นยังไง?

“ผมร้องไห้เลยอ่ะ น้ำตาไหลเลย เพราะผมเต็มที่มากๆ ทำเองจริงๆ ตอนแรกคิดว่าจะไม่ทันครับ วันนี้วันที่ 6 เดดไลน์คือวันนี้ แล้วผมส่งทันเมื่อวาน เพราะวันนี้ผมมีงาน ถ้าเกิดผมมาทำวันนี้ไม่ทันแน่นอน ก็ดีใจมากๆ ที่ทัน”

เราผ่านแล้วใช่ไหม?

“ผ่านแล้ว ผมสอบแล้วด้วย มีการสอบเปิดเล่ม สอบปิดเล่ม”

ตอนนี้ก็รับงานได้เต็มที่แล้ว?

“เต็มที่แล้วครับผม”

แฟนคลับก็มาหาได้เต็มที่เพราะก่อนหน้านี้ แฟนคลับเขาก็บ่นว่าไม่ค่อยได้เจอไมกี้ตามอีเวนต์ ?

“นี่แหละครับ ก็ถ้าเกิดมีงานก็มาเจอกันได้นะครับ ขอบคุณทุกๆ คน วันนี้ก็มากันเยอะเหมือนกัน ไม่คิดว่าจะมาเยอะกันขนาดนี้”

อาจจะมีรับงานเยอะขึ้นใช่ไหม?

“ก็หวังว่านะครับ ผมก็ชอบทำงานอยู่แล้วด้วย”

มีทุกวันไหมตอนนี้?

“มีเรื่อยๆ ครับ มีตลอดมาให้ได้ติดตามชม สปอยล์อะไรไม่ได้เลย”

เห็นไมกี้บอกเรียนจบจะเฉลยชื่อด้อมตัวเอง?

“ไม่มีใครบอก ชื่อด้อมขอเวลาคิดอีกสักพัก ยังไม่สรุปครับ เชื่อว่าแฟนคลับของผมมีความอดทนครับ ทุกคนรอได้ ผมรักแฟนคลับผมทุกๆ คนครับ แต่เรื่องชื่อด้อมแป๊บนึง”

ล่าสุดมีข่าวโยงถึงเรา เป็นอักษรย่อ ค่าตัวแพง?

“ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีข้อความนี้มา แต่เอาจริงๆ ถ้าเกิดพูดถึงค่าตัว ก็ไม่ใช่พาร์ตของผมอยู่แล้ว เป็นผู้จัดการผมที่ดูหมด เอาจริงๆ ผมเชื่อว่านักแสดงหรือใครหลายๆ คนที่ทำงานตรงนี้จะคล้ายๆ ผม รู้แค่ว่าวันทำงาน รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง รู้ว่าต้องทำวันไหนแค่นี้”

รู้ไหมว่าตอนนี้ค่าตัวเราพุ่งทะยานมากตั้งแต่ที่เล่นดุจอัปสร?

“เรื่องแบบนี้ผมรู้สึกว่าผู้จัดการผมเป็นคนที่ดูความเหมาะสม แล้วก็ดูรายละเอียด ผมไม่ได้เข้าไปยุ่งหรือก้าวล่วงการทำงานของเขาอยู่แล้ว มันไม่ใช่พาร์ตของผมด้วย”

เหมือนไม่รู้เรื่องนี้?

“เพิ่งรู้ครับ”

แล้วเราตกใจไหมกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่ว่าค่าตัวเราครึ่งล้าน ?

“มันก็ขึ้นอยู่กับการสโคปงาน แต่ว่าผมเป็นคนชอบทำงานนะ ก็ไม่อยากให้คิดว่าทำไมไปไกลถึงขนาดนั้น ผมก็ตอบได้ไม่เต็มปาก เอาจริงๆ ผมไม่ได้รู้รายละเอียดเยอะขนาดนั้น”

เป็นความไม่สบายใจไหม ที่อาจจะกระทบลูกค้าไม่กล้าจ้าง?

“สำหรับผม ผมก็เป็นคนทำงาน อย่างวันนี้ผมก็มีความสุขมากๆ กับการทำงาน ไม่ได้โฟกัสตรงนั้นด้วย แต่ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องค่าตัว เรื่องสโคปงาน เอาจริงๆ ผมอาจตอบได้ไม่ละเอียดเท่าผู้จัดการผม”

ย้อนกลับไปในช่วงละครออนแอร์ เขาบอกว่าไม่ค่อยเห็นไมกี้ออกอีเวนต์?

“ก็ออกบ้างนะครับ แล้วก็มีเรื่องเรียนด้วย ตอนนั้นผมก็ยังเรียนไม่จบด้วย ก็ช่วงโปรโมตละครดวงใจเทวพรหม ทำกิจกรรมอะไร ผมอาจจะไม่ได้ออกมาทุกวันขนาดนั้น อาจจะไม่ทั่วถึงได้อย่างไรก็ตาม ผมชอบทำงานมากๆ เลย”

แต่ในมุมกลับกันเขาบอกว่า ถ้าค่าตัวขนาดนั้นแสดงว่าดังจริง คิดอย่างนั้นไหม?

“(หัวเราะ) ถ้าเกิดพูดเชิงแบบนี้ผมก็ภูมิใจนะ ในฐานะนักแสดงคนนึง และก็เป็นละครเรื่องแรกของผมด้วย แล้วมีคนชอบ ถึงแม้จะเป็นคำวิจารณ์ หรือคำอะไรก็ตาม ผมก็รู้สึกว่างานที่เราทำไปมันก็ประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง ผมเชื่อว่าทุกอย่างมันมี 2 มุมมองอยู่แล้วแหละ ทั้งด้านดีและด้านไม่ดี ก็แล้วแต่คนจะมองผม สุดท้ายแล้วก็มีความรู้สึกที่ดี เวลาผมมาทำงานก็มีความสุข”

รู้สึกยังไงที่เขาบอกว่าเราดังแล้ว?

“อันดับแรกคือเขินครับ ผมพูดมาตลอดว่าผมไม่ได้ทำงานเพื่อดังนะ ผมทำงานเพื่อให้ทุกคนชื่นชอบผม โฟกัสที่ผลงานเป็นหลัก อยากให้งานออกมาดี ความดังเป็นเรื่องที่ตามมามากกว่า อยากให้โฟกัสที่ผลงาน คุณภาพของงาน ซึ่งถ้าเกิดมีคำพูดแบบนี้ ก็ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับผมมันหมายถึงว่า ผมทำงานในส่วนนี้สำเร็จแล้ว รู้สึกภูมิใจครับ”

ละครเรื่องต่อไปจะมาแล้ว?

“หวานรักต้องห้าม ก็ประมาณสิ้นปีครับ เป็นละครเรื่องที่ 2 ของผมเอง ก็อยากให้ทุกคนเปิดใจดูแล้วกันครับ แต่ว่าบทก็จะเป็นแบบสมัยใหม่มากขึ้น เป็นละครปัจจุบันเรื่องแรกของผมโดยที่เล่นประกบคู่ทั้งนักแสดงหลายๆ คน ที่มีรางวัลทั้งนั้นเลย แล้วก็อยากให้ดูการแสดงของผม เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ผมพัฒนาทางการแสดง และก้าวกระโดดเหมือนกัน”

เราก็ทุ่มสุดตัวเหมือนกัน?

“เอาจริงๆ ผมเต็มที่กับทุกงานที่ได้รับอยู่แล้ว”

แมท ภีรนีย์ บอกว่า ดีใจที่ได้เราเป็นพาร์ตเนอร์ที่ดี?

“ขอบคุณมากๆ เลยครับ ผมก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากพี่แมทเหมือนกัน พี่แมทเป็นนักแสดงที่เก่งมากๆ (แค่เปิดทีเซอร์มาก็คือแซ่บ?) ก็เห็นมาบ้างครับ”

แมทบอกว่าฝากบอกแฟนคลับไมกี้ว่าอย่าทัวร์ลงพี่?

“ก็อย่างที่บอก อยากให้ทุกคนเปิดใจดูว่ามันเป็นละครแนวไหน แล้วก็บทละครจะมาประมาณไหน บางคนคิดว่าทีเซอร์ออกไปมันแรงขนาดนั้นเลยเหรอ อยากให้ทุกคนติดตามชมครับ”

ครีม

ครีมบำรุงผิวเลือกใช้อย่างไร ให้ได้ประสิทธิภาพดีที่สุด

account_circle
ครีม
ครีม

ครีมบำรุงผิวเลือกอย่างไรให้เหมาะกับผิว เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

ผิวหน้าและผิวกายที่ต้องเผชิญกับแสงแดด มลภาวะ ตลอดจนสิ่งสกปรกมากมายอาจส่งผลให้ผิวของคุณเริ่มเสื่อมสภาพลงได้ ยิ่งไปกว่านั้นหากเลือกใช้ครีมบำรุงที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิวตนเอง ทั้งครีมกันแดด ครีมลดรอยดำ หรือแม้แต่ครีมทาฝ้า ก็อาจส่งผลให้ผิวระคายเคือง บทความนี้จึงอยากพาทุกคนมาทำความรู้จักกับประเภทของครีมบำรุงต่าง ๆ รวมถึงเทคนิคดี ๆ ในการทาครีม เพื่อให้ผิวกลับมาสุขภาพดีกว่าเดิม ถ้าพร้อมแล้วตามมาดูกันเลย!

ครีมบำรุงผิว คืออะไร? 

ครีมบำรุงผิว คือ ผลิตภัณฑ์สำหรับฟื้นฟูผิวหน้าหรือผิวกายให้แข็งแรง พร้อมปรับสภาพผิวให้สุขภาพดี ดูกระจ่างใส ประกอบด้วยสารบำรุงที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน ลดเลือนริ้วรอย ตลอดจนทำให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนผสมที่ช่วยลดความระคายเคืองและการอักเสบ ซึ่งครีมบำรุงผิวสามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยควรเลือกใช้ครีมบำรุงให้เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวที่ต้องการรักษา

ครีมบำรุงผิวมีประโยชน์อย่างไรบ้าง?

ครีมบำรุงผิวประกอบไปด้วยสารบำรุงที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากทาครีมที่เหมาะกับสภาพผิวตนเองเป็นประจำย่อมช่วยแก้ไขปัญหาผิวต่าง ๆ ได้ดังนี้

  • ปรับสภาพผิวให้สม่ำเสมอ : ครีมทาผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซีจะช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ดูกระจ่างใส และผิวเรียบเนียน
  • บำรุงผิวแห้งให้ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ : โดยส่วนใหญ่ครีมทาหน้ามักมีส่วนผสมที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มน้ำ พร้อมรักษาสมดุลผิว โดยเฉพาะผู้มีปัญหาผิวแห้ง
  • ผลัดเซลล์ผิวเก่า : เป็นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่มีการสะสมของสิ่งสกปรกตกค้าง และเซลล์ผิวเดิมที่โดนแสงแดด มลภาวะให้หลุดออก เพื่อกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
  • เสริมเกราะป้องกันผิว : สร้างความแข็งแรงให้ผิวด้วยการทาครีมบำรุง เพื่อปกป้องผิวจากปัจจัยสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่ทำให้ผิวเกิดความระคายเคืองได้ง่าย
  • ลดริ้วรอยและจุดด่างดำ : ปัญหารอยแดง รอยดำจากสิว หรือรอยฝ้าสามารถใช้ครีมลดรอยสิวจุดด่างดำ ครีมหน้าใส และครีมรักษาฝ้า ทำให้รอยดูจางลงได้ 
  • ปกป้องผิวจากรังสี UV : ครีมกันแดดทาตัวหรือทาหน้าที่มีสารกันแดดและมีค่า SPF ในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยป้องกันผิวไม่ให้โดนทำร้ายจากรังสี UVB ได้

แนะนำประเภทของครีมบำรุงผิว

ครีมบำรุงผิวหน้า

หลายคนอาจสงสัยว่าครีมบำรุงผิวมีกี่ประเภท เลือกใช้ครีมแบบไหนให้เหมาะสม? การเลือกใช้ครีมบำรุงควรพิจารณาจากสภาพผิว ปัญหาผิวของแต่ละบุคคล ตลอดจนส่วนผสมที่อาจแพ้ได้ โดยทั่วไปแล้วครีมบำรุงสามารถแบ่งออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้

ครีม

เป็นประเภทครีมบำรุงผิวที่พบเห็นได้มากที่สุด มีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำมันและน้ำ เช่น ครีมทาผิวขาว อายครีม ซึ่งเนื้อครีมมักมีความเข้มข้นสูง โดยมีจุดประสงค์เพื่อเน้นการเติมเต็มความชุ่มชื้น ลดการสูญเสียของน้ำใต้ผิว จึงเหมาะกับผู้มีปัญหาผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ แต่อาจไม่เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาสิว รูขุมขนกว้าง เพราะเนื้อครีมอาจเข้าไปอุดตันรูขุมขนได้ 

โลชัน

โลชันเป็นอีกหนึ่งประเภทครีมบำรุงที่พบเห็นได้บ่อยสำหรับทาผิวกาย เพื่อเพิ่มความกระจ่างใส แต่บางเบากว่าเนื้อครีม เนื่องจากมีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำ ทำให้ซึมลงสูผิวได้รวดเร็ว ไม่รู้สึกเหนอะหนะ โลชันสามารถใช้ได้ทั้งผิวธรรมดาและผิวผสม 

อิมัลชัน

อิมัลชัน (Emulsion) เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีเนื้อสัมผัสกึ่งโลชันและเจลภายในตัว โดยมุ่งเน้นเติมเต็มผิวให้ชุ่มชื้นและรักษาสมดุลผิวให้ดี อีกทั้งยังสามารถใช้ควบคู่ไปกับครีมลดรอยสิวเพื่อช่วยให้รอยดูจางลงได้อีกด้วย เนื้อครีมมีความบางเบา ซึมลงผิวไว ทำให้หลังทารู้สึกสบายผิว เหมาะกับการใช้บำรุงผิวหลังขั้นตอนลงเซรั่มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์

เซรั่ม

เซรั่มเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีลักษณะเป็นน้ำสีใสหรือขุ่น โดยมีจุดเด่นเรื่องเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมง่าย ประกอบด้วยส่วนผสมเข้มข้นที่เน้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึก เช่น เรตินอล, กรดไฮยาลูโรนิก, กรดซาลิไซลิก, วิตามินซี เป็นต้น ทำให้ฟื้นฟูผิวได้ค่อนข้างเร็วกว่าครีมประเภทอื่น ๆ ช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด

เจล

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวประเภทเจลที่ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากประกอบไปด้วยสารพอลิเมอร์ (Polymer) ที่กักเก็บน้ำในผิวได้ดี จึงมักพบเห็นผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อเจลสำหรับบำรุงผิวหน้าโดยเฉพาะ เช่น Gel Mask นอกจากนี้ ครีมลดรอยแผลเป็นบางชนิดยังถูกผลิตออกมาเป็นเนื้อเจล เนื่องจากเกลี่ยทาง่าย ไม่บาดผิว 

เอสเซนต์

เอสเซนต์ (Essence) หนึ่งในประเภทครีมบำรุงผิวที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา คล้ายกับเซรั่มแต่มีสีที่เข้มกว่า มีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถใช้ครีมกับโลชัน เนื่องจากแพ้ส่วนผสมที่มีน้ำมัน นับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง ช่วยบำรุงผิวล้ำลึกถึงแก่นผิว

ขั้นตอนการทาครีมบำรุงผิวหน้าที่ถูกต้อง

ครีมทาผิว

ขั้นตอนการลงครีมบำรุงผิวหน้าเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด สามารถปฏิบัติตามได้ง่าย ๆ ดังนี้

  • เริ่มต้นทำความสะอาดใบหน้าจากคราบเครื่องสำอาง สิ่งสกปรกบนใบหน้าด้วยการใช้คลีนเซอร์และโฟมล้างหน้า เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุง
  • หลังจากทำความสะอาดใบหน้าอย่างหมดจดแล้วจึงค่อยใช้โทนเนอร์หยดลงบนสำลี ค่อย ๆ เช็ดหน้าอย่างเบามือ เพื่อเปิดรูขุมขนและเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
  • ขั้นตอนทาครีมบำรุงผิวควรเริ่มต้นจากเนื้อครีมเบาบางไล่ไปยังเนื้อครีมหนัก มีความเข้มข้นสูง เพื่อให้ผิวซึมซับสารบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มต้นจากเอสเซนต์ เซรั่ม ตามด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ และครีม
  • ก่อนทาครีมควรทำความสะอาดมือหรืออุปกรณ์ทาครีมให้เรียบร้อย เช่น ไม้พาย ช้อนตักครีม 
  • ควรทาครีมในปริมาณที่พอเหมาะ เริ่มจากกลางใบหน้า ใช้นิ้วมือค่อย ๆ นวดวน และเกลี่ยครีมออกไปตามกรอบหน้ากับลำคอ การนวดจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและช่วยให้เนื้อครีมซึมซับลงผิวได้ดี

สรุป ครีมบำรุงผิวเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว

ครีมบำรุงผิวเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลผิวให้ได้รับการฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเติมเต็มความชุ่มชื้น ปรับสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอย รวมทั้งเสริมเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรง โดยควรศึกษาวิธีการทาครีมบำรุงที่ถูกต้องเพื่อให้สารบำรุงซึมเข้าสู่ผิวได้ดี ตลอดจนเลือกครีมบำรุงให้เหมาะกับผิวหน้าและปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข ซึ่งที่ Romrawin Cosmetics มีครีมบำรุงที่อ่อนโยนต่อผิวหลากหลายประเภท คิดค้นโดยแพทย์ผู้ชำนาญด้านผิวหนัง เพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาผิวถึงต้นตอ ไม่เป็นอันตรายต่อผิวในระยะยาว

อัฒมาส อิศรางกูร ณ อยุธยา

ช่างภาพเวดดิ้งมือฉมัง อัฒมาส อิศรางกูร ณ อยุธยา นักบันทึกความทรงจำ

Alternative Textaccount_circle
อัฒมาส อิศรางกูร ณ อยุธยา
อัฒมาส อิศรางกูร ณ อยุธยา

เส้นทางสู่ช่างภาพเวดดิ้งมือฉมัง บอส – อัฒมาส อิศรางกูร ณ อยุธยา นักบันทึกความทรงจำ อาชีพสุขใจ ที่สร้างงาน สร้างรอยยิ้ม ความทรงจำพิเศษ เติมเต็มความภาคภูมิใจ

จุดเริ่มต้นการเป็นช่างภาพมืออาชีพ

“จริงๆ ผมเลือกเรียนสาขาวิชา School of Management Technology หรือ คณะเทคโนโลยีการจัดการ มหาวิทยาลัยชินวัตร   เพราะออฟชั่นคือการเรียนออกแบบสถาปัตยกรรม บวกกับมีความชื่นชอบในการถ่ายภาพสถาปัตย์ ตึกสวยต่างๆ เวลาที่เราไปเที่ยวมักจะถ่ายเก็บไว้ จึงเริ่มต้นงานถ่ายภาพจากการถ่ายภาพตึก ถ่ายแลนด์สเคป , อินทีเรียและ เอ็กซ์ทีเรียของตึก ส่วนใหญ่เป็นการถ่ายตามความชอบเรา โดยระหว่างเรียนอยู่ก็เริ่มต้นงานรับปริญญา เริ่มจากเป็นงานของ  เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ค่าตัวสำหรับงานเต็มวันตอนนั้น 3 พันบาท ไปถ่ายวันซ้อมตั้งแต่เช้าจนกระทั่งรับปริญญาเสร็จ เป็นงานที่สนุกและให้ประสบการณ์ชีวิตจริงๆ”

“พอเรียนจบจึงได้เปิดบริษัทกับต่างชาติตั้งสาขาในประเทศไทยให้บริการด้านภาพถ่ายอสังหาริมทรัพย์แบบวิชวลสามมิติ การออกแบบ เขียนแบบต่างๆ พอถึงจุดหนึ่งเราอยากทำบริษัทของตัวเอง จึงออกมาเปิด บริษัท เอไอ สตูดิโอ เซอร์วิส จำกัด ทำเกี่ยวกับการถ่ายภาพไปเลย”

“โดยคือพาร์ทหลักของ AIstudio คือถ่ายภาพเวดดิ้งเป็นหลัก Photography และ Cinema Photography แต่ว่าพาสอื่นๆก็มีอย่างเช่นอีเว้นท์ เรารับทุกด้าน แต่พาร์ทหลักคือเวดดิ้งเลยครับ”

อัฒมาส อิศรางกูร ณ อยุธยา

เปลี่ยนความชอบเป็นอาชีพที่ใช่

“ด้วยความที่พื้นฐานผมเป็นคนชอบถ่ายรูป และตั้งแต่เด็ก เวลาที่เราย้อนกลับมาดูรูปในปัจจุบัน เราจะรู้ว่าภาพนี้มันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในวันนั้น อันนี้คือความชอบของผม ผมเลยชอบในการถ่ายรูป เพราะฉะนั้นผมจึงเปลี่ยนความชอบของตัวเอง มาส่งต่อให้กับลูกค้า ผมเชื่อว่าภาพทุกภาพ เวลาที่เขาย้อนกลับมาดู เขาจะเกิดความทรงจำในวันนั้น แม้กระทั่งตัวเราเอง ยกตัวอย่างช่น ถ้าครบรอบหนึ่งปี หรือสองปี ผมจะมีลงรูปลูกค้าในไอจี ย้อนหลังให้เขา แล้วก็จะแท็กไป แสดงความยินดีในวันครบครอบแต่งงาน”

”ผมภูมิใจในอาชีพนี้มากๆ การที่ได้เล่าเรื่องราวในวันพิเศษผ่านภาพถ่าย ผมเชื่อว่าเจ้าบ่าวและเจ้าสาวหลายคู่ในวันแต่งงานพวกเขาคงไม่ได้รู้เรื่องราวรอบด้าน ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะผมเองตอนแต่งงานก็จะไปยืนยิ้ม โดยที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ใครอยู่ตรงไหนบ้าง แต่หลังจบงานเรามีหน้าที่ ในการเล่าให้เค้าฟังว่าแต่ต้น ระหว่างที่คุณแต่งหน้า ไปจนถึงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราจะมีการถ่ายภาพรวมเก็บไว้ให้เขาทั้งหมด ผมรู้สึกว่าเวลาที่ส่งงานไป แล้วเขาขอบคุณ เขาได้เห็นภาพ ผมก็รู้สึกว่า มันเกิดความภูมิใจตรงนั้นครับ“

มือชัตเตอร์ที่ได้รับความสนใจจากคู่รักคนดัง

“การถ่ายภาพแบบแลนด์สเคปกับ เวดดิ้งเหมือนกันเลยคือการหามุมธรรมชาติที่สวยที่สุด ผมใช้วิธีการเดียวกัน ในการมาถ่ายเวดดิ้ง ด้วยการถ่ายความทอดความเป็นธรรมชาติของ เจ้าบ่าว และ เจ้าสาว พยายามหามุมที่สวยที่สุดของเขาออกมา สื่อสารในความเป็นตัวเขาให้ได้ตรงสุด โดยแนวการถ่ายภาพของผมจะเป็นแนวเรียบร้อย เน้นความหรูหรา ภาพที่ออกมาจะไม่ได้วัยรุ่นจ๋า ชิคๆ จะไม่ใช่แบบนั้น เน้นภาพรวมสวย Mood and Tone ที่ดูสะอาด เรียบร้อยและดูหรู เป็นแนวคลีน แม้กระทั่งภาพแคนดิด”

“จุดเริ่มต้นจาการถ่ายภาพแต่งงานคนดัง งานแรกๆเป็นของ พี่เวีย-ศุกลวัฒน์ จากนั้นก็เริ่มถ่ายให้คนดังคนอื่นๆ เช่น แดน วรเวช-แพทตี้ อังศุมาลิน, อิฐ ปารินทร์ เจือสุวรรณ์ – ออม ปภาพินท์ วีระภุชงค์ แบม ปีติภัทร – กวาง ช้องมาศ  แก้มบุ๋ม ปรียาดา – พีท กันตพร และล่าสุด อ๋อม ปุณณภา – ดร.สันติภาพ”

“ถ้าพูดถึงความกดดันสำหรับงานนี้ ผมโชคดีที่งานนี้เวลาลูกค้าติดต่อเข้ามาเขาจะเห็นผลงานก่อน ถ้าเขาชอบหรือสนใจก็จะทักมาคุย มาซื้อบริการของเรา สำหรับในแง่การถ่ายภาพให้กับคนดังหรือบุคคลธรรมดา ผมคิดว่าความกดดันมีเท่ากันหมด ไม่ว่าจะถ่ายใคร พอเริ่มต้นงานใหม่ ก็ต้องรีเซ็ทเป็นศูนย์หมด แม้ว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิมหรือกระบวนการจะคล้ายเดิม แต่ด้วยความที่เราต้องไปเรียนรู้ตัวตนของลูกค้า เพื่อให้ภาพออกมาได้ดีที่สุด”

งานทุกงานมีอุปสรรคเสมอ

“งานถ่ายภาพเป็นงานที่ต้องรู้จักพลิกแพลงสถานการณ์ ดังนั้นขั้นตอนการเตรียมตัวสำคัญที่สุด ไม่ใช่แค่แผน A หรือ แผน B แต่มีแผน C และ แผน D ด้วย ขนาดเตรียมตัวก็ยังเคยเกิดเรื่อง”

“ครั้งหนึ่งก็เคยเกิดเหตุการณ์เหมือนกัน เป็นงานที่โบสถ์แห่งหนึ่ง เรื่องมีอยู่ว่าเราเอาตัวบันทึกเสียงไปติดไว้ตัวลำโพงหลักเพื่อบันทึกเสียงในงาน แต่พอจบพิธีโบสถ์เขาก็กดปิดสวิตช์ ที่นี้เสียงที่บันทึกหายหมดเลย คำพูดพูดในโบสถ์ตอนที่กล่าวคำสาบานต่างๆ ตัวบันทึกเสียงอีกตัวหนึ่งก็ไม่สามารถใช้ได้ โชคดีที่ไมค์หัวกล้องเราเปิดไว้เป็นโหมดบันทึกเสียงไว้ด้วย ก็เลยใช้เสียงอันนี้แทนได้ครับ“

งานตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

“ตอนนี้คิวจองถ่ายภาพยาวเลย สำหรับคู่คนดังที่สามารถเปิดเผยได้คือคู่ของ คุณบอล อัศนัย กับ คุณลูกเกด ดรัล ปีนี้ ส่วนช่วงวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ เป็นวันมหาฤกษ์ เราได้ลูกค้า ที่ทักมาจะแต่งวันนี้เกิน 10 คน แต่เรารับได้แค่ 3  เราก็ต้องปฏิเสธอีก 7 รู้สึกเสียดายเหมือนกันครับ กำลังคิดว่าทำยังไงดีถึงจะรับได้ทั้งหมด ก็มีคิดบ้างเรื่องขยายทีม แต่ลูกค้าที่ทักมาส่วนใหญ่ก็อยากให้เราเป็นคนที่ถ่ายทอดความทรงจำให้”

เป้าหมายของคุณบอสคืออะไร

“ผมตั้งใจทำให้มันออกมาดีที่สุด ถ้าเวลานึกถึงการถ่ายรูป หรือ วิดิโอเวดดิ้ง เราอยากจะเป็น 10 ตัวเลือกแรกในประเทศไทย อันนี้คือความคาดหวังของผม ณ วันนี้ที่ทำอยู่ อยากให้ AIstudio เป็นชื่อแรกๆที่นึกถึง ถ้าจะถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง ถ่ายรูปแต่งงาน ถ่ายรูปครอบครัว ถ่ายรูปลูก อยากให้เขานึกถึงเราครับ”

ติดตามผลงานการถ่ายภาพได้ที่

aistudio.wedding

"เกเลพู" เมืองแห่งสติ

ราชอาณาจักรภูฏานกำลังสร้างเมกะโปรเจกต์ “เกเลพู” เมืองแห่งสติ

Alternative Textaccount_circle
"เกเลพู" เมืองแห่งสติ
"เกเลพู" เมืองแห่งสติ

ฯพณฯ ดาโช เซริง โตบเกย์ นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรภูฏานเยือนกรุงเทพฯ พร้อมปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับเมกะโปรเจกต์ “เกเลพู” เมืองแห่งสติ (Gelephu Mindfulness City) ที่จะพัฒนาเมืองให้เติบโตไปพร้อมกับธรรมชาติและการดำรงชีวิตอย่างมีสติ

กลุ่มนักธุรกิจครอบครัวไทย สมาชิกของเอฟบีเอ็กซ์ (FBX) หรือสมาคมธุรกิจครอบครัวเชิงสร้างสรรค์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยแขกผู้มีแขกผู้มีเกียรติของมูลนิธิเจ้าพระยาอภัยราชา และสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรภูฏาน ร่วมให้การต้อนรับ ฯพณฯ ดาโช เซริง โตบเกย์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักร งานเลี้ยงอาหารค่ำสุดพิเศษ ณ โรงแรมโฟร์ซีชั่นส์ กรุงเทพมหานคร

โดย เคานต์เจรัลด์ แวน เดอ สตราเทน พอนโรส ประธานมูลนิธิเจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจ  เรียนเชิญ
คาโซ เชริง โตบเกย์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาฌาจักรภูฏาน ร่วมปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับโครงการสุดยิ่ง
ระดับโลก เกเลพู เมืองแห่งสดี (Gelephu Mindfulness City)

ฯพณฯ ดาโช เชริง โตบเกย์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน กล่าวปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับโครงการสุดยิ่งใหญ่ระดับโลก ซึ่งคือ เกเลพู เมืองแห่งสติ (Gelephu Mindfulness City)

ภายในงานได้จำลองบรรยากาศของประเทศภูฏาน เพื่อทำการต้อนรับ ฯพณฯ ดาโช เซริง โตบเกย์ นายกรัฐมนตรีแห่ง
ราชอาณาจักรภูฏาน พร้อมด้วย ฯพณฯ ลายองโป เลเค ดอร์จี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ฯพณฯ ลายองโป
นัมเกล ดอร์จึ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กรมการค้า และการจ้างงาน รวมถึงผู้แทนจากกระทรวงต่าง ๆ
หอการค้า และกลุ่มนักธุรกิจชั้นนำของราชอาณาจักรภูฏาน เข้าร่วมงาน

(จากซ้าย) หม่อมบงกชปริยา ยุคล ณ อยุธยา / ท่านผู้หญิงสุจิตคุณ สารสิน / คุณอาสา สารสิน /ฯพณฯ ดาโช เชอริง ต๊อบเกย์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน / เคานต์เจรัลด์ แวน เดอ สตราเทน พอนโธส ประธานมูลนิธิเจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจ / หม่อมราชวงศ์ปรียนันทนา รังสิต / ปานศักดิ์ รังสิพราหมณกุล

โดยมีบุคคลสำคัญของประเทศไทย ฯพณฯ ตร. จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา คุณอาสา สารสิน หม่อมราชวงศ์ปรีย
นันทนา รังสิด พร้อมด้วยแวดวงนักธุรกิจชั้นน้ำของประเทศไทยหลายท่าน อาทิ คุณสันติ ภิรมย์ภักดี ศาสตราจารย์
กิดติคุณ ดร. สุทธิพันธ์ จิราธิวัฒน์ คุณนิติ โอสถานุเคราะห์ และอีกมากมาย ให้การต้อนรับ

แขกผู้มีเกียรติจะได้รับการต้อนรับในบรรยากาศภูฏานแบบตั้งเดิม ที่ประกอบไปด้วยทัศนียภาพอันงดงาม และรับฟัง
บทเพลงอันไพเราะของจากศิลปินที่ชื่อเสียงของภูฏานที่เดินทางมาร่วมแสดงในงานโดยเฉพาะ โดยเมนูอาหารสุดพิเศษถูกรังสรรค์ขึ้นโดยการผสมผสานรสชาติของอาหารไทยแบบตั้งเดิม กับคาเวียร์และชีสที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังได้สอดแทรกกลิ่นอายของประเทศภูฏานไว้ได้อย่างลงตัว เช่น มีขวดน้ำที่สวมชุดพื้นเมือง
ขนาดเล็กของภูฏาน สร้างสรรค์โดยแบรนด์ไทย VORAWAJ Bangkok นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึกพิเศษอื่นๆ มอบให้กับ
แขกทุกท่าน

ภายหลังจากอาหารค่ำสุดพิเศษ ฯพณฯ ดาโช เชริง โตบเกย์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน ให้เกียรติกล่าว
ปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับโครงการสุดยิ่งใหญ่ระดับโลก ซึ่งคือ เกเลพู เมืองแห่งสติ (Gelephu Mindfulness City)
โดยอธิบายถึงแนวคิด เอกลักษณ์ของโครงการ รวมถึงโอกาสสำหรับนักลงทุนไทย พร้อมทั้งนั่งนี้ ท่านได้ตอบข้อซักถามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน

สำหรับเมกะโปรเจกต์ “เกเลพู” เมืองแห่งสติ

"เกเลพู" เมืองแห่งสติ

เกเลพู เมืองแห่งสติ คือเขตบริหารพิเศษบริเวณตอนใต้ของประเทศภูฏาน ที่พัฒนาขึ้นเป็นโครงการภายใต้แนวคิดความมีสติ (Mindfulness) ความยั่งยืน (Sustainability) และการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข (Harmony) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของโลก ในการสร้างเมืองที่จะพัฒนาและเติบโตไปพร้อมกันกับธรรมชาติและการดำรงชีวิตอย่างมีสติ อีกทั้งเมืองแห่งนี้จะกลายเป็นตัวอย่าง ของการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนและมีคุณค่าสำหรับกลุ่มคนรุ่นต่อไป

วิสัยทัศน์ของโครงการเมืองแห่งสติเมืองใหม่ของภูฏานนี้ถูกนำเสนออย่างเป็นทางการ โดยสมเด็จพระราชา เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ในปี 2566 เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ไม่ใครในโครในโลกเกเลพู เมืองแห่งสติ จะเป็นเขตเศรษฐกิจแห่งใหม่ทางตอนใต้ของประเทศภูฏาน ซึ่งเป็นประเทศที่สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซดให้ต่ำกว่าศูนย์ใต้เป็นแห่งแรกของโลก และเมืองแห่งนี้ครอบคลุมพื้นพื้นที่กว่า 1,000 ตารางกิโลเมตร ถูกออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมของชาวภูฏานที่มีดัชนีความสุขมวลรวมประชาติ (GNH) และมีมรดกทางจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง

โครงการ เกเลพู เมืองแห่งสติ เป็นโครงการอันยิ่งใหญ่ที่ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักลงทุน กลุ่มผู้สนับสนุนการอนุรักษ์ธรรมชาติและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น กลุ่มที่มีแนวคิดในการทำธุรกิจเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน ทั้งกลุ่มเทคโนโลยีสีเขียว การศึกษา และสุขภาพ รวมถึงกลุ่มบริษัทการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณแลเชิงนิเวศวิทยา รวมถึงผู้คนที่สนใจเรื่องความเป็นอยู่ที่ดีอยู่ร่วมกันอย่างสงบและวิถีชีวิตแบบชาวภูฏาน นับได้ว่ามีผู้คนให้ความสนใจและติดตามการพัฒนาโครงการถเลพู เมืองแห่งสติอย่างมากมาย

ด้วยเหตุนี้ มูลนิธิเจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจ และสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรภูฏาน จึงได้ร่วมมือกับเอฟบีเอ็กซ์ (FBX) เพื่อจัดงานเลี้ยงพิเศษครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้สังคมไทยได้เรียนรู้เกี่ยวกับโครงการเลพู เมืองแห่งสติ จากนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน ที่ให้เกียรติมาปาฐกถาพิเศษพิเศษด้วยตัวท่านเอง


 
 

ครีมหน้าใส

ครีมหน้าใส ตัวช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้ขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ

account_circle
ครีมหน้าใส
ครีมหน้าใส

ครีมหน้าใส ตัวช่วยฟื้นบำรุงผิว เปลี่ยนหน้าโทรมหมองคล้ำ ให้ขาวกระจ่างใสอย่างมีประสิทธิภาพ

แสงแดดและมลภาวะ อายุที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม นับเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวหน้าดูโทรม หมองคล้ำ หลายคนจึงมักเลือกซื้อครีมหน้าใสมาใช้บำรุงผิวหน้า รวมถึงดูแลผิวด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อให้ผิวกลับมาขาวกระจ่างใส สำหรับใครที่กำลังเผชิญปัญหาดังกล่าวอยู่แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี บทความนี้จะพาคุณมารู้จักวิธีดูแลผิวให้ขาวใส และเทคนิคการใช้ครีมบำรุงหน้าใสให้ปลอดภัย ได้ผลจริง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!

หน้าหมองคล้ำ ดูโทรม ไม่กระจ่างใส มีสาเหตุมาจากอะไร?

ครีมหน้าขาวใส

ก่อนจะไปรู้จักวิธีทำให้หน้าขาวใส และวิธีเลือกครีมหน้าใสให้เหมาะกับตัวเอง เราลองมาดูกันก่อนว่าสาเหตุที่ทำให้หน้าหมองคล้ำ ดูโทรม และขาดความกระจ่างใสมีอะไรบ้าง เพื่อให้สามารถจัดการกับต้นตอของปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด โดยปัจจัยที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ มีดังนี้ 

  • อายุที่เพิ่มขึ้น 
  • ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น 
  • แสงแดด 
  • สภาพอากาศและมลภาวะ
  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ 
  • ความเครียด 
  • การสูบบุหรี่
  • การผลัดเซลล์ผิวผิดปกติ 

แนะนำการดูแลผิว ทำอย่างไรให้ผิวขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ

การดูแลผิวอย่างเหมาะสมและถูกวิธี จะช่วยให้ผิวหน้าที่คล้ำโทรมกลับมาดูขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ สำหรับใครที่กำลังตามหาวิธีดูแลผิวใสอยู่ เราได้รวบรวม 5 เคล็ดลับดูแลผิวมาไว้ให้แล้ว 

ใช้ครีมหน้าใสบำรุงผิว

การใช้ครีมหน้าใสหรือครีมทาหน้าใส นับเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใสอย่างมีประสิทธิภาพ โดยควรใช้ครีมบำรุงผิวที่อ่อนโยนเหมาะกับสภาพผิว ซึ่งครีมหน้าขาวที่ใช้ได้ผลจริง และช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้เรียบเนียนกระจ่างใส ควรมีส่วนผสมของสารยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน เช่น อาร์บูติน, วิตามินซี, วิตามินอี, AHA, BHA เป็นต้น   

สำหรับใครที่ไม่รู้จะใช้ครีมหน้าใสตัวไหนดี เราขอแนะนำ เซรั่มบำรุงผิวหน้าใส “Intensive Serum” และครีมทาหน้าขาวอย่าง “Absolute Light Cream” และ “Pure Bright” ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจาก Romrawin Cosmetics ตัวช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน เร่งการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน พร้อมปรับผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ คืนความขาวกระจ่างใสให้แก่ใบหน้า      

ทาครีมกันแดดเป็นประจำ 

หากคุณต้องการมีใบหน้าที่ขาวใส ห่างไกลความหมองคล้ำ นอกจากการบำรุงผิวด้วยครีมหน้าขาวใสแล้ว ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันก่อนออกไปเผชิญแสงแดดด้วย โดยเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF และค่า PA ที่เพียงพอและเหมาะกับสภาพผิว เพื่อปกป้องผิวจากการทำร้ายของแสงแดด   

ล้างหน้าให้สะอาดอย่างถูกวิธี

เพื่อให้การใช้ครีมหน้าใสหรือครีมทำให้หน้าขาวเกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรล้างหน้าให้สะอาดอย่างถูกวิธี โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว สามารถทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนผิวหน้าออกไปก่อนบำรุงผิว

ทำหัตถการหน้าใส

สำหรับใครที่บำรุงผิวหน้าด้วยตนเอง ทั้งการทาครีมหน้าใส ใช้ครีมกันแดด และการล้างหน้าให้สะอาดแล้วแต่ยังไม่ทันใจ และต้องการทำหน้าใสแบบเร่งด่วน ก็สามารถทำหัตถการหน้าใสแทนได้ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์หน้าใส การดริปวิตามิน หรือการฉีดเมโสหน้าใส ฯลฯ ซึ่งจะช่วยฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึก ให้ผิวพรรณและใบหน้าดูเปล่งปลั่งขาวใส แลดูสุขภาพดี 

เลเซอร์หน้าใส

การเลเซอร์หน้าใส เป็นอีกหนึ่งวิธีมีผิวใสอย่างเร่งด่วนและเห็นผลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้เลเซอร์ยิงเข้าไปที่ชั้นผิว เพื่อกำจัดเม็ดสีเมลานินและกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ จึงช่วยลดความหมองคล้ำบนผิวหน้า ให้ผิวดูเรียบเนียนกระจ่างใส สม่ำเสมอทั่วใบหน้า

รู้จักอันตรายจากการใช้ครีมหน้าใส 

ครีมบำรุงหน้าใส

ในปัจจุบันมีครีมหน้าใสวางขายอยู่ตามท้องตลาดหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นครีมบำรุงหน้าขาว, ครีมหน้ากระจ่างใส, ครีมหน้าเนียนใส หรือครีมไวท์เทนนิ่งทาหน้า โดยมีทั้งครีมหน้าขาวปลอดภัยได้มาตรฐาน และครีมอันตรายที่มีส่วนผสมของสารปรอท ไฮโดรควิโนน หรือสเตียรอยด์ ซึ่งหากใช้เป็นเวลานานอาจเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง อย่างอาการหน้าไหม้, ผิวบาง, แสบผิว หรือเกิดฝ้า ใครกำลังมองหาครีมหน้าขาวแบบเร่งด่วนจึงต้องระวัง และควรตรวจสอบให้ดีก่อนเลือกใช้ครีมบำรุงหน้าขาวใส

วิธีเลือกครีมหน้าใส เลือกอย่างไรให้ปลอดภัยและได้ผลดี

เพื่อให้สามารถใช้ครีมหน้าใสได้อย่างปลอดภัย และป้องกันผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ที่อาจตามมา ก่อนเลือกใช้ครีมจึงควรอ่านฉลากบนบรรจุภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อดูข้อมูลของครีมทาผิวหน้าขาว โดยดูจากส่วนผสมของครีมให้แน่ใจว่าปราศจากส่วนประกอบของสารอันตรายอย่างปรอท ไฮโดรควิโนน หรือสเตียรอยด์ และดูที่มาของผลิตภัณฑ์ว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่ เช่น ชื่อผู้ผลิต สถานที่ผลิต หรือวันเดือนปีที่ผลิต เป็นต้น 

สรุป ครีมหน้าใส ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ขาวใส สุขภาพดี

การใช้ครีมหน้าใสบำรุงผิว เป็นหนึ่งในวิธีดูแลและฟื้นฟูผิวหน้าที่คล้ำโทรมให้กลับมาขาวกระจ่างใส โดยควรเลือกใช้ครีมที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงปราศจากส่วนผสมของสารอันตราย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัย

หากคุณกำลังมองหาครีมหน้าใส ตัวช่วยบำรุงผิวหน้าที่มีประสิทธิภาพ สามารถเลือกใช้ครีมบำรุงผิวจาก Romrawin Cosmetics ที่มีหลายสูตรให้คุณเลือก ไม่ว่าจะเป็น “Intensive Serum” เซรั่มบำรุงผิวหน้าใส “Absolute Light Cream” ครีมทาฝ้าหน้าขาวใส หรือ “Pure Bright” ครีมหน้าขาวใส ที่อุดมไปด้วยสารสกัดสำคัญช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสี และเร่งการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน พร้อมเพิ่มความขาวเนียนกระจ่างใสให้ใบหน้าของคุณดูสุขภาพดี 

คอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบของบอยกรุ๊ประดับโลก เวย์วี ณ อิมแพ็ค อารีน่า

Alternative Textaccount_circle

ปูเส้นทางสุดยิ่งใหญ่สู่คอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทยของบอยกรุ๊ประดับโลก WayV ใน 2024 WayV CONCERT [ON THE Way] IN BANGKOK ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18:00 น. และวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17:00 น. ทั้งหมด 2 รอบการแสดง ณ อิมแพ็ค อารีน่า

WayV ดึงดูดความสนใจได้อย่างมากจากการทำกิจกรรมโปรโมตไปทั่วเอเชียและสร้างเส้นทางการเติบโตไปสู่ระดับโลก โดยพวกเขาได้พิสูจน์ความสามารถอันยอดเยี่ยมผ่านผลงานเพลงที่นำสมัยและการแสดงที่แข็งแกร่งทรงพลังในทุกคัมแบ็ก ตั้งแต่เพลงเดบิวต์ ‘理所当然 (Regular)’ และเพลงฮิตอย่าง ‘Take Off’, ‘Moonwalk’, ‘Love Talk’, ‘Turn Back Time’, ‘Kick Back’, ‘Phantom’ ล่าสุด WayV ได้ถ่ายทอดหลากหลายอารมณ์รักในมินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘Give Me That’

ซึ่งประสบความสำเร็จไม่หยุดหย่อน ครองอันดับ 1 ทั้งชาร์ตในประเทศเกาหลีใต้และต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอันดับ 1 ในรายการเพลงเกาหลี, อันดับ 1 บน Retail Album และ Weekly Album ของ CIRCLE CHART ชาร์ตอัลบั้มหลักในประเทศเกาหลีใต้, อันดับ 1 บนชาร์ต iTunes Top Albums ใน 19 ภูมิภาค และติดอันดับ TOP5 รวม 24 ภูมิภาคทั่วโลก ตลอดจนอันดับ 1 บนชาร์ต Digital Album Sales ของแพลตฟอร์มเพลงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน QQ Music, KuGou Music และ NetEase Music

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังได้ประกาศทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรก 2024 WayV CONCERT [ON THE Way] ที่เปิดฉากอย่างร้อนแรง ณ เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 17-18 สิงหาคม 2567 โดยทัวร์ครั้งนี้มีตารางจัดขึ้นต่อในปักกิ่ง, กวางโจว, อู่ฮั่น, เซี่ยงไฮ้, เฉิงตู และหนานจิง ตามด้วยโกเบ, โตเกียว รวมถึงจาการ์ตา, กรุงเทพฯ, ไทเป, ฮ่องกง และมาเก๊า สำหรับคอนเสิร์ตนี้ สมาชิกแต่ละคนได้มีส่วนร่วมในการออกความคิดเห็นตั้งแต่ชื่อคอนเสิร์ต คอนเซ็ปต์ การแสดง ไปจนถึงเซ็ตลิสต์ โดยคำนึงถึงสิ่งที่แฟน ๆ ชื่นชอบและรอคอยเป็นสำคัญ ซึ่งชื่อคอนเสิร์ต [ON THE Way] เป็นตัวแทนของการเดินทาง ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ระหว่างทาง ไปจนถึงเส้นทางที่ WayV จะมุ่งหน้าไปในอนาคต

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอนเสิร์ตเต็มรูปแบบในประเทศไทยที่มีกำหนดเกิดขึ้นในวันที่ 2-3 พฤศจิกายนนี้ จะเป็นการแสดงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของ WayV (เวย์วี) หลังจากที่พวกเขาได้สร้างความประทับใจกับ 2 งานแฟนมีตติ้ง ณ ธันเดอร์โดม ซึ่งบัตรจำหน่ายหมดทุกรอบการแสดง ทั้ง 2019 WayV FANMEETING TOUR ‘Section#1_We Are Your Vision’ – in BANGKOK เมื่อวันที่ 14-15 ธันวาคม 2562 และ ‘2023 WayV Fanmeeting Tour [Phantom]’ in BANGKOK เมื่อวันที่ 1-2 เมษายน 2566 สำหรับสมาชิกที่เข้าร่วมทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้ ได้แก่ KUN (คุน), TEN (เตนล์), XIAOJUN (เซียวจวิ้น), HENDERY (เฮนเดอรี) และ YANGYANG (หยางหยาง) จะเผยโลกดนตรีที่เปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์ของ WayV (เวย์วี) ตลอดการเดินทางครั้งนี้ให้ทุกคนได้ร่วมสัมผัสพร้อมสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมไปด้วยกัน

เปิดจำหน่ายบัตรรอบสมาชิก “WayV” Membership (GL) Pre-Sale ในวันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2567 เวลา 11:00 น. – 20:59 น. ทางเว็บไซต์เท่านั้น และรอบบุคคลทั่วไป (General Sale) ในวันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 11:00 น. เป็นต้นไป ทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ และทางเว็บไซต์ www.allticket.com

The Touch Clinic ก้าวสู่ปีที่ 13 เปิดบ้าน “HOUSE OF TOUCH” ยกระดับดูแลด้านสุขภาพครบวงจร

Alternative Textaccount_circle

The Touch Clinic ผู้นำด้านความงามและสุขภาพ เปิดบ้าน “HOUSE OF TOUCH” ก้าวสู่ปีที่ 13 ยกระดับดูแลด้านสุขภาพครบวงจร ด้วยความมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดย กวินภัสร์ สิทธิปีติพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร The Touch Clinic กล่าวว่า “เราเชื่อว่าสุขภาพที่ดี คือความงามที่ยั่งยืน โดยตลอด 12 ปีที่ผ่านมา The Touch Clinic มุ่งเน้นดูแลด้านเวชกรรมดูแลรูปร่างและความงาม เมื่อเข้าสู่ปีที่ 13 The Touch Clinic ยกระดับดูแลด้านสุขภาพครบวงจร ใส่ใจเรื่องสุขภาพในเชิง Wellness มายิ่งขึ้น สอดคล้องกับเทรนด์การดูแลสุขภาพในประเทศไทย ที่กำลังให้ความสนใจการดูแลรักษาแบบ Preventive ซึ่งเป็นการดูแลป้องกันด้านสุขภาพไว้ก่อนสายเกินไป เพราะปัจจุบันโรคต่างๆ มันเกิดขึ้นเร็วขึ้น สามารถเป็นได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ดังนั้น ภาพรวมของตลาด Wellness คาดการณ์ได้ว่ามูลค่าเศรษฐกิจทั่วโลกด้าน Wellness (Global Wellness Economy) จะเติบโตขึ้น 7.0 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ(เท่ากับประมาณ 241.5 ล้านล้านบาทไทย) ในปี 2025 หรือเติบโตเฉลี่ยที่ 10% ต่อปี ซึ่งในการตลาดของไทยได้มีการเติบโตคาดการณ์ในปี 2028 จะมีมูลค่าการตลาด 4,500 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้ The Touch Clinic มีความพร้อมที่จะก้าวเข้าไปสู่ความเป็น Wellness โดยเข้าไปเน้นในเรื่อง Preventive ให้กับกลุ่มลูกค้าสนใจการดูแลสุขภาพแบบเตรียมพร้อมและป้องกันก่อนเกิดโรคมากยิ่งขึ้น ซึ่งข้อดีคือทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้มากกว่า ไม่ต้องรับมือกับโรคร้ายที่มาก่อนวัยอันควรอย่างไม่คาดฝัน ด้วยการวางเป้าหมายในการดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้ ให้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพได้ แม้อายุจะเพิ่มขึ้น ร่างกายยังคงแข็งแรง ปราศจากโรคภัย และไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ช่วยเหลือ การดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องและการป้องกันโรคเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีชีวิตที่สมบูรณ์และสุขภาพดีในทุกช่วงวัย

นอกจากนี้ยังเตรียมแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 10 สาขาทั่วกรุงเทพและปริมณฑล เพื่อรองรับลูกค้าให้ได้มากขึ้นอีกด้วย


‘มีทั้งเด็กดี เด็กดื้อ ยังไม่หนำใจ ยังมีเด็กใหม่อีก ใครกันหนอ?? ต้องเช็กแล้ว!!’ ดวงรายสัปดาห์ 9-15 กันยายน 2567

Alternative Textaccount_circle

‘มีทั้งเด็กดี เด็กดื้อ ยังไม่หนำใจ ยังมีเด็กใหม่อีก’

ดวงรายสัปดาห์ 9-15 กันยายน 2567

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์          

การงาน  :   ก็ดีขึ้นนะคะ สำหรับสัปดาห์นี้ ชาวอาทิตย์มีโอกาสได้เริ่มต้นงานหรือธุรกิจใหม่ๆ เป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่หรือคนใกล้ชิดจะสนับสนุนส่งเสริมให้ได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ หรือได้โยกย้ายหน่วยงาน ได้รับการโปรโมทตำแหน่งหน้าที่การงานที่ก้าวหน้าขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น งานหรือธุรกิจจะก้าวหน้าไปได้แค่ไหนนั้น ก็อยู่ที่คุณด้วย อย่าหลงในทิฐิหรือเชื่อมั่นในตัวเองสูงสุด จนไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น เพราะเสี่ยงที่คุณจะตกเป็นเป้าให้คนที่ทำงานด้วยใส่ร้ายป้ายสี กระทั่งงานหรือธุรกิจนั้นๆ สะดุดหยุดลงกลางคันได้  

การเงิน  :  จริงๆ สัปดาห์นี้คุณมีดวงผู้ใหญ่อุปถัมภ์นะเนี่ย ซึ่งคุณเองก็มีความสามารถในการจัดสรรเงินอย่างดีเยี่ยม ขณะเดียวกันก็ควรระวังจะถูกหยิบยืมเงิน หรือลงทุนผิดพลาด มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาจนถึงขั้นชักหน้าไม่ถึงหลัง

ความรัก  :  สัปดาห์นี้ก็ยังห้อมล้อมอยู่ด้วยความหึงหวง เป็นไปได้ว่าจะมีการประชด ด้วยการแต่งตัวสวยออกเที่ยวกลางคืน ประมาณว่าเธอทำได้ ฉันก็ทำได้ แล้วมีความเสี่ยงที่จะมีความรักซ้ำซ้อนด้วยนะ  คนโสด  ก็ยังมีกลิ่นอายของความเนื้อหอมอยู่ แถมสัปดาห์นี้เพิ่มเติมคือ เจ้าชู้ไก่แจ้ มีโอกาสที่จะเกิดความรักแบบซ่อนเร้นด้วยนะ คือแอบคบกับแฟนชาวบ้านเขาน่ะ!

สุขภาพ  :  กลับมาสู่เรื่องของการรับประทาน สัปดาห์นี้มีโอกาสที่คุณจะเอ็นจอยกับอาหาร รับประทานอะไรก็อร่อยไปหมด จนน้ำหนักขึ้นไม่รู้ตัว นอกจากนั้นยังต้องระวังระบบย่อยอาหารมีปัญหาด้วย กับพวกทอลซินอักเสบ และหลอดลมอักเสบ

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  สำหรับชาวจันทร์มีโอกาสเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยการเป็นแพะรับบาปเสียแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อประสานงาน นักประพันธ์ สื่อมวลชน การปกครอง การเมืองและเศรษฐกิจด้วยแล้ว หากคุณกำลังเกิดความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่การงาน หรือในธุรกิจ ก็ควรใจเย็นๆ เพราะสัปดาห์นี้จากความเชื่อมั่นและความคิดเห็นที่แข็งกร้าวของคุณ มีความเสี่ยงที่คุณจะได้งานที่นอกเหนือจากที่ตกลงกันไว้ หรือต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ ดังนั้น ควรหาเพื่อนที่รู้ใจหรือผู้รู้ผู้มีประสบการณ์มาช่วยกันทำงานดีกว่า หรือไม่ก็รับงานเป็นของตัวเองเลย

การเงิน  :  จริงๆ แล้วคุณสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงจากอำนาจ วาสนา และบารมี แม้ไม่ต้องทำงานหนักก็มีเงินให้ใช้สบายๆ แต่สำหรับสัปดาห์นี้ต้องระวัง ไม่ควรให้ใครยืมเงิน หรือเซ็นค้ำประกันกู้หนี้ยืมสินหรือผ่อนบ้านผ่อนรถให้ใคร เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะต้องรับผิดชอบหนี้สินนั้นแทน จนเงินเข้ามือซ้ายออกมือขวาทันที  

ความรัก  :  สำหรับชาวจันทร์สัปดาห์นี้ ความสัมพันธ์ของคุณกับคู่ครองก็ยังผีเข้าผีออกอยู่นะคะ จริงๆ แล้วเหมือนจะพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง แต่สัปดาห์นี้มีโอกาสที่คุณทิฐิและคุณเชื่อมั่นในตัวที่คุณพามาด้วยจะตะโกนเสียงดัง จนไม่เปิดใจรับฟังคนที่อยู่ข้างตัว จึงเป็นไปได้ว่าจะหันหลังให้กันเสียแล้ว  คนโสด  ก็ยังคงมีเสน่ห์และเนื้อหอมอยู่ แต่ก็ต้องระวังความคิดและความเชื่อมั่นที่แรงกล้าที่มีต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง มีโอกาสที่จะเปลี่ยนคุณจากน่ารักกลายเป็นน่าเบื่อได้เลย

สุขภาพ  :   อวัยวะที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งคือหัวใจ และโรคที่เกี่ยวกับหัวใจทุกชนิด รองลงมาคือสายตา ตระกูลต้อต่างๆ  เตรียมเข้าแถวมาเยี่ยมเยือนแล้ว นอกจากนั้นมีความเสี่ยงที่คุณจะเครียด จนปวดศีรษะ ไมเกรน ถึงซึมเศร้า  ดังนั้น จึงควรหาสถานที่หรือกิจกรรมที่ผ่อนคลายด่วนๆ

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน    เป็นสัปดาห์เงินทองแห่งชาติของชาวอังคารเลยค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับการเกษตร ศิลปวัฒนธรรม ออกแบบตกแต่งสวน สินค้าโอทอปทั้งหลาย ด้วยแล้ว หากสัปดาห์นี้คุณกำลังคิดเงินก็จะได้เงิน คิดทองก็จะได้ทอง รวมถึงครูบาอาจารย์ เทรนเนอร์ ไลฟ์โค้ช ก็มีโอกาสได้งานเฮงๆ ปังๆ หรือหากใครที่คิดจะไปศึกษาต่อต่างประเทศ ก็มีโอกาสได้ไป

การเงิน  :   ก็ยังมีโอกาสที่จะสร้างรายได้ที่สูงให้กับตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีโอกาสได้ขาย หรือให้เช่า เรือกสวนไร่นา รวมถึงผลผลิตทางการเกษตรก็ขายได้ราคาดี ส่วนผู้ที่มีเงินเดือนประจำก็มีโอกาสได้เงินพิเศษ  

ความรัก  :  ก็ยังมีโอกาสที่จะอยู่กันแบบเดาใจไม่ถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าคุณจะค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูง ไม่ทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำ ก็ค้นคว้าศึกษาตำรับตำรา ไม่ว่าจะทางโลกหรือทางธรรมเงียบๆ คนเดียว ไม่ออกมาพบปะสังสรรค์กับใคร คนโสด  สัปดาห์นี้มีโอกาสที่คุณจะได้พบกับคนที่ใช่ นอกจากเขาจะเป็นผู้ใหญ่ที่เข้าใจในความเป็นคุณอย่างดีแล้ว ยังขยันทำงานด้วยสิ กฎระเบียบตึงเป๊ะ  

สุขภาพ  :  หากคุณกำลังให้เวลากับการทำงานหาเงินมากกว่าที่จะห่วงใยสุขภาพของตัวเองแล้วล่ะก็ ขอเตือนว่า สัปดาห์นี้มีโอกาสที่คุณจะป่วยทั้งกายและจิตเลยทีเดียว  เป็นไปได้ว่าจากการพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้คุณหงุดหงิดง่าย เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด จนถึงเป็นเหน็บชา ความดัน ความเครียด วิตกกังวลต่างๆ

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน   :   สำหรับชาวพุธที่กำลังตบเท้าเข้าเป็นพนักงานใหม่ นักธุรกิจหน้าใหม่ จนถึงผู้ที่กำลังเริ่มทำอะไรใหม่ๆ เป็นไปได้ว่าในช่วงสัปดาห์เริ่มต้นการทำงานหรือธุรกิจของคุณนี้จะมีปัญหาและอุปสรรคเข้ามาให้คุณได้ใช้ทักษะ ความรู้ ความสามารถในวิชาชีพอย่างเต็มที่ บอกเลยว่าไม่ธรรมดา แต่หากคุณสามารถเอาชนะหรือก้าวข้ามผ่านจุดนี้ไปได้ ผลตอบแทนที่ได้รับนับว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อยมากมาย

การเงิน  :  ได้รับผลตอบแทนเกินคาด  แต่ขอให้ต้องทำด้วยตัวเอง ไม่ควรร่วมหุ้นทำธุรกิจกับใคร และต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเสี่ยงโชคใดๆ มีโอกาสเสียชื่อเสียงได้ง่ายๆ  

ความรัก  :  หากใครที่กำลังมีปัญหากับลูกและคู่ครอง ความคิดเห็นยังไม่ตรงกันอยู่ สัปดาห์นี้มีโอกาสที่บรรยากาศในบ้านจะดีขึ้น คุณจะเย็นลง ทำหน้าที่แม่และภรรยาได้อย่างดี  คนโสด  หากใครที่กำลังเหนื่อยกับการพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เขามา สัปดาห์นี้มีเฮล่ะค่ะ เพราะเขาคนนั้นจะเห็นใจในความพยายามของคุณ  

สุขภาพ  :  ก็ยังคงวนๆ อยู่กับการรับประทานและการดื่มอยู่นะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัปดาห์นี้ควรหลีกเลี่ยงพวกอาหารสุกๆ ดิบๆ สดๆ ดองๆ รสจัด ไม่สะอาดถูกสุขลักษณะ เพราะนอกจากมีความเสี่ยงที่อาหารจะเป็นพิษ ท้องเสียอย่างรุนแรงแล้ว ยังมีโอกาสเกิดพยาธิ์ในลำไส้ด้วย  

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :   สำหรับชาวพฤหัสผู้ที่มีวิญญาณความเป็นครูอยู่ในตัวสูง คุณมีโอกาสเริ่มต้นสัปดาห์นี้ด้วยการทำงานหรือดำเนินธุรกิจท่ามกลางเด็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับงานบริการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร สปา โรงเรียน จนถึงสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับเด็กด้วยแล้ว เป็นไปได้ว่าคุณจะตกอยู่ท่ามกลางการแก่งแย่งชิงดีและแข่งขันในเรื่องของผลตอบแทน และตำแหน่งหน้าที่การงานอย่างบ้าคลั่ง หากคุณเป็นพนักงานใหม่ หรือนักธุรกิจหน้าใหม่ ยิ่งต้องระวัง เพราะจากความไฟแรงของคุณเมื่อมารวมกับการแข่งขันที่ร้อนแรง จึงมีโอกาสที่จะลุกเป็นไฟ จนงานหรือธุรกิจสะดุดหยุดลงกลางคัน   

การเงิน  :  เป็นไปได้ว่ารายได้จะมาจากหยาดเหงื่อแรงงานของตัวเอง  มีโอกาสโชคดีในการลงทุน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเสี่ยงโชค หรือสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

ความรัก  :  สัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวกับเด็กๆ ในบ้าน เช่น ลูกๆ มีปัญหา แล้วคุณตกลงกันไม่ได้ ยิ่งคุยกันก็ยิ่งโกโซบิ๊ก จนมีโอกาสที่จะเลยเถิดไปถึงขั้นใช้วาจาก้าวร้าว ไม่ให้เกียรติกันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  คนโสด  ก็ยังมีโอกาสที่คุณจะได้อยู่ท่ามกลางเด็กๆ ทั้งเด็กดีและเด็กดื้อเลยนะคะ แล้วเป็นไปได้ว่าจะยังไม่หนำใจ ยังส่งสายตาควานหาเด็กใหม่ๆ อีก แล้วไม่ใช่แค่ยั่วยวน แต่ยื้อแย่งเลยทีเดียว  

สุขภาพ   :   สัปดาห์นี้ควรหลีกเลี่ยงพวกอาหารสุกๆ ดิบๆ สดๆ ดองๆ รสจัด ไม่สะอาดถูกสุขลักษณะ เพราะมีความเสี่ยงที่อาหารจะเป็นพิษ ท้องเสียอย่างรุนแรง จนถึงขั้นนอนบนเตียงหมอเลยทีเดียว

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  สัปดาห์นี้ชาวศุกร์ก็ยังคงอยู่กับตำรับตำรา วิชาการ กันอีกนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับการศึกษา เช่น ครู อาจารย์ ไลฟ์โค้ช เทรนเนอร์ ติวเตอร์ เจ้าของสถานศึกษา กวดวิชา ด้วยแล้ว เป็นไปได้ว่าคุณจะได้อยู่ท่ามกลางเด็กๆ รุ่นน้อง ลูกน้อง หากถามว่าจะประสบความสำเร็จไหม ตอบว่ามากค่ะ   

การเงิน  :  หากคุณมีรายได้จากงานประจำ สัปดาห์นี้เป็นไปได้ว่าจะมีช่องทางหารายได้เพิ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กๆ แล้วเมื่อได้มากก็เหลือเผื่อเก็บไว้ด้วยนะคะ อย่าใช้หมด  

ความรัก :  สัปดาห์นี้ผู้ใหญ่ก็จะยังคงอยู่กับคุณ ที่เพิ่มเติมมาด้วยก็คือเด็กๆ ในบ้าน จากที่อบอุ่นจนอึดอัดไปแล้ว คราวนี้เสี่ยงว่าจะไปถึงขั้นเอ็ดอึงล่ะค่ะ คนโสด   เช่นกันค่ะ สัปดาห์นี้คุณยังคงอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะเอนเอียงให้กับการศึกษาธรรมะ ปฏิบัติธรรมแล้วล่ะ

สุขภาพ  :  ก็ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเป็นซึมเศร้า วิตกกังวล เครียด หงุดหงิดง่าย เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด ทางที่ดีควรหาสถานที่หรือจัดกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายด่วนๆ

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :   สำหรับชาวเสาร์สัปดาห์นี้คุณก็ยังมีโอกาสได้อยู่กับงานหรือธุรกิจที่เกี่ยวกับสาธารณะประโยชน์ สาธารณะกุศล เช่น มูลนิธิ จิตอาสา สังคมสงเคราะห์ ฯลฯ  แต่หากจะติดต่องาน หรือลงนามใดๆ ในเอกสารสัญญา หรือจดหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษร ควรระวังจะมีปัญหาในเรื่องของคดีความ มีความเสี่ยงที่จะนำความเดือดร้อนมาให้ ถึงขั้นอึดอัดและร้อนรุ่มจนอยากจะลาออกวันละหลายๆ รอบเลยทีเดียว   

การเงิน  :  ก็ยังคงมีโอกาสได้ทำบุญ ทำทาน บริจาคเงินเพื่อสังคมอยู่นะคะ ก็ควรให้ตามกำลัง เพราะคาดว่าสัปดาห์นี้คุณจะมีรายจ่ายเข้ามาแบบจุกๆ เลยทีเดียว   

ความรัก  :   หากคุณกำลังจะเรียกร้องความสนใจจากคู่ครองด้วยการท้าหย่า ท้าให้เลิก ก็อยากให้คิดใหม่ทำใหม่ค่ะ เพราะมีความเป็นไปได้ว่าเขาจะทำจริง   คนโสด หากใครที่กำลังจับได้ว่าแฟนมีพฤติกรรมน่าสงสัย ก็เงียบๆ ไว้ อย่าเสียงดัง เพราะสัปดาห์นี้ยังไม่ใช่ของคุณ เพราะหากเกิดอะไรขึ้น คุณมีโอกาสเป็นคนที่ไม่ได้ถูกเลือก

 สุขภาพ   :  ก็ยังคงเกี่ยวข้องกับการรับประทาน กับน้ำหนักอยู่ นอกจากนั้นยังต้องระวังเรื่องการขับถ่ายด้วย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะและกรวยไตมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ ในกรณีรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตเลย

DIOR PLAN DE PARIS COLLECTION เมคอัพลิมิเต็ด ประดับลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากผ้าพันคอไหมยุค1950

DIOR PLAN DE PARIS COLLECTION เมคอัพลิมิเต็ด ประดับลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากผ้าพันคอไหมยุค1950

Alternative Textaccount_circle
DIOR PLAN DE PARIS COLLECTION เมคอัพลิมิเต็ด ประดับลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากผ้าพันคอไหมยุค1950
DIOR PLAN DE PARIS COLLECTION เมคอัพลิมิเต็ด ประดับลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากผ้าพันคอไหมยุค1950

DIOR PLAN DE PARIS COLLECTION เมคอัพลิมิเต็ด อิดิชัน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากห้องเสื้อดิออร์ และสื่อถึงสถานที่อันเป็นเอกลักษณ์ในกรุงปารีส ซึ่งฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ ดิออร์ร่วมเฉลิมฉลองเส้นทางแห่งเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ตั้งแต่ถนน Faubourg Saint-Honoré ที่คริสเตียน ดิออร์ได้ค้นพบลัคกี้สตาร์ของเขาไปจนถึง 30 Avenue Montaigne ถนนสายที่เขาก่อตั้ง House of Dior ขึ้นเป็นสาขาแรก

ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผลิตภัณฑ์เมคอัพของดิออร์ถูกประดับประดาไปด้วยลวดลาย Plan de Paris ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากผ้าพันคอไหมจากยุค 1950 ผลิตภัณฑ์เมคอัพในคอลเลกชันนี้ ซึ่งทั้งหมดถูกรังสรรค์ขึ้นโดย ปีเตอร์ ฟิลลิปส์ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์และภาพลักษณ์ของ Dior Makeup ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถานที่ท่องเที่ยวในประวัติศาสตร์ที่มีความสอดคล้องกับ House of Dior

ผลิตภัณฑ์ในคอลเลกชัน Plan de Paris Diorshow 5 Couleurs พาเลทอายแชโดว์ ที่ผสานความมีชีวิตชีวา และความกล้าหาญของดิออร์ไว้ด้วยกัน มาพร้อมกับกระเป๋า Plan de Paris ซึ่งตกแต่งด้วยลวดลายสลักนูนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสายคาดโลโก้ Dior อันเป็นเอกลักษณ์ 083 – 30 Montaigne, 173 – L’Étoile, 663 – Saint-Honoré, 983 – Champs-Elysees Diorshow Stylo ดินสออายไลน์เนอร์ เนื้อสัมผัสแบบครีม เกลี่ยลงบนเปลือกตาได้อย่างง่ายดาย สร้างเส้นคมชัดที่ขับเน้นดวงตาด้วยสีสันสดใส 836 – Pearly Rose, 196 – Pearly Cobalt Rouge Dior Limited Collection มาพร้อมลวดลายบนเนื้อลิปสติกที่ถูกแกะสลักอย่างประณีตด้วยลวดลาย Plan de Paris เผยความงดงาม ของ Place de l’Étoile และ Arc de Triomphe อย่างลงตัว 356 – Coral Avenue, 326 – Champs de Roses, 720 – Icone, 100 – Nude Look Dior Addict Lipstick Case Plan de Paris ปลอกลิปสติก Dior Addict รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น ได้รับการตกแต่งด้วยลวดลาย Plan de Paris ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานกับลิปสติก Dior Addict Dior Forever Cushion Case ตลับรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นของรองพื้นคุชชั่น Dior Forever Cushion ประดับด้วยลวดลาย Plan de Paris และสายคาดโลโก้ Christian Dior อันเป็นเอกลักษณ์ สามารถเปลี่ยนรีฟิลคุชชั่นหรือ Tone-up ได้

จบลุคสไตล์ Parisian ด้วย Dior Vernis ผลิตภัณฑ์ยาทาเล็บที่ช่วยสร้างความมั่นใจของผู้หญิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ ร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับคอลเลกชัน Plan de Paris ได้ที่ Hall of Fame ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน ตั้งแต่วันนี้ถึง10 กันยายน 2567


อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ร่วมกับ Indian Accent เตรียมเปิด Pop Up ครั้งแรกในเมืองไทย 1 เดือนเต็ม ในโอกาสฉลองครบรอบ 15 ปี เริ่ม 7 กันยายนนี้

account_circle

โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ร่วมกับ Indian Accent ร้านอาหารชื่อดังจากประเทศอินเดียที่การันตีความอร่อยด้วยรางวัลมากมาย จากวงการอาหารทั้งระดับเอเชียและระดับโลก ล่าสุดเตรียมเปิด Pop-Up ใจกลางกรุงเทพฯ เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 15 ปี เพื่อมอบประสบการณ์อาหารอินเดียร่วมสมัยให้อินเดียนฟู้ดเลิฟเวอร์ได้สัมผัสตลอด 1 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 7-22 กันยายน และวันที่ 1-15 ตุลาคมนี้  

ร้าน Indian Accent นำเสนออาหารอินเดียร่วมสมัย ที่ผสมผสานรสชาติดั้งเดิมเข้ากับเทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่ พร้อมเลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาล และวัตถุดิบที่คัดสรรมาจากทั่วโลก เพื่อรังสรรค์แต่ละเมนูให้มีความพิเศษ แปลกใหม่ และน่าสนใจในแบบฉบับของร้าน โดย Indian Accent คว้ารางวัลด้านร้านอาหารมาแล้วมากมายทั้งในระดับเอเชียและระดับโลก อาทิ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในอินเดียจากการจัดอันดับโดย Conde Nast Traveler และ La Liste รวมถึงรางวัลร้านอาหารที่ดีที่สุดอันดับที่ 26 ในเอเชีย ประจำปี 2024 (Asia’s 50 Best Restaurants 2024) ซึ่ง Indian Accent ติดอันดับและได้รับรางวัลดังกล่าวอย่างต่อเนื่องถึง 12 ปี ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 3 สาขาได้แก่ นิวเดลี, มุมไบ และนิวยอร์ก

ในโอกาสเปิด Pop Up ครั้งแรกในกรุงเทพฯ เราได้ Executive Chef, Shantanu Mehrotra จากร้าน Indian Accent นิวเดลี ที่มีประสบการณ์ด้านการทำอาหารมากว่า 2 ทศวรรษ บินตรงจากอินเดียมาแสดงฝีมือการปรุงอาหารให้ได้ชิมกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งเชฟ Shantanu Mehrotra เป็นหัวแรงหลักในการสร้างสรรค์เมนูต่างๆมากมาย ที่สร้างชื่อเสียงและคว้ารางวัลให้กับร้าน Indian Accent ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา จนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในระดับโลก รวมถึงยังมีหัวหน้าเชฟ Hitesh Lohat พร้อมทีมเชฟ และผู้จัดการร้านจาก Indian Accent นิวเดลีมามอบประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้กับลูกค้า เหมือนกับได้ไปรับประทานถึงอินเดียอีกด้วย

สำหรับอาหารที่ร้าน Indian Accent มีให้เลือกหลากหลายทั้งแบบ A-la-cart และแบบคอร์ส โดยไฮไลท์แนะนำ ได้แก่ Braised lamb shank ขาแกะตุ๋น, Rawa fish Malvani Rassa อาหารจานปลาเมนูท้องถิ่นดั้งเดิมของมุมไบ, Malai Chicken เสิร์ฟกับข้าว Gobindobhog จากรัฐเบงกอลตะวันตก ท็อปด้วยทรัฟเฟิล ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีเมนูมังสวิรัติ และวีแกนด้วยเช่นกัน อาทิ Sweet corn muthia เสิร์ฟคู่กับ Masala methi roti, Tofu Medu Vadai เมนูของว่างคาวจากอินเดียใต้หรือเมนูมังสวิรัติยอดนิยมสไตล์อินเดีย Roomali Paneer ชีสปาร์นีและผักย่าง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีเมนูของหวาน และเมนูสร้างสรรค์ชวนลิ้มลองอีกมากมาย สำหรับ Chef’s Tasting Course Menu ราคา 2,700++ บาทต่อท่าน และเลือกอร่อยได้ตามความต้องการมากยิ่งขึ้นกับเมนู A-la-cart ในราคาเริ่มต้นที่ 350-1,200 บาท

สัมผัสประสบการณ์ความเป็นเลิศและสร้างสรรค์ของอาหารอินเดีย จากร้าน Indian Accent Pop-Up ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 22 กันยายน 67 และวันที่ 1-15 ตค.67 มื้อกลางวันเวลา 12:00-14.30น. และมื้อค่ำเวลา 18:00-21:30 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่โทร.0-2431-9495 หรืออีเมล์ [email protected]

กรมอาเซียน กระทรวงต่างประเทศ จัดงานสัมมนาสุดยิ่งใหญ่ “ไทยกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์อาเซียน” (Thailand and Creative ASEAN)

account_circle

วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2567 เวลา 08.30 – 14.30 น. ณ ห้องเพลนารี ฮอลล์ 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรมอาเซียน กระทรวงต่างประเทศ จะร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ตอกย้ำนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในภูมิภาค โดยจัดโครงการสัมมนา “ไทยกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์อาเซียน” (Seminar on “Thailand and Creative ASEAN”) เพื่อเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ในการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ควบคู่ไปกับการคุ้มครอง IPR ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนของไทย อาเซียน ประเทศคู่เจรจา และองค์การระหว่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญ ตลอดจนเป็นเวทีระดมสมอง เพื่อหาแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในกรอบอาเซียน และระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ เป็นการรวบรวมข้อมูลอันเป็นประโยชน์ เพื่อเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสำหรับรัฐบาลไทยและอาเซียน สำหรับใช้เป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในระดับประเทศและระดับภูมิภาค

ในงานจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ อาทิ หน่วยงานและสถาบันที่เกี่ยวข้องจากจีน เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย องค์การ UNESCO องค์การ WIPO และสำนักเลขาธิการอาเซียน ตลอดจนแบรนด์ชื่อดังอย่างบริษัท POP MART บริษัท PDM และแบรนด์ VINN PATARARIN เกี่ยวกับแนวทางการสร้างมูลค่าเพิ่มจากต้นทุนทางวัฒนธรรม และขยายขีดความสามารถทางการแข่งขันในเวทีระหว่างประเทศ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักที่เข้าร่วมการสัมมนาฯ จะประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และอุตสาหกรรมพื้นบ้าน

เกาะฮ่องกง

เช็กอิน 9 สถานที่อันซีน แหล่งอัญมณีล้ำค่า มิติใหม่ของ เกาะฮ่องกง

account_circle
เกาะฮ่องกง
เกาะฮ่องกง

หลายคนคงคุ้นเคยกับเมืองที่มีตึกสูงระฟ้า คับคั่งไปด้วยผู้คนของ เกาะฮ่องกง แต่รู้หรือไม่จริงๆ แล้วฮ่องกงยังมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวอันซีนที่อยากเชิญชวนให้คุณไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่น่าหลงใหล ซึ่งนิตยแพรว ได้รับเชิญจากการท่องเที่ยวฮ่องกง (Hong Kong Tourism Board: HKTB) เปิดตัวแคมเปญระดับภูมิภาคใหม่ที่ประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ การผจญภัย ศิลปะ วัฒนธรรม อาหาร เครื่องดื่ม และ กิจกรรมต่างๆ

เช็กอิน 9 สถานที่อันซีน แหล่งอัญมณีล้ำค่า มิติใหม่ของ เกาะฮ่องกง

วัดเจ้าแม่กวนอิม ซีซ้าน

นอกจากวัดชื่อดังที่เหล่าคนไทยชอบไปมู ไปไหว้พระขอพรแล้ว อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพราดเมื่อคุณได้ไปเยือนที่ฮ่องกงคือ วัดเจ้าแม่กวนอิม ซีซ้าน ซึ่งที่นี่มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงถึง 76 เมตร เหมาะกับเป็นสถานที่พักกาย พักใจ จากความวุ่นวาย นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมรูปปั้นพระพุทธรูปต่างๆ ที่ขุดค้นพบ เป็นงานประติมากรรมที่ล้ำค่า และหายาก

หมายเหตุ : จองคิวก่อนเข้าชมสถานที่ได้ทางเว็บไซต์ https://registration.tszshan.org/book/selectpeople 

ชา เทา กก (Sha Tau Kok)

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของฮ่องกงที่หลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อ แต่เชื่อว่าเมื่อคุณย่างก้าวเข้าไปแล้วจะสัมผัสได้ถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่าย และมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร เดิมที Sha Tau Kok เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งที่ถูกปิดกั้น ซึ่งผู้ที่จะเข้าไปได้นั้นต้องได้รับใบอนุญาตเท่านั้น แต่ปัจจุบัน Sha Tau Kok ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าสัมผัสประสบการณ์ แต่จะต้องผ่านบริษัททัวร์ท้องถิ่น เหมาะเป็นอย่างมากสำหรับ One Day Trip

Lai Chi Wo

นั่งเรือข้ามจาก ชา เทา กก มายัง Lai Chi Wo หมู่บ้านฮักกะที่ตั้งอยู่ระหว่างพื้นที่ป่า “Fung Shui” ซึ่งที่นี่ยังเหมาะกับการเดินเทรคกิ้ง เพราะมีเส้นทางธรรมชาติให้เหล่านักผจญภัยได้สำรวจ อีกทั้งยังมีศาลเจ้าอันเก่าแก่ให้เราได้ขอพรก่อนที่จะเดินเข้าไปยังหมู่บ้านที่รายล้อมไปด้วยกำแพงซึ่งมีบ้านจำกว่า 200 หลัง ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ 300 ปีที่แล้ว เป็นอีกสถานที่ที่ควรมาเยือนสักครั้งในชีวิตเพราะหมู่บ้านแห่งนี้ได้รับรางวัล Special Recognition for Sustainable Development Award ประจำปี 2020 จาก UNESCO

หมายเหตุ : ควรพกยาทากันแมลงไปด้วยนะจ๊ะ

เผิงเชา (Peng Chau)

พูดถึงเผิงเชา หลายคนอาจจะร้องอ่ออ เพราะใครที่ได้ดูภาพยนตร์ “Under Parallel Skies” (รักใต้ฟ้าคู่ขนาน) นำแสดงโดย วิน เมธวิน ต้องจำสถานที่แห่งนี้ได้แน่นอน เผิงเชา เป็นเมืองที่มีเสน่ห์เป็นอย่างมาก มีจุดไฮไลท์อย่าง แหล่งเก็บชิ้นงานที่มีการจัดแสดงสุดชิคและกราฟฟิตี้สีสันสดใสให้ถ่ายรูปกันเพลินจนลืมเวลา เมื่อถึงยามเย็นก็สามารถดื่มด่ำไปกับผืนน้ำอันเงียบสงบและผ่อนคลาย

เฉิ่งเจ้า (Cheung Chau)

เกาะนี้ขึ้นชื่อจากเทศกาลซาลาเปาประจำปี อย่าง Bun Festival และ ซาลาเปานำโชค Ping An Bun ทั้งยังโอบล้อมด้วยชายหาด สถานที่ทางประวัติศาสตร์ เส้นทางเดินป่าที่เหมาะสำหรับครอบครัว และเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักชิมมาร่วมค้นพบการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความงามทางธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เกาะเฉิ่งเจ้าแห่งนี้

คุณสามารถเช่าจักรยานเพื่อเที่ยวชมเกาะ เยี่ยมชมถ้ำ Cheung Po Tsai หรือนั่งชิลบนหาด Tung Wan ได้ตามใจชอบ หลังจากสนุกกับกิจกรรมแบบจัดเต็มตลอดวัน ขอให้มาอิ่มอร่อยกับอาหารทะเลและอาหารท้องถิ่นที่ขายอยู่ตามริมทาง เช่น ลูกชิ้นปลาไซส์ยักษ์ราดซอสแกงกะหรี่ และโมจิเคี้ยวหนึบที่สอดไส้ผลไม้แท้ๆ

ซัมซุยโป (Sham Shui Po)

ถูกใจเหล่านักช็อปแน่นอนสำหรับตลาดนัด Apliu Street ในย่านซัมซุยโป ที่ละลานตาไปด้วยร้านค้าที่จำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กโทรนิส์ ของเก่า สินค้าวินเทจ สินค้ามือสอง และเมื่อเดินไปอีกนิดจะพบกับถนนฟุกวิงที่บอกเลยว่าหาพาลูกเล็กเด็กแดงมาเดินแล้วล่ะก็รับรองล้มละลายแน่นอน เพราะที่นี่เป็นแหล่งขายส่งของเล่น เด็ก อุปกรณ์เครื่องเขียนที่มีให้เลือกช้อปมากกว่า 30 ร้าน

หมายเหตุ : แฟนๆ Infernal Affairs ห้ามพลาดที่จะไปเยือนร้านเครื่องเสียงซึ่งเป็นหนึ่งในฉากที่น่าจดจำของภาพยนตร์เรื่องนี้

เวิร์กช็อปป้ายไฟนีออน 

หลายๆ คนจดจำฮ่องกงจากภาพประทับใจของป้ายไฟนีออนสว่างไสว ซึ่งสร้างความสดใสและความตื่นตาตื่นใจให้กับท้องถนน รวมถึงใช้ในการโฆษณาของธุรกิจต่างๆ ผู้เข้าร่วมเวิร์กช็อปสามารถมาเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การรังสรรค์ป้ายไฟนีออนด้วยตัวเอง แถมยังสามารถนำกลับไปเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย

ทัวร์อเบอร์ดีน (Aberdeen)

ร่วมทัวร์ท่าเทียบเรือชาวประมงและพิพิธภัณฑ์เรือ เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมทางทะเลอันเป็นเอกลักษณ์ของอเบอร์ดีน นั่งเรือชมหมู่บ้านลอยน้ำ ไปเยี่ยมชมตลาดปลาอเบอร์ดีน และเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวประมงในอดีต นับเป็นการบอกเล่าเรื่องราวมรดกของชีวิตชาวประมงและประเพณีการเดินเรือของฮ่องกงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้อย่างน่าทึ่ง

Kinsman

ปิดท้ายทริปด้วย Kinsman ร้านค็อกเทลในย่านเซนทรัล ซึ่งที่นี่จะโอบกอดคุณด้วยบรรยากาศที่คุ้นเคยซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์คลาสสิกของหว่อง กา ไว และเครื่องดื่มค็อกเทลสุดสร้างสรรค์ที่ผ่านการรังสรรค์มาอย่างน่าประทับใจ Kinsman เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการสังสรรค์ยามเย็นกับเพื่อนฝูง มอบบรรยากาศสบายๆ และให้คุณได้เต็มอิ่มไปกับสุรากวางตุ้งแบบดั้งเดิม

เรียกว่าเป็น 9 สถานที่อันซีนที่ได้เห็นฮ่องกงในอีกมิติใหม่ๆ ที่มีทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ อาหารแสนอร่อย กิจกรรมและงานศิลปะอันทรงคุณค่า เชื่อว่าการมาเที่ยวฮ่องกงครั้งนี้ของคุณจะไม่เหมือนเดิม


keyboard_arrow_up