รองเท้า ASICS SPORTSTYLE GT-II™

ต้องเปย์สักคู่ ASICS SPORTSTYLE ฉลอง 35 ปี ให้กับ GT-II™ รองเท้าสุดคลาสสิก

รองเท้า ASICS SPORTSTYLE GT-II™
รองเท้า ASICS SPORTSTYLE GT-II™

เทคโนโลยี GEL™ นับว่าเป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีสำคัญที่อยู่ควบคู่แบรนด์ ASICS มาอย่างยาวนาน โดยโมเดล GT-II™ รองเท้าวิ่งที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1986 ซึ่งถือเป็นโมเดลรองเท้า ASICS คู่แรกของโลกที่ได้นำเทคโนโลยี GEL™ มาใช้ และในปีนี้ GT-II™ กลับมาอีกครั้งในแบบฉบับรองเท้าไลฟ์สไตล์ที่ถอดแบบเค้าโครงมาจากต้นฉบับในลุคสุดวินเทจที่คงไว้ซึ่งกลิ่นอายความคลาสสิก

โดยชื่อโมเดล GT-II™ นั้นมีที่มาจาก Grand Tourer (Gran Turismo) รถสปอร์ตที่สามารถเร่งความเร็วได้สูงและขับเคลื่อนได้ในระยะทางไกล และในปีนี้ ASICS SportStyle ได้ฉลองครบรอบ 35 ปีให้กับโมเดล GT-II™ ด้วยการนำเสนอสีสันสุดคลาสสิกแบบฉบับโมเดลดั้งเดิมด้วยสี “White/ Monaco Blue” และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบการกลับมาในครั้งนี้ จึงได้เพิ่มสีพิเศษอย่างสี “Glacier Gray/ASICS Blue” เข้าไปด้วย โดยเวอร์ชั่นปี 2021 นี้ได้มีการเสริมความโดดเด่นในหลายส่วนของ Upper หรือส่วนด้านบนของรองเท้า ที่ประกอบไปด้วยวัสดุที่ผ่านการรีไซเคิลมาแล้ว อย่างผ้า Mesh และหนังกลับสังเคราะห์อีกด้วย

ต้องเปย์สักคู่ ASICS SPORTSTYLE ฉลอง 35 ปี ให้กับ GT-II™ รองเท้าสุดคลาสสิก

อันที่จริงแล้วเทคโนโลยี GEL™ นั้นอยู่ในโมเดลรองเท้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟของญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน อย่างโมเดลที่มีชื่อว่า “Freaks α” แต่อย่างไรก็ตามโมเดล GT-II™ ก็ยังถือได้ว่าเป็นโมเดลรองเท้า ASICS คู่แรกของโลกที่มีเทคโนโลยี GEL™ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยรองรับแรงกระแทกให้กับผู้สวมใส่

ทำไม GT-II™ ถึงเป็นรองเท้าที่มีความสำคัญกับนวัตกรรมของทาง ASICS

GT-II™ ถือได้ว่าเป็นโมเดลที่มีความใกล้ชิดเชื่อมโยงกับเทคโนโลยี GEL™ ของ ASICS เป็นอย่างมาก ในตอนแรกเทคโนโลยี GEL™ ใช้เป็นวัสดุเพื่อดูดซับแรงกระแทกในกระสวยอวกาศ จากนั้นทีมงานของ ASICS ก็เริ่มสงสัยและตั้งคำถามขึ้นมาว่าจะสามารถนำ GEL™ มาปรับใช้ในการดีไซน์รองเท้าได้ไหม และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นแห่งเทคโนโลยี GEL™ ในรองเท้าของ ASICS

GT-II™ เป็นโมเดลแรกของโลกที่ได้นำเทคโนโลยี GEL™ มาปรับใช้ เช่นเดียวกันกับโมเดลที่วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า Freaks α ในตอนนั้น GT-II™ ถูกพัฒนาให้เป็นโมเดลที่วางจำหน่ายทั่วโลก ส่วน Freaks α นั้นถูกพัฒนาให้เป็นโมเดลสำหรับในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น โดยทั้ง 2 โมเดลได้วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1986

สีที่ทำออกมาในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างไรบ้าง

ทาง ASICS นำสี “White/Monaco Blue” กลับมาอีกครั้ง ซึ่งเป็นสีดั้งเดิมของ GT-II™ ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1986 และอีกสีหนึ่ง เป็นสี “Glacier Gray/ASICS Blue” ซึ่งเป็นสีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบปีที่ 35 ของโมเดล GT-II™ นี้

ชื่อโมเดล GT-II™ นั้นมีที่มาอย่างไร

ชื่อโมเดล GT-II™ นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจาก grand tourer (gran turismo) รถสปอร์ตที่สามารถเร่งความเร็วได้สูงและขับเคลื่อนได้ในระยะทางไกล ซึ่งโมเดล GT-II™ ก็ถือเป็นรองเท้าที่เหมาะสำหรับการวิ่งระยะไกลเช่นเดียวกัน จึงเป็นที่มาของชื่อโมเดลนี้

สิ่งที่แตกต่างกันระหว่าง GT-II™ เวอร์ชั่น 1986 และ GT-II™ เวอร์ชั่น 2021 คืออะไร

GT-II™ เวอร์ชั่น 2021 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเวอร์ชั่นดั้งเดิมอันแสนคลาสสิกในปี 1986 ASICS มุ่งมั่นตั้งใจทำให้เวอร์ชั่นในปี 2021 นั้นมีความใกล้เคียงกับต้นฉบับ ในเรื่องของรูปทรงรองเท้า โดยเฉพาะรูปทรงของส่วนด้านบนของรองเท้า (Upper) และความพอดีที่ได้ยึดตามรูปแบบเวอร์ชั่นดั้งเดิมในปี 1986 ยิ่งไปกว่านั้น ในส่วนของโมเดลใหม่นี้ได้มีการใช้วัสดุรีไซเคิลเพื่อให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

ดีเทลที่ผมชื่นชอบมากที่สุดของเวอร์ชั่นปี 2021 นั่นคือ การตัดเย็บขอบรองเท้าบริเวณรอบข้อเท้า ผมรู้สึกว่ามันเป็นส่วนที่สวยงามมากที่สุด ย้อนไปเมื่อตอนที่ผมกำลังปรับแพทเทิร์นอยู่ ผมก็จะคอยโฟกัสไปที่จุดนี้อยู่เสมอ

สามารถเป็นเจ้าของ GT-II™ ได้แล้ววันนี้ ในราคา 3,200 บาท ทางออนไลน์ที่ ASICS.com


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

5 รุ่นที่ต้องส่อง! รองเท้า Keds x Kate Spade น่ารักขนาดนี้ ราคาดีไหม

เท่บาดใจ! รองเท้า adidas FORUM 3 สีใหม่ คู่ไหนปังสุด

สเก็ตเชอร์ส แท็กทีม ดร. ซูสส์ ส่งลายการ์ตูนสุดน่ารัก “The Cat in the Hat”

 

เจ้าหญิงชาร์ลีน

เจ้าหญิงชาร์ลีน เสด็จกลับโมนาโกไม่ได้ เสียใจที่ต้องห่างลูก เหตุไซนัสอักเสบรุนแรง

account_circle
เจ้าหญิงชาร์ลีน
เจ้าหญิงชาร์ลีน

เจ้าหญิงชาร์ลีน แห่งโมนาโก ให้สัมภาษณ์ทรงผิดหวังอย่างยิ่งที่จะไม่ได้เจอลูกๆ หลังจากที่พระองค์ทรงติดเชื้อที่หูและคออย่างรุนแรงจนต้องเข้ารับการผ่าตัด เป็นเหตุให้เดินทางกลับประเทศโมนาโกไม่ได้

เจ้าหญิงชาร์ลีน เสด็จกลับโมนาโกไม่ได้ เสียใจที่ต้องห่างลูก เหตุไซนัสอักเสบรุนแรง

สื่อต่างประเทศโดยเว็บไซต์ Daily Mail ได้ออกมารายงานว่า เจ้าหญิงชาร์ลีนแห่งโมนาโก ทรงผิดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะไม่ได้พบกับ เจ้าชายฌาคส์ และ เจ้าหญิงกาเบรียลลา พระโอรส พระธิดาฝาแฝด วัย 6 ชันษา อย่างไรก็ตามเจ้าหญิงชาร์ลีนยังจะไม่เสด็จกลับโมนาโก จนกว่าจะสิ้นเดือนตุลาคมนี้ เพราะต้องเข้ารับการรักษาอาการป่วยจาก ไซนัสอักเสบรุนแรง

ทั้งนี้เจ้าหญิงชาร์ลีนทรงให้สัมภาษณ์กับ  Mandy Wiener พิธีกรรายการวิทยุของแอฟริกาใต้ว่า ‘มันน่าหงุดหงิดมาก ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะกลับไปหาพวกเขา ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะได้เจอลูกๆ ของฉัน’

อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่า เจ้าหญิงชาร์ลีนไม่ได้ประทับอยู่โมนาโกมาตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่งปัจจุบันพระองค์พำนักอยู่ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพระองค์ ขณะที่พระสวาสามี เจ้าชายอัลเบิร์ตแห่งโมนาโก ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนอีกครั้ง โดยไม่มีพระชายาในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว ท่ามกลางข่าวลือเรื่องความแตกแยกระหว่างทั้งสองพระองค์

เจ้าหญิงชาร์ลีน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหญิงชาร์ลีนทรงตรัสว่า ‘เป็นช่วงเวลาที่นานที่สุดที่ฉันออกมาจากยุโรป และห่างไกลจากลูกๆ แต่ฉันก็เฟสไทม์หาพวกเขาเกือบทุกวัน เด็กๆ จะกลับมาหาฉันที่นี่อีกครั้งหลังจากฉันรักษาตัวเสร็จ อย่างไรก็ดีเป็นโอกาสที่วิเศษมากที่ได้มาที่นี่ แต่ฉันก็เสียใจมากที่ไม่สามารถอยู่กับลูกๆ ของฉันในฤดูร้อนที่ยุโรป

ทั้งนี้เจ้าหญิงชาร์ลีนยังเสริมอีกด้วยว่า อันที่จริงแล้วพระองค์ต้องร่วมเดินทางไปทำกิจกรรมกับ มูลนิธิเจ้าหญิงชาร์ลีนแห่งโมนาโกเป็นเวลา 12 วัน แต่พระกรรณ (หู) ของพระองค์ถูกตรวจพบว่ามีปัญหา โดยแพทย์แจ้งว่า ทรงป่วยด้วยโรคไซนัสอักเสบรุนแรง เป็นเหตุให้เจ้าหญิงชาร์ลีนต้องทำการรักษา และพักฟื้นในแอฟริกาใต้จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม ซึ่งสาเหตุหลักที่ไม่สามารถเดินทางกลับยุโรปได้ อันเนื่องมาจาก เจ้าหญิงชาร์ลีนไม่สามารถขึ้นเครื่องบินได้สูงกว่า 3,000 เมตร มิฉะนั้นพระกรรณของพระองค์อาจเกิดอันตรายได้

เจ้าหญิงชาร์ลีน

นอกจากนี้เจ้าหญิงชาร์ลีนยังทรงตรัสถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะการปกป้องแรด เจ้าหญิงชาร์ลีนยืนกรานว่า ทรงหวังว่าหลานๆ ของพระองค์จะได้เห็นมันสักวัน ขณะเดียวกันยังตรัสถึงข้อดีที่ได้อยู่บ้าน พระองค์เสริมว่า

‘แอฟริกาเป็นส่วนหนึ่งของฉันเสมอ และเป็นเช่นนั้นมาโดยตลอด ฉันอยากกลับบ้านเสมอ ฉันไม่สามารถทำบางสิ่งได้เพราะเห็นได้ชัดว่าตอนนี้ฉันอยู่ในตำแหน่งที่ต่างไปจากเดิม แต่ฉันเป็นชาวแอฟริกันและฉันก็ภูมิใจในสิ่งนั้น’

เจ้าหญิงชาร์ลีน แห่งโมนาโก

แม้ว่าจะมีข่าวลือเรื่องความแตกแยกของเจ้าชายอัลเบิร์ต และเจ้าหญิงชาลีนแห่งโมนาโก แต่เมื่อไม่นานมานี้ในวันครบรอบพิธีอภิเษกสมรส 10 ปีของทั้งสองพระองค์ เจ้าหญิงชาลีนได้ออกมาโพสต์อินสตาแกรมพร้อมข้อความว่า  ‘ปีนี้จะเป็นครั้งแรกที่ฉันไม่ได้อยู่กับสามีในวันครบรอบของเราในเดือนกรกฎาคม ซึ่งมันทำให้ฉันเสียใจมาก’

‘อย่างไรก็ตาม อัลเบิร์ตกับฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของทีมแพทย์ แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากมากก็ตาม การสนทนาประจำวันของฉันกับอัลเบิร์ตและลูกๆ ช่วยให้จิตใจของฉันดีขึ้นอย่างมาก แต่ฉันคิดถึงการอยู่กับพวกเขา เป็นเรื่องพิเศษที่ครอบครัวของฉันมาเยี่ยมฉันที่แอฟริกาใต้ และมันวิเศษมากที่ได้เห็นพวกเขา ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะได้กลับมาพบกับพวกเขาอีกครั้ง’


ที่มา : www.dailymail.co.uk

ภาพ : @hshprincesscharlene/Instagram

 

ส่องชีวิตสุดปัง! ของ 4 เซเลบ ณ อาณาจักรส่วนตัว ซึ่งเปิดเผยกับ ‘แพรว’ เป็นที่แรก

ส่องชีวิตปังๆ ของ 4 เซเลบ ณ อาณาจักรส่วนตัว ซึ่งเปิดเผยกับ ‘แพรว’ เป็นที่แรก แต่ละหลังล้วนมีสไตล์ของตัวเอง รับรองว่าสวยทุกหลัง #ปังปุริเย่

ชีวิตปังๆ ของพวกเขาเหล่านี้ ล้วนขับเคลื่อนด้วยพลังงานแห่งความสุข ซึ่งเริ่มต้นจากที่บ้าน ไปดูกันว่าขุมพลังงานของพวกเขาแต่ละหลัง จะสวยงามอลังการและน่าอยู่เพียงใด หรือจะดูไว้เป็นไอเดียการแต่งบ้านก็ได้นะคะ

ส่องชีวิตสุดปัง! ของ 4 เซเลบ ณ อาณาจักรส่วนตัว ซึ่งเปิดเผยกับ ‘แพรว’ เป็นที่แรก

อาณาจักรแสนสวยและรวยสุขของ ‘สุพรทิพย์ ช่วงรังษี’

บ้านสีขาวสไตล์แฮมป์ตันหลังใหญ่ หน้าบ้านมีสวนสวยตัดตกแต่งอย่างเป็นระเบียบในสไตล์ฝรั่งเศส แต่หลังบ้านนี่สิ สวยงามไม่มีที่ติ เพราะมองเห็นสนามหญ้าตัดเรียบกริ๊บพร้อมวิวพาโนรามาริมน้ำบางปะกง

ชีวิตปังๆ

ความสุขรายวันในอาณาจักร 19 ไร่

“ตอนสร้างบ้านไม่ได้คิดจะทำแบบแฮมป์ตันหรือแบบไหนเพียงแต่ทิพบอกน้องชาย (ชาลีช่วงรังษี) ว่าอยากได้บ้านที่มีระเบียงกว้างตัวบ้านเป็นกล่องสี่เหลี่ยมเท่ากันทุกด้านเดินเข้ามาในบ้านทางซ้ายเป็นห้องรับประทานอาหารด้านหลังเป็นครัวมีห้องน้ำแบ่งแยกชาย-หญิงชั้นบนมีคลอเสตขนาดใหญ่ห้องนอนเล็กๆห้องหนังสือใหญ่ๆชาลีจึงออกแบบบ้านหลังนี้ให้คล้ายบ้านในแถบแฮมป์ตัน Long Island ทางตะวันออกของนิวยอร์กมีหญ้าแฝกมองเห็นทะเลและทะเลสาบ” สุพรทิพย์https://www.instagram.com/ เปรยยิ้มๆ ถึงสไตล์บ้านซึ่งน่าจะเป็นบ้านในฝันของใครหลายคน

ชีวิตปังๆ

เดิมที่ดินผืนนี้เป็นของคุณชวด (คุณเป้าช่วงรังษี) เธอตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2เคยมีคนดังหลายตระกูลมาหลบภัยที่นี่เพราะสามารถเลี้ยงเป็ดไว้กินไข่ทำแปลงปลูกผักเรียกว่ามีชีวิตอยู่รอดได้สบายช่วงเกิดวิกฤติปัจจุบันก็ยังมีแปลงปลูกผักสวนครัวออร์แกนิก ทั้งมะเขือกะเพราโหระพามีโรงเพาะเห็ดและห่านสองตัวชื่อ“กูฟฟี่” และ “ห่านน้อย”ที่กลายเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้าน

ชีวิตปังๆ

“เวลามาอยู่บ้านนี้ทิพเอาความสุขรายวันเป็นที่ตั้ง ไม่ได้มีระเบียบเป๊ะๆว่าต้องทำนั่นนี่ เป็นบ้านที่ลั้นลามาก

ชีวิตปังๆ

“ทิพชอบนั่งอ่านหนังสือสงบๆหรือไม่ก็เล่นเทนนิสว่ายน้ำรู้สึกดีที่ได้ทานผลผลิตบ้านเราเองอาหารของเราอาจไม่สวยงามแต่อร่อยจังเลย”

ชีวิตปังๆ

สไตลิ่งบ้านให้อบอุ่นและสวยฉ่ำในสไตล์ชีวิตปังๆ

เธอบอกว่าหลักการแต่งบ้านหลังนี้อยู่ที่การเลือกธีมสีแล้วค่อยใส่ดีเทลเช่นชั้นล่างเน้นใช้สีนุ่มนวลอบอุ่นและกลมกลืนกันเข้ามาแล้วรู้สึกอบอุ่นรีแล็กซ์สามารถนั่งจมกองหมอนสีสบายตาภายในบ้านใช้ดอกไม้ใบไม้ตกแต่งมุมนั้นมุมนี้ เพื่อเชื่อมโยงกับบรรยากาศนอกบ้าน

ชีวิตปังๆ

“ชั้นบนตกแต่งด้วยสีคอนทราสต์เพราะทิพมีของตกแต่งสีจัดจุดเด่นอยู่ที่วอลล์เปเปอร์แฮนด์เพ้นต์ลายมังกรสีขาวดำและเงินของSchumacherเพราะทิพชอบลายมังกรสีขาวดำอยู่แล้วซึ่งสวยมากจริงๆแต่พอรู้ราคาแล้วแทบตกเก้าอี้(ยิ้ม)แต่ทำอย่างไรได้หลงรักไปแล้วแมตช์กับโถจีนลายมังกรที่เป็นงานโมเดิร์นจากปักกิ่งวางบนสันหนังสือสีแดงลิมิเต็ดเอดิชั่นของ Rodney Smithอย่าคิดว่าแต่งบ้านคลาสสิกแล้วต้องใช้ของที่เป็นคลาสสิกจริงๆเราควรมิกซ์แอนด์แมตช์ให้ดูสนุกขึ้นมากกว่า

ชีวิตปังๆ

“ห้องสมุดเป็น My Most Favouriteของทิพ เพราะใช้ชีวิตอยู่ห้องนั้นเยอะด้วยความที่ชอบหนังสือ แต่ทิพคิดว่าหนังสือไม่จำเป็นต้องอยู่บนชั้นเท่านั้น อยากหยิบตรงไหนก็หยิบได้ หนังสือจึงกลายเป็นของตกแต่งชนิดหนึ่งของบ้านนี้”

“เพราะบ้านคือตัวเรา ซึ่งถ่ายทอดทุกอย่างออกมาจากหัวใจเราเป็นอย่างไรบ้านก็เป็นอย่างนั้น” 

ติดตามอ่านเรื่องราวและแง่มุมอื่นๆ ของเธอได้เพิ่มเติมที่ เป็นคนเยอะ อย่ามาง่าย! เปิดบ้านริมน้ำบางปะกง อาณาจักรความสุขของทิปปี้-สุพรทิพย์

World of “Kong” โลกทั้งใบของชายอบอุ่น “ก้อง–สหรัถ สังคปรีชา”

ครั้งแรกกับการเปิดบ้านพักตากอากาศสไตล์โมเดิร์นท่ามกลางขุนเขาของผู้ชายในฝัน และครั้งนี้เราจะได้เห็นมุมสบายๆ ในวันพักผ่อนของ “Real Kong”

ชีวิตปังๆ

“Life Space” บ้านสบายกลางขุนเขา

พอรถของพวกเราจอดปุ๊บก็เห็นนักร้องและนักแสดงหนุ่มส่งยิ้มทักทายมาแต่ไกลก่อนเอ่ยปากว่า

“ที่คิดไว้ทีแรกผมวางแผนจะอยู่แบบสันโดษเลยประมาณว่าตะโกนอะไรไปไม่มีใครได้ยินไพรเวตสุดๆแต่ตอนหลังมาปรึกษากันว่าถ้าเราอยู่สันโดษจริงๆอาจลำบากจะซื้อข้าวของที่ไหนควรอยู่ในชุมชนนิดหนึ่งจะได้ไม่เปลี่ยวมาก จนมาเจอที่ดินแปลงนี้อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 470 เมตรเดินเข้ามาในที่ดินแล้วรู้สึกฟีลกู้ดอากาศเย็นสบายจึงมาลงตัวที่นี่”เขาเล่าพลางเดินไปพลาง

ชีวิตปังๆ

เฉพาะที่ดินปลูกบ้านแค่ 1 ไร่ครึ่งก็จริงแต่อีก 2 ไร่ที่อยู่ข้างบ้านเขายามนี้ถูกทำเป็นแปลงปลูกผักกินเองมีทั้งผักคะน้ากวางตุ้ง ผักบุ้ง มะนาวฯลฯ บอกเลยว่าเป็นชีวิตปังๆ มาก

ชีวิตปังๆ

“เวลามาบ้านนี้ผมมาพักจริงๆเก็บผักจากสวนมาทำเมนูกินเองง่ายๆแดดร่มลมตกหรือค่ำๆ ก็ขึ้นไปนั่งที่ดาดฟ้ามองดาวได้โดยไม่มีอะไรบังช่วงหน้าหนาวเรามีมุมในสวนสำหรับก่อกองไฟเป็นอีกหนึ่งมุมโปรดของผมบอกคนดูแลบ้านไว้เลยว่าเวลามีเศษไม้ให้เก็บไว้จุดกองไฟช่วงหน้าหนาวสนุกมาก

“ถ้ามาที่นี่แล้วอยากออกกำลังกายก็ขี่จักรยานเล่นระยะทางไม่ถึง 20 กิโลแต่เหนื่อยเหมือนขี่สัก 30 – 40 กิโลเพราะเป็นเนินเขาขึ้นลงตลอดเวลาบริเวณรอบๆเป็นไร่น้อยหน่าและไร่ข้าวโพดซึ่งเราขี่บนถนนที่ตัดผ่านไร่เหล่านี้ไปเรื่อยๆอากาศดีได้เห็นเนินไร่ข้าวโพดต้นอ่อนสวยๆกว้างสุดสายตา

ชีวิตปังๆ

“ปกติบ้านผมที่กรุงเทพฯเลี้ยงหมา 3 – 4 ตัวอยู่แล้วไปๆมาๆบ้านนี้มีมากกว่าแต่ละตัวมาตามธรรมชาติมีคนมาปล่อยบ้างมาอยู่เองบ้างบางตัวน้องชายผม (เก็น-ฐากูร สังคปรีชา) รับมาจากหน้าร้านสะดวกซื้อเลยเป็นสถานรับเลี้ยงหมาไปโดยปริยาย (ยิ้ม)อยู่กันให้ร่าเริง (หัวเราะ)เวลามาบ้านนี้ต้องแวะทักทายวิ่งเล่นกับเขานี่แหละ‘ไอ้หย็อง’ ร่าเริงนิสัยดีสุดส่วนเจ้า ‘กาแฟ’นี่เป็นตัวบุกหนักกระโจนทับเราทีเสื้อผ้าเลอะหมด”ก้องเปรยถึงบรรดาลูกสมุนสี่ขาที่เขาให้ความเอ็นดู

ชีวิตปังๆ

บ้านอยู่สบายสไตล์โมเดิร์น

บ้านสไตล์โมเดิร์นง่ายๆ ชั้นเดียวเพดานสูง 3 เมตร แวดล้อมด้วยกระจกบานกว้างมองเห็นทิวเขาลิบๆ เบื้องหน้าแวดล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ บวกกับอุณหภูมิอากาศที่นี่โดยเฉลี่ย 20 กว่าองศาเซลเซียสตลอดปี หากเปิดประตูกระจกจะมีลมเอื่อยๆ พัดผ่านเข้าในบ้านตลอดวัน มี 2 ห้องนอน 1 ลิฟวิ่งรูม ตกแต่งเรียบง่ายด้วยสีเอิร์ธโทน ไฮไลท์อยู่ที่ผนังใหญ่ห้องลิฟวิ่งรูมตกแต่งด้วย Art Piece ชิ้นโปรด เมื่อแยกออกจากกันกลายเป็นตู้เก็บของเก๋ๆ ดูแล้วช่างเป็น   ชีวิตปังๆ มาก ซึ่งเขาอธิบายเพิ่มเติมว่า

ชีวิตปังๆ

“ที่จริงผมสร้างบ้านให้คนนี้เขาอยู่”เขาพูดพลางหันไปสบตาคุณแม่โสมวรรณที่นั่งข้างๆพร้อมด้วยเสียงหัวเราะตามมาก่อนเล่าต่อ “แม่ชอบบ้านหลังนี้เพราะสามารถพา ‘นายพล’ (น้องหมาตัวโปรด)มาได้ ด้วย”ก้องเล่าอย่างอารมณ์ดี

ซึ่งคุณแม่ของเขาก็มักมาพักที่นี่บ่อยๆเช่นกัน กับน้องชายก้อง ‘เก็น’ และ ‘นายพล’หมาพันธุ์แจ็กรัสเซลล์ เพราะที่นี่อากาศดี มาอยู่แล้วสบาย ตื่นเช้าออกมานั่งเล่นนอกบ้าน หรือไม่ก็ว่ายน้ำ นอนแช่ตัวในสระชมวิวแนวเขาที่ทอดยาวตรงหน้า

บ้านหลังนี้จึงเป็นที่รวบรวมความสุขของทุกคนไว้ด้วยกัน

ติดตามอ่านแง่มุมอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องราวความเป็นผู้ชายใจบุญของก้องได้เพิ่มเติมที่ ฝีมือไม่ธรรมดา ก้อง สหรัถออกแบบเสื้อ หาเงินช่วยเด็กป่วยโรคหัวใจ

เคลิ้มหนักกว่าเดิมอีก 10 เท่า !! “ก้อง สหรัถ สังคปรีชา” สุภาพบุรุษ หล่อ ดี มีอยู่จริง

Feel The Luxury นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ– พญ.ช้องมาศ เลิศสิน

ท่ามกลางความเขียวชอุ่มและบรรยากาศเงียบสงบของคอนโดมิเนียมในซอยเย็นอากาศย่านสาทรคือบ้านหลังใหม่ของ ‘หมอบอย’ –นพ.พุฒิพงศ์ภูมิสุวรรณและ ‘หมอเอ๋’ –พญ.ช้องมาศเลิศสินที่กว้างขวางสวยหรูเปี่ยมรสนิยมและอัดแน่นด้วยรายละเอียดที่ชวนให้เพลิดเพลินโดยไม่ทิ้งบรรยากาศความอบอุ่น

ชีวิตปังๆ

หมอบอย เล่าถึงที่มาของการย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ ที่ทำให้ชีวิตปังๆ ว่า

“เนื่องจากเสื้อผ้าและข้าวของที่มีอยู่เริ่มเยอะขึ้นจนรู้สึกว่าที่อยู่เก่าเล็กเกินไปจึงมาเจอคอนโดฯนี้ พื้นที่เกือบ 300 ตารางเมตร อยู่ในโลเกชั่นดีมาก ไม่ไกลจากที่ทำงาน สภาพแวดล้อมร่มรื่น เงียบสงบ อากาศดี มีลมหมุนเวียน สมชื่อซอยเย็นอากาศ (ยิ้ม)

ชีวิตปังๆ

“เดิมมี 3 ห้องนอน4 ห้องน้ำมีห้องครัวและห้องแม่บ้านซ่อนอยู่ด้านหลังตกแต่งสไตล์โคโลเนียลใช้ผนังไม้สีเข้มพื้นไม้สีแดง แต่สไตล์ที่เราชอบเป็นแนวโมเดิร์นลักชัวรี่จึงทุบจาก 3 ห้องนอน4 ห้องน้ำทำเป็น 2 ห้องนอน3 ห้องน้ำเพื่อเอาพื้นที่มาทำห้องแต่งตัวแทนโดยทุบ2 ห้องนอน และอีก 1 ห้องน้ำมารวมกันห้องแต่งตัวของเราจึงมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนอีก (หัวเราะ)สั่งทำตู้เสื้อผ้าแบรนด์Poliformของอิตาลีส่งมาติดตั้ง ซึ่งมีดีไซน์โครงสร้างไม่เหมือนตู้เสื้อผ้าแบบอื่นทำให้มีราคาสูงกว่าปรกติ”

จนหมอเอ๋กระเซ้าว่า “ตาถึง”อีกฝ่ายจึงแก้ตัวว่า “เราลงทุนครั้งเดียวไงเพราะดีไซน์คลาสสิกฟังก์ชันครบสามารถใช้ไปได้ตลอดถ้าในอนาคตจะย้ายบ้านก็สามารถย้ายทั้งตู้ตามไปได้โดยมีทีมช่างติดตั้งให้เสร็จ ดูแล้วถูกใจไม่มีที่ติ”

ชีวิตปังๆ

ถัดจากห้องแต่งตัวไปเป็นห้องนอนโทนสีอ่อนละมุนเตียงหนานุ่มน่าทิ้งตัวลงนอนโดยฝ่ายหญิงเล่าว่า “ห้องนอนใหญ่ของเราเน้นสีเบจและเทาเพื่อให้ดูสบายตาน่านอน แต่ยังมีดีเทลสีทองและดำแทรกอยู่ตามที่ต่างๆไฟกิ่งตรงหัวเตียงดูล้อกับโคมไฟกิ่งขนาดใหญ่ที่ห้องแต่งตัวผนังหัวเตียงและโต๊ะข้างเตียงสั่งทำพิเศษเช่นเดียวกับที่นั่งตรงปลายเตียงที่ให้ช่างค่อยๆจับจีบขึ้นมาเหมือนชุดเสื้อผ้าสวยๆ

ชีวิตปังๆ

“มีมุมนั่งเล่นไว้ดูทีวีก่อนนอนโดยโต๊ะตั้งทีวีเป็นตู้เก็บของในตัวฝาประตูทำจากหนังปลากระเบนสวยมากใช้ทองเหลืองกับไม้มาประกอบเพิ่มส่วนชิ้นเด็ดที่เราสองคนชอบมากคือโต๊ะหน้าทีวีที่มีขาเป็นช่อรวงข้าวสีทองขึ้นมาโอบโต๊ะเป็นงานสั่งทำเพื่อบ้านเราโดยเฉพาะ”

ชีวิตปังๆ

ทันสมัย เรียบหรู ดูแพง

ห้องซึ่งดูโปร่งโล่ง จึงแฝงความหรูหราจากดีไซน์และข้าวของที่ใช้ตกแต่งทุกอณูตามความชอบของทั้งคู่ ซึ่งชื่นชอบความเรียบหรูทันสมัยและดูแพง

แต่ยังคงกลิ่นอายความเป็นคอนเทมโพรารี โดยเลือกใช้โทนสีอ่อนสีทองและสีดำซึ่งเป็นสีโปรดของหมอบอยมาแทรกไม่มากไม่น้อยเกินไปเพื่อไม่ให้ดูน่าเบื่อ

ชีวิตปังๆ

รวมทั้งเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์หลากแบรนด์ ที่มีรายละเอียดแตกต่างกันเพื่อให้ดูไม่น่าเบื่อคุมโทนให้เข้ากัน แม้จะใช้เวลาในการรีโนเวทบ้านพอสมควร แต่เมื่อทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ก็ถือว่าคุ้มค่าการรอคอยดูดีทุกจุดถ่ายรูปสวยทุกมุม

ยิ่งเมื่อได้เข้ามาอยู่ด้วยก็ยิ่งมีความสุขและลงตัวสำหรับชีวิตคู่จริงๆ

 

THE NEW CHAPTER of Life  บุปผา กิ่งชัชวาลย์

ชีวิตที่ผ่านมา เธอทำหลายอย่างมาก เคยเป็นทั้งนักร้อง-นักแต่งเพลง เป็นภรรยาและคุณแม่ลูกสามรวมทั้งเป็นจิเวลรี่ดีไซเนอร์และเจ้าของธุรกิจเครื่องประดับชื่อดัง Sincere Jewelryทุกอย่างที่กล่าวมานั้นเธอทำได้ดีชนิดที่ประสบความสำเร็จสูงสุด

ทว่า วันนี้เป็นเสมือนการเริ่มต้นบทใหม่ที่ไม่ต้องอาศัยมาตรวัดใดๆเพราะอยู่ที่ความสุขใจในแบบที่เธอเลือกเอง

ชีวิตปังๆ

แพรวมีโอกาสพบคุณโอ๋อีกครั้งที่บ้านหลังสวยสไตล์โคโลเนียลบนเนื้อที่เกือบไร่ย่านสุขุมวิท ที่อาศัยอยู่มา 20 ปีในสไตล์การตกแต่งบ้านแนวคลาสสิก เป็นที่ดินแปลงสวยที่ได้รับคำแนะนำจากคุณแป๋ม (ชฎาทิพ จูตระกูล) และยังไปเป็นเพื่อนดูที่ดินอีกต่างหาก

“คุยกับเจ้าของที่ดินแปลงนี้ จึงรู้ว่ามีคนขอดูที่แปลงนี้หลายรายแต่ไม่มีใครกลับมาตกลงสักรายคงเพราะช่วงนั้นมีปัญหาวิกฤติต้มยำกุ้งด้วยส่วนเราเองเห็นแล้วชอบเงียบสงบดีมีลมพัดสบายๆคิดทันทีว่าที่นี่ต้องเป็นของเราพอกลับมาดูอีกครั้งจึงบอกนายหน้าว่าขอซื้อจนเขาแปลกใจว่าติดป้ายขายอยู่นานไม่มีใครซื้อเรามาดูสองครั้งตัดสินใจเลย

ชีวิตปังๆ

“สถาปนิกที่ออกแบบบ้านหลังนี้เป็นของบริษัท Habitatซึ่งตอนนี้เป็นศิลปินแห่งชาติแล้วคือคุณกฤษฎาโรจนกรและคุณพิสิฐสายัมพลคนออกแบบภายในคือพี่เป้า P49 (วิภาวดีพัฒนพงศ์พิบูล)  ส่วนพวกเพ้นติ้งทั้งหลายในบ้านเราเลือกเองเพราะชอบสะสมของพวกนี้อยู่แล้วเดิมเราแต่งบ้านเป็นสไตล์เอเชียนคอนเทมโพรารีผสมผสานความเป็นไทยและจีนเข้าด้วยกันแล้วก็อยู่แบบนั้นมานานใจเคยนึกอยากเปลี่ยนการตกแต่งใหม่แต่ไม่รู้จะทำแบบไหนอย่างไร

“กระทั่งวันหนึ่งไปเดินเล่นที่ตึกภักดีของเป๊ก(พิไลพรรณสมบัติศิริ)ดูโชว์รูมของแท็ต (พลวุฒิ  โพธิรัตนังกูร)ที่โชว์กรอบกระจกเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้านมีทั้งของใหม่ของเก่าก่อนจะเป็นที่มาของการเปลี่ยนลุคใหม่ให้บ้าน”

ชีวิตปังๆ

สีสันสดใส ไอเดียสนุก

“น้องแท็ตมาดูไลฟ์สไตล์ที่เราชอบว่าเป็นแบบไหนบอกเขาตั้งแต่แรกว่าไม่ชอบความเรียบง่าย  อยากแต่งบ้านให้ดูสนุกขึ้น คุยกันแล้วแท็ตเข้าใจหมด เขามีไอเดียที่สนุกมาก โดยเราไม่จำเป็นต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ทุกชิ้น แต่เน้นการตกแต่งผสมผสานของที่เรามีอยู่แล้วและของชิ้นใหม่เข้าด้วยกัน

“เปลี่ยนการตกแต่งระเบียงบ้านให้เป็นชุมนุมบลูแอนด์ไวท์โดยนำเซรามิกบลูแอนด์ไวท์ที่มีอยู่แล้วมาแต่งและจัดใหม่เปลี่ยนสีผนังและเสาโดยรอบเป็นสีเขียวขาว จากเดิมเคยเป็นสีเทาคลาสสิก เพื่อให้รับกับสีสันสดใสของผ้าหุ้มเบาะเฟอร์นิเจอร์หวาย เปลี่ยนภาพเขียนติดผนังให้เป็นกรอบกระจกขนาดใหญ่สีขาวจากอังกฤษ พร้อมที่วางแจกันบลูแอนด์ไวท์ที่ผนังรอบกระจก เพื่อสร้างความโดดเด่น โดยส่วนตัวชอบภาพเขียนของพี่ต้อย –นคร สัมพันธารักษ์ แห่งนาการาอยู่แล้ว จึงนำภาพเขียนนาการาคอลเล็คชั่นมาตกแต่งผนังบันไดบ้านเพิ่มความสดใส”

ชีวิตปังๆ

เมื่อเดินเข้าไปในห้องรับแขกจะเห็นตั่งจีนอายุหลายร้อยปีของเดิม แต่เพิ่มเติมความสดใสด้วยการใช้ผ้าวินเทจของอังกฤษหุ้มเบาะ เพื่อให้ตั่งตัวนี้เป็นที่นั่งที่นอนเล่นสบายๆ ตกแต่งผนังใหม่ด้วยการติดตั้งกรอบกระจกสีทองของอังกฤษที่เธอเห็นจากโชว์รูมตึกภักดีแล้ว จุดประกายให้อยากตกแต่งบ้านใหม่

ชีวิตปังๆ

อีกด้านเป็นโซนรับแขกใช้เฟอร์นิเจอร์ของ Bakerที่มีการนำผ้ากิโมโนโบราณมาทำเป็นปลอกหมอนเข้าคู่กัน เปลี่ยนโต๊ะรับแขกเป็นดีไซน์สไตล์โคโลเนียล โดยหาของตกแต่งชิ้นเก๋ๆ มาจัดวาง รวมถึงเปลี่ยนผ้าม่านใหม่ให้เป็นสีเทาผสมเขียวจนสวยลงตัว

ชีวิตปังๆ

บ้านหลังเดิม ในสไตล์การตกแต่งใหม่ จึงเป็นความสุขและชีวิตปังๆ ที่จับต้องได้ ทำให้เธอมีความสุขในทุกวันของชีวิตนั่นเอง

 ติดตามอ่านเรื่องบ้านฉบับเต็มๆ ได้ที่ เปิดทุกมุมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ! บ้านสวยสไตล์โคโลเนียลของโอ๋-บุปผา กิ่งชัชวาลย์

"ป้อม วินิจ" พ่อมดแห่งวงการเมคอัพ สะบัดแปรงร่ายมนต์ "นัท มีเรีย" สวยทรงพลัง

“ป้อม วินิจ” พ่อมดแห่งวงการเมคอัพ สะบัดแปรงร่ายมนต์ “นัท มีเรีย” สวยทรงพลัง

Alternative Textaccount_circle
"ป้อม วินิจ" พ่อมดแห่งวงการเมคอัพ สะบัดแปรงร่ายมนต์ "นัท มีเรีย" สวยทรงพลัง
"ป้อม วินิจ" พ่อมดแห่งวงการเมคอัพ สะบัดแปรงร่ายมนต์ "นัท มีเรีย" สวยทรงพลัง

“ป้อม วินิจ” พ่อมดแห่งวงการเมคอัพ สะบัดแปรงร่ายมนต์ “นัท มีเรีย” สวยทรงพลัง

ป้อม วินิจ บุญชัยศรี เมคอัพอาร์ติสมือหนึ่งของไทย ที่โชว์ฝีไม้ลายมือในการสะบัดแปรงแต่งหน้าให้กับซุปตาร์มามากมายนับไม่ถ้วน จนได้รับการยอมรับและขนานนามได้รับฉายาในวงการว่า “พ่อมดแห่งวงการเมคอัพ” เพราะไม่ว่าเมื่อไหร่ ที่ป้อม วินิจ สะบัดแปรงลงที่ใบหน้าของผู้ใดแล้ว มีแต่คำว่า สวยปัง!!

ล่าสุด ป้อม วินิจ สะบัดแปรงแต่งหน้าให้กับนัท มีเรีย เบนเนเดดตี้ ดีว่าแถวหน้าของเมืองไทย ที่ยังคงความสวยอมตะค้างฟ้ามาอย่างยาวนาน ด้วยความที่ตัวเธอเองก็ได้ออกกำลังกาย ดูแลตัวเองมาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ความสวย ความนิยมของเธอไม่มีลดลงเลย ยิ่งลุคที่พี่ป้อมลงมือเมคอัพให้ด้วยแล้ว ความสวยที่ทำให้ดูอ่อนวัย แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังออร่า โดยมีเคล็ดลับที่แต่งตามได้ง่ายๆ

นัท มีเรีย 3

“ป้อม วินิจ” พ่อมดแห่งวงการเมคอัพ สะบัดแปรงร่ายมนต์ “นัท มีเรีย” สวยทรงพลัง

“สิ่งแรกเลยที่เราจะมองเห็นบนใบหน้าของผู้หญิงนั่นคือผิวหน้าที่สวยสะอาด เกลี้ยงเกลาดูมีออร่านั่นเอง  และสิ่งที่สำคัญในการแต่งผิวหน้า เน้นสำคัญที่สุดคือต้องไม่หนา ลงบางๆ  และเท็กเจอร์ที่ลงบนผิวหน้าต้องมีความนวลเนียนเป็นงานผิวไม่ใช่หนาเป็นงานแป้ง”

นัท มีเรีย 1

“ในส่วนของงานผิว ผิวหน้าก่อนแต่งและหลังแต่ง ต้องดูสวยแตกต่างอย่างมาก ต้องปกปิดทุกปัญหาผิวอำพรางทุกร่องรอย อาทิ เท็กเจอร์ที่มีอยู่ในแป้ง RAN เบอร์ 1.5 จากนั้นจะเพิ่มความมีออร่าโดยการใช้เบอร์ 1 ปัดอย่างบางเบาให้ทั่วใบหน้า เพื่อให้ผิวหน้าดูสว่างสดใสวัยเยาว์ขึ้น และเน้นคอนทัวร์เนื้อแป้งย้ำตามจุดให้ไล้เพื่อให้เครื่องหน้าดูมีมิติมากขึ้น

การแต่งตา จะแต่งแบบเบาๆ เพราะนัท มีเรีย มีดวงตาที่สวยอยู่แล้ว คิ้วเน้นเส้นขนที่ดูเป็นธรรมชาติ และใช้ดินสอเบอร์01 สีอ่อนธรรมชาติเต็มเป็นเส้นๆ เขียนแลยขนคิ้วธรรมชาติขึ้นมาอีกนิด เพื่อให้คนคิ้วดูดกขึ้น

ในการปัดแก้ม ให้ลงแปรงเบาๆ ด้วยสีอ่อน จะได้ดูแก้มระเรื่อๆ ส่วนริมฝีปากบางสวยของนัท พี่ป้อมทาลิปสีธรรมบางเบาให้เนียนเรียบไปกับผิวปากได้รูป”

นัท มีเรีย 4 นัท มีเรีย 2

ใครอยากสวยดูอ่อนวัยแบบ นัท มีเรีย ลองนำเคล็ดลับดีๆ และเทคนิคการแต่งหน้าของ ป้อม วินิจ ไปลองใช้กันได้เลย


 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

“แบซูจี” นางเอกซีรี่ส์ที่ขึ้นชื่อว่า ผิวสวยใสลุคแบบ Makeup No Makeup แทบทุกเรื่อง

เปิดไอเท็มปรับผิวเนียนใสของ “ลีโฮจุง” สาวสวยหน้าเก๋สุดคูล ที่มีดาเมจแรงเกินต้าน!

ผิวเนียนกริบด้วย เทคนิคลงรองพื้น แบบ Dakota Fanning ที่ทำแล้วเวิร์คมี 2 อย่าง

 

‘มีโอกาสได้พบหนุ่มในฝัน แต่ก็เป็นเพียงความหลง เพราะเดี๋ยวคุณก็เทแล้ว’ ดวงรายวัน 4 สิงหาคม 2564

ดูดวงรายวัน 4 สิงหาคม 2564 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘มีโอกาสได้พบหนุ่มในฝัน แต่ก็เป็นเพียงความหลง เพราะเดี๋ยวคุณก็เทแล้ว’

ดูดวงรายวัน 4 สิงหาคม 2564

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :  มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะถูกลดบทบาทความสำคัญลง เสนองานไป เจ้านายก็ไม่สนใจ แต่ก็ไม่ต้องพยายามฝืนหรือดันทุรัง เรียกร้องความสนใจ เพราะวันนี้คุณมีโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับผู้ที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกับคุณทุกอย่าง จึงควรใช้ปฏิภาณ ไหวพริบ และความรับผิดชอบที่คุณมี ทำงานแค่พอเอาตัวรอดเพื่อป้องกันความผิดพลาดหรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นไปก่อน

การเงิน  :  มีความเป็นไปได้ว่า จะต้องเสียเงินให้กับคนรักหรือคนใกล้ชิดอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้การเงินผันผวน จนคุณต้องประหยัดเก็บออม

ความรัก :  คุณมีความคิดเป็นของตัวเองมาก ชอบโต้แย้งและพยายามจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ รอบตัว ซึ่งไม่ใช่แค่เพิ่งเป็น แต่วันนี้อาจเป็นวันที่คู่คุณเริ่มทนไม่ไหวแล้ว คนโสด คนที่คุณพบในวันนี้ ไม่เหมาะสมกับคุณเลยทั้งความคิด นิสัยใจคอ ความเป็นอยู่ หน้าที่การงาน ฯลฯ ไปกันไม่ได้เลย

สุขภาพ  :  ไม่เครียดนะคะ เดี๋ยวไมเกรนถามหา รวมถึงในระยะยาวมีโอกาสจะเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งจะส่งผลให้เกิดโรคร้ายต่างๆ ตามมา

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับการติดต่อประสานงาน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อ มวลชน หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษา แม้วันนี้คุณจะได้ใช้ความรู้ ความสามารถ และทักษะเฉพาะด้านขั้นเทพของคุณทำงาน แต่ก็ควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วย ไม่ควรยึดอยู่แต่เพื่อนพ้องพี่น้องของตัวเอง เพราะช่วงนี้ดวงการงานของคุณยังไม่ค่อยดี ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะติดขัดไปหมด โดยเฉพาะเอกสารทางราชการอาจมีความผิดพลาด มีความเสี่ยงที่จะเป็นคดีความได้ทั้งทางแพ่งและอาญา จึงควรหาเพื่อนที่รู้ใจ หรือผู้รู้ผู้มีประสบการณ์มาช่วยทำงานดีกว่า

การเงิน :  สามารถหารายได้ด้วยอำนาจและบารมีของคุณ และก็สามารถที่จะบริหารจัดการอย่างมีระบบ แต่วันนี้ไม่ควรเป็นนายหน้าให้ใครกู้ยืมเงิน หรือเซ็นค้ำประกันให้ใคร โดยเฉพาะคนรัก หรือลูกหลาน เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะต้องรับผิดชอบหนี้สินแทน

ความรัก : หากคุณแต่งงานเข้ามาอยู่ในครอบครัวที่เคร่งครัดในขนบธรรมเนียมประเพณี ทำอะไรก็ต้องอยู่บนหลักการและเหตุผลมากกว่าความรัก ความพึงพอใจ วันนี้อาจมาถึงจุดที่คุณรู้สึกอึดอัด แต่ก็แยกกันไม่ได้ เพราะยังมีผลประโยชน์เอื้อกันอยู่ คนโสด มีโอกาสได้พบหรือร่วมงานกับชาวต่างชาติที่ฉลาดขั้นเทพ โดยเขาก็ให้การส่งเสริมและสนับสนุนหน้าที่การงานของคุณด้วย

สุขภาพ  : อวัยวะที่ควรให้ความสำคัญอันดับแรกคือ หัวใจ และโรคที่เกี่ยวกับหัวใจทุกชนิด รองลงมาคือ สายตา ตระกูต้อถามหาแล้ว นอกจากนั้นยังต้องระวังอุบัติเหตุ ทั้งทางบกและทางน้ำ จึงไม่ควรประมาท

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  สำหรับผู้ที่อยู่ในตำแหน่งผู้นำองค์กร หรือมีตำแหน่งหน้าที่การงานระดับสูง ไม่ว่าจะภาคธุรกิจ การเมือง การปกครอง ข้าราชการ บุคคลในเครื่องแบบ ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในสายนักประดิษฐ์ นักค้นคว้า ทดลอง หากคุณกำลังคิดประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่เพื่อสังคม วันนี้มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะประสบความสำเร็จ สามารถสร้างชื่อเสียง เงินทองให้กับคุณได้อย่างงดงาม แต่ก็ไม่ควรหลงใหลได้ปลื้มจนลืมสิ่งที่เป็นอยู่ เพราะไม่มีอะไรแน่นอน เมื่อขึ้นได้ก็ตกได้

การเงิน :  มีโชคลาภ ร่ำรวย ทั้งเงินทองและชื่อเสียง แต่จากที่คุณเคยทำงานเพื่ออุดมคติ หรืออุดมการณ์ แต่วันนี้อาจเปลี่ยนจุดยืนมาเป็นเพื่อเงินทองแทน

ความรัก :  มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะมีโอกาสขยับขยายบ้านช่องห้องหอที่อยู่อาศัยให้กับครอบครัว เพื่อให้สมกับหน้าตาและฐานะที่มั่นคงขึ้น คนโสด คุณมีภาวะผู้นำสูง ทั้งหน้าที่การงานและครอบครัว วันนี้คุณอาจทำแต่งาน หาเงิน โดยไม่คิดถึงเรื่องอื่นเลย

สุขภาพ  :  โหมงานหนักต้องระวังออฟฟิศซินโดรมจะถามหา มีอาการปวดหลัง ตึงเปรี๊ยะไปหมดทั้งคอ บ่า ไหล่ ช่วงนี้ร้านนวดไม่เปิด ก็ควรหาวิธีบำบัดตัวเอง โยคะก็เป็นหนึ่งในท่าบริหารที่ช่วยเหยียดยืดกล้ามเนื้อได้ดี

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ บ้าน ที่ดิน อาคารสำนักงาน สิ่งปลูกสร้าง มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะถูกเจ้านายกดดันให้ต้องใช้ความรู้ ความสามารถ ทำงานหนักกว่าเดิม (จากที่หนักอยู่แล้ว) ไม่เท่านั้น วันนี้มีโอกาสที่คุณจะต้องรับผิดชอบงานหนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยอยู่ภายใต้การติดตามดูแลจากเจ้านายอย่างใกล้ชิดเสียด้วย

การเงิน : มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้ซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นผลจากการทำงานหนักมาตลอดชีวิต แต่ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินสินบน หรือเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง เพราะจะเกิดความเสียหายตามมาในภายหลัง

ความรัก :  คุณกำลังอยากปรึกษาเรื่องการโยกย้ายบ้านหรือขยับขยายที่อยู่อาศัยกับใครสักคน วันนี้คู่คุณจะเป็นคู่คิดที่ดี เขาจะแนะนำแนวคิดที่มีประโยชน์ และช่วยคุณทำงานหาเงิน คนโสด วันนี้คุณต้องการผู้ที่จะมาช่วยคุณทำงาน เพื่อสร้างอนาคตเป็นปึกแผ่นมากกว่าที่จะคบกันเล่นๆ

สุขภาพ : โหมงานหนักจนไม่มีเวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา หรือไม่ครบหลักโภชนาการ จะส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย รวมถึงความเครียดก็ยังจะนำมาซึ่งโรคร้ายต่างๆ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  มีความเป็นไปได้ที่คุณจะถูกชักชวนหรือทาบทามให้เข้าไปทำงานกับธุรกิจในครอบครัว หรือกับคนรู้จัก ซึ่งคุณก็จะหมกมุ่นครุ่นคิดถึงแต่ความสำเร็จ และทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับการทำงาน จนไม่ปฏิบัติภารกิจของตัวเองเลย วันนี้ควรเตรียมแผนงานล่วงหน้าให้พร้อม เพื่อป้องกันการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ผิดพลาด แล้วคุณจะโชคดี ผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้ได้ทำงานตามที่คุณตั้งใจ

การเงิน :  วันนี้คุณมีโอกาสได้เงินปันผลจากธุรกิจของครอบครัว เพราะผู้ใหญ่เมตตาเอ็นดู แต่ก็ไม่ควรช่วยเหลือผู้อื่นอีกนะคะ เพราะคุณอาจเดือดร้อนได้

ความรัก :  ก็ยังคงอยู่กับการตัดสินใจครองคู่กันอย่างรวดเร็ว จนไม่ทันได้ศึกษานิสัยใจคอกันให้ดีก่อน วันนี้มีโอกาสที่คุณจะกลับมาคิดใหม่ทำใหม่ว่า ควรอยู่คนเดียวดีกว่าไหม คนโสด มีโอกาสได้พบชายหนุ่มในฝันจนอยากจูงมือไปอยู่ด้วยกันเลย แต่วันนี้ดูแล้วน่าจะเป็นความหลงมากกว่า เพราะเดี๋ยวคุณก็เปลี่ยนใจแล้ว

สุขภาพ : นอกจากระบบหมุนเวียนเลือดจะไม่ดีขึ้นแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่ระบบย่อยอาหารจะมีปัญหา เป็นโรคกระเพาะ ลำไส้ มีอาการปวดหรือเสียดท้องได้ง่าย

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  คิดบวกไม่ไหวแล้ว เพราะมีโอกาสที่คุณจะอึดอัดร้อนรุ่มไปหมด ทั้งบรรยากาศการทำงาน เพื่อนร่วมงาน และผู้บังคับบัญชา จนอยากลาออกให้รู้แล้วรู้รอดไป โดยเฉพาะหากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ งานโฆษณา ประชาสัมพันธ์ งานออกแบบดีไซน์ด้วยแล้ว วันนี้ยังไม่เหมาะที่คุณจะคิดทำงานใหม่ที่นอกเหนือจากงานประจำ เพราะมีการแข่งขันสูง มีความเสี่ยงที่จะล้มเหลวหรือผิดพลาดสูงมากกว่าจะประสบความสำเร็จ

การเงิน :  หากคุณกำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน วันนี้จะมีผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลือ มีโอกาสได้รับมรดกด้วยนะเนี่ย ซึ่งคุณก็ควรเก็บเงินไว้บ้าง ไม่ใช่ช่วยเหลือคนอื่นจนตัวเองไม่ได้ใช้เลย

ความรัก : มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหามือที่สามเข้ามาวุ่นวายภายในครอบครัว แล้วคุณก็เกิดความหึงหวง ปรับความเข้าใจกันไม่ได้ด้วย วันนี้คุณจะเริ่มลังเลว่า ควรจะไปต่อกันดีไหม   คนโสด  วันนี้คุณก็ยังไม่หลุดพ้นจากคำว่า ‘มีรักก็มีทุกข์’ เพราะมีความเป็นไปได้ว่า คุณจะพบกับคนที่ไม่จริงใจ ไม่ได้มีคุณคนเดียว

สุขภาพ : ไปพบทันตแพทย์บ้างหรือยังคะ เพราะสุขภาพฟันก็สำคัญ ต้องดูแลและรักษาให้มีสุขอนามัยที่ดีตลอด ไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบกับสุขภาพในช่องปาก และทางเดินหายใจ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานศิลปะศิลปิน หรืองานทางด้านความสวยความงาม มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะใช้ความรู้ ความสามารถ และเทคนิคเฉพาะด้านขั้นเทพของคุณ ทำงานจนประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงโดดเด่น แต่อ๊ะๆๆ วันนี้ต้องลดอีโก้ในตัวเองลง และเปิดใจยอมรับความคิดของคนอื่นด้วย ไม่เช่นนั้นมีโอกาสที่จะเกิดดราม่าขึ้น เช่น ถูกอิจฉาริษยา หรือถูกใส่ร้ายป้ายสี แล้วหากงานเกิดความเสียหายหรือผิดพลาด คุณก็จะถูกรุมกระหน่ำซ้ำเติมทันที

การเงิน : จากเงินทองชื่อเสียงที่เคยหลั่งไหลเข้ามา ซึ่งคุณก็มีความสามารถจัดการการเงินได้อย่างมีระบบ แต่วันนี้มีเหตุการณ์บางอย่างที่จะทำให้เงินเหล่านั้นหยุดชะงัก ส่งผลให้คุณลำบากเลยทีเดียว

ความรัก : คุณมีภาวะผู้นำสูง ทั้งงานในบ้าน และงานนอกบ้าน คุณก็จัดการได้ดี ยึดอยู่บนหลักการและเหตุผล อยู่ในขนบธรรมเนียมที่ดีงามมาตลอด แต่วันนี้มีความเป็นไปได้ว่า คู่คุณจะผิดปกติ เหมือนซุกซ่อนหรือปิดบังบางอย่างไว้ คนโสด วันนี้คุณมีทั้งเสน่ห์ มีโอกาสได้พบหรือได้ร่วมงานกับชาวต่างชาติที่ฉลาดขั้นเทพ แต่ไม่ควรใจอ่อน เพราะคุณมีโอกาสตกอยู่ในสถานะซ่อนเร้นไม่เปิดเผย เพราะเขามีครอบครัวแล้ว

สุขภาพ :  คุณจริงจังกับชีวิตมาก เครียดง่าย ซึ่งก็มีโอกาสที่คุณจะใช้วิธีการบำบัดด้วยการรับประทาน ซึ่งนอกจากจะทำให้น้ำหนักขึ้นแล้ว ยังเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และระบบเส้นเลือด

ทำความรู้จัก ปราง-นวลวรรณ ล่ำซำ ทายาทสุดหวงหนึ่งเดียวของ มาดามแป้ง

account_circle

ครั้งแรกกับการเปิดใจให้สัมภาษณ์แพรว ในวันที่ “ปราง- นวลวรรณ ล่ำซำ” ทายาทหนึ่งเดียวของ “มาดามแป้ง” จบการศึกษาพร้อมกับหอบความฝันมาบอกเล่าเรื่องราวที่ทำให้เธออยากเดินทางสู่การค้นหาตัวตนและโลกใบใหญ่

รู้จักตัวตนผ่านจิตวิทยา

“ปรางชอบรับฟังปัญหาและเป็นที่ปรึกษาให้คนอื่น ชอบคุยแบบเปิดใจในเรื่องของความรู้สึกลึกๆที่อยู่ข้างในใจเขา  เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ไม่ชอบคุยผ่านๆหรือคุยขำๆตลกๆกันไป ยิ่งถ้าสนิทด้วยแล้ว ปรางจะค่อนข้างเปิดใจให้ใครคนนั้น จึงรู้สึกว่าถ้านี่คือสิ่งที่ชอบ ซึ่งก็คือเรื่องของจิตวิทยา เป็นสิ่งที่จับต้องได้มีตำราที่อ่านแล้วอธิบายหลายอย่างที่เราสนใจ เพราะปรางเชื่อว่าถ้าเราเข้าใจตัวเองก็จะเข้าใจคนอื่นเข้าใจปัญหาและเหตุผลที่เขาทำอะไรต่างๆได้ง่ายขึ้น

ปราง- นวลวรรณ ล่ำซำ

ปราง- นวลวรรณ ล่ำซำ

“ปรางเรียนจบคณะจิตวิทยาจาก University of Queensland ประเทศออสเตรเลีย และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเรียนที่จุฬาฯ สองปีครึ่ง ส่วนอีกปีครึ่งเรียนที่ออสเตรเลีย การใช้ชีวิตที่ออสเตรเลียค่อนข้างมีอิสระ แต่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง

เริ่มตั้งแต่ หาอพาร์ตเมนต์ ซักผ้า ทำอาหาร เป็นการฝึกดูแลตัวเอง เพราะปกติไม่เคยต้องทำ ตั้งแต่เกิดมาปรางไม่เคยทำอาหารทานเองเลย  จึงทำไม่เป็น แต่ก็อยากลอง จึงเลือกเมนูง่ายๆ พวกสเต๊กแซลมอน ซื้อปลาจากซูเปอร์มาร์เก็ตมาย่าง…ง่าย ๆ แค่นี้ แต่พอทานแล้วรู้สึกว่าอร่อยมาก อาจเพราะเราทำเอง จึงรู้สึกภูมิใจ ทานจนหมดเลยด้วย ทั้งที่ปกติทานอะไรไม่ค่อยหมดจาน กลายเป็นมุมมองใหม่ๆ ที่มีคุณค่ากับชีวิต

ปราง- นวลวรรณ ล่ำซำ

“ปรางเป็นลูกคนเดียว พอไปอยู่ที่นั่นกับเพื่อนสนิทที่ต้องเจอหน้ากันตลอดเวลา เช้าสายบ่ายเย็น เหมือนเป็นคู่แต่งงานเลย (หัวเราะ) ทำให้ต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกันต้องรู้จักที่จะใจเย็น บางครั้งกลับบ้านไม่พร้อมกัน คนนี้รอคนนั้น อีกคนออกไปเรียนช้า ซึ่งถ้าจะเริ่มทะเลาะหรือเริ่มรู้สึกไม่ดี ต้องรีบเยียวยาทันที ไม่อย่างนั้นคงอยู่ด้วยกันไม่ได้ ทั้งหมดนี้ทำให้ปรางได้ฝึกความอดทน รู้จักเห็นอกเห็นใจคนอื่น และยิ่งสนิทยิ่งต้องเกรงใจกัน คือเหมือนเราโต

ความเป็นลูกมาดามแป้ง

ปราง- นวลวรรณ ล่ำซำ
“ที่ผ่านมาอาจมีคนรู้ว่าปรางเป็นลูกแม่แป้ง แต่ก็ไม่ได้มีใครตีตราว่าเป็นลูกแม่แป้งต้องเก่งเหมือนแม่นะ ถ้ามีคนพูดกับปรางแบบนั้น ปรางจะตอบขอบคุณเขา เพราะเราก็เป็นตัวของเราเอง และเราก็มีดีในแบบของเราเองด้วย หรือถ้าวันหนึ่งต้องรับช่วงงานต่อจากคุณแม่ ปรางก็ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร ยอมรับว่าคุณแม่เป็นคนเก่ง แต่ถามว่าเราจำเป็นต้องเก่งเท่าท่านไหม ในความคิดปรางคือ ถ้าเก่งเท่าคุณแม่ได้ก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่รู้สึกเครียดอะไร เพราะเรารู้ลิมิตตัวเอง  ขอแค่ทำทุกอย่างให้เต็มที่ที่สุดก็พอใจแล้ว”

ได้เวลาสืบทอดทายาท

ปราง- นวลวรรณ ล่ำซำ
“ตอนนี้คุณแม่เริ่มทาบทามให้ไปช่วยทำงานเหมือนกัน แต่ปรางอาจจะไม่ได้ถนัดธุรกิจขนาดนั้น ส่วนด้านที่ปรางถนัด  ก็เป็นสิ่งที่คนเข้าใจยาก ซึ่งการจะโน้มน้าวให้คนในครอบครัวเข้าใจงานด้านจิตวิทยา อาจต้องพิสูจน์ให้เขาเห็นว่า ถ้าเราทำแล้วจะเวิร์ค ปรางตั้งใจว่าอยากลองทำงานด้านจิตวิทยาเด็กเล็ก อาจจะเป็นครูหรือทำงานในโรงพยาบาลก็ได้

“แต่ตอนนี้ที่คิดไว้คือ อยากเบรกเรื่องทำงานไว้ก่อน เพื่อหาแพสชั่นหรือสิ่งที่ตัวเองชอบจริงๆ เพราะชีวิตที่ผ่านมาเหมือนเราเรียนอย่างเดียว เหมือนเด็กทั่วไปที่ชีวิตมีแค่การเรียนพิเศษกับการอ่านหนังสือสอบเพื่อให้ได้เกรดดีๆ ไม่มีชีวิตด้านอื่นเลย จึงอยากค้นหาแพสชั่นในชีวิตว่าจริงๆ แล้วเราชอบอะไร อยากออกไปท่องโลก เพราะเวลาไปเที่ยว มักได้ประสบการณ์ดีๆ กลับมา ไม่ต้องพูดถึงการเดินทางไปต่างประเทศ แค่เดินทางไปต่างจังหวัดก็ทำให้เราเห็นไลฟ์สไตล์และมุมมอง วิธีคิดที่แตกต่างกันระหว่างคนกรุงเทพฯและคนต่างจังหวัดแล้ว

ปรางจึงอยากเดินทางออกไปคุย ไปทำความรู้จักมุมมองของผู้คนต่างๆ และเมื่อรู้ว่าเราต้องการอะไร ค่อยเรียนต่อปริญญาโทด้านที่ชอบจริงๆ ซึ่งต้องคิดให้ดีๆ ปรางอยากเรียนปริญญาโทด้านที่จะช่วยการทำงานในอนาคต เพราะเป็นช่วงวัยทำงานแล้ว”

ชีวิตควรมีความสุขทุกวัน


“ปรางค่อนข้างอารมณ์อ่อนไหวง่าย เคยฝึกงานที่ไม่ชอบ ซึ่งทำให้รู้เลยว่าการทำสิ่งที่ไม่ชอบทำให้เราเกิดภาวะหมดไฟ (Burn Out) ไม่มีความสุข

“น้อง ๆ ที่กำลังเรียนหนังสือจึงควรรู้ก่อนว่าตัวเองชอบอะไร เวลาทำสิ่งนั้นแล้วมีความสุขไหม จะได้เลือกเรียนแล้วจบออกมาเพื่อทำงานตามสิ่งที่ชอบ และมีความสุขกับสิ่งนั้น เพราะถ้าเป็นไปได้ ชีวิตคนเราควรมีความสุขทุกวัน เมื่อรู้ว่าตัวเองชอบอะไร ถนัดอะไร จงตั้งใจทำมันให้ดีที่สุด ถ้าล้มเหลวก็อย่าเพิ่งยอมแพ้ จงตั้งใจทำต่อไป

“ชีวิตคนเรามีทางใหม่เสมอ ไม่มีคำว่าตัน ถ้ายังมีลมหายใจ”


ข้อมูลจาก : นิตยสารแพรว ฉบับที่ 950

ภาพจาก : IG @panglamsam

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

 

มาเป็นกุรุส เปิดคลังกระเป๋า แอร์เมส “นวลพรรณ ล่ำซำ” ผู้นำเข้าหนึ่งเดียวในไทย

ขั้วตรงข้าม ปราง-นวลวรรณ ล่ำซำ ลูกสาวคนเก่งของ มาดามแป้ง

 

ดัชเชสเคท

6 เคล็ดลับความงามของ ดัชเชสเคท ที่คุณก็สามารถทำได้ทุกวัน

account_circle
ดัชเชสเคท
ดัชเชสเคท

6 เคล็ดลับความงามของ ดัชเชสเคท แห่งเคมบริดจ์ ทริคง่ายๆ กับขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก คุณเองก็สามารถทำได้ทุกวัน

เรื่องความสวย ความงามกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน โดยเฉพาะเมคอัพและสกินแคร์ที่มักตีคู่มากับอายุ ปัจจุบันผู้หญิงหันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น เพราะยุคนี้สาวๆ ต้องออกจากบ้านมาทำงาน ได้พบปะผู้คน เพราะฉะนั้นความประทับใจแรกมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก

เคล็ดลับความงาม

เช่นเดียวกับดัชเชสเคทแห่งเคมบริดจ์ ที่พระองค์ต้องเสด็จไปตามที่ต่างๆ เพื่อทำพระราชกรณียกิจ ซึ่งหลายๆ ที่ ที่พระองค์เสด็จไปนั้นต้องเจอกับมลภาวะที่แตกต่างกัน แต่พระพักตร์และลุคโดยรวมของพระองค์ยังคงดูสดใสเสมอ เป็นที่ประทับใจของแขกและประชาชนที่ได้พบพระองค์

แล้วดัชเชสเคทแห่งเคมบริดจ์ มีเคล็ดลับอย่างไร ถึงยังดูพระสิริโฉมงดงาม ในพระชันษา 36 ปี อีกทั้งยังเป็นพระมารดาลูก 3 ที่หุ่นยังเป๊ะเว่อร์ แพรวดอทคอม เลยจัด 6 เคล็ดลับความงามของพระองค์มาให้คุณๆ ได้ลองทำตามกัน บอกเลยว่าง่ายมากและสามารถทำได้ทุกวันด้วยนะ

เล็บสีนู้ดใส ดูสุภาพ และทาได้ทุกโอกาส

PHOTO: JENNIFER MULROW  (สี Allure จากแบรนด์ Essie $9 ราคา 288 บาท)

ตามกฎของราชวงศ์อังกฤษ ห้ามสมาชิกหญิง ทาเล็บสีฉูดฉาด ทาได้แค่สีนู้ด เพราะเป็นสีสุภาพ ซึ่งดัชเชสเคทเองก็ทรงทำตามกฎของราชวงศ์อย่างเคร่งครัด ทุกครั้งที่พระองค์เสด็จไปตามงานสำคัญต่างๆ พระองค์ทรงเลือกที่จะทาเล็บสีนู้ดใส (สี Allure จากแบรนด์ Essie) ซึ่งเข้าได้กับทุกเครื่องแต่งกาย และทุกสถานที่ ซึ่งสาวๆ ก็สามารถทาเล็บสีนี้ได้ทุกวัน ทุกโอกาส จะไปงานไหน สีนี้สีเดียวจบไม่ต้องคิดเยอะจ้า

ผมลอนเบาๆ ดูสวยและ น่ารัก

เคล็ดลับความงาม

ออกจากบ้านทั้งที คิดแล้วคิดอีกว่าจะทำผมทรงไหนดี มาค่ะไม่ต้องคิดเยอะ โรลผมลอนเบาๆ แบบดัชเชสเคท จะแสกกลางแสกข้างได้หมด ปรับผมลีบแบนให้ดูมีน้ำหนัก และพลิ้วสวยขึ้นมาทันที

เคล็ดลับเพิ่มเติมคือ หากที่บ้านของคุณสาวๆไม่มีโรลม้วนผมไฟฟ้า วิธีที่ง่ายที่สุดคือก่อนนอน ถักเปียให้แน่นพอประมาณ มัดด้วยหนังยาง ทิ้งไว้ข้ามคืน แกะหนังยางออกในตอนเช้า ผมของคุณสาวๆ ก็จะกลายเป็นลอนโดยอัตโนมัติ แนะนำเพิ่มอีกคือควรเซตด้วยผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เพื่อให้ลอนอยู่ทรงทั้งวัน

เลือกแชมพูให้เหมาะกับเส้นผม และอย่าลืมตามด้วยคอนดิชั่นเนอร์ทุกครั้ง

Richard Ward $12 (384 บาท)

สระผม เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ไม่ควรละเลย สาวๆ ควรเลือกแชมพูที่เหมาะกับสภาพเส้นผม และทุกครั้งหลังสระ ควรตามด้วยคอนดิชั่นเนอร์ทุกครั้ง หากกลัวว่าครีมนวดผม หรือทรีทเม้นท์จะทำให้หนังศีรษะมัน ก็ให้ใช้แค่บริเวณปลายผม เพื่อเวลาหวีเส้นผมจะได้ไม่พันกันนะจ้ะ

สำหรับดัชเชสเคทนั้น แฮร์สไตลิสท์ส่วนพระองค์ ได้เผยว่า ดัชเชสเคททรงเลือกแชมพูที่มีส่วนผสมของคอนดิชั่นเนอร์ และยังเป็นผลิตภัณฑ์ออแกนิกส์ที่ไม่มีซัลเฟต อีกทั้งยังมีความอ่อนโยนทำความสะอาดเส้นผมได้อย่างดีเยี่ยม จบในขั้นตอนเดียว

เก็บผมเรียบร้อย ไม่รุงรังด้วยเน็ตติดผม

เคล็ดลับนี้เราขอแนะนำสำหรับสาวๆ ที่ต้องการลุคที่มีความเรียบร้อยเป็นพิเศษ สำหรับใครที่กำลังจะสมัครงาน โดยเฉพาะงานด้านสายการบิน โรงแรม หรือใครที่ทำงานแล้วผมต้องเก็บให้เรียบร้อยทุกครั้ง เน็ตติดผมจะเป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมที่ทำให้คุณดูสวยและดูสุภาพขึ้นมาทันที

ในงานสำคัญต่างๆ ที่เป็นทางการ ดัชเชสเคท เลือกที่จะเกล้าผมมวยต่ำไว้ด้านหลังและใช้เน็ตติดผมเพื่อให้ดูเป็นทรง ผมจึงไม่หลุดรุ่ยออกมา และอยู่ทรงเป๊ะตลอดทั้งวัน

Rosehip Oil น้ำมันบำรุงผิวหน้า ตัวช่วยลบเลือนริ้วรอย

พูดถึงน้ำมันบำรุงผิวหน้า สาวๆ ผิวมันต้องทำหน้าแหยแน่นอน แต่คุณขาสรรพคุณมันดีงามมากเลยนะ ทั้งลดริ้วรอย จุดด่างดำ ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น ซึ่งดัชเชสเคททรงเลือกน้ำมันโรสฮิป ผลิตภัณฑ์จากออกแกนิกส์ สำหรับบำรุงพระพักตร์ และพระองค์ยังทรงใช้เป็นประจำทุกวันอีกด้วย

โดยดัชเชสเคทเคยให้สัมภาษณ์ว่า พระองค์ชอบผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับผิว คือผิวของคุณจะนุ่มนวลและดูสมูทขึ้นมาทันที ซึ่งแบรนด์ที่ดัชเชสเคทใช้อยู่นั้นคือ trilogy จากประเทศนิวซีแลนด์ นอกจากนี้พระมารดาของพระองค์  Carole Middleton ก็ยังเป็นแฟนตัวยงของน้ำมันโรสฮิปแบรนด์นี้ด้วย

หุ่นเพรียวแบบ ดัชเชสเคท ได้ด้วย Raw Food

เคล็ดลับสุดท้ายของดัชเชสเคท ที่เรามาฝากกันคือ พระองค์เลือกเสวยอาหารประเภท Raw Food ควบคู่กับอาหารชนิดอื่นๆ

อาหาร  Raw Food นั้น คืออาหารที่ทำจากผักสด ผลไม้สด และต้นอ่อนของเมล็ดพืช ซึ่งจะไม่ผ่านการใช้สารเคมี อีกทั้งยังไม่มีแป้งและน้ำตาล รวมถึงวิธีทำจะใช้ความร้อนไม่เกิน 46 องศา เพื่อรักษาวิตามินและเกลือแร่ให้คงอยู่ในอาหาร

สำหรับการรับประทานอาหารเภท Raw Foood จะช่วยเรื่องสุขภาพ บำรุงผิวพรรณ และเล็บให้แข็งแรง โดยอาหาร Raw Food ที่พระองค์ทรงโปรดคือ เซบิเช่, โกจิเบอร์รี่, กัซปาโช่, สลัดแตงโม, นมอัลมอนด์ และ tabbouleh (สลัดเลบานิส)

อยากสวยและสุขภาพดี แบบดัชเชสเคท แห่งเคมบริดจ์ บอกเลยไม่ยาก ลองทำตามเคล็ดลับของพระองค์ รับรองว่าคุณจะดูดีขึ้นมาแน่นอน

ภาพ : hrhtheduchessofcambridge, katemidleton

"แบซูจี" นางเอกซีรี่ส์ที่ขึ้นชื่อว่า ผิวสวยใสลุคแบบ Makeup No Makeup แทบทุกเรื่อง

“แบซูจี” นางเอกซีรี่ส์ที่ขึ้นชื่อว่า ผิวสวยใสลุคแบบ Makeup No Makeup แทบทุกเรื่อง

Alternative Textaccount_circle
"แบซูจี" นางเอกซีรี่ส์ที่ขึ้นชื่อว่า ผิวสวยใสลุคแบบ Makeup No Makeup แทบทุกเรื่อง
"แบซูจี" นางเอกซีรี่ส์ที่ขึ้นชื่อว่า ผิวสวยใสลุคแบบ Makeup No Makeup แทบทุกเรื่อง

แบซูจี นางเอกซีรี่ส์สุดปัง คืออีกคนที่ขึ้นชื่อว่า มีผิวสวยใสจนได้โชว์ลุคแบบ Makeup No Makeup แทบทุกเรื่อง ซึ่งเมคอัพอาร์ติสต์ที่ดูแลงานผิวให้เธอคือ จองแซมมุล เจ้าของแบรนด์งานผิวกลาสสกินตัวแม่นั่นเอง

แบซูจี 8

“แบซูจี” นางเอกซีรี่ส์ที่ขึ้นชื่อว่า ผิวสวยใสลุคแบบ Makeup No Makeup แทบทุกเรื่อง

แต่งหน้าเบาอย่างไรให้มีมิติ ผิวหน้าของคนเรานั้นมีความสม่ำเสมอ และรูขุมขนไม่เท่ากัน ฉะนั้น จึงไม่จำเป็นต้องลงรองพื้นให้เท่ากันทั่วทั้งใบหน้า แต่ต้องเติมแต่ง ปกปิดริ้วรอย และจุดบกพร่องบางจุดเพื่อสร้างบาลานซ์ เมื่อโดนแสงธรรมชาติจะทำให้ผิวดูสวยสุขภาพดี เนียนเรียบ บางเบา และชุ่มชื้น ราวกับเป็นผิวจริงๆ

แบซูจี 11

เทคนิคเฉพาะตัวของจองแซมมุลคือลงรองพื้นจาก V-Zone หรือกรอบหน้าก่อน เพราะเป็นบริเวณที่มีผิวหนา จึงต้องใช้รองพื้นมากกว่าส่วนอื่น จากนั้นใช้แปรงค่อยๆ เกลี่ย โดยใช้น้ำหนักมือแบบกลางๆ เพื่อให้เนื้อรองพื้นกระจายตัว จากนั้นเมื่อเกลี่ยในส่วน V-Zone แล้ว ขยับเข้ามาที่ดีเทลของใบหน้าอย่างรอบดวงตา ขอบจมูก และปาก ซึ่งในส่วนนี้ให้ใช้รองพื้นที่เหลืออยู่บนแปรงค่อยๆ เกลี่ยอย่างเบามือจนสีผิวดูสม่ำเสมอ

แบซูจี 10 แบซูจี 9 แบซูจี 7 แบซูจี 6 แบซูจี 5 แบซูจี 4 แบซูจี 3 แบซูจี 2 แบซูจี 1


ข้อมูล : นิตยสารแพรว ฉบับ 972
ภาพ : skuukzky

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เปิดไอเท็มปรับผิวเนียนใสของ “ลีโฮจุง” สาวสวยหน้าเก๋สุดคูล ที่มีดาเมจแรงเกินต้าน!

ผิวเนียนกริบด้วย เทคนิคลงรองพื้น แบบ Dakota Fanning ที่ทำแล้วเวิร์คมี 2 อย่าง

นาบีฮ็อตเกินต้าน! “ฮันโซฮี” สาวเกาหลีคนแรกที่ขึ้นแท่น Muse ของ Charlotte Tilbury

 

 

เมแกน มาร์เคิล

เมแกน มาร์เคิล เตรียมฉลองงานวันเกิดสุดหรู เข้าสู่วัย 40 ปี แบบเฉิดฉาย

account_circle
เมแกน มาร์เคิล
เมแกน มาร์เคิล

เมแกน มาร์เคิล เตรียมเฉลิมฉลองวันเกิดครบ 40 ปี จ้างอีเว้นท์ชื่อดังมาจัดงานสุดหรู รายล้อมไปด้วยเพื่อนสนิทจากหลากหลายวงการกว่า 65 คน

เมแกน มาร์เคิล เตรียมฉลองงานวันเกิดสุดหรู เข้าสู่วัย 40 ปี แบบเฉิดฉาย

ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ จะมีอายุครบ 40 ปีในวันที่ 4 สิงหาคม โดยแหล่งข่างอ้างว่า เมแกนมีแผนฉลองวันเกิดกับเจ้าชายแฮร์รี่ที่คฤหาสน์ส่วนตัวในมอนเตซิโต แคลิฟอร์เนียร์ โดยการจัดงานในครั้งนี้เธอได้จ้างนักวางแผนงานแต่งงานและการจัดงานอีเวนต์ชื่อดังอย่าง คอลิน โควี ที่มักจัดงานวันเกิดสุดหรูให้กับเหล่าเซเลบฯ มานักต่อนัก ซึ่งเขาได้รู้จักกับเมแกนผ่านการแนะนำของ โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรชื่อดัง

ทั้งนี้มีการเผยอีกด้วยว่า เมแกนต้องการจัดงานสังสรรค์แบบเล็ก เชิญแขกประมาณ 65 คน ซึ่งเป็นคนในครอบครัวและเพื่อนสนิท โดยรูปแบบของงานจะเป็นลักษณะแบบ grazing-tables ขณะที่เจ้าชายแฮร์รี่นั้นมีแผนว่า จะสั่งเค้กให้กับภรรยาของเขาจากร้านเบเกอรี่ในท้องถิ่นที่ชื่อว่า Posies & Sugar โดยเป็นเค้กประดับด้วยด้วยน้ำตาลไอซิ่งตกแต่งด้วยดอกไม้

อย่างไรก็ตามงานวันเกิดของดัชเชสแห่งซัสเซกส์จะปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด แม้แคลิฟอเนียร์จะมีการผ่อนผันสถานการณ์บ้างแล้วก็ตาม


ที่มา: www.express.co.uk

ไขข้อข้องใจเรื่อง ใบรับรองแพทย์โควิด-19 กรณีรักษาหายแล้ว

ไขข้อข้องใจเรื่อง ใบรับรองแพทย์โควิด-19 กรณีรักษาที่บ้านแบบ Home Isolation

Alternative Textaccount_circle
ไขข้อข้องใจเรื่อง ใบรับรองแพทย์โควิด-19 กรณีรักษาหายแล้ว
ไขข้อข้องใจเรื่อง ใบรับรองแพทย์โควิด-19 กรณีรักษาหายแล้ว

สปสช. แจงแนวทางการขอใบรับรองแพทย์กรณีหายจากการติดเชื้อโควิด-19 ถ้ารักษาในโรงพยาบาลให้แพทย์ผู้รักษาออกใบรับรองให้ แต่ถ้ารักษาที่บ้านหรือที่ชุมชนแบบ Home-Community Isolation ให้คลินิกหรือโรงพยาบาลที่รับดูแลเป็นผู้ออกใบรับรอง ส่วนใครที่กักตัวด้วยตัวเองไม่ได้อยู่ในระบบโรงพยาบาล หมอออกใบรับรองแพทย์ให้ไม่ได้

ไขข้อข้องใจเรื่อง ใบรับรองแพทย์โควิด-19 กรณีรักษาที่บ้านแบบ Home Isolation

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. เปิดเผยว่า ในระยะที่ผ่านมามีประชาชนจำนวนมากโทรเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการออกใบรับรองแพทย์กรณีหายจากการติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันจึงขอแจ้งรายละเอียดว่า กรณีรักษาตัวในโรงพยาบาล การขอออกใบรับรองแพทย์จะต้องให้แพทย์ผู้รักษาเป็นผู้ออกใบรับรองให้ อย่างไรก็ดี ในช่วงนี้เริ่มมีการใช้ระบบการดูแลรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation) หรือในชุมชน (Community Isolation) ในกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการหรือมีอาการเล็กน้อย ในกรณีนี้ต้องให้คลินิกหรือโรงพยาบาลที่รับดูแลผู้ป่วยรายนั้นๆ เป็นคนไข้ของตัวเอง เป็นผู้ออกใบรับรองแพทย์ให้

แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยหรือผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงกักตัวด้วยตัวเองโดยไม่ได้ลงทะเบียนเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาลหรือคลินิกชุมชนอบอุ่น แพทย์ไม่สามารถออกใบรับรองให้ได้

ทพ.อรรถพร กล่าวอีกว่า ในกรณีของการขอใบรับรองผลการตรวจว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่นั้น หากตรวจจากห้องปฏิบัติการ ให้ห้องปฏิบัติการที่ทำการตรวจเป็นผู้ออกใบรับรองผลให้ ส่วนกรณีผู้รับการตรวจคัดกรองเชิงรุกด้วย Antigen Test Kit ตามจุดให้บริการต่างๆ ซึ่งจะมีแพทย์พยาบาลจากหลายโรงพยาบาล หลายจังหวัดมาให้บริการตรวจนั้น ในกรณีที่พบว่ามีการติดเชื้อ จะได้ใบรับรองผลการตรวจ ณ จุดคัดกรองเลย แต่กรณีที่ผลตรวจเป็นลบและต้องการใบรับรองผล หลังจากตรวจแล้ว 1 วัน สามารถเข้าไปดาวน์โหลดใบรับรองได้ที่หน้าเว็บไซต์ของโรงพยาบาลที่ทำการตรวจ หรือหากหาไม่พบว่าต้องดาวน์โหลดตรงไหนก็สามารถโทรติดต่อสอบถามไปที่โรงพยาบาลนั้นได้โดยตรง

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ตรวจด้วยตัวเองโดยใช้ Antigen Test Kit ห้องปฏิบัติการไม่สามารถออกใบรับรองให้ได้ ผู้ที่ตรวจด้วยตัวเองอาจใช้การรับรองตัวเอง เช่น ถ่ายรูปเป็นหลักฐาน อย่างไรก็ดี การใช้วิธีการการรับรองด้วยตัวเองแบบนี้จะใช้เป็นหลักฐานทำธุรกรรม เช่น เบิกประกันสุขภาพ ประกันสังคม ประกันชีวิต ได้หรือไม่ยังไม่ทราบได้

ส่วนกรณีบริษัทต่างๆ ที่มีข้อกำหนดว่าต้องมีใบรับรองการติดโควิด-19 เพื่อประกอบการลางาน ให้เป็นการเจรจากันเองระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ทางเจ้าหน้าที่สายด่วน 1330 ไม่สามารถตอบแทนได้ เช่นเดียวกับนายจ้างต้องการให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซ้ำ เพื่อขอใบรับรองแพทย์ไปยืนยันที่ทำงาน กรณีนี้เป็นการตกลงกันเองระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง สายด่วน 1330 ไม่สามารถตอบแทนให้ได้

ใบรับรองแพทย์โควิด-19


ข้อมูล : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ภาพ : Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

“หมอโอ๊ค สมิทธิ์” สอนใช้ Rapid Antigen Test ตรวจโควิด-19 ให้ถูกวิธีด้วยตัวเอง

ช่องทางติดต่อ หากป่วยโควิด-19 เข้าระบบดูแลที่บ้าน (Home Isolation) ทำตามนี้  

ไขข้อสงสัยควร ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 หรือเข็มกระตุ้นเมื่อไร ใช้ตัวไหนดี?

 

 

SOMI

เพลงป็อปสไตล์สุดจี๊ด SOMI คัมแบ็กพร้อมซิงเกิลใหม่ ‘DUMB DUMB’

Alternative Textaccount_circle
SOMI
SOMI

ศิลปินมากความสามารถ โซมี  ( SOMI ) ลูกครึ่งเเคนาดา-เนเธอร์เเลนด์-เกาหลีที่มีคาแรกเตอร์สุดโดดเด่นและใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์จากค่ายเพลงน้องใหม่มาแรง THEBLACKLABEL (เดอะแบล็คเลเบิ้ล) กลับมาพร้อมซิงเกิลใหม่ ‘DUMB DUMB’ (ดัมบ์ ดัมบ์) เพลงที่อัดแน่นด้วยคุณภาพจากฝีมือของโปรดิวเซอร์มือทองระดับโลก TEDDY PARK (เท็ดดี้ ปาร์ค) ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวง K-pop ระดับตำนานอย่าง BIGBANG, 2NE1 และ BLACKPINK

เพลงป็อปสไตล์สุดจี๊ด SOMI คัมแบ็กพร้อมซิงเกิลใหม่ ‘DUMB DUMB’

‘DUMB DUMB’ (ดัมบ์ ดัมบ์) ถือเป็นซิงเกิลใหม่ในรอบหนึ่งปี หลังจากที่โซมีปล่อยเพลง ‘What You Waiting For’ ออกมาเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2020 สำหรับซิงเกิลล่าสุด ‘DUMB DUMB’ (ดัมบ์ ดัมบ์) ครั้งนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาวสุดมั่นเเละผู้ชายที่เธอเเอบชอบ โดยนอกจากลุคใหม่กับสไตล์ที่โตและจัดจ้านขึ้นกว่าเดิม ซิงเกิลนี้ก็มาพร้อมทำนองป็อปบีทแน่น และมัดใจผู้ชมด้วยท่าเต้นอันแข็งแรง โดดเด่น ซึ่งสามารถถ่ายทอดบุคลิกที่ผสมผสานความมั่นใจและละเอียดอ่อนของโซมีออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ ที่สำคัญ SOMI ได้มีส่วนร่วมในการเขียนเนื้อเพลงด้วยตัวเอง ประกอบกับฝีมือการโปรดิวซ์ของ ผู้ก่อตั้งค่าย THEBLACKLABEL อย่าง TEDDY PARK ร่วมด้วยทีมโปรดิวเซอร์ R.TEE เเละ 24 ก็ทำให้ผลงานชิ้นนี้มีพลังและเอกลักษณ์ในแบบของ โซมี

SOMI

ไม่เพียงเท่านี้โซมียังได้ฝากข้อความและความรู้สึกมาถึงแฟน ๆ ที่รอคอยผลงานดังนี้ “สวัสดีค่ะทุกคน ฉันกลับมาพร้อมซิงเกิลใหม่ ‘DUMB DUMB’! ฉันชอบเพลงนี้มาก เพราะมันเป็นเพลงที่แสดงทุกบุคลิกของโซมีออกมา ตั้งแต่น่ารัก ขี้เล่น สนุกสนาน ไปจนถึงมั่นใจค่ะ ท่าเต้นเพลงนี้ก็สนุกมากเช่นกันค่ะ ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นทุกคนมาเต้นตามเพลงนี้ไปพร้อมกันค่ะ มันเป็นปีที่ยุ่งมาก ๆ ตั้งแต่การปล่อยซิงเกิลก่อนหน้านี้ค่ะ ไปจนถึงการทำงานในเพลงต่าง ๆ มากมาย ฉันเองก็รอไม่ไหวที่จะได้โชว์ให้ทุกคนได้ชมทุก ๆ อย่างที่ฉันตั้งใจเตรียมเอาไว้สำหรับปีนี้ค่ะ”

โซมี

สำหรับมิวสิกวิดีโอเพลง ‘DUMB DUMB’ ถ่ายทอดเรื่องราวของโซมีสาวน้อยสุดมั่นที่รู้ถึงสิ่งที่ตนเองต้องการจึงเริ่มเข้าหาชายหนุ่มที่เธอแอบชอบในโรงเรียน โดยจะมีฉากที่ SOMI สนุกสนานกับเพื่อน ๆ, ทำตัวให้โดดเด่นจากฝูงชนในงานปาร์ตี้ การเเกล้งเดินเข้าไปชนคนที่ตัวเองชอบตรงโถงทางเดินในโรงเรียน พร้อมทำให้แน่ใจว่าความพยายามในการดึงความสนใจจากคนที่ตัวเองชอบจะไม่ถูกมองข้าม อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนชุดหลากหลายแบบ รวมถึงเบรกแดนซ์ที่ออกแบบด้วยท่าเต้นอันมีเอกลักษณ์ของเธอ นับเป็นมิวสิกวิดีโอที่รวบรวมพลังของเพลง และทิศทางใหม่ของ โซมีได้อย่างสมบูรณ์แบบ


 

แว่นตา Versace ดีไซน์แบบเอเชีย

เปิดตัว แว่นตา Versace คอลเล็คชั่นใหม่ ทรงสวยหรู ดีไซน์แบบเอเชีย

แว่นตา Versace ดีไซน์แบบเอเชีย
แว่นตา Versace ดีไซน์แบบเอเชีย

แว่นตา Versace ได้นำเสนอคอลเล็คชั่น และแคมเปญแรกที่สร้างขึ้นสำหรับตลาดเอเชียโดยเฉพาะ โดยแคมเปญนี้ได้ Dany Lee ผู้มีชื่อเสียงและเป็นผู้นำความคิดเห็นคนสำคัญ

VE 4407D 

สไตล์ทรงสี่เหลี่ยมอันหรูหราที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโครงสร้างสะพานเหล็กที่ทันสมัย มาพร้อมกับแป้นรองจมูก การออกแบบที่เพรียวบางนี้ มีขาแว่นแว่นโลหะหล่อขึ้นลาย Greca สีทอง รุ่นแว่นกันแดดนี้มีจำหน่ายในสีเบอร์กันดี มากับขาแว่นสีทองด้านข้าง บวกกับเลนส์สีน้ำตาลไล่ระดับสีม่วง หรือจะเป็นสีดำที่ตัดกับขาแว่นสีทอง บวกกับเลนส์สีเทาเข้ม

แว่นตา Versace-2 แว่นตา Versace-3 แว่นตา Versace vsc 002-1

VE 3302D 

แว่นกันแดดที่มาพร้อมกับความล้ำสมัยและความเก๋ไก๋ กรอบแพนทอสโค้งมน ทรงโอเวอร์ไซส์เล็กน้อย ให้มาพร้อมกับแป้นรองจมูก ขาแว่นเป็นโลหะหล่อขึ้นลาย Greca สีทอง การออกแบบเสริมสร้างความเป็นผู้หญิง มีจำหน่ายในรูปแบบสีโปร่งแสง ทั้งสีแดงและสีดำ

แว่นตา Versace-1

แว่นตา Versace

แว่นตา Versace vsc 002


 บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ฉลองครบรอบ 200 ปี ‘มองซิเออร์หลุยส์ วิตตอง’ ผู้อยู่เบื้องหลังอาณาจักรหลุยส์

ชิคไม่มีสะดุด ROLLER QUILT รองเท้าสเก็ต BOTTEGA VENETA ที่ไม่ควรพลาด

ดีไซน์สวยทุกรุ่น! เปิดลิสต์ 3 กระเป๋า Balenciaga พร้อมดีเทลและราคา

 

ศูนย์บริการเคลือบแก้ว

OPEN NOW เปิดให้บริการสาขาใหม่ ศูนย์บริการเคลือบแก้วชั้นนำระดับพรีเมี่ยม G2C By ThreeBond สาขาสิรินธร-บางพลัด

ศูนย์บริการเคลือบแก้ว
ศูนย์บริการเคลือบแก้ว

G2C Glass Coating Club By Threebond ศูนย์บริการเคลือบแก้วชั้นนำ เปิดให้บริการแล้ว 4 สาขา ได้แก่ สาขาดินแดง-วิภาวดี , สาขางามวงศ์วาน-พงษ์เพชร , สาขาสุขุมวิท 42 และสาขาน้องใหม่ สาขาสิรินธร-บางพลัด ให้บริการโดดเด่นด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์คุณภาพจากประเทศญี่ปุ่น เราเป็นร้านเคลือบแก้วชั้นนำที่ให้บริการอย่างครอบคลุม ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้รถ ในเรื่องการดูแลและรักษาสีรถ ให้บริการเคลือบแก้วด้วยน้ำยาสูตรเฉพาะของเราเอง โดยช่างผู้เชี่ยวชาญมากฝีมือ เพื่อให้สีรถของคุณสวยเงางามอย่างยาวนาน พร้อมประกันคุณภาพสูงสุดถึง 6 ปี

น้ำยาเคลือบแก้วสูตรเฉพาะ NE’X PREMIUM จาก Theebond (ทรีบอนด์) ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญในการบริการด้านผลิตภัณฑ์สำหรับการดูแลรักษายานยนต์อย่างแท้จริง ด้วยประสบการณ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการศึกษาวิจัยที่เน้นเรื่องการพัฒนาคุณภาพการผลิตมานานกว่า 80 ปี โดยในประเทศไทยทรีบอนด์ดำเนินธุรกิจมาแล้วกว่า 30 ปี ซึ่ง G2C By Threebond ถือเป็นหนึ่งในบริการคุณภาพจากทรีบอนด์ ประเทศญี่ปุ่น เพราะฉะนั้น มั่นใจในคุณภาพการให้บริการ และผลิตภัณฑ์ของ G2C ได้แน่นอน

นอกจาก G2C จะเป็นร้านเคลือบแก้วชั้นนำแล้ว เรายังมาพร้อมกับบริการที่เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบริการล้างทำความสะอาด ขัดลบรอย เคลือบเบาะ เคลือบกระจก เคลือบล้อแม็กซ์ บริการซักเบาะซักพรม ไปจนถึงบริการติดตั้งฟิล์มกรองแสงรถยนต์ และบริการกล้องติดหน้ารถยนต์ เพื่อให้คุณมั่นใจในเรื่องของคุณภาพ เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับเท่านั้น

ศูนย์บริการเคลือบแก้ว G2C By ThreeBond

ศูนย์บริการเคลือบแก้ว G2C By ThreeBond

ด้วยทีมงานคุณภาพจาก G2C Glass Coating Club By Threebond ศูนย์บริการเคลือบแก้ว ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างมืออาชีพ ทำให้คุณสามารถวางใจได้ว่าทีมงานของG2Cสามารถ ดูแลรถของคุณได้อย่างดีที่สุด

ศูนย์บริการเคลือบแก้ว G2C By ThreeBond

ศูนย์บริการเคลือบแก้ว G2C By ThreeBond

ศูนย์บริการเคลือบแก้ว G2C By ThreeBond

ดูแลรถครบวงจร ครอบคลุมทุกงานบริการ มาตรฐานแท้ๆ จากบริษัท ทรีบอนด์ ประเทศญี่ปุ่น ครอบคลุมทุกงานบริการ ตอบโจทย์การดูแลให้กับรถของคุณ

ศูนย์บริการเคลือบแก้ว G2C By ThreeBond

ศูนย์บริการเคลือบแก้ว G2C By ThreeBond

🚘 เดินทางสะดวกบนถนน สิรินธร ตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้า ตั้งฮั่วเส็ง จากทางด่วนเพียง 5 นาที
Googla Map : https://goo.gl/maps/zV2s8V3t8QmHsnqo9

 

เปิดทุกวัน เวลาเปิด 08.00-18.00 น.

 

..อย่าตัดสินใจทำที่ไหนถ้ายังไม่ได้ปรึกษาเรา..

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารจาก G2C Glass Coating Club By Threebond ได้ทุกช่องทาง

Line Official : @g2cbythreebond

Facebook : www.facebook.com/glasscoatingclub

Website : www.glasscoatingclub.com

หมายเลขโทรศัพท์ :​

​สาขา สิรินธร – บางพลัด ​

📲094-489-7557 ​

☎️02-116-3433 ​

สาขา งามวงศ์วาน – พงษ์เพชร ​

📲094-480-8448 ​

☎️02-115-9626, ​

สาขา ดินแดง – วิภาวดี ​

📲061-820-0395 ​

☎️02-245-5469, ​

สุขุมวิท 42 (อาคาร VIV) ​

📲061-820-0392 ​

☎️02-390-3061

ซูริ ครูซ

โตเป็นสาวแล้ว “ซูริ ครูซ” ลูกสาว ทอม ครูซ ถอดแบบแม่ “เคที โฮล์มส์” มาเป๊ะๆ

account_circle
ซูริ ครูซ
ซูริ ครูซ

เผลอแพล็บเดียว “ซูริ ครูซ” ลูกสาวนักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดัง ทอม ครูซ โตเป็นสาวแล้ว แถมยังก็อปปี้คุณแม่ “เคที โฮล์มส์” มาเป๊ะๆ

โตเป็นสาวแล้ว “ซูริ ครูซ” ลูกสาว ทอม ครูซ ถอดแบบแม่ “เคที โฮล์มส์” มาเป๊ะๆ

เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ footwearnews.com ได้ออกมาเผยรูป “ซูริ ครูซ” ลูกสาว ทอม ครูซ ในลุคสบายๆ ขณะเดินเล่นอยู่ในนิวยอร์ก สาวน้อยวัย 15 ปี แมชต์ลุคให้เข้ากับซัมเมอร์ เธอสวมเสื้อกล้ามสีขาว แมชต์กับกางเกงวอร์มขายาวเอวต่ำ และรองเท้าแตะรุ่น Nudes จากแบรนด์ TKEES รองเท้าแตะเรียกได้ว่ากลับมาฮ็อตฮิตอีกครั้งในหมู่คนดัง โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าแตะหูหนีบแบบคลาสสิค หรือ รองเท้าส้นสูงหูหนีบ

สำหรับลุคของสาวซูริ เรียกได้ว่าถอดแบบแม่เคที่มาเต็มๆ ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เคทีได้ใส่ชุดที่คล้ายคลึงกับลูกสาว เธอใส่เสื้อกล้ามสีขาว กับกางเกงสีดำเอวต่ำ แมชต์กับร้องเท้าสุขภาพจากแบรนด์  “Dawson’s Creek”

สไตล์ของซูริที่เธอชอบใส่มักจะเป็นเสื้อผ้าใส่สบายๆ มีความเป็นลึคสตรีทอย่าง เสื้อยืด กับกางเกงขาสั้น หรือจะเป็นเสื้อกล้ามแมชต์กับกางเกงยีนส์ เดรสผ้าพลิ้ว แมชต์กับรองเท้าผ้าใบ เป็นต้น


ภาพ : @suricruise.official/Instagram

จากภาพวาด 23 ล้าน สู่เจ็ท 200 ล้าน ของขวัญสุดหรู “ลูกสาว” ซุป’ตาร์ระดับโลก

เจี๊ยบ-โสภิตนภา

อยู่มานานเป็น 10 ปี! บุกคลังรองเท้า เจี๊ยบ-โสภิตนภา ใช้งานคุ้มทุกคู่

เจี๊ยบ-โสภิตนภา
เจี๊ยบ-โสภิตนภา

บุกคลังรองเท้า เจี๊ยบ-โสภิตนภา ผู้จัดฯ และนักแสดงมากฝีมือ ที่เรื่องแฟชั่นก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร แถมรองเท้าคู่เก่งของเธอคนนี้ ยังถือเป็นไอเท็มที่สาวๆ ควรมีติดบ้านไว้ด้วยนะจ๊ะ แต่จะเป็นรองเท้าแบบไหน ก็ต้องตามมาส่องกันเลย

ผู้จัดฯ และนักแสดงมากความสามารถ เจี๊ยบ-โสภิตนภา เปิดคลังรองเท้าของตัวเอง ผ่านรายการ คุณโสภิต รายการบนช่องยูทูบของเธอ โดยสาวเจี๊ยบเผยว่า “หลายคนอาจจะคิดว่าเจี๊ยบอินเทรนด์มาก ตามกระแส และต้องซื้อรองเท้าแพงมาก เยอะมาก แต่จริงๆ รองเท้าที่อยู่ในตู้นี้ อยู่มานานแสนนานเป็น 10 ปี บางคู่ก็ยังอยู่ แต่บางคู่ก็เก่าแล้ว”

บุกคลังรองเท้า เจี๊ยบ-โสภิตนภา

บุกคลังรองเท้า เจี๊ยบ-โสภิตนภา

“ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าเป็นรองเท้าที่ใช้งานมาแล้วทั้งนั้น อยู่มานาน ใช้ตามโอกาสต่างๆ ด้วยความที่เป็นนักแสดง เป็นคุณแม่ เป็นคนชอบผจญภัย เป็นนักกีฬา เลยได้สะสมรองเท้าหลายๆ ประเภทไปด้วย” และถ้าถามว่ารองเท้าคู่ที่แพงที่สุด สาวเจี๊ยบยกให้ Christian Louboutin ที่มีด้วยกัน 4 คู่ เป็นรองเท้าที่แนะนำให้สาวๆ มีติดบ้านไว้เลย แต่ถ้าแพงเกินไป ก็แนะนำให้ซื้อรองเท้าสีดำและสีเนื้อแบบนี้ในราคาย่อมเยาเก็บเอาไว้

ส่วนรองเท้าที่สามารถใส่ได้กับลุคของเธอคือสนีกเกอร์ของ Converse ไม่ว่าใส่เข้ากับกระโปรง กางเกงขาบาน กางเกงข้าม้า กางเกงสีดำ สีขาว หรือยีนส์ คู่เดียวก็เปรี้ยวได้ทั้งโลก และอีกคู่ที่ชอบมากๆ รักมาก ถ้าพังก็จะไปซ่อม คือรองเท้าส้นสูงจาก Kenneth Cole ที่พอใส่แล้วทำให้ดูเปรี้ยวมาก ราคาก็ไม่แพงถ้าเทียบกับไฮแบรนด์อื่นๆ

บุกคลังรองเท้า เจี๊ยบ-โสภิตนภา
Christian Louboutin
บุกคลังรองเท้า เจี๊ยบ-โสภิตนภา
เมื่อดูดีเทลของ Christian Louboutin ใกล้ๆ จะเห็นว่าผ่านการใช้งานมานาน
บุกคลังรองเท้า เจี๊ยบ-โสภิตนภา
สนีกเกอร์จาก Converse
บุกคลังรองเท้า เจี๊ยบ-โสภิตนภา
รองเท้าส้นสูงสีดำจาก Kenneth Cole
บุกคลังรองเท้า เจี๊ยบ-โสภิตนภา
สวมรองเท้าจาก Kenneth Cole แล้วเปรี้ยวแซ่บจริงๆ ค่า

สำหรับรองเท้าคู่ที่รักมากที่สุดคือ รองเท้ากีฬาที่คุณสามีเลือกให้ เพราะเมื่อต้องไปยิม กลับหารองเท้าที่เหมาะกับการออกกำลังกายไม่ได้ คุณสามีเลยซื้อคู่นี้ให้เป็นของขวัญ และรองเท้าคู่ที่ได้มายากที่สุด เสาะหามานาน และชอบมากๆ อีกหนึ่งคู่คือ Reebok ในคอลเล็คชั่นพิเศษ Vetements x Reebok เพราะสาวเจี๊ยบมองว่าตัวอิโมจิบนรองเท้าเหมือนกับเธอ ทั้งยังเป็นอิโมจิที่เธอใช้บ่อยๆ บนอินสตาแกรม

บุกคลังรองเท้า เจี๊ยบ-โสภิตนภา
รองเท้ากีฬา ของขวัญจากคุณสามี
บุกคลังรองเท้า เจี๊ยบ-โสภิตนภา
Reebok ในคอลเล็คชั่นพิเศษ Vetements x Reebok

อีกหนึ่งคำถามสนุกๆ ที่เชื่อว่าสาวๆ หลายคนต้องคิดตามคือ ถ้าโลกจะแตก แล้วสามารถเลือกรองเท้าที่จะเอาไปได้เพียง 2 คู่ จะเลือกคู่ไหน ซึ่งคู่แรกที่สาวเจี๊ยบเลือกคือรองเท้าผ้าใบคู่เก่งจาก Converse และอีกคู่คือส้นสูงสีดำจาก Louboutin

บุกคลังรองเท้า เจี๊ยบ-โสภิตนภา

บุกคลังรองเท้า เจี๊ยบ-โสภิตนภา

บุกคลังรองเท้า เจี๊ยบ-โสภิตนภา

บุกคลังรองเท้า เจี๊ยบ-โสภิตนภา

ปิดท้ายด้วยการเปรียบเทียบรองเท้าเป็นอวัยวะในร่างกาย สาวเจี๊ยบก็ได้ให้คำตอบว่า “เปรียบง่ายๆ ก็คือเท้านี่แหละ ปกติเจี๊ยบเป็นคนหลังค่อม พอใส่ส้นสูงก็จะทำให้อกผายไหล่ผึ่ง ถ้าเราได้ใส่รองเท้าดีๆ สักคู่ มันจะทำให้เราเกิดความมั่นใจ สิ่งที่ใส่แล้วดูสวย ทำให้บุคลิกภาพดี สำคัญมากกว่าราคาที่แพง”

ใครที่อยากดูคลิปแบบเต็มๆ ก็คลิกตรงนี้เลย


ภาพ : IG@jeabsopidnapa , Youtube ช่อง คุณโสภิต
ที่มา :  Youtube ช่อง คุณโสภิต
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รักการถักนิตติ้ง Tom Daley นักกระโดดน้ำเหรียญทองโอลิมปิก กับผลงานระดับมืออาชีพ

สวยเก๋มีสไตล์ ลุคนอกการแข่งขัน ‘สุนิสา ลี’ เจ้าของเหรียญทองยิมนาสติกโอลิมปิก

สวยสง่าดุจเจ้าหญิง ‘ตี๋ลี่เร่อปา’ สวมกระโปรง Poem แบบเดียวกับ ญาญ่า

โคลนนิ่งแม่ ก็อปปี้พ่อ “โรมิโอ เบ็คแฮม” วัย 18 ขึ้นแท่นนายแบบ ฉายแววนักกีฬา

account_circle

ยิ่งโต ยิ่งหล่อ “โรมิโอ เบ็คแฮม” วัย 18 ขึ้นแท่นเป็นนายแบบเต็มตัว ถ่ายปกหนังสือแฟชั่นระดับโลก ตามรอยแม่วิค รวมถึงยังฉายแวว ความเป็นนักกีฬา แบบป๋าเบ็คมาอีกด้วย

จัดว่าเป็นหนึ่งในลูกชายคนดังที่ตอนนี้กำลังได้รับความสนใจจากสื่อสำหรับ โรมิโอ เบ็คแฮม ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวได้ฝากผลงานแฟชั่นกับการถ่ายปกหนังสือแฟชั่นครั้งแรกกับ L’Umo Vouge ในธีม “Generetion Issue” ซึ่งได้ช่างภาพชื่อดัง Mert Alas และ Marcus Piggot เป็นผู้ลั่นชัตเตอร์

งานนี้แฟนๆ ที่ได้เห็นแฟชั่นเซ็ตของโรมิโอ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าละม้ายคล้ายแม่ไม่มีผิด มีความเฟี้ยซ และ แฟชั่นนิสต้า ถอดแบบวิคตอเรียมาเป๊ะ ที่สำคัญคือหล่อมากๆๆๆๆๆ ใดๆ ใครจะภูมิใจ ก็คงไม่เท่าป๋าเบค แม่วิคที่ต่างออกมาชมเปาะถึงลูกชายคนนี้

ไม่เพียงได้ส่วนที่โดดเด่นของแม่วิค แต่ความเป็น “เบ็คแฮม” ของโรมิโอก็ดูเหมือนว่าจะเดินตามรอยเท้าของพ่อแม่ที่มีชื่อเสียง ได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน

ฉายแววนักกีฬา

 

แน่นอนว่ามีพ่อเป็นถึงอดีตนักฟุตบอลระดับโลก การปลูกฝังให้ลูกรักการเล่นกีฬา โดยเฉพาะ ฟุตบอล คงไม่ใช่เรื่องแปลก ทั้งนี้โรมิโอเคยตอบคำถามแฟนๆ ในอินสตาแกรมว่า “คุณตั้งเป้าหมายที่จะเป็นนักฟุตบอล [sic]” ซึ่งเจ้าหนูโรมิโอก็ตอบอย่างเร็วรี่ว่า “ใช่” แม้หนทางที่จะเดินตามรอยพ่อเบ็ค อาจเป็นเรื่องที่ชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม เทนนิสก็ดูเหมือนว่าจะเป็นกีฬาโปรดของโรมิโอไม่น้อย ถึงขนาดที่สองสามีภรรยาได้สร้างสนามเทนนิสมูลค่า 40,000 เหรียญสหรัฐ (1.1 ล้านบาท) ในปี 2018 เพื่อให้โรมิโอฝึกซ้อมที่ฟาร์มเฮาส์ Cotswolds  ซึ่งเขายังได้ร่วมฝึกซ้อมกับผู้เล่นชั้นนำ เช่น แอนดี้ เมอร์เรย์ และ กริกอร์ ดิมิตรอฟ เป็นต้น

จอมโรแมนติก

ถ้าจะบอกว่า พี่ใหญ่แห่งบ้าน บรู๊คลิน เบ็คแฮม ชอบโชว์ความหวานกับนิโคลา คู่หมั้นจนน้ำตาลจืดแล้วล่ะก็ น้องชายอย่าง โรมิโอ ก็สวีทกับแฟนสาวที่เอะอะกอด เอะอะหอมกันตลอดไม่แพ้พี่บรู๊คเลยค่ะ!! ซึ่งสาวที่กำลังออกเดทกับโรมิโอคือ Mia Regan นางแบบชาวอังกฤษวัย 18 ปี แว่วว่าหวานใจของเขากำลังถูกเลือกให้เป็นนางแบบของแบรนด์ “Victoria Beckham” เอ๊ะแบบนี้แสดงว่าผ่านแม่วิคเซย์เยส

พี่ชายที่แสนดี

ในบรรดาพี่น้องที่โรมิโอดูจะเปิดเผยความรักแบบไม่มีขัดเขิน เห็นจะเป็นน้องเล็ก ฮาร์เปอร์ วัย 9 ขวบ เจ้าหญิงของบ้าน ซึ่งเขามักจะโพสต์รูปถ่ายที่น่ารักของเขาและน้องสาวด้วยกันเป็นประจำ พร้อมกับแคปชั่นน่ารัก น่าเอ็นดูให้กับฮาเปอร์อยู่เสมอ

อายุ 18 ยังหล่อกร้าวใจขนาดนี้ โตขึ้นกว่านี้รับรองออร่ามาเต็ม เราอาจจะได้เห็นทายาทเบ็คแฮมคนนี้ในวงการแฟชั่น กลายเป็นนายแบบบนแคทวอร์คให้กับแบรนด์ดังต่างๆ หรือ เป็นนักกีฬาระดับโลก ก็เป็นได้


Cr: @romeobeckham, L’Umo Vouge

ถักนิตติ้ง Tom Daley นักกระโดดน้ำเหรียญทองโอลิมปิก

รักการถักนิตติ้ง Tom Daley นักกระโดดน้ำเหรียญทองโอลิมปิก กับผลงานระดับมืออาชีพ

ถักนิตติ้ง Tom Daley นักกระโดดน้ำเหรียญทองโอลิมปิก
ถักนิตติ้ง Tom Daley นักกระโดดน้ำเหรียญทองโอลิมปิก

กิจกรรมยามว่างที่อาจสร้างเป็นอาชีพได้ของ Tom Daley นักกระโดดน้ำเหรียญทองโอลิมปิก 2020 กับการถักนิตติ้งที่เจ้าตัวรักมาก ขนาดเอามานั่งถักข้างสนามแข่งเลยทีเดียว

เป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ได้รับความสนใจไม่น้อย สำหรับ ทอม เดลีย์ นักกระโดดน้ำจากทีมชาติอังกฤษ วัย 27 ปี ที่สามารถคว้าเหรียญทองครั้งแรกในชีวิต หลังลงแข่งขันโอลิมปิกเกมส์เป็นครั้งที่ 4 ในการแข่งขันกระโดดน้ำชายคู่ 10 เมตร ซึ่งเขาฝึกฝนกีฬานี้มาตั้งแต่อายุ 7 ขวบเลยทีเดียว

นอกจากผลงานเหรียญทองในการแข่งขัน โอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 เขายังมีความโดดเด่นเรื่องการถักนิตติ้งอีกด้วย ถ้าสายงานกีฬาไม่รุ่งอาจสามารถประกอบอาชีพเป็นนักออกแบบเสื้อถักไปแล้ว และการรักนิตติ้งของเขาก็กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก เมื่อมีภาพของ ทอม เดลีย์ กำลังนั่งถักนิตติ้งอยู่บนอัฒจันทร์ ระหว่างรอการแข่งขันกระโดดน้ำหญิงระยะ 3 เมตร ในรอบชิงชนะเลิศ

ล่าสุดเขาถักกระเป๋าสำหรับใส่เหรียญทองโอลิมปิกลายธงชาติ รวมถึงเสื้อให้น้องหมา ทั้งนี้เขายังมีฝีมือขั้นเทพที่ถักได้ทุกอย่าง ตั้งแต่เสื้อผ้าเด็ก หมวก รองเท้า ไปจนถึงโซฟาขนาดเล็กให้แมว เรามาดูกันว่าผลงานของทอมจะสวยงามและครีเอตขนาดไหน

รักการถักนิตติ้ง Tom Daley นักกระโดดน้ำเหรียญทองโอลิมปิก กับผลงานระดับมืออาชีพ


ภาพ : IG@madewithlovebytomdaley

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แชมป์โลกในโหมดแบ๊ว ‘น้องเทนนิส’ ใส่ รองเท้า CROCS ขึ้นรับเหรียญทอง

ถอดลุคนักกีฬา ‘อาเดรียน่า อิเกลเซียส’ คู่แข่ง น้องเทนนิส ในรอบชิงชนะเลิศ

ผลงานรีไซเคิล! ชุดน้ำแข็งไสของ ‘Misia’ นักร้องชาวญี่ปุ่น ในวันเปิด โอลิมปิกเกมส์

 

IPG Mediabrands

ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส แต่งตั้ง ดร. สร เกียรติคณารัตน์ เป็นแม่ทัพคนใหม่ของ อินิชิเอทีฟ ประเทศไทยสานต่อความสำเร็จมีเดีย เอเยนซี่คุณภาพอันดับหนึ่งของประเทศ

IPG Mediabrands
IPG Mediabrands

ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส (IPG Mediabrands) ประกาศแต่งตั้ง ดร. สร เกียรติคณารัตน์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย (Initiative Thailand) อย่างเป็นทางการ เพื่อสานต่อความสำเร็จล่าสุดของ อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย ในฐานะมีเดีย เอเยนซี่ ด้านคุณภาพอันดับ 1 ของประเทศไทยในปี 2020 ซึ่งจัดอันดับโดย RECMA บริษัทวิจัยระดับโลกที่ประเมินผลงานเชิงคุณภาพการให้บริการของมีเดีย เอเยนซี่ในระดับโลก ระดับภูมิภาคและระดับประเทศ

IPG Mediabrands

ดร. สร ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย เพื่อเป็นแม่แรงสำคัญในการขับเคลื่อนและขยายขีดความสามารถของอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย ในยุคที่พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัลและเทคโนโลยี รวมถึงการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด – 19   ซึ่งอินิชิเอทีฟมีจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องการเป็นพาร์ทเนอร์ในการเติบโตทางธุรกิจให้กับลูกค้าผ่านกรอบการทำงานแบบ Cultural Velocity – การเข้าใจวัฒนธรรมการใช้ชีวิต และความเป็นตัวตนของผู้บริโภค ผ่าน ดาต้าและเครื่องมือต่างๆที่ทำให้สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ช่วยให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนธุรกิจและการสื่อสารให้เข้ากับยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของวัฒนธรรมการใช้ชีวิตได้ตลอดเวลา


 


 

ด้วยประสบการณ์มากกว่า 23 ปี ในแวดวงสื่อและโฆษณา รวมทั้งการให้คำปรึกษาด้านแบรนด์   ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวเรือใหญ่ของอินิชิเอทีฟ ประเทศไทยนั้น ดร. สร เคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกลยุทธ์ ให้กับไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย และนับตั้งแต่ ดร. สร เข้าร่วมไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2555  เขากลายเป็นนักกลยุทธ์สำคัญในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยเป็นผู้นำทางความคิด ในการพัฒนาแนวคิดและกลยุทธ์ให้กับสินค้าและบริษัทชั้นนำของประเทศไทย ดร. สร จึงได้รับการยอมรับว่า เป็นผู้มีส่วนสำคัญในการผลักดันธุรกิจของเครือข่าย ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งจนถึงปัจจุบัน

คุณเอมี่ อาร์มสตรอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด อินิชิเอทีฟ โกลบอล (Global CEO) กล่าวว่า “ดร. สร เป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล และมีความเฉียบแหลมทางด้านธุรกิจ ทำให้เขาเหมาะสมกับตำแหน่งผู้นำของอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย และฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็น ดร. สร เป็นผู้นำทัพ ขับเคลื่อนสร้างการเติบโตและนำความสำเร็จมาสู่ อินิชิเอทีฟ ประเทศไทยในอนาคต” ขณะที่คุณลีห์ เทอร์รี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก (IPG Mediabrands APAC) และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอินิชิเอทีฟภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก (Initiative APAC) กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ดร. สร เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย เพราะ ดร. สร เป็นทั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญและรักในงานวางแผนกลยุทธ์ และเป็นผู้นำในการสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจอย่างแท้จริง ซึ่ง ดร. สร มีผลงานโดดเด่นในการขับเคลื่อนการพัฒนาธุรกิจและวิธีแก้ปัญหาโดยสร้างวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นในตลาดประเทศไทย ผมรู้สึกยินดีที่ได้เห็นพัฒนาการด้านความสามารถอันยอดเยี่ยมของเขา จนตัวเขาได้รับการแต่งตั้งให้อยู่ในตำแหน่งผู้นำสำคัญที่สุดคนหนึ่ง และจากผลงานที่ผ่านมา ดร. สร เป็นแรงผลักดันสำคัญ ผู้อยู่เบื้องหลังกลยุทธ์ที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับเอเยนซี่ ในเครือไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย ผมเชื่อว่าเขาจะสานต่อแรงผลักดันที่แข็งแกร่งนี้ให้กับอินิชิเอทีฟ ประเทศไทยต่อไปได้อย่างแน่นอน”

IPG Mediabrands

ดร. ธราภุช จารุวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย กล่าวถึงผู้นำอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย คนใหม่ว่า จากบทบาทก่อนหน้านี้ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกลยุทธ์ ดร. สร พิสูจน์แล้วว่า เขาเป็นนักวางแผนเชิงกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับบริษัทต่าง ๆ ในเครือไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานเชิงกลยุทธ์ที่สร้างการเติบโตทางธุรกิจให้กับลูกค้า ในขณะเดียวกัน ดร. สร ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างผลงานให้กับลูกค้าจนได้รับรางวัลทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศอย่างมากมาย ทั้งนี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย เชื่อมั่นว่า ดร. สร จะเดินหน้าสร้างความสำเร็จในทศวรรษที่ 3 ให้กับอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย ต่อจากคุณวรรณี รัตนพล ผู้ก่อตั้งและเป็นตำนานของอินิชิเอทีฟ และคุณมาลี กิตติพงศ์ไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย คนก่อนหน้า

ดร. สร เกียรติคณารัตน์ ยืนยันถึงการสานต่อความสำเร็จให้กับอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย ในทศวรรษที่ 3 นี้ว่า “ความก้าวหน้าและวัฒนธรรมเป็นรากฐานสำคัญของอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย มาโดยตลอด ผมมุ่งมั่นที่จะยกระดับจากการแก้ปัญกาเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ พร้อมพัฒนานวตกรรมการบริการที่จะช่วยให้ลูกค้าของเรานำหน้าคู่แข่งทางธุรกิจอยู่เสมอ โดยผมจะเน้นเรื่องการทำงานอย่างใกล้ชิดกับคู่ค้าทางธุรกิจ และเน้นการสร้างความสุขและพัฒนาศักยภาพพนักงานของเรา ให้เติบโต มีความคล่องตัวและก้าวนำสถานการณ์โลก การสร้างความสุขในการทำงานจะเป็นตัวจุดประกายสำคัญที่จะช่วยสร้างสรรค์ผลงานที่ดีในฐานะพาร์ทเนอร์ทางความคิดเชิงรุกให้กับลูกค้า ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายหลักของผม คือ การทำให้ อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย เป็นสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดสำหรับคนที่รักความก้าวหน้า เป็นเอเยนซี่ที่ดีที่สุดของลูกค้าที่รักและพันธมิตรทางธุรกิจ เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้แบรนด์สร้างสิ่งใหม่ๆที่โดนใจในวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภค – we help brand takes initiative into the culture”

ด้านคุณมาลี กิตติพงศ์ไพศาล อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย หนึ่งในผู้สร้างความสำเร็จให้กับอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย จะยังคงดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านธุรกิจฝ่ายบริหาร ให้กับไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย ต่อไปในปี 2021

 

เกี่ยวกับ ดร. สร เกียรติคณารัตน์

ดร. สร เริ่มต้นการทำงานในปี พ.ศ. 2540 ที่ เดนท์สุ ยังก์ แอนด์ รูบิแคม (Dentsu Young & Rubicam) ในฐานะนักวางแผนกลยุทธ์ ก่อนมาร่วมงานกับ โลว์ (ลินตาส) (Lowe (Lintas) ในปี พ.ศ. 2543 เพื่อร่วมบุกเบิกการเป็นเอเยนซี่ที่ให้คำปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์ แห่งแรก ๆ ของประเทศไทย ดร. สร ทำงานด้านกลยุทธ์และการพัฒนาธุรกิจที่โลว์ เป็นระยะเวลา 10 ปี ก่อนเข้าร่วมกับยูโร อาร์เอสซีจี (ฮาวาส) (Euro RSCG (HAVAS) ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และในปี พ.ศ. 2555 ดร. สร เข้าร่วมงานกับไอพีจี มีเดียแบรนด์ส โดยดำรงตำแหน่งแรก คือ กรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรม ของไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย ซึ่ง ดร. สร เป็นผู้จัดตั้งแผนกกลยุทธ์การสร้างแบรนด์และการสื่อสารให้กับเอเยนซี่ต่าง ๆ ในเครือไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกลยุทธ์ ของไอพีจี มีเดียแบรนด์ส

ดร. สร เป็นผู้บริหารที่มีแนวคิดบวก เปิดกว้างและพร้อมที่จะรับสิ่งใหม่เสมอ (Growth Mindset) และเป็นคนที่ชอบเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) อย่างแท้จริง พิสูจน์ได้จากการที่ ดร. สร ได้สำเร็จการศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขานิเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพในปี พ.ศ. 2563 โดยเชี่ยวชาญเรื่องนวัตกรรมสังคมองค์กร (Corporate Social Innovation) นอกจากบทบาทใหม่ที่ อินิชิเอทีฟ (Initiative) ประเทศไทย แล้ว ดร. สร ยังดำรงตำแหน่งกรรมการสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) และเป็นกรรมการอิสระและกรรมการที่ปรึกษาภายนอกของมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง

 

เกี่ยวกับ อินิชิเอทีฟ

อินิชิเอทีฟ เป็นมีเดีย เอเยนซี่ระดับโลก ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างแบรนด์ให้เติบโตผ่านวัฒนธรรม และในช่วงสามปีที่ผ่านมา เราได้รับการเสนอชื่อให้เป็น มีเดีย เอเยนซี่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก จัดอันดับโดย RECMA หน่วยงานอิสระในการจัดอันดับคุณภาพมีเดีย เอเยนซี่ กุญแจสู่ความสำเร็จของเรา คือ ข้อเท็จจริงที่ว่า มีเดีย เอเยนซี่ส่วนใหญ่เน้นการสร้าง การรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) โดยอาจมีอคติกับการใช้เงินลงทุนกับสื่อ ซึ่งเราแตกต่างจากมีเดีย เอเยนซี่นั้น เพราะเราเป็นมีเดีย เอเยนซี่ ที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค (Brand Relevance) โดยมีกลยุทธ์สำคัญ คือ Cultural Velocity การใช้วัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วขับเคลื่อนแบรนด์ เราเชื่อว่าแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จจะต้องให้ความสำคัญ และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยแบรนด์ต้องเข้ามามีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งและแทรกซึมในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค เราเรียกสิ่งนี้ว่า Cultural Velocity™ ซึ่งเป็นมาตราวัดความเร็วที่แบรนด์เคลื่อนผ่านวัฒนธรรมในสังคม และสร้างความเกี่ยวข้องเชื่อมโยง ยิ่งแบรนด์ก้าวไปพร้อมกับวัฒนธรรมได้เร็วเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งมีความเกี่ยวข้องกับผู้บริโภคได้มากขึ้นเท่านั้น และส่งผลต่อการเติบโตทางธุรกิจอย่างก้าวกระโดด

ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย ได้ที่เว็บไซต์ https://ipg-connect.com/th/cultural-agency-initiative-thailand/

 

เกี่ยวกับไอพีจี มีเดียเบรนด์ส

IPG MEDIABRANDS คือ องค์กรระดับโลก ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูล ในเครือ Interpublic Group (NYSE: IPG) เราบริหารและดูแลการลงทุนทางด้านการสื่อสารการตลาดให้กับลูกค้า โดยมีมูลค่ารวมกันกว่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐใน 130 ประเทศทั่วโลก และเรามีผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารรวมตัวกันมากกว่า 13,000 คน เรามีการให้บริการแบบครบวงจรในทุกมิติของการเป็นเอเยนซี่ระดับโลก โดยภายใต้เครือข่ายของ IPG Mediabrands นั้นรวมไปถึงบริษัทสำหรับการวางแผนสื่อและการตลาดชั้นนำอย่าง UM, Initiative และ BPN และกลุ่มบริษัทที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านข้อมูลและการวิจัยอย่าง MAGNA, Matterkind และ ดิจิทัลเอเยนซี่ อย่าง Reprise www.ipgmediabrands.com , LinkedIn, Twitter or Instagram.

keyboard_arrow_up