กู้ทะลุเพดาน หนี้ครัวเรือนสูงเป็นประวัติการณ์ … จะเกษียณยังไงให้มีเงินล้าน?

Alternative Textaccount_circle

สถานการณ์ ณ ขณะนี้ GDP ของไทยต่ำสุดในรอบหลายปี หนี้ครัวเรือนสูง และไทยอยู่ในสังคมผู้สูงอายุที่มีมากกว่า 12.5 ล้านคน โดยภายใน 15 ปี จะเพิ่มเป็น 20 ล้านคน สวนกับอัตราการเกิดใหม่ ที่สำนักบริหารการทะเบียนกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ระบุว่าปี 2567  มีประชากรเกิดใหม่ไม่ถึง 5 แสนคน ถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 70 ปี 

          เรากำลังอยู่ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงมากที่สุด โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่ชะงักทั่วโลก ยังไม่นับรวมหนี้ครัวเรือนที่สูงเป็นประวัติการณ์       คำถามคือ เราจะจัดการเงินอย่างไรให้มั่นคงตลอดรอดฝั่งจนถึงวันเกษียณ

         กูรูการเงิน พอล-ภัทรพล ศิลปาจารย์ มีคำตอบ

1.รู้วิธีผ่อนหนี้ ไม่ให้ทะลุเพดาน

            เศรษฐกิจทุกประเทศจะมีการกู้หนี้ 3 รูปแบบ หนึ่ง รัฐกู้ สอง เอกชนกู้ และสาม ประชาชนกู้ ตอนนี้ประเทศไทยมาถึงจุดที่กู้จนสุดตัว ทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจช้าลง

หนี้ภาครัฐทะลุเพดานแล้ว หนี้เอกชนก็เยอะ ส่วนหนี้ประชาชนก็สูงเป็นประวัติการณ์ ดูได้จากหนี้ครัวเรือนและหนี้นอกระบบ

            สำหรับหนี้ครัวเรือน ปกติมีหนี้ดีกับหนี้เสีย บอกก่อนว่าหนี้ไม่ได้แย่เสมอไป เช่น บางคนกู้มาลงทุนซื้อบ้านหรือคอนโดไว้ปล่อยเช่า นี่เรียกว่าหนี้ดี แต่มีจำนวนน้อยเพราะคนส่วนมากกู้ไปซื้อสินค้าบริโภคที่ไม่สร้างรายได้ อันนี้เรียกหนี้เสีย

            ความจริงคนไม่ได้มีปัญหาเรื่องหนี้ แต่มีปัญหาเรื่องรายได้ครับ ถ้ารายได้มากพอ เราจะไม่เป็นหนี้ เพราะฉะนั้นต้องโฟกัสที่รายได้ก่อน อันดับแรก ผมอยากให้คุณเปลี่ยนสมการเรื่องการใช้จ่ายใหม่เป็น  ‘รายได้-เงินออม/เงินลงทุน = รายจ่าย’ คือออมก่อน เงินที่เหลือค่อยนำไปใช้จะมีเงินเก็บมากขึ้น

            ส่วนเรื่องการใช้จ่าย เวลาซื้ออะไรให้คิดว่า นี่คือ need หรือ want อะไรคือสิ่งจำเป็น อะไรคือสิ่งที่อยากมี ถ้าใช้เงินเกินตัวจนเป็นหนี้บัตรเครดิตจะฟื้นตัวยาก เพราะคุณจะโดนสิ่งที่เรียกว่า ‘ดอกเบี้ยทบต้น’

            คือดอกเบี้ยที่ถูกทบกับเงินต้นแล้วกลายเป็นเงินต้นในงวดถัดไปนั่นเอง ขอยกตัวอย่างหนี้ในระบบ ดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะอยู่ที่ราวๆ  21 เปอร์เซ็นต์ สมมติคุณเป็นหนี้ 100,000 บาท จะกลายเป็น 200,000 ในเวลา 3 ปีครึ่ง และจะขยับเพิ่มขึ้นเป็นหลักล้าน หนักไปกว่านั้น ถ้าเป็นหนี้นอกระบบ คุณอาจถูกคิดดอกเบี้ยที่ 20 เปอร์เซ็นต์ต่อสัปดาห์ หากไม่มีเงินจ่าย ก็จะถูกปรับขึ้นเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน และถ้าค้างไปเรื่อยๆ จะเพิ่มเป็น 800 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ไม่มีมนุษย์คนใดในโลกหาเงินใช้หนี้ขนาดนี้ได้ สิ่งที่ผมแนะคือ รวมหนี้ก้อนใหญ่ (ทั้งในระบบและนอกระบบ) แล้วไปผ่อนกับธนาคารแทน คุณจะใช้หนี้ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง อีกวิธีคือขอคำแนะนำจาก คลินิกแก้หนี้ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.debtclinicbysam.com)  จะมีทางเลือกในการผ่อนหนี้หลากหลายแบบครับ”

2.ซื้อทองตอนนี้ ไม่มีคำว่าสาย

            ถ้าพูดถึงการซื้อทองโดยเน้นลงทุนระยะยาว แนะนำว่าซื้อไปเถอะครับ ไม่มีคำว่าสายเกินไปหรอก เพราะถ้าดูในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนของทองคำอยู่ที่ 8 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ค่อนข้างสูง และราคาทองคำวันนี้กับอดีต ก็ต่างกันเยอะเลยใช่มั้ยครับ

ปกติการซื้อทองมี 2 แบบ คือซื้อเป็นทองคำแท่ง กับซื้อแบบออมทอง ซึ่งเป็นการซื้อแบบถัวเฉลี่ย ทยอยซื้อเพื่อสะสมทุกเดือน ผมแนะนำว่า คนที่ไม่ใช่มืออาชีพซึ่งอาจจับจังหวะการลงทุนไม่ถูก แนะนำให้ ซื้อแบบถัวเฉลี่ย คือ ซื้อเท่ากันทุกเดือน อาจจะเดือนละ 5,000 บาท และให้ซื้อวันเดียวกัน เพื่อตัดอารมณ์ลังเลออกไป ไม่ต้องกังวลว่าราคาจะแพงหรือถูก ถ้าซื้อแบบนี้เราจะได้ทองทุกราคา ถูกบ้าง แพงบ้าง กลางบ้าง หากซื้อติดต่อ 20 ปี ก็จะได้ทองจำนวนมากเลย

            ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ สมมติซื้อทองคำ 5,000 ทุกเดือน ติดต่อกัน 20 ปี โดยมีผลตอบแทนอยู่ที่ 8 เปอร์เซ็นต์ต่อปี คุณจะมีเงิน 2,800,000 บาท โดยลงทุนไปเพียง 1,200,000  ได้เงินเพิ่มมา 1,600,000 นี่คือผลตอบแทนดอกเบี้ยทบต้นครับ

            และไม่ใช่แค่ทอง ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์อะไร ราคาก็เพิ่มขึ้นเพียงแต่ผมบอกไม่ได้ว่า ขึ้นเท่าไหร่เท่านั้นเองเหตุผลคือนับวันเงินด้อยค่าลง เพราะโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าเงินเฟ้อคุณใช้การซื้อทองเป็นการออมก็ได้นอกจากนี้เรายังใช้วิธีซื้อถัวเฉลี่ยกับการลงทุนชนิดอื่น เช่น บิทคอยน์ คริปโต หรือ S&P 500 (ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เป็นดัชนีตลาดหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ 500 แห่งในสหรัฐ) ทยอยซื้อได้ทุกเดือนเช่นกันครับ

3.ลงทุนเสี่ยงบ้าง

             สำหรับวัยเกษียณ หากอยากลงทุนแบบเสี่ยงต่ำอย่างเดียว ควรเปลี่ยนความคิดครับ

            สมมติขณะนี้คุณอายุ 60 คาดว่าจะมีชีวิตถึงอายุ 90 ใช้เงินเดือนละ 25,000 บาท จากนี้ไป 30 ปี ต้องมีเงินเก็บ 9 ล้านบาท คำถามคือคุณมีพอไหม ถ้าไม่มีก็ต้องหาหรือลงทุนเพิ่ม เพราะฉะนั้นถ้าลงทุนโดยเน้นว่าเงินต้องปลอดภัย ทางเลือกจะมีไม่เยอะ เช่น ออมทรัพย์ ฝากประจำ หรือซื้อหุ้นกู้ซึ่งผลตอบแทนจะน้อยเสมอ

            แต่ถ้าอยากรู้ว่าตัวเองเสี่ยงได้แค่ไหน ลองนำกฎ ‘120-อายุ’ ไปใช้ได้ครับ ยกตัวอย่าง ถ้าคุณอายุ 30 ปี ใช้ 120-30 ปี =90 ความหมายคือ คุณสามารถลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงได้ 90 เปอร์เซ็นต์ในหุ้น คริปโต และ 10 เปอร์เซ็นต์ลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงน้อย เช่น ตราสารหนี้ หุ้นกู้ แต่ถ้าคุณอายุ 60 ผลจะออกมาเป็น 120-60 ปี=60 คุณสามารถลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง 60 เปอร์เซ็นต์ และ อีก 40 เปอร์เซ็นต์ เป็นสินทรัพย์ที่เสี่ยงน้อย

            และสุดท้าย ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร คุณต้องวางแผนวัยเกษียณตั้งแต่วันนี้ สูตรมีดังนี้ครับ ‘อายุขัย (อายุที่คิดว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ถึง) – อายุเกษียณ (อายุที่คุณเกษียณจากการทำงาน) = A แล้วนำ A คูณ 12 เดือน จากนั้นนำผลลัพธ์ที่ได้คือ B ไปคูณเงินที่คุณคิดว่าจะใช้ในแต่ละเดือนหลังเกษียณ นั่นคือเงินที่คุณต้องเก็บ ณ ตอนนี้ครับ

            ผมลองคำนวณให้ดูนะครับ

            85 (อายุขัย) – 55 (อายุเกษียณ)= 30 ปี (ที่ไม่มีเงินเดือน)

            30 ปี (ที่ไม่มีเงินเดือน) x 12 เดือน = 360 เดือน (ที่ไม่มีเงินเดือน)

            360 เดือน (ที่ไม่มีเงินเดือน) x 50,000 บาท (เงินที่คาดว่าจะใช้ต่อเดือน) =18 ล้านบาทครับ!

และนี่คือเงินที่ต้องเก็บก่อนอายุ 55 ปี (ซึ่งยังไม่รวมเงินเฟ้อ ที่ปกติจะขึ้นประมาณ 5 เท่า ถ้าคูณเบ็ดเสร็จ ต้องมีเงินเก็บประมาณ 90 ล้านบาท!) นั่นเป็นสาเหตุที่การลงทุนต้องมีความเสี่ยงบ้าง เพราะถ้าคุณเก็บเงินสดอย่างเดียว ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล และกว่าจะถึงเป้าหมายก็ยากมาก เราจึงต้องมีการลงทุนเข้ามาช่วย

            อ่านจบแล้ว อยากลงทุนเลยใช่มั้ยครับ

อ่านบทความฉบับเต็มได้ในนิตยสารแพรว คอลัมน์ Money Wise ฉบับพฤษภาคม  2568


เรื่อง Fai

IRENE & SEULGI

IRENE & SEULGI ยูนิตจาก Red Velvet คัมแบ็กครั้งแรกในรอบ 5 ปี

Alternative Textaccount_circle
IRENE & SEULGI
IRENE & SEULGI

IRENE & SEULGI ยูนิตจาก Red Velvet คัมแบ็กครั้งแรกในรอบ 5 ปี ด้วยมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ชื่อว่า ‘TILT’ ซึ่งมี 6 เพลงใหม่ที่เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์หลากหลายแนว

IRENE & SEULGI แห่ง Red Velvet ส่งมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ‘TILT’ เผยโลกดนตรีสุดไฮเอนด์บอกเล่าเรื่องราวและความสัมพันธ์ที่หลากหลายผ่าน 6 เพลงใหม่ไฮเอนด์ตั้งแต่ดนตรี คอนเซปต์ จนถึงภาพลักษณ์สำหรับยูนิต Red Velvet – IRENE &  SEULGI (เร้ดเวลเว็ท – ไอรีน แอนด์ ซึลกิ) ที่เปิดตัวมินิอัลบั้มชุดใหม่‘TILT’  พาสัมผัสถึงวิวัฒนาการของ‘ยูนิตที่สมบูรณ์แบบ’ ที่อัปเกรดขึ้นในทุกด้านซึ่งแฟนเพลงให้การตอบรับอย่างร้อนแรงจนอัลบั้มติดอันดับTOP10 บนชาร์ต iTunes Top Albums ทั่วโลกกว่า 30 ภูมิภาค รวมถึงอันดับ 1 บนชาร์ต Real-time rising ของ AWA ประเทศญี่ปุ่น นับเป็นการคัมแบ็กในฐานะยูนิตในรอบ 5 ปี หลังจากปล่อยมินิอัลบั้มชุดแรก ‘Monster’ (มอนส์เตอร์)

เมื่อเดือนกรกฎาคม 2020มินิอัลบั้มชุดที่ 2 ‘TILT’  มาพร้อมข้อความเกี่ยวกับการที่ยิ่งเกิดแรงสั่นไหวมากเท่าไรในกระบวนการหลุดพ้นออกจากกรอบเดิมและเปลี่ยนมุมมอง ก็ยิ่งนำไปสู่การเติบโตและเปล่งประกายมากขึ้นเท่านั้นในอัลบั้มนี้ประกอบด้วยทั้งหมด 6 เพลง ถ่ายทอดเรื่องราวและความสัมพันธ์ที่หลากหลายเริ่มต้นด้วยเพลงไตเติลสุดติดหู ‘TILT’  แนวป็อปแดนซ์ที่ผสมผสาน R& Bและจังหวะอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างลงตัว ถ่ายทอดความสัมพันธ์ที่เติบโตไปพร้อมกันอย่างสมดุลไม่ใช่การแข่งขันที่จะเอนเอียงไปทางแพ้หรือชนะ โดยใช้คำว่า ‘TILT’แทนทั้งความเอียงและความพยายามสู่ความสำเร็จ

ด้านมิวสิกวิดีโอสะท้อนภาพของ IRENE & SEULGI  ที่ผลักดันกันและกันจนก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองนอกจากนี้ มินิอัลบั้มนี้ยังเต็มไปด้วยเพลงหลากหลายสีสัน ไม่ว่าจะเป็น ‘What’s Your Problem?’ ที่ตีความกลิ่นอายฮิปฮอป R& B ยุค 90 ออกมาใหม่ด้วยทัศนคติสุดคูลว่า ‘ฉันอาจไม่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ แต่ฉันสมบูรณ์แบบสำหรับฉัน’,‘Irresistible’ เพลงแนว R& B ป็อปแดนซ์กับเสียงร้องลึกลับเล่าถึงการตกหลุมรักสิ่งที่ดึงดูดใจซึ่งแท้จริงแล้วคือตัวเอง, ‘Girl Next Door’เพลงป็อปแดนซ์มอบคำปลอบโยนและคำชื่นชมแด่ผู้หญิงธรรมดาในยุคนี้ที่เปล่งประกายและมั่นใจ, ‘Trampoline’เพลง R& B ป็อปแดนซ์พูดถึงความปรารถนาให้ใครสักคนเป็นแสงนำทางในคืนที่มืดมน และ ‘Heaven’ แนว R& Bป็อปแดนซ์กับข้อเสนออันกล้าหาญในการพิสูจน์ความคู่ควรกับความรักทั้งนี้ IRENE &  SEULGI เตรียมเดินหน้าพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในฐานะ ‘ยูนิตที่สมบูรณ์แบบ’ด้วยการทำกิจกรรมโปรโมตต่าง ๆ เริ่มจากคอนเสิร์ตที่กรุงโซล ในวันที่ 14-15 มิถุนายนนี้

IRENE & SEULGI

ซึ่งบัตรจำหน่ายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่งเรียบร้อย ตามด้วยการจัดทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรก ‘2025 IRENE&SEULGI Concert Tour [ BALANCE ] in ASIA’ ใน 7 ภูมิภาคทั่วเอเชีย รวมถึงประเทศไทย‘2025 IRENE &  SEULGI Concert Tour [ BALANCE ] in BANGKOK’ ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ณ พารากอน ฮอลล์

Wilai

Wilai ศิลปินมากความสามารถ ผู้ผสมดนตรีไทยและสากลได้อย่างลงตัว

Alternative Textaccount_circle
Wilai
Wilai

ในวงการเพลงไทยปัจจุบัน มีศิลปินรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองมากมาย หนึ่งในนั้นคือ “วิไล” ( Wilai ) ศิลปินหญิงมากความสามารถที่สร้างความโดดเด่นด้วยสไตล์เพลงที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานกลิ่นอายของดนตรีไทยเข้ากับดนตรีสากลได้อย่างลงตัว จนเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง

Wilai

วิไลไม่ได้มีดีแค่เสียงร้องที่ไพเราะ แต่เธอยังมีความสามารถในการแต่งเพลงและนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจผ่านบทเพลงของเธอ ผลงานเพลงที่ผ่านมาของวิไลแสดงให้เห็นถึงความกล้าที่จะทดลองและผสมผสานดนตรีหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็น Pop, R&B หรือ Electronic ที่ถูกนำมาผสานเข้ากับเครื่องดนตรีไทยและท่วงทำนองที่มีความเป็นไทยได้อย่างน่าสนใจ

นพาร์ทงานดนตรี งานแสดงสดของเธอได้พาให้เธอได้เข้าสู่งานดนตรีสำคัญทั้งในประเทศและสหรัฐอเมริกา เธอเติบโตมาท่ามกลางจิตวิญญาณแบบไทย แต่ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์ก  ได้มีโอกาสร่วมแสดงในงานพรีโชว์ของ Rolling Loud Thailand สานต่อพลังด้านงานเพลงมากมาย  ไม่ว่าจะเป็น  “Rent Due” , “Toupe” และ “”Water” ซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีจากการเผยแพร่ผ่านบล็อกต่างๆ และการรีโพสต์โดยเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงการปรากฏบนแพลตฟอร์มไวรัลอย่าง Spiritual Word  , for the speakers , What nyc sounds like , รายการวิทยุ 105.1 (New York) , IHeart Radio และ  Spotify ของวิไล ที่มีจำนวนผู้ฟังต่อเดือนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง 

ล่าสุดกับซิงเกิล  Salawan (Get Down)  ซิงเกิลใหม่สุดเร่าร้อนจาก วิไล ศิลปินหน้าใหม่ที่กล้าผสมผสานวัฒนธรรมและเสียงดนตรีอย่างลงตัว เธอเติบโตมาท่ามกลางจิตวิญญาณแบบไทย แต่ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์ก  จุดเด่นของเพลงนี้คือ เสียงที่ไม่เหมือนใคร – ทำนองแบบไทยแท้ผสานกับโปรดักชันระดับสากล สร้างสรรค์เป็นแทร็คแดนซ์ที่ทั้งเต็มไปด้วยความทรงจำและความสดใหม่ บวกกับเสียงร้องของวิไลเต็มไปด้วยพลัง  ถ่ายทอดความมั่นใจผสานกับจิตวิญญาณแบบไทยได้อย่างลงตัวเพลง เพลงนี้ได้ Producer มากฝีมืออย่าง Brownzer ผู้เคยร่วมงานกับศิลปินแถวหน้าอย่าง Twopee และ Gunner  ร่วมด้วย  Co producer and Arranged by Charles “action ade” Adewale  creative director Nigerian-American เกิดและโตที่ The Bronx, New York City  มีผลงานกับ Swae lee และ Saint Jhn   เพลง Salawan (Get Down)  เป็นการรีเมคจากเพลงไทยในอดีตที่ถูกปรับโฉมให้กลายเป็นแดนซ์แทร็คสุดมันในคลับยุคปัจจุบัน ด้วยการผสมผสานระหว่าง เครื่องดนตรีไทยดั้งเดิม และ จังหวะฮิปฮอปและบีบอยสไตล์นิวยอร์ก 

Salawan (Get Down) พร้อมสร้างกระแสไวรัลด้วยท่าเต้นประกอบเพลง ที่สาวๆ บนฟลอร์แดนซ์พร้อมใจกัน “โยกย้าย” ตามท่อนฮุกของเพลง  สำหรับ Wilai เพลงนี้ไม่ใช่แค่การปล่อยซิงเกิล แต่เป็นการแสดงตัวตนทางวัฒนธรรม เพื่อ  พิสูจน์ให้เห็นว่า เมื่อดนตรีตะวันออกและตะวันตกมาบรรจบกันบนฟลอร์เต้นรำ มันคือเวทมนตร์อย่างแท้จริง

MITSUKOSHI DEPACHIKA จัดเต็ม! เสิร์ฟแคมเปญใหญ่ Let’s Feast! @ ONE BANGKO

Alternative Textaccount_circle

แพรว ชวนเปิดประสบการณ์การช้อป! ซูเปอร์มาร์เก็ต-ฟู้ดฮอลล์ กับ MITSUKOSHI DEPACHIKA (มิตซูโคชิ เดปาจิกะ) ซูเปอร์มาร์เก็ต และ ฟู้ดเดสติเนชั่นระดับเวิลด์คลาสใจกลางกรุงเทพฯ @ ชั้น B1 โซน พาเหรด วัน แบงค็อก ที่พร้อมให้บริการเต็มรูปแบบแล้ววันนี้ กับผลิตภัณฑ์โกรเซอรี่และศูนย์รวมอาหารระดับพรีเมียมที่คัดสรรมาอย่างครบครัน ซึ่งถือโอกาสเปิดตัวแคมเปญ ‘อิชโชนิ ทาเบะโย’ Let’s Feast! เชิญชวนทุกคนร่วมเพลิดเพลินกับช่วงเวลาของการช้อปปิ้ง พร้อมร่วมลิ้มลองอาหารและสัมผัสการบริการสไตล์ญี่ปุ่นต้นตำรับไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้ – 18 มิถุนายน 2568  

มร. โอโนะ มาซาโตะ ผู้จัดการทั่วไปของ มิตซูโคชิ เดปาจิกะ กล่าวว่า “นับตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการในประเทศไทย มิตซูโคชิ เดปาจิกะ มุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งในซูเปอร์มาร์เก็ต-ฟู้ดฮอลล์ที่มีเอกลักษณ์ เฉพาะตัวในแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ ให้กับคนกรุงเทพฯ พร้อมยกระดับไปอีกขั้นด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์และอาหารคุณภาพสูงจากภูมิภาคต่างๆ ของญี่ปุ่น ควบคู่ไปกับสินค้าท้องถิ่นชั้นเยี่ยมที่คัดสรรมาจากทั่วประเทศไทยและประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาให้เลือกสรรกันอย่างครบครันมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม โดยจากนี้ไปเราจะมุ่งขยายไลน์สินค้า ร้านค้าและบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ มิตซูโคชิ เดปาจิกะ ยังคงเป็นหมุดหมายที่ทุกคนนึกถึงเมื่อต้องการค้นพบรสชาติและไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ในทุกๆ วัน”

MITSUKOSHI DEPACHIKA จัดเต็ม พร้อมจัดแคมเปญใหญ่ Let’s Feast! @ วัน แบงค็อก เติมเต็มประสบการณ์ซูเปอร์มาร์เก็ต-ฟู้ดฮอลล์

ส่อง มิตซูโคชิ เดปาจิกะ มีอะไรใหม่บ้าง

MITSUKOSHI Gourmet Zone (โซนอาหาร) เพลิดเพลินกับของกินและร้านอาหารระดับพรีเมียมที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Yokosho ตรอกร้านอาหารในญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยร้านค้ากว่า 20 ร้านโดยกว่า 10 ร้าน เป็นร้านที่มีเฉพาะที่ มิตซูโคชิ เดปาจิกะ เท่านั้น มีตั้งแต่ขนมหวานญี่ปุ่นยอดนิยมไปจนถึงอาหารนานาชาติ รวมถึงร้านอาหารที่เปิดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เช่น Warabimochi Kamakura, Shodai Bio Nature, Takeshi Shibata, Ponpocotei, Gin Sara, Yaorin และ Chaya Ganyudo นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารชื่อดังที่มาเปิดสาขาในศูนย์การค้าเป็นครั้งแรก อาทิ Gateau Lien และ Pala Pizza Romana & Bistrot

MITSUKOSHI Supermarket Zone (โซนซูเปอร์มาร์เก็ต) แหล่งรวมสินค้าและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวันกว่า 10,000 รายการ ทั้งจากประเทศไทยนำเข้าจากญี่ปุ่น และจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ด้วยคอนเซปต์ Grocerant ที่ผสมผสานประสบการณ์การรับประทานอาหารและการเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว ไฮไลท์ที่น่าสนใจ ได้แก่ ผักและผลไม้สดตามฤดูกาล ส่งตรงจากเครือข่ายเกษตรกรที่มีคุณภาพของมิตซูโคชิในญี่ปุ่น

Japanese Wagyu Destination พบเนื้อวากิวระดับพรีเมียม และบริการจาก Meat Master ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการ cooking เพื่อรับประทานในร้าน, Seafood Experience from Japan อาหารทะเลพิเศษตามฤดูกาลส่งตรงจากญี่ปุ่น พร้อมซูชิและซาชิมิหลากหลายชนิด

MITSUKOSHI Selections Corner คอลเล็คชั่นสินค้า Only at MITSUKOSHI สินค้าจากญี่ปุ่นที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดีเยี่ยมมีจำหน่ายแค่ที่นี่เท่านั้น, โกรเซอรี่ระดับพรีเมี่ยมครบครันด้วยสารพันสินค้าในชีวิตประจำวันตั้งแต่ส่วนผสมเครื่องปรุงอาหารญี่ปุ่น ไปจนผลิตภัณฑ์บำรุงต่างๆ รวมทั้งมุมผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและความงามนำเข้าจากญี่ปุ่นและเกาหลี,  Murahata Fruit Parlor ร้านผลไม้ชื่อดังของญี่ปุ่น, Deli Bar อาหารพร้อมรับประทานที่ปรุงสดใหม่ทุกวัน และ Specialty Stores ร้านสินค้าเฉพาะทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลากหลายตั้งแต่มิโซะสดจาก Kuranoya ไปจนถึง Jalux ร้านจำหน่ายขนมและของที่ระลึกมากมายจากญี่ปุ่นแท้ๆ

แคมเปญและโปรโมชั่นแห่งปี

เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า มิตซูโคชิ เดปาจิกะ เปิดตัวแคมเปญ Let’s Feast โดยจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ – 18 มิถุนายน2568 กับโปรโมชั่นที่พลาดไม่ได้และอีเว้นต์อาหารสุดพิเศษมากมาย อีกทั้งไฮไลท์สุดพิเศษตลอดช่วงแคมเปญ

  • Weekend Lucky Draw:ลุ้นรับรางวัลมากมายพร้อมร่วมรับประทานอาหารฟรีทุกวันเสาร์ อาทิตย์
  • Dining Delights: ลิ้มลองอาหารจานพิเศษพร้อมส่วนลด 50%
  • Exclusive Cooler Bag: รับกระเป๋าเก็บความเย็นฟรี เมื่อใช้จ่าย 2,500 บาทในโซน ซูเปอร์มาร์เก็ต และ Gourmet ภายในวันเดียวกัน
  • Top Spender Prize:ลูกค้าที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดในช่วงเดือนของแคมเปญ รับฟรีแพ็คเกจห้องพักสุดหรูจากโรงแรม The Ritz-Carlton, B

ดื่มด่ำศิลปะแห่งชา เยือน “Timeless Tea” เจี้ยนชาสาขาใหม่ ที่สยามดิสคัฟเวอรี่

account_circle

ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ชา” กลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนไทยยุคนี้ สังเกตจากตลาดชาที่ขยายเป็นวงกว้าง ชนิดที่ว่าเดินไปทางไหนเราก็เจอร้านชาให้เลือกมากมาย โดยหนึ่งในนั้นคือ “เจี้ยนชา” แบรนด์ชาพรีเมียมสัญชาติไทยที่ได้รับการการันตีความอร่อยจากปากลูกค้ามานักต่อนัก เมื่อกระแสตอบรับดีขนาดนี้ เจี้ยนชาจึงถือโอกาสเปิดสาขาใหม่ที่ สยามดิสคัฟเวอรี่ ภายใต้คอนเซปต์ “Timeless Tea” ให้ทุกคนได้ดื่มด่ำไปกับศิลปะแห่งชาในบรรยากาศสุดพิเศษ และร่วมสมัย พร้อมเปิดตัวเมนูใหม่ล่าสุด “Royale Nest Milk Tea” เครื่องดื่มที่ร่วมมือกับแบรนด์รังนกคุณภาพระดับพรีเมียม SCOTCH

ในงานเปิดตัว เมื่อ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา แขกทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์พิเศษ ทั้ง Troop Fashion Walk ในธีม “Timeless Tea”, กิจกรรมจับฉลากของที่ระลึกสุดพิเศษ รวมถึงโซนทดลองชิมเมนูใหม่เฉพาะวันงาน นอกจากนี้ยังมี เมนูพิเศษจาก SCOTCH เปิดตัว “Royale Nest Milk Tea” เมนูพรีเมียมที่ผสมผสานความหรูหราและความอร่อยจากรังนกแท้ในชานมคามิเลีย หอมละมุน พร้อมกับเจลลี่หอมหมื่นลี้ พร้อมด้วยเมนูใหม่ ไอศกรีมเจลาโต้ 3 รส ได้แก่ มัทฉะเอสเซนส์, พีชขาวบลอสซัม, และ ออริจินัลเหนือกาลเวลา พร้อมท็อปปิ้งสุดพิเศษ อย่าง เฮเว่น ไรซ์ ดีไลท์, ทาโร่ เซเรเนด, แมงโก้ ทไวไลท์ บลิส, และ สยาม ซันเซ็ต

คุณพอลลี่ (Dr.Polly) พร้อมด้วยคุณแฮปปี้-ภาณุวัชร วัฒนกิจรุ่งโรจน์  ผู้ก่อตั้งแบรนด์ JIAN CHA กล่าวว่า “เราต้องการให้เจี้ยนชาเป็นพื้นที่ที่ลูกค้าสามารถดื่มด่ำชาในมิติใหม่ ทั้งในรสชาติและประสบการณ์ ตั้งแต่การออกแบบร้าน เมนู ไปจนถึงกิจกรรมที่จะสื่อถึงวัฒนธรรมการดื่มชาที่เหนือกาลเวลา  ซึ่งเจี้ยนชาตั้งใจรังสรรค์ทั้งรสชาติและภาพลักษณ์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันได้อย่างแท้จริง”

คุณณิสรา แก้วศรีประกาย Senior Brand Manager และคุณสัมฤทธิ์ ปัทมรังสรรค์  Media Planning Manager ผู้บริหารจาก SCOTCH กล่าวถึงการร่วมมือสุดพิเศษครั้งนี้ว่า “Royale Nest Milk Tea เป็นความตั้งใจของเราที่อยากให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักคุณค่าของรังนกแท้ ผ่านรูปแบบการดื่มที่สนุก มีสไตล์ และยังคงประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ”

ความพิเศษเต็มแก้วขนาดนี้ อย่าลืมไปดื่มด่ำศิลปะแห่งชาที่ “เจี้ยนชา” สยามดิสคัฟเวอรี่ ชั้น M กันนะคะ!


'ไปป์ มนธภูมิ' & 'นิว ชยภัค' แชร์ไอเท็มลับที่ขาดไม่ได้ถ้าอยากดูดี

‘ไปป์ มนธภูมิ’ & ‘นิว ชยภัค’ แชร์ไอเท็มลับที่ขาดไม่ได้ถ้าอยากดูดี

Alternative Textaccount_circle
'ไปป์ มนธภูมิ' & 'นิว ชยภัค' แชร์ไอเท็มลับที่ขาดไม่ได้ถ้าอยากดูดี
'ไปป์ มนธภูมิ' & 'นิว ชยภัค' แชร์ไอเท็มลับที่ขาดไม่ได้ถ้าอยากดูดี

แม้จะมีคิวงานแน่นแทบทุกวัน แต่สองหนุ่ม ไปป์-มนธภูมิ สุมนวรางกูร และ นิว-ชยภัค ตันประยูร ก็ไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองโทรม พร้อมเผย “ไอเทมลับ” ที่ช่วยให้ดูดีได้ทุกสถานการณ์ ในงาน EVEANDBOY BEST SELLING AWARDS 2024 โดยหนุ่มไปป์-มนธภูมิ สุมนวราง เผยว่าเขาขาด “ลิปบาล์ม” ไม่ได้ เพราะริมฝีปากแห้งง่าย รวมถึง “มอยซ์เจอร์ไรเซอร์” ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวแพ้ง่ายของเขา “พอมาเดินช็อปที่ EVEANDBOY ก็สนุกกับการเลือกสกินแคร์ที่เหมาะกับผิวตัวเอง เพราะมีให้เลือกหลายแบรนด์ พนักงานก็ให้คำแนะนำดีมากครับ”

ส่วน นิว-ชยภัค ตันประยูร ขอยกให้ “น้ำหอม” เป็นของคู่กาย พร้อม “ลิปมัน” และ “คอนซีลเลอร์” ที่ช่วยให้มั่นใจได้ตลอดวัน “ผมเชื่อว่ากลิ่นกายสำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อเราเจอทั้งฝุ่น ควัน และอากาศร้อน ๆ” นอกจากนั้น เขายังแนะเทคนิคดูแลผิวที่ทำเป็นประจำคือการเช็ดผิวทวนรูขุมขนเพื่อทำความสะอาดได้ล้ำลึก “EVEANDBOY เป็นแหล่งรวมสกินแคร์สำหรับผู้ชายเยอะมากครับ ทั้งเคาน์เตอร์แบรนด์และไอเทมขายดีที่การันตีด้วยรางวัล” เขาบอกว่าการได้ร่วมงานกับ EVEANDBOY ครั้งนี้ ทำให้ยิ่งอยากดูแลตัวเองให้ดีขึ้นไปอีกขั้น


GrabFood เสิร์ฟ “Shake Shack x POTONG” เมนูคอลแลบพิเศษ ผ่านซับแบรนด์ใหม่สายกูร์เมต์

GrabFood เสิร์ฟ “Shake Shack x POTONG” เมนูคอลแลบพิเศษ ผ่านซับแบรนด์ใหม่สายกูร์เมต์

Alternative Textaccount_circle
GrabFood เสิร์ฟ “Shake Shack x POTONG” เมนูคอลแลบพิเศษ ผ่านซับแบรนด์ใหม่สายกูร์เมต์
GrabFood เสิร์ฟ “Shake Shack x POTONG” เมนูคอลแลบพิเศษ ผ่านซับแบรนด์ใหม่สายกูร์เมต์

แกร็บฟู้ด ผนึก Shake Shack เสิร์ฟคอลแลบส์แห่งปี “Shake Shack x POTONG” ครั้งแรกของโลกกับ เมนูคอลแลบพิเศษ เมนูเบอร์เกอร์หมูฝีมือเชฟแพม พิชญา เจ้าของรางวัล World’s Best Female Chef 2025 ที่หยิบวัตถุดิบท้องถิ่นและรสชาติแบบไทยมารังสรรค์คู่เมนูอเมริกันคลาสสิกอย่างสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นเบอร์เกอร์หมูแจ่วบาร์บีคิว เบอร์เกอร์เนื้อฉ่ำพริกไทยดำ มันทอดซอสซี๊ด หรือมิลค์เชคข้าวเหนียวมะม่วง โดยเมนูพิเศษเหล่านี้วางจำหน่ายที่ Shake Shack ทั้ง 4 สาขาในกรุงเทพฯ และเฉพาะบนแอป Grab ภายใต้ซับแบรนด์ “Only at Grab” เท่านั้น พร้อมรับส่วนลด 50 บาทเมื่อสั่งครบ 210 บาท ใส่โค้ด SS50 ได้ตั้งแต่วันนี้ – 6 ก.ค. 2568

ซับแบรนด์ “Only at Grab” เปิดตัวตั้งแต่ปี 2566 เพื่อเอาใจสายกินคุณภาพที่มองหาเมนูพิเศษและร้านอาหารหายาก ได้รับการตอบรับดีจากผู้ใช้บริการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่จำนวนผู้สั่งซื้อและยอดใช้จ่ายเฉลี่ย โดยแกร็บยังเดินหน้าคัดสรรเมนูเด็ดร่วมกับร้านดังอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกับเมนูคอลแลบส์ระดับโลก “Shake Shack x POTONG” ที่ไม่เพียงสร้างความแปลกใหม่ให้วงการเบอร์เกอร์ แต่ยังสะท้อนเสน่ห์อาหารไทยในรูปแบบโมเดิร์นได้อย่างลงตัว


รู้จัก “แปม – ธัชพัทธ์ เบ็ญจศิริวรรณ” ผู้นำคลื่นลูกใหม่แห่งวงการฟุตซอล

Alternative Textaccount_circle

“แปม – ธัชพัทธ์ เบ็ญจศิริวรรณ” ผู้นำคลื่นลูกใหม่แห่งวงการฟุตซอล ที่มาพร้อมภารกิจผลักดันนักกีฬาไทยสู่ระดับโลก ดีกรีประธานสโมสรบลูเวฟ ชลบุรี หนึ่งในสโมสรฟุตซอลที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประเทศ โดยเขารับตำแหน่งนี้ต่อจากคุณพ่อ “บิ๊กป้อม – อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ”

ลูกไม้ใต้ต้น

“ขณะที่เด็กคนอื่นอาจเติบโตในสนามเด็กเล่น ผมโตมากับเสียงเชียร์บน อัฒจันทร์และภาพคุณพ่อทุ่มเทสร้างทีมชาติไทย ย้อนกลับไปยุคที่ฟุตซอลไทยยัง ไม่เป็นที่รู้จัก คุณพ่อคือหนึ่งในผู้บุกเบิกและพาทีมชาติไทยไปชิงแชมป์โลกได้สำเร็จ ผมจึงมีโอกาสได้คลุกคลีกับนักกีฬาตัวจริง เห็นเบื้องหลังความมุ่งมั่นตั้งใจของ พวกเขา กลายเป็นแรงบันดาลใจที่ฝังอยู่เงียบ ๆ ว่าบทบาทที่เหมาะกับผมอาจไม่ใช่ ในฐานะผู้เล่น หากเป็น “คนสร้างทีม” เหมือนคุณพ่อ

“หลังเรียนจบด้านบริหารธุรกิจ (University of San Francisco) ผมเริ่มร่วมเดินทางกับทีมไปแข่งขันระดับเอเชีย ได้สัมผัสทั้งความพ่ายแพ้และพลังของคำว่า ทีม ทำให้ผมตัดสินใจชัดเจนว่าจะเข้ามาช่วยคุณพ่อจริงจัง ปีต่อมาผมเริ่มจากตำแหน่งรองประธานสโมสรบลูเวฟ ชลบุรี ใช้เวลา 1 ปี เพื่อเรียนรู้ระบบและนำความรู้จากต่างประเทศมาปรับใช้ และในวัย 23 ปีผมก้าวสู่ตำแหน่งประธานสโมสร แต่สิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจไม่ใช่แค่ใบปริญญา หากเป็นบทเรียนจากคุณพ่อ ผู้พาทีมชาติไทยไปชิงแชมป์โลกถึง 7 ครั้งใน 25 ปี ท่านสอนว่า ‘ไม่มีใครที่พาทีมไปถึงความสำเร็จด้วยตัวคนเดียวได้’ และพิสูจน์แล้วว่าจริง เพราะทุกชัยชนะ เกิดจากทีมเวิร์กที่แข็งแกร่งและหัวใจที่มีจุดหมายเดียวกัน”

คนไทยคนแรกใน FIFA MASTER IN MANAGEMENT

“ก่อนรับตำแหน่งประธานสโมสรบลูเวฟ ชลบุรี ผมอยากเข้าใจการบริหารจัดการกีฬาอย่างแท้จริง และต้องการ ต่อยอดความรู้เพื่อกลับมาพัฒนาวงการกีฬาของไทย จึงเลือกเรียน FIFA Master in Management, Law and Humanities of Sport เป็นหลักสูตรปริญญาโทที่ได้รับการรับรองจาก FIFA จัดโดย CIES (International Centre for Sports Studies) สิ่งที่ทำให้หลักสูตรนี้พิเศษมากคือโครงสร้างการเรียนที่ครอบคลุมทั้งในเชิงทฤษฎีและปฏิบัติ ตลอดระยะเวลาประมาณ 10-11 เดือน ผมต้องหมุนเวียนไปเรียนแต่ละด้านใน 3 ประเทศ

“หลังเรียนจบผมพาทีมคว้าแชมป์ลีกตั้งแต่ปีแรกที่รับตำแหน่งประธานสโมสร โดยผลงานแรกคือการจัดรายการ Pre-Season Cup และคว้าแชมป์ได้สำเร็จ จากนั้นเราได้แชมป์ลีกอีกครั้ง และมีโอกาสไปแข่งรายการชิงแชมป์เอเชียในปี 2015 แม้ครั้งนั้นจะตกรอบ แต่เป็นโอกาสให้เราได้กลับมาทบทวนตัวเองและทำการบ้าน อย่างหนัก เพื่อวางแผนพัฒนาอย่างรอบด้าน พร้อมทั้งยื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันในปีถัดไป เพื่อจะได้พลิกเกมใหม่ในบ้านเราเอง

“ที่สุดในปี 2016 เราได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน AFC Futsal Club Championship และสามารถคว้าอันดับ 3 มาครอง ถือเป็นผลงานระดับเอเชีย ครั้งแรกในสมัยของผม แม้ปี 2017 จะตกรอบ แต่เราไม่หยุดพัฒนา จึงคว้าแชมป์เอเชียได้อีกครั้งที่เวียดนามในปี 2019 (ยิ้ม)

 “สิ่งที่ภูมิใจมาตลอดในการทำงาน 8 ปีคือการพาทีมฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย คว้าแชมป์สโมสรเอเชียสมัยที่ 2 โดยผมส่งรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีไปร่วมแข่งขัน Youth Olympic Games เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศที่เรามีโอกาสได้เจอกับทีมระดับโลกอย่างสเปน ถือเป็นประสบการณ์ล้ำค่าสำหรับนักกีฬาเยาวชนไทย เป็นผลงานที่ผมรู้สึกว่าช่วยเปลี่ยนชีวิตน้องๆ ได้ จึงเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ผมภูมิใจมาก

“ฟุตซอลเป็นกีฬาที่อยู่คู่คนไทยมานาน ผมอยากเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ที่ช่วยผลักดันให้นักกีฬาไทยได้มีโอกาสไปเล่นในต่างประเทศ นอกจากนี้ผมยังอยากส่งเสริมให้เยาวชนไทยทำได้ดี ทั้งการเรียนและเล่นกีฬาควบคู่กันไป ปัจจุบันสโมสรจึงทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้นักกีฬาได้พัฒนาศักยภาพและทักษะของฟุตซอล รวมถึงแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการไปพร้อมกัน

เป็นกำลังใจให้น้อง ๆ นักกีฬาทุกคนครับ”

ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ในสกู๊ป The Gentle Men นิตยสารแพรว ฉบับเดือนพฤษภาคม 2568


เรื่อง: Prince, Lutairat Ch
ภาพ : วรสันต์
IG : tachapa
t

โดดเด่นด้วยสไตล์และความมั่นใจ! เปิดแคมเปญสร้างแรงบันดาลใจ “Own Your Moment” จาก Sunglass Hut

account_circle

ถือเป็นทิศทางใหม่ของ Sunglass Hut สำหรับการเปิดตัวแคมเปญระดับโลก “Own Your Moment” ซึ่งต้องการสะท้อนตัวตนอย่างเป็นเอกลักษณ์ พร้อมประสบการณ์แฟชั่นที่ล้ำสมัย และการเชื่อมโยงทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับผู้สวมใส่ โดยความพิเศษแคมเปญดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรกเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

Mauro Messi Head of Retail and Omnichannel Marketing กล่าว “แคมเปญนี้ถูกออกแบบโดยมีอารมณ์ความรู้สึกเป็นแกนหลักและมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คน เราเลือกที่จะสื่อสารกับลูกค้าในรูปแบบที่ใกล้ชิด เป็นส่วนตัว โดดเด่นอย่างมั่นใจ และสะท้อนความเป็นตัวตนของลูกค้าอย่างแท้จริง”

วิดีโอหลักของแคมเปญถ่ายทอดช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ผ่านการสวมแว่นตากันแดด ไม่ว่าจะเป็นการเรียกความกล้าก่อนขึ้นเวที การปิดซ่อนความรู้สึกในช่วงลาจาก การรวบรวมพลังใจก่อนการแข่งขันนัดสำคัญ หรือแม้กระทั่งการเติมเต็มลุคให้สมบูรณ์แบบก่อนออกเดต แว่นตากันแดดจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องประดับ แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนแปลง แคมเปญ Own Your Moment” จึงต้องการสะท้อนว่า บางสิ่งที่เรียบง่ายอย่างแว่นตากันแดดก็สามารถเสริมความมั่นใจ และจุดประกายการแสดงออกในแบบของตัวเองได้อย่างเต็มที่

ไม่นานมานี้ Sunglass Hut ได้จัดกิจกรรมพิเศษสำหรับแคมเปญ “Own Your Moment” ณ ร้าน Sunglass Hut ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม ในวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมีเหล่าอินฟลูเอนเซอร์มาร่วมทำกิจกรรมมากมาย

สำหรับใครที่อยากสัมผัสความมั่นใจ สามารถมาสนุกกับแคมเปญ Own Your Moment ผ่านการเลือกแว่นตาที่ใช่ผ่านคอลเล็คชั่นแว่นตาฤดูกาลใหม่ได้จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ Ray-Ban, Oakley, Burberry, Prada, Versace และอีกมากมายได้ที่ Sunglass Hut ทั้ง 30 สาขาทั่วประเทศนะคะ!


ไวรัลบนโซเชียล “Alia Bhatt” นางเอกคังคุไบสวยสง่าในชุดส่าหรีจาก Gucci

Alternative Textaccount_circle

ถือเป็นลุคที่เรียกแสงแฟลชบนพรมแดงเทศกาลหนังเมืองคานส์ ครั้งที่ 74 ได้เป็นอย่างดี สำหรับนักแสดงชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดีย เจ้าของบทบาทหลักจาก  Gangubai Kathiawadi อย่าง “Alia Bhatt” อีกทั้งยังมาพร้อมตำแหน่งโกลบอลแอมบาสเดอร์ประจำ GUCCI พรมแดงครั้งนี้หลายคนจึงจับตามองเป็นพิเศษว่าเธอจะปรากฏตัวในลุคอะไร

คนที่ตั้งตารอไม่มีผิดหวัง เพราะ Alia Bhatt ปรากฏตัวในชุดส่าหรีที่แทบไม่เห็นคนดังหยิบมาใส่บนพรมแดงเมืองเทศกาลหนังเมืองคานส์ เป็นความแตกต่างที่สมการรอคอย ซึ่งคอสตูมดังกล่าวตัดพิเศษขึ้นจาก GUCCI ซึ่งเป็นครั้งแรกของแบรนด์ที่ได้ออกแบบและตัดเย็บชุดส่าหรี โดยความโดดเด่นของชุดอยู่ที่การนำคริสตัล Swarovski มาประดับทั่วทั้งชุด และยังไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่แฝงสัญลักษณ์ GG ไว้อีกด้วย เชื่อว่าลุคนี้จะได้รับเลือกให้เป็นที่จดจำบนพรมแดงเทศกาลหนังเมืองคานส์ ครั้งที่ 74 อย่างแน่นอน


ภาพ: GUCCI และ Instagram @aliaabhatt

“สกาย-นานิ” ชวนคลีนผิว พร้อมขึ้นแท่นพรีเซ็นเตอร์ Acne-Aid

account_circle

เปิดตัวพรีเซ็นใหม่แบบฟินใจ สำหรับ Acne-Aid (แอคเน่ เอด) พร้อมเดินหน้าตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ที่ “เข้าใจคนเป็นสิว” ด้วยการเปิดตัวสองหนุ่มสุดฮ็อต “สกาย–วงศ์รวี นทีธร” และ “นานิ–หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ” พรีเซ็นเตอร์คู่ใหม่ล่าสุด ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ดูแลตัวเองอย่างเข้าใจ และถ่ายทอดแนวคิดของแบรนด์ผ่านเคมีที่สดใสและจริงใจ พร้อมด้วย “นายแพทย์ วรภัทร ลิ้มสุธิวรรณภูมิ” จากเพจ เรื่องของผิว by drkengw ร่วมให้ความรู้เรื่องผิวและปัญหาสิว ตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ Acne-Aid ในฐานะแบรนด์เวชสำอางที่เชี่ยวชาญเรื่องสิว

หนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการดูแลผิวที่มักถูกมองข้าม คือ “การล้างหน้า” ซึ่งเป็นด่านแรกที่สำคัญในการขจัดสิ่งสกปรก ความมันส่วนเกิน และแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดสิว Acne-Aid จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก ที่ไม่เพียงแต่ช่วยลดการสะสมของสิ่งอุดตันในรูขุมขน แต่ยังช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง พร้อมรับมือกับปัญหาสิวในทุกมิติอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้แคมเปญ “Acne-Aidคลีนผิว จบปัญหาสิวรีเทิร์น” เมื่อวันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคมนี้ ณ สยามสแควร์

ความพิเศษของงานในครั้งนี้ นอกจากแฟนๆ จะได้ฟินกับมินิคอนเสิร์ตของ “สกาย–นานิ” แล้ว ยังจะพาวัยรุ่นที่กำลังเจอปัญหาสิวได้ทำความเข้าใจผิวของตัวเองมากขึ้น เพราะแม้สภาพผิวของแต่ละคนจะต่างกัน แต่สิวเป็นเรื่องเดียวกันที่หลายคนต้องเผชิญ จนทำให้สูญเสียความมั่นใจ โดย Acne-Aid พร้อมเป็นตัวช่วยคลีนผิวให้สะอาดล้ำลึก พาทุกคนมูฟออนจากปัญหา “สิวรีเทิร์น” ผ่านกิจกรรมที่จะช่วยให้ทุกคน “รู้ลึก-รู้จริง” เรื่องสิว

ติดตามกิจกรรมสนุกๆ จาก “สกาย–นานิ” กับ Acne-Aid ตลอดทั้งปี และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ Acne-Aid ได้ที่ Facebook: Acne-Aid Thailand และ TikTok: Acne-Aid Thailand


อีอีคยอง กลับมาพร้อมภารกิจแจกความสุขอีกครั้งที่ประเทศไทย

Alternative Textaccount_circle

เจ้าของวลีสุดฮิต “เควนชันนา~ เตงเตงเตงเตงเตง” นักแสดงสายฮา ขวัญใจแฟนซีรีส์สายเกาหลี อีอีคยอง (Lee Yi Kyung) กลับมาพร้อมภารกิจแจกความสุขอีกครั้ง! คราวนี้เขาส่งคลิปสุดพิเศษมาอ้อนแฟนๆ ชาวไทยแบบถึงใจ ชวนทุกคนไปสนุกสุดเหวี่ยง พร้อมรับความน่ารักแบบฟินตัวแตก ในงาน LEE YI KYUNG FANMEETING IN BANGKOK <LOVE HOLEE DAY VOLUME 2> ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2568 ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ (Aksra Theatre King Power)

งานนี้ผู้จัด Grandprix Xpectrum ขอจัดเต็มแบบไม่มีกั๊ก! รับรองว่าคุ้มค่าการรอคอย ทั้งโชว์สุดพิเศษ โมเมนต์ใกล้ชิด และเซอร์ไพรส์มากมายที่เตรียมไว้แบบลับๆ เพื่อแฟนชาวไทยโดยเฉพาะ

อีอีคยอง ส่งข้อความถึงแฟนไทยว่า “สวัสดีครับ อีอีคยองครับ สวัสดีแฟนๆ ชาวไทย ผม อีอีคยอง ครับ ได้มาทักทายทุกคนอีกครั้งในรอบ 1 ปี หลังจากงานแฟนมีตติ้งในปีที่แล้วครับ ที่ผ่านมาสบายดีกันใช่ไหมครับ อะไรนะครับ คิดถึงผมหรอครับ ไม่เป็นไรๆ ผมจะไปหาทุกคนเร็วๆ นี้แล้วครับ ในปีนี้ผมก็จะได้เจอกับทุกคนในงานแฟนมีตติ้งอีกแล้วนะครับ ผมตั้งใจเตรียมงานอยู่มากๆ เลย ให้สมกับที่คิดถึงกันครับ ฝากทุกคนมอบความสนใจกับงานนี้เยอะๆ ทุกคนครับ…งานมีเมื่อไหร่นะ 14 มิถุนายนนี้ มาเจอกันที่ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์นะครับ แล้วเจอกันครับ”สำหรับงาน LEE YI KYUNG FANMEETING IN BANGKOK <LOVE HOLEE DAY VOLUME 2>

เปิดจำหน่ายบัตรแล้ว ผ่านทาง www.zipeventapp.com ใครมีบัตรแล้ว…เก็บให้ดี! เพราะความฟินระดับสิบกำลังจะเริ่ม ส่วนใครยังไม่มี รีบเลย! บอกได้คำเดียวว่า…เควนชันนา~ แต่ถ้าพลาดแฟนมีตนี้ ไม่ชันนาแล้วนะ!

พระเอกแลนด์ดิ้ง! “อีโดฮยอน” นัดพบสบตาแฟนไทย 19 ก.ค. นี้

Alternative Textaccount_circle

สลัดเครื่องแบบพี่ทหารสุดเท่ปุ๊บ ก็พร้อมแลนด์ดิ้งมาหาแฟนๆ ชาวไทยทันที สำหรับพระเอกหนุ่มหล่อเจ้าของรอยยิ้มเพชฌฆาตกระชากหัวใจ LEE DOHYUN คัมแบ็กอย่างเป็นทางการ ในงาน 2025 LEE DO HYUN FANMEETING [Re ▶ DO HYUN] IN BANGKOK ล็อควัน D-Day พบกัน วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม 2025 นี้ ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน

“อี โดฮยอน” พระเอกหนุ่มจากประเทศเกาหลีใต้ เขาคือนักแสดงผู้มากด้วยฝีมือการแสดงที่เรียกได้ว่าเข้าถึงทุกบทบาท ซีรีส์ Prison Playbook คือผลงานแรกที่ผลักดันเขาเข้าสู่สายอาชีพนักแสดงอย่างเต็มตัว ก่อนที่บทบาท “พ่อหิ่งห้อย” ในซีรีส์ Hotel Del Luna จะตกแฟนๆ ให้ตกหลุมรักเขามากขึ้น ซึ่งทำให้เขาได้รับบทนำเต็มตัว ในซีรีส์ 18 Again ด้วยการแสดงที่สดใหม่ เสน่ห์ รอยยิ้มที่มีทั้งความหล่อชวนหลงใหล ที่เรียกได้ว่าเล่นคอเมดี้ก็ทำได้ดี เล่นดราม่าก็ตีแตก

พิสูจน์ได้แล้วจากผลงานที่ดังเปรี้ยงปร้าง ในช่วงเวลา 4-5 ปีนี้ของเขา ไม่ว่าจะเป็น ซีรีส์ Sweet Home ทั้ง 3 ซีซั่น ซีรีส์ Youth Of May, The Good Bad Mother และ The Glory บทศัลยแพทย์หนุ่มหล่อผู้อยู่เคียงข้างนางเอกของเรื่อง ที่แม้บุคลิกตัวละครจะดูสดใส ร่าเริง กลับซ่อนปมบางอย่างไว้ในตัว ซึ่งการแสดง งานสายตาของ “อีโดฮยอน” ในเรื่องนี้เรียกว่ากินขาดฟาดเรียบทุกคำชม นอกจากซีรีส์ ภาพยนตร์เรื่อง  EXHUMA ที่เขาพลิกบทบาทเป็นหมอผีเจน MZ ก็กวาดทั้งรายได้และคำชมมากมาย

หล่อ เก่ง ครบเครื่อง เรียกว่าไม่มีผลงานไหนของเขาที่ไม่ผ่านสายตาแฟนซีรีส์ชาวไทย เพราะทุกคนล้วนติดหนึบและหลงเสน่ห์พี่พระเอกเข้าอย่างจัง สบตากันผ่านมาจอมาก็เยอะ ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสแรก! ที่แฟนชาวไทยจะได้สบตาหนุ่ม “อี โดฮยอน” อย่างใกล้ชิด กับความหล่อที่มากขึ้น เท่ขึ้น หลังจากที่เขาปลดประจำการจากการรับราชการทหารในหน่วยวงดุริยางค์ของกองทัพอากาศ ในวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นห้ามพลาด! เรียงคิวมาสบตากับเขา ในเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม 2025 นี้ ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน

ในงาน 2025 LEE DO HYUN FANMEETING [Re ▶ DO HYUN] IN BANGKOK เปิดจำหน่ายบัตรพร้อมกันวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568 ทาง www.ticketmelon.com

พัค โบยอง ส่งความน่ารักมาทักทาย จองบัตรได้แล้ววันนี้!

Alternative Textaccount_circle

นักแสดงสาวมากฝีมือขวัญใจผู้ชมทั่วเอเชีย PARK BO YOUNG (พัค โบยอง) ส่งความน่ารักผ่านคลิปทักทาย พร้อมย้ำความตื่นเต้นที่จะได้มาเจอกับทุกคนในแฟนมีตติ้งครั้งแรกในประเทศไทย กับ 2025 PARK BO YOUNG FANMEETING TOUR – written BY. in BANGKOK ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม 2025 เวลา 17:00 น. ณ เคแบงก์สยามพิฆเนศฮอลล์ ชั้น 7 ศูนย์การค้าสยามแควร์วัน

ในคลิปดังกล่าว PARK BO YOUNG ปรากฏตัวมาด้วยรอยยิ้มอันแสนสดใสที่ครองใจแฟน ๆ พร้อมถ่ายทอดความรู้สึกตรงจากใจ ดังนี้ “สวัสดีค่ะ PARK BO YOUNG ค่ะ ในที่สุด BO YOUNG ก็กำลังจะได้ไปพบกับแฟน ๆ ชาวไทยทุกคนที่ประเทศไทยแล้วนะคะ พบกันในวันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม 2025 (17:00 น.) ที่เคแบงก์สยามพิฆเนศฮอลล์ค่ะ แค่คิดก็ตื่นเต้นมาก ๆ จนแทบจะรอไม่ไหวเลยค่ะ หวังว่าเราจะได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุขที่งาน written BY. นะคะ ขอบคุณค่ะ”

หลังโลดแล่นในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนานกว่า 19 ปี PARK BO YOUNG ผู้ได้รับฉายา “น้องสาวแห่งชาติ” จากผลงานภาพยนตร์ ‘Scandal Makers’ ได้สั่งสมชื่อเสียงและความรักจากแฟน ๆ ผ่านผลงานระดับคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น ‘Oh My Ghost’, ‘Strong Woman Do Bong Soon’ ไปจนถึง ‘Daily Dose of Sunshine’ ที่ทำให้เธอคว้ารางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม และล่าสุดกับบทบาทฝาแฝด 4 ตัวละครสุดท้าทายในซีรีส์ ‘Our Unwritten Seoul’ ที่เตรียมออกอากาศวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ ทางช่องโทรทัศน์เกาหลี tvN และบริการสตรีมมิง Netflix ในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย

ในปี 2025 นี้ PARK BO YOUNG และแฟน ๆ ชาวไทย กำลังจะร่วมกันเขียนเรื่องราวบทใหม่ของความทรงจำแสนอบอุ่น ที่จะมอบทั้งความสุข รอยยิ้ม ความใกล้ชิดสุด ๆ แบบหาที่ไหนไม่ได้อีก ในแฟนมีตติ้งครั้งแรกในประเทศไทย 2025 PARK BO YOUNG FANMEETING TOUR – written BY. in BANGKOK เปิดจำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการ ในวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2025 ตั้งแต่เวลา 11:00 น. เป็นต้นไป ทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ และทางเว็บไซต์ www.allticket.com

RIIZE

บทเพลงแห่งการเติบโต RIIZE กับอัตลักษณ์ที่ชัดเจนผ่านอัลบั้มเต็มชุดแรก

Alternative Textaccount_circle
RIIZE
RIIZE

RIIZE เปิดประตูสู่การเดินทางครั้งใหม่ในอัลบั้มเต็ม ‘ODYSSEY’ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวการเติบโตและดนตรี Emotional Pop อันเป็นเอกลักษณ์

อัลบั้มเต็มชุดแรก ‘ODYSSEY’ (โอดิสซีย์) ของ ไรซ์ เป็นอัลบั้มที่อธิบายถึงอัตลักษณ์ของวงได้อย่างชัดเจน ชื่ออัลบั้ม ‘ODYSSEY’ เป็นการสานต่อคอนเซปต์‘Realtime Odyssey’ซึ่งเป็นพื้นฐานการทำกิจกรรมของ RIIZE โดยประกอบด้วยแนวเพลงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพวกเขาอย่าง ‘Emotional Pop’ทั้งหมด 10 เพลง

ในอัลบั้มนี้จะสะท้อนความรู้สึกของสมาชิกออกมาอย่างเต็มที่ผ่านเนื้อเพลง ตั้งแต่เพลงแรก‘Odyssey’บอกเล่าถึงความตั้งใจจริงที่จะเผชิญกับการเริ่มต้นบทใหม่, ‘Bag Bad Back’ (แบ็ก แบด แบ็ก) เพลงฮิปฮอปที่สัมผัสได้ถึงวิสัยทัศน์ของ ไรซ์ ในฐานะทีมเดียวกัน, ‘잉걸 (Ember to Solar)’ (เอมเบอร์ ทู โซลาร์)เพลงแดนซ์สุดทรงพลังมาพร้อมเอกลักษณ์ของทีม ที่เอาชนะอุปสรรคและทะยานไปสู่เป้าหมาย,‘Show Me Love’ เพลงที่ให้กำลังใจวัยรุ่นในสไตล์ของ ไรซ์ ซึ่งความมีเสน่ห์อยู่ตรงท่อนที่สามารถร้องไปด้วยกันได้

โดยเฉพาะเพลงไตเติล ‘Fly Up’เพลงแดนซ์ที่ชวนให้นึกถึงสไตล์ร็อกแอนด์โรลในยุค 1950ด้วยการผสมผสานระหว่างจังหวะที่มีพลังและคณะนักร้องประสานเสียงแบบยิ่งใหญ่เนื้อเพลงบอกเล่าถึงสมาชิกทั้งหลายที่ใช้ดนตรีและการเต้นเป็นสื่อกลางในการใกล้ชิดกับหลากหลายผู้คนในโลกกว้าง และสนุกไปด้วยกันโดยไร้อคติหรือขอบเขตซึ่งสมาชิกวง ไรซ์ ได้แนะนำเกี่ยวกับเพลงนี้ว่า“เป็นเพลงที่สนุกสนานจนปลุกสัญชาตญาณการเต้นภายในตัวของทุกคนออกมาการฟังเพลงนี้แบบนั่งนิ่ง ๆ อาจจะเป็นเรื่องยากครับ” และ“ทุกคนจะเพลิดเพลินกับการแสดงเพลงนี้เพราะพวกเราเตรียมท่าเต้นที่เหมือนกับละครเวทีเอาไว้ด้วยครับ”

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีเพลงบรรเลงความยาว 39 วินาทีที่เป็นจุดเปลี่ยนอารมณ์ของอัลบั้มอย่าง‘Passage’ (แพสเซจ) ซึ่งโปรดิวเซอร์ YOONSANG (ยุนซัง) ได้มีส่วนร่วมด้วย, ‘Midnight Mirage’ (มิดไนต์ มิราจ) เพลงที่มีบรรยากาศราวกับเทพนิยาย, เพลงสำหรับแฟนคลับ 2เพลงอย่างเพลงบัลลาดสุดไพเราะ ‘모든 하루의 끝 (The End of the Day)’ (ดิ เอนด์ ออฟ เดอะเดย์) และเพลงป็อปบัลลาดกลิ่นอายย้อนยุค ‘Inside My Love’ (อินไซด์ มาย เลิฟ)รวมถึงเพลงลำดับสุดท้าย ‘Another Life’ (อนาเธอร์ ไลฟ์)ถ่ายทอดความทะเยอทะยานและความมุ่งมั่นของ ไรซ์

ทั้งนี้ ไรซ์ เตรียมจัดคอนเสิร์ตครั้งแรกในประเทศไทย ‘2025 RIIZE CONCERT TOUR [RIIZING LOUD] IN BANGKOK’ วันที่ 20-21 กันยายนนี้ ณ อิมแพ็ค อารีน่า

ครบรอบเดบิวต์ 17 ปี SHINee ศิลปินที่มีเอกลักษณ์พร้อมก้าวสู่เส้นทางใหม่

Alternative Textaccount_circle

SHINee พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งถึงตัวตนที่มีเอกลักษณ์ของวงที่นำเสนอดนตรีที่แปลกใหม่อยู่เสมอด้วยซิงเกิลใหม่ ‘Poet | Artist’ (โพเอต | อาร์ทิสต์) ประกอบด้วยทั้งหมด 2 เพลง ได้แก่เพลงไตเติล ‘Poet | Artist’ และเพลงที่รวมอยู่ด้วยอย่าง ‘Starlight’(สตาร์ไลต์) โดยทั้งสองเพลงได้ถูกปล่อยออกมาเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบเดบิวต์ 17ปีของพวกเขา ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 เวลา 00:00 น. ตามเวลาประเทศเกาหลีใต้ ผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงออนไลน์ต่าง ๆ ทั่วโลก และวางจำหน่ายอัลบั้มที่ประเทศเกาหลีใต้

สำหรับเพลงไตเติล ‘Poet | Artist’ เป็นเพลงแนวอิเล็กโทรป็อปที่ผสมผสานริฟฟ์โวคอลซึ่งเป็นธีมหลักของเพลงเข้ากับจังหวะสแนร์และเรกเก้ที่ทรงพลัง โดย JONGHYUN (จงฮยอน) ได้มีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อเพลงและทำนองของเพลงนี้เอาไว้เพื่อ SHINee เนื้อเพลงสื่อถึงข้อความว่า ในฐานะนักกวีและศิลปิน เราควรนำเสรีภาพของวรรณกรรมและกวีมาใช้ไม่ใช่แค่กับผลงานศิลปะเท่านั้น แต่รวมถึงชีวิตประจำวันพร้อมทำลายกรอบและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ไปด้วยกันด้านมิวสิกวิดีโอของเพลงนี้บอกเล่าถึงการเดินทางของ ‘ศิลปิน’ SHINeeที่เผชิญหน้ากับช่วงเวลาอันล้ำค่าดั่ง ‘กวี’ ที่เขียนมาจนถึงปัจจุบัน และก้าวหน้าไปสู่ ‘กวี’บทใหม่ที่จะเปิดเผยต่อไปในอนาคตด้วยกันนอกจากนี้ เพลงแดนซ์ป็อปจังหวะปานกลาง ‘Starlight’มาพร้อมเสียงกีตาร์ไฟฟ้าสไตล์ฟังก์และซินธ์แพดที่ให้ความรู้สึกสดชื่นเนื้อเพลงพูดถึงความรู้สึกของการได้พบใครสักคนเป็นครั้งแรกโดยนำมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์ที่เปล่งประกายราวกับดวงดาวท่ามกลางความมืดมิดด้านการแสดงของเพลงนี้จะเต็มไปด้วยพลังความสดใสและเสน่ห์อันแสนสดชื่นจากเสียงร้องที่ประสานกันอย่างลงตัวของ SHINee

ทั้งนี้ SHINee ได้รับกระแสตอบรับอย่างร้อนแรงจากการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการไม่ยอมแพ้ต่อความท้าทายและเดินตามความเชื่อมั่นของตัวเอง ในเพลงไตเติล ‘HARD’จากอัลบั้มเต็มชุดที่ 8 เมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ไม่เพียงเท่านี้ล่าสุดพวกเขายังประสบความสำเร็จกับการจัดคอนเสิร์ตครั้งที่เจ็ด ‘SHINee WORLD Ⅶ[E.S.S.A.Y] (Every Stage Shines Around You)’ เมื่อวันที่ 23-25 พฤษภาคม 2568 ณKSPO DOME กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งบัตรทั้ง 3 รอบการแสดงจำหน่ายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่ง

แม้แต่ที่นั่งที่จำกัดทัศนวิสัย รวมผู้ชมกว่า 32,000 คนอีกทั้งยังมีแฟนคลับทั่วโลกรับชมการถ่ายทอดสดทางออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม Beyond LIVE และWeverse กว่า 81 ภูมิภาคทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมนี ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์

‘พบคนที่ใช่ แต่ก็ใช่ว่าจะเอ็นดิ้งง่ายๆ’ ใช่คุณไหม??? ต้องเช็กแล้ว!!!’ ดวงรายสัปดาห์ 26 พฤษภาคม-1 มิถุนายน 2568

Alternative Textaccount_circle

‘พบคนที่ใช่ แต่ก็ใช่ว่าจะเอ็นดิ้งง่ายๆ’

ดวงรายสัปดาห์ 26 พฤษภาคม-1 มิถุนายน 2568

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์          

การงาน  :  ชาวอาทิตย์เริ่มต้นสัปดาห์ปลายเดือนด้วยความเป็นผู้นำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในสายงานหรือในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บ้าน ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง อาคารสำนักงาน ฯลฯ มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าความคิดและจินตนาการของคุณในช่วงนี้จะกว้างไกล มีความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ จึงโดดเด่นมากทางด้านงานโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน  งานบันเทิง ความสวยความงาม ขณะเดียวกันอีโก้ของคุณก็แรงไม่แพ้กันเลยทีเดียว เรียกว่าหากคุณคิดอะไรแล้วใครก็ขัดแย้งหรือขัดขวางไม่ได้ ทางที่ดีควรใจเย็น อดทน และรอคอยจังหวะที่จะมาถึงดีกว่าที่จะฝืนดันทุรังทำไป เพราะจะพาลให้เสียหายไปกันหมด

การเงิน  :  ก็ยังตึงถึงตึงมาก  เรียกว่าต้องหมุนเงินกันจนเหนื่อยเลยทีเดียว แต่ก็ยังมีโชคที่มาจากบ้าน-ที่ดินอยู่น้า…หากแต้มบุญคุณมากพอมีสิทธิ์ลุ้นมรดกเลยทีเดียว  

ความรัก  :  จะบอกว่าสัปดาห์นี้คุณน่าจะคิดเรื่องงานมากกว่าเรื่องครอบครัวหรือความรัก ก็ไม่ทั้งหมด เพราะก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้ หากไม่อยู่ด้วยกันบ่อยๆ กลัวคู่ครองจะหาคนอื่นมาแทน คนโสด  คุณมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามและเพศเดียวกัน แต่หากถามใจลึกๆ คุณอยากหาเพื่อนคู่คิดที่สามารถคุยและให้คำปรึกษาได้ทุกๆ เรื่อง ซึ่งจริงๆ แล้วก็มีคนๆ นั้นอยู่แล้ว เพียงแต่คุณยังไม่แน่ใจในตัวเขาเท่านั้นเอง

สุขภาพ  :   สัปดาห์นี้เด่นมากทางด้านท้องไส้จะมีปัญหา เช่น ระบบน้ำย่อย กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี และต่อมน้ำเหลือง รวมถึงการรับประทานอาหารที่ไม่สดสะอาด มีความเสี่ยงที่จะท้องเสีย และพยาธิ์ในลำไส้ คงต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะคาดว่าจะไม่ธรรมดา   

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  สำหรับสัปดาห์ปลายเดือนแบบนี้คาดว่าชาวจันทร์จะอบอุ่นอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ใหญ่ได้ยาวๆ เลย แล้วแต่ละท่านก็ไม่ใช่ธรรมดาด้วยนะ เป็นระดับบิ๊ก  มีบุญ และบารมีกันทั้งนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะดึงคุณไปช่วยงานหรือธุรกิจที่เป็นงานบุญ งานศาสนา รวมถึงงานจิตอาสา และ CSR เพื่อสังคม อย่างไรก็ตามด้วยความเป๊ะปังของผู้ใหญ่ ก็เป็นผลให้คุณต้องปรับตัวในการทำงานเยอะเหมือนกัน จนเป็นไปได้ที่จะเกิดความอึดอัด คับข้องใจ ต้องการการตัดสินใจอย่างเร่งด่วน จนเรียกว่าหากไม่เก่งหรือบุญไม่ถึง ก็ต้องแพ้ไป     

การเงิน  :   มีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ให้ความช่วยเหลืออย่างดีเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใหญ่ผู้หญิง แต่ถึงอย่างไรก็มีความเสี่ยงที่เงินจะเข้ามือขวาออกมือซ้ายอย่างรวดเร็ว หนึ่งในรายจ่ายของสัปดาห์นี้คือ ทำบุญ

ความรัก  :   ก็ยังคงมีความสุข มีโอกาสได้อยู่กันพร้อมหน้าสมาชิกในครอบครัว ผู้ใหญ่ก็ดูแลคุณอย่างอบอุ่นเลยทีเดียว คนโสด จะบอกว่าเป็นสัปดาห์ที่ความรักของคุณสมหวังก็ได้นะ เพราะได้มาพบกับคนที่ใช่ และผู้ใหญ่ก็เห็นดีด้วย แล้วอย่างนี้จะเข็ดกับรักเก่าทำไมล่ะ

สุขภาพ  :  ต้องระวังภูมิแพ้มาเยือน ช่วงนี้ฝนตกชุก ไหนจะโควิด คัม แบค และไข้หวัดใหญ่อีก จึงต้องดูแลตัวเองให้มาก นอกจากนั้นยังต้องระวังโรคที่เกี่ยวกับขาและข้อ เช่น เก๊า อัมพฤกษ์ หรือเส้นเอ็นฉีกขาดด้วย

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน   สัปดาห์ปลายเดือนของชาวอังคารมีโอกาสสูงมากที่คุณจะได้ร่วมงานหรือร่วมหุ้นลงทุนกับเพื่อนสนิทหรือญาติสนิทผู้หญิง ในงานที่ต้องใช้อารมณ์และความรู้สึกในการถ่ายทอด พวกดนตรี กวี ศิลป์ งานโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ งานบันเทิง งานเย็บปักถักร้อย รวมถึงสินค้าและบริการที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ และจากไฟในการทำงานของคุณในช่วงนี้ที่ลุกโชนไม่มอดดับง่ายๆ กับภาวะผู้นำที่อยู่ในตัวคุณ จะสามารถนำพาให้งานหรือธุรกิจใหม่มีโอกาสประสบความสำเร็จ ได้โกอินเตอร์ด้วยนะ

การเงิน  :  มีโอกาสหารายได้ได้มากขึ้น ขณะเดียวกันคุณก็มีเรื่องที่พร้อมจะใช้จ่ายอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะหนักไปกับเรื่องฟุ่มเฟือย ความสวยความงาม อย่าใจอ่อน เชื่อใครง่ายๆ เพราะมีโอกาสที่คุณจะได้พบกับพวกมิจฉาชีพที่จะหลอกเงินคุณ

ความรัก  :   สัปดาห์นี้คุณจะมีโอกาสได้ใช้เวลาอยู่กับญาติผู้หญิง หรือเพื่อนผู้หญิงมากกว่าคู่ครอง แล้วไม่ได้อยู่กันแบบชิลๆ นะ เป็นไปได้ว่าจะอยู่ในระเบียบเป๊ะเลย  คนโสด สำหรับใครที่มีอดีตรักเป็นเพศเดียวกัน สัปดาห์นี้เตรียมตัวไว้ให้ดี เพราะเธอจะกลับมาแล้วเป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่จะบังคับคุณให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องด้วย

สุขภาพ  :  เด่นมากเลยเรื่องระบบน้ำในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเลือด รวมถึงลมด้วย ที่จะมีปัญหา ซึ่งจะส่งผลให้หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ เป็นลมวูบกลางอากาศได้ นอกจากนั้นกระเพาะปัสสาวะก็น่าเป็นห่วง  พยายามอย่ากลั้นปัสสาวะ

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  สำหรับสัปดาห์ปลายเดือนเช่นนี้ ชาวพุธท่านใดที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจอยู่กับบ้าน จนถึงเป็นแม่บ้าน โอกาสนั้นมาถึงแล้ว งานหรือธุรกิจที่พอจะมีโอกาสอย่างมากเลย คือทางด้านอสังหาริมทรัพย์ คอนโด บ้าน ที่ดิน อาคารสำนักงาน ฯลฯ ซึ่งคุณพร้อมลุยเดี่ยวโดยไม่สนหน้าอินทร์ หน้าพรหมใดๆ สิ่งที่หมอปุ้ยอยากเตือนก็คือการตัดสินใจ เพราะดวงคุณเด่นมากในเรื่องเชื่อมั่นในตัวเอง ตัดสินใจเร็ว แบบขาดสติยั้งคิด จนมีความเสี่ยงที่งานหรือธุรกิจจะผิดพลาด เกิดความเสียหายอย่างคาดไม่ถึง

การเงิน  :  หากคุณชอบความท้าทาย สัปดาห์นี้โชคจะเป็นของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านอสังหาริมทรัพย์ และจากธุรกิจที่ทำที่บ้าน

ความรัก  :  เป็นไปได้ว่าคุณจะมีทั้งความเป็นแม่บ้านแม่เรือน ขณะเดียวกันก็เป็นเวิร์คกิ้งวูแมนที่ล้ำยุค ไม่ติดอยู่ในกรอบ หากถูกใจใครก็ไม่แคร์แม้ว่าจะไม่ถูกต้อง คนโสด จริงๆ คุณเป็นประเภทรักแล้วรักเลย ไม่เปลี่ยนแปลง แต่กว่าจะถึงขั้นนั้นต้องผ่านด่านลองใจอีกเยอะ เพราะไม่ใช่แค่ถูกใจแล้วจะสามารถร่วมชีวิตกันได้

สุขภาพ   :  อย่าพยายามอยู่เฉยๆ เพราะคุณจะป่วย ต้องพยายามหากิจกรรมให้ตัวเองทำตลอดๆ แล้วหากเป็นอะไรก็อย่าได้วางใจ ซื้อยามารับประทานเอง เพราะมีความเสี่ยงที่โรคจะโกโซบิ๊ก

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :   ชาวพฤหัสบดีส่งท้ายเดือนเก่าด้วยความเฮงๆ ปังๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในสายการเกษตร นักออกแบบ ตกแต่งสวน สินค้าโอทอป จนถึงนักการเมืองท้องถิ่น ไม่ว่าใดๆ ก็ตามเป็นได้ที่คุณจะประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงโด่งดัง มีโอกาสโกอินเตอร์ หรือไม่ก็ได้ไปประชุม หรือขยายกิจการเครือข่ายยังต่างถิ่นต่างแดน

การเงิน  :   เฮงๆ รวยๆ มีโอกาสเดินทางไปเจรจาธุรกิจยังต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการเกษตร ที่ดินเรือกสวนไร่นา มีโอกาสรวยๆๆ

ความรัก  :  เข้าสู่โหมดเด็กดี มีโอกาสควงแขนกันไปฮันนีมูนที่ต่างประเทศ ซึ่งไม่รู้รอบที่เท่าไหร่แล้ว ก็ควรลดอัตตาและความเป็นตัวตนลงหน่อยจะได้ไม่เสียบรรยากาศ  คนโสด  มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้พบคนที่ใช่ในระหว่างเดินทาง ซึ่งหากพลาดก็ไม่ทราบว่าจะได้พบอีกตอนไหน

สุขภาพ   :  หากกำลังโหมทำงานอย่างหนัก จนไม่ได้พักผ่อน และรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา ก็ต้องผ่อนหน่อยแล้ว เพราะระบบทางเดินหายใจ หลอดเลือด และหัวใจมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหา  นอกจากนั้นยังรวมถึงโรคกระเพาะและลำไส้ด้วย

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :   เป็นสัปดาห์ปลายเดือนที่ค่อนข้างเครียดสำหรับชาวศุกร์เลยก็ว่าได้ เพราะไหนความคิดและจินตนาการที่กว้างไกล แล้วไหนจะไฟในการทำงานที่ลุกโชนอยู่ในตัวตลอดเวลา สุดท้ายก็กลับกลายมากดดันตัวเองจนไม่สามารถที่จะร่วมงานกับคนอื่นได้ ดังนั้น ทางที่ดีคุณควรรับงานอิสระ หรือไม่ก็ทำธุรกิจของตัวเองเลย  ส่วนจะไปได้รุ่งหรือไม่นั้นต้องอยู่ที่บุญที่คุณทำมาเลยล่ะ

การเงิน  :  สามารถหารายได้นอกบ้านได้ตลอดๆ แต่ก็อย่าใจอ่อน เชื่อใจใครง่ายๆ เพราะมีโอกาสที่จะถูกมิจฉาชีพหลอกลวงได้ง่ายๆ รวมถึงคุณเองก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินสินบน ใต้โต๊ะใดๆ ทั้งปวง มีความเสี่ยงถึงกับล้มละลายเลย

ความรัก :  เป็นไปได้ว่าคุณจะมีคู่ครองที่เป็นเสมือนพลังหนุนทางด้านหน้าที่การงานให้คุณ ซึ่งคุณก็เอ็นจอยกับการอยู่ท่ามกลางการยอมรับของสังคม เหนือสิ่งอื่นใดความถูกต้องตามขนบธรรมเนียมต้องมาก่อน คนโสด  สัปดาห์นี้คุณจะเอ็นจอยกับการได้พบปะผู้คนมากหน้าหลายตามากกว่ามีคนรัก คาดว่าดวงแต่งงานของคุณน่าจะอายุสัก 30 กว่าๆ  

สุขภาพ  :  อย่ากลั้นปัสสาวะ เพราะมีโอกาสที่กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะจะติดเชื้อ หากเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดมีโอกาสถึงชีวิตเลยทีเดียว รวมถึงอาการป่วยไข้ด้วย

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :  สัปดาห์ปลายเดือนแบบนี้ชาวเสาร์ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์ บ้าน ที่ดิน คอนโดฯ อาคารสำนักงาน มีความเป็นไปได้ที่คุณ คุณจะได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจากผู้ใหญ่ผู้หญิงให้ได้บุกเบิกงานหรือธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงได้โยกย้ายตำแหน่งหน้าที่การงานไปเพื่อความก้าวหน้าในอนาคตด้วย ทางที่ดีอย่าเชื่อมั่นในตัวเองมาก มีโอกาสที่จะตัดสินใจผิดพลาด หรือพบกับจุดหักเหในชีวิต จนเกิดปัญหาในการทำงานอย่างไม่น่าเกิดขึ้น

การเงิน  :   ผู้ใหญ่ผู้หญิงสนับสนุนและให้โชค เป็นไปได้ว่าน่าจะมาจากที่ดิน บ้าน ซึ่งคุณก็จะจัดสรรการเงินของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ระวังจะถูกหยิบยืมจากญาติพี่น้องด้วย

ความรัก  :   เป็นไปได้ว่าที่บ้านจะพร้อมพรั่งไปด้วยญาติสนิทมิตรสหาย ทั้งผู้ใหญ่ ผู้น้อย จนถึงลูกเล็กเด็กแดงมากันเต็มบ้านเลย หรือคุณจะได้สมาชิกใหม่ คนโสด  ชาวเสาร์สัปดาห์นี้มีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม แล้วคุณก็รักสวยรักงามมากเป็นพิเศษด้วย เพราะฉะนั้นหากจะอินเลิฟจึงไม่น่าแปลกใจ แม้จะพบคนที่ใช่ แต่ก็ยังไม่เอ็นดิ้งง่ายๆ

สุขภาพ   :  หากคุณเพิ่งผ่าตัดอวัยวะในช่องท้อง หรือผ่าคลอด พยายามรักษาเนื้อรักษาตัวให้มากเป็นพิเศษ เพราะมีโอกาสที่แผลจะอักเสบ หรือไม่เช่นนั้นมีความเสี่ยงที่จะลุกลามกลายเป็นโรคที่รุนแรง  

สกินแคร์คอลเล็คชัน Premier Cru จาก Caudalie นวัตกรรมล่าสุด เพื่อผิวแลดูอ่อนเยาว์

สกินแคร์คอลเล็คชัน Premier Cru จาก Caudalie นวัตกรรมล่าสุด เพื่อผิวแลดูอ่อนเยาว์

Alternative Textaccount_circle
สกินแคร์คอลเล็คชัน Premier Cru จาก Caudalie นวัตกรรมล่าสุด เพื่อผิวแลดูอ่อนเยาว์
สกินแคร์คอลเล็คชัน Premier Cru จาก Caudalie นวัตกรรมล่าสุด เพื่อผิวแลดูอ่อนเยาว์

Caudalie เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ในคอลเล็คชัน Premier Cru ที่คราวนี้ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะมาพร้อมโซลูชันครบวงจรเพื่อจัดการปัญหาริ้วรอยแห่งวัยที่มาพร้อมกาลเวลา สาวๆ คนไหนที่อยากฟื้นคืนผิวให้แลดูอ่อนเยาว์แบบรอบด้าน ต้องลองจริงๆ เพราะเค้าไม่ได้เน้นแค่เรื่องริ้วรอย แต่ดูแลทุกดีเทลของผิวแบบล้ำลึก

สกินแคร์คอลเล็คชัน Premier Cru จาก Caudalie นวัตกรรมล่าสุด เพื่อผิวแลดูอ่อนเยาว์

สูตรใหม่นี้ยังจับมือกับ Harvard ในการพัฒนาสารสกัดพิเศษที่ช่วยเสริมความเต่งตึงให้ผิว พร้อมกระตุ้นการฟื้นฟูตามธรรมชาติ ทำให้ผิวกลับมาแลดูเฟิร์มและไบร์ทเหมือนย้อนวัยได้แบบไม่ง้อสารเติมเต็ม เนื้อสัมผัสก็ดีงาม ละมุนผิวไม่เหนียวเหนอะ เหมาะกับทุกสภาพผิว ใครอยากให้ผิวดูแพงแบบสุขภาพดีจากภายใน แนะนำให้พุ่งตัวไปลองเลย

ที่ชอบอีกอย่างคือกลิ่นหอมอ่อนๆ แนวธรรมชาติแบบ Caudalie ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ใช้ เหมือนเป็นสกินแคร์ที่ได้ฟีลสปาไปในตัว บรรจุภัณฑ์ก็หรูหราใช้ง่าย สะท้อนความพรีเมียมแบบไม่เว่อร์ ใครที่อยู่ในวัยเริ่มต้นดูแลริ้วรอย หรืออยากลงทุนกับผิวในระยะยาว ตัวนี้คือคำตอบที่ดีต่อใจและดีต่อผิวแบบไม่ต้องคิดเยอะเลย


keyboard_arrow_up