Luxury
ศิลปากรไม่ทิ้งลาย ทุกวิทยาเขตพร้อมใจวาดภาพพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9
รอบรั้วมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ เหล่านักศึกษาและศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย รวมใจสร้างสรรค์ภาพพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีมาตลอด 70 ปี
มหัศจรรย์ Unseen รูปในหลวง คนไทยโชคดีกว่าใครในโลก
ถ้าคุณเป็นคนไทยที่รับรู้เรื่องราวและสิ่งที่ “ในหลวง” ทรงทําเพื่อประเทศชาติและประชาชนมานานกว่า 7 ทศวรรษ คุณจะพูดถึงความรู้สึกที่มีต่อพระองค์ท่านอย่างไร สําหรับบุคคลทั้ง 6 พวกเขาแสดงออกถึงความรู้สึกนี้ในรูปแบบแตกต่างกัน แต่เมื่อทุกคนมารวมตัวกัน จึงเป็น “มหัศจรรย์ Unseen รูปในหลวง” ที่คุณอาจไม่เคยเห็นจากที่ไหน ชูศักดิ์ วิษณุคํารณ “ในหลวง” ของผมคือ “ภูมิพลโพธิสัตว์” แค่เอ่ยชื่อ “อาจารย์ชู” ก็เชื่อว่าศิลปินวาดภาพ ลูกศิษย์ลูกหาหลายคนคงรู้จักผลงานเขาดี ในฐานะศิลปินสร้างสรรค์พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมานานกว่า 15 ปี และอาจเรียกได้ว่าเป็นศิลปินคนเดียวที่ได้รับเลือกให้วาดพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ด้วยความสูงเท่ากับตึก 4 ชั้น อีกหนึ่งผลงานที่เขาภูมิใจและเผยให้แพรวเห็นเป็นที่แรก ยังไม่รวมอีกหนึ่งผลงานเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ด้วยความยาว 80 เมตร ที่ทําให้รู้ว่าคนไทยโชคดีกว่าใครในโลก “ผมวาดรูปเลี้ยงชีวิตมาเกือบ 50 ปีแล้ว ส่วนใหญ่เป็นงานเขียนรูปสวยงามที่คนซื้อไปประดับบ้าน พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงยืนคู่กัน สูง 8 เมตร จะนําไปติดที่อาคารสินธร เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ปี 2558 จะเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศที่มีพระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวงและพระราชินีใหญ่ขนาดนี้ ให้คนรุ่นหลังเห็นว่าการเขียนพระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวงต้องเขียนพระราชอิสริยยศต่างๆ ให้ถูกต้องด้วย ซึ่งหลายท่านมักมองข้ามไป แต่นี่คือพระราชอิสริยยศของพระองค์ท่าน ถ้าเขียนผิด ภาพนี้ก็จะผิดไปนานเป็นร้อยๆ ปี เพราะฉะนั้นก่อนเขียนพระบรมสาทิสลักษณ์องค์นี้ ผมจึงหาตํารามาศึกษาให้รู้จริงเกี่ยวกับเครื่องทรงทั้งหมด ทําทุกอย่างให้ถูกต้อง เพื่อเป็นต้นแบบให้ลูกหลานศิลปินรุ่นหลัง “ส่วนอีกผลงานหนึ่งเป็นภาพวาดยาว 80 เมตร เป็นภาพพระราชกรณียกิจตั้งแต่วันขึ้นครองราชย์ จนถึงวันที่เหลืองเต็มแผ่นดิน เป็นการบันทึกเรื่องราวของพระองค์ท่าน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ร้อยปีก็ตาม งานชิ้นนี้จะเป็นสิ่งบ่งบอกถึงความรู้สึกของมหาชนที่มีต่อพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นี้ ใช้เวลาเขียน 3 ปีแล้ว ยังไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ตั้งใจจะใช้เวลาเขียนทั้งหมด 4 ปี แล้วนำไปติดที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติวัดด่าน พระราม 3” เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว […]
รวมภาพประทับใจนางฟ้าแห่งภูฏาน พระจริยวัตรอันงดงามหมดจด ไม่ถือพระองค์ แม้ทรงเป็นสมเด็จพระราชินี
ข่าวการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนั้น นอกจากจะนำความเศร้าโศกเสียใจมายังชาวไทยทั้งประเทศแล้ว อีกฟากฝั่งของประเทศเล็กๆอย่างราชอาณาจักรภูฏาน ก็ส่งสารแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังประเทศไทยทันที อีกทั้งสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ก็มีพระราชบัญชาปิดราชการภายในประเทศ 7 วัน พร้อมกับสวดมนต์เพื่อถวายความอาลัย และยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยซาบซึ้งเป็นอย่างมาก เมื่อสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏานเสด็จเยือนประเทศไทยพร้อมกับสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2559 เพื่อเข้ามาถวายความเคารพต่อหน้าพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทั้งสองพระองค์ยังคงมีพระจริยวัตรอันงดงาม ไม่ถือพระองค์แต่อย่างใด แต่กลับยกมือไหว้ประชาชนคนไทยที่มาร่วมรับเสด็จในวันนั้นด้วย ทั้งนี้สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก พระองค์ก็เป็นหญิงสาวที่มีความสง่างามอย่างมาก อีกทั้งพระจริยวัตรก็สมดั่งเป็นสมเด็จพระราชินีเคียงคู่กับสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน ทรงอยู่ง่ายและติดดินอย่างมาก ซึ่งหากใครได้เคยเห็นพระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงปฏิบัติต่อประชาชนชาวภูฏาน ก็จะเห็นได้ชัดว่าพระองค์ทรงเป็นนางฟ้าแห่งภูฏานโดยแท้ และกับการเสด็จเยือนประเทศครั้งนี้ก็ยิ่งสร้างความประทับใจให้กับพสกนิกรชาวไทยเป็นอย่างมาก หลังจากที่พระองค์เสด็จมาถวายความเคารพพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เรียบร้อยแล้ว พระองค์เสด็จมาซื้อของให้กับพระราชโอรสเยี่ยงสามัญชนคนธรรมดา โดยมีผู้ติดตามเพียงคนเดียว ซึ่งในเฟซบุ๊กของหญิงไทยคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระองค์ก็ได้ร่วมฉายพระรูป พร้อมกับโพสต์ลงอินสตาแกรมและพิมพ์ข้อความถึงความประทับใจครั้งนี้ด้วยว่า ภาพ: IG nalinympn “นับเป็นบุญสูงสุดของข้าพระพุทธเจ้าและครอบครัว ที่ได้เฝ้าท่านใกล้ชิดเป็นครั้งที่สอง ทรงเสด็จมาซื้อของให้เจ้าชายน้อย ทรงพระดำเนินปะปนกับสามัญชนทั่วไปโดยมีคนติดตามเพียง 1 คน จนทำให้คนแถวๆนั้นไม่ได้สังเกตว่าพระองค์เป็นใคร แต่เรากับแม่จำได้เลยเดินเข้าไปก้มกราบ ทรงดึงแม่ให้ลุกขึ้นแล้วจับมือ แม่ร้องไห้ ท่านเข้ามากอด แล้วตรัสว่า I’m […]
เรื่องเล่าตามรอยเท้าพ่อ จากอดีตนายแพทย์ที่ตามเสด็จเป็นเวลาเกือบ 20 ปี ตั้งแต่เหนือจรดใต้
“พลเอก ชูฉัตร กำภู ณ อยุธยา” อดีตนายแพทย์ที่ได้โอกาสตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เป็นเวลาเกือบ 20 ปี ไปยังพื้นที่ทุรกันดารตั้งแต่เหนือจรดใต้ของประเทศไทย ฟังเรื่องเล่าทรงคุณค่าที่แพรวอยากให้คนไทยทุกคนได้อ่าน
เศร้าไม่แพ้กัน ชาวไทยในนิวยอร์กพร้อมใจกันออกมาส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย
ถึงแม้จะอยู่กันคนละมุมโลก แต่ความรักที่ประชาชนชาวไทยมีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 นั้นไม่ได้น้อยไปกว่ากันเลย
89 เรื่องของในหลวง แรงบันดาลใจของพสกนิกรไทยทั้งชาติ
อันว่าพระนาม “ภูมิพล” แปลว่า กำลังของแผ่นดิน ซึ่งตลอดพระชนม์ชีพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทำให้พสกนิกรประจักษ์ชัดเสมอมาว่าพระองค์ทรงใช้ธรรมาภิบาลในการสร้าง “ชนเจริญ ชาติจรุง กรุงจรัส” อย่างแท้จริง
เบื้องหลังพระปรีชาสามารถด้านชลประทาน ในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้ทรงงานหนักเพื่อชีวิตร่มเย็นของพสกนิกรไทย
กว่าโครงการด้านเกษตรและชลประทานต่างๆ จากพระราชดำริของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 จะสำเร็จออกมาเพื่อให้คนไทยใช้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุขแบบนี้ ไม่ได้สะดวกสบายเลย นายทวี เต็มญารศิลป์ ผู้เชี่ยวชาญฯ กรมชลประทาน ได้เผยเรื่องราวและพระบรมฉายาลักษณ์ที่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงงานอย่างหนักเพื่อพวกเราชาวไทย
อ่านแล้วคิดถึงพ่อ… เปิดบทกวีใน ‘สมเด็จพระเทพฯ’ ทรงพระราชนิพนธ์ ถึง ‘ในหลวง’
เปิดบทกวีพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเขียนถึง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
รักของน้องส่งถึงพี่ เปิดบทเพลงพระราชนิพนธ์สุดท้าย ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานแด่สมเด็จพระพี่นางฯ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงโปรดการทำกิจกรรมในหลายด้านและมีความโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในเรื่องดนตรี พระองค์ถือเป็นพระอัครศิลปิน ที่ได้สร้างสรรค์ เพลงพระราชนิพนธ์ เอาไว้มากมายถึง 48 บทเพลง
ทำดีตามคำสอนพ่อ ๙ พระราชดำรัสของในหลวง เรื่องการดำเนินชีวิต
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่างๆ ร่วมประมวลและกลั่นกรองพระราชดำรัสและพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งพระราชทานในโอกาสต่างๆ โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นำไปเผยแพร่เมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ ในสมุดบันทึกเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวง เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติของทุกฝ่ายและประชาชนโดยทั่วไป และวันนี้แพรวได้คัดเลือก ๙ พระราชดำรัสและพระบรมราโชวาทของในหลวง เรื่องการดำเนินชีวิต การทำความดี มาให้ทุกคนได้อ่านเพื่อเดินตามรอยคำสอนพ่อกันค่ะ การทำความดีนั้น สำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวเอง ผู้อื่นไม่สำคัญและไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องเป็นห่วงหรือต้องรอคอยเขาด้วย เมื่อได้ลงมือลงแรงกระทำแล้ว ถึงแม้จะมีใครร่วมด้วยหรือไม่ก็ตาม ผลดีที่ทำจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน (พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ : ๒๐ ตุลาคม ๒๕๒๐) ถ้ามีความคิดอย่างนี้ว่า คนอื่นเขาก็สร้างเหมือนกัน คนอื่นเขาก็ทำเหมือนกัน แล้วก็เมตตาซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รู้จักรักกัน รู้จักว่าตรงไหนเป็นความดี และนึกถึงว่าประเทศไทยของเราเต็มไปด้วยความดี ประเทศไทยของเราจะมีความมั่นคง และพวกเราในที่สุดก็จะมีความสุข ความสบาย มีเกียรติ สามารถมีชีวิตที่รุ่งเรือง (พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา : ๔ ธันวาคม ๒๕๑๙) ถ้าเราคิดดี ทำดี ไม่ใช่แต่ปากนะ ทำอย่างดีจริงๆ คือ สร้างสมสิ่งที่ดีด้วยการปฏิบัติในสิ่งที่เรียกว่าดี หมายความว่า ไม่เบียดเบียนผู้อื่น สร้างสรรค์ทำให้มีความเจริญทั้งวัตถุทั้งจิตใจ […]
เปิดพระราชนิพนธ์แรก ฉบับเต็ม… เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิทเซอร์แลนด์
พระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิทเซอร์แลนด์” เป็นพระราชนิพนธ์แรกที่พระราชทานแก่วงวรรณคดี อันเป็นบันทึกความทรงจำหลังจากที่ทรง “รับ” คำกราบบังคมทูลอัญเชิญขึ้นสืบสันตติวงศ์ไอศวรรย์สมบัติแล้ว จำต้องเสด็จฯกลับไปทรงศึกษาต่อ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๙ นับถึงวันนี้พระราชนิพนธ์ฉบับนี้มีอายุครบ ๗๐ ปีเต็มบริบูรณ์แล้ว ถือเป็นงานทรงคุณค่าสูงสุดอีกองค์หนึ่งที่พระองค์ท่านได้พระราชทานไว้แก่ปวงชนชาวไทย ในการนี้แพรวขอน้อมอัญเชิญมาเผยแพร่อีกครั้งอย่างครบถ้วนทุกถ้อยความและสะกดตามต้นฉบับ เพื่อเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิทเซอร์แลนด์ “วงวรรณคดี” ได้ขอร้องให้ข้าพเจ้าเขียนเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ถนัดมาลงในหนังสือนี้นานมาแล้ว อันที่จริงข้าพเจ้าก็ไม่ใช่นักประพันธ์ เมื่ออยู่โรงเรียน เรียงความและแต่งเรื่องก็ทำไม่ได้ดีนัก อย่างไรก็ดีข้าพเจ้าก็ปรารถนาที่จะสนองความต้องการของ “วงวรรณคดี” อยู่บ้าง และเนื่องด้วยไม่สามารถที่จะเขียนเรื่องที่ข้าพเจ้ารู้บ้าง เช่น ดนตรี ศิลปะ วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือกฎหมาย ฯลฯ ได้ เพราะไม่มีความรู้ในเรื่องเหล่านี้ดีพอ ฉะนั้นจึงตกลงใจส่งบันทึกประจำวันที่เขียนไว้ก่อนและระหว่างวันเดินทางจากสยามสู่สวิทเซอร์แลนด์มาให้ และในโอกาสนี้ จึงขอขอบใจเป็นการส่วนตัวต่อทุกๆ คนที่มาถวายความจงรักภักดีที่มีต่อสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชของข้าพเจ้า ณ พระมหาปราสาท ตลอดจนความปรารถนาดีที่มีต่อตัวข้าพเจ้าเอง กับขอขอบใจเหล่าทหารและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการด้วยความจงรักภักดีต่อเราทั้งสองด้วย วันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ อีกสามวันเท่านั้น เราก็จะต้องจากไปแล้ว ฉะนั้นจึงตั้งใจจะไปนมัสการพระพุทธชินสีห์ที่วัดบวรนิเวศน์วิหาร รวมทั้งสมเด็จพระสังฆราชด้วย. เมื่อไปถึงวัดบวรนิเวศน์วิหารตอนบ่ายวันนี้ มีประชาชนผู้รู้ว่าข้าพเจ้าจะมา […]
พระชะตากำหนด สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระราชทานสัมภาษณ์สื่อถึงรักแรกพบ ดูแล้วยิ้มทั้งน้ำตา
เป็นคลิปที่ดูแล้วต้องยิ้มทั้งน้ำตาจริงๆ กับบทพระราชทานสัมภาษณ์ที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงให้กับ บีบีซี สื่อต่างชาติ ถึงเรื่องราวความรักของพระองค์กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงโพสต์ไอจี ถวายความอาลัย “ตามเสด็จทูลกระหม่อมปู่เป็นวันสุดท้าย”
14 ตุลาคม 2559 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ซึ่งประทับนั่งในรถยนต์พระที่นั่งตามเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เป็นครั้งสุดท้าย ได้โพสต์ภาพที่พระองค์ทรงฉายขณะอยู่บนรถยนต์พระที่นั่งพร้อมทั้งบรรยายความรู้สึกผ่านทางอินสตาแกรมส่วนพระองค์ว่า “ตามเสด็จทูลกระหม่อมปู่เป็นวันสุดท้าย และเป็นครั้งสุดท้ายที่ตามหลังรถพระที่นั่งคันแรกแล้วสินะ จำความได้ว่าเราตามเสด็จฯครั้งแรกตอน 9 ขวบ จนถึงวันนี้จบแล้ว หัวใจแตกสลาย” ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
รวมเหตุอัศจรรย์บนฟากฟ้า ห้วงเวลาน้อมอาลัย ในหลวงในดวงใจ เสด็จสู่สวรรคาลัย
เหตุอัศจรรย์อาจเป็นเรื่องที่คนยุคใหม่คิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล งมงาย แต่สำหรับคนไทยส่วนใหญ่แล้ว นี่คือเรื่องที่ไม่ไกลพ้นไปจากความเชื่อเราเท่าใดนัก โดยเฉพาะเมื่อเป็นเหตุอัศจรรย์ที่เกี่ยวเนื่องกับคนในราชวงศ์ และนับตั้งแต่ ในหลวงในดวงใจ เสด็จสู่สวรรคาลัยไปเมื่อบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 เวลา 15.52 น. ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระอาการสงบ ห้วงเวลาก่อนหน้าจวบจนค่ำคืนแรกที่คนไทยไม่มีพ่อหลวง เลยไปจนถึงเพลาเคลื่อนพระบรมศพนั้นก็พลันบังเกิดปรากฏการณ์บนฟากฟ้าหลากหลายเหตุการณ์ ซึ่งนับเป็นเรื่องอัศจรรย์ยิ่งนัก แต่หากคิดว่าพระองค์ท่านทรงเป็นสมมติเทพลงมาจุติ ปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่เกิดขึ้นนี้ก็จะเป็นบทบันทึกของห้วงเวลาอันแสนเศร้าทางประวัติศาสตร์ ที่สามารถเล่าสืบต่อชั่วลูกชั่วหลานได้ตราบนานเท่านาน อัศจรรย์ท้องฟ้าเปิดเหนือโรงพยาบาลศิริราช ไม่ปรากฏที่มาของผู้ถ่ายภาพ แต่ที่แชร์ต่อๆ กันจนมาถึงแพรวนั้น ได้จากเพจ “ดร.ณัชร สยามวาลา Nash Siamwalla, PhD” ซึ่งลงภาพนี้พร้อมโพสต์ข้อความว่า “ภาพท้องฟ้าเปิดเหนือศิริราชตอนบ่ายแก่ๆ วันที่ ๑๓ ต.ค. ๒๕๕๙ สะกิดให้คิดมุมกลับได้ว่า ป่านนี้บนสวรรค์คงกำลังเฉลิมฉลองต้อนรับการเสด็จฯกลับของพระองค์ท่านอยู่ หลังจากที่ทรงเสียสละจุติจากเทวโลกลงมาอุบัติในมนุษย์โลก เพื่อทรงงานช่วยเหลือดูแลบำบัดทุกข์บำรุงสุขพวกเราอยู่ตั้งนาน ผู้เขียนเป็นผู้รู้น้อย แต่ขอเดาจากที่เคยได้ยินมาว่า ที่เห็นฟ้าเปิดเป็นแสงสว่างส่องลงมาท่ามกลางความมืดมนนี้ ก็น่าจะเป็นขบวนเทวดา (ที่ตามปกติมีรังสีสว่างมากน้อยตามกำลังบุญ) ลงมากราบบังคมทูลเชิญให้เสด็จฯกลับสวรรค์นั่นเอง คนไทยเรายุคปัจจุบันมีบุญมากที่ได้เกิดทันแผ่นดินของพระโพธิสัตว์ผู้กำลังสั่งสมพระบารมี เพื่อจะไปเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต ถ้ารักและอาลัยพระองค์ท่านก็พึงเจริญทาน ศีล และภาวนาบารมีตามรอยพระบาทกันเถิด เพราะอย่าลืมว่าเพียงการอธิษฐานว่า […]
สะอื้นไห้ระงม บรรยากาศพิธีส่งเสด็จองค์พระปรมินทร์ สู่สวรรคาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
ตลอดทั้งวันนี้ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ที่พระบรมมหาราชวัง บรรยากาศยังเต็มไปด้วยความปวดร้าว สุดแสนอาลัยได้แต่ร่ำไห้ เกินจะบรรยายความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้
ภาพหาดูยากของเรือใบฝีพระหัตถ์ลำจริงที่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานให้มาจัดแสดงครั้งแรก!
ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานเรือใบฝีพระหัตถ์ลำจริงให้มาจัดแสดงครั้งแรกใน “นิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช” ภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2559
“รับ” พระราชดำรัสที่ผูกพัน พระมหากษัตริย์ ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก
“เคยมีผู้กล่าวไว้ว่า ราชอาณาจักรนั้นเปรียบเสมือนพีระมิด มีพระมหากษัตริย์อยู่บนยอด และมีประชาชนอยู่ข้างล่าง แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว ดูเหมือนทุกอย่างจะตรงกันข้าม นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องปวดคอ และบริเวณไหล่อยู่เสมอ”
ชม 6 ศูนย์ศึกษาฯอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ชี้ชัดใครกันที่ อยู่ดี กินดี เพราะมี ในหลวงรัชกาลที่ 9
ในหลวงรัชกาลที่ 9… พ่อหลวง… พ่อของแผ่นดิน… ไม่ว่าใครจะเรียกพระองค์ว่าอย่างไร แต่ในใจคนไทยล้วนหมายถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระเจ้าแผ่นดินที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก