จมูกไม่รับกลิ่น

จู่ๆ สูญเสียการรับกลิ่นหรือรสฉับพลัน อาจเสี่ยงติดเชื้อ โควิด-19 ให้เฝ้าระวัง

Alternative Textaccount_circle
จมูกไม่รับกลิ่น
จมูกไม่รับกลิ่น

สถานการณ์ไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 ยังคงระบาดหนักลุกลามไปในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่ามีข้อมูลหลั่งไหลออกมามากมาย ทั้งอาการของโรค การเฝ้าระวัง การป้องกัน 

ล่าสุด ทางเว็บไซต์นิวยอร์กไทม์ ของสหรัฐฯ ได้เผยแพร่บทความของ Roni Caryn Rabin เรื่อง “ความรู้สึกที่หายไปของกลิ่นอาจเป็นเงื่อนงำที่แปลกประหลาดต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19”

ทั้งนี้ บทความดังกล่าวระบุว่า กลุ่มแพทย์ได้แนะนำให้ทดสอบและแยกเชื้อสำหรับผู้ที่สูญเสียความสามารถในการดมกลิ่นและรสชาติแม้ว่าจะไม่มีอาการอื่น

“แม่ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่สามารถดมกลิ่นผ้าอ้อมเต็มของลูกน้อยได้ พ่อครัวที่สามารถรู้ชื่อเครื่องเทศทุกชนิดในจานของอาหาร แต่ไม่สามารถได้กลิ่นแกงกะหรี่ หรือกระเทียมและรสชาติอาหารที่มีรสชาติหวาน” Roni Caryn Rabin ได้เขียนถึงตัวอย่างของบุคคลต่างๆ ในบทความ

สำหรับอาการดังกล่าว เรียกว่า “Anosmia” หรือการสูญเสียความรู้สึกของกลิ่น ซึ่งกลายเป็นสัญญาณบอกเล่าที่แปลกประหลาดของโควิด-19

ด้านแพทย์หูจมูกและลำคอของอังกฤษ อ้างรายงานจากเพื่อนร่วมงานทั่วโลก เรียกร้องให้ผู้ใหญ่ที่สูญเสียประสาทสัมผัสในการดมกลิ่น แยกตัวเองเป็นเวลา 7 วัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีอาการอื่นใด เพื่อชะลอการแพร่กระจายของโรค

“เราต้องการสร้างความตระหนักว่านี่เป็นสัญญาณของการติดเชื้อและผู้ที่พัฒนาความรู้สึกหมดสติควรแยกตัวเอง มันอาจช่วยชะลอการส่งสัญญาณและช่วยชีวิต” ศาสตราจารย์แคลร์ ฮอปกิ้นส์ ประธานสมาคม Rhinological ประเทศอังกฤษ เขียนไว้ในอีเมล์

กลุ่มตัวแทนแพทย์หูจมูกและลำคอของอังกฤษ ออกแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดูแลสุขภาพ โดยใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เมื่อต้องรักษาผู้ป่วยที่สูญเสียความรู้สึกจากกลิ่น เช่น การส่องกล้องตรวจไซนัส เพราะอาจสัมผัสกับไวรัสที่อยู่ในจมูกและลำคอ รวมถึงการตรวจดังกล่าวอาจกระตุ้นให้ผู้ป่วยไอหรือจาม ซึ่งจะทำให้แพทย์มีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของไวรัสสูง

รายงานพบว่า มีผู้เชี่ยวชาญด้านหูจมูกและลำคอในอังกฤษ ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงจนอยู่ในภาวะวิกฤต ซึ่งสอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า แพทย์ทางด้าน หู ตา คอ จมูก ในเมืองอู่ฮั่นติดเชื้อไวรัสดังกล่าว และตายเป็นจำนวนมาก

เช่นเดียวกับรายงานในประเทศอื่นๆ ที่ระบุว่า ผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 จำนวนมากมีอาการ Anosmia จมูกไม่ได้กลิ่น โดยในเกาหลีใต้ที่พบว่า ร้อยละ 30 ของผู้ป่วย 2,000 คนที่ทดสอบ Anosmia ที่มีผลเป็นบวก

ด้านสถาบัน American Academy of Otolaryngology ได้โพสต์ข้อมูลในเว็บไซต์ กล่าวถึงการพบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าการสูญเสียหรือลดความรู้สึกของกลิ่นและการสูญเสียรสชาติเป็นอาการสำคัญที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 และอาการเหล่านี้ พบในผู้ป่วย ซึ่งไม่มีอาการอื่นๆ บ่งชี้ว่าเป็นโควิด-19

ดังนั้นหากเกิดอาการนี้ ในกรณีที่ไม่มีโรคภูมิแพ้หรือไซนัสอักเสบ ควรแจ้งเตือนแพทย์ให้ตรวจคัดกรองผู้ป่วย เพื่อหาไวรัสและควรแยกตนเองออกจากบุคคลอื่นๆ โดยองค์กรได้เตือนให้แพทย์ทุกคนให้ความสำคัญกับการเข้ารับการตรวจร่างกายอย่างเร่งด่วนและฉุกเฉิน” American Academy of Otolaryngology

 

จมูกไม่รับกลิ่น

ด้านศาสตราจารย์ Clare Hopkins ผู้อำนวยการของศูนย์นาสิกวิทยาอังกฤษ ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า “ในเกาหลี ซึ่งเป็นสถานที่ที่เชื้อไวรัสระบาดหนัก มีข้อมูลงานวิจัยพบว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อจำนวน 30 เปอร์เซ็นต์ จะมีอาการ ‘สูญเสียประสาทในการรับกลิ่น’ เป็นอาการหลัก ในกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่ค่อยแสดงอาการมากนัก”

“พักหลังๆ มานี้เราได้ข้อมูลมาว่ามีผู้ป่วยที่แสดงอาการเหล่านี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในอิหร่าน สหรัฐฯ ฝรั่งเศส และอิตาลี”

นอกจากนี้จากผู้ติดเชื้อหลายๆ คนจากทั่วโลกเองก็เช่นกัน พวกเขาล้วนแล้วแต่มีอาการเดียวกัน ในช่วงที่ยังตรวจหาเชื้อไม่เจอ พวกเขาจะมีอาการ สูญเสียความสามารถในการรับกลิ่นและรส ก่อนที่จะมีอาการไข้ และไอ ตามมาในภายหลัง

การที่เชื้อไวรัสนี้ใช้เวลาในการแสดงอาการที่ชัดเจนค่อนข้างนาน ทำให้ใครหลายๆ คนอาจจะกลายเป็นคนแพร่เชื้อไปโดยไม่รู้ตัว และมันคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เจ้า COVID-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอีกว่า โดยปกติแล้วอาการที่จะทำให้เราทราบว่าเราติดเชื้อ หรือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ควรจะเฝ้าระวังนั้นคือคนที่มีไข้สูง และไอ แต่อาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นกับคนที่มีอายุเยอะ แต่ทว่าสำหรับกลุ่มคนที่มีอายุน้อยที่ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จะไม่แสดงอาการเหล่านี้แต่อย่างใด หรือถ้าเป็นก็จะเป็นแบบที่น้อยมากๆ จนแทบจับสังเกตไม่ได้

แต่ข้อสังเกตที่ชัดเจนที่สุดจากข้อมูลที่ผู้เชี่ยวชาญทราบมา พบว่าจู่ๆ คุณก็สูญเสียความสามารถในการรับกลิ่น หรือรับรสไป นั่นหมายความว่าไวรัสได้เข้าไปอาศัยอยู่บนลิ้นและโพรงจมูกของคุณเรียบร้อยแล้ว

ศาสตราจารย์ Clare แนะนำว่าหากใครก็ตามที่พบว่าตัวเองอยู่ๆ ก็มีอาการสูญเสียความสามารถในการรับกลิ่นหรือรส อย่างฉับพลัน ก็ให้กักตัวเองอย่างน้อยเป็นเวลา 7 วัน และวัดไข้อย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดเพิ่มเติม


ข้อมูล : catdumb.tv , daidee , businessinsiderentukskynews
ภาพ : Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บุคลากรทางการแพทย์ฝั่งยุโรป เผยรอยช้ำบนใบหน้า หลังต่อสู้ โควิด-19 ยาวนาน

รวมทุกข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับการล้างมือในภาวะ โควิด-19 ระบาด

ผลิตแล้ว เจลล้างมือ แจกฟรีที่หรูสุดของ LVMH เพื่อบริจาคสาธารณสุขฝรั่งเศส

ทำงานอยู่บ้าน ระวังน้ำหนักขึ้น ลอง Fitness at home เสมือนมีเทรนเนอร์สอนข้างๆ

ฮาวทูกักตัว 14 วัน ลดความเสี่ยง โควิด-19 เพื่อตัวเองและคนรอบข้าง

 

 

 

Galaxy Z Flip x SIRIVANNAVARI BANGKOK

เผยที่มาลวดลายบนเคสมือถือ Galaxy Z Flip x SIRIVANNAVARI BANGKOK

Galaxy Z Flip x SIRIVANNAVARI BANGKOK
Galaxy Z Flip x SIRIVANNAVARI BANGKOK

ครั้งแรกของ Galaxy Z Flip x SIRIVANNAVARI BANGKOK พร้อมเผยที่มาของลวดลายบนเคสมือถือซัมซุง ที่มีจำนวนจำกัดเพียง 200 เซ็ตเท่านั้น! วางจำหน่าย 27 มีนาคมนี้

ซัมซุง Galaxy Z Flip สมาร์ทโฟนพับได้รุ่นล่าสุดของสายแฟชั่น จับมือกับ SIRIVANNAVARI BANGKOK แบรนด์แฟชั่นระดับแนวหน้าของไทย เผยโฉม “Galaxy Z Flip x SIRIVANNAVARI BANGKOK Special Case Limited Edition”

คอลเล็คชั่นพิเศษนี้จะมาใน Boxset สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ประกอบด้วย Galaxy Z Flip และเคสรุ่นพิเศษภายใต้คอนเซ็ปต์ The Reflection of Style ที่ผสมผสานเอกลักษณ์แห่งงานดีไซน์ของทั้งสองแบรนด์ไว้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับวอลเปเปอร์ลายโลโก้นกยูง สัญลักษณ์ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK อีกด้วย

โดย Galaxy Z Flip x SIRIVANNAVARI BANGKOK Special Case Limited Edition เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานแฟชั่นโชว์ SIRIVANNAVARI BANGKOK SPRING/SUMMER 2020 ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา และจะวางจำหน่ายในวันที่ 27 มีนาคม มาในจำนวนจำกัดเพียง 200 เซ็ตเท่านั้น! มีดีไซน์ให้เลือกสองสี ได้แก่ สีฟ้าและสีชมพู สำหรับเคสสีฟ้าจะมาพร้อมกับ Galaxy Z Flip สีดำ Mirror Black และเคสสีชมพูจะมาพร้อมกับ Galaxy Z Flip สีม่วง Mirror Purple

Galaxy Z Flip x SIRIVANNAVARI BANGKOK

ซึ่งก่อนหน้านี้ แพรวดอทคอม ได้มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องและดูแลโปรเจ็กต์นี้ นั่นคือ คุณธันย์ชนก วิริยะบูรณ์ กรรมการบริหารบริษัทไอริส 2005 จำกัด และคุณวิทยา สินทราพรรณทร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัทไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ทั้งสองได้ให้ข้อมูลและเผยถึงที่มาในการร่วมงานกันครั้งแรกของสองแบรนด์ดัง จะมีความพิเศษอย่างไรบ้าง มาตามอ่านกันได้เลยค่ะ

คุณธันย์ชนก วิริยะบูรณ์ และคุณวิทยา สินทราพรรณทร

ซัมซุง Galaxy Z Flip แตกต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ อย่างไรบ้าง

คุณวิทยา : “ตัวอย่างของกลุ่มคนแรกๆ ที่ได้เห็นมือถือรุ่นนี้จะมีความรู้สึกว่าเหมือนตลับแป้ง คือด้วยรูปแบบแล้วก็รู้สึกเหมือนตลับแป้งจริงๆ สำหรับการออกแบบจุดเด่นของมันคือพับได้ ผู้หญิงจะชอบถือกระเป๋าเล็กๆ ผู้ชายก็จะชอบเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง มันก็จะสะดวกต่อการพกพา ผมไปโชว์ให้ภรรยาดูเขากรี๊ดเลย คือกระเป๋าใบเล็กที่มีอยู่ ได้เอามาใช้แล้ว มันก็มีความรู้สึกที่เป็นแฟชั่นมากขึ้น

อีกเรื่องก็จะเป็นส่วนของหน้าจอนะครับ อย่างที่บอกเวลาเปิดมามันจะแบนเรียบครับ มันก็จะเป็นจุดเด่นข้อหนึ่ง คือมันพับแล้วเวลาที่เราจะใช้ เราสามารถใช้ได้ 2 จอ จอหนึ่งเปิดดูหนังได้ อีกจอสามารถเล่นไลน์ เล่นอะไรก็แล้วแต่ท่าน เพราะว่าเราสามารถใช้ได้ 2 จอในเวลาเดียวกัน

อีกจุดหนึ่งที่หลายๆ คนจะชอบมากๆ เลยคือการถ่ายรูป การทำบล็อกหรือวิดีโอ เรื่องของกล้องถ่ายภาพคือไม่ต้องเป็นห่วงเลย เขาค่อนข้างที่จะมีชื่อเสียงทางด้านการถ่ายภาพ เรื่องของลูกเล่นต่างๆ ลูกเล่นใหม่ๆ กดถ่ายภาพแค่ภาพเดียว แต่กล้องจะประมวลผลให้เราได้ทั้งภาพนิ่งและภาพวิดีโอกว่า 14 รูปในเวลาเดียวกัน ซึ่งคนที่เล่นโซเชียลเขาสามารถเลือกได้เลยว่าจะโพสต์เป็นรูปหรือจะโพสต์เป็นวิดีโอ ก็จะเป็นลูกเล่นอะไรต่างๆ ที่มีในมือถือรุ่นนี้”

Galaxy Z Flip x SIRIVANNAVARI BANGKOK

ซัมซุงมาร่วมมือกับแบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK ได้อย่างไร

คุณวิทยา :  “สิ่งที่ทำให้มือถือรุ่นนี้มันพิเศษกว่ารุ่นอื่น เพราะมีเรื่องของแฟชั่นและไลฟ์สไตล์เข้ามา ดังนั้นเราคิดว่าในเมื่อมือถือเรามันมีโปรไฟล์แล้ว เราจะทำให้พิเศษขึ้นได้ยังไง เราก็เลยลุกขึ้นมาร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ซัมซุงและแบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK อย่างที่ผมบอกว่าแบรนด์ซัมซุง 10 ปีข้างหน้า เราโฟกัสเป็นอย่างมากในเรื่องของเทคโนโลยี เพราะเป็นการก้าวสู่โลกอนาคต เราเชื่อมั่นว่าแบรนด์ที่เราจะร่วมมือด้วย จะต้องเป็นแบรนด์แฟชั่นของประเทศไทย แบรนด์ไหนที่มีดีเอ็นเอตรงกับแบรนด์ของเราบ้าง เราก็เจอแบรนด์นี้ที่เราตามดูคอลเล็คชั่นต่างๆ ก็จะมีความพิเศษทางด้านของผลงาน เรื่องของวัสดุต่างๆ เรื่องของเทคโนโลยีที่นำมาใช้ เราก็เลยเสนอ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI ว่าเราอยากให้พระองค์ท่านออกแบบเคสมือถือ ทำให้มันออกมาพิเศษและเอ็กซ์คลูซีฟ สำหรับบุคคลที่ชอบความไม่เหมือนใครและมีจำนวนที่จำกัดมากๆ ”

ทางแบรนด์ SIRIVANNAVARI รู้สึกอย่างไรที่ได้ร่วมงานกับซัมซุงเป็นครั้งแรก

คุณธันย์ชนก : “ขอบคุณทางแบรนด์ซัมซุงนะคะที่ให้แบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK ร่วมดีไซน์ ส่วนใหญ่เราก็จะร่วมงานกับทางด้านไลฟ์สไตล์ โปรดักส์บิวตี้นะคะ ไม่เคยไปแตะในเรื่องของเทคโนโลยีเลย นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมทำร่วมงานกับทางซัมซุง ก่อนอื่นคือได้เสนอมาว่าอยากให้ออกแบบเคส เราก็คิดว่ามันน่าท้าทายมาก เพราะว่ามันมีดีไซน์ที่แตกต่างและแหกกฎจากตลาดทั่วไป เราก็คิดว่าน่าจะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ และวิสัยทัศน์ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI กับแบรนด์ของซัมซุงก็คล้ายๆ กัน เรื่องของการพัฒนาผลิตภัณท์ คือตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้”

ที่มาของงานดีไซน์

คุณธันย์ชนก : “คือแบรนด์ SIRIVANNAVARI และแบรนด์ซัมซุงมีตัวอักษรที่เหมือนกันคือตัว S เราเลยดึงเชื่อมโยงมาในงานดีไซน์ โดยการนำลวดลายของตัว S มาวางและพลิกไปมา ทำให้เกิดเทคนิคที่เรียกว่า Flip กราฟิก พอเราพลิกไปพลิกมาก็ได้เป็นรูปตัวซี หรือตัว Z ค่ะ มันก็จะสัมพันธ์กับชื่อรุ่น Z Flip ซึ่งคอนเซ็ปต์ท่านหญิงทรงดีไซน์เอาทรงปริซึมเข้ามานำเสนอความเป็นโมเดิร์น ความทันสมัยให้ตรงกับผู้ใช้งานมือถือรุ่นนี้ โดยคอนเซ็ปต์ก็คือการสะท้อนถึงสไตล์ของผู้ใช้งาน

ซึ่งทางแบรนด์ SIRIVANNAVARI และแบรนด์ซัมซุงก็จะก้าวไปด้วยกันโดยผ่านรูปแบบของการดีไซน์ ตัวสีท่านหญิงก็ทรงบอกว่าผู้ใช้งานไม่ใช่ผู้หญิงอย่างเดียว ก็เลยลองเลือกสีที่แตกต่าง ก็เป็นสีชมพูและเป็นสีโทนฟ้า เพื่อให้สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีได้มีทางเลือกในการใช้งาน ถ้าพูดถึงเรื่องดีไซน์ DNA ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ท่านจะเน้นเรื่องของการทำกราฟิกค่ะ แล้วสัญลักษณ์ก็คือนกยูง อดเสริมไม่ได้คือต้องมีโลโก้นกยูงด้วย แต่ก็พยายามออกแบบมาให้ล้ำและโมเดิร์น”

Galaxy Z Flip x SIRIVANNAVARI BANGKOK

อยากทราบว่าใช้เวลานานแค่ไหนในการทำ

คุณธันย์ชนก : “ตอนที่เริ่มเวิร์คกับทางซัมซุงคือกลางเดือนมกราคม เพื่อให้ทันเปิดตัวสิ้นเดือนมีนาคมค่ะ คือค่อนข้างใช้เวลา เอาตรงๆ เราได้ทำงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลก เราค่อนข้างมืออาชีพมาก ก็มีเวิร์คกับทางกราฟิก และท่านหญิงก็ดีไซน์ ทางทีมกราฟิกของเราก็ทำงานค่อนข้างได้ดี ไม่ได้มีการติดขัดอะไร และนอกจากเคสแล้ว ที่ท่านหญิงทรงดีไซน์ก็จะมีภาพหน้าจอด้วย”

การทำงานต่างจากการออกแบบเสื้อผ้าอย่างไรบ้าง

คุณธันย์ชนก : “ก็ต่างพอสมควร เพราะว่าเราต้องนึกถึงรูปแบบที่ออกมาบนมือถือ ทั้งการใช้ของผู้ใช้งานมือถือต้องใช้ได้จริงด้วย รูปลักษณ์ก็ต้องโมเดิร์นด้วยเหมือนกัน โจทย์ก็คือต้องทันสมัย การเลือกวัสดุ เราก็ต้องหาอย่างอื่นมาทำ ท่านหญิงก็ทรงถามว่าถ้าเราทำแบบนี้ จะต้องใช้วัสดุอะไรมันถึงจะเบา วัสดุไหนที่ออกมาแล้วให้มู้ดแอนด์โทนที่ปริซึมออกมาสวยที่สุด ก็ซับซ้อนพอสมควร แต่ก็สนุกกับการทำงานกับทางซัมซุงค่ะ”

เหตุใด ซัมซุง ประเทศไทย นำเสนอชื่อแบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK ในโปรเจ็กต์นี้

คุณวิทยา :  “คือจริงๆ แล้วในเรื่องของการนำเสนอ แน่นอนก็มีการเสนอชื่อแบรนด์ของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทำไมถึงต้องเป็นแบรน์นี้ ก็เพราะว่าเรามองเห็นแบรนด์ของพระองค์ท่าน มีจริตของแบรนด์ที่ตรงกัน แบรนด์ SIRIVANNAVARI มีการทำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในเรื่องของการดีไซต์ ซึ่งจริงๆ มันคือ DNA ของการนำเสนอ แต่จะเป็นแบรนด์ไหนก็ต้องคิดกันว่าทำยังไงถึงจะเสริมมูลค่าให้กับแบรนด์ ให้กลายเป็นแรร์ไอเท็ม

แน่นอนเราก็จะเลือกจากแฟชั่นดีไซเนอร์ ดีไซเนอร์กระเป๋า ดีไซเนอร์เสื้อผ้า เราก็คิดว่าดีไซเนอร์เสื้อผ้าน่าจะเป็นอะไรที่เหมาะสมที่สุด มองดีไซเนอร์ของไทยก็มีอยู่เยอะมาก ซึ่งตอนที่เราเลือก เราก็ปวดหัวพอสมควร เพราะซัมซุงมีความระมัดระวัง และสิ่งที่ทำต้องส่งเสริมซึ่งกันและกัน และแน่นอนเราต้องไม่ทำให้แบรนด์ของพระองค์ท่านเสียหาย เป็นสิ่งที่เราต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน เพราะผมมองว่าเวลาพระองค์ท่านจะทำงานกับแบรนด์ไหน พระองค์ท่านต้องพิจารณามากพอสมควร ว่าทำแล้วจะเสริมคุณค่าและมูลค่าซึ่งกันและกันไหม”

ฟีดแบ็คของทางซัมซุง สำนักงานใหญ่ เมื่อได้เห็นงานดีไซน์

คุณวิทยา : “ทางสำนักงานใหญ่ต้องตรวจสอบก่อนที่จะทำเป็นเคสตัวอย่างออกมา ก็มีความพอใจมากตั้งแต่เรื่องของดีไซน์ จริงๆ ความตั้งใจของผู้บริหารจากต่างประเทศจะบินมาดูผลงานชิ้นนี้ในงานแฟชั่นโชว์ด้วย แต่โดนยกเลิกเพราะโควิด-19 ก็น่าเสียดายมากๆ ครับ และดูจากดีไซน์ที่คุณธันย์ชนกได้เล่าไป ก็มีการผลิตจากพลาสติกแบบพิเศษมีการเล่นลวดลาย สุดท้ายมันก็จบด้วยดีไซน์ที่ลงตัวมากๆ

ส่วนสีของโทรศัพท์เรามี 2 สีด้วยกัน เรามีสีดำกับสีม่วง ซึ่งเป็นสีที่กำลังมาแรงเลยของปีนี้ ดีไซน์พระองค์ท่านก็ออกแบบให้เป็น 2 สี โทรศัพท์สีม่วงก็ใช้สำหรับเคสสีชมพู ส่วนโทรศัพท์สีดำก็ใช้สำหรับเคสสีฟ้า มือถือที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟ ดีไซน์ก็จะมีจำนวนจำกัดเพียง 200 เซ็ตเท่านั้นในประเทศไทย และมีวางจำหน่ายเฉพาะที่ Samsung Experience Store 10 สาขา


บทสัมภาษณ์ : ฮานะ_แพรวดอทคอม

ภาพ : SIRIVANNAVARI BANGKOK , Samsung Thailand

Multi – Protection Sunscreen SPF50+ PA++++

 Aqua+ Series (อควาพลัส ซีรี่ส์) ผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิวสำหรับผิวมัน ผิวบอบบางและผิวเป็นสิวง่ายขอแนะนำ Multi – Protection Sunscreen SPF50+ PA++++ ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าสูตรใหม่ล่าสุด เนื้อครีมสีขาว เกลี่ยง่าย ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ   ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดที่ช่วยปกป้องผิวอย่างครบถ้วนจากรังสี UVA , UVB และรังสีอินฟาเรด อันเป็นสาเหตุของริ้วรอยและความหมองคล้ำ  ด้วยค่า SPF 50+ และ PA++++ พร้อมเติมสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ที่ได้จากธรรมชาติถึง 4 ชนิด ลดการเกิดผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ฟื้นบำรุงให้ผิวกระจ่างใส แข็งแรงขึ้นอย่างสังเกตได้ 

  • NIR CTO – n ปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ ยูวีบี และอินฟาเรด (NIR) ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้โครงสร้างผิวอ่อนแอ
  • Portulaca Oleracea Extract อุดมด้วยวิตามินซี เบต้าแคโรทีน และสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ ช่วยให้ผิวหน้ารู้สึกผ่อนคลาย ปลอบประโลมผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย
  • Cydonia Oblonga Leaf Extract ช่วยดูแลผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
  • Fucus Vesiculosus (Seaweed) Extract สารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำตาล คงความชุ่มชื้น เสริมความยืดหยุ่นให้ผิวกระชับเรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย  ปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ
  • SalSphereTM Aquaskin  ระบบรวบรวมสารสกัดจาก seaweed และสารให้ความชุ่มชื่น อันอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ 

กรดอะมิโน เพื่อตรงเข้าฟื้นบำรุงให้ผิวผ่อนคลายและเนียนนุ่มอย่างมีประสิทธิภาพ

Aqua+ Series Multi – Protection Sunscreen SPF50+ PA++++   ขนาด 50 mL. ราคา 1,450 บาท 

วางจำหน่ายที่ร้าน Watsons และ Euphoria Shop ทุกสาขา
หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Customer Care โทร. 02-7362280
www.aquaplus.co.th
www.facebook.com/aquaplusseries
Line ID : @aquaplusseries

โควิด-19

บุคลากรทางการแพทย์ฝั่งยุโรป เผยรอยช้ำบนใบหน้า หลังต่อสู้ โควิด-19 ยาวนาน

Alternative Textaccount_circle
โควิด-19
โควิด-19

บุคลากรทางการแพทย์ฝั่งยุโรป เผยรอยช้ำบนใบหน้า หลังต่อสู้ โควิด-19 ยาวนาน

ตอนนี้หลายประเทศทั่วโลกกำลังต่อสู้กับไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 อย่างไม่หยุดพัก โดยเฉพาะคนที่ต้องเสียสละมากกว่าคนอื่นก็คือ บุคลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน ต่างต้องทำงานรับมือกับสถานการณ์ไวรัส โควิด-19 (Covid-19) ที่แพร่ระบาดอย่างหนักไปทั่วโลก

ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องทำการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 กันต่อเนื่องกันนานหลายชั่วโมงต่อวัน และยิ่งมีผู้ติดเชื้อมากขึ้น ก็ต้องทำงานลากยาวมากขึ้นติดต่อกันหลายวันต่อสัปดาห์ เรียกได้ว่าแทบจะไม่ได้หยุดพักกันเลยทีเดียว

และหนึ่งในนั้นคือบุคลากรทางการแพทย์อย่าง นายแพทย์ Nicola Sgarbi วัย 35 ปี ที่กลายมาเป็นผู้เปิดเผยความจริงให้กับชาวโลกได้รู้ว่า กลุ่มคนทำงานแนวหน้าต้านไว้รัสนั้นกำลังเผชิญกับอะไรอยู่ในทุกวันนี้

ยิ่งยอดจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมถึงยอดผู้เสียชีวิตที่ตามมาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสถานพยาบาลไม่สามารถรองรับผู้ป่วยจำนวนมากในช่วงเวลาเดียวกันได้ ยิ่งทำให้บุคลากรทางการแพทย์ยิ่งต้องทำงานหนักขึ้น เป็นเวลาติดต่อกันหลายชั่วโมงต่อวัน แน่นอนว่าบุคคลเหล่านี้ นอกจากจะเหนื่อยกว่าคนอื่นแล้ว ยังต้องทนเจ็บปวดต่อรอยฟกช้ำที่ได้จากการใส่หน้ากากกันเชื้อไวรัสติดต่อกันเป็นเวลานานจนกดทับให้เกิดร่องรอย ที่ไม่น่าดูสักเท่าไร

แน่นอนว่ากว่าจะผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ บุคลากรทางการแพทย์เหล่านี้จะต้องทนใส่อุปกรณ์ป้องกันแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน ฉะนั้น ไม่ว่าจะประเทศไหนนะคะ หากไม่จำเป็นต้องออกข้างนอก อยู่บ้านเพื่อตัวเอง เพื่อส่วนรวม และเพื่อหมอ พยาบาลกันนะคะ

โควิด-19

สำหรับนายแพทย์ Nicola นั้น ตั้งแต่ช่วงวันที่ 13 มีนาคม 2020 เป็นต้นมา จำเป็นต้องเข้าเวร 12 ชั่วโมงต่อวันเพื่อรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และจำเป็นต้องใส่ชุดป้องกันอยู่ตลอดเวลา อาศัยเวลาเพียงเล็กน้อยเพื่อถ่ายเซลฟี่ที่น้อยครั้งเขาจะทำแบบนี้

“ผมถ่ายรูปนี้ด้วยสองเหตุผล ประการแรกเพื่อส่งให้ภรรยา เพื่อบอกว่าผมเลิกเวรของวันนี้แล้ว มีรอยช้ำเล็กน้อย และกำลังจะกลับบ้าน ส่วนประการที่สอง เพื่อส่งให้ลูกสาววัย 1 ขวบได้เห็น เมื่อเธอโตขึ้น ผมจะบอกเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับช่วงเวลาเหล่านี้”

เช่นเดียวกับรอยช้ำของเหล่าพยาบาลอิตาลี ที่ร่วมต่อสู้กับไวรัสในทุกๆ วัน

โควิด-19 โควิด-19

 

ภาพของพยาบาล Elena Pagliarini จากเมืองเครโมนา แคว้นลอมบาร์เดีย ทางตอนเหนือของอิตาลี

โควิด-19

พยาบาล Elena Pagliarini จากเมืองเครโมนา แคว้นลอมบาร์เดีย ทางตอนเหนือของอิตาลี

โควิด-19

Pavla Kovaříková พยาบาลจากสาธารณรัฐเช็ก

โควิด-19

พยาบาลจากสหรัฐอเมริกา

โควิด-19

Barbara พยาบาลจากสหรัฐอเมริกา

โควิด-19

Megan Patterson พยาบาลจากสหรัฐอเมริกา

โควิด-19

Martina Benedetti พยาบาลจากอิตาลี

โควิด-19

Luke Theophilus บุรุษพยาบาลจากอังกฤษ

โควิด-19

Franziska Nordmann พยาบาลจากเยอรมนี

โควิด-19

Cristina Barbieri พยาบาลอิตาลี

โควิด-19

 Alessia Bonari พยาบาลจากอิตาลี

โควิด-19

ฝั่งอังกฤษ Natalie Silvey เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ออกมาแชร์สภาพหลังจากใส่ชุด 9 ชั่วโมงเต็ม ปรากฎรอยช้ำบนใบหน้าชัดเจน

โควิด-19 โควิด-19 โควิด-19 โควิด-19

แพรวดอมคอท ก็ขอขอบคุณ และเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลกที่ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ช่วยรักษาผู้ติดเชื้อด้วยนะคะ เชื่อว่าอีกไม่ช้า ทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างแน่นอน


ข้อมูล : catdumb.tv , dailymailcnnliputan6ladbiblestraitstimes

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แชร์วิธีกดจุดรอบดวงตา ลดริ้วรอย อาการบวม ขอบตาดำคล้ำ ทำเองได้ที่บ้าน

4 จุดริ้วรอยบอกโรค! ส่วนไหนไม่ปกติ ส่วนไหนบกพร่อง สะท้อนสุขภาพจากภายใน

เหตุผลที่ควร มาส์กหน้า ทางลัดฟื้นฟูผิว หลังหลบอยู่ใต้หน้ากากอนามัยทั้งวัน!!

“แบงค์ ณัฐดนัย” แชร์วิธีการเลี่ยงโควิด-19 สำหรับ เมคอัพอาร์ติสต์ โดยเฉพาะ

เปิดเทคนิคเมคอัพเน้นงานผิวติดทน รองพื้นไม่ติดแมส พร้อมสวยสู้ทุกสถานการณ์

 

 

 

แอลลี่

แอลลี่ (ALLY) ส่งกำลังใจสถานการณ์ โควิด-19เราจะผ่านมันไปด้วยกัน

Alternative Textaccount_circle
แอลลี่
แอลลี่

แอลลี่ (ALLY) อชิรญา นิติพน ส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ไปด้วยกัน

แอลลี่

ถึงแม้จะยังเป็นน้องใหม่ของวงการบันเทิงไทย แต่ก็ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อกำลังใจช่วงสถานการณ์โควิด-19 ด้วยอีกแรง สำหรับสาวน้อยคนเก่งเจ้าของฉายาลูกสาวแห่งชาติ ซึ่งเพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบ 16 ขวบไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา แอลลี่ (ALLY) อชิรญา นิติพน ศิลปินหญิงเดี่ยวเบอร์แรกของค่ายเพลงดาวรุ่งที่ไม่ได้มาเล่นๆ อย่าง “โฟร์ วัน วัน มิวสิก” (Four One One Music หรือ 411 Music) นำทีมสร้างมิติใหม่วงการเพลงไทยโดยบิ๊กบอส กึ้ง–เฉลิมชัย มหากิจศิริ เจ้าพ่อเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คนเก่งผู้ย้ำชัดมากกับเจตนารมณ์ที่ต้องการนำพาเพลงไทยไปสู่ระดับโลก

แอลลี่

“สวัสดีค่ะ ALLY จาก 411 Music นะคะ ในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 ช่วงนี้ที่เราไม่ได้เจอกัน ก็อยากจะให้ทุกคนดูแลตัวเองอย่างเป็นพิเศษนะคะ อยู่บ้าน ทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ แล้วก็ล้างมืออย่างถูกวิธีนะคะ อย่างน้อย 20 ถึง 40 วินาทีค่ะ ในส่วนของแอลลี่นะคะ ตอนนี้ก็อยู่ที่บ้าน ออกกำลังกาย ซ้อมร้องเพลง ซ้อมเต้น แล้วก็เรียนออนไลน์ไปด้วยค่ะ แล้วก็อยากจะขอบคุณแฟนๆ ทุกๆ คนที่ส่งกำลังใจมาให้แอลลี่ตลอดนะคะ แอลลี่เองก็อยากจะส่งกำลังใจให้ทุกคนเหมือนกันค่ะ เราจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันนะคะ Take care your health and we can get through this together! ขอบคุณค่า”

แอลลี่

นอกจากคลิป แอลลี่ ส่งกำลังใจสู้โควิด-19 ยังมีคลิป ALLY – How To Love (feat. GRAY) Performance Video ที่ทางต้นสังกัด 411 Music ขอฝากเพิ่มเติมด้วยว่า อยู่บ้านก็สามารถร่วมสนุกกันได้กับ “ฮาว ทู เลิฟ ชาเลนจ์” #HowToLoveChallenge ไม่ว่าจะเป็นคลิปประเภทร้อง เต้น หรือแนวสร้างสรรค์อื่นๆ ในแบบฉบับของตัวเอง โดยใช้เพลง How To Love (feat. GRAY) ประกอบความยาวคลิปตั้งแต่ 1 นาทีขึ้นไป จะแบบเดี่ยวหรือกลุ่มก็ได้ ไม่จำกัดเพศและอายุ มีเงินรางวัลให้มูลค่ารวมถึง 3 แสนบาท (ประเภทละ 1 รางวัล รางวัลละ 100,000 บาท โดยผู้ชนะการแข่งขันจะเป็นผู้ชำระภาษี ณ ที่จ่ายที่เกิดขึ้น) ร่วมสนุกกันได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 นี้ ** ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมจาก “โฟร์วันวัน มิวสิก”  ได้ทางออฟฟิเชียลแฟนเพจ fouroneoneent ทวิตเตอร์ @411ent และอินสตาแกรม IG @411ent รวมทั้งอินสตาแกรมของซีอีโอกึ้ง IG @kueng_chalermchai 


 

ซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์

7 ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ กดสั่งเลย ส่งถึงบ้าน! ไม่ต้องเสี่ยงเจอคน ลดการติดไวรัส

ซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์
ซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์

ในช่วงที่เรากำลังเผชิญสถานการณ์ COVID-19 และอยู่ในช่วงของการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด หน่วยงานรัฐและเอกชนต่างพากันสั่งปิดห้างร้าน เพื่อสร้าง Social Distancing ลดจำนวนผู้คน และลดการแพร่กระจายเชื้อไวรัส จะเหลือเฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา และตลาดที่จำหน่ายเฉพาะอาหารสดเพื่อดำรงชีพเท่านั้น

จุ๊เชื่อว่าในวิกฤตก็ยังมีโอกาสให้เราเรียนรู้การรับมือสถานการณ์ และการเอาตัวรอด ซึ่ง ณ วันนี้ จุ๊มองว่าเราไม่จำเป็นต้องกักตุนสินค้าเกินความจำเป็น เพราะประเทศไทยคือครัวของโลก กำลังการผลิต และการจัดส่งยังมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะเอื้อให้ทุกคนอยู่แล้ว เพียงแต่เราอาจจะเปลี่ยนพฤติกรรมจากการซื้อหน้าร้าน เป็นการซื้อผ่านออนไลน์แทนเพื่อช่วยกันลดการติดเชื้อไวรัส วันนี้จุ๊เลยมี 7 ร้านออนไลน์ซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ มาฝากกันค่ะ

1.Tesco Online
จัดส่งภายใน 24 ชม.
ค่าจัดส่งเริ่มต้น 60 บาท
ส่งฟรีเมื่อซื้อสินค้าตั้งแต่ 1,500 บาทขึ้นไป (เฉพาะสมาชิกคลับการ์ดเท่านั้น)
นอกจากนี้สามารถเลือกเวลาจัดส่งได้, ไม่จำกัดน้ำหนัก, รองรับบัตรเครดิต หรือเก็บเงินปลายทางได้, สะสมแต้มสำหรับสมาชิก
ระบบ iOS : https://apps.apple.com/th/app/tesco-lotus-shop-online/id962234870
ระบบ Androi : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.tdsinteractive.tescolotus&hl=en

2.Big C Online
จัดส่งภายใน 24 ชม.
ค่าจัดส่งสูงสุด 69 บาท
ส่งฟรีเมื่อซื้อสินค้า 1,500 บาทขึ้นไป
นอกจานี้สามารถสั่งซื้อสินค้าโดยไม่จำกัดน้ำหนัก, รองรับบัตรเครดิต หรือเก็บเงินปลายทางได้, สะสมแต้มสำหรับสมาชิก หรือรับสินค้าที่สาขาใกล้บ้าน
ระบบ iOS : https://apps.apple.com/th/app/big-c-th/id1423112528
ระบบ Androi : https://play.google.com/store/apps/bigc.bigcapp

ซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ กดสั่งเลย ส่งถึงบ้าน! ไม่ต้องเสี่ยงเจอคน ลดการติดไวรัส


3.Tops Online
สั่งสินค้าก่อน 13.00 น.
ค่าจัดส่ง 150 บาท
ส่งฟรีเมื่อซื้อสินค้าตั้งแต่ 999 บาทขึ้นไป
นอกจากนี้สามารถเลือกเวลาจัดส่งได้, ไม่จำกัดน้ำหนัก, รองรับบัตรเครดิต หรือเก็บเงินปลายทางได้
ระบบ iOS : https://apps.apple.com/th/app/tops-1-food-grocery/id541492660
ระบบ Androi : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.iplus.tops&hl=en

4.CP Freshmart
สั่งสินค้าก่อน 12.00 .
ค่าจัดส่ง 50 บาท
นอกจากนี้สามารถเลือกเวลาจัดส่งได้, จำกัดน้ำหนักสินค้าที่ 30 กก., รองรับบัตรเครดิต หรือเก็บเงินปลายทางได้, รับสินค้าที่สาขาใกล้บ้านได้
ระบบ iOS : https://apps.apple.com/th/app/cp-freshmart/id1335533536
ระบบ Androi : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.appprompt.cpfreshmart

5.7-11 Delivery
จัดส่งภายใน 24 ชม.
ค่าจัดส่งคิดตามระยะทาง
ส่งฟรีเมื่อซื้อสินค้า 100 บาทขึ้นไป
นอกจากนี้สามารถเลือกเวลาจัดส่งได้, ไม่จำกัดน้ำหนักสินค้า, บัตรเครดิตรองรับเฉพาะ True Money Wallet หรือเด็บเงินปลายทางได้, รับที่สาขาใกล้บ้าน และสะส้มเเต้มได้
ระบบ iOS : https://apps.apple.com/th/app/7-delivery/id1478227014?l=th

ระบบ Androi : https://play.google.com/store/apps/details?id=th.co.gosoft.storemobile.sevendelivery.android


6.Grocery Delivery
จัดส่งภายใน 24 ชม.
ค่าจัดส่งเริ่มต้นที่ 66 บาท
นอกจานี้สามารถเลือกเวลาจัดส่งได้, ไม่จำกัดน้ำหนักสินค้า, รองรับบัตรเครดิตหรือเก็บเงินปลายทางได้
ระบบ iOS :  https://apps.apple.com/th/app/happyfresh-grocery-delivery/id957304056
ระบบ Androi : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.happyfresh.android

7.Surapon Food Online
จัดส่งภายใน 2 วันทำการ
ค่าจัดส่งเริ่มที่ 80 บาท
ช่องทางการชำระเงิน ผ่านบัตรเครดิต หรือโอนเข้าบัญชีธนาคาร
คลิกสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ www.suraponfoodonline.com

ง่ายๆ เพียงแค่กดสั่ง ร้านต่างๆ ก็จัดส่งสินค้าถึงบ้าน เลี่ยงการเจอผู้คนหรืออยู่ในที่แออัด ก็ช่วยลดการแพร่กระจายและลดการเสี่ยงติดเชื้อด้วยนะคะ ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัวให้แข็งแรง ปลอดภัย สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หากเจอผู้คนก็จำกัดให้อยู่ในะระยห่าง 2 เมตร และมีสติกับทุกสถานการณ์ จุ๊เชื่อว่าเราทุกคนในประเทศจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้อย่างแน่นอนค่ะ

central covid19

เซ็นทรัล ชวนคนไทย ทำเพื่อหมอ สู้โควิด-19

central covid19
central covid19

กลุ่มเซ็นทรัล ชวนคนไทยแสดงพลังร่วมฝ่าวิกฤติโควิด19 ไปด้วยกัน เปิดตัวแคมเปญเฉพาะกิจ ทำเพื่อหมอ สู้โควิด-19 ภายใต้โครงการ เซ็นทรัล ทำ โดยการร่วมสมทบทุนออนไลน์ ในการจัดซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นต่อบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อใช้รักษาและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 อาทิ หน้ากากอนามัย และอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย ให้แก่ทั้ง 19 โรงพยาบาลทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนได้ตั้งแต่วันนี้ ผ่านบัญชีมูลนิธิเตียงจิราธิวัฒน์ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 118-058203-1 #เพื่อหมอ #CENTRALTham #เซ็นทรัลทำ #CENTRALGROUP #สู้COVID19

central covid19

รายชื่อโรงพยาบาลในเขตกรุงเทพ 13 แห่ง

  1. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
  2. โรงพยาบาลตำรวจ
  3. สถาบันบำราศนราดูร
  4. โรงพยาบาลกลาง
  5. โรงพยาบาลตากสิน
  6. ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (มศว.องครักษ์)
  7. โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ
  8. โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
  9. วชิรพยาบาล
  10. โรงพยาบาลรามาธิบดี
  11. โรงพยาบาลราชวิถี
  12. โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
  13. โรงพยาบาลศิริราช

รายชื่อโรงพยาบาลต่างจังหวัด 6 แห่ง

  1. โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก
  2. โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
  3. โรงพยาบาลศรีนครินทร์ (มหาวิทยาลัยขอนแก่น) จังหวัดขอนแก่น
  4. โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก
  5. โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา
  6. โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา

หมายเหตุ : สามารถขอใบเสร็จรับเงินเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ โดยส่งหลักฐานการโอน ระบุชื่อ-สกุล พร้อมที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ ได้ทาง http://m.me/CentralTham

ท้าทายจนได้เรื่อง! อินฟลูเอนเซอร์ชาวอเมริกัน เลียฝาชักโครก ติดเชื้อ โควิด-19

account_circle

Larz  อินฟลูเอนเซอร์ชาวอเมริกัน จากรัฐแคลิฟอร์เนียร์ ติดเชื้อ โควิด-19 เข้าจนได้ หลังที่เขาเผยแพร่คลิป ขณะเลียฝาชักโครก ด้วยท่าทางเย้อหยัน ผ่านแอคเคาท์ทวิตเตอร์ GayShawnMendes  ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

โพสต์ที่แชร์โดย LARZ (@larz) เมื่อ

 

การทำอะไรด้วยความคึกคะนอง ย่อมส่งผลร้ายตามมาไม่ช้าก็เร็ว เหมือนในกรณีของ Larz  อินฟลูเอนเซอร์ ชาวอเมริกัน ที่ออกมาทำคลิปกับชาเลนจ์ที่ชื่อว่า #coronaviruschallenge อย่างการเลียฝาชักโครกในห้องน้ำสาธารณะ ซึ่งเจ้าตัวทำความสะอาดก่อนการอัดคลิปหรือไม่ ไม่มีใครรู้แต่ภาพที่เผยให้เห็นนั้นแสดงถึงความท้าทาย และน่ารังเกียจเป็นอย่างมาก

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

I got diagnosed with Coronavirus 😥

โพสต์ที่แชร์โดย LARZ (@larz) เมื่อ

แต่เหมือนกรรมจะตามทัน Larz หลังจากนั้น 5 วันที่เขาเผยแพร่คลิปนี้ เจ้าตัวนั้นได้ออกมาประกาศผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “ผลการทดสอบไวรัสโคโรน่าของฉันออกมาเป็นบวก” พร้อมกับวิดีโอที่เผยให้เห็นว่าเขากำลังนอนอยู่บนเตียงที่โรงพยาบาลด้วยท่าทางอิดโรย  ซึ่งตอนนี้บัญชีของเขาได้ถูกระงับใช้เป็นที่เรียบร้อย

 โควิด-19

ด้าน เพียร์ส มอร์แกน พิธีกรชื่อดังจากรายการ Good Morning Britain ก็ได้ออกมาวิจารณ์ Larz ด้วยเช่นกันว่า เขาเป็นคนชั้นต่ำ รวมถึงยังกล่าวด้วยว่า “ไวรัสโคโรน่ากำลังเป็น กรรม ที่ตามจับเขา”

‘กรรมเป็นเรื่องแปลก หากคุณประพฤติตนในลักษณะประมาทและไร้ศีลธรรม กรรมจะติดตามคุณเอง’

‘ผมไม่พอใจอย่างมาก ผมไม่ต้องการให้ผู้คนเจ็บป่วย แต่สิ่งนี้ต้องหยุด การกระทำเหล่านี้ของคนโง่เขลา และความประมาท ผู้ชายคนนั้นที่เลียโถชักโครกเขาจะทำให้ผู้อื่นติดเชื้อด้วย ‘

@avalouiise

สำหรับพฤติกรรมที่ไม่แคร์โลกท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่านั้นถูกเลียนแบบมาจากคลิป Tiktok ของสาวที่ชื่อว่า Ava Louise ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 33,000 คน และในอินสตาแกรมกว่า 172,000 คน  โดยในคลิปนั้นเธอกำลังเลียฝาชักโครกบนเครื่องบิน พร้อมกับติดแฮชแท็ก #coronaviruschallenge และแคปชั่นที่ว่า

“โปรดรีทวีตเพื่อให้ผู้คนสามารถรู้วิธีการรักษาความสะอาดอย่างถูกต้องบนเครื่องบิน” การกระทำของเธอนี้ทำเอาหลายคนโกรธแค้นเป็นอย่างมาก และได้ออกมาประณามว่า เธอทำตัวประมาท และเป็นคนน่าขยะแขยง ในขณะที่คนทั่วโลกกำลังหาวิธีป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19


 

 

‘ช้ำรักมาตลอด วันนี้ก็ยังถูกซ่อนเร้นอีก’ ดูดวงรายวัน 26 มีนาคม 2563

ดูดวงรายวัน 26 มีนาคม 2563 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : หากคุณเป็นบุคลากรในสายการเรียนการสอน นักวิชาการ โค้ชชิ่ง หรือเทรนนิ่ง แม้คุณจะเป็นประเภทที่หากตั้งใจทำอะไรแล้ว ใครก็ขวางไม่ได้ แต่เมื่อสถานการณ์ยังไม่เปิดโอกาสให้ทำอะไรได้มาก จึงต้องอดทนรอคอยโอกาส และจังหวะที่เหมาะสม วันนี้จึงอาจเปิดทำงานที่บ้าน เช่น สอนออนไลน์ หรืออยู่กับการเขียนตำรับตำราวิชาการไปพลางๆ ก่อน

การเงิน :  รายได้หลักคืองานประจำ ที่ผ่านมาก็แทบไม่ชนเดือนแล้ว แต่วันนี้อาจมีโชค หรือลาภลอยเข้ามาอย่างไม่คาดฝัน

ความรัก : คุณมีครอบครัวที่รักและดูแลเอาใจใส่คุณอย่างดี ยิ่งวันนี้อาจมีผู้ใหญ่เข้ามามีส่วนร่วมในครอบครัว ดูเหมือนจะอยู่กันอย่างอบอุ่น แต่เดี๋ยวคุณจะรู้สึกอึดอัด เพราะต้องอยู่ภายใต้กฏระเบียบบังคับให้ต้องทำหรือไม่ทำอะไร คนโสด คุณอาจได้พบปะกับชาวต่างชาติสูงวัยที่ดูทรงความรู้ ซึ่งคุณก็มีคุณสมบัติพร้อมที่จะแต่งงานแล้ว ไม่แน่ อาจพัฒนาความสัมพันธ์จนถึงมีข่าวดีกัน

สุขภาพ :  หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ไม่สดและไม่สะอาด ปรุงไม่สุก รสจัด เพราะจะทำให้อาหารเป็นพิษ ท้องเสีย จนถึงมีพยาธิ์เข้าสู่ร่างกาย

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  หากคุณคิดจะเริ่มต้นงานใหม่ หรือโยกย้ายไปอยู่ในส่วนที่มีค่าตอบแทนสูงกว่า ควรระวังทิฐิหรืออีโก้ที่จะติดตัวคุณไป ที่จะทำให้คุณไม่รับฟังความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน จนกลายเป็นชนวนขัดแย้ง อาจเกิดคดีความ หรือเกิดความผิดพลาดในเรื่องของเอกสารสัญญา

การเงิน : หากคุณคิดจะร่วมหุ้นลงทุนกับแฟน แม้ผู้ใหญ่อุปถัมภ์ก็จริง แต่ต้องระวังเงินร้อน ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง ทำให้ร้อนเงิน

ความรัก : จริงๆ แล้วคุณให้ความรักความสำคัญกับความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวนะ แต่วันนี้คู่คุณอาจออกนอกลู่นอกทาง มีความสัมพันธ์ใหม่ แม้คุณจะรักครอบครัวขนาดไหน แต่ก็อาจจำเป็นต้องแยกย้าย คนโสด คุณมีเสน่ห์โดดเด่น แต่ก็แปลกที่อกหักช้ำรักมาตลอด วันนี้ก็เช่นกัน อาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับความรักที่ซ่อนเร้น

สุขภาพ : ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะจนติดเป็นนิสัย เพราะจะทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา เป็นช่องทางให้เชื้อเข้าสู่กระแสเลือดได้

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : หากคุณทำงานอยู่ในสายบ้านที่ดิน คอนโด และอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงธุรกิจโรงแรม หากกำลังติดต่อซื้อขายกับหน่วยงานราชการ ต้องบอกเลยว่า ความสำเร็จไม่ได้มาด้วยความบังเอิญ แต่ต้องแลกด้วยพลังกายพลังใจที่เข้มแข็ง เพราะฉะนั้นหากวันนี้คุณไม่เข้มแข็งพอ อาจยอมแพ้เลยก็ได้

การเงิน : อาจได้ค่าตอบแทนจากการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ มีเข้ามาแบบไม่ขาดมือเลย  แต่ก็อาจหมดกับการเลี้ยงเพื่อนฝูง บริวารเพื่อให้เขาช่วยเดินเรื่องให้ ก็ควรเก็บเงินไว้บ้าง

ความรัก  : คุณเป็นคู่ชีวิตที่ช่วยกันทำมาหากิน สร้างเนื้อสร้างตัวจนมีบ้านที่ดินเป็นหลักฐานให้กับครอบครัว แต่หากพูดถึงทัศนคติในการใช้ชีวิตคู่แล้วยังมีความขัดแย้งอยู่มาก จนวันนี้คุณอาจเบื่อหน่ายที่จะเคลียร์  คนโสด อาจมีชายหนุ่มในเครื่องแบบ หลักฐานครอบครัวมั่นคงมาชอบ แต่วันนี้คุณอยากพักเรื่องความรัก จึงไม่ตื่นเต้นอันใด

สุขภาพ : หากจำเป็นต้องออกจากบ้าน ควรดูแลตัวเองให้ดี แม้ว่าคุณจะมีสุขภาพแข็งแรง แต่หากไม่ระวัง หรือประมาท ก็อาจพลาดได้

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  ผู้ใหญ่ คนใกล้ตัว ก็ยังอยู่กับคุณ ยังช่วยสนับสนุนและช่วยเหลือให้ได้ทำตามความฝันอยู่ วันนี้คุณอาจต้องใช้วาทศิลป์ในการทำงาน เช่น ออร์กาไนซ์ หรือพีอาร์ประชาสัมพันธ์ ซึ่ง ณ จุดๆ นี้รอใครไม่ได้แล้ว คุณจึงลุยเดี่ยว เสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน ก็มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จด้วย   

การเงิน :  คุณมีพื้นฐานฐานะความเป็นอยู่ที่ไม่ลำบาก ซึ่งคุณชอบหมุนเงินมาลงทุน สิ่งที่ต้องระวังก็คือความเสี่ยงในการลงทุน รวมถึงช็อปของสวยๆ งามๆ ที่มีมูลค่าสูง

ความรัก : เป็นวันที่อารมณ์คุณขึ้นลงปรวนแปรง่ายมาก เอาแน่เอานอนกับคุณไม่ได้เลย อาจเพราะทุกคนอยู่บ้านจึงมีเวลาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทั้งวัน จึงมีโอกาสที่จะกระทบกระทั่งกัน เพราะฉะนั้นควรทำงานอยู่กับตัวเองนิ่งๆ ดีกว่า  คนโสด ก็ยังเข้าใจยากเดาใจลำบากอยู่ เดี๋ยวก็อยากแต่งงาน เดี๋ยวก็ไม่แต่งอีกแล้ว แต่หากคุณเจอคนถูกใจ ก็ไม่แคร์ว่า จะแต่งหรือไม่แต่ง

สุขภาพ : อาจเจ็บไข้ได้ป่วยโดยไม่มีอาการเตือนใดๆ มาก่อน อาจเป็นโรคปัจจุบันทันด่วน ซึ่งพอเป็นแล้ว ก็อาจต้องล้มหมอนนอนเสื่อเลย จึงไม่ควรประมาท

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน :  คุณอาจต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และเทคนิคเฉพาะบุคคลมาใช้ในการสู้ศึกที่จะถาโถมเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง วันนี้จึงควรลดอีโก้และความยึดมั่นถือมั่นลงบ้าง เพราะจะทำให้คุณไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่นเลย จนอาจทำให้เกิดความขัดแย้ง ทั้งที่คุณไม่อยากให้เกิด

การเงิน : อาจเกิดรายจ่ายอย่างไม่คาดคิด จนทำให้เงินสะดุดเข้าขั้นวิกฤติ จะหันหน้าไปพึ่งใครก็ไม่ได้

ความรัก : คุณค่อนข้างยึดติดกับขนบธรรมเนียมประเพณี พิธีการ เมื่อต้องมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนานๆ สมาชิกในบ้านจึงอาจรู้สึกไม่ผ่อนคลาย ยิ่งมาเจออากาศร้อน อารมณ์ก็ร้อนตามไปด้วย คนโสด คุณค่อนข้างซีเรียส เป็นงานเป็นการ และมีความคาดหวังสูง วันนี้จึงอาจไม่เหมาะที่จะไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับใคร

สุขภาพ : คุณจริงจังกับชีวิต ระวังคิดมากจนปวดศีรษะ จนถึงโรคหัวใจและหลอดเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  หากคุณทำงานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะทุกแขนง หรืองานที่ต้องอยู่กับความสวยความงาม วันนี้คุณอาจต้องเข้าสู่การประมูลงาน หรือนำเสนองาน ซึ่งคุณปรารถนาความสำเร็จอย่างแรงกล้ามาก สามารถทำทุกอย่างเพื่อให้ชนะ โดยไม่คิดถึงความถูกต้องชอบธรรมเลย

การเงิน : ผู้ใหญ่ก็ยังอุปถัมภ์อยู่ แถมยังได้เงินพิเศษจากงานพิเศษอีก ซึ่งคุณอาจหมุนเงินไปใช้ในการลงทุน ก็ต้องระวัง เพราะการลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง

ความรัก :  คุณมีภาวะผู้นำสูง ทั้งงานในบ้าน และงานนอกบ้าน ซึ่งคุณก็ช่วยเหลือหน้าที่การงานของคู่ จนทุกคนในบ้านให้ความเกรงใจคุณอย่างดี ดังนั้น คุณจึงทำตามใจตัวเองมาก จนอาจไปยั่วให้คู่โกรธหรือโมโหโดยไม่รู้ตัว คนโสด คุณมีเสน่ห์ล้นเหลือ มีแต่คนพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจ แต่คุณก็ยึดหลักหากถูกใจใคร ก็ไม่แคร์ใดๆ  ทั้งนั้น

สุขภาพ :  ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง นอกจากเก็บเรื่องไร้สาระมาคิด ย้ำไปย้ำมา ทางที่ดีไม่ควรเสพข่าวโควิด-19 มากเพราะอาจเครียด แล้วบำบัดกับการรับประทานอาหาร พอเห็นน้ำหนักที่ตามมายิ่งเครียดเข้าไปใหญ่

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  : สำหรับบุคคลที่อยู่ในสายงานการเกษตร เรือกสวนไร่นา ออกแบบภูมิสถาปัตย์ หรือผลิตภัณฑ์โอท็อป วันนี้คุณอาจใช้ความคิดสร้างสรรค์ หรือความเป็นศิลปินในตัวสร้างสรรค์ผลงาน จนโดดเด่น มีชื่อเสียง แต่ก็ไม่ควรคิดจินตนาการไปไกลเกินกว่าความเป็นจริงที่เป็นอยู่

การเงิน :  มีเงินทองเข้ามาไม่ขาดสาย อาจได้รับมรดกเป็นเรือกสวนไร่นา แต่ก็ต้องดูให้ดี เพราะคุณอาจถูกหลอก ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ไม่ควรให้ใครกู้ยืมเงิน หรือเซ็นค้ำประกันเรื่องที่ดิน

ความรัก : อาจเพราะคุณได้รับความรักและดูแลเอาใจใส่อย่างดีจากครอบครัว วันนี้จึงอาจมาถึงจุดที่คุณคิดไปว่า คู่อาจกำลังคบผู้ชายอยู่ คนโสด คนรักเก่าอาจขอกลับมาคืนดี แต่ต้องดูดีๆ ว่าเขาต้องการแค่เพื่อนสาวหรือแฟน

สุขภาพ : อาจมีปัญหาเรื่องน้ำย่อย กระเพาะอาหาร หรือถุงน้ำดี จึงควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

เช็กดวงย้อนหลังได้ที่นี่

มีต่างชาติมาจีบ แต่ก็ต้องลุ้นอีกว่า มองหญิงหรือเปล่า ดูดวงรายวัน 21 มีนาคม 2563

เจ็บแล้วจำ แต่ยังไม่จบ เพราะเขากลับมาขอคืนดี ดูดวงรายวัน 22 มีนาคม 2563

ไม่ชอบขัดขืน จึงไม่ควรอยู่กันสองต่อสอง ดูดวงรายวัน 23 มีนาคม 2563

สามในสี่มีดวงเป็นนารีอุปถัมภ์ เกิดอะไรขึ้น ดูดวงรายวัน 24 มีนาคม 2563

คนรักเก่าขอคืนดีแบบลับๆ ก็อย่าลับกับเขาด้วยเลย ดูดวงรายวัน 25 มีนาคม 2563

คิมเบอร์ลี่

คิมเบอร์ลี่ & รัศมีแข บริจาคเครื่องอบฆ่าเชื้อ UV ให้โรงพยาบาลในต่างจังหวัด

Alternative Textaccount_circle
คิมเบอร์ลี่
คิมเบอร์ลี่

นางเอกช่อง 3 คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เทียมศิริ บริจาคเครื่องอบฆ่าเชื้อ UV 10 เครื่อง ให้กับโรงพยาบาลในต่างจังหวัด

คิมเบอร์ลี่

น้ำใจของเหล่าคนบันเทิงในบ้านเราไม่เคยเหือดหาย ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์วิกฤตอะไรก็มักจะเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวเสมอ  ล่าสุดในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (Covid-19) ก็ได้เห็นกลุ่มคนบันเทิงทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังออกมาแสดงน้ำจิตน้ำใจช่วยเหลือกันหลายคน และหนึ่งในนั้นก็คือนางเอกลูกครึ่งไทย-เยอรมัน คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เทียมศิริ ซึ่งกำลังมีผลงาน “ดั่งดวงหฤทัย” ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี ทางช่อง 3

คิมเบอร์ลี่

โดยเรื่องราวนี้เปิดเผยโดยนักแสดงรุ่นใหญ่ “ท็อป ดารณีนุช” โดยเธอระบุผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของเธอว่านางเอกคนนี้ได้บริจาคเครื่องอบฆ่าเชื้อ UV 10 มูลค่า 42,500 บาท ให้กับโรงพยาบาลในต่างจังหวัด ซึ่งจะทยอยมอบให้โรงพยาบาลแม่ลาน จังหวัดปัตตานี 2 เครื่อง และ โรงพยาบาลพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา 2 เครื่อง และจะทยอยมอบอีกต่อไปจนครบจำนวน 10 เครื่อง

คิมเบอร์ลี่

ไม่ใช่แค่สาวคิมเท่านั้นเพราะ “รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น” ก็ได้มอบเครื่องอบฆ่าเชื้อ UVเช่นเดียวกัน โดยบริจาค 4 เครื่องให้กับ โรงพยาบาลนครพิงค์แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ มูลค่า 17,000 บาท และสมทบจัดซื้อหน้ากากอนามัย 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 22,000 บาท


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เบลล่า ราณี บริจาคเงิน 2.5 ล้านบาทให้กับ 5 โรงพยาบาลสู้ Covid-19

IU (ไอยู) จากเด็กน้อยที่กินมันต้ม อยู่ห้องแมลงสาบ สู่สุดยอดผู้ใจบุญแห่งเกาหลี

คิมเบอร์ลี่ กลับบ้านเกิด โชว์สกิลลั่นชัตเตอร์เมืองในฝันที่เยอรมนี-ออสเตรีย

พิธีเปิดเตียบ อีกหนึ่งประเพณีงานแต่งไทยที่หลายคนอาจไม่เคยรู้

account_circle

ขึ้นชื่อว่าประเพณี ก็มักจะเป็นอะไรที่ผู้เฒ่าผู้แก่ผู้ใหญ่ท่านยึดถือปฏิบัติต่อๆ กันมา บางอย่างก็ยังคงอยู่ บางอย่างก็ถูกประยุกต์ หรือบางอย่างก็อาจจะสูญหายไปตามกาลเวลา อย่างเช่น พิธีเปิดเตียบ ที่น้อยคนนักจะรู้จัก แพรว wedding เลยขอเปิดตัวเปิดเตียบงานแต่ง ให้ว่าที่บ่าวสาวได้ทำความรู้จักกับพิธีนี้ให้มากขึ้น

เมื่อขบวนขันหมากเข้ามาในบ้านพร้อมแล้ว ทางฝ่ายเจ้าสาวจะต้องจัดชาย-หญิง 2 คู่ที่เป็นสามีภรรยากันโดยการแต่งงานมาทำพิธีเปิดเตียบ โดยให้คนที่ยกเตียบฝ่ายเจ้าบ่าวอุ้มส่งให้ผู้เปิดเตียบหญิงทั้ง 2 คน เมื่อวางลงกับพื้น ให้เปิดผ้าคลุมออก แล้วเอาแป้งหอม น้ำมันหอม และกระแจะประพรมสิ่งของในเตียบทั้ง 4 อย่าง แล้วยกเตียบส่งให้สามีของตนรับไว้ แล้วนำเข้าไปในห้องของพ่อแม่เจ้าสาว ก่อนจะยกอีก 2 เตียบที่เหลือตามเข้าไป

จากนั้นผู้เปิดเตียบจะต้องนำผ้าขาวกว้าง 4 ศอก ยาว 4 ศอกปูที่พื้น แล้วยกเตียบทั้ง 4 และสำรับผ้าไหว้วางไว้กลางผ้า จุดธูปเทียนคู่ ดอกไม้สด 2 ช่อ เพื่อบูชาเทวดา ผีบ้านผีเรือน และปู่ย่าตายายที่ล่วงลับให้ปกป้องคุ้มครอง เฒ่าแก่แต่ละฝ่ายจะจูงมือเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเข้าไปในห้อง เมื่อนั่งลงกับพื้น เฒ่าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าวจะจับมือขวาเจ้าบ่าวประสานกับมือซ้ายของเจ้าสาว แล้วยกมือของทั้งคู่ขึ้นเหนือศีรษะเจ้าบ่าวแล้วค่อยยกไปเหนือศีรษะเจ้าสาว แล้วให้ก้มลงกราบที่พื้น ก่อนจะมาไหว้พ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาว เป็นอันสิ้นสุดพิธีเปิดเตียบ อันเป็นพิธีที่ถือว่าบ่าวสาวได้เป็นสามีภรรยากันโดยถูกต้อง เพราะได้รับการอนุญาตจากบรรพบุรุษผู้ล่วงลับเรียบร้อยแล้ว

หลังเปิดเตียบ จะมีการนำขันทุนของเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวออกมาตรวจสอบว่าเท่ากัน แล้วนำเงินทุนทั้งคู่มาวางลงบนผ้าขาว นำกระแจกแป้งหอมมาประพรม แล้วนำถั่วงาถุงต่างๆ ในขันหมากมาคลุกเคล้าให้ทั่วเงินทุน เฒ่าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าวคลุกเวียนขวาไปซ้าย ส่วนเฒ่าแก่ฝ่ายเจ้าสาวคลุกเวียนซ้ายไปขวา ตามความเชื่อว่า เงินทุนนี้เมื่อนำไปลงทุนแลกเปลี่ยนจะมีกำไรงอกงาม ส่วนสินสอดและของในขันหมาก เมื่อตรวจนับ ประพรมด้วยของหอม แล้วนำออกจากภาชนะแล้ว ห้ามนำภาชนะซ้อนกัน และห้ามเด็กสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานกินขนมขันหมาก เพราะเชื่อว่าจะเป็นหม้ายขันหมากในอนาคต

>> หากอยากรู้ว่า เตียบงานแต่ง นั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง คลิกเลย! <<

เบลล่า ราณี

เบลล่า ราณี บริจาคเงิน 2.5 ล้านบาทให้กับ 5 โรงพยาบาลสู้ Covid-19

Alternative Textaccount_circle
เบลล่า ราณี
เบลล่า ราณี

เบื้องหน้าบริจาค 20 บาท เบื้องหลังนางเอกขวัญใจมหาชน เบลล่า ราณี ควักเงิน 2.5 ล้านบาท ให้กับ 5 โรงพยาบาลสู้กับไวรัส Covid-19

เบลล่า ราณี

นางเอกสาวขวัญคนไทย เบลล่า ราณี 

ก่อนหน้านี้เราได้เห็นข่าวน้ำจิตน้ำใจของคนดังต่างประเทศมาเยอะแล้ว วันนี้จึงพามาโฟกัสเรื่องราวดีๆ ของคนบันเทิงเมืองไทยที่น่ารักไม่แพ้ชาติใดในโลก มาฝากกันบ้าง

อย่างที่ทราบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (Covid-19) ทำให้ผู้คนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า โดยเฉพาะเครื่องมือป้องกันพื้นฐาน เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย มีราคาแพง บางกลุ่มสามารถซื้อหาได้ แต่ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถเอื้อมถึง แต่ล่าสุดคนบันเทิงเมืองไทยหลายคนได้ออกมาเทคแอคชั่น ด้วยการแสดงน้ำใจในการช่วยเหลือซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

นอกจากสิ่งของแล้ว ในวันนี้ก็เริ่มมีคนดังบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือหน่วยแพทย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น “อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เธอเดินทางไปยังมูลนิธิรามาธิบดี เพื่อนำเงินจำนวน 1,200,000 บาท ไปมอบให้กับทีมแพทย์เพื่อซื้อเครื่องช่วยหายใจรุ่น Advance servo สำหรับใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย

และล่าสุด เบลล่า ราณี แคมเปน เจ้าของบทบาทแม่หญิงการะเกด ขวัญใจมหาชน ได้โพสต์ว่าเธอได้บริจาคเงิน 20 บาทให้กับโครงการเพื่อฮีโร่ไทยสู้โควิด ซึ่งเป็นชาเลนจ์ที่เหล่าคนดังกำลังนิยมทำกันอยู่

เบลล่า ราณี

ทว่าเบื้องหลังสาวคนนี้ไม่ได้บริจาคเพียงแค่ 20 บาทเท่านั้น เพราะล่าสุดมีการเปิดเผยออกมาว่าเธอควักเงินบริจาคไปถึง 2.5 ล้านบาทให้กับ 5 องค์กรได้แก่ มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า. ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 5 แสนบาท , ศิริราชมูลนิธิ (ศิริราชสู้ภัยโควิด) 5 แสนบาท, มูลนิธิรามาธิบดี  5 แสนบาท, สถาบันบำราศนราดูร 5 แสนบาท และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ (กองทุนบริจาค) 5 แสนบาท

โดยผู้จัดการส่วนตัวของสาว “เบลล่า” ได้เผยผ่านอินสตาแกรมว่า “ดีใจและภูมิใจในตัวน้องมาก เมื่อวานจนถึงวันนี้น้องบอกว่าอยากบริจาคอุปกรณ์ให้ทีมแพทย์ไปสู้โรคร้าย ก็พยายามหาช่องทางกัน แต่ก็มาคุยกันว่าเราไม่รู้จริงๆ ว่าเขาต้องการอะไร เราบริจาคเป็นเงินกันดีกว่าไหมน้อง เขาจะได้ใช้ในสิ่งที่เขาจำเป็นจริงๆ น้องตอบมาสั้นๆ แค่โอเคค่ะ จากนั้นเช้านี้น้องก็ส่งมาว่าหนูจะบริจาคตามนี้นะคะ ภูมิใจในตัวน้องมาก พี่ขออนุโมทนาบุญด้วยนะ น้องเบลร่วมบริจาคให้หน่วยงานทางการแพทย์ จำนวน 5 ที่ รวมทั้งสิ้น 2,500,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจในบุคลากรทางการแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกท่าน รวมถึงทุกคน เพื่อให้เราผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันค่ะ นี่อาจจะเป็นเพียงกำลังเล็กๆ แต่ขอให้มันเป็นพลังส่งต่อไปถึงทุกคนนะคะ ”


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ซงจุงกิ กักตัวเองเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ภายหลังไปถ่ายหนังที่โคลอมเบีย

มาสก์หน้า

กอบโกยผิวสวยช่วงกักตัวด้วย 7 เทคนิคในการมาสก์หน้า ถ้าทำถูกวิธี ผิวดีเกินเรื่อง

Alternative Textaccount_circle
มาสก์หน้า
มาสก์หน้า

แชร์ 7 สุดยอดเทคนิคในการ มาสก์หน้า เพื่อผลลัพธ์ผิวสวยสมบูรณ์แบบ ถ้าทำถูกวิธี ผิวดีเกินเรื่อง แถมเหมาะสำหรับช่วงกักตัวอยู่บ้านสู้โควิด-19 ของสาวๆ อีกด้วย

ช่วงนี้สาวๆ หลายคนคงอยู่ติดบ้านกันมากขึ้น เพราะต้อง #อยู่บ้านหยุดเชื่อเพื่อชาติ รวมถึง work from home เพื่อหยุดการแพร่กระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งพอมีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น บวกกับไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปไหนมาไหน ก็ทำให้สาวๆ มีเวลาในการดูแลตัวเองกันมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องผิวพรรณที่สาวๆ หลายคนยกให้เป็นเบอร์หนึ่ง เราจึงอยากแนะนำให้สาวๆ ยกเวลาส่วนนั้นให้กับการมาสก์หน้า ที่ถือเป็นการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก และช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างรวดเร็ว แต่จะมาสก์ๆ กันไปแบบส่งเดชไม่ได้นะคะ เพราะถ้าทำผิดวิธี ผลลัพธ์คงไม่เป็นที่พอใจ เปลืองทั้งเงินและเวลา ดังนั้นถ้ารักจะมาสก์หน้า ก็ต้องมาดูเทคนิคที่ถูกต้องกันก่อนค่ะ

1. รู้ก่อนมาสก์! ความเริ่ดกว่าของการมาสก์หน้า

เหตุที่กูรูด้านความงามมักแนะนำสาวๆ ว่าต้องมาสก์หน้าอย่างสม่ำเสมอ นั่นก็เพราะมาสก์ทำหน้าที่คนละอย่างกับครีมบำรุงและเซรั่ม ด้วยมีคุณสมบัติหลายอย่างที่ล้ำลึกกว่า มาสก์ชนิดแผ่นมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เพราะเมื่อแผ่นมาสก์หน้าเริ่มแข็งตัวจะส่งผลให้มีการขยายตัวของหลอดเลือดบนใบหน้า ทำให้ผิวของเราเหมือนได้ออกกำลังกาย ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดูกระจ่างใส เนียนนุ่ม หรืออย่างที่เรียกกันว่า “เปล่งประกายออร่า” ในแง่ของความสะอาด มาสก์หน้าหลายสูตร โดยเฉพาะที่ทำจากส่วนผสมธรรมชาติและมาสก์โคลน จะช่วยดูดซับสิ่งสกปรกตกค้างในรูขุมขน ซึ่งการทำความสะอาดทั่วไปเข้าไม่ถึง จึงทำให้สาวๆ ที่ทำกิจกรรมมาสก์หน้าอย่างสม่ำเสมอ มีโอกาสห่างไกลสิวอุดตัน จุดด่างดำ หรือแม้กระทั่งสิวอักเสบได้มากกว่า

ที่สำคัญสุดๆ คือผิวที่ชุ่มฉ่ำจากการมาสก์หน้าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผลิตภัณฑ์อื่นๆ ให้ซึมซาบเข้าไปในผิวได้รวดเร็ว และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น เรียกว่าถ้าอยากให้ครีมบำรุงและเซรั่มอื่นๆ ได้ผลชัดเจน การใช้มาสก์จะช่วยให้สิ่งที่ลงทุนไปเห็นผลอย่างคุ้มค่า

ส่วนสิ่งพิเศษที่หาไม่ได้จากโปรดักต์อื่นๆ คือความรู้สึกผ่อนคลาย การได้หยุดเวลานอนลงนิ่งๆ สัมผัสกับความเย็นชุ่มฉ่ำ และกลิ่นของน้ำมันหอมระเหย หรือเนื้อเอสเซ้นส์ที่อยู่ในมาสก์ จะช่วยผ่อนคลายทั้งในแง่ของจิตใจและความตึงเครียดของผิว จึงไม่ต้องแปลกใจว่าสาวๆ ที่ทำกิจกรรมมาสก์หน้าอย่างต่อเนื่องจะมีผิวที่เปล่งประกายสดใส ดูมีออร่าจากภายใน

มาสก์หน้า

2. มาสก์หน้าทุกวันได้ไหมคะซิส

ใช้มาสก์แล้วติดใจ ทุ่มเทไปขนซื้อจากเกาหลีมาเป็นโหล ถ้าไม่รีบใช้เดี๋ยวก็จะหมดอายุ ขอใช้ทุกวันเลยได้ไหม ก็ต้องขอตอบกันตรงนี้ชัดๆ ว่า แพทย์ผิวหนังยืนยันแล้วว่า การมาสก์หน้าสามารถทำได้ทุกวัน แต่เน้นย้ำว่าหากจะมาสก์กันทุกวันจริงๆ มาสก์ที่ใช้ต้องเป็นสูตรที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นยืนพื้นเป็นหลัก โดยสลับไปใช้มาสก์ชนิดอื่นๆ ได้บ้าง แต่ให้ใช้แค่ 2-3 วันต่อสัปดาห์ เพราะมาสก์สูตรอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อความกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ แก้ปัญหารูขุมขนต่างๆ มีสารบำรุงที่มักทำให้เสี่ยงต่อผิวบาง และอาจเกิดอาการแพ้ได้

ส่วนมาสก์เนื้อครีมไม่แนะนำให้ใช้ทุกวัน เพราะเสี่ยงต่อการทำให้รูขุมขนอุดตัน แถมเอฟเฟ็กต์เวลารอให้เนื้อครีมแห้งก่อนที่จะล้างออก อาจทำให้ผิวเหี่ยวได้หากใช้บ่อยเกิน แต่ในส่วนของ Sleeping Mask อนุญาตให้สาวๆ ลุยได้ทุกวันโลด เพราะมาสก์จำพวกนี้ออกแบบมาให้เป็นกึ่งครีมบำรุง มีเนื้อสัมผัสบางเบา ใช้ได้ทุกวัน ไม่ทำให้ผิวเหี่ยว

3. จริงหรือมั่ว! มาสก์นานๆ เพื่อความคุ้มค่า

แหม! ก็ชีตมาสก์แผ่นหนึ่งซื้อมาตั้งแพง ให้แปะแค่ 10-15 นาที มันจะทันเห็นผลหรือคะซิส จัดไปสักครึ่งชั่วโมง จะได้เห็นผลเร็วขึ้นไง เป็นเรื่องที่ต้องขอเตือนสาวๆ ให้อ่านระยะเวลาของการใช้มาสก์ให้ชัดเจน แล้วอย่าได้คิดแถมทำเกินเด็ดขาด เนื่องจากมาสก์แต่ละชนิดมีเวลาความเหมาะสมในการใช้ต่างกัน ซึ่งทางแบรนด์เขาได้คำนวณมาเป็นอย่างดีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบบชีตหรือแบบทา การมาสก์เกินเวลาจะทำให้เนื้อมาสก์ดูดความชุ่มชื้นจากผิวกลับออกไป แทนที่ผิวจะได้รับความชุ่มชื้น จะกลายเป็นเหี่ยวเร็วเสียอย่างนั้น ถ้าอยากใช้ให้คุ้มจริงๆ แนะนำว่า ถ้าเป็นชีตมาสก์ ก็อย่าลืมโกยเอาเนื้อเอสเซ้นส์ที่เหลือติดซองมานวดบำรุง หลังจากถอดแผ่นมาสก์ออกแล้ว รวมทั้งใช้ทาคอ ทามือ เอาให้คุ้ม แบบนี้ปลอดภัยกว่า

มาสก์หน้า

4. แช่น้ำไป มาสก์ไป เก๋แต่ไม่กู้ด

อยากดูเก๋ๆ เหมือนในหนังฝรั่งค่ะ มาสก์หน้าแล้วนอนแช่ในอ่าง อ่านพ็อกเก็ตบุ๊กกรุบกริบจิบชา ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ไงคะ อันนี้ใครทำอยู่ ขอให้เบรกด่วนๆ เพราะเวลาที่ร่างกายเราแช่น้ำ เป็นช่วงเวลาที่รูขุมขนทั่วร่างกายจะเปิดและคายของเสียออกมา รวมถึงบริเวณใบหน้าด้วย การมาสก์ไปอาบน้ำไป จึงกลายเป็นการขัดขวางการทำงานของร่างกาย แถมผิวในขณะนั้นก็ไม่พร้อมจะดูดซับคุณค่าบำรุงจากมาสก์ ฉะนั้นมาสก์ก่อนหรือหลังอาบน้ำดีกว่านะคะ

5. มาสก์หน้าระหว่าง work from home ดีไหมคะซิส

เวลาทองเลยค่ะ มาสก์หน้าไปก็ทำงานไปด้วย จัดบ้าน เดินไปมา แพ็คกระเป๋า ทำธุระไปด้วย แบบว่าเป็นคนบีซี่ อย่างนี้เท่ากับใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ไหมคะ คำตอบคืออาจจะใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ แต่จะหวังผลจากการมาสก์เต็มร้อย เหมือนคนที่เขานอนมาสก์อย่างผ่อนคลายคงไม่ได้ เพราะการลุกเดินไปมาหรือนั่งเล่นคอมพ์ จะทำให้คุณประโยชน์ที่ได้จากแผ่นมาสก์ไหลลงด้านล่าง ทำให้ไม่ได้คุณประโยชน์สูงสุด นอกจากจะเป็นแผ่นมาสก์ชนิดที่เขาเคลมว่าเหมาะกับการลุกทำกิจกรรมต่างๆ ได้ รู้แบบนี้แล้ว ก็ให้เวลากับการมาสก์หน้าสักนิด นอนสบายๆ ยังไงก็ผ่อนคลายกว่า

มาสก์หน้า

6. จริงหรือไม่! ทาครีมก่อนมาสก์หน้า คุณค่าจะได้ดับเบิ้ล

คืออยากบำรุงแบบอัดแน่นจัดเต็มจริงๆ เพื่อความชุ่มชื้น เลยจัดครีมตัวที่แพงที่สุดที่มี แล้วมาสก์หน้าทับไปเลย ผิวจะได้ฟื้นฟูไวขึ้นอีกไงคะ วิธีนี้ก็ไม่ถึงกับผิด แต่ต้องเรียกว่าไม่จำเป็น มาสก์ทุกชนิดเหมาะกับการใช้กับผิวที่เคลียร์สะอาด ไม่มีสิ่งใดมาปิดกั้นการทำงานของเนื้อเอสเซ้นส์ ซึ่งแต่ละแบรนด์เขาคิดมาดีแล้วว่าสามารถเข้าบำรุงได้อย่างล้ำลึกพอดีกับการใช้ใน 1 ครั้ง

อีกทั้งครีมที่มีเนื้อหนาอาจเข้าไปปิดกั้นการทำงาน หรือก่อให้เกิดการอุดตัน แนะนำว่าเก็บครีมไว้ใช้หลังมาสก์จะเวิร์คกว่า ส่วนชิ้นที่แนะนำให้ใช้ก่อนมาสก์ คือโลชั่นเช็ดหน้าที่ช่วยเตรียมผิวให้สะอาด มีความสมดุล แบบนี้ต่างหากจึงจะช่วยเสริมประสิทธิภาพของมาสก์อย่างเห็นผล

7. แกะซองมาสก์แล้วใส่คืนไว้ยังใช้ได้ไหมคะซิส

แกะซองไว้แต่เผลอไปทำอย่างอื่น ลืมใช้ไปเลยค่ะ แบบนี้เราปิดซองไว้มาสก์ต่อวันหลังได้ไหมคะ ก็ต้องขอแนะนำว่าไม่ทำดีกว่าค่ะ เพราะชีตมาสก์นั้นจะมีคุณค่าสูงสุด ก็คือตอนแกะซองแล้วแปะกับผิวหน้าทันที การแกะมาสก์ทิ้งไว้ ต่อให้ปิดซองแล้ว ก็ยังเสี่ยงต่อสิ่งสกปรกและฝุ่นละออง รวมทั้งเนื้อเอสเซ้นส์ที่ระเหยไปอาจทำให้เกิดผลเสียหากนำกลับมาใช้ แกะแล้วมาสก์เลยดีกว่านะคะสาวๆ


 

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 956

ภาพ : Getty Images

สรุป พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ควบคุมโควิด-19 ประชาชนต้องทำ หรือห้ามทำอะไรบ้าง

วันนี้ 25  มีนาคม 2563 ก็เป็นที่แน่นอนว่า ประเทศไทยได้ออก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัส โควิด-19 ไม่ให้ขยายวงกว้างบานปลายไปมากกว่านี้ ทั้งนี้สิ่งที่ประชาชนต้องรับทราบก็คือ ตลอดระยะเวลาของการควบคุมด้วยพ.ร.ก. ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 30 เมษายน 2563   เราควรต้องรู้อะไรบ้าง รวมถึงพ.ร.ก.ฉบับนี้ มีเนื้อหาและข้อความร่วมมืออะไรบ้าง อยากให้ทุกคนได้มาอ่านกันก่อนนะคะ จะได้ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกันอย่างถูกต้อง

สำหรับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 1 มีด้วยกัน 16 ข้อ สรุปสาระสำคัญทั้ง 16 ข้อ ดังนี้

ข้อ 1.การห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง ห้ามประชาชนเข้าไปในพื้นที่หรือสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด-19 หรือตามที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อได้ประกาศหรือสั่งไว้ก่อนที่ข้อกำหนดนี้ใช้บังคับ

ข้อ 2 การปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อ ให้ผู้ว่า กทม.และผู้ว่าราชการจังหวัด พิจารณาสั่งปิดสถานที่ซึ่งมีคนจำนวนมากไปทำกิจกรรมร่วมกันและเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโควิด-19 แต่อย่างน้อยให้สั่งปิด

  1. สนามมวย สนามกีฬา สนามแข่งขัน สนามเด็กเล่น สนามม้า ในทุกจังหวัด ทั่วราชอาณาจักร จนกว่าจะมีประกาศเป็นอย่างอื่น
  2. ผับ สถานบริการ สถานที่แสดงมหรสพ สถานที่มีการแสดงหรือการละเล่นสาธารณะ สถานประกอบการ อาบ อบ นวด และนวดแผนโบราณ สปา สถานที่ออกกลังกาย (ฟิตเนส) สถานบันเทิง
  3. สถานที่อื่นนอกจากนี้ เช่น แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ พิพิธภัณฑสถาน ห้องสมุด สาธารณุ ศาสนสถาน สถานีขนส่งหรือโดยสาร ตลาด ห้างสรรพสินค้า ให้พิจารณาโดยสั่งปิดเฉพาะส่วน หรือ ทั้งหมด และอาจกำหนดเงื่อนไขและเงื่อนเวลาตามความจำเป็นและเหมาะสมโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือ กทม.แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงโอกาสเสี่ยงต่อการติดต่อโรค ความจำเป็นในการจัดหาสิ่งอุปโภคบริโภคและการเดินทาง

ข้อ 3 การปิดช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักร ในการใช้ยานพาหนะไม่ว่าอากาศยาน เรือ รถยนต์ หรือพาหนะอื่นใด หรือในการใช้เส้นทางคมนาคมไม่ว่า ทางอากาศ ทางน้ำ หรือทางบก เพื่อเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบปิดช่องทางเข้าออก ด่าน จุดผ่านแดน หรือจุดผ่อนปรน สำหรับผู้โดยสารหรือผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเว้นแต่ผู้มีเหตยกเว้นตามที่นายกฯ อนุญาตเป็นผู้ขนส่งสินค้าตามความจำเป็น เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้กลับออกไปโดยเร็วเป็นผู้ควบคุมยานพาหนะหรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ เช่น กัปตันเครื่องบิน แอร์โฮสเตท สจ๊วตเป็นบุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐบาลที่มาปฏิบัติงานในประเทศไทยเป็นผู้ไม่มีสัญชาติไทยแต่มีใบอนุญาตทำงานหรือได้รับอนุญาตจากทางราชการให้ทำงานในราชอาณาจักรเป็นผู้มีสัญชาติไทย โดยให้ติดต่อสถานทูตไทยหรือสถานกงสุลไทยเพื่อออกหนังสือรับรอง ที่มีใบรับรองแพทย์

ข้อ 4 ห้ามกักตุนสินค้า ซึ่งเป็นยา เวชภัณฑ์ อาหาร น้ำดื่ม หรือสินค้าอื่นที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน

ข้อ 5 การห้ามชุมนุม การทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัดหรือกระทำอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย

ข้อ 6 การเสนอข่าว ห้ามเสนอข่าวหรือทำให้แพร่หลายทางสื่อต่าง ๆ ซึ่งมีข้อความหรือข่าวสารเกี่ยวกับโควิด-19 อันไม่เป็นความจริงและอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว

สรุป พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ควบคุมโควิด-19 ประชาชนต้องทำ หรือห้ามทำอะไรบ้าง

ข้อ 7 มาตรการเตรียมรับสถานการณ์

  1. ให้ผู้ว่ากทม. ผู้ว่าฯทุกจังหวัดเป็นผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทุกมิติในเขตท้องที่ที่ตนรับผิดชอบ หากมีปัญหาให้รายงานกระทรวงมหาดไทย
  2. ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งประชาสัมพันธ์เผยแพร่มาตรการเพื่อช่วยเหลือหรือบรรเทาผลกระทบอันเกิดจากการบังคับใช้มาตรการของรัฐต่อประชาชน
  3. ให้โรงพยาบาล สถานพยาบาล จัดหายา เวชภัณฑ์ เครื่องมือในการตรวจโรค เครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์อื่น ๆ ให้เพียงพอตามาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดหรือแนะนำ / เตรียมสถานที่กักกัน สถานที่คุมไว้สังเกตหรือเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยที่อาจเพิ่มจำนวนขึ้น โดยขอความร่วมมือดัดแปลงสถานที่ เช่น โรงแรม โรงเรียน มหาวิทยาลัย หอประชุม สถานที่ปฏิบัติธรรม ศาลาวัด อาคารของเอกชนที่ยังไม่ได้ใช้งานหรือสถานที่ราชการ สถานที่เอกชนอื่น ๆ เป็นโรงพยาบาลชั่วคราว
  4. กักกันตัวเองไว้สังเกตอาการตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ หรือเป็นผู้เดินทางข้ามเขตจังหวัด ให้เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่อ อาสาสมัครที่ปฏิบัติงานให้แก่ทางราชการ สามารถตรวจสอบเฝ้าระวัง หรือความเข้มงวดจริงจังในการกักกันตนเอง / ขอความร่วมมือจากประชาชนในท้องถิ่นให้ช่วยตรวจสอบด้วยก็ได้

ข้อ 8 มาตรการพึงปฏิบัติสำหรับบุคคลบางประเภท ที่เสี่ยงสูงต่อการติดโควิด-19

  1. ผู้สูงอายุตั้งแต่ 70 ปี ขึ้นไป
  2. กลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง โรคในระบบทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำตามธรรมชาติของโรคและด้วยยาที่ใช้รักษา
  3. กลุ่มเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีลงมา ทั้งนี้เว้นแต่บุคคลดังกล่าวมีความจำเป็นต้องพบแพทย์ รักษาพยาบาล การทำธุรกรรมทางการเงิน บริการส่งสินค้าเพื่อการบริโภค อุปโภค ให้บริการขนส่งผู้โดยสาร การซื้อขายอาหาร การติดต่อด้านคดีกับตำรวจ อัยการ หรือศาล

ข้อ 9 มาตรการเกี่ยวกับการออกนอกราชอาณาจักร ให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้มงวดในการตรวจลงตราหรือออกวีซ่าหรืออนุญาตให้ชาวต่างประเทศซึ่งไม่ได้มีกิจการงานปกติหรือถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรยังคงอยู่ในราชอาณาจักร บุคคลไม่มีสัญชาติไทยหรือไม่มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรซึ่งประสงค์จะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรจะได้รับอำนวยความสะดวกในการเดินทาง

ข้อ 10 มาตรการดูแลความสงบเรียบร้อย ใน กทม.ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดเวรยามหรือตั้งจุดตรวจตามถนน เส้นทางคมนาคม สถานีขนส่งหรือโดยสาร ในจังหวัดอื่นนอก กทม.อย่างน้อยให้มีมาตรการตั้งด่านตรวจหรือจุดสกัดดูแลการเดินทางข้ามพื้นที่จังหวัด เพื่อจัดระเบียบการเดินทาง การจราจร การเฝ้าระวังรือสังเกตอาการผู้เดินทาง และพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดโรค

ข้อ 11 มาตรการป้องกันโรค ให้มีมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด

ข้อ 12 นโยบายการยังคงให้เปิดสถานที่ทำการ เช่น โรงพยาบาล สถานพยาบาล คลินิกแพทย์รักษาโรค ร้านขายยา ร้านอาหารในส่วนซึ่งไม่ใช่สถานบันเทิงหรือสถานบริการ และแผงจำหน่ายอาหารซึ่งผู้บริโภคซื้อไปบริโภคนอกสถานที่ ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก ร้านค้าทั่วไป แผนกซุบเปอร์มาร์เก็ต แผนกขายยา แผนกอาหาร ธนาคาร ตูเอทีเอ็ม ตลาดและตลาดนัดในส่วนจำหน่ายอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จ อาหารสัตว์ สถานที่จำหน่ายแก๊ส บริการส่งสินค้าและอาหารตามสั่ง delivery online รวมถึงสถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ เว้นแต่สถาบันการศึกษา

ข้อ 13 คำแนะนำเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเขต ให้ประชาชนฟัง งด หรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด กรณีจำเป็นต้องเดินทางข้ามเขต ต้องรับการตรวจคัดกรองตามที่ราชการกำหนด

ข้อ 14 คำแนะนำในการจัดกิจกรรมอื่น เช่น พิธีมงคลสมรส พิธีเช่นไหว้บรรพบุรุษ พิธีบำเพ็ญกุศล พิธีศพ พิธีสงกรานต์หรือกิจกรรมภายในครอบครัว ยังคงจัดได้ตามความเหมาะสม แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค

ข้อ 15 โทษ หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ข้อ 1-6 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 และอาจมีความผิดตามมาตรา 52 ของ พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 หรือ มาตรา 41 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและการบริการ 2542 แล้วแต่กรณีด้วย

ข้อ 16 การใช้บังคับ ข้อกำหนดนี้ให้ใช้บังคับทั่วราชอาณาจักรวมทั้งพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เว้นแต่จะมีข้อกำหนดเป็นอย่างอื่น

ในเรื่องของการขอความร่วมมือ รัฐบาลนำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ออกมาขอความร่วมมือต่อประชาชนในหลายๆ เรื่อง เช่นการขอร้องไม่ให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา เพราะอาจจะกลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้เกิดการระบาดของไวรัสเป็นวงกว้างมากขึ้น ซึ่งถ้าใครกลับก็ต้องผ่านมาตรการการคัดกรองที่เข้มข้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้านเป็นหลัก ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ ไม่ควรออกจากบ้าน โดยทางรัฐบาลยังได้เพิ่มสถานที่กักตัวให้แก่ประชาชนทั้ง โรงพยาบาลสนาม พื้นที่กักตัวขนาดใหญ่ที่รับคนได้ประมาณ 100-1,000 คน รวมทั้งการจัดหาเวชภัณฑ์ให้เพียงพอ

นอกจากสองเรื่องข้างต้น ทางรัฐบาลได้ขอความร่วมมือเรื่องการใช้สื่ออย่างระมัดระวัง โดยไม่ให้แชร์อย่าแชร์ข้อมูลที่ผิดๆ หรือยังไม่ได้รับการยื่นยันจากทางฝั่งรัฐบาล

ช่วงนี้อาจจะต้องอยู่บ้านกันนานหน่อย ยังไงก็ต้องช่วยๆ กัน เพื่อหยุดยั้งการแพร่กระจายของไวรัส โควิด-19 นี้ให้ได้ เราทุกคนต้องร่วมมือกันแล้วล่ะ

 

 

ข้อมูล : https://www.prachachat.net/general/news-437714

เจลล้างมือ

ผลิตแล้ว เจลล้างมือ แจกฟรีที่หรูสุดของ LVMH เพื่อบริจาคสาธารณสุขฝรั่งเศส

Alternative Textaccount_circle
เจลล้างมือ
เจลล้างมือ

ผลิตแล้ว เจลล้างมือ แจกฟรีที่หรูสุดของ LVMH เพื่อบริจาคสาธารณสุขฝรั่งเศส

ตามที่ก่อนหน้านี้ แพรวดอทคอม ได้นำเสนอเรื่องเครือธุรกิจสินค้าไฮเอนด์ บริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมแฟชั่น อย่าง LVMH ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ชื่อดัง อย่าง Louis Vuitton, Hermès, Dior และ Fenty Beauty ฯลฯ นั้น

โดยหลังจากออกแถลงการณ์ว่าจะดำเนินการเปลี่ยนโรงงานที่ผลิตน้ำหอมและเครื่องสำอางให้แบรนด์ต่างๆ เช่น Guerlain, Christian Dior และ Givenchy ในฝรั่งเศสมาผลิต เจลล้างมือ หรือเจลแอลกอฮอล์แทนนั้น เหตุเพราะฝรั่งเศสเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างหนัก จนทำให้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตหลายราย อีกทั้งยังขาดแคลนเจลแอลกอฮอล์อีกด้วย

และในที่สุด เจลล้างมือ ที่ผลิตโดยเครือแบรนด์หรูสุดไฮเอนด์ก็เสร็จเรียบร้อย พร้อมแจกจ่ายฟรีให้แก่หน่วยงานด้านสาธารณสุข เพื่อช่วยฝรั่งเศสที่ต้องการหยุดการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 โดยแจกจ่ายให้กับประชาชนชาวฝรั่งเศส และโรงพยาบาลหลายแห่งสำคัญในทวีปยุโรป โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ พร้อมทั้งย้ำว่าการผลิตครั้งนี้ไม่ได้เพื่อนำมาจำหน่ายแต่อย่างใด

โดยทางเครือ LVMH และ Maisons ยังได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะช่วยเหลือหน่วยงานสาธารณสุขของฝรั่งเศสตราบเท่าที่จะทำได้ด้วยความเต็มใจ ถึงแม้อาจจะต้องใช้งบประมาณจำนวนไม่น้อย แต่เพื่อช่วยให้สังคมส่วนรวมฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ไปให้ได้

และนี่คือ เจลล้างมือ ที่หรูที่สุดและฟรีอีกด้วย!!

 

View this post on Instagram

 

A post shared by We’re Magnetic (@weremagnetic) on

 

View this post on Instagram

 

A post shared by KRW CONSULTING (@krw_consulting) on

 

View this post on Instagram

 

A post shared by Robert Gutierrez Jr. (@robgutierrezjr) on

 

View this post on Instagram

 

A post shared by How To Spend It (@ft_howtospendit) on

 

View this post on Instagram

 

A post shared by L’Officiel Thailand (@lofficielthailand) on

 

View this post on Instagram

 

A post shared by BACCARAT INDONESIA (@baccarat.id) on

 

View this post on Instagram

 

A post shared by Alli (@allisonhiromi) on

 

 

View this post on Instagram

 

A post shared by Emmanuelle Le Quillio (@emmanuellevidal) on

เจลล้างมือ


ภาพ IG : #lvmhjoinsforces

 

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

LVMH เครือแบรนด์หรู พร้อมสู้โควิด เปลี่ยนโรงงานผลิตน้ำหอมมาผลิตเจลล้างมือ

ทางเลือกใหม่ นวัตกรรมน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัส สูตรปราศจากแอลกอฮอล์เพื่อผิวแพ้ง่าย

ไทยทำได้! ผลิต ชุดตรวจโควิด-19 รู้ผลเร็วไม่เกิน 45 นาที ต้นทุนไม่ถึง 500 บาท

ใช้สบู่ล้างมือ ฟรี! ที่ Lush ทุกสาขา โดยไม่จำเป็นต้องซื้อผลิตภัณฑ์ใดๆ ทั้งนั้น

รวมทุกข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับการล้างมือในภาวะ โควิด-19 ระบาด

 

 

 

กระเป๋า Hermes โดนปล้นในฮ่องกง

ธุรกิจออนไลน์ต้องระวัง! กระเป๋า Hermes หลักล้าน ถูกโจรล่อซื้อและปล้นในฮ่องกง

กระเป๋า Hermes โดนปล้นในฮ่องกง
กระเป๋า Hermes โดนปล้นในฮ่องกง

ร้านค้าออนไลน์ถูกล่อซื้อ กระเป๋า Hermes ราคาหลักล้านจากกลุ่มคนร้าย ซึ่งขอนัดรับสินค้าในเวลากลางคืน จากนั้นก็ถูกปล้นเอาสินค้าราคาแพงไปต่อหน้าต่อตา

เมื่อคืนที่ผ่านมา (24 มี.ค. 63) เวลาประมาณ 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของฮ่องกง ผู้ชายสามคนพร้อมอาวุธได้ลงมือปล้นกระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรูจากแม่ค้าออนไลน์ โดยคนร้ายล่อลวงทำทีว่าเป็นลูกค้าและสนใจกระเป๋า Hermes หลังจากแม่ค้าลดราคาให้ พวกเขาก็ตกลงจะซื้อและขอนัดรับสินค้านอกอาคารอุตสาหกรรมบนถนน Kwai Cheong เขต Kwai Tsing ทำให้แม่ค้าออนไลน์ตกหลุมพลางและออกมาเจอคนร้าย ซึ่งกระเป๋า Hermes Birkin ใบดังกล่าวก็ถูกปล้นไปตามระเบียบ

จากนั้นเธอจึงรีบโทรหาตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือทันที จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า แม่ค้าออนไลน์ได้โพสต์ภาพสินค้าบนแพลตฟอร์มการขายออนไลน์ของ Carousell เมื่อปีที่แล้ว โดยอ้างว่ากระเป๋า Hermes Birkin หนังจระเข้สีดำ มีสภาพ 99% และมีมูลค่า 399,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 1.6 ล้านบาท

กระเป๋า Hermes โดนปล้นในฮ่องกง

เจ้าหน้าที่ตำรวจลาดตระเวนในพื้นที่ได้ไล่ตามแก๊งคนร้ายที่สวมชุดสีดำและหน้ากาก เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งได้ หลังจากนั้นประมาณครึ่งกิโลเมตร ก็เจอกับผู้ชายอายุประมาณ 18 ปี ดึงมีดออกมาขู่ตำรวจ แต่ในที่สุดโจรปล้นกระเป๋าพร้อมอาวุธต้องยอมจำนนต่อตำรวจ โดยความผิดนี้มีโทษสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งผู้สมรู้ร่วมคิดของโจรสองคนหนีออกมาได้ในช่วงชุลมุน ทางตำรวจกำลังตามจับต่อไป

กระเป๋า Hermes โดนปล้นในฮ่องกง
ผู้ช่วยผู้บัญชาการเขต Kwai Tsing และของกลางด้านหลัง

ภาพและที่มา : www.scmp.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ดราม่าถล่ม ‘คิม คาร์เดเชียน’ ถูกมองฉวยโอกาสโปรโมทแบรนด์ช่วง COVID-19

สวยใจบุญ ‘ศรีริต้า’ แจกหน้ากากอนามัย 5 พันชิ้น ได้แรงสนับสนุนจากแบรนด์ไทย

ลุคเรียบง่ายแค่หลักพัน ‘ดัชเชสเคท’ เข้าเยี่ยมเจ้าหน้าที่สุขภาพในวิกฤต COVID-19

งดงามในชุดไทย ‘น้ำหวาน ซาซ่า’ เข้าพิธีแต่งงานเรียบง่ายกับ ‘กวาง เอบีนอร์มอล’

ศรีริต้า ปลื้มปีติ ได้รับพระราชทานของขวัญจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI

ดีไซเนอร์ใจบุญ ‘แพร-วทานิกา’ ผลิตหน้ากากผ้าถวายแด่พระภิกษุสงฆ์

ไม่หลุดธีมเจ้าหญิง ‘ศรีริต้า’ สวยหรูในชุดแต่งงานแบรนด์ดัง หนักกว่า 20 กิโลฯ

โซ่ทองหนาจนต้องมอง! กระเป๋า Bottega Veneta ราคา 6 หลักของ ‘คุณนายบีเบอร์’

ขายหมดเกลี้ยง! กระเป๋า YSL ใบที่ ‘โรเซ่ Blackpink’ สะพายร่วมงานแฟชั่นวีค

สายแฟตัวจริง! ถอดสไตล์ นางแบบตัวแม่ ก่อนขึ้นรันเวย์ในแฟชั่นวีค

สีดำอมตะ! กระเป๋า Dior Ultra-Matte 3 ดีไซน์เดิม เพิ่มเติมความแมตต์ทั้งใบ

สร้อยคอทองคำที่ ‘เจ้าชายวิลเลียม’ มอบให้ ‘ดัชเชสเคท’ มีความหมายอะไรซ่อนอยู่

รวมลุคสวยหลังคลอด ฉบับคุณแม่ ‘เจนี่’ กับแฟชั่นเรียบง่ายในแบบที่เธอถนัด

 

ซงจุงกิ

ซงจุงกิ กักตัวเองเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ภายหลังไปถ่ายหนังที่โคลอมเบีย

Alternative Textaccount_circle
ซงจุงกิ
ซงจุงกิ

พระเอกขวัญใจสาวๆ ซงจุงกิ เดินทางจากโคลอมเบียกลับเกาหลีใต้ ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) น่าเป็นห่วง โดยต้นสังกัดเปิดเผยว่าสุขภาพของเขาไม่น่าห่วง แต่เขาจะกักตัวเองอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 2 สัปดาห์

เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่อง Bogota ซึ่งเป็นหนังเรื่องใหม่ของพระเอก ซงจุงกิ ได้ยกกองกันไปถ่ายทำที่ประเทศโคลอมเบีย และด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) กองถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้จึงได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  โดยเฉพาะในช่วงนี้สถานการณ์ทางฝั่งสหรัฐอเมริกาและยุโรปมีความน่ากังวล ทำให้ทีมงานต้องจำใจยกเลิกการถ่ายทำกลางคัน

ล่าสุดสื่อเกาหลีใต้ได้รายงานว่า หลังมีข่าวว่าทีมงานภาพยนตร์เรื่อง Bogata จะต้องออกจากโคลอมเบียทันที เนื่องด้วยความกังวลเกี่ยวกับไวรัส COVID-19 ล่าสุดเมื่อเช้าวันที่ 24 มีนาคม 2563 นักแสดงและทีมงานกลับถึงเกาหลีอย่างปลอดภัย โดยเขาออกจากสนามบินทันทีเพื่อเดินทางกลับสู่บ้าน โดย HISTORY D&C ต้นสังกัดของพระเอกดังยืนยันว่าหลังจากเดินทางกลับมา นักแสดงหนุ่มไม่มีปัญหาสุขภาพอะไร แต่เขาจะกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 2 สัปดาห์ตามกำหนดและใช้โอกาสนี้หยุดพักผ่อนไปด้วยในตัว

อย่างไรก็ตาม หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของตัวละครที่ต้องอพยพไปยังโคลอมเบีย และต้องเผชิญกับความยากลำบากนานาประการภายหลังย้ายไปอยู่ในต่างแดน การถ่ายทำเริ่มต้นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และมีกำหนดปิดกล้องในเดือนพฤษภาคมนี้

ซงจุงกิ ซงจุงกิ ซงจุงกิ


ข้อมูล : sbs,NEWSEN

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ปฏิบัติการล่าครั้งมโหฬาร! 260,000 คน เอี่ยวคดีห้องแชทวิปริตของกลุ่ม #Nthroom

หนังสือน่าอ่าน

14 วันแก้เซ็ง อยู่บ้านอ่าน Amarinbooks “สุขภาพ นิยาย และInspiration”

หนังสือน่าอ่าน
หนังสือน่าอ่าน

อยู่บ้านต้องกักตัว ออกไปไหนไม่ได้ เพราะด้วยสถานการณ์ที่ไม่ปกติเอาซะเลยจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะว่าเหงาก็ใช่ นั่งๆ นอนๆ ดู Netflix เปิดรายการทีวีก็หมดไปวันแล้ว และจริงๆ ทุกปี ช่วงนี้ก็ต้องไปเดินงานสัปดาห์หนังสือ หาเรื่องไปซื้อหนังสือดีๆ มาอ่าน แต่ก็ดันยกเลิกจัดไม่ได้ 14 วันนี้ คงต้องหาหนังสือมาอ่านแก้เซ็ง ซึ่งตอนนี้ ทางAmarinbooks เขามีมาให้เลือกเพียบ ทั้ง “สุขภาพ นิยาย และInspiration”

work from home

14 วันแก้เซ็ง อยู่บ้านอ่าน Amarinbooks “สุขภาพ นิยาย และInspiration”

ตอนนี้เลยต้องอาศัยช้อปหนังสือทางออนไลน์ไปก่อน ไหนๆ ก็ออกจากบ้านไม่ได้ แพรวเลยหาหนังสือมา เพราะกะว่าจะอ่านในช่วงนี้แหละ 14 วันหาหนังสืออ่านกันไปเลย

คู่มือเอาตัวรอดจากโควิด-19 ราคา 89 บ.

หนังสือน่าอ่าน

วิธีป้องกันและควบคุมเชื้อ COVID-19 และโรคติดต่อต่างๆ สงสัยเล่มนี้ต้องมีติดบ้านไว้เลยล่ะ เพราะไม่ใช่แค่โควิด-19 ที่ต้องระวัง แต่เราไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเกิดโรคระบาดอะไรอีกบ้าง เล่มนี้น่าจะเป็นตัวช่วยประจำบ้านให้ทุกคนรู้เท่าทันและรับมือกับ COVID-19 ได้อยู่หมัด
รวมทั้งโรคติดต่ออื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อะไรที่ควรทำ อะไรที่ห้ามทำ เล่มนี้บอกไว้ละเอียดยิบ ซึ่งคนที่เขียนหนังสือเล่มนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคือ จางเหวินหง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การรักษาโรคติดเชื้อ COVID-19 หัวหน้าแผนกโรคติดต่อ โรงพยาบาลหัวซานและเป็นหนึ่งในทีมงานสำคัญเมื่อมีโรคติดต่อเกิดขึ้นในประเทศจีนเช่น โรคซาร์ส ไข้หวัดนก ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว

สุดยอดวิธีออกกำลังกาย ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ต้องหาหมอ ราคา 225 บาท
หนังสือน่าอ่าน

 

ใอยู่บ้านแล้วกินเพลินต้องเตือนสติด้วยเล่มนี้แหละ อ่านจบแล้วเผื่อจะคิดได้ว่าต้องออกกำลังกายบ้างแล้วนะ หนังสือเล่มนี้เขาแนะนำการออกกำลังกายแบบง่ายที่จะช่วยป้องกันและบำบัดโรค เขาว่าเล่มนี้ผ่านการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าได้ผลจริง ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง อ้วนลงพุง กระดูกพรุน และอาการปวดตามจุดต่างๆ ด้วยนะ

BECOMING มิเชลล์ โอบามา ราคา 395 บาท

หนังสือน่าอ่าน

ในช่วงวิกฤติแบบนี้บางคนก็เครียดสุดๆ หนังสือที่ว่าด้วยเรื่องราวของหญิงแกร่ง อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งสหรัฐอเมริกา มิเชลล์ โอบามา 
ถูกแปลไปกว่า 45 ภาษาทั่วโลก และขายดีทะลุ 10 ล้านเล่ม เนื้อหาเต็มไปด้วยเรื่องที่ยังไม่เคยถูกบอกเล่าที่ไหน และช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจดีๆ ได้

INTO THE MAGIC SHOP เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ ราคา 245 บาท

หนังสือน่าอ่าน

นิยายแปลต้องมา เล่มนี้เขาว่าติดอันดับ New York Times Bestseller และแปลไปแล้วกว่า 31 ประเทศทั่วโลก เป็นเรื่องราวของ ‘จิม โดตี’ เด็กชายที่เติบโตในครอบครัวที่ยากจน พ่อติดเหล้า แม่เป็นโรคซึมเศร้า ชีวิตอะไรจะรันทดขนาดนี้ จนกระทั่งเขาเข้าไปในร้านขายของมายากลแห่งหนึ่งเพื่อซึ้อปลอกนิ้วพลาสติกและได้พบกับหญิงคนหนึ่งนามว่า ‘รูธ’ มาสอนเทคนิคการใช้พลังของจิตใจ จนทำให้จิมได้กลายมาเป็น
ศาสตราจารย์ด้านประสาทศัลยกรรมที่มีชื่อเสียงผู้ก่อตั้งศูนย์เพื่อการศึกษาด้านความเมตตาและความเห็นแก่ผู้อื่น ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด

 

มีอะไรในสวนหลังบ้าน ราคา 255 บาท

หนังสือน่าอ่าน

เล่มนี่น่าจะเพลินแน่ๆ นิยายแนวThriller ของเกาหลี  ตีแผ่เรื่องราวคู่ขนานระหว่างสองสาว ‘คิมจูรัน’ กับ ‘ซังอึน’ ที่เต็มไปด้วยปมขัดแย้งในใจ จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรม เรื่องนี้น่าจะมีอะไรให้ตื่นเต้นอ่านแล้วไม่ง่วงแน่ๆ 

 

เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น ราคา 245 บาท

หนังสือน่าอ่าน
อันนี้ก็เด็ด เป็นนิยายเรื่องราวเกิดขึ้นในร้านกาแฟ ของ 4 ตัวละคร 4 เรื่องราว ทั้งชีวิตความรัก ครอบครัว และความตายที่ใกล้แค่เอื้อม เกริ่นมาขนาดนี้เดาว่าดราม่ามาเต็มแน่นอน เตรียมซับน้ำตากันรัวๆ เลย

รักนี้ต้องเป็นเธอ 395 บาท


หนังสือน่าอ่าน
เล่มนี้เตรียมตัวจิกหมอนรัวๆ เป็นนิยายรักโรแมนติกที่เอาไปทำเป็นซีรีส์ดังที่นำแสดงโดย “หูอี้เทียน” พระเอกสุดฮอตจาก A Love So Beautiful
มาแล้ว ลองเวอร์ชั่นหนังสือบ้างดีกว่าว่าจะฟินแค่ไหน

เปลี่ยนแผลเป็นพลัง ราคา 245 บาท


หนังสือน่าอ่าน
ความทุกข์ผ่านมาเดี๋ยวมันก็ผ่านไป มูฟออนให้ไวก็จะกลับมามีความสุขอีกครั้งได้สบายๆ หนังสือเล่มนี้เขาบอกว่าจะช่วยเยียวยาจิตใจในเวลาเครียดได้ จริงๆ ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องบำบัดขนาดนั้นหรอกนะ แต่มีติดบ้านไว้ก่อน เวลาเครียดมาอ่านก็น่าจะดี
นี่แค่คือที่แพรวเลือกมาเท่านั้นนะ ว่าต้องเพลินมากแน่ๆ ในช่วงที่ต้องอยู่แต่บ้านแบบนี้ จริงๆ แล้วยังมีหนังสือดีๆ อีกเพียบ ยิ่งถ้าใครที่ชอบอ่านแนวสร้างกำลังใจเยอะๆ ก็มีเหมือนกัน
หนังสือน่าอ่าน
หนังสือน่าอ่าน
หนังสือน่าอ่าน
ใครที่ชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน ก็ลองไปหาซื้อดูเอานะตอนนี้ เขามีงานสัปดาห์หนังสือออนไลน์อยู่ มีโปรโมชั่นซื้อหนังสือ 1-3 เล่ม ลด 15%, 4 เล่ม ลด 20% และ5 เล่มขึ้นไป ลด 22% โดยสั่งซื้อได้ที่ NAK DELIVERY @สัปดาห์หนังสือออนไลน์ หรือamarinbooks.com หรือ inbox เพจ FB@amarinbooks ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. – 6 เม.ย. 63
keyboard_arrow_up