“อเล็กซองดร์ อาฌา”ั

สัมภาษณ์เจ้าพ่อหนังเอาตัวรอด “อเล็กซองดร์ อาฌา”ั

Alternative Textaccount_circle
“อเล็กซองดร์ อาฌา”ั
“อเล็กซองดร์ อาฌา”ั

“อเล็กซองดร์ อาฌา” ถือเป็นผู้กำกับที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างวิสัยทัศน์ให้กับภาพยนตร์สยองขวัญยุคใหม่ โดยเฉพาะผลงานทริลเลอร์สุดโหดจากประเทศฝรั่งเศสอย่าง “High Tension” (2003) ที่พลิกโฉมวงการหนังแนวสแลชเชอร์ไปอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าจะเลือกนำเสนออัตลักษณ์ทางเพศ แต่หนังก็เต็มไปด้วยความรุนแรง กล้าตีความหนังสแลชเชอร์ในทิศทางใหม่ๆ ซึ่งมีอิทธิพลต่อแฟนหนังหลายๆ คน

นอกจากนี้เขายังได้รับการยกย่องว่าเป็นเสาหลักของ “New French Extremity” กลุ่มภาพยนตร์ที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ 9/11 ซึ่งผู้กำกับได้สร้างภาพยนตร์สยองขวัญที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณ เพื่อสะท้อนถึงความไร้เหตุผลและความสิ้นหวังในยุคนั้น ตั้งแต่นั้นมาอาฌาได้ฝากผลงานภาพยนตร์ไว้อีกมากมายหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นหนังสัตว์ประหลาด “Piranha 3D” (2010), หนังสยองแฟนตาซี “Horns” (2013) รวมถึงหนังระทึกขวัญเอาตัวรอด “The Hills Have Eyes” (2006), “Crawl” (2019) และ “Oxygen” (2021)

และล่าสุดกับหนังระทึกขวัญสุดสยองแห่งปี “Never Let Go ผูกเป็น หลุดตาย” ที่ผู้กำกับอาฌาเลือกประเด็นวันสิ้นโลกและความเป็นพ่อแม่มานำเสนอในโปรเจกต์หนังเอาตัวรอดเรื่องใหม่นี้ที่เล่าเรื่องราวของโลกที่เต็มไปด้วยหายนะเมื่อปีศาจร้ายเข้ายึดครองทุกพื้นที่ให้กลายเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยอันตราย ผู้เป็น “แม่” (รับบทโดย “ฮัลลี เบอร์รี” นักแสดงตัวแม่รางวัลออสการ์) จึงต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้อง “ลูกแฝด” ของเธอให้มีชีวิตรอดต่อไป โดยตั้งกฎสำคัญห้ามฝ่าฝืนนั่นคือต้องผูกเชือกที่ยึดติดกับบ้านไว้ตลอดเวลาที่ออกนอกบ้าน หากเชือกหลุดจะตกเป็นเหยื่อของปีศาจร้ายที่จ้องขย้ำอยู่ด้านนอก

 “อเล็กซองดร์ อาฌา”ั

จุดเริ่มต้นของการก้าวเท้าเข้าสู่ป่ามรณะของ “Never Let Go”

ตอนนั้นผมกำลังเริ่มมองหาโปรเจกต์ใหม่ ผมอ่านบทมาแล้วมากมาย ผมจำได้ว่าตอนอ่านเราไม่มีทางรู้เลยว่าเมื่อเปิดบทอ่านเรื่องไหนจะเป็นเรื่องที่ใช่ แต่ผมเชื่อว่าคุณต้องตกหลุมรักเนื้อหาของมันก่อนเสมอก่อนที่จะลงมือทำ ซึ่งบทของ “Never Let Go” ที่เขียนโดย “เคซี คัฟลิน” และ “ไรอัน กราสส์บี” มันไม่ใช่แค่บาดใจแต่ยังเต็มไปด้วยความน่าสงสัย บทภาพยนตร์นี้ลึกซึ้งทั้งในแง่ของจิตวิทยา และสอดคล้องกับช่วงเวลาที่เรากำลังใช้ชีวิตอยู่ทุกวันนี้ เรื่องราวของแม่ที่พยายามปกป้องลูกๆ ของเธอในโลกที่สูญสลายไปแล้ว เด็กคนหนึ่งเชื่อทุกอย่างที่แม่บอก ส่วนอีกคนตั้งคำถาม มันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจผมมานานแล้ว ซึ่งบทภาพยนตร์เรื่องนี้มีสิ่งที่ทำให้สามารถกลับมาพูดว่า “โอ้ นี่คือเหตุผลที่ฉันทำเรื่องนี้” และเป็นแรงผลักดันช่วยให้คุณมีแพสชันที่จะสู้เพื่อก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ ได้

Never Let Go” เรื่องราวเกี่ยวกับอะไร

มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโลกที่แบ่งแยก ความขัดแย้งระหว่างระหว่างคนที่เชื่อและไม่เชื่อ ระหว่างคนที่กังขาและคนที่เลื่อมใส คำถามที่ว่าปีศาจคืออะไรและมาจากไหน และการที่มันฉลาด, อดทน, สามารถจำแลงเป็นอะไรก็ได้เพื่อปั่นหัวคุณ มันน่าสนใจ ผมหวังว่าผู้ชมจะได้ถกเถียงกันว่าปีศาจนั่นคืออะไรกันแน่

การเผชิญหน้ากับความกลัวในฐานะพ่อแม่

Never Let Go” ทำให้ผมได้สำรวจการเป็นพ่อแม่ การปกป้องลูกๆ และอันตรายจากการโอ๋ลูกจนเกินไป นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผม ผมต้องการสำรวจประเด็นที่พ่อแม่สามารถเป็นคนที่ห่วงใยและรักลูกๆ ของเขามากที่สุด ในขณะเดียวก็เป็นภัยคุกคามซึ่งอันตรายที่สุดได้เช่นกัน

การถ่ายทอดเรื่องราวผ่านโลเคชันที่อยู่ในป่าลึก และการทำงานร่วมกับตากล้องคู่ใจเป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับผมการทำหนังสักเรื่อง ขั้นแรกคือการใช้เวลารีไรต์บทหรือพัฒนาบทให้ไปในทางที่ตรงกับภาพในหัวของผม จากนั้นก็เลือกทีมงานที่จะทำภาพนั้นให้เป็นจริงได้ ซึ่งหลังจากทำงานมาหลายปีในที่สุดเราจะพบคนที่ทำงานเข้าขากับคุณได้เอง นี่คือเหตุผลที่ผมและ “มักซีม อเล็กซองดร์” จับมือกันสร้างสไตล์ภาพเฉพาะตัวออกมาได้ เราทั้งสองคนเคยทำงานร่วมกันมาแล้ว 16 เรื่อง ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับ “Never Let Go” เพราะจำนวนต้นไม้และป่าที่เป็นฉากหลักในครั้งนี้ ผมกังวลมากว่าเราจะถ่ายทำในป่ากันยังไง เราจะมั่นใจได้ยังไงว่าเราสามารถ่ายทอดสิ่งที่ตั้งใจได้อย่างชัดเจนท่ามกลางต้นไม้หนาแน่นขนาดนั้น นั่นคือเหตุผลที่เราเลือกถ่ายด้วยกล้อง 65 มม. เพราะมุมภาพมันกว้างกว่า เต็มตากว่า แต่ก็ยังมีคุณลักษณะสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือมันมอบบรรยากาศเหมือนอยู่ในโลกนิทานแต่ไม่หลุดจากความเป็นจริง ผมไม่อยากให้มันแฟนตาซีเกินไป ผมอยากให้ผู้ชมอินกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เหมือนผูกตัวติดไปกับตัวละคร

การทำงานร่วมกับ “ฮัลลี เบอร์รี” นักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์

ครั้งแรกที่พวกเราได้พบกัน เธอกังวลมากว่าผมจะมองเรื่องนี้ในแนวทางที่แตกต่างออกไป ผมไม่พร้อมที่จะสู้เพื่อปกป้องสิ่งที่ทำให้มันเป็นเรื่องที่โดดเด่น ซับซ้อน แต่เรียบง่ายในขณะเดียวกัน เธอกลัวว่าผมจะทำมันออกมาให้กลายเป็นเอาใจสตูดิโอ ซึ่งโชคดีที่ผมและเบอร์รีมองภาพตรงกันตั้งแต่แรก โดยเราทั้งสองอยากให้หนังออกมาดิบกระแทกใจ

ถ้าผมบอกว่ามันดิบกว่า ไม่ใช่เพราะหนังโหดเลือดสาด น่ากลัว หรือรุนแรง แต่เป็นเพราะประเด็นที่มันนำเสนอและความจริงที่ว่าตัวละครของ “ฮัลลี เบอร์รี” ไม่ใช่ตัวละครที่คนคาดหวังว่าเธอจะเป็น ตัวละคร “แม่” ที่เธอนำแสดงมันมีหลายมิติ ซึ่งเธอมองตัวเองว่าเป็นแม่ที่รักลูกเหนือสิ่งใดและต้องการปกป้องพวกเขา แต่ความรักนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป เธอปกป้องลูกมากเกินไป เข้มงวดเกินพอดี ซึ่งนั่นกลับทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตราย ความรู้สึกที่ซับซ้อนของคุณในฐานะพ่อแม่เป็นประเด็นที่เบอร์รีอินมาก ซึ่งเธอกลัวเราจะลืมสิ่งนั้นไปในระหว่างการพัฒนา ยิ่งเราทำงานร่วมกันมากเท่าไร เธอยิ่งเข้าใจว่านี่ก็เป็นเหตุผลเดียวกันที่ทำให้ผมกำกับเรื่องนี้ และนั่นทำให้เราสนิทสนมกันมากขึ้น ทำงานเข้าขากันขึ้นไปอีก

ทำไมถึงสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับการเอาชีวิตรอดของตัวละครผู้หญิง

ผมว่าการที่ผลงานของผมมีตัวละครแบบนี้หลายตัวคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ผมจำตอนที่อ่านบท “Crawl” เมื่อหลายปีก่อนได้ มันเป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องช่วยชีวิตพ่อตัวเอง พูดตรงๆ ผมไม่ได้มองมันเป็นแบบนั้น ผมอ่านมันเหมือนเป็นตัวผมเองที่พยายามไปช่วยพ่อ เหมือนกับตอนที่ผมเขียนบท “High Tension” หรือ “Oxygen” มันเป็นสัญชาตญาณที่ทำให้เรารู้สึกผูกพันกับตัวละครและมองข้ามผ่านเรื่องเพศไปเลย ผมพบว่าตัวเองอินกับตัวละครเหล่านี้ เพราะเข้าใจพวกเธอ เข้าใจการต่อสู้และเรื่องราวของพวกเธอ

การปลดแอกตัวเองและการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดในฐานะผู้กำกับ

มันเป็นช่วงเวลาที่น่าทึ่งเมื่อคุณมีลูก คุณเหมือนได้ย้อนกลับไปยังวัยเด็กของตัวเองอีกครั้งผ่านการดูภาพยนตร์เก่าๆ ค้นพบภาพยนตร์เรื่องเดิมอีกครั้งไปพร้อมกับลูกของคุณ การเป็นพ่อแม่สำหรับผู้กำกับแล้ว มันเหมือนกับการกดปุ่มรีเซตที่ไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนแปลง แต่เพื่อรีเฟรชแนวทางการสร้างภาพยนตร์ของคุณใหม่ ถ้ามองเผินๆ Never Let Go” เหมือนนำเสนอในรูปแบบของหนังสยองขวัญเอาตัวรอดทั่วไป แต่จู่ๆ มันก็แหวกเส้นทางใหม่ที่ไม่เคยเห็นในหนังเรื่องไหนมาก่อน หลังจากอ่านบทผมตกหลุมรักเรื่องราวที่ว่าด้วยความหมายของการเป็นพ่อแม่คน แต่ยังรวมถึงความรู้สึกของการเป็นลูก รวมทั้งการรับมือกับสิ่งเร้นลับที่อยู่ภายนอก ความเชื่อและไม่เชื่อ ยิ่งลึกซึ้งมากเท่าไร มันยิ่งน่ากลัวมากเท่านั้น ไม่ใช่แค่สะดุ้งเพราะจัมป์สแกร์ (Jump Scare) แต่มันยังเป็นความสยองทางจิตวิทยาซึ่งเชื่อมโยงกับการเป็นพ่อแม่ด้วย

หอแว่น Better Vision

ยืนหนึ่งเลนส์แว่นตา พบกับ “LEICA EYECARE” ที่ “หอแว่น Better Vision”

account_circle
หอแว่น Better Vision
หอแว่น Better Vision

เมื่อไม่นานมานี้แพรวออนไลน์ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชม “หอแว่น Better Vision” ซึ่งที่นี่เขามีแว่นตาจากหลากหลายแบรนด์ดังให้เลือกมากมาย อาทิ Celine, Fendi, Loewe,S7,Clrotte และ Hellen Keller นอกจากนี้ยังมีบริการวัดสายตาจาก นักทัศนมาตร (Optometrist) ที่เชี่ยวชาญในการวัดสายตา ซึ่งครั้งนี้เราได้ลองวัดสายตากับ “หอแว่น Better Vision”  พร้อมกับมาพูดคุยเกี่ยวกับเลนส์แว่นตาที่ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมอย่าง Leica ว่าดีอย่างไร

ยืนหนึ่งเลนส์แว่นตา พบกับ “LEICA EYECARE” ที่ “หอแว่น Better Vision”

หากพูดถึงเลนส์ Leica เราก็จะนึกถึงกล้องคุณภาพดี ที่ช่างภาพมืออาชีพส่วนใหญ่เลือกใช้เป็นอันดับต้น ๆ เพราะว่า เลนส์ของกล้อง Leica จะมีความชัดใส เวลาที่ถ่ายรูปออกมาจะไม่มีแสง Glare ซึ่ง Leica ยังได้ผลิตเลนส์สายตา Leica โดยใส่เทคโนโลยีเดียวกับเลนส์กล้องโดนการเคลือบ Multi-Coating สีอมชมพู จะลดแสงสะท้อนได้มีคุณภาพ เหมาะกับทุก ๆ คน ที่ต้องการเลนส์สายตา ที่ดูแลสุขภาพสายตา มุมมองภาพและความชัดใสได้ที่ดีที่สุด โดย Leica ไม่ได้มีข้อดีในแค่ของเรื่องกล้อง แต่คุณภาพเลนส์ก็ดีที่สุดเหมือนกัน

สำหรับเทคโนโลยีของ Leica อัดแน่นไปด้วยคุณภาพแบบจัดเต็ม ด้วยเทคโนโลยี DM  ที่ช่วยลดอาการบิดเบือนภาพเป็นตัวเฉพาะที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Leica ที่คิดค้นมาทำให้ภาพการมองเห็นในช่วงเวลาที่เราเปลี่ยนแว่นตาหรือค่าสายตาเราเพิ่ม เราจะเห็นภาพเป็นนูน ๆ Leica จึงมีเทคโนโลยี DM ที่ช่วยในการเกลี่ยภาพให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด มากกว่าเลนส์ทั่วไปที่เป็นถึง 40 % จึงค่อนข้างมากพอสมควร ในการปรับคุณภาพในการมองเห็น Leica ถือว่าทำได้ดีแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ทาง Leica ได้ใส่เพิ่มเข้ามา เรียกกันว่า AEM คือ มุมมองการมองเลนส์ Y เวลาเรามองเหลือบซ้ายหรือขวา ภาพก็จะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

นอกจากนี้ Leica ยังมีเลนส์หลากหลายให้เลือก โดยมีทั้ง Single Lens หรือเลนส์สายตาสั้น อีกทั้งยังมีเลนส์สำหรับคนที่ใช้งานทั่วไป และเลนส์ล่าสุดคือ Anti-fatigue และเลนส์  Progressive เลนส์ที่สามารถมองได้ทุกระดับ ไม่ว่าเป็น ไกล กลาง ใกล้ เลนส์ตัวนี้ตัวเดียวสามารถมองได้มองเลย

อีกหนึ่งเลนส์ที่คนทั่วไปไม่ค่อยได้รู้จักคือ Office lens เลนส์ตัวนี้เป็นเลนส์เฉพาะบุคคล เป็นเลนส์เฉพาะจุด จะวัดทั้งค่า PD ความสูง ความโค้ง ค่าแว่นสายตา มุมเทหน้าแว่น  คล้ายกับที่เราเป็นตัดเสื้อหนึ่งชุด เวลาใช้งานก็จะสะดวกสบาย ไม่ต้องกังวลปัญหาเรื่องแว่นตาในระหว่างการทำงาน คือ Concept Office lens ที่ทาง Leica นำเสนอ

นอกจากนี้ Leica ยังมีเลนส์หลากหลายเฉดสีให้เลือก สามารถเลือกระดับความเข้มมากน้อยแค่ไหน โดยทาง หอแว่น จะสอบถามก่อนว่า เอาไปใช้งานรูปแบบไหน เพื่อให้ลูกค้าได้สิ่งที่ดีที่สุด เช่น เอาไปใช้งานในการขับรถ ทางแบรนด์ก็จะมีการเจาะจงเลยว่าเฟรมติดตัวรถมีความเข้มมากน้อยเพียงไหน เพื่อที่จะตอบโจทย์กับการใช้งาน  รวมไปถึงยังมีการออกแบบร่วมกัน เช่น ความเข้มประมาณไหนที่ทางลูกค้ารู้สึกโอเค  เพื่อตอบโจทย์การนำไปใช้งานให้ถูกจุดประสงค์ ซึ่งเดี๋ยวนี้แว่นสายตาธรรมดามันอาจจะดูตกเทรนด์ไปแล้ว มีลูกค้าหลากหลายท่าน มาเลือกซื้อแว่นสายตาสำหรับอ่านหนังสือ หรือสำหรับสายตายาวก็มีการทำสีเลนส์เพิ่มขึ้นให้ดูมีความแฟชั่น  โดยเฉพาะทางลูกค้าสุภาพสตรี เพื่อให้ใบหน้าดูหน้าความชัดของมิติใบหน้ามากยิ่งขึ้น

ในกรณีลูกค้าหลาย ๆ ท่านที่เข้ามาวัดสายตากับทางแบรนด์ ทางแบรนด์ที่มีขั้นตอนในการวัดค่าสายตาโดยขั้นตอนแรกเลยคือ ความสามารถในการมองด้วยตาเปล่ามองชัดได้ประมาณไหน หรือความสามารถในการมองผ่านเลนส์แว่นตาอันเก่ามองได้ชัดประมาณเท่าไหร่

ขั้นตอนต่อมีก็จะมีการวัดด้วยระดับคอมพิวเตอร์ ยังไม่จบแค่นี้ทางแบรนด์จะมีการวัดส่วนองค์ประกอบเพิ่ม และมีการสอบถามถามเพิ่มเติม เพื่อให้ค่าสามารถให้ออกมาดีที่สุด สิ่งนึงที่ลูกค้าเข้ามาลูกค้าจะไม่ได้กลับไปเพียงการวัดค่าสายตาธรรมดา หนึ่งเลยการวัดค่าสายที่ดีที่สุดคือการรับภาพ 3 มิติ อาทิ ลูกค้าบางท่านค่าสายตาทั้ง 2 ข้างต่างกันมากพอสมควร การรับภาพ 3 มิติจะไม่สามรถที่จะรับได้ 100 % ทางแบรนด์เลยแนะนำให้ลูกค้าวัดค่าสายตาผ่านการรับผ่าน 3 มิติ และยังมีอีกหนึ่งขั้นตอนที่เหมาะสมกับการวัดค่าสายตาในยุคปัจจุบัน นั่นก็คือการตรวจสอบความสมบูรณ์ในขนาดเพ็งมองในระยะใกล้ และยังไม่จบเพียงเท่านี้ ทางลูกค้าที่เข้ามาวัดค่าสายตากับทาง Leica และทำแว่นตากับทางแบรนด์ จะมีการรับประกันและการการันตีให้ ในกรณีลูกค้าใส่แว่นตาไม่สบายตาแล้วทางแบรนด์แก้ไขให้ลูกค้าแล้วยังมีปัญหา ทางแบรนด์รับประกันเปลี่ยนเลนส์ให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

เราการันตีเลยว่าการวัดแต่ละขั้นตอนไม่ใช่เพียงแค่วัดค่าสายตา แต่เราวัดในแต่ละขั้นตอนเพื่อตรวจสอบเฉพาะจุด เพื่อคุณภาพในการใช้แว่นที่ ที่มีคุณภาพ ความใส และความสวยงาม เพื่อให้ทุกการมองเห็นสมบูรณ์แบบ


No Gain No Love

5 เหตุผลที่ทำให้ซีรีส์ No Gain No Love รอมคอมที่ทั้งถูกต้องและถูกใจ

Alternative Textaccount_circle
No Gain No Love
No Gain No Love

ผู้กำกับคิมจองชิก ร่วมด้วยทีมนักแสดงนำอย่าง ชินมินอา, คิมยองแด, อีซังอี และ ฮันจีฮยอน เข้าร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ No Gain No Love (รักนี้ไม่มีขาดทุน) ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดย รักนี้ไม่มีขาดทุน เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกคอเมดี้เรื่องราวของ ซนแฮยอง (รับบทโดย ชินมินอา) หญิงสาวที่ไม่ยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบไม่ว่าจะเรื่องไหนของชีวิต แต่เธอกลับต้องโคจรมาเจอกับชายหนุ่มซึ่งเป็นเหมือนขั้วตรงข้ามของเธออย่าง คิมจีอุก (รับบทโดย คิมยองแด) ผู้ที่ไม่ยอมเอาเปรียบคนอื่น แม้ตัวเองจะต้องกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบก็ตาม นอกจากนี้ยังมี CEO หนุ่มอย่าง บกกยูฮยอน (รับบทโดย อีซังอี) ผู้ที่เบื่อหน่ายและไม่สนใจเรื่องความรัก แต่กลับต้องมาพัวพันกับ นัมจายอน (รับบทโดย ฮันจีฮยอน) นักเขียนนิยายออนไลน์ที่เชี่ยวชาญการเขียนเรื่องโรแมนติกติดเรท แต่ตัวจริงกลับไร้ซึ่งประสบการณ์ใดๆเกี่ยวกับความรัก เรื่องราวความสัมพันธ์ที่บวก ลบ คูณ หาร ไม่ค่อยจะลงตัว แต่กลับทำให้ใจเต้นตึกตัก เป็นความโรแมนติก อบอุ่นหัวใจ และความน่ารักสนุกสนาน ที่รับรองว่าคนดูไม่มีขาดทุน เตรียมรับชมซีรีส์ รักนี้ไม่มีขาดทุน ได้ที่ Prime Video ในประเทศไทย และอีกมากกว่า 240 ประเทศและเขตแดนทั่วโลก

หากคุณคิดถึงรอมคอมเรื่องเยี่ยม ที่จะทำให้ทั้งยิ้ม หัวเราะ ฟิน จิ้นและอินไปกับตัวละคร…เราขอแนะนำว่าห้ามพลาด ซีรีส์ รักนี้ไม่มีขาดทุน…มาเช็คเหตุผลไปพร้อมกันว่าทำไมซีรีส์เรื่องนี้ถึงเป็นรอมคอมที่ทั้งถูกต้องและถูกใจ

1. เพราะเรื่องนี้มี “ชินมินอา”

เมื่อตัวแม่แห่งแนวโรแมนติกคอเมดี้อย่าง ชินมินอา ขอส่งซีรีส์เรื่องนี้เข้ายึดตำแหน่งในหัวใจผู้ชมทั้งที มีหรือจะทำให้ผิดหวัง ด้วยดวงตาสดใส รอยยิ้มมีเสน่ห์ และความสามารถด้านการแสดงที่เคมีเข้ากับพระเอกทุกคนที่ร่วมงานด้วย เตรียมเช็คลิสต์ให้ถูกตั้งแต่ข้อแรกได้เลย ผู้กำกับคิมจองชิกเล่าถึงการได้มาร่วมงานกับชินมินอาว่า “ตอนได้อ่านบท ผมนึกถึงแต่ชินมินอาแค่คนเดียวที่จะมารับบทเป็น ซนแฮยอง เป็นคนอื่นไม่ได้จริงๆ ถึงเธอจะเล่นรอมคอมมาหลายต่อหลายเรื่อง แต่เธอไม่เคยทำให้ผู้ชมเบื่อเลย และเหมือนจะเปล่งประกายมากกว่าเดิมอีกด้วย”

 No Gain No Love

2. ตัวละครต่างขั้ว แต่ลงตัว

ตัวละครในเรื่องนี้มีลักษณะนิสัยและพื้นเพต่างกันสุดขั้ว แต่เป็นความต่างที่เหมือนแม่เหล็ก ดึงดูดเข้าหากันอย่างลงตัว…สาวเก่งที่ไม่ยอมเสียผลประโยชน์ให้ใครและสิ่งใด – หนุ่มฮอตเนิร์ดแสนดีที่พร้อมยื่นมือช่วยเหลือทุกคน – หนุ่มนักบริหารผู้ไม่เชื่อในความรักและตั้งปณิธานที่จะครองโสดตลอดไป – สาวใสผู้ไม่เคยออกเดท แต่กลับเขียนเรื่องรักได้เร่าร้อน…เมื่อพวกเขาเหล่านี้ได้มีวงโคจรที่หมุนมาเจอกัน บางคนขาด บางคนเกิน บางคนมีล้น หรือบางคนอาจจะแหว่งไปบ้าง แต่กลายเป็นสมการที่สมดุล

 No Gain No Love

3. รูปแบบความสัมพันธ์ที่หลากหลาย

ความสัมพันธ์ในซีรีส์นอกจากจะนำเสนอในแง่มุมความรักหนุ่มสาว ที่ผู้ชมจะฟินไปด้วยกัน ยังมีความสัมพันธ์ของครอบครัวที่ ทั้งอบอุ่น ปลอบประโลมใจ ในบางมุมก็อาจห่างเหิน…รักแต่ไม่เข้าใจ แต่ยังมีสายใยแห่งครอบครัวที่ถักทอโยงใยกันไว้  ความสัมพันธ์ของเพื่อนสาวที่แนบแน่นสนิทสนมราวกับคนในครอบครัว รักกัน ตีกัน โกรธกัน แล้วก็กลับมากอดกัน แต่ไม่ว่าสถานการณ์ไหนเราจะยังมั่นใจว่ามีเพื่อนสาวเหล่านี้เสมอ ความสัมพันธ์เจ้านายกับลูกน้องที่มองตาก็รู้ใจ ไม่ทันเอ่ยปากก็รู้ว่าอยากได้อะไร…เพราะชีวิตไม่ได้มีเพียงมุมเดียว ความสัมพันธ์ที่ร้อยเรียงเราไว้ ก็ไม่ได้มีแค่รูปแบบเดียว ผู้คนรอบตัวล้วนเป็นความสัมพันธ์ที่มีความหมาย…และเติมเต็มให้ซีรีส์เรื่องนี้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

4. เชื่อมโยงกับตัวละครได้ง่าย

การที่เราจะดูซีรีส์สักเรื่องแล้วรู้สึกสนุกอยากติดตาม ส่วนใหญ่ผู้ชมจะรู้สึกเชื่อมโยงกับตัวละคร อยากเห็นพัฒนาการความเป็นไป ถ้าเป็นพระเอกนางเอก เราก็อยากเอาใจช่วยให้สุดท้ายได้สมหวังในรักหรือทำตามความฝันได้สำเร็จ แต่ถ้าเป็นตัวร้ายเราก็อยากตามลุ้นให้พบเจอจุดจบที่สาแก่ใจ ตัวละครใน รักนี้ไม่มีขาดทุน มีเสน่ห์ด้วยบท การนำเสนอและความสามารถของนักแสดงนำ ที่ทำให้เราหัวเราะ ยิ้ม ขำ เขิน เป็นการเชื่อมโยงความรู้สึกและทำให้ผู้ชมผูกพันกับตัวละคร อยากเห็นพวกเขาทุกวัน สองตอนต่อสัปดาห์อาจไม่เพียงพอ

5. สูตรคำนวณที่พอดี ระหว่างความโรแมนติกและความคอเมดี้

ความรักในเรื่องของทั้งคู่หลักและคู่รอง ล้วนน่ารักและน่าติดตาม หวานกำลังดี ไม่ว่าจะเป็นระหว่าง ชินมินอาและคิมยองแด คู่รักหลอกๆ ที่แต่งงานกันบังหน้าเพื่อผลประโยชน์ ดูเผินๆเหมือนไม่ค่อยลงรอยกัน แต่เบื้องลึกเบื้องหลังคนดูจะอดลุ้นไม่ได้ว่า มีอะไรชวนอมยิ้มที่ซ่อนอยู่ในใจหรือเปล่า..เธอซึนเดเระหรือเปล่า ส่วนคู่รองที่หลายคนแอบเอาใจช่วยให้พระรองของเราอย่าง อีซังอี หายจากอาการแอบรักนางเอกซักที แถมในเรื่องนี้ประกาศว่าขออยู่อย่างโสดๆ แต่เมื่อมาเจอตัวละครของ ฮันจีฮยอน ก็ไม่รู้ว่าจะใจแข็งต้านทานออร่าความสดใสได้ขนาดไหน

สำหรับด้านความคอเมดี้ ผู้กำกับคิมจองชิก ถึงกับขนานนาม ชินมินอาว่า “ตัวแม่แห่งวงการคอเมดี้” รวมถึงเปิดใจว่า “ผมประหลาดใจมากที่ได้เห็นว่าชินมินอาเป็นคนตลกแค่ไหน ผู้ชมจะทั้งสนุกไปกับตัวละครของเธอ รวมถึงเห็นเธอในมุมใหม่ๆที่ไม่คาดคิดมาก่อน”

เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าหันมาหารอมคอม…ให้ซีรีส์ รักนี้ไม่มีขาดทุน เป็นที่พักใจชั้นดี ที่จะทำให้คุณรอคอยการมาถึงของวันจันทร์และอังคาร ติดตามชมได้เฉพาะที่ Prime Video เท่านั้น โดยซีรีส์เรื่องนี้มีให้รับชมในระบบซับไตเติ้ลถึง 26 ภาษา และระบบพากย์ 10 ภาษา รวมถึงซับไตเติ้ลภาษาไทยและพากย์เสียงไทยด้วย

‘มาริโอ้ – เก้า’ พาสำรวจโลกของ ลองจินส์ ในงานฉลองเปิดบูติกใหม่ ณ เมกา บางนา

account_circle

มาริโอ้ เมาเร่อ และ เก้า สุภัสสรา ธนชาต พาไปสำรวจโลกของ LONGINES (ลองจินส์) ในงานฉลองเปิดตัวบูติกแห่งใหม่ล่าสุด ณ ศูนย์การค้าเมกา บางนา ที่ถูกออกแบบการตกแต่งอย่างหรูหราและอบอุ่น

บูติกแห่งใหม่ของ ลองจินส์ เมกา บางนา เต็มไปด้วยบรรยากาศที่หรูหราและน่าดึงดูด สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของลองจินส์ต่อคุณภาพและดีไซน์เหนือกาลเวลา ที่อยากเชื้อเชิญเหล่าคนรักนาฬิกาให้เข้ามาสัมผัส โดยเน้นการตกแต่งด้วยวัสดุที่หลากหลาย สื่อถึงความสบายและให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง สามารถเข้ามาสำรวจนาฬิกาลองจินส์ที่มีให้เลือกหลากหลาย รวมถึงคอลเล็คชั่น Conquest อันโด่งดังสำหรับผู้หญิง และคอลเล็คชั่น Spirit สำหรับผู้ชาย

ซึ่งคอลเล็คชั่นเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของแบรนด์ในการสร้างสรรค์นาฬิกาที่ผสานความสง่างาม สไตล์ การใช้งาน และคุณค่าที่ยั่งยืนได้อย่างลงตัว โดยในวันเปิดตัวบูติกคอนเซปต์ใหม่ Friends of Longines Thailand อย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ และ เก้า-สุภัสสรา ธนชาต พร้อมด้วย จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน และ ดาว-พิมพ์ทอง วชิราคม ได้มาร่วมงานเปิดตัวบูติกใหม่ของ Longines ครั้งนี้ด้วย

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่บูติกในประเทศไทยคือคอลเลคชั่น Longines Spirit ซึ่งนำเสนอจิตวิญญาณนักบุกเบิกที่ผลักดันให้ชายและหญิงก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง ไล่ตามความท้าทายใหม่ๆ และเชื่อในสิ่งที่ยากจะเป็นไปได้ นาฬิกา Pilot watch เหล่านี้โดดเด่นด้วยความสง่างามแบบร่วมสมัย มีเอกลักษณ์ด้วยเส้นสายที่เรียบคมและรายละเอียดอันประณีต เชื่อมโยงประวัติศาสตร์เข้ากับนวัตกรรมใหม่

โดยนาฬิกา Longines Spirit นำเอาคุณสมบัติดั้งเดิมจากนาฬิกาสำหรับนักบินมาหลอมรวมเข้ากับเทคโนโลยีนาฬิกาที่ทันสมัย กลไกทั้งหมดของนาฬิกายังมาพร้อมซิลิคอน บาลานซ์ สปริงและได้รับการรับรองระดับโครโนมิเตอร์โดย COSC

ร่วมสัมผัสโลกของลองจินส์ที่บูติกใหม่ ณ เมกา บางนา พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศอันสวยงามและค้นพบคอลเลคชั่นนาฬิกาคลาสสิกและสปอร์ตที่ครบครันสำหรับผู้ชื่นชอบนาฬิกาทุกคน ตั้งแต่นาฬิการุ่นไอคอนิกไปจนถึงรุ่นหายาก และพิเศษพบผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกาที่จะให้บริการส่วนบุคคลและคำปรึกษาอย่างมืออาชีพ


Lamborghini Bangkok ชวนสาวกกระทิงดุออกมา Workout เพื่อสุขภาพที่ดี

account_circle

นอกเหนือจากกิจกรรมหลักอย่างโร้ดทริปที่เหล่าลูกค้าคนสำคัญต่างรอเช็คลิสต์เป็นประจำทุกปีแล้ว ประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟในรูปแบบอื่นๆ ที่ ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ เตรียมไว้ก็รับรองว่าตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ไม่แพ้กัน

ล่าสุด เรนาสโซ มอเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย นำโดย อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ, ศักดิ์ นานา และ ม.ล.พลอยนภัส ลีนุตพงษ์ กรรมการ จับมือกับพันธมิตรอย่าง CUBIC FITNESS นำโดย วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์ และ โอมมาร์ มาเกีย หนึ่งในผู้บริหาร  อีกทั้งพ่วงตำแหน่งโค้ช ชวนเหล่าเซเลบริตี้และแฟนพันธุ์แท้กระทิงดุออกมา Workout กับหลากแอคทิวิตี้สนุกๆ ที่ให้มากกว่าการออกกำลังกาย พร้อมสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสุขภาพที่ดีและโภชนาการที่เหมาะสม

ในงาน Rev Up Your Fitness with LAMBORGHINI BANGKOK and CUBIC โดยมี ภานุเมศ จงกลรัตนาภรณ์, สุรเชษฐ วรวงศ์วสุ, วงกรต พูลศิริวิทย์, ณัฐวัฒน์ วิเศษเด่นชัย, ศุภสรา จงกลรัตนาภรณ์ ร่วมงาน ณ CUBIC FITNESS อาคารเพรชสิเด้นท์ ทาวเวอร์ ชั้น G เมื่อเร็วๆ นี้


ลิซ่า-ซาบรินา

2 สาวศิลปินแห่งยุค ลิซ่า-ซาบรินา เจิดจรัสในเครื่องประดับชั้นสูงจาก บุลการี

account_circle
ลิซ่า-ซาบรินา
ลิซ่า-ซาบรินา

เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่แฟนๆ ตั้งตารอสำหรับการปรากฏตัวในลุคสุดจึ้งของ ลิซ่า-ลลิษา ที่ได้เดินทางไปร่วมงานประกาศรางวัล MTV VMAs 2024 ซึ่งปีนี้ลิซ่ายังได้คว้ารางวัล Best K-Pop จากเพลง Rockstar มาครองอีกด้วย

ทั้งนี้ลิซ่าปรากฏตัวในลุคสง่างามจาก Mugler พร้อมด้วยเครื่องประดับชั้นสูงจาก บุลการี โดยลิซ่าสวมสร้อยคอ Serpenti รังสรรค์จาก พิ้งค์โกลด์ ประดับด้วยมรกต จำนวน 0.32 กะรัต และเพชรสีขาวแบบฝังจิกไข่ปลา จำนวน 15.38 กะรัต

ขณะที่ศิลปินสาว ซาบรินา คาร์เพนเทอร์ เจ้าของรางวัล Song of the Year จากเพลง Expresso ที่โด่งดังไปทั่วโลก ปรากฏตัวในลุคสุดเซ็กซี่ ขณะขึ้นโชว์บนเวที

โดยบอดี้สูทชุดนี้แบรนด์ Victoria Secret รังสรรค์ขึ้นเพื่อเธอโดยเฉพาะ คอมพลีทลุคนี้ให้สมบูรณ์แบบด้วย สร้อยคอแพลทินัมประดับด้วย สปิเนล 21 กะรัต พร้อมด้วย เพชรมาคีย์ และเพชรทรงกลม


ภาพ : Getty Image, Bulgari

วิตามินซี

4 เรื่องที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับ “วิตามินซี” ควรกินเท่าไร ตอนไหนดีที่สุด

Alternative Textaccount_circle
วิตามินซี
วิตามินซี

ด้วยเทรนด์รักสุขภาพที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความต้องการด้านผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในด้านความงามและการดูแลผิวก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน “วิตามินซี” สารอาหารที่ได้รับความนิยมและขาดไม่ได้มากที่สุดสำหรับร่างกายมนุษย์ บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงผลของ “วิตามินซี” วิธีการเสริมและแง่มุมที่ซ่อนอยู่ในชีวิตมีหลายประการที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับวิตามินซี

วิตามินซี หรือที่เรียกว่า กรดแอสคอร์บิก มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพและเป็นหนึ่งในสารอาหารที่ขาดไม่ได้สำหรับร่างกายมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ร่างกายไม่สามารถผลิตวิตามินซีได้เอง ส่วนใหญ่พบในผักและผลไม้ตามธรรมชาติ วิตามินซีจะต้องได้รับจากการกินอาหารหรือเสริมด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเพิ่มเติมเพื่อให้ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ได้

วิตามินซี มีประโยชน์อย่างไร?

  • มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้ดีช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย
  • เมื่อร่างกายมนุษย์เสริมคอลลาเจนและวิตามินซีไปพร้อมๆ กัน วิตามินซีสามารถให้เอนไซม์และโคแฟคเตอร์ที่จำเป็นในการส่งเสริมการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น
  • การเสริมวิตามินซีอย่างเหมาะสมและทันท่วงทีสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคแปลกปลอม ทำให้ร่างกายแข็งแรง และเพิ่มภูมิคุ้มกัน
  • วิตามินซีในปริมาณที่เพียงพอสามารถลดธาตุเหล็กไตรวาเลนต์ให้เป็นธาตุเหล็กไดวาเลนต์ได้ วิตามินซีเป็นสารที่เป็นกรด ซึ่งสามารถเพิ่มความสามารถในการละลายของธาตุเหล็กไดวาเลนต์ เพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก และปรับความรู้สึกไม่สบายจากความเหนื่อยล้าและโรคโลหิตจาง
  • การกินพร้อมกับแคลเซียมจะช่วยเพิ่มอัตราการดูดซึมแคลเซียม ส่งเสริมเพิ่มการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในร่างกาย และปกป้องเหงือกและกระดูก
  • สามารถยับยั้งการทำงานของไทโรซิเนส ลดการผลิตเมลานิน และฟื้นฟูการสร้างเมลานินเพื่อให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น

ควรกินวิตามินซีวันละเท่าไร? ปริมาณวิตามินซีในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่โดยเฉลี่ยคือ 100 มก. ซึ่งเทียบเท่ากับการกินกีวี 1 ผล ส้ม 3-4 ผล สตรอเบอร์รี่ 5-7 ผล และฝรั่งแดงครึ่งลูก นอกจากนี้ผักต่างๆ เช่น ผักโขม ผักกาดขาว ผักคะน้า รากบัว ฯลฯ ก็อุดมไปด้วยวิตามินซีเช่นกัน ดังนั้น คุณจึงสามารถกินเสริมได้ตามปกติ ความอิ่มตัวจะเกิดขึ้นได้เมื่อกินเข้าไปถึง 400 มก. และส่วนเกินจะถูกขับออกทางปัสสาวะ ปริมาณสูงสุดต่อวันสำหรับผู้ใหญ่คือประมาณ 2,000 มก. หากกินมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้ง่าย นอกจากนี้ ปริมาณที่แนะนำต่อวันสำหรับสตรีมีครรภ์และให้นมบุตรคือ 110 มก.-140 มก.

กลุ่มคนประเภทไหนที่ต้องการเสริมวิตามินซีเพิ่ม

#1 ร่างกายรู้สึกเหนื่อยง่าย หลายคนมักจะยุ่งกับงานประจำ และงานบ้าน ทั้งยังนอนดึกเป็นประจำหรือนอนดึกจนเป็นนิสัย ทำให้รู้สึกหดหู่ในวันรุ่งขึ้นหรือไม่? นักวิทยาศาสตร์พบว่าคนที่มีวิตามินซีเข้มข้นในเลือดสูงจะมีสภาวะทางจิตที่ดีขึ้น

#2 ผิวหมองคล้ำและเป็นสิว หากช่วงนี้ผิวของคุณหมองคล้ำอยู่เสมอ และมีสิวเล็กๆ เกิดขึ้น ควรเพิ่มวิตามินซีเพื่อซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลายและเพิ่มความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระเพื่อให้ผิวกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

#3 นอนหลับไม่ดีเท่าที่ควร วิตามินซีเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตฮอร์โมนต่อต้านความเครียด หากวิตามินซีไม่เพียงพออาจทำให้คุณภาพการนอนหลับไม่ดีนัก หรือนอนไม่หลับ

#4ชีวิตเครียด วิตามินซีสามารถช่วยสังเคราะห์อะดรีนาลีนได้ ดังนั้นร่างกายจะบริโภควิตามินซีจำนวนมากเพื่อคลายความตึงเครียด ดังนั้น ผู้ที่เครียดจึงแนะนำให้กินวิตามินซีเพิ่มเติมเพื่อคลายความเครียดและทำให้อารมณ์คงที่

สิ่งที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับวิตามินซี

#1 กินขณะท้องว่างดูดซึมได้ดีมากกว่าหลังกินอาหาร วิตามินซีเป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้ ดูเหมือนว่าคุณสามารถเสริมได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโปรตีนและเส้นใยในอาหารจะไปขัดขวางการดูดซึม จึงแนะนำให้เสริมในขณะท้องว่างก่อนกินอาหารในตอนเช้าหรือก่อนเข้านอนเพื่อการดูดซึมที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม วิตามินซีมีความเป็นกรดอ่อนๆ หากคุณมีอาการกระเพาะที่บอบบางและกังวลว่าการกินวิตามินซีในขณะท้องว่างจะทำให้รู้สึกไม่สบายท้อง แนะนำให้เสริมวิตามินซีหลังอาหาร 2 ชั่วโมง

#2 การกินอาหารเสริมโดยแบ่งจะดีกว่าการกินทั้งหมดในคราวเดียว จากการวิจัยพบว่าเมื่อกินวิตามินซีในปริมาณมาก อัตราการดูดซึมจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ปริมาณสูงสุดที่ร่างกายมนุษย์สามารถดูดซึมได้ในช่วงเวลาสั้นๆ คือ 400 มก. หากเกินปริมาณดังกล่าวจะไม่ถูกสะสมในร่างกายและจะถูกขับออกทางปัสสาวะ ดังนั้นจึงแนะนำให้เสริมเป็นชุดตลอดทั้งวันเพื่อรักษาความคงตัวของสารอาหารและปรับปรุงอัตราการดูดซึม

#3 อุณหภูมิเป็นตัวกำหนดสารอาหาร มันจะหายไปหากเกิน 60 องศา วิตามินซีเป็นหนึ่งในวิตามินที่ทนความร้อนได้มากที่สุด มันถูกออกซิไดซ์ได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับความร้อน และสารอาหารจะสูญเสียไปอย่างมากหลังจากการออกซิเดชั่น ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงและแสง และอาหารจะต้องได้รับความร้อนด้านล่าง 60 องศาเซลเซียส โดยทั่วไป แนะนำให้บริโภคผลิตภัณฑ์เสริมวิตามินซี เช่น เม็ดโฟมวิตามินซีและยาหยอดที่อุณหภูมิห้องโดยไม่ใช้ความร้อน

#4 ไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะสำหรับการเสริม แม้ว่าวิตามินซีจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย แต่การกินเป็นอาหารเสริมก็ไม่เหมาะสำหรับทุกคน เพราะ

  • วิตามินซีจะส่งเสริมการดูดซึมของอะลูมิเนียม ยาลดกรดส่วนใหญ่มีอะลูมิเนียมในร่างกายสูงเกินไป ผู้ป่วยที่มีอาการไตไม่ดีและภาวะยูเรียเรื้อรังจะไม่สามารถขับถ่ายอะลูมิเนียมออกจากร่างกายได้ทางการเผาผลาญของไตตามปกติ จะทำให้เกิดพิษจากอะลูมิเนียมได้ง่าย
  • การกินวิตามินซีร่วมกับยาคุมกำเนิด อาจทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายเพิ่มขึ้น ดังนั้น สตรีที่กินยาคุมกำเนิด จึงแนะนำว่าไม่ควรกินวิตามินซีมากเกินไปพร้อมๆ กัน
  • การกินวิตามินซีและยาลดคอเลสเตอรอลพร้อมกันอาจทำให้ยาลดคอเลสเตอรอลบางชนิดมีประสิทธิภาพน้อยลง

*บทความนี้ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเท่านั้น และไม่สามารถแทนที่การรักษาพยาบาลโดยผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีคำถามด้านสุขภาพหรือทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์และเจ้าหน้าที่พยาบาลมืออาชีพ

Photo: Pexels


ก้าวใหม่ของของ แรมแบรนดท์ โฮเทล คอเปอร์เรชั่น

ถือเป็นก้าวใหม่และการพลิกโฉมครั้งสำคัญของ แรมแบรนดท์ แอสเซท แมเนจเมนท์ และ แรมแบรนดท์ โฮเทล คอเปอร์เรชั่น โดยการบริหารงานคุณซากิ บาซ กับการเข้าดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แรมแบรนดท์ แอสเซท แมเนจเมนท์ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แรมแบรนดท์ โฮเทล คอเปอร์เรชั่น 

ผู้เชี่ยวชาญและคร่ำหวอดในวงการโรงแรมเป็นเวลามากว่า 20 ปี โดยเฉพาะในโรงแรมระดับ 5 ดาวทั้งในประเทศไทยและตะวันออกกลาง ได้นำความเชี่ยวชาญและวิสัยทัศน์ที่ก้าวล้ำในด้านการบริหารรายได้เชิงกลยุทธ์ขั้นสูง โดยเน้นคุณภาพ นวัตกรรม รวมทั้งเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อยกระดับการลงทุนที่มีประสิทธิภาพของบริษัทในเครือ ดังนั้นจึงสามารถสร้างความเชื่อมั่นในฐานะผู้นำด้านการบริหารโรงแรมและการจัดการสินทรัพย์ เพื่อยกระดับมาตรฐานความเป็นเลิศในอุตสาหกรรมให้สูงขึ้น

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เริ่มต้นการเดินทางครั้งสำคัญนี้” คุณซากิ บาซ กล่าวว่า “พันธกิจของเราคือการสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าและพันธมิตร ด้วยการสนับสนุนจากทีมงานที่มีความสามารถในเชิงกลยุทธ์ เรามั่นใจในความสามารถของเราในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและสร้างมาตรฐานใหม่แห่งความเป็นเลิศ” 

1. แรมแบรนดท์ โฮเทล คอเปอร์เรชั่น หนึ่งบริษัทในเครือที่มุ่งเน้นการลงทุนและบริหารจัดการโรงแรม ทั้งที่มีอยู่แล้วและกำลังพัฒนาในอนาคตอันใกล้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกโรงแรมในเครือสามารถให้บริการในระดับแนวหน้า ทั้งทางด้านการเงิน และความพึงพอใจให้กับผู้เข้าพักทุกท่าน

2. แรมแบรนดท์ ฟูดส์ เชี่ยวชาญในการบริหารและดำเนินงานธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงร้านอาหาร บาร์ และบริการจัดเลี้ยง โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์และรังสรรค์ประสบการณ์อาหารด้วยวัตถุดิบและคุณภาพสูงสุด รวมทั้งบริหารจัดการธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. แรมแบรนดท์ เซอร์วิส นำเสนอการบริการเฉพาะทาง เช่น การจัดการอสังหาริมทรัพย์ บริการเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก และการบริการที่เกี่ยวข้องกับการโรงแรมด้านอื่นๆ นอกจากนี้ยังรวมถึงธุรกิจที่โดดเด่น เช่น ซัสเกีย วอช ซึ่งเป็นบริการซักรีดระดับพรีเมียม และ เดอะ ฮิว แบรนด์ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้องพักและห้องน้ำสำหรับโรงแรมและรีสอร์ทสุดหรูหรา เพื่อสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้แก่แขกทุกท่าน ใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกถึงความผ่อนคลายในทุกสัมผัส

ไอเท็มตัวแม่! หูฟังประดับเพชรและทอง 18K ลิซ่า VS ต่างหูเพชร 30 กะรัต Taylor Swift

Alternative Textaccount_circle

รู้หรือไม่? หูฟังประดับเพชร-ทอง 18K ของ ลิซ่า ลลิษา และต่างหูเพชร 30 กะรัต ของ Taylor Swift ในงาน MTV Video Music Awards 2024 มีบางอย่างเหมือนกัน

งาน MTV Video Music Awards 2024 จบแล้ว แต่เรายังไม่จบ เพราะมีอีกหลายเรื่องที่ยังน่าสนใจซ่อนอยู่งาน เช่นเดียวหูฟังของ ลิซ่า ลลิษา ที่เธอสวมใส่ในลุคสุดท้ายของงาน ซึ่งหูฟังดังกล่าวเป็นรุ่น Ultra Open Earbuds จาก Bose ที่ออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ ความพิเศษดังกล่าวอยู่ที่แบรนด์ได้จับมือกับ Lorraine Schwartz แบรนด์จิเวลรี่ที่นำเพชรและทอง 18K มาประดับตกแต่งทั่วเคสและหูฟัง เพิ่มมูลค่าให้ยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก ทั้งนี้ไม่ได้มีการเปิดเผยราคา แต่ดูแล้วคงไม่ใช่เล่นๆ แน่นอนค่ะ

ส่วนศิลปินระดับตัวแม่คนต่อมา บอกเลยว่างาน MTV Video Music Awards 2024 เธอกวาดรางวัลทำลายสถิติบียอนเซ่เป็นที่เรียบร้อย ต้องุกขึ้นปรบมือให้กับความสามารถของเธอจริงๆ แต่นอกจากนั้นอย่างที่บอกว่าเธอกับลิซ่ามีบางอย่างเหมือนกันคือ ต่างหูที่เธอสวมใส่ในลุคเดินพรมดำมาจากแบรนด์ Lorraine Schwartz เช่นเดียวกัน

สำหรับความพิเศษคือเพชรเม็ดนี้น้ำหนักอยู่ที่ข้างละ 15 กะรัตรวมแล้วเป็น 30 กะรัตพอดี มีสีเหลืองใส มาในรูปทรงหยดน้ำที่มีชนาดเท่ากัน ผู้ใช้บัญชีอินสตาแกรมชื่อว่า @juliachafe ผู้หลงใหลในเครื่องประดับได้ออกมาแสดงความเห็นว่า ‘เราจะอธิบายคำว่า One of a kind ได้อย่างไร ไม่มีอะไรชัดเจนกว่าต่างหูคู่นี้’


ภาพ: Getty

ข้อมูล: Bose, Lorraine Schwartz และ @juliachafe

Häagen-Dazs เปิดตัวไอศกรีม ลิมิเต็ด คอลเล็กชัน Emily in Paris x Häagen-Dazs

account_circle

Häagen-Dazs (ฮาเก้น-ดาส) เปิดตัวคอลเล็กชันพิเศษ Emily in Paris x Häagen-Dazs  ที่มาพร้อมลิมิเต็ดไอเท็ม อาทิ ถ้วยไอศกรีมดีไซน์พิเศษ, เมนูเครื่องดื่ม และเค้ก ที่ได้แรงบันดาลใจจากซีรีส์ยอดนิยม Emily in Paris (เอมิลี่ในปารีส) ให้แฟน ๆ ในประเทศไทย ได้ลิ้มลองความอร่อยแล้ววันนี้ ที่ Häagen-Dazs café กว่า 18 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ และการสั่งซื้อออนไลน์

คอลเล็กชันสุดพิเศษ Emily in Paris x Häagen-Dazs  ประกอบด้วยเมนูสุดลิมิเต็ด อาทิ  มิลค์เชค Emily in Paris Milkshake ที่ผสมผสานไอศกรีมสตรอว์เบอร์รีเนื้อเนียนละมุนซึ่งทำมาจากไอศกรีมรสสตรอว์เบอร์รีแท้ ๆ เติมเต็มความอร่อยด้วยวิปครีมเข้มข้น ราดด้วยซอสราสเบอร์รี่ ประดับตกแต่งด้วยไวท์ช็อคโกแลตรูปหอไอเฟล และรูปหัวใจที่เป็นโลโก้ของซีรีส์ Emily in Paris

นอกจากนี้ยังมี เค้กไอศกรีม Mon Amour Paris Cake สีชมพูสดใสที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความสง่างาม และสไตล์สุดโดดเด่นของเอมิลี่ คูเปอร์ ตัวเอกของเรื่องตัวเค้กทำขึ้นจากไอศกรีมรสสตรอว์เบอร์รีเคลือบด้วยครีมและไวท์ช็อกโกแลตเข้มข้น ประดับตัวเค้กด้วยไวท์ช็อกโกแลต และฟองดูที่ปั้นขึ้นตามเอกลักษณ์ของ Emily in Paris ไม่ว่าจะเป็นหมวกเบเรต์ที่เป็นไอเทมติดตัวของเอมิลี่ รองเท้าส้นสูงคู่โปรด และหอไอเฟล

นอกจากนี้ยังมีของสะสมพิเศษอย่าง กระเป๋า Emily in Paris Tote Bag ให้เหล่าแฟชันนิสต้าได้สะสม เมื่อซื้อสินค้าที่ Häagen-Dazs café มูลค่าตั้งแต่ 999 บาท ขึ้นไป

สยามพารากอน BIFW 2024 ปรากฏการณ์แฟชั่นวีคอันดับหนึ่งของไทย

account_circle

Siam Paragon “Bangkok International Fashion Week 2024” (BIFW 2024) ปรากฏการณ์แฟชั่นวีคอันดับหนึ่งของไทย จัดยิ่งใหญ่พร้อมงานเสวนาแฟชั่นระดับโลกครั้งแรกในเมืองไทยโดยสยามพิวรรธน์ แสดงศักยภาพของประเทศไทยในอุตสาหกรรมแฟชั่นโลก2 – 6 ตุลาคม 2567 ณ สยามพารากอน

สยามพารากอน ตอกย้ำความเป็น ‘World Class Fashion Destination’ ศูนย์กลางแฟชั่น ระดับโลก พร้อมด้วย สยามเซ็นเตอร์ และ สยามดิสคัฟเวอรี่ ในฐานะผู้นำอันดับหนึ่งของเดสติเนชั่นในประเทศไทย ที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและ Ecosystem ของแฟชั่นไทยมาอย่างต่อเนื่อง ผนึกกำลังประกาศศักยภาพประเทศไทย ในฐานะเมืองแห่งแฟชั่นที่น่าจับตาของภูมิภาคเอเชีย กับที่สุดแห่งปรากฏการณ์แฟชั่นและเป็นสุดยอดแพลตฟอร์มแห่งโอกาส จัดงาน “Siam Paragon Bangkok International Fashion Week 2024” หรือ BIFW2024 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 ตุลาคม 2567 นี้ ณ พาร์ค พารากอน สยามพารากอน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Envision the Future”ร่วมขับเคลื่อนแฟชั่นไทยสู่มิติแห่งอนาคต

ตื่นตากับไฮไลท์สำคัญของ BIFW2024 โดย สยามพารากอน รวมพลัง ‘Co-Creation’ กับเหล่าดีไซเนอร์ไทย    ชั้นนำและดีไซเนอร์ระดับแนวหน้าแห่งเอเชีย พร้อมด้วยเหล่าพันธมิตรใน Ecosystem จากหลากหลายอุตสาหกรรม นำเสนอ 15 แฟชั่นโชว์อวดพลังสร้างสรรค์

ด้านสยามเซ็นเตอร์เปิดเวทีให้ดีไซเนอร์รุ่นใหม่และนิสิตนักศึกษาด้านแฟชั่นทั่วประเทศร่วมนำเสนอฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ สยามดิสคัฟเวอรี่ชวนสนุกกับกิจกรรมแฟชั่นเอ็กซ์เพอริเม้นท์จากแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ

พลาดไม่ได้กับปรากฏการณ์สุดพิเศษตอกย้ำการเป็นโกลบอลเดสติเนชั่นระดับผู้นำ สยามพิวรรธน์ จัดสุดยอดงานเสวนาด้านแฟชั่นครั้งสำคัญ ในงาน WWD x SIAM PIWAT  GLOBAL FASHION SPOTLIGHT ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รวบรวมบุคคลสำคัญ ผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่นและลักซ์ซูรี่แบรนด์ของโลกมาให้ข้อมูลและแชร์เทรนด์อินไซด์การเติบโตของอุตสาหกรรมแฟชั่นและโอกาสของประเทศไทยในเวทีโลก

ทั้งนี้การจัดงาน BIFW2024 ยังเป็นการเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญจากพันธมิตรจากหลากหลายอุตสาหกรรมใน Ecosystem อันแข็งแกร่งของสยามพิวรรธน์ จากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TAT), ธนาคารกสิกรไทย, บริษัทเมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย จำกัด,  บริษัท พีทีที  โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC), ซิติเซ่น (CITIZEN), แมค คอสเมติกส์ ไทยแลนด์ (M.A.C Cosmetics), เอปสัน (Epson), ชีวาส เดอะ เบลน (Chivas The Blend), แอปโซลูท อิทส์ อิน อาวเวอร์ สปิริต (Absolut It’s in our Spirit), เนสวิต้า (Nesvita), ผลิตภัณฑ์เส้นผม พอล มิทเชล (Paul Mitchell), เคทีซีซี (Korea Thailand Communication Center) และ โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯ (Chatrium Grand Bangkok Hotel)

Siam Paragon Bangkok International Fashion Week 2024 ที่สุดแห่งปรากฏการณ์แฟชั่น กับ 15 แฟชั่นโชว์จากดีไซเนอร์ไทยชั้นนำและดีไซเนอร์ระดับแนวหน้าแห่งเอเชีย สยามพารากอนเตรียมนำเสนอสุดยอดประสบการณ์เหนือระดับ บนแกรนด์รันเวย์ BIFW2024 เพื่อร่วมฉลองโอกาสครบรอบ 19 ปี สยามพารากอน พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยอย่างต่อเนื่อง กับการรวมพลัง ‘Co-Creation’ กับ เหล่าดีไซเนอร์ไทยชั้นนำและดีไซเนอร์ระดับแนวหน้าแห่งเอเชีย พร้อมด้วยเหล่าพันธมิตรใน Ecosystem จากหลากหลายอุตสาหกรรม

นำเสนอ 15 แฟชั่นโชว์อวดพลังสร้างสรรค์ กับผลงานคอลเลคชั่นล่าสุดจากแบรนด์ไทยระดับแนวหน้า ได้แก่ Absolute Siam x Dry Clean Only x AJOBYAJO, ASAVA, FLYNOW, 27FRIDAY, ISSUE presented by GC, Kloset, Leisure Projects presented by CITIZEN, MOO Bangkok, NAGARA, PAINKILLER Atelier, POEM presented by MERZ AESTHETICS, TandT presented by TAT และ Vickteerut พร้อมการต้อนรับดีไซเนอร์ระดับตำนานแห่งเกาหลี LIE SANG BONG (ลี ซาง บอง)  และ FRIENDS OF SHANGHAI TANG โดย Joe Li เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี ของ SHANGHAI TANG  แบรนด์แฟชั่นชั้นนำจากฮ่องกง  โดย BIFW2024 จะจัดขึ้นในวันที่ 2-6 ตุลาคม 2567 ณ พาร์ค พารากอน สยามพารากอน  

นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับคนรักแฟชั่นโดยเฉพาะ กับแคมเปญ ‘Siam Paragon World Fashion Privilege’  พิเศษสำหรับผู้ที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทย  ณ ร้านค้าแฟชั่นภายในสยามพารากอนที่ร่วมรายการ นอกจากจะได้รับ SIAM GIFT CARD  จากทางสยามพารากอนแล้ว ยังจะได้รับ SIAM GIFT CARD เพิ่มจากทางธนาคารฯ เมื่อช้อปครบตามที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ 1-11 ตุลาคม 2567 นี้

โดยภายในงานแถลงข่าวการจัดงาน   BIFW2024   มีเหล่าคนดังมาร่วมงานมากมาย อาทิ  ได้แก่  แต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์,  ภีม – ธนัช ลิ้มปัญญากุล, อเล็กซ์ – อเล็กซานเดอร์ บัคแลนด์  และยังมี เน – ณรัณ  วิกัยรุ่งโรจน์,  ลาเต้ – ธนรรถชล จันทร์เเก้วอมร,  เติ้ล มติมันท์  ศรีบุญเรือง และ  คิน – ธนชัย ศักดิ์ชัยเจริญกุล ร่วมเดินแบบอีกด้วย  

เตรียมพบกับที่สุดแห่งปรากฏการณ์แฟชั่น Siam Paragon Bangkok International Fashion Week 2024 ระหว่างวันที่ 2-6 ตุลาคมนี้ ที่พาร์ค พารากอน สยามพารากอน และ งาน WWD x SIAM PIWAT  GLOBAL FASHION SPOTLIGHT วันที่ 4 ตุลาคม 2567  ติดตามความเคลื่อนไหวและเกาะติดรันเวย์รับชม Live แฟชั่นโชว์ ได้ทางเว็บไซต์, Facebook, Instagram, Youtube  Siam Paragon หรือ OneSiam


รีไฟแนนซ์บ้าน ลดดอกเบี้ยบ้านให้ถูกลง สร้างสภาพคล่องที่ดีขึ้น

account_circle

ใครที่มีบ้านแล้วกำลังผ่อนบ้านอยู่ หนึ่งในปัญหาที่ต้องเผชิญคืออัตราดอกเบี้ยบ้านที่ค่อนข้างสูง ซึ่งหนึ่งในทางออกที่หลายคนเลือกใช้คือการรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อลดภาระผ่อนต่อเดือนให้ถูกลง รวมถึงเพิ่มโอกาสให้สามารถปิดหนี้บ้านให้เร็วขึ้น แต่หลายคนอาจสงสัยว่าการรีไฟแนนซ์บ้าน มีประโยชน์ยังไงบ้าง และถ้าอยากรีไฟแนนซ์ต้องทำยังไง? สามารถหาคำตอบได้ที่บทความนี้

รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร ช่วยลดค่างวดบ้านได้จริงเหรอ?

รีไฟแนนซ์บ้าน คือ

การรีไฟแนนซ์บ้าน คือ การยื่นเรื่องเพื่อขอกู้สินเชื่อบ้านกับธนาคารแห่งใหม่ โดยให้ธนาคารใหม่ชำระหนี้บ้านกับธนาคารเดิม ส่วนเหตุผลที่ควรรีไฟแนนซ์นั่นก็เนื่องจากสินเชื่อบ้านนั้น เมื่อผ่อนไปประมาณ 3 ปีขึ้นไป โดยส่วนใหญ่เมื่อขึ้นปีที่ 4 ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยสูงขึ้น ทางออกคือการรีไฟแนนซ์บ้านที่สถาบันทางการเงินแห่งใหม่จะให้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน รวมถึงช่วยลดระยะเวลาการผ่อนบ้านให้สั้นลงอีกด้วย

รีไฟแนนซ์บ้านช่วยอะไรได้บ้าง?

การรีไฟแนนซ์บ้าน

เกริ่นเล็กน้อย

หากพูดถึงตัวช่วยในการลดภาระการผ่อนบ้าน คือการรีไฟแนนซ์บ้าน ที่เป็นทางเลือกของคนผ่อนบ้านที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งข้อดีของการรีไฟแนนซ์ที่ช่วยคนผ่อนบ้าน มีดังนี้

ลดดอกเบี้ยบ้านที่ต้องจ่ายรายเดือน

เชื่อว่าปัญหาหนักใจของใครหลาย ๆ คนที่กำลังผ่อนบ้านมาระยะหนึ่งแล้ว คือดอกเบี้ยบ้านที่ต้องชำระในแต่ละเดือนที่ค่อนข้างสูง เช่น ผ่อนบ้านกับธนาคารมา 4 ปี ซึ่งหมดระยะโปรโมชัน ผู้กู้จะต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ย 5% ส่งผลให้หลายคนอาจต้องจ่ายดอกเบี้ยมากกว่าค่าบ้านรายเดือนด้วยซ้ำ

ดังนั้นการรีไฟแนนซ์บ้าน จึงเป็นทางเลือกของคนที่ต้องการลดภาระอัตราดอกเบี้ยสูง เพราะการรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่ ผู้กู้จะได้โปรโมชันจากทางธนาคารในการลดดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน เช่น อัตราดอกเบี้ย 3% ในช่วง 3 ปีแรก เป็นต้น ซึ่งเป็นการลดภาระการผ่อนรายเดือนของผู้กู้

ลดระยะเวลาในการผ่อน

อย่างที่กล่าวไปในข้อก่อนหน้า ว่าการรีไฟแนนซ์บ้าน จะช่วยลดอัตราดอกเบี้ยบ้านให้ถูกลง ดังนั้นเมื่อดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านช่วยลดภาระด้านดอกเบี้ย ก็ช่วยให้ผู้กู้ลดระยะเวลาในการผ่อน ทำให้มีโอกาสปิดหนี้บ้านได้เร็วมากยิ่งขึ้น

เพิ่มวงเงินสินเชื่อ

อีกหนึ่งประโยชน์ของการรีไฟแนนซ์บ้านคือการเพิ่มวงเงินของสินเชื่อ เพราะการรีไฟแนนซ์บ้าน ผู้กู้จะได้รับสิทธิ์ในการกู้เงินเพิ่มเติมจากมูลค่าบ้าน ซึ่งจะช่วยให้มีเงินส่วนต่างสำหรับให้ผู้กู้ได้นำไปจับจ่ายใช้สอยอื่น ๆ เช่น ตกแต่งบ้าน ขยายบ้าน เป็นต้น นอกจากนี้การขอเพิ่มวงเงินสินเชื่อจากการรีไฟแนนซ์บ้านผู้กู้ยังจะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคล ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินมากยิ่งขึ้น

อยากรีไฟแนนซ์บ้านต้องทำยังไง?

สำหรับใครที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน สามารถดำเนินดำเนินการด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้

1.ตรวจสอบสัญญากู้บ้านของตัวเอง

เพราะในสัญญากู้บ้านของแต่ละธนาคารนั้น จะมีข้อกำหนดไว้ว่า ผู้กู้จะสามารถดำเนินการรีไฟแนนซ์ไปธนาคารอื่นได้ เมื่อครบกำหนดระยะเวลา ซึ่งส่วนใหญ่จะกำหนดไว้ที่ 3 ปี

2.เลือกธนาคารที่เหมาะสม

แต่ละธนาคารจะมีการกำหนดโปรโมชันเพื่อดึงดูดให้คนมากู้สินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็น อ้ตราดอกเบี้ย ระยะเวลาการผ่อนชำระ เป็นต้น ซึ่งผู้ที่ต้องการจะขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ควรเปรียบเทียบโปรโมชันแต่ละธนาคารให้ดีว่าธนาคารไหนที่เหมาะสมต่อกำลังการผ่อนของตนเองที่สุด

3.เตรียมเอกสารการรีไฟแนนซ์บ้าน

โดยเอกสารสำหรับใช้ในการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านแบ่งออกเป็นหลัก ๆ ดังนี้

1.สำเนาบัตรประชาชน

2.สำเนาทะเบียนบ้าน

3.สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 

4.รายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 

5.โฉนดที่ดิน

6.สัญญากู้ธนาคารเดิม

4.ยื่นเรื่องกับธนาคาร

หลังจากที่เตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว ผู้กู้สามารถติดต่อกับธนาคารใหม่เพื่อยื่นเรื่องขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน โดยกรณีที่เอกสารผ่านเป็นที่เรียบร้อย ทางธนารคารจะส่งเจ้าหน้าที่ไปเพื่อประเมินราคาบ้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่จะใช้เวลาประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ในการดำเนินการเพื่อทราบผมสินเชื่อ

5.นัดวันเพื่อไถ่ถอนหนี้จากธนาคารเก่า 

เมื่อเอกสารครบถูกต้องเป็นที่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ธนาคารจะให้ผู้กู้สอบถามหนี้ที่คงเหลือ เพื่อที่ธนาคารใหม่จะได้สามารถนัดกับธนาคารเก่าเพื่อดำเนินเรื่องชำระหนี้ที่ผู้กู้ค้างเอาไว้ และดำเนินการโอนหนี้ที่เหลือให้กับธนาคารใหม่

6.ทำสัญญาและจำนองที่ดิน

ทางธนาคารใหม่จะดำเนินการส่งเจ้าหน้าที่ถือสัญญาไปให้เซ็น ณ กรมที่ดิน พร้อมทำสัญญาจดจำนองภายในวันเดียวกัน เมื่อดำเนินการในส่วนของขั้นตอนนี้เสร็จสิ้นก็ถือว่าสิ้นสุดการรีไฟแนนซ์บ้าน

ตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยบ้านเมื่อรีไฟแนนซ์

สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน

หากใครที่ลังเลการรีไฟแนนซ์บ้านคุ้มกว่าเดิมไหม สามารถเปรียบเทียบได้ง่าย ๆ จากคำนวณดอกเบี้ยบ้านหลังจากที่ขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์

ตัวอย่าง

ผู้กู้ผ่อนสินเชื่อบ้านกับธนาคารเดิมวงเงิน 2,000,000 บาท ผ่อนต่อเดือนอยู่ที่ 10,000 บาท เมื่อผ่อนกับธนาคารเดิมจนเข้าสู่ปีที่ 4 อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 5% ซึ่งจะเสียเป็นค่าดอกเบี้ยประมาณ 8,200 บาท 

หากผู้กู้ดำเนินการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ธนาคารใหม่ ด้วยวงเงินเท่าเดิม ธนาคารใหม่จะให้โปรโมชันในช่วง 3 ปีแรก ด้วยอัตราดอกเบี้ย 2.8% ทำให้ค่าดอกเบี้ยของผู้กู้จะเหลือเพียงเดือนละประมาณ 4,500 บาทเท่านั้น

รีไฟแนนซ์บ้าน ทางเลือกสำหรับอยากปิดหนี้บ้านเร็ว จ่ายงวดบ้านถูกขึ้น!

จะเห็นได้ว่าการรีไฟแนนซ์บ้าน เป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้คนที่ผ่อนสินเชื่อบ้าน เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าดอกเบี้ยบ้านนั้นมีอัตราที่สูง บางเดือนผู้กู้อาจเสียเงินไปกับดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้นด้วยซ้ำ ซึ่งการรีไฟแนนซ์บ้านจะสามารถลดภาระหนี้แต่ละเดือน ช่วยเพิ่มความคล่องตัวทางการเงินด้วยการจ่ายงวดบ้านต่อเดือนที่ถูกลง และยังช่วยให้สามารถปิดหนี้บ้านได้เร็วยิ่งขึ้น 

สั่งตัดพิเศษ เผยดีเทล 3 ชุดในงาน MTV VMAs 2024 ของ ลิซ่า ลลิษา

Alternative Textaccount_circle

เป็นที่พูดถึงทุกการปรากฏตัวบนโลกโซเชียล ชวนส่อง 3 คอสตูมของ ‘ลิซ่า ลลิษา‘ ในงาน MTV VMAs 2024

โซเชียลไฟลุกมาตั้งแต่ช่วงเช้า (12 สิงหาคม 2567) เมื่อศิลปินสุดฮ็อตอย่าง ลิซ่า – ลลิษา มโนบาล ปรากฏตัวในงานประกาศรางวัลของวงการดนตรีอย่าง MTV Video Music Awards 2024 ซึ่งในปีนี้เธอมีรายชื่อเข้าชิงถึง 4 รายการ ได้แก่ Best K-pop , Best Editing , Best Art Direction และ Best Choreography โดยซีนแรกของเธอเริ่มต้นด้วยการเดินพรมดำกับคอสตูมที่ใครเห็นก็ต้องยกนิ้วโป้งให้สองมือ เพราะเป็นชุดที่ถูกต้อง อีกทั้งยังแปลกตากว่าชุดที่เราคุ้นเคยในยุคก่อนหน้า

สำหรับคอสตูมชุดแรกนี้มาจากแบรนด์ดีไซน์เก๋อย่าง MUGLER ที่นำกระโปรงจากคอลเล็คชั่น Spring/Summer 2025 มาตัดเย็บคู่กับคอร์เซทที่ทำขึ้นมาให้เพื่อลิซ่าโดยเฉพาะ อีกทั้งยังสร้างความโดดเด่นด้วยผ้าคลุมผมที่กำลังเป็นเทรนด์อยู่ในตอนนี้ เรียกว่าเป็นลุคนางพญาเลยก็ว่าได้ค่ะ

ต่อมาลุคที่ 2 นั่นคือบนสเตจที่ลิซ่าได้รับเชิญให้ขึ้นแสดงเพลง Rock Star และ New Woman เห็นชื่อเพลงแบบนี้ โจทย์เดียวที่ต้องทำคือเป็นร็อคสตรา์ตัวจริง ทำให้เหล่าสไตลิสต์ทำการบ้านอย่างหนัก เลือกแบรนด์ที่เหมาะสมในการพรีเซ็นต์ลุคบนสเตจในวันนี้ จนสุดท้ายมาจบที่ Chrome Hearts หนึ่งแบรนด์ระดับโลกที่ขึ้นชื่อเรื่องสไตล์พังก์ร็อค ตั้งแต่ฟอนต์หนังสือและดีไซน์ เหมือนชุดที่ลิซ่าสวมใส่ก็ประกอบด้วยหนังเป็นวัสดุหลัก และหมุดสีเงิน แน่นอนว่าชุดนี้ตัดเพื่องานนี้โดยเฉพาะเช่นกัน

สุดท้ายขาดแบรนด์นี้ไปไม่ได้ Louis Vuitton ที่งานนี้ก็ลงทุนออกแบบและตัดเย็บเดรสปาดไหล่ผ้าชีฟองให้ลิซ่าเช่นกัน โดยได้ซ่อนดีเทลความระบิบระยับไว้ในบอดี้สูทข้างในที่รอเปล่งประกายเมื่อกระทบแสงไฟจากเวที สำหรับงานนี้ต้องลุกขึ้นปรบมือดังๆ ให้เจ้าลิซ่า เพราะเธอสามารถคว้ารางวัล Best K-Pop มาได้ 2 ปีติดต่อกันแล้วค่ะ!!


ภาพ: Getty

'คิม ยูจอง' แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของ Bobbi Brown ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค

‘คิม ยูจอง’ แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของ Bobbi Brown ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค

Alternative Textaccount_circle
'คิม ยูจอง' แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของ Bobbi Brown ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
'คิม ยูจอง' แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ของ Bobbi Brown ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค

สวยมงลง! Bobbi Brown แต่งตั้ง ‘คิม ยูจอง’ (Kim You Jung) นางเอกชาวเกาหลีใต้ ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค คิม จูยอง เป็นหนึ่งในหญิงสาวที่เชื่อในความสวยแบบที่ตัวเองเป็น

”ความงามที่แท้จริงสำหรับฉันไม่ซับซ้อน แค่ดูดีในแบบฉบับของตัวเอง ไม่ว่าจะตอนไหน ที่ไหน และโอกาสไหน ฉันเชื่อว่าความงามพื้นฐานจากภายใน และด้วยเมคอัพที่ใช่ จะสามารถขับเน้นจุดเด่นและช่วยให้เราดูดีขึ้นโดยไม่ยุ่งยาก“

ส่วนไอเท็มที่เธอบอกว่ากำลังอินที่สุด ”รองพื้นที่ฉันชอบที่สุดตอนนี้ ให้ผลลัพธ์ที่เบาสบายจนรู้สึกเหมือนไม่ได้ทารองพื้น แต่ยังคงให้ระดับความปกปิดพอดี และยังช่วยให้ผิวดูดียิ่งขึ้นในกล้องตั้งแต่เช้าจรดเย็น“ WEIGHTLESS SKIN FOUNDATION รองพื้นที่หลอมรวมความชุ่มชื้นและการปกปิดยาวนาน ผิวสวยด้วยเทคโยโลยี Smart Skin Balancing ช่วยให้เนื้อบางเบา แต่คุมมันโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง


ฟ่านปิงปิง (Fan Bingbing)

ชีวิตหลังผ่านมรสุม ฟ่านปิงปิง (Fan Bingbing) ย้ายมาอาศัยอยู่ในฮ่องกง

Alternative Textaccount_circle
ฟ่านปิงปิง (Fan Bingbing)
ฟ่านปิงปิง (Fan Bingbing)

แม้จะเป็นเวลานานกว่า 5 ปี หลังพ้นข้อกล่าวหาเรื่องภาษี แต่ชีวิตซูเปอร์สตาร์หญิงอันดับหนึ่งของจีน ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อเธอยังคงไม่สามารถปรากฏตัวได้ตามสื่อหลักของจีน ไม่มีงานแสดง รวมถึงธุรกิจบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซก็ยังสะดุด ทำให้เธอจึงต้องมองหาโอกาสใหม่ๆ นอกประเทศ ดั่งเช่นที่ผ่านมาเธอมักจะปรากฏตัวในงานแฟชั่นต่างประเทศ นั่นจึงจะยังทำให้เธอยังคงมีพื้นที่ยืนในสื่อ

ฟ่านปิงปิง (Fan Bingbing)

ล่าสุดดูเหมือนว่า ฟ่านปิงปิง จะหันหลังให้วงการบันเทิงที่ประเทศจีนอย่างถาวร เพราะล่าสุดเธอได้ย้ายจากปักกิ่งมาอาศัยอยู่ในฮ่องกง หลังจากได้รับการยืนยันสถานะผู้พำนักอาศัยและกำลังเช่าอสังหาริมทรัพย์

รายงานระบุว่าที่อยู่อาศัยในฮ่องกงของ ฟ่านปิงปิง อยู่บนถนนบาร์เกอร์ ในย่านเดอะพีค ซึ่งมีทัศนียภาพอันยอดเยี่ยม สามารถมองเห็นทิวทัศน์ทั้งหมดแบบกว้างสุดสายตา โดยบริเวณนี้ยังที่ย่านที่อยู่อาศัยของบรรดาผู้มีฐานะร่ำรวย รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น ลี กาชิง และแจ็ค หม่า

สำหรับบ้านใหม่ของฟ่านปิงปิงนั้นมีพื้นที่ 5,000 ตารางฟุต 5 ห้องนอน 4 ห้องอาบน้ำ รวมถึงพื้นที่สวนเกือบ 1,000 ตารางฟุตและระเบียงมากกว่า 1,000 ตารางฟุต

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าฟ่านปิงปิงได้เช่าที่นี่ในราคา 650,000 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อเดือน หรือประมาณ ประมาณ 2.9 ล้านบาท

มิลลิ & นนน กรภัทร์

สุดปัง!! “มิลลิ & นนน กรภัทร์” บินลัดฟ้าชมแฟชั่นโชว์ “COACH Spring 2025”

account_circle
มิลลิ & นนน กรภัทร์
มิลลิ & นนน กรภัทร์

สุดปัง!! “มิลลิ & นนน กรภัทร์” บินลัดฟ้าไปนครนิวยอร์ก! ชมแฟชั่นโชว์ “COACH” เปิดตัวคอลเลคชั่น “Spring 2025” บนรันเวย์ที่ High Line

แร็ปเปอร์สาวสุดฮ็อต “มิลลิ ดนุภา” ควงนักแสดงหนุ่มหล่อ “นนน กรภัทร์” บินลัดฟ้าไปมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในฐานะแขกคนสำคัญเพื่อร่วมชมแฟชั่นโชว์ เปิดตัวคอลเลคชั่น “Spring 2025” ด้วยรันเวย์บน High Line ส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะยกระดับที่อยู่ติดกับสำนักงานใหญ่ระดับโกลบอลของ “Coach”

ทั้งสองคนสวมใส่โททัลลุคจาก Coach “นนน” มาในลุคหล่อเท่ ส่วน “มิลลิ” สวยสดใส ซึ่งได้รับเสียงกรี๊ดจากแฟนๆต่างชาติที่มารอเจอศิลปินคนโปรดหน้างาน นอกจากนี้ยังมีโมเม้นต์ที่น่าประทับใจเมื่อสองแรปเปอร์สุดซ่าส์ของไทยและเกาหลีใต้ “มิลลิ และ อียองจี” ร่วมเฟรมกันด้วย

แฟชั่นโชว์คอลเล็คชั่นนี้ดึงเอาความคลาสสิกของ Coach มาปรับมีความทันสมัย ที่โดดเด่นคือการเปิดตัว Chain Tabby 26 ซึ่งเป็นกระเป๋าไอคอนิครุ่น Tabby ของ Coach มีให้เลือกหลายสี รูปทรงสะดุดตา เก๋มาก โดยเฉพาะ ทรงหัวใจ , ดาว , ไดโนเสาร์ ที่โดนใจ “มิลลิ & นนน” สุดๆ ตะโกนเรียกชื่อบนรันเวย์เลยทีเดียว!!!


ย้อนเวลาสู่โรงละครบัลเลต์กับ ใหม่-ดาวิกา และเสน่ห์อันน่าค้นหาในฐานะ Face of Brand คนแรกของ GENTLEWOMAN

account_circle

GENTLEWOMAN แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของเมืองไทย ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญด้วยการเปิดตัว “ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่” นักแสดงสาวมากความสามารถแนวหน้าของประเทศไทยให้เป็น Face of Brand คนแรกของแบรนด์

การจับคู่กันระหว่าง GENTLEWOMAN และ ใหม่-ดาวิกา นั้นถือเป็นการมาพบกันของสองคาแรคเตอร์ที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจและความสง่างาม ซึ่งสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ต้องการสื่อถึงผู้หญิงยุคใหม่ที่สามารถเป็นทั้งคนที่อ่อนหวานและเข้มแข็งไปพร้อม ๆ กัน

Ethereal Temptation คอลเลกชันที่จะพาเราไปสัมผัสประสบการณ์อันน่าหลงใหลกับการเดินทางย้อนเวลาไปสู่โรงละครบัลเลต์ในยุครีเจนซี ยุคสมัยที่เต็มไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรมอันหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของแฟชั่น ซึ่งมีอิทธิพลต่อการออกแบบเสื้อผ้าในปัจจุบันอย่างมาก ซึ่ง GENTLEWOMAN และ ใหม่-ดาวิกา ได้หยิบเอาเอกลักษณ์และความโรแมนติกของยุครีเจนซีมาตีความใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันได้อย่างลงตัว

คอลเลกชันนี้ได้รวบรวมเอาความงดงามของยุครีเจนซีมาตีความ ผ่านเสื้อผ้าสไตล์ Sensual Feminine ที่เน้นความเป็นผู้หญิง โชว์สรีระที่งดงามอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเดรสที่เน้นช่วงบน ไอเทมอื่น ๆ ที่ตกแต่งด้วยลูกไม้ ริบบิ้น และงานปักอันประณีต ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของยุครีเจนซี การนำรายละเอียดเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ ทำให้เกิดเป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

คอลเลกชัน Ethereal Temptation พร้อมให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าได้สัมผัสบรรยากาศโรงละครบัลเลต์แล้ว ที่ Instagram @gentlewomanstore และช้อปคอลเลกชันได้ในวันศุกร์ที่ 6 กันยายน ทางเว็บไซต์ https://www.gentlewomanonline.com หรือ GENTLEWOMAN store ทุกสาขา

ก้าวเข้าสู่โลกศิลปะสุดล้ำระดับโลก Modern Guru and the Path to Artificial Happiness เริ่ม 7 ก.ย. 2567 – 5 ม.ค. 2568

account_circle

Japan Anime Movie Thailand ภายใต้การดูแลของ บริษัท ไฟว์สตาร์ เอเจนซี่ จำกัด ร่วมกับ บริษัท ดรีม เอกซ์เพรส (เดกซ์) จำกัด และ ENESS จากประเทศออสเตรเลีย ร่วมสร้างประสบการณ์นิทรรศการศิลปะผสมผสานเทคโนโลยีโต้ตอบกับมนุษย์ครั้งแรกในเมืองไทย พร้อมเปิดพื้นที่ให้คนไทยทุกเพศทุกวัยที่ชื่นชอบผลงานศิลปะ เปิดประสบการณ์ใหม่ไปกับ ‘Modern Guru’ พบกับความตื่นตาตื่นใจและสัมผัสงานศิลปะที่สามารถโต้ตอบกับความรู้สึกของคุณเองได้ครั้งแรกในประเทศไทย

จากผลงานของจิตรกรชาวออสเตรเรียอย่าง ‘Modern Guru and the Path to Artificial Happiness’ นิทรรศการศิลปะสุดล้ำระดับโลกที่เชื่อมต่อระหว่างโลกเสมือนและโลกแห่งความเป็นจริงอย่างลงตัว

ENESS ชื่อดังจากประเทศออสเตรเลียซึ่งได้รับรางวัลมากมายจากทั่วรังสรรค์ผลงานนิทรรศการสุดตระการตาในชื่อ ‘Modern Guru and the Path to Artificial Happiness’ การันตรีด้วยรางวัลชนะเลิศ LIT Lighting Design Award รางวัลการออกแบบแสงสว่างสาขาการจัดแสดงแสงสว่างเชิงโต้ตอบ และ ศิลปะแห่งแสง ผ่านฝีมือทีมงานระดับโลก ผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ในเชิงโต้ตอบกับมนุษย์ก่อกำเนิดเป็นเรื่องราวผ่านแสงและเงา เสียงดนตรีสุดจรรโลงใจอย่างลงตัว สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทุกเพศทุกวัยในนานาประเทศ เตรียมจัดแสดง ณ ไอคอนสยาม ด้วยพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร

ร่วมสัมผัสประสบการณ์นิทรรศการศิลปะในรูปแบบ Interactive และ Immersiveจากศิลปินระดับโลกพร้อมเปิดให้ประตูโลกแห่งแสงและเงาที่สร้างสรรค์ไปพร้อมกับเทคโนโลยี AI ที่ผนวกรวมเข้าด้วยกัน สร้างสรรค์เป็นงานศิลปะเหนือจิตนาการครั้งแรกในประเทศไทย ออกผจญภัยปลดปล่อยจินตนาการและจิตใจไปกับเหล่าคาแรคเตอร์สุดอาร์ต Whispering Mountains ภูเขาแห่งเสียงกระซิบ , Forest Dancer นักเต้นสาวแห่งพงไพร และ Modern Guru ปราชญ์ผู้หยั่งรู้ทุกสรรพสิ่ง

ไฮไลท์ของนิทรรศการ

  • นิทรรศการศิลปะที่จะทำให้คุณสัมผัสประสบการณ์ศิลปะผสมผสานเทคโนโลยีเชิงโต้ตอบผ่านระบบปฏิบัติการ AI สุดล้ำ แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
  • พบกับ 4 คาแรคเตอร์สุดอาร์ตและฮีลใจ
    • The Sun God บันไดสู่เทพเจ้า เส้นทางแห่งแสงดึงดูดให้ผู้คนก้าวเดินไปบนจุดสูงสุดและสัมผัสแสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์ ดั่งอิคารัส ผู้ท้าทายเทพอะพอลโล
    • Whispering Mountains ภูเขาแห่งเสียงกระซิบ สายตาของพวกเขาจะจับจ้องไปที่ผู้ชมที่มาสัมผัสตัวและโต้ตอบผู้คนผ่านสัมผัส การโอบกอด ภายในภูเขาแห่งความสุข
    • The Forest Dancer นักเต้นแห่งพงไพร มีความสูงถึง 6 เมตร ตั้งอยู่ใจกลางนิทรรศการ จิตวิญญาณแห่งความสื่อซื่อสัตย์ สัญลักษณ์แห่งอิสระและความคิดสร้างสรรค์ กระโปรงจากแสงวิเศษที่เต็มไปด้วยความสุข ก่อตัวเป็นหลังคาขนาดใหญ่ปกป้องพื่อนๆ ของเธอในสวน ผู้ชมจะได้รับการต้อนรับและพักผ่อนร่างกายและจิตใจภายใต้การดูแลของเธอ
    • Modern Guru ผู้หยั่งรู้ทุกสรรพสิ่ง วัตถุใสทรงวงรี มีตาดิจิทัลขนาดใหญ่ทั้งหมด 4  ตา บริเวณปากของ Modern Guru จะปรากฏข้อความคำทำนายวิเศษ เกี่ยวกับความจริงของชีวิต สรรสร้างโดย AI คำทำนายใหม่ๆจะถูกส่งเมื่อผู้ชมถ่ายรูป Modern Guru
  • ดื่มดำไปกับแสงไฟและเสียงดนตรีการันตรีด้วย รางวัลชนะเลิศ LIT Lighting Design Award รางวัลการออกแบบแสงสว่างสาขาการจัดแสดงแสงสว่างเชิงโต้ตอบ และ ศิลปะแห่งแสง
  • โซนสินค้าที่ระลึกคอลเลคชั่นพิเศษจากคาแรคเตอร์ในงาน

The Sun God บันไดสู่เทพเจ้า

เส้นทางแห่งแสงดึงดูดให้ผู้คนก้าวเดินไปบนจุดสูงสุดและสัมผัสแสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์ ดั่งอิคารัส ผู้ท้าทายเทพอะพอลโล

Whispering Mountains

ภูเขาแห่งเสียงกระซิบ สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่หลับใหลและตื่นขึ้นเมื่อมีผู้เข้ามาเยือน

The Forest Dancer

นักเต้นสาวแห่งพงไพร สัญลักษณ์แห่งอิสระและความคิดสร้างสรรค์ ตอบรับผู้ชมด้วยเสียงกระดิ่งและแสงสว่าง เฉลิมฉลองความสุขไม่รู้จบไปด้วยกันในใจกลางพงไพร

Modern Guru

ผู้หยั่งรู้ทุกสรรพสิ่ง เมื่อผู้ชมถ่ายภาพ Modern Guru เขาจะกล่าววาจาเกี่ยวกับความสุขให้กับผู้ที่แสวงหาและดื่มด่ำไปกับช่วงเวลานั้น

รายละเอียดบัตรเข้าชมนิทรรศการ Early Bird ราคา 350 บาท (จากปกติ 400 บาท) และแพ็คเกจพรีเมี่ยมพร้อมของที่ระลึกในราคา 600 บาท (จากปกติ 700 บาท) พร้อมโซนจำหน่ายสินค้าที่ระลึกสำหรับผู้ชื่นชอบผลงานศิลปะและกิจกรรมเเอ็กซ์คลูซีฟสุดเซอร์ไพรส์ ดื่มด่ำไปกับนิทรรศการแห่งแสงเหนือจินตนาการและสัมผัสงานศิลปะเชิงโต้ตอบสุดล้ำยุคสุดฮีลใจครั้งแรกในประเทศไทย กับประสบการณ์ที่ทำให้คุณอินไปกับ ‘Modern GURU’ พร้อมเปิดให้เข้าชม 7 กันยายน 2567 – 5 มกราคม 2568 เวลาจัดแสดง 11:00 น. – 20:00 น. จัดเต็มใจกลางแลนด์มาร์ค ณ ไอคอนสยาม Attraction Hall ชั้น 6  เปิดจำหน่ายบัตร Early Bird ราคาพิเศษตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม – 6 กันยายน 2567 ทาง Ticketmelon : https://ticketmelon.com

Modern Guru and the Path to Artificial Happiness

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Page Facebook :

keyboard_arrow_up