เอ็ด ชีแรน

พ่อพระในคราบนักร้อง เอ็ด ชีแรน สุขใจที่ให้และแบ่งปัน มีงานบุญที่ไหนขอให้เรียก

account_circle
เอ็ด ชีแรน
เอ็ด ชีแรน

เอ็ด ชีแรน หนึ่งในนักร้องที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งยุค มีเพลงฮิต ที่ทำรายได้มหาศาล แต่สิ่งหนึ่งที่แฟน ๆรู้กันดีคือ ความใจบุญ ของผู้ชายคนนี้ที่ทั้งช่วยเหลือคนใกล้ตัว บริจาคเงิน และเข้า ร่วมโปรเจ็กต์การกุศลต่างๆ เพื่อหารายได้ช่วยเหลือกลุ่มคน ที่ลำบากหลากหลายโครงการ เรียกว่ามีงานบุญที่ไหนขอให้เรียกเอ็ดยินดีไปช่วย

เอ็ด ชีแรน

พ่อพระในคราบนักร้อง เอ็ด ชีแรน สุขใจที่ให้และแบ่งปัน มีงานบุญที่ไหนขอให้เรียก

ความใจบุญของเอ็ดเริ่มมาตั้งแต่การร้องเพลงทางโทรศัพท์ ให้แฟนคลับวัย 15 ปีที่กำลังจะเสียชีวิตฟังเป็นครั้งสุดท้าย โดยแฟนคลับคนดังกล่าวชื่อว่า Triona Priestley ซึ่งทุกข์ ทรมานจากโรค Cystic Fibrosis (เป็นโรคทางพันธุกรรม เกิดจากความผิดปกติของยีน ทำให้สารคัดหลั่งในอวัยวะต่างๆของ ร่างกายเหนียวข้น ซึ่งมีผลกระทบกับระบบต่างๆในร่างกายและ ไม่สามารถรักษาได้)

โดยทางโรงพยาบาลได้ติดต่อเอ็ดไปเมื่อ อาการของคนไข้เข้าสู่ภาวะสุดท้าย และเธอขอว่าอยากฟังเอ็ด ร้องเพลง ซึ่งเอ็ดก็โทร.มาร้องเพลงโปรดของเธอที่ชื่อ “Little Bird” ให้ฟังจริงๆ โดยพี่ชายของทรีโอนาเล่าว่า หลังจากวางโทรศัพท์ไปไม่นา  น้องสาวของเขาก็เสียชีวิตลง ขอบคุณเอ็ด ที่อุตส่าห์โทรมาส่งน้องสาวของเขาให้นอนหลับอย่างมีความสุข เป็นครั้งสุดท้าย

หรือเมื่อครั้งที่เอ็ดรู้ว่าเพื่อนสมัยเรียนกำลังมีปัญหา ด้านการเงินจนไม่มีรายได้พอจะเลี้ยงครอบครัว เขาจึงช่วยเธอ ซึ่งเป็นนักแต่งเพลงโนเนมให้ร่วมแต่งเพลง “Thinking Out Loud” ด้วยกัน ต่อมาเพลงนี้กลายเป็นเพลงฮิตอันดับหนึ่งตลอดกาล และทำรายได้หล่อเลี้ยงครอบครัวเพื่อนมาตลอดหลายปี เล่นเอาคุณเพื่อนปลื้มปริ่ม ส่วนเอ็ดเองก็ภูมิใจที่จะบอกว่า “ตอนนี้ เพื่อนผมไม่ต้องกลุ้มใจเรื่องเงินอีกแล้ว”

ตั้งแต่ปี2014 – 2018 เขาบริจาคเสื้อผ้าอย่างดีหลาย ร้อยชิ้นที่เขาเคยสวมใส่ไปงานต่างๆ ให้ร้านค้ากึ่งแชริตี้ที่ชื่อ St Elizabeth Hospice Charity Shop นำมาออกประมูลจน สามารถทำเงินได้หลายหมื่นปอนด์ต่อปี เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ ให้มีชีวิตที่ดีขึ้นและช่วยผู้ป่วยระยะสุดท้าย

นอกจากนี้เขายัง เคยหยุดงานร้องเพลงไปพักใหญ่เพื่อไปช่วย Sue Ryder ทำการกุศล ด้วยการช่วยดูแลคนพิการและผู้ป่วยโรคร้ายที่อยู่ในย่าน ฟรามลิงแฮม เมืองซัฟฟอล์ก ถิ่นบ้านเกิดของเขาในอังกฤษ อีกด้วย

ต่อมาเอ็ดยังควักกระเป๋าส่วนตัวซื้อสถานีตำรวจเก่าในย่านเก่าที่เขาเคยอยู่ เป็นจำนวนกว่า 1 ล้านปอนด์ เพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสถานที่นั้นให้เป็น Youth Club หรือชมรมเยาวชน เพื่อเป็นพื้นที่ให้เด็กๆวัยรุ่นได้มีกิจกรรมดีๆ ทำ เพราะเขาเองมีโอกาสฟอร์มวงเล่นดนตรีใน Youth Club แถวบ้านมาก่อน จึงได้เข้าสู่เส้นทางนักร้อง โดยเอ็ดเองเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลและแวะเวียนเข้าไป ร่วมกิจกรรมเสมอ “ผมตั้งใจว่าถ้าเกษียณแล้วก็จะมาบริหารงานที่นี่เป็นหลัก”

อีกหนึ่งเรื่องที่แฟนๆรู้กันคือ เอ็ดให้ความสำคัญกับคนไร้บ้านมาก เพราะ เขาเองเคยใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาก่อนในช่วงแรกของการเป็นนักร้อง เมื่อร่ำรวยแล้ว เขาจึงกลับไปเป็นอาสาสมัครดูแลผู้ไร้บ้านในอังกฤษอยู่เนืองๆ เคยจัดคอนเสิร์ตใหญ่ในกรุงลอนดอน แล้วให้ผู้ซื้อตั๋ววีไอพีในคอนเสิร์ตของเขาร่วม สมทบทุนบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ไร้บ้าน พอถึงปี2018 เขาก็สั่งให้มีการขึ้นโครงเหล็กทำเป็นพื้นที่อยู่อาศัยแบบง่ายๆ ณ พื้นที่หน้าบ้านของเขาในย่านเคนซิงตัน และเชลซี เพื่อให้คนไร้บ้านได้มาพักพิง

ในปี2019 เอ็ดได้ก่อตั้งมูลนิธิ Ed Sheeran Suffolk Music Foundation (ESSMF) ที่เขาตั้งชื่อตามย่านที่เขาเติบโตมา เพื่อให้ความช่วยเหลือสนับสนุนศิลปิน เยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ได้มีต้นทุนสำหรับหาซื้อเครื่องดนตรีหรือเรียนต่อด้านดนตรี โดยเขาบริจาคเงินกว่า 170 ล้านปอนด์ไว้เป็นทุนตั้งต้นให้เด็กๆที่ฝันอยากเป็น นักดนตรีเหมือนเขา

โดยเอ็ดบอกว่า “ถือว่าผมได้ให้อะไรคืนสังคมบ้าง เงินทุนนี้ อาจไม่เพียงพอสำหรับทุกคน แต่ผมเชื่อว่าน่าจะนำไปทำอะไรดีๆได้บ้าง” เอ็ดเคยให้สัมภาษณ์ว่า

“เงินน่ะ  เข้ามาแล้วก็ออกไป…ในเมื่อผมมีเงินมาก เพียงพอที่จะใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายแล้ว ที่เหลือก็คือการนำเงินมาช่วยเหลือ คนอื่นที่ต้องการมันดีกว่า”


CR : นิตยสารแพรว ฉบับที่ 964, @edsheerandouble

อายุน้อยพันล้าน เปิดรายได้ 10 อันดับดาราอายุน้อยของอังกฤษ ทำรายได้สูงสุด

รูเพิร์ต กรินต์ เติมเต็มความฝันวัยเด็ก ซื้อรถขายไอศกรีม จากเงินน้ำพัก น้ำแรง

อุ้ม-ลักขณา

ชีวิตเปลี่ยน! อุ้ม-ลักขณา จากสาวปาร์ตี้ชอบสนุกสู่บทบาทคุณแม่มืออาชีพ

Alternative Textaccount_circle
อุ้ม-ลักขณา
อุ้ม-ลักขณา

ชีวิตที่เปลี่ยนไป ของ สาวที่ร้อนแรงที่สุดในเมืองไทย อุ้ม-ลักขณา จากสาวปาร์ตี้ชอบความสนุกสู่บทบาทคุณแม่มืออาชีพ

ไม่มีใครที่ไม่เติบโต เพราะคนทุกคนล้วนต้องมีการพัฒนาทั้งนั้น ไม่ว่าจะในด้านร่างกาย ,สติปัญญา ,สังคม และ อารมณ์ รวมถึงความรับผิดชอบที่เมื่อยิ่งโตขึ้นยิ่งต้องเพิ่มสูงมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่รู้ตัวว่ากำลังจะเป็นแม่ หลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันคือช่วงก้าวกระโดดในชีวิต ที่เหมือนเปลี่ยนโลกของพวกเธอ

อุ้ม-ลักขณา

ย้อนกลับไปไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ หากพูดถึงหนึ่งในสาวที่ร้อนแรงที่สุดในเมืองไทย แน่นอนว่าคงไม่ตกหล่นชื่อของเธอคนนี้อย่างแน่นอน อุ้ม-ลักขณา วัธนวงส์ศิริ นางร้ายสาวสุดเซ็กซี่ที่มีผลงานเป็นที่รู้จักกันดี จากการรับบท “ลำเจียก” ในละครเรื่อง “นาคี”, สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายปวรรุจ, อีสา- รวีช่วงโชติ ฯลฯ

อุ้ม-ลักขณา

ด้วยความที่เป็นนักแสดงสายแซ่บทำให้งานที่เข้ามาส่วนใหญ่จะเน้นความบันเทิง นั่นจึงทำให้เธอมีภาพของสาวปาร์ตี้ชอบความสนุก โดยในปี 2018 อุ้มตัดสินใจแต่งงานกับแฟนหนุ่ม “บอล กฤษณะ ” แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปมากนักจนกระทั่งเธอตั้งท้องลูกสาวคนแรก “น้องดิสนีย์” ซึ่งทำให้ชีวิตของเธอและแฟนหนุ่มเปลี่ยนไปแบบพลิกผันเลยทีเดียว

ซึ่งสาวอุ้มได้เล่าถึงเรื่องนี้ผ่านการให้สัมภาษณ์ในรายการคุยแซ่บSHOW ทางช่องวัน 31 เธอบอกว่า “น้องดิสนีย์”ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป และไม่ใช่กับเธอเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงสามีของเธอด้วย  และเธอยังบอกให้อิจฉาอีกว่าชีวิตครอบครัวในวันนี้มีความสุขมากเลยทีเดียว

“หลังจากกลายเป็นคุณแม่ชีวิตเปลี่ยนค่ะ เมื่อก่อนปาร์ตี้สนุกสนาน ใช้ชีวิตแบบเต็มที่ แต่ตอนนี้ก็ทุ่มเทให้ลูก และถึงแม้ในอดีตจะเป็นแบบนั้น แต่ลึกๆ ก็อยากมีลูกอยู่แล้ว อุ้มใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กว่าอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น อยากมีลูกสาว”

อุ้มยังเล่าอีกว่าแม้เธอจะเคยเลี้ยงน้องมาแล้วถึง 2 คน แต่กลับไม่เคยรู้ว่าการเป็นแม่จริงๆ นั้นมันเหนื่อยขนาดนี้ “อุ้มไม่เคยรู้เลยว่าการเป็นแม่จริงๆ จะเหนื่อยขนาดนี้ ตอนแรกคิดว่ามันสนุกเพราะอุ้มเองก็เลี้ยงน้องมา 2 คน ทั้ง “น้องนิวเคลียร์” และ “น้องจูเนียร์” ก็รู้สึกว่าเลี้ยงเป็นแล้ว จนพอมีลูกเอง อุ้มไม่ได้จ้างพี่เลี้ยง ก็เหนื่อยมากสุดๆ”

นักแสดงสาวเซ็กซี่ยังเล่าอีกว่าหนึ่งในสาเหตุหลักที่ตัดสินใจไม่ได้รับงานแสดงก็เพราะว่าอยากทำหน้าที่แม่คนหนึ่งให้ดีที่สุด “คือสาเหตุที่อุ้มไม่รับงานแสดงแล้วก็เพราะว่าอุ้มอยากเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง ไม่อยากพลาดสักโมเม้นต์เลยในการเลี้ยงลูก ก็เลยขอทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุด”

น้องดีสนีย์

อย่างไรก็ตามดาราสาวยังได้เล่าอีกว่าย้อนกลับไปตอนที่เธอตั้งท้อง”น้องดิสนีย์”เธอเลือกที่จะคลอดวิธีธรรมชาติเพราะอยากรู้ถึงความเจ็บปวดของคนเป็นแม่ “อุ้มอยากรับรู้ถึงความเป็นแม่ อยากรับรู้ถึงความเจ็บปวด ตอนนั้นพยายามเบ่งเท่าไหร่ก็เบ่งไม่ออก จนสุดท้ายเกือบจะบอกหมอว่าไม่ไหวแล้ว หมอก็บอกว่ากลั้นใจอีกนิดเดียว ก็เลยเบ่งสุดพลัง พอได้ยินเสียงลูกก็รู้สึกหายเจ็บเลย ทั้งๆที่รู้สึกเจ็บที่สุดในชีวิต”


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

แวร์ โซว หมดตัว! ปลดหนี้ 13 ล้าน น้องคนดี เป็นกำลังใจไม่มีบ้าน-รถ แต่มีความสุข

ชีวิตต้องสู้! อร-อรอนงค์ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่อายทำกิน เปิดท้ายขายเสื้อผ้าตลาดนัด

เปิดใจ ร.อ.หญิง แคท วันทิตา ซิงเกิ้ลมัมสุดสตรอง เผยการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ใช่เรื่องง่าย

เจ้าหญิงมาเดอลีน

สิริโฉมงดงาม เจ้าหญิงมาเดอลีน และพระธิดาในชุดเดรสสีฟ้าสดใส

account_circle
เจ้าหญิงมาเดอลีน
เจ้าหญิงมาเดอลีน

สิริโฉมงดงามทั้งสามพระองค์สำหรับ เจ้าหญิงมาเดอลีน แห่งสวีเดน ดัชเชสแห่งเฮลซิงลันด์และเยสตริคลันด์ และ 2 พระธิดา เจ้าหญิงเลโอนอร์ และ เจ้าหญิงอาเดรียนน์ ที่ทรงใส่ชุดเดรสสีฟ้าสดใส ในพิธีรับศีลจุ่มของ เจ้าชายจูเลียน พระโอรสใน เจ้าหญิงโซเฟียแห่งสวีเดน และ เจ้าชายคาร์ล ฟิลิป ดยุกแห่งแวร์มลันด์

สิริโฉมงดงาม เจ้าหญิงมาเดอลีน และพระธิดาในชุดเดรสสีฟ้าสดใส

เจ้าหญิงมาเดอลีน

เจ้าหญิงมาเดอลีนทรงแมชต์เดรสชีฟองสีฟ้าพริ้วสวยกับกระเป๋าคลัทช์สีครีม Va Va Voom Mini จาก Valentino พระองค์ทรงสวมรองเท้าส้นสูงสีเทาจาก LKBennett คอมพลีทลุคด้วยเมคอัพโทนสีอ่อน และทรงผมทัดหูข้างเดียวพร้อมติดเครื่องประดับผมดอกไม้ เป็นโททัลลุคที่หวานละมุนสุดๆ

ขณะที่ สองพระธิดา เจ้าหญิงเลโอนอร์ และ เจ้าหญิงอาเดรียนน์ ทรงใส่ชุดเดรสสีฟ้าลายดอกไม้จาก Little Alice London ซึ่งเป็นชุดแบบเดียวกันกับที่ เจ้าชาร์ลอตต์ ทรงใส่เมื่อครั้งเสด็จไปเยี่ยมพระมารดา ในวันประสูติเจ้าชายหลุยส์เมื่อปี 2018 ซึ่งชุดนี้เรียกได้ว่าขายดีเอามากๆ โดยทุกไซส์ขายหมดภายในหนึ่งชั่วโมง และหมดสต็อคอย่างรวดเร็วถึงแม้ตัวหนึ่งจะราคาสูงถึง ₤45 ปอนด์ หรือประมาณ 2,000 บาท

ด้านเจ้าชายนีโคลัส พระโอรสองค์เล็กก็ทรงใส่ชุดสูทสีเนวี่บูล แมชต์เข้ากับพระมารดา พระเชษฐภคินี และ พระขนิษฐา ซึ่งสีโทนนี้จัดว่าเป็นสีประจำตระกูลของราชวงศ์สวีเดน


ภาพ : @royalchildren_europe/instagram

ฟ้าใส-อรจิรา

เปิดชีวิตว่าที่คุณแม่มือใหม่ นักแสดงสาว ฟ้าใส-อรจิรา คุณนายผู้ว่าฯ จ.อุดรธานี

Alternative Textaccount_circle
ฟ้าใส-อรจิรา
ฟ้าใส-อรจิรา

เป็นเรื่องที่น่ายินดีอีกหนึ่งเรื่องของวงการบันเทิง เมื่อล่าสุด ฟ้าใส-อรจิรา ศิริมงคล นักแสดงจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ประกาศข่าวดีว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ได้ 10 สัปดาห์แล้ว หลังจากเมื่อกลางปีสาวฟ้าใสได้ เข้าสู่พิธีมงคลสมรสกับ “นายสยาม ศิริมงคล” ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี  ท่ามกลางความยินดีของเหล่าคนบันเทิงและแฟนคลับที่เข้ามาคอมเม้นต์ ร่วมแสดงความยินดีกับเธอในครั้งนี้ ซึ่งงานนี้สาวฟ้าใสเผยว่า ตื่นเต้น ลุ้นเพศลูก อยากได้ลูกสาว แถมยังชม สามีว่าโชคดี ที่สามีดูแลดีและเข้าใจภาวะความเครียดของเธอทุกอย่าง พร้อมยังยืนยันว่าคิดถึงวงการบันเทิง และยังรักงานแสดง ถ้าทุกอย่างพร้อมเมื่อไหร่ พร้อมหวนคืนวงการแน่นอน

เปิดชีวิตว่าที่คุณแม่มือใหม่ นักแสดงสาว ฟ้าใส-อรจิรา คุณนายผู้ว่าฯ จ.อุดรธานี

ว่าที่คุณแม่มือใหม่ตื่นเต้นแค่ไหน?

“ตื่นเต้นมากค่ะ อย่างที่ทุกคนทราบกันเมื่อวานนี้แล้ว ฟ้าได้มีโอกาสบอกข่าวดีกับทุกคน ว่าตอนนี้ฟ้าตั้งครรภ์ได้ 10 สัปดาห์แล้วนะคะ ก็ตื่นเต้นมากๆเลย ส่วนเรื่องของการเตรียมตัวนะคะ ก็มีการเตรียมตัวโดยการที่ 1 ก็คือพักผ่อนให้เยอะเลย เพราะว่าคุณแม่แต่ละคนจะมีอาการแพ้ท้องที่ไม่เหมือนกัน แตกต่างกันออกไป”

มีอาการแพ้ท้องหนักไหม?

“อย่างของฟ้าขอบอกก่อนว่า โชคดีมาก เพราะว่าฟ้าไม่มีอาการแพ้อาหารหรือ อาเจียน อะไรเลย ฟ้ายังทานอาหารได้ปกติ เพียงแต่ว่าต้องทานอาหารที่รสจัดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ฟ้าเป็นคนกินรสชาติที่จืด คือไม่ค่อยกินเผ็ด แต่ตอนนี้ฟ้ากินเผ็ดมากขึ้นเลยค่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน พอกินแล้วรู้สึกสดชื่นขึ้น ไม่เลี่ยน ก็กลายเป็นว่าตอนนี้เป็นสาวกินเผ็ดค่ะ ส่วนเรื่องอื่นๆ ฟ้ามีอาการอ่อนเพลียมากขึ้น ก็อาจจะต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น ฟ้าง่วงนอนบ่อยมาก แค่เดินขึ้นลงบันได หรือเดินขึ้นห้อง ฟ้าก็เหนื่อยแล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็คือต้องพักผ่อนเยอะๆ ค่ะ”

ฟ้าใส-อรจิรา

ถือเคล็ดไหม ถึงยังไม่บอกใครตอนแรก?

“ความจริงไม่ได้ถือเคล็ดนะคะ จริงๆคืออยากจะบอกเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่ เรารู้เร็วมากๆเลย ว่าเราตั้งครรภ์ ประมาณ 2 สัปดาห์กว่าๆ ฟ้าก็รู้แล้ว ว่าฟ้าท้อง เพราะว่าฟ้ามีอาการปวดท้องผิดปกติ คือปวดท้องน้อยเหมือนมีประจำเดือน แบบหลายวันมากๆ ทั้งๆที่ประจำเดือนก็ไม่มา ฟ้าก็เลย เอ๊ะ หรือว่าเราจะท้อง เพราะว่า ก่อนหน้านี้เราก็มีการนับวันตกไข่ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะมีทายาทเนี่ยแหละ เราก็ตั้งใจว่าจะมีน้อง ก็เลยซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ สรุปว่าขึ้นสองขีด เราก็เลยไปหาหมอเลย เพราะว่าก็กังวล สรุปพอตรวจเลือด อะไรออกมา เพราะตอนนั้นยังซาวน์ไม่เห็น ผลตรวจออกมา ก็คือเราตั้งครรภ์ชัวร์ๆแล้วค่ะ แต่ด้วยความที่เราปวดท้องน้อยตลอด เหมือนมีประจำเดือน คุณหมอก็เลยให้เราระมัดระวัง ตั้งแต่วันนั้นเราก็เลยหยุดอยู่บ้านเลย เพราะว่าต้องเดินน้อยที่สุด เอาจริงๆ ก็คืออยู่แต่ชั้นแรก เป็นระยะเวลาหนึ่งเลย จะเดินขึ้นห้องแค่ตอนจะนอนเท่านั้นเองค่ะ นอกนั้นก็จะใช้ชีวิตอยู่ข้างล่างของบ้านเลย แต่ว่าตอนนี้ก็เข้าสู่ภาวะปกติแล้วค่ะ สามารถเดินขึ้นลงบันไดได้”

ลุ้นเพศมาก มีการคุยกันมั้ยว่าอยากได้ลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย?

ก็มีการคุยกันไว้ค่ะ ว่าเราอยากได้ลูกสาวกัน เพราะพี่สยาม ฟ้าเองเราชอบเด็กผู้หญิงค่ะ เราก็ชอบเด็กผู้หญิงกันทั้งสองคน ก็เลยอยากได้ลูกสาว ตอนนี้ก็ยังไม่รู้เพศเดี๋ยวต้องมาลุ้นกัน อีกประมาณสองถึงสามสัปดาห์ฟ้าจะไปตรวจ nipt หรือ Non-Invasive Prenatal Testing คือการตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์จากเลือดมารดา ที่สามารถคัดกรองความเสี่ยงของทารกในครรภ์ ได้ก็อาจจะได้รู้เพศกัน ก็ลุ้น ๆ เหมือนกันค่ะ”

สามีและครอบครัวว่ายังไง ดูแลตัวเองมากขึ้นไหม?

 “แน่นอนเลยว่าเราต้องดูแลตัวเองมากขึ้น มันเป็นระบบอัตโนมัติของร่างกายเลยค่ะ คือก็ต้องระวังเรื่องการกินอาหารมาก ตั้งแต่ท้อง ฟ้ารู้สึกสงสารและเห็นใจแม่ๆทุกคนมาก เพราะบางคนแพ้ท้องหนักด้วย ขนาดเราโชคดีแล้ว แต่ก็ยังมีอาการท้องผูกต้องแต่ระยะแรก จากการที่เราเป็นคนขับถ่ายดีมาโดยตลอด ตอนนี้ถ้าทุกคนสังเกตก็คือหน้าตาค่อนข้างโทรมขึ้น แล้วก็สิวเยอะขึ้น คุณหมอก็เลยบอกว่าเป็นเรื่องของฮอร์โมนที่เป็นเรื่องปกติของการตั้งครรภ์ ซึ่งยิ่งตอนนี้มีโควิดด้วย มันทำให้เรามีภาวะความเครียดเข้ามาด้วย แล้วเราก็ไม่ได้เจอพบปะผู้คน”

ฟ้าใส-อรจิรา 01

เห็นว่าสามีเป็นส่วนที่ช่วยเรามาก ๆ ไม่ให้เราเครียด?

“ใช่ค่ะ เขาก็จะเป็นส่วนที่ช่วยได้มากที่สุดในตอนนี้ เพราะเขามีความเมตตา เข้าอกเข้าใจภรรยาอย่างดีมาก ก็คือให้เราหยุดอยู่บ้าน แล้วก็คุยกันตลอดว่า เรามีหน้าที่ ทำจิตใจให้ดี แจ่มใส ดูแลตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ ส่วนเรื่องอื่นๆ พี่เขาก็จะดูแลทุกอย่างให้ ก็ต้องขอบคุณพี่สยามนะคะ ถือว่าฟ้าโชคดีมากจริงๆ ที่มีสามีที่น่ารัก ทำให้ฟ้าไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นๆ เลย นอกจากการโฟกัสตัวเองในช่วงนี้”

แบบนี้งานในวงการบันเทิง ที่เคยบอกว่ายังรับต้องพักยาวเลย หรือหยุดไปเลยหรือเปล่า?

“อย่างที่แจ้งไปก่อนหน้านี้ว่า ถ้ามีบทบาทที่โอเค ไม่กระทบกับบริบทในทุกวันนี้ ฟ้าก็ยังอยากรับงานอยู่ เพราะละครก็เป็นสิ่งที่เราสัมผัสอยู่ทุกวันมาตั้งแต่เด็ก เราก็มีความรักในการแสดง รักในละคร แต่พอตอนนี้เราตั้งครรภ์ แผนก็อาจจะต้องเลื่อนไปก่อน หลังคลอดอาจจะว่ากันอีกทีหนึ่ง หลังจากที่เราแข็งแรงขึ้น แล้วถ้าเราได้มีโอกาสที่จะรับงาน รวมถึงบทที่เหมาะสม ก็ยังอยากรับงานอยู่ค่ะ”

อยากฝากอะไรถึงคนที่มาแสดงความยินดี และเป็นห่วงเรา?

“ขอบพระคุณทุกคนมากๆ ที่เป็นกำลังใจให้เรา ก็เป็นข่าวดีที่ทุกคนมาแสดงความยินดีกับเรา ยังไงก็ขอบคุณมากๆ อยากฝากนิดว่า ตอนนี้สถานการณ์โควิด ค่อนข้างน่าเป็นห่วงมาก ก็อยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพให้ดี ทำจิตใจให้เข้มแข็ง เรื่องจิตใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเลย แล้วก็ที่สำคัญ ฝากถึงแม่ ๆ มือใหม่แบบฟ้าด้วยนะคะว่า พอเราตั้งครรภ์แล้ว มีอีกชีวิตหนึ่งอยู่ในท้องของเรา นอกจากสุขภาพของเราแล้ว สุขภาพจิตเราต้องดูแลให้แจ่มใส ให้เข้มแข็ง ทิ้งอะไรได้ก็ทิ้งไปนะคะ เพื่อลูกของเรา ฟ้าก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ขอให้ปลอดภัยค่ะ”


 

เจ้าหญิงไดอานา

ประมูล! เค้กแต่งงานอายุ 4 ทศวรรษ ของ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และ เจ้าหญิงไดอานา

Alternative Textaccount_circle
เจ้าหญิงไดอานา
เจ้าหญิงไดอานา

เค้กแต่งงานอายุ 4 ทศวรรษ ของ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และ เจ้าหญิงไดอานา ถูกประมูลขายในราคา 2,565 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 85,000 บาท

ถึงแม้จะผ่านไปนานกว่า 40 ปีแล้ว แต่คิดเลยว่า เค้กแต่งงาน ในพิธีอภิเษกสมรสของรัชทายาทอันดับ 1 แห่งราชวงศ์อังกฤษ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ กับ ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ จะมีให้เห็น แถมยังสามารถสัมผัสจับต้องได้จริงๆ ซะด้วย

สำนักข่าวต่างประเทศ CNN ได้เปิดเผยว่าเค้กชิ้นหนึ่งจากพิธีอภิเษกสมรสของ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ กับ ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ได้ถูกประมูลไปด้วยราคา 2,565 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 85,000 บาท  ภายหลังจากผ่านกาลเวลามาถึง 40 ปี

รายงานได้ระบุว่าเค้กชิ้นนี้มีสภาพเกือบจะสมบูรณ์มีนักหนัก 793 กรัม เป็น 1 ใน 23 ชิ้น ที่มีตราสัญลักษณ์ ซึ่งเจ้าของได้ใช้ฟิล์มอาหารห่อหุ้มและเก็บลงในกล่องเหล็กลายดอกไม้

อย่างไรก็ตาม ริ อัลเบอรี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านของที่ระลึกจากราชวงศ์ ได้เปิดเผยว่า อันที่จริงเราสามารถพบเห็นเค้กแต่งงาน ของราชวงศ์อื่นๆ ในเว็บไซต์ประมูลเป็นประจำแต่สำหรับเค้กชิ้นนี้มีขนาดใหญ่และค่อนข้างสมบูรณ์มากๆ เลยทีเดียว

เค้กแต่งงานอายุ 4 ทศวรรษ ของ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และ เจ้าหญิงไดอานา

เค้กแต่งงาน เจ้าหญิงไดอานา

เค้กแต่งงาน


ข้อมูลและภาพจาก : CNN

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เบื้องหลัง ชุดแต่งงานเจ้าหญิงไดอานา ชุดไอคอนิกที่ถูกจารึกในหน้าประวัติศาสตร์

สง่างามดุจเจ้าหญิง เลดี้คิตตี้ สเปนเซอร์ เข้าพิธีวิวาห์สุดหรูกับมหาเศรษฐีวัย 62 ปี

5 อันดับราชนิกุลผู้มี ‘ใบหน้าสัดส่วนทองคำ’ ไดอานา อันดับ 1 เมแกน ชนะเคท

วิถีชีวิตอันรุ่งโรจน์ของ “ผู้หญิงใน (อดีต) อัฟกานิสถาน” ก่อนถูก “ตาลีบัน” ปกครอง

account_circle

นับว่าเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกสำหรับเหตุการณ์ที่ ตาลีบัน ยึดครองเมืองต่างๆ ของอัฟกานิสถานได้สำเร็จ หลังทำสงครามมายาวนานกว่า 20 ปี  พร้อมตั้งตนเป็นรัฐบาลปกครองประเทศ

อย่างไรก็ตามแม้โฆษกของตาลีบันจะออกมากล่าวว่า “เราขอรับประกันความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในกรุงคาบูล ขอยืนยันว่าชีวิตและทรัพย์สินของพวกท่านจะปลอดภัยอย่างแน่นอน” แต่ดูเหมือนว่าประชาชนชาวอัฟกานิสถานยังคงรู้สึกถึงความอันตรายในชีวิตของพวกเขา ซึ่งดูได้จากภาพที่ออกมาจากสื่อต่างๆ ทั่วโลก

โดยเฉพาะผู้หญิงอัฟกันที่ยอมเสี่ยงชีวิต โดยไม่กลัวตายสักนิดเดียว เพราะหากพวกเธอตกอยู่ภายใต้การปกครองของตาลีบันนั้น ชีวิตก็เหมือนกับตายทั้งเป็น!! สิทธิสตรีของพวกเธอจะไม่มีค่าใดๆ ถูกกดขี่ ข่มเหง ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไม่ได้รับการศึกษา และมีหน้าที่เป็นเพียงเครื่องผลิตมนุษย์ เท่านั้น

ย้อนกลับไปในยุค 50 ก่อนที่ตาลีบันจะเกิดขึ้น ผู้หญิงในอัฟกานิสถาน ไม่ได้ถูกกักอยู่แต่ในบ้าน ไม่มีกฏหมายว่าห้ามออกจากบ้านโดยไม่มีญาติผู้ชาย สตรีชาวอัฟกันสามารถเข้าถึงการศึกษา พวกเธอได้เรียนระดับมหาวิทยาลัย มีอาชีพการงานที่มั่นคง สามารถใส่เสื้อผ้าตามสมัยนิยม มีร้านรวงขายเสื้อผ้าที่ทันสมัย มีขนส่งสาธารณะ และพื้นที่สาธารณะ ซึ่งทั้งหมดนี้พวกเธอสามารถเดินได้อย่างมีความสุข โดยปราศจากการควบคุมดูแล

ทั้งนี้ ตามรายงานของ Bureau of Democracy, Human Rights, and Labor กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาได้กล่าวว่า

ก่อนการเพิ่มขึ้นของกลุ่มตาลีบัน ผู้หญิงในอัฟกานิสถานได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายและมีสิทธิเสรีภาพในสังคมอัฟกัน โดยในปี 1920 ผู้หญิงมีสิทธิในการเลือกตั้ง และในช่วงต้นทศวรรษ 1960 รัฐธรรมนูญอัฟกานิสถานให้ความเท่าเทียมสำหรับผู้หญิง เป็นช่วงที่ประเทศกำลังเปิดกว้างและเริ่มก้าวไปสู่ประชาธิปไตย ซึ่งสตรีมีส่วนสำคัญอย่างมากในการพัฒนาประเทศ

ทั้งนี้ในปี 1977 มีสตรีมากกว่า 15% ในสภานิติบัญญัติสูงสุดของอัฟกานิสถาน และ ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ผู้หญิงในกรุงคาบูลทำงานเป็นคุณครูในโรงเรียนถึง 70% เป็นพนักงานของรัฐและนักศึกษามหาวิทยาลัย 50% และ เป็นแพทย์อีก 40% ขณะเดียวกัน ผู้หญิงชาวอัฟกันยังเคยทำงานในองค์กรบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมมาก่อนอีกด้วย จนกระทั่งกลุ่มตาลีบันออกกฎหมายจำกัดความสามารถในการทำงานอย่างเข้มงวดทำให้บทบาทของสตรีในอัฟกานิสถานลดอย่างเห็นได้ชัด

วิถีชีวิตอันรุ่งโรจน์ของ “ผู้หญิงใน (อดีต) อัฟกานิสถาน” ก่อนถูก “ตาลีบัน” ปกครอง

ร้านแผ่นเสียงในกรุงคาบูล
คาบเรียนชีววิทยา ในมหาวิทยาลัยคาบูล
นักศึกษามหาวิทยาลัยอัฟกัน ค.ศ. 1967 เครดิตภาพ: Dr. Bill Podlich, Retronaut
ระบบขนส่งสาธารณะในกรุงคาบูล
นักศึกษามหาวิทยาลัย ต้นทศวรรษ 1970
ภาพของผู้หญิงที่ทำงานในห้องทดลองแห่งหนึ่งของศูนย์วิจัยวัคซีน
ภาพแม่และเด็กเล่นกำลังเล่นเครื่องเล่นในสวนสาธารณะ

ภาพของเหล่าสตรีชาวอัฟกัน กับแฟชั่นเสื้อผ้าก่อนและระหว่างยุค 70 ที่ตาลีบันจะเข้ามามีบทบาท และเปลี่ยนให้พวกเธอต้องใส่ชุดบูร์กาที่ปกปิดทุกส่วนของร่างกาย ไม่เว้นแม้แต่ใบหน้าและดวงตา


เรียบเรียงจาก : dangerousminds.net

ภาพ : @senstylable/Instagram

Onitsuka Tiger สนีกเกอร์ Cinderella

รองเท้าแก้วเวอร์ชั่นใหม่ Onitsuka Tiger เปิดตัว สนีกเกอร์ Cinderella สวยวิบวับ

Onitsuka Tiger สนีกเกอร์ Cinderella
Onitsuka Tiger สนีกเกอร์ Cinderella

Onitsuka Tiger เปิดตัว สนีกเกอร์ Cinderella จากการร่วมมือกับ ภาพยนตร์ต้นฉบับของ Amazon Prime Video โดยได้ใช้สีปริซึมกับตัวรองเท้าเพื่อสร้างเอฟเฟกต์มันวาวเหมือนกระจก ชวนให้นึกถึงรองเท้าแก้ว

สนีกเกอร์ที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์คือนิยามใหม่ของรองเท้าแก้วที่ก้าวข้ามผ่านเพศและอายุ Onitsuka Tiger (โอนิซึกะ ไทเกอร์) แบรนด์แฟชั่นสัญชาติญี่ปุ่นจะปล่อยสนีกเกอร์ลิมิเต็ด อิดิชั่นที่เกิดจากการร่วมมือกับภาพยนตร์ของ Amazon Prime Video เรื่อง Cinderella

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เรื่องราวดั้งเดิมของซินเดอเรลล่าได้ถูกนำเสนอในมุมมองที่ทันสมัยและหลากหลายมากขึ้น โดยได้นักร้องชื่อดังระดับโลกอย่าง Camila Cabello (คามิล่า คาเบลโญ) มารับบทนำเป็นซินเดอเรลล่าคนใหม่ที่มีความทะเยอทะยานและทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้ความฝันของเธอเป็นจริง

ซึ่งสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของผู้หญิงยุคใหม่และการสื่อสารความหลากหลายที่ได้รับการสนับสนุนในภาพยนตร์เรื่องนี้ Onitsuka Tiger จึงได้สร้างสรรค์สนีกเกอร์ขึ้นโดยอิงจากการตีความใหม่ของรองเท้าแก้วในนิยาย ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถเป็นตัวเอกได้ในทุกสถานการณ์โดยไม่มีข้อจำกัด

รองเท้าแก้วเวอร์ชั่นใหม่ Onitsuka Tiger เปิดตัว สนีกเกอร์ Cinderella สวยวิบวับ

Onitsuka Tiger เปิดตัวสนีกเกอร์ Cinderella Onitsuka Tiger เปิดตัวสนีกเกอร์ Cinderella-1

สนีกเกอร์รุ่นที่นำมาปรับปรุงสำหรับงานคอลลาบอเรชั่นครั้งนี้ คือ รุ่น P-TRAINER PRZM™ จากคอลเล็คชั่น Contemporary ของ Onitsuka Tiger โดยได้ใช้สีปริซึมกับตัวรองเท้าเพื่อสร้างเอฟเฟกต์มันวาวเหมือนกระจก ชวนให้นึกถึงรองเท้าแก้ว และยังมีดีไซน์ที่เข้ากันได้ดีกับการแต่งตัวทั้งแบบลำลองหรือเป็นทางการ

ในส่วนของพื้นรองเท้าที่โดดเด่นนั้นตกแต่งด้วยลาย Onitsuka Tiger Stripes อันเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ และ มีรูปมงกุฏที่เป็นสัญลักษณ์จากภาพยนตร์เรื่องนี้ตกแต่งอยู่บริเวณส้นรองเท้า ส่วนโลโก้ของ Onitsuka Tiger และชื่อภาพยนตร์ประดับอยู่ที่ป้ายลิ้นรองเท้าและพื้นรองเท้าด้านใน

Onitsuka Tiger เปิดตัวสนีกเกอร์ Cinderella-2 Onitsuka Tiger เปิดตัวสนีกเกอร์ Cinderella-3

นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังได้ผลิตกล่องรองเท้าและถุงช้อปปิ้งตกแต่งด้วยงานกราฟิกดีไซน์จากภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาเป็นพิเศษ โดยจะวางจำหน่ายทั่วโลกในจำนวนจำกัดเพียง 800 คู่ ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายในเดือนกันยายนนี้ที่ร้าน Onitsuka Tiger และที่ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ (P-TRAINER PRZM™ ราคา 7,500 บาท)


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เปิดวาร์ปร้าน สร้อยข้อมือผีเสื้อ ของขวัญที่ พัคแจออน ทำให้ ยูนาบี

สวยหล่อคู่ฟ้าประทาน! ส่องลุค หยางหยาง-ตี๋ลี่เร่อปา ในวันแห่งความรักของจีน

ชุดขาวสวยหวาน ‘เจ้าหญิงโซเฟียแห่งสวีเดน’ สง่างามทุกมุม ในพิธีรับศีลจุ่ม

 

Livas Graphene Mask
Livas Graphene Mask
Livas Graphene Mask

อุปกรณ์ที่จําเป็นที่สุดในช่วงวิกฤตโรคระบาดนี้คงหนีไม่พ้นหน้ากาก ถึงจะได้รับวัคซีนแล้วแต่เราทุกคนก็ยังต้องใส่หน้ากากเพื่อป้องกันเชื้อโรคอยู่ดีแล้วหน้ากากแบบไหนที่ดี และสามารถช่วยลดความเสี่ยงให้เราได้?

Livas Mask หน้ากากผ้า High technology ผลิตจากวัสดุที่มีชื่อว่า กราฟีน (Graphene) ที่ไม่ใช่แค่ช่วยป้องกันเชื้อโรคต่างๆ แต่ยังสามารถช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งพิสูจน์คุณสมบัติแล้วจากการทดสอบจากสถาบันต่างๆ ทั่วโลก

ด้วยคุณสมบัติพิเศษของกราฟีนที่มีความแข็งแรงและป้องกันการก่อตัวของเชื้อโรคและแบคทีเรีย จึงทําให้ Livas เลือกใช้กราฟีนเป็นวัสดุหลักในการผลิตหน้ากากผ้า เพื่อสู้กับวิกฤตการณ์นี้โดยเฉพาะ

นวัตกรรมใหม่ของการผลิตผ้านี้คือการผสมกราฟีนลงในเนื้อผ้ามากถึงสามชั้น (smart fabric) และใช้ผลิตออกมาเป็น Livas Graphene Mask ที่ให้มีคุณสมบัติพิเศษสามารถช่วยปกป้องได้เป็นอย่างดี โดยได้รับการทดสอบจากสถาบันในประเทศเกาหลีใต้ และได้รับการรับรองจาก FDA ของประเทศสหรัฐอเมริกา

กราฟีนคืออะไร และดียังไง?

Livas Graphene Mask

• เป็นวัสดุที่ได้มาตรฐาน ไม่เป็นพิษ และช่วยป้องกันการก่อตัวของแบคทีเรียได้
• จากการวิจัยพบว่าเป็นวัสดุที่แข็งแรง
• เป็นวัสดุที่เบา แข็งแรงทนทาน และยังเป็นตัวนําความร้อนได้ดี
• กราฟีนเป็นรูปแบบหนึ่งของผลึกคาร์บอนเคียงข้างกับ เพชร, กราไฟท์, ท่อนาโนคาร์บอน และฟูลเลอรีน ที่มีการเรียงตัวแบบหกเหลี่ยมรังผึ้ง

 

Livas Mask ไม่ใช่แค่ป้องกันเชื้อโรค แต่ยังมีคุณสมบัติอื่นอีกเพียบ!

Livas Graphene Mask

Livas Graphene Mask

Livas Graphene Mask

 

 

Livas Graphene Mask หน้ากากผ้าผสมกราฟีนลงในเนื้อผ้าถึงสามชั้น (smart fabric) ผลิตจากประเทศเกาหลี

Livas Graphene Mask

 

Livas Mask ไม่ได้ช่วยป้องกันเชื้อโรคเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติอื่นๆอีกเพียบ ได้แก่

• ช่วยยับยั้งและป้องกันแบคทีเรีย ซึ่งได้รับการรับรองจาก US FDA
• หน้ากากออกแบบมาให้ระบายอากาศได้ดี จึงทําให้หายใจสะดวกและสวมใส่สบาย
• ช่วยลดกลิ่นอับจากการสวมใส่ ทําให้สามารถใส่หน้ากากได้เป็นเวลานาน
• ไม่ทําให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวและไม่ทําให้เกิดสิว
• เนื้อผ้ามีคุณสมบัติสะท้อนหยดนํ้าหรือละอองนํ้าที่อาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน
• ช่วยป้องกันรังสียูวี
• สามารถใช้ซํ้าได้โดยการซักนํ้าปกติหรือนํ้าสบู่ได้ 60 ครั้ง
• มั่นใจได้ทุกที่ เข้ากับการแต่งตัวได้ทุกลุค

มี 3 สี ได้แก่ Royal Blue, Black, Grey

สั่งซื้อสินค้าได้ที่ Line@ : @livas / Shopee : LIVAS

หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่  Instagram @livas.life  และ  WWW.LIVAS.LIFE

 

Livas Graphene Mask

Livas Graphene Mask

ทำไม ผู้หญิงตั้งครรภ์ติดโควิด-19 ถึงเสี่ยงทรุดหนัก

ทำไม ผู้หญิงตั้งครรภ์ติดโควิด-19 ถึงเสี่ยงมีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป

Alternative Textaccount_circle
ทำไม ผู้หญิงตั้งครรภ์ติดโควิด-19 ถึงเสี่ยงทรุดหนัก
ทำไม ผู้หญิงตั้งครรภ์ติดโควิด-19 ถึงเสี่ยงทรุดหนัก

กรมการแพทย์ เตือนหาก ผู้หญิงตั้งครรภ์ติดโควิด-19 จะถูกจัดเป็นกลุ่มเสี่ยงมีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป ควรรับการฉีดวัคซีนเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน พร้อมแนะนำให้รักษาสุขภาพอย่างเคร่งครัด และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อลดความจำเป็นในการเข้าโรงพยาบาลที่จะนำไปสู่การเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อได้

ทำไม ผู้หญิงตั้งครรภ์ติดโควิด-19 ถึงเสี่ยงมีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป

พญ.อรดา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา หัวหน้าหน่วยโรคติดเชื้อ กลุ่มงานสูตินรีเวชศาสตร์ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กรมการแพทย์ เปิดเผยว่า การติดเชื้อโควิด-19 ในหญิงตั้งครรภ์มีความจำเป็นที่จะต้องระวังเป็นพิเศษกว่าคนปกติทั่วไป เนื่องจากจัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงของโรค กล่าวคือ มีโอกาสเกิดภาวะปอดอักเสบสูง นอกจากนี้ ความท้าทายของแพทย์ในการรักษาหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 คือต้องรักษาทั้งแม่และทารกในครรภ์ไปพร้อมๆ กัน

ดังนั้น ภาวะแทรกซ้อนในหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 คือเมื่อมีปอดอักเสบแล้ว สิ่งที่เป็นผลกระทบตามมาคือทารกในครรภ์จะได้รับออกซิเจนจากแม่ไม่เพียงพอ ซึ่งเสี่ยงที่จะคลอดก่อนกำหนดสูงถึงร้อยละ 20 ในขณะที่ข้อจำกัดการรักษาสำหรับหญิงตั้งครรภ์ก็มีอยู่ไม่น้อย เช่นข้อจำกัดในการใช้ยารักษาบางชนิด รวมทั้งไม่สามารถนอนคว่ำเพื่อให้ร่างกายรับออกซิเจนได้อย่างเพียงพอ จึงเพิ่มโอกาสในการใส่เครื่องช่วยหายใจ หากผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยมากขึ้น จะต้องใช้เครื่องให้ออกซิเจนในรูปแบบสายเสียบจมูก แต่หากร่างกายผู้ป่วยยังรับออกซิเจนได้ไม่เพียงพอจะต้องเปลี่ยนมาใช้เครื่องให้ออกซิเจนแบบ High Flow และกรณีสุดท้ายหากเครื่องให้ออกซิเจนในสองแบบแรกไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ จะต้องเพิ่มระดับการให้ออกซิเจนสูงสุดด้วยเครื่องช่วยหายใจ

ข้อมูลล่าสุดจากกรมอนามัย นับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 – 17 กรกฎาคม 2564 พบว่ามีหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศสูงถึง 856 ราย ในจำนวนดังกล่าวเป็นคนไทย 550 ราย นอกจากนั้นเป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าว และมีหญิงตั้งครรภ์ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 15 ราย เนื่องจากอาการของโรคในหญิงตั้งครรภ์มีการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เมื่อหญิงตั้งครรภ์ได้รับการตรวจและยืนยันว่าตนเองติดเชื้อโควิด-19 สิ่งแรกที่ควรปฏิบัติคือการปรึกษาแพทย์ และเข้าถึงระบบการรักษาให้เร็วที่สุด และด้วยอัตราการติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงเกิดขึ้นในหญิงตั้งครรภ์ดังที่กล่าวมา ภาครัฐจึงให้ความสำคัญกับหญิงตั้งครรภ์ในฐานะที่เป็นกลุ่มจำเป็นต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เทียบเท่ากับผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 โรค ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตวายเรื้อรัง, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคอ้วน, โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน โดยหญิงตั้งครรภ์จะถูกบรรจุไว้เป็นกลุ่มที่ 8 ซึ่งองค์การอนามัยโลก และราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ต่างก็มีข้อมูลสนับสนุนว่าหญิงตั้งครรภ์มีความจำเป็นต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้ต้องมีอายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ขึ้นไปจึงจะสามารถรับวัคซีนได้ ในขณะที่คุณแม่หลังคลอดที่กำลังให้นมบุตรก็สามารถรับวัคซีนได้เช่นเดียวกัน

ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่มีข้อห้าม หรือคำแนะนำให้ชะลอแผนการตั้งครรภ์ หากมีแผนการตั้งครรภ์หรือตรวจพบว่าตั้งครรภ์แล้ว คนไข้ต้องรักษาสุขภาพอย่างระมัดระวังมากกว่าการตั้งครรภ์ในสถานการณ์ปกติ ควรพบแพทย์เพื่อติดตามอาการระหว่างการฝากครรภ์อย่างสม่ำเสมอ และนอกจากการป้องกันตนเองไม่ให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ยังต้องระวังเรื่องการเกิดอุบัติเหตุเป็นพิเศษ เพราะหากเกิดกรณีฉุกเฉินที่จำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาล เท่ากับว่าคนไข้จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงขึ้น เนื่องจากโรงพยาบาลเป็นสถานที่ซึ่งมีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากและมีความแออัด

นอกจากการดูแลสุขภาพกายแล้ว การดูแลสุขภาพจิตใจในหญิงตั้งครรภ์ก็เป็นสิ่งสำคัญ การเปิดรับข้อมูลข่าวสารด้านสาธารณสุข หรือด้านสุขภาพผ่านการส่งต่อจากแหล่งข้อมูลที่ไม่สามารถเชื้อถือได้ก็อาจส่งผลต่อความเครียด ความวิตกกังวล จึงควรเปิดรับเฉพาะข้อมูลจากแหล่งที่เชื้อถือได้จริงและมีผู้ให้ข้อมูลที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ เช่น การรับข้อมูลจากแพทย์ หรือโรงพยาบาลโดยตรง ซึ่งปัจจุบันมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดให้บริการข้อมูลข่าวสารทาง LINE Official Account : @thaibf โดยจะมีแพทย์และพยาบาลอาสาปฏิบัติหน้าที่เป็นแอดมินในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์กับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์และหลังคลอดอย่างแท้จริง


ข้อมูล : กรมการแพทย์
ภาพ : Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รพ.ศิริราช เปิดให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังไม่เข้าระบบรักษารับ “ยาฟาวิพิราเวียร์” ผ่าน Line

อย. เตือนอย่าซื้อ ยาฟาวิพิราเวียร์ กินเอง เสี่ยงเจอยาปลอมอาจอันตรายถึงชีวิต

แพทย์แนะ ติดโควิด-19 ทรุดหนักเชื้อลงปอด แต่เตียงเต็ม ควรปฏิบัติตัวตาม 8 ข้อนี้

 

 

‘หากแอบรักใครอยู่ ควรทำเงียบไปเลย เพราะเสี่ยงจะกลายเป็นมือที่สามโดยไม่รู้ตัว’ ดวงรายวัน 17 สิงหาคม 2564

ดูดวงรายวัน 17 สิงหาคม 2564 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘หากแอบรักใครอยู่ ควรทำเงียบไปเลย เพราะเสี่ยงจะกลายเป็นมือที่สามโดยไม่รู้ตัว’

ดูดวงรายวัน 17 สิงหาคม 2564

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับการเดินทางติดต่อ วางเครือข่าย โครงข่าย หรือธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ รวมถึงธุรกิจส่งออกทุกประเภท หากคุณกำลังจะเริ่มต้นงานใหม่ที่นอกเหนือจากงานประจำ ซึ่งเป็นงานที่ท้าทาย มีการแข่งขันสูง ก็ไม่ควรวางตัวสนิทสนมกับลูกน้อง หรือรุ่นน้องมาก เพราะคุณยังไม่หมดโปรโมชั่น จะมีปัญหาและอุปสรรคเข้ามาตลอดๆ โดยเฉพาะดวงขัดแย้งกับบุคคลอื่นที่จะส่งผลให้คุณวิตกกังวล จนถึงกับท้อแท้ต่อโชคชะตาเลยทีเดียว ทางที่ดีควรใช้สติและปัญญาในการบริหารจัดการ ไม่ควรปล่อยให้โมหะหรือโทสะเข้าครอบงำ เพราะจะเกิดความเสียหายมากมายยากเกินกว่าจะแก้ไข

การเงิน  :  ต้องใช้แรงกาย แรงใจ ความเหน็ดเหนื่อยเข้าแลกจึงจะได้มา แต่ด้วยความที่คุณใจบุญทำบุญ ช่วยเหลือคนอื่นอยู่ตลอด หาเงินได้มาเท่าไหร่คุณก็ทำบุญหมด หรือบางทีก็ทำโดยไม่คิดถึงผลตอบแทน  หากขาดเหลืออย่างไร ทางบ้านคุณก็ซัพพอร์ตให้

ความรัก :  หากคุณแต่งงานอยู่ด้วยกันมานาน ก็ย่อมมีความเบื่อหน่ายกันบ้างเป็นธรรมดา แต่เพราะคุณไม่เปลี่ยนแปลงบรรยากาศรอบตัวให้ดีขึ้น ความเบื่อหน่ายจึงยิ่งมากขึ้นๆ ตามวันเวลาที่ผ่านไป จนถึงวันนี้ที่คุณเริ่มเบื่อหน่ายหนักกว่าทุกครั้ง จนคิดเลยเถิดไปถึงว่า แต่งงานกับคนผิดหรือเปล่า  คนโสด คุณมีเสน่ห์ แต่วันนี้อย่าเพิ่งตอบรับใครง่ายๆ เพราะมีความเสี่ยงที่จะเลือกคนผิด ปิดโอกาสที่จะได้เจอคนดีที่กำลังจะมาถึง

สุขภาพ  :  ออกจากบ้านควรเตรียมยาดม ยาหอม ยาประจำตัวไปด้วย เพราะคุณจะมีอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย จนถึงเป็นลม

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  สำหรับผู้บริหารหรืออยู่ในตำแหน่งบริหารงาน แม้คุณจะเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังทั้งกายและใจในการปกครองและบริหารคน แต่คุณต้องระวังเพื่อนร่วมงานหรือคนใกล้ชิดไว้ให้ดี เพราะมีความเป็นไปได้ว่าเขากำลังจะาแทงข้างหลัง หรือแอบเลื่อยขาเก้าอี้คุณอยู่ ทางที่ดีวันนี้คุณจึงควรใช้ปฏิภาณไหวพริบของตัวเองให้เป็นประโยชน์ เพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์เฉพาะหน้าไปให้ได้ก่อน ป้องกันความเสียหายหรือความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น

การเงิน :  คุณสามารถใช้เงินทำงานสร้างรายได้ที่สูงให้กับตัวเอง แต่วันนี้มีความเสี่ยงที่คุณจะได้รับผลตอบแทนที่ไม่เป็นธรรม ถูกชักดาบ หรือหากจะไปทวงหนี้ก็จะเจอลูกหนี้ประเภทไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย

ความรัก : มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาบุคคลที่สามนะคะ หากคุณมีประสบการณ์แบบนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก จึงมีความเป็นไปได้ที่วันนี้คุณจะรับไม่ไหวแล้ว  คนโสด คนที่คุณคิดว่าใช่ วันนี้มีความเป็นไปได้ว่า จะมีบุคคลที่สามเข้ามาวุ่นวาย ซึ่งจะทำให้คุณผิดหวังรุนแรงถึงกับตัดสินใจอยู่เป็นโสดเลย

สุขภาพ  : ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน เพราะมีโอกาสที่กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา หากในกรณีรุนแรงจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับการติดต่อประสานงาน การบริหารจัดการ และการให้คำปรึกษาแนะนำในด้านต่างๆ มีความเป็นไปได้ว่า จะได้ใช้ความรู้ ความสามารถ และทักษะความชำนาญเฉพาะด้านขั้นเทพของคุณในการทำงาน แต่วันนี้ไม่ควรกล้าหาญชาญชัย ใจร้อน วู่วามตัดสินใจโดยไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น ยึดแต่เหตุผลของเพื่อนพ้องน้องพี่ของตัวเองเป็นหลัก เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดการขัดแย้งจนถึงมีปากเสียงกัน และหากคุณผิดพลาดก็จะถูกรุมกระหน่ำซ้ำเติมทันที

การเงิน :  มีโชคในด้านการลงทุน สามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองมาตลอด แต่วันนี้ต้องระวังการลงทุนจะชะงัก ทำให้การเงินสะดุด ยิ่งหากคุณเข้าไปเกี่ยวข้องในงานที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ถูกหลักศีลธรรมอันดี ยิ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้มากขึ้น

ความรัก :  หากคุณมองความรักว่าเป็นสิ่งงดงาม วันนี้คุณอาจผิดหวัง เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องไม่ดีไม่งามขึ้นกับชีวิตคู่ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่าประชดตัวเอง รักตัวเองให้มากๆ คนโสด มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะได้ร่วมงานหรือพบรักกับชาวต่างชาติที่ฉลาดขึ้นเทพ แต่ก็อย่าไปหลงเพ้อละเมอหามากนัก ไม่เช่นนั้นคุณจะตกอยู่ในสถานภาพความรักที่ซ่อนเร้น เปิดเผยไม่ได้

สุขภาพ : มีความเสี่ยงที่ประจำเดือนจะมาไม่ปกติ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากเนื้องอกที่มดลูก หากในกรณีเพศชายก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคไตและโรคต่อมลูกหมากอักเสบ จึงควรไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับการติดต่อประสานงาน การบริหารจัดการ และการให้คำปรึกษาแนะนำในด้านต่างๆ วันนี้คุณไม่ควรกล้าหาญชาญชัย วู่วาม บุ่มบ่าม ในการบริหารจัดการงานจนไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่นเลย เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดและความเสียหายตามมา ทางที่ดีควรใช้ปฏิภาณไหวพริบของคุณทำงานเพื่อเอาตัวรอดกับปัญหาเฉพาะหน้าที่จะเกิดขึ้นไปก่อน แล้วในอนาคตอันใกล้นี้คุณจะได้พบช่องทางทำมาหากินใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเขียน นักวิทยาศาสตร์ นักค้นคว้าทดลอง ฯลฯ หากคุณอยู่กับการทำงานหนักมานาน คุณจะหายเหนื่อยเสียที

การเงิน :  จริงๆ แล้วคุณมีโชคในเรื่องของการลงทุนมาตลอด แต่วันนี้มีความเสี่ยงที่จะเสียรู้และเสียเงินด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงควรตรวจสอบให้ดียิ่งหากคุณควักกระเป๋าออกเงินทำงานไปก่อน

ความรัก :  คุณมีทิฐิและเชื่อมั่นในตัวเองสูงยอมหักแต่ไม่ยอมงอ ซึ่งวันนี้มีความเสี่ยงที่คุณอาจได้พบว่า คู่ไม่จริงใจ ทั้งๆ ที่รู้แต่คุณก็ไม่ปรับความเข้าใจ วางเฉยถึงขั้นแยกตัวจากครอบครัว ก็จะทำให้ครอบครัวร้าวฉานในที่สุด  คนโสด กี่ครั้งแล้วที่คุณวาดฝันถึงครอบครัวอย่างงดงาม แต่ก็ผิดหวังทุกครั้ง วันนี้คุณจึงขออยู่กับครอบครัวตัวเองดีกว่า

สุขภาพ :  มีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยด้วยโรคหัวใจ และโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ รวมถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลัง จึงมีโอกาสที่จะปวดหลัง จึงควรเน้นการออกกำลังและรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  คุณมีความเป็นศิลปินอยู่ในตัวสูงมาก ยิ่งหากได้ทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ งานวงการบันเทิง งานศิลปะ ดนตรี วรรณกรรม ออกแบบดีไซน์ จะยิ่งไปได้ไกล เพราะวันนี้คุณจะมีโอกาสได้ใช้ความรู้ ความสามารถ และบารมีจากตำแหน่งหน้าที่การงาน ทำงานในสายธรรมะ สายการกุศล รวมถึงสาย CSR ปฏิบัติงานเพื่อสังคมอย่างเต็มที่

การเงิน :  มีโชคค่อนข้างมาก ทั้งจากมรดกจากครอบครัว และจากความสามารถในการทำงานของตัวเอง แต่ก็ควรเก็บเงินไว้บ้าง เพราะวันนี้มีโอกาสที่คุณจะซื้อของเพื่อความสุขของตัวเอง รวมถึงเผื่อแผ่ให้คนอื่นด้วย

ความรัก :  หากคุณแต่งงานอยู่ในครอบครัวที่มีกฎระเบียบ ขั้นตอน พิธีการเป๊ะ วันนี้มีความเป็นได้ว่า คุณจะเริ่มอึดอัดกับการอยู่ในกรอบที่แข็งแกร่ง จนพยายามหาโอกาสที่จะแยกตัวออกมาอยู่ตามลำพัง คนโสด ก็ยังอยู่ในโหมดผู้หญิงเก่ง มีความรู้ และมีบารมีในตัวเอง แต่วันนี้ครอบครัวคุณจะเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกคู่ชีวิตด้วย

สุขภาพ : พลังคุณก็ยังเหลือเฟืออยู่นะคะ แต่วันนี้เริ่มที่จะต้องดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองบ้างแล้ว เพราะอากาศเปลี่ยน ภูมิแพ้จึงอาจมาเยือนคุณได้ มีความเป็นไปได้ว่าระบบหายใจจะขัดข้อง จามบ่อย หากเป็นไซนัสอยู่แล้ว ระวังจะกำเริบ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  สำหรับผู้ดำรงตำแหน่งอยู่ในระดับสูง ไม่ว่าจะภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ ธุรกิจ ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับสายเอ็นเทอร์เทน เช่น นักร้อง นักดนตรี พิธีกร ดีเจ ผู้ประกอบการสถานบันเทิง ร้านอาหาร บอกเลยว่า ความสำเร็จไม่ได้มาด้วยความบังเอิญ แต่ต้องแลกด้วยพลังกายพลังใจที่แรงกล้า โดยวันนี้คุณควรให้ความสำคัญกับการติดต่อประสานงาน การโฆษณาประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน หรือความเชี่ยวชาญชำนาญในการใช้ภาษา จะมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น

การเงิน :  คุณใช้ความสามารถในการทำงานสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้อย่างมั่นคง วันนี้มีความเสี่ยงที่คุณจะถูกคนใกล้ตัวหลอกให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานสีเทา หรือธุรกิจที่ไม่ถูกต้อง ที่แม้จะสร้างรายได้อย่างงดงาม แต่ก็เก็บไว้กับตัวไม่ได้นาน

ความรัก : วันนี้มีโอกาสที่คุณจะหลงใหลบุคคลที่ไม่ใช่คู่ จนถึงกับหลงทางกลับบ้านไม่ถูกเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นก่อนจะตัดสินใจทำอะไร ควรคิดถึงตัวเองด้วยว่า มีครอบครัวแล้ว คนโสด หากวันนี้คุณเลือกที่จะตัดปัญหาคนอื่นมายุ่งกับแฟน ด้วยการตัดสินใจไปอยู่ด้วยกันก่อน ก็ไม่น่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้องนัก

สุขภาพ :  ระวังอันตรายที่เกิดจากการขับขี่ หรือการเดินทางไม่ว่าจะทางบกหรือทางน้ำ ดื่มไม่ขับนะคะ เพราะแม้คุณจะดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองมาอย่างดี แต่หากประมาท อุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่มีกฎระเบียบชัดเจน มีขั้นตอนการทำงานเป็นระบบระเบียบ เช่น งานในหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ งานธุรการ งานบัญชี งานในโรงพยาบาล ฯลฯ มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้ร่วมงานกับทีมงานที่ดีมีความรู้ระดับปรมาจารย์เลยทีเดียว แต่ก็มีความเสี่ยงว่า คนใกล้ชิดหรือเพื่อนร่วมงานจะเกิดความอิจฉาริษยา จนสร้างปัญหาให้ยากจะแก้ไขได้ทัน เช่น แอบแทงข้างหลัง หรือเลื่อยขาเก้าอี้จนตำแหน่งคุณสั่นคลอน ยิ่งคุณไม่ชอบเปลี่ยนงานบ่อยๆ ด้วยแล้ว ยิ่งต้องระวัง

การเงิน :  รายได้มาจากทีมงานและผู้บังคับบัญชา แต่ก็ต้องระวังไม่ควรหลงเชื่อคำพูดที่มีหลักการมาขอให้คุณช่วยเหลือหรือร่วมทำธุรกิจ เพราะคุณเสี่ยงจะถูกหลอก ได้รับผลตอบแทนที่ไม่เป็นธรรม หากไปทวงก็จะเจอแบบไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย

ความรัก :  ก็ยังเสี่ยงที่จะมีปากเสียงกันนะคะ วันนี้จะเป็นเรื่องบุคคลที่สามที่จะเข้ามาวุ่นวายกับครอบครัวคุณ จนต้องโดดเดี่ยวตัวเอง หรือหาที่สงบๆ เพื่อป้องกันความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น คนโสด แอบรักใครอยู่หรือเปล่า วันนี้ควรทำเงียบไปเลย เพราะคนที่คุณถูกใจไม่ได้โสด มีแฟนแล้ว เพราะฉะนั้นคุณเสี่ยงกับการเป็นมือที่สาม

สุขภาพ :  มีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากของมีคม รวมทั้งมีโอกาสที่โรคที่เป็นมานาน วันนี้จะส่งสัญญาณเตือนให้คุณไปตรวจเช็กร่างกายโดยด่วน   

K-POP

รวยแบบไม่มีอะไรกั้น 10 ศิลปิน K-POP ที่สร้างรายได้จาก YouTube

Alternative Textaccount_circle
K-POP
K-POP

ไม่ใช่แค่ดาราไทยเท่านั้นที่ตอนนี้หันมาใช้ YouTube ในการสื่อสารกับแฟนๆ เพราะนอกเหนือจากจะทำให้แฟนคลับได้สนุกแล้ว พวกเขายังรับทรัพย์จำนวนไม่น้อยจากการทำคลิปวิดีโอ ซึ่ง  koreaboo ได้เปิดเผย 10 รายชื่อ K-POP ที่มีรายได้จำนวนมากจากการทำคลิป จากการประมาณการณ์ของ Social Blade เว็บไซต์ที่ติดตามสถิติโซเชียลมีเดียและจัดทำรายงานการวิเคราะห์เกี่ยวกับช่องทางโซเชียลมีเดียของคนดังและเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งจะเป็นใครบ้างนั้นไปติดตามกันเลยค่ะ

รวยแบบไม่มีอะไรกั้น 10 ศิลปิน K-POP ที่สร้างรายได้จาก YouTube

โบมี วง Apink

โบมี่ สมาชิกจากวง Apink สาวสวยที่หุ่นดีแบบนี้แต่แท้จริงแล้วเธอขึ้นชื่อลือชาเรื่องการกินแบบสุดๆ เธอมียอดผู้ติดตาม 812,00 คน โดยเธอสร้างช่องมาเมื่อเดือนเมษายน 2018 เธอก็มีแฟนๆแวะเวียนกันมาชมคอนเท้นต์ถึง 49 ล้านครั้ง คาดว่าเธอจะได้รับรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 7,300 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 231,000 บาท) และ 87,800 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.7 ล้านบาท) ต่อหนึ่งปี

K-POP

 เจ วง DAY6

ชายหนุ่มไม่กี่คนที่มีชื่อติดโผนี้คือหนุ่ม เจ วงDAY6  เขามียอดผู้ติดตามใน YouTube ประมาณ 889,000 คน โดยตั้งแต่ตั้งชื่อนี้มาเมื่อเดือนมกราคม 2016 เขามีผู้เข้าชมในชาแนลถึง 21 ล้านครั้ง  มีการประเมินว่าเขาน่าจะมีรายได้อยู่ที่  13,200 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 417,000 บาท) ต่อหนึ่งเดือน และ 157,900 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.9 ล้านบาท) ต่อหนึ่งปี 

K-POP

แทยอน วง Girls’ Generation

ต่อกันที่สาวแทยอน วง Girls’ Generation เธอมียอดผู้ติดตาม 1.2 ล้านคน โดยเธอเปิดชาแนลนี้เมื่อเดือนมกราคม 2014 มีผู้ชมดูคลิปของเธอมากถึว 38 ล้านครั้ง เธอถูกประเมินว่ามีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 63,000 บาท) และหนึ่งปีอยู่ที่ 23,700 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 749,868 บาท)

แทยอน วง Girls’ Generation

อีซูฮยอน วง AKMU

ส่วนคนนี้ทำเกือบลืมไปเลยว่าเป็นนักร้องสำหรับศิลปินสาวเสียงคุณภาพ อีซูฮยอน วง AKMU  ที่ตอนนี้กลายเป็นเจ้าแม่แห่งการรีวิวไปเสียแล้ว เพราะปัจจุบันเธอมีผู้ติดตามในชาแนล 1.45 ล้านคน และตั้งแต่เธอสร้างช่องขึ้นมาเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2017 มีคนเข้ามาชมคลิปของเธอมากถึง 60 ล้านครั้ง ซึ่ง Social Blade ได้วิเคราะห์ว่าเธอน่าจะมีรายรับ 12,300 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 389,000 บาท ) ต่อหนึ่งเดือน และจำนวน 147,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.6 ล้านบาท) ต่อหนึ่งปี

อีซูฮยอน วง AKMU

ฮยอนอา

อีกหนึ่งสาวที่มีสไตล์ที่โดดเด่นและมีผู้ชมติดตามมากก็คือไอดอลสาวสุดแซ่บ ฮยอนอา เธอมีจำนวนผู้ติดตามในช่อง  YouTube 1.45 ล้านคน มีข้อมูลว่าเธอสร้างช่องขึ้นมาเมื่อเดือนกันยายน 2019 แม้จะไม่นานนักแต่มียอดผู้ชมมากถึง 38 ล้านครั้ง  มีกาสรวิเคราะห์ว่าเธอน่าจะได้เงิน 6,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 200,000 บาท ) ต่อหนึ่งเดือน และ  78,400 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.4 ล้านบาท) ต่อหนึ่งปี

K-POP

เฉิน วง EXO

อีกหนึ่งหนุ่มที่น่าสนใจก็คือ เฉิน สมาชิกหนุ่มเสียงดีแห่งวง EXO เขามีผู้กด SUBSCRIBE ถึง 1.73 ล้านคนบนช่อง YouTube และตั้งแต่ก่อตั้งชาแนลนี้เมื่อเดือนมีนาคม 2019 เขามียอดผู้ชม 23 ล้านครั้ง ซึ่งผลการวิเคราะห์เปิดเผยว่า เขาน่าจะรับทรัพย์ 12,900 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 407,000 บาท ) ต่อหนึ่งเดือน และ 154,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.8 ล้านบาท) ต่อหนึ่งปี 

เฉิน วง EXO

โซลาร์ วง MAMAMOO

มาแรงต้องยกให้คนนี้ โซลาร์ วง MAMAMOO เธอมียอดผู้ติดตาม 2.24 ล้านคน ซึ่งนับตั้งแต่เธอเปิดช่องมาเมื่อเดือนมกราคม 2019 เธอก็มียอดผู้ชมมากถึง 110 ล้านครั้ง โซลาร์ถูกประเมินว่าเธอน่าจะมีรายรับจากช่องทางนี้ประมาณ 20,600 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 651,000 บาท) ต่อหนึ่งเดือน และ 247,300 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 7.8 ล้านบาท) ต่อหนึ่งปี

โซลาร์ วง MAMAMOO

แบคฮยอน วง EXO

อีกหนึ่งหนุ่มดาวเด่นแห่งช่อง YouTube ก็คือ แบคฮยอน วง EXO เขามียอดผู้ติดตามจากช่องทางนี้จำนวน 2.89 ล้านคน มีข้อมูลว่านับตั้งแต่พฤษภามคม  2019 ที่เขาสร้างชาแนลนี้ขึ้นมา ก็มีผู้เข้าชมคลิปมากถึง 34 ล้านครั้ง  โดยแบคฮยอนถูกประเมินว่ามีรายได้ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 110,000 บาท) ต่อหนึ่งเดือน และ 41,800 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.3 ล้านบาท) ต่อหนึ่งปี

แบคฮยอน วง EXO

ลิซ่า วง BLACKPINK

ด้านสาวลิซ่านอกจากจะโกยทรัพย์จากทางอินสตาแกรมแล้วยัง โกยรายได้มหาศาลจาก YouTube อีกด้วย ซึ่งอย่างที่ทราบกันลิซ่ามียอดคนกด SUBSCRIBE ทั้งสิ้น 3.68 ล้านคน โดยตั้งแต่เธอสร้างช่องในเดือนมีนาคม 2561 โดยมีคนกดดูคอนเท้นต์ของเธอจำนวน 107 ล้านครั้ง  มีการประเมินรายได้ในส่วนนี้ไว้คร่าวๆ   83,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.6 ล้าน) ต่อเดือน และจำนวน 996,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 31.68 ล้านบาท) ต่อหนึ่งปี

 ไอยู

สุดท้ายไอยูมียอดคนติดตามในชาแนล จำนวน 3.9 ล้านคน นับตั้งแต่สร้างช่องในเดือนกุมภาพันธ์ 2017 มีคนกดดูคอนเท้นต์ของเธอมากถึง 162 ล้านครั้ง  มีการประมาณการณ์ว่าเธอมีรายได้ 49,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.5 ล้านบาท) ต่อหนึ่งเดือน และจำนวน 588,600 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 18 ล้านบาท) ต่อหนึ่งปี 


ขอมูลจาก : koreaboo

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เจาะเรื่องเงินๆ ของ ลิซ่า BLACKPINK  ไอดอลสาวที่มีความรวยไม่ธรรมดา

คุณพ่อของลิซ่า BLACKPINK มาร์โค บรูชไวเลอร์ เชฟดังระดับโลก

ไม่ใช่แค่ LISA ! 4 ดาราเกาหลีที่ถูกโกงและกรรโชกทรัพย์ โดยผู้จัดการส่วนตัว

แมตเทอร์ เมกเกอร์ส

แมตเทอร์ เมกเกอร์ส ‘California Dreaming’ สดใสซาบซ่า สไตล์สาวแคลิฟอร์เนีย

account_circle
แมตเทอร์ เมกเกอร์ส
แมตเทอร์ เมกเกอร์ส

เมื่อเอ่ยถึงแบรนด์สตรีทแวร์ Matter Makers (แมตเทอร์ เมกเกอร์ส) ต้องพ่วงด้วยคำว่า exCOOLsive ดีไซน์ความเท่ที่ไม่เหมือนใคร และในคอลเลกชั่นล่าสุด “California Dreaming” (แคลิฟอร์เนีย ดรีมมิ่ง) ดึงเสน่ห์ซาบซ่า แบบสาวแคลิฟอร์เนีย ในช่วงฤดูร้อนอันแสนเย้ายวนที่เต็มไปด้วย แสงแดด สายลม ท้องทะเล ความมีชีวิตชีวาของสาวนักโต้คลื่นและความหลงใหลในกีฬาเอ็กซ์ตรีม สะท้อนผ่านลายพิมพ์กราฟิก ลวดลายต้นปาล์ม  และซิลูเอทที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร

Matter Makers ‘California Dreaming’ แฟชั่นสุดเท่ สดใสซาบซ่า สไตล์สาวแคลิฟอร์เนีย

บรรยากาศของเมือง เป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านการแต่งตัวของผู้คนบนท้องถนนซึ่งเป็นการผสมผสานมนต์เสน่ห์ของความเป็นเมือง ที่เน้นความกระฉับกระเฉง ว่องไว และคล่องตัว ออกมาเป็นชุด Sportswear อย่าง กางเกง และแจ็คเก็ตยีนส์ สีสันอันสดใสเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศในฤดูร้อน ในขณะที่บรรยากาศชายหาด ได้รับการบอกเล่าผ่านเส้นสาย และลายเส้นกราฟิกของลายพิมพ์หลักในคอลเลกชั่นนี้ ที่ยังคงแทรกอยู่บนเสื้อยืด และเสื้อฮาวาย ที่เป็นชิ้นโปรดของใครหลายๆ คนอีกด้วย

Matter Makers แบรนด์สตรีทแวร์ดีไซน์เท่ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงผสานความอ่อนหวานของหญิงสาวไว้ด้วยลูกไม้ปักดอก (Floral lace) คอตตอน ทวิล (cotton twill) และเนื้อผ้าที่เน้นส่วมใส่สบายอย่างผ้า Cotton และ Rayon ผสมผสานในโทนสีพาสเทลเฉดต่างๆ ซึ่งนำมาใช้ในชีวิตจริงได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น สีชมพู ฟ้า ม่วง เหลือง หรือเขียว แต่ยังคงมีความ casual และไม่ทิ้งความหลากหลาย

ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเชิ้ตลายกราฟฟิก โอเวอร์ไซส์ เพิ่มลูกเล่นด้วยดีเทลโบว์, เสื้อยืด (T-shirt) สกีนลายต้นปาล์ม และ เสื้อยืด ซิกเนเจอร์ ปักคำว่า Matter และตกแต่งด้วยระบายผ้าลูกไม้ เอาใจสาย mix and match แบบชาว Matter Makers

พบกับคอลเลกชั่น ‘California Dreaming’ ได้ที่ช่องทางออนไลน์ www.matter-makers.com หรือ Line: @mattermakers และร้าน Matter Makers เกษรวิลเลจ ชั้น 2 โทร 02-656-1388 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม โซนไทยดีไซน์เนอร์ และ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น 1 และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Instagram: @mattermakers  Facebook: https://www.facebook.com/mattermakers


 

สุดเฟียร์ส "ปันปัน" แต่งตาเทคนิค Cut Crease วาดสองชั้น เน้นรอยพับเปลือกตา

น่ารักเหมือนบาร์บี้ “ปันปัน” แต่งตาด้วยเทคนิค Cut Crease เน้นวาดรอยพับเปลือกตา

Alternative Textaccount_circle
สุดเฟียร์ส "ปันปัน" แต่งตาเทคนิค Cut Crease วาดสองชั้น เน้นรอยพับเปลือกตา
สุดเฟียร์ส "ปันปัน" แต่งตาเทคนิค Cut Crease วาดสองชั้น เน้นรอยพับเปลือกตา

น่ารักเหมือนบาร์บี้ “ปันปัน” แต่งตาด้วยเทคนิค Cut Crease เน้นวาดรอยพับเปลือกตา

ลุคล่าสุดของนักแสดงสาวสวย ปันปัน – สุทัตตา อุดมศิลป์ แต่งหน้าทำผมออกมาให้ฟีลคล้ายลุคแม่ทองกวาวกรุบกริบอยู่นะ แต่โททัลลุคโดยรวมน่ารักคล้ายตุ๊กตาบาร์บี้เลยทีเดียว

ปันปัน 6

โดยจุดที่เด่นสะดุดตาไม่เบาเลยคือลูกเล่นการแต่งหน้า ใช้เทคนิค Cut Crease ที่มีแรงบันดาลใจจากการแต่งตาในช่วงยุค 60 เป็นการแต่งตาโดยเน้นในส่วนของรอยพับบริเวณเปลือกตา ทำให้ดวงตาดูกลมโต แบ๊วเหมือนบาร์บี้ และมีลักษณะเหมือนตาสองชั้น โดยลุคนี้ได้ คุณเบสท์ luckysevenb เมคอัพอาร์ติสต์มาสะบัดแปรงแต่งให้สาวปันปัน

ปันปัน 4

โดยไอเท็มหลักของเทคนิค Cut Crease คือ อายแชโดว์ เป็นเทคนิคการแต่งตาที่วาดสองชั้นกำหนดรอยพับบริเวณเปลือกตา โดยใช้อายแชโดว์เฉดสีเข้มที่ด้านบนของรอยพับเปลือกตา และใช้คอนซีลเลอร์หรืออายแชโดว์สีอ่อนโทนสว่างเบลนด์เบาๆ บนเปลือกตาเพื่อทำเส้นตัด จากนั้นก็แต่งบริเวณขอบตาให้สีตรงหางตาบรรจบกับหางตาตรงรอยพับด้านบนที่วาดไว้ก่อนหน้านี้ เป็นอันสวยเสร็จแล้วค่ะ

น่ารักเหมือนบาร์บี้ “ปันปัน” แต่งตาด้วยเทคนิค Cut Crease เน้นวาดรอยพับเปลือกตา

ปันปัน 9 ปันปัน 8 ปันปัน 7 ปันปัน 5 ปันปัน 3 ปันปัน 2 ปันปัน 1


ภาพ : punpun_sutatta , luckysevenb , alexandul

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เก็บเคล็ดลับผิวขาวใสของ ปันปัน สุทัตตา พร้อมส่องของที่พกในกระเป๋าเป็นประจำ

ผิวสวยด้วยชาเขียวสไตล์ “หลิวอี้เฟย” ทั้งสูตรที่บำรุงประจำ และแบบเร่งรีบฟื้นฟูผิว

กู้ปัญหา ผิวขาดน้ำ แห้งกร้านแบบสาวฮ็อต Blake Lively ให้กลับมาอิ่มฟูสวยใส

 

ของขวัญและเค้กวันเกิด 'ซงจีฮโย' ฉลองอายุ 40 ปี

ล้นบ้าน! กองของขวัญและเค้กวันเกิด ‘ซงจีฮโย’ ฉลองอายุ 40 ปี

ของขวัญและเค้กวันเกิด 'ซงจีฮโย' ฉลองอายุ 40 ปี
ของขวัญและเค้กวันเกิด 'ซงจีฮโย' ฉลองอายุ 40 ปี

ละลานตาไปหมดกับกองของขวัญและเค้กสุดครีเอตที่แฟนๆ จัดให้เจ๊มง หรือ ซงจีฮโย ในวันคล้ายวันเกิดครบ 40 ปี ซึ่งเธอได้โพสต์ขอบคุณแฟนคลับในโอกาสนี้ด้วย

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ซงจีฮโย นักแสดงเกาหลีชื่อดัง ผู้รับบทนำในซีรีส์เรื่อง The Witch’s Diner ออกมาขอบคุณแฟนๆ และแบ่งปันภาพแห่งความสุข เนื่องในโอกาสอายุครบ 40 ปีของเธอ (คำนวณแบบสากล) แฟนๆ ของเธอหลายคนแสดงความรักในวันพิเศษด้วยการส่งของขวัญ เค้ก ดอกไม้ และคำอวยพรวันเกิดให้เธอ

ล้นบ้าน! กองของขวัญและเค้กวันเกิด ‘ซงจีฮโย’ ฉลองอายุ 40 ปี

ซงจีฮโยโพสต์รูปของขวัญมากมายที่เธอได้รับ และเขียนข้อความบนอินสตาแกรมว่า “ทุกคน ฉันขอขอบคุณอย่างจริงใจ ขอบคุณ ขอบคุณมากสำหรับการฉลองวันเกิดร่วมกันกับฉันทุกปี ขอบคุณสำหรับความรักของคุณ ฉันมีความสุขและมีความสุขในวันเกิดปีนี้เช่นกัน… ฉันจะเก็บความรู้สึกขอบคุณนี้ไว้ในใจเสมอ! ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”

ดูภาพของซงจีฮโย พร้อมเค้กสุดเจ๋งและสร้างสรรค์มากมายที่แฟนๆ ส่งให้เธอด้านล่างนี้


ภาพ : IG@my_songjihyo

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เปิดวาร์ปร้าน สร้อยข้อมือผีเสื้อ ของขวัญที่ พัคแจออน ทำให้ ยูนาบี

สวยหล่อคู่ฟ้าประทาน! ส่องลุค หยางหยาง-ตี๋ลี่เร่อปา ในวันแห่งความรักของจีน

สวยสะพรั่งสดใส ‘เลดี้คิตตี้’ ในทริปฮันนีมูน จัดเต็มชุดลายดอกเกือบแสน!

 

แฮปปี้เมท

Happy Family, Happy Life, แฮปปี้เมท … กินดี สุขภาพดียกบ้าน

account_circle
แฮปปี้เมท
แฮปปี้เมท

ตั้งแต่แต่งงานมีลูก ชีวิตของหลิงก็เหมือนคุณแม่หลายท่าน คือมีพาร์ทของงาน (ผู้บริหารบริษัท สามพรานฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ แฮปปี้เมท) กับอีกพาร์ทคือการเป็นแม่ของลูกๆ ทั้งสาม (พุด-พุฒิลักษมณ์ 15 ปี, กิมมี่ -ภริดา 13 ปีมม, เคน – ภูริวัฒน์ 11 ปี) และการเป็นภรรยาดูแลสามี (คุณหวัง -สมหวัง เลิศสกุลเจริญ กรรมการผู้จัดการแบรนด์ ไร่ทิพย์) ด้วย

สำหรับหลิง เราจะทำงานได้ดี ครอบครัวต้องมีความสุข สุขภาพดี การให้ความสำคัญเรื่องอาหารจึงมาเป็นอันดับหนึ่งค่ะ หลิงจึงลงมือทำอาหารเองเป็นหลัก

Happy Family, Happy Life, แฮปปี้เมท … กินดี สุขภาพดียกบ้าน

พ่อ-ลูกสายเนื้อ

บ้านหลิง คุณหวัง ยังกินเนื้อสัตว์กับดื่มแอลกอฮอล์บ้าง แต่พื้นฐานเรื่องอาหารของเขาค่อนข้างดีมาก เพราะโตมาในบ้านที่เน้นข้าวกล้อง น้ำพริก-ผัก สะเดาที่ว่าขมคุณหวังกินได้สบาย แค่ว่าตอนนี้พออายุมากขึ้น โรคตามวัยก็มีบ้าง เช่น ปวดท้องเพราะมีแก๊ส หลิงจึงให้เขากินกระเจี๊ยบลวก 3 ฝักทุกเช้า เพราะมีสรรพคุณช่วยรักษาอาการปวดท้องได้ ปรากฏว่า ดีขึ้นมาก

“ส่วนลูกๆ ยังกินเนื้อสัตว์เหมือนพ่อ ใจจริงหลิงคิดว่า เด็กๆ ไม่จำเป็นต้องกินเนื้อสัตว์เลยค่ะ ถ้าลองเปรียบเทียบให้เห็นภาพ นมถั่วเหลืองกับนมวัว ขนาด 200 ml เท่ากัน โปรตีนของนมถั่วเหลืองยังมากกว่า แถมยังไม่มีไขมันอิ่มตัว หรือคอเลสเตอรอลเท่ากับนมวัว เพราะฉะนั้นลูกไม่จำเป็นต้องกิน แต่ความคิดเห็นของแม่และพ่อไม่ตรงกัน เพราะคุณหวังก็อยากให้ลูกกินเนื้อสัตว์ เราจึงเจอกันตรงกลางคือ ทุกมื้อต้องมีผักและกินให้มากหน่อยในทุกมื้อ”

“ไลฟ์สไตล์การกินของลูกๆ ต่างกันบ้าง เริ่มจาก พุด กินง่ายมาก แม่ทำอะไรให้ก็กินหมด แล้วเขาชอบนมวัวมาก แต่น่าจะแพ้เพราะมักจะมีผื่นขึ้นตลอด ใจจริงหลิงไม่อยากให้ลูกดื่มเลย เพราะกังวลเรื่องการฉีดฮอร์โมนเร่งผลิตน้ำนม แต่ก็ไม่ได้ห้าม ใช้วิธีซื้อนมถั่วเหลืองและนมอัลมอนด์ทุกรสมาแช่เย็นเป็นทางเลือกให้เขา บวกกับทำนมถั่วเหลืองให้ด้วย

“สำหรับกิมมี่ เขาป่วยเป็นโรคหัวใจตั้งแต่เกิด จึงกินน้อยเพราะย่อยไขมันไม่ค่อยได้ แต่ความที่เขามีนิสัยชอบกินตามแม่ หลิงจึงใช้ตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ เช่น หลิงชอบ nutritional yeast  (ยีสต์สำหรับชาววีแกน) กิมมี่ก็ชอบตาม แล้วของโปรดกิมมี่คือ ขนม หลิงจึงพยายามเลือกชนิดที่มีประโยชน์ติดตู้เย็นไว้

“ส่วนเคน เลือกกินมากกว่าพี่ๆ ที่สำคัญนอกจากชอบเนื้อสัตว์ยังไม่ชอบผักด้วย  แม้เมื่อเทียบกับเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน เขายังกินผักในปริมาณที่ใช้ได้ แต่ก็ต้องคอยเตือนว่า กินหมูได้ แต่ผักต้องหมดด้วยนะลูก”

คุณแม่สายผัก

“สำหรับหลิงซึ่งเป็นคนเดียวในบ้านที่กินแบบ Plant- Based Whole Food ไม่กินเนื้อสัตว์ เมื่อก่อนหลิงสามารถซดน้ำแกงที่มีเนื้อหมูได้ แต่ตอนนี้ไม่อยากกินไขมันสัตว์แล้ว เวลาทำอาหาร จะทำให้ลูกและสามี 1 ชุด กับของตัวเองอีก 1 ชุดแยกไปเลย ซึ่งมักจะเป็นเมนูเรียบง่ายค่ะ เช่น แกงใส่ผัก, เทมเป้ย่างกับผักลวก หรือชีสซอส ฉะนั้นหลักๆ ในตู้เย็นจะมีผัก เทมเป้ ถั่วแระญี่ปุ่น ผักขมแช่แข็ง มีนัตโตะของว่างที่มีประโยชน์ลูกๆ ชอบมากติดไว้ตลอด”

ทุกมื้อ…ต้องมีผัก

“แม้หลิงจะกินต่างจากคนอื่น แต่ไม่เคยทะเลาะกันเรื่องอาหาร เราจะเจอกันครึ่งทาง คือ ทุกมื้อต้องมีผัก จะเตือนทุกคนเสมอว่า ถ้าไม่กินผัก โรคมะเร็งลำไส้, โรคอ้วน, โรคเบาหวาน จะถามหานะ เพราะถ้าเรากินแต่เนื้อสัตว์อย่างเดียว จะไม่มีไฟเบอร์ไปดูดซับสิ่งที่ตกค้างออกไปจากลำไส้ เพราะฉะนั้นทุกมื้อต้องมีผักครึ่งหนึ่ง เมนูโปรดของครอบครัวคือ เควสซาดิลญ่า ที่ใช้แผ่นแป้งทอเทียญ่า ใส่เทมเป้ อะโวคาโด หอมใหญ่ มะเขือเทศ เติมไข่ต้มฝาน ประกบด้วยแป้งทอเทียญ่าอีกแผ่น จี่บนกระทะให้กรอบทั้งสองด้าน”

รับรองว่าอร่อยจนทุกคนติดใจเลยค่ะ 


เรื่อง จันทิมา ติยะวัชรพงศ์ ภาพ อิทธิศักดิ์

ผู้ช่วยช่างภาพ ภาดร ขจรฤทธิ์ สไตลิสต์ Up_khampoo

แต่งหน้า เนตรระตรี สัมพันธวงศ์ ทำผม ตริน ดิน

นางงามระดับนานาชาติ

อัปเดตชีวิต นางงามระดับนานาชาติ บิ๊นท์-สิรีธร ทุกก้าวขับเคลื่อนด้วยความมั่นใจ

Alternative Textaccount_circle
นางงามระดับนานาชาติ
นางงามระดับนานาชาติ

อัปเดตชีวิตและเส้นทางที่ขับเคลื่อนด้วยความมั่นใจ ของ บิ๊นท์-สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ Miss International 2019  เด็กสาวธรรมดาที่ชีวิตเปลี่ยนไปหลังกลายเป็นนางงามระดับนานาชาติ

หลังจากที่ได้คว้าตำแหน่ง Miss International มาได้สำเร็จ ชีวิตของสาวธรรมดาอย่าง “บิ๊นท์-สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์”  ก็แตกต่างไปจากเดิม เธอกลายเป็นคนดังมากๆ ในข้ามคืน และได้ลองประสบการ์ใหม่ๆ หลายด้สนในวงการบันเทิง าแต่อย่างที่หลายคนรู้กันเมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 ทำให้งานต่างๆ ต้องหยุดลงไปด้วย แต่ไม่ต้องคิดถึงกัน เพราะหากใครได้ติดตามสื่อโซเชียลมีเดียของเธอคนนี้จะเห็นว่าบิ๊นท์มักจะอัปเดตเรื่องราวอยู่เสมอโดยเฉพาะในแง่ของการให้ความรู้เกี่ยวกับการรับประทานยา ซึ่งเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญในฐานะเภสัชกร

วันนี้จึงขอพาทุกคนมาพูดคุยกับ “บิ๊นท์” กับความหมายของการได้ค้นพบตัวตน ความชอบ ความฝันของตัวเอง ความมั่นใจ ท้อได้แต่ไม่หยุด เรียนรู้พัฒนาตัวเอง ด้วยมายด์เซที่เปิดกว้างเต็มไปด้วยความสนุกกับทุก Passion ของ บิ๊นท์” สิ่งเหล่านี้คือคำตอบและเหตุผลที่ทำไม “บิ๊นท์” ถึงสวยเปล่งประกาย เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพ เก่ง และเชื่อว่าทุกผลงานหลังจากนี้ จะไม่ทำให้แฟนคลับผิดหวังอย่างแน่นอน

อัปเดตชีวิต นางงามระดับนานาชาติ บิ๊นท์-สิรีธร ทุกก้าวขับเคลื่อนด้วยความมั่นใจ

นางงามระดับนานาชาติ

อยากให้พูดถึงตัวเองตั้งแต่วันแรกที่เข้าวงการบันเทิงจนถึง “บิ๊นท์” ในวันนี้

“เป็นอะไรที่อยากทำมาตั้งแต่ตอนเด็ก พอได้มาทำจริงๆมันอิ่มใจนะ สนุกไปซะทุกอย่าง มันก็มีเหนื่อย ท้อ ทุกข์บ้าง แต่มวลรวมเรายังสนุกกับตรงนี้สุดๆไปเลย จนตอนนี้ก็รู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกเดินตามความฝัน และขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาส ผู้ใหญ่ทุกคน เพื่อนร่วมงาน แฟนๆ น่ารักมากๆ”

ความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย คิดว่ามาจากอะไร 

“คิดว่ามาจากความกล้า และมั่นใจเป็นหลักเลย ถ้าอะไรที่เราชอบ เราอยากทำ เราจะลุยสุด กล้าทำอย่างมั่นใจ เพราะมีคติประจำใจว่า ‘ถ้ามีมนุษย์คนอื่นเคยทำสิ่งที่เราอยากทำได้ เราก็ต้องทำได้แหละน่า!’ พอมั่นใจ ไม่มีอะไรต้องรอแล้วพุ่งเลย กล้าเหยียบไปบนความฝันที่ตัวเองอยากทำ สุดท้ายไม่รู้หรอกว่าจะสำเร็จไหม แต่อย่างน้อยการเหยียบลงมาในความฝันทำให้เรามีโอกาสสำเร็จแล้ว 50%”

ตอนนี้เปลี่ยนบทบาทจากนางงามสู่นักแสดง “บิ๊นท์” มองเส้นทางจากนี้ยังไงบ้าง

“อีกยาวไกลเลยค่ะ ยังขรุขระ ไม่ราบเรียบ เราคงเป็นเหมือนรถยนต์บนถนนยางมะตอยละ ที่เป็นถนนเส้นใหม่ แล้วเราต้องผ่านไปให้ได้ ซึ่งระหว่างทางยางมะตอยก็คงให้ประสบการณ์ ความคิดใหม่ๆ ความท้าทายมากมายให้บิ๊นท์แน่นอน ก็เตรียมใจรับทุกคำชมและวิจารณ์ เพราะบิ๊นท์ไม่หยุดแน่นอน จะพัฒนาให้ดี สมกับที่อยากทำให้ได้ค่ะ”

ไลฟ์สไตล์ไหนบ้างที่ทำให้ “บิ๊นท์” แฮ็ปปี้ 

“บิ๊นท์รักการทำโปรเจคมาก ริเริ่มทำอะไรต่างๆนี่ชอบมาก การมีโปรเจ็คทำให้เรามีจุดมุ่งหมาย หรือ passion ในการใช้ชีวิตชัดมากๆ เราเลยมีความสุขทุกครั้งที่โปรเจ็คที่เราทำมันกำลังก่อร่างสร้างเป็นตึกในเมืองของเรา พอทำสำเร็จมันเหมือนเราชนะเกมเลยค่ะ มันสนุก และอยากทำต่อไปเรื่อยๆ”

แฟชั่นลุคไหนบอกความเป็น “บิ๊นท์”

“Streetwear ค่ะ คนอาจติดภาพบิ๊นท์เป็นสาวหวานจากการได้ตำแหน่งมิสอินเตอร์เนชันแนล แต่ตัวตนบิ๊นท์คือเป็นคนทำอะไรเร็ว ติดดิน เหมือนเด็กผู้ชาย ดังนั้นเราจะไม่ค่อยพิถีพิถัน หรือใส่ชุดอะไรหวาน กรุยกรายมากนัก แต่มันก็แล้วแต่อารมณ์ และโอกาสด้วยนะคะ บางอารมณ์ก็อยากเปรี้ยว อยากหวาน (หัวเราะ) แต่ถ้าเมนหลักเลยเราคือสตรีทแวร์ค่ะ”

มายด์เซทอะไรที่ “บิ๊นท์” นำมารับมือในยุคโควิดและเรื่องไม่คาดฝัน

“เป็นคำพูดที่บิ๊นท์คิดกับตัวเองบ่อยมากค่ะ คือ ‘ทำไมฉันต้องแพ้เธอยัยโควิด’ (หัวเราะ) คือมันเป็นคำที่พูดกับตัวเองเวลาที่กำลังจะท้อที่ว่า เราอยู่บ้านนานเกินไปแล้ว สิ่งที่แพลนควรจะได้ทำกลับไม่ได้ทำ มีความเครียดอยู่แล้ว ก็ปล่อยตัวเองให้เครียดได้นะ แค่เราต้องรับรู้ว่าตัวเองกำลังเครียด แล้วค่อยๆ คุย ค่อยๆ คิดกับตัวเองว่า โควิดจะไม่อยู่ตลอดไป แต่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล ดังนั้นเราเลยรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายมากๆ กับชีวิตหลังโควิด ช่วงนี้เราเตรียมตัวทำอะไรได้บ้าง เพื่อที่ว่าหมดโควิด เราจะกลับมาผงาด (หัวเราะ) นอกจากเตรียมตัวหลังหมดโควิด ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาหนึ่งที่เราจะสามารถเติมเต็มความฝันของการเป็นนางงามเภสัชกรที่ช่วยเหลือคนได้มากๆ เราเลยรู้สึกว่าดีเลย ความเป็นเภสัชกรของเราจะช่วยคนได้มากในช่วงนี้ เราจะทำ มันเหมือนเราอยากให้คนไทยที่ฟังเราให้ความรู้เรื่องยา รับเรื่องที่เราพูดให้ได้มากที่สุด ยายกให้เขาดูแลตัวเองได้ในสถานการณ์แบบนี้”

เล่าถึงความตั้งใจหลังทำคลิปความรู้แนะนำเรื่องสมุนไพรการรักษาโควิด

“ตั้งใจมากค่ะ หาข้อมูลเป็นวันๆ บางที 2-3 วัน เราจะไม่เร่งตัวเองให้รีบออกคลิปมา ทุกคลิปจะถูกรีเช็กโดยตัวเอง เพื่อนบุคลากรการแพทย์ สาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง คณะเภสัชมหิดลของบิ๊นท์ อาจารย์ก็ช่วยกันดู มันก็เลยออกมาช้า แต่เราชัวร์ เรามั่นใจมากเวลาโพสต์ออกไป เพราะข้อมูลทางการแพทย์หรือยานี่วิ่งตลอด มันถกกันได้ แต่แค่ว่าให้มันผิดพลาดน้อยที่สุด คนไข้หรือคนฟังจะได้รับประโยชน์สูงสุด”

อนาคตแฟนคลับที่ติดตาม “บิ๊นท์” จะได้เห็นโปรเจ็คต์อะไรอีกบ้าง

“โปรเจ็คต์เกี่ยวกับความรู้เรื่องยาทาง tiktok เลยค่ะ บิ๊นท์คิดว่าหลังจากนี้คงทำต่อไปเรื่อยๆ เพราะเราเห็นแล้วว่าการที่เราเป็นทั้งนางงามและเภสัชกรมันมีพลังเสียงแค่ไหน ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะคะ ยินดีฟังทั้งคำชมคำติค่ะ”

ผลงานวงการบันเทิงหลังจากนี้

“บิ๊นท์จะมีละคร 1 เรื่องกับซิตคอม 1 เรื่องกับช่อง one31 ค่ะ หลังจบโควิดคงได้เห็นหน้ากันทางจอแก้วแล้ว”

ฝากถึงแฟนๆที่ติดตาม

” ขอบคุณที่ติดตามนะคะ อยากให้ติดตามกันต่อไปเรื่อยๆ บิ๊นท์มีความสุขมากเวลาเห็นคอมเม้นท์ทุกคน ตอบไม่หมด แต่อ่านเก่งมาก (หัวเราะ) ทุกคนทำให้บิ๊นท์มีพลังทำสิ่งดีดีต่อไปค่ะ ฝากช่องทางของบิ๊นท์ด้วยนะคะ”


 

ชุดแต่งงานสไตล์สูท

รวมแบบ ชุดแต่งงานสไตล์สูท สุดชิคสำหรับ เจ้าสาว สายเท่ แต่เซ็กซี่

account_circle
ชุดแต่งงานสไตล์สูท
ชุดแต่งงานสไตล์สูท

นอกจากชุดแต่งงานแบบกระโปรงที่เป็นที่นิยมสำหรับเจ้าสาวแล้ว ชุดแต่งงานสไตล์สูท ตอนนี้ก็เรียกได้ว่ามาแรงไม่แพ้กัน เหมาะกับเจ้าสาว สายเท่ แต่เซ็กซี่ มีความแกลมอีกด้วย

ชุดแต่งงานสไตล์สูท มีหลากหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบเรียบ สไตล์มินิมอล หรือ เจ้าสาวที่ชอบงานดีเทล อาจเพิ่มงานลูกไม้ คริสตัล มุก หรือ ผ้าทูล เพิ่มความหวาน ความแกลมให้กับชุด เหมาะกับวันพิเศษของคุณมากยิ่งขึ้น

แพรวเวดดิ้ง รวมแบบ ชุดแต่งงานสไตล์สูทสุดชิคสำหรับ เจ้าสาว สายเท่ แต่เซ็กซี่ มาให้คุณๆ ได้ดูกัน เผื่อเป็นไอเดียในการเลือกชุดกันค่ะ

ชุดแต่งงานสไตล์สูท ชุดแต่งงานสไตล์สูท ชุดแต่งงานสไตล์สูท


ภาพ : www.marthastewart.com

สมาคมมีเดียฯ ปรับการคาดการณ์งบประมาณการใช้สื่อตลอดปี 2564 จะกลับไปติดลบอีก 2.7% ลดลงต่อเนื่องจากปีที่แล้วที่ จากผลกระทบโดยตรงของการระบาดระลอกใหม่ที่มียอดคนติดเชื้อ Covid-19 เฉลียแตะวันละ 2 หมื่นคน

(10 สิงหาคม 2564) สมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) คาดการณ์ภาพรวมงบประมาณการใช้สื่อปี 2564 ลดลง 2.7% โดยมีภาพรวมการใช้สื่ออยู่ที่ 101,738 ล้านบาท

สำหรับปี 2564 นี้ ดร. ธราภุช  จารุวัฒนะ นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทยคนใหม่ (Media Agency Association of Thailand : MAAT)  เปิดเผยถึงปัจจัยลบที่จะส่งผลให้ตัวเลขการใช้สื่อโฆษณาลดลงจากที่สมาคมฯ เคยคาดการณ์ว่าจะเป็นบวกจากงบการใช้สื่อในครึ่งปีแรกที่มีภาพบวกกว่า 5.2% โดยมีการคาดการณ์ปีนี้ว่าภาพรวมจะถดถอยลงไปไม่มากที่ 2.7% เทียบจากปีที่แล้ว  “ภาพรวมสถานการณ์การระบาดระลอกล่าสุด ของ COVID-19 จะส่งผลกระทบที่ค่อนข้างชัดเจนในไตรมาส 3 และต่อเนื่องไปถึงต้นไตรมาสที่ 4 ที่เศรษฐกิจยังเผชิญกับการระบาดที่รุนแรงขึ้นจากสายพันธุ์เดลต้าจนโรงพยาบาลที่มีอยู่ไม่สามารถรองรับคนป่วยที่ติดเชื้อใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล อีกทั้งมาตรการควบคุมการระบาดที่จะต้องเข้มงวดขึ้น ทำให้หลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงักมากขึ้น อีกทั้งการระบาดที่เริ่มแผ่ลามถึงภาคการผลิตและภาคบริการ ทำให้มีผลกระทบมาที่ทุกมีเดียเอเจนซี่ ที่ต้องมีการปรับแผนงานช่วยเหลือให้ลูกค้าเจ้าของสินค้าและบริการตามสถานการณ์ ปัญหาใหญ่จะอยู่ที่การควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศให้ลดลงโดยเร็ว ด้วยการร่วมมือของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนออกมาทำโรงพยาบาลสนามมากขึ้น ตลอดจนการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ให้เร็วที่สุด เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถค่อยๆ กลับมาดำเนินต่อได้มากขึ้นใกล้เคียงกับช่วงก่อนการระบาด”

นางสาวกนกกาญจน์  ประจงแสงศรี ที่ปรึกษาสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย เสริมว่า “เมื่อพิจารณางบประมาณการใช้สื่อในปี 2564 ประกอบกับภาพการระบาดอย่างต่อเนื่องของสายพันธุ์เดลต้า สื่อโฆษณาที่แทบทุกสื่อจะอยู่ในสภาพลบต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เป็นไปตามผลกระทบของ CODIV-19 ที่มีผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค มาตรการเพื่อความปลอดภัย ที่ส่งผลให้ สื่อหลักอย่างสื่อโทรทัศน์ (รวมเคเบิ้ลทีวีและโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม) ลดลงเพียงเล็กน้อยแค่ 3% สื่อกลางแจ้ง (Outdoor) ลดลงใกล้เคียงกันที่ 4% ในขณะที่สื่อโรงภาพยนต์ (Cinema) ลดลงอย่างต่อเนื่องจากปีแล้วอีก 26% รวมถึงสื่อเคลื่อนที่ (Transit) ที่ลดลง 18% และสื่อนิตยสาร (Magazine) 16% จากมาตรการล็อกดาวน์และนโยบายเวิร์คฟรอมโฮม  ในขณะที่สื่ออินเทอร์เน็ตและสื่อออนไลน์ จะยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องอีก 14% และสื่อ ณ จุดขาย (In-Store) ที่จะกลับเป็นบวกที่ 4%

 

สมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย

นางสาวกนกกาญจน์  กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ปัจจัยที่มีผลต่ออุตสาหกรรมโฆษณาปี 2564 โดยตรงคือ GDP ที่เติบโตแค่ 0.7% ส่งผลโดยตรงต่อสภาพคล่องการใช้จ่ายของประชาชนและธุรกิจโดยรวมถึงแม้จะมีการสนับสนุนจากภาครัฐต่างๆ และการใช้สื่อของนักการตลาดที่จะต้องมีความหลากหลายในการเลือกใช้กลยุทธเพื่อเข้าถึงการใช้ชีวิตแบบ new normal ของผู้บริโภค ประกอบกับการวัดผลของนักการตลาดที่หลากหลายมิติมากขึ้นในทุกแพลตฟอร์มโดยเฉพาะช่องทางออนไลน์และการใช้โซเชียลคอมเมอร์สให้เป็นประโยชน์กับกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงนี้”

นอกจากนี้ทางสมาคมฯ ได้ประเมินการขยายตัวของค่าสื่อ (Media Inflation) ในครึ่งปีหลังของปี 2564  ค่าสื่อส่วนใหญ่ยังคงราคาไว้ที่ราคาเดิม จะมีเพียงสื่อโทรทัศน์โดยรวม ที่จะการปรับขึ้นประมาณ 3.6% ในขณะที่สื่อสิ่งพิมพ์จะลดลงไปอีก 4%

ดร. ธราภุช  ได้กล่าวเพิ่มเติมในตอนท้ายว่า “ถึงแม้ปี 2564 จะเป็นอีกปีที่ทุกธุรกิจยังจะต้องดำเนินต่อไปด้วยความลำบาก ที่ต้องเผชิญปัญหาที่ต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ทั่วโลก และทุกอุตสาหกรรม แต่เราต้องมองปัญหาในมุมใหม่เพื่อเป็นโจทย์ความท้าทายที่ นักการตลาด นักวางแผนสื่อ ที่ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวด้วยกลยุทธใหม่ๆ ที่เฉียบคม ด้วยความเข้าใจในผู้บริโภคและการวางแผนสื่ออย่างแยบยล บริหารจัดการเม็ดเงินที่มีให้ตรงกลุ่มเป้าหมายและคุ้มค่า ความเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ในยุค new normal ที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว เพื่อปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที ทุกคนทั้งนักการตลาด และเอเจนซี่ต้องให้ความสำคัญของผู้บริโภคมาก่อน ถ้าผู้บริโภคอยู่ได้ แบรนด์ ธุรกิจ สื่อและเอเจนซี่ก็จะอยู่ได้ ในวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอ”

keyboard_arrow_up