เฉลิมฉลองฤดูกาลแห่งวันหยุด ส่งท้ายปีกับ Swarovski และบลู-พงศ์ทิวัตถ์

account_circle

ก้าวเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของปี ฤดูการแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลวันหยุดได้เริ่มขึ้นแล้ว! มาร่วมส่งท้ายปี 2024 ไปพร้อมกับ Swarovski และบลู-พงศ์ทิวัตถ์ ตั้งวันเจริญ Friend of Swarovski ชายคนแรกของประเทศไทย เฉลิมฉลองฤดูกาลนี้ด้วยความสง่างาม ความเปล่งประกาย และความมหัศจรรย์อันหรูหราด้วยคอลเลกชัน Fall-Winter 2024 ของ Swarovski ที่มาในโทนสีน้ำเงิน และสีขาวสดใส สะท้อนถึงเอกลักษณ์ และความเป็น Swarovski อย่างแท้จริง

บลู-พงศ์ทิวัตถ์สะกดทุกสายตาในโททัลลุคสีฟ้าอ่อน ขับลุคให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยสร้อยคอ และสร้อยข้อมือ Tennis Millenia ที่ถูกเจียระไนในทรงแปดเหลี่ยม ไล่โทนสีน้ำเงินอย่างงดงาม พร้อมเพิ่มความเปล่งประกายให้กับลุคด้วยสร้อยข้อมือ และต่างหูหนีบตระกูล Matrix สีขาวเจียระไนเล่นแสงอย่างมีชีวิตชีวา สร้างความรู้สึกหรูหรา และทันสมัยอย่างลงตัว

ในช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้ เสริมลุครับวันหยุดกับ Swarovski ให้ส่องประกายด้วยสร้อยคอ Millenia สีน้ำเงินที่สะท้อนถึงตัวตนของแบรนด์ Swarovski พร้อมด้วยเข็มกลัด Idyllia อันประณีต ที่ผสมผสานเหลี่ยมเจียระไนหลากหลายรูปแบบ และถูกออกแบบมาในลวดลายเกล็ดหิมะสีขาว มอบความรู้สึกสดชื่น และเข้ากับบรรยากาศฤดูหนาวในช่วงสิ้นปีอย่างลงตัว สร้างลุคที่หรูหรา และสะท้อนถึงสไตล์ที่ทันสมัย และความอบอุ่นในเทศกาลที่เต็มไปด้วยความรัก และการเฉลิมฉลอง

Swarovski เชิญชวนทุกท่านมาร่วมเฉลิมฉลองแฮปปี้โมเมนท์ส่งท้ายปีกับ Swarovski ด้วยเซ็ตน้องหมี Kris Bear ที่มาพร้อมกับสีสันสดใสในโทนสีชมพู สีเขียว สีเหลือง และสีน้ำเงิน ซึ่งรังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองโอกาครบรอบ 30 ปีของตัวละครหมี Kris Bear สุดน่ารัก ที่จะช่วยแต่งแต้มวันหยุดของคุณให้มีสีสัน พร้อมรับปี 2025 อย่างเต็มที่


Marc Jacobs X The Wizard of oz การคอลลาบอเรชั่นพิเศษ คอลเลกชั่นมหัศจรรย์แห่งโลกเวทมนตร์

account_circle

Marc Jacobs เปิดตัวคอลเลกชันแบบพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ร่วมกับ Warner Bros. Discovery Consumer Products เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 85 ปีของ The Wizard of Oz โดยสะท้อนถึงความหลงใหลส่วนตัวของดีไซเนอร์ Marc Jacobs ต่อภาพยนตร์ ซึ่งมีอิทธิพลต่อผลงานอันแสนโดดเด่นของเขามาอย่างยาวนาน คอลเลกชันใหม่นี้นำ The Wizard of Oz ให้เราได้สัมผัสกับประสบการณ์จริง ผ่านชิ้นงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของแบรนด์ เช่น The Tote Bag, The Snapshot และ The Sack Bag

คอลเลกชันนี้คือการผสมผสานเสน่ห์คลาสสิกของ Yellow Brick Road เข้ากับความสร้างสรรค์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Marc Jacobs นำเสนอเสื้อผ้าสุดโดดเด่นที่มอบความเป็นแฟชั่นในเมืองไปพร้อมกับเวทมนตร์ที่สนุกสนาน ตั้งแต่กระเป๋าผ้าเดนิม “Not in Kansas” กระเป๋าหนัง “Emerald City” จนไปถึงรองเท้า Kiki Mary Janes ประดับอัญมณีสีแดง ทุกชิ้นสะท้อนให้เห็นถึงตัวละครที่เป็นที่รักอย่างโดโรธีและเพื่อนๆ ในสไตล์ที่สดใหม่และทันสมัย คอลเลกชันนี้จึงดึงดูดอิทธิพลทางวัฒนธรรมอันยาวนานของ Oz โดยส่งมอบให้แฟน ๆ ได้เฉลิมฉลองเวทมนตร์ในช่วงเทศกาลนี้อย่างมีสไตล์ไม่เหมือนใคร

สามารถติดตาม @marcjacobs และ @patluxurygroup.official บนโซเชียลมีเดียเพื่ออัพเดทข้อมูลและคอลเลกชั่นใหม่ๆ


เปิดประวัติ ‘ชุดไทยสิริพัสตรา ศิวาลัย‘ ที่ โอปอล สุชาตา สวมใส่ในงานเปิดตัวมงกุฎ Miss Universe 2024

Alternative Textaccount_circle

กลายเป็นที่จับตามอง เมื่อ ‘โอปอล สุชาตา‘ สวมชุดไทยสิริพัสตรา ศิวาลัย ที่พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเป็นผู้ริเริ่ม

ชุดไทยศิวาลัย ริเริ่มขึ้นจากพระราชดำริของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยพระองค์ทรงสวมใส่ครั้งแรกในงานพระราชทานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ ถวายสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2515 ซึ่งเป็นชุดที่ตัดเย็บจากห้องเสื้อ Balmain

สำหรับชุดไทยสิริพัสตรา ศิวาลัย ของโอปอลได้รับการเปิดเผยดีเทลจากผู้ออกแบบชุดอย่าง Teschvit Krutsang ว่า

“ครั้งนี้ผู้ออกแบบจัดทำตัวชุดได้รับแรงบันดาลใจจากฉลองพระองค์ไทยศิวาลัย ตัดจากผ้ายกดอก ทอสลับไหมทองลายพุ่มละเอียดข้าวหลามตัดประกอบลายก้านแย่ง ตัวเสื้อปักเว้นระยะ ลายหยาดฝนด้วยหนามเตยเพชรปล้องแก้ว สั้นและยาว สไบปักสังเวียนเพชรเถา และเพชรลูกโลก ขนาบด้วยช่อแทงท้อง ลายท้องสใบปักลายสุริยะรัศมี โชวัสลับดอก ผ้าถุงวางลายกรวยเชิงอย่างราชสำนักปักเพชร เปิดเกล็ดเว้าจีบเสมือนนุ่งจีบสด หน้านางขนาดย่อม รูปแบบสตรีฝ่ายใน ปักเพชรเถาและเพชรลูกโลก ท้องผ้าปักลายสุริยะรัศมีสลับลายเพชรล่วง

ถนิมพิมพาภรณ์ สร้อยเพชรเจียรเหลี่ยมลูกโลก เรียงชิดเสมอคอเสื้อ รัดสายเข็มขัดทองถักประดับหัวปั้นเหน่งเพชรสลักโลหะ มีไส้ขั้นสายรัดประดับซ้ายขวา

กระเป๋าสุพรรณหงส์คาบ Swarovski จัดทำขึ้นพิเศษ โดยหงส์ทองคำสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรื่อง และเป็นเทพพาหนะของพระพรหมผู้ทรงปัญญา สร้างขึ้นด้วยรูปแบบงานช่างศิลปกรรมโบราณ ปั้น สลัก ลงรักปิดทอง ประดับอัญมณี

รองเท้า จัดสร้างอ้างอิงรูปทรงจากฉลองพระบาทราชสำนักสตรีฝ่ายใน ตัดเย็บ ด้วยหนังแก้วทองเว้าเปิดส้น”

สำหรับชุดไทยสิริพัสตรา ศิวาลัย ดีไซเนอร์ได้ออกมาเปิดเผยว่า ใช้งบทั้งหมด 55,000 บาท โดยราคานี้ยังไม่รวมค่าแรงของตนเอง แต่เชื่อว่าเสียงตอบรับที่เขาได้กลับไปคงคุ้มค่ากับการทุ่มเททั้งแรงกายและใจอย่างแน่นอน


Cr. Teschvit Krutsang และ @suchaaata

สายกินต้องมา สายอาร์ตห้ามพลาด! ที่งาน #GrabThumbsUp x NEWYEAR presents Quality Food Quality Time in the Park

account_circle

แกร็บฟู้ด ผู้นำแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรียอดนิยม ชวนสายกินสายอาร์ตสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับบรรยากาศปิกนิกในสวนใจกลางกรุงฯ ที่งาน #GrabThumbsUp x NEWYEAR presents Quality Food Quality Time in the Park โดยจับศิลปินป๊อปอาร์ตดาวรุ่ง NEWYEAR เจ้าของคาแรคเตอร์ดัชชุนสุดคิวท์อย่างน้อง “Wednesday” มาเจอกับ 5 ร้านดังสุดฮิปที่การันตีความอร่อยโดย #GrabThumbsUp ไม่ว่าจะเป็น SOURI, เผ็ด เผ็ด, ROOTS, โอ้กะจู๋ และ Shake Shack สร้างปรากฏการณ์เชื่อมความอร่อยเข้ากับงานอาร์ต งานเดียวที่ทุกคนจะได้เอนจอยกับเมนูอร่อยสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากทั้ง 5 ร้านที่เปิดตัวพร้อมกันในงานนี้เป็นที่แรก พร้อมอิ่มเอมไปกับ Art Installation และกิจกรรมสุดน่ารักที่จัดเต็มตลอด 4 วัน (14 – 17 พฤศจิกายน 2567) ณ ลาน Eden เซ็นทรัลเวิลด์

เพราะอาหารและงานศิลป์ถือเป็นสื่อกลางสากลที่เข้าถึงและเชื่อมโยงผู้คนได้ทุกเพศทุกวัย ทั้งยังสามารถส่งต่อประสบการณ์และสร้างช่วงเวลาดี ๆ ให้กับทุกคนได้ แกร็บฟู้ด ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรียอดนิยมที่ให้ความสำคัญกับการนำเสนอประสบการณ์ความอร่อยอย่างมีคุณภาพผ่านแฟลกชิพแบรนด์อย่าง #GrabThumbsUp จึงได้ต้อนรับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองในช่วงปลายปีด้วยการจัดงาน #GrabThumbsUp x NEWYEAR presents Quality Food Quality Time in the Park เพื่อเชื่อมโลกแห่งความอร่อยเข้ากับโลกของงานศิลปะ โดยได้ร่วมมือกับศิลปินป๊อปอาร์ตดาวรุ่ง NEWYEAR นิวเยียร์-ปภากร ศรีกัลยกร เจ้าของคาแรคเตอร์ดัชชุนสุดคิวท์อย่างน้อง “Wednesday” และ 5 ร้านดังที่การันตีความอร่อยโดย #GrabThumbsUp มาถ่ายทอดความอร่อยผ่านงานดีไซน์สุดคิวท์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมเนรมิตลาน Eden กลางเซ็นทรัลเวิลด์ให้กลายเป็นสวนสวยที่เต็มไปด้วยคาแรคเตอร์สุดคิวท์ แถมยกความน่ารักไซส์ยักษ์น้อง GIANT WEDNESDAY มาให้ทุกคนชื่นชมด้วย

โดยศิลปิน NEWYEAR ได้กล่าวถึงความรู้สึกในการร่วมงานกับแกร็บฟู้ดในครั้งนี้ว่า “ในฐานะศิลปิน รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมกับแกร็บฟู้ด มาสร้างความสดใส เติมความสนุกและเพิ่มประสบการณ์ด้านอาหารให้พิเศษยิ่งขึ้น ซึ่งการออกแบบคาแรคเตอร์ร่วมกับแกร็บฟู้ดในงานนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากการที่ตอนเด็ก ๆ เรามักจะสนุกกับการจัดจานอาหารให้เป็นรูปหน้าคน เอาแตงกวามาทำเป็นตา สาหร่ายเป็นคิ้ว และมะเขือเทศเป็นปาก ราวกับทำให้อาหารมีชีวิต การออกแบบนี้ล้วนสะท้อนความรู้สึกและจินตนาการในวัยเด็กที่เราเคยมี โดยเล่าเรื่องผ่านคาแรคเตอร์ของ Wednesday หมาดัชชุน Introvert รักการกิน ที่แอบหาช่วงเวลาแห่งความสุขคนเดียวเงียบ ๆ ในสวนที่อบอุ่นและได้มาเจอกับเพื่อน ๆ อีกมากมายที่พร้อมจะมาร่วมมีความสุขและสร้างเวลาดี ๆ ร่วมกันในงาน”

นอกจากจะได้อิ่มเอมกับการเสพย์งานศิลป์ในบรรยากาศปิกนิกกลางสวนแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่พลาดไม่ได้ คือ การเปิดตัวเมนูพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก 5 ร้านเด็ดที่เป็นที่สุดในด้านต่าง ๆ รังสรรค์ขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ พร้อมการันตีคุณภาพความอร่อยโดย #GrabThumbsUp  อันได้แก่

  • SOURI ร้านมาการองสไตล์ Contemporary Patisserie ที่สุดของร้านของหวานยอดฮิตของ หนุ่มวิน เมธวิน ที่ได้ครีเอทเมนู Macaron Strawberry Rose มาการองรสสตรอเบอรี่หอมหวาน ละมุนด้วยกลิ่นกุหลาบ อร่อยเข้มข้นลงตัวคู่ครีมชีส
  • เผ็ดเผ็ด (PhedPhed) ร้านอาหารอีสานสุดฮิปขวัญใจคนเมือง ที่สุดของร้านรสแซ่บกับเอกลักษณ์ในการใช้วัตถุดิบที่ผลิตขึ้นเองทุกอย่างที่ได้เตรียมเมนูพิเศษอย่าง ยำบะหมี่หน้าโรงเรียน ยำบะหมี่แบบง่าย  ๆ แต่ใส่ใจดีเทล เพราะขอแบบไม่ใส่ต้นหอมผักชี มีแต่บะหมี่ หมูสับ ไส้กรอกและกะหล่ำลวก พร้อมออนท็อปด้วยไข่ดาวสุกๆ อร่อยแบบถูกใจ และอีกเมนูแซ่บนัวทานง่ายอย่าง ตำผลไม้สุด Love ที่รวบรวมผลไม้สามอย่างที่ร้านเผ็ดเผ็ดมักเลือกเป็นวัตถุดิบหลักอย่างมังคุดคัด สตรอเบอรี และมะม่วงสุก มาปรุงผสมน้ำยำรสชาติเข้มข้น อร่อยแซ่บเข้ากันสุด ๆ
  • ROOTS ร้านกาแฟดังแห่งยุค ตัวจริงในเรื่องคุณภาพที่ให้ความสำคัญตั้งแต่การคัดสรรเมล็ดกาแฟไทยอย่างพิถีพิถันจากเกษตรกรโดยตรง ได้คราฟต์เมนูเครื่องดื่มสุดพิเศษอย่าง Fizzy Apple Cold Brew เพิ่มความสดชื่นให้รสสัมผัสเปรี้ยวหวานละมุนจากซีรัปองุ่นมัสแคตและน้ำแอปเปิ้ลสด ผสานเข้ากับกาแฟโคลด์บรูวอย่างลงตัว พร้อมเติมความสดชื่นซาบซ่าด้วยโซดา โปรยความสนุกออนท็อปด้วยซอสพริกเกลือด้านบนให้รสชาติตัดกันได้อย่างลงตัว หรือใครที่ไม่ดื่มกาแฟ ก็สามารถเลือกเป็น non-coffee ได้เช่นกัน
  • โอ้กะจู๋ ร้านอาหารจากเชียงใหม่ที่ครองใจคนทั้งประเทศ ด้วยความเป็นที่สุดของการนำเสนอเมนูสุขภาพที่เสิร์ฟความอร่อยในทุกวัน โดยงานนี้โอ้กระจู๋ครีเอท 3 เมนูพิเศษให้ได้อร่อยฟิน ไม่ว่าจะเป็น ซี่โครงเลดี้สโมคบาร์บีคิวทรัฟเฟิลชีส แรปซี่โครงเนื้อร่อนจากกระดูกกับซอสทรัฟเฟิลชีสหอมละมุน เนื้อบาร์เวทดรายเอจด์สโมคบาร์บีคิวทรัฟเฟิลชีส แรปเนื้อชายท้องวัวดรายเอจด์รสเข้มข้นสุกกำลังดี มาพร้อมซอสสโมคบาร์บีคิวฉ่ำเข้าเนื้อหอมซอสทรัฟเฟิลชีส และสไปซี่ซาวเออร์นาโช่ปาร์ตี้ นาโช่กรอบสองสัญชาติที่ผสมผสานทั้งรสเปรี้ยวเผ็ดจัดจ้านสไตล์ไทย
  • Shake Shack ร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ที่สุดของเบอร์เกอร์คุณภาพระดับโลก โดดเด่นด้วยความเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ที่มีความสนุกสนาน ส่งเมนูพิเศษอย่าง Blackberry Lemonade เครื่องดื่มรีเฟรชชิ่งที่ทำจากวัตถุดิบสูตรพรีเมี่ยม ด้วยผลแบล็กเบอร์รี่สดมาปั่นคู่กับน้ำมะนาวสูตรพิเศษของ Shake Shack ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยวอย่างลงตัวเติมรสชาติความสดชื่นกลางสวนปิกนิกให้สดใสเข้ากันสุด ๆ

นอกจากจะได้เต็มอิ่มไปกับรสชาติความอร่อยใหม่ในงานนี้แล้ว  แกร็บฟู้ด ยังจัดเต็มกับกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย อาทิ Photo Booth ธีมน่ารัก ๆ ให้ได้ถ่ายรูปพร้อมแต่งตัวเป็นอาหารจานโปรด และกิจกรรมร่วมสนุกรับ Merch ของที่ระลึก อย่าง กล่องข้าว กระเป๋าผ้า และ Griptok กับลวดลายสุดลิมิเต็ดที่ออกแบบโดย NEWYEAR ที่มีเฉพาะงานนี้เท่านั้น

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความอร่อยการันตีคุณภาพ #GrabThumbsUp อร่อยจริง จากคนกินจริงได้ที่ https://www.facebook.com/GrabFoodTH และ https://www.instagram.com/grabfoodth/ 


“คิวคิว อิงค์อัณณ์” โชว์สกิลแต่งเพลงแรก NO TIME

account_circle

QQ Ingan (คิวคิว อิงค์อัณณ์) ศิลปินหญิงวัย 17 ปี โชว์สกิลแต่งเนื้อร้อง ทำนอง พร้อมเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ ในเพลง NO TIME (พูดไม่ได้)

เปิดตัว QQ Ingan (คิวคิว อิงค์อัณณ์) ศิลปินหญิงวัย 17 ปี ลูกศิษย์ของ อิน บูโดกัน (ณัฐรินภรณ์ พรหมมินทร์) Managing Director ค่าย M2K ENTERTAINMENT (เอ็มทูเค เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) เดบิวต์เป็นศิลปินหญิงเดี่ยวเบอร์แรกของค่าย ฯ  โดย อิน ได้ถ่ายทอดวิชาแต่งเพลงให้ QQ Ingan แบบ 100% จนเธอสามารถแต่งเพลง NO TIME (พูดไม่ได้) ที่ได้ใช้ประสบการณ์จริงมาถ่ายทอดลงในเนื้อหาเพลง พร้อมโชว์สกิลด้านดนตรีเหมาตำแหน่งคนแต่งทำนองเพิ่มอีกหนึ่งอัตรา

QQ Ingan (คิวคิว อิงค์อัณณ์) เผยถึงแรงบันดาลใจในการแต่งเนื้อหาเพลงนี้ ว่า “QQ (คิวคิว) ค้นพบว่า… ความรักมันมีหลายรูปแบบมาก ๆ อารมณ์ มุมมอง ความคิดของแต่ละคน แตกแขนงออกไปเป็นร้อยเหตุผล อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด เราไม่สามารถรู้ได้ว่า จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง แต่ที่สำคัญ คือ เรารับมือกับมันยังไงต่างหาก ซึ่งเพลงนี้ QQ (คิวคิว) เขียนขึ้นเพื่อบอกเล่าความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง แม้จะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ดีเท่าไหร่ แต่มันทำให้เห็นว่า ในโลกนี้มีอะไรอีกมากมายที่รอให้ “เรา” ได้เรียนรู้และเติบโตเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้นผ่านเนื้อหาของเพลงนี้ค่ะ

ส่วนแนวดนตรี ของ NO TIME (พูดไม่ได้) มีการผสมผสานระหว่าง Rock กับ R&B โดยซาวด์ที่ใช้จะมีเสียง เปียโน กลิ่นอาย R& B ผสมกับ กีตาร์หนัก ๆ สไตล์ Rock ดีไซน์เทคนิคการร้องด้วยการเน้นความ Deep อารมณ์ดิ่งลึก แต่มีความหนักหน่วงในช่วง Hook สไตล์ Rock ค่ะ แอบตื่นเต้นและก็ลุ้นว่าเพลงแรกในชีวิต ที่ QQ (คิวคิว) ตั้งใจทำมันออกมาจะถูกใจแฟนเพลงมากน้อยแค่ไหน ฝากเป็นกำลังใจให้ QQ (คิวคิว) ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ” 

NO TIME (พูดไม่ได้) เรื่องราวความรักที่ไม่สมหวัง ที่คนรักเลือกใช้ “คำพูด” และ “การกระทำ” มาหลอกให้ตายใจ แม้… “สุดท้ายเธอทำฉันคิด หลอกให้เชื่อเรื่องไม่จริง” รู้ทั้งรู้ แต่ก็ยัง “อยากให้มันเป็นเธอ” แม้จะพูดไม่ได้ “All of this time I can’t find the right words to say.” ทำให้ “จมอยู่ในห้วงทรงจำ ไม่พอให้ยื้อเวลา” นี่เป็นเพียงเนื้อหาบางส่วนของเพลง NO TIME (พูดไม่ได้)                 

สามารถติดตามฟังเพลง NO TIME (พูดไม่ได้) จาก QQ INGAN (คิวคิว อิงค์อัณณ์) ศิลปินหญิงเดี่ยว เบอร์แรกจาก M2K ENTERTAINMENT (เอ็มทูเค เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) แบบเต็มๆ ได้ตั้งแต่วันนี้ผ่าน Youtube Channel : M2K ENTERTAINMENT และทุกช่องทาง Streaming

#QQ #QQIngan #NoTime #พูดไม่ได้ #M2Kentertainment #M2Kent

“Brighton College Bangkok สาขาวิภาวดี” เปิดตัวพร้อมแนวคิด The Best of Both Worlds

account_circle

ถือเป็นโปรเจ็กต์สำคัญของแวดวงการศึกษาไทยจริงๆ สำหรับการเปิดตัว Brighton College Bangkok สาขาวิภาวดี ซึ่งปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่จาก St. Stephen’s International School ด้วยงบประมาณการลงทุนกว่า 1,400 ล้านบาท ภายใต้การนำของ “คุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์” ประธานคณะกรรมการ Brighton College Bangkok เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในวงการการศึกษานานาชาติในประเทศไทย

สำหรับ Brighton College ถือเป็นโรงเรียนชั้นนำที่มีชื่อเสียงและยอมรับในระดับสากล ทั้งยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้ปกครองที่ต้องการการศึกษาคุณภาพสูงที่ผสมผสานข้อดีของตะวันตกและตะวันออกไว้ด้วยกัน ด้วยเหตุนี้เอง คุณนุสรา ผู้คร่ำหวอดในวงการธุรกิจและการศึกษา บวกกับมีประสบการณ์ในฐานะผู้บริหารระดับสูงของบริษัทประกันและเป็นนักลงทุนด้านการศึกษามาอย่างยาวนาน จึงเลือก Brighton College จากประเทศอังกฤษเข้ามาสู่ประเทศไทย เพราะเชื่อมั่นในแนวคิด “The Best of Both Worlds” ที่มุ่งเน้นการผสมผสานจุดแข็งของระบบการศึกษาตะวันตกและวัฒนธรรมตะวันออก

ดังนั้น Brighton College Bangkok จึงวางรากฐานจากหลักสูตรการเรียนการสอนระดับสูงของอังกฤษ และปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมไทย สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่กระตุ้นให้นักเรียนมีความสนใจในการเรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยยังคงเคารพในวัฒนธรรม ความอ่อนน้อมถ่อมตน และการเอื้ออาทรต่อผู้อื่น ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเป็นพลเมืองโลก

กลยุทธ์สำคัญของ Brighton College Bangkok คือการเน้นพัฒนาคุณสมบัติสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ Curiosity, Confidence และ Culture of Kindness ซึ่งคุณนุสราเห็นว่าเป็นหัวใจของการเตรียมตัวนักเรียนให้พร้อมสำหรับอนาคต นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะสำคัญ เช่น Critical Thinking และ Logical Thinking ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนสามารถวิเคราะห์ปัญหาและแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านการสื่อสารและเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในสังคมโลก

Brighton College Bangkok ยังให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ภาษาจีนตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของคุณนุสราในการสร้างนักเรียนที่มีทักษะและความสามารถในการแข่งขันกับประชากรโลก พร้อมทั้งเข้าใจความหลากหลายทางวัฒนธรรม

นอกจากความร่วมมือในแคมปัสสาขากรุงเทพกรีฑาที่เปิดดำเนินการมาเกือบ 10 ปีอย่างประสบความสำเร็จแล้ว Mr. Richard Cairns ครูใหญ่ของไบรท์ตัน คอลเลจ กรุ๊ป ยังให้ความเห็นว่า “เราตั้งใจที่จะทำให้เด็กๆ ในกรุงเทพฯได้สัมผัสกับการศึกษาที่ยอดเยี่ยมของเราให้มากที่สุด ล่าสุดไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ ได้รับรางวัล International School of the Year ส่วนไบรท์ตัน คอลเลจ ในสหราชอาณาจักรได้รับรางวัลโรงเรียนแห่งทศวรรษ ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพและมาตรฐานสูงของการศึกษาของเรา นักเรียนของเราทั้งสองประเทศสามารถเข้าเรียนต่อได้ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกทั้ง Cambridge และ Ivy league รวมถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย”

Brighton College Bangkok ยังก้าวไปอีกขั้นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้วยการลงทุนสร้างอาคารเรียนใหม่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันในแคมปัสวิภาวดี ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การเรียนการสอนที่ทันสมัย โดยมีการจัดเตรียมพื้นที่ให้เอื้อต่อการเรียนรู้แบบบูรณาการ เช่น ศูนย์การเรียนรู้ด้านศิลปะ การแสดง กีฬา STEM และพื้นที่สำหรับการเรียนรู้เชิงปฏิบัติในรูปแบบต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบให้มีพื้นที่กว้างขวางรองรับการเติบโตของนักเรียน โดยคำนึงถึงความสะดวกต่อการเดินทางในกรุงเทพฯและใกล้เคียง เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถเข้าถึงการศึกษาคุณภาพสูงได้อย่างสะดวก

ในด้านกลยุทธ์การสอน Brighton College Bangkok ใช้วิธีการสอนแบบ Inspirational Teaching ซึ่งครูผู้สอนเน้นการกระตุ้นให้นักเรียนมีความสนใจและอยากเรียนรู้ ครูที่มีความรู้ลึกในสาขาต่างๆ เช่น คณิตศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ จะได้รับการฝึกให้สอนโดยผสมผสานการคิดอย่างสร้างสรรค์และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ นอกจากนี้โรงเรียนยังนำธีมที่นักเรียนสนใจมาใช้เป็นตัวกระตุ้นการเรียนรู้ ผ่านการเชื่อมโยงเนื้อหาจากหลายวิชาเข้าด้วยกัน ซึ่งแนวทางการสอนแบบนี้ช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้จากประสบการณ์จริงและเชื่อมโยงความรู้ระหว่างสาขาวิชาได้อย่างลงตัว

การเปลี่ยนผ่านสู่ Brighton College Bangkok Vibhavadi ครั้งนี้ ถือเป็นการปรับเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์ในแวดวงการศึกษาไทย โดยการนำโมเดลการศึกษาจาก Brighton College ประเทศอังกฤษ มาปรับใช้ในประเทศไทยในรูปแบบที่ผสมผสานข้อดีของทั้งสองวัฒนธรรมอย่างลงตัว คุณนุสราเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ Brighton College Bangkok สามารถเติบโตเป็นโรงเรียนนานาชาติชั้นนำในประเทศไทยและเอเชียได้ โดยมีเป้าหมายให้นักเรียนทุกคนเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด มีความสามารถในการปรับตัวกับโลกที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ตลอดจนมีคุณภาพชีวิตที่ดีในฐานะพลเมืองที่มีคุณค่า


Pomelo. ภูมิใจนำเสนอคอลเลคชั่นที่เฉลิมฉลองความเป็นตัวเองผ่านแฟชั่น “Iconically YOU”

account_circle

Pomelo. Fashion แพลตฟอร์มแฟชั่น Omnichannel ชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสไตล์อันเป็นที่รักของเหล่าสาว ๆ #PomeloGirls ทั่วโลก ผ่านการเดินทางของ Pomelo. ในวงการแฟชั่น โดยคอลเลกชั่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของการดีไซน์ที่เสริมสร้างพลังของผู้หญิง โดยเน้นย้ำด้วยการแสดงออกถึงความเป็นตัวเองผ่านแฟชั่นอย่างไม่มีขีดจำกัด พร้อมไปกับการคัดสรรไอเท็มที่ช่วยให้ผู้หญิงทุกคนแสดงออกถึงตัวตนที่ไม่ซ้ำใคร

คอลเลกชั่น Iconically YOU เผยให้เห็นถึงการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ผ่านการรวมตัวสไตล์ยอดนิยมของ Pomelo. โดยผสมผสานระหว่างความปราณีต ความล้ำสมัย และสไตล์อันหลากหลายออกมาได้อย่างกลมกล่อม สร้างสรรค์ทุกไอเท็มที่ถ่ายทอดความมั่นใจของผู้สวมใส่และเปิดโอกาสให้สาว ๆ #PomeloGirls เปล่งประกายด้วยแฟชั่นที่สะท้อนถึงตัวตนสุดยูนีคของพวกเธออยู่เสมอ อีกทั้งยังสวมใส่ได้ในทุกโอกาส

ใบปอ ฐิติยาในฐานะแฟชั่นไอคอน นำเสนอตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้สวมใส่ที่สะท้อนให้เห็นถึงแก่นแท้ของคอลเลกชั่น Iconically YOU ในแบบฉบับของเธอ ใบปอกล่าว “รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ทาง Pomelo. มองเห็นตัวตนของเด็กผู้หญิงธรรมดาคนนี้เป็นแรงบันดาลใจ” มากไปกว่าคำว่าแฟชั่น คอลเลกชั่นนี้ยังถูกออกแบบมาเพื่อเฉลิมฉลองความทรงจำและการนิยามตัวตนของผู้หญิงแต่ละคนที่ไม่เหมือนใครเพื่อสะท้อน Personal Style ของแต่ละบุคคล

Pomelo. ได้เปิดตัวคอลเลกชั่น Iconically YOU ด้วยอีเว้นท์สุดพิเศษไปพร้อมกับการเปิดหน้าร้านใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการที่สาขา EmSphere ในวันที่ 28 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมานี้ และพร้อมวางขายทางออนไลน์บนเว็บไซต์ www.pomelofashion.com บนแอปพลิเคชั่น Pomelo. และทางหน้าร้านในประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2567 โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 799 บาท


Advent Calendar สุดลิมิเต็ดจาก Dior มีเพียงแค่ 2 ชิ้นในไทย

Advent Calendar สุดลิมิเต็ดจาก Dior มีเพียงแค่ 2 ชิ้นในไทย

Alternative Textaccount_circle
Advent Calendar สุดลิมิเต็ดจาก Dior มีเพียงแค่ 2 ชิ้นในไทย
Advent Calendar สุดลิมิเต็ดจาก Dior มีเพียงแค่ 2 ชิ้นในไทย

เทศกาลวันคริสต์มาสต์กำลังจะมาถึง และในระหว่างทางนี้ ดิออร์ (Dior) ได้แปลงโฉมให้เดือนธันวาคมกลายเป็นดินแดนแห่งความฝันที่ไม่มีที่สิ้นสุดไปกับ La Malle des Reves ที่สุดแห่งชุดของขวัญที่ทุกคนคาดไม่ถึงสำหรับเทศกาลวันหยุดปีนี้ Advent Calendar สุดพิเศษนี้มีเพียงแค่ 2 ชิ้นในประเทศไทยและมาพร้อมกับรูปทรงของอาคาร 30 Avenue Montaigne สถานที่ตั้งในตำนานของแบรนด์

แต่ละส่วนของเซ็ตของขวัญนี้ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยความเชี่ยวชาญอย่างประณีต โครงสร้างไม้ถูกห่อหุ้มด้วยเนื้อผ้าลวดลาย Toile du Marais และแต่งแต้มเพิ่มเติมด้วยการแสตมป์ฟอยล์สีทองจาก Petro Ruffo เพื่อเพิ่มความหรูหรา

ชุดของขวัญ Malle des Reves ถูกปิดผนึกด้วยด้วยล็อคสี ด้านในเผยของขวัญ 24 ชิ้นที่รอคอยการเปิดผนึกในทุกๆ วัน จนกว่าจะถึงค่ำคืนคริสมาสต์แห่งการรอคอย ทั้งหมดนี้ประกอบไปด้วยน้ำหอมและสเปรย์ฉีดผมจาก La Collection Privee Chrian Dior Paris ที่จะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้ติดทนยาวยิ่งขึ้น และเต็มไปด้วยลิปสติก ยาทาเล็บ และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

The Malle ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นแห่งมนต์เสน่ห์อย่างแท้จริง ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเสริมระดับให้กับบ้านทุกหลังด้วยการเชิดชูผลงานศิลปะ art de vivire ที่คริสเตียน ดิออร์ ยกย่อง ควบคู่ไปกับความรักที่เขามีต่อการเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่และการตกแต่งที่ดูหรูหรา เทียนหอม Bois des Reves ซึ่งสร้างสรรค์โดย Frands Kurkdjan ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ประจำแผนกน้ำหอม พร้อมเติมเต็มเทศกาลในช่วงฤดูหนาวด้วยความหอมของโน้ตแมกไม้สุดผ่อนคลาย และยังมาพร้อมกับเทียนหอนอีกสามกลิ่นตลอดจนอุปกรณ์เสริมที่จะช่วยสร้างแสงไฟส่องสว่างสุดพิเศษ ดับไฟ และดูแลรักษาเทียนอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งนี้นับเป็นการยกย่องบทบาทในอดีตของผู้จุดเทียน ซึ่งเป็นผู้ให้แสงสว่างแก่การแสดงในรับสมัยของ พระเจ้าหลยส์ที่ 14

สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดจะถูกเปิดเผยในช่วงเข้าของวันที่ 24 ธันวาคม นั่นก็คือ Lithophane ที่สร้างขึ้น จากความร่วมมือของดิออร์และ Bernardaud ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องเคลือบดินเผาจากฝรั่งเศส จากช่างฝีมืออันของผู้ผลิตพอร์ซเลนดินขาวอันละเอียดอ่อน อัญมณีอันล้ำค่าสำหรับใช้ในบ้านนี้ดูโดดเด่น แกะสลักลวดลายโดยศิลปินอย่าง Pietro Ruffo แสงสว่างจากเทียนหอม Bois des Reves ขนาดเล็กและภาพแกะสลักบน Lithophane จะดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาในพริบตาอันมหัศจรรย์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้ประดับโต๊ะในช่วงเทศกาลที่สำคัญที่สุด ของขวัญนี้ถูกเสริมด้วยผ้า Mitzah สีดำและสีเบจ ซึ่งเป็นเครื่องประดับกูตูร์ชิ้นแรกที่ปรากฏใน Malle des Revesโดยมีลายพิมพ์ Toile de Jouy Soleil ที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยเพิ่มสไตล์ให้กับกระเป๋าถือและชุดต่างๆ

ผลิตภัณฑ์โดดเด่นนี้ย่อมมาพร้อมกับการบริการที่โดดเด่นเช่นกัน ชุดของขวัญ Malle จะถูกจัดส่งถึงอยู่ที่บันทึกไว้ด้วยบริการที่มีการดูแลเป็นอย่างดี ในกล่องไม้ที่แกะสลักโลโก้ Dior ชุดของขวัญนี้ไม่เพียงแต่น่าดึงดูด หากยังมาพร้อมกับความยั่งยืน เนื่องจากสามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นกล่องที่สามารถนำมามาตกแต่งและใส่เครื่องประดับได้ตามความต้องการ สั่งซื้อและสอบถามข้อมูลได้ที่ Line OA @DiorThailand


NCT DREAM นำเสนอพลังที่สดใสยิ่งกว่าเดิม ในอัลบั้มเต็มชุดที่ 4

Alternative Textaccount_circle

NCT DREAM กลับมาพร้อมกับพลังของวัยรุ่นที่สดใสยิ่งกว่าเดิม ด้วยอัลบั้มเต็มชุดที่ 4 ‘DREAMSCAPE’ ในวันที่ 11 เดือน 11

NCT DREAM (เอ็นซีที ดรีม) กลับมาพร้อมกับพลังของวัยรุ่นที่สดใสยิ่งกว่าเดิม ด้วยอัลบั้มเต็มชุดที่ 4 ‘DREAMSCAPE’ (ดรีมสเคป) ในวันที่ 11 เดือน 11 ผลงานต่อจากอัลบั้ม ‘DREAM( )SCAPE’ ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยอัลบั้มชุดใหม่นี้จะบอกเล่าถึงการเดินทางครั้งที่สองของ NCT DREAM ซึ่งหลบหนีจากความจริงที่มืดมนและไร้ความรู้สึก เพื่อออกตามหาพื้นที่แห่งความฝันในอุดมคติ

ก่อนหน้านี้ อัลบั้ม ‘DREAM( )SCAPE’ แสดงออกถึงความกังวลและความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการหลบหนี ในขณะที่อัลบั้มเต็มชุดที่ 4 ‘DREAMSCAPE’ จะถ่ายทอดข้อความแห่งความตื่นเต้นและอิสรภาพของวัยรุ่น ที่ต้องเผชิญในพื้นที่ยูโทเปียและพื้นที่แห่งความฝัน โดยชื่ออัลบั้ม ‘DREAMSCAPE’ หมายถึงทิวทัศน์และโลกที่เหมือนความฝัน ที่ได้พบเจอหลังจากรอคอยมานาน โดยเรื่องราวแบบไดนามิกใน ‘DREAMSCAPE’ จะถูกเปิดเผยออกมาราวกับเทพนิยายผ่านเพลงทั้งหมด 11 เพลง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลงไตเติล ‘When I’m With You’ เป็นเพลงป็อปอิเล็กทรอนิกส์แนวเฮาส์ซึ่งมีท่อนคอรัสที่ติดหู เนื้อเพลงถ่ายทอดออกมาอย่างโรแมนติกเกี่ยวกับอารมณ์ที่ซับซ้อนที่ตัวเองรู้สึกเมื่อได้อยู่กับ ‘คุณ’ และตัวเองที่ตกหลุมรักราวกับถูกสะกดโดย ‘คุณ’ คนที่ได้พบในโลกแห่งความฝัน ‘DREAMSCAPE’ ยิ่งไปกว่านั้น สมาชิก MARK ยังมีส่วนร่วมในการแต่งท่อนแร็ปสำหรับเพลงใหม่นี้ เพิ่มพลังความสดใสอันเป็นเอกลักษณ์ของ NCT DREAM อย่างเต็มที่ ด้านมิวสิกวิดีโอของเพลงนี้ บอกเล่าถึงการเดินทางของทั้ง 7 สมาชิกเพื่อออกตามหาสายรุ้งที่เห็นในความฝัน ซึ่งจะปลุกความรู้สึกของเทพนิยายผ่านเรื่องราวแฟนตาซี ที่สลับไปมาระหว่างจินตนาการและความจริงโดยใช้รถไฟเป็นตัวกลาง ทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกร่วมราวกับอยู่ในความฝัน

ในอัลบั้มนี้ทุกคนจะได้พบกับเพลงที่มีกระบวนการตามหาความหมายที่แท้จริงของ ‘DREAMSCAPE’ เริ่มต้นด้วยเพลงแรก ‘INTRO : DREAMSCAPE’ พูดถึงความตื่นเต้นของ NCT DREAM ขณะเผชิญกับทิวทัศน์ที่เหมือนความฝัน, เพลง ‘Flying Kiss’ ที่เนื้อร้องทั้งหมดเขียนโดย HAECHAN สื่อถึงคำสารภาพรักอันท่วมท้นที่มีต่ออีกฝ่าย, เพลง ‘i hate fruits’ ที่เนื้อร้องทั้งหมดเขียนโดย MARK เปรียบเทียบผลไม้รสหวานกับความรู้สึกขัดแย้งของการชอบใครสักคนมากจนอยากจะเกลียด, เพลง ‘No Escape’ ซึ่งเยาะเย้ยตัวเองว่า แม้จะคิดว่าสามารถหนีจากความจริงอันมืดมนได้แล้ว แต่สถานการณ์ทั้งหมดก็เป็นเพียงเรื่องโกหกที่ว่างเปล่าและเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนีจากความจริงอันเหมือนฝันร้าย, เพลง ‘Best of Me’ แสดงถึงสถานการณ์ขัดแย้งกันของการที่ไม่อยากถูกหลอกโดยโลกเท็จ แต่ท้ายที่สุดก็สูญเสียหัวใจไป ซึ่ง HAECHAN ได้เขียนเนื้อร้องทั้งหมดของเพลงนี้, เพลง ‘YOU (숲)’ พร้อมคำมั่นสัญญาว่าจะตามหา ‘คุณ’ อยู่เสมอ แม้จะล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าในการเดินทางเพื่อค้นหา ‘DREAMSCAPE’ ที่แท้จริง แต่จะยอมไม่สูญเสียศรัทธาใน ‘คุณ’ และเพลง ‘하늘을 나는 꿈 (Heavenly)’ บรรยายถึงอิสรภาพกับความสุขที่ NCT DREAM รู้สึก เมื่อในที่สุดก็ค้นพบ ‘DREAMSCAPE’ ที่แท้จริงหลังจากผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีเพลง ‘밤 (Night Poem)’ แสดงถึงความรู้สึกที่ชอบกันและกันมากขึ้น ราวกับค่ำคืนที่มืดลงเรื่อย ๆ, เพลงที่มีบรรยากาศสดใสราวกับจัดเทศกาล ‘Off The Wall’ ชวนให้ปล่อยวางทุกสิ่งแล้วมาสนุกสนานกัน และเพลงภาษาอังกฤษที่ปล่อยออกมาเมื่อเดือนสิงหาคมอย่าง ‘Rains in Heaven’ เนื้อเพลงที่ MARK มีส่วนร่วมในการเขียนได้ส่งต่อข้อความที่จะช่วยปลอบโยนผู้ฟังอย่างอบอุ่น โดยพูดถึงความเข้าอกเข้าใจในความเจ็บปวดของผู้คนที่เหนื่อยล้าและมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก พร้อมสัญญาว่าจะคอยอยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้ ที่สำคัญ มิวสิกวิดีโอของเพลงนี้ได้ถ่ายทำขึ้นในประเทศไทย

นอกจากนี้ NCT DREAM ได้เผยความรู้สึกถึง NCTzen (เอ็นซีทีเซ็น : ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ที่คอยอยู่กับพวกเขาเสมอมาดังนี้

MARK : ผมอยากจะบอก NCTzen ที่อยู่กับพวกเราเสมอมาว่า NCT DREAM ก็จะอยู่กับพวกเขาเสมอเช่นกันครับ พวกเราจะเป็น 7DREAM ที่ปกป้องความสุขของ NCTzen จะทำให้พวกเขายิ้มอยู่เสมอ และจะสร้างความประทับใจให้พวกเขาด้วยครับ ! ขอบคุณมาก ๆ สำหรับการสนับสนุน และมาสนุกไปกับกิจกรรมโปรโมต ‘When I’m With You’ ด้วยกันนะครับ !

RENJUN : พวกเราเองก็จะพยายามเป็น NCT DREAM ที่มอบพลังให้กับ NCTzen มากเท่ากับที่ NCTzen สนับสนุนพวกเราครับ  หวังว่าทุกคนจะติดตามอัลบั้มเต็มชุดที่ 4 ของพวกเราเยอะ ๆ นะครับ

JENO : ขอบคุณที่รอคอยกันมานานครับ ขอให้เพลิดเพลินกันอย่างเต็มที่กับ NCT DREAM ที่สดชื่นที่ NCTzen รอคอยในอัลบั้มนี้นะครับ (หัวเราะ)

HAECHAN : ผมหวังว่า อัลบั้มนี้จะเป็นเพลงดี ๆ ที่อยู่กับทุกคนตลอดไปครับ ขอให้พวกเราได้อยู่ด้วยกันอย่างสนุกสนานและมีความสุขตลอดไปครับ

JAEMIN : ขอบคุณที่อยู่กับ NCT DREAM มาโดยตลอด และผมจะเป็นคนที่สามารถตอบแทนให้มากยิ่งขึ้นเท่ากับความรักของทุกคนครับ ในอนาคตก็อยู่ด้วยกันนะครับ NCTzen💚

CHENLE: ผมรู้สึกขอบคุณ NCTzen ที่คอยให้การสนับสนุนมาโดยตลอด และผมก็ตั้งตารอกิจกรรมโปรโมตครั้งนี้จริง ๆ ครับ มาสร้างความทรงจำมากมายด้วยกันต่อไปนะครับ !

JISUNG : ตั้งแต่อัลบั้ม ‘DREAM( )SCAPE’ ในเดือนมีนาคม ไปจนถึงอัลบั้ม ‘DREAMSCAPE’ ชุดนี้ และเวิลด์ทัวร์ พวกเรามีความสุขมากที่ได้อยู่กับ NCTzen ในปี 2024 ครับ มาสนุกกับเวลาที่เหลือให้ปิดท้ายไปได้ด้วยดี และเริ่มต้นอย่างทรงพลังในปี 2025 ไปด้วยกันนะครับ !

สะกดทุกสายตา แฟรงค์ มุลเลอร์ “ราวนด์ สเกเลตัน บาแกตต์” โดดเด่นด้วยงานออกแบบอันสง่างาม

account_circle

หนึ่งในไฮไลท์เรือนเวลาประดับอัญมณีชั้นสูง (High Jewellery) ที่ แฟรงค์ มุลเลอร์ (Franck Muller) ภูมิใจนำเสนอในปี 2024 อีกทั้งยังเป็นชิ้นงานไอคอนิกที่สะกดทุกสายตาคือ ราวนด์ สเกเลตัน บาแกตต์ (Round Skeleton Baguette) ขนาด 31 มม. เรือนเวลาคอลเล็คชั่นแสนพิเศษที่ประดับด้วยเพชร หรือ อัญมณีล้ำค่าทรงบาแกตต์ ซึ่งสะท้อนถึงการผสมผสานอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างโลกแห่งเครื่องประดับอัญมณีอันประณีต (Fine Jewellery) และเครื่องบอกเวลาชั้นสูง (Haute Horlogerie) ได้อย่างลงตัว

โดยเรือนเวลาใหม่อันงดงามรุ่นนี้ นับเป็นผลงานล่าสุดที่เสริมเข้ามาสู่คอลเลคชั่น ราวนด์ สเกเลตัน (Round Skeletons) ซึ่งก่อนหน้านี้มีให้เลือกมาแล้วในรุ่น 39 และ 42 มม.โดยในคอลเลกชั่นเอเชียแปซิฟิก เอ็กคลูซีฟ (Asia Pacific Exclusive) นี้ เพชรได้ถูกนํามาประดับตกแต่งอย่างวิจิตรกลมกลืนบนด้านข้างของขอบตัวเรือนและตัวเรือนนาฬิกา

ขณะที่เพชรรูปทรงบาแกตต์ หรืออัญมณีที่ตัดเป็นรูปทรงบาเเกตต์จะถูกประดับอย่างประณีตผ่านเทคนิคการตั้งแบบการฝังล็อค (channel setting) ซึ่งมีอัญมณีที่ตั้งอยู่ภายในขอบหน้าปัดนาฬิกา สร้างขึ้นจากโลหะล้ำค่า ซึ่งขอบที่ยึดอย่างแน่นช่วยรักษา “มงกุฎ” อันงดงามนี้ อีกทั้งยังช่วยเสริมเสน่ห์แห่งความโปร่งใสได้อย่างสูงสุด 

สำหรับกลไกผลิตที่ติดตั้งอยู่ด้านในเรือนเวลานั้นยังคงสวยงาม ผสมผสานความสามารถทางเทคนิค โดยเผยให้เห็นจักรกลทางเทคนิคชั้นสูงอันซับซ้อนทันสมัยและสไตล์อันสมดุลสมบูรณ์แบบ ภายในขนาดใหม่นี้ แฟรงค์ มุลเลอร์ได้ลดขนาดของกลไกแบบสเกเลตันหรือโอเพนเวิร์ก (openworked)  ถือว่าเป็นกลไกแบบสเกเลตันที่เล็กที่สุดของ แฟรงค์ มุลเลอร์ อีกด้วย เพื่อให้สามารถติดตั้งลงในตัวเรือน 31 มม. ได้อย่างสมบูรณ์ ขณะเดียวกันก็ยังคงมอบซึ่งการสำรองพลังงานได้นานถึง 4 วัน โดยชิ้นส่วนต่าง ๆ ของกลไก อาทิ แท่นเครื่องและสะพานจักรยังต่างถูกลดขนาดลง เพื่อช่วยให้มองเห็นชิ้นส่วนต่าง ๆ ของนาฬิกาได้ยิ่งขึ้นแต่ยังคงรักษาไว้ซึ่งสัมผัสแห่งความสง่างามประณีต ที่กลไกสเกเลตันนี้ได้มอบโอกาสในการชื่นชมรายละเอียดอันประณีตวิจิตรของจักรกลการทำงานภายในอันเป็นหัวใจแห่งเรือนเวลา 

ราวนด์ สเกเลตัน บาแกตต์ (Round Skeleton Baguette) ขนาด 31 มม. มีให้เลือกทั้งในรุ่นไวท์โกลด์และโรสโกลด์ พร้อมทั้งการประดับตกแต่งด้วยการผสมผสานอันหลากหลายของเพชร และอัญมณีล้ำค่า ที่เรือนเวลา โดดเด่นด้วยงานออกแบบอันสง่างาม และด้วยสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบ จึงมอบเป็นดั่งเครื่องประดับอันเหนือกาลเวลาที่เติมเต็มสไตล์อันทรงเกียรติและทันสมัยให้กับผู้สวมใส่ 


เจี๊ยบ-ปูไข่

ส่องแหวนแต่งงาน เจี๊ยบ-ปูไข่  คู่รักมาราธอนที่คบหาดูใจกันมานาน 11 ปี 

Alternative Textaccount_circle
เจี๊ยบ-ปูไข่
เจี๊ยบ-ปูไข่

แต่งแล้ว! คู่รักมาราธอนที่คบหาดูใจกันมานาน 11 ปี นักแสดงสาว “เจี๊ยบ” ชมพูนุช – ปิยธรรมชัย และ “ปูไข่” พงศ์สิรี บรรลือวงศ์ ได้ฤกษ์งามยามดีวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา จัดพิธีวิวาห์ในโบสถ์ เซนต์หลุยส์ มารี เดอ มงฟอร์ต (St. Louis Marie de Montfort) ภายใน ABAC บางนา ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก แน่นอนว่าในวันสำคัญนี้ แหวนเพชรแท้คุณภาพระดับโลกจาก ยูบิลลี่ ไดมอนด์ ได้เป็นหนึ่งในตัวแทนของความรักที่สดใสและยั่งยืน ในการเลือกแหวนแต่งงานของทั้งคู่ ได้เลือกแหวนเพชรน้ำร้อยที่ตรงใจเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ เน้นคุณภาพและความเรียบง่าย แต่ไม่ขาดความหรูหรา

เจี๊ยบ-ปูไข่

เจี๊ยบ และ ปูไข่ เล่าว่า “การเลือกแหวนไม่ใช่แค่เรื่องของแฟชั่น แต่เราต้องการแหวนที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์และความรักที่เรามีให้กัน เพราะฉะนั้นเราจึงเฟ้นหาเพชรคุณภาพที่ดีที่สุด และใส่ใจในความสำคัญตามหลักมาตราฐานคุณภาพเพชร 4C เพราะเป็นแหวนที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักของเราทั้งคู่ โดยเราได้เลือกเพชรน้ำร้อยหรือ D COLOR DIAMOND นั้นเอง เพราะถือว่าเป็นที่สุดของสีเพชร ดีที่สุดขาวใสที่สุด และจริงๆ แล้วเราทั้งคู่ไม่ค่อยทราบถึงเรื่องของเพชรสักเท่าไหร่ แต่เมื่อเรากำลังจะมีพิธีสำคัญที่สุดของชีวิต เราจึงมองหาแบรนด์ที่มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพและความน่าเชื่อถือ เราจึงสรรหาความรู้เรื่องเพชรเพื่อที่จะหาแหวนแต่งงานที่เป็นสัญลักษณ์แทนใจ

เจี๊ยบ-ปูไข่

โดยยูบิลลี่ ไดมอนด์ ได้มอบสิ่งที่เราต้องการได้อย่างดีเยี่ยม และเป็นแบรนด์เพชรสัญชาติไทยที่ดำเนินการมาอย่างยาวนานกว่า 95ปี พร้อมการันตีคุณภาพเพชรระดับสากลอีกด้วย เราจึงมั่นใจและภาคภูมิใจกับแหวนเพชรแต่งงานของเรามาก ๆ นอกจากเรื่องคุณภาพเพชรแล้ว เรายังมองไปถึงดีไซน์ของแหวนที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกๆ วัน แหวนจากยูบิลลี่ ไดมอนด์ทำให้เรารู้สึกมั่นใจ เพราะออกแบบมาได้อย่างประณีต seamless พอดีไปกับนิ้วมือ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเจี๊ยบและปูไข่ที่ชอบทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามใจ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การออกกำลังกาย หรือการออกไปใช้ชีวิตประจำวัน”

เจี๊ยบ-ปูไข่

รู้จัก 3 สตรีผู้ทรงอิทธพลแห่งเม็กซิโกที่ ‘โอปอล สุชาตา’ เลือกคัฟเวอร์

Alternative Textaccount_circle

เมื่อ ‘โอปอล สุชาตา‘ เลือกคัฟเวอร์เป็น 3 สตรีผู้ทรงอิทธพลแห่งเม็กซิโก พวกเธอเหล่านี้เป็นใคร? มาทำความรู้จักไปพร้อมกัน

กลายเป็นกระแสในกองประกวด Miss Universe 2024 อีกครั้ง เมื่อตัวแทนจากประเทศไทยอย่าง ‘โอปอล สุชาตา’ คัฟเวอร์เป็น 3 สตรีผู้ทรงอิทธิพลของเม็กซิโก โดยคนที่เธอเลือกมามีทั้ง Frida Kahlo จิตรกรเจ้าของผลงานศิลปะชื่อดังระดับโลก, Andrea Meza มิสยูนิเวิร์ส 2020 นับเป็นมงกุฎที่ 3 ของประเทศ และ Claudia Sheinbaum ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเม็กซิโก

FRIDA KAHLO

At the end of the day, we can endure much more than we think we can

Frida Kahlo ถือเป็นหนึ่งในศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเม็กซิโก ตั้งแต่เด็กเธอป่วยเป็นโรคโปลิโอตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ทำให้ต้องนอนรักษาอยู่บนเตียงเป็นเวลา 9 เดือน ทำให้ขาและเท้าข้างขวาอ่อนแรงและผอมบาง หลังจากหายป่วยเธอต้องใช้ชีวิตด้วยการเดินกะเผลกและสวมกระโปรงยาวตลอดชีวิต

จุดเริ่มต้น

ต่อมาขณะที่เธอกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาที่มีชื่อเสียงในเม็กซิโก เธอได้ประสบอุบัติเหตุอีกครั้งจากรถบัสชนกับรถราง ทำให้เธอบาดเจ็บสาหัสทั้งกระดูกสันหลังและกระดูกเชิงกรานหัก ทำให้เธอต้องพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านนาน 3 เดือน จนทำให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการวาดรูปฆ่าเวลาเบื่อหน่ายที่ผ่านพ้นไปแต่ละวัน ซึ่งรูปที่เธอวาดคือ ‘รูปภาพเหมือนของตัวเอง’ เมื่อพ่อและแม่เห็นถึงความสามารถ พวกเขาจึงทำขาตั้งแบบพิเศษเพื่อให้เธอสามารถวาดรูปบนเตียงได้

ผลงานสู่ ‘ศิลปินระดับโลก’

ค.ศ. 1932 > เธอได้เพิ่มองค์ประกอบที่สมจริงและเหนือจริงมากขึ้น  ในภาพวาดที่มีชื่อว่า Henry Ford Hospital เป็นภาพตัวเองนอนเปลือยกายอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล ท่ามกลางอาการตกเลือด พร้อมสัญญะมากมายที่แฝงอยู่ในภาพ โดยภาพวาดนี้เป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกที่เธอแท้งลูกคนที่สอง

ค.ศ. 1938 > เธอได้รับงานจ้าง Clare Boothe Luce เพื่อวาดภาพ Dorothy Hale เพื่อนของเธอที่ฆ่าตัวตาย ฟรีดา คาห์โลได้วาดภาพ The Suicide of Dorothy Hale ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวการกระโดดฆ่าตัวตายอันน่าเศร้า ทันทีที่ Luce เห็นภาพวาดเธอตกใจกลัวและเกือบจะทำลายภาพวาดนี้ทิ้ง

ค.ศ. 1939 > ฟรีดาได้รับคำเชิญจาก ‘อังเดร เบรอตง’ เดินทางไปยังปารีสเพื่อจัดแสดงผลงาน ซึ่งการเดินทางครั้งนั้น เธอได้วาดภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดภาพหนึ่งของเธอ มีชื่อว่า The Two Fridas เป็นภาพแสดงให้เห็นบุคลิกที่แตกต่างกันของฟรีดา บุคลิกหนึ่งคือฟรีดาในชุดเตฮัวนาพร้อมหัวใจแตกสลาย นั่งข้าง ๆ ฟรีดาผู้แต่งตัวแบบอิสระและทันสมัย

ค.ศ. 1944 > เป็นอีกปีที่เธอได้สร้างผลงานที่มีชื่อเสียงอีกครั้ง นั่นคือ The Broken Column ในภาพนี้เป็นภาพเธอเองในร่างเปลือยกายและแตกออกเป็นสองท่อน กระดูกสันหลังแตกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนเสา สวมเครื่องพยุงหลังและมีตะปูอยู่ทั่วร่างกาย บ่งบอกถึงความเจ็บปวดที่เธอต้องเผชิญมาตลอดชีวิต

หลังจากนั้นในปี 1950 สุขภาพของเธอเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ทั้งร่างกายและจิตใจ เธอต้องเผชิญการผ่าตัดหลายครั้งจากอาการเนื้อตายข้างขวา แต่ความพยายามของเธอก็ไม่มีที่สิ้นสุด เธอยังคงสร้างสรรค์ผลงานตลอดมาจนในปี 1953 เธอสามารถจัดนิทรรศการเดี่ยวในเม็กซิโก ก่อนจะเสียชีวิตลงหลังจากวันเกิดปีที่ 47 ของฟรีดา

ANDREA MEZA

Beauty radiates not only in our spirit but in our hearts in a way that we conduct ourselves. Never permit someone to tell you that you are not valuable

Andrea Meza เกิดเมื่อวันที่ 13  สิงหาคม 1994 เมือง Chihuahua City ประเทศเม็กซิโก เธอจบการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ สาขาซอฟต์แวร์ ที่ Autonomous University of Chihuahua เธอเป็นลูกสาวคนโตในบรรดาลูกสาวสามคน โดยน้องสาวของเธอชื่อ Karen Meza และ Mariana Meza

เบื้องหลังก่อนรับตำแหน่ง
ก่อนรับมงกุฎ Miss Universe Mexico 2020 เธอเป็นช่างแต่งหน้าและนางแบบ และยังเป็นนักเคลื่อนไหวที่ให้ความสำคัญกับสิทธิสตรี การแบ่งแยกเชื้อชาติและสีผิว รวมถึงเธอรณรงค์การยุติความรุนแรงทางเพศ และยังได้เข้าร่วมกับองค์กรการกุศลในต่างประเทศอย่าง อินโดนีเซีย จีน และอินเดีย

Empowering Women

แอนเดรียเชื่อมั่นใน Empowering Women (การส่งต่อพลังให้ผู้หญิงทั่วโลก) ซึ่งถือเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงเก่งในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการ มนุษย์ธรรม และวิชาชีพ เธอต้องการใช้เวทีนี้เพื่อมอบอำนาจให้ผู้หญิงและทำงานเพื่อสังคม

CLAUDIA SHEINBAUM

“I will become the first woman president of Mexico. I’ve said it from the start, this is not just about me getting to the top office, it’s about all of us getting here.”

Claudia Sheinbaum ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเม็กซิโก เธอเกิดในครอบครัวที่มีเชื้อสายยิว และในช่วงแรกเธอเดินตามพ่อแม่เข้าสู่แวดวงวิทยาศาสตร์ ศึกษาวิชาฟิสิกส์และวิศวกรรมพลังงานเพื่อทำการวิจัยในระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ สหรัฐอเมริกา จากนั้นเธอเริ่มมีส่วนร่วมในกิจกรรมรณรงค์หาเสียงของนักศึกษา ในช่วงหาเสียง และมักจะยกเครดิตให้กับการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ในการประท้วงของนักศึกษาในปี 1968 ว่าเป็นแรงบันดาลใจให้กับงานของเธอเอง

เปลี่ยนเส้นทางสู่การเมือง

เธอไปสู่เส้นทางการเมืองอยู่ภายใต้การดูแลของโลเปซ โอบราดอร์ ระหว่างนั้นเธอจึงรณรงค์หาเสียงให้กับโลเปซ โอบราดอร์ ขณะเดียวกันก็สร้างเส้นทางการเมืองของตนเอง จนในปี 2018 เธอกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้นำเม็กซิโกซิตี้ 

การต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เธอมีเป้าหมายในการ “ส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน” ผ่านการสร้างแหล่งพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานความร้อนใต้พิภพ และไฮโดรเจนและ Sheinbaum เองก็มีส่วนสนับสนุนรายงานเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปี พ.ศ. 2550 ซึ่งรายงานดังกล่าวได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพในปีนั้นอีกด้วย


ข้อมูล: fridakahlo.org

เวิร์คชอปเพ้นท์เซรามิกให้คุณได้เป็นเจ้าของชิ้นงานศิลปะที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกที่ “เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ – พรานนก”

แสนสิริ จัดเวิร์คชอปเพ้นท์เซรามิกให้คุณได้เป็นเจ้าของชิ้นงานศิลปะที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกที่ “เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ – พรานนก”

Alternative Textaccount_circle
เวิร์คชอปเพ้นท์เซรามิกให้คุณได้เป็นเจ้าของชิ้นงานศิลปะที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกที่ “เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ – พรานนก”
เวิร์คชอปเพ้นท์เซรามิกให้คุณได้เป็นเจ้าของชิ้นงานศิลปะที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกที่ “เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ – พรานนก”

แสนสิริ ตอกย้ำความเป็นผู้นำอสังหาฯ ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ จัดงาน Exclusive Preview โครงการ เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ – พรานนก บ้านเดี่ยวแบบบ้านใหม่ “Sackville” ครั้งแรกกับฟังก์ชัน Double Volume Living Space ในซีรีส์ Georgian ท่ามกลางบรรยากาศ เป็นส่วนตัวเพียง 35 ครอบครัว ให้ได้ใช้ชีวิตอย่างเพียบพร้อมที่สุดบนทำเลศักยภาพ งานนี้แสนสิริมอบประสบการณ์สุดประทับใจ THE ART OF MINDFULNESS WORKSHOP เวิร์คชอปเพ้นท์เซรามิกสุดคราฟต์ให้เหล่าลูกบ้านได้สร้างสรรค์และเป็นเจ้าของชิ้นงานศิลปะที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก เมื่อวันที่ 8-10 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา

เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ – พรานนก คือโครงการบ้านซึ่งสะท้อนตัวตนที่แตกต่างผ่านดีไซน์ Georgian แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมในยุค British Georgian เอกลักษณ์อยู่ที่การเอาความสมมาตร ความโอ่โถง​ จากยุคคลาสสิก มาลดทอนรายละเอียด​​และเลือกใช้วัสดุที่ดูทันสมัยยิ่ง​ขึ้น สะท้อนความงดงามในแบบอังกฤษได้อย่างสมบูรณ์แบบ​


เทคนิค Reverse Blush ปัดแก้มแบบ 'เจนนี่' เปลี่ยนลุคให้ดูเป็นแมวน้อยขี้อ้อน

เทคนิค Reverse Blush ปัดแก้มแบบ ‘เจนนี่’ เปลี่ยนลุคให้ดูเป็นแมวน้อยขี้อ้อน

Alternative Textaccount_circle
เทคนิค Reverse Blush ปัดแก้มแบบ 'เจนนี่' เปลี่ยนลุคให้ดูเป็นแมวน้อยขี้อ้อน
เทคนิค Reverse Blush ปัดแก้มแบบ 'เจนนี่' เปลี่ยนลุคให้ดูเป็นแมวน้อยขี้อ้อน

ใบหน้าของ ‘เจนนี่’ เป็นทรงรูปไข่ แต่มีแก้มที่เต็มอิ่มเหมือนเด็ก ช่างแต่งหน้าจึงละทิ้งการคอนทัวร์และใช้บลัชออนเฉดสีสดใสออกเชอรี่แดงก่ำเพื่อสานต่อความน่ารักของเจนนี่ โดยเลือกปัดบริเวณใต้ตาอัปเกรดเป็นรีเวิร์สบลัช (Reverse Blush) สไตล์แมว ซึ่งมีพื้นฐานมาจากลุค “ซึนเดเระของแมว” ฟีลแบบแมวน้อยน่ารักที่ภายนอกดูเย็นชาแต่มีความขี้อ้อน

“Reverse Blush” เป็นการปัดบลัชออนบริเวณเล็กๆ ใต้ตาใกล้กับจุดสูงสุดของโหนกแก้ม โดยเทคนิคเลือกบลัชออนที่มีโทนสีใกล้เคียงกัน เช่น สีชมพู พีช ใช้บลัชออนสองเฉดสีที่แตกต่างกัน แล้วแบ่งเป็นมุมสำหรับปัดบลัชออน บริเวณใต้ดวงตาเป็นสามเหลี่ยมหัวกลับคล้ายทริคลงคอลซีลเลอร์ใต้ตา (ตัวอย่างตามรูปด้านล่างนี้)

จากนั้นเลือกบลัชออนชนิดน้ำหรือเจลที่ติดทนนานแล้วทาบนบริเวณสามเหลี่ยมแรก ตามด้วยปัดบลัชออนเนื้อแมตต์โดยใช้แปรงหัวเล็กปัดลงบนสามเหลี่ยมที่สอง จากนั้นใช้พัฟแป้งกดและเกลี่ยขอบบลัชออนทรงสามเหลี่ยมทั้งสองเส้น แต้มไฮไลท์เล็กน้อยปัดแบบแตะๆ ลงบริเวณจุดสูงสุดของโหนกแก้มใกล้กับดวงตา แค่นี้แสงและเงาก็ทำให้ใบหน้าดูโดดเด่นมีความคิ้วต์แบบลูกแมวน้อยขี้อ้อนแล้ว

Photo: jennierubyjane


แชร์ทริคเปลี่ยน 'ผิวขาดน้ำ' ให้เป็นผิวสวยสุขภาพดี

แชร์ทริคเปลี่ยน ‘ผิวขาดน้ำ’ ให้เป็นผิวสวยสุขภาพดี

Alternative Textaccount_circle
แชร์ทริคเปลี่ยน 'ผิวขาดน้ำ' ให้เป็นผิวสวยสุขภาพดี
แชร์ทริคเปลี่ยน 'ผิวขาดน้ำ' ให้เป็นผิวสวยสุขภาพดี

ไม่ว่าใครก็ดูดีเสมอ เพียงแค่หันมาใส่ใจดูแลตัวเองเป็นประจำและอย่าปล่อยให้ผิวขาดน้ำ เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาผิวหลักๆ ของทุกคนที่ต้องเผชิญ คือ ผิวขาดน้ำ ล่าสุดในงาน Thailand Influencer Awards 2024 ได้ล้วงเคล็ดลับการดูแลตัวเองเรื่องการดูแลผิวให้สวยสุขภาพดีจาก อินฟลูเอนเซอร์สายบิวตี้สาระแน่น เภสัชกรหญิง โดนัท ณัฐวดี เลิศจิตติคุณ เจ้าของเพจ DONUTBeautyBrains เจ้าของรางวัลชนะเลิศอันดับ 2 Best Beauty Influencer Award 2024

ซึ่งคุณโดนัทบอกว่า ไม่ว่าจะเพศไหนเมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป หรือ First Jobber มักจะกลุ้มใจกับปัญหาผิวขาดน้ำ ซึ่งหมายถึงเกราะปราการผิวอ่อนแอลง จากมลภาวะต่างๆ ทั้งฝุ่น แสงแดด การพักผ่อนไม่เพียงพอและความเครียด เมื่อเกราะปราการผิว หรือ Skin Barrier ไม่ดี ส่งผลให้น้ำใต้ผิวระเหยออก กักน้ำไว้ไม่อยู่ ผิวก็จะขาดความชุ่มชื้นจากข้างใน การผลัดเซลล์ผิวแย่ลงทำให้เกิดสิว จุดด่างดำ และฝ้า “เกราะปราการผิวอยู่ในผิวชั้นนอก เปรียบเสมือนอิฐและปูน เป็นส่วนที่ใช้ในการปกป้องเซลล์ผิวที่ช่วยในการป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้าสู่ร่างกาย และล็อกความชุ่มชื้นในชั้นผิวไม่ให้หายไป ซึ่งนอกจากมลภาวะต่างๆ การล้างหน้าบ่อยเกินไป หรือบริโภคอาหารประเภทไขมันดีไม่เพียงพอก็ทำให้มีโอกาสสูญเสียเกราะปราการผิวได้ เนื่องจากเกราะปราการผิวเป็นชั้นที่ผิวหนังสร้างขึ้นมาจากไขมัน และมอยส์เจอไรเซอร์ในชั้นผิว”

ผิวแบบไหนก็ขาดน้ำได้ หลายคนอาจคิดว่า ผิวขาดน้ำ จะเป็นเฉพาะคนที่มีผิวแห้ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผิวมันก็มีโอกาสผิวขาดน้ำได้เช่นกัน “สภาพผิวของเราจะมีตั้งแต่ผิวแห้ง มัน ผสม ซึ่งจะใช้น้ำมันเป็นตัวตัดสิน คนผิวแห้ง คือน้ำมันผิวน้อย ส่วนคนผิวมัน คือ ผิวที่มีการผลิตความมันในปริมาณมากเกินไป ซึ่งไม่ว่าจะมีผิวแบบไหนก็ขาดน้ำได้เช่นกัน เพราะน้ำมันบนผิวมี 2 แบบ คือ น้ำมันจากต่อมใต้ผิวหนังที่เป็น sebum เอาไว้เคลือบบนผิว และน้ำมันที่ทำหน้าที่เหมือนกาว พอผิวขาดน้ำก็เหมือนกำแพงเมืองรั่ว ทำให้น้ำในผิวระเหยออก”

วิธีสังเกต ผิวขาดน้ำ คุณโดนัทเผยว่าอาการง่ายๆ คือ จะรู้สึกว่าผิวหน้ามันแต่เวลาแต่งหน้าทีไรผิวหน้าเป็นขุย แต่งหน้าไม่ติด หรือที่เรียกว่า ทาแป้งไม่ติด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ผิวขาดน้ำ นอกจากนั้นบางคนจะสังเกตได้ว่า รูขุมขนกว้างในลักษณะเป็นวงตัวยู ซึ่งคนที่ผิวมันรูขุมขนจะเป็นตัวโอ สำหรับรูขุมขนกว้างเพราะผิวขาดน้ำ เมื่อดูแลผิวด้วยการเติมความชุ่มชื้น เสริมปราการผิว รูขุมขนก็จะดูดีขึ้น ผิวก็จะแข็งแรงขึ้น ปัญหาสิวก็จะเกิดยากขึ้น

ดูแลผิวขาดน้ำอย่างไร หากเกราะปราการผิว เปรียบเสมือนกำแพง น้ำและน้ำมัน คือส่วนสำคัญที่จะทำให้เกราะปราการผิวแข็งแรง ซึ่งก็คือ มอยส์เจอไรเซอร์ ที่มีตัวเสริมปราการผิวอย่าง เซราไมด์ ไขมันจำเป็นที่อยู่ในผิวตามธรรมชาติ “มอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นให้ผิวควรมีส่วนผสมของ เซราไมด์ เพราะมีคุณสมบัติช่วยเสริมชั้นไขมันปราการผิวให้แน่นหนาแข็งแรง เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และช่วยเสริมการกักเก็บความชุ่มชื้นไว้กับผิว โดยเซราไมด์มี 3 ชนิด คือ Ceramide NP, Ceramide AP, Ceramide EOP รวมถึง Cholesterol ที่สามารถช่วยเสริมชั้น Intercellular Lipid  หรือชั้นลิพิต ที่เพิ่มความแข็งแรงของผิว และยังมี Phytosphingosine เพื่อเสริมความแข็งแรงของผิว ก่อนตัดสินใจซื้อครีมบำรุงผิว อยากให้อ่านฉลากส่วนผสมก็จะช่วยให้หาสกินแคร์ที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของเราได้” 

Must have Item ของคน 40+ ถ้าให้โดนัทเลือก เพียง 1 ไอเท็ม โดนัทเลือกกันแดด เนื่องจากในวัย 40+ ผิวจะขาดความยืดหยุ่น เนื่องจากฮอร์โมนที่ดรอปลง ผิวยืดหยุ่นลดลง และแสงแดด คือศัตรูสำคัญที่เร่งให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ครีมกันแดดจึงสำคัญมากๆ และควรเลือกซื้อครีมกันแดดที่สามารถกันแดดได้จริง โดยเลือกซื้อจากแบรนด์ที่น่าไว้ใจ น่าเชื่อถือ เพราะประสิทธิภาพที่เขียนไว้ในฉลากเมื่อนำมาทาบนผิว ประสิทธิภาพจะลดลงครึ่งนึง จากงานวิจัยบอกว่า กันแดด SPF50 เมื่อทาลงบนผิวแล้ว จะปกป้องแสงแดดได้ SPF7 ดังนั้น ต้องทากันแดดให้เพียงพอและเลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ

Photo: Pexels


THE KLINIQUE กวาด 3 รางวัลใหญ่ PRAEW ICONIC BEAUTY 2024 

account_circle

ถือเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความสำเร็จของ THE KLINIQUE กับการคว้า 3 รางวัลใหญ่จากเวทีความงามแห่งปี PRAEW ICONIC BEAUTY 2024 มาครอง ได้แก่ THE ICON LEGEND 2024, GRAND HONOR THERMAGE FLX FACELIFT TECHNIQUE และ ICONIC HAIR REMOVAL LASER CLINIC ซึ่งนับเป็นรางวัลจากความมุ่งมั่นและความทุ่มเทของทีมแพทย์ที่ได้พัฒนาเทคนิคการรักษาให้มีความจำเพาะต่อปัญหา และความกังวลของผู้เข้ารับบริการที่มีความแตกต่างกันได้อย่างเหมาะสม ผสานหลักทางกายวิภาคศาสตร์ขั้นสูงและนวัตกรรมที่เหมาะสมในการออกแบบการรักษาให้มีความจำเพาะกับแต่ละส่วน ทั้งเรื่องการดูแลผิวพรรณและการปรับรูปหน้า จึงประสบความสำเร็จในการสร้างความประทับใจในการรักษาได้อย่างต่อเนื่อง 

สำหรับ “โปรแกรมยกกระชับผิว” เป็นนวัตกรรมมาตรฐาน US FDA สำหรับการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กและกระชับที่ได้รับความนิยม นอกจากเทคนิคเฉพาะ Anatomical Facial Contouring Technique ที่เกิดจากการพัฒนาโดยทีมแพทย์ที่ชำนาญการแล้ว ยังเสริมด้วยระบบปฏิบัติการอัตโนมัติ Pain Block ซึ่งเป็นการนำ Comfort Pulse Technology มาทำงานร่วมกับระบบ Thermage Cool ทำให้ผิวผ่อนคลายได้เต็มที่และรู้สึกเจ็บน้อยลง และยังมีเทคโนโลยี AccuREPTM ระบบอัจฉริยะที่สามารถวิเคราะห์ความแตกต่างของผิวในแต่ละบริเวณได้อย่างแม่นยำ ทำให้การส่งพลังงานลงสู่ผิวในแต่ละครั้งมีความจำเพาะ การรักษาจึงมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยมากขึ้น

มาถึง “โปรแกรมกำจัดขน” เป็นเลเซอร์ที่ถูกพัฒนามาเพื่อการกำจัดขนอย่างจำเพาะ ด้วยการรับรองประสิทธิภาพมาตรฐาน US FDA ผสานความชำนาญของแพทย์ในการวิเคราะห์เส้นขนได้อย่างละเอียด จึงสามารถปรับค่าพลังงานให้มีความจำเพาะต่อลักษณะของขนแต่ละชนิด โดยที่ยังคงมีความอ่อนโยนต่อผิว และทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มากกว่าการกำจัดขนแบบทั่วไป อีกทั้งพลังงานที่ลงลึกถึงรากขนอย่างจำเพาะสามารถตัดวงจรเส้นขนได้ ไม่ว่าจะเป็นขนเส้นหนาหรือบาง พร้อมช่วยดูแลดังนี้  

  • ลดการเกิดเส้นขนใหม่ 
  • รักษาและป้องกันการเกิดขนคุด 
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน 
  • กระชับรูขุมขน 
  • ปรับผิวเรียบเนียนขึ้น 
  • รักษาภาวะผิวหนังไก่  
  • ปรับสีผิวกระจ่างใสขึ้น 
  • ลดกลิ่นอับชื้น 

ก้าวต่อไปของ THE KLINIQUE ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคนิคการรักษา ร่วมกับการเลือกสรรนวัตกรรมที่อัปเดตมาปรับใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษายิ่งขึ้น สร้างผลลัพธ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้เข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพัฒนาโปรแกรมการรักษาที่ครอบคลุมความต้องการของผู้เข้ารับบริการ ทั้งด้านความงามและสุขภาพที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นอยู่เสมอ 


กันแดดตัวดังจาก CATHY DOLL บางเบาแบบจึ้ง ทำถึงเอาอยู่อากาศโซฮ็อต

account_circle

Praew Survey รอบนี้ ขอป้ายยากันแดดเนื้อบางเบาตัวท็อป เจ้าของรางวัล ICONIC LIGHTWEIGHT LONG PROTECTION SUNSCREEN จากเวที PRAEW ICONIC BEAUTY 2024 นั่นคือ CATHY DOLL ULTRA LIGHT SUN FLUID SPF50+ PA++++ ใครตามหากันแดดที่เบาบางราวกับลืมทา ก็ต้องมาจบที่ตัวนี้เลยค่ะ

CATHY DOLL ULTRA LIGHT SUN FLUID SPF50+ PA++++ กันแดดตัวดังที่คว้ารางวัลด้านความบางเบา แต่เน้นการปกป้องยาวนาน มาพร้อมสูตรที่คิดมาเพื่อคนไทยโดยเฉพาะในราคาที่จับต้องได้

จากระดับความร้อนของอากาศประเทศไทยที่จัดอยู่ในข่าย Extremely High หากกันแดดที่ปกป้องผิวได้ไม่เพียงพออาจส่งผลให้เกิดปัญหาผิวไหม้ รอยหมองคล้ำ ก่อให้เกิดริ้วรอยไปถึงขั้นมะเร็งผิวหนัง เรียกว่าหากเลือกกันแดดผิด ชีวิตผิวเปลี่ยนแน่นอน CATHY DOLL จึงออกแบบสูตรกันแดดที่บางเบาเป็นเนื้อแบบฟลูอิด เกลี่ยง่ายไม่ทิ้งคราบ หายวับไปในผิว แถมยังรู้สึกสบายราวกับไม่ได้ทาอะไร แต่ให้การปกป้องจัดเต็มในระดับ SPF50+ PA++++ เพื่อตอบโจทย์ความร้อนของบ้านเราที่เกินต้าน

และจากการทดสอบมาแล้วทั้งแบบ In Vivo Tested บนผิวคนจริงๆ และ In Vitro Tested ด้วยเครื่องมือจากแล็บที่ได้รับรองมาตรฐาน กันแดดสามารถป้องกัน UVA และ UVB ปลอดภัยต่อผิวแน่นอน พร้อมผ่านการรับรองทางผิวหนัง Dermatologically Tested ว่าไม่ระคายเคือง แถมยังอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอีกด้วย มั่นใจได้เลยว่าผิวจะได้รับการดูแลอย่างดีตามมาตรฐานสากล

นอกจากนี้ CATHY DOLL ULTRA LIGHT SUN FLUID SPF50+ PA++++ ยังผสานคุณสมบัติบำรุงและปกป้องผิวจากสารสกัดน้ำมันมะพร้าว ซึ่งเป็นสารแอนติออกซิแดนต์ปกป้องผิวและเติมเต็มความนุ่มชุ่มชื้น พร้อมปลอบประโลมผิวด้วยสารสกัดจากว่านหางจระเข้ ที่สำคัญปราศจากมิเนอรัลออยล์ สี พาราเบน และสารที่เป็นอันตรายต่อปะการัง

จัดเป็นครีมกันแดดที่คุ้มค่าคุ้มราคาและคิดมาเพื่อสภาพอากาศบ้านเราโดยเฉพาะ ชนิดที่มงไม่ลงจะงงมาก


นางงามจักรวาล 2024

คุณแม่จากทั่วโลก เข้าร่วมประกวด นางงามจักรวาล 2024 มากถึง 11%

Alternative Textaccount_circle
นางงามจักรวาล 2024
นางงามจักรวาล 2024

หลังจากที่ในปี 2023 เวทีการประกวดนางงามระดับนานาชาติ  มิสยูนิเวิร์ส หรือ นางงามจักรวาล ครั้งที่ 72 ได้แหวกขนบด้วยการประกาศกฎใหม่ อนุญาตให้ผู้หญิงที่แต่งงานและคุณแม่ที่มีลูกก็สามารถร่วมเข้าประกวดได้ หลังจากถกเถียงกันกันเป็นเวลานานก่อนจะนำมาปฏิบัติใช้จริง

โดย แอนเดรีย เมซา Miss Universe 2020 ได้เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกฏนี้ โดยบอกว่า “มันเป็นเรื่องที่ดีที่จะเปลี่ยนแปลง มีผู้หญิงจำนวนมากที่แต่งงานตั้งแต่อายุ 20 ปี หลายคนต้องการเข้าร่วมการประกวดแต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากกฏ ต่อจากนี้เราอาจจะได้เห็นความก้าวหน้าและการเปลี่ยนแปลงโลกโดยผู้คนเหล่านี้”

ขณะเดียวกัน แอนเดรีย ยังกล่าวอีกว่า “ชีวิตของมิสยูนิเวิร์สเป็นงานที่จริงจัง ซึ่งอาจต้องใช้ความพยายามและเหนื่อยล้า แต่ไม่ได้หมายความว่าแม่และภรรยาควรถูกตัดสิทธิ์” “เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ผู้หญิงมีความสามารถในการดำรงตำแหน่งผู้นำที่มีอำนาจหน้าที่โดยมีครอบครัว ซึ่งกรณีนี้ก็ไม่ต่างกัน”

ทั้งนี้ที่ผ่านมาแม้จะมีการอนุญาต แต่ก็ไม่ได้มีผู้เข้าประกวดที่เป็นคุณแม่มากนัก แต่ทว่าในปี 2024 แตกต่างออกไป โดยเพจ T-Pageant ได้เผยว่าในการประกวดครั้งนี้มีคุณแม่เข้าร่วมประกวดมากถึง 14 คน จากตัวแทน 126 ประเทศทั่วโลก ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 11% ซึ่งมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

เหล่าคุณแม่ที่เข้าประกวด Miss Universe 2024

คุณแม่วัย 32 ปี Emma Avanesyan  จากประเทศ Armenia

นางงามจักรวาล 2024

คุณแม่วัย 30 ปี  Halima Hoy จากประเทศ Belize

คุณแม่วัย 33 ปี Davin Prasath จากประเทศ Cambodia

คุณแม่วัย 32 ปี Elena Hidalgo จากประเทศ Costa Rica

คุณแม่วัย 34 ปี Logina Salah จากประเทศ Egypt 

คุณแม่วัย วัย 32 ปี Stephanie Cam  จากประเทศ Honduras

คุณแม่วัย 40 ปี Beatrice Njoya จากประเทศ Malta

คุณแม่วัย 28 ปี Faith Landman จากประเทศ Netherlands

คุณแม่วัย 23 ปี Chidimma Adetshina จากประเทศ Nigeria

คุณแม่วัย36 ปี Jennifer Colin จากประเทศ Puerto Rico

คุณแม่วัย 32 ปี Loredana Salanta จากประเทศ Romania

คุณแม่วัย 27 ปี Emilia Dobreva จาก United Arab Emirates

คุณแม่วัย 28 ปี Ileana Marquez จากประเทศ Venezuela

คุณแม่วัย 28 ปี Brandina Lubuli จากประเทศ Zambia

keyboard_arrow_up