‘เชฟร็อค’ — ภูริ หัสดินทร์ เทรนเนอร์เลือดนักสู้

ชายหนุ่มคนนี้ เปรียบเทียบชีวิตตัวเองเป็นเหมือนการเดินทาง ที่ทำให้เขาได้เรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ตลอดเส้นทางที่ผ่านมา
จากเชฟหนุ่มน้ำหนักตัว 135 กิโลฯ เขาสามารถลดน้ำหนักเหลือ 90 กิโลฯ เส้นทางนี้กว่าจะได้มา ไม่ง่าย เป็นเจ้าของอู่แต่งรถ สร้างรายได้นับสิบล้านบาท ก่อน ‘เจ๊ง’ ไม่เป็นท่า ทำให้เขาถึงขั้นปลิดชีพตัวเอง แต่เพราะมัจจุราชไม่ว่างมารับตัว โอกาสจึงกลับเป็นของเขาอีกครั้ง

ศรินทร์รัศมิ์ ลีลาประชากุล สวยตอบโจทย์

แอบเล็งมาตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาในงานครบรอบ 50 ปี บิวตี้ เจมส์แล้ว สำหรับสุภาพสตรีคนนี้ที่มาในลุคของเจ้าหญิง ศีรษะประดับด้วยเทียร่าเพชร เสื้อผ้าหน้าผมจัดเต็ม จนต้องขอเข้าไปเก็บภาพก่อนใคร

ถือเป็นการพบกันครั้งแรก แพรวจึงขอทำความรู้จักอย่างละเอียด
ก่อนหน้านี้คุณแนน ทำงานด้านการตลาด ของเซเว่น อีเลฟเว่น ก่อนจะแต่งงานมีครอบครัว และลาออกมาช่วยงานสามีธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ขุดเจาะน้ำมันในตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการเงิน โดยมีโซ่ทองคล้องใจเป็นลูกชายวัย 6 ขวบ วันนี้ควงคู่มากับคุณสามี ในฐานะลูกค้าวีไอพี

“ทราบว่าธีมของงานเป็นวิคตอเรีย จึงรื้อชุดเก่ามามิกซ์แอนด์แมตช์ โดยมีสามีช่วยเป็นสไตลิสต์ให้ว่าสมัยวิคตอเรียแต่งตัวกันอย่างไร เทียร่า มีอยู่แล้ว เคยใส่ในวันแต่งงาน มรดกตกทอดจากคุณแม่ เป็นของโบราณที่คุณแม่ประมูลมาจากต่างประเทศ พอดีมีชุดของไข่บูติกตัดไว้นานแล้วยังไม่เคยใส่เลย เรียกว่าชุดนี้ไม่ได้ลงทุนซื้ออะไรเพิ่มเลย

“สร้อยคอ กับต่างหู มุกเซาท์ซี เข้าชุดกัน ได้ที่เพนนินซูล่า พลาซ่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และนิ้วนางมือขวาสวมแหวนเพชร Fancy Yellow 11 กะรัต จากร้านป้าภา ส่วนกระเป๋าลายดอกไม้แบรนด์จูดิธ ลีเบอร์ อุดหนุนคุณหนึ่ง-สุริยน ศรีอรทัยกุล เห็นว่าสีไปด้วยกันได้ดีกับชุดนี้”

ทำความรู้จักกันได้สักพักถึงทราบว่า คุณแนนเป็นเซเลบที่จัดอยู่ในประเภทเก็บเนื้อเก็บตัว ปีหนึ่งออกงานประมาณ 3-4 งาน เป็นอย่างมาก
“ถ้าสนิทกันอย่างงานร้านเพชร จึงยอมมางาน เพราะตอนนี้มีลูกก็ต้องคอยดูแลสอนการบ้าน บวกกับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวจะชอบไปเที่ยวต่างประเทศกันสามคนพ่อแม่ลูกมากกว่า งานนี้จึงเป็นงานแรกของปีนี้ค่ะ”

แพรวขอจัดเต็มประเดิมให้เลยนะคะ

ที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 831 คอลัมน์ spotlight

บุญญาภาณิ์ เบญจรงคกุล เพชรประชันเพชร

เมื่อเป็นงานเพชรบิวตี้ เจมส์ ก็ต้องมีสาวสวยระดับ “เพชร” มาเปล่งประกายประชัน เธอมาพร้อมคุณแม่วรรณา และพี่หนึ่ง-ศุภรัตน์ ทันทีที่มาถึงงานก็ถูกบรรดาตากล้องหลากสื่อรุมเก็บภาพพักใหญ่ เพราะวันนี้เธอสวยในลุคที่แปลกตา

“ไม่อยากใส่ชุดลายพริ้นท์ เพราะดูเยอะเกินไป จึงเลือกเดรสยาวแบรนด์ดิออร์ คอลเล็คชั่นล่าสุด ซื้อที่ช็อปในไทยเมื่อสามเดือนที่แล้ว ชอบตรงดีไซน์ที่ไม่แฟชั่นเกินไป ดูคลาสสิกใส่ได้นาน เหมือนบางชุดของคุณแม่ที่ซื้อไว้ตอนสาวๆ เพชรยังหยิบมาใส่ได้ตลอด สำหรับเพชรการเลือกซื้อเดรสยาว ถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง แม้ราคาสูงแต่ใช้ได้นาน

“เครื่องประดับชิ้นเดียวของชุดนี้คือ สร้อยคอ คอสตูม จิเวลรี่ แบรนด์ Lanvin ของคุณแม่ ปกติเพชรไม่ค่อยใส่จิเวลรี่ นาฬิกาก็ไม่ ขนาดต่างหูที่ใช้ประจำมีแค่คู่เดียว ส่วนทรงผม เพชรไม่ชอบเกล้า แต่ถ้าปล่อยยาวก็ดูเรียบเกินไป จึงทำผมหยิกให้ดูพิเศษขึ้นนิดหนึ่ง

“กระเป๋าทีแรกตั้งใจถือกระเป๋าจูดิธ ลีเบอร์ พอลองแล้วไม่มั่นใจว่าดูเยอะไปไหม จึงเลือกใบที่เรียบและสีกลืนไปกับชุด จำแบรนด์ไม่ได้ แต่ที่จำได้คือ ขอยืมคุณแม่มาค่ะ(หัวเราะ)”

ช่วงนี้เธอกำลังง่วนอยู่กับงาน ผู้อำนวยการหอศิลป์ Moca ที่ได้รับมอบหมายจากคุณพ่อ

“เพชรดูแลด้านงานบริหาร รวมทั้งประชาสัมพันธ์ ซึ่งจริงๆ แล้วยังอยากทำขนมอยู่ พองานหลักมากขึ้น จึงแทบไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลย ทางคุณพ่อก็อยากให้เพชรทำงานอื่นไปด้วย และตอนนี้ท่านกำลังฟิตหุ่น อยากให้เพชรทำขนมแนวเฮลตี้ คงต้องรอไปอีกสักพักหนึ่ง”

ส่วนอัพเดทความรักชวนอิจฉากับหนุ่มหล่อกล้ามโต อาร์ต-วิทูวัฒน์ อังสนานนท์ ที่แอบหวานให้เห็นอยู่เนืองๆ ทางอินสตาแกรม เธอตอบว่า
“แฮปปี้ดีค่ะ(หัวเราะแก้เขิน) คบกันมายังไม่ถึงปี เรื่องแต่งงานคงยังค่ะ ขอทำงานก่อน”

กองเชียร์คงต้องลุ้นกันต่อไป

ที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 831 คอลัมน์ spotlight

ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์…แม็คยอดกตัญญู

ด้วยความสามารถที่ต้องบอกว่าเกินตัว ทำเอาสาวๆ ทุกรุ่นทุกวัย ต่างเทใจขอสมัครเป็นแฟนคลับ “น้องแม็ค” กันเป็นแถว praew.com จึงขอคุยกับคุณแม่ยุ-ฐาคณิฐ นิมจิรวัฒน์ ถึงหนูน้อยสุดน่ารักคนนี้

“น้องแม็คอายุ 6 ขวบครึ่ง เพิ่งเข้าเรียนชั้นป.1 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ตอนเขา 3-4 ขวบ ชอบดูอุลตร้าแมนมาก เรียกว่าเป็นฮีโร่ในดวงใจเลย ผลข้างเคียงคือเวลาเจอใครเขาจะเข้าไปต่อย เตะแบบอุลต้ราแมน เพื่อนๆ ของน้องมายด์ (พี่สาวแม็ค) ที่ไปถ่ายงานด้วยกันพากันแอนตี้ไม่ชอบให้น้องแม็คมาที่กอง เพราะไปไล่เตะเขา ตอนนั้นแม่คิดว่าเป็นเพราะดูการ์ตูนมากไป จึงเปลี่ยนให้ไปดูบาร์บี้กับน้องมายด์แทน สักพักเห็นเขาเต้นรำกับมายด์ แม่เลยคิดว่าให้เขากลับไปดูอุลตร้าแมนเหมือนเดิมดีกว่า (หัวเราะ)

“เขาเป็นเด็กน่ารัก เวลาไปซื้อของด้วยกันจะบอกว่า ใช้สตางค์แม็คซื้อเลยนะ แม่ไม่ได้อยู่กับคุณพ่อแม็คแล้ว รายได้หลักของครอบครัวจึงกลายเป็นว่ามาจากลูก เขาเคยถามว่า ถ้าแม็คไม่ทำงานแล้วเราจะเอาเงินมาจากไหน ประโยคนี้ทำให้แม่คิดว่านี่ใช่หน้าที่เขาเหรอ เคยนั่งรอเขาทำงาน แล้วเขาเดินเข้ามากอดร้องไห้ บอกว่า หม่าม้าผมอยากกลับบ้าน แต่พอทีมงานเรียกเข้าฉาก เขาก็เดินเข้าไปด้วยรอยยิ้มเหมือนปกติ กลายเป็นแม่ที่หันหลังร้องไห้เอง

“แม่ไม่ได้ภูมิใจที่แม็คดัง แต่ภูมิใจที่เขามีความอดทนและรับผิดชอบสูงมาก เคยบอกเขาว่า “ถ้าเหนื่อยมากก็ไม่ต้องทำนะลูก” แต่เขาบอกว่า “ไม่เป็นไรแม็คทำได้

“ฟังแล้วตื้นตันค่ะ”

เรื่อง เบญจพร ภาพ เนาวพจน์
ที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 839 (10 สิงหาคม 2557) คอลัมน์ Live stories

เมลิค เอเฟ่ ไอย์กูน… จิ๋วแต่แจ๋ว

โด่งดังเป็นขวัญใจผู้ชมทั่วประเทศจากบทบาทวันเฉลิม รุ่นแรก ในละคร “ทองเนื้อเก้า” วันนี้คุณแม่ (ณัฐชนัญ กิตติมงคลพร ไอย์กูน) ขอเป็นตัวแทนเล่าถึงความแสบ ซน ปนน่ารักของน้องเมลิคให้ได้อมยิ้้มกัน

“ในละครเห็นเขาค่อนข้างนิ่ง แต่ความจริงนอกจอซนมา…ก ตอนแรกกังวลว่าเขาจะเล่นไม่ได้ เพราะค่อนข้างซนและไม่คุ้นกับคนแปลกหน้า แถมติดแม่อีก แต่พอถ่าย “ทองเนื้อเก้า” ไปสักพักเขารู้แล้วว่าเมื่อเลิกกองแม่จะมารับ ก็ค่อยๆ ปรับตัวไป แม่ไม่แน่ใจว่าเขาเข้าใจเรื่องการทำงานแค่ไหน แต่เวลาที่เขาเห็นตัวเองในโทรทัศน์ เขาจะชี้ในจอแล้วบอกว่า “เมลิคๆ”

“ล่าสุดมีละครเรื่องดาวเคียงเดือน เล่นเป็นเคน ภูภูมิ ตอนเด็ก ซึ่งที่ผ่านมาก็มีละครเรื่องอื่นติดต่อเข้ามานะคะ แต่เมลิคยังไม่สามารถพูดประโยคยาวๆ ได้ แม่จึงยังไม่กล้ารับ เพราะกลัวน้องจะทำไม่ได้

“แม่จึงอยากรอให้น้องพร้อม และแน่ใจว่าเขาชอบงานแสดงจริงๆ ก่อนค่อยรับงานค่ะ”

เรื่อง เบญจพร ภาพ เนาวพจน์
ที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 839 (10 สิงหาคม 2557) คอลัมน์ Live stories

ณเดชน์ คูกิมิยะ… พระเอกข่าวเยอะตลอด

เยอะจริง ไรจริง พระเอกซุปตาร์ แบรี่-ณเดชน์ คูกิมิยะ ที่ว่าเยอะไม่ได้หมายถึงทำตัวเป็นคนเรื่องเยอะหรอกนะ แต่หมายถึงช่วงนี้คุณพระเอกมากแฟน(คลับ)ช่างขยันมีข่าวเยอะตลอด ตลอด เล่นละคร “รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน” ก็โดนจับผิด ว่ามีป้ายภาษาญี่ปุ่นแปลกๆ ไม่เข้ากับบริบทโผล่มาบ้าง มีภาษาไทยหลุดมาในฉากญี่ปุ่นบ้าง มีฤดูที่สลับไปมาบ้าง ซากุระปลอมบ้าง ชุดเสื้อผ้าในฉากกระโดดไปมาบ้าง งานนี้ ” ริว โอนิซึกะ” น้อมรับคำวิจารณ์ทุกสิ่งอย่างจร้า

แต่นอกจากโดนจับจ้องในละคร นอกจอก็ยังมีคนจับจ้องข่าวซื้อที่ดินร่วมกับนางเอกคู่จิ้น ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ซึ่งพอนักข่าวถามเจ้าตัวก็ย้ำว่าซื้อจริง แต่ซื้อกับแม่แก้ว ไม่ใช่ซื้อกับหนูญ่าแล้วหลอกเอาเเม่มาบังหน้า

“เรื่องซื้อที่ดินกับญาญ่าไม่ใช่เลยครับ คือผมซื้อที่จริง แต่ซื้อกับแม่ เป็นที่ที่ขอนแก่น เพราะมองว่าอนาคตมันสามารถเพิ่มมูลค่าได้เนอะ ฉะนั้นแม่ไม่ใช่เป็นตัวหลอกครับ ผมซื้ออยู่เองกับแม่จริงๆ”

สองข่าวยังไม่สาแก่ใจ ซุปตาร์ผู้มีข่าวเยอะยังเปิดอกถึงประเด็นข่าวที่มีคนสร้างเพจ “แอนตี้ญาญ่า-ณเดชน์” อีกว่า “เพจมีจริงครับ แต่ผมไม่ได้รู้สึกอะไร ผมค่อนข้างเจอมาเยอะ เพราะฉะนั้นกับเรื่องนี้เลยเฉยๆ ไม่ซีเรียส และไม่เข้าไปดูด้วย กลัวแฟนคลับจะตีกันไหม ไม่กลัวครับ ผมว่าอย่าเสียเวลาตรงนี้กันเลย”

เอ้า… ว่าตามที่ “แบรี่” เขาบอกละกัน

ภาพ : IG

‘คุณแพร-ระริน’ จัดเต็มไอซ์บัคเก็ตพร้อมบริจาคเงิน 1 แสน

มาถึง ‘คุณแพร-ระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์’ หลังจากที่รับคำท้าไอซ์บัคเก็ตชาเลนจ์จาก ‘คุณยุวดี จิราธิวัฒน์’ ซีอีโอของเซ็นทรัลกรุ๊ป ก็จัดเต็มตามคำท้า โดยมีพนักงานอมรินทร์ร่วมยืนเชียร์ให้กำลังใจพร้อมกับส่งเสียงนับถอยหลัง 3…2…1… ถังน้ำแข็งก็ถูกเทลงบนศีรษะของผู้บริหาร โดยงานนี้คุณสามี ‘คุณหมี-โชคชัย ปัญจรุ่งโรจน์’ อาสาเป็นคนเทถังน้ำแข็งด้วยตัวเองเลย

‘รถเมล์’ นิวลุค ย้ำเปล่าประชดใคร!

ปกติถ้าพูดถึงสาว ‘รถเมล์-คะนึงนิจ’ สิ่งที่นึกถึงอย่างแรกคงหนีไม่พ้นผมที่ยาวสลวยดูเป็นสาวหวาน แต่ล่าสุดเจ้าตัวลุกขึ้นมาเปลี่ยนลุคตัดผมสั้นแบบไม่เคยเห็นมาก่อน จนโดนเม้าท์ว่าประชดรัก ‘แม็ค-จักรกฤษณ์ เบเนเดดตี้’ นักธุรกิจหนุ่มนอกวงการ แต่เจ้าตัวคอนเฟิร์มว่าตอนนี้ยังอินเลิฟดีจ้า

“เหตุผลแค่รถเมล์ไว้ผมยาวมานานมากแล้วตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย จึงอยากลองเปลี่ยนตัดผมสั้นดูบ้าง ปรากฏว่า สบายหัวดีมาก สระผมเสร็จเป่าแป๊บเดียวก็แห้ง เจตนาแค่อยากเปลี่ยนลุค ไม่เกี่ยวกับเรื่องความรักเลย ไม่ได้ตัดผมสั้นประชดชีวิต เพราะยังรักกันดีกับพี่แม็ค ซึ่งเขาเองก็ชอบทรงนี้นะ บอกว่าดูเปลี่ยนไปเหมือนได้แฟนใหม่ (หัวเราะ) แต่ขออย่าตัดสั้นไปกว่านี้ ไม่ได้ตั้งใจจะเปลี่ยนลุคให้เปรี้ยวหรือเซ็กซี่ขึ้นเลย เพราะรู้ว่าไม่เหมาะกับตัวเองอย่างแรง แล้วพี่แม็คก็ไม่ชอบให้เปรี้ยวมากด้วย ชอบให้สวยปกติ (หัวเราะ)

‘หมาก’ รับเกินคำว่าสนิท ‘คิมเบอร์ลี่’แต่ยังไม่พร้อมใช้คำว่าแฟน!

หลังจากมีคนเห็นหนุ่ม ‘หมาก’กับสาว ‘คิมเบอร์ลี่’ ควงกันไปสวีทดูหนัง กินข้าวกันสองต่อสองอยู่บ่อยครั้้ง และล่าสุดยังมีคนเห็นชื่อของหมาก-คิมบริจาคโลงศพร่วมกันที่วัดหัวลำโพงด้วย

“ความจริงวันนั้นผมไม่ได้ไป เพราะติดถ่ายละคร แต่คิมว่างเลยไปทำบุญแล้วก็ทำเผื่อผมด้วย ถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เวลาทำบุญจะคิดถึงกัน ส่วนเรื่องที่มีคนเห็นไปดูหนัง กินข้าวด้วยกัน ยอมรับว่าไปไหนมาไหนด้วยกันจริงครับ แต่ไม่ได้สวีทนะ เพราะที่นั่งแยกกันและไปดูหนังผีด้วย

“ยอมรับว่าเราสนิทมาก จนรู้ใจกันและกัน จริงๆ มันเกินคำว่าสนิทแล้ว ที่ผ่านมาไม่ถึงกับเปิดตัว แต่ก็ปิดบังอะไร ให้ทุกคนคิดเอาเองดีกว่า แต่ที่ยังไม่ใช้คำว่าแฟน เพราะมีเหตุผลส่วนตัวนิดหน่อย ไม่ใช่กลัวโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์นะครับ เพราะที่ผ่านมาผมก็ได้รับทั้งคำชม และคำด่า สุดท้ายแล้วทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเรามากกว่าว่าเราคิดอย่างไร และปฏิบัติตัวแบบไหน

“ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหนหรอกครับ”

ที่มา : ครอบครัวข่าว 3
ภาพ :

‘ภัทร-หน่อง-วันใหม่-มาร์กี้’ แทคทีมเซอร์ไพรส์วันเกิด ‘เฮียบอย’ กลางกองถ่ายแฟชั่น!

แม้จะออกตัวว่าไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันเกิด หรือเทศกาลต่างๆ ก็ตาม แต่เมื่อพระเอกหนุ่ม ‘บอย ปกรณ์’ โดนน้องตัวแสบนำทีมโดย หน่อง, ภัทร และโหม่ย (วันใหม่) รวมถึงสาวคนสนิท ‘มาร์กี้’ ทำเซอร์ไพรส์วันเกิดกลางกองถ่ายแฟชั่นด้วยเค้กก้อนโต งานนี้เล่นเอาหนุ่มบอยหายเหนื่อย ยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว

“แปลกใจเหมือนกันครับ เพราะปกติที่บ้านผมไม่ค่อยให้ความสำคัญกับงานวันเกิดเท่าไหร่ ไม่เคยต้องจัดงานใหญ่โตอะไร เต็มที่ก็อวยพรวันเกิดให้ผมเจอแต่เรื่องดีๆ ส่วนของขวัญ ถ้าได้ก็ถือเป็นโบนัส แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่ซีเรียส มันเป็นแค่อีกหนึ่งวันครับ บ้านผมเน้นสนุก ง่ายๆ สบายๆ ไม่มีพิธีรีตรองอะไรมากมาย เต็มที่คือถ้าว่างพร้อมกันก็จะชวนไปกินข้าวเย็นธรรมดา ไม่มีมาเป่าเค้กหรอกครับ วันนี้เลยแอบดีใจ ต้องขอบคุณทุกๆ คนมากครับ แต่เจ้าของวันเกิดยังไม่ทันได้ชิมเค้กก็โดนวันใหม่ขโมนซีนประเดิมกินคนแรกเลย (หัวเราะ)

ปันปัน– เต็มฟ้า กฤษณายุธ… เผยเมนูโปรด ร้านโปรด หนุ่มๆ ควรรู้ไว้

ออกสเต็ปเต้นเรียกเสียงฮือฮาในเพลง “ซักกะนิด” จนคนชื่นชมกันไปถ้วนทั่ว แต่วันนี้สาวปันปันขอพักเท้า เพราะมีแผนอยากพาคุณแม่แหวนไปกินอาหารร้านโปรดคร่า

“อยากพาคุณแม่ไปร้านปันปัน สุขุมวิท 33 ค่ะ (หัวเราะ) ไม่ใช่ชอบเพราะชื่อร้านเหมือนชื่อตัวหรอกนะ แต่ชอบเพราะแทบทุกเมนูของเขา เหมือนเป็นอาหารอิตาเลี่ยนรสมือแม่ที่ทำกินกันในครอบครัว ซึ่งปันปันและครอบครัวชอบมาก คุณแม่เองชอบเมนูสลัดทูน่าของที่นี่จนจำสูตรกลับไปลองทำทานเองที่บ้าน ประยุกต์นั่นนี่ จนทุกวันนี้กลายเป็นสลัดทูน่าสูตรคุณแม่ไปแล้ว ส่วนคุณพ่อชอบสเต็กเนื้อลูกวัวราดครีมซอส อีกเมนูหนึ่งที่อร่อย คือ หอยแมลงภู่ผัดซ้อสมะเขือเทศ ปิดท้ายด้วยของหวานไอศกรีมเจลาโต้รสเบอร์รี่ทั้งหลาย ขอบอกว่าเป็นมื้อที่อิ่มอร่อยจริงๆ”

Pan Pan Italian Restaurant
Open : เปิดทุกวัน 11.00-23.00 น. โทร. 02-258-9304, 02-258-5071
Location : อยู่ในซอยสุขุมวิท 33

เรื่อง : ดั่มดั๊มพ์
ที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 839 (10 สิงหาคม 2557) คอลัมน์ ตระเวนชิม

วฤท หงสนันทน์… หล่อกระชากใจด้วยเมนูกระต่ายเรดไวน์

ไม่ถึงกับเป็นเมนูเปิบพิศดาร แต่ก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าต้องเป็นเพราะ “กระต่ายเรดไวน์” แน่เลย หนุ่มเป๋าถึงดูหล่อเท่เกินห้ามใจเยี่ยงนี้

“กระต่ายเรดไวน์’ (Rabbit in Red Wine sauce with Mushrooms) เป็นเมนูยอดนิยมของคนฝรั่งเศสช่วงหน้าหนาวซึ่งที่ร้าน LYON French Cuisine ร้านอาหารฝรั่งเศสที่เปิดมาเกือบ 20 ปี โดยผมและครอบครัวเป็นขาประจำมากว่าสิบปี เขาจะจัดให้เป็นเมนูพิเศษของร้าน ที่นานๆ ทำที มีให้กินเฉพาะช่วงกค.-ธค. คัดเฉพาะเนื้อสะโพกและอกของกระต่ายจากออสเตรเลีย เพราะเป็นส่วนที่มีเนื้อมากที่สุด ผ่านเคล็ดลับการปรุงของร้าน มีให้เลือกสั่งทั้งไวน์ขาวและไวน์แดง แต่ลูกค้าส่วนใหญ่นิยมไวน์แดงมากกว่า เพราะให้สีสันและรสชาติจัดจ้านกว่าไวน์ขาว เหมาะสำหรับคนชอบรสจัดอย่างผม อย่างสมัยเรียนที่อังกฤษ ทุกปิดเทอมที่กลับมาเมืองไทย ที่บ้านจะต้องแวะมาร้านนี้ทุกครั้ง

“เรียกว่ากินเมื่อไหร่ ก็อร่อยเหมือนเดิมครับ”

LYON French Cuisine
เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสที่เปิดมานานกว่า 20 ปี เรียกว่าถ้าเป็นแฟนอาหารฝรั่งเศสตัวจริงเสียงจริง ต้องรู้จักร้านนี้

Open : เปิดทุกวัน 11.30-14.00 18.30-22.00 วันอาทิตย์เปิดเฉพาะดินเนอร์ – 22.00 โทร. 02-253-8141

Location : อยู่ในซอยร่วมฤดี 2

เรื่อง : ดั่มดั๊มพ์
ที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 839 (10 สิงหาคม 2557) คอลัมน์ ตระเวนชิม

13 เหตุผลที่ตอบว่าทำไมดาราชอบไปญี่ปุ่น(จัง)

เห็นแพรว ฉ.25 ส.ค. มีปกสุดกรี๊ดเป็นพี่เบิร์ด-ธงไชย พาลุยเซนได เลยนึกสนุกตามส่อง IG เซเลบคนอื่นๆ โอ๊ะโอ… เขาไปญี่ปุ่นกันเป็นเทรนด์เลยอ่ะ ถามว่าทำไมใครๆ ก็ไปญี่ปุ่น คำตอบคือ…

1.เพราะญี่ปุ่นมีสิ่งศักดิ๋สิทธิ์

2.เพราะญี่ปุ่นมีฟูจิซัง

3.เพราะญี่ปุ่นมีกิโมโนและยูกะตะสวยๆ ให้ใส่



4.เพราะญี่ปุ่นมีซากุระ


5.เพราะญี่ปุ่นมีของกินอร่อยสุโค่ย


6.เพราะญี่ปุ่นเที่ยวได้ทั้งครอบครัว


7.เพราะญี่ปุ่นสุดสนุกเมื่อไปเป็นแก๊ง


8.เพราะญี่ปุ่นสุดโรแมนติกเมื่อเที่ยวกันสองคน

9.เพราะญี่ปุ่นถ่ายรูปสวยได้ 360 องศา


10.เพราะญี่ปุ่นมีใบไม้เปลี่ยนสี

11.เพราะญี่ปุ่นหนาวจริงและมีหิมะ

12.เพราะญี่ปุ่นทำให้รู้สึกคิกขุอาโนเนะ

13.เพราะญี่ปุ่นมีโลเกชั่นเหมาะแก่การถ่ายหนังและละคร โดยเฉพาะช่วงนี้ฮิตมว้ากกกก

สุดท้าย เป็นเหตุผลสำคัญสุดๆ ของคำตอบว่า ทำไมใครๆ ก็ไปญี่ปุ่น นั่นก็เพราะแพรวชวนพี่เบิร์ดไปถ่ายปก Bird in Japan ได้ถึง 3 ปีซ้อนไงล่า 555

เรื่อง “จิบลิ” ภาพ “Instagram ดารา”


RELATED

ซาร่า อุ้ม ”แม็กซ์เวลล์” โชว์ผล DNA ใช่ลูกไมค์

เรียกว่ายังคงเป็นประเด็นที่ถูกจับตามอง หลัง”ไมค์” ย่องตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นพ่อของ “น้องแม็กซ์เวลล์” ซึ่งเป็นลูกที่เกิดจากนางแบบสาว “ซาร่า คาซิงกินี” เป็นข่าวไปเมื่อวานนี้ และในวันนี้ (20 สิงหาคม) สยามดาราได้ตามติดความเคลื่อนไหว และได้รับรายงานข่าวว่าผลการตรวจดีเอ็นเอออกมาแล้ว ปรากฎว่าน้องแม็กซ์เวลคือลูกชายของไมค์จริงๆ

และต่อมาในช่วงเย็นวันเดียวกัน อดีตนางแบบสาวก็อุ้มลูกออกมาเปิดใจผ่านรายการไนน์เอนเตอร์เทน พร้อมโชว์ผลการตรวจดีเอ็นเอจากโรงพยาบาลรามาฯ ซึ่งผลการตรวจปรากฏว่าดีเอ็นเอชัดเป๊ะ! พร้อมเปิดใจว่า

“กับสถานะคุณแม่ เป็นความเหนื่อยที่มีความสุขมากคะ เนื่องจากซาร่าไม่ได้พึ่งพาพี่เลี้ยงเลย เพราะอยากเลี้ยงน้องเองมากกว่า เนื่องจากซาร่าห่วงลูก ตอนนี้มีแฟนคลับเข้ามาให้กำลังใจ มาชมลูกเยอะมากค่ะ ไม่มีใครสนใจคุณแม่แล้ว(หัวเราะ)”

เมื่อถูกถามว่าทำไมตอนที่ท้องช่วงแรกๆ ถึงไม่บอกให้ไมค์รับรู้ “ซาร่าไม่อยากให้ไมค์เครียดเรื่องลูก ตอนช่วง 3 เดือนแรกก็เลยไม่ได้บอกเขา จนเข้าสู่เดือนที่ 4 ซาร่าจึงตัดสินใจบอก ซึ่งเขาก็เครียดจริงๆ และไม่ค่อยมั่นใจในช่วงแรก แต่พอเข้าเดือนที่ 7-8 เหมือนเขาจะมั่นใจมากขึ้นค่ะ”
แล้วเรื่องตรวจดีเอ็นเอล่ะ “ผลตรวจดีเอ็นเอออกมาแล้วค่ะ จากการนำเนื้อเยื่อของเราทั้ง 3 คนไปพิสูจน์ ซึ่งผลก็ออกมาว่าคือลูกเราทั้งคู่จริง ๆ สำหรับเหตุผลที่ต้องตรวจดีเอ็นเอ เพราะเราอยากให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายสบายใจค่ะ ด้านไมค์พอเขาทราบผลว่าเป็นลูกเขาๆ ก็ยิ้ม แต่เรายังไม่ได้พูดคุยอะไรชัดเจนนะคะ เพราะมันเร็วมาก ตลอดระยะเวลาหลังคลอด ไมค์เขาก็มาดูลูกประมาณ 8 ครั้งได้ค่ะ ช่วยเลี้ยงบ้าง ช่วยเปลี่ยนผ้าอ้อม ซึ่งบางครั้งซาร่าก็ต้องแนะนำเขานิดนึง”

อย่างนี้จะมีโอกาสรีเทิร์นไหมคะ “เราสองคนไม่เคยคุยกันเรื่องรีเทิร์นเลยค่ะ คุยกันแค่เฉพาะเรื่องลูก เพราะไม่อยากให้เรื่องราวในอดีตหรือเรื่องราวต่าง ๆ มาทำให้เราต้องทะเลาะกัน”

และเมื่อถามถึงเรื่องค่าเลี้ยงดูหลังจากรู้ผลการตรวจดีเอ็นเอแน่ชัดอย่างนี้แล้ว ซาร่าก็เผยว่า “ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูกหลังผลตรวจดีเอ็นเอออกมา ยังไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ เพราะอย่างที่หลายคนน่าจะทราบ ที่สำคัญซาร่าไม่เคยต้องการอะไรเลยจริงๆ ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่าคุณแม่ทางไมค์หรือผู้ใหญ่ทางไมค์ไม่ปลื้ม อันนี้ก็ไม่จริงเลยค่ะ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ครอบครัวไมค์ให้การต้อนรับดูแลซาร่าดีตลอดค่ะ และการที่ซาร่าออกมาพูดวันนี้เป็นเพราะอยากให้ทุกคนทราบอย่างชัดเจนเฉย ๆ ว่าน้องคือลูกของไมค์ ส่วนเรื่องอื่น ๆ ซาร่าไม่อยากพูดถึงอีก ซาร่าอยากให้นึกถึงน้องนะคะ ไม่อยากให้มีข่าวใด ๆ มากระทบถึงลูกอีก”

มาถึงคำถามเด็ดหัวใจที่ว่า…ยังรักไมค์อยู่หรือเปล่า ซาร่ายิ้มแล้วเผยว่า “มันเป็นเรื่องในอดีตค่ะ ซาร่าไม่อยากพูดถึงอีก แต่ ณ ตอนนี้ความรักเดียวที่มีให้ไมค์คือความรักในแบบพ่อของลูก ความรักในแบบเพื่อนเท่านั้น การตรวจดีเอ็นเอเพื่อความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ ตัวซาร่าเองก็สบายใจขึ้นด้วย เพราะคนจะได้ไม่ต้องตั้งคำถามว่าใครคือพ่อเด็กกับซาร่าอีก”

แต่เมื่อเจอคำถามว่าการเซ็นรับรองบุตรของไมค์มีขึ้นหรือยัง ซาร่านิ่งไปอึดใจก่อนตอบว่า “ยังไม่ได้มีการพูดถึงค่ะ ซาร่าไม่อยากให้ไมค์เครียด แต่หลังจากนี้ก็คงต้องหาโอกาสไปให้เขาเซ็น เพราะไม่อยากให้ช่องระบุชื่อคุณพ่อว่าง”

ถ้าอย่างนั้นสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกตอนนี้ก็เป็นของซาร่าคนเดียวสิ “ใช่ค่ะ แต่ไมค์ก็มาเยี่ยมได้ แต่ถ้าเอาไปค้างด้วยซาร่าก็หวงนะ(หัวเราะ) อีกอย่างลูกก็ใช้นามสกุลซาร่าค่ะ แต่เรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซาร่าไม่เคยเรียกร้องตั้งแต่แรกอยู่แล้ว สิ่งเดียวที่รอก็คือเรื่องของใบสูติบัตรของลูก ที่วันนี้ออกมาก็แค่ต้องการเคลียร์เฉย ๆ ว่าน้องแม็กซ์เวลล์คือลูกไมค์แค่นั้น ไม่ได้ต้องการสร้างกระแส

“ตอนนี้พ่อกับแม่ของไมค์ยังไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าน้องเลย แต่ซาร่าก็มองว่ามันเป็นเรื่องความรับผิดชอบของพ่อกับแม่ไม่ควรดึงมาให้ผู้ใหญ่เดือดร้อน”

แล้วที่อัพสถานะเฟซบุ๊คว่า “แต่งงานแล้ว” ล่ะ หมายความว่ายังไง เจ้าตัวยิ้มพลางตอบ “ซาร่าอินกับเพื่อนผู้หญิงในกลุ่มมากก็เลยตั้งสถานะแบบนั้น ตั้งมาประมาณ 2 ปีแล้ว แต่ไม่ใช่เพราะแต่งงานกับไมค์อย่างที่หลายคนเดาๆ กันนะคะ”

ที่มา : สยามดาราดอทคอม http://www.siamdara.com/hotnews/140820_70524.html

‘เฟย์ อรชุมา’ เผยเคยโดนปล่อยเกาะร้างกับหวานใจหนุ่ม ‘ติ-ปิติพัฒน์’

แม้จะทำงานตลอดจนแทบไม่มีเวลา แต่ไฮโซฯ ‘เฟย์ อรชุมา ดุรงค์เดช’ ยังคงหมั่นเติมเต็มความหวานให้แฟนหนุ่มนักธุรกิจไฟแรง ‘ติ -ปิติพัฒน์ ปรีดานนท์’ ด้วยการหาเวลาไปเที่ยวด้วยกันตลอด ล่าสุดทั้งคู่จูงมือกันไปพักผ่อนที่มัลดีฟส์ ซึ่งสาวเฟย์แอบกระซิบบอกมาว่าเป็นทริปที่ประทับใจมากๆ

“ตอนไปมัลดีฟส์ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ทำอะไรเลย ชิลอยู่กับทะเลอย่างเดียว แล้วก็นั่งเรือไปเกาะส่วนตัว ซึ่งทางรีสอร์ทซื้อไว้สำหรับให้ลูกค้ามาปิคนิกกัน เป็นเกาะเล็กๆ สามารถเดินรอบเกาะได้ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร พนักงานปล่อยเราสองคนไว้บนเกาะที่ไม่มีอะไรเลยนานถึง 8 ชั่วโมง ระหว่างนั้นเฟย์กับแฟนก็สน็อกเกิ้ลดำน้ำดูปะการัง นอนอาบแดด เวลาผ่านไปเร็วมาก พอตกเย็นเราก็ไปต่อกันที่เกาะ Sand Bank เกาะเล็กๆ ที่จะโผล่ขึ้นมาเวลาน้ำลง บนเกาะมีแต่ทราย แล้วแฟนเขาก็แอบทำเซอร์ไพรส์ด้วยการจัดบัตเล่อร์กับกุ๊กส่วนตัวซึ่งเป็นกุ๊กคนไทย เพราะเขารู้ว่าเฟย์ชอบกินอาหารไทย มาเซ็ทอัพมื้อดินเนอร์สุดพิเศษ มีการจุดไฟรอบโต๊ะแล้วย่างบาร์บีคิวกันตรงนั้นเลย เสิร์ฟเราแค่สองคน

“ครั้งหนึ่งในชีวิตบนเกาะร้างกับแฟนโรแมนติกมากค่ะ” (หัวเราะ)

ศรราม เทพพิทักษ์… ขอเกิดเป็นข้าฝ่าละอองธุลีพระบาททุกชาติไป

“สุดท้าย ผมอยากจะบอกว่า ผมและครอบครัว สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ถ้าได้เกิดชาติใดขอให้ได้เกิดเป็นข้าฝ่าละอองธุลีพระบาททุกชาติไป”

“ผมมีโอกาสเข้าเฝ้าพระองค์ท่านครั้งแรกตอนไปแข่งฟุตบอลการกุศลให้กับทีมแมลงปอล้อคลื่น ที่สนามกีฬา 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ พอจบเกม มีรถตำรวจจากสำนักพระราชวังมารออยู่ด้านหน้า บอกว่ามารอรับหนุ่ม-ศรราม ผมตกใจว่าเราทำอะไรผิดหรือเปล่า

“จากนั้นตำรวจพาไปที่โรงแรมแม่ริม ผมได้พบกับท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ท่านบอกว่าสมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จมาประทับที่เชียงใหม่ เดี๋ยวจะให้ศรรามเข้าเฝ้าฯ นะ ผมยิ่งตกใจหนัก คิดทบทวนว่าเราทำอะไรผิดตอนแสดงหรือเปล่า เพราะตอนนั้นละครสายโลหิตกำลังถ่ายทำอยู่ โดยละครเรื่องนี้เกิดขึ้นจากพระราชสวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าถึงคุณแดง-สุรางค์ เปรมปรีดิ์”

“เมื่อเข้าเฝ้าฯ ผมก้มลงกราบพระบาท สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงยื่นพระหัตถ์มาจับที่บ่า พอเงยหน้า ผมได้เห็นพระพักตร์ของพระองค์ท่านอย่างใกล้ชิด พระองค์ท่านทรงมีรับสั่งว่า “แสดงได้เก่งมาก ชอบละครมาก” ทำให้ทราบว่าทรงสนพระทัยละครเรื่องนี้จริงๆ นาทีนั้นผมไม่รู้จะทำอะไรต่อ ทั้งตื่นเต้น และเกร็งมาก ไม่ทันไรพระองค์ท่านก็ทรงมีรับสั่งขึ้นมาอีกว่า “ช่วยร้องเพลงสายโลหิตให้ฟังหน่อยได้ไหม” เพลงในละครที่ชมพู ฟรุตตี้ร้องไว้เพราะมาก…”

“จำได้ว่าผมกราบบังคมทูลแบบไม่รู้ราชาศัพท์ประมาณว่า ไม่มีดนตรี พระองค์ท่านก็รับสั่งว่า “ไม่เป็นไร” จากที่นั่งพับเพียบอยู่ผมลุกขึ้นยืนตรง ร้องเพลงสายโลหิตจนจบ พระองค์ท่านทรงแย้มพระสรวล แล้วทรงปรบพระหัตถ์ก่อนจะรับสั่งว่า “ไพเราะมาก” จากนั้นพระราชทานเหรียญของพระองค์ท่านให้ เหตุการณ์วันนั้น สายพระเนตรที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตายังคงอยู่ในความทรงจำของผมจนทุกวันนี้”

“ทุกวันนี้ผมจึงมีความคิดว่าอยากทำงานถวาย เพื่อให้คนไทยได้เห็นพระองค์ท่านผ่านทางโทรทัศน์บ่อยๆ ผมจึงเปิดบริษัทพิราม จำกัด เป็นโปรดักชั่นเฮ้าส์เล็กๆ เพื่อผลิตสารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ผลงานที่เคยออกอากาศไปแล้ว อาทิ สารคดีเรื่อง บรมราชินีนาถยาตรา และ 80 พรรษาบรมราชินีนาถ ออกอากาศทางช่อง 5 พร้อมกัน 180 ประเทศทั่วโลก”

“สุดท้าย ผมอยากจะบอกว่า ผมและครอบครัว สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ถ้าได้เกิดชาติใดขอให้ได้เกิดเป็นข้าฝ่าละอองธุลีพระบาททุกชาติไป”


ที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 839 (10 สิงหาคม 2557) คอลัมน์ เรื่องพิเศษ

ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย… ชีวิตนี้เป็นตัวเป็นตนเพราะพระมหากรุณาธิคุณ

“ถือเป็นความโชคดีของไหมที่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ และถวายงานอย่างใกล้ชิด ไหมจึงต้องพยายามทำงานให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัย”

คุณไหม บุตรสาวคนเดียวของท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทำงานถวายในตำแหน่งหัวหน้าพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

“ไหมมีโอกาสเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ตั้งแต่จำความไม่ได้ ส่วนงานแรกในชีวิตที่ได้ถวายงาน คือการร่วมเดินแบบชุดไทยสมัยต่างๆ ให้กับพระราชอาคันตุกะได้ชม ที่พระบรมมหาราชวัง และในงานประกวดผ้าไหม ณ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร ถือเป็นความประทับใจที่ทรงมีพระเมตตากับไหม”

“ได้ถวายงานอีกครั้งตอนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ไหมเป็นหนึ่งในคนที่ถวายของที่ระลึกเป็นช่อกระแตให้กับพระราชอาคันตุกะของแต่ละประเทศ ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงดำเนินผ่าน สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงรับสั่งขึ้นว่า “นี่หนูไหม ลูกจรุงจิตต์” เวลานั้นไหมตื่นเต้นมาก พระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งถึงช่อกระแต ใจอยากวิ่งไปหยิบช่อกระแตที่วางอยู่ด้านหลังมาถวายให้ทอดพระเนตร แต่ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกจริงๆ”

“หลังจากเรียนจบปริญญาตรี คณะโบราณคดี เอกประวัติศาสตร์ศิลปะ มหาวิทยาลัยศิลปากร แม่บอกว่าสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงมีรับสั่งว่า จะพระราชทานทุนให้ไปฝึกงาน และเรียนต่อปริญญาโทที่ New York University ด้านVisual Culture : Costume Studies ไหมจึงเลือกเรียนประวัติศาสตร์เสื้อผ้าของชาติตะวันตก”

“พอเรียนจบกลับมา สมเด็จพระนางเจ้าฯก็ทรงมีรับสั่งว่าให้เรียนต่อปริญญาเอกเลย แต่ไหมทูลฯว่า อยากให้พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เปิดสำเร็จก่อน ปรากฏว่าพอช่วยงานได้ 4 เดือน อาจารย์สมิทธิผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ผ้าคนเดิมเสียชีวิต ไหมจึงต้องมารับหน้าที่ดูแลเต็มตัว ถือเป็นงานแรกในชีวิต”

“วันเปิดพิพิธภัณฑ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ไม่ได้เสด็จฯ เนื่องจากทรงพระประชวร มาเสด็จฯ ทอดพระเนตร วันที่ 11 กรกฎาคม 2555 ทรงมีรับสั่งว่า “ไม่น่าเชื่อว่าฉลองพระองค์เมื่อนำมาจัดแสดงในห้องแล้วจะสวยงาม”

“อีกเหตุการณ์ที่ไหมปลาบปลื้มใจเป็นที่สุด คือเมื่อตัดสินใจจะแต่งงานกับรอ.ธนวัฒน์ เนตรน้อย เมื่อแม่กราบทูลฯ เรื่องนี้ พระองค์ท่านมีรับสั่งว่า “จะหมั้นให้” เป็นความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ เพราะไม่เคยได้ยินว่า พระองค์ทรงหมั้นให้ใครมาก่อน ส่วนใหญ่จะเป็นสมรสพระราชทาน วันนั้นวันที่ 20 มกราคม 2555 ตอนที่เข้าเฝ้าฯ ไหมกับสามีตื่นเต้นมาก จนจำไม่ค่อยได้ว่าทรงมีพระราชดำรัสอะไร แต่เท่าที่จำได้คือ ทรงสอนเรื่องการใช้ชีวิตคู่ว่า ต้องมีความเข้าใจและให้อภัยกัน”

“ถือเป็นความโชคดีของไหมที่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ และถวายงานอย่างใกล้ชิด ไหมจึงต้องพยายามทำงานให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัย”


ที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 839 (10 สิงหาคม 2557) คอลัมน์ เรื่องพิเศษ

เอพริล ศรีวิกรม์… สวยฉบับคุณแม่มือใหม่

เป็นคุณแม่ป้ายแดงที่แอ๊กทีฟตลอดๆ โดยเฉพาะเมื่อหน้าที่ปัจจุบัน ของคุณเอพริลเป็นตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักกลยุทธ์องค์กร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ดูแลทางด้านการวางแผนและขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ทำให้ต้องเดินทางไปติดต่อธุรกิจต่างประเทศเสมอๆ จึงต้องบาลานซ์ชีวิตการทำงานและครอบครัวเป็นพิเศษ

“เอวาแอ็คทีฟมาก เวลาพาไปเดินเล่นที่ศูนย์การค้าชอบวิ่งเข้าไปทักทายเด็กรุ่นเดียวกัน ยอมรับว่าเห่อลูกค่ะ ยิ่งตอนนี้น้องเขากำลังเริ่มพูดด้วย ความน่ารักเลยยิ่งทวี(หัวเราะขำกับอาการเห่อลูกของตัวเอง) แต่ด้วยหน้าที่การงานของตัวเองและคุณวิกร (สามี) ที่ต้องดูแลธุรกิจทั้งที่กรุงเทพฯและเกาะสมุย ทำให้เดินทางบ่อย โชคดีได้คุณตาคุณยาย และคุณย่าผลัดกันช่วยดูแลหลานสาวให้”

พอถามถึงทายาทคนต่อไป คุณเอพริลบอกว่า “อาจจะอีกสองสามปีข้างหน้าค่ะ ให้น้องเอวาโตกว่านี้อีกหน่อย ที่สำคัญคือคิดว่าจะมีอีกคนก็พอแล้วค่ะ”

praew.com ภาวนาให้อีกคนที่ว่าเป็นผู้ชายนะคะ อนาคตประเทศไทยจะได้มีเจ้าสัวตัวน้อยๆ เพิ่มขึ้น

เรื่อง : กิดานันท์ ภาพ : โยธา
ที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 839 (10 สิงหาคม 2557) คอลัมน์ Spotlight

keyboard_arrow_up