ควันหลงงานแต่งร้อยล้าน Limited Edition สไตล์ชมพู่
สมกับเป็นนางเอกซุปเปอร์สตาร์ฉายาแฟชั่นนิสต้าตัวแม่ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรแต่ละทีก็มีข่าวให้ต้องติดตามอยู่กันเป้นประจำ และสำหรับการแต่งงานครั้งหนึ่งในชีวิตของสาวชม แน่นอนว่าคงไม่ได้จัดหนักแค่เรื่องแฟชั่นชุดเจ้าสาวอย่างเดียว รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่บางคนอาจไม่ได้สนใจอะไร เจ้าตัวก็จัดหนักเต็มที่ จนกลายเป็นงานแต่งงานที่สวยอลังการที่สุดในปีนี้ไปแล้ว
นี่แค่งานหมั้นรดน้ำสังข์ยังขนาดนี้ วันงานฉลองสมรสไม่อยากจะคิดเลยว่าจะมาเต็มขนาดไหน
เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : IG@chominlove /Hashtag IG #chomnottwedding
Twitter : sriploi17
อลังการกว่านี้มีอีกไหม? น็อตหอบสินสอดหมั้นชมพู่ร่วม 108 ล้าน!
ไม่รู้ว่าสาวชมพู่ทำบุญด้วยอะไร เพราะแค่ขบวนแห่ขันหมาก ก็ทำเอาสาวๆ หลายคนอิจฉากันทั่วบ้านทั่วเมือง กับขบวนขันหมากรถเบนซ์ S300 จำนวน 15 คัน! โดยมี “ดีเจเอกกี้ เอกชัย” และ “อ้นศรีพรรณ” รับหน้าที่พิธีกร ซึ่งเถ้าแก่ฝ่ายหญิงก็ไม่ใช่ใครที่ไหนพี่ม้า อรนภา ของเรานี่เอง และเถ้าแก่ฝ่ายชายคือ คุณเสรี ตันชูเกียรติ ซึ่งเป็นลุงของเจ้าบ่าว ส่วนพิธีหมั้นเริ่มในเวลา 09.39 น. ตามกำหนด โดยสาวชมพู่เจิดจ้าราศีจับตั้งแต่หัวจรวดปลายเท้า ชุดที่ใส่ Elie saab haute couture สีแชมเปญ ชุดเดียวตลอดงาน
เมื่อถึงเวลาสำคัญที่หลายคนอยากรู้จนรั่วชัตเตอร์กันจนแสบตานั่นก็คือการเปิดสินสอดโดยครอบครัวฝ่ายหญิงเป็นคนเปิด ซึ่งต้องร้องอู้หูวววกันเลยทีเดียว เพราะแสงแวววับจากเพชรมันสว่างแทงตาซะเหลือเกิน มีทั้งแหวนเพชร 8.8 กะรัต ต่างหู 14 กะรัต สร้อยคอและสร้อยข้อมือ รวมทั้งสิ้น 80 กะรัต คัดพิเศษ น้ำสวย เรียบหรู แว่วๆ มาว่าใช้เวลาหาเพชรนานกว่า 2 ปีเชียวนะ ส่วนราคาทั้งหมดประมาณ 35 ล้าน! นี่ยังมีโฉนดที่ดินคอนโดเรือนหออีก 60 ล้าน ทองและเงินสด ไม่ได้ระบุจำนวน แต่บวกลบคูณหารดูแล้วมูลค่ารวมทั้งสิ้น ก็ประมาณ 108 ล้านบาท! โอ้แม่เจ้า
ส่วนงานบรรยากาศในการก็เป็นไปอย่างอบอุ่นท่ามกลางเพื่อนฝูงและคนในวงการบันเทิงมากมายอาทิ เคน ธีรเดช, หน่อย บุษกร, ใหม่ ดาวิกา, คริส หอวัง, ไอซ์ อภิษฎา ฯ มาร่วมแสดงความยินดี แพรวดอทคอมก็ขอแสดงความยินดีกับสาวชมพู่ด้วยนะจ๊ะที่มีวันนี้ เห็นละอิจฉาจริงๆ
เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : IG : @HWANJEABJEAB
Pic of the day 1
รักแม่สุดหัวใจ เปิดอกคุยแบบลูกผู้ชาย ‘นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ’
ย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน เชื่อว่าหลายคนคงยังจำภาพของหนุ่มน้อยผมหยิก หุ่นจ้ำม่ำ ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวของนักแสดงหญิง หมู-พิมผกา เสียงสมบุญกันได้ จากเด็กน้อยเมื่อวันวาน ในวันนี้เขาโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความคิด ซึ่งต้องบอกเลยว่า ถ้าได้อ่าน Exclusive Talk จนจบ คุณอาจจะได้ข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกให้เป็นคนเก่ง และมองโลกในแง่ดีแบบนี้ได้มากทีเดียว
เห็นว่าช่วงนี้เรียนหนักมาก และซ้อมกีฬาด้วย
นาย : ใช่ครับ ตอนนี้เรียนออกแบบนิเทศศิลป์อยู่ปี 3 ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ภาคอินเตอร์ครับ ผมอยู่หอวันจันทร์-วันศุกร์ วันเสาร์-วันอาทิตย์ถึงได้กลับบ้าน
เลือกเรียนคณะนี้แสดงว่าเป็นคนชอบเรียนด้านศิลปะหรือเปล่า
นาย : ตอนแรกไม่ได้จะเรียนด้านนี้เลย แต่ตอนเด็กๆ คุณแม่ซื้อของเล่นให้ผมเป็นชิ้นเดียวที่มีก็คือเลโก้ ผมจำได้ว่าก็นั่งต่อไปเรื่อยๆ คนเดียวที่บ้าน พอโตมาไปเรียนไฮสคูลมีวิชาดีไซน์เทคโนโลยีต่อวงจรไฟฟ้า ตอนนั้นเลยคิดว่าอยากเรียนสถาปัตยกรรม แต่พอไปดูหลายๆ มหาวิทยาลัย แล้วได้มาเจอที่นี่เลยชอบมาก เลยตั้งใจว่าจะเข้าที่นี่ให้ได้ ก็หาข้อมูลเยอะครับว่าเราจะเรียนคณะไหนดีที่ใกล้เคียงกับสถาปัตย์ เลยมาเป็นคณะนี้ ถือว่าตัดสินใจถูกมากครับ ถ้าเรียนสถาปัตย์งานคงเยอะกว่านี้อีก (หัวเราะ) และผมว่าผมเรียนแล้วรู้สึกรัก และสนุกไปกับมันมาก เลยไม่คิดว่ามันหนักอะไรครับ
รู้มาว่าเป็นเด็กกิจกรรมด้วย ทำอะไรบ้างเวลาอยู่ที่มหาวิทยาลัย
นาย : เคยเป็นเดือนคณะตอนอยู่ปีหนึ่งครับ แต่ตอนนี้เป็นปู่ทวดคณะแล้ว (หัวเราะ) อีกกิจกรรมที่ทำก็คือเป็นคฑากรของมหาวิทยาลัย ตอนแรกผมก็จะปฏิเสธไป เพราะแนวนี้ไม่ได้อยู่ในหัวผมเลย แต่คิดไปมาก็รู้สึกว่าเขาให้โอกาสเราแล้ว ทำไมเราไม่เอาวะ…คิดๆดู มันก็คงเหมือนไม้กอล์ฟมั้ง เพราะผมก็เคยควงไม้กอล์ฟเล่นเหมือนกัน (หัวเราะ) เลยเปลี่ยนใจตกลงว่าจะเป็น จำได้ว่าฝึกหนักมาก แขนเขียวเลย แต่ก็ตั้งใจอยากให้มันออกมาดี ผมก็รู้สึกภูมิใจมากเหมือนกัน ที่ได้เป็นมหิดลคฑากรรุ่นแรกด้วย
ได้ยินพูดเรื่องกอล์ฟ แสดงว่าเป็นกีฬาโปรดหรือเปล่า
นาย : จริงๆ ผมเล่นทุกอย่างมาตั้งแต่เด็กเลยเพราะผมอ้วนมาก แม่เลยบอกให้ผมออกไปเล่นนอกบ้านบ้าง ผมก็ไปเล่นฟุตซอลกับพวกพี่ๆ แถวบ้าน จนหัวเข่าแตกเลยครับ แถมหัวหยิกตัวดำเมี่ยมเลย (หัวเราะ) ต่อมาก็มีไปเล่นเทนนิสกับแม่ และก็มาฟุตบอลที่เล่นให้ทีมโรงเรียน ส่วนกอล์ฟเรื่องของเรื่องเกิดจากตอนย้ายมาอยู่ไฮสคูล เพราะมันเป็นวิชาบังคับ และตอนนั้นไปเรียนที่นี่แรกๆ โดนเพื่อนล้อ เพราะผมตีไม่เป็น ฝรั่งเขาก็จะล้อหนักมาก เพราะเขามองว่ากีฬานี้เป็นกีฬาธรรมดา ผมก็แค้นสิ… ทีนี้เลยฝึกซ้อมมาที่สนามกอล์ฟจริงจังเลย พอฝึกจนคิดว่าตัวเองน่าจะโอเคขึ้นในระดับนึงแล้ว เลยไปท้าแข่งกับเพื่อนก็ชนะครับ เลยติดใจตั้งแต่นั้นมา และเล่นมาเรื่อยๆ จนทุกวันนี้กอล์ฟเป็นกีฬาที่ผมรักไปแล้ว ส่วนเรื่องฝีมือตอนนี้ก็ (ทำหน้าคิด) อืม… ไม่อยากเรียกว่าเก่ง เอาเป็นว่าโอเคในระดับนึงดีกว่า (หัวเราะ)
เคยไปแข่งได้แชมป์บ้างหรือยัง
นาย : ตอนเด็กๆ ครับที่เคยได้แชมป์ เแต่พอเข้ามหาวิทยาลัยไม่มีเวลาเลย มีแต่ซ้อมออกรอบกับที่คณะเท่านั้นเอง เป็นทัวร์นาเม้นท์ของคณะ เคยทั้งได้แชมป์ และก็เคยแพ้ด้วย
กีฬากอล์ฟสอนอะไรเราบ้าง
นาย : มีอยู่เหตุการณ์นึง คือก่อนหน้านี้ผมแข่งชนะมาตลอด และมั่นใจในตัวเองมาก เพราะทุ่มเทซ้อมหนักมาก คิดว่ายังไงต้องชนะ แต่เหมือนเราหวังสูงเกินไปไม่เผื่อใจว่าจะแพ้ พอไปแข่งเข้าจริงแพ้ (หัวเราะ) ผมเสียใจมาก เพราะช่วงนั้นแม่มีปัญหาเรื่องการเงิน และกอล์ฟค่าใช้จ่ายมันสูงมาก ผมเรียนนานาชาติอีก (เป่าปากเลยทีเดียว) ผมเลยสงสารแม่ เพราะเราออกค่าใช้จ่ายเอง
แข่งแต่ละครั้งใช้เงินเยอะมากครับ ค่าสมัคร ค่ากิน ค่าโรงแรม รวมแล้วเป็นหมื่น ผมเข้าไปห้องน้ำก็โทรหาแม่ร้องไห้ แม่ก็บอกว่า เออไม่เป็นไร จำเอาไว้ว่ารสชาติมันเป็นไง ถ้าเราไม่เคยแพ้มาก่อน ก็ไม่มีทางรู้เลยว่าชนะมันเป็นยังไง
ทุกวันนี้ที่ฝึกซ้อมกอล์ฟตลอด เพราะเราอยากจะไปถึงทีมชาติหรือเปล่า
นาย : เมื่อก่อนมีฝันเหมือนกันว่าอยากจะติดทีมชาตินะครับ แต่ตอนนี้พอเข้ามหาลัยก็ได้ลองทำอย่างอื่น ก็รู้สึกชอบเหมือนกัน แต่ยังไงกอล์ฟผมก็ไม่ทิ้งแน่นอนครับ เพราะรักมันไปแล้ว อาจจะเป็นอีกอาชีพที่ผมสามารถทำได้ในอนาคต
ที่บอกว่าสงสารแม่วันที่เราแข่งแพ้ …ทำไมถึงคิดแบบนั้น
นาย : ผมรู้สึกตั้งแต่เด็กแล้วครับ ตอนนั้นเรียนนานาชาติอยู่เกรด8 เริ่มรู้แล้วว่าแม่ไม่มีตังค์ แถมผมเล่นกอล์ฟด้วย ก็รู้สึกว่าอยู่เฉยไม่ได้ละ ต้องหาทางเซฟเงินให้แม่ด้วย ผมเลยเอาเงินที่ได้มาเขียนแพลนเรื่องการเล่นกอล์ฟว่าผมจะทำอะไรบ้าง ถ้าผมแข่งจะได้เงินเท่าไหร่ และเทิร์นโปรต้องมีค่าครูเท่าไหร่ ใช้เงินอีกเท่าไหร่ แม่เห็นเขาก็ร้องไห้ (ยิ้ม)
ผมรู้มาตลอดว่าแม่เหนื่อยยังไง เขาหาเงินทุกทางจริงๆ ตั้งแต่ไปเรียนทำซาลาเปา จนมาเจอธุรกิจครีมบำรุงผิว พอมีธุรกิจแม่ก็ทำทุกอย่างเลย ตอนนี้มีอะไรก็ปรึกษากันตลอดครับ เพราะคุณแม่ทำคนเดียว ส่วนเรื่องเรียนของผม อะไรที่ผมทำได้ก็จะทำก็พยายามเซฟทุกอย่างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างการสอบเทียบวุฒิ ก็เป็นอีกความตั้งใจที่อยากให้จบเร็วขึ้นสองปี เพราะเรียนนานาชาติยิ่งโตก็ยิ่งแพง ตอนนั้นผมจะไปลาออกจากโรงเรียนเหมือนกัน แต่ทางโรงเรียนเขาก็ช่วยไว้ เพราะผมเป็นนักกีฬาของโรงเรียนหลายอย่าง ทั้งว่ายน้ำ ตีกอล์ฟ เขาเลยให้ทุนผมด้วย ซึ่งตรงนี้ก็ช่วยแม่ได้เยอะเหมือนกัน เลยประหยัดค่าเทอมได้อีกสองปี
แม่เราเก่งไหม
นาย : โห..เก่งสิครับ (หัวเราะ) หลายคนเล่าเรื่องของแม่ให้ผมฟัง ในใจผมก็คิดนะว่าแม่เราขนาดนี้เลยหรอ ก็เลยไปถามเขา ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง คือเขาไม่เหมือนผู้หญิงเท่าไหร่ เลี้ยงผมคนเดียวได้ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าผมจะทำได้เท่าเขาหรือเปล่า
ตอนเด็กๆ แม่ปลูกฝังเรื่องอะไรบ้างที่จำจนวันนี้
นาย : ผมกับแม่ชอบไปไหนด้วยกันตลอด เวลาไปเจออะไรที่เราทำ คุณแม่จะสอนทันทีว่าอะไรทำได้ไม่ได้ คือพอเห็นสถานการณ์จริงเขาจะพูดเลยครับ ตั้งแต่เด็กคุณแม่จะสอนให้ท่องศีล5 กับไตรลักษณ์เป็นแผนที่ของชีวิต “อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา” ถ้าเราปฏิบัติได้ มันก็จะทำให้ชีวิตเรามีความสุขขึ้นเยอะ ชีวิตเปลี่ยนเลย เพราะเราต้องยอมรับทุกอย่างที่มันจะเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปตลอด วันนี้เรารวย พรุ่งนี้เราอาจจะจนก็ได้ มีคนเกลียดก็ต้องมีคนรัก คือเป็นเรื่องธรรมดามากครับ เรื่องพวกนี้ที่โรงเรียนนานาชาติไม่ได้สอน คุณแม่เลยสอนผมตั้งแต่เด็ก เห็นแม่สวดมนต์นั่งสมาธิจนชิน มันเลยค่อยๆ ซึมซับเข้าไป
โตเป็นหนุ่มแล้วตอนนี้มีเรื่องขัดใจกับคุณแม่บ้างไหม
นาย : เอาจริงๆ ก็มีเหมือนกันครับ ผมดื้อนะไม่ได้เชื่อเขาตลอด อย่างเรื่องการแต่งตัวนี่ผมดูแลตัวเองครับ ไม่ยอม (หัวเราะ) คือบางครั้งผมก็ชอบสบายๆ เสื้อเชิ้ต ยีนส์ บูตเครื่องหนัง อะไรแบบนี้ คือผมไม่ชอบอะไรเยอะๆ ด้วย แต่บางอย่างที่เชื่อเพราะรู้ว่าแม่หวังดีกับเรา ถ้าเราไม่ชอบ เถียงก็มีเหมือนกันครับ แต่ทุกอย่างก็คือทำเพื่อเราทั้งนั้นผมก็ทราบ ส่วนปัญหาของวัยรุ่นอย่างเรื่องทะเลาะกันอะไรกัน ไม่มีเลยครับ ผมเกิดมาผมไม่เคยต่อยกับใครเลย
แม่จะบอกเสมอว่าอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดของมนุษย์มันจะไม่ใช่การต่อสู้ สิ่งที่ดีที่สุดคือจะทำอะไรให้พกสองสิ่งนี้ไว้เสมอคือรอยยิ้ม และคำขอโทษ ไม่มีวันมีเรื่องกับใครถ้าเรายิ้มให้กับคนอื่นและผมเองก็รู้จักที่จะขอโทษเป็น มันไม่ใช่เรื่องที่ทำให้เสียศักดิ์ศรีอะไรเลย
แม่เคยบอกหรือคาดหวังอะไรกับตัวเราไหม
นาย : แม่คงไม่ได้คาดหวังอะไรกับผมมากหรอกครับ เอาง่ายๆ ผมว่าไม่ทำอะไรให้แม่เสียใจ เป็นคนดีของแม่ ของสังคม ผมว่าแม่ก็พอใจแล้ว บวกกับผมทำในสิ่งที่รัก เขารู้ว่าผมจะเป็นอะไรวางแผนชีวิตแบบไหน อีกหน่อยถ้าแม่ไม่อยู่แล้ว เขาก็คงไม่ต้องเป็นห่วงมาก เพราะเข้าสังคมก็ได้ เขาเคยห่วงว่าถ้าแม่ไม่อยู่แล้วน้องนายจะอยู่ได้ไหม
นอกจากเป็นลูกที่ดีของแม่แล้ว ตอนนี้ยังเป็นขวัญใจของสาวๆ ด้วย
นาย : ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ (หัวเราะ) มีคนจำผมได้เยอะมากกว่าครับ เพราะผมทำกิจกรรมหลายอย่าง เลยมีมาขอถ่ายรูปบ้าง ผมเองก็มีเพื่อนต่างคณะเยอะด้วย ก็เลยรู้จักคนเยอะ ไม่ได้ฮอตอะไรหรอก
มีงานในวงการบันเทิงติดต่อมาเยอะไหมช่วงนี้
นาย : จำได้ว่าตอนเด็กๆ ผมก็เข้าไปวิ่งเล่นตามกองถ่ายละครที่แม่เล่น ก็รู้ว่าอาชีพนี้สนุกดีนะ อีกอย่างผมโตมาได้ก็เพราะแม่ทำงานด้วยอาชีพนี้ ซึ่งพอได้ไปลองทำจริงๆ มันก็ดีครับ ได้ประสบการณ์หลายอย่าง ตอนนี้ก็มีเซ็นสัญญากับทางช่องสามไปด้วย แต่ยังไงตอนนี้ผมก็ขอโฟกัสเรื่องเรียนเป็นอันดับแรกก่อนเลย ผมตั้งใจมากและมันเป็นสิ่งที่ผมรักมากเหมือนกัน
ท่าทางเป็นคนจริงจังกับการเรียนมาก
นาย : ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้ไปเรียนเลย เหมือนทุกอย่างมันคือการเข้าไปหาประสบการณ์มากกว่า ที่ผมทำทุกอย่างในวันนี้เพราะผมรักมันจริงๆ ไม่งั้นก็ไม่ทำและทุ่มเทขนาดนี้ ตอนนี้เลยขอมุ่งไปที่เรื่องเรียนอีกปีครึ่ง พยายามเก็บตัวที่ยาก อ่านหนังสือให้หมด จะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่นต่อด้วย
วิธีการเรียนของนายเป็นแบบไหน
นาย : ผมจะแบ่งเวลาวิชาที่อ่านหนังสือ ต่อเทอมจะมีสองตัว เพราะส่วนใหญ่เป็นงานดีไซน์ ทำเสร็จไปนำเสนอหน้าชั้น เพื่อฟังคำวิจารณ์ของอาจารย์และเพื่อน ซึ่งตรงนี้จะทยอยทำให้เสร็จ ส่วนการอ่านหนังสือ ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้เรียนเก่งนะ เพราะตอนไฮสคูลนี่ไม่เอาเรื่องอ่านหนังสือเลย แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยไม่มีใครมาเตือนเหมือนครูแล้ว ตกคือตก เลยตั้งใจฟังในห้อง ไม่เล่นโทรศัพท์หรือคุยเลย พอมาอ่านทบทวนทีนี้มันก็เข้าหัว คืนละชั่วโมง – 2 ชั่วโมง บางทีก็ 5 ชั่วโมงรวด ชีวิตมันเลยเป็นระบบ แม่สอนเสมอว่าเวลาสำคัญมาก คือถ้าเราจัดสรรดีๆ เราก็จะมีโอกาสได้ทำอะไรอีกเยอะแยะ
คิดทุกอย่างเป็นระบบแบบนี้ แสดงว่ามีแพลนอนาคตให้กับชีวิตตัวเองแล้ว
นาย : ความจริงผมคิดไว้หลายอย่าง แต่สิ่งที่ผมไม่ทิ้งแน่นอนคือธุรกิจที่แม่สร้างมา ก็คือครีมบอร์นทูบี สกินแคร์ แต่เรื่องเรียน ผมมองว่ายุคนี้แพคเกจจิ้งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก อย่างญี่ปุ่นโปรดักส์สวยมาก เห็นบางทียังไม่รู้เลยว่าคืออะไร และผมเรียนด้านนี้ตั้งแต่ เว็บดีไซน์ แพคเกจจิ้ง โลโก้ โบชัวร์ ออกแบบฟ้อนท์ ทำแมกกาซีน ซึ่งก็คิดว่าทำได้โอเคอยู่ คือยังไงผมว่าเรื่องนี้มันสำคัญมาก ที่จะมาต่อยอดธุรกิจของแม่ที่ผมจะทำต่อในอนาคต กะว่าจะออกแบบทุกอย่างเองแน่นอนครับ ผมว่ามันไปได้ไกลอีกเยอะ
มาที่เรื่องหัวใจบ้าง หล่อขนาดนี้เคยถูกสาวหักอกหรือเปล่า
นาย : เคยมีแฟนแต่ไม่ได้อกหัก เหมือนpuppy love มากกว่าครับ
แล้วผู้หญิงแบบไหนที่รู้สึกว่าใช่ ต้องเก่งแบบคุณแม่ไหม
นาย : ผมไม่ค่อยมีสเป็คนะ ขอให้เขาเป็นคนดี พูดเพราะ คุยรู้เรื่อง แต่ผมชอบผู้หญิงที่อายุมากกว่านะ กี่ปีก็ได้ (หัวเราะ) ถ้าให้นึกถึงตอนนี้ผมว่าผู้หญิงแบบพี่โอปอล์ น่ารักดีนะครับ คือผมชอบคนมีคาแร็กเตอร์ ดูมีเสน่ห์ดี รู้สึกว่าอยู่ด้วยแล้วไม่น่าเบื่อ อีกคนก็พี่ซูซี่ (สุษิรา แน่นหนา)น่ารักมาก พี่เขาดูขี้เล่น แต่ก็จริงจังกับงานและเป็นผู้หญิงเก่งด้วย
สนิทกับคุณแม่มาก แล้วเรื่องสาวๆ มีปรึกษาไหม
นาย : ก็คุยครับ แต่ไม่ทุกเรื่อง (หัวเราะ) แต่ผมไม่ค่อยอะไรหรอก เวลาไม่มีเลย ติดเพื่อนด้วย คุยกับแม่เรื่องทั่วไปมากกว่า
เห็นคุณแม่ดูแลตัวเองดีมากมีเลยมาถึงนายบ้างไหม
นาย : เรื่องนี้ผมโดนแม่ว่าประจำ (หัวเราะ) ผมไม่สำอางเลย เพราะเล่นกีฬากลางแจ้งเยอะ เขาก็มีเตือนเหมือนกันว่าดูแลตัวเองหน่อยนะ
ดูเป็นคนง่ายๆ แบบนี้เคยมีหลงไปตามกระแสเหมือนวัยรุ่นทั่วไปบ้างไหม
นาย : ไม่ครับ… ผมไม่ซีเรียสกับเรื่องพวกนี้เลย ยิ่งเรื่องของแบรนด์เนม ผมว่ามันแล้วแต่ความจำเป็นที่ต้องซื้อนะ อย่างนาฬิกาเรือนแรกที่ผมใส่ไปเรียนนี่ เรือนละสองสามร้อยบาทเองนะครับ เพื่อนผมใช้กันเรือนเป็นแสน ผมก็เคยถามเพื่อนนะว่าดำน้ำได้ไหม โดนเหงื่อได้ไหม ถ้าไม่ได้ จะซื้อมาทำไม (ยิ้ม) ผมไม่ได้มองที่แบรนด์ ผมมองที่ฟังก์ชั่นมันมากกว่า หรือถ้าเราซื้อแบรนด์มาแล้วถนอมไว้อย่างเดียว ซื้อมาทำไม อย่างเสื้อผ้ามีไว้ใส่ ผมไม่ค่อยยึดติดอะไร ขอแค่ใส่แล้วดูดี แค่นั้นพอแล้ว
ตอนนี้เริ่มมีงานในวงการให้ได้ทำบ้างแล้ว จำได้ไหมว่าเงินก้อนแรกเอาไปทำอะไร
นาย : ผมให้แม่นะ ครั้งแรกที่ให้เงินแม่ จำได้ว่าเขาก็ให้พรให้ทำอะไรก็สำเร็จ ให้ผู้ใหญ่เอ็นดู คือแม่สอนผมตลอดให้อ่อนน้อมถ่อมตน เราไม่รู้ว่าใครอายุเท่าไหร่ แต่ยังไงก็ต้องไหว้ไว้ก่อนไม่เสียหาย
ทุกวันนี้มีอะไรที่ห่วงคุณแม่บ้างไหม
นาย : ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย กลัวเขาเหงาเพราะผมอยู่หอ กลับมาเสาร์-อาทิตย์ ผมก็ขนงานมานั่งทำที่บ้านอีก แต่ช่วงนี้ดีขึ้นเพราะเขาไปออกกำลังกาย ก็มีกิจกรรมให้เขาทำ
หวงคุณแม่ไหม ถ้าวันนึงจะมีใครเข้ามา
นาย : (ทำหน้าคิดนิดนึง) ผมก็…ก็ยอมนะ แต่ก็ต้องเป็นคนดี ไม่ได้เข้ามาหวังอย่างอื่น ก็โอเคไม่ได้ว่าอะไร เหมือนเขามีเพื่อนอีกคน จะได้ไม่เหงาด้วย
ฟังเรื่องราวของผู้ชายคนนี้แล้ว ต้องบอกเลยว่าเป็นเด็กหนุ่มอายุ 18 ที่มีความมุ่งมั่นเกินคนในวัยเดียวกันมากทีเดียว อนาคตของเขาจะเข้าสู่วงการบันเทิงเต็มตัวตามที่มีผู้ใหญ่ให้โอกาส หรือจะเป็นนักออกแบบ และโปรกอล์ฟก็ตาม คงต้องติดตามกันต่อไป แต่ก็เชื่อได้เลยว่าเด็กหนุ่มคนนี้ยังเติบโตไปได้อีกไกลในทุกเส้นทางที่เขาเลือก เพราะทุกอย่างที่เขาทำล้วนเกิดมาจากความรัก ที่สำคัญเขาทำเพื่อให้ผู้หญิงที่เขารักที่สุดในชีวิต ซึ่งก็คือแม่หมูของเขานั่นเอง
เรื่อง : SRIPLOI
ภาพ : ศิริวัฒน์ อาจโยธา และ IG @pimpaka/@snaphat
Twitter : sriploi17
บทความนี้ถือเป็นทรัพย์สินของเว็บไซต์แพรว ห้ามผู้ใดนำไปคัดลอก ดัดแปลง หรือทำซ้ำ อนุญาตให้แชร์บทความนี้ได้จากลิ้งค์นี้เท่านั้น
3 คนดังเผยหมดเปลือก…เพราะขีดเขียนจนได้ดี!
วันนี้แพรวดอทคอมได้รวบรวมเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจของคนดังจาก 3 วงการ นำโดย ปอม ชาน ศิลปินนักออกแบบไทย ผู้โด่งดังในเวทีโลก, ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์ นักเขียน นักวาดภาพประกอบ จากแบรนด์ Painkiller และนรี บุณยเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญด้านร้านอาหาร ผู้บริหารร้าน Never Ending Summer ที่มาร่วมเผยเคล็ดลับความเป็นมืออาชีพ และความสำเร็จบอกเลยว่าเจ๋ง
เริ่มกันที่ ปอม ชาน สำหรับเธอการท่องเที่ยวเป็นส่วนสำคัญในการหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาใช้ในการทำงานให้มากที่สุด “ปอมสามารถคิดงานได้ทุกที่ไม่มีจำกัด และชอบใช้การสเก็ตช์ด้วยมือมากกว่าการใช้อุปกรณ์ไอทีต่างๆ เวลาคิดงานก็จะใช้การจดไอเดียด้วยปากกา หรือดินสอลงบนสมุด ซึ่งเป็นสองสิ่งที่ต้องพกติดตัวไปด้วยทุกที่เสมอ อย่างปากกาจะมีติดกระเป๋าไม่ต่ำกว่า 4 ด้าม ที่สำคัญคลั่งไคล้อุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆ มาก จนสามารถบอกความแตกต่างของดินสอหรือปากกาแต่ละยี่ห้อได้เลยด้วยซ้ำ
“เป็นคนวางแผนในทุกสเต็ปของชีวิต แต่เป็นการวางแผนคร่าวๆ เพื่อให้ชีวิตมีเป้าหมายชัดเจน การทำงานทุกโปรเจ็กต์ย่อมมีอุปสรรคเป็นธรรมดา เราต้องแก้ให้ได้ โดยมีคุณพ่อกับคุณแม่เป็นไอดอล อย่างคุณพ่อเป็นคนเก่งมาก ล้มและลุกมาหลายครั้งแต่ก็สู้ไม่ถอย และจะคอยให้สติ เป็นกำลังใจให้ทุกครั้ง ส่วนคุณแม่เป็นคนเปิดกว้างทางความคิด ทำให้ปอมได้เรียนรู้หลายๆ อย่างจากท่าน”
ด้าน ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์ พูดถึงที่มาของแรงบันดาลใจซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปตามช่วงวัยว่า “หากเป็นสมัยเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ จะมองคนที่ประสบความสำเร็จเป็นไอดอล แต่ปัจจุบันนี้กลับมีลูกค้าเป็นแรงบันดาลใจ เพราะต้องทำงานเพื่อตอบโจทย์ให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจมากที่สุด ซึ่งบางครั้งก็ได้ไอเดียดีๆ มาจากลูกค้าเช่นกัน
“ผมสามารถทำงานได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเสียงดังแค่ไหน หรือตกอยู่ท่ามกลางบรรยากาศวุ่นวายขนาดไหน ก็สามารถสร้างสมาธิให้จดจ่ออยู่กับงานได้ แต่ถ้าถามถึงสิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดในการทำงานสร้างสรรค์ต้องยกให้ ‘เวลา’ ซึ่งเป็นสิ่งที่ซื้อหาไม่ได้ และเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดสำหรับตัวเอง เพราะบ่อยครั้งด้วยเวลาที่จำกัด ทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่อย่างใจต้องการ แต่ก็ต้องทำให้ได้ ผมชอบวาดภาพหลายๆ แนว ทั้งวาดแบบสวยงามและน่ากลัว จึงมีนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นท่านหนึ่งติดตามผลงานมาตั้งแต่เด็กๆ และยกให้เป็นไอดอลของตัวเอง เพราะเขาสามารถวาดภาพผู้หญิงได้สวยที่สุด ในขณะเดียวกันก็วาดผีได้น่ากลัวที่สุดเช่นกัน ซึ่งเป็นแนวทางที่ตัวเองอยากเดินตามในการทำงานได้อย่างสุดโต่งทั้งสองขั้ว และมองว่าการสเก็ตช์เหมือนเป็นการถ่ายรูปทางความคิดออกมา ดังนั้นจึงให้ความสำคัญกับความขาวของกระดาษ และชอบเลือกกระดาษที่มีสีขาวนวล เขียนแล้วสบายตา
“ที่ผมมายืนจุดนี้ได้ เพราะรู้ว่าชอบทำอะไร และทำต่อเนื่องโดยไม่หยุดเลย ดังนั้นถ้าอยากรู้ว่าตัวเองชอบอะไรให้อยู่กับสิ่งนั้น และลองทำไปเรื่อยๆ ก็จะรู้ว่าชอบมันจริงๆ หรือเปล่า รวมทั้งค้นหาสไตล์ของตัวเองให้เจอ ซึ่งสไตล์เป็นสิ่งที่แสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ถ้าต้องฝืนทำ นั่นหมายความว่าไม่ใช้สไตล์ของตัวเราเองครับ”
ปิดท้ายด้วย นรี บุณยเกียรติ เชฟสาวนักสร้างสรรค์ เธอเล่าถึงงานที่ทำว่า “โดยส่วนตัวเป็นคนชอบเขียน และมักใช้การวาดรูปเพื่ออธิบายส่วนประกอบของเมนูอาหารเวลาสื่อสารกับทีมเชฟหรือคนอื่นๆ ซึ่งช่วยให้รายละเอียดได้ชัดเจนกว่า ก็เลยจะมีสมุดบันทึกและดินสอ ปากกา ติดตัวอยู่เสมอ แล้วดิฉันจะชอบปิ๊งไอเดียดีๆ เวลาได้อยู่ท่ามกลางความร่มรื่นของต้นไม้ ช่วยให้ทำงานลื่นไหล แต่ตัวเองเป็นคนขี้ลืมจึงต้องพกสมุดปากกาติดตัวไว้จดทันทีที่คิดอะไรดีๆ ออก ส่วนอุปสรรคหลักจากการทำงานส่วนใหญ่มาจากตัวเองมากกว่า ขึ้นอยู่กับว่าเราจะต้องแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร จะตัดสินใจได้ดีไหม และขอยกตำแหน่งไอดอลในดวงใจให้กับคุณด้วง- ดวงฤทธิ์ บุนนาค ผู้เป็นทั้งเจ้านายและหุ้นส่วนร้านอาหาร ซึ่งเป็นคนที่ทำให้เราเห็นแง่มุมของการเป็นคนเก่งที่ทุ่มเทในการทำงาน แต่ก็สามารถจัดสรรชีวิตส่วนตัวได้อย่างลงตัว”
ที่มา : B2S
รวบรวม : แพรวดอทคอม
‘อั้ม’ เริ่มท้อ ‘นัท’ ไม่ท้อง!
หลายวันก่อนถ้าใครที่ดูใน IG ของหนุ่ม ‘อั้ม – อธิชาติ’ กับสาว ‘นัท มีเรีย’ แล้วเห็นโพสต์ภาพชุดคลุมท้องทั้งคู่ พร้อมกับอั้มเขียนบรรยายใต้ภาพว่า “หลังจากพยายามมานาน นัท-อั้ม ป่องสมใจ We’ve got baby” เท่านั้นแหล่ะ แฟนๆ ก็เฮกันใหญ่ แต่เจ้าตัวรีบออกมาแก้ข่าวทันทีว่าแซวกันขำๆ ยันยังไม่ท้องจ้า
“ตลกดีครับ คือผมก็ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตอะไรขนาดนี้ เพราะเราแค่โพสต์ภาพหยอกเย้ากันเล่นๆ มากกว่า เห็นไม่ท้องซะที แต่ตอนนี้ไม่ซีเรียสแล้วครับ จะท้องเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ปล่อยไปตามธรรมชาติ เพราะทำมาสารพัดวิธีเหลือเกิน ตอนนี้ใช้วิธีโบราณคือ ตาจ้องตาเหมือนปลากัด เผื่อจะท้องขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้ผล (หัวเราะ)
“คงต้องพยายามกันต่อไปครับ”
Au Bon Pain เปิดตัวสาขาใหม่พร้อมแนะนำเมนูน้องใหม่ที่ชวนหิว
ร้านขนมอบใหม่สดในรูปแบบคาเฟ่เทอเรซ ที่นำเสนอความหลากหลายของอาหารและเครื่องดื่ม ล่าสุดได้จัดงานแนะนำสาขาใหม่ ของ โอ บอง แปง เดอะ เบเกอรี่ คาเฟ่ ที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ท่ามกลางบรรยากาศภายในร้านที่อบอุ่นเป็นกันเอง
สำหรับโอ บอง แปง สาขา ดิเอ็มควอเทียร์ ได้รับการออกแบบในคอนเซ็ปต์ Industrial Loft style โดยตกแต่งบรรยากาศเสมือนโกดังเก่า ที่นำมาปรับปรุงใหม่ให้เป็นร้านเบเกอรี่ เน้นการออกแบบตกแต่งที่ยังคงไว้ซึ่งความดิบของโครงสร้างอาคาร สะท้อนถึงความคลาสสิคสไตล์ลอฟท์ ผสมผสานความเรียบหรู ด้วยหินอ่อนประดับตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้บุหนังอย่างดีให้กลิ่นอายของความเป็นแกลลอรี่
ภายในงานยังมีการแนะนำกาแฟสูตรใหม่ล่าสุด “Africana Blend” (แอฟริกาน่า เบลนด์) กาแฟพันธุ์อราบิก้า (Arabica) 100% ที่มีส่วนผสมของกาแฟ Kenya AA ซึ่งเป็นกาแฟรสชาติดีที่สุดสายพันธุ์หนึ่งด้วยความอุดมสมบูรณ์ของดินภูเขาไฟและธรรมชาติ จึงทำให้มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นำมาผสมกับกาแฟพันธุ์อราบิก้าทางภาคเหนือของไทยอีก ที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน และผ่านการคั่วพิเศษตามสูตรลับเฉพาะของโอ บอง แปง จึงทำให้ได้รสชาติกาแฟแอฟริกัน เบลนด์ ที่เข้มข้นถูกปากคนไทย และสร้างสรรค์เป็นเครื่องดื่มได้หลากหลายชนิดตามต้องการ อาทิ ลาเต้ (Latte) อเมริกาโน่ (Americano) คาปูชิโน่ (Cappuccino) มอคค่า (Mocha) เอสเพรสโซ่ (Espresso)
นอกจากนี้ยังมีเมนูสำหรับคนรักสุขภาพซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์ที่กำลังมาแรงที่สุดในขณะนี้ โอ บอง แปง จึงได้คิดค้นเมนูอาหารซึ่งเป็นคำตอบใหม่ของการดูแลสุขภาพ นั่นคือ “Petit Plates” (เพอทีท พลาส์) เมนูอาหารที่มีปริมาณขนาดพอเหมาะ ซึ่งแต่ละเมนูให้พลังงานต่ำกว่า 300 กิโลแคลลอรี่ ที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีให้เลือกอิ่มอร่อยทั้งหมด 7 เมนู ได้แก่
• บัลซามิค ชิคเก้น (Balsamic chicken and mozzarella cheese) ให้พลังงาน 242 กิโลแคลลอรี่
• แซลมอนเฮิร์บสลัด และไอโอลี่ซอส (Salmon and bean sprout with herb salad) ให้พลังงาน 231 กิโลแคลลอรี่
• สลัดหมูอบซอสมะเขือเทศไวน์ขาว และฮอร์สเรดิชซอส (Pulled Pork salad) ให้พลังงาน 231 กิโลแคลลอรี่
• ควินัว บาร์เล่ย์ วอลดอร์ฟสลัด (Quinoa & barley waldorf) ให้พลังงาน 280 กิโลแคลลอรี่
• ผักสด (แครอท แตงกวา พริกหวาน) และซีซ่าร์ดิพ (Raw vegetable in caesar dip) ให้พลังงาน 197 กิโลแคลลอรี่
• องุ่นราดน้ำผึ้งและมะนาว (Grapes and honey) ให้พลังงาน 169 กิโลแคลลอรี่
• โยเกิร์ตฟรุตสลัด และกราโนล่า (Fruit salad yogurt and granola) ให้พลังงาน 144 กิโลแคลลอรี่
พร้อมเพลิดเพลินกับเมนูโปรดในสไตล์ที่ชอบได้แล้ววันนี้ ที่ร้าน โอ บอง แปง เดอะ เบเกอรี่คาเฟ่ ทั้ง 66 สาขา
เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : Au Bon Pain The Bakery Café
‘ริชชี่ – อรเณศ’ คัมแบ็ค! บอกเลย สวยใสกว่าเดิม!
เพราะหายหน้าหายตาไปนาน สาว ‘ริชชี่-อรเณศ ดีคาบาเลส’ เลยโดนกระแสข่าวเม้าท์แรงว่าเป็นนางเอกงานน้อย ตกกระป๋องไปแล้ว ล่าสุดเจ้าตัวจึงออกมาชี้แจงว่า
“ที่หายหน้าหายตาไปพักใหญ่ เพราะมุ่งแต่เรื่องเรียน และที่สำคัญคือกำลังมีงานละครเรื่อง ‘กุหลาบตัดเพชร’ จึงต้องเรียนแอคติ้งการแสดง และเรียนเรื่องการพูดเพิ่มขึ้น กับครูหลายคนเลยค่ะ กลับมาคราวนี้ หนูมีความพร้อมมากกว่าเดิม ถึงแม้เรื่องนี้จะเล่นเป็นคู่สอง แต่ก็ไม่เสียใจ กลับดีใจซะอีก ที่ผู้ใหญ่ยังให้โอกาสพิสูจน์ฝีมือ
ที่มา : ครอบครัวข่าว 3
ย้อนเวลาดูเทรนด์แต่งหน้าของสาวๆ แต่ละยุค
ยุคอียิปต์โบราณ
ใครเคยดูหนังเกี่ยวกับมัมมี่อียิปต์โปราณกันบ้าง จะสังเกตได้ว่าผู้หญิงในยุคสมัยนั้น จะแต่งหน้าจัดจ้านกันใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตาด้วยผงทาขอบตา เน้นเขียนให้คมทั้งบนและล่าง แถมยังทาปากสีแจ่มๆ เช่น สีแดง สีส้ม สีม่วงแดง กันซะส่วนใหญ่ พร้อมทั้งเปียผมกันทั้งหัวเลย
ยุคกรีกโบราณ
คนไทยโบราณเราถือว่าคนไหนที่คิ้วชนกันมักจะเจ้าชู้ แต่สำหรับสาวๆ ในยุคกรีกโบราณแล้วคิ้วชนกันนี่แหละถือเป็นเอกลักษณ์สุดๆ และจะไม่แต่งส่วนอื่นของใบหน้าเลย เน้นงานผิวธรรมชาติ ส่วนสาวๆ คนไหนที่ไม่ค่อยมีขนคิ้วก็ลำบากหน่อย เพราะจะต้องใช้ขนสัตว์มาติดแทนหรือไม่ก็สร้างขึ้นมาด้วยการใช้ผงทาขอบตานำมาวาดเป็นคิ้ว
ยุคอินเดียสมัยราชวงศ์คุปตะ
มาถึงสาวอินเดียในสมัยราชวงศ์คุปตะกันบ้าง อันที่จริงการแต่งหน้าในยุคนี้ก็ยังคงมีให้เห็นกันในปัจจุบันนะ โดยเฉพาะเทคนิคสวยคมด้วยการเขียนขอบตาให้ดำ แล้วแต้มจุดสีแดงที่กลางหน้าผากเมื่อเข้าพิธีแต่งงาน ส่วนทรงผมก็นิยมนิยมทำผมเปียเดี่ยวหรือเกล้ามวยต่ำตกแต่งด้วยดอกไม้สด
สมัยเอลิซาเบธ
สาวๆ ในสมัยเอลิซาเบธดูจะแตกต่างจากยุคกรีกโบราณสิ้นเชิง เพราะพวกเธอต้องโกนคิ้วให้เกลี้ยง แถมยังโกนไรผมเพื่อทำให้หน้าผากดูสูงขึ้นอีกด้วย ส่วนการแต่งหน้านั้นจะเรียกว่าทาแป้งก็คงไม่ถูก เรียกว่าโบ๊ะแป้งจะดีกว่า เพราะพวกเธอจะโบ๊ะแป้งเพื่อให้หน้าขาวซีดจนตัดกับผมสีแดงที่พวกเธอย้อมหรือใส่วิกนั่นเอง
เกอิชาของญี่ปุ่น
การแต่งหน้าแบบเกอิชาในยุคปัจจุบัญก็ยังมีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ แต่ไม่ใช่ว่าเห็นจากการแต่งหน้าของผู้หญิงทั่วๆ ไปนะ แต่จะเห็นได้จากผู้หญิงที่เชี่ยวชาญด้านศิลปะ ร้องเพลง เล่นดนตรี เต้นรำ และเอกลักษณ์ของเธอก็คือจะต้องทาหน้าและผิวด้วยรองพื้นสีขาวแทบทั้งตัว ยกเว้นที่หลังคอ ในปีแรกเกอิชาจะทาลิปสติกสีแดงแค่ที่ปากล่าง ส่วนเกอิชาที่ฝึกฝนจนสมบูรณ์แล้วจะทาปากสีแดงจู๋ พร้อมทั้งเขียนขอบตาบนด้วยผงถ่านและขอบตาล่างสีแดง เรียกว่าเป็นการแต่งหน้าที่มีซับซ้อนแล้วใช้เวลานานมาก
ยุคก่อนปฏิวัติฝรั่งเศส
เป็นอีกยุคที่เน้นการทาหน้า คอ และไหล่ให้เป็นสีขาวซีดมากที่สุดเท่าที่จะขาวได้ แถมสาวๆ พวกนี้ยังจะเขียนไฝปลอมแต้มให้เป็นจุดสีดำบนใบหน้าอีก คือในยุคนั้นใครไม่มีไฝนี่คือตกเทรนด์เลยนะ ส่วนทรงผมคือต้องหยิบและก่อให้สูงถ้าใครผมน้อยก็ใส่วิกเลยง่ายกว่าทำผมด้วย
ยุควิคตอเรีย
ส่วนในยุควิคตอเรียนี้แตกต่างจากทุกยุคที่มีมา เพราะสาวๆ ในยุคนี้จะไม่แต่งหน้ากันเลย เน้นงานผิวงานธรรมชาติสุดๆ เพราะในยุคนี้ถือว่าการแต่งหน้าคือสิ่งที่ไม่สุภาพ แม้แต่จะให้แก้มเป็นสีชมพูนี่ยังต้องหยิกหรือบีบแก้มเพื่อให้แก้มแดงเป็นธรรมชาติเลยนะ ถือว่าพวกเธอมีความอดทนต่อความสวยมากจริงๆ ส่วนผมก็จะไว้ยาวธรรมดาหรือเกล้ามวยขึ้นสูง มีอยู่สองทรงนี่แหละที่ฮิตสุดๆ
ยุค 60
สาวๆ ในยุคนี้ส่วนใหญ่จะเน้นการแต่งตาให้เด่นด้วยอายแชโดว์ แค่นั้นยังไม่พอ ยังติดขนตาปลอมหนาๆ เข้าไปอีก ส่วนปากจะทาลิปสติกสีชมพูซีดๆ เบาๆ ทรงผมก็ยิ่งบาน ยิ่งพอง ถือว่ายิ่งสวย
เรียบเรียงโดย : แพรวดอทคอม
ภาพ : www.kapook.com, www.buzzfeed.com
ร้อนชะมัด งัดแว่นกันแดด BURBERRY-The Gabardine สู้สักตั้งก็ดีนะ
เห็นภาพ จูร์แดน ดันน์ (Jourdan Dunn) และ นาโอมิ แคมป์เบลล์ (Naomi Campbell) สองสาวนางแบบสัญชาติอังกฤษ พรีเซนเตอร์สาวของแบรนด์ BURBERRY สวมใส่แว่นกันแดดสุดเก๋คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดสาหรับซีซั่น Spring Summer 2015 ภายใต้ชื่อคอลเลคชั่น ‘The Gabardine’ Collection แล้ว สาวๆ แฟชั่นนิสต้าหลายคนน่าจะเกิดอาการอยากติดสปีดพุ่งเข้าช็อปเบอร์เบอรี่แบบด่วนๆ เลยใช่ไหมละ
แพรวดอทคอมอาสาทำการบิลด์อัตรากระสันต์อยากเพิ่มด้วยข้อมูลเริ่ดๆ ว่า แว่นกันแดดคอลเลคชั่น The Gabardine (กาบาร์ดีน)สุดไอคอนิกรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเนื้อผ้ากาบาร์ดีน ที่ถูกคิดค้นโดยมิสเตอร์ทอมัส เบอร์เบอรี่ (Thomas Burberry) เมื่อปี 1979 แถมเพิ่มความหรูฟินด้วยก้านแว่นตาเป็นสีทอง ที่ใช้กระบวนการหล่อและบิดแบบเดียวกับที่ใช้ในการเครื่องประดับ นอกจากนี้ยังมีรุ่น limited edition ที่กรอบแว่นผลิตจากทอง 18K ด้วย
และนี่คือภาพเอ็กซ์คลูซีฟ ขั้นตอนการผลิตแว่นกันแดด BURBERR คอลเลคชั่น The Gabardine
เคล็ดลับความสวยของสาวเฮลท์ตี้ยุคใหม่ Verena L-Carnitine Apple Plus
บริษัท เวอรีน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Verena) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงผิว ดูแลรูปร่าง เพื่อสุขภาพ และผลิตเครื่องสำอางบำรุงผิว ที่มีคุณภาพสูงและมีความปลอดภัยตามมาตรฐานในระดับชาติและสากล Verena (เวอรีน่า) แบรนด์ที่เกิดจากความใส่ใจดูแลเรื่องสุขภาพและความงาม โดยมีขั้นตอนของการผลิตที่ปลอดภัย ให้คุณสามารถมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ และพึงพอใจในผลลัพธ์ วันนี้ Verena (เวอรีน่า) ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ ตัวช่วยเพื่อการดูแลรูปร่าง สำหรับสาวๆที่รักและใส่ใจในสุขภาพและความงาม Verena L-Carnitine Apple Plus (แอล – คาร์นิทีน แอปเปิ้ล พลัส) น้ำผลไม้แอปเปิ้ลเขียว เพื่อรูปร่างสวยเพรียว และผิวพรรณสดใส
Verena L-Carnitine Apple Plus (แอล – คาร์นิทีน แอปเปิ้ล พลัส) เป็นผลงานวิจัยล่าสุด กับคุณค่าของน้ำผลไม้แอปเปิ้ลเขียว เพื่อหุ่นเพรียวสวย กับผลลัพธ์รูปร่างสมส่วนไร้ส่วนเกิน พร้อมเสริมคุณค่าวิตามิน Co -Enzyme Q10 ในรูปแบบน้ำผลไม้แบบซองพกพาสะดวก เพื่อสาวทันสมัยยุคนี้ สะดวกในการพกติดตัวไปตามที่ต่างๆ แค่ฉีกซองผสมกับน้ำเย็นเพียง 1 แก้ว ก็จะสัมผัสได้กับรสชาติหอมหวานอมเปรี้ยว อร่อยและทำให้รู้สึกสดชื่น ไม่ใช่เพียงแค่หุ่นเพรียวสวยแต่คุณยังได้ผิวพรรณสวยสดใสได้ในซองเดียวกัน
PRAEW SELECTED : แจกรางวัลสัปดาห์ที่ 22
คำถาม : คุณชื่นชอบเซเลบวัยทีนคนไหนมากที่สุด (เลือกคำตอบได้ที่ https://praew.com/people/จับตาดูคลื่นลูกใหม่-5-celeb )
กติการ่วมสนุก
1. ตอบคำถามลงในคอมเม้นท์ของกิจกรรมนี้ ตามตัวอย่างว่า “ร่วมสนุกกับแพรวดอทคอม เซเลบวัยทีนที่ชอบที่สุดคือ ……….. พร้อมใส่ Hashtag #แพรวดอทคอม และ #bandaraonsearayong”
2.กดไลค์และแชร์กิจกรรมนี้ไปยังFacebook ของคุณ (ตั้งค่าเป็นสาธารณะ)
ผู้ที่ทำถูกต้องตามกติการายชื่อจะถูกนำมาคัดเลือกเพื่อหาผู้โชคดี รับบัตรห้องพักDeluxe Corner Sea View 3 วัน 2 คืน พร้อมอาหารเช้า จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 18,832 บาท
*หมดเขตร่วมสนุก วันที่ 10 พ.ค. 58 ประกาศผลวันที่ 11 พ.ค. 58*
ร้อนแล้วอย่าอยู่บ้าน ออกลุยโลกด้วยกระเป๋า JANSPORT “WATCHTOWER”
JANSPORT แบรนด์กระเป๋าดีไซน์คลาสสิกสัญชาติอเมริกัน รุ่น WATCHTOWER สี Diamond Ripstop และ Heathered Grey เป็น 2 สีใหม่ล่าสุดจากคอลเลกชั่น FALL2015 กระเป๋าเป้ทรงแบ็กแพ็กที่มาพร้อมความจุแบบเต็มพิกัด สบายๆ ใช้ได้ทั้งในชีวิตประจำวันหรือลุยสมบุกสมบันในทริปท่องเที่ยว เหมาะแก่การสะพายไปทำงานหรือพาไปลุยกับคุณทุกที่แบบไม่ต้องกลัวพัง สามารถใส่สัมภาระได้มากมายกับที่ใส่ของหลากช่อง แถมด้วยช่องใส่แล็ปท็อปแบบกันกระแทกให้คุณอุ่นใจได้ในทุกสถานการณ์
JANSPORT รุ่น WATCHTOWER ผลิตจากเนื้อผ้า Polyester มีความแข็งแรงและทนทาน น้ำหนักเพียง 0.7 กิโลกรัม ขนาดกระเป๋า 20”x11”x7” / 50x28x17 ซม. ราคา 4,950 บาท
น่าครอบครองใช่ไหมล่ะ
เปิดประสบการณ์ผิวสวยไร้รอยแผลเป็นกับ “ฮีรูดอยด์” โฉมใหม่
บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานแนะนำ ‘ฮีรูดอยด์ (Hirudiod)’ โฉมใหม่ ด้วยรูปลักษณ์ทันสมัยตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ โดยมี แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ เป็นพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุดที่จะสะท้อนโฉมใหม่ให้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของผู้บริโภคในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับรอยแผลเป็น ซึ่งยังคงเปี่ยมด้วยคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีครองความเป็นหนึ่งในใจลูกค้าตลอดระยะมานานกว่า 30 ปี พร้อมขอบคุณคู่ค้าที่ครองใจและผูกพันกันตลอดไป
วันนี้ก้าวใหม่ จึงอยากให้คนพิเศษเช่นคุณได้ร่วมเติมประสบการณ์กับฮีรูดอยด์โฉมใหม่ กล่องใหม่ ทันสมัย แต่คงเปี่ยมด้วยคุณภาพเหมือนเดิม มาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ‘เปลี่ยนด้วยกัน ไปด้วยกัน กับ ฮีรูดอยด์ โฉมใหม่ (Change Together go Together)’
เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : ฮีรูดอยด์
เปิดจินตนาการให้โลดแล่นไปในโลกของเล่น “ไทยแลนด์ ทอย เอ็กซ์โป 2015”
โดยได้นำของเล่นและของสะสมหายากจากทั่วทุกมุมโลกมาจัดแสดงให้ได้ชมกันอย่างใกล้ชิด บริเวณ เซ็นทรัล คอร์ท ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เนืองแน่นไปด้วยบรรดานักสะสมที่มาชื่นชมผลงานและพบปะศิลปินนักออกแบบกว่า 30 ชีวิตอย่างเป็นกันเอง
ภายในงานเปิดตัวด้วยการแสดง “ไทย มาสเตอร์ พัพเพ็ท โชว์” โดยร่วมกับหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ นำตัวการ์ตูนดังมาดัดแปลงเป็นหุ่นเชิดในรูปแบบไทยๆ ใส่เทคนิคสมจริงเหมือนดั่งเสกตัวละครให้มีชีวิต นับเป็นการเปลี่ยนแปลงเอาความดั้งเดิมมาประยุกต์ให้ร่วมสมัย จากนั้นเหล่าเซเลบริตี้หนุ่มสาวนักสะสม ทั้ง นัท-ธนัท ตันอนุชิตติกุล, คิด-คณชัย เบญจรงคกุล, คุณชายอดัม-ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล, หมู-จุฬาลักษณ์ ปิยะสมบัติกุล และ เนม-ปราการ ไรวา ก็ไม่พลาดมาร่วมพูดคุยบนเวทีกับศิลปินนักออกแบบของเล่นในดวงใจที่บินตรงมาร่วมงานพบปะแฟนคลับของเล่นชาวไทยโดยเฉพาะ
จี้ป-พงศธร กล่าวว่า ได้รวบรวมของเล่นของสะสมที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องจากทั้งฝั่งอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ที่เด่นทั้งเรื่องงานออกแบบและนวัตกรรมที่ใช้ในการผลิต อาทิ กลุ่มซุปเปอร์ฮีโร่จากมาร์เวล คอมิกส์ (Marvel Comics), ของสะสมจากภาพยนตร์และซีรีย์ ชื่อดังจากฝั่งฮอลลีวู้ด, ของเล่นเชิงสร้างสรรค์ เพลย์โมบิล (PlayMobil), ตุ๊กตาบาร์บี้ (Barbies), ฮ็อตวีลส์ (Hot Wheels), สินค้าในเครือดิสนีย์ (Disney) และ กลุ่มดีไซน์เนอร์ทอยระดับโลก นำทีมโดยคอร์ส (Coarse), ทรีเอ (3A) และทรีซีโร่ (threezero) เป็นต้น
ไฮไลท์อยู่ที่การเปิดตัวของเล่นคอลเลกชั่นใหม่บางส่วนจากบริษัทไทยที่นำ คาแรกเตอร์สตาร์วอล เอามาทำเป็นดีไซเนอร์ทอยส์ บริษัทไทยออกแบบร่วมกับศิลปินต่างชาติ มีเพียง 200 ชิ้นในโลก ซึ่งคิดว่าคงหาชมได้ที่งานนี้เพียงที่เดียว และของเล่น ของสะสมหลายๆ ชิ้นในงานจะเป็นสินค้าตัวต้นแบบที่นำมาเปิดตัวในงานนี้เป็นครั้งแรกของโลก
เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : ไทยแลนด์ ทอย เอ็กซ์โป 2015
กระเป๋าคู่กายกับรองเท้าคู่ใจ แบบที่ใช่สำหรับสาวๆ
สาเหตุที่เป็นแบบนั้นก็เพราะ ความจริงแล้วผู้หญิงอย่างเราก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่ากระเป๋าสวยๆ คู่กายสักใบ กับรองเท้าคู่ใจสักคู่ เพียงแค่มีสองสิ่งนี้ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจลดเวลาการแต่งตัวของคุณผู้หญิงได้เยอะเลยล่ะ เพราะสองอย่างนี้กลายเป็นสิ่งสำคัญที่จะหยิบมาช่วยเสริมบุคลิกให้ชวนมอง ซึ่งทุกวันนี้ ก็มีแหล่งให้ได้เลือกช้อปปิ้งมากมาย เราจึงรวบรวมรองเท้าและกระเป๋าใบเก๋ จากผู้นำเทรนด์อย่างห้างเซ็นทรัลมาแนะนำให้ได้เลือกช้อปฯ ไปมิกซ์แอนด์แมทช์ในสไตล์ที่ใช่สำหรับผู้หญิงทุกคน
สนใจสอบถามข้อมูลสินค้าได้ที่ห้างสรรพสินค้าCentral
เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : Central
โนโวเทล เพลินจิต จัดโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์นานาชาติสุดฟิน! Prawn Mania กุ้งเผาแบบ non-stop
พลาดไม่ได้กับไฮไลท์เมนูกุ้งเนื้อแน่นๆ ย่างร้อนๆ บนเตาถ่านหอมกรุ่น เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสชาติจัดจ้าน และกองทัพน้ำจิ้มหลากหลายชนิดที่พร้อมให้คุณได้เลือกอร่อยลิ้นฟินกันแบบไม่อั้น
นอกจากนี้เสริมทัพความอร่อยด้วยบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติที่ยกขบวนอาหารเอเชียและยุโรปมาเพิ่มรสชาติให้มื้อค่ำวันทำงานไม่น่าเบื่อ ทั้งพิซซ่าอบร้อนจากเตา พาสต้าปรุงสดตามสั่ง สลัดบาร์เพื่อสุขภาพ แกงอินเดียเข้มเครื่องเทศ และอาหารไทยรสคุ้นลิ้น ปิดท้ายมื้อค่ำด้วยเค้กเนื้อนุ่ม ไอศครีมโฮมเมด ผลไม้สดหลากชนิด
Prawn Mania บุฟเฟ่ต์นานาชาติพร้อมกุ้งเผา ณ ห้องอาหารเดอะ แสควร์ ทุกมื้อค่ำวันจันทร์ถึงพฤหัสบดี…ราคาท่านละ 960++ บาท ผู้ถือบัตรเครดิตที่ร่วมรายการรับสิทธิพิเศษ สมาชิกบัตรแอคคอร์พลัสรับส่วนลด 50% สูงสุด 6ท่าน
เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ เพลินจิต สุขุมวิท์