หากอยากหุ่นดีต้องไม่พลาดเด็ดขาดกับการรวมพล 4 เทรนเนอร์ที่ล้วนมีผลงานยอดเยี่ยม การันตีด้วยหุ่นสวยๆ ของบรรดาศิษย์เซเลบริตี้และซุป’ตาร์ โดยพวกเขายอมมาบอกเล่าและแบ่งปันเคล็ดลับการเทรนระดับเทพเพื่อ Cellulite Fighting โดยเฉพาะ

บี-ทวีสันต์ สุนทรารักษ์

“ครูบี” ทำงานในวงการเทรนเนอร์มากว่า 18 ปี ปัจจุบันเป็น Fitness Manager ของ Hotman Factory Speed Fitness การก้าวสู่เส้นทางนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หลังจากจบปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ครูบีเป็นเทรนเนอร์ที่แคลิฟอร์เนียฟิตเนส กระทั่งสามารถคว้าตำแหน่งเทรนเนอร์แห่งเอเชียที่มียอดเทรนอันดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ถือเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตการทำงานคือ มีโอกาสถวายงานการฝึกเพื่อเสริมความแข็งแรงด้านพระวรกายแด่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์

“ผมเน้นความหลากหลาย เสริมความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและวิธีการสอนการออกกำลังกายหลายทาง จากที่เคยเป็น Instructor คลาส RTM (Riding Time) มวยไทย บอดี้คอมแบต บอดี้ปั๊ม และพิลาทีส จึงนำสิ่งที่เรียนรู้มาปรับใช้กับสมาชิก เน้นเล่นให้เหมือนเกม ให้เป็นเรื่องสนุก ไม่น่าเบื่อ ไม่สุดโต่ง พร้อมกับนำข้อมูลต่างๆ มากลั่นกรอง ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์จากบุคลิกภาพของสมาชิกแต่ละคน รวมทั้งสิ่งที่ใช้มาตลอดคือการสื่อสารสองทางด้วยการพูดคุยถามตอบ และหยิบยกทฤษฎีต่างๆ มาวางแนวทางปฏิบัติร่วมกัน เพื่อให้เข้าถึงความต้องการของสมาชิกจริงๆ ว่าชอบออกกำลังกายหรือชอบเล่นกีฬา รวมถึงพยายามสังเกตจากสิ่งที่เทรนให้ ถ้าเขาสนุกจนรู้สึกว่าหนึ่งชั่วโมงผ่านไปเร็ว แปลว่าแบบนั้นน่าจะเหมาะกับเขา

“ส่วนใหญ่คนที่มาเทรนกับผม อันดับแรกอยากมีหุ่นที่ดี แต่ผมจะถามว่าก่อนจะถึงจุดที่เรียกว่าหุ่นดี เขามีอาการอะไรติดตัวมาบ้าง เช่น ปวดหลังจากอาการออฟฟิศซินโดรม เพื่อ จะได้ให้เขาทราบว่านอกจากจะช่วยให้หุ่นดี ยังช่วยปรับสมดุลให้ร่างกายที่เคยมีปัญหาด้วย โดยผมจะมีวิธีการทดสอบเพื่อประเมินผลคร่าวๆ ว่าอาการปวดหลังของเขาจะหายไปภายใน 6 สัปดาห์ เมื่อหายได้จริงๆ ก็จะทำให้เขาไว้ใจ หลังจากนั้นถ้าเราจะเสริมอะไรให้ เขาก็จะพร้อมทำตาม เช่น ตอนนี้ไขมันของคุณเกินไปกว่า 10 เปอร์เซ็นต์นะ แต่เราจะไม่เร่งรีบ เพราะใหม่กันทั้งคู่ ผมยังใหม่กับชีวิตคุณ คุณยังใหม่กับชีวิตผม เราเรียนรู้ไปด้วยกัน ขอเอาไขมันลง 2 เปอร์เซ็นต์ภายในหนึ่งเดือน สัปดาห์ละ 0.5 เปอร์เซ็นต์ เราจะวัดผลกันทุกสัปดาห์ ถ้ายังไปไม่ถึงเป้าหมายไม่เป็นไร เราก็จะทบไปสัปดาห์ต่อไป ซึ่งการเทรนก็จะหนักขึ้น เมื่อถึงตามเป้าหมาย การทำงานร่วมกันทั้งสองฝ่ายจึงเป็นเรื่องสนุก และทำให้เขาเห็นว่าการที่เสียเวลามาเทรนกับผมทำให้เกิดพัฒนาการกับตัวเขาอย่างแท้จริง”

แพร์-อลิตา ตันติวีรสุต

สาวสวยหุ่นเผ็ดคนนี้เป็นที่รู้จักในโลกโซเชียลภายใต้ชื่อ @alita_pear เทรนเนอร์ออนไลน์ชื่อดัง เจ้าของตำแหน่ง Top 4 Health & Fitness Influencer 2 สมัย โดย Influence Asia แต่สำหรับตัวเธอเองนั้นย้ำเสมอว่า “เธอไม่ใช่เทรนเนอร์ แต่เป็นเพียง Influencer และ Fitness Model เท่านั้น” แค่นี้ก็ไม่ธรรมดาแล้ว

“แพร์มีบทเรียนให้ทุกสัปดาห์ตลอดระยะเวลา 2 เดือน รวมทั้งให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการออกกำลังกาย การกิน และการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน แล้วออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายเดือนละครั้ง จำนวนกว่า 40 ท่า โดยบอกอย่างละเอียดว่าวางขาอย่างไร มีคำอธิบายชัดเจน ซึ่งบางคนเข้าใจผิดว่าทำไมไม่เปลี่ยนท่าออกกำลังกายทุกสัปดาห์ ขนาดแพร์เองออกกำลังกายมา 8 ปี ยังใช้ท่าที่เล่นวันแรกอยู่เลย ทุกคนต้องสร้างพื้นฐานให้แข็งแรงก่อน ถ้าท่าพื้นฐานอย่างสควอตยังทำได้ไม่ดี แล้วจะเปลี่ยนเป็นท่าที่ยากขึ้นได้อย่างไร

“คอร์สออนไลน์ของแพร์จึงเน้นสร้างพื้นฐานที่แข็งแรงและการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง รวมถึงการสร้างวินัย โดยโปรแกรมของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน แพร์เชื่อว่าทุกคนรู้ปัญหาของตัวเอง โดยก่อนเริ่มการฝึกแพร์จะให้ทุกคนตอบแบบสอบถาม เช่น คุณมีหุ่นทรงไหน มีปัญหาส่วนไหน การออกกำลังกายทุกคนมีกล้ามเนื้อเหมือนกัน แค่เราโฟกัสให้ถูกจุด ถ้ามีปัญหาต้นแขน แพร์ก็จะให้เล่นแขนเยอะ ถ้ามีปัญหาไขมันมาก ต้องให้ทำคาร์ดิโอมากกว่าคนอื่น

“แพร์ตั้งเป็นกรุ๊ปแชตเพื่อเป็นพื้นที่ให้ทุกคนสามารถแชร์ความคิดเห็น บางวันมีการชาเล้นจ์โดยให้แข่งกันเป็นทีม อย่างใครทำท่าสควอตจั๊มป์ได้นานที่สุดรับรางวัลไป แพร์อยากให้ทุกคนที่เข้าคอร์สมาสนุกกัน เหมือนเป็นคอมมูนิตี้เล็กๆ

“มีสาวๆ หลายคนที่เข้าคอร์สกับแพร์แล้วได้แชร์ประสบการณ์ในกรุ๊ปแชตว่าเคยออกกำลังกายด้วยตัวเองจากการดูทางยูทูบแล้วไม่ค่อยเห็นผล บางคนถึงขั้นเคยอดอาหาร สุดท้ายก็กลับมาอ้วนเหมือนเดิม พอทราบว่าแพร์เปิดคอร์สเทรนเนอร์ออนไลน์ เขาไม่ลังเลที่จะสมัคร และรู้สึกดีมากที่ไม่ต้องอดอาหารและไม่ต้องออกกำลังกายทุกวัน แค่อาทิตย์ละ 3 วันเท่านั้น บางคนส่งภาพ Before & After มายืนยันว่าพุงที่ไม่เคยคิดว่าจะลดได้ก็สามารถทำได้ เขาประทับใจที่แพร์ถามอะไรก็บอกหมด ไม่เคยกั๊ก ทำให้หลายคนหุ่นเปลี่ยนในเวลาไม่ถึงเดือน”

แสตมป์-กิตติภัทร สืบสกุล

แม้เขาจะเป็นเทรนเนอร์รุ่นใหม่ แต่โปรไฟล์นั้นไม่ธรรมดา เพราะได้เทรนให้ลูกค้าระดับเซเลบริตี้และนักแสดงชื่อดังมากมาย อย่างเมก้า ศรีอรทัยกุล, วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ, อุราภา มาลีนนท์, แอน ทองประสม, วรัทยา นิลคูหา, หมาก-ปริญ สุภารัตน์, คิมเบอร์ลี แอน เทียมศิริ และกาละแมร์- ชรศรี เบญจมาศ โค้ชแสตมป์จบสาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตกรุงเทพ ได้ทำงานกับฟิตเนสชื่อดัง 2 แห่ง แล้วผันตัวเองมาเป็นเทรนเนอร์อิสระ หลังจากเทรนให้คุณตู่-อัญญ์ฑีรา บูรพชัยศรี เจ้าของฟิตเนส Let’s Fit Studio ซอยสุขุมวิท 53 ก็ได้ร่วมงานกันมาจนทุกวันนี้

“สิ่งที่ผมเชี่ยวชาญและตรงกับความหลงใหลส่วนตัวคือรูปร่างแบบ Lean Body เรียกง่ายๆ ว่าสายลีน คือกล้ามไม่ใหญ่ แต่มีความชัดสวย ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของนักแสดง และคนที่ไม่อยากมีรูปร่างใหญ่

“เทคนิคการออกกำลังกายของสายลีนกับสาย Weight หรือ Bodybuilder ต่างกันโดยสิ้นเชิง การออกกำลังกายของสายลีนที่ผมใช้เป็นหลักคือ Functional Training การออกกำลังกายที่ปรับและพัฒนามาจากการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมในชีวิตประจำวัน โดยใช้การทำงานของข้อต่อหลายๆ ฟังก์ชันพร้อมกันในท่าเดียว ไม่ว่าจะเป็นกาง หุบ งอ บิด หมุน แต่สาย Weight จะใช้แค่ฟังก์ชันเดียว เมื่อข้อต่อทำงานหลายฟังก์ชันพร้อมกันก็จะทำให้กล้ามเนื้อทำงานหลายมัด เปรียบเหมือนเรามีหลายเตาเผาที่จะเผาผลาญแคลอรีได้มาก ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการลีน ทำให้ได้ทั้งเผาผลาญและสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อด้วย

“สายลีนไม่จำเป็นต้องเล่นเครื่อง เพราะในท่าที่เราเล่นจะมีการเคลื่อนไหวที่ช่วยเบิร์นและสร้างกล้ามเนื้อไปด้วย สามารถเล่นได้หลายครั้งโดยไม่รู้สึกเบื่อ เพราะมีการเคลื่อนไหวที่หลากหลาย อย่างท่าสควอตต้องทิ้งสะโพกไปข้างหลัง ยื่นอก หลังไม่งอ เพิ่มความยากด้วยท่าสควอตแล้วกระโดดขึ้นมา ซึ่งข้อดีของ Functional Training คือแม้จะเล่นเสร็จแล้ว แต่ยังคงมีการเผาผลาญต่อ หรือที่เรียกว่า After Burn Effect นานกว่า 30 ชั่วโมง เพราะขณะที่เล่นใช้พลังงานสูง ทำให้เกิดการเป็นหนี้ออกซิเจน พอเล่นเสร็จ ร่างกายยังคงเผาผลาญพลังงานต่อ เพื่อใช้หนี้ออกซิเจนที่ใช้ไป

“การจะก้าวเข้าสู่สายลีนให้ประสบความสำเร็จและเห็นผล สิ่งสำคัญคือความตั้งใจที่จะลดน้ำหนัก ผมบอกเลยว่าไม่ได้ยากกับการที่จะสร้างซิกซ์แพ็คหรือการมีรูปร่างสวยงาม มีเคล็ดลับแค่ 2 คำคือ ‘เล่น’ กับ ‘กิน’ การเล่นถ้าเริ่มแบบ Beginner เลย ผมจะบอกลูกค้าเสมอว่าไม่ต้องรีบ ถ้ารีบจะทำให้หักโหมเกินไป บีบคั้นตัวเองมากไป สุดท้ายก็จะทำได้แค่เดือนเดียว ควรเริ่มจากอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน ครั้งละประมาณ 1 ชั่วโมง จึงจะเห็นผล นั่นคือร่างกายกระชับขึ้น หน้าท้องหายไป ต้นแขนกับต้นขาเล็กลง”

จัน-อานันท์ อภินันทน์

จากเด็กอ้วนน้ำหนัก 129 กิโลกรัม เอว 46 นิ้ว กลายมาเป็นเทรนเนอร์ประจำตัวของซุป’ตาร์ชื่อดัง อาทิ เบลล่า-ราณี แคมเปน, ขวัญ–อุษามณี ไวทยานนท์, สองพี่น้องยิปโซ-อริย์กันตา และยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์, เกรซ-กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า ฯลฯ

“จันเน้นเป้าหมายเป็นหลัก เช่น อยากมีซิกซ์แพ็คหรืออยากเฟิร์ม จากนั้นค่อยมาสังเกตพฤติกรรม โดยใช้หลักจิตวิทยาว่าเขาชอบการออกกำลังกายแบบไหน อย่างบางคนไม่ชอบยกลูกเหล็กแบบ Weight Training ชอบความสนุก ความต่อเนื่อง ก็เปลี่ยนให้เขาเล่นเซอร์กิตเทรนนิ่ง เป็นการออกกำลังกายด้วยการจับเวลา ฉะนั้นสไตล์การเทรนของจันจึงปรับเปลี่ยนไปตามรูปร่างและเป้าหมายของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน

“ส่วนใหญ่คนที่มาเทรนกับจันจะเป็นดาราผู้หญิง ทำให้ได้รู้เกี่ยวกับสรีระของผู้หญิง หลายคนกลัวการมีกล้าม มีหัวไหล่ จะทำให้ดูแมนไป กลัวตัวแน่น จันมีวิธีเทรนให้มีรูปร่างสมส่วนแบบผู้หญิง เวลาอยู่หน้ากล้องแล้วไม่ดูล่ำ กล้ามเนื้อส่วนไหนใส่เสื้อผ้าแล้วดูล่ำ จันก็พยายามทำให้แค่แข็งแรง เช่น บางคนอยากก้นแน่นๆ ก็ต้องเล่นท่าสควอต ซึ่งจะไม่ได้แค่ก้น แต่จะเสี่ยงกับการทำให้หน้าขาใหญ่ ก็มีวิธีเลี่ยงไม่ให้กล้ามหน้าขาทำงานหนัก แค่บิดมุมของสรีระ โดยเปลี่ยนมาเล่นท่าซูโม่สควอตที่เน้นก้นมากกว่า”

ติดตามบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารแพรว ฉบับ 944