account_circleอีกไม่กี่วันภาพยนตร์เรื่อง “ANGEL HAS FALLEN ผ่ายุทธการ ดับแผนอหังการ์” จะเข้าฉายในเมืองไทยแล้ว วันนี้เรามีบทความเกี่ยวกับนักแสดงนำ “เจอราร์ด บัตเลอร์” ซึ่งรับบทเป็น “ไมค์ แบนนิ่ง” มาฝากกัน
“เจอราร์ด บัตเลอร์” (หรือที่เพื่อน ๆ เรียกเขาว่า เจอร์รี่) ยอมรับว่าการให้สัมภาษณ์ไม่ใช่ขั้นตอนของการสร้างภาพยนตร์ที่เขาชอบเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ถ้าหากนักแสดงทุกคนที่เกลียดการให้สัมภาษณ์นั้นทำหน้าที่ได้ดีเท่าบัตเลอน์ ทุกคนบนโลกก็คงจะรู้จักหน้าตาของนักแสดงเหล่านั้นได้ดีกว่านี้อย่างแน่นอน แม้จะไม่ชอบ บัตเลอร์ก็ไม่เคยอายที่จะเผยเรื่องราวในชีวิตและหน้าที่การงานของเขา
สิ่งที่ทำให้ “บัตเลอร์”ดูมีความแตกต่างจากนักแสดงคนอื่นก็คือ การที่เขาไม่เคยแสดงพฤติกรรมอวดอ้างใดๆ เลย เขาเป็นคนตรงไปตรงมา เป็นคนที่มีบรรยากาศเหมือนคุณยายที่ทำหน้าตายิ้มแย้มตลอดเวลา คุณไม่จำเป็นต้องถามซอกแซกเพื่อให้ได้คำตอบจากเขา และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักแสดงที่ชื่นชอบการโปรโมทหนังของตัวเอง เขาก็เป็นคนที่มีความเป็นมืออาชีพพอ เขาเข้าใจว่าเหล่าบรรดาคอหนังต่างอยากจะรู้ว่าอะไรที่ดลใจทำให้เขาสร้างภาคต่อของแฟรนไชส์ Has Fallen
“มันบอกได้ยากครับว่า มันมีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ผมเลือกที่จะกลับมาสร้างแฟรนไชส์นี้ต่อ เพราะว่ามันมีเยอะเหลือเกิน” บัตเลอร์ กล่าว “เราต้องสาวลงไปที่ต้นตอของโปรเจ็กต์แฟรนไชส์ Has Fallen ว่ามีใครแสดงบ้าง และใครที่อยากจะกลับมาแสดงต่อ การเขียนบทนั้นก็เป็นปัจจัยแรกๆ ที่สำคัญสำหรับผม เพราะมันทำให้พวกเรารู้ว่าครั้งนี้เราจะต้องเผชิญกับอะไร และมันยังจะทำให้คุณตื่นเต้นได้อีกครั้งหรือไม่ มันทำให้คุณรู้สึกกลัวหรือว่าท้าทาย แล้วมันทำให้คุณสามารถเข้าใจอารมณ์ของตัวละครได้หรือเปล่า ผมคิดว่าด้วยอายุที่มากขึ้น นักแสดงอย่างเราก็ต้องยิ่งเคร่งครัดในการเลือกโปรเจ็กต์ คุณจะต้องรู้ว่าโปรเจ็กต์ที่คุณเลือกนั้นมีระยะเวลาการพัฒนานานแค่ไหน ถ่ายทำนานแค่ไหน ไปจนถึงระยะเวลาสำหรับการแถลงข่าวเลยครับ”
ถ้าหากคุณคิดว่า “บัตเลอร์” เป็นนักแสดงโดยกำเนิดละก็ คุณคิดผิดแล้ว เพราะเขาเริ่มต้นการเดินทางในสายอาชีพที่ต้องอาศัยการแสดง แต่มันไม่ใช่การแสดงอย่างที่ทุกคนเข้าใจอย่างแน่นอน เพราะว่าอาชีพแรกของเขาคือ “ทนายความ” เขาจบการศึกษามาจากมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ บัตเลอร์เดินทางในอาชีพสายกฎหมายก่อนที่จะเปลี่ยนมาเดินทางต่อในอาชีพสายบันเทิง เนื่องด้วยการค้นพบบางอย่าง “ผมรู้สึกว่าทักษะการแสดงของผมส่วนมากนั้นมาจากทักษะที่ผมได้รับระหว่างที่ผมกำลังเรียนทนายความทุกๆ วัน เพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่าทุกวันก็คือการแสดงสำหรับผม ในตอนนั้นผมต้องแสร้งทำเป็นตัวละครตัวหนึ่งในออฟฟิศที่ไม่ใช่ตัวคนที่แท้จริงของผม ผมต้องแสร้งทำเป็นว่าผมกำลังรู้สึกสนใจ รู้สึกฉงนสงสัย และรู้สึกกระตือรือร้น ซึ่งอันที่จริงแล้วผมไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นเลย มันทำให้ผมรู้สึกดีอยู่พักหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดผมก็ไม่ใช่ตัวละครตัวนั้นครับ”
ในฐานะของหนึ่งในผู้อำนวยการสร้างของ “Angel Has Fallen” เขาได้พูดเกี่ยวกับการขยายโอกาสของเขาว่า “ในวิธีการสร้างภาพยนตร์นั้น ผมจะนำตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วมกับทุกขั้นตอนครับ ตั้งแต่การเลือกโปรเจ็กต์ การพัฒนาบทภาพยนตร์ การหาผู้กำกับ และการหานักแสดง มันทำให้ผมสามารถเข้าถึงหัวใจของภาพยนตร์เรื่องนั้น เข้าใจขั้นตอนการทำงานของโปรเจ็กต์ภาพยนตร์เรื่องนั้น และดื่มด่ำไปกับผลลัพธ์ของมันได้อย่างเต็มที่ แน่นอนว่าการทำแบบนี้มันจะทำให้ผมต้องเผชิญกับความกดดันอันมหาศาล แต่ในขณะเดียวกันมันก็จะทำให้ผมสามารถลิ้มรสชาติของความสำเร็จได้อย่างใกล้ชิดมากกว่าทุกคน ทุกครั้งที่ไฟในใจของผมใกล้จะดับ ผมก็จะเดินหน้าก้าวเข้าไปในฉากแอคชั่น ที่แห่งนั้นจะทำให้ผมรู้สึกกระชุ่มกระชวย ตื่นตัว และมีอารมณ์คล้อยตามไปกับความบ้าคลั่งในนั้นครับ”
นอกจากการเป็นนักแสดงแอคชั่นเกรด A แล้ว อีกโฉมหน้าหนึ่งของ “บัตเลอร์” ก็คือการเป็นเจ้าบุญทุ่ม หนึ่งในโปรเจ็กต์ของเขาคือ โครงการอาหารเด็กผู้ยากไร้ในแอฟริกา หรือ “แมรี่ส์ มีลส์ (Mary’s Meals)” ซึ่งเป็นโครงการที่เลี้ยงดูเด็กในแอฟริกากว่า 16 ประเทศ รวมถึงเฮติและอินเดียทุกๆ วัน โดยเขากล่าวว่า “มันเป็นโครงการที่ริเริ่มโดยเพื่อนรักของผม แมกนัส แม็คฟาร์เลน-บาโลว ในกระท่อมเล็กๆ แห่งหนึ่งบนที่ราบสูงของสกอตแลนด์ แม่ของผมได้พูดเกี่ยวกับเรื่องราวของแมกนัสและโครงการของเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก เธอบอกว่าเขาเป็นคนที่มีลักษณะเหมือนนักบุญหลังจากที่เธอได้พูดคุยกับเขาที่กลาสโกว์รอยัลคอนเสิร์ทฮอล และด้วยความบังเอิญผมได้มีโอกาสไปออกรายการ ‘ซีเอ็นเอ็น ฮีโร่’ และฮีโร่ที่ผมได้กล่าวถึงในตอนนั้นก็คือแมกนัสคนนี้เอง หลังจากนั้นพวกเราก็ได้เป็นเพื่อนซี้กันครับ มันก็ทำให้ผมได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศลิเบียและได้พบกับบรรดาหนูน้อยที่น่าทึ่งเหล่านั้น”
เตรียมตัวพบกับความมันส์ในระดั