แจ้งเกิดเป็นพระเอกน้องใหม่ของช่อง 3 อย่างเต็มตัวเลยทีเดียว สำหรับพระเอกหนุ่มน่ารัก ขี้เล่น “ไมกี้ ปณิธาน” จากละครเรื่อง “ขวัญฤทัย” ในซีรี่ส์ชุด “ดวงใจเทวพรหม” ที่เพิ่งลาจอไป ซึ่งล่าสุดก็ได้ไปร่วมงานเปิดบ้าน “HOUSE OF TOUCH” สุขภาพดีเริ่มต้นได้ เพียงคุณก้าวเข้ามา ฉลองการเดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 13 THE TOUCH CLINIC ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ก็สร้างปรากฎการณ์ห้างแตก มีแฟนๆ มารอส่งเสียงกรี๊ดกันสนั่น
งานนี้ “ไมกี้” ก็ได้ประกาศข่าวดีเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยรังสิต ในเวลาแค่ 3 ปี ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.51 แถมยังลุ้นคว้าเกียรตินิยมอันดับ 2 ด้วย พร้อมยังได้เปิดใจข่าวเม้าท์สนั่น หลังถูกโยงเป็นพระเอกดังค่าตัวแพงแซงหน้ารุ่นพี่ จนไม่มีใครกล้าจ้าง จนทำให้คู่จิ้นต้องชวดงานไปด้วย

ล่าสุดเรียนจบแล้ว?
“ผมเพิ่งส่งธีสิสปิดจ๊อบไปเมื่อวาน อาจารย์ทักไลน์กลุ่มมาบอกว่ายินดีกับนักศึกษาที่จบ และส่งเล่มแล้ว รีกรุ๊ปได้ (ยิ้ม)”
มันยากลำบากยังไงกว่าจะจบ?
“ผมใช้เวลาเรียนมา 3 ปี ก็ทำเล่มจบ ก็เป็นช่วงที่ต้องบาลานซ์ชีวิตในการทำงานเยอะมากๆ เพราะผมก็อยากจะทำด้วยตัวเอง”
แล้วกว่าจะเรียนจบ ยากลำบากแค่ไหน เพราะก่อนจะจบก็เป็นช่วงเวลาที่เราได้เป็นนักแสดงแล้ว?
“จริงๆ ก็เริ่มเรียนเลย ผมก็ได้มาเป็นนักแสดง ตอนนั้นก็พยายามหาเวลาให้ได้ไปเรียนมากที่สุด จริงๆ ที่ ม.รังสิตเขาช่วยเยอะมาก อาจารย์ทุกคนน่ารักมากๆ รวมถึงเพื่อนๆ”
ช่วงที่ยากที่สุดคือปีไหน?
“ปี 3 ครับ แล้วตอนนั้นมีงานเยอะด้วย และเป็นช่วงที่ต้องทำเล่มจบจริงๆ บางคณะหรือสาขาจะไม่มีธีสิส เวลาผมพูดกับคนอื่นเขาจะงงว่า ทำไมปริญญาตรีต้องทำธีสิสจบด้วยหรอ แต่คณะ/สาขาผมมี”

แล้วตอนที่ทำธีสิส ละครกำลังดัง เคยคิดว่าจะดร็อปไหม?
“เคยมีความคิดครับ แต่เราก็สู้ไปเรื่อยๆ เราอย่าดูถูกศักยภาพของตัวเองนะทุกคน ผมเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังเรียนอยู่ ผมเข้าใจความรู้สึกว่าเป็นยังไง ก็สู้ๆ นะครับ”
3 ปีเกรดดีแค่ไหน?
“ผมพึ่งไปเช็กมา ได้ 3.51”
คุณครูที่บ้านว่ายังไงบ้าง?
“คุณแม่เหรอครับ จริงๆ คุณแม่ผมอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำ เพราะผมยังไม่ทันบอก”
เป็นความภูมิใจเราที่เรียนจบ หลังจากนี้มารับงานเต็มตัวแล้วใช่ไหม?
“ใช่ ก็คือภูมิใจมากๆ ที่ตัวเองเรียนจบได้แล้ว เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจในชีวิตเลย”
เตรียมฉลองยังไง?
“รอวันรับปริญญาแล้วกันครับ”
ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่เราเคยสัญญากับแม่ไว้แล้ว?
“ใช่ ก็เคยสัญญากับทั้งคุณแม่ ครอบครัว และตัวเอง ว่าจะไม่ทิ้งการเรียน ไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหน เราก็ต้องบาลานซ์ให้ดี”

แล้วเราวางแผนกับอนาคตไว้ยังไงบ้าง?
“จริงๆ ก็อยากโฟกัสทำงานเลย เพราะผมเริ่มมีความสุขกับการทำงานมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้ผมก็อยากจะจริงจัง และหาอะไรที่ท้าทายใหม่ๆ มาลองกับชีวิตบ้าง”
สนุกแค่ไหนกับกันเรียนจบแค่ 3 ปี?
“ผมไม่ได้อะเมซิ่งเกินไปนะที่เรียนจบ 3 ปี คือหลักสูตรผมเขาวางไว้ 3 ปีอยู่แล้ว สามารถที่จะจบ 3 ปีได้ แล้วก็ต้องเรียนซัมเมอร์ให้ครบ (เรียนคณะ?) ผมเรียนคณะนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารการตลาดดิจิทัลและแบรนด์ดิ้ง (เรียนจบแล้วทำอะไร) สายงานผมจะเป็นการวิเคราะห์ แบรนด์ดิ้ง เปรียบเสมือนคุณหมอช่วยตรวจสุขภาพของแบรนด์ แบรนด์มีปัญหามาหาเรา เราจะช่วยแก้ปัญหาให้กับแบรนด์ได้ สามารถปรึกษาผมได้เลย ที่ผมเรียนมาก็เพื่ออยากจะมาอะแดปในชีวิตส่วนตัวด้วย”
จริงๆ เราอยากลองทำเมนูขนมที่เราหัดทำไหม?
“ไม่แน่นะ (ยิ้ม) ทุกๆ คนก็น่าจะมีความคิดอยากเปิดธุรกิจเป็นของตัวเองอยู่แล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือเปล่า เอาเป็นว่าเป็นเรื่องของอนาคตแล้วกันนะครับทุกคน ช่วงนี้ก็ทำงานโฟกัสกับการแสดง”
รับปริญญาวันไหน?
“ผมคิดว่าถ้าจบช่วงนี้ น่าจะภายในปีนี้”
ตอนที่อาจารย์บอกว่าเรียนจบ ตอนนั้นความรู้สึกเราเป็นยังไง?
“ผมร้องไห้เลยอ่ะ น้ำตาไหลเลย เพราะผมเต็มที่มากๆ ทำเองจริงๆ ตอนแรกคิดว่าจะไม่ทันครับ วันนี้วันที่ 6 เดดไลน์คือวันนี้ แล้วผมส่งทันเมื่อวาน เพราะวันนี้ผมมีงาน ถ้าเกิดผมมาทำวันนี้ไม่ทันแน่นอน ก็ดีใจมากๆ ที่ทัน”

เราผ่านแล้วใช่ไหม?
“ผ่านแล้ว ผมสอบแล้วด้วย มีการสอบเปิดเล่ม สอบปิดเล่ม”
ตอนนี้ก็รับงานได้เต็มที่แล้ว?
“เต็มที่แล้วครับผม”
แฟนคลับก็มาหาได้เต็มที่เพราะก่อนหน้านี้ แฟนคลับเขาก็บ่นว่าไม่ค่อยได้เจอไมกี้ตามอีเวนต์ ?
“นี่แหละครับ ก็ถ้าเกิดมีงานก็มาเจอกันได้นะครับ ขอบคุณทุกๆ คน วันนี้ก็มากันเยอะเหมือนกัน ไม่คิดว่าจะมาเยอะกันขนาดนี้”
อาจจะมีรับงานเยอะขึ้นใช่ไหม?
“ก็หวังว่านะครับ ผมก็ชอบทำงานอยู่แล้วด้วย”
มีทุกวันไหมตอนนี้?
“มีเรื่อยๆ ครับ มีตลอดมาให้ได้ติดตามชม สปอยล์อะไรไม่ได้เลย”
เห็นไมกี้บอกเรียนจบจะเฉลยชื่อด้อมตัวเอง?
“ไม่มีใครบอก ชื่อด้อมขอเวลาคิดอีกสักพัก ยังไม่สรุปครับ เชื่อว่าแฟนคลับของผมมีความอดทนครับ ทุกคนรอได้ ผมรักแฟนคลับผมทุกๆ คนครับ แต่เรื่องชื่อด้อมแป๊บนึง”

ล่าสุดมีข่าวโยงถึงเรา เป็นอักษรย่อ ค่าตัวแพง?
“ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีข้อความนี้มา แต่เอาจริงๆ ถ้าเกิดพูดถึงค่าตัว ก็ไม่ใช่พาร์ตของผมอยู่แล้ว เป็นผู้จัดการผมที่ดูหมด เอาจริงๆ ผมเชื่อว่านักแสดงหรือใครหลายๆ คนที่ทำงานตรงนี้จะคล้ายๆ ผม รู้แค่ว่าวันทำงาน รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง รู้ว่าต้องทำวันไหนแค่นี้”
รู้ไหมว่าตอนนี้ค่าตัวเราพุ่งทะยานมากตั้งแต่ที่เล่นดุจอัปสร?
“เรื่องแบบนี้ผมรู้สึกว่าผู้จัดการผมเป็นคนที่ดูความเหมาะสม แล้วก็ดูรายละเอียด ผมไม่ได้เข้าไปยุ่งหรือก้าวล่วงการทำงานของเขาอยู่แล้ว มันไม่ใช่พาร์ตของผมด้วย”
เหมือนไม่รู้เรื่องนี้?
“เพิ่งรู้ครับ”
แล้วเราตกใจไหมกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่ว่าค่าตัวเราครึ่งล้าน ?
“มันก็ขึ้นอยู่กับการสโคปงาน แต่ว่าผมเป็นคนชอบทำงานนะ ก็ไม่อยากให้คิดว่าทำไมไปไกลถึงขนาดนั้น ผมก็ตอบได้ไม่เต็มปาก เอาจริงๆ ผมไม่ได้รู้รายละเอียดเยอะขนาดนั้น”
เป็นความไม่สบายใจไหม ที่อาจจะกระทบลูกค้าไม่กล้าจ้าง?
“สำหรับผม ผมก็เป็นคนทำงาน อย่างวันนี้ผมก็มีความสุขมากๆ กับการทำงาน ไม่ได้โฟกัสตรงนั้นด้วย แต่ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องค่าตัว เรื่องสโคปงาน เอาจริงๆ ผมอาจตอบได้ไม่ละเอียดเท่าผู้จัดการผม”
ย้อนกลับไปในช่วงละครออนแอร์ เขาบอกว่าไม่ค่อยเห็นไมกี้ออกอีเวนต์?
“ก็ออกบ้างนะครับ แล้วก็มีเรื่องเรียนด้วย ตอนนั้นผมก็ยังเรียนไม่จบด้วย ก็ช่วงโปรโมตละครดวงใจเทวพรหม ทำกิจกรรมอะไร ผมอาจจะไม่ได้ออกมาทุกวันขนาดนั้น อาจจะไม่ทั่วถึงได้อย่างไรก็ตาม ผมชอบทำงานมากๆ เลย”

แต่ในมุมกลับกันเขาบอกว่า ถ้าค่าตัวขนาดนั้นแสดงว่าดังจริง คิดอย่างนั้นไหม?
“(หัวเราะ) ถ้าเกิดพูดเชิงแบบนี้ผมก็ภูมิใจนะ ในฐานะนักแสดงคนนึง และก็เป็นละครเรื่องแรกของผมด้วย แล้วมีคนชอบ ถึงแม้จะเป็นคำวิจารณ์ หรือคำอะไรก็ตาม ผมก็รู้สึกว่างานที่เราทำไปมันก็ประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง ผมเชื่อว่าทุกอย่างมันมี 2 มุมมองอยู่แล้วแหละ ทั้งด้านดีและด้านไม่ดี ก็แล้วแต่คนจะมองผม สุดท้ายแล้วก็มีความรู้สึกที่ดี เวลาผมมาทำงานก็มีความสุข”
รู้สึกยังไงที่เขาบอกว่าเราดังแล้ว?
“อันดับแรกคือเขินครับ ผมพูดมาตลอดว่าผมไม่ได้ทำงานเพื่อดังนะ ผมทำงานเพื่อให้ทุกคนชื่นชอบผม โฟกัสที่ผลงานเป็นหลัก อยากให้งานออกมาดี ความดังเป็นเรื่องที่ตามมามากกว่า อยากให้โฟกัสที่ผลงาน คุณภาพของงาน ซึ่งถ้าเกิดมีคำพูดแบบนี้ ก็ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับผมมันหมายถึงว่า ผมทำงานในส่วนนี้สำเร็จแล้ว รู้สึกภูมิใจครับ”
ละครเรื่องต่อไปจะมาแล้ว?
“หวานรักต้องห้าม ก็ประมาณสิ้นปีครับ เป็นละครเรื่องที่ 2 ของผมเอง ก็อยากให้ทุกคนเปิดใจดูแล้วกันครับ แต่ว่าบทก็จะเป็นแบบสมัยใหม่มากขึ้น เป็นละครปัจจุบันเรื่องแรกของผมโดยที่เล่นประกบคู่ทั้งนักแสดงหลายๆ คน ที่มีรางวัลทั้งนั้นเลย แล้วก็อยากให้ดูการแสดงของผม เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ผมพัฒนาทางการแสดง และก้าวกระโดดเหมือนกัน”
เราก็ทุ่มสุดตัวเหมือนกัน?
“เอาจริงๆ ผมเต็มที่กับทุกงานที่ได้รับอยู่แล้ว”
แมท ภีรนีย์ บอกว่า ดีใจที่ได้เราเป็นพาร์ตเนอร์ที่ดี?
“ขอบคุณมากๆ เลยครับ ผมก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากพี่แมทเหมือนกัน พี่แมทเป็นนักแสดงที่เก่งมากๆ (แค่เปิดทีเซอร์มาก็คือแซ่บ?) ก็เห็นมาบ้างครับ”
แมทบอกว่าฝากบอกแฟนคลับไมกี้ว่าอย่าทัวร์ลงพี่?
“ก็อย่างที่บอก อยากให้ทุกคนเปิดใจดูว่ามันเป็นละครแนวไหน แล้วก็บทละครจะมาประมาณไหน บางคนคิดว่าทีเซอร์ออกไปมันแรงขนาดนั้นเลยเหรอ อยากให้ทุกคนติดตามชมครับ”
