อีกมุมหนึ่งของ “สายป่าน” บิวตี้บล็อกเกอร์เจ้าของเพจ Sp Saypan ที่มีคนติดตามเป็นล้าน คือการเป็นสาวก Louis Vuitton ตามสะสมแทบทุกคอลเล็คชั่น ตั้งแต่กระเป๋าใบเล็ก ใบใหญ่ ไปจนถึงเสื้อผ้า ของแต่งบ้าน นอกจากจะยืนหนึ่งเรื่องกระเป๋าแล้ว น้ำหอมสวยๆ เธอก็รักมากมาย มีมากถึงเกือบ 3,000 ขวด เรียกว่าเก็บกันเป็นคลังแสงเลยทีเดียวจ้า

คลังแสง “หลุยส์ วิตตอง + น้ำหอม” ของบิวตี้บล็อกเกอร์ตัวแม่ “สายป่าน” Sp Saypan

THE NEW COLLECTOR

“เมื่อก่อนซื้อกระเป๋าไปเรื่อยๆ ชอบใบไหนก็ซื้อ รวมถึงหลุยส์ วิตตอง ที่ระยะหลังมีการปรับดีไซน์ให้ออกแนวสตรีท ดูเป็นวัยรุ่นมากขึ้น จึงเริ่มสะสมมาเรื่อยๆ ขอบอกว่าหลุยส์ วิตตอง ออกคอลเล็คชั่นถี่มาก (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นหนึ่งคอลเล็คชั่นเราอาจซื้อใบที่ชอบเก็บได้สัก 3 ใบ บางคอลเล็คชั่นออกมา 3 สีก็เก็บทุกสีเลย (หัวเราะ) เพราะชอบทั้งหมด เลือกไม่ถูก บางรุ่นที่ช็อปไม่มีขายแล้ว เพราะเป็นลิมิเต็ดเอดิชั่น ก็ไปตามซื้อเก็บเป็นรีเซล

“ประมาณ 97 เปอร์เซ็นต์ของหลุยส์ วิตตอง ที่มีในคลังของป่าน ซื้อที่ช็อปสยามพารากอนเป็นหลัก เพราะตอนที่สะสมหนักๆ เป็นช่วงโควิด-19 พอดี แทบไม่ได้ออกไปไหน จนทำให้เริ่มคิดว่าเราจะทำงานเพื่อจ่ายภาษีแล้วก็ตายไปแค่นั้นหรือ ชีวิตคนเราสั้นนัก ไม่รู้จะอยู่ได้อีกนานเท่าไร จึงคิดว่าน่าจะสะสมสิ่งที่ตัวเองชอบไว้ เพื่อเป็นความสุขส่วนตัว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง ทุกวันนี้แทบจะเรียกได้ว่าในบรรดาบิวตี้บล็อกเกอร์ ป่านน่าจะมีกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง มากที่สุด เพราะมีเกือบสองร้อยใบ มีเกือบทุกรุ่นที่มีในช็อป สรุปคือเรามีทุกซีซั่นที่เขาฮิตนั่นเอง (หัวเราะ)

“รุ่นที่มีส่วนใหญ่เป็นรุ่นใหม่ที่ขายในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ป่านชอบซื้อที่ช็อปในไทยมากกว่าซื้อช็อปต่างประเทศ ซึ่งจะได้สิทธิพิเศษต่างๆ เช่น สิทธิ์ในการได้เลือกซื้อของก่อนใคร ได้ชมแฟชั่นโชว์ของหลุยส์ วิตตอง เวลามีคอลเล็คชั่นใหม่ออกมา พนักงานจะส่งมาบอกว่ามีอะไรบ้าง ถ้าชอบก็ซื้อไว้หมด ซึ่งป่านจะแพ้คำว่า ‘มีเข้ามาไม่กี่ใบ’ ได้ยินทีไรต้องซื้อทุกที” (หัวเราะ)

คลัง LOUIS VUITTON

“กระเป๋าหลุยส์ วิตตอง เป็นเหมือนเฟอร์นิเจอร์อย่างหนึ่ง ถ้าใส่ถุงเก็บไว้เราจะลืมว่ามีอยู่ ป่านจึงชอบวางไว้ให้เห็นทุกใบ บอกเลยว่ากระเป๋าหลุยส์ วิตตอง ของป่านมีมากเกินกว่าที่เห็นในรูป หลายใบถูกนำมาวางซ้อนกัน บางรุ่นมีซ้อนในซ้อนเข้าไปอีก (ยิ้ม) ซึ่งหลุยส์ วิตตอง มีความทนมาก ต่อให้เก็บซ้อนกันก็ไม่เป็นรอย มั่นใจว่าในบรรดาคนที่ชอบหลุยส์ วิตตอง ป่านน่าจะมีรุ่นใหม่ๆ มากเป็นอันดับต้นๆ เหมือนกันนะ

“คอนเซ็ปต์การเก็บสะสมของป่านคือซื้อเฉพาะดีไซน์ที่ชอบ เน้นเก็บลายโมโนแกรม โดยเลือกเฉพาะที่ทำจากวัสดุที่เป็นแคนวาสหรือหนังปั๊มเท่านั้น ยิ่งถ้าเป็นสีน้ำตาลจะชอบมาก เพราะมีความคลาสสิกและดูลักชัวรี่ในตัวเอง

“เหตุที่เก็บแต่ลายโมโนแกรม เพราะเป็นกระเป๋าที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก เวลาเห็นคนถือกระเป๋าแบรนด์นี้ แล้วรู้สึกสวยจังเลย ดูดีเชียว (หัวเราะ) บวกกับไลฟ์สไตล์เราชอบใช้กระเป๋าที่ไม่ต้องระมัดระวังมาก ถ้าทำด้วยวัสดุอื่นค่อนข้างใช้ยากและต้องระมัดระวัง อย่างปีที่แล้วซื้อรุ่น Multi Pochette ทำจากผ้ายีน ยังคิดเลยว่าดีที่ซื้อมาใบเดียว เพราะพอทำจากผ้า เรารู้สึกว่าบอบบาง ทำให้ไม่กล้าใช้ เวลาซื้อกระเป๋า ป่านคิดแค่ว่าเราอยากถือไปไหนแล้วให้คนรู้ว่าเป็นแบรนด์อะไร (หัวเราะ) เพราะนี่คือหยาดเหงื่อแรงงาน ฉันซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง…ภูมิใจน่ะ”

RARE ITEMS & LIMITED EDITION

“แปลกที่ป่านไม่มีใบที่ชอบที่สุด เพราะตอนซื้อเราซื้อเพราะรักทุกใบ (หัวเราะ) แต่ดี ไซน์ที่ชอบที่สุดคือรุ่นDauphine ดูแล้วทั้งคลาสสิกและน่ารัก จึงมีคอลเล็คชั่นนี้เกือบครบ มีทั้งที่เป็นกระเป๋าคาดเอว กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าสะพาย เป้ กระเป๋าคลัตช์

“ส่วนกระเป๋ารุ่นหายากที่เป็นแรร์ไอเท็มก็ไปพยายามหามาจนได้ อาทิ กระเป๋าสำหรับใส่หมวก รุ่น 30 เป็นลายโมโนแกรมรีเวิร์ส ถ้าจะซื้อต้องพรีออร์เดอร์นานทีเดียว Jewelry Trunk ราคาเกือบ 300,000 บาท และ Home Mirror Trunk เปิดออกมาเป็นกระจกแต่งตัวสามด้าน เป็นของตกแต่งบ้านที่มีเข้ามาไทยแค่ 2 ชิ้น ซึ่งของบางอย่างไม่ได้ผลิตออกมาเยอะ เพราะฉะนั้นคนที่เป็นวีไอซีก็ต้องแย่งกันนิดนึง (หัวเราะ)

“มี Clutch Box Eclipse Canvas สีเทา เป็นรุ่นโมโนแกรม ใส่กล้องและโทรศัพท์มือถือได้ มีทั้งหมด 4 ใบ เพิ่งพาออกงานได้ไม่กี่ใบ ส่วนรุ่นที่เป็นลิมิเต็ดเอดิชั่นที่ป่านไม่ชอบดีไซน์ บางใบดูเยอะก็ข้ามไป”

เล็กๆ ไม่…ใหญ่ๆ รัก

“ก่อนหน้านี้ป่านเดินทางบ่อย ใช้รุ่น Noe, Keepall, Metis ทั้งลายโมโนแกรมและโมโนแกรมรีเวิร์ส หนังปั๊ม และกระเป๋าคลัตช์ใบเล็กใบน้อยอีกเยอะมาก จนตอนหลังเริ่มรู้สึกว่าเราแทบไม่ได้ใช้กระเป๋าใบเล็กๆ เลย เพราะงานของบิวตี้บล็อกเกอร์ต้องมีกล้อง มีโทรศัพท์ หรือต้องใส่ของเยอะ ตอนหลังจึงเริ่มเก็บเฉพาะใบที่ฮิตหรือใหญ่หน่อย

“ช่วงหลังที่มีสถานการณ์โควิด-19 มีกระเป๋าแค่บางรุ่นที่ได้ออกงาน ใบอื่นเก็บไว้ก่อน ตอนนี้ใช้ไปได้ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลืออีก 40 เปอร์เซ็นต์ ที่ยังไม่ได้หยิบออกมาใช้เลย เพราะแทบไม่ได้ออกไปไหน ก่อนหน้านี้เวลาไปรับลูกที่โรงเรียนจะใช้เป็นกระเป๋าใบเล็กๆ แบบสะพายข้าง แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ต้องไปงานก็จะดูว่าเราแต่งตัวแบบไหน ดูชุดที่ใส่ แล้วค่อยเลือกกระเป๋าที่เป็นรุ่นลิมิเต็ดหน่อย ถือแล้วต้องแกรนด์นิดนึง หรือถ้าแต่งเป็นเดรส ป่านชอบแมตช์กับกระเป๋าคลัตช์”

เรื่องเล่าน้ำหอมกว่า 3,000 ขวด

“ตั้งแต่เป็นบิวตี้บล็อกเกอร์มาเกือบ 10 ปี เวลาไปตามร้านขายน้ำหอมและเครื่องสำอาง ป่านจะซื้อน้ำหอมอยู่เรื่อยๆ ช่วงแรกมีประมาณ 50 ขวด ซึ่งสำหรับคนทั่วไปก็ถือว่าเยอะแล้ว

“กระทั่งช่วงมีลูก วันหนึ่งป่านนำน้ำหอมที่มีทั้งหมดมาวาง เรียงกันเพื่อหยิบมาใช้ พอได้กลิ่นหอม ๆ แล้วรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ ช่วยเยียวยาหัวใจ เพราะตั้งแต่แต่งงานและเป็นคุณแม่แทบไม่ได้ ออกไปไหนเลย มีแต่ทำงาน ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว เหมือน เราอยู่เพื่อทำงาน จ่ายภาษี แล้วก็ตายไปอย่างที่บอก อยากเพิ่ม ความสุขให้ตัวเอง จึงเริ่มสะสมน้ำหอมด้วย แต่ความที่ทำอะไร แล้วต้องทำให้สุด จาก 50 ขวด ปัจจุบันจึงมีเพิ่มเป็นกว่า 3,000 ขวด ซึ่งราคาน้ำหอมแต่ละขวดก็ไม่ถูกนะ แต่ยอม เพราะรู้สึก ว่าน้ำหอมทำให้ชีวิตมีความสุข มีสีสันมากขึ้น และเสริมกับงาน ที่ทำด้วย เราอาจจะไม่ได้ถึงขั้นจมูกเทพ แต่ก็มีคนยกให้เราเป็น ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ด้วยความที่ดมมาเยอะ สัมผัสมาเยอะ”

สะสมน้ำหอมขวดละ 50,000 – 200,000 บาท

“ระหว่างมูลค่ากระเป๋ากับน้ำหอม ตอนนี้คิดว่าน้ำหอมอาจ ชนะกระเป๋า (หัวเราะ) เพราะบางขวด 5 หมื่นบาท แบรนด์ Roja รุ่น ‘Roja Love’ ของประเทศฝรั่งเศส เป็น 1 ใน 100 ขวด ของโลก ของเราเป็นขวดที่ 23 ซึ่งเขามีใบรับรองให้ ปรุงโดย นักปรุงชาวอังกฤษ Roja Dove ซึ่งเคยทำงานที่บริษัท Guerlain ก่อนจะมาเปิดบริษัทของตัวเองชื่อ Roja Perfume ที่ประเทศ อิตาลี ถือเป็นแบรนด์น้ำหอมที่ป่านมีเยอะที่สุด

“อีกแบรนด์เป็นของ ‘Bond No.9 Swarovski Limited Edition’ ประดับขวดด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ ขายเป็นเซต เซตละ 3 ขวด ในท้องตลาดขาย 2 แสนบาท เป็นน้ำหอมสัญชาติอเมริกา ที่โด่งดังและได้รับความนิยมมาก เพราะเป็น Luxury Perfume ที่มีขวดสวย แต่ละกลิ่นแต่ละรุ่นมีดีไซน์ขวดแตกต่างกัน ยิ่งขวด ที่ประดับตกแต่งด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ราคาก็จะประมาณนี้ เป็น น้ำหอมที่คนไทยรู้จักแค่บางกลุ่ม จึงเรียกว่าเป็นน้ำหอม ‘Niche’ ปัจจุบันป่านมีทั้งหมดกว่า 50 กลิ่น

“ส่วนน้ำหอม Kilian เป็นแบรนด์ Niche เช่นกัน ราคาต่ำสุดประมาณ 6 พันบาท สูงสุด กว่า 1 หมื่นบาท ป่านมีประมาณ 50 ขวด ขวดแรกที่ได้มาคือรุ่น ‘Forbidden Game’ กลิ่นหอม มาก ความพิเศษอยู่ที่ดีไซน์กล่องเป็นรูปงู ดูยิ่งใหญ่ ราคาประมาณ 12,000 บาท”

พรีออร์เดอร์น้ำหอมเกือบ 400,000 บาท

“ใครที่ได้เข้ามาในโลกของน้ำหอมจะรู้ว่าตลาดนี้กว้างมาก เรียกว่ามีอะไรให้เราซื้อเก็บ ไปเรื่อย ๆ ทั้งน้ำหอมหายาก ดีไซน์ขวดสวยน่ารัก จนมั่นใจว่าเรามีน้ำหอมเยอะที่สุดในประเทศ โดยเลือกจากกลิ่นและดีไซน์ขวดที่ชอบ หลายขวดเป็นน้ำหอมที่ไม่ได้มีขายทั่วไป ต้องพรีออร์เดอร์ ล่วงหน้า โดยดูจากรูป ชื่อ ราคา และระยะเวลาที่รอ

“จากนั้นถ้าอยากเช็กว่าน้ำหอมขวดนั้นมีส่วนผสมอะไรบ้าง ก็เข้าไปดูใน www.fragrantica.com ในนั้นจะมีรีวิวจากทั่วโลกเลยว่าน้ำหอมเป็นโทนกลิ่นอะไร ถ้าเป็นโทนที่เราโอเค ขวดสวย ก็พรีออร์เดอร์มาเลย เพราะฉะนั้นต้องอาศัยการเดา ด้วย เป็นการซื้อแบบตาบอด แต่ก็สนุกดี ได้ลุ้นว่าเปิดมาฉันจะดมได้หรือเปล่า

“เคยจ่ายค่าพรีออร์เดอร์น้ำหอมครั้งเดียว 380,000 บาท เพราะเป็นน้ำหอม หายาก ตอนกดซื้อต้องแย่งกันกดเลยทีเดียว ใครชนะแสดงว่าเน็ตเร็ว เพราะเขา นำเข้ามาแค่สามขวดบ้าง สองขวดบ้าง บวกกับเป็นลูกบ้าของเราด้วย ขวดไหน ไม่มีหรือเป็นน้ำหอมตัวดัง ๆ เราต้องซื้อ

“ช่วงหลังกดพรีออร์เดอร์น้ำหอมไซส์ 250 มิลลิลิตร ที่เป็นไซส์คล้ายเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ เช่น น้ำหอม Tom Ford 5 ขวดก็เป็นแสนแล้ว บางทีก็กดเผื่อ เพื่อน หรือซื้อเป็นของขวัญให้ลูกค้า หรือบางขวดบางไซส์ก็กดมาเล่นเกมกับแฟนเพจ หรือคนที่ติดตามเราบ้าง”

น้ำหอม 3 กลุ่มสุดโปรด

“ก่อนหน้านี้ป่านสะสมน้ำหอมกลุ่มที่เป็นแบรนด์ดีไซเนอร์ต่าง ๆ คิดเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหอมที่ป่านมีทั้งหมด เช่น บุลการี ชาเนล ดิออร์ บาเลนเซียก้า ฯลฯ ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหอมที่ขายในเคาน์เตอร์ในห้างน่าจะอยู่ที่คลัง น้ำหอมของเราเกือบครบ

“ขวดที่ชอบมากคือ Guerlain รุ่น Exclusive ที่นักสะสมน้ำหอมยกให้ ว่าใกล้เคียงกลุ่ม Niche เพราะความซับซ้อนของกลิ่น การใช้ส่วนผสม แพ็คเกจจิ้ง และราคา ขวดละกว่า 1 หมื่นบาท น้ำหอม Tom Ford มีกลิ่นที่ชอบที่สุดคือ ‘Fucking Fabulous’ ดมแล้ว 18+ เป็นกลิ่นเซ็กซี่แนวหนังหรู ๆ ผสมอัลมอนด์ น้ำหอม Bottega Veneta รุ่น Exclusive ก็เป็นรุ่นแพงของเขา เยียวยาจิตใจได้ ขวดละ 8,500 บาท รุ่น xv เป็นกลิ่นที่ถ้ารู้สึกดิ่งดาวน์ ดมแล้วโลกสดใสขึ้นมาทันที เพราะกลิ่นช่วยบำบัดได้อย่างดี ส่วน Chanel No5 Role เป็นเวอร์ชั่นที่เด็กลง และ น้ำหอมตัวใหม่ล่าสุดของชาเนล รุ่น Gabrielle Essence มีความลักชัวรี่และ มีความเป็นนัมเบอร์ไฟว์ ให้ความรู้สึกคลาสสิก

“กลุ่มที่สองคือน้ำหอม Niche กลุ่มที่เป็นแบรนด์ดัง กลิ่นดี ราคาสูง คิดเป็น 39.5 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหอมที่ป่านสะสม ราคาขวดละกว่า 1 – 2 หมื่นบาท มีเยอะพอสมควร

“กลุ่มสุดท้ายเป็นน้ำหอมวินเทจ มีประมาณ 0.5 เปอร์เซ็นต์ น้ำหอม ประเภทนี้ราคาสูง ขึ้นอยู่กับแบรนด์ รูปทรงขวด และความหายาก น้ำหอมวินเทจ ของ Guerlain ราคาแพงและหายากที่สุด ด้วยกลิ่นที่ซับซ้อนและดีไซน์ขวดสวย นักสะสมเห็นแล้วต้องกระโจนใส่ รองลงมาเป็นดีไซน์ขวดแปลก ๆ ของ YSL ส่วน ขวดล่าสุดเป็นน้ำหอมของ Chanel รุ่น Mademoiselle ไซส์ 15 มิลลิลิตร ราคากว่า 1 หมื่นบาท”

“น้ำหอม” ไม่มีวันหมดอายุ

“ถ้าเก็บโดยให้อยู่ในที่มืด ไม่โดนแดด ในอุณหภูมิห้องปกติ น้ำหอมไม่มีวัน หมดอายุ ขนาดน้ำหอมวินเทจอายุ 25 – 30 ปียังขายราคาสูงในตลาดได้อยู่เลย แต่ถ้าโดนแสงหรือเก็บในตู้เย็น กลิ่นและสีจะเพี้ยน รวมทั้งขึ้นอยู่กับบรรจุภัณฑ์ ของแต่ละแบรนด์ด้วย อย่างน้ำหอมวิกตอเรียส์ซีเคร็ต กลิ่นจะไปเร็วกว่าเพื่อน เพราะแพ็คเกจจิ้งของเขามีอากาศเข้าได้ ป่านจึงสร้างห้องมืดเพื่อเก็บน้ำหอมโดยเฉพาะ เปิดแอร์ให้ทุกวัน วันละ 6 – 7 ชั่วโมง

“ถ้าถามว่าจะหยุดซื้อหรือหยุดสะสมทั้งกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง และน้ำหอม เมื่อไหร่ บอกเลยค่ะว่าไม่มีความคิดนี้อยู่เลย จะซื้อไปเรื่อย ๆ แต่อาจจะพรีออร์เดอร์ น้อยลง (ยิ้ม) เพราะพรีออร์เดอร์มาเยอะแล้ว แบบไหนมีแล้วก็คงไม่ซื้อซ้ำ เป็นความสุขของเรา จะหยุดได้ไง”

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 971

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ถอดรหัสตัวย่อของ กระเป๋า Louis Vuitton อักษรในแต่ละไซส์ มีความหมายยังไง

คลาสสิกขึ้นหิ้ง! ส่องโฉมใหม่ กระเป๋า Louis Vuitton Capucines ที่ใครก็พากันถือ

ทำไม Louis Vuitton ปรับขึ้นราคา แต่เฉพาะในเกาหลี กว่า 20% ของราคาเดิม