ก่อนหน้านี้สาว ‘เอ-อัญชลี หัสดีวิจิตร’ ได้ออกมาเปิดเผยว่าเลิกรากับสามี ‘มด ฉัตรชัย’ ไปแล้ว หลังแต่งงานใช้ชีวิตคู่กันมาได้ประมาณ 1 ปีครึ่ง จากนั้นก็หายเงียบเข้ากลีบเมฆ งานนี้น้องสาวสุดเลิฟ ‘โย-ยศวดี’ จึงต้องโดนถามถึงเรื่องนี้แทน
ก่อนหน้านี้สาว ‘เอ-อัญชลี หัสดีวิจิตร’ ได้ออกมาเปิดเผยว่าเลิกรากับสามี ‘มด ฉัตรชัย’ ไปแล้ว หลังแต่งงานใช้ชีวิตคู่กันมาได้ประมาณ 1 ปีครึ่ง จากนั้นก็หายเงียบเข้ากลีบเมฆ งานนี้น้องสาวสุดเลิฟ ‘โย-ยศวดี’ จึงต้องโดนถามถึงเรื่องนี้แทน
อย่าเพิ่งตกอกตกใจคิดว่าหนุ่ม ‘แดน วรเวช’ จะนอกใจสาว ‘แพตตี้ อังศุมาลิน’ นะจ๊ะ เพราะสาวคนใหม่ที่พูดถึงนี้หมายถึงนักแสดงดาวรุ่งรุ่นจิ๋ว ‘น้องยูเค-ณัฐธยาน์ องค์ศรีตระกูล’ ซึ่งทั้งคู่ได้ร่วมงานกันในหนังเรื่อง ‘The One Ticket ตัวพ่อ…เรียกพ่อ’ โดยหนุ่มแดนในฐานะโปรดิวเซอร์กับนักแสดงนำ ถึงกับชื่นขมน้องยูเคสุดๆ
ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วสำหรับการประกวด Miss World 2014 ซึ่งประเทศไทยเราก็ได้น้องเมญ่า – นนธวรรณ ทองเหล็ง เป็นตัวแทนไปประกวดในรายการนี้ด้วย
วันนี้แพรวดอทคอมจึงพามาส่องสาวงามประเทศในแถบเอเชียเพื่อนบ้าน มาดูกันซิว่าแต่ละคนจะสู้สาวฝรั่งอเมริกาและยุโรปได้แค่ไหน
จีน
ชื่อ : Du Yang
อายุ : 22 ปี
สูง : 181 ซม.
อาชีพ : สถาปนิก
อินเดีย
ชื่อ : Koyal Rana
อายุ : 21 ปี
สูง : 173 ซม.
อาชีพ : NGO มูลนิธิที่ไม่แสวงผลกำไรในอินเดีย
อินโดนีเซีย
ชื่อ : Maria Asteria Sastrayu
อายุ : 23 ปี
สูง : 168 ซม.
อาชีพ : นางแบบ/พรีเซ็นเตอร์
ญี่ปุ่น
ชื่อ : Hikaru Kawai
อายุ : 23 ปี
สูง : 176 ซม.
อาชีพ : นักแสดง/นางแบบ
เกาหลีใต้
ชื่อ : Hwa-Young SONG
อายุ : 24 ปี
สูง : 176 ซม.
อาชีพ : นักศึกษา
มาเลเซีย
ชื่อ : Dewi Liana SERIESTHA
อายุ : 25 ปี
สูง : 179 ซม.
อาชีพ : นักศึกษา เอกขับร้องเพลงคลาสสิก
เมียนมาร์
ชื่อ : Wyne LAY
อายุ : 19 ปี
สูง : 170 ซม.
อาชีพ : นักร้อง
เนปาล
ชื่อ : Subin LIMBU
อายุ : 23 ปี
สูง : 173 ซม.
อาชีพ : นักศึกษา
ฟิลลิปปินส์
ชื่อ : Valerie WEIGMANN
อายุ : 24 ปี
สิงคโปร์
ชื่อ : Dalreena Poonam GILL
อายุ : 20 ปี
สูง : 171 ซม.
อาชีพ : กรรมการฟุตบอล FAS
ศรีลังกา
ชื่อ : Chulakshi Ranathunga
อายุ : 25 ปี
สูง : 174 ซม.
อาชีพ : นางแบบ
ไทย
ชื่อ : Maeya Nonthawan Thongleng
อายุ : 22 ปี
สูง : 176 ซม.
อาชีพ : นางแบบ/นักร้อง/พรีเซ็นเตอร์
เวียดนาม
ชื่อ : Loan Nguyen Thi
อายุ : 24 ปี
สูง : 176 ซม.
อาชีพ : ผู้จัดการร้านอาหาร
เรื่อง : SRIPLOI
ข้อมูล / ภาพ : http://www.missworld.com
ต้องบอกว่าช่วงนี้สาวโบ-สาวิตรี สุทธิชานนท์ วิ่งวุ่นสุดๆ เพราะไหนจะถ่ายละครเรื่อง ‘บางระจัน’ แล้วยังต้องเตรียมงานแต่งงานกับหวานใจหนุ่ม ‘เกรท-พรอนันต์ พุ่มแก้ว’ ซึ่งสาวโบบอกว่าเตรียมไปได้ 95% แล้วจ้า
ทำเอาหลายคนตกอกตกใจเมื่อจู่ๆ ‘ป๋อ ณัฐวุฒิ’ โพสต์ภาพตัวเองนอนแอทมิดอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะมีอาการอาหารเป็นพิษ รุนแรง ถึงขั้นลำไส้อักเสบ แต่ล่าสุดเจ้าตัวออกจากโรงพยาบาลแล้วจ้า
เล่นเอางงไปตามๆ กัน เมื่อจู่ๆ หนุ่ม ‘แอมมี่ ไชยอมร’ นักร้องนำวง The Bottom Blues อดีตสามีของสาว ‘ไอด้า- ไอรดา ศิริวุฒิ’ ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วว่า เป็นการเข้าใจผิด แถมยังยืนยันอีกด้วยว่าไม่ได้มีชู้อย่างที่เป็นข่าว
ต้องบอกว่าเป็นสาวที่มีพลังเหลือเฟือจริงๆ สำหรับว่าที่ ‘ร้อยตรีหญิงมัดหมี่-พิมดาว พานิชสมัย’ ทั้งบทบาทการเป็นนักแสดง นักร้อง นักเขียน และล่าสุดกำลังขะมักเขม้นเตรียมตัวเล่นละครเวทีถึง 2 เรื่อง งานนี้เจ้าตัวบอกว่าขอเล่นเต็มที่ก่อนลาไปฝึกทหารจ้า
หลังจากที่หนุ่ม ‘เต๋อ-ฉันทวิทย์ ธนะเสวี’ ได้ออกมาชี้แจงไปบ้างบางส่วนแล้วก็ถึงคราวของนักแสดงสาว ‘พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ’ ออกมาแถลงถึงสาเหตุการเลิกลาบ้าง งานนี้สาวพีคถึงกับปล่อยโฮเลยทีเดียว
“ตลอดเวลาที่คบมา 7 ปีคือดีมาก แต่พอเราโตขึ้น อะไรๆ ที่เคยเหมือนกันก็ไม่เหมือนกัน กลายเป็นปัญหาเล็กๆ ที่สะสมมานานมาก แล้วเราพยายามแก้ไขกันมาสักพัก สุดท้ายเลยตัดสินใจหยุดดีกว่า เพราะคิดว่ามันอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ในอนาคต ต้องขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ตัวพีคเองไม่เคยเสียดายเวลาที่คบกับพี่เต๋อเลย เพราะเขาเป็นคนที่ดีมาก เรามีความสุขด้วยกัน แต่เสียใจที่มันไม่สามารถไปถึงวันนั้นได้
“เราตกลงกันมาเกือบเดือนแล้ว กว่าจะมาถึงวันนี้ยอมรับว่าหนักหนาสาหัสมาก ตัวพีคเป็นคนเริ่มคุยเรื่องนี้ก่อน ที่บ้านของเราทั้งคู่รับรู้ ส่วนเรื่องมือที่สามทายาทตึกใบหยก พีคไม่รู้จัก แต่ภาพกับผู้ชายที่ออกมานั้นนานสักพักแล้ว เป็นเพื่อนของเพื่อน ไม่เกี่ยวกับใคร เรื่องนี้เป็นปัญหาของเราสองคน อนาคตไม่รู้จะกลับไปคืนดีกันหรือเปล่า แต่ตอนนี้ขอหยุดไว้ก่อนค่ะ
“คิดว่าถึงจะไม่อยู่ใกล้กันแล้วก็ยังรักกันได้ เขาเป็นพี่ที่ดีมากๆ ต้องขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจค่ะ ส่วนเรื่องธุรกิจก็ยังทำเหมือนเดิมไม่มีการถอนหุ้นอะไรทั้งนั้น แต่เรื่องงานในวงการที่บางครั้งต้องร่วมงานกัน ยอมรับว่าลำบากใจมาก
“คงต้องใช้เวลา เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเองค่ะ”
กลายเป็นเรื่องเป็นราวอีกแล้วสำหรับมหากาพย์ความรักของ ‘ไอด้า ไอรดา’ กับอดีตสามี ‘แอมมี่’ เหตุจากฝ่ายหญิงโพสต์รูปชุดชั้นในตอกกลับสาวคนหนึ่งที่คาดว่าเป็นกิ๊กแอมมี่ จนกลายเป็นประเด็นร้อน แต่หลังจากเกิดเรื่องดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายปิดปากเงียบกริบ จนล่าสุดสาวไอด้ายอมออกมาชี้แจงแล้ว
หลายคนต่างเอาใจช่วยว่าเมื่อไหร่จะมีทายาทคนแรกมาให้เชยชมสักที สำหรับนักร้องสาว ‘นัท มีเรีย’ กับพระเอกหนุ่ม ‘อั้ม อธิชาติ’ ล่าสุดจัดทริปไปสวีทหวานกันที่ประเทศญี่ปุ่น แต่สาวนัทได้ออกมาบอกแล้วว่ายังคงไร้วี่แววว่าจะมีเจ้าตัวน้อยเช่นเคย
“ไปญี่ปุ่นครั้งนี้สนุกดีค่ะ เราไปกันกลุ่มใหญ่ประมาณ 8-9 คน มีครอบครัวคุณอั้มด้วย ทั้งน้องสาว กับหลานสาว ก็เที่ยวเต็มที่ ได้ไปสัมผัสทั้งธรรมชาติ และตัวเมืองด้วย เดินเที่ยว และกินกันตลอดทาง ไม่ค่อยสวีทอะไรมาก ก็ปกติ เป็นแนวคุยเล่นอำกันขำๆ แต่อาจจะสวีทด้วยบรรยากาศมากกว่าได้เห็นดอกไม้เปลี่ยนสีที่ยังเหลืออยู่บ้าง ก็ถ่ายรูปกันอยู่นาน เมื่อยมากค่ะ เพราะด้วยความที่คุณอั้มเป็นคนเดินเร็วมาก นัทต้องคอยรั้งตัวให้เดินช้าๆ ในขณะที่เขาก็บอกให้เราพยายามเดินเร็วๆ จนเหนื่อยกันไปข้าง
“อ๋อ… มีเรื่องตื่นเต้นนิดนึง(หัวเราะเขินๆ) เป็นช่วงที่คิดว่าท้อง เพราะรู้สึกเปรี้ยวปาก อยากกินโน่นกินนี่ ตอนนั้นทุกคนเตรียมเฮแล้ว แต่เอ่อ…คือว่าไม่ใช่ ฟาวล์ จริงๆ ไม่ว่าจะไปทริปต่างประเทศที่ไหนไม่เคยประสบผลสำเร็จเรื่องนี้เลย แต่ไม่เป็นไรค่ะ
“คงต้องลุ้นกันต่อไป”
ที่มา : สยามดารา http://www.siamdara.com/clipvdo.php?id=00051841
ช็อควงการบันเทิงอีกหนึ่งคู่สำหรับหนุ่ม ‘เต๋อ-ฉันทวิชช์’ กับสาว ‘พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ’ หลังจากที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันมานานกว่า 7 ปี ล่าสุดพระเอกเต๋อได้ออกมายอมรับแล้วว่าตอนนี้ขอพักความสัมพันธ์กันไปก่อนยาวๆ
ช่วงนี้เทรนด์สุขภาพกำลังมา สาวหลาย ๆ คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น รวมไปถึงเหล่าเซเลบฯ ดารา ที่ต่างตบเท้ากันออกกำลังกายกันอย่างเต็มสตรีม และไม่วายโพสต์รูปเซลฟี้อวดหน้าท้องแบนราบลงอินสตราแกรมให้ชาวโลกได้อิจฉาเล่น แต่ใครจะหุ่นเริ่ดกว่าใครนั้นไปดูกันเลย
เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ
เริ่มจากสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ที่กลายเป็นไอดอลของสาว ๆ ไปซะแล้ว เพราะหลังจากที่หันมาออกกำลังกายด้วยการเล่นพิลาทิสอย่างจริงจังก็มีหุ่นที่เฟิร์มแบบผิดหูผิดตา
กาละแมร์- พัชรศรี เบญจมาศ
เป็นอีกหนึ่งสาวที่สนใจเรื่องสุขภาพ จากอดีตเคยเป็นสาวร่างอวบ มาตอนนี้กลายเป็นสาวสวยหุ่นเป๊ะขึ้น
วีเจจ๋า-วรัลชญาน์ จินดารักษ์วงศ์
สาวจ๋ากับท่าโพสต์โชว์หน้าท้อง และเอวคอดกิ่วที่โค้งเว้าเย้ายวนจริงๆ
แพง-ขวัญข้าว เศวตวิมล
แม้กำลังวุ่นกับการออกแบบเสื้อผ้าแบรนด์ kwankao คอลเล็คชั่นใหม่แต่สาวแพงก็ไม่เคยลืมที่จะออกกำลังกายเบิร์นไขมันอย่างสม่ำเสมอ
หญิง-รฐา โพธิ์งาม
ตามมาด้วยหญิง รฐา คนนี้ก็เด็ดไม่แพ้กัน
ดาวิกา โฮร์เน่
ส่วนสาวใหม่ก็ไม่ยอมแพ้ใคร ถ่ายรูปอวดเอวบางๆ เห็นแล้วอิจฉา
เจนสุดา ปานโต
เธอคนนี้ทุ่มเทให้กับการออกกำลังกายมาตลอด หุ่นดีแบบนี้ไงล่ะ หนุ่มพอล สิริสันต์ ถึงได้หลงนักหนา
เฟย์-อรชุมา ดุรงค์เดช
เรียกว่าเป็นเจ้าแม่แห่งความเฮลตี้เลยก็ว่าได้สำหรับเวิร์คกิ้งวูแมนสาวสวยเฟย์ อรชุมา เพราะแอบทราบมาว่าเธอเจียดเวลาจากการทำงานมาออกกำลังกายทุกวัน แถมยังกินอาการคลีนฟู้ดอีกด้วย
เล็ก-กรกนก ยงสกุล
เซเลบฯ สาวทายาทเจ้าของธุรกิจ เรือยอชต์ มารีนา ยอชต์ คลับ เคยแอบกระซิบบอกเราว่าชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ แถมว่างไม่ได้เป็นต้องควงหวานใจไปวิ่งที่สวนลุมฯ ตลอด
โย-ยศวดี หัสดีวิจิตร
ปิดท้ายด้วยนางแบบสูงยาวเข่าดี ที่คลั่งการออกกำลังกายจนถึงขนาดทำคลิปสอนวิธีออกกำลังกายสไตล์ BOUNCE แบบฉบับโย แล้วจะได้กล้ามท้องที่ฟิตแอนด์เฟิร์มแบบนางจ้า
ฮือฮาอีกแล้วสำหรับนางเอกหน้าไทย “ตั๊ก-บงกช” ที่ล่าสุดโพสรูปบนอินสตาแกรมโชว์กระเป๋า Louis Vuitton ที่พี่ใหญ่ “คุณบุญชัย เบญจรงคกุล” ซื้อเป็นของขวัญให้กับภรรยาสุดที่รัก
มาให้กำลังใจกันถึงคอนเสิร์ต Give Me 5 ที่เพิ่งจบไปหมาดๆ แต่พระเอกหนุ่ม ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ ก็ยังปากแข็งกั๊กสถานะสาว ‘จันจิ’ วงไกอา ว่าเป็นแค่พี่น้อง แม้จะมีรูปออกมาคอนเฟิร์มความสัมพันธ์แบบต้องสงสัย และกลายเป็นประเด็น จนเจ้าตัวต้องขอชี้แจง
“ผมได้เห็นข่าวแล้วครับ บอกตรงๆ เลยว่ารูปที่ออกมาก็ไม่ได้ปิดบัง ยอมรับว่าคุยกับน้องเขาอยู่ แต่ไม่ได้คุยกันในฐานะแฟน ยังไม่ได้พัฒนาไปถึงขั้นนั้น ถ้าเป็นแฟนเมื่อไหร่ยินดีบอกอยู่แล้ว ส่วนรูปที่ออกมาก็ไปกินข้าวด้วยกัน แต่ไม่ได้ไปแค่ 2 คน มีเพื่อนไปด้วย โอ้พูดความจริงตลอดครับ หรือตอนที่ถ่ายรูปคู่ไม่คิดว่าจะออกมาเป็นข่าวหรืออะไร เราก็ถ่ายรูปเล่นกันปกติ แล้วลงอัพเดทอินสตาแกรมให้คนเห็นว่าโอ้ทำอะไร รู้ว่ามีคนจับตา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่เราจะคุยหรือศึกษาใคร ส่วนโอกาสพัฒนา ยังไม่ได้ซีเรียสว่าเราต้องมีแฟนนะ ผมทำงาน น้องเขาก็มีงาน
“ตอนนี้เป็นพี่เป็นน้อง ปรึกษากันได้มากกว่าครับ”
ที่มา : สยามดาราhttp://www.siamdara.com/clipvdo.php?id=00051786
ฟูมฟักมาอย่างดีราวกับไข่ในหินสำหรับ ‘น้องจีน-อิทธิฤทธิ์ รัตนทารส’ ลูกชายสุดรักสุดหวงของ ‘คุณอ้อย-อัจฉรา อัมพุช’ ผู้บริหารเดอะมอลล์ กรุ๊ป ไม่ทันไรก็โตเป็นหนุ่มอายุ 16 ปี แถมรูปหล่อจนสาวเห็นเป็นต้องสะท้าน นานๆ จะเหินฟ้าจากอังกฤษกลับมาเมืองไทยสักที เลยขอคว้าตัวมาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันหน่อยจ้า
“ตอนนี้ผมเรียนอยู่โรงเรียนประจำที่อังกฤษครับ เป็นนักฟุตบอลโรงเรียน ก็มีแข่งกับทุกโรงเรียนทั่วประเทศ จนตอนนี้เหลืออยู่ 16 ทีมสุดท้ายแล้ว แต่เมื่อปีที่แล้วภูมิใจมาก เพราะทีมผมได้อันดับที่ 8 จากหลายร้อยทีม ถามว่าจะยึดอาชีพหรือเปล่า คงไม่ครับ เพราะเหนื่อย และโหดมาก ต้องมีวินัยกับตัวเองสุดๆ ซึ่งผมเป็นพวกสบายๆ ไม่ค่อยชอบอยู่ในกฎมาก ด้านคุณแม่อยากให้ผมเรียนวิศวะฯ แต่ก็ต้องดูไปเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้ขอเที่ยวกับเรียนก่อน
“ส่วนเรื่องหัวใจ โสดครับ(หัวเราะ) สเป็คสาวเหรอ(ทำท่าคิด) ผมชอบลูกครึ่งนะ เพราะผมเรียนโรงเรียนอินเตอร์ตั้งแต่เด็ก ที่ผ่านมาก็เคยมีแฟนมาบ้าง ซึ่งเวลามีเรื่องผู้หญิงเข้ามาผมปรึกษาคุณพ่อตลอด เราสนิทกัน แต่คุณพ่อบอกว่ารอให้อายุ 17 ปีก่อนถึงจะยอมสอน แล้วเวลาพาสาวไปเจอ คุณพ่อชอบบอกว่าไม่สวย เทียบกับคุณแม่ไม่ได้เลยสักคน (หัวเราะ)
“น่าจะเป็นความหมายว่า รักอย่าเพิ่งริ ให้เน้นเรียนดีกว่า”
เปิดใจ เจี๊ยบ-เอกมล อรรถกมล สไตลิสต์ผู้ดูแลชุดสำหรับใส่ประกวดขึ้นเวทีมิสเวิลด์ ครั้งแรกที่เดียวกับกับเว็บไซด์แพรวดอทคอม
หลังจากที่ทางกองประกวดได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวชุดไทยและชุดราตรีบางส่วนที่จะนำไปใช้ในการประกวดบนเวทีMiss World ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้ ต่างก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนโลกโซเชียลเนตเวิร์คเกี่ยวกับชุดที่ตัวแทนสาวไทยอย่างเมญ่า-นนธวรรณ ทองเหล็ง ซึ่งเป็นตัวแทนสาวไทยที่จะสวมใส่ขึ้นบนเวทีว่าไม่สวยพอที่จะเป็นหน้าตาให้กับประเทศไทยได้
ทั้งนี้แพรว ดอทคอม ได้ติดต่อไปทางสไตลิสต์ คุณเจี๊ยบ เอกมล อรรถกมล ผู้ออกแบบชุดนี้ ซึ่งเจ้าตัวในฐานะผู้ออกแบบชุดไทยเจ้าปัญหา อีกทั้งยังเป็นผู้ดูแลเรื่องชุดของการประกวดครั้งนี้ทั้งหมด ซึ่งเขาได้เล่าถึงที่มาที่ไปของชุดไทยนี้ว่า
Q : คอนเซปต์ของชุดไทยที่เกิดกระแสวิจารณ์ในด้านลบอยู่ตอนนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร
A : ชุดนี้พี่เป็นคนสเก็ตวางโครงเอาไว้ว่าชุดจะเป็นประมาณไหน ซึ่งกว่าจะออกมาก็ได้มีการรีเสิร์ชก่อน พี่ก็ไปสะดุดที่เรื่องการถ่ายเททางวัฒนธรรมในสมัยรัชกาลที่ 5 ช่วงนั้นประเทศไทยเปิดประเทศเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างชาติ วัฒนธรรมจากตะวันตกก็เข้ามาในเมืองไทยมากขึ้น เป็นยุคที่คนไทยเปลี่ยนวิธีการแต่งตัวอย่างรุนแรงที่สุด เพราะสตรีในราชสำนักเขาไปหยิบเอาเสื้อแขนหมูแฮม ลักษณะเป็นเสื้อลูกไม้แขนใหญ่ๆ มาใส่คู่กับโจงกระเบน พี่ว่ามันเป็นการมิกซ์แอนด์แมทช์ในยุคแรกๆของไทยเลยนะ จากเดิมที่ผู้หญิงไทยห่มสไบกับนุ่งโจงกระเบนอย่างเดียว เลยเกิดวิธีคิดที่จะนำเสื้อผ้าแขนหมูแฮมแบบไทยมาใส่คู่กับกระโปรงไสตล์วิคตอเรียนแทนให้ดูมีความเป็นตะวันตกผสมอยู่ เป็นการลองกลับด้านประวัติศาสตร์ดู เพราะทุกวันนี้ชุดที่เราเอาไปใส่ประกวดส่วนใหญ่จะเป็นชุดที่เราเอาของเก่ามาประยุกต์ให้ดูร่วมสมัยมากขึ้นเฉยๆ หรือไม่ก็ไทยโบราณ
Q : ชุดประจำชาติบนเวที Miss World แตกต่างจากการประกวดบนเวทีอื่นยังไง
A : ต้องบอกก่อนว่าเวทีนี้มันไม่มีรางวัลชุดประจำชาติ ทุกคนจะใส่ชุดประจำชาติเพื่อนำไปประมูลหารายได้เข้าการกุศล เพราะฉนั้นแนวคิดแบบดราม่า อวกาศ แฟนตาซี พี่จะตัดออกเลย เพราะเราไม่ได้เอาประกวด ไม่ได้ช่วงชิงรางวัลกับใคร เลยเอาวิธีคิดที่ดึงการแต่งตัวของผู้หญิงในสมัยก่อนมาผสมผสานกับความเป็นตะวันตกให้ตัวเมญ่าดูเป็นผู้หญิงในยุคนั้นแต่ก็ดูร่วมสมัย แต่เราจะไม่ใส่ความเป็นฝรั่งทั้งชุดหรือไทยทั้งชุดแค่นั้นเอง”
Q : รู้สึกอย่างไรกับเสียงวิจารณ์ที่บอกว่าชุดไม่สวยทั้งชุดไทย และชุดราตรี
A : คนที่วิจารณ์ส่วนใหญ่มาจากแฟนเพจของนางงาม ก็พูดกันเยอะว่าไม่สวย เราก็เลยกลับมาดูงานของเราเอง ขอเริ่มจากชุดไทยก่อน เพราะพี่เป็นสไตลิสคนวางโครงไปเสนอกับทางช่อง คือพี่ต้องดูแลตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้มันต้องเสนอทุกอย่างเป็นธีมมีคอนเซ็ปต์พร้อมแบบทุกแบบจะถูกดีไซน์และส่งให้ผู้ใหญ่และทีมงานแอพพรูฟก่อน พี่ต้องนำเสนอภาพรวมทั้งหมดให้ทางช่องดู จนผู้ใหญ่เขาโอเคกับคอนเซ็ปของชุด แต่พอกระแสออกมาต่อว่าพี่ก็ยอมรับนะถ้าจะวิจารณ์ว่าชุดไม่สวยได้ แต่บางคนก็ใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ภาษาหยาบคาย วิจารณ์กันสนุกปาก ไม่ได้ใช้เหตุผลในการวิจารณ์ หรือพวกที่แฝงตัวไม่ใช้ชื่อนามสกุลจริงพิมคอมเม้นท์ไปเรื่อย พี่ก็ไม่ใส่ใจดีกว่า เพราะพี่ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจในกระบวนการทำงานในแต่ละขั้นตอนของงานมากน้อยแค่ไหน
Q : คิดว่าชุดไทยที่ออกแบบมีข้อผิดพลาดตรงไหน ถึงเกิดกระแสในด้านลบแบบนี้
A : ตั้งแต่การสเก็ตชุดพี่มีความตั้งใจที่จะทำให้ชุดมีเรื่องราวของประวัติศาสตร์การแต่งกายจริงๆ แต่ด้วยการสกรีนสี และขั้นตอนการตัดเย็บอาจสื่อสารกันผิดพลาด เพราะหลังจากที่พี่ออกแบบเสร็จ ก็ให้ทางร้านเรือนเจ้าสาว ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ชุดประจำชาติของการประกวดทุกปีเป็นคนตัดเย็บ และที่ผ่านมาทางนั้นเป็นคนดีไซน์ แต่ปีนี้พี่เป็นคนทำ ซึ่งเราก็ต้องให้เกียรติเคารพการทำงานกันและกัน หลังจากบรีฟงานเพื่อจะตัดเย็บ เราอาจไม่ได้มีเวลาที่จะนั่งตามหรือลองชุดก่อน จนกระทั่งถึงวันแถลงข่าว พอเห็นชุดพี่ก็รู้สึกว่ามันไม่เหมือนกับที่พี่คิดไว้ แต่ก็ไม่โทษว่าทางนั้นผิดนะ เพราะพี่เองเป็นคนออกแบบก็ควรจะเป็นคนทำ หรือไม่ก็ต้องดูทุกขั้นตอนที่เขาตัดเย็บ เพราะมันเป็นไปไม่ได้หรอกที่เขาจะมาเข้าใจเราทุกอย่าง ข้อผิดพลาดจริงๆก็คงเป็นเรื่องการสื่อสารที่ผิดพลาดนี่แหละ แต่มันถึงวันแถลงข่าวแล้ว เลยต้องใช้ชุดนี้ไปก่อน ใจก็รู้ว่ามันไม่ใช่ แต่ก็คิดกันไว้แล้วว่าต้องมีการแก้ไขชุดแน่นอน
Q: ชุดราตรีสีเหลืองก็ถูกวิจารณ์เหมือนกันว่าไม่สวย
A : สำหรับชุดราตรีสีเหลือง คอนเซ็ปต์คืออยากให้เมญ่าใส่แล้วดูเป็นเจ้าหญิงบาร์บี้สไตล์Elegance เขาเป็นผู้หญิงผิวสีที่ใส่ชุดอะไรก็สวย และชุดนี้จะยิ่งทำให้เขาดูน่ารัก และชุดนี้จริงๆแล้ว เป็นหนึ่งในสามชุดที่เราเตรียมไว้ให้เมญ่านำไปใช้ในการประกวด ซึ่งเมื่อถึงวันจริงก็อาจจะไม่ใช่ชุดนี้ที่เมญ่าใส่ขึ้นเวทีก็ได้ เมญ่าต้องตัดสินจากสถานการณ์ในขณะนั้นเอาว่าเราจะเลือกชุดไหนไปฆ่าคนอื่นได้ มันเป็นกลยุทธ์อย่างนึงของเวทีนางงาม ที่เราจะไม่เปิดเผยทุกชุด เพื่อไม่ให้นางงามประเทศอื่นๆ รู้ว่าเรามีทีเด็ดอะไร ซึ่งหลายๆ ประเทศก็ทำแบบนี้ แต่พอมีกระแสว่าชุดราตรีสีเหลืองไม่สวย คือเราก็เกรงใจทางดีไซเนอร์ที่ออกแบบเหมือนกัน (Vatitltthibrand) เพราะเขาก็เป็นดีไซเนอร์แถวหน้าที่มีประสบการณ์ทำโชว์อยู่เมืองนอก และมีแบรนด์ขายอยู่ที่อเมริกาด้วย พอเกิดเหตุการณ์นี้เลยคิดกันว่าอาจจะต้องนำอีกสองชุดที่ยังไม่เปิดเผยออกมาให้ทุกคนรับรู้ว่าจริงๆแล้วเรามีไฮไลท์อะไรอยู่ ซึ่งสองชุดนี้ก็มีดีไซเนอร์อีกสองคนเป็นผู้ออกแบบ เลยคิดว่าเราต้องยอมเปิดเผยชุดให้หมด ก่อนที่จะมีเสียงวิจารณ์จากคนที่ไม่รู้ที่มาที่ไปมากกว่านี้ และแฟนๆ นางงามจะได้สบายใจ แต่ก็ต้องยอมรับด้วยว่าเราไม่มีไพ่ใบสุดท้ายให้คู่แข่งเซอร์ไพรส์ในวันประกวดแล้ว
Q : อยากฝากอะไรถึงคนที่ติดตามเรื่องนี้บ้าง
A : พี่อยากจะฝากว่าสองชุดนี้มันไม่ดี เราจะแก้ไขให้แน่นอน สำหรับชุดไทยแบบและคอนเซ็ปต์ยังคงเหมือนเดิมนะ แต่ต้องมีการปรับให้ตรงกับสเก็ตที่วางไว้ เราก็สัญญาว่ามันจะดีขึ้นก่อนที่จะออกไปสู่สายตาชาวโลกแล้วไม่อายใคร และสิ่งที่เขารอคอยมันมีอยู่จริง ส่วนเรื่องจะขอให้ใครมาคอมเม้นท์ด้วยถ้อยคำที่สุภาพหรือไม่ อันนี้พี่คงไม่ไปขออะไร เพราะคงไม่ไปสอนมารยาทเขาอยู่แล้ว แต่ละคนความคิดไม่เหมือนกันครับ และรับรองว่าชุดไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน น่าจะอีกสิบวันข้างหน้า ส่วนชุดราตรีมีอยู่แล้ว ก็คงจะนำออกมาให้ทุกคนได้เห็นว่าไม่ได้มีแค่ชุดเดียว
เรื่อง : SRIPLOI
ภาพ : Facebook @MTW / @Egge Mon
“เกษร ช็อปปิ้ง เซ็นเตอร์” ศูนย์การค้าผู้บุกเบิกเพียวลักชัวรี่แห่งแรกของเมืองไทยที่เปรียบเสมือนแลนมาร์คแห่งความหรูหราที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางย่านราชประสงค์ วันนี้กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่รับรองว่าประสบการณ์ช็อปปิ้งแบบเกษรจะทำให้คุณต้อง “ทึ่ง” อย่างแน่นอน
ราชประสงค์ “Walkable Urbanism”
“เมื่อพูดถึงเกษร ก็ต้องนึกถึงย่านราชประสงค์ด้วย เพราะเราอยู่ใจกลางย่านแห่งไลฟ์สไตล์ของกรุงเทพฯ ที่ล้อมรอบด้วยโรงแรม 5 ดาว ช็อปปิ้งสตรีท และเอ็นเตอร์เทนเมนท์มากมาย ความพิเศษหนึ่งเดียวของย่านราชประสงค์ คือไร้รอยต่อของไลฟ์สไตล์และคุณภาพชีวิตที่เชื่อมถึงกัน เดินเพลินๆ จากโรงแรมมาช็อปปิ้ง กินอาหาร ทำสปา ดูหนัง แวะร้านหนังสือ เข้าออฟฟิศได้โดยไม่เปียกฝนหรือโดนแดด แถมยังสะอาดปลอดภัย แทบไม่รู้ตัวเลยว่าพื้นที่นี้เชื่อมกันกว่า 100 ไร่ เพราะเรามีสกายวอล์คเชื่อมจากตึกสู่ตึกแห่งแรกของเมืองไทยที่พัฒนามากว่า 10 ปี ซึ่งกว้างใหญ่และยาวที่สุดในเมืองไทยด้วย และในอีก 2 ปีข้างหน้าทุกคนจะได้ใช้สกายไลน์ ซึ่งเชื่อมต่อจากสกายวอล์คเส้นเดิมออกไปทางประตูน้ำเป็นระยะทางอีก 500 เมตร เชื่อมเข้ายังอีก 6 อาคาร เดินไปได้ถึงแพลตตินั่มแฟชั่นมอลล์เลย
“เมื่อมาดูข้อมูล ย่านราชประสงค์มีนักท่องเที่ยวต่อวันประมาณ 400,000 คน เมื่อเปิดสู่ AEC ที่ประชากรในภูมิภาครวมกันถึง 600 ล้านคน คำถามคือแล้วนักท่องเที่ยวจะมาเมืองไทยเท่าไร มากรุงเทพเท่าไหร่ มาราชประสงค์เท่าไร และเกษรจะเป็นอะไรให้กับย่านที่ฮ็อตที่สุดนี้
“นั่นคือที่มาของการทรานส์ฟอร์มเกษรครั้งใหม่ ให้เป็นศูนย์กลางของราชประสงค์ด้วยการเชื่อมโยงไลฟ์สไตล์ระหว่างทิศใต้ คือกลุ่มโรงแรม 5 ดาว อย่างโฟร์ซีซั่น, เดอะ เซนต์ รีจิส, แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ และ Waldorf Astoria ที่จะเปิดเร็วๆ นี้ ทางทิศเหนือเป็นมาร์เก็ตสไตล์อย่างแพลตตินั่มแฟชั่นมอลและโครงการใหม่ เดอะมาร์เก็ต บาย แพลตตินั่ม ทางทิศตะวันตกก็เป็นเซ็นทรัลเวิล์ด ทิศตะวันออกเป็นเซ็นทรัลชิดลมและเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ เกษรจึงเป็นแลนด์มาร์คตรงกลางที่จะเติมเต็มประสบการณ์ช็อปปิ้งแบบใหม่ชนิดครบทุกสไตล์ ซึ่งเรานิยามว่า Styled Experience เพราะเรามองว่ากลุ่มลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติที่มาเกษรมีประสบการณ์ท่องเที่ยวเยอะ ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้มองสินค้าเป็นแค่สินค้า แต่มองการช้อปปิ้งเป็นการเดินทางท่องเที่ยว ดังนั้นเราต้องพลิกโฉมเปลี่ยนช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ให้เป็นมากกว่าแค่สถานที่ซื้อของ”
Gaysorn…The New Landmark of Bangkok
“เกษร เดอะ แลนด์มาร์ค ที่ทรานส์ฟอร์มใหม่ประกอบด้วย 3 อาคาร เชื่อมโยงประสบการณ์ถึงกันรวมพื้นที่ทั้งหมด 178,000 ตารางเมตร คือเกษร และอาคารใหม่สูง 30 ชั้น อยู่ติดกันซึ่งกำลังเริ่มสร้าง รวมทั้งอมรินทร์พลาซ่าที่จะมีการปรับโฉมในอนาคตอันใกล้
“เกษรวางตำแหน่งตัวเองเป็น The Sanctuary of Taste ของประเทศไทย เราเป็น Taste Maker ที่ชัดเจนที่สุดในด้านแฟชั่น อาหาร ไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยว และการรวมกลุ่มสินค้าที่ดีที่สุด เราได้ผสมผสานแบรนด์ในตำนานและมีคุณค่า อย่างแมนดาริน โอเร็นเต็ล ที่มีเฮอริเทจมาตั้งแต่ปี 1876, Brioni 1945, Leica 1849, Louis Vuitton 1851 นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ระดับงานฝีมือที่มีคุณค่าทางรสนิยม เช่น Alexander Lamont, Mettique, Olivia Diamonds, Monbag, Poem ไปจนถึงพิจิตราและที่จะตามมาอีกมากมาย ซึ่งแต่ละแบรนด์ล้วนมีแนวทางเรื่องราวเฉพาะตัวและงดงาม จึงพูดได้ว่าเรานำเสนอเอกลักษณ์ของสุดยอดฝีมือเอาไว้ รวมไปถึงด้านบริการที่เกษรโดดเด่นมานานแล้ว เป็นการบริการที่ละเอียดอ่อนเฉพาะตัวและเอ็กซ์คลูซีฟจริงๆ อย่างบริการ Gaysorn Concierge ที่ลูกค้าของเกษรนิยมมาก เพราะเราคอยช่วยเหลือทุกๆ ด้านเมื่อมาใช้บริการที่นี่”
“ในส่วนอาคาร 30 ชั้นที่จะก่อสร้างเสร็จในปี 2016 นั้น มีการเชื่อมต่อกับเกษรอย่างแนบเนียนให้ความรู้สึกเหมือนเป็นพื้นที่เดียวกัน คนที่เดินเข้ามาจะไม่รู้สึกว่าเป็นคนละอาคาร โดยแบรนด์ที่อยู่ข้างในโดยเฉพาะชั้น 1 ยังเน้นแบรนด์ลักชั่วรี่ที่มีความเป็น “เอ็กซ์คลูซีฟ” แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือความ
“อินคลูซีฟ” ที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ผ่านทางเดินลอยฟ้าที่เชื่อมมาถึงร้านอาหาร, คาเฟ่, ไวน์บาร์ หรือ Tea House ให้คุณเดินเข้ามากินอาหารและรีแล็กซ์ ส่วนชั้นบนจะเป็นออฟฟิศทันสมัยที่ตอบโจทย์ Work Style ที่ใหม่ที่สุดในเมืองไทย”
The Best of Bangkok
“ต้องบอกว่า ณ วันนี้เราไม่ได้มองแค่ตัวเองแล้ว เรามองไปในระดับประเทศ เราร่วมมือกันเพื่อสร้างย่านนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นดีระดับเดอะเบสท์ของกรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของคนทั่วโลก เพื่อให้คนไทยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข และความสะดวกสบายเมื่อมาย่านนี้ ความท้าทายอยู่ที่ทุก 14 อาคารที่อยู่ในย่านนี้ต้องมีวิสัยทัศน์เดียวกันและร่วมมือกัน พวกเราทำงานกันมาเป็น 10 ปี โดยในวันนี้ผูกพันทั้งในระดับเจ้าของธุรกิจไปจนถึงทีมงานที่ทำงานใกล้ชิดกัน นับเป็นการสร้างสรรค์โมเดลความร่วมมือที่สนุกและมีผลลัพธ์ดีมากของสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ การลงทุนโดยรวมทั้งย่านนับเป็นเงินกว่า 80,000 ล้านบาท โดยเกษรจะช่วยเติมเต็มส่วนของลักชัวรี่ให้กับย่านราชประสงค์ทั้ง 3 อาคารรวมกว่า 10,000 ล้านบาท เราเลือกที่จะไม่เป็นศูนย์การค้าที่มีทุกอย่างพร้อมสรรพ แต่เราจะเป็น The best ในเรื่องประสบการณ์ด้านสไตล์ต่างๆ รวมไปถึงเซอร์วิสของย่านนี้”
เป็นประสบการณ์ทางรสนิยมที่หาไม่ได้จากที่ไหน
เรื่อง : โทมาลิน
ภาพ : กฤตธี
ที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 841 คอลัมน์ Wow stories
ขึ้นชื่อ “สยามพิวรรธน์” ไม่เคยทำอะไรเล็กๆ ล่าสุดกับอภิมหาโปรเจ็คท์ห้าหมื่นล้าน “ไอคอนสยาม” ที่จับมือกับแมกโนเลียควอลิตี้ดีเวล็อปเม้นต์คอร์ปอเรชั่นและเครือเจริญโภคภัณฑ์ เนรมิตอภิมหาโครงการเมืองที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมากลางแม่น้ำเจ้าพระยา นับเวลาถอยหลังอีกไม่นาน อาณาจักรนี้จะกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งใหม่ของประเทศไทย โดยมุ่งที่จะเปิดโครงการในปี 2560 เพื่อเฉลิมฉลองในวาระมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงพระชนมายุ 90 พรรษาและทรงครองราชย์ครบ 70 ปี
กำเนิด ไอคอนสยาม
โจทย์ของ ‘ไอคอนสยาม’ คือต้องเป็น National Landmark เพราะถ้าพูดถึงสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ในวันนี้ คนส่วนใหญ่คงนึกถึงพระบรมมหาราชวังหรือเสาชิงช้า ประเทศไทยไม่มีแลนด์มาร์คใหม่ๆ เหมือนอย่างที่ฝรั่งเศสมีหอไอเฟล หรือสิงคโปร์ที่วันหนึ่งสร้าง “มารีน่าเบแซน” ซึ่งเป็นโปรเจ็คท์เวิลด์คลาสที่พลิกให้สิงคโปร์กลายเป็นประเทศที่มีการท่องเที่ยวน่าสนใจ
นั่นเป็นที่มาของการร่วมมือระหว่างแมกโนเลียฯ ซีพีและสยามพิวรรธน์ทำโครงการที่ดีที่สุดแห่งยุค เป็นสัญลักษณ์ที่จะทำให้คนทั้งโลกต้องหันมามองกรุงเทพฯ และเมื่อพูดถึงการสร้างแลนด์มาร์ค สถานที่ตั้งจึงเป็นเรื่องสำคัญ แป๋มมองว่า เมกะโปรเจ็คท์จะสร้างที่ไหนก็ได้ถ้ามีเงินทุน แต่การสร้างสิ่งที่เป็นตำนาน ต้องสร้างบนทำเลที่ไม่มีใครสามารถสร้างได้อีกแล้ว นั่นคือแม่น้ำเจ้าพระยา ประตูที่เปิดประเทศไทยออกสู่ชาวโลกมาตั้งแต่ 200 ปีก่อน หากสังเกตดูสถานที่ยิ่งใหญ่ของโลกในหลายประเทศก็ล้วนอยู่ริมแม่น้ำ เช่น ซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์ หรือ ลอนดอนอายส์ นับเป็นความโชคดีของเราที่สามารถรวมทุนซื้อที่ดินขนาดใหญ่ริมน้ำฝั่งตรงข้ามโรงแรมโอเรียลเต็ล ตรงจุดโค้งน้ำงดงามที่สุดของเจ้าพระยาได้สำเร็จ
50,000 ล้าน กับการสร้างแลนด์มาร์คให้ประเทศไทย
พื้นที่ของไอคอนสยามมีขนาด 50 ไร่ เมื่อรวมค่าที่ดินและงบประมาณในการก่อสร้างเป็นเงินประมาณ 50,000 ล้านบาท ธนาคารผู้กล้า 2 แห่งที่ให้เรากู้เงินคือ ธนชาต กับ กสิกรไทย (ยิ้ม) เขาก็ตะลึงว่า เงินจำนวนนี้มากกว่าสร้างรถไฟฟ้า 2 สายอีก แต่แป๋มเชื่อว่า สาเหตุที่ทำให้โครงการนี้ผ่านการอนุมัติเพราะเราไม่ได้ชวนให้เขามาสนับสนุนเงินกู้เท่านั้น แต่ให้มาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศด้วยกัน
ถ้าดูศูนย์การค้าในประเทศตอนนี้ โดยทั่วไปยังไม่ได้สะท้อนถึงความเป็นตัวตนของประเทศไทย สำหรับไอคอนสยามได้ทำงานร่วมกับทีมสถาปนิกวิศวกร นักออกแบบ ศิลปินชั้นนำของไทยและศิลปินระดับโลกมากมายที่มาร่วมนำเสนอไอเดีย เพื่อดัดแปลงเรื่องราวความเป็นไทยแล้วนำเสนอในรูปแบบศิลปะเชิงแอ็บสแตรค โดยทีมงานใช้เวลาถึง 2 ปี เรียนรู้ทุกเรื่องแม้กระทั่งนิทานโบราณ เพราะที่แห่งนี้จะเป็นสตอรี่เทลเลอร์ที่ยิ่งใหญ่ถ่ายทอดผ่านรายละเอียดในทุกๆ มุมของโครงการ
ในส่วนพื้นที่ของศูนย์การค้า นำเสนอ 2 อาณาจักรศูนย์การค้า แยกเป็นอาคารลักชัวรี่ และอาคารเมนรีเทล-เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ตัวอาคารเป็น iconic building โดยใช้ฟอร์มของกระทงซึ่งเป็นเครื่องบรรณาการแด่แม่น้ำ ผสมผสานด้วยสถาปัตยกรรมไทยแบบแอ็บสแตรค จะมีแบรนด์ดังยิ่งใหญ่ระดับโลกกว่า 500 ร้านค้า 100 ภัตตาคาร จาก 30 ประเทศ ครบครันทั้งเทคโนโลยีนวัตกรรมและสินค้าบริการ
ไอคอนสยามจะรวมสิ่งมหัศจรรย์ไว้ 7 อย่าง ในวันนี้คงเล่าได้ 3 เรื่องก่อน เรื่องแรกคือ National Treasure Museum พิพิธภัณฑ์ศูนย์รวมมรดกทางประวัติศาสตร์และสุดยอดภูมิปัญญาไทย จะรวบรวมหลากหลายสิ่งล้ำค่าที่คนทั้งชาติยังไม่เคยเห็น เราทำงานร่วมกับภาครัฐนำหลักฐานทรงคุณค่า สำคัญทางประวัติศาสตร์ จนถึงภูมิปัญญาไทยที่หาดูไม่ได้ที่ไหนมาจัดแสดงที่นี่
สิ่งมหัศจรรย์ที่สอง ไอคอนสยามจะเป็นจุดที่เอื้ออำนวยประโยชน์กับสังคมโดยรอบ เรากำลังสร้างลานคนเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศไทยขนาด 10,000 ตารางเมตร ริมแม่น้ำมีวอเตอร์ฟรอนต์ 400 เมตร สำหรับจัดงานประเพณี 12 เดือน และทุกเทศกาลสำคัญของทุกจังหวัดในประเทศไทย
นอกจากนี้ยังมี The River Park โชว์การแสดงสายน้ำผสมผสานแสง สี เสียง ไฟ และมัลติมีเดียที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนอีก 4 ความมหัศจรรย์ที่เหลือยังบอกไม่ได้ แต่จะประกาศออกมาภายใน 3 ปีนี้แน่นอนค่ะ (ยิ้ม)
Welcome to ICONSIAM
จากวันที่เปิดโครงการในปี 2560 ทุกคนที่มาเยี่ยมไอคอนสยามจะได้รับหนังสือเล่มหนึ่งที่บอกถึงความเป็นมาของโครงการนี้ ไล่จนไปถึงรายละเอียดปลีกย่อย เช่น ต้นไม้ไทยที่อยู่รอบโครงการมีชื่อและสรรพคุณอะไรบ้าง แม่น้ำเจ้าพระยามีความเป็นมาอย่างไร และอีกหลายเรื่องราวความเป็นที่สุดของเมืองไทย คิดดูว่าหนึ่งปีมีนักท่องเที่ยวมาที่นี่กว่า 20 ล้านคน หนังสือจะถูกแจกจ่ายไปกว่า 20 ล้านเล่ม เขาจะนำหนังสือนี้ไปเผยแพร่ต่อให้คนทั้งโลกหันกลับมามองประเทศไทย นี่คือวัตถุประสงค์หลักของเรา ให้โครงการนี้เป็นการรีแบรนด์ดิ้งของประเทศ
สำหรับสยามพิวรรธน์ ก่อนจะเกิดโครงการไอคอนสยาม เราคิดถึงโปรเจ็คท์ใหญ่ๆ แบบนี้มาตลอด ความจริงคุณพ่อ (พลเอกเฉลิมชัย จารุวัสตร์) ให้โจทย์มาตั้งแต่วันเปิดสยามพารากอน ท่านจับมือแป๋มแล้วบอกว่า ถ้าชีวิตนี้เธอมีวาสนาพอ เธอต้องหาที่ดินผืนใหญ่ใจกลางแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วสร้างโครงการที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศให้ได้ พอวันนี้ได้เป็นส่วนหนึ่งของไอคอนสยาม จึงเป็นความภูมิใจครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิต และสำหรับโครงการนี้ เราไม่ได้ทำเพียงเพื่อธุรกิจ แต่ตั้งใจทำให้ที่นี่เป็นสัญลักษณ์สำคัญแห่งยุคสมัย
เป็นแลนด์มาร์คที่คนไทยทุกคนเป็นเจ้าของและภาคภูมิใจร่วมกัน
เรื่อง : ปารัณ
ภาพ : กฤตธี
ที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 841 คอลัมน์ Wow stories