วิธีป้องกัน ผิวแตกลาย ให้สวยเนียนแบบ Behati Prinsloo อดีตนางฟ้าวิกตอเรียส์ซีเคร็ต

วิธีป้องกัน ผิวแตกลาย ให้สวยเนียนแบบ Behati Prinsloo อดีตนางฟ้าวิกตอเรียส์ซีเคร็ต

Alternative Textaccount_circle
วิธีป้องกัน ผิวแตกลาย ให้สวยเนียนแบบ Behati Prinsloo อดีตนางฟ้าวิกตอเรียส์ซีเคร็ต
วิธีป้องกัน ผิวแตกลาย ให้สวยเนียนแบบ Behati Prinsloo อดีตนางฟ้าวิกตอเรียส์ซีเคร็ต

ไม่ใช่แค่คุณแม่หลังคลอดเท่านั้น สาวเคยอวบอั๋นก็รู้ดีเช่นกันว่าปัญหา ผิวแตกลาย คือหนามตำใจที่ทำเอาหลายคนถึงกับสติแตก ก็ระหว่างตั้งครรภ์นั้นผิวเกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็วไปตามน้ำหนักของทารก บวกกับน้ำหนักของคุณแม่ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนร่างกายขยายไม่ทัน ผิวจึงเกิดปัญหาแตกลายไม่ต่างจากสาวที่เคยอวบอ้วน

ซึ่งปัญหานี้รักษาเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี โดยต้องหมั่นทาครีมหรือออยล์บำรุงไว้แต่เนิ่นๆ ร่วมกับการดื่มน้ำให้มาก จะช่วยฟื้นฟูได้อีกทางหนึ่ง นี่คือเบสิคที่สาวๆ หลายคนทราบ แล้วเคล็ดลับแก้ปัญหาผิวแตกลายของหวานใจหนุ่ม Adam Levine อย่าง Behati Prinsloo นางแบบสาวชาวแอฟริกาใต้-นามิเบีย อดีตหนึ่งในนางฟ้าวิกตอเรียส์ซีเคร็ต ที่มีรูปร่างแสนเซ็กซี่และเพอร์เฟกต์ หลังคลอดลูกเธอดูแลผิวยังไงไม่ให้แตกลาย

วิธีป้องกัน ผิวแตกลาย ให้สวยเนียนแบบ Behati Prinsloo

“ฉันหวงผิวตัวเองมาตลอด ไม่อยากให้มีริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยใดๆ จึงปรึกษาคุณหมอตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ว่าควรควบคุมน้ำหนักให้ขึ้นได้ไม่เกินเดือนละ 2 กิโลกรัม เพื่อให้ผิวหนังหน้าท้อง มีเวลาปรับตัว น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนเป็นตัวกระตุ้นให้ผิวแตกลายมากกว่าเดิม เพราะฉะนั้น เตือนว่าที่คุณแม่ให้ระวัง ควรอาบน้ำในอุณหภูมิปกติจะดีต่อผิวพรรณมากกว่า

“ฉันเริ่มทาครีมกันท้องลายตั้งแต่รู้ว่าตั้งครรภ์ และเพิ่มปริมาณครีมขึ้นตามอายุครรภ์ คุณแม่หลายท่านหยุดทาครีมเมื่อคลอด ซึ่งไม่ควรเลย เพราะผิวต้องใช้เวลาหดตัวสู่สภาพเดิม ฉะนั้น ถ้าไม่อยากให้ทิ้งรอยประทับไว้ให้เจ็บใจ ก็ต้องทาครีมต่อเนื่องไปอีก 2 – 3 เดือนหลังคลอด

Behati Prinsloo แก้ ผิวแตกลาย 3

“ที่อยากเตือนบรรดาคุณแม่คือ แม้จะคันท้องแค่ไหนก็ห้ามเกาเด็ดขาด เพราะการเกาจะกระตุ้นให้คอลลาเจนใต้ผิวหนังเกิดรอยแตกมากขึ้น ลามไปถึงขั้นเกิดแผลติดเชื้อได้ คุณแม่ต้องอ่อนโยนกับผิวกันหน่อยนะคะ”

Behati Prinsloo แก้ ผิวแตกลาย 2 Behati Prinsloo แก้ ผิวแตกลาย 1


ข้อมูล : นิตยสารแพรว ฉบับ 973
ภาพ : behatiprinsloo

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

นางแบบสาว Candice Swanepoel แนะทิปส์ฟื้นฟูผิวแห้งคล้ำเสียให้กระจ่างใสไวขึ้น

เคล็ดลับสวยเป๊ะไม่เปลี่ยนของ “ไคลีย์ เจนเนอร์” เมคอัพกึ่งถาวรคือคำตอบ

วิธีดูแลรูปร่างให้เซ็กซี่แบบ MEGAN FOX เน้นกินคาร์โบไฮเดรต หุ่นไม่พังปังกว่าเดิม

 

 

LISA BLACKPINK

ภาพโซโล่เดี่ยว LISA BLACKPINK ติดเทรนด์พร้อมกัน 20 ประเทศ

Alternative Textaccount_circle
LISA BLACKPINK
LISA BLACKPINK

หลังจากที่ เจนนี่ (Jennie) และ โรเซ่ (Rosé)  สองสมาชิกวงแบล็กพิงก์ ได้ปล่อยเพลงโซโล่ของพวกเธอออกมาให้แฟนๆ ได้ฟัง และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ล่าสุดถึงคิวของ LISA BLACKPINK ที่เตรียมปล่อยผลเดี่ยวของเธอออกมาให้แฟนคลับได้ฟังในเร็วๆ นี้

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา YG Entertainment ต้นสังกัดของวงแบล็กพิงก์ ได้ออกมาเปิดเผยข่าวดีว่าในฤดูร้อนปีนี้แฟนๆ จะได้เห็นผลงานโซโล่ของสาวลิซ่า หลังจากที่ทุกคนตั้งตารอคอยกันมานาน ล่าสุดเมื่อเวลาเที่ยงคืนวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา (ตามเวลาเกาหลีใต้) ได้มีการปล่อยภาพทีเซอร์แรกของลิซ่าออกมาให้ได้เห็น ผ่านทางอินตราแกรมของศิลปินสาวที่มียอดผู้ติดตามมากถึง 57.8 ล้านคน พร้อมกับข้อความ LISA coming soon

ArtisteLalisa
ภาพจากทวิตเตอร์ : @LisaFamilyClub2

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาแฮชแท็ก #ArtisteLalisa ติดอันดับบนทวิตเตอร์มากถึง 20 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม,ไทย ,เปรู ,สาธารณรัฐ ,โดมินิกัน ,รัสเซีย ,อาร์เจนตินา ,ซาอุดีอาระเบีย ,ปานามา ,สเปน ,คูเวต ,สิงคโปร์ ,โปรตุเกส ,อิตาลี ,ชิลี ,เปอร์โตริโก ,แอลจีเรีย ,บราซิล ,สหรัฐอเมริกา ,โคลัมเบีย และ  เอกวาดอร์ รวมถึงยังติดอันดับท็อป 3 บน ทวิตเตอร์ world wide ด้วย ไม่น่าเชื่อเลยว่าศิลปินสาวสายเลือดไทยคนนี้จะมีผู้คนชื่นชอบเธอมากมายถึงเพียงนี้

 LISA BLACKPINK

ภาพโซโล่เดี่ยว LISA BLACKPINK ติดเทรนด์พร้อมกัน 20 ประเทศ

LISA BLACKPINK 02 LISA BLACKPINK 01 ลิซ่า แบล็กพิงก์ 02 ลิซ่า แบล็กพิงก์ 01


ภาพจาก : IG @lalalalisa_m

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

4 แง่มุมดีๆ ที่ทำให้เด็กไทย ลิซ่า-ลลิษา ประสบความสำเร็จระดับโลก

10 เรื่องของ ลิซ่า แบล็กพิงก์ อาชีพในฝัน ทาสแมว ลายมือ ไอดอลผู้มีจิตใจงดงาม

แมสแล้ว! ลิซ่า ให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลี แนะนำเมนูอาหารไทย น้ำพริกจรั๊วะโดง

รองเท้าบู๊ท The Puddle จาก Bottega Veneta

เบาสบาย กันน้ำได้! รองเท้าบู๊ท The Puddle จาก Bottega Veneta ในโทนสีจี๊ดๆ

รองเท้าบู๊ท The Puddle จาก Bottega Veneta
รองเท้าบู๊ท The Puddle จาก Bottega Veneta

รองเท้าบู๊ท The Puddle ที่หลายคนพูดถึง เป็นการนำกลับมาทำอีกครั้งของ THE PUDDLE BOOTS ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วง 2020 ที่ผ่านมา เป็นไอเท็มที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าจับตามอง เพราะการออกแบบของรองเท้าบู๊ทได้คำนึงถึงการส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

โดยใช้วัสดุที่ทำจาก Biodegradable Polymer ที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่ทำจากโมเลกุลธรรมชาติ ผสมผสานซิกเนเจอร์ของ Bottega Veneta ด้วยรูปทรงด้านหน้าของรองเท้าที่กลมและหนา ตกแต่งด้วยเส้นหยักที่ได้รับแรงบัลดาลใจจากรองเท้าบู๊ท ‘LUG’ ของคอลเล็คชั่นก่อนฤดูใบไม้ร่วง 2020 สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ได้หลายลุคทั้งลุคสบายๆ หรือแม้กระทั่งลุคทางการก็เอาอยู่!

เบาสบาย กันน้ำได้! รองเท้าบู๊ท The Puddle จาก Bottega Veneta ในโทนสีจี๊ดๆ

รองเท้าบู๊ท The Puddle จาก Bottega Veneta รองเท้าบู๊ท The Puddle จาก Bottega Veneta-1 รองเท้าบู๊ท The Puddle รองเท้าบู๊ท The Puddle-1 รองเท้าบู๊ท The Puddle-2 รองเท้าบู๊ท The Puddle-3 รองเท้าบู๊ท The Puddle-4

ถือว่ารองเท้าบู๊ท The Puddle เป็นจุดเด่นตลอดคอลเล็คชั่นนี้ เป็นการหยิบเอาความหรูหราและสตรีทแวร์ มามิกซ์กันได้อย่างลงตัวด้วยการออกแบบที่ให้ความแข็งแรงของตัวรองเท้า สามารถนำมาสไตลิ่งให้เข้ากับซิลลูเอทที่หลากหลายในคอลเล็คชั่นเพื่อให้ได้ลุคที่คอมพลีตมากยิ่งขึ้น

ดีไซน์รองเท้าบู๊ท The Puddle มาพร้อมน้ำหนักเบาสบายและสามารถกันน้ำได้ดี เข้ากันทั้งผู้หญิงและผู้ชายเพื่อรองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ และในคอลเล็คชั่นนี้ได้เพิ่มรองเท้าบู๊ทข้อสูงจากเดิมที่มีแค่รองเท้าบู๊ทข้อสั้น มาในโทนสีสดใส สีเขียว (grass) สีชมพู (flamingo) สีเหลือง (egg yolk) สีน้ำเงิน (cobalt) และสีดำ


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เหตุผลที่ Tod’s เปิดตัว JOY จากวง Red Velvet เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด

รองเท้าแก้วเวอร์ชั่นใหม่ Onitsuka Tiger เปิดตัว สนีกเกอร์ Cinderella สวยวิบวับ

เปิดวาร์ปร้าน สร้อยข้อมือผีเสื้อ ของขวัญที่ พัคแจออน ทำให้ ยูนาบี

 

มาดามแป้ง

เรื่องราวกว่า 15 ปี ในวงการฟุตบอลของ “มาดามแป้ง” ผู้จัดการทีมชาติไทยคนล่าสุด

Alternative Textaccount_circle
มาดามแป้ง
มาดามแป้ง
“มาดามแป้ง – นวลพรรณ ล่ำซำ” ถือเป็นผู้หญิงแกร่งแห่งยุคตัวจริงเสียงจริง ซึ่งควบหลายบทบาทหน้าที่ และสามารถทำได้ดีแบบไร้ข้อกังขา โดยเฉพาะในวงการกีฬาที่เธอคร่ำหวอดอยู่กว่า 15 ปี กระทั่งล่าสุดวันนี้ (23 สิงหาคม 2564) สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ออกแถลงการณ์แต่งตั้ง “มาดามแป้ง – นวลพรรณ ล่ำซำ” เป็นผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี อย่างเป็นทางการ ซึ่งนี่คือเรื่องราวกว่า 15 ปี ในวงการกีฬาฟุตบอลของผู้หญิงคนนี้

เรื่องราวกว่า 15 ปี ในวงการฟุตบอลของ “มาดามแป้ง” ผู้จัดการทีมชาติไทยคนล่าสุด

“แป้งจะเลือกทำในสิ่งที่รักและศรัทธาเสมอ เพราะมันคือ สิ่งที่จะพาเราเดินหน้าไปกับสิ่งนั้นจนสุดทาง เส้นทางสายกีฬาเริ่มต้น เมื่อถูกเชิญให้เป็นผู้จัดการทีมกีฬาคนพิการในปี 2549 การคลุกคลี อยู่สองปีทำให้เห็นความยากลำบากในการใช้ชีวิตและการเข้าถึง โอกาสขั้นพื้นฐานต่าง ๆ ปัจจุบันแป้งจึงยังทำงานตรงนี้อยู่ ผ่าน โครงการส่งเสริมอาชีพผู้พิการ ให้ผู้พิการมีอาชีพและรายได้อยู่ที่ บ้านเกิด ซึ่งเป็นรูปแบบการทำงานที่ก่อให้เกิดความยั่งยืน โดย เรายังชวนหลาย ๆ องค์กรเข้ามาร่วมโมเดลนี้กับเรา เพื่อให้เกิด ผลลัพธ์ในภาพที่ใหญ่ขึ้นและมีคนเข้ามาช่วยผู้พิการมากขึ้นด้วย

มาดามแป้ง

“จากนั้นปลายปี 2551 อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล แห่งประเทศไทยฯ คุณวรวีร์ มะกูดี ก็เชิญให้แป้งเป็นผู้จัดการ ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ตอนนั้นแป้งก็บอกว่าเล่นฟุตบอล ไม่เป็น คุณวรวีร์บอกว่าให้มาดูแลเท่านั้น จึงตอบตกลงไป หลัง จากนั้นแป้งก็ใช้ทุกสรรพกำลังและการเรียนรู้จากอาจารย์ในวงการปลุกปั้นฟุตบอลหญิงอยู่นานหลายปี จนเรามีชื่อขึ้นมาตอนคว้าแชมป์ซีเกมส์ 2013 ที่เมียนมา เพราะมีการถ่ายทอดสด หลัง ๆ แป้งเลยควักเงินส่วนตัวขอช่องทีวี ถ่ายทอดสดเอง อยากให้น้อง ๆ มีกำลังใจมาก ๆ จนมาแจ้งเกิดอย่างที่สุดก็เมื่อเราไป แข่งขันชิงแชมป์เอเชีย 2014 ที่เวียดนาม เราคว้าโควตาอันดับที่ 5 ของเอเชียไปเล่น ฟุตบอลโลก 2015 เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ชาติไทย จนตอนนั้นต้องจัดคิว ตระเวนออกสื่อทุกช่อง แน่นอนว่าการไปฟุตบอลโลกครั้งแรกย่อมสร้างความกดดัน และความคาดหวัง แต่ไม่น่าเชื่อ เราสร้างชื่อเสียงให้ประเทศอีกครั้งด้วยการคว้า 3 แต้มสำคัญจากทีมไอเวอรี่โคสต์จากทวีปแอฟริกา แม้จะผ่านเข้ารอบต่อไปไม่ได้ แต่มันก็คือที่สุดของพวกเรา

มาดามแป้ง

“หลังจบช่วงนั้น ด้วยความผูกพันที่มีกับเด็ก ๆ ทำให้แป้งขอสู้อีกตั้ง ฝ่าฟัน ปัญหาอุปสรรคที่เพิ่มขึ้น ทั้งอายุของน้อง ๆ ที่มากขึ้น ทำให้ต้องหานักเตะรุ่นใหม่ ทดแทน หรือการเพิ่มขีดความสามารถในมิติต่าง ๆ แป้งทำงานหนักจนอีก 4 ปีต่อมา จากไม่มีใครคาดคิดว่าเราจะทำได้ เราก็ได้ไปฟุตบอลโลกติดต่อกันเป็นสมัยที่สอง มันคือที่สุดสำหรับความตั้งใจ 12 ปีเต็ม เป็นการแสดงให้เห็นว่าเราไม่ใช่เพียง ไม้ประดับของรายการ จากการยิงประตูทีมชาติสวีเดนซึ่งเป็นอดีตรองแชมป์โลกได้ แม้จะเป็นเพียง 1 ลูก แต่มันช่างตราตรึงในหัวใจของคนไทยจนถึงวันนี้

มาดามแป้ง

“การทำงานกับทีมฟุตบอลหญิงถึง 12 ปี ทำให้แป้งเห็นความเหลื่อมล้ำในทุก รูปแบบชัดเจน ทั้งความนิยม รายได้ ผู้สนับสนุน เงินอัดฉีด มีช่องว่างห่างกัน หลายช่วงตัว ในต้นปี 2558 จึงตัดสินใจเข้ามาทำสโมสรฟุตบอลอาชีพ “การท่าเรือ เอฟ.ซี.” ทีมระดับตำนานไทยลีกที่มีชื่อชั้นทั้งในสนามและแฟนบอล ตอนนั้นมีเสียง วิพากษ์วิจารณ์เยอะมากว่าแป้งจะเล่นการเมือง บอกว่าแป้งมองฟุตบอลเป็นของเล่น คนรวย หรือแม้แต่แป้งจะไปไม่รอด แต่แป้งมาด้วยความจริงใจ และต้องการ พิสูจน์ว่าในสนามที่มีแต่ผู้ชาย ผู้หญิงอย่างแป้งจะทำให้ได้

มาดามแป้ง

“ปีแรกของแป้งกับการท่าเรือไม่สวยนัก ตกชั้นไปเล่นดิวิชั่น 1 ทันทีแบบ น้ำตาท่วมสนาม แต่แป้งก็กล้าประกาศต่อหน้าแฟนบอลกว่า 6 พันคนว่าจะไม่ทิ้ง ไปไหน คำมั่นสัญญานั้นคือการใช้ใจแลกใจที่ให้ไว้กับทุกคน สุดท้ายเพียงปีเดียว เราก็กลับมาได้ ชีวิตบนสนามหญ้าของประธานสโมสรคนนี้ไม่ได้มุ่งหวังผลการ แข่งขันในสนามเท่านั้น แต่แป้งมาเพื่อสร้างครอบครัวฟุตบอลด้วย แป้งคิดว่าถ้าคนใน ชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดี เด็ก ๆ ได้แรงบันดาลใจจากนักบอลที่เขารัก ได้ใช้เวลา ห่างไกลยาเสพติด พ่อค้าแม่ค้าขายของดี มีรายได้ ทีมก็จะอยู่ได้จากแรงสนับสนุน กลับมาเป็นวงกลม เราจึงทำให้ที่นี่เป็นมากกว่าฟุตบอลมาตลอด 7 ปี มุ่งสู่เป้าหมาย สำคัญคือความยั่งยืนของสโมสรและชุมชน

มาดามแป้ง“สำหรับแป้ง เรามองชุมชนคลองเตยเป็นครอบครัวและเป็นพื้นที่แห่ง โอกาส โอกาสที่เราจะช่วยกันพัฒนาให้ดี เราได้รับเลือกจากวิทยาลัยการออกแบบ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ให้มีส่วนร่วมกับการวิจัยและออกแบบพื้นที่ ให้ตอบโจทย์ทางภูมิศาสตร์และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่ภายใต้โครงการ คลองเตยดีดี ซึ่งนอกจากงานด้านการวิจัยแล้ว เรายังมีทีมอาสากล้าใหม่เมืองไทยฯ ของบริษัทกว่า 64 รุ่นลงพื้นที่ทำกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ตลอดทุกเดือน ตั้งแต่ ปี 2556 เป็นต้นมา ผ่านทุนสนับสนุนจากบริษัทรวม 640,000 บาท โดยมี พนักงานเป็นอาสากล้าใหม่มาแล้วมากกว่า 1,000 คน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม ของคนในองค์กร”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 972

ภาพ : panglamsam

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เปิดใจคู่กันครั้งแรก มาดามแป้ง & ดร.ณรัชต์ ความรักดั่งบุพเพสันนิวาสครั้งสุดท้าย

ชีวิตจริงที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มาดามแป้ง นวลพรรณ CEO นักสู้หญิงเหล็ก

เวิร์คกิ้งวูแมนตัวจริง มาดามแป้ง-นวลพรรณ กับแนวคิดการทำงานสร้างพลังบวก

ไอเดียจัด ของขวัญให้กับเพื่อนเจ้าสาว ในวันฉลองปาร์ตี้สละโสด

account_circle
อีกหนึ่งกิมมิคที่ว่าที่เจ้าสาวให้ความสำคัญคือ การมอบ ของขวัญให้กับเพื่อนเจ้าสาว ในวันฉลองปาร์ตี้สละโสดซึ่งเป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ บ้านเราเองเหล่าเซเลบ คนดังก็จัดของขวัญเก๋ๆ ให้กับเพื่อนเจ้าสาวเหมือนกันค่ะ
โดยมากนั้นจะเป็นเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ เครื่องสำอาง เสื้อคลุม เทียนหอม และการ์ดขอบคุณ แต่สำหรับใครที่อยากเพิ่มของขวัญแบบอื่นแต่ไม่รู้จะให้อะไร แพรวเวดดิ้งมีไอเดียมิกซ์แอนด์แมตช์ของขวัญให้ดูเก๋และเข้าธีมมาให้สาวๆ ได้ดูกันค่ะ

ไอเดียจัด ของขวัญให้กับเพื่อนเจ้าสาว ในวันฉลองปาร์ตี้สละโสด

ชาวจีนคว่ำบาตร จางเจ๋อฮั่น เหตุภาพหลุด หาว่าไม่รักชาติ

account_circle

จางเจ๋อฮั่น นักแสดงจาก Word of Honor วัย 30 ปี เปลี่ยนจากการเป็นหนึ่งในดาราดังสุดฮอตของจีนมาเป็นบุคคลที่ไม่มีเกียรติในชั่วข้ามคืน เมื่อภาพถ่ายเก่าๆ ของเขาขณะไปเยือน “ศาลเจ้ายาสุคุนิ” ในประเทศญี่ปุ่นถูกขุดขึ้นมาและเผยแพร่ทางออนไลน์

กลายเป็นประเด็นร้อนหลังมีภาพ จางเจ๋อฮั่น ร่วมงานแต่งงานเพื่อนสนิทที่ ศาลเจ้าโนกิ ประเทศญี่ปุ่น และยังมีรูปถ่ายคู่กับ เดวี ซูการ์โน ภรรยาของอดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ซึ่งเคยเป็นประเด็นกับฝั่งจีนไปเมื่อปี 2017 กับการออกมาสนับสนุนหนังสือที่ปฏิเสธการกระทำของฝ่ายญี่ปุ่นใน “เหตุการณ์สังหารหมู่ที่นานกิง”

นอกจากประเด็นเรื่องภาพถ่ายการร่วมงานแต่งของเพื่อนที่ ศาลเจ้าโนกิ แล้ว ยังมีภาพที่นักแสดงหนุ่มแดนมังกร เที่ยวชม “ศาลเจ้ายาสุคุนิ” ที่คนจีนส่วนใหญ่รับไม่ได้ เพราะเป็นสถานที่ที่เก็บรวบรวมป้ายวิญญาณเพื่อสักการะเหล่าทหารและอาชญากรทางสงครามหลายคนในกองทัพญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม แม้ จางเจ๋อฮั่น จะออกโพสต์ขอโทษถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้น รวมถึงน้อมรับทุกคำวิจารณ์แล้ว แต่ดูเหมือนสถานการณ์จะไม่ได้ดีขึ้นแต่อย่างใด ชาวเน็ตจีนส่วนใหญ่ต่างวิพากษ์วิจารณ์นักแสดงหนุ่มโดยเฉพาะประเด็นในเรื่องความไม่รักชาติ

ทั้งนี้ “สมาคมอุตสาหกรรมการแสดงของจีน” (China Association of Performing Arts) ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าได้คว่ำบาตร จางเจ๋อฮั่น ตามมาตรการการจัดการตามวินัยข้อบังคับของคนในวงการอุตสาหกรรมการแสดง

เครื่องดื่มจีน อาจสูญเงิน 100 ล้านหยวน หลังมีภาพ จางเจ๋อฮั่น บนกระป๋อง

ภายหลังจากดราม่าครั้งนี้เป็นเหตุให้แบรนด์สินค้าต่างๆ ออกมายุติการทำงานของ จางเจ๋อฮั่น ซึ่งการคาดการณ์ว่าเขาสูญเงินกว่า 50 ล้านหยวน อีกทั้งแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเขาได้ถูกลบออกไปทั้งหมดอีกด้วย

ขณะเดียวกัน มีผู้ใช้ Weibo ได้แชร์รูปภาพคลังสินค้าที่ภายในมีเครื่องดื่มจีนยี่ห้อหนึ่งซึ่งถูกบรรจุเป็นแพคไว้นับไม่ถ้วน โดยกระป๋องเหล่านี้มีภาพของจางเจ๋อฮั่นสกรีนไว้ที่กระป๋อง และไม่สามารถออกจำหน่ายได้แล้ว เนื่องจากการคว่ำบาตร ของสมาคมอุตสาหกรรมการแสดงของจีน ภายใต้กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งเครื่องดื่มทั้งหมดนี้อาจถูกทำลายทิ้ง และมีการคาดการณ์ว่า เครื่องดื่มยี่ห้อนี้อาจสูญเสียอย่างเงินอย่างน้อย 100 ล้านหยวน

ทั้งนี้ชาวเน็ตได้ต่างออกมาคอมเม้นต์ โดยส่วนใหญ่แสดงความเห็นใจกับเครื่องดื่มยี่ห้อนี้ พวกเขากล่าวว่า แบรนด์ไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเขาโชคร้ายจริงๆ มีวิธีลบภาพของ จางเจ๋อฮั่น ออกหรือไม่ น่าเสียดายที่ต้องทิ้งมันไป


ที่มา : www.todayonline.com,mgronline.com

ผิวดีไม่ต้องพึ่งหมอ บิวตี้ทริคง่ายๆ ของ เซเลบสาว “มูลี่ วัชรพล”

account_circle

นอกจากงานซีอีโอของแบรนด์เครื่องสำอาง และสกินแคร์สุดคิวต์อย่าง Everpink แล้ว มูลี่ – อัญชิสา วัชรพล ยังมีสไตล์ที่เก๋ชวนมอง รวมถึง บิวตี้ทริคง่ายๆ ที่สาวๆ ชอบความน้อยแต่มาก ต้องเลิฟฟฟ

Mulee’s Routine

มู่มีกฎเหล็กอยู่ว่า ทุกครั้งที่จะจับใบหน้าต้องมั่นใจว่ามือสะอาด เพราะฉะนั้นสิ่งทิ่มีติดตัวทั้งที่โต๊ะทำงานและในกระเป๋าคือเจลฆ่าเชื้อโรคของเดทตอล จะได้เช็ดมือสะดวก อย่างเวลาอาบน้ำ มู่จะไม่ล้างหน้าที่อ่างล้างหน้า  แต่จะล้าง ระหว่างอาบน้ำ โดยเลือกทำเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อทำความสะอาดได้หมดจด มั่นใจว่าไม่มีสิ่งตกค้างแน่นอน

ส่วนบิวตี้รูทีนของมู่เริ่มต้นที่การลบเมคอัพด้วย Cleansing Balm ของ Dior กับอีกตัวคือ Clean It Zero ของแบรนด์เกาหลี Banila Co ติดใจเพราะนอกจากล้างได้หมดจดยังกลิ่นหอมดีด้วย หลังจากล้างหน้าเสร็จ มู่จะใช้เอสเซ้นส์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะเคยใช้แล้วปรากฏว่าหน้าแห้งและรูขุมขนใหญ่ขึ้นจึงเลิกเด็ดขาด

ส่วนตัวติดใจ Erb Seven Pollen Balancing Essence ที่เขาสกัดจากดอกไม้ไทย 7 ชนิด อ่อนโยนสุดๆ ช่วยให้ผิวหน้าบาลานซ์ เพราะมู่ผิวผสม คือแก้มไม่แห้งก็จริง แต่ก็ไม่ชุ่มชื้น ถ้าล้างหน้าด้วยโฟม ผิวจะแห้งตึง  ขณะที่ ผิวบริเวณทีโซนจะมันชัดเจน เอสเซ้นส์ตัวนี้ดีมากช่วยให้ส่วนที่มันไม่มันเกินไป และทำให้ส่วนที่ผิวแห้งมีความชุ่มชื้นอย่างเห็นได้ชัด รักมาก ใช้มาหลายขวดแล้ว

บิวตี้ทริคง่ายๆ

“มู่เชื่อเรื่องการเติมน้ำให้ผิว เพราะ ผิวที่ฉ่ำน้ำจะเกิดริ้วรอยยาก ฉะนั้นในขั้นตอนของการใช้มอยส์เจอไรเซอร์จึงเลือก Everpink ช่วยเติมน้ำให้ชั้นผิวที่อยู่ลึกลงไป ปกติแล้วคนมักจะเข้าใจว่าไฮยาลูโรนิก เป็นตัวเติมน้ำที่ดีให้ผิว ซึ่งก็จริงค่ะ แต่ไม่ใช่ที่สุด เพราะไฮยาลูโรนิกจะเคลือบแค่ผิวชั้นนอก เวลาเราล้างหน้าก็จะหลุดออกตามไปด้วย ซึ่งมอยส์เจอไรเซอร์ของ Everpink มีส่วนผสมของเพนตาไวติน (Pentavitin) เป็นสารให้ความชุ่มชื้นผิว  ช่วยกักเก็บน้ำจนถึงผิวชั้นใน อยู่กับผิวนาน 72 ชั่วโมง แม้จะล้างหน้าก็ไม่หลุด

สำหรับเซรั่มตอนกลางคืนใช้ Face Oil ส่วนกลางวันจะเป็นเซรั่มเบาๆ อย่างของแบรนด์ Saturday Skin ก็เวิร์คมาก มีส่วนผสมของโพรไบโอติกเป็นแบคทีเรียชนิดดี รวมทั้งมีพรีไบโอติกที่เป็นสารอาหารของแบคทีเรียโพรไบโอติก สองตัวนี้จะช่วยสร้างความบาลานซ์ให้หน้าใช้แล้วผดน้อยลงมาก

สำหรับ ครีมกันแดดใช้ของ BRISUTHI (บริสุทธิ์) เป็นแบรนด์ออร์แกนิกไทย ตัวนี้มีกลิ่นลาเวนเดอร์ เวลาทาจะรู้สึกผ่อนคลาย ไม่ทิ้งคราบขาวและไม่อุดตัน แต่ถ้าอาบแดดมู่จะใช้ครีมกันแดดของนีเวีย SPF 30 ทาทับอีกชั้น  ตัวนี้ดีตรงที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ มู่จะทาบริเวณโหนกแก้ม เพราะตรงนั้นเกิดกระได้ง่าย รวมทั้งทาที่ตัวด้วย

อ้อ แม้จะรู้ว่าการไม่นอนตะแคง จะช่วยให้หน้าไม่เกิดริ้วรอย มู่เคยพยายามฝึกนอนตรงๆ ซึ่งทำยากมาก ถึงขั้น นอนไม่หลับเลย (หัวเราะ) ตอนนี้จึงอาศัยตัวช่วยใช้ปลอกหมอนที่ทำจากผ้าไหมช่วยลดการเสียดสีผิวหน้า  เรียกว่าถ้าเผลอนอนตะแคงก็วางใจได้บ้าง

ไม่พึ่งคลินิกความงาม

บิวตี้ทริคง่ายๆ

บอกเลยว่าทั้งชีวิตนี้มู่เข้าคลินิกความงามไม่เกิน 5 ครั้ง รวมทั้งไม่นวดหน้า ไม่ทำทรีตเมนต์ใดๆ ด้วย เพราะสมัยวัยรุ่นเคยเข้าคลินิกกดสิวแล้วเจ็บมาก รู้สึกว่าคลินิกกับเราไม่ค่อยเวิร์ค จึงจบกันไป อีกอย่างคือมู่อยากให้ผิวเราปกป้องตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องอัดทรีตเมนต์เยอะๆ

ถ้าต้องตัดสินใจทำจริงๆ ก็คือช่วงที่ผิวแย่หนักๆ ชนิดที่ครีมที่ใช้เป็นประจำเอาไม่อยู่ แต่ที่ผ่านมาผิวมู่อยู่ได้ด้วยตัวเอง อาจจะเป็นเพราะเราไม่รบกวนผิวมาก อย่างสครับหน้า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำเลยค่ะ เพราะคิดว่าถ้าสครับเม็ดใหญ่ไปอาจจะบาดผิวได้ จึงใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรดที่ผลัดเซลล์ผิวอย่าง AHA หรือ BHA เช่น  แบรนด์ Herbivore ใช้ติดต่อแค่ 3 – 5 วันแล้วก็พักหน้าไปยาวๆ จะช่วยผลัดผิวอย่างอ่อนโยน

และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญที่สุด คือ เราต้องเข้าใจผิว มู่พยายามหาโปรดักต์ที่ตอบโจทย์ จึงศึกษาสกินแคร์เยอะ  เวลาซื้อโปรดักต์สักชิ้นจะดูส่วนผสมละเอียด นอกจากต้องไม่มีแอลกอฮอล์แล้ว สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของแพลงก์ตอนก็ไม่เวิร์คสำหรับมู่ เพราะเราแพ้กุ้งหนัก กลัวจะแพ้ที่หน้าด้วย จึงป้องกันไว้ก่อน แต่มีสกินแคร์แบรนด์หนึ่งที่มีส่วนผสมจากทะเลแล้วเวิร์คมาก นั่นคือ ลาแมร์ ตอนแรก ก็กล้าๆ กลัวๆ แต่ปรากฏว่าทาแล้วผิวดีจึงใช้มาตลอด

Make up น้อยแต่พอดี

มู่แต่งหน้าไม่เก่ง สมัยเด็กกว่านี้เคยลองแต่งเยอะๆ แล้วรู้สึกว่าแก่ ทุกวันนี้จึงแต่งน้อยมาก ถ้าไม่ออกงานก็ไม่ลงรองพื้นเลย ใช้แค่คอนซีลเลอร์ ชอบของ Nars ที่เป็นเนื้อแมตต์ ขั้นตอนต่อมาคือทาตาด้วยครีมแชโดว์ ปัดคิ้ว  ปัดขนตา แตะครีมบลัชที่แก้มนิดหน่อยให้ดูเป็นธรรมชาติ คือแตะตรงแก้มโดยไม่ลงมาเกินปีกจมูก ไม่อย่างนั้นแก้ม จะดูแดงเป็นพวงไปหมด เหมือนแต่งหน้าฉ่ำเกินไป

มู่ปลื้มโทนสีแทนๆ อารมณ์น้ำตาลแดง ส่วนลิปสติก  วันธรรมดาจะทาแค่ลิปมันอย่างเดียว ชอบของ Kosasport ดีมากค่ะ เนื้อเนียนและช่วยให้ปากไม่ลอก ที่สำคัญ คือ ชุ่มชื้นอยู่นาน บวกกับมู่ดื่มน้ำเยอะ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร ก็ช่วยได้

บิวตี้ทริคง่ายๆ

สำหรับลิปสติกจะทาตอนออกงานเท่านั้น และไม่ทาแบบแมตต์ เพราะ จะตกร่องที่ปากทำให้ปากแห้งยิ่งกว่าเดิมนอกจากนี้มู่ยังชอบให้ผิวดู เป็นสีแทนบ่มแดดจึงขาดบรอนเซอร์ไม่ได้ ชอบของ Hourglass ทาแล้วผิวดูนวลเนียน อีกอันที่ชอบมากๆ คือ บรอนเซอร์จาก No7 เป็นแบบเนื้อครีม ทาแล้วเกลี่ยได้เลย มู่จะทาตรงแนวผม  โหนกแก้ม นิดๆ ให้ผิวดูฉ่ำแดดขึ้นมาหน่อย

สำหรับผิวตัว เวลาอาบน้ำมู่จะใช้ถุงมืออาบน้ำของ The Body Shop ถูตามตัวเหมือนสครับสัปดาห์ละครั้ง เพราะมู่อยากให้ผิวฟื้นฟูตัวเอง ไม่อยากไปรบกวนเยอะ อย่างครีมทาตัวจะทานานๆ ครั้ง เพราะไม่ชอบให้ตัวเหนียว

แต่ถ้าผิวแห้งมากก็จะซื้อกรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งมีขายตามร้านเวชสำอาง มีลักษณะคล้ายเจล บีบผสมกับครีมบำรุงผิว ก็ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นได้เช่นกันค่ะ หรืออีกวิธีคือนำฮาดะ ลาโบะ ที่เป็นโลชั่นน้ำผสมกับมอยส์เจอไรเซอร์ทาผิว ก็ช่วยกักเก็บน้ำได้ดีมาก และความที่ชอบตากแดด มู่จึงชอบใช้ Tanning Oil ของ Nuxe หรือไม่ก็บอดี้ออยล์ของ Ouai ดีมาก เช่นกัน

แต่สำหรับน้ำมันมะพร้าวที่บางคนใช้แล้วดี มู่ต้องขอข้าม เพราะมีปัญหาผิวอุดตันง่าย แล้วน้ำมันมะพร้าวทำให้อุดตันเยอะ มันจะไปอุดตันรูขุมขนกลายเป็นขนคุด”

เคล็ดลับความงามจากคุณยาย

บิวตี้ทริคง่ายๆ

มู่อยู่กับคุณยาย (คุณหญิงประณีตศิลป์  วัชรพล) ตั้งแต่เด็ก ท่านสอนว่าต้องใช้มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวสม่ำเสมอ จำได้ว่าคุณยายซื้อของ Shiseido รุ่น White Lucent มาให้มู่เป็นขวดแรก ซึ่งตอนนี้เขาเลิกผลิตไปแล้ว คุณยายดูแลผิวดีมาก ใช้ลาแมร์ตั้งแต่ยังไม่นำเข้าในเมืองไทยและใช้มาตลอด

จนเราเห็นผลว่าทุกวันนี้คุณยายยังไม่เหมือนคนอายุ 88 เลย ผิวท่านยังสวย ซึ่งคุณยายไม่เคยเข้าคลินิกเหมือนกัน เคล็ดลับที่ท่านสอนมู่คือ เวลาทาครีมต้องทาขึ้น และอย่าลืมทาบริเวณคอ อก กับหัวไหล่ด้วย

Multistyle

มู่แต่งตัวแล้วแต่อารมณ์กับกาลเทศะ บางวันอยากเท่แบบบอยๆ บางวันอยากชิล บางวันก็อยากได้ลุคสวย ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าชอบสไตล์ไหนเป็นพิเศษ อย่างตอนนี้อินกับสีสัน เพราะรู้สึกว่าเสื้อผ้าสีดำในตู้เยอะแล้ว จึงเลิกซื้อสีดำไปก่อนในลุควันทำงานมู่จะเน้นความคล่องตัว เพราะบางวันต้องไปโรงงานเลือกแพ็คเกจจิ้ง  นอกจากนี้ยังคำนึงถึงกาลเทศะ ถ้าวันไหนเจอแขกผู้ใหญ่ก็จะแต่งตัวสวยงาม อาจใส่เดรสบ้าง

จะซื้ออะไรต้องใส่ให้ได้เกิน 10 ครั้ง

บิวตี้ทริคง่ายๆ

จริงๆ เทคนิคการเลือกซื้อของไม่ยาก คือต้องชอบและดูดีสำหรับตัวเรากับต้องคิดว่าจะสามารถใส่ชุดนั้นได้มากกว่า 10 ครั้ง อย่างชุดเดรสลายพริ้นต์ของ DVF ที่ใส่มาถ่ายกับแพรว วันนี้เสื้อกับกระโปรงแยกชิ้นกันได้ จึงแมตช์ได้หลายอย่าง สามารถใส่ได้หลายงานหลายโอกาส จะไปต่างประเทศก็ได้ กินข้าว ชิลๆ ก็ได้ หรือใส่มาทำงานก็ได้ เรียกว่าคุ้มมาก ทุกครั้งที่ซื้อของมู่จะคิดว่า จะนำไปแมตช์กับชุดที่มีในตู้ได้อย่างไร มู่ไม่ชอบแต่งตัวแบบโททัลลุคชนิดที่ เสื้อผ้าเข้ากันจนเกินไป อย่างเดรสมู่เลือกที่จะใส่คู่กับบู๊ตแทนส้นสูงให้มีความคอนทราสต์สนุกๆ บ้าง

ไม่โป๊

โป๊สุดในชีวิตมู่คือคอลึก อย่างเกาะอก ชีวิตประจำวันจะไม่ใส่เลย ยกเว้นเวลาออกงานอาจมีเดรสเกาะอกบ้าง  และจะไม่ใส่ชุดค็อกเทลเดรสสั้น มู่มั่นใจที่จะใส่ปิดๆ มากกว่า อย่างเวลามีเดรสที่ดูโป๊หน่อยก็จะนำไปมิกซ์กับ  เสื้อผ้าชิ้นอื่นไม่ให้เผยผิวเกินไป เช่น ใส่เสื้อแขนยาวคอเต่าที่แนบผิว บางทีก็ใส่เบลเซอร์ทับให้ดูมีอะไรมากขึ้น

บิวตี้ทริคง่ายๆ

แบรนด์โปรด

ตอนนี้ปลื้ม DVF โดยเฉพาะ Wrap Dress (เดรสที่มีผ้าพันเอว) คัตติ้งเขาสวย ดีไซน์ดี ใส่วนไปได้เรื่อยๆ จนเพื่อนแซว อีกแบรนด์คือ Proenza  Schouler ที่เด่นเรื่องการใช้สีและเนื้อผ้าดี ส่วนแบรนด์ Jacquemus ชอบที่เขาเล่นดีไซน์กับรูปร่าง มีความเซอร์เรียล เช่น ชุดเดรสยาวเรียบๆ แต่ตรงสะโพกมีกระเป๋าใบใหญ่โผล่ออกมาชนิดที่สอดมือเข้าไปได้ ลูกเล่นเขาสนุกดีและเข้ากับหุ่นมู่ด้วย

ตอนนี้มู่ชอบลงทุนกับการแต่งตัวทุกอย่าง จากที่เคยลงทุนแค่รองเท้ากับกระเป๋า แต่ตอนนี้รวมถึงเสื้อผ้าด้วย  เพราะอยากให้ของอยู่กับเราไปนานๆ แม้กระทั่งเสื้อยืดก็ยังเลือก มู่ชอบของแบรนด์ James Perse เพราะซักแล้วไม่ยืด คัตติ้งดี อีกแบรนด์ที่ชอบคือ Isabel Marant ดีไซน์ดีงาม ตอนอยู่ลอนดอนไปซื้อจนเป็นเพื่อนกับคนขายเสื้อยืดของ Alexander Wang ก็ใส่สบาย คอตต้อนของเขานิ่มมาก

“มู่ว่าการแต่งตัวคือการลงทุนชนิดหนึ่ง ซื้อของสวยอย่างเดียวไม่พอ ต้องคุณภาพดีและใส่ได้นานๆ ด้วย”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 954

Shizenlabs Innogro

ชิเซนแลบ อินโนโกร (Shizenlabs Innogro™) ผสานคุณค่าธรรมชาติกับวิทยาศาสตร์ เป็นเซรั่มและแชมพู ลดปัญหาผมร่วง ผมบาง สุดพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น

Shizenlabs Innogro
Shizenlabs Innogro

สิงหาคม 2564 – ‘ชิเซนแลบ อินโนโกร’ (Shizenlabs Innogro™) เซรั่มและแชมพู ลดปัญหาผมร่วง ผมบาง สุดพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น โดย บริษัท บอดี้ เวิร์คส์ จำกัด ผู้เชี่ยวด้านผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะประเทศไทย นำเสนอคอนเซ็ปต์  ชิเซนแลบ ไม่เคยทิ้งผม …ผมก็จะไม่ทิ้งคุณ” โดยเปิดตัว นักแสดงหนุ่ม “ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด เพื่อตอกย้ำผลิตภัณฑ์คุณภาพดีเยี่ยม ที่ช่วยเสริมบุคลิกและสร้างความมั่นใจในทุกกิจกรรมของผู้ชาย ปฏิเสธไม่ได้ว่า การมีเส้นผมหนา ดกดำ สุขภาพดีนั้น เป็นส่วนหนึ่งให้เขายืนหนึ่งในตำแหน่งพระเอกตลอดกาล

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ ‘ชิเซนแลบ’ (Shizenlabs) คือการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ‘ชิเซน’ (Shizen) หมายถึง ‘ธรรมชาติ’ ในภาษาญี่ปุ่น เมื่อหลอมรวมกับนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ ‘อินโนโกร’ Innogro™ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตจนกลายมาเป็น ‘ชิเซนแลบ อินโนโกร’ (Shizenlabs Innogro™) ผลิตภัณฑ์จากความมุ่งมั่น พิถีพิถันสร้างสุขภาพจากภายใน สู่ภายนอก เพราะมนุษย์เรานั้น ปรารถนาที่จะใช้ชีวิตอย่างมีพลัง สุขภาพที่ดีอย่างสมบูรณ์ยั่งยืน โดยผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ผู้คนล้วนต้องการสิ่งที่มาจากธรรมชาติเป็นหลัก เพราะปราศจากผลกระทบจากสารเคมี

ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะสุดพรีเมียม ‘ชิเซนแลบ อินโนโกร’ (Shizenlabs Innogro™)  ยึดหลักแนวคิด ‘อินโนโกร’ (Innogro™) ผสานคุณค่าทางวิทยาศาสตร์จากฝั่งตะวันตก และสมุนไพรจากฝั่งตะวันออกเพื่อที่จะขจัดต้นตอต่างๆของปัญหาผมหลุดร่วงผมบาง นอกจากนี้ Shizenlabs ยังได้คัดสรรสารสกัดธรรมชาติจากแหล่งที่ดีที่สุด นำมาสกัดคุณค่าบริสุทธิ์ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ผ่านมาตรฐานการผลิตของญี่ปุ่น เพราะเชื่อว่า ‘ประสิทธิภาพต้องมาพร้อมกับความปลอดภัยเสมอ’ จึงเกิดเป็นนวัตกรรมสุขภาพแบบองค์รวม ซึ่งคุณค่าจากธรรมชาติแต่ละหยด ในระดับโมเลกุลที่ลงลึก จะช่วยปรับสมดุล ผลัดเซลล์ และแก้ปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ ‘ชิเซนแลบส์ อินโนโกร’ (Shizenlabs Innogro™)  ยังถ่ายทอดศิลปะธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่น ผ่านการออกแบบบรรจุภัณฑ์บ่งบอกถึงสุนทรียศาสตร์ และความสะดวกสบายสูงสุดในการใช้งาน เช่น หัวลูกกลิ้งของเซรั่ม ที่จะช่วยให้สะดวกขึ้นเวลาใช้ โดยทำหน้าที่เป็นเครื่องนวด ดูดซึมเซรั่มเข้าสู่หนังศีรษะอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งมอบคุณค่าจากเมล็ดพันธุ์แห่งธรรมชาติที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ และสร้างความรู้สึกดีทุกครั้งที่สัมผัส

‘ชิเซนแลบ อินโนโกร’ (Shizenlabs Innogro™) แชมพูและเซรั่ม ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ ได้นำส่วนผสมหลักสุดพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น อาทิ ปาล์มเลื่อย (Saw Palmetto) มีคุณสมบัติป้องกันการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเพศชายเป็น DHT ช่วยแก้ปัญหาการหดตัวของรูขุมขน โสม (Panax Ginseng Root) เพิ่มการไหลเวียนโลหิต กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ป้องกันการเปลี่ยนแปลงฮอรโมนเพศชายเป็น DHT สำหรับ สึบากิ (Tsubaki) สารต้านอนุมูลอิสระ ให้ความชุ่มชื้นแก่หนังศีรษะลดการอักเสบ ทำความเส้นผมให้สะอาดสดชื่น และถั่วเหลือง (Soyamine) อุดมด้วยสารไอโซฟลาโวน กระตุ้นการสร้างเซลล์เส้นผม ป้องกันการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเพศชายเป็น DHT นอกจากส่วนผสมหลักแล้วยังมีสมุนไพรสุดพรีเมี่ยมอีก 14 ชนิด เช่น น้ำมันเมล็ดทานตะวัน, เมนทอล, เมล็ดกาแฟ, น้ำมันเปลือกส้ม, น้ำมันมะกรูด, น้ำมันอาร์แกน, น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันปาล์ม, น้ำมันแมคคาเดเมีย, น้ำมันมะกอก, มดยอบ, ใบโรสแมรี่, พุดแสงอุษาและไบโอติน

*** DHT – Dihydrotestosterone ฮอร์โมนเพศชาย มีหน้าที่พัฒนาลักษณะทางเพศของผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นการมีขนบริเวณต่างๆ ของร่างกาย การมีเสียงที่ทุ้มขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ และที่สำคัญทำให้เกิดอาการศีรษะล้าน-เถิกขึ้นได้

 

‘ชิเซนแลบ อินโนโกร’ (Shizenlabs Innogro™)

3 ผลิตภัณฑ์ลดผมร่วง ผมบาง ด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากญี่ปุ่น

 

 

Shizenlabs Innogro

Shizenlabs Innogro™ Anti-Hair Loss Serum for Men

ขนาด 40 มล. ราคา 1,590 บาท

ชิเซนแลบ อินโนโกร เซรั่มบำรุงผม ลดผมร่วง ผมบางสำหรับผู้ชาย โดยนวัตกรรมการผลิตจากญี่ปุ่น อุดมสารสกัดธรรมชาติจากแหล่งที่ดีที่สุด อาทิ ปาล์มเลื่อย, โสม และส่วนผสมสมุนไพร 3 ชนิด ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ลดปัญหาผมหลุดร่วงและเร่งการเจริญเติบโต เซรัมมาในบรรจุภัณฑ์รูปแบบของโรลเลอร์บอล จึงตรงเข้าสู่หนังศีรษะและแก้ปัญหาอย่างตรงจุด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมได้ดี

 

 

Shizenlabs Innogro

Shizenlabs Innogro™ Anti-Hair Loss Serum for Women

ขนาด 40 มล. ราคา 1,590 บาท

เซรั่มบำรุงผม ลดผมร่วง ผมบางสำหรับผู้หญิง โดยนวัตกรรมการผลิตจากญี่ปุ่น พร้อมสารสกัดธรรมชาติจากแหล่งที่ดีที่สุด  อาทิ ปาล์มเลื่อย, โสม และส่วนผสมสมุนไพร 3 ชนิด ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ลดปัญหาผมหลุดร่วงและเร่งการเจริญเติบโต มาในรูปแบบของโรลเลอร์บอล จึงตรงเข้าดูแลเส้นผมและหนังศีรษะได้ง่าย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมได้ดี

 

 

Shizenlabs Innogro

Shizenlabs Innogro™ Anti-Hair Loss Shampoo

ขนาด 200 มล. ราคา 590 บาท

แชมพู ลดผมร่วง สำหรับทุกสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ ด้วยนวัตกรรมการผลิตสุดทันสมัยจากประเทศญี่ปุ่น มาพร้อมสารสกัดที่ให้คุณประโยชน์สูงสุด อาทิ สึบากิ, ถั่วเหลือง และสมุนไพร 14 ชนิด จึงช่วยให้ผมนุ่มสลวย หวีง่าย ไม่ชี้ฟู  ปกป้องและฟื้นฟูสภาพเส้นผมและหนังศีรษะให้สุขภาพแข็งแรง ที่สำคัญช่วยลดปัญหาการหลุดร่วงของเส้นผม ป้องกันไม่ให้เส้นผมถูกทำลายและเสียสมดุล พร้อมกลิ่นหอมและเย็นสดชื่นทันทีที่ใช้

สามารถซื้อ ‘ชิเซนแลบ อินโนโกร’ (Shizenlabs Innogro™) เซรั่มและแชมพู สุดพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่นได้แล้ววันนี้ที่ ห้ามสรรพสินค้าสยามทาคาชิมายะ (Siam Takashimaya) และช่องทางออนไลน์ www.shizenlabs.com , Shopee และ Lazada

 

 

 

AP OPEN HOUSE 2021

เอพี ไทยแลนด์ ไม่หยุดปั้นนักคิดนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ชูแนวคิด Design for Living มุ่งเสริมทักษะรีสกิล รับมือยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง

AP OPEN HOUSE 2021
AP OPEN HOUSE 2021

• รักษาระยะห่างทางสังคม ยกระดับโปรแกรมการฝึกงานด้านอสังหาฯ ที่ดีที่สุด AP OPEN HOUSE 2021 ชูแนวคิด DESIGN FOR LIVING ปั้นนักคิดนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ติดอาวุธเสริมทักษะรีสกิล ผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้แบบเจาะลึก Virtual Class เต็มรูปแบบ พร้อมโค้ชอย่างใกล้ชิดจากผู้เชี่ยวชาญระดับท็อปของเอพี

• ล่าสุด มอบ 5 รางวัลชนะเลิศนักคิดนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ แก่นิสิตนักศึกษาที่มีผลงานโดดเด่น กับการปล่อยพลังไอเดียดีไซน์นวัตกรรมสินค้าและบริการ เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตตอบโจทย์ยุคโควิด

ประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้พันธกิจ ‘EMPOWER LIVING’ กับ โครงการ “AP OPEN HOUSE 2021” ต่อเนื่องปีที่ 6 ปั้นนักคิดนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ให้กับประเทศไทย ติดอาวุธ เสริมทักษะรีสกิล เอ็มพาวเวอร์ศักยภาพนิสิตนักศึกษา เตรียมพร้อมรับมือยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ลงลึกทุกขั้นตอน ทั้งทักษะ องค์ความรู้ ศักยภาพ และสามารถก้าวเข้าสู่การทำงานในภาคธุรกิจอสังหาฯ อย่างมีคุณภาพ โดยเป็นรายแรกในอุตสาหกรรมกับการยกระดับโปรแกรมการฝึกงานด้านอสังหาฯ ภายใต้แนวคิด Design for Living พร้อมการโค้ชแบบเจาะลึกผ่านแพลตฟอร์ม Virtual Class อย่างเต็มรูปแบบ ตลอดระยะเวลา 2 เดือน เพื่อให้การเรียนการสอนด้านอสังหาฯ สามารถทำได้อย่างปลอดภัย ไม่สะดุดเพราะวิกฤตโควิด

 

โดยสำหรับโครงการในครั้งนี้ มีนิสิตนักศึกษารวม 25 คน ที่ผ่านการคัดเลือกจากผู้สมัครกว่า 1,000 คน จาก 67 สถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ
ล่าสุด เอพีได้จัดพิธี Virtual Award Ceremony มอบประกาศนียบัตรให้กับ 25 นักคิดนักสร้างสรรค์ รุ่นใหม่ พร้อมประกาศผลตัดสิน 5 ผู้แข่งขันที่มีผลงานโดดเด่น ทั้งประเภททีมและประเภทเดี่ยว

AP OPEN HOUSE 2021

นางสาวทิพวรรณ ศิริคูณ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานทรัพยากรบุคคล บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “เอพีในฐานะผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้ความสำคัญกับการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ AP OPEN HOUSE ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 6 โดยสำหรับโปรแกรม DESIGN FOR LIVING ในครั้งนี้ เอพีมุ่ง เอ็มพาวเวอร์ศักยภาพนิสิตนักศึกษา สู่การเป็นนักคิดนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ให้พร้อมเข้าสู่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการสร้างคนคุณภาพ ที่จะสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าและบริการ เพื่อตอบโจทย์คุณภาพชีวิตที่ดีที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ ตลอดจนการใช้ชีวิต Next Normal ในปัจจุบัน สำคัญมากที่บุคลากรในภาคอสังหาฯ ต้องสามารถหาและถอดรหัสตีความ Unmet Need ที่ลูกค้ามองหาอย่างลึกซึ้งภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่มีอยู่รอบด้าน สู่การนำเข้ากระบวนการคิดสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมและวิธีการใหม่ๆ เพื่อแก้ pain point ของลูกค้า เพื่อเอ็มพาวเวอร์ชีวิตและประสบการณ์การอยู่อาศัยให้กับลูกค้าในทุกด้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

“แม้ว่าวิกฤตโควิด 19 ยังไม่คลี่คลาย แต่เอพีกลับมองเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย เพราะเรื่องของการสร้างคนคุณภาพ โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ๆ สู่วงการอุตสาหกรรมนั่นเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่แพ้การประคับประคองธุรกิจที่ไม่สามารถหยุดพักได้เช่นเดียวกัน จึงนำมาสู่การยกระดับโครงการ AP OPEN HOUSE 2021 ชูแนวคิด DESIGN FOR LIVING – ออกแบบการใช้ชีวิต รับมือยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง เป็นรายแรกของวงการ โดยจัดกิจกรรมฝึกงานด้านอสังหาฯ ผ่าน Virtual Class แบบ 100% ตลอดระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งคงความเข้มข้นของ เนื้อหา องค์ความรู้ รีสกิลและทักษะชีวิต กระบวนการทำงานจริงในวิถีใหม่แบบเจาะลึก พร้อมดีไซน์เกณฑ์ประเมินผลทั้งการทำงานกลุ่มและงานเดี่ยว รวมถึง Mentor ให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด และทีมผู้บริหารเอพีและพาร์ทเนอร์แถวหน้าจากหลากหลายวงการ” นางสาวทิพวรรณ กล่าวเสริม

โครงการ AP OPEN HOUSE 2021 โปรแกรม DESIGN FOR LIVING ได้เปิดรับสมัครนิสิตนักศึกษาเข้าร่วมโครงการเมื่อเดือน ก.พ. 2564 และได้คัดเลือกอย่างเข้มข้น กระทั่งมีผู้ผ่านเกณฑ์ 25 คน (จากผู้สมัครกว่า 1,000 คน จาก 67 สถาบันอุดมศึกษา) เข้าร่วมเรียนรู้ผ่าน Virtual Class เป็นระยะเวลา 2 เดือน ภายใต้คำแนะนำของพี่ๆ Mentor ผู้เชี่ยวชาญจากเอพี ทั้งนักการตลาด นักออกแบบ เพื่อเติมเต็มศักยภาพการเป็น นักคิด นักพัฒนาอย่างมืออาชีพ ด้วยสาระความรู้แบบจัดเต็มผ่าน 4 คลาสหลัก เริ่มต้นจาก Design Thinking”  จาก Stanford Center for Professional Development สอนโดย YourNextU by SEAC บริษัทหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ได้ลิขสิทธิ์ในการสอน Design Thinking ซึ่งเป็นหลักสูตรออริจินอลจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของโลกด้านนวัตกรรม ที่ช่วยให้ค้นพบ Unmet Need และเข้าใจ Living Experience ที่ลูกค้ามองหา พร้อมได้รับ Certificate การันตีจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด นอกจากนี้

AP OPEN HOUSE 2021

AP OPEN HOUSE 2021

ผู้ร่วมกิจกรรมยังได้ความรู้เรื่องเทรนด์ก่อนใคร อัปเดตและเข้าใจแนวทางการสร้างเทรนด์และคอนเซ็ปต์แห่งอนาคต ที่จะทำให้ทุกคนเป็นนักการตลาด ตัวจริง รู้จักกระบวนการคิดและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ AP OneClickNewHome ทัวร์ชมโครงการเสมือนจริงพร้อมฟีเจอร์ขายโครงการตอบยุค Next Normal  และรู้ลึกข้อมูลลูกค้าเป้าหมายผ่านเครื่องมือ Digital Marketing จุดตั้งต้นการพัฒนานวัตกรรมที่อยู่อาศัย จากโจทย์ Final  Project ที่ท้าทายในคอนเซ็ปต์ DESIGN FOR LIVING – ออกแบบการใช้ชีวิต รับมือยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ให้ผู้ร่วมแข่งขันได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ในการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ ออกแบบนวัตกรรมสินค้าและบริการ เพื่อยกระดับการใช้ชีวิต รองรับเทรนด์การอยู่อาศัยที่หลากหลาย โดยผลงาน “คุณวาน แชทบอต” คว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทกลุ่มไปครอง และจัดมอบประกาศนียบัตร AP OPEN HOUSE CONTEST 2021 ในรูปแบบ Virtual Ceremony

AP OPEN HOUSE 2021

นางสาวจิรชยา บุญมาก นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ตัวแทนผู้ชนะประเภทกลุ่ม เล่าให้ฟังว่า “คุณวาน แชทบอท เป็นคอนเซ็ปต์การสร้างแพลตฟอร์มเสมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัว ในการบริหารจัดการเวลาคนเมือง โดยเฉพาะในช่วงของการ Work from Home ที่ตารางการทำงานมักจะซ้อนทับกับเวลาส่วนตัว โดยเฉพาะคนเมืองรุ่นใหม่ ที่อาศัยในคอนโดมิเนียมเพียงคนเดียว ที่มีปัญหาการหักโหมทำงานจนอาจนำไปสู่ภาวะความเครียด ซึมเศร้า เป็นต้น โดยแนวคิดของ คุณวาน แชทบอทนี้ จะมี AI ค่อยทำงานในการช่วยคำนวณวันและเวลาว่างที่ตรงกันของลูกค้าและเพื่อนๆ ในกลุ่ม ให้สามารถนัดเจอแบบ Virtual แม้ในช่วงของการที่ยังต้องรักษาระยะห่างทางสังคม แต่จากการถอดรหัสจากกลุ่มตัวอย่างการนัดเจอเพื่อนๆ หรือครอบครัวแม้จะเป็นในรูปแบบการเสมือนจริงนั้น ก็ช่วยคลายความเหนื่อยล้า ความเหงา เกิดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คน สร้างพลังบวกได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการมี AI ที่ช่วยคำนวณเวลาว่างให้ ทำให้การนัดเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นจริงได้ ไม่ล่ม ช่วยให้หมดปัญหาการหาวันว่างที่ตรงกับเพื่อน โดยทางกลุ่มได้ทำการทดลองหลายรอบจนในที่สุดได้เป็นโปรโตไทป์ คุณวาน เวอร์ชั่นปัจจุบัน ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้และยังสามารถพัฒนาต่อยอดได้อีกในอนาคต”

AP OPEN HOUSE 2021

ด้านนายปวเรศ เทวหสกุลทอง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทเดี่ยว กล่าวว่า “AP OPEN HOUSE โปรแกรม DESIGN FOR LIVING ในครั้งนี้ได้มอบโอกาสและมอบประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน เป็นการเรียนรู้เทรนด์การตลาดและการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะยกระดับการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ รวมถึงหลังจากจบหลักสูตรของโครงการแล้ว เกิดความเข้าใจในระบบการทำงานด้านอสังหาฯ ชัดเจนขึ้น ตั้งแต่แนวคิด กระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ และที่สำคัญคือการได้มีโอกาสมาเรียนรู้กระบวนการคิดเชิงออกแบบ Design Thinking อย่างเจาะลึกจากหลักสูตรต้นฉบับ ผ่านการลงมือทำจริง ทำให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ซึ่งส่วนตัวมองว่าสามารถนำไปต่อยอด ทั้งในเรื่องกระบวนการความคิดในชีวิตส่วนตัว การเรียน และการทำงานในอนาคต ต้องขอบคุณเอพี พี่ๆ Mentor และโค้ชทุกท่านมากๆ ที่ได้จัดโครงการที่ดีๆ เช่นนี้ รวมถึงความใส่ใจ ห่วงใย และการดูแลอย่างทั่วถึงที่มีให้น้องๆ ทุกๆ คนที่เข้าร่วมโครงการ และสุดท้ายยังได้ Networking จากเพื่อนๆ ในคลาส ทุกอย่างเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากสำหรับผมและเพื่อนๆ ครับ อยากให้โครงการดีๆ แบบนี้จัดอย่างต่อเนื่อง”

AP OPEN HOUSE 2021

AP OPEN HOUSE 2021

เอพี ไทยแลนด์ ภายใต้พันธกิจ ‘EMPOWER LIVING’ มุ่งส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดี ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้

แพทย์ผิวหนังเตือนคนที่นิยม ทาเล็บสีแดง มีโอกาสแพ้มากกว่าสีอื่น

แพทย์ผิวหนังเตือนคนที่นิยม ทาเล็บสีแดง มีโอกาสแพ้มากกว่าสีอื่น และแนะวิธีป้องกัน

Alternative Textaccount_circle
แพทย์ผิวหนังเตือนคนที่นิยม ทาเล็บสีแดง มีโอกาสแพ้มากกว่าสีอื่น
แพทย์ผิวหนังเตือนคนที่นิยม ทาเล็บสีแดง มีโอกาสแพ้มากกว่าสีอื่น

แพทย์ผิวหนังเตือนคนที่นิยม ทาเล็บสีแดง มีโอกาสแพ้มากกว่าสีอื่น และแนะวิธีป้องกัน

กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง เตือนอันตรายจาก น้ำยาทาเล็บ เป็นได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง อุบัติการณ์ เป็น 1 – 3 เปอร์เซ็นต์ ในผู้ใช้บริการและผู้ที่ประกอบอาชีพ สีที่มีการแพ้บ่อยคือ สีแดง พร้อมแนะวิธีป้องกันและการรักษาที่ถูกวิธี

ทาเล็บสีแดง

แพทย์ผิวหนังเตือนคนที่นิยม ทาเล็บสีแดง มีโอกาสแพ้มากกว่าสีอื่น

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า การทาสีเล็บโดยทั่วไป สีที่มีการแพ้บ่อยคือ สีแดง สารเคมีที่พบการแพ้บ่อยที่สุดคือ โทซิลาไมด์ ฟอร์มาดีไฮด์เลซิน เบนโซฟรีโนน ไดบิลทิลทาลเลตฟอร์มาดีไฮด์ ส่วนการต่อเล็บแบบอะคริลิค มักแพ้ส่วนประกอบของกาว เรียกว่า cyanoacrylate ส่วนประกอบในขั้นตอนการรองพื้น และขั้นตอนการเคลือบเล็บสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้บ่อยคือ methacrylate ส่วนการทาสีเจล มีสาร methacrylate ก่อภูมิแพ้เช่นเดียวกับการต่อเล็บอะคริลิค

ทาเล็บสีแดง 2

วิธีสังเกตอาการแพ้

แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการแพ้สังเกตได้หลังจากทาเล็บ 1 – 2 วัน รอบเล็บที่แพ้จะบวม แดง คัน ชาที่ปลายนิ้ว รวมถึงบริเวณที่เล็บไปสัมผัส เช่น รอบตา ริมฝีปาก ใบหน้า ลำคอ เนื่องจากสารก่อภูมิแพ้ไปสัมผัสบริเวณดังกล่าว ในการต่อเล็บอะคริลิค และการทาสีเจล อาจมีอาการเล็บแห้ง หลุด ลอก เล็บเปลี่ยนสีได้

ทาเล็บสีแดง 3

วิธีป้องกันและการรักษาที่ถูกวิธี

ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า การป้องกัน คือ หลีกเลี่ยงการทาสีที่แพ้ การเลือกน้ำยาทาเล็บที่ปลอดสารเคมี การรักษาสามารถทำได้โดยการทายาที่มีส่วนผสมสเตียรอยด์เพื่อลดอาการอักเสบ การเคลือบปกป้องผิวด้วยครีมบำรุงเพื่อปกป้องชั้นผิวหนังกำพร้าจากการสัมผัสสารเคมี และสามารถทำการทดสอบผื่นแพ้สัมผัส patch test ที่อ่านผลโดยแพทย์ผิวหนัง


ข้อมูล : กรมการแพทย์
ภาพ : Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ฝ่าฝืนปรับ 1 แสน! ราชกิจจาฯ ประกาศห้ามใช้ ครีมกันแดด ที่มีสารเคมีอันตรายเข้าอุทยานฯ

พักกลอสฉ่ำๆ! รวบตึงลิป 4 แบบสวมแมสก์แล้วรอด พร้อมทริคเลือก ลิปติดแน่น สไตล์จีซู

สวยแท้แม้ปิดแมสก์ แนะ 3 บลัชออนสีน่ารัก ปัดแล้วพวงแก้มสวยระเรื่อ ดูอ่อนเยาว์

 

เสื้อสไตล์แหวกอก

ยั่วๆ บดๆ เสื้อสไตล์แหวกอก ยอดขายพุ่ง หลังนางแบบเอลิสต์ใส่กันให้ลึ่ม

account_circle
เสื้อสไตล์แหวกอก
เสื้อสไตล์แหวกอก

ปั๊วะปัง ยั่วๆ บดๆ เสื้อสไตล์แหวกอก หรือ The curtain reveal กำลังฮ็อตฮิตสุดๆ ยอดขายพุ่งกว่า 78% หลังนางแบบ และซุป’ตาร์ระดับเอลิสต์หยิบมาใส่กันให้ลึ่ม

มาแรงสุดๆ สำหรับ The curtain reveal เสื้อสไตล์แหวกอก กลัดด้วยเข็มกลัด สุดเซ็กซี่ ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ นางแบบ เซเลบฯ และนักแสดงฮอลลีวู้ด และกำลังเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับสาวๆ เพราะหลังจากนักแสดงสาว เมแกน ฟ็อกซ์ ได้สวมเสื้อสไตล์นี้จากแบรนด์ Jacquemus ส่งผลให้การค้นหาของสินค้าชิ้นนี้พุ่งสูงขึ้นถึง 52% ใน 48 ชั่วโมง

 เสื้อสไตล์แหวกอก

 เสื้อสไตล์แหวกอก

 เสื้อสไตล์แหวกอก

ทั้งนี้นิตยสารชื่อดังได้อธิบายว่า The curtain reveal กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เมื่อเหล่านางแบบเอลิสต์ไม่ว่าจะเป็น เคนดัล เจนเนอร์, เบลล่า ฮาดิด, เอมิลี่ ราทาจโคว์สกี้, ไคอา เกอร์เบอร์ และ เฮลลี่ บีเบอร์ หยิบมาใส่

นอกจากนี้ เว็บไซต์ Lyst ได้รายงานการค้นหาว่า ‘เสื้อผูกหน้า’, ‘เสื้อลูกไม้’ และ ‘เสื้อสายเดี่ยว’ มีการค้นหาถึง 78% ในช่วงสองสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ PrettyLittleThing รายงานว่ามีการค้นหาเพิ่มขึ้น 841% นับตั้งแต่เริ่มเทรนด์


 

แฟชั่นหน้าร้อน ที่คุณสามารถใส่ร่วมงานแต่งได้

สบายๆ แต่สวยปัง! แฟชั่นหน้าร้อน ที่คุณสามารถใส่ร่วมงานแต่งได้

แฟชั่นหน้าร้อน ที่คุณสามารถใส่ร่วมงานแต่งได้
แฟชั่นหน้าร้อน ที่คุณสามารถใส่ร่วมงานแต่งได้

รวม 10 แฟชั่นหน้าร้อน ที่คุณสาวๆ ต้องส่อง เพราะนี่คือลิสต์ชุดที่คุณจะสามารถใส่ได้ทุกช่วงเวลาของตลอดทั้งปี หากได้รับการ์ดเชิญงานแต่ง

แม้ว่ายังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ยังคงมีบ่าวสาวอีกหลายคู่ที่ขอจัดงานแต่งตามฤกษ์เดิมแบบเล็กๆ อย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง โดยการเชิญแขกเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และมีการป้องกันที่เข้มงวด หากคุณเป็นหนึ่งในแขกที่ได้รับเชิญไปร่วมงานแต่งในช่วงนี้ ก็สามารถส่องไอเดียชุดเดรสสวยๆ ที่เหมาะกับอากาศเมืองไทยซึ่งร้อนตลอดทั้งปีได้

โดยเราได้คัดสรรเดรสดีไซน์หลากหลายที่เหมาะสำหรับคุณสาวๆ ทุกสไตล์ ทั้งเรียบง่าย สวยหรู หวานหยด หรือเซ็กซี่เย้ายวน ก็ได้ถูกมัดรวมเอาไว้หมดแล้ว

สบายๆ แต่สวยปัง! แฟชั่นหน้าร้อน ที่คุณสามารถใส่ร่วมงานแต่งได้

แฟชั่นหน้าร้อน

แฟชั่นหน้าร้อน แฟชั่นหน้าร้อน แฟชั่นหน้าร้อน แฟชั่นหน้าร้อน แฟชั่นหน้าร้อน แฟชั่นหน้าร้อน แฟชั่นหน้าร้อน แฟชั่นหน้าร้อน แฟชั่นหน้าร้อน


ภาพและที่มา : www.brides.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

วางแผนแต่งงาน…ต้องมีเล่มนี้ “แพรว Wedding” เล่มใหม่ ชุดเจ้าสาวแน่น ไอเดียเพียบ

Aura on light เทรนด์ชุดแต่งงานสไตล์ฝรั่งเศส ความงดงามของผู้หญิงที่กำลังจะแต่งงาน

พร้อมเริ่มต้นชีวิตคู่! เช็ค 5 สัญญาณที่บ่งบอกว่า คุณพร้อมเป็นเจ้าสาวแล้ว

 

‘คุณมีโอกาสได้พบกับคนที่ ‘ใช่’ แต่สำหรับผู้ใหญ่ยังมองว่า ‘ไม่’ นะ!! ดวงรายวัน 23 สิงหาคม 2564

ดวงรายวัน 23 สิงหาคม 2564 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘คุณมีโอกาสได้พบกับคนที่ ‘ใช่’ แต่สำหรับผู้ใหญ่ยังมองว่า ‘ไม่’ นะ!!

ดวงรายวัน 23 สิงหาคม 2564

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานสาธารณกุศล เพื่อสังคม จิตอาสา นักจิตวิทยา นักปรัชญา ฯลฯ คุณเป็นคนที่ตั้งใจและขยันทำงานมาก มองโลกในแง่บวก พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ มีความเป็นไปได้ว่า ในอนาคตอันใกล้นี้คุณจะได้เข้าไปร่วมในงานบุญ หรือ งาน CSR เพื่อสังคมตามที่คุณถนัด แต่ก็อย่าใจร้อน ควรอดทน รอคอยจังหวะและโอกาสที่จะมาถึงมากกว่าจะตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เพราะจะทำให้คุณขาดวิจารณญาณที่ดี

การเงิน  : ทำบุญอย่างเดียวเลยค่ะวันนี้ จนคุณต้องบริหารจัดการทรัพย์สินตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต มีความเป็นไปได้ว่า จะดึงมรดกหรือเงินเก็บมาใช้ก่อน

ความรัก :  วันนี้ความสัมพันธ์ระหว่างคู่กับครอบครัวก็ราบรื่นและราบเรียบดี อาจเพราะคุณอยู่ในครอบครัวที่มีระเบียบกฎเกณฑ์ เป็นขั้นเป็นตอน ไม่หวือหวา คนโสด มีเสน่ห์ แต่อาจขัดใจหน่อย เพราะวันนี้ผู้ใหญ่สกรีนเข้ม ไม่ให้ใครผ่านได้ง่ายๆ

สุขภาพ  :  ภูมิแพ้มาแล้วจ้า วันนี้มีความเสี่ยงที่จะแพ้อาหาร จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ ไม่สะอาดถูกหลักอนามัย รสจัด เพราะคุณอาจท้องเสีย หรือมีพยาธิ์ในลำไส้

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  เปิดทำงานวันแรกของสัปดาห์ คุณก็ขี้เกียจลุกไปทำงานเสียแล้ว  ยิ่งหากคิดถึงว่าต้องแบกความรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วยังต้องทำงานอยู่ในสายตาของเจ้านายอย่างใกล้ชิดอีกด้วย คุณก็แทบอยากขอลาพักร้อนเลยทีเดียว แต่ขอบอกว่า สถานการณ์ไม่ถึงกับเลวร้าย เพราะวันนี้คุณมีความคิดสร้างสรรค์ดี มีความรับผิดชอบ และทะเยอทะยานที่จะประสบความสำเร็จสูง ซึ่งจะเป็นปัจจัยผลักดันให้คุณทำงานต่อไปได้

การเงิน :  ขยันทำงาน มุ่งมั่นในการสร้างรายได้ แต่วันนี้หากจะลงทุนทำธุรกิจควรทำเองจะรุ่งกว่าที่จะร่วมหุ้นหรือร่วมทุนกับใคร

ความรัก :  คุณมีทัศนคติในการใช้ชีวิตคู่ที่ไม่ตรงกัน เพราะวันนี้คุณให้ความสำคัญกับการทำงานหนักสร้างครอบครัวมากกว่าเวลาที่จะอยู่ด้วยกัน จึงเป็นเหมือนปัญหาโลกแตกที่หากปล่อยไว้นาน มีความเสี่ยงที่ครอบครัวจะแตก คนโสด ช่วงนี้งานคุณเยอะมาก ซึ่งคุณก็มุ่งมั่นกับผลของงาน กับความสำเร็จมาก จนรู้สึกนิ่งเฉยกับความรัก

สุขภาพ  : ปกติคุณแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วยกับใครง่ายๆ แต่วันนี้อย่าประมาท การ์ดอย่าตก ควรรักษาระยะห่าง โดยเฉพาะการใช้สิ่งของสาธารณะ รวมถึงอาหาร เพราะวันนี้คุณมีความเสี่ยงสูง ทางที่ดีก็ WFH ก่อน

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานบันเทิง โฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน ดีไซเนอร์ ฯลฯ  หากที่ผ่านมาคุณต้องรับมือกับปัญหาและต่อสู้กับอุปสรรคที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง วันนี้มีความเป็นไปได้ว่า จะมาถึงจุดที่เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย จนยากที่จะแก้ไขได้ทัน แต่หากคุณสามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส จนผ่านไปได้ ผลตอบแทนที่ได้รับนับว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อย

การเงิน : รายได้มาจากหยาดเหงื่อและแรงงาน มีผู้ให้รับความช่วยเหลือจนถึงมีโอกาสได้รับมรดก แต่ก็ควรดูให้ดีว่า ได้มาอย่างถูกต้อง เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องภายหลัง แล้วจะส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงาน

ความรัก : มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะถูกเม้าท์มอยว่าแอบมีกิ๊ก แล้ววันนี้จิตใจคุณก็ไม่หนักแน่นเสียด้วย จึงเสี่ยงที่จะมีปากเสียงทะเลาะกับคู่อย่างรุนแรงจนถึงขั้นแตกหัก  คนโสด หากกำลังพยายามที่จะเอาชนะใจใครอยู่ ก็ควรตัดใจ เพราะวันนี้มีความเสี่ยงที่จะถูกหลอก หรือถูกทำร้ายทั้งกายและใจอย่างรุนแรง

สุขภาพ :  อย่าประมาท เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุ รวมถึงโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะเรื่องอาหารเป็นพิษ ท้องเสีย จนถึงลำไส้อักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานทางด้านเอ็นเทอร์เทน เช่น ดีเจ พิธีกร นักร้อง นักดนตรี หรือธุรกิจบันเทิง เครื่องดื่ม ร้านอาหาร ฯลฯ มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะได้เดินทางไปวางเครือข่าย หรือโครงข่ายเกี่ยวกับเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ไฮเทค หรือทำทางด้านออนไลน์ วันนี้ควรวางตัวกับเพื่อนร่วมงานให้ดี โดยเฉพาะเด็กรุ่นน้องหรือลูกน้อง ไม่เช่นนั้นเขาจะตัดสินใจแทนคุณได้โดยพลการ ทำให้งานเกิดความเสียหาย และคุณจะเสียเครดิต

การเงิน :  มีรายได้อย่างงดงามจากงานสีเทา แต่วันนี้มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะหมดเงินกับเรื่องความรัก และลูกหลานในบ้าน จนมีโอกาสต้องกลับไปขอความช่วยเหลือจากที่บ้าน

ความรัก :  หากคุณแต่งงานอยู่ด้วยกันมานาน วันนี้มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะเบื่อชีวิตเดิมๆ จนถึงขั้นไปอยู่กับคนใหม่ แต่ไปแล้วไม่ไปลับจะกลับมาเพราะลูก คนโสด มีโอกาสที่คุณจะไปอยู่ด้วยกันก่อนแต่ง เพราะลูก

สุขภาพ :  ก่อนออกจากบ้านควรเตรียมยาดม ยาหอม ยาประจำตัวไปด้วย มีความเสี่ยงที่คุณจะมีอาการวิงเวียนศีรษะ จนถึงหน้ามืด เป็นลม

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  : มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะได้เริ่มต้นงานใหม่ หรือมีโอกาสได้พบช่องทางใหม่ๆ สำหรับผู้ที่ทำงานทางด้านงานเขียน งานประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ คิดค้นวิจัย ทดลอง วันนี้คุณมีอารมณ์ศิลปินสูง หากยิ่งได้ทำงานศิลปะ งานที่ต้องใช้มุมมองทางความสวยงาม งานออกแบบดีไซน์ วันนี้มีโอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จ หายเหนื่อยเสียที อย่างไรก็ตามควรดูโอกาสและจังหวะด้วย อย่ารีบร้อนตัดสินใจด้วยอารมณ์ เพราะจากที่จะไปได้ไกลจะแป๊กได้ง่ายๆ

การเงิน : ช่วงแรกคุณอาจต้องออกเงินทำงานไปก่อน แต่ก็เบาใจได้ว่า จะมีคนช่วยเหลือ แต่มีความเป็นไปได้ว่าจะไม่พอ จนคุณต้องบริหารจัดการการเงินอย่างรีบด่วนที่สุด

ความรัก : คุณค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูง ยากที่ใครจะเข้าถึง แต่หากจะบันเทิงก็บันเทิงสุดๆ ใครก็ห้ามไม่ได้   คนโสด คุณหวงแหนความเป็นส่วนตัว และความโสดมาก ดังนั้น วันนี้ก็อยู่เป็นโสดไปก่อน

สุขภาพ :  ว่าด้วยเรื่องอาหาร หากคุณชอบเสาะแสวงหาอาหารรสชาติอร่อยรับประทาน จะเป็นเพราะหน้าที่หรือความชอบส่วนตัว วันนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ ไม่สะอาด เพราะเสี่ยงที่คุณจะติดเชื้อ มีอาการท้องเสีย อาหารเป็นพิษ และมีพยาธิ์

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  สำหรับผู้บริหารหรือผู้ที่ทำงานฝ่ายบริหาร วันนี้คุณมีพลังเต็มเปี่ยมทั้งกายและใจที่จะแก้ไขปัญหาและอุปสรรคให้กับลูกน้องที่อยู่ภายใต้การปกครอง แต่มีความเป็นไปได้ว่า ทุกอย่างจะติดขัด คั่งค้างอยู่ในกระบวนการพิจารณา จนคุณอึดอัด และวิตกกังวลอย่างมาก ควรใจเย็นๆ ก่อนแล้วพยายามเข้าหาผู้ใหญ่หรือผู้มีอำนาจสูงสุดในองค์กร เพื่อให้เขาช่วย

การเงิน : จากที่คุณมีความสามารถใช้เงินทำงานสร้างรายได้ที่สูงให้กับตัวเอง วันนี้มีโอกาสที่เงินจะสะดุด โดยที่คุณพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เงินมา จนต้องดึงมรดกหรือเงินเก็บมาใช้ก่อน

ความรัก :  หากคุณซีเรียสกับการทำงานหาเลี้ยงครอบครัวจนกลายเป็นจริงจังไปหมดทุกเรื่อง วันนี้มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะหลุดหลงไปกับสิ่งยั่วยวนภายนอก จนมีความเสี่ยงที่จะขัดกับที่บ้าน  คนโสด  มีโอกาสได้พบกับคนที่ใช่ และคุณก็หลงเขามาก แต่ผู้ใหญ่ที่บ้านคุณยังไม่คิดว่า ใช่ สำหรับเขา

สุขภาพ : ควรดูแลและให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา หากในกรณีรุนแรงจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือดได้

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : เริ่มต้นวันทำงานวันแรกของสัปดาห์ คุณก็งานเข้าเสียแล้ว มีความเป็นไปได้ว่า ปัญหาและอุปสรรคที่ยังค้างคาอยู่จะลุกลามรุนแรง จนยากที่จะรับมือไหว  ยิ่งวันนี้ต้องระวังเพื่อนร่วมงาน หรือคนใกล้ชิดจะแทงข้างหลัง หรือเลื่อยขาเก้าอี้คุณอยู่ ทำให้คุณถูกลดบทบาทความสำคัญ แม้จะพยายามเรียกร้องขอความเห็นใจจากเจ้านาย แต่เขาก็ไม่สนใจคุณเลย

การเงิน : ไม่ดีเลย มีโอกาสทะเลาะกับหุ้นส่วนในเรื่องของผลตอบแทนไม่เป็นธรรม อาจถึงขั้นถอนหุ้น หรือหากไปทวงหนี้ก็จะเจอลูกหนี้ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย จนถึงถูกขโมยทรัพย์สิน

ความรัก : ต้องระวังมือที่สามที่จะเป็นต้นเหตุให้เกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรง แล้วหากไปถึงการแตกหัก เขามีโอกาสที่จะไม่กลับมาเหมือนเดิม คนโสด  ใจเย็นๆ หนักแน่นไว้ เพราะวันนี้มีความเสี่ยงที่จะมีมือที่สามเข้ามายุ่งวุ่นวาย แล้วมีโอกาสที่เหตุการณ์จะลุกลามบานปลาย

สุขภาพ :  ปล่อยวางค่ะ อย่าเครียด หรือวิตกกังวล มโนไปเอง เพราะนอกจากจะทำให้ไม่สบายใจแล้ว จะส่งผลไปถึงสุขภาพทางกาย เช่น ปวดศีรษะ ไมเกรน จนถึงเป็นโรคกระเพาะ

ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME

ปรากฏการณ์ “ซีรีสกินได้” ครั้งแรกในไทยใน “ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME”

Alternative Textaccount_circle
ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME
ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME

พร้อมเขย่าวงการซีรีส์ไทยให้ฮือฮาด้วยการสร้างซีรีส์ในรูปแบบ O2O (ออนไลน์ ทู อ๊อฟไลน์) กับปรากฎการณ์ของซีรีส์กินได้ครั้งแรกของเมืองไทยในซีรีส์วาย “ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME” ซีรีส์กินได้กับเรื่องราวความผูกพันระหว่าง “เอก” ไรเดอร์ส่งอาหารที่มีความฝันอยากเป็นเชฟ และ “เชฟเอื้อ” จากร้าน “อิ่มเอื้อ”…. ซีรีส์ที่พร้อมจะพาคนดูได้มีประสบการณ์ร่วมจริงกับการสั่งอาหารจากร้านอิ่มเอื้อมาชิมได้จริงหน้าจอในรูปแบบ คลาวด์ คิทเช่น (Cloud Kitchen) เรียกว่า อิ่มจริง ฟินจริง เป็นครั้งแรก ซึ่งถูกสร้างโดยบริษัท เดอะ ดรีม แอนด์ เดสทินี จำกัด (THE DND) บริษัทคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ (Content creator)  ภายใต้การบริหารของ “นิธิวัฒน์ เจนเจษฎา”  และ “สมสมร ด่วนดี” ที่พร้อมเสิร์ฟความฟินจากเมนูอาหารสูตรเฉพาะของร้านอิ่มเอื้อให้แฟนๆที่รอชมได้กดสั่งมากินและฟินพร้อมกันในตอนแรกที่จะเริ่ม วันอาทิตย์ที่ 29 ส.ค. นี้ เวลา 22.15 น. ทางช่อง ONE31

ปรากฏการณ์ “ซีรีสกินได้” ครั้งแรกในไทยใน “ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME”

ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงจากนิยายของ SAMMON กำกับโดย “เดวิด บีแกนเดอร์”  ภายใต้เรื่องราว เมื่อ “เอก” (มาร์ค-ศิวัช จำลองกุล) เด็กเหนือในวัย 21 ปี เติบและโตที่จังหวัดน่าน มีโอกาสได้เข้ามาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่จังหวัดกรุงเทพ คณะบัญชี  หาเงินส่งตัวเองเรียนหนังสือด้วยการส่งไลน์แมน มีความฝันอยากเป็นเชฟระดับโลก  ส่วน “เชฟเอื้อ” (ซุง-กิดาการ ฉัตรแก้วมณี)   เชฟวัย 30 ปี เจ้าของร้านอาหาร “อิ่มเอื้อ” ที่เปิดขึ้นมาเพื่อเติมเต็มความฝันของตัวเอง เพราะสิ่งที่เชฟเอื้อขาด ไม่สามารถมีอะไรมาเติมเต็มได้นอกจาก  ‘พรสวรรค์’   โดยเชฟเอื้อไม่เคยคาดคิดเลยว่าสิ่งที่เขาขาดหายไปจะถูกค้นพบในตัวของ ‘เอก’ เด็กส่งอาหาร   เมื่อหนึ่งคนผู้มีความฝันแต่ขาดโอกาส กับ หนึ่งคนผู้มือความเชี่ยวชาญและความสามารถแต่ขาดรสมือ     เมื่อทั้งสองคนมาพบกัน … ความมหัศจรรย์ของ ‘อาหาร’ ชวนให้ ‘ท้อง’ หิว จึงเริ่มขึ้น

 โดยสองผู้บริหารเผยถึงแรงบันดาลใจในการสร้างซีรีส์เรื่องนี้ขึ้นมาว่า “ที่เราหยิบเรื่องร้านอาหารขึ้นมาทำใน ส่งร้อนเสิร์ฟรักBITEME นั้น  เพราะอาหารไทยเป็นวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย มีซอฟท์พาวเวอร์ (soft power) ที่สามารถส่งไปสู่ตลาดโลกได้ เราจึงทุ่มเททุกขั้นตอนไม่ว่าจะโปรดั่กชั่นการผลิตที่จริงจังมาก และการเอาแกนของการทำอาหารมาสร้างนั้นแน่นอนจะเกี่ยวข้องกับอาชีพ เชฟ ซึ่งถือเป็นสเปเชียลลิสต์เข้ามาเป็นตัวละครหลักของเรื่อง เราจึงส่งนักแสดงทั้งหมดไปเวิร์คช็อปทำอาหารกว่า 50 ชั่วโมง และ เวิร์คช็อปการแสดงกับผู้กำกับกว่า 5 เดือนเพื่อให้ทุกมิติการเล่นเป็นเชฟสมจริงที่สุด พร้อมทั้งยังมีเชฟตัวจริงคือ เชฟปิง – สุรกิจ เข็มแก้ว มาร่วมแสดงและเป็น ฟู๊ด ไดเร็คเตอร์ ที่มาดีไซน์เมนูอาหารในร้าน อิ่มเอื้อ และคิดสูตรพิเศษเฉพาะร้านอีกด้วย ซึ่งจะแตกต่างจากซีรีส์วายเรื่องอื่นที่นำเอกลักษณ์ของอาหารไทยมาเป็นแกนนำของเรื่อง จึงเกิดเป็นกลยุทธ์   กินจริง อิ่มจริง ฟินจริง เพื่อให้แฟนซีรีส์สามารถกดสั่งอาหารจากร้าน อิ่มเอื้อ มากินได้จริงระหว่างชมซีรีส์เรื่องนี้”

สำหรับซีรีส์กินได้ “ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME”   นำแสดงโดย  “ซุง” กิดาการ ฉัตรแก้วมณี รับบท เชฟเอื้อ,  “มาร์ค” ศิวัช จำลองกุล รับบท “เอก”  พร้อมด้วย “แป๊ม” เสฏฐนันท์ มนุญปิจุ , “ตูน” อติรุจ แสงเทียน , “มีนา” ริณา ฉัตรอมรชัย, “ตี๋” วิวิศน์ บวรกีรติขจร , “ซานิ” นิภาภรณ์ ฐิติธนการ, “บอย” ตรัย ภูมิรัตน, “เปรม” ธนอรรณพ ป่าตุ้ม, “นุ่น” สุทธิภา คงแนวดี, “ปิง” สุรกิจ เข็มแก้ว , “ต๊งเหน่ง” รัดเกล้า อามาระดิษ และ คาร่า พลสิทธิ์ เป็นต้น

 เตรียมเป็นกำลังใจให้ความสัมพันธ์ระหว่าง  “เอก” และ “เชฟเอื้อ” พร้อมฟินกับเมนูเด็ดจากร้าน “อิ่มเอื้อ” สั่งจริง ส่งจริง อิ่มจริง  ฟินไปกับซีรีส์กินได้  “ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME” ได้ผ่านเพจร้าน “อิ่มเอื้อ” และทางไลน์แมน  ประเดิมตอนแรก วันอาทิตย์  29 สิงหาคม นี้ เวลา 22.15 น. ทางช่อง ONE31 และทาง Viu ได้วันเดียวกันเวลา 23.15 น. พร้อมกับผู้ชมจากทั่วโลก 162 ประเทศ  ผ่านทางสตรีมมิ่งแพลทฟอร์มต่างๆ … ติดตามความเคลื่อนไหวของซีรีส์กินได้ที่  FB ; Twitter ; IG ; Youtube ;Tiktok ; Weibo  ของ THEDNDTH  และสำหรับ ร้านอิ่มเอื้อ ได้ที่  FB ; IG imaue.eatery , Twitter : ImaueE   #BITEMETHESERIES  #ส่งร้อนเสิร์ฟรักBITEME

ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME


 

กันยา เซสเซอร์

เปลี่ยนจุดด้อยเป็นจุดเด่น กันยา เซสเซอร์ นางแบบไร้ขาผู้สร้างความฮือฮา

กันยา เซสเซอร์
กันยา เซสเซอร์

ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่เป็นไปไม่ได้ ใครจะไปคิดล่ะว่าแม้แต่ กันยา เซสเซอร์ (Kanya Sesser) สาวอเมริกันเชื้อสายไทย ที่ไร้ขาตั้งแต่กำเนิดก็ยังเป็นนางแบบได้

เรื่องของเธอได้สร้างความประหลาดใจให้กับคนทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ที่แบรนด์ดังอย่าง Nike, Rip Curl Girl และ Billabong คว้าตัวสาวไร้ขาคนหนึ่งซึ่งเธอพิการมาตั้งแต่กำเนิดมาเป็นนางแบบ เพราะปกติแล้วอย่างที่รู้กันดีว่าคนที่จะมาเป็นนางแบบได้ต้องสูง ขายาว หุ่นดี แต่สำหรับกันยา เซสเซอร์ เธอกลับตรงกันข้ามเลยแหละ

เปลี่ยนจุดด้อยเป็นจุดเด่น กันยา เซสเซอร์ นางแบบไร้ขาผู้สร้างความฮือฮา

กันยา เซสเซอร์

อ่านชื่อเธอคงงงล่ะสิว่าเธอชื่อเหมือนคนไทยเลย ใช่ค่ะ เธอคือคนไทยแท้ แต่ในวัยเด็กชีวิตของเธอต้องอยู่ที่สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า จนเมื่อเธออายุ 5 ขวบก็มีชาวต่างชาติมาขอรับเลี้ยงเธอ ซึ่งพวกเขาก็พาเธอไปอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ โชคดีที่เธอโตมาในครอบครัวที่ดี พวกเขาสนับสนุนเธอในทุกๆ อย่าง ถึงแม้เธอจะไปไหนมาไหนด้วยวีลแชร์ แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคในการดำเนินชีวิต เธอทำให้ทุกคนเห็นว่าเธอก็มีชีวิตแบบวัยรุ่นปกติทั่วไปได้ ด้วยการเปลี่ยนจากนั่งวีลแชร์มาใช้สเกตบอร์ดในการเคลื่อนที่ นั่นเป็นจุดกำเนิดทำให้เธอหลงใหลในกีฬาเอกซ์ตรีมสุดๆ

กันยา เซสเซอร์ นางแบบไร้ขา

เธอเล่นมันได้ดีกว่าคนร่างกายปกติด้วยซ้ำ เธอใช้มือและแขนทั้งสองข้างคอนโทรลทิศทางจนคล่อง ถึงขนาดเพื่อนๆและคนในแก๊งที่เล่นสเกตบอร์ดด้วยกันไม่มีใครคิดว่าเธอแตกต่างหรือแปลกแยกไปจากพวกเขา ทุกคนยอมรับในตัวเธอ แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เธออยู่เป็นเหมือนกำลังใจให้เธอไม่คิดน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง

Kanya Sesser

จนกระทั่งเธออายุได้ 15 ปีก็มีคนเห็นแววความโดดเด่นในตัวเธอ จึงชวนเธอไปเป็นนางแบบ โดยตอนนั้นเธอทำมันแค่เป็นอาชีพเสริมเพื่อหารายได้พิเศษเท่านั้น เพราะเธอไม่คิดว่าอาชีพนางแบบจะเหมาะกับรูปร่างที่พิการของเธอนัก แต่พอโตขึ้นก็เริ่มมีแบรนด์ดังๆมาชักชวนเธอไปเป็นนางแบบชุดออกกำลังกายอยู่หลายแบรนด์ จึงทำให้เธอเปลี่ยนความคิดใหม่ อยากจะเป็นนางแบบให้คนทั่วโลกได้เห็นว่าคนพิการอย่างเธอก็สามารถเป็นนางแบบได้ เผื่อว่าใครที่ท้อแท้และกำลังต่อสู้ชีวิตจะได้มองชีวิตเธอเป็นตัวอย่าง

ปัจจุบันนอกจากจะเป็นนางแบบแล้ว เธอยังเป็นนักแสดง รวมถึง นักกีฬาเอ็กซ์ตรีม และ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจอีกด้วย ดูเหมือนว่าเธอทำอะไรได้อีกมากมายอย่างคาดไม่ถึง และทำให้หลายคนได้ตระหนักว่า ถึงแม้เธอไร้ขาสองข้าง แต่ความสามารถของเธอนั้นไร้ข้อจำกัดจริงๆ

Kanya Sesser


เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ :  IG @kanyasesser 

 

แอลลี่ - อชิรญา เตรียมเข้าศึกษาในวิทยาลัยดนตรีชื่อดังของอเมริกา

ทั้งสวยและเก่ง! แอลลี่ – อชิรญา เตรียมเข้าศึกษาในวิทยาลัยดนตรีชื่อดังของอเมริกา

แอลลี่ - อชิรญา เตรียมเข้าศึกษาในวิทยาลัยดนตรีชื่อดังของอเมริกา
แอลลี่ - อชิรญา เตรียมเข้าศึกษาในวิทยาลัยดนตรีชื่อดังของอเมริกา

ต้องขอแสดงความยินดีกับนักร้องเสียงใส แอลลี่ – อชิรญา นิติพน ที่ล่าสุดได้รับการตอบรับจากวิทยาลัยดนตรีชื่อดังของอเมริกา ซึ่งมีศิษย์เก่าเป็นศิลปินดังระดับโลกเพียบ!

งานรุ่งการเรียนก็ปัง เมื่อนักร้องวัยทีนที่เพิ่งอายุครบ 17 ปี แอลลี่ – อชิรญา นิติพน ลูกสาว พ่ออ่ำ อัมรินทร์ แม่จอย อัจฉริยา ได้รับจดหมายตอบรับเพื่อเข้าศึกษาในสาขาวิชา Online Bachelor of Professional Studies in Music Business วิทยาลัยดนตรีเบิร์กลีย์ (Berklee College of Music) เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา วิทยาลัยดนตรีร่วมสมัยระดับโลก ซึ่งมีศิษย์เก่าเป็นศิลปินชื่อดังหลายคน เช่น ชาร์ลี พุท , James Valentine มือกีต้าร์วง Maroon 5 , หวังลี่หง

ทั้งสวยและเก่ง! แอลลี่ – อชิรญา เตรียมเข้าศึกษาในวิทยาลัยดนตรีชื่อดังของอเมริกา

โดยนักร้องเสียงใสผ่านการสอบและสัมภาษณ์ออนไลน์ ซึ่งจะเริ่มเรียนหลักสูตรออนไลน์ในเดือนกันยายน และคุณแม่จอยก็ได้แสดงความยินดีกับลูกสาวคนเก่งว่า “ภูมิใจในตัวแอลลี่มาก ที่ได้รับการตอบรับให้เข้าเรียนหลักสูตรปริญญาตรีออนไลน์ Online Bachelor of Professional Studies in Music Business ของ Berklee College of Music ขอแสดงความยินดีกับนักศึกษาน้องใหม่”


ภาพ : IG@allynitibhon

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ยืนยัน เจมมี่เจมส์ ออกจาก TRINITY  ท่ามกลางดราม่า #แหกตึกดําย่านลาดพร้าว

เปิดบ้าน เจนนี่ BLACKPINK หรูหราในทำเลไฮโซ สนนราคา 177 ล้านบาท

รวยแบบไม่มีอะไรกั้น 10 ศิลปิน K-POP ที่สร้างรายได้จาก YouTube

 

กล่องเสียง

ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เมื่อรักษาหายเสี่ยง กล่องเสียง อักเสบ เพราะ…

Alternative Textaccount_circle
กล่องเสียง
กล่องเสียง

ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงและจำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจขณะทำการรักษาเป็นเวลานาน เมื่อหายป่วยจากโควิด-19 แล้วอาจส่งผลให้ กล่องเสียง ได้รับการบาดเจ็บ เกิดการบวม ช้ำ อักเสบ หรือมีแผลได้ จึงควรหมั่นสังเกตตนเอง หากมีความผิดปกติควรพบแพทย์ทันที

ผู้ป่วยโควิด-19 กับการใส่ท่อช่วยหายใจ

ในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีการอักเสบของปอดอย่างรุนแรง ส่งผลให้ระบบการหายใจล้มเหลว หายใจเองได้ยาก จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ (Ventilator) เพื่อช่วยในการักษาพยาบาล เพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับผู้ป่วย โดยจะต้องทำการใส่ท่อช่วยหายใจ (Endotracheal Intubation) ทางปากผ่านกล่องเสียงไปยังหลอดลม ท่อนี้จะเป็นตัวนำออกซิเจนจากเครื่องช่วยหายใจส่งไปยังปอด ช่วยให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาในการรักษาที่ค่อนข้างนานกว่าจะหายดี ตัวท่ออาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อภายในกล่องเสียงเกิดการบวม ช้ำ อักเสบ มีแผล หรือบวมจนกลายเป็นเนื้องอกบางชนิด หรือแผลเป็น ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะกล่องเสียงทำงานผิดปกติไปจากเดิม

1 กล่องเสียง บอบช้ำเมื่อหาย จากโควิด-19
ภาพ : shutterstock

ภาวะ กล่องเสียง หดเกร็ง 

ภาวะกล่องเสียงหดเกร็ง (Laryngospasm) สามารถเกิดขึ้นได้จากการใส่ท่อช่วยหายใจและเอาท่อช่วยหายใจออก โดยเป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นในทางเดินหายใจขณะที่กล้ามเนื้อของกล่องเสียงยังหย่อนตัวไม่เต็มที่จึงเกิดการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อกล่องเสียงและสายเสียงผิด ทำให้ออกซิเจนไม่ผ่านเข้าปอด

2 กล่องเสียง บอบช้ำเมื่อหาย จากโควิด-19

ภาวะกล่องเสียงอักเสบ 

ภาวะกล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis) เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

  • เชื้อโรค อาทิ ไวรัส  แบคทีเรีย เชื้อรา วัณโรค 
  • ใช้งานกล่องเสียงมากเกินไป อาทิ พูดดัง พูดนาน ร้องเพลงผิดวิธี  ไอแรง ไอเรื้อรัง ขากเสมหะบ่อย ๆ ฯลฯ
  • มีสิ่งระคายเคืองกล่องเสียง อาทิ การหายใจเอามลภาวะในอากาศเข้าไป การสูบบุหรี่ การสำลักอาหาร  อาเจียน กรดไหลย้อน ฯลฯ 
  • การกระแทกเสียดสีจากภายนอกกล่องเสียง อาทิ อุบัติเหตุของแข็งกระแทกลำคอทางด้านหน้า ฯลฯ
  • การกระแทกเสียดสีจากภายในกล่องเสียง อาทิ การใส่ท่อช่วยหายใจเพื่อดมยาสลบ หรือการใส่ท่อช่วยหายใจเพื่อให้ออกซิเจนแก่ผู้ป่วยหนักที่ไม่สามารถหายใจได้เองตามปกติ

3 กล่องเสียง บอบช้ำเมื่อหาย จากโควิด-19

รักษากล่องเสียงอักเสบ 

การรักษาภาวะกล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis) ประกอบไปด้วย

  • การให้ยา โดยแพทย์จะพิจารณาจากสาเหตุของโรคเป็นหลัก อาทิ ยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ไอ ยากรดไหลย้อน เป็นต้น
  • การพักใช้เสียง อย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยพูดน้อย ๆ  ไม่ตะเบ็ง ไม่ตะโกน ไม่ร้องเพลง
  • งดดื่มคาเฟอีนปริมาณมาก งดดื่มแอลกอฮอล์
  • การผ่าตัด ในกรณีที่มีเนื้องอกหรือแผลเป็นในกล่องเสียง แพทย์จะสอดท่อผ่านเข้าไปทางช่องปาก และผ่าตัดด้วยอุปกรณ์สำหรับกล่องเสียงโดยเฉพาะ ภายใต้การมองผ่านเลนส์ของกล้องจุลทรรศน์ (Microscope) เพื่อป้องกันการบอบช้ำหรือกระทบกระเทือนต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง และทำให้แผลผ่าตัดในกล่องเสียงมีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยผู้ป่วยจะไม่มีบาดแผลบริเวณผิวหนังของลำคอ แต่หลังผ่าตัดผู้ป่วยควรพักการใช้เสียงด้วยการพูดน้อย ๆ ต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์หรือจนกว่าแผลผ่าตัดจะหายเป็นปกติ

สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่จำเป็นต้องใส่เครื่องช่วยหายใจและท่อช่วยหายใจตามคำแนะนำของแพทย์ เมื่อหายจากโควิด-19 แล้วอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด


ข้อมูล : แพทย์หญิงจิราวดี จัตุทะศรื แพทย์ด้านหู คอ จมูก ศูนย์หูคอจมูก โรงพยาบาลกรุงเทพ
ภาพ : Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เช็กให้ชัวร์ก่อนซื้อ! อย. เผยรายชื่อ “ฟ้าทะลายโจร” ผิดกฎหมายเพิ่มอีก 11 รายการ

อย. เตือนอย่าซื้อ ยาฟาวิพิราเวียร์ กินเอง เสี่ยงเจอยาปลอมอาจอันตรายถึงชีวิต

แพทย์แนะ ติดโควิด-19 ทรุดหนักเชื้อลงปอด แต่เตียงเต็ม ควรปฏิบัติตัวตาม 8 ข้อนี้

 

 

ยีนศีรษะล้านวินด์เซอร์รุนแรงเกินต้าน ส่งเจ้าชายแฮร์รี่ ตามรอย เจ้าชายวิลเลียม

account_circle

ตามรอยพระเชษฐาไปติดๆ สำหรับเจ้าชายแฮร์รี่ ที่ต้องเข้ารับการรักษาอาการผมร่วงอย่างหนัก หลังแพทย์พบว่า ศีรษะล้าน เป็นสองเท่าหลังเสกสมรสกับ เมแกน มาร์เคิล เมื่อปี 2018

เดลี่ เมลล์ สำนักข่าวต่างประเทศของอังกฤษเผยว่า เจ้าชายแฮร์รี่ทรงเข้ารับการรักษาอาการผมร่วง ที่ Philip Kingsley Trichological Clinic คลินิกรักษาผมชื่อดังย่าน เมย์แฟร์ ในกรุงลอนดอน เมื่อปลายปี 2019 หลังพระองค์ต้องเผชิญกับภาวะ ศีรษะล้าน ที่กำลังลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆ

โดย ดยุกแห่งซัสเซกส์วัย 36 ปี ได้รับการทรีตเม้นต์เพื่อให้ผมไม่ร่วงและดูหนาขึ้น จากคลินิกแห่งนี้ เช่นเดียวกับ พระเชษฐา “เจ้าชายวิลเลี่ยม” และ พระบิดา “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์”

ศีรษะล้าน

มีรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาผมอ้างว่า ศีรษะของเจ้าชายแฮร์รี่ทรงล้านขึ้นเป็นสองเท่า ตั้งแต่เสกสมรสกับ เมแกน มาร์เคิล เมื่อเดือนพฤษภาคม 2018

ทั้งนี้ยังมีการเผยด้วยว่า เมแกน มาร์เคิล ก็เข้ารับการดูแลเส้นผมที่คลินิกแห่งนี้เหมือนกัน ก่อนที่เธอจะเข้าพิธีแต่งงาน เพื่อให้แน่ใจว่าผมของเธอจะต้องเงางามในพิธีเสกสมรสกับ เจ้าชายแฮร์รี่

แหล่งข่าวยังอ้างอีกด้วยว่า การเข้ารับการรักษาของเจ้าชายแฮร์รี่ ทำให้เกิดการวุ่นวาย บริษัทแห่งที่นี้มีชื่อเสียงมาก เป็นหนึ่งในสถานที่ ที่รักษาอาการผมร่วงได้ดีที่สุดในโลก มีแผนการรักษาต่างๆ ที่มากมาย เป็นแหล่งรวมเศรษฐี และคนมีชื่อเสียง ที่เข้ามารับบริการรักษา ซึ่งมีราคาแพงมาก อย่างไรก็ตามการประชุมเรื่องการรักษาอาการศีรษะล้านของเจ้าชายแฮร์รี่ก็ลุล่วงไปได้ด้วยดี

ดร. Asim Shahmalak ศัลยแพทย์ผู้ทำการปลูกถ่ายอวัยวะเผยว่าในปี 2562 ผมของเจ้าชายแฮร์รี่ร่วงหนักมาก ศีรษะเห็นได้ชัดว่าล้านขึ้นหลังพระองค์ต้องสวมบทบาทหน้าที่และความเป็นพ่อ นอกจากนี้เขายังเชื่อว่า เจ้าชายแฮร์รี่อาจได้รับแรงกดดันจาก เมแกนเพื่อรักษาอาการผมร่วงของเขา

เขากล่าวว่า ในอดีตอาชีพการงานของเธอเป็นนักแสดงฮอลลีวู้ด ดังนั้นเธอจึงรู้ว่าการดูดีจะส่งผลเช่นไร “ลูกค้าของฉันจำนวนมากมาจากแรงกดดันที่ละเอียดอ่อนโดยคู่ของพวกเขาที่ไม่อยากออกเดทกับชายหัวล้าน”

ทั้งนี้ ดร. Asim Shahmalak ยังจำลองภาพให้เห็นด้วยว่า เจ้าชายแฮร์รี่ในวัย 50 ชันษา ศีรษะของเขาจะออกมาเป็นเช่นไร  หากอัตราการสูญเสียเส้นผมของเขายังคงดำเนินต่อไป

ศีรษะล้าน

เขากล่าวว่า ‘อาการศีรษะล้านของเจ้าชายแฮร์รี่จะค่อยๆ ร่วงช้าลง’ แต่ในตอนนี้ศีรษะของดยุกแห่งซัสเซกส์กำลังไล่ตามเจ้าชายวิลเลี่ยมอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะบริเวณตรงกลางศีรษะ แพทช์หัวล้านของเขามีขนาดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงสองปีที่ผ่านมาและความเศร้าของเขากำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ศีรษะล้าน

ศีรษะล้าน
เจ้าชายฟิลลิป และ เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด

“เจ้าชายแฮร์รี่ กำลังสูญเสียเส้นผมในอัตราเดียวกับที่เจ้าชายวิลเลียมเสีย ในช่วงวัย 20 ชันษา ยีนศีรษะล้านในตระกูลวินด์เซอร์มีความรุนแรงเป็นอย่างมาก”


ภาพ : Getty Image

คุณหมอชาวญี่ปุ่นแนะ ผมร่วงหนัก เพราะสระผมผิดวิธีหรือเปล่า? มาดูวิธีที่ถูกกัน

keyboard_arrow_up