สวยเป๊ะแบบ เมย์ เฟื่องอารมย์ แต่งตาคมด้วยอายไลเนอร์

ต่อให้หน้าจะโล้น ไร้เมคอัพใดๆ ก็ตาม ผู้หญิงยังพอยอมได้ แต่ถ้าออกจากบ้านไปแล้วไม่กรีดอายไลเนอร์ที่ขอบตาให้สวยคมสักหน่อย คงยอมไม่ได้เด็ดขาด ก็ดูอย่างสาวเมย์ – ปทิดา กำเนิดพลอย (เฟื่องอารมย์)คุณแม่ของน้องมายูสิจ๊ะ ยังเอ่ยปากบอกว่าก่อนจะเข้าห้องคลอด ถึงไม่แต่งหน้า ก็ต้องขอกรีดอายไลเนอร์สักนิด เพราะไม่อยากพลาดโมเม้นท์สำคัญตอนถ่ายรูปแรกกับลูกสาว


ในบรรดาเครื่องสำอางทั้งหลาย ยุคนี้คงต้องยกให้อายไลเนอร์เป็นเครื่องสำอางที่ทรงอิทธิพลที่สุดก็ว่าได้ ไม่ว่าจะแต่งหน้าบางๆ ไปจนถึงสีสันจัดๆ การใช้อายไลเนอร์กรีดขอบตาก็แทบขาดไม่ได้เลย ซึ่งการกรีดอายไลเนอร์ด้วยตัวเอง จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องยาก แต่อาจต้องฝึกความชำนาญ และรู้เทคนิคนิดหน่อย ก็สามารถสร้างขอบตาให้สวยคมโตอย่างที่สาวเมย์จัดก่อนเข้าห้องคลอดแล้วล่ะ



การวาดขอบตาแบบสาวเมย์ เริ่มจากวาดเส้นให้ชิดขอบตาบนให้เลยเล็กน้อย (ใครอยากได้ปีกอายไลเนอร์ยาวก็เติมได้ ควรวาดตวัดขึ้นประมาณ 45 องศา) จากนั้นวาดเส้นที่เปลือกตาบน โดยเริ่มจากจุดที่บรรจบกับโคนขอบตาที่วาดไว้ตอนแรก แล้วลากเพิ่มความหนาขึ้นไปเรื่อยๆ จนสิ้นสุดที่ปีกอายไลเนอร์ หลังจากนั้นก็ลงสีให้เข้มทึบตามสไตล์ของตัวเอง เพียงเท่านี้ก็จะได้ดวงตาที่สวยคมโตแล้ว

Did you know :

อายไลเนอร์มีมาตั้งแต่สมัยอิยิปต์โบราณและเมโสโปเตเมีย ซึ่งปัจจุบันอายไลเนอร์ก็มีการพัฒนารูปแบบไปมาก เช่น

• Liquid eyeliner เป็นอายไลเนอร์น้ำแบบทึบ มักบรรจุในขวดเล็กและใช้กับแปรงเล็กๆซึ่งจะทำให้เส้นคมแหลมและแม่นยำ

• Powder-based eye pencil เป็นดินสออายไลเนอร์ ส่วนมากจะมาในสีดำเข้มและด้าน

• Wax-based eye pencils เป็นดินสออายไลเนอร์ที่มีส่วนผสมของขี้ผึ้ง เวลาเขียนจะมีความนุ่มช่วยให้เขียนง่ายขึ้น มีสีเข้มและสีอ่อน เช่นสีขาว
หรือสีเบจ ดินสออายไลเนอร์ที่มีส่วนผสมของขี้ผึ้ง ยังมีจำหนายในรูปแบบของทรงกรวยหรือในแบบอัดแข็ง

• Kohl เป็นผงทาขอบตา มีเนื้อนุ่ม มีเฉดสีดำเข้มและด้าน มีจำหน่ายแบบดินสอ แป้งอัดแข็ง หรือแป้งฝุ่น เป็นชนิดที่นิยมใช้ที่สุด

• Gel eyeliner มีเนื้อที่นุ่ม สามารถวาดได้ด้วยแปรง ซึ่งสามารถวาดได้แม่นยำ และมีเนื้อที่นุ่มกว่า Kohl

เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : IG @mayfuang / Pinterest

แต่งตัวลุค Autumn – Winter สไตล์ชมพู่-อารยา

เมื่อลมหนาวเริ่มมาเยือน ตอนนี้หลายคนคงกำลังมองผ้าเสื้อผ้าที่ใส่แล้วเข้ากับซีซั่นนี้ ซึ่งบ้านเราถ้าจะขนเฟอร์ หรือเสื้อผ้าหนาๆ ก็คงจะไม่ไหว เพราะเมืองไทยไม่ได้หนาวมากขนาดนั้น แต่สำหรับใครที่มีทริปเตรียมตัวไปท่องเที่ยวต่างประเทศเหมือนกับแฟชั่นนิสต้าอย่างสาวชมพู่-อารยา วันนี้ลองมาดูแฟชั่นการแต่งตัวของเธอกัน เผื่อจะมีไอเดียการเลือกชุด ที่อาจจะไปมิกซ์แอนด์แมทช์ให้เข้ากับสไตล์ตัวเองได้บ้าง

CHANEL Spring time 2015

Chanel นำเทรนด์แต่งตาของฤดูใบไม้ผลิ 2015 มาอวดโฉมให้ได้ชม ในงานแฟชั่นวีค สีสันอ่อนๆ แต่สามารถแต่งออกมาให้สวยเข้ม แถมยิ่งเท่เมื่อใส่แว่นตาเก๋ๆ ทำให้ดวงตาโดดเด่น


สาวตาคม แม้ใส่แว่นก็ไม่ใช่ปัญหา ดวงตาเฉี่ยวหลังแว่นใส ก็เห็นความงดงามของสีสันชัดเจน


การไล้เปลือกตาบนด้วยอายแชโดว์ 2 สี และขอบตาล่างด้วยสีสันตัดกัน


สร้างสรรค์ลุคที่ดูเปรี้ยว เปลือกตาสีสวยในช่วง Spring time



การเติมแต่งด้วยอายแชโดว์สีเดียว แต่ให้พลังจับใจ




ดวงตางดงาม ทำให้ใบหน้าทุกส่วนสวยสดใส CHANEL ช่วยให้คุณครีเอดลุคใหม่ๆ เพื่อดวงตาสวยในแบบที่ไม่ซ้ำใคร

เรื่อง : pattra

มัสคูลินสุดชิค คอลเลกชั่นหวานซ่อนเท่ จากVatanika

เปิดตัวไปแล้วสำหรับคอลกชั่นเสื้อผ้าใหม่ล่าสุดจาก “วทานิกา” ในงานBangkok International Fashion Week 2015 โดยคอลเลกชั่นนี้ยังคงเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของการออกแบบ การตัดเย็บ ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างประณีตอีกเช่นเคย

“วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา” ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ผู้ออกแบบเล่าถึงคอลเลกชั่นนี้ว่า เป็นการสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่เกิดขึ้นจากตัวเอง โดยได้แรงบันดาลใจมาจากตอนเป็นเด็กได้เห็นชุดสูทลายทาง (Pinstrip Suite) ที่คุณปู่ใส่เป็นประจำ คอลเลกชั่นนี้จึงเป็นการผสานสไตล์มัสคิวลิน ที่ดูมีความเป็นชายให้เข้ากับผ้าลูกไม้สไตล์สาวหวานแบบเฟมินิน จนเกิดความขัดแย้งที่กลับกลายเป็นความงดงามอย่างลงตัว

นอกจากนี้ได้นำเทคนิคเดียวกับการตัดเย็บสูทคุณผู้ชายแบบร้าน Tailor ฝีมือเยี่ยมมาเพิ่มลูกเล่นให้กับคัตติ้ง และแพทเทิร์นผ่านชุดเดรสกึ่งสูททรงสอบที่สามารถใส่ไปงานและไปทำงานได้ รวมไปถึงเดรสแบบที่มีคอร์เซ็ตในตัวทั้งแบบสั้นเท่าเข่า และแบบห้าส่วน อีกทั้งยังมีการนำเสนอเสื้อทูนิค(Tunic) แขนเดี่ยวตัดเย็บด้วยผ้าลูกไม้สุดคลาสสิก ซึ่งสามารถใส่เป็นเดรสสั้น หรือสามารถใส่คู่กับกางเกงลูกไม้คัตติ้งคมสุดเซ็กซี่ได้เช่นกัน

เรื่อง : SRIPLOI
ภาพ : Vatanika

รองเท้าผูกเชือกเซ็กซี่มาแรงนะ รู้ยัง?

พูดเลยว่าฤดูกาลนิ้เป็นช่วงเวลาของรองเท้าผูกเชือกจริงๆ เมื่อเหล่าดีไซเนอร์แบรนด์ดังระดับโลกต่างหยิบยกไอเท็มนี้มาเป็นแอ็กเซสซอรี่ประจำรันเวย์

ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าผ้าใบของ Chanel รองเท้าแตะของ Emilio Pucci และ Antonio Berardi หรือบู๊ทฟรุ้งฟริ้งแสนเก๋จาก Alexander McQueen นี่ยังไม่รวมถึงรองเท้าผูกสายในคอลเลกชั่นใหม่ของ Christian Dior เลยสักนิด ถ้าอยากใส่รองเท้าผูกเชือกให้ดูเรียบแต่เก๋ เราแนะสีโมโนโครมหรือสีนู้ดโดยเฉพาะกับส้นแบน ซึ่งใส่ได้กับทุกสภาพอากาศ รองเท้าทรง Oxford หรืออยากได้ลุคสาวแซ่บต้องใส่ส้นสูง หรือไม่ก็เลือกสีสันตามเทรนด์อย่างเมทัลลิกหรือสีสดใส ส่วนการเลือกเสื้อผ้าให้เข้ากับรองเท้านั้นไม่ยาก เพราะรองเท้าเชือกผูกมีหลายทรง ไม่ว่าจะเป็นกางเกงยีนส์ทรงผู้ชายกับส้นสูง หรือชุดสเว็ตเตอร์ตัวสั้นกับ Oxford ผูกเชือกสีน้ำตาลคลาสสิก ก็เริ่ดทั้งนั้น


Street Fashion


Cole Haan


Lacoste AW2014 Collection


New York Fashion Week


Paris Fashion Week


Street Fashion


Stella McCartney AW2014 Collection


Street Fashion

By N.NADINE

Sanrio Hello Kitty spa…สปาของคนรักคิตตี้

Hello Kitty แมวน่ารักโบว์สีแดงที่สาวๆหลายคนหลงรักตั้งแต่ วัยเด็ก วัยรุ่น จนถึงวัยทำงานก็ยังชอบแมวคิตตี้ทั้งกระเป๋าสตางค์ พวกกุญแจ ผ้าเช็ดหน้า ถ้าหากคุณเป็นแฟนคลับเหนียวแน่นของ Hello Kitty ต้องมาเยี่ยมชม Sanrio Hello Kitty Spa ที่ให้บรรยากาศฟรุ้งฟริ้งของสีสันผสมความน่ารักของแมวน้อยที่ตกแต่งภายในสปา แค่เดินชมก็เพลิดเพลิน และดียิ่งกว่าถ้าได้ลองทรีตเม้นท์

เมนูสปาของที่นี่มีหลากหลาย ดิฉันเลือก Hello Kitty Dream Body Massage ซึ่งเป็นการนวดตามกรุ๊ปเลือด โดยเลือกน้ำมันที่มีความเหมาะสมของสภาพผิว และกรุ๊ปเลือดนั้นๆ สำหรับดิฉันเลือดกรุ๊ปโอ แต่ชอบกลิ่นของน้ำมันหอมที่ออกแนวดอกไม้ของกรุ๊ปบี ก็สามารถใช้ได้ ถ้ากลิ่นหอมทำให้รู้สึกสบายใจและผ่อนคลาย เพราะคุณสมบัติของน้ำมันคัดสรรจากส่วนผสมธรรมชาติและซึมซาบง่าย ทำให้ผิวกายอ่อนนุ่มดุจได้รับการบำรุงอย่างแท้จริง

สำหรับศาสตร์การนวด เธียราปีสจะเน้นนวดดีท็อกซ์ โดยเฉพาะจุดของต่อมน้ำเหลือง ถ้าจะให้ผลดีควรทำควบคู่กับ Seaweed mud Detoxifying โดยใช้ครีมมาส์กผสมสาหร่ายทาบริเวณแผ่นหลังให้สัมผัสที่อุ่นๆ และรู้สึกว่าเนื้อครีมแตกตัวขณะทำปฏิกริยากับผิว มาส์กไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อกำจัดของเสียที่คั่งค้าง รวมถึงเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ ลดการอุดตันของไขมัน และการเกิดสิวบริเวณแผ่นหลังได้ด้วย

หลังเสร็จจากทรีตเม้นท์ รู้สึกได้ถึงเนื้อตัวเบาสบาย ผิวนุ่มหอมกรุ่น ดิฉันจิบชาร้อนกับคุ๊กกี้คิตตี้ที่เธียราปีสเตรียมไว้ให้ และใช้เวลาช่วงนี้ถ่ายภาพเก็บไว้ แต่ละมุมตกแต่งด้วยโทนชมพูที่ให้พลังอบอุ่น สบายตา และนึกย้อนไปถึงวัยเยาว์ เพราะใครๆก็ชอบคิตตี้


ที่นี่ยังมีทรีตเม้นท์ผิวหน้า สปามือเท้า เพ้นท์เล็บลวดลายน่ารักโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ถ้ารักคิตตี้ ต้องมาลองสปาของคิตตี้ ถึงจะเรียกว่าแฟนตัวจริง


Treatment : Hello Kitty Dream Body Massage (60 นาที/ 2,200 บาท) Seaweed Mud Detoxifying (30 นาที/1,000บาท)

Sanrio Hello Kitty Spa ชั้น LG สยามสแควร์วัน โทร 02-115-1335-9 ต่อ 13 (เวลา 10.00 น-21.00 น)

เรื่อง : pattra

The Essence of burgundy

ในลุคทรงพลังกรูมมิ่งแบบโททัลลุคในโทนสีแดงทั้งแฟชั่นชิ้นบนและล่าง หรือจะอัพเลเวลลุคให้เท่ขึ้นด้วยการแมทช์กับแฟชั่นสีดำ ในทางกลับกัน ถ้าอยากปรับลุคให้ซอฟต์ลงแมทช์กับสีขาว

LOOK 1

เสื้อ edc 1,990 บาท
แจ็กเก็ตหนัง ZARA 4,950 บาท
กระโปรง Miss Selfridge
1,590 บาท
หมวก Ping Ping 790 บาท


LOOK 2

เดรส Miss Selfridge 2,400 บาท
เสื้อคลุม Stradivarius 1,590 บาท
หมวก Ping Ping 790 บาท
รองเท้าบู๊ตหนัง Stradivarius 2,450 บาท

LOOK 3

เสื้อกั๊กขนเฟอร์ Stradivarius 1,950 บาท
กระโปรง TOPSHOP 1,450 บาท
ผ้าพันคอ Stradivarius 650 บาท
รองเท้า Charles & Keith 2,590 บาท

LOOK 4

จั๊มป์สูทขายาวพิมพ์ลาย Miss Selfridge1,890 บาท
หมวก Ping Ping 790 บาท
กระเป๋าเป้หนัง Accessorize 1,990 บาท
รองเท้าบู๊ตหนัง Stradivarius 2,450 บาท

LOOK 5

เดรส ZARA 1,450 บาท
เสื้อโค้ตแขนกุด ZARA
2,650 บาท
ผ้าโพกผม Massimo Dutti
1,050 บาท
สร้อยคอ Accessorize
950 บาท
รองเท้า Charles & Keith
2,650 บาท

Where to shop :

Charles & Keith ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์ โทร. 0-2613-1170,
ชั้น 2 สยามเซ็นเตอร์ โทร. 0-2658-1133 TOPSHOP ชั้น 1
โซนบคี อน เซ็นทรลั เวลิ ด ์ โทร. 0-2613-1660, ชั้น 3 เซน็ ทรัล
ชิดลม โทร. 0-2255-4013 Miss Selfridge ชั้น 1 โซน
เอเทรียม เซ็นทรัลเวิลด์ โทร. 0-2613-1703, ชั้น 3 เซ็นทรัล
ชิดลม โทร. 0-2254-3600 Accessorize ชั้น 1 เซ็นทรัล
เวิลด์ โทร. 0-2613-1443 Ping Ping ชั้น 1 สยามสแควร์วัน
โทร. 08-9011-6999, 08-1782-1199 ZARA ชั้น 1 สยาม
พารากอน โทร. 0-2610-9860 Massimo Dutti ชั้น 1
เซ็นทรัลเวิลด์ โทร. 0-2652-0740 – 1 Stradivarius ชั้น 1
เซ็นทรัลเวิลด์ โทร. 0-2250-7835 edc ชั้น 2 สยามเซ็นเตอร์
โทร. 0-2610-5506

Kurt Geiger ส่งตรงความเก๋จากลอนดอนมาไทย

อวดโฉมรองเท้าคอลเลกชั่น “Autumn/Winter 2014” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ชื่อดังในปี 1973 เรื่อง “Don’t Look Now” ที่ใช้สีแดงในการถ่ายทอดเรื่องราวของตัวละครหลักจนเป็นเอกลักษณ์ให้ทุกคนจดจำและยังเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์หลัก “Red is the new Black”

โดยคอลเลกชั่นใหม่ได้นำสีแดงมาใช้เป็นธีมหลักในการออกแบบลายปริ้นต์และเท็กซ์เจอร์ต่างๆลงบนรองเท้าที่ถ่ายทอดคาแรคเตอร์ของสาวสไตล์ Kurt Geiger ผู้ชื่นชอบความโก้หรูแบบอังกฤษและแฝงไว้ด้วยความหลงใหลในมนตร์เสน่ห์แห่งแฟชั่นแบบยุโรปได้อย่างชัดเจน อาทิ รองเท้าผูกเชือกประดับคริสตัล สลิปเปอร์ตกแต่งกลิตเตอร์ระยิบระยับ สะท้อนถึงสายน้ำอันสวยงามของ The Grand Canal แห่งเวนิส รองเท้าหนังแกะสีน้ำตาล รองเท้าหนังกำมะหยี่สีเอิร์ธโทน รวมถึงไฮไลท์เด่นของคอลเลกชั่นนี้อย่างรองเท้าส้นเข็ม (Britton) ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยคอนเซ็ปต์ “Design in Britain, Made in Italy”



ในส่วนของรองเท้าสำหรับสุภาพบุรุษมาในคอนเซ็ปต์ “Designed in Britton, made in Britain” โดยรองเท้าทุกคู่จะถูกดีไซน์ที่ลอนดอนและผลิตขึ้นในเมืองนอร์ทแธมป์ตัน ผ่านการใช้เทคนิค “Gentlemen’s Corner” ซึ่งเป็นนวัตกรรมการผลิตส้นรองเท้าผู้ชายรูปแบบหนึ่งโดยตัดแต่งมุมด้านในของพื้นรองเท้าให้อ่อนนุ่ม โดยเลือกใช้สีสันที่แตกต่างกันอย่าง สีแดงและสีเขียว และยังได้แรงบันดาลใจมาจากฉากต่างๆในเมืองเวนิส และบรรยากาศของชนบทกรุงลอนดอนอีกด้วย

ภาพ : Kurt Geiger

Countdown to…Getting Gorgeous สวยให้ทัน วันวิวาห์

account_circle
           ทันทีที่เซย์เยสตอบรับคำขอแต่งงาน ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายอาจจะยังวางแผนไม่ถูกว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรดีเพื่อเป็นเจ้าสาวสุดเพอร์เฟ็กต์WE ขอเป็นตัวช่วยด้วยการจัดเช็กลิสต์มาให้เริ่มเตรียมความสวยกันให้พร้อมตั้งแต่วันนี้

 
12 – 9 เดือนก่อนวันแต่งงาน
           1. วางงบสำหรับเสริมสวย เริ่มวางแผนว่าจะทำอะไรบ้าง เช่น ทำทรีตเมนต์ ลดหุ่น กระชับสัดส่วน ทำผม ทำเล็บ ฯลฯ
           2. หากอยากเข้าคอร์สเจ้าสาวอย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินใจจัดเต็ม หาข้อมูล เปรียบเทียบราคาและถามตัวเองก่อนว่าต้องการปรับส่วนไหนเป็นพิเศษ
           3. หาวิธีแก้ไขข้อบกพร่องของเรา เช่นอยากมีใบหน้าเนียนใสไร้สิวต้องทำอย่างไร อยากลดหุ่นเพื่อชุดแต่งงานหรูหรามีวิธีไหนบ้าง หากอย่างไหนทำได้ด้วยตัวเองโปรดรีบลงมือทำก่อน แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญควรไปขอคำปรึกษาจากสถาบันต่าง ๆ เพื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียและราคาก่อนตัดสินใจ
           4. เตรียมสุขภาพให้พร้อมและเริ่มวางแผนการรับ ประทานอาหารที่ถูกต้อง ลดการดื่มที่มีที่ผสมกาเฟอีน ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 6 – 8 แก้วเพื่อให้ผิวดูสดใสอ่อนกว่าวัย ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น และเป็นการขับของเสียออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี
           5. หาเวลาไปออกกำลังกายใหบ่อยขึ้น เพราะคุณยังมีเวลาอีกเป็นปีก่อนถึงวันแต่งงาน เพื่อรูปร่างที่เพอร์เฟ็กต์ในการลองชุดแต่งงานครั้งสุดท้าย
           6. หาแบบหน้า – ผมที่ชอบเตรียมไว้ และหาข้อมูลเกี่ยวกับช่างแต่งหน้า – ทำผมว่าใครที่เหมาะกับสไตล์ของเรา (กรณีที่อยากจองช่างดัง ๆ ในวันฤกษ์ดีมาก ๆ อาจต้องจองล่วงหน้านานหลายเดือน)
           7. เริ่มดูแลทำความสะอาดผิวหน้าและเติมความชุ่มชื่นให้แก่ใบหน้าด้วยผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับผิว อย่าลืมทาครีมกันแดดและโลชั่นบำรุงผิวกายด้วยนะ ทั้งหมดนี้ควรทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เพราะผิวที่ดีเริ่มต้นจากการดูแลตัวเอง

ผม
           • ยังมีเวลาทดลองทำสีผมใหม่รับวันสำคัญเพื่อหาสีที่เพิ่มออร่าให้แก่ใบหน้าที่สุด
           • เริ่มต้นดูแลเส้นผมให้เจริญเติบโตและแข็งแรงจากภายใน โดยเน้นกินอาหารที่มีโปรตีนและเคราตินสูง เช่น ไข่แดง เนื้อปลแซลมอนและทูน่า หอยนางรมสดสะอาด หรือกินวิตามินประเภทไบโอติน หากเริ่มตั้งแต่ตอนนี้จนถึงวันแต่งงาน สามารถเพิ่มความยาวเฉลี่ยได้มากถึง 14 นิ้ว
           • เล็มผมทุก 4 – 6 สัปดาห์เพื่อป้องกันไม่ให้ผมแตกปลายและช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้น

ฟั​น
           • ไปพบหมอฟันเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่นคราบชากาแฟ หรือหินปูน

มือและเท้า
           • บำรุงมือด้วยการทาครีมทุกวัน
           • หากคุณใส่ชุดแต่งงานแบบสั้นคู่กับรองเท้าเจ้าสาวแบบเปลือย เท้าและนิ้วเท้าอาจเป็นอีกส่วนที่ต้องดูแล เริ่มด้วยการสครับเท้าทุกเดือน ทาครีมบำรุงก่อนนอนเพื่อลดความหยาบกร้าน และอย่าลืมดูแลเรียวขาด้วยโลชั่นเป็นประจำ

8 – 5 เดือนก่อนวันแต่งงาน
           1. ถึงเวลาต้องเริ่มดูแลผิวอย่างจริงจังหาครีมบำรุงดี ๆ ที่เหมาะกับสภาพผิว พยายามล้างเครื่องสำอางให้สะอาด แล้วอย่าลืมโบกมอยส์เจอไรเซอร์ก่อนนอนเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ใบหน้า และขยันมาสก์หน้าให้บ่อยขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่คุณไม่แพ้ประมาณ 3 ครั้ง /สัปดาห์ หากผิวแห้งมากแนะนำให้พกสเปรย์น้ำแร่ติดตัวไว้ฉีดทุกครั้งเมื่อเริ่มรู้สึกว่าผิวแห้ง
           2. จัดระเบียบคิ้วที่รกรุงรังด้วยการหาแบบคิ้วที่เหมาะกับรูปหน้าแล้วเข้าร้านไปจัดการให้เป็นทรง
           3. เริ่มขัดผิวหน้าและผิวกาย อย่าลืมบริเวณข้อศอก มือ และเท้า ทำเป็นประจำ 1 ครั้ง / สัปดาห์
           4. เริ่มทำทรีตเมนต์ทุก 4 – 6 สัปดาห์ทั้งใบหน้าและผิวกาย ถ้าอยากลองคอร์สใหม่ ๆ ให้เริ่มทดลองตั้งแต่ตอนนี้ เพราะหากทำแล้วพลาดยังมีโอกาสฟื้นฟูผิวได้ แต่ทางที่ดีควรบำรุงในแบบที่คุณเคยทำแล้วไม่แพ้อย่างสม่ำเสมอ
           5. เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่อยากลองฉีดโบท็อกซ์ดูสักครั้ง แต่ควรศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนและเลือกรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น (การฉีดโบท็อกซ์จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีด และเห็นผลชัดเจนที่สุดประมาณ 2 เดือนแล้วจากนั้นจะค่อย ๆ กลับสู่สภาพเดิมภายใน 6 – 7 เดือน)
           6. เริ่มกินวิตามินแนะนำให้กินเฉพาะที่จำเป็นและเลือกให้ตรงกับส่วนที่ต้องการจะบำรุงจริง ๆเท่านั้น
           7. ถึงเวลาตัดสินใจเลือกแบบหน้าและผมที่ชอบ รวมถึงช่างแต่งหน้า – ทำผมที่คุณมั่นใจว่าจะแต่งออกมาได้ตรงกับสไตล์ของคุณมากที่สุดแนะนำให้รีบโทรจองตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ
           8. อย่าลืมคุมอาหาร ออกกำลังกาย ดูแลมือและเล็บอย่างต่อเนื่อง
           9. หากต้องการกำจัดขนแบบถาวร (แขน ขาใต้วงแขน) ควรเริ่มทำตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อป้องกันอาการแพ้หรือระคายเคืองในระยะยาว เพราะการรักษาต้องทำอย่างต่อเนื่อง หากเกิดอาการผิดปกติจะได้เปลี่ยนวิธีการทัน

4 – 3 เดือนก่อนวันแต่งงาน
           1. ทำทรีตเมนต์ผม เช่น หมักผม อบไอน้ำหรือทำสปาเพื่อความนุ่มสลวยเงางาม สำหรับเจ้าสาวผมดำถึงเวลาเปลี่ยนสีผมให้อ่อนลงเพื่อเพิ่มมิติให้แก่ทรงผม
           2. หากผิวแพ้ง่าย ไปทำสปาที่ไหนก็ไม่รอดรีบหาหมอรักษาให้หายแล้วใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่เป็นประจำเพื่อความปลอดภัย
           3. เริ่มลดหุ่นและควบคุมอาหารอย่างจริงจังได้แล้ว หากเหงากับการออกกำลังกายคนเดียวก็ชักชวนว่าที่เจ้าบ่าวไปด้วยกัน จะได้กระชับความสัมพันธ์ไปในตัว
           4. หาซื้ออุปกรณ์เสริมความงาม เช่น  แฮร์พีชเครื่องประดับผม หรือเครื่องสำอางที่ชอบเตรียมไว้

2 – 1 เดือนก่อนแต่งงาน
           1. ได้เวลาเติมโบท็อกซ์แล้วค่า
           2. ถ้าอยากดัดผมเพื่อปล่อยสยายในวันแต่งงานก็ถึงเวลาแล้ว!
           3. ยังทันหากคุณจะเข้าคอร์สเจ้าสาวแบบจริงจังและจัดเต็ม แต่ห้ามไปลองของใหม่เด็ดขาดไม่ว่าจะเจ๋งแค่ไหนหรือโปรโมชั่นแสนคุ้ม เพราะหน้าสวย ๆ อาจจะพังได้ในพริบตา จะดีมากกว่าหากดูแลตัวเองด้วยวิธีการที่เคยทำมาไปจนถึงวันแต่งงาน
           4. ดูแลร่างกายและอาหารการกินอย่างระมัด-ระวัง อย่าไดเอตจนทำลายสุขภาพ ควรรับประทานผักผลไม้เยอะ ๆ เพื่อทดแทนพลังงานที่เสียไป
           5.ลองแว็กซ์ขนบริเวณที่ต้องการ เพราะหากเกิดอาการแพ้จะได้หายทัน ใครที่ใส่ชุดเจ้าสาวแบบสั้นอย่ามองข้ามขนหน้าแข้งนะจ๊ะ

3 – 2 สัปดาห์ก่อนวันแต่งงาน
           1. คอนเฟิร์มช่างแต่งหน้า -ทำผมอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าจะไม่ลืมวันสำคัญของคุณ
           2. ตัดผม เล็มผม เติมสีโคนผม หรือทำผมสีเดิมให้ชัดขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย เพราะถ้าทำในช่วงนี้จะช่วยให้ผมมีเวลาเซตตัวและดูสวยเป็นธรรมชาติในวันแต่งงาน จากนั้นห้ามทดลองอะไรใหม่ ๆ โดยไม่จำเป็น เพราะถ้าเกิดพลาดขึ้นมาจะแก้ไขไม่ทัน
           3. ช่วงนี้สามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อรักษาหลุมสิวและแก้ไขรูขุมขนกว้างได้อีกทั้งสามารถเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง IPL Treatment ด้วย AHAซึ่งเป็นการผลักวิตามินเข้าสู่ผิว หรือฉายแสง LED ทั้งใบหน้า แผ่นหลัง ไหล่และแขน เพื่อความขาวเนียน
           4. เริ่มต้นใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกฟันขาวด้วยตัวเองติดต่อกันเป็นเวลา3 สัปดาห์ก่อนถึงวันแต่งงาน ควรหาข้อมูลและวิธีใช้อย่างละเอียด หากไม่สะดวกแนะนำให้พบทันตแพทย์เพื่อจัดการฟันให้ขาววิ้ง (แต่ต้องทุ่มค่าใช้จ่ายไหวนะจ๊ะ เพราะราคาค่อนข้างสูง)
           5. หากคุณมีความเครียดจากการเตรียมงาน ควรหาเวลาไปนวดผ่อนคลายสักนิดจะได้ดูสดใสจากภายใน
           6. Grooming My Groomหากว่าที่เจ้าบ่าวต้องการเปลี่ยนทรงผมควรรีบทำตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อผมจะได้เข้าทรงและไม่ดูแปลกตาในวันงาน

1 สัปดาห์ก่อนวันแต่งงาน
           1. รักษาความชุ่มชื่นของผิวด้วยการใช้โลชั่นที่มีมอยส์เจอไรเซอร์ที่ใช้อยู่เป็นประจำ ไม่ควรทดลองอะไรใหม่ ๆ
           2. ทำทรีตเมนต์หน้าและตัวเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเพิ่มความเปล่งปลั่งพร้อมเผยผิวในวันสำคัญ และหลังจากนี้ควรงดการทำทรีตเมนต์ ขัด นวด พอก เลเซอร์ และหยุดทาครีมที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA หรือครีมที่ทำให้ผิวลอก เช่น ยาแต้มสิวเพราะหากแพ้คงไม่สามารถรักษาได้ทัน
           3. กำจัดขนรอบสุดท้ายเพื่อเก็บรายละเอียดให้เรียบเนียนที่สุด (ถ้าขนขึ้นเร็วให้ทำวันท้าย ๆ ของสัปดาห์ถ้าผิวเซ้นสิทีฟให้ทำต้นสัปดาห์ ผิวจะได้มีเวลาฟื้นฟู)
           4. เตรียมของใช้กระจุกกระจิกที่อาจจะต้องใช้แบบกะทันหันในวันงาน เช่นกระดาษทิชชู กระดาษซับมัน คอตต้อนบัดส์สำหรับเช็ดเวลามาสคาราเปื้อนลิปกลอสหรือลิปบาล์ม แนะนำให้เก็บทั้งหมดไว้ในที่เดียวกันตั้งแต่เนิ่น ๆ และอย่าลืมเตรียมเครื่องประดับที่ต้องการให้พร้อม

2 – 1 วันก่อนวันแต่งงาน
           1. เตรียมเสื้อเชิ้ตไว้ใส่ตอนแต่งหน้า – ทำผม เมื่อถอดเปลี่ยนเป็นชุดแต่งงาน หน้าจะได้ไม่เลอะและผมไม่เสียทรง ขอแนะนำให้ใช้เสื้อสีขาวหรือสีเดียวกับชุดแต่งงาน เพราะสีสว่างจะช่วยเพิ่มแสงสะท้อน ให้ช่างแต่งหน้าออกมาได้ใกล้เคียงกับสีชุดแต่งงานมากที่สุด
           2. สระผมโดยใช้เพียงแค่แชมพูอย่างเดียวในคืนก่อนวันแต่งงานเพราะจะช่วยให้เซตผมได้ง่ายขึ้น
           3. เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวมา กที่สุดด้วยการดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ ทามอยส์เจอไรเซอร์ยี่ ห้อที่ใช้อยู่ ประจำ อ ย่าลืมบำรุงริมฝี ป ากด้ วยลิปบาล์มเพื่อป้องกันริมฝีปากแห้งเป็นขุยในตอนเช้า จบด้วยการทาโลชั่นบำรุงผิวกาย
           4. ไปทำเล็บให้สวยงามตามสีที่ชอบหรือแบบที่ต้องการ บวกการทำสปาอีกนิด แต่อย่าทำสวยจนขโมยซีนแหวนแต่งงานวงโตของคุณละลดอาหารเค็ม หวาน และเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน รวมทั้งไม่ควรดื่มน้ำเยอะหลังสองทุ่ม เพื่อลดอาการบวมน้ำในวันรุ่งขึ้น
           5. หากคุณใส่ คอนแท็คท์เลนส์เป็นประจำ แนะนำให้ถอดออกตั้งแต่หัวค่ำ เพื่อป้องกันอาการตาแดงหรือระคายเคืองในวันแต่งงาน
           6. พักผ่อนให้ได้ 8 – 10 ชั่วโมง จะได้ตื่นมาสดใสไม่เป็นหมีแพนด้า
           7. อย่าลืมเตือนว่าที่เจ้าบ่าวของคุณให้โกนหนวดเคราให้เรียบร้อยเพื่อใบหน้าอันเกลี้ยงเกลา

 

วันแต่งงาน
           1. ตื่นแต่เช้าแล้วดื่มน้ำแก้วใหญ่ ๆ หากพอมีเวลาลองออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
           2. อาบน้ำให้หอมและสดชื่นก่อนออกจากห้องน้ำอย่าลืมเปิดน้ำเย็นรดตัวเพื่อกระชับรูขุมขน
           3. เผื่อเวลาแต่งหน้า ทำผม แต่งตัว ก่อนงานเริ่มสัก 4 ชั่วโมง
           4. หาอาหารว่างกินรองท้อง หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกากใยมากหรืออาหารที่เสี่ยงต่อการท้องเสีย
           5. ก่อนงานเริ่มทัชอัพอีกครั้งแล้วพรมน้ำหอมก่อนออกไปโชว์ตัว
           6. สุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือ การปล่อยวางและทำจิตใจให้ผ่อนคลาย พร้อมโปรยยิ้มให้กับทุกคนในงาน โดยเฉพาะสุดหล่อที่ยืนอยู่ข้างกาย

Holiday 2014 พาเล็ทสีสันใหม่ ถูกใจบิวตี้เลิฟเวอร์

เตรียมความพร้อมอัพเดทสีสันบนใบหน้ากันอีกครั้ง โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชื่นชอบการแต่งหน้าอยู่แล้ว จะพลาดได้ไง กับคอลเลกชั่นHoliday 2014 ที่ทางSephora ยกทัพพาเล็ทเครื่องสำอางแบบจัดเต็มอีกแล้ว

กลายเป็นอีกแลนมาร์คที่สาวๆ ต้องโฉบเข้าไปหาไอเท็มใหม่ๆ มาแต่งแต้มใบหน้า ซึ่งในช่วงสิ้นปี เลยได้เห็นคอลเลกชั่นเครื่องสำอางจาก Sephora มาปลุกให้สาวมั่นมีสไตล์ทั้งหลายใจจดใจจ่ออยากจะได้มาครอบครองสักชิ้นสองชิ้น

Holiday 2014 มีผลิตภัณฑ์สุดพิเศษมากมาย เช่น Golden Party ที่เต็มไปด้วยสินค้ายอดนิยมอยู่ในแพ็คเก็ตสุดหนูในชุด The Best of Sephora และChroma color อายพาเล็ทสุดชิคที่มีอายแชโดว์ 54 สี อายไลเนอร์แบบดินสอ 12 สี พร้อมแปรงปัด


นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์พิเศษที่ชุด Color Festival บล็อกบัสเตอร์สุดเก๋ดีไซน์เป็นรูปกล่องคลัทช์ที่มีสีให้เลือกถึง 130 สี ประกอบด้วย อายแชโดว์ 72 สี อายไลเนอร์แบบครีม 18 สี บลัชเชอร์ 8 สี ลิปกลอส 28 สี อีก 4 เป็นบลัชออนและลิปสติก

บิวตี้เลิฟเวอร์ทั้งหลาย พลาดไม่ได้นะจ๊ะ…

เรื่อง : SRIPLOI
ภาพ : Sephora

Healthy Food ตัวช่วยลดน้ำหนักได้กว่า 5 กิโลกรัม

สาวคนไหนที่กำลังไดเอตอยู่ ทั้ง T25 หรือวิ่งมินิมาราธอน แรกๆ น้ำหนักก็ลงดี แต่ทำไม๊…ทำไม ไปๆ มาๆ น้ำหนักก็หยุดคงที่ซะอย่างนั้น คำตอบอาจจะอยู่ที่อาหารการกินก็ได้นะคะ วันนี้เราจึงขอนำเสนออาหารที่สาวๆ กินแล้วจะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้กว่า 5 กิโลกรัม มีอะไรบ้างมาดูกันเลย


น้ำเปล่า

ใครจะคิดว่าแค่น้ำเปล่าก็ช่วยให้ลดน้ำหนักได้ เพียงแค่ดื่มน้ำเปล่าแทนเครื่องดื่มอื่นๆ ที่มีส่วนผสมของน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม ชานม โกโก้ กาแฟ หากดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อวัน (8 แก้วต่อวัน) จะช่วยลดน้ำหนักได้มากกว่าคนที่ดื่มน้ำไม่พอ?

ซีเรียล

ซีเรียลในที่นี้ต้องเป็นข้าวโอ๊ต ผลไม้แห้ง ถั่ว น้ำผึ้ง และนม อย่าไปเลือกซีเรียลของเด็กๆ ล่ะ เพราะน้ำตาลเยอะ ซึ่งข้อดีของกินซีเรียลคือ ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานเวลาออกกำลังกายได้มากขึ้นสองเท่า

เมล็ดแฟลกซ์

เมล็ดแฟลกซ์เต็มไปด้วยใยอาหารและไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ นอกจากยังนี้ยังช่วยให้ฮอร์โมนในร่างกายผู้หญิงคงที่ ช่วยเสริมฮอร์โมนเอสโตรเจนได้เป็นอย่างดี

แซลมอน

ใครๆ ก็รู้ว่าแซลมอนมีประโยชน์ แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าแซลมอนช่วยลดน้ำหนักได้! เพราะแซลมอนมีวิตามินดี และแคลเซียมที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จากการสำรวจผู้หญิงวัยสูงอายุพบว่าคนที่กินวิตามินดีกับแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและน้ำหนักขึ้นน้อยกว่าคนปกติ เจ๋งไหมล่ะ?

เกรปฟรุต

แม้จะหากินยากสักหน่อยในบ้านเรา แต่หากได้ยินสรรพคุณแล้วสาวๆ อาจจะอยากหามากินกันบ้างก็ได้ เพราะถ้ากินเกรปฟรุตครึ่งผลก่อนอาหารหลักทุกมื้อจะช่วยให้ขนาดเอวลดลง 1 นิ้ว เนื่องจากเกรปฟรุตช่วยเผาผลาญไขมันได้ นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยวิตามินเอ บี 5 โพแทสเซียม โฟเลต ใยอาหาร และไลโคปีนที่ช่วยต่อต้านมะเร็ง ?

ได้สูตรลับกันไปแล้ว ตอนนี้เหลือแค่มีวินัยต่อตนเอง ถ้าออกกำลังกายและควบคุมอาหารอย่างสม่ำเสมอ รับรองว่าหุ่นสวยๆ และร่างกายแข็งแรง เป็นของคุณสาวๆได้แน่นอน

Source: getloss.com, prevention.com
ที่มา : http://www.chicministry.com/beauty/2014/10/07/healthy-food-helps-lose-weight-5-kilograms

ใส่บูตนุ่งยีนส์ ไอเท็มเท่ๆ เมื่อลมหนาวมาเยือน

กางเกงยีนส์กับรองเท้าบูตไม่ว่าจะหยิบมามิกซแอนด์แมทช์กันเมื่อใด ก็ทำให้การแต่งตัวไม่เคยล้าสมัยเลยสักนิด ตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงหน้าหนาวกันแล้ว จะหยิบ 2 ไอเท็มนี้มาใช้อีกก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

ในช่วงหน้าหนาว นอกจากเสื้อผ้าสไตล์ไหมพรม ขนเฟอร์ ดูจะเป็นที่ถูกอกถูกใจสาวๆ แล้ว ก็มียีนส์นี่แหละ ที่ใส่แล้วได้ทั้งความอบอุ่นและเท่อย่าบอกใคร

สำหรับสาวๆ ที่ชอบใส่กางเกงยีนส์อยู่แล้ว ก็ไม่ยากที่จะปรับลุคให้เข้ากับการแต่งตัวในช่วงอากาศเย็นๆแบบนี้ จากซีซั่นที่ผ่านมาอาจใส่ยีนส์คู่กับรองเท้าผ้าใบ หรือคัทชูส้นแบน หรือส้นสูงจนชิน ลองเปลี่ยนมาใส่บูตหุ้มข้อ หรือบูตทรงสูงที่ยาวขึ้นถึงหัวเข่าคู่กับกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่สีเรียบๆ อย่าง สีน้ำเงินเข้ม หรือสีดำดูบ้าง ก็ทำให้การแต่งตัวดูมีสไตล์เข้ากับซีซั่นนี้แล้วล่ะ

บูตชาแนลกับยีนส์ขาดๆ ดูเท่สุดๆ ไปเลย


ชายขอบขากางเกงยีนส์มีลูกเล่นเก๋ ออกแบบเป็นระบายพริ้ว เข้ากับบูตแบรนด์หรูได้ลงตัวมาก

เรื่อง : SRIPLOI
ภาพ : Pinterest

ชาแนล-มิส ดิออร์ ทำน้ำหอมขวดจิ๋ว น่ารักเว่อร์!

มีอะไรให้เซอร์ไพรส์ตลอดสำหรับแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง ชาแนล และมิส ดิออร์ ล่าสุดทำคอลเลกชั่นเข็มกลัดติดเสื้อขวดน้ำหอมทรงจิ๋วให้ได้ฮือฮากันอีกแล้ว

ขวดน้ำหอมสุดน่ารักขนาดเล็กยิ่งกว่าคุกกี้มาการองนี้ แม้ว่าจะทำขวดให้มีขนาดเล็กแค่ไหน แต่ก็ไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของ แบรนด์ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดการตกแต่งต่างๆ สะท้อนความมีรสนิยมตามแบบฉบับของแบรนด์หรู ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งไอคอนสำหรับคนรักเครื่องหอมไปแล้ว

นอกจากจะมีน้ำหอมที่ส่งกลิ่นอันเย้ายวนให้ชวนหลงใหลบรรจุอยู่ในขวดแล้ว ยังถูกออกแบบให้เป็นเข็มกลัดสำหรับติดเสื้อได้ด้วย คอลเลกชั่นนี้จึงเป็นทั้งน้ำหอม และเครื่องประดับที่ทำให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกอดใจกับความน่ารักไม่ไหว

เรื่อง : SRIPLOI
ข้อมูล/ภาพ : www,trendhunter.com

ส่องเทรนด์ใหม่มาแรง Flash Tattoo สุดวิ้งของสาวๆ ทั่วโลก

ไม่ต้องเจ็บตัวกับการสักก็สวยได้ เพราะวันนี้ขอพามาอัพเดทเทรนด์สุดฮอตกันหน่อยดีกว่ากับ ‘Flash Tattoo’ หรือ ‘Metallic Tattoo’ แบบลอกน้ำสีเมทัลลิก ที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าและเซเล็บ โดยเฉพาะ Beyonce ฮิตติดลมบนสุดๆ เพราะความสวยวิ้งนั้นไม่เป็นรองเครื่องประดับเลยทีเดียว

โดยสีที่กำลังอินในขณะนี้คือ สีทองกับสีเงิน วิธีเล่นก็เหมือนกับแทตทูสมัยเด็กๆ เพียงแค่นำแผ่นแฟลชแทตทูแปะบนผิว ลูบน้ำ ทิ้งไว้สักครู่ แล้วค่อยดึงกระดาษออก เจ้าแทตทูสวยวิ้งก็จะอยู่บนผิวเราไปได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับการดูแลด้วย) ทีนี้ก็พร้อมโชว์ความสวยเริ่ดแบบไม่ต้องพึ่งเครื่องประดับให้เกะกะ เหมาะสำหรับติดไปปาร์ตี้หรือไปลั้นลาริมทะเลเป็นที่สุด สาวคนไหนไม่อยากตกเทรนด์ตามมาดูเลย

โรมิโอ เบ็คแฮม กับงานหนังโฆษณาใหม่แต่แบรนด์เดิม Burberry

ดูท่าสปอตไลท์ของหนุ่มน้อยโรมิโอ เบ็คแฮม ลูกชายคนรองของเดวิดและวิกตอเรีย เบ็คแฮม คงจะวนเวียนอยู่ในวงการแฟชั่นซะแล้วล่ะ เพราะล่าสุดวิดีโอแคมเปญชุด ‘From London with Love’ ที่เพิ่งเผยแพร่พร้อมกันทั่วโลกในวันนี้(4 พฤศจิกายน) ก็มียอดวิวทะลุสองแสน (14.00) ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น และเสียงส่วนใหญ่ก็เทไปข้างกรี๊ดกร๊าดกับความน่ารัก น่าเอ็นดู รวมทั้งสเต็ปเฉพาะตัวที่บอกได้เลยว่า หนุ่มน้อยคนนี้ท่าจะเอาดีในวงการแฟชั่นจริง ก็น่าจะมีแต่คำว่า รุ่ง กับรุ่ง

แม้ก่อนหน้านี้ โรมิโอ เบ็คแฮม จะเคยฝากผลงานถ่ายแบบให้กับโฆษณาของเบอร์เบอรี่ แบรนด์แฟชั่นชื่อดังเมืองอังกฤษ และผลงานครั้งนี้จะเป็นการทำงานภายใต้ศัพท์ “หลังคาเดิม” แต่ด้วยความสวยงามของหนังโฆษณาที่เกิดจากการทำงานของทีม “มืออาชีพ” ที่มีกลไกหลักคือ มร.คริสโตเฟอร์ เบย์ลี่ย์ ซีอีโอของแบรนด์ ซึ่งได้จัดให้ฉากของวิดีโอแคมเปญชุดนี้เป็นเสมือนฉากโรงละครในกรุงลอนดอน เพิ่มชีวิตชีวาด้วยมนตร์เสน่ห์ของบรรดานักเต้นรำกว่า 50 ชีวิตที่กำลังร่ายรำและถ่ายทอดเรื่องราวที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุคทองของละครเวที

โดยเนื้อหาของหนังเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีเด็กชายคนหนึ่ง(โรมิโอ)ส่งของขวัญแห่งรักให้กับคู่รักคู่หนึ่ง นำแสดงโดยนางแบบหน้าใหม่สัญชาติอังกฤษ ฮันนาห์ ดอดส์ (Hannah Dodds) และ แอนเดอส์ เฮย์วอร์ด (Anders Hayward) โดยคู่รักคู่นี้เองที่ได้นำพาเด็กชายให้เดินทางเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งความรัก การเฉลิมฉลอง และเทศกาลแห่งการให้ ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์การเชื่อมต่อระหว่างบุคคลทั้งสอง และด้วยความสวยของแสงที่ใช้ในการถ่ายทำ เพลงประกอบสุดไพเราะ รวมทั้งท่าเต้นของนักแสดงทั้งหมดที่ให้อารมณ์โรงละคร จึงทำให้ ‘From London with Love’ เป็นหนังสั้นที่ดูเพลินมากเรื่องหนึ่ง

แต่เหนืออื่นใด ต้องยกย่องให้กับการ “มองขาด” ของเบอร์เบอรี่ ที่ดึงเบ็คแฮมน้อยกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง เพราะแค่ข่าวออกไป ผู้คนก็ตั้งตารอ พิสูจน์จากยอดวิวทะยานไกลได้

แฟชั่นหวาน แบบสาวในนิทาน

ซีซั่นนี้เสื้อผ้าบนรันเวย์ระดับโลกจากหลายแบรนด์ทำให้เราหวนนึกถึงตัวละครในนิทานสมัยวัยเด็กที่คุ้นเคยกันดี และนั่นทำให้เราคาดการณ์ได้ว่า กระแสแฟชั่นชุดมุ้งมิ้งสไตล์สาวจากนิยายจะเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรงแน่นอน

ไม่ว่าจะเป็นลวดลายใบไม้ใบหญ้าของป่าต้องห้าม ลายสิงสาราสัตว์น้อยใหญ่ หรือหนูน้อยหมวกแดงกับสุนัขจิ้งจอก จาก Fendi ขณะที่ Valentino และ Alexander McQueen ต่างสร้างมนต์สเน่ห์แห่งสาวช่างฝันด้วยการประดับประดาลายปักผีเสื้อแบบ 3 มิติและชุดผ้าลูกไม้บางเบา ส่วน Dolce & Gabbana เลือกเป็นตัวแทนแห่งสาวทิงเกอร์เบลล์ในยุคกอธิคด้วยชุดลายดอกลากพื้น แม้อารมณ์ของเทรนด์จะดูพื้นๆแต่งานดีเทลคือหัวใจ เพราะเสน่ห์ของชุดแนวนี้คืองานฝีมือทั้งด้านเทคนิคและเนื้อผ้าที่มีผิวสัมผัสแปลกมือนั่นเอง


Alberta Ferretti AW2014 Collection
Credit: Indigital


Dolce & Gabbana AW2014 Collection
Credit: Indigital


Etro AW2014 Collection
Credit: Indigital


Rodarte AW2014 Collection
Credit: Indigital


Valentino AW2014 Collection
Credit: Indigital

By N.NADINE

เครื่องแต่งกาย ไออุ่นห่มดีไซน์จาก COACH

STUART VEVERS ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายสร้างสรรค์คนใหม่ของ COACH นำเสนอ COACH FALL 2014

Boyfriend Shirt เทรนด์นี้ไม่เคยล้าสมัย

ยังจำแฟชั่นกางเกงยีนส์ของแฟนหนุ่มกันได้ไหม มีช่วงหนึ่งที่สาวๆ หลายคนนิยมใส่กางเกงยีนส์ตัวใหญ่ๆ เหมือนของผู้ชาย ล่าสุดได้วนกลับมาเป็นแฟชั่นเสื้อเชิ๊ตแฟน หรือเชิ้ตขนาดโอเว่อร์ไซส์แล้ว แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่าควรจะหยิบจับเสื้อโอเวอร์ไซส์มาแมตช์กับเสื้อผ้าที่มีอยู่อย่างไร ลองชมภาพต่อไปนี้บางทีอาจได้ไอเดียใหม่ๆ ในการแต่งตัว

เท่าที่สังเกตสไตล์การแต่งตัวของผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบเน้นใส่เสื้อผ้าที่มีขนาดพอดีกับรูปร่าง หรือไม่ก็ฟิตเปรี๊ยะไปเลย ซึ่งบางคนใส่แล้วก็ใช่ว่าดูดี แล้วยิ่งถ้าใส่แบบเดิมทุกวันคงดูน่าเบื่อไม่ใช่น้อย ลองเปลี่ยนมาหยิบเสื้อแฟน เสื้อพ่อ หรือเสื้อที่มีขนาดโอเวอร์ไซส์มาใส่จะช่วยเปลี่ยนลุคของคุณให้ดูแปลกตา และโดดเด่นมากยิ่งขึ้น แถมยังสวมใส่สบาย ไม่อึดอัด นับเป็นเทรนด์การแต่งตัวแนวๆ สำหรับสาวที่ไม่ชอบเหมือนใคร แถมยังช่วยเปลี่ยนลุคให้ดูน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว


เมื่อเสื้อเชิ๊ตตัวใหญ่แล้ว ควรจับคู่กับกางเกงรัดรูป สกินนี่ หรือกางเกงขาสั้น ไม่ควรใส่กับกางเกงตัวใหญ่ๆ เพราะจะทำให้คุณกลายเป็นฮิปฮอปเกิร์ล แถมดูตัวใหญ่ขึ้นอีกด้วย

ถ้าเสื้อลาย กางเกงก็ควรเป็นสีพื้น หรือถ้าเสื้อเชิ๊ตสีเรียบจะใส่กับกางเกงลายๆ หรือสีเรียบด้วยกันก็ได้ ไม่ควรลายไปทั้งตัว แต่ทั้งนี้ หากคุณมั่นใจว่าจับคู่ลายได้สวยเก๋แล้ว จะใส่ลายชนลายก็ได้ไม่ว่ากันจ้า

การใส่เครื่องประดับเล็กๆ เช่น สร้อยคอน่ารักๆ หรือใส่กำไลข้อมือกับแหวนเยอะๆ จะทำให้แฟชั่นเสื้อเชิ๊ตแฟนหนุ่มดูเปรี้ยวเก๋ขึ้นหลายเท่า

เรื่อง : apinya
ภาพ : pinterest

keyboard_arrow_up