Luxury
จากความงดงามของ บ้านริมคลอง สู่ ‘จิม ทอมป์สัน แฟล็กชิปสโตร์ แห่งแรก ณ สยามพารากอน
‘จิม ทอมป์สัน’ เปิดแฟล็กชิปสโตร์ แห่งแรก ณ สยามพารากอน ใครที่ชื่นชอบสินค้าผ้าไหมคุณภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของ ‘จิม ทอมป์สัน’ ต้องห้ามพลาดมาเยือนแฟล็กชิปสโตร์แห่งแรก ภายใต้การตกแต่งที่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกเหมือนหายเข้ามาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก “บ้านริมคลอง” ของ มร.จิม ทอมป์สัน ซึ่งมีความงดงาม และถูกถ่ายทอดออกมาเป็นพื้นที่ 2 ส่วน ด้านหน้าตกแต่งด้วยต้นไม้แบบสวนเมืองร้อน โดดเด่นด้วยม่านผ้าไหมสีเขียวตัดกับสีดำ และสีน้ำตาล ของไม้ ส่วนด้านในเน้นการตกแต่งที่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว แบ่งเป็นโซนสินค้าตกแต่งบ้าน โซนเสื้อผ้า Ready-to-wear สำหรับคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย พร้อมด้วยกระเป๋า ผ้าพันคอ เนคไท เปิดประสบการณ์การชอปปิ้งลักชัวรี่แบรนด์ที่ไม่ซ้ำใครได้ที่ Jim Thompson Flagship Store ชั้น M โซน North สยามพารากอน https://goo.gl/VRehXk#JimThompson #JimThompsonFlagshipStore #JimThompsonSiamParagonStore
สร้างขวัญกำลังใจให้เกษตรกร พระองค์ติ๊ด ทรงร่วมลงแขกเกี่ยวข้าว ฟ้อนรำกับชาวบ้าน
เป็นประเพณีไทยสืบทอดมาแต่โบราณ สำหรับประเพณีทำขวัญข้าว ที่มักจะจัดงานขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนของทุกปี โดยปี 2560 นี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ หรือ พระองค์ติ๊ด พระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จไปทรงร่วมพิธีทำขวัญข้าวและประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวกับชาวนาที่ จ.สุรินทร์
ช่วยกันสวดมนต์ให้ข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าคงจะดีขึ้น พระราชดำรัส “เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ”
เมื่อวันอาทิตย์ (12 พ.ย.60) ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสดูข่าวในพระราชสำนักขณะที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ตรัสว่า “ขอความกรุณาว่า..ช่วยกันสวดมนต์ให้ข้าพเจ้าด้วย” ซึ่งประจวบเหมาะกับที่เพจ ที่ตรงนี้ มีกำลังใจ โดย กลุ่มจิตอาสา ใต้ร่มพระบารมี ได้โพสต์ข้อความที่ ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ ได้ตรัสไว้ครบถ้วน แพรวดอทคอม จึงขออนุญาตนำมาแชร์ต่อ เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมช่วยกันสวดมนต์เพื่อพระองค์ท่านฯ โดยใจความที่พระองค์ได้ตรัสไว้ มีดังนี้ “เป็นห่วง คิดถึงชาว พอ.สว.มาก ยังไม่อยากทิ้งไป ข้าพเจ้า ถ้าข้าพเจ้าทำได้ ถ้ามันอยู่ในอำนาจของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ไม่อยากจากพวกท่านไป ข้าพเจ้ามาทำงาน พอ.สว. นี่ก็ 8 ปีแล้ว แต่ข้าพเจ้าก็ยังรู้สึกว่ามันยังน้อยไป น้อยไป ข้าพเจ้าก็ทราบว่า พี่น้องชาว พอ.สว. ทุกคนก็เมตตาต่อพี่มาก พี่น้อง พอ.สว.ช่วยกันสวดมนต์ให้ข้าพเจ้าหายดี ข้าพเจ้าคงจะดีขึ้น ก็ขอความกรุณาว่า ช่วยกันสวดมนต์ให้ข้าพเจ้าด้วย เพราะว่ายังไงๆ ข้าพเจ้าก็ยังอยากทำงานกับ พอ.สว. อยากอยู่กับมูลนิธิ พอ.สว. อีกต่อให้นานๆ… ” พระราชดำรัส สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี โรงเรียนหนองบัวพิทยาคาร ตำบลลำภู อำเภอเมืองหนองบัวลำภู […]
เปิดกรุไอเท็มสุดหรู 14 งานศิลป์จาก ‘Piaget’ ล้ำค่า ดีไซน์เฉพาะตัว
เครื่องประดับเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่จะทำให้ลุคของสาวๆ ดูสวยเด่นและเปล่งประกาย ถ้าเลือกเครื่องประดับดี ต่อให้แต่งตัวธรรมดาก็ดูดีได้ไม่ยาก วันนี้แพรวดอมคอมเลยพาสาวๆ มาทำความรู้จักกับผลงานเครื่องประดับสุดล้ำค่า อย่างกำไลข้อมือและนาฬิกาสุดหรูจากแบรนด์ เพียเจต์ (Piaget) กัน เพื่อที่สาวๆ จะได้นำไปปรับลุคตามสไตล์ตัวเอง ปีนี้ เพียเจต์ (Piaget) คงเดินหน้าสานต่อความเรืองรองทางประวัติศาสตร์อีกครั้งกับเรื่องราวของกำไลข้อมือและเรือนเวลาแบบกำไล หรือ มองแช็ตต์ (Manchette) ตามชื่อเรียกแบบฝรั่งเศส ที่นำท่านร่วมดื่มด่ำไปกับศาสตร์และศิลป์อันเชี่ยวชาญ ก่อนรังสรรค์ออกมาเป็นผลงานล้ำค่าที่แฝงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัว 14 งานศิลป์แห่งยุคที่ผสานหลากเทคนิคอันเชี่ยวชาญไว้ได้อย่างน่าประทับใจ เริ่มต้นจาก ศาสตร์แห่งการทำทองด้วยมือ ที่สะท้อนถึงการแสดงออกอันมุ่งมั่นของช่างฝีมือจากรุ่นสู่รุ่นกับหลากเทคนิคอันเลื่องชื่อ อาทิ Palace Decor หรือ การแกะสลักทองแบบปาลาซ ก่อเกิดเป็นลวดลายอันวิจิตรแปลกตาราวกับเส้นไหมที่ถักทอเข้าด้วยกัน มอบประกายแสงที่ดูอ่อนช้อยเสมือนจริง ดังเช่นปรากฏในตัวแทนจากหลากคอลเล็คชั่นชั้นนำอย่าง Manchette Story collection (G36M7100) กำไลข้อมือประดับสปิเนลโทนสีแดง 7.18 กะรัต จากแทนซาเนีย ที่มาพร้อมกับความสดใสของสีฟ้าครามจากทัวร์มาลีนพาไรบาบนตัวเรือนพิ้งค์โกลด์ หรือ Manchette Story collection (G36M7000) กำไลข้อมือตัวเรือนไวท์โกลด์ 18 กะรัต โดดเด่นด้วยมรกตทรงหมอน 3.59 กะรัตจากโคลัมเบีย ประดับมาลาไคท์และคริโซเพรสสีเขียวที่เจียระไนจนได้แผ่นบางหลากรูปทรง จัดวางแบบกระจายตัวจนเกิดเป็นเส้นสายที่สื่อถึงรัศมีอันเจิดจรัส […]
ค่ำคืนนี้หากเห็นกระทงสีเหลืองลอยตามน้ำคงอดคิดถึง ในหลวงรัชกาลที่๙ ไม่ได้เอย
แม้จะผ่านมากว่าหนึ่งอาทิตย์ นับจากวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่๙ พระผู้เสวยสวรรค์ แต่ค่ำคืนนี้ดวงใจไทยหลายๆ ดวง คงกำลังคิดถึงพระองค์อยู่ ยิ่งหากได้เห็นกระทงสีเหลืองลอยมาตามลำน้ำ อาจทำให้ถึงกับน้ำตาหลั่ง เพราะคิดถึง ในหลวงรัชกาลที่๙ ขึ้นมา เพราะเมื่อครั้งที่พระองค์ยังทรงมีพระชนม์ชีพ ทรงให้ความสำคัญกับประเพณีลอยกระทงนี้ยิ่งนัก ดังปรากฏภาพพระบรมฉายาลักษณ์ขณะที่พระองค์ทรงลอยพระประทีปให้เห็นอยู่เนืองๆ โดยเฉพาะห้วงปีหลังๆ ในพระชนม์ชีพ ภาพที่พสกนิกรมักจะได้เห็นคือพระองค์ทรงจุดพระประทีปที่ประดิษฐ์จากขนมปังสีเหลือง ตามวันพระบรมราชสมภพ เป็นรูปกลีบบัวซ้อน 4 ชั้น แซมด้วยดอกกุหลาบทำจากขนมปัง ซึ่งวิทยาลัยในวังหญิง ประดิษฐ์ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฯ จนกลายเป็นภาพจำของปวงชนชาวไทยว่า กระทงสีเหลืองคือพระประทืปประจำพระองค์ ปี 2552 ปีแรกที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จฯแปรพระราชฐานจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐานไปโรงพยาบาลศิริราชเพื่อให้คณะแพทย์ถวายการรักษา ในคืนลอยกระทง 2 พฤศจิกายน พระองค์เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ลงจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 16 โรงพยาบาลศิริราช มายังท่าน้ำภายในโรงพยาบาล เพื่อทรงลอยพระประทีป ในการนี้ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนร่วมเฝ้ารับเสด็จฯ ด้วย วันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร […]
คิงจิกมี และควีนแห่งภูฎาน กับฉลองพระองค์หลากสไตล์ที่ล้วนทรงงามสง่าสมกัน
ปกติเรามักเห็น คิงจิกมี และควีนแห่งภูฎาน ในฉลองพระองค์ชุดประจำชาติ ซึ่งก็ต้องบอกว่าทรงได้งามสง่าเหลือเกิน และที่ปฏิเสธไม่ได่คือการที่ทั้งสองพระองค์ทรงจนเป็นพระคาแร็คเตอร์ประจำ นัยหนี่งจึงเท่ากับเป็นการประชาสัมพันธ์ให้คนทั่วโลกสนใจประเทศขุนเขาแห่งนี้เพิ่มมากขึ้น และใครก็ตามที่มีโอกาสไปเยือนภูฎานคงได้ประจักษ์แก่สายตาตัวเองว่า ชุดประจำวันของชาวภูฏานที่เขาใส่กันทุกวี่ทุกวันนั้นก็คือชุดประจำชาติภูฏานนั่นเอง ทั้งนี้ก็เพราะรัฐบาลภูฎานรณรงค์ให้ประชาชนใส่ชุดประจำชาติเป็นชุดประจำวัน โดยมีสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน และสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก ทรงให้เห็นเป็นแบบอย่าง และภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่คนทั่วโลกจดจำกันได้แม่นยำก็คือวันที่ทั้งสองพระองค์ทรงฉลองพระองค์ชุดประจำชาติภูฏานเข้าพิธีราชาภิเษกสมรส เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2554 หลังจากนั้นไ่ม่ว่าจะเป็นในเวลาส่วนพระองค์ หรือเมื่อทั้งสองพระองค์ออกทรงงาน ยิ่งในยามที่ราชวงศ์ต่างประเทศเสด็จเยือนประเทศบนเขาสูงแห่งนี้ ฉลองพระองค์ชุดประจำชาติ ยิ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ประกาศถึงอัตลักษณ์แห่งความเป็นชาติได้ดียิ่ง ชุดประจำชาติภูฏานที่ดูมีเอกลักษณ์สุดๆ นี้ มีรายละเอียดของฝ่ายชายและฝ่ายหญิงแตกต่างกัน ของฝ่ายชายเรียกว่า โก (Kho) ส่วนฝ่ายหญิงเรียกว่า คีร่า (Kira) โดยชุดประจำชาติของฝ่ายชาย ถ้าเป็นการสวมใส่ไปในงานพระราชพิธีหรือในงานพิธีที่เป็นทางการ ต้องมีผ้าพาดไหล่หรือที่ภาษาภูฏานเรียกว่า แกบเน (Kabney) ด้วย ผ้าพาดไหล่นี้มีอยู่หลายสี โดยแต่ละสีบอกถึงชั้นยศและฐานันดรศักดิ์ของผู้ใช้ผ้าพาดไหล่นั้นๆ เช่น สีเหลืองอมส้ม (Saffron) เป็นสีที่ใช้สำหรับพระมหากษัตริย์กับสมาชิกในพระราชวงศ์และพระสังฆราช(เจเคนโป) สีส้มสำหรับรัฐมนตรี สีน้ำเงินสำหรับองคมนตรี สีแดงสำหรับผู้มีบรรดาศักดิ์ที่พระราชาธิบดีทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง สีขาวลายเส้นสีน้ำเงิน สำหรับสมาชิกรัฐสภา สีขาวลายเส้นสีแดงสำหรับหัวหน้าหมู่บ้านและข้าราชการทั่วไป ส่วนทหารใช้ผ้าผืนเล็กสีขาวขลิบริมสีแดง […]
เปิดให้ชมพรุ่งนี้วันแรก! นิทรรศการพระเมรุมาศฯ บันทึกความทรงจำและประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่
หลังจากได้มีการประกาศเปิด นิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงฯ ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ทำดีด้วยหัวใจ… ปอ-ศีกัญญา ลุยซ่อมอุโมงค์ดอกไม้ปากคลองฯถวาย ‘พ่อหลวง’
จัดว่าเป็นสาวไฮโซสาวคุณภาพตัวจริง ปอ-ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์ ทายาทกิจการโรงแรมดัง เรอเนซองส์ ในเครือแมริออท และผู้บริหารแบรนด์ Kilping Thailand ย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน ช่วงที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคตไม่นาน ตอนนั้นประชาชนต่างหลั่งไหลเข้าไปในพื้นที่ท้องสนามหลวงอย่างเนืองแน่น เพื่อรอเข้าสักการะพระบรมศพ หลายคนน่าจะยังจำภาพ สาวปอ ที่ลงลุยเป็นจิตอาสาคอยแจกพัดให้แก่คนที่มารอเข้าแถวยาวสุดลูกหูลูกตาได้ แล้วอีกแพร้บเธอก็ไปถอยรถตุ๊กๆ ออกมาขับบริการรับ-ส่งผู้ที่ต้องการจะเข้าไปในพื้นที่แบบฟรีๆ พอมีคนไม่ยอมนั่งฟรี จ่ายเงินให้ เธอก็นำเงินทั้งหมดนั้นไปมอบให้มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ซึ่งถือเป็นความใจที่น่ายกย่องสุดๆ และล่าสุด ก่อนพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ชาวแม่ค้าปากคลองตลาดรวมตัวกับจิตอาสา ช่วยกันจัดงาน ‘ดอกไม้เพื่อพ่อ’ ถนนดอกไม้ยาว 400 เมตร ช่วงระหว่างวันที่ 21-27 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการถวายสักการะแด่ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ปรากฏว่าหลังจากเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้เพียง 2 วัน อุโมงค์ดอกไม้ที่ทุกแรงกายแรงใจช่วยกันทุ่มเทจัดอย่างสวยงามอลังการก็มีเหตุชำรุดจากจำนวนคนที่เข้าชมเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องประกาศหาจิตอาสาเข้าช่วยซ่อมแซมเป็นการด่วน และหนึ่งในจิตอาสาที่ลงพื้นที่ซ่อมแซมอุโมงค์ดอกไม้ท่ามกลางสายฝนก็คือไฮโซสาว ปอ-ศีกัญญา คนสวยนี่เอง โดยมีคุณสามี กอล์ฟ-ณชนก รัตนทารส คอยช่วยอยู่ข้างๆ บอกตรงๆ ว่าเห็นภาพในไอจีแล้วตื้นตันกับใจที่เธอมีเหลือเกิน ยิ่งอ่านแคปชั่นของภาพๆ นึงที่เธอโพสต์ โอ้ย…น้ำตาปริ่ม “พวกเราจะทำความดีให้มากกว่านี้ พวกเราจะรักและสามัคคีกันไปจนวันสุดท้าย […]
“ฟูก ภูวษา” ผู้อยู่เบื้องหลังพระสิริโฉมของ “พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ” ในงานพระราชพิธีฯ
อย่างที่สาวๆ หลายคนน่าจะทราบว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงโปรดให้ “ฟูก – ภูวษา พรธรรมฉัตร” เป็นช่างแต่งพระพักตร์ประจำพระองค์ เรียกได้ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังพระสิริโฉมอันงดงามในการออกงานพระราชพิธีสำคัญต่างๆ มากมาย ซึ่งหนึ่งในครั้งสำคัญอย่างเมื่อวันที่ (29 ตุลาคม 2560) ที่ผ่านมา คุณฟูก – ภูวษา เมคอัพอาร์ติสต์ฝีมือฉกาจก็ได้มีโอกาสถวายงานแต่งพระพักตร์ พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ ในลุคภายใต้พระสิริโฉมที่งดงาม ทว่าแฝงความแข็งแกร่ง แนวลุคธรรมชาติ ไม่เน้นสีฉูดฉาด มีความสุภาพ แต่พระพักตร์คมเข้มมีมิติ สง่างามสมพระเกียรติมาก เป็นลุคที่เหมาะกับ พันโทหญิงพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ผู้บังคับการกองพันทหารม้าที่ 29 ผู้ทรงม้านำริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่ 6 อัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ไปประดิษฐาน ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดบวรนิเวศวิหาร มากๆ ภาพจาก IG : fookie_beauty / ภาพ : กัญชนิกา เมืองวงษ์,ปัณณวัชญ์ รุ่งพิบูลโสภิษฐ์ เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
น่ารักก็เป็นนะ… ประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดทำเนียบขาวจัดงานเลี้ยงคืนก่อนฮาโลวีน
ใครเคยค่อนขอดว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ชอบฟาดงวงงา หาเรื่องไปทั่วโลก เห็นภาพเซ็ทนี้อาจจะอมยิ้มว่า น่ารักก็เป็นนะ เหตุเกิดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (30 ต.ค.) ประธานาธิบดีทรัมป์ พร้อมด้วยเมลาเนีย ทรัมป์ ภริยา สุภาพสตรีอันดับหนึ่งของสหรัฐ ควงแขนกันออกมาเปิดทำเนียบขาวจัดงานเลี้ยงคืนก่อนฮาโลวีน เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าเยี่ยมชมและฉลองเทศกาลฮาโลวีนร่วมกัน งานนี้มีเด็กและผู้ปกครองเดินทางมายังทำเนียบขาวร่วม 6,000คน โดยโดนัลด์ ทรัมป์ และเมลาเนียออกมายืนต้อนรับเด็กๆ และประชาชนที่บริเวณหน้าทำเนียบขาวด้วยตนเอง และช็อตที่ทำให้ใครเห็นเป็นต้องอมยิ้มก็คือช็อตที่ทรัมป์อยู่ท่ามกลางวงล้อมของเด็กๆ ดูเป็นคุณตาใจดี ลดมาดผู้นำจอมโวยวายไปได้โข อีกเรื่องที่กลายเป็นท็อปปิคชื่นชมของผู้คนคือการได้เห็นบรรยากาศของทำเนียบขาวที่ดูอบอุ่น เป็นกันเอง เพราะถูกตกแต่งด้วยฟักทองแกะสลักและค้างคาวรับร้อยพันตัวให้เข้ากับบรรยากาศเทศกาล รวมทั้งการที่ผู้มาร่วมงานต่างแต่งกายด้วยชุดแฟนซีหลากสีสัน ไม่แน่ว่าผลสำรวจความนิยมครั้งหน้า ทรัมป์และเมลาเนียอาจจะทำคะแนนได้ดีขึ้น ในวงเล็บถ้าไม่พูดกราดเกรี้ยวใส่ใครอีกนะ ภาพ : AP Photo
เปิดผนึก 3 บันทึกถึงฝรั่ง คนไทยรักในหลวงรัชกาลที่๙ ด้วยหัวใจ และไม่ได้ถูกล้างสมอง
เปิดผนึก 3 บันทึกถึงฝรั่ง คนไทยรักในหลวงรัชกาลที่๙ ด้วยหัวใจ และไม่ได้ถูกล้างสมอง
พระองค์ที เสด็จส่วนพระองค์ ทอดพระเนตรริ้วขบวนสุดท้าย
เมื่อวานนี้ (29 ตุลาคม 2560 ) ในการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งได้มีการจัดริ้วขบวนี่ 6 อัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร ไปบรรจุ ณ วัดบวรนิเวศวรวิหาร นั้น พระองค์ที (พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ) ได้เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ เพื่อร่วมชมริ้วขบวนด้วย
โทมนัสอย่างไร แต่ยังอบอุ่นเสมอ รวมภาพประทับใจในหลวงร. ๑๐ และพระบรมวงศานุวงศ์จากงานพระราชพิธีฯ วันสุดท้าย
จบสิ้นลงไปแล้วสำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งพิธีสุดท้ายของวันนี้ (29 ตุลาคม 2560) คือการเคลื่อนของริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วที่ 6 เป็นการอัญเชิญพระผอบพระบรมราชสรีรางคาร ประดิษฐานที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงถือพระผอบพระบรมราชสรีรางคารขึ้นรถยนต์พระที่นั่ง เพื่อบรรจุพระผอบพระบรมราชสรีรางคารของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ตลอดงานพระราชพิธีฯ ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคมเป็นต้นมา ขัตติยมานะ ของเจ้านายทุกพระองค์ถูกเก็บซ่อน ไม่เปิดเผยให้ประชาชนเห็นถึงความอ่อนแอ แต่ในบรรยากาศอันโศกเศร้า เราก็ได้เห็นความอบอุ่นของราชวงศ์จักรีอยู่เรื่อยมา อย่าง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อเสด็จ พระองค์จะทรงรอพระเชษฐภคินี และ พระขนิษฐภคินีอยู่เสมอ หรือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงประคองเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ซึ่งทุกอย่างที่เราได้เห็นทำให้สามารถสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจริงๆ ก่อนงานพระราชพิธีฯ ในวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้าย (29 ตุลาคม 2560) จะจบลง ก่อนที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์จะเสด็จกลับ ก็ทรงพูดคุยกันเล็กน้อย แต่กลับเป็นภาพแห่งความประทับใจที่ชาวไทยได้เห็นแล้วก็รู้สึกปลื้มยิ่งนัก แม้ว่าตอนนี้ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จะได้จากพวกเราชาวไทยไปแล้ว แต่คำสอนของพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ […]
สิ้นขบวนสุดท้าย เสด็จสู่สวรรคาลัย ธ สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ร่วมพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนสุดท้าย ทรงอัญเชิญพระผอบ พระบรมราชสรีรางคารในหลวงรัชกาลที่9 บรรจุ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 60 เวลา 17.30 น.สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับรถยนต์พระที่นั่ง ทรงอัญเชิญพระผอบพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ออกจากพระบรมมหาราชวัง ทางประตูวิเศษไชยศรีไปบรรจุ ณ ฐานพุทธบัลลังก์ พระพุทธอังคีรส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และฐานพุทธบัลลังก์พระพุทธชินสีห์ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร โดยมีขบวนพระบรมราชอิสริยยศริ้วที่ 6 ซึ่งพันโทหญิง พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ องค์ผู้บังคับการกองพันทหารม้าที่ 29 รักษาพระองค์ ทรงม้านำขบวนอย่างสมพระเกียรติ โดยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่ 6 ใช้เส้นทางออกประตูวิเศษไชยศรี เลี้ยวขวาไปตามถนนหน้าพระลาน แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนสนามไชย เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกัลยาณไมตรี ข้ามสะพานช้างโรงสี […]
ความโทมนัส ในพระราชหฤทัยแลพระทัย ใครเล่าจะรู้หรือเข้าใจได้ทั้งหมด
ความโทมนัส ใดเล่าจะสาหัสยิ่งใหญ่เท่าทุกข์จากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ทว่าสังขารมีความเสื่อมฉันใด เกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็เป็นธรรมดาโลกฉันนั้น และแม้ผู้คนจะรู้ถึงสัจธรรมความจริงข้อนี้ ก็ยังยากเหลือเกินที่จะหักห้ามความเศร้าโศกไม่ให้เกิด โดยเฉพาะห้วงเวลาปีกว่าที่ผ่านมา นับจากวันที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จสู่สวรรคาลัย ซึ่งหากเราสามารถแปรความเสียใจเป็นมวลสารหนึ่งก้อน น้ำหนักความเสียใจของลูกหลานไทยครั้งนี้ก็ช่างหนักอึ้งจนเกินบรรยาย คำถามคือ แล้วจะมีสักกี่คนที่รู้หรือเข้าใจถึงน้ำหนักแห่ง ความโทมนัส ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ทรงต้องเผชิญอยู่ หลายครั้งที่เราได้ยินคำว่า… ขัตติยมานะ ทำให้เจ้านายพระองค์นั้นพระองค์นี้ต้องทรงความเข้มแข็ง ต้องไม่ทรงเผยความอ่อนแอให้ประชาชนเห็น ทว่าในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งผ่านพ้นไปแล้วทุกกระบวนการขั้นตอนอย่างสง่างาม สมพระเกียรติสูงสุด แต่ท่ามกลางเสียงร่ำไห้อาดูรของประชาชนที่อยู่ในพระราชพิธีฯพระผู้เสด็จสวรรคาลัย สิ่งที่เกิดขึ้นจากการถ่ายทอดสดด้วยระบบ HD โดยโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย รวมกับการที่โลกขับเคลื่อนด้วยสื่อโซเชียล ก็ทำให้พสกนิกรที่ชมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศอยู่หน้าจอทีวีหรือช่องทางออนไลน์ได้เห็นถึงแววพระเนตรทุกข์ตรม และสีพระพักตร์โศกศัลย์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ เพราะนับจากวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 ซึ่งเป็นวันที่ไทยต้องสูญเสีย ‘พ่อแห่งแผ่นดิน‘ วันนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ก็ต้องทรงสูญเสีย ‘ทูลกระหม่อมพ่อ ทูลกระหม่อมปู่ หรือทูลกระหม่อมตา’ เช่นกัน เทียบกับยามที่เราอ่านพบว่า ในหลวงรัชกาลทื่ ๙ เคยทรงเปล่งสัจจะวาจาไว้ว่า “ไม่ต้องจำว่าฉันคือใคร […]
“เหรียญทรงงาน” น้อมรำลึกถึงในหลวง ร.9 รายได้สมทบทุนสร้างศูนย์แพทย์เพื่อผู้สูงอายุ
เพราะแพทย์ยังต้องอยู่คู่รักษาคนไทยไปอีกนาน จึงเกิดโครงการ “เหรียญทรงงาน” โดยสมาคมคนไทยเชื้อสายจีนขึ้น โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายนี้จะนำไปสมทบทุน สร้างศูนย์การแพทย์ศาสตร์และการเรียนรู้เพื่อผู้สูงอายุ
ริ้วขบวนพระอิสริยยศที่ ๕ อัญเชิญพระบรมอัฐิประดิษฐานพระวิมาน ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
วันนี้ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ ซึ่งถือเป็นวันที่พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ในช่วงบ่ายที่ผ่านมาก็ได้มีการอัญเชิญพระบรมอัฐิประดิษฐานพระวิมาน ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชานุญาต ปชช. เฝ้ารับเสด็จ 29 ต.ค.นี้
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ด้านกองอำนวยการร่วมงานพระราชพิธีฯ แจ้งปิดการจราจรตั้งแต่15.00 น.เป็นต้นไป การพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้เข้าสู่ขั้นตอนพิธีสุดท้ายเหลือเพียง อัญเชิญพระบรมอัฐิ พระบรมราชสรีรางคาร บรรจุ ณ ฐานพุทธบัลลังก์พระพุทธอังคีรส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และฐานพุทธบัลลังก์พระพุทธชินสีห์ วัดบวรนิเวศวิหาร ล่าสุดกองอำนวยการร่วมงานพระราชพิธีฯ (กอร.พระราชพิธีฯ)แจ้งว่าในวันที่ 29 ต.ค.60 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จตลอดเส้นทาง อย่างไรก็ตามสำหรับกำหนดการนั้น กอร.พระราชพิธีฯ แจ้งว่าในวันที่ 29 ต.ค.60 ตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป กองบังคับการตำรวจจราจร จะปิดการจราจรระดับ 2 จำนวน 27 เส้นทาง ซึ่งเป็นเส้นทางของริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วที่ 6 คือการอัญเชิญพระผอบพระบรมราชสรีรางคารของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จาก พระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ไปบรรจุที่ฐานพุทธบัลลังก์พระพุทธอังคีรส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และใต้ฐานบัลลังก์พระพุทธชินสีห์ พระประธานพระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร ตามเส้นทาง ดังนี้ 1.ถนนหน้าพระลาน […]