การรับมือกับ ‘ภาวะเครียด’ ทั้งก่อนและหลัง ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
ปฏิกิริยาเครียดสนองตอบต่อการฉีดวัคซีน Immunization Stress Related Response (ISSR) เป็นปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นจากจิตใจที่มีความวิตกกังวล และแสดงออกมาทางร่างกาย ซึ่งเกิดขึ้นได้และมีอาการไม่เหมือนกันในแต่ละคน เมื่อมีความเครียดต่อการฉีดวัคซีน ก็จะไปกระตุ้นระบบต่างๆ ในร่างกาย บางคนไปกระตุ้นระบบฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความเครียด (stress hormone) เช่น ฮอร์โมนคอร์ติซอล และหากไปกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติก (Sympathetic Nervous System) ก็จะทำให้หลอดเลือดหดตัว
รู้ได้อย่างไรว่ามี ภาวะเครียด ISRR
อาการของ ISRR พบได้หลากหลาย โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นเร็วภายในไม่กี่นาทีหลังการฉีดวัคซีน แต่อาจมีบางรายเกิดช้า เป็นชั่วโมงหรือเป็นวันภายหลังการฉีดวัคซีน เมื่อตรวจภาพรังสีวิทยาของสมอง (Neuroimaging study) จะไม่พบพยาธิสภาพที่ชัดเจน และอาการมักจะหายไปภายใน 1-3 วัน ภาวะ ISRR มักเกิดในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และพบมากในผู้ที่อายุน้อยและผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก
อาการที่สงสัยว่ามีภาวะเครียด ISRR
- มีอาการชาอย่างเดียว
- ปวด เสียว ชา หรือ แปล๊บๆ ตามแขนขา ชารอบปาก
- พูดไม่ชัดอย่างเดียว
- Transient abnormal movement เช่น เกร็ง กระตุก
- ง่วง
- อ่อนแรง หรืออ่อนเพลีย
- มึนหรือเวียนศีรษะ
- ตามัว
เมื่อพบว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนมีอาการดังกล่าว แพทย์จะตรวจร่างกายอย่างละเอียด วัดสัญญาณชีพ หากพบความผิดปกติที่มีอาการเข้าได้กับโรคหลอดเลือดสมอง เช่น ชา อ่อนแรง ปากเบี้ยว จะให้การรักษาตามระบบ Fast Track ของโรคหลอดเลือดสมอง หากไม่พบความผิดปกติ หรือสงสัยภาวะ ISRR ก็จะให้การรักษาตามอาการ อาการที่เป็นจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายได้เอง แนะนำให้พักและผ่อนคลาย เมื่ออาการดีขึ้นก็สามารถกลับบ้านและใช้ชีวิตได้ตามปกติ
การรับมือกับอาการเครียดสนองตอบต่อการฉีดวัคซีน ISSR
- อยู่ในที่ที่มีการถ่ายเทอากาศ ไม่ร้อนอบอ้าวจนเกินไป
- คืนก่อนฉีดวัคซีน ควรนอนหลับให้เพียงพอ ไม่เครียด
- หากพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่หลับ หรือมีอาการเจ็บป่วย วิตกกังวล หรือเครียด อาจเลื่อนนัดการฉีดวัคซีนออกไปก่อน
- รู้เท่าทันอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ปวดบริเวณที่ฉีด หรือมีไข้ หรือบางคนอาจมีอาการเพลีย อ่อนแรง หรืออาการอื่นๆ ได้ อาการข้างเคียงจะมีมากน้อยแตกต่างกัน โดยอาการมักจะหายไปได้เองภายใน 1-3 วัน โดยไม่มีอันตรายใดๆ
- รอสังเกตอาการ 30 นาที หลังฉีดวัคซีน
หลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วพบว่ามีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- ไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะรุนแรง
- เหนื่อยแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก หรือหายใจไม่ออก
- อาเจียน มากกว่า 5 ครั้ง
- ผื่นขึ้นทั้งตัว ผิวหนังลอก
- มีจุดหรือจ้ำเลือดออกจำนวนมาก
- หน้าเบี้ยว หรือ ปากเบี้ยว
- แขนขาอ่อนแรง กล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถทรงตัวได้
- ต่อมน้ำเหลืองโต
- ชัก หรือหมดสติ
อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาเครียดสนองตอบต่อการฉีดวัคซีนนี้ เกิดได้กับการฉีดวัคซีนทุกชนิด ทุกรุ่นการผลิต (Lot) เป็นส่วนหนึ่งของภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้หลังจากการฉีดวัคซีน เรียกว่า Adverse Events Following Immunization (AEFI) อีกทั้งยังเป็นเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นได้ภายหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคภายใน 30 วัน และไม่จำเป็นที่จะต้องมีสาเหตุจากวัคซีน
ขอบคุณข้อมูลจาก : พญ. สมรรจน์ ลิ้มมหาคุณ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านโรคติดเชื้อ รพ. สมิติเวช สุขุมวิท
ภาพ : Pexels
บทความอื่นๆ ที่นาสนใจ
เซฟตัวเอง! เตรียมตัวก่อนและหลังฉีด “วัคซีนป้องกันโควิด-19” ควร-ไม่ควร ทำอะไร?
“อย่าหยุดออกกำลังกาย” เสริมภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น 50% หลังฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19
ไขข้อสงสัย หากผู้ป่วย “ไทรอยด์” ติดโควิด-19 จะเสี่ยงอาการหนักกว่าเดิมหรือไม่?