คุณแม่สายแฟ

2 คุณแม่สายแฟ ปั้นธุรกิจเล็กๆ จากประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกเจาะระดับ Global

Alternative Textaccount_circle
คุณแม่สายแฟ
คุณแม่สายแฟ

ในยุคที่โอกาสเข้ามาใกล้ตัว และมีช่องทางสำหรับการช้อปปิ้งใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทำให้ไอเดียการสร้างธุรกิจจาก “ความรัก” นั้นเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม ดังเช่น คุณแม่สายแฟ 2 ท่านนี้

ความเป็นแม่นั้นยิ่งใหญ่เกินจะหานิยามใดมาเปรียบได้ การคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกคงเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ของบรรดาคุณแม่ทั้งหลาย เมื่อก่อนนี้อาจจะตั้งใจในการเลี้ยงลูกเพียงอย่างเดียว แต่ในยุคที่โอกาสเข้ามาใกล้ตัว และมีช่องทางสำหรับการช้อปปิ้งใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทำให้ไอเดียการสร้างธุรกิจจาก “ความรัก” นั้นเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม ดังเช่นคุณแม่สายแฟ 2 ท่านนี้ ที่สร้างธุรกิจเล็กๆ ขึ้นมาจากประสบการณ์ของการเลี้ยงลูกน้อย และไม่ใช่แค่เพียงการมองตลาดในประเทศเท่านั้น แต่ภายใต้ Smart Style กลับมองไปไกลถึงระดับ Global เลยทีเดียว

ตูน-สุภัชชา ปิตินันท์ เจ้าของแบรนด์ “Minisizeme” และ ชุดผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ
ตูน-สุภัชชา ปิตินันท์ เจ้าของแบรนด์ “Minisizeme” และ ชุดผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ

คุณแม่คนสวย ตูน-สุภัชชา ปิตินันท์ อดีตนักร้องสาวชื่อดัง ที่วันนี้ผันตัวมาเป็นเจ้าของแบรนด์ “Minisizeme” เสื้อผ้า สินค้าไลฟ์สไตล์แม่และเด็กตั้งแต่แรกเกิด เล่าว่า แบรนด์นี้ได้แรงบันดาลใจมาจากลูกสาว ที่เป็นผื่นแพ้ผิวหนังตั้งแต่ 3 เดือน ค้นหาสาเหตุและคำตอบจนรู้ว่ามาจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ทั้งลูกและแม่ หลังจากพยายาม​หาซื้อเสื้อผ้า​ที่ทำจากธรรมชาติ​ในเมืองไทย​ก็ไม่มี จึงคิดที่จะผลิตเองจากผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติมาจากธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ด้วยกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำคัญเลยคือมีเทคโนโลยีแอนตี้ แบคทีเรีย (Anti Bacteria) ช่วยป้องกันเชื้อโรคที่อยู่รอบตัว แล้วเมื่อก่อนไม่มีใครทำเสื้อคู่แม่ลูกตั้งแต่ลูกยังเล็ก ๆ มีแต่อายุขวบขึ้นไป เลยเป็นไอเดียที่ทำแบรนด์นี้ขึ้นมาเพื่อให้ทั้งครอบครัวได้ใส่เสื้อผ้าธีม (Theme) เดียวกัน

“ตอนนี้เริ่มจำหน่ายกับลูกค้าในต่างประเทศด้วย จากการเข้าร่วมงาน STYLE BANGKOK ตั้งแต่ปีที่แล้ว และได้ร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ ฝรั่งเศส ฯลฯ กับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ทำให้ทราบความต้องการของลูกค้าและเอามาปรับดีไซน์ โดยเสื้อผ้าแบรนด์ Minisizeme สามารถปรับได้หลายขนาด ของลูกนั้นสามารถใส่ได้ตั้งแต่แรกเกิด ไปจนถึง 1-2 ขวบ ส่วนคุณแม่ก็ใส่ได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์ไปจนถึงให้นมลูก ส่วนใหญ่เราจำหน่ายผ่านออนไลน์เพราะสะดวกและคุณแม่ยุคใหม่ก็ถนัดแบบนี้ ที่สำคัญเลยคือช่วงโควิด-19 กลายเป็นว่าจุดเด่นของการเป็นเสื้อผ้าธรรมชาติทำให้ลูกค้าต้องการมากขึ้น มีการสั่งซื้อจาก แคนาดา อเมริกา ฝรั่งเศส ฮ่องกง สิงค์โปร์ ซึ่งเราดีใจมาก ทำให้สนุกกับการลงมือลุยธุรกิจนี้มากขึ้นไปอีก”

โอ๋ - ปริยา ชัยลิมปมนตรี เจ้าของแบรนด์ “นิทาน” และ ชุดให้นมบุตรสุดแฟชั่น
โอ๋ – ปริยา ชัยลิมปมนตรี เจ้าของแบรนด์ “นิทาน” และ ชุดให้นมบุตรสุดแฟชั่น

ส่วน โอ๋ – ปริยา ชัยลิมปมนตรี เจ้าของแบรนด์ “นิทาน” ผู้ดีไซน์ผ้าคลุมและชุดให้นมบุตรจนถูกอกถูกใจเหล่าคุณแม่ เล่าว่า แบรนด์นิทานนั้นเกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ Pain Point ของบรรดาคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะดวกในการให้นมและปั๊มนมตอนอยู่ข้างนอก ชุดไม่สวย อึดอัด โดยจุดเริ่มต้นของแบรนด์นั้นเกิดจากเมื่อมีลูกคนแรกแล้วต้องใส่เสื้อที่มีกระดุมหน้าตลอดเวลา รู้สึกจำเจกับชุดเดิม และไม่สะดวกต่อการให้นม พอจะมีลูกคนที่ 2 จึงออกแบบและดีไซน์ขึ้นมาใช้เอง โดยเน้นเรื่องความง่ายของการให้นม การปั๊มนมแบบข้างเดียวและสองข้าง และมีฟังก์ชั่นใช้งานที่คนเป็นแม่ต้องการทั้งหมด เมื่อเพื่อนเห็นแล้วชอบจึงชวนให้ผลิตเพื่อไปจำหน่ายในงาน Baby and Kids Best Buy และได้รับผลตอบรับที่ดีมาก จึงเริ่มทำแบรนด์อย่างจริงจังจนถึงทุกวันนี้ 5 ปีแล้ว

“สำหรับตลาดต่างประเทศนั้น กลุ่มคุณแม่คนไทยที่อยู่เมืองนอกเริ่มรู้จักแบรนด์มากขึ้นในช่วงปีที่ 2 จากดีไซน์ที่สวย ทันสมัย สามารถให้นมลูกได้สะดวก  โดยเฉพาะญี่ปุ่น อังกฤษ  ยุโรป และสหรัฐอเมริกา และเรายังได้เข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจในต่างประเทศก็ยิ่งทำให้ขยายตลาดได้เพิ่มขึ้นอีก ซึ่งช่องทางออนไลน์ถือเป็นช่องทางหลักของการสั่งซื้อสินค้าไม่ว่าจะเป็นเวบไซต์ เฟซบุ๊ค และไลน์ ตอนนี้แบรนด์มีไลน์สินค้าใหม่ ๆ มาเอาใจคุณแม่สายแฟชั่นด้วย เช่น กางเกงพยุงครรภ์และกางเกงเพื่อความสบายหลังคลอด เพราะรู้ว่าเป็นสิ่งที่คุณแม่ต้องการจริงๆ”

ด้าน นายสมเด็จ  สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “สิ่งสำคัญที่ทุกๆ แบรนด์จะต้องคำนึงถึงหากต้องการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ คือ สินค้าจะต้องตอบโจทย์ความต้องการ มีคุณภาพ พัฒนารูปแบบใหม่ๆ อยู่เสมอ และเจ้าของแบรนด์ต้องสื่อสารกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้เตรียมการจัดงานแสดงสินค้า STYLE Bangkok 2021 ในวันที่ 10 – 14 มีนาคม 2564 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น ตลอดจนผู้ประกอบการในกลุ่ม Niche Market ได้แก่ สินค้าผู้สูงอายุ (60 +) สินค้าแม่และเด็ก (Mom & Kids) สินค้าสัตว์เลี้ยง (PET) ได้พบปะเจรจาการค้ากับผู้ซื้อ / ผู้นำเข้าทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร. 02 507 8363 และ 8364


 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ความรักของนางร้ายสาวรสแซ่บ เจนิส-เจณิสตา เจ็บปวดเพราะคำว่าที่ 1 ค้ำคอ!

ส่องไลฟ์สไตล์ ‘เจ็ท –ณัฐพงศ์’ กับอีกมุมของการเป็นไบค์เกอร์สายเท่

Wedding is coming soon? คนดังที่กำลังจะมีงานแต่งงานในปี 2020

 

 

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up