เจนิส-เจณิสตา

ความรักของนางร้ายสาวรสแซ่บ เจนิส-เจณิสตา เจ็บปวดเพราะคำว่าที่ 1 ค้ำคอ!

Alternative Textaccount_circle
เจนิส-เจณิสตา
เจนิส-เจณิสตา

ยืนหนึ่ง #มองโลกในแง่ดี เจนิส-เจณิสตา พรหมผดุงชีพ นางร้ายรสแซ่บ! ที่จับได้ว่าแฟนมีคนอื่นแต่ต้องอดทน เพราะคำว่าได้เป็นที่หนึ่งก็พอแล้ว

เจนิส-เจณิสตา

เป็นน้องใหม่นางร้ายที่มาแรงแซงโค้งเลยนาทีนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับ เจนิส-เจณิสตา พรหมผดุงชีพ ที่ตอนนี้รายชื่อถูกบรรจุเข้าสมาคม “นางร้าย” เกรดเอเป็นที่เรียบร้อย แต่ถึงแม้ว่า สาวเจนิส จะเข้าวงการมาได้ไม่นาน แต่เจ้าตัวก็ไม่เคยปกปิด เรื่องหวานใจนอกวงการที่คบกันมานานถึง 4 ปี ล่าสุด สาวเจนิส ที่ได้เป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เปิดหมดเปลือกทุกความรักที่ไม่เคยปิดเป็นความลับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ความรักครั้งแรกเกิดขึ้นในช่วงไหน?

เจนิส : ตอนอยู่ ม.6 ค่ะ เป็นช่วงที่เราไปเรียนติวพิเศษ แล้วมีโอกาสได้ออกจากหอโดยที่แบบว่า ให้แม่เพื่อนมาเซ็นออกให้หน่อย เพราะว่าจะต้องไปเรียนพิเศษจริงๆ แต่ดันไปเจอผู้ชายที่ติวด้วย หนูแบบตื่นเต้นแบบทำตัวไม่ถูก ก็เป็นเพื่อนที่เรียนพิเศษด้วยกันค่ะ คือ เขาเป็นเด็กนอกมาเพิ่งจบ แต่ครอบครัวเขาดี คือดูแล้วรู้เลยว่าเขาถูกเลี้ยงมาแบบประคบประหงม เหมือนผู้ชายพาเราไปเปิดโลก พาไปขึ้น BTS แต่เรายังไม่ได้เป็นแฟนกันนะคะ

เพราะเราก็ถูกเลี้ยงมาให้อยู่ในกรอบตลอด ซึ่งคุณตาคุณยาย เลี้ยงประกบมาโดยตลอด แล้วได้คบกับคนคนนี้ไหม?

เจนิส : คบสิค่ะ คนนั้น คือ แฟนคนแรกในชีวิตเราเลยค่ะ

แล้วความรักดำเนินต่อไปอย่างไร?

เจนิส : มหาลัย ก็ยังดีที่คนนี้เขาก็รักเรียน เรียนที่มหิดลอินเตอร์ เราก็ตั้งใจอ่านภาษาอังกฤษ ก็ได้เข้าที่เดียวกับเขาค่ะ เราต้องตามผู้ชายอยู่แล้ว (หัวเราะ) เพราะเขาเป็นแรงบันดาลใจที่ดีสำหรับเราเลย ก็ทำตามฝันคือ ไปเรียนตามผู้ชาย คือ เขาเป็นคนดีมากถึงมากที่สุด แต่ตัวเราเอาแต่ใจมาก ไม่พอใจอะไรบอกเลิกๆ เพราะเราคิดเสมอว่าตายายดูแลรักเราขนาดนี้ นี่เรายอมเป็นแฟนเขา เขาต้องดูแลเราตามใจเรามากๆ เป็นเด็กที่เอาแต่ใจทุกอย่าง เรื่องกินก็จุกจิก เขายอมหมดทุกอย่างค่ะ

เจนิส-เจณิสตา

เห็นเขาเอาใจขนาดนี้แล้ว แต่เราในบางครั้งก็ไม่ให้เกียรติเขาเลย?

เจนิส : อยากจะว่าเขาต่อหน้าเพื่อนเขาเราก็ว่าเลย เพราะเรารู้สึกว่าแบบ ยังไงเขาก็ไม่เลิกกับเราแน่นอน เช่นที่ด่าเขาว่า ทำไมโง่ แบบนี้เลย หน้าตาไปหมดเหมือนนางร้ายในละครเลย คือ ด้วยความที่ตอนนั้นเราเด็กด้วย แล้วไม่ได้มีสังคม

แล้วตอนนั้นเรารู้สึกไหมว่าเราเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง เรานิสัยไม่ดี เราวีน รู้ตัวไหม?

เจนิส : รู้ค่ะ แต่เรามีคติในใจว่า ตายายเราเลี้ยงเรามาดีมาก เพราะฉะนั้น คนที่จะมาเป็นแฟนเราต้องดูแลเราได้ ต้องดีได้เหมือนตายาย แต่การที่เขาดีกับเรา แต่เราไม่ดีกับเขาถามว่าเรารู้ตัวไหม รู้ตัวค่ะ แต่ก็คิดว่ายังไงเขาก็คบกับเรา ไม่เห็นเลิกเลย ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดเลย เพราะตอนนั้นเรายังไม่เจอบทเรียนด้วย แล้วคือเราเด็กมากตอนนั้น แล้วตอนนั้นเรารู้สึกว่าเขาเป็นของตายของเล่นเหมือนลูกไก่ในกำมือ

เจนิส : แต่สุดท้ายเราก็จับได้ว่าเขานอกใจ เพราะเขาว่อกแว่กเพราะเขาไปเที่ยวผับ แต่เราก็เคยชินคือกลับมาดึกสุดก็สามทุ่มต้องรีบกลับเข้าบ้าน เพราะตอนนั้นเราอยู่มหาลัยแล้ว ก็ไม่ได้อยู่หอ กลับไปอยู่ที่บ้าน เขาก็ไปเที่ยว ตอนนั้นที่จับได้คือเรากำลังไปห้างกับเขา แล้วมีเพื่อนเขาชื่อ Mark โทรเขามา เราก็ถามเขาว่าใครเขาก็บอกเราว่าเพื่อน เราก็บอกเขาว่าคบกันมา 2 ปีทำไมไม่รู้จักชื่อนี้เลย แล้วเราก็บอกเขาว่าอย่าคิดว่าไม่รู้นะ เราใช้จิตวิทยาถามไป แล้วก็ถามว่าใคร ทำไมไม่รับ รับสิ ไม่งั้นโทรกลับนะ เขาก็มารับสารภาพว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่เจอในผับ

แล้วเราตกใจไหมคนที่คิดว่าเขาคือของตายแต่เขากลับนอกใจ?

เจนิส : ตอนนั้นหนูโมโหเขามาเลยตบเข้ากลาง BTS เลย ผู้ชายเขาก็โมโห แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ หนูก็บอกเสียงดังเลยตอนนั้น ว่าเลิกกันไปเลย ผู้ชายเขาก็เสียใจร้องไห้ เพราะเขารู้สึกผิด แต่ตัวหนูไม่ได้เสียใจนะกับความรักครั้งนั้น

จากความรักที่เอาแต่ใจ แต่เมื่อเจอคนนี้เป็นความรักครั้งหนึ่งของ เจนิส ที่ต้องฝืนความเป็นตัวเองสุดๆขนาดนั้น เกิดอะไรขึ้นบ้างในความรักครั้งนั้น?

เจนิส : เริ่มต้นจากที่เพื่อนเราไปจับได้ว่าคนคนนี้ที่เราคบอยู่เขาไปมีคนอื่นนะ เพื่อนเราบอกว่าเขายอมเป็นหมาเลย เพราะเขาไม่อยากให้เราโง่ เพราะเพื่อนเห็นว่าคนที่เราคบโอบผู้หญิงคนอื่นอยู่ที่ร้านเหล้า เขาก็ถ่ายรูปส่งมาให้เราดู ตอนนั้นคือเราเสียใจมากอยากพุ่งไปหาเขาตอนนั้นเลย คิดวนอยู่ในหัวมากว่าทำไมเขาทำแบบนี้

เจนิส : แต่เราก็คิดอีกอย่างคือ ความดีของเราน่าจะชนะทุกอย่าง เราโดนความดีครอบงำ เราคิดแค่ว่าแค่เขายกให้เราเป็นที่หนึ่งก็พอ แล้วตอนนั้นเราก็ไม่กล้าที่จะไปแหกหน้าเลย เพราะว่าเดี๋ยวเขาอยู่กับเพื่อนแล้วถ้าเขามาเห็นเราในพาร์ตตัวร้าย ดูไม่เรียบร้อย ไม่น่ารัก ไม่ดี

เจนิส : ตอนนั้น คือก็ร้องไห้อดทนอดกลั้น คิดว่าจะทำยังไงดี พูดยังไงดี เตรียมตัวเตรียมใจ รอไม่ได้หลับไม่ได้นอน พอถึงเช้า เราก็ถามเขาว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร เขาก็บอกว่าเธอไม่เห็นเหรอก็ยังกันตรงขอบราวก็แค่เอามือไปเท้าไว้ กลัวเขาตก เพื่อนเธอตั้งใจที่จะปั่นเราเขาไม่ชอบอะไรเราสองคนแน่ๆเลย เขาก็จะมีวิธีการพูดของเขา

เจนิส : ซึ่งเขาก็ทำให้เราเชื่อค่ะ เพราะโดนครอบงำอยู่ตอนนั้น

แล้วก็พยายามมองโลกในแง่ดีมากจนเกินจริงไป มันมาสิ้นสุดตรงไหน ที่รู้สึกว่าความจริงมันไม่ใช่เลยไหม?

เจนิส : อยู่มาวันหนึ่ง ก็คือคบปกติเลยนะคะ อยู่ๆเขาก็หายไป โทรไปก็ไม่รับ คือ พอเขาไม่รับเราก็ตกใจว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่าเราก็โทรหาเพื่อนรอบข้างว่าเป็นอะไรไหม แล้วน้องชายก็มาบอกว่าเจอแฟนเรานะอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งสวยมากเดินจับมือกันอยู่ ก็คือสรุปแล้วที่เขาหายไปเรากังวลใจเป็นสิบๆ วัน สรุปแล้วเขามีคนอื่น

หลังจากที่ผ่านความรักมาหลายรูปแบบ กับการที่เป็นตัวเองสุดๆกับไม่เป็นตัวเองสุดๆ จนในที่สุดก็ได้มาเจอกับรักที่ลงตัว เจอกันได้ยังไง?

เจนิส : ตอนนั้น คือ พอเราเลิกกับแฟนก็มีรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยเดี๋ยวกันเขาเป็นแม่สื่อแม่ชักให้พอรู้ว่าเราโสด พี่เขาก็ทักมาหา เราก็บอกว่าจะให้ไลน์เราไปกับคนที่คบอยู่ปัจจุบันนะ พอสองสามวันเขาถึงทักมา เราก็รู้สึกคนนี้มีฟอร์มจังเลย พอเขาแอดมา เขาก็คุยถามเราว่าชอบอะไร คนนี้ ปัจจุบันที่คบเขาค่อยๆ ละลายพฤติกรรมแม้กระทั่งเวลาเขาพาไปเจอเพื่อนเขาไม่ได้พาไปแบบเจอคนเยอะๆ เขาพาไปเจอทีละคน เขารู้สึกว่าไม่อยากให้เราเกร็ง เขาก็แบบให้เกียรติเรามากไม่แตะเนื้อต้องตัวเราเลย ไม่เป็นคนที่ฉาบฉวย คือ คุยกันมาตั้งนานทำไมพี่ถึงไม่จับมือเราเลยเรายังอยากไปจับมือเขาเลย

คนนี้ก็มาเปิดโลกให้เจนิสอีกแล้ว ?

เจนิส : คนนี้เขามาเปิดโลกเราอีกแล้ว คนนี้พาหนูไปผับ หนูไม่เคยเข้าผับเลย มันทำให้เรามีความรู้สึกตื่นเต้น สนุกมากค่ะ แต่เขาดูแลเราดีมากทุกอย่างปลอดภัย ส่งถึงบ้าน สองวันแรกที่เขาพาหนูไปผับหนูก็อ้วกในรถเขา หนูก็พังเลยค่ะ หนูเป็นตัวเองมากอีกแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวอะไรเลยมาส่งเราที่บ้านอีกด้วยซ้ำ

เจนิส : เขายังเปิดโลกพาเราไปเที่ยวหัวหิน เขาก็ถามว่าเราไปอยู่ไหนมา คือว่าเราไม่ได้ไปไหนเลยนอกจากกลับที่ตรัง กรุงเทพฯ แล้วก็อยู่หอ เขาก็พาเราไปเปิดโลก คือ เราแฮปปี้มาก ทำให้เราถูกใจคนนี้มาก

แต่ไม่ใช่เขาที่เปิดโลกให้กับเราเท่านั้น เรายังเปิดโลกให้กับเขาด้วยในเรื่องของเครื่องสำอางด้วย?

เจนิส : เขาน่าจะเข้าใจนะคะ หนูเวลาไปเดินห้างอะไรอย่างนี้ คือ ถ้าเดินผ่านโซนเครื่องสำอาง คือ ทุกแผนกรู้จักหนูหมดเลย เพราะเวลาเราไปซื้อคือเราจะซื้อเยอะมาก ซื้อทีเราซื้อเป็นแสนแต่หลายแบรนด์รวมกันนะคะ คือเราชอบเครื่องสำอางเยอะมาก

กับคนนี้เกือบจะไม่ทะเลาะอะไรกันเลยยกเว้นเรื่องแต่งหน้า?

เจนิส : ใช่ค่ะ คือ ถ้าวันนี้จะไปเที่ยวกันแล้วเขาขับรถมารับ เขาต้องมานั่งรอเราแต่งหน้า เราก็ชอบเติมโน้นนิด นี่หน่อย คือการแต่งหน้ามันคือศิลปะนะคะ คือเห็นที่แต่งน้อยๆ แบบนี้ ใช้เวลา 3 ชั่วโมงเลยค่ะ เพราะเราแต่งไปลบไป เติมจนกว่าจะพอดี คิ้วต้องให้เป็นธรรมชาติ เพราะหนูอิน หนูชอบ

เจนิส : แต่เพราะเราชอบแต่งหน้า มันก็เลยเกิดเป็นเรื่องราวให้ได้ทะเลาะกัน เพราะหนูเป็นคนไม่ตรงเวลา เวลาเรานัดกับเขาให้เขามารับเขาต้องมารอตลอด แต่อยู่ตรงสิ่งที่เราชอบเราอินแล้ว เราก็อยากเติมแต่งให้เท่าที่เราต้องการ พอเลทบ่อยๆ เขาก็บอกเราว่า เธอต้องเปลี่ยนนะเธอจะแต่งอะไรขนาดนั้น อย่างลิปสติกหนูไม่เคยทาสีเดียวเลยต้องเอามาผสมกัน 4-5 สี

เจนิส-เจณิสตา

กับแฟนคนนี้ อีกเรื่องที่เขาถ้าเลี่ยงได้คือเลี่ยงจะไม่ดูการแสดงละครของเรา เขามีเหตุผลให้เราอย่างไร?

เจนิส : คือ การที่เรามาเล่นอะไรแบบนี้มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาจะไม่รู้สึกอะไร มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว คนเป็นแฟนกันเขาก็หวง ก็ห่วง เขาก็หึงว่าเธอทำไมเล่นบทแรงจัง เธอจูบกับผู้ชายคนอื่นถ้าเป็นเราล่ะ เราก็บอกว่าเธอจะไปจูบกับผู้หญิงคนอื่นไม่ได้ คือ เขาก็โอเค แต่เขาคือให้เกียรติเรามาก เธอเราทำงานนะ เราเป็นอีกคนนะ เขาก็เข้าใจ แต่เขาก็ไม่ดูงานของเรา


ภาพจาก : IG : @janistarr

Praew Recommend

keyboard_arrow_up