ประกันโควิด 19

เมืองไทยประกันภัย เดินหน้าออก ประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด-19 ‘แพ้ จ่าย จริง’ แบบเต็มตัวกับเบี้ยหลักสิบ คุ้มครองหลักล้าน

ประกันโควิด 19
ประกันโควิด 19

เมืองไทยประกันภัย เดินหน้าเต็มกำลังออกผลิตภัณฑ์ ประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด-19 ‘แพ้ จ่าย จริง’ แบบเต็มตัว โดยชูจุดเด่นของผลิตภัณฑ์กับเบี้ยประกันภัยหลักสิบเท่านั้น เริ่มต้นเพียง 99 บาท/ปี ให้ความคุ้มครองสูงสุด 1.5 ล้านบาท ครอบคลุมทันทีเมื่อเกิดอาการแพ้วัคซีนโควิด-19 แบบแพ้ปุ๊บจ่ายปั๊บ รวมถึงการเจ็บป่วยในภาวะโคม่า การรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) พร้อมรับเงินชดเชยรายได้สูงสุด 15 วัน/ปี คุ้มครองทุกกลุ่มอาชีพ สัญชาติ ตั้งแต่อายุแรกเกิด – 99 ปี

คุณนวลพรรณ ล่ำซำ ซีอีโอเมืองไทยประกันภัย
คุณนวลพรรณ ล่ำซำ ซีอีโอเมืองไทยประกันภัย

นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI กล่าวว่า “วัคซีนโควิด-19 ถือว่าเป็นความหวังอันดับแรกของคนทั้งโลก แต่หลายคนมีความกังวลในเรื่องของประสิทธิภาพและผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นกับตนเอง เพื่อเป็นการรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบันแบบวงกว้างมากยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่กังวลหรือต้องการวางแผนรับมือกับความเสี่ยงภัย เพิ่มความอุ่นใจในทุกช่วงเวลา เมืองไทยประกันภัย ได้เล็งเห็นและตระหนักว่าผลิตภัณฑ์ในตอนนี้ที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้านอกเหนือจากประกันภัยโควิด-19 แล้ว ก็คงเป็นประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด-19 จึงได้ตัดสินใจออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด-19 ‘แพ้ จ่าย จริง’ แบบฉบับเต็มแพ้ปุ๊บจ่ายปั๊บ ไม่ว่าจะเจ็บหนักแค่ไหนเราก็คุ้มครอง”

เมืองไทยประกันภัย ออกแบบกรมธรรม์ประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด-19 ‘แพ้ จ่าย จริง’ เพื่อรองรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ถึงแม้ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 เข็มแรกไปแล้ว เข็มถัดไปก็ยังคุ้มครองให้เหมือนเดิม โดยแบ่งความคุ้มครองออกเป็นแผนค่ารักษาพยาบาล และแผนแพ้ จ่าย จริง รวมเป็นทั้งหมด 4 แผนด้วยกัน

สำหรับใครที่กังวลกับค่ารักษาพยาบาลพุ่งตรงมาทางนี้ได้กับความคุ้มครองที่ครอบคลุมให้ครบทั้งการรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน (IPD) และแบบผู้ป่วยนอก (OPD) โดยมี 2 แผนให้เลือก ดังนี้

แผน 1 เบี้ยประกันภัยคนละ 99 บาท/ปี ความคุ้มครองผลประโยชน์จากการได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรณีอยู่ในภาวะโคม่ารับวงเงินความคุ้มครอง 250,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) จ่ายตามจริงไม่เกิน 5,000 บาท

แผน 2 เบี้ยประกันภัยคนละ 699 บาท/ปี ความคุ้มครองผลประโยชน์จากการได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรณีอยู่ในภาวะโคม่ารับวงเงินความคุ้มครอง 1.5 ล้านบาท ค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) จ่ายตามจริงไม่เกิน 30,000 บาท เงินชดเชยรายได้จากการเข้าพักรักษาในโรงพยาบาลรับสูงสุด 15,000 บาท/ปี

และใครที่กำลังมองหาความคุ้มครองเมื่อเกิดอาการแพ้ ทำให้รายได้หดเมื่อต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลหลายวัน แผน แพ้ จ่าย จริง พร้อมเป็นตัวช่วยซัพพอร์ตครอบคลุมทั้งในเรื่องของรับเงินทันที และเงินชดเชยรายได้สูงสุดถึง 15 วัน โดยมี 2 แผนให้เลือก ดังนี้

แผน 3 เบี้ยประกันภัยคนละ 199 บาท/ปี ความคุ้มครองผลประโยชน์จากการได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 รับทันที 3,000 บาท กรณีอยู่ในภาวะโคม่ารับวงเงินความคุ้มครอง 500,000 บาท ครอบคลุมเงินชดเชยรายได้จากการเข้าพักรักษาในโรงพยาบาลรับสูงสุด 7,500 บาท/ปี

แผน 4 เบี้ยประกันภัยคนละ 399 บาท/ปี  ความคุ้มครองผลประโยชน์จากการได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 รับทันที 5,000 บาท กรณีอยู่ในภาวะโคม่ารับวงเงินความคุ้มครอง 1 ล้านบาท ครอบคลุมเงินชดเชยรายได้จากการเข้าพักรักษาในโรงพยาบาลรับสูงสุด 15,000 บาท/ปี

ประกันโควิด 19

“อีกทั้ง การนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด-19 ‘แพ้ จ่าย จริง’ รับประกันตั้งแต่อายุแรกเกิดจนถึง 99 ปี ทุกสัญชาติ ไม่ว่าจะเป็นสัญชาติไทย คนต่างด้าวหรือชาวต่างชาติ ทุกกลุ่มอาชีพ ที่มีภูมิลำเนาและพำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นหลัก (ไม่น้อยกว่า 9 เดือน) โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ผู้ซื้อควรศึกษารายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถซื้อประกันภัยได้ด้วยตนเองแบบง่าย ๆ ผ่านช่องทางดิจิทัล คลิก https://www.muangthaiinsurance.com/th/product/detail/70 ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” นางนวลพรรณ กล่าวเพิ่มเติม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1484 หรือตัวแทนใกล้บ้านท่าน และติดตามข่าวสารเมืองไทยประกันภัยได้ที่เว็บไซต์ www.muangthaiinsurance.com หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Muang Thai Friendsทั้งนี้ ลูกค้าควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจซื้อประกันภัยทุกครั้ง

เมแกน

เมแกน ถูกพบในลุคสบายๆ คุณแม่ตั้งครรภ์ หิ้วกล่องข้าว อุ้มอาร์ชีไปเนอสเซอรี่

account_circle
เมแกน
เมแกน

เมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ ถูกพบเป็นครั้งแรกในลอสแองเจลิส หลังการให้สัมภาษณ์กับ โอปราห์ วินฟรีย์ เมแกนมาในลุคสบายๆ เผยให้เห็นเบบี้บั้มขนาดใหญ่อายุครรภ์ 6 เดือน

ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ถูกพบในที่สาธารณะ ในลอสแองเจลิส ขณะที่เจ้าชายแฮร์รี่ทรงบินกลับมาจากกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษและตรงไปบ้านพักที่แคลิฟอเนียร์หลังงานพระศพ เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ เมื่อวันที่พุธที่ผ่านมา

เมแกน มาร์เคิล

ในภาพนั้นดัชเชสแห่งซัสเซกส์วัย 39 ดูมีสีหน้าแช่มชื่น คุณแม่ตั้งครรภ์หิ้วกล่องข้าว พร้อมกับอุ้มลูกชาย อาร์ชี แฮร์ริสสัน ขณะกำลังออกไปเนอสเซอรี่

เมแกน มาร์เคิล อาร์ชี แฮร์ริสสัน

เมแกน มาร์เคิล มาในลุคสบายๆ เธอสวมกางเกงยีนส์ ใส่เสื้อยืดคลุมด้วยเสื้อแจ็คเก็ตสียูทิลิตี้สีเขียวทหาร สวมรองเท้าส้นเตี้ยปลายแหลมและไม่ลืมที่จะสวมหน้ากาก ขณะที่พระโอรส อาร์ชี แฮร์ริสสัน วัย 1 ขวบ ดูโตขึ้นมาก เด็กน้อยสวมหมวกบีนนี่สีดำ สวมเสื้อสเวตเตอร์สีเทา ใส่กางเกงยีนส์ และสวมรองเท้าผ้าใบสีขาว รวมถึงหิ้วกระเป๋าเป้เตรียมพร้อมไปเนอสเซอรี่ จะเห็นได้ว่าเบบี้อาร์ชี ตัวโตขึ้นมาก เด็กน้อยใบหน้า รวมถึงสีผิว เหมือนเจ้าชายแฮร์รี่ พระบิดาเป็นอย่างมาก

หุ่นขี้ผึ้ง ดัชเชสเมแกน ในกรุงซิดนีย์ ออสเตรเลีย

ทั้งนี้มีรายงานว่าแม้ ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ จะไม่ได้เดินทางไปยังสหราชอาณาจักรเพื่อร่วมงานพระศพของเจ้าชายฟิลิป เนื่องจากกำลังทรงครรภ์ และแพทย์ให้งดเดินทาง

แต่เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ดัชเชสเมแกน และ พระโอรส “อาร์ชี แฮร์ริสัน เมาต์แบตเทน–วินด์เซอร์” ก็ได้ทรงวิดีโอคอลผ่านโปรแกรม Zoom เพื่อพูดคุยกับ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และ เจ้าชายฟิลิป ซึ่งทั้งสองพระองค์ก็ทรงทอดพระเนตรเห็น พระราชปนัดดาวิ่งเล่นไปมาด้วย


ที่มา : pagesix.com

วิกฤติวัยกลางคน

7 วิธีดูแลตัวเอง + แก้ปัญหา เมื่อต้องรับมือกับคนรักที่อยู่ในช่วง วิกฤติวัยกลางคน

วิกฤติวัยกลางคน
วิกฤติวัยกลางคน

ทุกคนที่อยู่ในช่วง วิกฤติวัยกลางคน ต่างก็มีวิธีจัดการและการเผชิญปัญหาที่แตกต่างกันไป บางคนเผชิญกับปัญหาแต่ก็สามารถเรียนรู้ แก้ไขมันได้ และใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุข แต่ก็มีอีกหลายคนที่เผชิญหน้ากับวิกฤติวัยกลางคน แล้วจมเข้าสู่จุดต่ำสุดของตัวเองจนหาทางกลับขึ้นมาได้ยาก แน่นอนว่าพวกเขาเหล่านี้ไม่ได้เป็นคนรับผลกระทบของปัญหานี้อยู่ฝ่ายเดียว

หากว่าคนรักของคุณกำลังเผชิญกับปัญหา วิกฤติวัยกลางคน นี้อยู่ล่ะก็ นอกจากจะช่วยเป็นกำลังใจและเป็นพลังบวกให้กับเขาแล้ว ต้องนึกไว้เสมอว่า คุณไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบกับปัญหาเหล่านี้ คนรักของคุณจะต้องเผชิญหน้าและหาวิธีที่จะผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยตัวของเขาเอง ครั้งนี้ แพรวเวดดิ้ง  มีคำแนะนำดีๆ ช่วยให้คุณดูแลตัวเองและเอาตัวรอดให้ผ่านพ้นไปได้ ในช่วงเวลาที่คนรักของคุณต้องรับมือกับ วิกฤติวัยกลางคน จะมีข้อในที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณและนำไปใช้ประโยชน์ได้บ้าง ตามไปดูกันเลย

7 วิธีดูแลตัวเอง + แก้ปัญหา เมื่อต้องรับมือกับคนรักที่อยู่ในช่วง วิกฤติวัยกลางคน

1. ให้ความสำคัญกับตัวเอง

การที่คุณหมกมุ่นอยู่กับอารมณ์และความรู้สึกต่างๆ ที่คนรักของคุณมีในช่วงเวลาวิกฤตินี้มันไม่ได้อะไรเลย อาจจะฟังดูทำได้ยากไปสักหน่อย แต่คุณต้องยอมรับว่าคุณไม่สามารถไปควบคุมความคิดหรือการกระทำของเขาได้ ที่คุณทำได้มีแค่ควบคุมการกระทำของตัวเองว่าคุณเลือกจะทำอะไรในช่วงเวลาแบบนี้ ในขณะที่คู่รักของคุณกำลังอยากใช้เวลาอยู่คนเดียว ก็เป็นจังหวะที่ดีที่คุณจะได้มีสมาธิและกลับมาให้ความสำคัญกับตัวเองอย่างเต็มที่ หากิจกรรมยามว่าง งานอดิเรกใหม่ๆ ทำ ออกกำลังกาย ไปพบปะผู้คน อ่านหนังสือเล่มใหม่ อะไรก็ได้ที่จะทำให้คุณมีความสุขและรู้สึกดีกับตัวเอง

วิกฤติวัยกลางคน

2. กำหนดขอบเขตให้ชัดเจน

วิธีหนึ่งที่จะช่วยกันไม่ได้พฤติกรรมด้านลบทั้งหลายในช่วงวิกฤติวัยกลางของคนรัก มามีผลกระทบกับชีวิตและสร้างความเครียดให้กับคุณ นั่นคือการขีดเส้นกำหนดขอบเขตของคุณให้ชัดเจน ถ้าเขานอกใจแอบไปมีความสัมพันธ์ลับๆ กับคนอื่น ต้องขีดเส้นแบ่งให้เขารู้ไว้ว่า คุณจะไม่ให้ปัญหาในเรื่องนี้มามีผลกระทบกับชีวิตของคุณ เพราะเมื่ออยู่ในวิกฤติวัยกลางคน เขาจะทำอะไรก็ตามที่เขาต้องการโดยบางทีอาจจะไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของคุณเลยก็ได้ ดังนั้นคุณแค่อาจจะต้องปล่อยมันผ่านไปก่อนแค่ตอนนี้ เพราะการพูดคุยกันด้วยเหตุผลอาจจะช่วยไม่ได้เท่าไหร่นักในช่วงเวลาแบบนี้

3. เป็นผู้ฟังที่ดีและไม่ตัดสินไปก่อน

ถ้าคนรักต้องการที่จะพูดคุยหรือปรึกษากับคุณ ให้เป็นผู้ฟังที่ดีและไม่ตัดสินเรื่องราวของเขาด้วยมุมมองของคุณ จำไว้เสมอว่าช่วงเวลานี้ คนรักของคุณกำลังเผชิญกับความสงสัยและความสับสนในสิ่งที่เจออยู่ และไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะไปบอกว่าสิ่งที่เขาทำหรือสิ่งที่เขารู้สึกอยู่มันผิดยังไง การเป็นผู้ฟังที่ดีและพยายามเข้าใจในมุมมองของเขาคือกุญแจสำคัญ เพราะใครก็ตามที่กำลังอยู่ในช่วงวิกฤติวัยกลางคน เขาจะต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาด้วยวิธีที่เหมาะกับตัวของเขาเอง

4.ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
จะไปทั้งคุณกับคนรักเลยก็ได้ แต่อย่าไปบังคับขืนใจอีกฝ่ายถ้าเขาไม่เต็มใจอยากจะไป ซึ่งในกรณีนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะได้พูดคุยกับนักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำปรึกษาในเรื่องที่คุณมีปัญหาหรือกังวลอยู่ในอย่างถูกวิธี ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญคือ พวกเขามีความเป็นกลาง เป็นเหตุเป็นผลและพูดในสิ่งที่เป็นความจริง ถ้าเทียบกับการที่คุณไปปรึกษาเพื่อนหรือคนในครอบครัว ซึ่งก็ดีถ้าคุณต้องการกำลังใจหรือแรงสนับสนุน แต่ด้วยความที่พวกเขารู้จักกับคุณและคนรัก ด้วยความรักและความเป็นห่วง บางทีอาจจะให้คำปรึกษาที่เขาข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากกว่า ถ้าคุณยังอยากสู้ให้ชีวิตคู่ครั้งนี้ของคุณกลับมาดีอีกครั้ง ทางที่ดีพยายามอย่าเติมเชื้อเขาไปในกองไฟจะดีกว่า

วิกฤติวัยกลางคน

5. เลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตัวเอง

ปัญหาพฤติกรรมในช่วงวิกฤติวัยกลางคนอาจมีความหนักเบาแตกต่างกันไป ถ้าคนรักของคุณเริ่มมีความรู้สึกหรือนอกกายไปกับคนอื่น เริ่มใช้เงินที่มีอยู่โดยไม่คิด หมกมุ่นหรือเสพติดอะไรบางอย่างมากเกินไป หรือกลายเป็นคนใช้ความรุนแรง ตอนนี้แหละที่คุณต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่าคุณจะรักเขามากแค่ไหนก็ตาม จำไว้ว่าต้องนึกถึงตัวเองก่อนเสมอ ถ้าคุณรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือถูกทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า อย่าคิดว่าเราต้องอยู่เพื่อตัวเขา ให้รีบพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์เหล่านั้นก่อนจะดีที่สุด

6. จัดการกับอารมณ์โกรธของตัวเอง

เป็นเรื่องปกติถ้าเราจะรู้สึกขัดเคือง โมโห หรือโกรธกับพฤติกรรมหรืออะไรก็ตามที่คนรักของคุณมีในช่วงวิกฤติวัยกลางคน บางทีอาจจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายเห็นแก่ตัวด้วยซ้ำเมื่อมองจากมุมของคุณ แต่พยายามเช็คกับตัวเองเสมอไม่ให้ระเบิดอารมณ์เกรี้ยวกราดใส่อีกฝ่าย ซึ่งอาจจะทำให้รู้สึกดีแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ให้ย้ายพลังงานลบหรือเอาความโกรธที่มีไประบายในทางที่สร้างสรรค์ อาจจะออกกำลังกาย เข้าคลาสต่อยมวย อะไรก็ได้ที่ทำให้คุณหายจากอารมณ์หงุดหงิด แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะพูดคุยกับคนรักไม่ได้เลย เพียงแต่ยังมีอีกหลายวิธีที่จะบอกว่าเราไม่พอใจ นอกเหนือไปจากการด่าทอ หรือขึ้นเสียงใส่กัน

วิกฤติวัยกลางคน

7. ให้เวลาคนรักของคุณในการแก้ปัญหา อย่ารีบร้อน

จำไว้อย่างหนึ่งว่า การที่คนรักของคุณมีวิกฤติวัยกลางคนนั้นไม่ใช่ความผิดของคุณ และไม่ได้เป็นการสะท้อนชีวิตคู่ของคุณแต่อย่างใด  หลายครั้งเราอาจจะรู้สึกว่าการที่อีกฝ่ายกำลังเผชิญกับ Midlife Crisis นี้ เป็นเพราะตัวเองมีส่วนผิดด้วยรึเปล่า และการไขข้อข้องใจ ด้วยการไปถามคนรักตรงๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์และชีวิตคู่ในช่วงเวลาแบบนี้ ยิ่งมีแต่จะทำให้เขาเครียดและเอาตัวเองออกห่างจากความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่มากกว่าเดิม เพราะฉะนั้น เราต้องอดทนและใจเย็น ให้เขาได้หาทางออกด้วยวิธีของเขาเอง เมื่อถึงเวลา ความสัมพันธ์ของคุณก็จะกลับมาเหมือนเดิมเอง


ข้อมูล : brides.com, freepik.com

เรียบเรียง : KimZ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

คู่รักควรระวัง 6 สัญญาณบ่งบอกว่า “งาน” กำลังเบียดเบียน “ชีวิตคู่” ของคุณอยู่

5 ข้อ ที่คู่แต่งงานใหม่ควรเลี่ยง! ถ้าอยาก ฮันนีมูน ให้ราบรื่นตลอดทริป

7 สัญญาณ เช็คความสัมพันธ์ บ่งบอกว่าความรักดี ทั้งสำหรับคุณและคนรัก

Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

คาวาอี้เหมือนเดิม! Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น โตเป็นสาวแล้ว

Alternative Textaccount_circle
Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

Tani Kanon ดาราเด็กที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในญี่ปุ่น ฉายแววความแบ๊วน่ารักน่าเอ็นดูมาตั้งแต่ อายุ 3 ขวบ ในผลงานละครสร้างชื่อจากเรื่อง Namae o Nakushita Megami , Full Throttle Girl ovd0kdouh และ I Hate Tokyo (2013) เป็นต้น ด้วยความน่ารักของเด็กสาว ก็ทำเอาคนดูถึงกลับตกหลุมรักเด็กน้อยหน้าแบ๊วคนนี้ไม่น้อย จนเธอถูกยกให้เป็นดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

ปัจจุบัน Tani Kanon จากเด็กน้อยตัวเล็กแสนคาวาอี้ เธอได้เติบโตขึ้นเป็นสาวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นในอายุ 17 ปีแล้ว (เกิดเมื่อ 4 พฤษภาคม 2547) และยังคงมีผลงานในวงการอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญความแบ๊วบวกคาวาอี้ของเธอก็ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

คาวาอี้เหมือนเดิม! Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น โตเป็นสาวแล้ว

นอกจากนี้ ความสามารถเด่นๆ ของเธอในสายอาชีพนักแสดงก็คือ หากมีฉากร้องไห้ เธอสามารถเรียกน้ำตาตามคิวได้ภายในห้าวินาทีอีกด้วย เยี่ยมจริงๆ เลย

แม้ว่าตามรายงานข่าวบันเทิงของญี่ปุ่นจะมีรายงานว่า ปัจจุบันผู้ชมจำนวนมาก ไม่รู้ว่าเธอเป็นนักแสดงเด็กคนเดียวกับที่พวกเขาหลงรักเมื่อหลายปีก่อน โดยมีชาวเน็ตบางคนบอกว่า Kanon Tani ไม่สามารถรักษาความนิยมของเธอได้ เพราะเธอไม่สวยเหมือนตอนที่เธอยังเป็นเด็กอีกต่อไป ในขณะที่ชาวเน็ตบางส่วนก็บอกว่ามีโอกาสที่เธอจะได้รับความรักความเอ็นดูจากผู้ชมได้เหมือนเดิม เพราะเธอยังคงเป็นนักแสดงที่ดี และสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลย แอดว่าเธอยังคงน่ารักในสไตล์สาวญี่ปุ่นเหมือนเดิมไม่มีผิดเลยนะคะ ว่าไหมล่ะ???

คาวาอี้เหมือนเดิม! Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น โตเป็นสาวแล้ว Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นTani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น Tani Kanon ดาราเด็กที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น


ข้อมูล : todayonline.com
ภาพ IG : t_kanon_ta

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ทริคดูแลตัวเองของ “แอลลี่” ลูกสาวแห่งชาติ ครบเครื่องทั้งความน่ารัก และความสามารถ

หน้าเด็กกว่าเดิม “ซูบิน” หั่นผมสั้นลงในทรงบ๊อบเท สวย เก๋ อินเทรนด์รับซัมเมอร์

เป๊ะทุกองศา! “แพนเค้ก เขมนิจ” ลุคบิกินี่แสนแซ่บกับสูตรฟิตหุ่นกระชับสัดส่วน

 

Emma Clinic

อยากสวยเป๊ะต้องอัปเดต! เทรนด์ เสริมจมูก 2021 ในคอนเซ็ปต์ความงามเฉพาะบุคคล

Emma Clinic
Emma Clinic

หากจะเม้าท์มอยกันด้วยเรื่องเทรนด์ความสวยความงามแห่งปี 2021 ‘การ เสริมจมูก’ ยังคงเป็นศัลยกรรมยอดนิยมที่ครองใจสาวๆ ทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้ แพรว จึงไม่ยอมตกขบวนเทรนด์ฮิต รีบพาสาวๆ ไปเจาะลึกความเริ่ดของ Emma Clinic เจ้าของสุดยอดรางวัลบิวตี้แห่งปี PRAEW ICONIC BEAUTY 2020 ในสาขา Iconic Rhinoplasty For Beauty ขึ้นแท่นคลินิกความงามที่มีความเชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมจมูกแห่งปี 2020 ซึ่งการันตีความดีงามโดย แพรว เองเลยทีเดียว

คุณหมอน้ำ พญ.ณัศรัตน์ กุลเกียรติประเสริฐคุณหมอน้ำ พญ.ณัศรัตน์ กุลเกียรติประเสริฐ

งานนี้ ‘คุณหมอน้ำ’ (พญ.ณัศรัตน์ กุลเกียรติประเสริฐ) และ ‘คุณหมอหนึ่ง’ (นพ.อนันต์ จึงสุวัฒนานนท์) คุณหมอสุดฮ็อตแห่ง Emma Clinic เล่าให้ แพรว ฟังว่า นอกจาก Emma Clinic จะเป็นมือฉมังด้านศัลยกรรมจมูก จนได้รับรางวัลการันตีผลงานแล้ว ยังขึ้นชื่อลือชาในการอัพความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ โดยยึดคอนเซ็ปต์ ‘ความงามเฉพาะบุคคล’ หรือ Every Face Sings Its Own Song ที่เน้นดึงจุดเด่นของใบหน้า และสร้างมิติให้กับใบหน้าอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้หญิงสวยที่สุดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่ง Emma Clinic ใช้คอนเซ็ปต์นี้กับการเสริมจมูกด้วยเช่นกัน

คุณหมอหนึ่ง นพ.อนันต์ จึงสุวัฒนานนท์คุณหมอหนึ่ง นพ.อนันต์ จึงสุวัฒนานนท์

ดังนั้น ‘คุณหมอน้ำ’ และ ‘คุณหมอหนึ่ง’ จึงฟันธงฉับๆ เลยว่า เทรนด์เสริมจมูกที่มาแรง ณ ตอนนี้ ไม่ใช่เทรนด์เฉพาะเจาะจงใดๆ แต่เป็นความสวยอย่างเป็นธรรมชาติและเหมาะกับตัวเอง ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยังสวยแน่นอน เพราะจมูกที่โด่งสุดๆ อาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับทุกคน แต่จมูกที่ขึ้นชื่อว่าสวย คือจมูกที่รับกับใบหน้าของคนๆ นั้น ตามแนวคิด ‘ความงามเฉพาะบุคคล’ ที่ใบหน้าโดยรวมยังคงความเป็นธรรมชาติ และเหมาะสมกับโครงสร้างพื้นฐานเดิมของใบหน้านั่นเอง

Emma Clinic

สำหรับ Emma Clinic นั้น ขอบอกเลยว่าเขาเชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมจมูกมาก-ก-ก กอไก่สิบแปดล้านตัวก็ไม่พอค่ะ จนได้รับสุดยอดรางวัลการันตีอย่างที่รู้กัน โดยเฉพาะเทคนิคพิเศษ FDLS ที่ล็อคซิลิโคนแนบสนิทกับใบหน้า ทำให้ลดโอกาสเกิดปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเบี้ยวหรือการเอียงที่สาวๆ หลายคนกังวล แถมเขายังยึดคอนเซ็ปต์ ‘ความงามเฉพาะบุคคล’ อย่างเหนียวแน่น สาวๆ จึงมั่นใจได้ว่าจมูกจะไม่โด่งหรือพุ่งจนเกินไป สวยละมุนรับกับใบหน้าอย่างแน่นอน

โดยทรงจมูกที่ ‘คุณหมอน้ำ’ และ ‘คุณหมอหนึ่ง’ ฟันธงว่าปังสุดๆ ในปีนี้ คือทรง Teardrop ที่จะวิเคราะห์จากโครงสร้างพื้นฐานใบหน้าและจมูกเดิมของสาวๆ เพื่อแก้ปัญหาใบหน้าที่ขาดมิติ ส่วนการเสริมคางที่ฮิตรองลงมา ขอยกให้กับคางทรง V Line ที่ช่วยสร้างมิติให้ใบหน้าเรียวสวย และเนียนเป็นธรรมชาติ แถมหลังการทำจะไม่มีรอยแผลเป็น บวมช้ำน้อย และแผลหายไวด้วย

Emma Clinic

มาถึงความเริ่ดอีกอย่างของ Emma Clinic ที่ทำให้สาวๆ เทคะแนนให้แบบเต็มสิบไม่หัก คือการสร้างความสวยอย่างปลอดภัยในระยะยาว ด้วยมาตรฐานคุณภาพต่างๆ ตั้งแต่ความเชี่ยวชาญของคุณหมอที่ได้รับการการันตีด้วยผลงาน และความพึงพอใจของคนไข้ ความใส่ใจของคุณหมอ ซึ่งจะวิเคราะห์คนไข้อย่างละเอียดแบบเคสต่อเคสเสมอ การเลือกใช้เครื่องมือและผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับสากล ไปจนถึงการบริการทุกขั้นตอนอย่างประทับใจ

เรียกว่าดีงามมากแม่! สมกับเป็นคลินิกความงามยุคใหม่สำหรับผู้หญิงฉลาดเลือกจริงๆ สำหรับสาวๆ ที่สนใจอยากเสริมจมูกให้สวยรับกับใบหน้า ด้วยฝีมือผู้เชี่ยวชาญอย่าง Emma Clinic ซึ่งมั่นใจได้แน่นอน ก็สามารถตามไปติดต่อสอบถามโดยตรงได้เลยที่

Website : www.emmaclinicthailand.com

Facebook : Emmaclinicthailland

Line : @emmaclinic

สาขาแพรกษา โทร. 063-235-9094

สาขาอโศก โทร. 095-746-2823

สาขาพระราม 2 โทร. 064-192-2823

สวยราวนางฟ้า ‘จ้าวลี่อิ่ง’ ออกอีเว้นต์ใหญ่ ก่อนประกาศข่าวแยกทางสามี

หลังจากนางเอกดังแดนมังกร ‘จ้าวลี่อิ่ง’ ดูสวยสดใส ใบหน้าผุดผ่องในชุดเดรสสีขาว ออกงานอีเว้นต์ใหญ่ แต่ผ่านไปเพียงสัปดาห์เดียว ก็มีข่าวว่าเธอและสามีได้หย่ากันแล้ว

เมื่อเช้าวันนี้ 23 เมษายน 2564 วงการบังเทิงจีนมีเรื่องราวสุดช็อก เมื่อทางออฟฟิเชียล สตูดิโอ จ้าวลี่อิ่ง ออกมาแถลงว่า จ้าวลี่อิ่งและเฝิงเส้าเฟิงได้หย่ากันเรียบร้อยแล้ว โดยนางเอกสาวได้โพสต์บนเว่ยป๋อของเธอว่า “วันเวลายาวนาน ผ่านอดีตที่ดีมาก หวังว่าอนาคตจะดียิ่งขึ้น” ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมาก เพราะทั้งคู่นับว่าเป็นคู่รักที่แฟนๆ ซีรีส์ตำนานมิงหลัน The Story of Ming Lan ชื่นชอบและเชียร์มาตลอด

สวยราวนางฟ้า ‘จ้าวลี่อิ่ง’ ออกอีเว้นต์ใหญ่ ก่อนประกาศข่าวแยกทางสามี

แต่หากย้อนกลับไปก่อนหน้าที่จะประกาศข่าวการแยกทางนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2564 จ้าวลี่อิ่ง เข้าร่วมงานอีเว้นต์ใหญ่กลางห้างของแบรนด์ Longines ที่เจิ้งโจว ด้วยใบหน้าสดใสในฐานะ Brand Ambassador ซึ่งมีแฟนคลับมารอให้กำลังใจเต็มทุกชั้น โดยในงานวันนั้นจ้าวลี่อิ่งสวยราวนางฟ้าในเดรสสีขาวที่ด้านหลังลากยาวถึงพื้น เป็นผลงานระดับโอต์ กูตูร์ จาก Antonio Grimaldi และทรงผมสวยสลวยโดยช่างประจำ Min Rui ทำเอาแฟนๆ ตะลึงตาค้างไปตามๆ กัน

จ้าวลี่อิ่ง ออกอีเว้นต์ จ้าวลี่อิ่ง ออกอีเว้นต์ จ้าวลี่อิ่ง นางเอกจีน จ้าวลี่อิ่ง นางเอกจีน

จ้าวลี่อิ่ง ออกอีเว้นต์

ซึ่งท่าทีของนางเอกสาวไม่มีวี่แววหรือสัญญาณบ่งบอกใดๆ ว่าเธอกำลังเจอปัญหาในชีวิตคู่ จนหลังออกอีเว้นต์นี้ได้เพียง 1 สัปดาห์ก็มีการประกาศข่าวแยกทางกับสามี เฝิงเส้าเฟิง นับว่ามีความเป็นมืออาชีพสูง อาจเพราะตามรายงานของออฟฟิเชียลว่าทั้งคู่แยกทางกันด้วยดีและในอนาคตยังรับหน้าที่พ่อแม่ดูแลลูกด้วยกัน

จ้าวลี่อิ่ง นางเอกจีน

จ้าวลี่อิ่ง ออกอีเว้นต์

จ้าวลี่อิ่ง

จ้าวลี่อิ่ง

จ้าวลี่อิ่ง เลิกสามี

จ้าวลี่อิ่ง เลิกสามี

จ้าวลี่อิ่ง ออกอีเว้นต์

จ้าวลี่อิ่ง ออกอีเว้นต์


ภาพ : Studio ZhaoLiying

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ปังทั้งวงการ! เหตุผลที่ คนดังเกาหลี มีอิทธิพลต่อแบรนด์หรูระดับโลก

ทำไมใช้ผ้าแพงสุด! คอสตูม ‘พระสุริยงเทวี’ เจ้าของประโยคเด็ดใน วันทองตอนจบ

ใส่ซ้ำแต่ไม่เหมือนเดิม แฟชั่น ‘เจ้าหญิงไดอาน่า’ กับการรีไซเคิลอันน่าทึ่ง

 

'ดัชเชสเคท' พาเจ้าชายจอร์จและเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ช้อปปิ้ง ในงบจำกัด!

แสนประหยัด ‘ดัชเชสเคท’ พาเจ้าชายจอร์จ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ ช้อปปิ้งในงบจำกัด!

'ดัชเชสเคท' พาเจ้าชายจอร์จและเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ช้อปปิ้ง ในงบจำกัด!
'ดัชเชสเคท' พาเจ้าชายจอร์จและเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ช้อปปิ้ง ในงบจำกัด!

ดัชเชสเคท ทรงกำลังสอนพระโอรสและพระธิดาเกี่ยวกับการใช้จ่ายอย่างประหยัด ไม่สุรุ่ยสุร่าย หรือใช้เงินมือเติบ เพราะจากรายงานล่าสุด เจ้าชายจอร์จและเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงซื้อของโดยใช้เงินส่วนพระองค์เอง 

นี่เป็นอีกครั้งที่พิสูจน์ว่าฉายา ‘เคทแสนประหยัด’ ที่สื่ออังกฤษตั้งให้กับดัชเชสเคท ยังคงใช้ได้เสมอ หลายๆ คนรู้ดีว่าพระองค์ทรงใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่หวือหวา และทรงปฏิบัติตามกรอบธรรมเนียมของราชวงศ์เสมอมา แม้จะมีแหกกฎบ้างเป็นครั้งครา แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นใหญ่จนเป็นเรื่องเป็นราว และล่าสุดนี้ก็มีรายงานจากสื่อต่างประเทศ people.com ว่า ดัชเชสเคททรงพาเจ้าชายจอร์จและเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ออกมาช้อปปิ้งซื้อของ

แสนประหยัด ‘ดัชเชสเคท’ พาเจ้าชายจอร์จ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ ช้อปปิ้งในงบจำกัด!

ซึ่ง Alexa พนักงานร้านค้าในกรุงลอนดอนที่ดัชเชสเคทไปช้อปปิ้ง ได้ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ของเธอว่า “ฉันเป็นแฟนของเคท มิดเดิลตันมาโดยตลอด วันนี้เธอมาในร้านค้าที่ฉันทำงานอยู่ ย่านถนนคิงส์​โรดกับจอร์จและชาร์ลอตต์ สิ่งที่ทีมบอกฉันคือวิธีที่เคทปฏิบัติต่อลูกๆ และเด็กๆ ทำตัวอย่างไรเมื่ออยู่ด้วยกัน นั่นทำให้ฉันชอบเธอมากยิ่งขึ้น”

'ดัชเชสเคท'

'ดัชเชสเคท' พาเจ้าชายจอร์จและเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ช้อปปิ้ง

Alexa กล่าวต่อว่า “เจ้าชายจอร์จวัย 7 ชันษา เจ้าหญิงชาร์ลอตต์วัย 5 ชันษา มีงบประมาณจำกัดในการซื้อของและยังต้องจ่ายเงินสำหรับสิ่งของของตัวเอง ถือเป็นการเลี้ยงดูลูกๆ มาแบบปกติ และเคทพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง มันน่ารักมาก”

นอกจากนี้ ดัชเชสเคท มักจะพาลูกๆ ไปช้อปปิ้งย่านการค้าอยู่เสมอ เช่น Sainsbury ซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น ใน Norfolk ผู้คนแถวนั้นก็จะเห็นดัชเชสเคทอยู่กับลูกๆ เสมอ แม้แต่ในวันฮาโลวีนก็มีคนได้ยินบทสนทนาแสนเรียบง่ายระหว่างพระมารดาและพระโอรส พระธิดา โดยดัชเชสเคททรงถามว่า “จะเป็นอะไรในวันฮาโลวีน” แม้จะเป็นเพียงวันช้อปปิ้งธรรมดา แต่ด้วยความเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ กลับทำให้คนที่เจอเหตุการณ์เหล่านี้ประหลาดใจกับความเรียบง่ายจนแทบไม่อยากจะเชื่อ

'ดัชเชสเคท'


 

ZIPMEX ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล พราว ลิ่มพงศ์พันธุ์

ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล & พราว ลิ่มพงศ์พันธุ์ ผู้นำวงการเงินดิจิทัล

ZIPMEX ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล พราว ลิ่มพงศ์พันธุ์
ZIPMEX ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล พราว ลิ่มพงศ์พันธุ์

Zipmex (บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด) หนึ่งในผู้นำการให้บริการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลเจ้าแรกในเมืองไทยที่มาแรงในยุคนี้ มีเส้นทางการเติบโตที่น่าสนใจ เพราะไม่ได้เดินบนทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ตั้งแต่วันที่ออกเสาะหานักลงทุนไปจนถึงการรอคอยขอใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. จนถึงวันนี้ที่ซิปเม็กซ์มีลูกค้าเพิ่มขึ้น 400 เปอร์เซ็นต์

“คุณแบงค์ ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง ซิปเม็กซ์ ประเทศไทย และ “คุณพราว ลิ่มพงศ์พันธุ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายกลยุทธ์และการตลาด บริษัท ซิปเม็กซ์ เอเชีย เล่าถึงการต่อสู้กว่าจะถึงวันที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในโลกการเงินดิจิทัล

ย้อนเล่าถึงจุดเริ่มต้นก่อนจะมาเป็นซิปเม็กซ์สักนิดค่ะ

คุณแบงค์เริ่มก่อน “ผมเรียนจบด้านกฎหมายจาก Georgetown University แล้วเรียนต่อปริญญาเอกด้านรัฐประศาสนศาสตร์ ดูจากที่เลือกเรียนก็ไม่คิดว่าจะมาทำงานด้านไฟแนนซ์ แต่ความโชคดีคือการได้เรียนที่อังกฤษตั้งแต่ 8 ขวบ ทำให้เห็นการบริการทางด้านการเงินในต่างประเทศ บวกกับมีโอกาสช่วยงานที่บ้านเกี่ยวกับด้านกฎหมายอยู่ประมาณ 6-7 ปี  ก่อนที่จะมาทำซิปเม็กซ์ครับ

“สำหรับซิปเม็กซ์ เป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านทางออนไลน์ระหว่างประเทศที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ลูกค้าสามารถซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกได้เองตลอด 24 ชั่วโมง โดยซื้อผ่านทางแอปพลิเคชั่นของเรา ไม่ว่าจะเป็นเหรียญบิทคอยน์ เหรียญ Ethereum ฯลฯ รวมไปถึงทองคำดิจิทัลด้วย นอกจากนี้ยังเลือกฝากสินทรัพย์ไว้ที่เราเพื่อรับโบนัสหรือดอกเบี้ยก็ได้ ชื่อของ Zipmex สื่อถึงการแลกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว มาจากคำว่า Zip ที่หมายถึงความเร็ว ส่วน Mex แปลงมาจาก Exchange หรือการแลกเปลี่ยน เพราะผมต้องการทำทุกอย่างให้ง่าย สะดวกและรวดเร็วที่สุด”

คุณพราวเล่าบ้าง “ส่วนพราวหลังจากเรียนจบด้านเศรษฐศาสตร์ที่ London School of Economics ก็ไปทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัท Boston Consulting Group ก่อนจะไปเรียนต่อ MBA ที่ Harvard Business School จบแล้วไปเป็นมือขวาของซีอีโอให้กับแบรนด์จิเวลรี่ John Hardy ได้เห็นตั้งแต่การสร้างโรงงานจนถึงกระบวนการทำธุรกิจจิเวลรี่จนพราวรู้สึกว่าน่าสนใจ จึงร่วมกับเพื่อนทำธุรกิจจิเวลรี่ชื่อ Ennovie ซึ่งยังทำอยู่จนถึงตอนนี้ค่ะ

“สำหรับเรื่องการเงินดิจิทัล พราวสนใจมานานแล้ว ตอนเรียนได้ยินเรื่องบิทคอยน์มาบ้าง เคยจะซื้อด้วยซ้ำแต่ติดที่ข้อกังวลสงสัยหลายอย่าง เช่น การที่ต้องจำรหัสของตัวเองให้ได้ถ้าลืมรหัสคือเงินหายเลย หรือความไม่มั่นใจในระบบว่าเงินที่ซื้อ จะไปอยู่ที่ไหน จึงยังชะลอความสนใจไว้ก่อน พอดีกับที่พี่แบงค์ชวนมาทำธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัล พราวตอบตกลงทันที  เพราะคิดว่าในอนาคตธุรกิจนี้ต้องโตแน่นอน”

เชื่อว่าหลายคนยังไม่เข้าใจวิธีการทำงานของการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น เงินลงทุนอยู่ที่ไหน หลายคนกลัวเงินหาย อยากให้อธิบายขั้นตอนการทำงานของแอปพลิเคชั่นให้ฟังหน่อยค่ะ

คุณแบงค์ “หลังจากลงทะเบียนกับทางซิปเม็กซ์และผ่านกระบวนการตรวจสอบที่เรียกว่า KYC (Know Your Customer กระบวนการยืนยันตัวตน)ก็สามารถโอนเงินลงทุนได้เลย เริ่มแค่ 30 บาทก็ลงทุนได้ ซึ่งเงินที่อยู่ในบัญชีลูกค้าไม่สามารถโอนให้คนอื่นได้แต่สามารถใช้ซื้อสินทรัพย์ทางดิจิทัล เช่น ซื้อบิทคอยน์แล้วโอนไปให้ใครก็ได้ หรือพอขายบิทคอยน์ได้แล้วอยากถอนเงินออกมาก็ทำได้ กระบวนการคือให้เข้าไปกดถอน เลือกสกุลเงินบาทไทย เงินจะโอนเข้ามาในบัญชีเงินฝากของคุณที่ลงทะเบียนไว้กับซิปเม็กซ์ หลังจากกดคอนเฟิร์มยืนยันการถอนเงินผ่านทางอีเมลแล้ว ก็สามารถไปกดเงินที่เอทีเอ็มได้เลย สำหรับเงินที่ลงทุนจะอยู่ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ในบัญชีสำหรับลูกค้าเท่านั้น เราไม่แตะเลย ขณะเดียวกันเมื่อลูกค้าไปซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล สินทรัพย์นั้นจะฝากอยู่ที่บริษัท BitGo ซึ่งรับดูแลความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัลให้เรา ตรงนี้ซิปเม็กซ์เข้าไปแตะไม่ได้เหมือนกัน เราจึงมีระบบส่งอีเมลคอนเฟิร์มยืนยันการถอนเงิน เพราะฉะนั้นเงินไม่หายไปไหนครับ”

ZIPMEX ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล

แล้วรายได้ของซิปเม็กซ์จะมาจากจุดไหนบ้างคะ

คุณพราวอธิบาย “จากหลายส่วนค่ะ อย่างในเมืองไทยเรารับให้คำแนะนำกับบริษัทที่สนใจด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชน ขณะเดียวกันเราก็มี Zipmex Token หรือเหรียญที่ทางซิปเม็กซ์ผลิตขึ้นเอง ลูกค้าสามารถใช้เหรียญนี้ในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้เหมือนกัน เราก็ได้เงินจากการซื้อและแลกเปลี่ยนเหรียญ สุดท้ายคือแม้ในเมืองไทยเราไม่ได้เก็บค่าธรรมเนียมในการสมัครหรือค่าธรรมเนียมการซื้อขาย เพราะอยากให้คนในประเทศหันมาใช้กันเยอะๆ แต่ในต่างประเทศ เราเก็บค่าธรรมเนียม ก็จะเกิดรายได้เพิ่มจากตรงนี้ค่ะ”

อะไรทำให้คุณแบงค์เชื่อมั่นในการทำธุรกิจนี้คะ

“ผมศึกษาเรื่องการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลมาพอสมควร ตัวผมเองก็ซื้อขายหุ้นอยู่แล้ว เห็นพฤติกรรมของผู้ลงทุน เช่นผู้สูงอายุจะกลัวความเสี่ยงจึงลงทุนแบบความเสี่ยงต่ำ ขณะที่คนรุ่นใหม่กล้าเสี่ยงมากกว่า บางคนไม่ได้ลงทุนหุ้นแต่เลือกลงกับกองทุน ผมเคยทำงานด้านหลักทรัพย์ได้เห็นว่าบริษัทตลาดหลักทรัพย์ใหญ่ๆ หลายเจ้ามีโบรกเกอร์ประมาณ 250 คนมีหน้าที่ชักชวนลูกค้าให้มาลงทุน ขณะเดียวกันผมก็ได้เห็นอีกเทรนด์ที่กำลังมา ในอเมริกามีแอปพลิเคชั่นชื่อ Robinhood ที่ผู้ใช้สามารถซื้อขายหุ้นได้เลยโดยไม่ต้องผ่านโบรกเกอร์ ไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่ต้องไปสาขาก็ลงทุนได้ ผู้ใช้งานสามารถศึกษาจากอินเทอร์เน็ตได้ ทำให้ผมเห็นว่าโบรกเกอร์ที่เป็นตัวกลางในธุรกิจนี้จะหายไปและรู้เลยว่าสักวัน เทคโนโลยีการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลต้องเข้ามาในไทยแน่ๆ แต่จะทำอย่างไรให้ง่ายที่สุด นั่นเป็นจุดที่ผมอยากก่อตั้งซิปเม็กซ์

“สำหรับผม ผมรู้ว่าธุรกิจด้านบริการการเงินทำงานยังไงแต่ขาดความรู้เรื่องของเทคโนโลยี จึงชวนพาร์ตเนอร์คือคุณมาร์คัส ลิม ชาวสิงคโปร์ซึ่งตอนนี้เป็น CEO and Co-Founder ของซิปเม็กซ์ เขามีความรู้ทางด้านเทคโนโลยีมาช่วยกันก่อตั้ง เราเป็นบริษัทแบบ Fin Tech (Financial Technology บริษัทเทคโนโลยีทางด้านการเงิน) ช่วงแรกที่ก่อตั้งเรามีระบบแล้ว เทคโนโลยีพร้อมแล้วแต่ยังไม่มีลูกค้า จึงเชิญคุณพราวมาดูเรื่องกลยุทธ์และการตลาดให้ครบสูตร”

เส้นทางการเป็นเจ้าแรกของธุรกิจนี้ในไทยเป็นอย่างไรคะ

“ไม่ง่ายเลยครับ โดยเฉพาะการขอใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ใช้เวลารอถึง 18 เดือน คือเมื่อปี 2018 ทางก.ล.ต. ออกกฎหมายเปิดช่องทางอนุญาตให้บริษัทสามารถประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลได้ ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกในทวีปเอเชียที่มีการรับรองนี้ จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดยิบ เช่น วิธีการรับลูกค้า การทำงานหลังบ้าน ทั้งเรื่องการถอนเงิน ฝากเงิน ไปจนถึงความปลอดภัยคือดูหมดทุกอย่าง แม้กระทั่งเรื่องของคำโฆษณาในเว็บไซต์ว่าเกินจริงหรือไม่ อย่างเรื่องที่เราเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลที่ลูกค้าฝากกับเราไว้ที่ไหน ความที่เป็นเรื่องใหม่บางครั้งทาง ก.ล.ต. ก็ยังไม่เข้าใจเรื่องระบบต่างๆ เราต้องผ่านการพิสูจน์ตรวจสอบกันเยอะมาก ซึ่งผมมีหน้าที่ขอใบอนุญาตร่างนโยบายบริษัทมากกว่า 25 ฉบับ เช่น คู่มือการรับลูกค้า ตอบลูกค้ายังไง การวางระบบทุกอย่างใช้เวลานานมาก แต่สุดท้ายก็คุ้มค่าเพราะเราเป็นบริษัทแรกที่ได้รับใบอนุญาตและกำกับดูแลโดยหน่วยงานจาก 4 ประเทศทั่วโลก ในทางกลับกันผมเองก็ดีใจว่าเมื่อเราผ่านการตรวจสอบทั้งหมดนั่นแปลว่าระบบของเรามั่นคงแข็งแรง”

18 เดือนที่รอการอนุมัติ ระหว่างนั้นมีวิธีจัดการกับธุรกิจอย่างไรคะ

“ผมกับคุณพราวใช้วิธีบินไปนำเสนอธุรกิจถึงต่างประเทศเพราะเรารอไม่ได้แล้ว ไปทั้งเวียดนาม อินโดนีเซีย เยอรมนี ออสเตรเลีย เล่าแผนการทำงานของบริษัทเพื่อเรียกความเชื่อมั่น สำหรับผมอุปสรรคที่ยากที่สุดคือการระดมทุนในช่วงแรกไม่ใช่เรื่องของการหาเงินก่อตั้งธุรกิจนะ ตรงนั้นเราพอทำได้ แต่พอก่อตั้งแล้วยังไม่ได้ใบอนุญาตในประเทศไทย เรายังไม่สามารถรับลูกค้าได้ เราก็กังวลว่าการจะหานักลงทุนให้เชื่อมั่นในเราเป็นเรื่องยาก เพราะเป็นธุรกิจน้องใหม่บวกกับช่วงนั้นมีวิกฤติโควิด ถ้าเขาลงทุนในเทคโนโลยีหรือสตาร์ตอัพอื่น เช่น ด้านสุขภาพ อาจจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าลงทุนกับเรา จึงมีนักลงทุนบางกลุ่มลังเล ที่สำคัญคือพอไม่มีเงินเราก็ไม่สามารถจ้างทีมงานเก่งๆ ให้มาร่วมงานกับเราได้ เขาก็ไม่เชื่อมั่น แต่พวกเราก็เสี่ยงบินไปนำเสนอแผนงาน โชคดีว่ามีคอนเซ็ปต์ของธุรกิจที่ชัดเจนกับทีมผู้ก่อตั้งที่มีประสบการณ์จากหลากหลายอุตสาหกรรมและเคยสร้างบริษัทที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว จึงมีนักธุรกิจตอบตกลง แต่ก็มีบางเจ้าตอบตกลงแล้วนะ แต่ยังไม่โอนเงินสักทีอย่างที่เวียดนาม ผมกับคุณพราวต้องบินไปหาเพื่อให้เขากดโอนเงินให้ เราระดมทุนจากทั่วภูมิภาค สุดท้ายพอได้เงินมาก็คลายล็อกหลายๆ อย่าง แล้วพอ ก.ล.ต. อนุมัติ เราก็กลับมาเปิดตัวที่เมืองไทยเมื่อปีที่แล้วเป็นประเทศล่าสุด

“นักลงทุนที่มาลงทุนกับเรามีทั้งแบบที่ให้เงินลงทุนอย่างเดียวกับนักลงทุนที่เป็นพันธมิตร ซึ่งเขาจะช่วยในเรื่องธุรกิจด้วย เช่นเราได้บริษัทระดับโลกอย่าง Jump Trading ที่ทำคริปโตเคอร์เรนซี่ (Cryptocurrency หรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน)ให้กับแอปพลิเคชั่น Robinhood ก็ลงทุนกับเรา รวมไปถึงได้เงินจากนักลงทุนที่เป็นผู้มีพระคุณด้วย (ยิ้ม) คือมีเศรษฐีชาวอินโดนีเซียที่เชื่อมั่นในเรื่องบิทคอยน์ เขาเห็นว่าสิ่งที่เราทำนั้นน่าสนใจและเขาได้ทดลองใช้แอปพลิเคชั่นของเราแล้ว เขาโอนเงินมาให้เลย 30 ล้านบาท”

คุณพราวช่วยเสริม “ตอนแรกหาเงินยากมาก แต่ตอนนี้ต้องบอกนักลงทุนว่าเดี๋ยวก่อนนะ รอก่อนค่ะ (หัวเราะ) คือตอนนี้มีนักลงทุนที่อยากลงทุนกับเราเยอะมากจริงๆ ขณะเดียวกันเราก็อยากค่อยๆ พิจารณาไปทีละเจ้า ขนาดธนาคารยังสนใจที่จะลงทุนกับเราเลย

“ที่เขาสนใจเพราะเชื่อมั่นในทีมค่ะ คือตอนที่เราได้เงินลงทุนมาบางส่วน เราจ้างทีมเก่งๆ ที่มีประสบการณ์ ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เช่น CTO (Chief Technology Officer หรือประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี)ของเราเป็นคนออสเตรเลีย เคยเป็น Head of Engineering ที่ AirTasker และเป็นผู้ออกแบบและพัฒนา APIs รวมถึงระบบหลังบ้านต่างๆมาก่อน หรือ Chief Product Officer (ดูแลเรื่องโปรดักต์ต่าง)เป็นชาวญี่ปุ่น มีประสบการณ์การทำงานกว่า 10 ปีในงานด้าน Data Analytics และ Big Data สามารถทำงานพัฒนาอัลกอริธึมที่เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้น เหล่านี้เป็นจุดสำคัญที่ทำให้นักลงทุนมั่นใจ”

ZIPMEX พราว ลิ่มพงศ์พันธุ์

ย้อนถามถึงช่วงที่ยังไม่มีเงินสนับสนุนจากนักลงทุน เป็นอย่างไรบ้างคะ

“ต้องทำงานกันหนักและประหยัดมากครับ ช่วงแรกเรามีพนักงานไม่กี่คนใช้วิธีเช่าคอนโดทำงานอยู่ด้วยกัน 1 ปี สภาพเราคือสตาร์ตอัพจริงๆ พอได้รับใบอนุญาตแล้ว เมื่อถึงกระบวนการทำงานเราก็ทำกันเองทั้งหมด ผมทำตั้งแต่การอนุมัติ KYC (กระบวนการยืนยันตัวตน) ต้องนั่งดูข้อมูลลูกค้าทีละคนว่ารูปของเขาตรงกับหน้าบัตรประชาชนหรือเปล่า เช็กกับกรมการปกครองว่าบัตรนี้ถูกขโมยมาหรือไม่ รวมถึงดูข้อมูลว่าเขาเป็นผู้ก่อการร้าย เป็นบุคคลล้มละลายหรือไม่ คือตรวจสอบทุกอย่างตามข้อกำหนดของ ก.ล.ต. ถ้าผ่านจะได้รับการอนุมัติภายใน 1-2 ชั่วโมง หรืออย่างแต่ก่อนเรายังไม่มีระบบถอนเงินอัตโนมัติจากแอป ถ้าลูกค้าจะถอนเงินผมต้องตื่นกลางดึกเพื่อเข้าไปกดอนุมัติจากธนาคารผ่านทางมือถืออีกที หรือถ้าระบบขัดข้องก็ต้องลุกขึ้นมาตอบลูกค้าตอนตี 2 หรือบางทีลูกค้ามีคำถาม ซึ่งเรามีระบบแชตอยู่ในแอป ผมกับคุณพราวก็ต้องเข้าไปตอบคำถามลูกค้าเอง เพราะเราจะได้รู้ฟีดแบ็กด้วยว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ซึ่งที่จริงตอนนี้ก็ยังทำอย่างนั้นอยู่นะครับ(หัวเราะ) เราทำงานกันทั้งวันจริงๆ แทบไม่มีเวลาทำอะไรอย่างอื่นเลย เหนื่อยแต่สนุก เพราะคนเริ่มเห็นถึงความสำคัญของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลก็มาเป็นลูกค้าเรามากขึ้น

“สิ่งที่ทำให้รู้ว่าเราทำธุรกิจมาถูกทางแล้วคือล่าสุดบริษัท Tesla มาลงทุนซื้อบิทคอยน์ จนตอนนี้ราคาบิทคอยน์พุ่งจากเดิมเหรียญละ 3 แสนบาท กลายเป็น 1.5 ล้านบาท(ยอดเดือนกุมภาพันธ์) ทีมงานทุกคนตื่นเต้นมากที่ได้อยู่กับช่วงปฏิวัติทางการเงิน ตอนนี้ขวัญกำลังใจของพนักงานบริษัทสูงมากๆ ลูกค้าเองก็เข้ามาเยอะ เราทำกระบวนการยืนยันตัวตนเพื่อรับลูกค้าถึงวันละ 1,000 ราย ซึ่งจริงๆ ยังไม่ทันเพราะทุกวันนี้มีคนสมัครเข้ามากว่า 2,000 คนต่อวัน จึงจ้างพนักงานเพิ่มเพื่อดูเรื่องประวัติลูกค้าอย่างละเอียดโดยเฉพาะเพื่อไม่ต้องเจอปัญหาทีหลัง ขณะเดียวกันก็มีคนมาขอสมัครงานกับเราเยอะขึ้น บางคนยอมลดเงินเดือนตัวเองด้วยซ้ำ เพราะอยากอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง อยากเรียนรู้ เช่น ล่าสุดนี้เราได้จ้าง COO มาจาก ING Bank ซึ่งเป็นธนาคารยักษ์ใหญ่แห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ บริษัทจึงอยู่ในสภาพพร้อมลุยเต็มที่ ผลจากการทำงานหนักคือตอนนี้เราเติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว 400 เปอร์เซ็นต์ จากที่ไม่มีกำไรก็กลายเป็นว่าไม่ต้องห่วงเรื่องเงินแล้ว”

อะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้ซิปเม็กซ์ประสบความสำเร็จไวขนาดนี้

คุณพราว “ตั้งแต่สมัยที่เรายังไม่มีเงินสำหรับการตลาด เราคิดกันแล้วว่าถ้าเราทำโปรดักต์ให้เจ๋งไม่เหมือนใครและชัดเจน คนจะอยากใช้แอปเอง ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ขณะเดียวกันพอมีเงินก็ทุ่มให้กับการตลาดและการหาพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย นอกจากนี้ก็ต้องคิดเร็วทำเร็วค่ะ”

คุณแบงค์ “ในส่วนของกระบวนการทำงานสำคัญมากครับ ทุกเช้าผมกับคุณพราวและพนักงานบางกลุ่มจะวิดีโอคอนเฟอเรนซ์คุยงานกันตั้งแต่ 9 โมงเช้า และทุกวันอังคารเราจะประชุมผู้บริหารถึงโปรเจ็กต์ต่างๆ เราทำอย่างสม่ำเสมอจนเป็นรูทีนไปแล้ว

“ที่ต้องทำงานหนักเพราะถือเป็นความรับผิดชอบของผู้บริหารด้วย เนื่องจากไม่ใช่มีแค่เราคนเดียวแต่มีพนักงานคนอื่นๆ ยิ่งมาเจอโควิดเขาไม่ควรตกงาน เราจึงต้องทำให้ดีที่สุด ซึ่งหลักการทำงานของผมกับคุณพราวคือต้องเทรนพนักงานให้เก่ง อึด อดทนจนไปทำงานที่อื่นได้ ไม่ใช่ดีแค่กับเขาแต่ยังดีกับบริษัทด้วย ผมกับทีมงานให้ความสำคัญกับตรงนี้มาก ซึ่งวิธีการทำงานเราค่อนข้างกันเอง เราเป็นองค์กรแนวราบ คุณพราวนั่งกับทีมของเขาไม่มีห้องแยก ผมก็เช่นกันพอมีปัญหาพนักงานก็เดินมาถามผมได้เลย ทุกคนจะรู้สึกอบอุ่น”

ตอนนี้การลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลมาแรง การแข่งขันระหว่างบริษัทเป็นอย่างไรคะ

คุณพราว “แอปที่ทำด้านสินทรัพย์ดิจิทัลในท้องตลาดตอนนี้มีอีกหลายเจ้าที่นอกเหนือจากซิปเม็กซ์ แต่เราไม่ได้ถือว่าเป็นคู่แข่ง เพราะลูกค้าคงไม่ได้ใช้แอปใดแอปเดียวเขาต้องบริหารความเสี่ยงด้วยเช่นกัน เหมือนกับการฝากเงินในธนาคารที่พราวเชื่อว่าคงไม่ได้ฝากแค่แบงค์เดียว อีกอย่างคือเราอาจมีโปรดักต์ที่แอปอื่นไม่มีขณะเดียวกันแอปอื่นก็อาจมีเหรียญที่เราไม่มีเช่นกัน เรียกว่ามีจุดเด่นต่างกัน นอกจากนี้เรายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกแอป คุยกันบ่อยมาก ล่าสุดเราก็ได้คุยกับทางบริษัทสตางค์และ Kulap ถึงวิธีการที่จะทำให้อุตสาหกรรมนี้โตขึ้นด้วยกัน”

ถ้าอย่างนั้นอะไรคือจุดแข็งของซิปเม็กซ์คะ

“ผมไม่ได้มองว่าเป็นจุดแข็งแต่เป็นเรื่องที่ผมไม่เคยนิ่งนอนใจเลยก็คือ ความปลอดภัย ทั้งเรื่องของระบบการเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้า ครึ่งหนึ่งของเงินลงทุนซิปเม็กซ์จึงทุ่มให้ทีม Tech Developer ที่ดูแลระบบหลังบ้าน ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีทั้งการซื้อขายและระบบความปลอดภัย เราสามารถพูดได้ว่าเป็นทีมที่ใหญ่ที่สุดและมีคนเก่งอยู่กับเราหลายคน

“อีกอย่างคือเราเป็นตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เราถนัดเรื่องระบบการซื้อขายแต่ไม่ถนัดเรื่องการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล ฉะนั้นต้องหาผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มาทำงานร่วมกัน เราจึงเลือกใช้บริษัท BitGo มาดูแลความปลอดภัยให้ ระบบเขาน่าเชื่อถือเพราะขนาดธนาคารใหญ่ระดับโลกอย่างโกลด์แมน แซคส์ก็ช่วยระดมเงินทุนให้เขา ที่สำคัญเขามีประกันภัยให้ด้วย เช่นถ้ามีโจรเข้ามาขโมยสินทรัพย์ต่างๆ ไป เขามีเงินประกันให้เรา 3 พันล้านบาท ถือว่าเยอะ ทำให้ผมสบายใจลูกค้าก็สบายใจ ขณะเดียวกันเราสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าด้วยการจัดอีเว้นต์และไลฟ์อย่างสม่ำเสมอเพื่อตอบทุกข้อสงสัย รวมไปถึงทุกครั้งที่แอปสะดุดเราจะรายงานทุกๆ 15-30 นาทีว่ามีอะไรเกิดขึ้น

“เรื่องที่สองคือการให้บริการลูกค้าหรือ Customer Service เราไม่ใช้หุ่นยนต์และจะไม่ใช้ พนักงานทุกคนพร้อมตอบคำถามลูกค้าผ่านทางแชตตลอด 24 ชั่วโมง และอย่างที่เล่าว่าผมก็ตอบเองด้วย ข้อดีคือรู้ฟีดแบ็กจากลูกค้าได้ทันที”

วันนี้ผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างไรคะ

คุณแบงค์ “ลูกค้าท่านหนึ่งเป็นผู้หญิงอายุ 55 ปี ไม่เคยลงทุนอะไรมาก่อนเลยแต่ฝากเงินกับเรา 5 แสนบาท และเริ่มซื้อเหรียญบางส่วนไป โดยซื้อในช่วงที่บิทคอยน์ 1 เหรียญราคาแค่ 3 แสนบาท จนตอนนี้บิทคอยน์ 1 เหรียญราคาอยู่ที่ 1,500,000 บาท แต่ละเดือนเขาได้กำไรประมาณ 10 – 15 เปอร์เซ็นต์ เขาก็มองว่าดีกว่าเล่นหุ้นเยอะ จึงทยอยซื้อมาเรื่อยๆ จนตอนนี้มีเงินอยู่ 5 ล้านแล้ว

“ผมดีใจที่เห็นผลตอบแทนการลงทุนตรงนี้ จากผู้ใหญ่ที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องการลงทุนแต่วันนี้ผมเชื่อแล้วว่าไม่ว่าอายุเท่าไร คุณสามารถหาเงินจากตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลได้”

วาดภาพซิปเม็กซ์ในอนาคตไว้อย่างไรคะ

“ผมมองว่าตัวเองกำลังสร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่จะช่วยพัฒนาประเทศขึ้นมา ตอนนี้ทางฝ่ายภาครัฐก็เรียกเราเข้าไปปรึกษาในเรื่องการลงทุนต่างๆ ในอนาคตผมอยากให้ซิปเม็กซ์เป็น Digital Assets Bank of Asia คือไม่ใช่โตแค่ในตลาดไทย และประเทศใกล้เคียง แต่อยากเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชีย

“เมื่อคุณเริ่มลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอยากให้เริ่มที่ซิปเม็กซ์ครับ เพราะซิปเม็กซ์เปิดโลกการลงทุนรูปแบบใหม่เพื่อผลตอบแทนที่เหนือกว่า”

วิถีผู้บริหารยุคดิจิทัล

  • การทำงานต้องให้เกียรติกัน เคารพความเห็น เชื่อในความสามารถของพาร์ตเนอร์
  • การทำงานทุกอย่างต้องอยู่บนหลักธรรมาภิบาลและถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ผิดจรรยาบรรณแม้กระบวนการที่ถูกต้องจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม
  • การทำธุรกิจต้องยืนหยัดในแนวทางของตัวเองไม่ตามใคร
  • คิดเร็วทำเร็ว รับฟังฟีดแบ็กจากลูกค้าโดยตรงเพื่อนำมาพัฒนาทันที
  • ผู้บริหารต้องติดตามข่าวสารและศึกษาในเรื่องที่ตัวเองทำ เพื่อให้เข้าใจและรู้เท่าทันเทคโนโลยี

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 968

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ชีวิตจริงที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มาดามแป้ง นวลพรรณ CEO นักสู้หญิงเหล็ก

คัมภีร์นักสู้! ของคนจริง “ตัน ภาสกรนที” ยอมรับปัญหาให้ไว เริ่มแก้ไขให้เร็ว

ซูมชีวิต “เล็ก กรกนก ยงสกุล” เจ้าแม่แห่งวงการเทรนเนอร์พัฒนาศักยภาพ

จ้าวลี่อิ่ง

ช็อคแฟนคลับซีรีส์แดนมังกร จ้าวลี่อิ่ง – เฝิงเส้าเฟิง ประกาศหย่า ปิดตำนานหมิงหลัน

Alternative Textaccount_circle
จ้าวลี่อิ่ง
จ้าวลี่อิ่ง

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาสำนักข่าวแดนมังกรเพิ่งได้ลงข่าวของ เฝิงเส้าเฟิง สามีของนางเอกคนดัง จ้าวลี่อิ่ง ว่าร่างกายดูผอมจนแฟนคลับต่างพากันเป็นห่วงสุขภาพของเขา (ภาพล่าสุดของ เฝิงเส้าเฟิง พระเอกมิงหลัน ทำแฟนคลับเป็นห่วงสุขภาพ) ล่าสุดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาชื่อของ เฝิงเส้าเฟิง กลายเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง เมื่อมีแถลงการณ์ประกาศว่า เขาและภรรยาได้ตัดสินใจแยกทางกันเมื่อไม่นานมานี้ แต่ยังขอคงสถานะพ่อแม่ในการช่วยกันเลี้ยงลูกอย่างดีที่สุด

สำหรับ จ้าวลี่อิ่ง และ เฝิงเส้าเฟิง พบรักกันกลางกองละคร ไซอิ๋ว 3 ในปี 2016 โดย เฝิงเส้าเฟิง รับบท พระถังซัมจั๋ง ขณะที่ จ้าวลี่อิ่ง รับบท ราชินีเมืองเเม่ม่าย ปี 2016 มีคนพบเห็นนักแสดงทั้งสองแต่งตัวคล้ายคู่รักในโรงแรมแห่งหนึ่ง และต่อมาในปี 2018 พวกเขาได้ร่วมงานกันในละครเรื่อง ตำนานมิงหลัน The Story of Ming Lan โดยรับบทเป็นคู่สามีภรรยากัน ซึ่งยังไม่ทันถ่ายจบก็มีข่าวลือเรื่องการตั้งครรภ์ แต่นางเอกสาวปฏิเสธ กระทั่งในเดือน ..ปีเดียวกัน สองนักแสดงจึงได้ออกมาประกาศข่าวดีเรื่องแต่งงาน และในเดือน มี.ค.2019 ลี่อิงก็ได้ให้กำเนิดทายาทเพศชาย กระทั่งล่าสุด เม.ย.2021 ได้มีแถลงแถลงการณ์ข่าวสุดช็อคว่าสองนักแสดงได้ตัดสินใจแยกทางกัน

ช็อคแฟนคลับซีรีส์แดนมังกร จ้าวลี่อิ่ง – เฝิงเส้าเฟิง ประกาศหย่า ปิดตำนานหมิงหลัน

จ้าวลี่อิ่ง


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

อภินิหารรักทะลุจอ เฝิงเส้าเฟิง จูงมือผู้หญิงในฝัน เจ้าลี่อิ่ง จดทะเบียนสมรส

ภาพล่าสุดของ เฟิงเส้าเฝิง พระเอกหมิงหลัน ทำแฟนคลับเป็นห่วงสุขภาพ

แฮร์รี่แห่งซัสเซ็กซ์

ความหวังริบหรี่ แฮร์รี่แห่งซัสเซกซ์ หมดสิทธิ์หวนคืนยศ แทนพระอัยกา

แฮร์รี่แห่งซัสเซ็กซ์
แฮร์รี่แห่งซัสเซ็กซ์

เป็นที่ทราบกันดีว่า เจ้าชายแฮร์รี่แห่งซัสเซกซ์ นั้นเป็นผู้ที่รักในอาชีพทหารอย่างมาก ซึ่งอย่างที่สื่ออังกฤษหลายสำนักได้เคยรายงานไปว่า หลังจากที่ทรงถอยออกมาจากการเป็นราชวงศ์ชั้นสูง ทำให้ตำแหน่งอื่นๆ ที่พระองค์ได้เคยทำในฐานะของสมาชิกราชวงศ์อังกฤษก็ต้องถูกถอดออกไปทั้งหมด รวมถึงยศสูงสุดทางทหารในฐานะแม่ทัพแห่งราชนาวิกโยธินอังกฤษด้วย

แฮร์รี่แห่งซัสเซ็กซ์

เดิมทีเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ นั้นทรงดำรงตำแหน่งดังกล่าวโดยสืบทอดมาจากสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 ในปี 1953 จนกระทั่งทรงลาออกจากราชการทหารมาทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูง เพื่อแบ่งเบาภาระต่างๆ ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2

แฮร์รี่แห่งซัสเซ็กซ์

ความหวังริบหรี่ แฮร์รี่แห่งซัสเซกซ์ หมดสิทธิ์หวนคืนตำแหน่งแม่ทัพ แทนพระอัยกา

ล่วงเลยมาตำแหน่งนี้ก็ได้ถูกส่งต่อมายังเจ้าชายแฮร์รี่ ดยุกแห่งซัสเซกซ์ เนื่องจากในเวลานั้นพระองค์รับราชการทหาร อีกทั้งได้เข้าร่วมสงครามในอัฟกานิสถานตำแหน่งนักบินเฮลิคอปเตอร์อาปาเช่ ซึ่งถือเป็นเชื้อพระวงศ์คนแรกในรอบ 25 ปี ที่รับราชการในเขตสงครามด้วย

แฮร์รี่แห่งซัสเซ็กซ์

ทั้งนี้ในช่วงที่เจ้าชายแฮร์รี่แห่งซัสเซกซ์นั้นจำเป็นต้องสละตำแหน่งทางการทหาร จากการที่มีพระประสงค์ลาออกจากการเป็นสมาชิกราชวงศ์ ก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และได้สร้างความเจ็บปวดให้กับพระองค์ไม่น้อย เพราะนี่คืองานที่พระองค์รักและคิดถึงชีวิตในช่วงที่ได้เป็นทหารมาก ซึ่งอดีตนายทหารที่เคยร่วมงานกับพระองค์ยังเคยเผยว่าเจ้าชายแฮร์รี่นั้นอยากกลับมารับราชการทหารที่อังกฤษ

แฮร์รี่แห่งซัสเซ็กซ์

แต่เหมือนว่าความหวังในการที่จะกลับมารับตำแหน่งแม่ทัพแห่งราชนาวิกโยธินที่พระองค์เคยได้รับเกียรติสูงสุดในวันนั้น อาจจะยากเสียแล้ว เพราะล่าสุดสื่ออังกฤษ express.co.uk รายงานว่า ผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ พระราชธิดาในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 กับเจ้าชายฟิลิป ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีกว่าพระองค์นั้นเป็นหนึ่งในเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงที่อุทิศตนทำงานหนักให้กับราชวงศ์มาโดยตลอด ซึ่งถ้าเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ได้รับการแต่งตั้ง พระองค์ก็จะเป็นแม่ทัพหญิงคนแรกของประวัติศาสตร์อังกฤษเลยทีเดียว

แฮร์รี่แห่งซัสเซ็กซ์

ส่วนทางเจ้าชายแฮร์รี่ พระองค์อาจผิดหวังที่ไม่ได้กลับมารับตำแหน่งนี้ ทั้งที่จริงๆ แล้วทรงเป็นเชื้อพระวงศ์ที่มีความกล้าหาญและมีความสามารถทางด้านการทหารมาก และยังเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิ และการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ Invictus Game เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับทหารผ่านศึก ซึ่งนับเป็นผลงานที่สร้างเกียรติประวัติของพระองค์อย่างมาก

แฮร์รี่แห่งซัสเซ็กซ์

ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ชายชาติทหารอย่างเจ้าชายแฮร์รี่จะไม่ได้กลับเข้ามาเป็นแม่ทัพแห่งราชนาวิกโยธินอังกฤษอีกครั้ง เพราะพระองค์คงทำหน้าที่นี้ได้ดีทีเดียว

คิดถึงกองทัพ! เจ้าชายแฮร์รี่ ต้องการตำแหน่งทหารคืน แม้จะถอยจากราชวงศ์

รอยร้าว ความเย็นชา หลังบ้านวินเซอร์ เมื่อ Prince Harry มาในงานพระศพ

ฟางเส้นสุดท้าย Sussex Couple อาจถูกเทจากสถาบัน เมื่อเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ขึ้นครองราชย์

เจ้าชายแฮร์รี่ เสียพระทัยยิ่ง ซัสเซกส์ ถูกปฏิเสธให้ร่วมพิธีวัน Remembrance

ไร้ทิศทาง ไม่มีงาน ไม่มีเพื่อน! เจ้าชายแฮร์รี่ หวนคิดถึงชีวิตเก่าๆ หลังย้ายไป LA

‘วันศุกร์ โรแมนติก ถูกใจชายต่างชาติสูงวัยในออฟฟิศ’ ดูดวงรายวัน 23 เมษายน 2564

ดูดวงรายวัน 23 เมษายน 2564 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘วันศุกร์ โรแมนติก ถูกใจชายต่างชาติสูงวัยในออฟฟิศ’

ดูดวงรายวัน 23 เมษายน 2564

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานสายบุญ สายธรรมะ สายจิตอาสาเพื่อสังคม งาน CSR  วันนี้ขอให้คุณใช้ความคิดและจินตนาการในตัวทำงานให้เต็มที่ โดยพยายามคุมให้อยู่ในคอนเซ็ปท์ อย่าหลุด เพราะไม่เช่นนั้นจากสายบุญ คุณจะมีโอกาสย้ายข้างไปทำงานเอ็นเทอร์เทนเม้นท์ หรืองานสีเทาทุกรูปแบบ หรืองานที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งไม่ใช่แนวของคุณ

การเงิน  :  ไม่สามารถเก็บเงินอยู่กับตัวได้นาน ส่วนใหญ่จะทำบุญ ทำกุศล บริจาคทานเพื่อสังคม ระวังวันนี้คุณอาจถูกคนใกล้ชิด หรือมิจฉาชีพหลอกเงินไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง หรือสีเทา

ความรัก :  คุณแต่งงานอยู่ในครอบครัวที่ดี มีตำแหน่งหน้าที่การงานเป็นที่ยอมรับนับถือในสังคม ซึ่งคุณก็ดูแลและช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างดี แต่วันนี้อาจออกนอกลู่นอกทางไปบ้าง มีโอกาสถูกมือที่สามฉกตัวไปนะคะ คนโสด แฟนเก่าก็ยังมีโอกาสติดต่อกลับมา มีสองทางคือ ไม่ชวนไปทำบุญ ก็ชวนไปอยู่ด้วยกันเลย

สุขภาพ :  ภูมิแพ้มาแล้วจ้า ตอนนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก ก็ต้องระวังระบบทางเดินหายใจจะติดขัด จามบ่อย จนถึงเป็นไซนัสอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  งานที่ยังคาราคาซัง เคลียร์ไม่จบ ยืดเยื้อมานาน จะดำเนินมาถึงวาระสุดท้าย แม้จะเป็นการจบที่เจ็บ แต่ก็เปิดโอกาสให้ได้เริ่มต้นใหม่ ซึ่งคุณเป็นสาวสตรองอยู่แล้ว ชอบลุยเดี่ยว ไม่ค่อยยอมรับฟังความคิดเห็นจากใคร วันนี้ก็ต้องระวังการตัดสินใจที่เฉียบขาด แต่ขาดความรอบคอบ รวมถึงการมีบริวารที่ไม่ซื่อสัตย์ เพราะจะนำไปสู่ความเสียหายอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้น ดังนั้น วันนี้คุณจึงควรใช้สติ ปัญญา และเทคนิคส่วนบุคคล มาใช้ในการเจรจาต่อรอง หรือประนีประนอม เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

การเงิน :  รายได้ประจำจากที่เคยได้อาจไม่ได้แล้ว ซึ่งคุณเป็นนักลงทุน สามารถหยิบโน่นนี่มาหมุน มาต่อยอด ทำให้มีเงินใช้ไปได้ ก็ยังมีรายจ่ายอยู่กับการท่องเที่ยว การเข้าสังคม อยู่นะคุ

ความรัก :  ความสัมพันธ์ต่างๆ วันนี้อาจดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุดนะคะ แต่อย่างไรก็ตามคุณก็ยังหนีปัญหาไม่พ้น ยังต้องแบกรับเรื่องราวของสมาชิกในครอบครัวไว้เหมือนเดิม คนโสด เพิ่งอกหักมาหรือเปล่าคะ วันนี้คุณร้อนแรง มีเสน่ห์ แต่ก็อย่าเพิ่งตัดสินใจคบกับใครอย่างรวดเร็ว เพื่อประชดหรือชดเชยความรักที่จากไป สำหรับคุณต้องค่อยๆ ศึกษานิสัยใจคอกันไป

สุขภาพ  :  หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องยืนหรือเดินเป็นเวลานาน เพราะคุณวจะมีอาการปวดที่สะโพกไปจนถึงต้นขา มีโอกาสเป็นกล้ามเนื้ออักเสบหรือเอ็นยึด ควรออกกำลังกายบ้าง และทำเป็นประจำ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานประดิษฐ์คิดค้น  ช่างฝีมือทุกประเภท หรืองานทดลอง ค้นคว้าวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักการเมือง ฯลฯ โดยเน้นที่งานเพื่อสังคมมากกว่าตัวเอง ก็นับว่า วันนี้คุณมีดวงผู้ใหญ่ให้การสนับสนุนและส่งเสริม ส่วนเพื่อนร่วมงาน และผู้บังคับบัญชาก็เมตตาเอ็นดูคุณเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะทำอะไร ก็จะไม่ค่อยมีปัญหาและอุปสรรคมากนัก นอกจากนั้นยังได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้คุณได้ทำตามที่ตั้งใจไว้ แต่ก็ไม่ควรประมาท เพราะชื่อเสียง ตำแหน่งหน้าที่การงาน เมื่อขึ้นสูงได้ก็ตกลงได้เช่นกัน

การเงิน :  คุณทำงานเพื่อสังคม เพื่อสมาชิกในครอบครัว ญาติพี่น้อง จนแทบไม่ได้คิดถึงตัวเอง ขณะเดียวกันผลจากการให้ คุณก็จะได้รับจากผู้ใหญ่กลับคืนมาเช่นกัน

ความรัก :  คุณทำงานสร้างครอบครัวให้มั่นคง ดูแลผู้ใหญ่ให้อยู่ดีกินดี  แต่วันนี้คุณยังตัดสินใจไม่ได้ว่า จะทำอย่างไรกับชีวิต เดี๋ยวก็อยากปลีกวิเวก เดี๋ยวก็อยากทำบิ๊กโปรเจ๊กท์ให้กับครอบครัว คนอยู่ด้วยจึงเดาใจยาก เอาใจลำบาก  คนโสด  ใจหนึ่งก็อยากจะปลีกวิเวก อุทิศชีวิตเพื่อสังคมแล้ว แต่อีกใจก็อยากมีแฟน ค่อยๆ ทำทีละอย่างก็ได้ค่ะ เพราะดวงการแต่งงานของคุณอยู่ที่อายุ 35-40 ปี

สุขภาพ  :  ออฟฟิศซินโดรมมาเยือน นั่งหน้าคอมพิวเตอร์มาทั้งอาทิตย์ ก็จะเริ่มปวดหลัง  ปวดตึงที่คอ บ่า ไหล่ ก็ควรลุกเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ หรือไม่ก็หาหมอนวดฝีมือดีมานวดคลายเส้น สลายพังผืดบ้างก็ดีค่ะ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  คุณมีดวงผู้ใหญ่ให้การสนับสนุนส่งเสริมและช่วยเหลือ ส่วนเพื่อนร่วมงาน หรือผู้บังคับบัญชาก็ให้ความเมตตาเอ็นดูเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นหากคุณกำลังอยู่ในสถานะที่ถูกมองข้าม นำเสนองานอะไรก็ไม่ได้รับความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับสายการศึกษา ครูบาอาจารย์ นักวิชาการ แพทย์ ทั้งแผนปัจจุบัน และแผนโบราณ ฯลฯ วันนี้โอกาสมาถึง คุณจะได้ร่วมงานกับเพื่อนร่วมงานที่ดี กับผู้รู้ผู้มีประสบการณ์ระดับปรมาจารย์เลยทีเดียว ก็ส่งผลให้งานที่คุณนำเสนอนั้นประสบความสำเร็จด้วยดี

การเงิน :  มีโอกาสที่จะสูญเงินก้อนใหญ่ให้กับคนใกล้ชิด หรือญาติมิตรพี่น้อง ซึ่งวันนี้ทีมงานและผู้บังคับบัญชาที่ดี จะช่วยสร้างรายได้ให้กับคุณ

ความรัก :  คุณมีโอกาสถูกโดดเดี่ยวได้นะคะ อาจเพราะคู่คุณเป็นผู้ใหญ่มาก จนเกิดช่องว่างขนาดใหญ่ แม้ว่าคุณจะพยายามเรียกร้องความสนใจ แต่ก็ไม่ดีขึ้น ทางที่ดีจึงควรปรึกษาผู้ใหญ่ ซึ่งท่านพร้อมตั้งโต๊ะให้บริการคำปรึกษาเลยทีเดียว คนโสด  หากคนที่กำลังคบอยู่เป็นต่างชาติสูงวัย เขาอาจยังไม่ใช่ตัวจริง เพราะยังไม่ผ่านการพิจารณาจากผู้ใหญ่ในครอบครัวคุณ

สุขภาพ :  เดินดีๆ นะคะ ระวังหกล้ม จนเกิดอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นเอ็นต่างๆ โดยเฉพาะช่วงขาและหลัง

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสาร งานโครงข่าย อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ เทคโนโลยี เครื่องมือสื่อสาร ฯลฯ ซึ่งคุณเดินสายทำงานไปโน้นนี่ ไม่ได้อยู่ติดออฟฟิศเลย วันนี้คุณมีโอกาสได้เข้าไปทำงานให้กับผู้มีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบสูง  เช่น บุคคลในเครื่องแบบ ทนายความ นักกฎหมาย ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเข้าไปพัวพันกับงานสีเทาทุกรูปแบบ ก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะหากคุณถลำลึกลงไปแล้วจะมีแต่ปัญหา ความเดือดร้อน ส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตและอนาคตเป็นอย่างยิ่ง จึงควรยึดมั่นปฏิบัติงานบนความถูกต้อง ถูกหลักศีลธรรม

การเงิน :  คุณหาเงินเก่ง สามารถหมุนเงิน ต่อเงิน สร้างผลกำไรให้กับตัวเอง แต่พอได้มาก็หมดกับการสังสรรค์ปาร์ตี้ จึงควรยึดหลักทางสายกลาง พอดี พอเพียง ซึ่งจะทำให้คุณมีเงินใช้ไปได้นานๆ

ความรัก :  หากคุณแต่งงานอยู่ด้วยกันเป็นเวลานาน หากจะรู้สึกเบื่อหน่ายกันบ้างก็เป็นธรรมดา ซึ่งวันนี้คู่คุณอยู่บ้านเป็นแฟมิลี่แมน จึงควรหากิจกรรมทำด้วยกัน เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ การเข้าห้องพระสวดมนต์ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีต่อใจ  คนโสด ด้วยสถานการณ์โควิด-19 จากที่คุณเป็นนักท่องราตรีก็ต้องอยู่บ้าน วันนี้ลองเข้าห้องพระ สวดมนต์ จะทำให้อารมณ์ที่ร้อนแรงนิ่งสงบขึ้น

สุขภาพ :  ออกนอกบ้านควรเตรียมยาดม ยาหม่อง ยาประจำตัวไปด้วยนะคะ เพราะคุณมีโอกาสวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม ได้เฉียบพลัน

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : ก็ยังอยู่ในกลุ่มของผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับการติดต่อประสานงาน การบริหารจัดการ และให้บริการคำปรึกษาแก่บุคคลอื่นในทุกๆ ด้าน  วันนี้คุณมาสายสตรอง ลุย โดยไม่รับฟังความคิดเห็นจากใครทั้งนั้น ก็ต้องระวังการตัดสินใจที่เฉียบขาด แต่ขาดความรับผิดชอบ กับการมีบริวารที่ไม่ซื่อสัตย์ จะทำให้ผิดพลาดล้มเหลวอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้น ดังนั้น จึงควรศึกษาหรือแสวงหาความรู้จนแตกฉาน เปิดใจ รับฟังความคิดเห็นจากผู้มีความรู้มีประสบการณ์

การเงิน :  คุณชอบลงทุน หมุนเงิน ต่อเงิน มีเท่าไหร่ก็นำมาลงทุนหมด แต่คุณก็ไม่ได้คาดหวังมากนัก เพราะรายได้หลักของคุณก็ยังอยู่ที่รายได้ประจำ

ความรัก :  ตามธรรมดาคุณเป็นคนร้อนแรง โรแมนติก ขณะเดียวกันก็สตรอง และมีทิฐิสูง ไม่ชอบการประนีประนอม ต้องการเอาชนะ แต่วันนี้คุณจะเปลี่ยนแนว ไม่เถียง ปลีกวิเวกไปอยู่คนเดียว คนโสด โรแมนติก วาดฝันถึงความรักอย่างสวยงาม คนๆ นั้นมีโอกาสที่จะเป็นชาวต่างชาติสูงวัยที่ทำงานด้วยกันในออฟฟิศก็ได้นะคะ

สุขภาพ :  อวัยวะที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมากเลยคือ หัวใจ และโรคที่เกี่ยวกับหัวใจทุกประเภท รวมถึงโรคของผู้สูงวัย เช่น วัยทอง ซึมเศร้า เห็นอะไรก็ขัดหูขัดตาไปหมด

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์ความรู้สึก ในการถ่ายทอดผลงาน เช่น งานในวงการบันเทิง งานเขียน งานออกแบบ ศิลปิน ฯลฯ  หากคุณทำงานหรือร่วมหุ้นลงทุนกับเพื่อนผู้หญิง ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ ทั้งชื่อเสียง และผลตอบแทน ถึงขั้นโกอินเตอร์เลยทีเดียว แต่ควรระวังอีโก้ และความเชื่อมั่นในตัวเอง จนไม่ยอมรับในความคิดเห็นที่แตกต่างจากกลุ่มพวกพ้องของตัวเอง เพราะจะเท่ากับปิดบังและขัดขวางหนทางแห่งปัญญา ทำให้คุณมองเกมไม่ทะลุ

การเงิน :  มีความเป็นไปได้ที่ธุรกิจจะประสบความสำเร็จ มีกำไร แต่คุณควรเก็บเงินไว้บ้าง ไม่ควรนำไปซื้อความสุขราคาแพงให้กับตัวเอง หรือฟุ่มเฟือย จนเงินหมด

ความรัก :  เป็นความสัมพันธ์ระหว่างญาติพี่น้องผู้หญิง ซึ่งคุณมีภาวะผู้นำสูง ดำเนินชีวิตตามหลักการและเหตุผล อยู่ในขนบธรรมเนียมตึงเป๊ะ จึงอาจทำให้พวกเธออยู่กันแบบเครียดไปหน่อย ผ่อนคลายบ้าง   คนโสด  เพื่อนสนิทผู้หญิงมีโอกาสที่จะขอพัฒนาความสัมพันธ์ แต่เพราะคุณมีภาวะผู้นำสูง จึงไม่ใส่ใจเรื่องความรักมากนัก แต่ก็ไม่ปฏิเสธ

สุขภาพ :   ระบบหมุนเวียนน้ำในร่างกาย เช่น น้ำเหลือง น้ำเลือด น้ำย่อย น้ำในหู มีความเป็นไปได้ที่จะมีปัญหา รวมถึงระดับฮอร์โมนในร่างกายที่จะสวิง ส่งผลให้อารมณ์แปรปรวนง่ายมาก

 

 

 

น้าค่อม ชวนชื่น

10 เรื่องของ น้าค่อม ชวนชื่น นักแสดงตลกในดวงใจของใครหลายคน

Alternative Textaccount_circle
น้าค่อม ชวนชื่น
น้าค่อม ชวนชื่น

จบ ป.1 อ่านหนังสือไม่ออก แต่มีพรสวรรค์ด้านความจำ 10 เรื่องที่จะทำให้เรารู้จัก น้าค่อม ชวนชื่น นักแสดงตลกในดวงใจของใครหลายคนมากขึ้น

10 เรื่องของ น้าค่อม ชวนชื่น นักแสดงตลกในดวงใจของใครหลายคน

1.ประวัติ : “น้าค่อม” มีชื่อจริงว่า “อาคม ปรีดากุล “เป็นนักแสดงตลกในคณะชวนชื่น โดยเข้ามาในวงการผ่านทางนักแสดงตลกรุ่นน้อง “จิ้ม ชวนชื่น”

2.ครอบครัว : เกิดวันที่ 5 มกราคม 2501 ปัจจุบันอายุ 63 ปี มีภูมิลำเนาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยสมรสกับ”เอ๋-ประภาศรี” มีบุตรด้วยกัน 3 คน ไอซ์-ณพัชรินทร์ ไพบูลย์รัตนกิจ(จีรนันท์ ปรีดากุล) ,กฤต ปรีดากุล, วิธาน ปรีดากุล

น้าค่อม ชวนชื่น

3.การศึกษา : น้าค่อมได้เคยให้สัมภาษณ์กับ adaymagazine ไว้ว่าเขาเรียนจบเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และลาออกไปเล่นลิเกตามอาชีพของพ่อและแม่ แน่นอนว่าน้าค่อมมักได้รับบทตลกๆ แต่ถึงไม่ใช่พระเอกของเรื่องแต่ก็เป็นที่นิยมชมชอบอยู่มาก

4.ฉายาน้าเหยิน : ในช่วงแรกที่เข้าวงการน้าค่อมมักถูกแซวเกี่ยวกับเรื่องฟัน จนหลายคนเรียกว่า “น้าเหยิน” ที่มาพร้อมกับคำพูดเด็ด “เดี๋ยวเอาฟันเฉาะหน้าเลย” แม้จะฟังดูเหมือนถูกบูลลี่อยู่ตลอด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นทำให้น้าค่อมแตกต่าง จนทำให้ทุกคนได้รู้จักและจดจำน้าค่อมได้เป็นอย่างดี ท่ามกลางนักแสดงตลกที่มีนับไม่ถ้วน

เดี๋ยวเอาฟันเฉาะหน้าเลย

5.นักแสดงตลกที่มีผลงานมากกว่า 150 เรื่อง : ถึงแม้น้าค่อมจะเริ่มต้นและยึดงานตลกเป็นอาชีพ แต่ก็มีผลงานการแสดงด้วย ซึ่งหากนับๆ ดูแล้ว ทั้งงานภาพยนตร์และละครรวมกันก็มากกว่า 150 เรื่อง เป็นจำนวนที่มากกว่านักแสดงอาชีพบางคนเสียอีก

6.ไม่รู้หนังสือ แต่ใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี : แต่ที่ทำให้หลายคนประทับใจและรู้สึกเคารพน้าค่อมมากๆ ก็คือ แม้นักแสดงตลกคนนี้จะไม่รู้หนังสือเลย แต่กลับเล่นหนังและละครได้เป็นร้อยเรื่อง ซึ่งแม้น้าค่อมจะถ่อมตัวว่าเป็นความโชคดีในพรสวรรค์ แต่เชื่อหรือเกินว่าเหตุผลที่ทำให้นักแสดงตลกคนนี้มาได้ไกลมาก ก็คือการทำการบ้านอย่างหนักนั่นเอง

7.ตรงต่อเวลา : น้าค่อมเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่เคยไปทำงานสาย วินัยยังคงเป็นสิ่งที่เขายึดถือเสมอมา “เราไปเอาเงินเขา เราต้องตรงต่อเวลา ตรงต่อหน้าที่ สิ่งเหล่านี้คือดีที่สุด การเป็นนักแสดงถึงคุณไม่ได้เล่นดีมากแต่ถ้าทำเวลาได้ดีเขาก็ยังจ้างคุณ เวลาในวงการนี้คือเรื่องสำคัญมาก”

8.ไอดอลของไอดอล : น้าค่อมถือเป็นไอดอลของไอดอลเลยก็ว่าได้ เพราะคนดังหลายๆ คนได้เคยเปิดเผยความประทับใจในตัวน้าค่อมจนอยากจะเจอตัวเป็นๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ตูน บอดี้สแลม ผู้ก่อตั้งโครงการก้าวคนละก้าว

9.ใครโดนน้าด่าก็ไม่โกรธ : มุกตลกของน้าค่อมส่วนใหญ่ จะเป็นการใช้คำด่าผู้อื่น แต่เรื่องที่แปลกคือคนถูกด่าไม่มีใครโกรธน้าค่อม  โดยแฟนคลับทั้งคนดังและคนไม่ได้ เวลาเจอน้าค่อมมักจะขอให้น้าค่อมด่าตัวเองอยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่น ตูน บอดี้สแลม ซึ่งเจ้าพ่อเดี่ยวไมโครโฟนอย่าง “โน๊ต-อุดม แต้พานิช” ได้เคยพูดถึงเรื่องนี้ไว้เหมือนกันว่าตูนพยายามเต็มที่เพื่อที่จะมาถึงจุดสูงสุดเพื่อมาโดนน้าค่อมด่า ซึ่งนี่อาจจะเป็นการเติมเต็มด้านจิตใจเลยก็ว่าได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อดูวิดีโอหลายๆ คลิปก็ทำให้รู้ว่าน้าค่อมไม่ได้ด่ามั่วซั่ว ซึ่งคำพูดแรงๆ ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นคำที่ถูกขอร้องให้พูดมากกว่า ซึ่งหลังจากด่าเสร็จการสนทนากับแฟนคลับก็มักลงท้ายด้วยคำว่าครับเสมอ ทำให้รู้ว่าตัวจริงของน้าค่อมก็ไม่ได้เป็นคนพูดจาไม่เพราะอย่างที่หลายคนเข้าใจ

10.สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้คนเสมอ : มากกว่า 20 ปีแล้วที่น้าค่อมสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกๆ คนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง นั่นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมน้าค่อมถึงเป็นตลกที่เป็นที่รักมากมายขนาดนี้ แม้แต่ในวันที่น้าค่อมไม่สบาย ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 คำพูดสั้นๆ ของน้าค่อม “สบายดีไอ้สัส” ที่ตอบ “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” ในรายการ โหนกระแส ก็ยังสร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้ผู้ชมได้เหมือนเดิมในสถานการณ์ที่ไม่โอเค

หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย

 


ข้อมูลจาก : Wikipedia, adaymagazine

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

SOLD OUT เหรียญเจ้าแม่นาคีรุ่นวีรสตรีต้านโควิด “แต้ว” เล็งผลิตรุ่น 2

สถานการณ์โควิด-19 วงการบันเทิงเมืองไทย ใครติด ใครรอผล ใครกักตัว

ทำความรู้จัก เอิร์ธ-พงศกร ลูกชายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

น้องนาตาชา

สมศักดิ์ศรีกูรูการเงินตัวพ่อ “ฟลุค-เกริกพล” วางแผนการเงินสุดเป๊ะให้ลูกสาวตัวน้อย

Alternative Textaccount_circle
น้องนาตาชา
น้องนาตาชา

เรียกว่าสมศักดิ์ศรีกูรูการเงินสุดๆ สำหรับ “ฟลุค-เกริกพล มัสยวาณิช” คุณพ่อที่กำลังเห่อลูกสาวตัวน้อย “น้องนาตาชา” เจ้าของตากลมโตกับรอยยิ้มหวานกระชากใจ ซึ่งทำให้คุณพ่อฟลุคหลงแล้วหลงอีก กระทั่งวางแผนการเงินในอนาคตรอไว้ให้แล้ว

ฟลุค เกริกพล

สมศักดิ์ศรีกูรูการเงินตัวพ่อ “ฟลุค-เกริกพล” วางแผนการเงินสุดเป๊ะให้ลูกสาวตัวน้อย “น้องนาตาชา”

“ความที่ตอนนี้ลูกผมมีทุกอย่างแล้ว สิ่งที่ตั้งใจเตรียมไว้เพื่อลูกในอนาคต ชนิดว่าปีนี้ต้องทำไว้แน่ๆ คือ หนึ่ง ประกันสุขภาพ ซึ่งสำคัญที่สุด ในฐานะพ่อ ผมไม่อยากให้ลูกเจ็บป่วยแล้วไม่มีเงินรักษา ตั้งใจว่าจะเลือกประกันแบบคล้ายกับที่ผมทำนี่แหละ คือครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาและค่าห้อง อย่างน้อยถ้าเขาป่วยเป็นอะไร ก็มั่นใจว่าจะมีที่ไว้ให้รักษา โดยที่ผมไม่ต้องเครียดเรื่องเงินหรือควักเพิ่ม คิดอย่างเดียวพอว่าลูกจะหายเมื่อไร ประกันที่ผมเลือกคือจ่ายเงินรายปี แต่ทริคของผมคือหารไว้เป็นรายเดือน เพื่อทยอยเก็บเงินไว้ ตอนจ่ายจริงปลายปีจะได้ไม่รู้สึกหนักจนเกินไป

ฟลุค เกริกพล

“รองลงมาคือเรื่องอนาคต ผมตั้งใจวางแผนเรื่องการเงินให้ลูกตั้งแต่ตอนนี้เลย เป็นเหมือนมรดก เพื่อที่โตขึ้นมาเขาจะได้มีเงินก้อนหนึ่งไว้ ไม่ต้องเครียดเรื่องหาเลี้ยงตัวเองจนเกินไป อย่างน้อยให้เขาได้เลือกอาชีพที่ชอบจริงๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน ซึ่งผมเลือกแล้วว่าจะลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี่ให้ลูก เพราะหนึ่ง ผมมองว่าเป็นสกุลเงินใหม่ที่น่าสนใจในอนาคต สอง มันยังสามารถเติบโตได้อีกเยอะ และเติบโตชนิดพลิกชีวิตได้ อย่างหุ้น ถ้าไม่นับช่วงโควิด ปกติได้กำไรปีละ 20 เปอร์เซ็นต์ก็หล่อแล้ว แต่คริปโตเคอร์เรนซี่ถ้าซื้อถูกตัว อาจเติบโตขึ้นปีละ 1,000 เปอร์เซ็นต์

ฟลุค เกริกพล

“ดังนั้นผมใช้วิธีนำเงินขวัญถุงที่คนให้ลูกไปซื้อคริปโตเคอร์เรนซี่ ส่วนทองที่คนให้มาก็ใส่เซฟไว้แล้วแปลงมูลค่าเป็นบาท แล้วนำเงินจำนวนนั้นไปซื้อคริปโตเคอร์เรนซี่ให้ลูก โดยเฉลี่ยซื้อหลายๆ ตัว พอถึงวันเกิดหรือวันพิเศษของเขาก็อาจเพิ่มให้อีกหน่อยเท่าที่ไหว แต่จะทยอยเพิ่มให้เขาทุกปี ให้เป็นเงินสะสมของลูกในยามที่เขาโตขึ้น ซึ่งสมมตินะ ตีเป็นเลขกลมๆ ว่าผมลงทุนให้ลูกไป 1 ล้าน ดีไม่ดีอีก 20 ปีข้างหน้าอาจกลายเป็น 100 ล้านก็ได้ หรือถ้าเกิดมูลค่าตกเหลือแค่ 6 แสน ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยทองขวัญถุงก็ยังอยู่ ลูกก็เอาทองไป” (หัวเราะ)


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 977

ภาพ : @fluke777

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ทำไมต้องถูกใจคนอื่น! กะเทาะเปลือก แก้ว-จริญญา “แฟชั่นคือศิลปะไม่มีถูกหรือผิด”

“ตู่-ปิยวดี” เล่าละเอียดยิบ! อยากมีลูกมากเป็นเหตุ แพ้ยา ทำให้เผชิญโรคหินปูนหลุด

เบอร์หนึ่งโหนกระแส! กรรชัย กำเนิดพลอย ผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี 2564

"แพนเค้ก เขมนิจ" ลุคบิกินี่แสนแซ่บกับสูตรฟิตหุ่นกระชับทุกสัดส่วน

เป๊ะทุกองศา! “แพนเค้ก เขมนิจ” ลุคบิกินี่แสนแซ่บกับสูตรฟิตหุ่นกระชับสัดส่วน

Alternative Textaccount_circle
"แพนเค้ก เขมนิจ" ลุคบิกินี่แสนแซ่บกับสูตรฟิตหุ่นกระชับทุกสัดส่วน
"แพนเค้ก เขมนิจ" ลุคบิกินี่แสนแซ่บกับสูตรฟิตหุ่นกระชับทุกสัดส่วน

นางเอกสาวสวย “แพนเค้ก เขมนิจ” ในลุคบิกินี่สุดเซ็กซี่ล่าสุด บอกเลยว่าสวยแซ่บ รูปร่างดี เป๊ะปังมากๆ เพราะเธอเป็นอีกหนึ่งสาวคนดังที่ชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อสตั๊ฟหุ่นสวยฟิตตลอดกาล ซึ่งหลายคนอาจจะอยากทราบเคล็ดลับการดูแลรูปร่างของสาวแพน โดย Praew Exclusive Talk เคยล้วงลับถึงไลฟ์สไตล์ในการออกกำลังกายอย่างไรบ้าง และมีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้แพนเค้กสามารถฟิตแอนด์เฟิร์มได้อย่างมีความสุขในทุกๆ วัน

"แพนเค้ก เขมนิจ" ลุคบิกินี่แสนแซ่บกับสูตรฟิตหุ่นกระชับทุกสัดส่วน

แบ่งเวลาให้กับการออกกำลังกายอย่างไร

จริงๆ พยายามจะออกกำลังกายให้ได้สัปดาห์ละ 3-4 วัน แต่จะเป็นช่วงเวลาไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของเรา บางทีตื่นเช้ามาอาจจะได้สักครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงก่อน บางวันที่ไปจอยเข้าคลาส ก็จะลงเวลาไว้เป็นช่วงบ่ายหรือช่วงเย็น บางวันก็จะเปลี่ยนไปเป็นการวิ่ง แพนพยายามที่จะเปลี่ยนการออกกำลังกายไปเรื่อยๆ เช่น วิ่ง โยคะ คาดิโอ้ หรือการเล่นเป็นเซอร์กิตต่างๆ เพื่อให้ร่างกายรู้สึกไม่ชิน ไม่เบื่อ”

"แพนเค้ก เขมนิจ" ลุคบิกินี่แสนแซ่บกับสูตรฟิตหุ่นกระชับทุกสัดส่วน

ชอบออกกำลังกายแบบไหนมากที่สุด

ถ้าเริ่มแรกตั้งแต่เด็กๆ เลย แพนชอบการวิ่งที่สุด เป็นการวิ่งระยะสั้น รู้สึกว่าการวิ่งคือความฝันที่ว่าวันหนึ่งอยากจะเป็นนักกีฬาวิ่งทีมชาติ ถ้าวันนี้ไม่ได้ทำอาชีพตรงนี้ ก็จะไปเป็นนักกีฬาวิ่งแล้ว เพราะรู้สึกว่าการวิ่งเป็นสิ่งที่เราต้องใช้เวลาในการฝึกซ้อม รับผิดชอบ และมีวินัยเยอะมาก ทุกวันนี้ก็เลยนำสิ่งที่รักมาเป็นการออกกำลังกายแทน แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นการวิ่งมาราธอน ซึ่งเป็นการวิ่งระยะไกล แพนก็พยายามจะฝึกซ้อมมากขึ้น แล้วก็มีการออกกำลังกายแบบอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น โยคะ มวย คาดิโอ้ กอล์ฟ การเล่นเป็นเซอร์กิตต่างๆ และกิจกรรมไฮอินเทนซีฟที่ต้องใช้แรงมากขึ้น เพื่อให้ร่างกายได้ใช้กล้ามเนื้อครบทุกส่วน”

"แพนเค้ก เขมนิจ" ลุคบิกินี่แสนแซ่บกับสูตรฟิตหุ่นกระชับทุกสัดส่วน

ออกกำลังกายที่บ้านหรือเข้าฟิตเนสมากกว่ากัน

“ส่วนมากจะออกกำลังกายที่บ้านค่ะ ถ้าเอาแบบง่ายที่สุดเลยก็คือเปิดยูทูปแล้วเล่นตาม แล้วก็ดูว่าเราชอบแบบไหน หรือแบบที่ทำให้เราได้แรง ซึ่งจริงๆ แล้วการออกกำลังกายสักครึ่งชั่วโมงหรือ 45 นาทีก็ได้เหงื่อแล้ว แต่เราก็ต้องมีวินัยกับตัวเองว่า ห้ามขี้เกียจนะ ต้องเอาให้ถึงนะ แต่ถ้าไปฟิตเนสหรือเข้าคลาส ก็จะสนุกกว่าตรงที่มีเพื่อน มีครูคอยช่วยดูท่าให้ถูกต้อง ซึ่งแพนก็พยายามจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ค่ะ

"แพนเค้ก เขมนิจ" ลุคบิกินี่แสนแซ่บกับสูตรฟิตหุ่นกระชับทุกสัดส่วน

ไม่ว่าจะออกกำลังกายที่ไหนก็ใส่เสื้อผ้ากีฬาเสมอเลย เพราะอะไร

สำหรับแพนการใส่เสื้อผ้ากีฬาเป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดเลยในการออกกำลังกาย เพราะแพนรู้สึกว่ามันคือแรงบันดาลใจ สร้างพลังในการออกกำลังกาย เพราะการใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส หรือดีไซน์ชุดที่แมตช์กัน ทำให้แพนรู้สึกอยากลุกขึ้นมาออกกำลังกายมากขึ้น ถือเป็นแรงจูงใจอย่างหนึ่งค่ะ ซึ่งนอกจากเสื้อผ้ากีฬาจะใส่สวยแล้ว ยังใส่สบาย กระชับ และเหมาะกับการออกกำลังกายของเราด้วย เพราะการออกกำลังกายมีหลากหลายแบบ มีความหนักเบาแตกต่างกันไป ดังนั้นชุดออกกำลังกายต้องช่วยซัพพอร์ตการออกกำลังกายของเรามากๆ สำหรับแพนตอนนี้ใส่ชุดออกกำลังกายมากกว่าชุดทั่วไปอีก เพราะรู้สึกใส่สบาย กระชับ อย่างบางทีตื่นเช้ามา ยังไม่ได้ทำอะไรเลย แพนก็จะใส่บราออกกำลังกายกับกางเกงเลกกิ้งแล้ว เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ในบ้าน เพราะรู้สึกว่าทำให้เราคล่องตัวมากขึ้น”

นอกจากนี้ ยังได้นำคลิปยูทูปที่ “แพนเค้ก เขมนิจ” ออกกำลังกายมาฝากให้สาวๆ ลองทำท่าตามดูด้วยค่ะ

"แพนเค้ก เขมนิจ" ลุคบิกินี่แสนแซ่บกับสูตรฟิตหุ่นกระชับทุกสัดส่วน "แพนเค้ก เขมนิจ" ลุคบิกินี่แสนแซ่บกับสูตรฟิตหุ่นกระชับทุกสัดส่วน "แพนเค้ก เขมนิจ" ลุคบิกินี่แสนแซ่บกับสูตรฟิตหุ่นกระชับทุกสัดส่วน


ข้อมูล : https://praew.com/lifestyle/216185.html
ภาพ IG : khemanito

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เปิดโหมดเผ็ดแซ่บแต่ละมุน “ใหม่ ดาวิกา” ร้อนแรงไม่หยุดฉลอง 13 ล้านฟอลโลเวอร์

‘คิมเบอร์ลี่’ แชร์สูตรลดน้ำหนัก แบบ14 วันไม่ต้องอดอาหาร เพื่อหุ่นสวยสับในชุดบิกินี่

ดีกรีเซ็กซี่ไม่มีแผ่ว! Kendall Jenner อวดหุ่นสุดแซ่บ กล้ามหน้าท้องสุดเฟิร์ม

เท่ไม่เบา ‘แพนเค้ก’ ลุคผมสั้น ทรงบ๊อบเท สวมบทสารวัตร ซีรีส์เกาหลีเวอร์ชั่นไทย

 

เจ้าหญิงลาติฟา

UN เรียกร้องให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แสดงหลักฐานว่า เจ้าหญิงลาติฟา ยังมีชีวิต

account_circle
เจ้าหญิงลาติฟา
เจ้าหญิงลาติฟา

UN หรือ องค์การสหประชาชาติเรียกร้องให้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แสดงหลักฐานที่เป็นรูปธรรมว่า เจ้าหญิงลาติฟา พระธิดาใน ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัลมักตูม เจ้าผู้ครองนครดูไบ ที่ถูกควบคุมตัวอยู่นั้นยังมีชีวิตอยู่

สำนักข่าว BBC รายงานว่า UN หรือ องค์การสหประชาชาติได้ออกแถลงการณ์ที่สำนักงานใหญ่ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เรียกร้องให้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แสดงหลักฐานว่า เจ้าหญิงลาติฟา ยังมีชีวิตอยู่ พร้อมกับกล่าวว่าเธอควรได้รับการปล่อยตัว “โดยด่วน”

เจ้าหญิงลาติฟา

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 5 มีนาคม UN กล่าวว่ายังคงรอรายละเอียดเพิ่มเติมจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นเวลากว่าสองสัปดาห์แล้ว หลังจากการร้องขอไปครั้งแรกสำหรับการพิสูจน์ว่าเจ้าหญิงลาติฟายังมีชีวิตอยู่

จากแถลงการณ์ครั้งแรกนั้น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ตอบเพียงแค่ว่า เธอได้รับการดูแลอย่างดีที่บ้าน แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะระบุได้ว่าเธอมีชีวิตอยู่ เจ้าหน้าที่ องค์การสหประชาชาติ กล่าวต่อไปว่า  “เรารู้สึกตกใจหลังมีการเผยแพร่ภาพต่อสาธารณะในเดือนกุมภาพันธ์ว่า เจ้าหญิงลาติฟาถูกลิดรอนเสรีภาพ

ทั้งนี้ BBC Panorama ได้ออกมารายงานในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า เจ้าหญิงลาติฟาถูกจับเป็นตัวประกันใน “วิลล่าที่ถูกดัดแปลงเป็นห้องขัง” โดยเธอไม่สามารถขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ได้

เรื่องราวของ เจ้าหญิงลาติฟานั้นทรงเป็นพระธิดาในลำดับที่ 23 ทรงถูกทารุณกรรม และถูกจับขัง หลังจากที่ได้ทำการหลบหนีออกนอกประเทศโดยทางเรือเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ยังประเทศสหรัฐอเมริกา โดยการช่วยเหลือของชายชาวฝรั่งเศส

แต่การหนีไปครั้งนี้กลับไม่ประสบความสำเร็จ เพราะถึงแม้ว่าจะวางแผนไว้นานถึง 7 ปี แต่พระองค์ก็ทรงถูกวางยา และถูกกองกำลังพิเศษติดอาวุธ จับได้ขณะหลบหนีอยู่ที่ รัฐกัว ซึ่งตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกของประเทศอินเดีย และถูกลักพาตัวกลับมายังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่มีผู้ใดพบเห็นหรือรู้ข่าวคราวของพระองค์อีกเลย

ทั้งนี้ก่อนที่ เจ้าหญิงลาติฟาจะทรงหนีนั้นพระองค์ได้ทำการอัดคลิป เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งพระองค์ทรงอ้างว่า “ชายคนนึงว่าเกี่ยวพันกับสตรีหลายคน การเผาบ้านหลายหลังเพื่อทำลายหลักฐานบางอย่าง การทรมาน การช่วยญาติผู้หญิงของเธอหนีออกจาก ดูไบ ยูเออี”

พระองค์เล่าว่าทรงถูกขังเอาไว้ 3 ปี 4 เดือน ก่อนที่จะตัดสินใจหนีในครั้งนี้ โดยการอัดคลิปนี้จะเป็นหนทางสุดท้าย หนทางเดียว ที่จะทำให้เธอมีชีวิตรอดไปได้ ซึ่งพระองค์ยังได้บอกอีกด้วยว่า “สิ้นคลิปนี้อาจจะตายไปแล้วก็ไม่รู้” 

จากการที่ เจ้าหญิงลาติฟา ถูกพาตัวกลับมานั้น สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มสิทธิมนุษยชนเป็นอย่างมาก โดยพวกเขาให้เหตุผลว่า เจ้าหญิงลาติฟาไม่ทรงยินยอมกลับมาด้วยตนเอง แต่ถูกลักพาตัวกลับมา


เจ้านครดูไบ ประณามพระชายา “เจ้าหญิงฮายา” หลังหนีพร้อมหอบเงินพันล้าน

เจ้าและลูกจะไม่มีวันปลอดภัย! เจ้านครดูไบ ถูกศาลตัดสิน ลักพาตัว-ข่มขู่ อดีตพระชายา

5เรื่อง ยิ่งรู้จักยิ่งหลงรัก ‘ชีกห์ฮัมเดน’ ต้าวความรัก มกุฎราชกุมารแห่งดูไบ

เวลเจ้าสาว

9 ไอเดีย เวลเจ้าสาว สไตล์ Birdcage ได้ลุคเจ้าสาวสวยชิคแถมไม่เทอะทะ

เวลเจ้าสาว
เวลเจ้าสาว

อีกหนึ่งดีเทลที่เป็นซิกเนอเจอร์ของลุคเจ้าสาวเลยก็คือ เวล หรือ ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว ซึ่งมีหลากหลายแบบ ตั้งแต่เล็กๆ น่ารัก ไปจนถึงยาวอลังการระดับ 5 คนยก ครั้งนี้ แพรวเวดดิ้ง จึงหยิบเอาไอเดีย เวลเจ้าสาว แบบสั้นที่เรียก Birdcage Veil และ Blusher Veil ซึ่งทั้งคู่เป็นเวลเจ้าสาวที่มีความยาวไม่มาก ทำให้เจ้าสาวสามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก ไม่เทอะทะ และไม่ปิดบังใบหน้าเจ้าสาวเยอะจนเกินไป แถมเข้ากับทรงผมเจ้าสาวได้เกือบทุกทรง หรือหากเป็นเจ้าสาวผมสั้น ก็สามารถติดเวลแบบ Birdcage ได้แบบเหมาะเจาะ ดูเก๋ไก๋ไม่เบาเลยล่ะค่ะ

9 ไอเดีย เวลเจ้าสาว สไตล์ Birdcage ได้ลุคเจ้าสาวสวยชิคแถมไม่เทอะทะ

1. ลาย Polka Dots คิวต์ๆ

เวลเจ้าสาว
2. แบบตาข่าย Birdcage

เวลเจ้าสาว
3. แบบกึ่งที่คาดผม

เวลเจ้าสาว
4. แบบประดับคริสตัลเป็นประกาย

เวลเจ้าสาว
5. เวล Blusher ผ้าทูเล่

เวลเจ้าสาว
6. เวล Blusher แต่งขอบลายใบไม้

เวลเจ้าสาว
7. เวล Blusher สีออฟไวท์

เวลเจ้าสาว
8. เวลสองเลเยอร์

เวลเจ้าสาว
9. เวล Blusher แต่งโบ

เวลเจ้าสาว

 


ข้อมูล : bridalmusings.com, pinterest.com

เรียบเรียง : KimZ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

10 ไอเดีย รองเท้าเจ้าสาว ส้นแบน สวยชิคมีสไตล์ ใส่แล้วมั่นใจไม่แพ้ส้นสูง

สั้นๆ แต่สวยสับ! ชุดเจ้าสาว มินิเดรส ใส่ช่วงปาร์ตี้ก็ดี หรือหยิบมาใส่อีกทีก็เริ่ด

รวมไอเดียชุดเจ้าสาวสไตล์ Ombre สวย สดใส สีสันสะดุดตา

Law School

6 ข้อชวนดู Law School ซีรีส์ฆาตกรรมในโรงเรียนกฏหมาย

Alternative Textaccount_circle
Law School
Law School

Law School คือซีรีส์ไขปริศนาฆาตกรรมเรื่องล่าสุดที่ออกอากาศไปเพียง 2 อีพีก็กลายเป็นไวรัล เพราะทั้งโซเชียลมีเดียต่างรีวิวกันว่า เป็นซีรีส์อ่านซับไม่ทันแห่งปี ด้วยบทพูดด้านกฏหมายฟาดฟันใส่กันแบบรัวๆ พร้อมด้วยความซับซ้อนของเงื่อนเวลาที่สลับไปมา และตัวละครรายล้อมนับโหลที่กลายเป็นความท้าทายแฟนๆ ซีรีส์สายนักสืบที่สุดอีกเรื่องในตอนนี้ โดยจะมีทั้งหมด 16 อีพี ซึ่งแนะนำมากๆ ให้เริ่มดูตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อลงเรียนวิชากฏหมาย 101 และไขปริศนาไปพร้อมๆ กับนักศึกษาโรงเรียนกฏหมายมหาวิทยาลัยฮันกุก เพราะถ้าดูช้า อาจจะคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง งานนี้เลยขอรวบรวมข้อมูล เบาะแสเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้ต้อนรับเข้าสู่ซีรีส์อ่านซับไม่ทันแห่งปี แต่สนุกมากห้ามพลาด ดังต่อไปนี้

6 ข้อชวนดู Law School ซีรีส์ฆาตกรรมในโรงเรียนกฏหมาย

Law School

01 กฏหมายนั้นมีความยุติธรรมหรือไม่

จริงๆ แล้วซีรีส์กฏหมายไม่ใช่เรื่องใหม่ของเกาหลี เพราะเป็นพล็อตที่มีมาตลอด เช่น Hyena, Stranger หรือ Vincenzo แต่สำหรับ LawSchool มีความพิเศษกว่านั้น เพราะแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ด้วยการเจาะลึกในรายละเอียดของโรงเรียนกฎหมายเกาหลี เราจะได้เห็นฉากในโรงเรียนกฎหมาย ได้เห็นความคิดระหว่างอาจารย์และนักเรียนที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ซึ่งการดำเนินไปของซีรีส์ก็เหมือนกับการถกเถียงกันในเชิงกฎหมายที่ดูแล้วไม่ได้ไกลตัวคนดูมากเกินไปนัก ทั้งยังโยนคำถามสำคัญที่ว่า “กฏหมายนั้นมีความยุติธรรมหรือไม่”

02 ห้องพิจารณาคดีจำลอง ในโรงเรียนกฏหมายมหาวิทยาลัยฮันกุก

ด้วยความที่ LawSchool เล่าเรื่องราวโดยมีฉากหลังเป็นโรงเรียนกฏหมายอันทรงเกียรติ การสอบเข้า รวมถึงการเรียนการสอนที่นี่จึงเข้มข้นอย่างยิ่ง และเพื่อความสมจริง มีการจัดทำห้องพิจารณาคดีจำลองให้นักศึกษาได้ทดลองการทำงานหน้าที่ต่างๆ ในชั้นศาล รวมถึงห้องสังเกตการณ์สำหรับเหล่าอาจารย์ที่ต้องใช้ลายนิ้วมือเปิดประตูเข้าไปเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องพักส่วนตัวของอาจารย์ อันเป็นสถานที่เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น

03 ความตายของอาจารย์ซอบยองจู

ระหว่างจำลองเหตุการณ์ว่าความ อาจารย์ซอบยองจู (รับบทโดย อันแนซัง) ที่รู้สึกปวดหัวได้ขอหยุดพักการว่าความ 30 นาที ในช่วงเวลานี้ ทุกคนต่างแยกย้ายไปในที่ต่างๆ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อนักศึกษาพบศพของอาจารย์ซอบยองจู ทำให้ทุกคนในที่นั้นกลายเป็นผู้ต้องสงสัย ในขณะที่การสืบสวนของตำรวจดำเนินไป เหล่านักศึกษาก็เริ่มไขคดีไปด้วย พวกเขาจะหาตัวฆาตกรตัวจริงเจอหรือไม่

04 คิมมยองมิน นักแสดงฝีมือแกร่งในบทอาจารย์ยางจงฮุน

คิมยองมิน มาพร้อมการแสดงที่เก็บสีหน้าอารมณ์ไว้ชนิดที่ว่า ‘อ่านไม่ออก’ เพราะในคาแรคเตอร์อาจารย์ยางจงฮุน เป็นอดีตอัยการฝีมือดี ตรงไปตรงมา ที่พอมาสอนหนังสือก็เป็นอาจารย์ที่ไม่แคร์ใคร มีจุดมุ่งหมายเดียวคือการสร้างบุคลากรด้านกฏหมายที่จะสร้างความยุติธรรมในสังคม สำหรับคิมมยองมิน เขาคือนักแสดงเจ้าบทบาทอีกคนของวงการ ทั้งยังเคยร่วมงานกับผู้กำกับคิมซอกยุนในภาพยนตร์ Detective K หลายภาค

05 อีจองอึน จากแม่บ้านใน Parasite สู่อาจารย์โรงเรียนกฏหมาย

ไม่ใช่แค่ คิมมยองมิน แต่ยังรวมเอานักแสดงรุ่นเก๋ามากฝีมือไว้เพียบ อีจองอึน กับบทอาจารย์คิมอึนซุกที่สนิทสนมกับคิมมยองมินกว่าใคร และยังมีปมปัญหากับอีมันโฮ ผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือในทางมิชอบจนได้รับโทษสถานเบา

06 นักเรียนกฏหมาย ที่นำแสดงโดย คิมบอม, รยูฮเยยอง, อีซูกยอง, เดวิดอี และโกยุนจอง

โรงเรียนกฎหมายมหาวิทยาลัยฮันกุก เต็มไปด้วยนักเรียนอัจฉริยะและมีพรสวรรค์ สำหรับแคสท์นักแสดงกลุ่มนี้ก็เช่นกัน ซีรีส์เรื่องนี้รวมดาวนักแสดงคุณภาพ ไล่ตั้งแต่ คิมบอม รับบท ฮันจุนฮวี นักศึกษากฏหมายระดับท๊อปที่สอบผ่านเนติฯ รอบสองแต่ยังมาเรียนที่นี่ หนำซ้ำยังเป็นญาติกับอาจารย์ชอบยองจู, รยูฮเยยอง รับบท คังซลเอ หญิงสาวที่มาจากสถานะทางสังคมที่ยากจน, อีซูกยอง รับบท คังซลบี หญิงสาวที่มาจากครอบครัวร่ำรวย, เดวิด อี จากตัวละครที่ถูกรังแกใน Itaewon Class ครั้งนี้เขารับบทซอจีโฮ และโกยุนจอง นักแสดงสาวจากซีรีส์ Sweet Home ที่จะมารับบทชอนเยซึล

Law School เป็นซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน กำกับโดยคิมซอกยุน เขียนบทโดยนักเขียนซออิน สำหรับนักสืบซีรีส์ กดรับชมได้แล้วที่นี่ https://www.netflix.com/title/81413647


 

"ฌอง ดามาส" แชร์คีย์หลักเมคอัพปารีเซียงสไตล์

เคล็ดลับเมคอัพสาวฝรั่งเศส Jeanne Damas เผยผิวจุดไม่เพอร์เฟ็กต์บ้างให้ดูเป็นธรรมชาติ

Alternative Textaccount_circle
"ฌอง ดามาส" แชร์คีย์หลักเมคอัพปารีเซียงสไตล์
"ฌอง ดามาส" แชร์คีย์หลักเมคอัพปารีเซียงสไตล์

JEANNE DAMAS หนึ่งในอินฟูเอนเซอร์และนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จวัย 29 ปี เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า เครื่องสำอาง Rouje ตามมาด้วยการเปิดร้านอาหารในชื่อแบรนด์เดียวกัน

ก่อนหน้าที่เธอจะจับงานธุรกิจ เธอเป็นนางแบบมาตั้งแต่อายุ 17 เคยทำงานร่วมกับแบรนด์ Roger Vivier และ Jacquemus และพกดีกรีด้านการแสดงไปประเดิมกับภาพยนตร์เรื่อง Rock’n Roll เมื่อปี 2017 พร้อมๆ กับการเป็นอินฟลูเอนเซอร์และเริ่มทำแบรนด์ของตัวเอง ด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ มีส่วนทำให้ Jeanne Damas มียอดติดตามในไอจี @Jeannedamas ถึง 1.4 ล้านคน ล่าสุดเธอเพิ่งเป็นคุณแม่มือใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

"ฌอง ดามาส" แชร์คีย์หลักเมคอัพปารีเซียงสไตล์

หนึ่งในซิกเนเจอร์ที่เจนตาแฟนๆ คือริมฝีปากสีแดงสด แต่ส่วนอื่นๆ ของใบหน้าคอนทราสต์ด้วยการเน้นความเป็นธรรมชาติ “ฉันชอบแต่งหน้า เคยถึงขั้นไปฝึกงานแผนกบิวตี้ของแบรนด์ Yves Saint Laurent และที่ผ่านมา ฉันก็ได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆ จากแม่มาเยอะ ท่านเตือนเสมอว่าอย่าอยู่กลางแดดช่วงเที่ยงถึง 4 โมงเย็น และอย่าลืมทาครีมกันแดดบริเวณหน้าอกด้วย เพราะแสงแดดส่องถึง ฉันทำตามคำแนะนำท่านมาตลอด และไม่เคยเกิดปัญหาผิวเลย

"ฌอง ดามาส" แชร์คีย์หลักเมคอัพปารีเซียงสไตล์

“บิวตี้รูทีนของฉันเรียบง่ายและใช้เวลาน้อย เริ่มจากล้างหน้าด้วย Milk Cleanser จากแบรนด์ Joëlle Cioccos ทั้งเช้าและเย็น จากนั้นใช้ออยล์บำรุงผิวแบรนด์เดียวกัน ฉันชอบเนื้อออยล์มากกว่าครีม เพราะให้ความชุ่มชื้นและซึมเข้าสู่ผิวได้ดีกว่า จากนั้นทาครีมกันแดดของ La Roche-Posay Anthelios Sunscreen ถ้ามีเวลาว่างฉันจะมาสก์หน้าด้วย La Rose Noire ของ Sisley ทุกสัปดาห์

"ฌอง ดามาส" แชร์คีย์หลักเมคอัพปารีเซียงสไตล์

เคล็ดลับเมคอัพสาวฝรั่งเศส “Jeanne Damas” เผยผิวจุดไม่เพอร์เฟ็กต์บ้างให้ดูเป็นธรรมชาติ

“สำหรับเมคอัพ เคล็ดลับสำคัญของสาวฝรั่งเศสคือต้องเห็นผิวเผยจุดไม่เพอร์เฟ็กต์บ้างให้ดูเป็นธรรมชาติ ฉันเองใช้แค่คอนซีลเลอร์จากแบรนด์ Glossier เกลี่ยบริเวณใต้ตาหรือตรงจุดที่มีปัญหาผิวตามด้วยการทาลิปสติก ซึ่งฉันขาดไม่ได้เลย ไม่อย่างนั้นจะรู้สึกเหมือนตัวเองเปลือย ขนาดออกกำลังกายยังต้องทาเลย ฉันชอบเฉดสีแดงน้ำตาล และชมพูของ M.A.C เทคนิคคือใช้นิ้วจุ่มที่ลิปสติกแล้วทาที่ริมฝีปาก วิธีนี้จะดูเป็นธรรมชาติ เกลี่ยง่าย และอยู่ติดทนมากกว่าค่ะ ถ้าตรงไหนเลอะก็ใช้คอตต้อนบัดเช็ด ส่วนสีลิปสติกที่เหลือติดอยู่ที่นิ้ว ฉันจะทาตรงแก้มและจมูก จากนั้นแตะตรงตาเบาๆ เป็นอายแชโดว์ ทั้งหน้าจะไปในโทนเดียวกัน

“สำหรับคิ้ว ฉันใช้ Glossier Boy Brow แบบไม่มีสี แค่ปัดให้คิ้วตั้งก็พอ ตามด้วยดัดขนตา ฉันไม่ชอบปัดมาสคารา เพราะรู้สึกว่าปากแดงแล้ว ถ้าขนตาเด้งอีกจะดูเยอะไป และฉันอยากให้เห็นขนตาธรรมชาติมากกว่า ถ้าออกไปถ่ายงานข้างนอกอาจจะเติมบรอนเซอร์บ้างเล็กน้อยกับทาแป้งฝุ่นตรงทีโซน แค่นี้พอค่ะ”

ส่วนมากสาวฝรั่งเศสก็ต้องฉีดน้ำหอม แต่เธอไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้น “บ้านฉันมีน้ำหอมนะ แต่ซื้อมาเพื่อประดับโต๊ะมากกว่าเพราะขวดสวย แต่ไม่เคยฉีดเลย ไม่รู้สิ ฉันชอบดมกลิ่นของคนจริงๆ มากกว่า”

สำหรับรูปร่างของเธอที่สวยสมส่วน แม้จะเพิ่งคลอดลูกไม่นานเป็นเพราะ “ฉันชอบเดินในปารีส ถ้าไม่เดินก็ปั่นจักรยานค่ะ ไม่ค่อยนั่งรถไฟใต้ดินสักเท่าไร นอกจากนี้ถ้ามีเวลาว่างฉันจะวิ่ง แต่ถ้าเป็นสุดสัปดาห์จะออกนอกเมืองไปทะเล ว่ายน้ำ อ่านหนังสือ ฟังเพลง”

"ฌอง ดามาส" แชร์คีย์หลักเมคอัพปารีเซียงสไตล์

สำหรับสไตล์การแต่งตัว เอกลักษณ์ของเธอคือสาวฝรั่งเศสจ๋า เธอชอบใส่เดรสกับรองเท้าสาน ถือกระเป๋าสาน หรือไม่ก็กางเกงยีนขาบานกับรองเท้าบู๊ตส้นสูง และถือกระเป๋าใบเล็ก

“ปกติฉันใช้เวลาแต่งตัวรวดเร็วพอๆ กับแต่งหน้า เพราะรู้ว่าตัวเองอยากใส่อะไร ฉันชอบแต่งตัวแบบขัดกันเล็กน้อย เช่น ถ้าใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีน จะทาลิปสติกสีคอรัลและใส่เครื่องประดับมุกหรือถ้าใส่เดรสรัดรูป ฉันจะหยิบแจ็กเก็ตของแฟนมาสวมทับ อีกอย่างคือฉันชอบเสื้อถัก นอกจากความน่ารักและนุ่มแล้ว ยังมิกซ์แอนด์แมตช์กับอะไรก็ได้ ทั้งกระโปรง เดรส และกางเกงยีน แต่ถ้าอยู่บ้านฉันชอบสวมเดรสลายดอก เพราะใส่ง่าย สบายดีด้วย ถ้ามีนัดจะใส่ออกนอกบ้านเลยก็ยังได้”

เมื่อถามว่าอะไรคือแรงบันดาลใจในการแต่งตัวและแต่งหน้าของเธอ “มาจากทุกๆ ที่เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่เดินอยู่บนถนน แม่ของฉัน เพื่อนฉัน หรือแม้กระทั่งจากภาพยนตร์ค่ะ”

"ฌอง ดามาส" แชร์คีย์หลักเมคอัพปารีเซียงสไตล์ "ฌอง ดามาส" แชร์คีย์หลักเมคอัพปารีเซียงสไตล์ "ฌอง ดามาส" แชร์คีย์หลักเมคอัพปารีเซียงสไตล์ "ฌอง ดามาส" แชร์คีย์หลักเมคอัพปารีเซียงสไตล์ "ฌอง ดามาส" แชร์คีย์หลักเมคอัพปารีเซียงสไตล์


ข้อมูล : นิตยสารแพรว ฉบับ 969
ภาพ IG : @JEANNEDAMAS

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

“ลานา คอนดอร์” ซุปตาร์เวียดนาม สวยอินเตอร์ด้วยเมคอัพผสมความเอเชียและตะวันตก

สาวสวยสายเฮลตี้ ‘อาทิมา หิมะทองคำ’ เผยทริคลดน้ำหนักจากไซซ์ XL สู่ไซซ์ XS

ทริคดูแลตัวเองของ “แอลลี่” ลูกสาวแห่งชาติ ครบเครื่องทั้งความน่ารัก และความสามารถ

 

 

keyboard_arrow_up