กินอย่างมีเทสต์ กับ 8 เมนูสไตล์โมเดิร์น ย่านราชประสงค์ แหล่งรวมอาหารรสเลิศ

Alternative Textaccount_circle

อาหารไทยเป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและโดดเด่นด้วยวัตถุดิบที่ใช้และรสชาติที่อร่อย และถูกจัดอันดับอยู่ในระดับต้นๆ ของอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก ล่าสุดการันตีอีกหนึ่งสุดยอดรสชาติจากสำนักข่าวระดับโลกซีเอ็นเอ็น (CNN) ที่ได้ทำการสำรวจอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก โดยอาหารไทยติดอันดับที่ 8 จากอาหาร 10 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ 7 เมนูอาหารไทยยังติดอันดับใน 50 เมนูอาหารยอดนิยมทั่วโลก ได้แก่ ต้มยำกุ้ง (อันดับที่ 4) ผัดไทย (อันดับที่ 5) ส้มตำ (อันดับที่ 6) แกงมัสมั่น (อันดับที่ 10) แกงเขียวหวาน (อันดับที่ 19) ข้าวผัดของไทย (อันดับที่ 24) และหมูน้ำตก (อันดับที่ 36) ด้วยรสชาติที่มีเอกลักษณ์และครบเครื่องครบรส ที่ถูกใจนักชิมทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกและคนท้องถิ่น

ราชประสงค์ ย้ำจุดเด่นของย่านที่เติมเต็มทุกธุรกิจและไลฟ์สไตล์ จนได้รับการขนานนามว่า “The Heart of Bangkok” โดยมี “ราชประสงค์ วอล์ก –  R-Walk” โครงข่ายเส้นทางเดินเชื่อม 4 ทิศทาง ได้เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบให้ผู้คนเดินได้ทั่วย่านอย่างสะดวกสบายไร้รอยต่อ และเชื่อมทุกประสบการณ์และไลฟ์สไตล์ EAT-PRAY-STAY-SHOP เข้าด้วยกัน โดยเฉพาะเรื่องของอาหาร ย่านราชประสงค์นับเป็นแหล่งรวมของอาหารรสเลิศ และเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ได้สัมผัสกับสุนทรียรสของอาหารในโรงแรมภายในย่านราชประสงค์ โรงแรมชั้นนำในย่านได้คัดสรรเมนูอาหารขึ้นชื่อ นำมารวบรวมเป็นเมนูแนะนำย่านราชประสงค์ TASTE OF RATCHAPRASONG โดยมี 8 เมนูซิกเนเจอร์อาหารไทยผสมผสานไอเดียการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ภายใต้คอนเซ็ปต์ THAI TASTE WITH A MODERN TOUCH

ฟินกับ 8 เมนู จาก 8 ห้องอาหารในโรงแรมสุดหรูใจกลางเมืองกรุง ย่านราชประสงค์

  • บลู ออฟ เดอะ ซี (Blue of the Sea) – ห้องอาหาร ฟร้อนท์ รูม ณ โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ

อาหารจานเด่นเมนูนี้ เชฟเฟย์ รุ่งทิวา ชุ่มมงคล หัวหน้าเชฟประจำห้องอาหารที่มีประสบการณ์การทำงานกว่า 10 ปี ได้แรงบันดาลใจมาจากปูผัดผงกะหรี่ของไทย เพราะอาหารทะเลเป็นวัตถุดิบที่ขึ้นชื่อของประเทศไทย เชฟจึงคัดสรรเนื้อปูม้าและหัวขึ้นฉ่ายฝรั่งจากโครงการหลวง ซึ่งเป็นผักที่นิยมเป็นอย่างสูงในแถบสแกนดิเนเวีย มาเป็นวัตถุดิบหลักในการทำเมนูนี้ บลู ออฟ เดอะ ซี มีกลิ่นอายของทั้งอาหารไทยและอาหารนอร์ดิคในสไตล์โมเดิร์น เทคนิคการทำอาหารโดยการนำเนื้อปูมาใส่ในขึ้นฉ่ายฝรั่งที่ทำเป็นรูปทรงกระบอก แต่งหน้าด้วยครีมโฟมรสผงกะหรี่ และตกแต่งเพิ่มสีสันให้กับเมนูด้วยขึ้นฉ่ายฝรั่งหั่นฝอย ไข่ปลาเทราต์ และดอกเวอร์บีน่าสีม่วงอ่อน เพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้ที่ได้รับประทาน  เมนู บลู ออฟ เดอะ ซี จะให้รสชาติความหวานจากเนื้อปู ซึ่งเข้ากับครีมโฟมผงกะหรี่ได้อย่างดี แนะนำให้รับประทานคู่กับน้ำบีทรูทที่มีส่วนผสมของบีทรูท สับปะรด และมันแกว มีรสเปรี้ยวและช่วยเพิ่มความสดชื่น เพิ่มกลิ่นและรสชาติของปูให้เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม

พิกัด: ฟร้อนท์ รูม ชั้น Lower Lobby ณ โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา  17.30 น. ถึง 22.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-846-8888

ราคา: 380++ บาท


 

  • เซียร์ทูน่าต้มยำกับซอสมะขาม – ห้องอาหารบาร์ นายน์ เบียร์ การ์เด้น ณ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ

เซียร์ทูน่าต้มยำกับซอสมะขาม สร้างสรรค์โดยนำความเป็นไทยแบบดั้งเดิม ผสมผสานเข้าไปในเมนู ชูวัตถุดิบเด่นเอกลักษณ์ของไทยคือ ซอสมะขามและผงปรุงรสต้มยำสูตรพิเศษที่โรงแรมทำขึ้นเอง โดยมีส่วนผสมหลักคือ ใบมะกรูด ข่า ตะไคร้ และพริกชี้ฟ้า
ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้มาจากโครงการหลวง นำทูน่าหมักด้วยผงปรุงรสต้มยำ ทำให้กลายเป็นเมนูอาหารไทยแบบโมเดิร์นที่มีรสชาติจัดจ้านกำลังพอดี จัดแต่งจานด้วยเซียร์ทูน่า เรียงซ้อนบนขนมปังหน้ากุ้งโรยงา สันคอหมูทอด และราดด้วยซอสมะขามสูตรพิเศษ
ของโรงแรม ห้องอาหาร บาร์ นายน์ เบียร์ การ์เด้น อยู่ภายใต้การดูแลของ เชฟสมพงษ์ วิสูงเร ผู้มีประสบการณ์กว่า 11 ปี ในด้านอาหารไทยและอาหารยุโรป เชี่ยวชาญในการประยุกต์เมนูออกมาอย่างสร้างสรรค์ อีกทั้งยังได้รับรางวัลเหรียญเงิน จากการประกวดอาหารไทยโมเดิร์น และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย

พิกัด: บาร์ นายน์ เบียร์ การ์เด้น ชั้น 9 ณ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 01.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-209-1700 ต่อ 8705 

ราคา: 220++ บาท


 

  • สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่กับทาปาสไทย 10 คอร์ส ในรูปแบบโมเลคิวลาร์ พร้อมเสิร์ฟให้คุณได้ลิ้มลองแล้ว ที่ อาร์ บาร์ ณ โรงแรม เรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์

เชฟประเสริฐชัย ตรงวานิชนาม Chef De Cuisine ณ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ ได้ใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากทั้งในและต่างประเทศเพื่อรังสรรค์ ทาปาสไทย นานาชนิดที่ถูกนำมาตีความใหม่ในรูปแบบโมเลคิวลาร์หรือวิธีการทำอาหารแบบใหม่ที่นำเอาหลักการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ประกอบการทำอาหารให้ผู้ทานลืมภาพอาหารไทยแบบเดิมๆ แล้วสนุกไปกับการลิ้มลองอาหารในรูปแบบใหม่ รวมทั้งยังเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี และนำเอาสมุนไพรไทย เช่น พริกขี้หนู มะขาม ตะไคร้ และมะกรูด มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักเพื่อรักษารสชาติอาหารไทยแบบดั้งเดิมหากแต่มีวิธีนำเสนอที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่น เมนูไฮไลท์คือ มัสมั่นเนื้อวัวที่ใช้เนื้อวัวจากนำเข้าจากออสเตรเลีย ที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีแบบธรรมชาติ และใช้วิธี โมเลคิวลาร์ ในการเปลี่ยนน้ำแกงมัสมั่นเป็นซอสครีมเข้มข้น ที่ยังคงรสชาติและกลิ่นแกงมัสมั่นดั้งเดิมไว้เสิร์ฟพร้อมกับเนื้อที่ผ่านกรรมวิธีทำให้สุกภายใต้สูญญากาศ ถึง 24 ชั่วโมง เพื่อรักษาความชุ่มฉ่ำของเนื้อ รวมถึงการตกแต่งที่ถูกถ่ายทอดจากจินตนาการที่สร้างความตื่นเต้น น่าค้นหา และทันสมัยในทุกๆจาน นอกจากนี้ทางอาร์ บาร์ ยังได้เตรียมมอบความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มสูตรพิเศษเพื่อต้อนรับทุกท่านที่มาเยือนก่อนที่จะสนุกไปกับการรับประทานอาหารมื้อนี้อีกด้วย

พิกัด: อาร์ บาร์ ชั้นล็อบบี้ ณ โรงแรม เรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ถึง 01.00 น. (สำหรับโปรโมชั่นดังกล่าวเสิร์ฟทุกวันพฤหัสบดีถึงวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ถึง 21.00 น. พร้อมค็อกเทลต้อนรับ เวลา 18.30 น.) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-125-5105 

ราคา: 1,000++ บาท ต่อท่านรวมเครื่องดื่มต้อนรับ (ราคาพิเศษ 20 ตุลาคม-1 ธันวาคม 2561)


 

  • ยำดอกขจร บัวหลวง – ห้องอาหารเอราวัณ ที รูม โดย โรงแรม แกรนด์ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ณ ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค๊อก

เอกลักษณ์ของเมนู ยำดอกขจร บัวหลวง คือการนำเอากลีบของดอกบัวหลวงสายพันธุ์ บัวแดง ฉัตรชมพู หรือสัตตบงกช ที่มีรสชาติขมเล็กน้อย มาผสานเข้ากับดอกขจรที่มีรสชาติหวานหน่อยๆ บวกกับเครื่องเคียงที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมะพร้าวคั่วกรอบ ถั่วลิสงคั่วบด และเม็ดบัวต้ม รับประทานพร้อมกับน้ำยำ ที่ได้นำกะทิพริกเผามาปรุงกับน้ำมะขาม น้ำตาลปี๊ป และเกลือ เคี่ยวให้เกิดรสชาติอมเปรี้ยว อมหวาน เผ็ดปลายลิ้น จัดวางดอกขจรในกลีบดอกบัวอย่างพอดีคำทำให้ทานง่าย ยิ่งไปกว่านั้นสีเขียวของวัตถุดิบยังตัดกับสีชมพูของกลีบดอกบัว ทำให้เมนูนี้สวยสะดุดตา แนะนำทานคู่กับชามะตูม ใบเตยที่มีรสชาติหอมหวานซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดี ห้องอาหารเอราวัณ ที รูม โดยมี เชฟทรงพล กิตติคุณวัจนะ คอยดูแลในส่วนของอาหาร ผู้ที่อยู่ในแวดวงการอาหารมานานหลายปี และจบหลักสูตรการทำอาหารจากโรงเรียน เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต

พิกัด: เอราวัณ ที รูม โดย โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ชั้น 2 ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค๊อก เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-254-6250 

ราคา: 290++ บาท


 

  • กุ้งคั่วพริกเกลือ – ห้องอาหารสไปซ์มาร์เก็ต ณ โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ

กุ้งคั่วพริกเกลือ เป็นซิกเนเจอร์เมนูของร้านที่ไม่ควรพลาด โดยเชฟเลือกใช้กุ้งลายเสือตัวใหญ่เนื้อสดแน่น ซึ่งเข้ากันดีกับสมุนไพรไทยอย่างพริก ข่า และตะไคร้ ที่นำมาโขลกและผัดให้เกิดกลิ่นหอม จากนั้นโรยด้วยหอมแดงและกระเทียมทอดกรอบ โดยเหตุผลที่เลือกใช้สมุนไพรไทยเพราะมีความโดดเด่นในเรื่องกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ไทย และยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย เมนูนี้ถูกตกแต่งในรูปแบบใหม่และทันสมัยเพื่อเพิ่มความโดดเด่น ห้องอาหารสไปซ์มาร์เก็ตอยู่ภายใต้การดูแลของ เชฟวรินธร สัมฤทธิ์ผล ที่สำเร็จการศึกษาด้านบริหารธุรกิจสาขาการจัดการครัวและภัตตาคาร จากวิทยาลัยดุสิตธานี และเคยได้ร่วมงานกับโรงแรมระดับ 4 และ 5 ดาวมากมายอีกด้วย

พิกัด: สไปซ์มาร์เก็ต ชั้น ล็อบบี้ ณ โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน ช่วงกลางวัน ตั้งแต่เวลา 11.30 น. ถึง 14.30 น. และช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 22.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 02-126-8866
 

ราคา: 1,520++ บาท


  • ต้มยำกุ้งมังกร – ห้องอาหารวูว์ ณ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ

เชฟลักษณ์ ปรีเปรม หนุ่มวิศวกรที่มีใจรักในการปรุงอาหาร ได้นำเอาเมนูที่เป็นเอกลักษณ์และยอดนิยมของไทยอย่างต้มยำกุ้งมาต่อยอด เพิ่มความพรีเมียมโดยใช้กุ้งมังกรตัวใหญ่เนื้อแน่น เด้ง สด หวาน จากจังหวัดภูเก็ตมาเป็นวัตถุดิบหลัก กุ้งมังกรจากภูเก็ตมีความโดดเด่นตรงที่มีเปลือกบางซึ่งทำให้มีเนื้อเยอะ เมื่อปรุงน้ำซุปต้มยำกับเนื้อกุ้งมังกรเข้าด้วยกัน เติมความเปรี้ยวด้วยใบมะขามและน้ำมะนาวสด ทำให้เมนูนี้มีรสชาติกลมกล่อมและเผ็ดกำลังดี อีกทั้งใบมะขามยังมอบสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้ที่ได้รับประทานอีกด้วย ต้มยำกุ้งมังกร ถูกจัดเสิร์ฟอย่างสวยงามในลูกมะพร้าวอ่อน ซึ่งเพิ่มความหอมอร่อยน่าทาน และตกแต่งจานอย่างสวยงามด้วยเปลือกกุ้งมังกร และเมนูนี้ยังปรุงให้ชมสดๆ ข้างโต๊ะอาหาร เพื่อมอบประสบการณ์พิเศษที่สุดให้แก่ผู้ทาน

พิกัด: วูว์ ชั้น 12 ณ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 24.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-207-7819
 

ราคา: 2,500++ บาท


 

  • ปลากระพงซอสมะขาม – ห้องอาหารเอสเพรสโซ่ ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

ปลากระพงซอสมะขาม เป็นเมนูเด่นของห้องอาหารเอสเพรสโซ่ เน้นการนำเอาวัตถุดิบที่เป็นสมุนไพรไทย เช่น มะขามเปียก มะนาว หอมแดง พริกแห้ง และผักชี พร้อมเครื่องปรุงรสอย่างน้ำปลาและน้ำตาลปี๊ป มาทำเป็นน้ำซอสราดบนเนื้อปลากระพง
ชุปแป้งทอดทอดกรอบ ทำให้ได้รสหวานของเนื้อปลากระพง ไปพร้อมกับรสชาติเปรี้ยวหวานจัดจ้านของซอสมะขาม ทำให้เมนูนี้มีรสชาติกลมกล่อมครบรส ห้องอาหารเอสเพรสโซ่เสิร์ฟอาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์นานาชาติที่มีอาหารหลากหลาย นอกจากปลากระพงซอสมะขาม ยังมีต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน ยำสามกรอบ และน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บแบบไทย เพิ่มรสชาติให้กับอาหารทะเลสดใหม่ อาทิ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กุ้งล๊อบสเตอร์ หอยนางรมฟิน เดอร์ แคลร์ และปูอลาสก้า ฯลฯ ห้องอาหารเอสเพรสโซ่ อยู่ภายใต้การดูแลของ เชฟโรลันโด มาเนสโก ที่มีประสบการณ์ด้านการบริหารงานครัวและงานบริการในห้องอาหารมานานหลายปี ทั้งในทวีปเอเชียและยุโรป

พิกัด: ห้องอาหารเอสเพรสโซ่ ชั้น M ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 23.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-656-0444 ต่อ 6430 

ราคา: อาหารกลางวัน 899++ บาท และอาหารเย็น 1,400++ บาท (วันจันทร์ถึงเสาร์) และ บรันช์วันอาทิตย์ 2,200++ บาท


  • อกเป็ดเซียร์เสิร์ฟพร้อมตับห่าน – ห้องอาหารอูโน มาส ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์

อกเป็ดเซียร์เสิร์ฟพร้อมตับห่าน เป็นเมนูที่ได้นำวัตถุดิบที่ผลิตในท้องถิ่นของไทยผสมผสานกับรูปแบบของอาหารสเปน โดยเชฟซานโดร อากีเลรา ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการทำอาหารมากว่า 22 ปี และเคยร่วมงานกับโรงแรมชั้นนำระดับระดับมิชลิน สตาร์ ในประเทศฝรั่งเศสและสเปน เลือกใช้อกเป็ดจากโครงการหลวงที่มีคุณภาพดีเลิศเทียบเท่าระดับโลก ด้วยเนื้อที่แน่น หนังกรอบ และรสชาติที่อร่อย ทานคู่กับตับห่านเซียร์ ซึ่งทำให้เมนูนี้มีความหอม มัน มีรสชาติกลมกล่อมและลงตัว ราดด้วยซอสซึ่งทำจากน้ำสต็อกโครงเป็ดที่ใช้เวลาเคี่ยวนานหลายชั่วโมง รวมถึงวัตถุดิบและเครื่องปรุงอื่นๆ จากสเปนที่เชฟนำมาผสมผสานเป็นสูตรเฉพาะของห้องอาหาร อูโน มาส อีกทั้งเมื่อทานคู่กับซอสมัสตาดที่ตกแต่งข้างจานจะช่วยชูรสชาติให้ดียิ่งขึ้น การจัดจานของเมนูนี้ถูกจัดในแบบสเปนสไตล์ อูโน มาส ทำให้ดูมีความเรียบง่าย ทันสมัย และแปลกตายิ่งขึ้น

พิกัด: ห้องอาหารอูโน มาส ชั้น 54 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ถึง 01.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-100-6255 ต่อ 5400

ราคา: 550++ บาท

 

ด้วยประสบการณ์อันยาวนานของเชฟที่มากฝีมือ ผสานกับความพิถีพิถันในการปรุงแต่งอาหารเลิศรสจากวัตถุดิบพรีเมียม ที่มาพร้อมกับไอเดียการตกแต่งในรูปแบบโมเดิร์น แปลกใหม่ น่าตื่นเต้น และน่าค้นหา ทำให้เกิดอัศจรรย์แห่งรสชาติอาหารไทยในสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร สร้างเสน่ห์และยกระดับให้ทุกเมนูเป็นซิกเนเจอร์ที่ครองใจคนทั่วโลก ร่วมสัมผัสกับสุนทรียรสของ TASTE OF RATCHAPRASONG อาหารไทยที่ผสมผสานการตกแต่งสุดครีเอทีฟสไตล์โมเดิร์น ภายใต้แนวคิด THAI TASTE WITH A MODERN TOUCH  ที่ย่านราชประสงค์แนะนำให้มาลิ้มลอง

 

ก้อย-พราวนภา

จากนิยายกลายเป็นภาพยนตร์ ก้อย-พราวนภา ปลื้ม “Sugar café” ฉาย 16 พ.ย. นี้

ก้อย-พราวนภา
ก้อย-พราวนภา

นักเขียนชื่อดัง ก้อย-พราวนภา ภู่รัตนากรกุล หรือ ก้อย TheLittleFinger  สุดปลื้ม นิยาย “Sugar café เปิดตำรับรักนายหน้าหวาน” จากนิยายกลายเป็นภาพยนตร์  

 ก้อย-พราวนภาถือเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการน้ำหมึกมานานกว่า 12 ปีและมีแฟนๆ ติดตามนิยายที่เธอเขียนไม่น้อย ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนนิยายตัวยง คงไม่มีใครไม่รู้จัก นักเขียนชื่อดัง อย่าง ก้อย-พราวนภา ภู่รัตนากรกุล เจ้าของนามปากกา TheLittleFinger (เดอะลิตเติ้ลฟิงเกอร์) และเป็นเจ้าของบทประพันธ์นิยายขายดี “Sugar Café เปิดตำรับรัก นายหน้าหวาน”

ล่าสุดนิยายเรื่องนี้ถูก  “MONOMAX” (โมโนแมกซ์) ผู้นำดูหนังออนไลน์แบบถูกลิขสิทธิ์ คว้ามาทำเป็นภาพยนตร์สุดฟินเรื่อง  “Sugar Café เปิดตำรับรัก นายหน้าหวาน” ภายใต้การผลิตของ โมโนออริจินอล ในเครือโมโน กรุ๊ป โดยเจ้าของบทประพันธ์อย่าง  ก้อย  ถึงกับปลื้มที่บทประพันธ์ของเธอได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ซึ่งเจ้าตัวเปิดใจว่า

ก้อย-พราวนภา“ดีใจมากค่ะ เพราะเรื่องของชูการ์ถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่ชอบมาก และอยากเห็นเป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์หรือซีรี่ส์มาตลอดแถมทางโมโนเองก็น่ารักมาก ให้เกียรติเชิญเราไปดูแคสติ้งนักแสดง ทางผู้กำกับเองก็ให้เกียรติปรึกษาเรื่องบทหนังกับเราด้วย ว่าเราโอเคในส่วนที่เพิ่มเข้ามาหรือขอปรับแก้มากน้อยแค่ไหน ตอนที่เริ่มแต่งเรื่อง Sugar Cafe ก้อยกำลังอยู่ในช่วงบ้าเครื่องดื่มชง ทั้งกาแฟ ทั้งชา จนเกิดไอเดียว่าอยากเขียนนิยายที่มีความเกี่ยวข้องกับร้านชาร้านกาแฟสักเรื่อง”

“เลยมาลงเอยที่ชูการ์ ซึ่งวางคาแร็คเตอร์ไว้ให้เป็นผู้ชายอบอุ่นและหน้าหวานประหนึ่งผู้หญิง จับให้ชูการ์เป็นบาริสต้าของร้าน Evening Cafe เพื่อให้เป็นคนถ่ายทอดความน่ากินของเครื่องดื่มดีๆ แต่ละอย่างที่มีความทันสมัยหน่อย ส่วนนางเอกอย่าง ปั้นชา ก็ให้เป็นตัวแทนของร้าน Tea Room ซึ่งเป็นน้ำชาแบบโบราณที่ไม่ค่อยมีให้เห็นในปัจจุบันนี้ และค่อยๆ ขยายอาณาเขตเรื่องราวในร้านเพิ่มไปด้วย”

ก้อย-พราวนภา

“สำหรับตัวนักแสดง ในนิยายมีตัวละครหลักๆ คือ ชูการ์ ,ปั้นชา, เจ๊เนย, ซีลอน และจัสมินค่ะ และทุกคนตรงกับอิมเมจที่ก้อยแอบคิดไว้เลย  ด้านน้องเบนซ์เหมาะกับบทปั้นชามาก จำได้ว่าตอนไปดูแคสติ้งยังกระซิบบอกกับผู้กำกับอยู่เลยว่าชอบน้องคนนี้  มีหมดทั้งความน่ารักทั้งสดใส ส่วนน้องกากาก็เป็นจัสมินที่แอคติ้งโอเว่อร์สมกับอิมเมจที่เราวางไว้เหมือนกันค่ะ ยิ่งดูทีเซอร์ยิ่งชอบมาก สำหรับน้องกัน ชอบเวลายิ้มน้อยๆ ดูอบอุ่นเหมาะกับบทชูการ์เลย ยังไงก็ขอฝาก Sugar cafe เปิดตำรับรักนายหน้าหวานไว้กับทุกคนด้วยนะคะ ทั้งในส่วนของนิยายและภาพยนตร์ที่จะฉายทาง MONOMAX วันที่ 16 พ.ย. นี้ค่ะ”

 

รวม 10 มาส์กหน้าฉบับเตรียมตัวเป็น เจ้าสาว มีให้เลือกทุกช่วงราคา!

account_circle

เราเชื่อว่า เหล่าว่าที่เจ้าสาวหลายๆคน ต้องชื่นชอบการมาส์กหน้าเพื่อเตรียมผิวหน้าให้สวยใสพร้อมสำหรับวันแต่งงานแน่ๆ ยิ่งตอนนี้มาส์กชิ้นใหม่ๆเน้นการบำรุงผิวล้ำลึกในช่วงระยะเวลาสั้นๆ สำหรับว่าที่เจ้าสาวที่เวลาเตรียมตัวน้อย หมดปัญหาไม่มีเวลาดูแลผิวไปเลยละ เราก็เลยมาบอกพิกัด 10 มาส์กหน้า ฉบับเตรียมตัวเป็น เจ้าสาว มีให้เลือกทุกช่วงราคา!  คราวนี้ละเหล่าว่าที่เจ้าสาวก็จะได้มีผิวหน้าเด้งในวันแต่งงานแบบทันท่วงที!

1. La Mer The lifting and firming mask (9,800 บาท)

มาส์กเนื้อชุ่มชื่นเว่อร์ๆ จากแบรนด์ดังตัวแม่อย่าง ลา แมร์ ใช้สารสกัด มิราเคิล บรอธ ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ช่วยบำรุงผิวจากภายใน และยังมีสารสกัด Lifting Ferment ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวกระชับเต่งตึงขึ้นอีกด้วย ว่าที่เจ้าสาวคนไหนกังวลเรื่องผิวหย่อนคล้อย ใบหน้าดูไม่ได้รูป เราแนะนำชิ้นนี้เลย

2. SK-II Facial Treatment Mask (10 แผ่น, ประมาณ 5,000 บาท)

มาส์กตัวดังที่ใครๆก็พูดถึง! อุดมด้วยสารสกัดจากพิเทร่าที่ช่วยให้ผิวอิ่มฟูจากภายใน เรารู้สึกว่านอกจากจะช่วยเรื่องความชุ่มชื่น ผิวเด้งอิ่มน้ำแต่งหน้าติดทนนานทั้งวันแล้ว ใครที่รู้สึกว่าผิวหน้าเราหมองคล้ำเหมือนคนโดนของ บอกเลยว่ามาส์กตัวนี้แค่คืนเดียว รับรองตื่นมาหน้ากระจ่างใส ออร่า แบบทันตาเห็นทีเดียว

3. Estee Lauder Advanced Night Repair Concentrated Recovery Eye Mask ( 4 แผ่น, 1,500 บาท)

จากมาส์กหน้า มามาส์กรอบดวงตากันบ้าง มาส์กสำหรับผิวรอบดวงตารุ่นนี้จาก เอสเต ลอเดอร์ เน้นลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ จากการแสดงอารมณ์ อายุ และมลภาวะ ช่วยให้ผิวใต้ตารู้สึกตึงกระชับขึ้น และสดใสขึ้นด้วยนะ เพราะดวงตาคือหน้าต่างของดวงใจ เพราะฉะนั้นวันสำคัญของเราก็ต้องทำให้ดวงตาดูกระจ่างใสด้วยใช่ไหมล่ะ

4. Sulwhasoo First Care activating Mask (5 แผ่น, 1,800 บาท)

มาส์กหน้ากากที่ทำมาจากเนื้อผ้าฝ้ายบริสุทธิ์ บอกเลยว่า ขณะที่ใช้มาส์กบนผิวหน้า รู้สึกสบ๊ายยย สบาย ผิวจนอยากทิ้งไว้นานๆเลยละ เจ้ามาส์กตัวนี้ใช้ส่วนผสมสมุนไพรโบราณช่วยกอบกู้ผิวที่ดูอ่อนล้าจากการพักผ่อนน้อยให้ดูสดชื่นสดใสเหมือนได้นอนเต็มอิ่ม ว่าที่เจ้าสาวคนไหนทำงานหนักจนไม่มีเวลาเตรียมตัว ชิ้นนี้เหมาะมากบอกเลย

5. Kiehl’s Calendula & Aloe Soothing Hydration Mask (1,750 บาท)

สำหรับว่าที่เจ้าสาวสายผิวแห้ง หรือดื่มน้ำน้อยจนผิวดูหยาบกร้าน มาส์กเนื้อเจลชิ้นนี้จากแบรนด์ คีลส์ ช่วยคุณได้! ด้วยส่วนผสมช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นอย่างว่านหางจระเข้และดอกคาเลนดูล่า ช่วยเติมน้ำให้ผิวดูอิ่มขึ้น สดชื่นขึ้น และกลิ่นยังหอมผ่อนคลาย เนื้อเจลเย็นสบายผิวสุดๆ เป็นอีกชิ้นที่ใช้ได้ทุกวันเลยละ

6. Laneige Water Sleeping Mask (1,100 บาท)

เป็นมาส์กอีกชิ้นที่แนะนำสำหรับว่าที่เจ้าสาวที่ผิวแห้งมากจนครีมทั่วไปเอาไม่อยู่ มาส์กชิ้นนี้เป็นมาส์กที่ใช้ทาทั่วผิวหน้าก่อนนอน แล้วนอนได้เลยโดยไม่ต้องล้างออก (เราแนะนำว่าทาทิ้งไว้ซัก 15 นาที แล้วค่อยล้มตัวลงนอนละ จะได้ไม่เปื้อนหมอน) บอกเลยว่าตื่นมาวันรุ่งขึ้น ล้างหน้าแล้วรู้สึกว่าผิวหน้านุ่ม เนียน ชุ่มชื่นขึ้นแบบทันตาเห็นจริงๆ

7. Lululun Face Mask ( 7 แผ่น ประมาณ 220 บาท)

มาส์กราคาน่ารักน่าคบ หาซื้อง่าย มีหลากหลายสูตรให้เลือก ตั้งแต่พื่อผิวกระจ่างใส ลดริ้วรอย หรือเติมความชุ่มชื่น เนื้อมาส์กบางเบาไม่หนักมากทำให้ใช้ได้ทุกวัน เราแนะนำให้ใช้เป็นขั้นตอนบำรุงแรกหลังล้างหน้าเสร็จ แล้วตามด้วยสกินแคร์ที่ใช้อยู่เป็นประจำ ตื่นมาแล้วรู้สึกว่าผิวหน้าชุ่มชื่น และกระจ่างใสขึ้นจริงๆนะ

8. Kose Clear Turn White Mask ( 30 ชิ้น ประมาณ 990 บาท)

มาส์กแบบกล่องที่บรรจุถึง 30  ชิ้น ใช้ไปเลยจ้าทุกวันจนครบหนึ่งเดือน นอกจากนั้นแล้วราคาเมื่อหารตกต่อแผ่นแล้วนับว่าคุ้มค่ามากๆ สูตรกล่องสีฟ้านี้เน้นช่วยให้ผิวดูกระจ่างและชุ่มชื่น มีส่วนผสมของวิตามินซีที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้ด้วยนะ เป็นอีกชิ้นที่ใครชอบมาส์กหน้าทุกวันควรซื้อไว้ในครอบครอง

9. My Beauty Diary Black Pearl Mask ( 5 แผ่น, 229 บาท)

ใครที่อยากเน้นให้ผิวดูกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ เราแนะนำมาส์กรุ่นนี้จาก มาย บิวดี้ ไดอารี่ ที่ผสานผงไข่มุกช่วยให้ผิวดูสว่างและจุดด่างดำดูจางลง นอกจากจะหาซื้อง่าย ราคาไม่แพงแล้ว เจ้ามาส์กชิ้นนี้ยังโด่งดังในหมู่บิวตี้บลอคเกอร์จนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ร้านค้าบางสาขามักจะไม่มี เราแนะนำให้ไปร้านสาขาใหญ่ๆ หรือสั่งซื้อออนไลน์นะ

10. Etude Cherry Jelly Lip Patch (ประมาณ 90 บาท)

ปิดท้ายด้วยมาส์กสำหรับเรียวปากจากแบรนด์เกาหลีสุดน่ารัก ที่ช่วยให้เรียวปากมีสีสันสวยระเรื่อ และดูชุ่มชื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว ใครที่ชอบประสบปัญหาผิวปากแห้งแตก มีร่องริ้วรอยทำให้ทาลิปสติกออกมาแล้วดูไม่เรียบเนียน เราแนะนำให้ใช้ตัวนี้ก่อนนอน ตามด้วยโปะลิปมันหนาๆที่เรียวปาก รับรองว่าตื่นมาวันรุ่งขึ้น ริมฝีปากเนียนตึงน่าจุ๊บแน่นอน!

จุใจกันไปหรือยังคะสำหรับ 10  พิกัดมาส์กเพื่อเตรียมผิวหน้าให้สวยเป๊ะ แต่ว่าก็อย่าลืมดูแลผิวหน้าเพิ่มเติมด้วยการบำรุงผิวจากสกินแคร์อย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนดีๆ ออกกำลังกายและดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อให้ผิวสวยโกลว์ออร่าจากภายในสู่ภายนอกกันนะคะ

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับความสวยความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

 

วนัช กูตูร์ อวดโฉม ชุดไทย สุดงดงาม คอลเลคชั่น“จรินทร์พรอาภรณ์ไทย”

account_circle

วนัช กูตูร์ ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากเรื่อง ชุดไทย ที่สวยงามและประณีต ซึ่งทางร้านมีการออกคอลเลคชั่นใหม่ๆมาให้ลูกค้าได้ยลโฉมกันอยู่เสมอๆ และคอลเลคชั่นล่าสุด “จรินทร์พรอาภรณ์ไทย” ยังได้สาวเต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ มาร่วมถ่ายทอดความงดงามแบบฉบับไทยแท้ๆอีกด้วย

สาวเต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ สลัดลุคสาวหมวยน่ารักมาสวมใส่ ชุดไทย เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ซึ่งขอบอกว่า ดูงดงาม สวยสง่า และเข้ากันดีราวกับ  นางในวรรณคดีไทยจนลืมภาพสาวหมวยที่มีรอยยิ้มน่ารักกันไปเลย

คอลเลคชั่นนี้ห้องเสื้อใช้ความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าใส่ใจในทุกรายละเอียดเลยก็ว่าได้ ทั้งการออกแบบและการตัดเย็บ ซึ่ง สรรค์ สุดเกตุ ผู้บริหารและดีไซน์เนอร์ของห้องเสื้อ วนัช กูตูร์ ได้บอกเล่าเกี่ยวกับที่มาของชุดไทยสุดงดงามนี้ว่า “ชุดไทยศิวาลัย ประยุกต์ คือชุดที่ถูกยกให้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงอีกชุดสำหรับในคอลเลคชั่นนี้ นอกจากจะใช้ผ้าไหมยกลำพูนเป็นส่วนประกอบหลักแล้ว สีที่ใช้ก็พิเศษมากเช่นกัน เพราะเป็นการผสมผสานระหว่าง สีเงิน สีครีม สีชมพู เพื่อให้ได้แสง หรือ สี ตาม 8 สี เวลามองจะเห็นเป็นสีเหลือบๆสวยงาม การออกแบบมีลวดหลายเฉพาะโดยเลือกใช้ลายดอกบัว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของห้องเสื้อเป็นตัวหลัก และเพิ่มดีไซน์ด้วยตัวนกยูงทองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มาเรียงใส่อยู่ตรงชายสไบพร้อมสลักคำว่า “วนัช กูตูร์”  ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของชุดไทยในคอลเลคชั่นนี้ ส่วนชุดไทยศิวาลัยที่เต้ย ใส่ในครั้งนี้ได้รับเลือกจาก นิตยสาร แพรว Wedding ปี 2018 ให้เป็น The Best Thai Wedding Dress อีกด้วย”

ชุดไทย

จรินทร์พรอรรัมภาบุหงาศุภางค์
เพียงพิศนางสิเน่หาสุดาสไว
คล้ายต้องห้วงปัจถรณ์สมรฤทัย
พิสมัยอำไพพร่างกระจ่างนิยาม
ฤาดั่งเทพรังสรรค์สวรรค์ศิลป์
ละออระบิลสิรินทร์หลั่งพรั่งสยาม
วิลาสค่าวิลาวัณย์อนันต์วิราม
ก้องเกียรติงามนาม วนัช พิพัฒน์พิไล.

ชุดไทย

พบกับชุดไทยโบราณและสากลที่งดงามที่สุดได้แล้ววันนี้ที่ ห้องเสื้อ วนัช กูตูร์

 

Vanus Couture

1550,1552 ปากซอยลาดพร้าว 50

ถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310

โทร.0-2002-4895, 0-2002-4896

เฟซบุ๊ก : Vanus Couture 

ไอจี : @vanuscouture_official

 

ติดตามไอเดียและเทคนิคต่างๆเกี่ยวกับงานแต่งงานได้ที่ praewwedding

7 ลุคของว่าที่เจ้าสาว “สายไหม-มณีรัตน์” กับชุดแต่งงานไทยแบบประยุกต์หลากสไตล์จาก Deep Love Wedding

account_circle

อีกหนึ่งสาวสวยที่กำลังจะสละโสดในปลายปีนี้ สายไหม-มณีรัตน์  ศรีจรูญ นางเอกหน้าหวานว่าที่เจ้าสาวคนใหม่ที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับคุณหยาง-ธีรคุปต์ ธรรมมณีวงศ์ ทายาท Audi Thailand  แพรว wedding ไม่รอช้า รีบคว้าว่าที่เจ้าสาวป้ายแดงมาชิมลางการถ่ายแฟชั่น ชุดแต่งงานไทย กันก่อน ซึ่งบอกได้คำเดียวว่า สวยออร่าราศีเจ้าสาวจับมากกกกกก ไปพบกับชุดแต่งงานไทยสวยๆ จากร้าน Deep Love Wedding กันเลย

   

เสื้อผ้า : Deep Love Wedding 
โทร. 0-2398-5739, 0-2399-1693, 09-5789-9556
เว็บไซต์ : www.deeplovewedding.com
เฟซบุ๊ก : deeplove ชุดแต่งงาน ชุดไทย
ไอจี : @deeplove_official
ไลน์ : @deeplovewedding

สถานที่ : Red Hall Studio
เฟซบุ๊ก : Red Hall Studio

อ่านเรื่องราวความรักของว่าที่เจ้าสาวหน้าคนนี้เพิ่มเติมได้ที่นี่ >>> บันทึกรัก “สายไหม มณีรัตน์” สาวหน้าหวานกับรักที่ไม่เคยคาดหวัง

 

เต๋า สโรชา

ในวันที่ไม่ใช่นางเอกอีกต่อไป! เต๋า สโรชา นักแสดงฝีมือดีที่ใครก็เลียนแบบไม่ได้

Alternative Textaccount_circle
เต๋า สโรชา
เต๋า สโรชา

ใครก็เลียนแบบไม่ได้ เต๋า สโรชา นักแสดงมากฝีมือ ขโมยซีนสุดในละคร ปี่แก้วนางหงส์ จากบท ท่านจัน คนมีฝีมือไม่ว่าจะได้รับบทไหนก็เอาอยู่

เต๋า สโรชา

ผีท่านจัน รับบทโดย “เต๋า-สโรชา วาทิตตพันธ์”

ชื่อเสียงไม่อยู่กับใครนาน วงการบันเทิงจึงมีคนเข้าและออกเยอะมาก แต่สุดท้ายสิ่งที่จะทำให้อยู่ยืนนานที่สุดก็คือฝีมือและความมีวินัยเท่านั้น ซึ่ง เต๋า สโรชา วาทิตตพันธ์ “ ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ประสบเรื่องนี้มา เธอเป็นนางเอกสาวที่โด่งดังสุดๆ ในยุค 90 ไม่ว่าจะหนัง ละคร หรือ โฆษณาเรามักจะได้เห็นเธอบ่อยๆ แต่ความโด่งดังก็มีระยะเวลา

เต๋า เปิดใจในรายการคุยแซ่บโชว์ถึงวันที่ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกกับเธอว่า “ถ้าอยากอยู่ในวงการต่อไป เธอต้องเลิกเป็นนางเอก” เต๋าบอกว่าเธอเศร้ามากและพยายามหางานนู้นนี่ทำ แต่เมื่อได้สติรู้ว่าถึงจะไม่ใช่นางเอกแต่ก็ยังมีบทบาทที่น่าสนใจ ดังนั้นเธอจึงตกลงรับและเล่นอย่างเต็มที่ นั่นทำให้เธอได้รู้ว่า เธอเหมือนกับได้เกิดใหม่อีกครั้ง

“ใช่ค่ะ ตอนนั้นแบบเศร้ามาก ฉันจะไปต่อยังไงดี ด้วยความที่ไม่รู้ของเด็ก เราก็คิดว่าเป็นนางเอกไม่ได้เราไม่มีอนาคตในวงการแล้ว ตอนนั้นก็หางานทำเป็นพีอาร์นู่นนี่ แต่ก็มีผู้ใหญ่โทรศัพท์มาแต่ไม่ใช่นางเอกนะ ตอนแรกก็เศร้าหนักแต่ก็ลองทำดู ก็รู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง”

เต๋า สโรชา

นางเอกสาวที่โด่งดังสุดๆ ในยุค 90

ทั้งนี้หลายปีที่ผ่านมาเราได้เห็นเต๋าในบทบาทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคนดี คนที่น่าสงสาร นางร้าย กระทั่งโรคจิต เธอก็ตีบทแตกกระจุย แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีคุณภาพมากๆ ของวงการบันเทิง ไม่ว่าจะรับบทบาทไหนเธอก็เอาอยู่

ล่าสุดหันมารับบทท่านจันในละครเรื่อง ปี่แก้วนางหงส์ ซึ่งเป็นบทที่จะมาคอยช่วย พิกุล (ราณี แคมเปน) จากคนไม่ดี ถึงแม้จะชื่นชอบบทนี้มากพอควร แต่บอกเลยทุกครั้งที่ปรากฏตัวก็ทำผู้ชมอย่างเราใจหายใจคว่ำไม่น้อย เพราะลุคที่ครีเอทมาแบบดำมืดเห็นเพียงแต่ลูกกะตา เห็นทีไรก็ใจคอไม่ค่อยจะดี

อย่างไรก็ตามการแต่งเป็นผีท่านจันนั้นบอกเลยว่าไม่ง่าย กว่าจะออกมาได้น่ากลัวขนาดนี้เต๋าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ในการแต่งเอฟเฟค มาก่อนหลับที่หลังคนอื่น บอกเลยว่าถ้าไม่ทุ่มเทจริงๆ ก็คงถอดใจไปแล้ว อันนี้ต้องขอชื่นชมเธอเลยล่ะ

เต๋า สโรชา

แต่งเอฟเฟคผีท่านจัน

สำหรับ ผีท่านจันในละครเรื่อง ปี่แก้วนางหงส์ คือ หญิงสูงศักดิ์ที่แอบรักกับครูทับ ท่านมีปี่หนึ่งที่รักมากและได้มอบให้ครูทับเป็นปี่ประจำกาย ต่อมาทั้งสองถูกพรากจากกัน ท่านจันเสียใจและฆ่าตัวตายด้วยการให้งูฉก ปี่ท่านจันตกทอดมาจนถึงจางวางเพราะเป็นศิษย์เอกของครูทับ และจางวางมอบให้ พิกุล (ราณี แคมเปน)ปี่นี้จึงมีความผูกพันธ์มีจิตวิญญาณของท่านจันผูกติดอยู่

เต๋า สโรชา

กับนางเอก “เบลล่า-ราณี แคมเปน”

เต๋า สโรชา เต๋า สโรชา


ภาพจาก : ละครเรื่อง ปี่แก้วนางหงส์ ช่อง 3

อบอุ่นใจ ครบรอบวันประสูติ 70 ชันษา เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ฉายพระรูปครอบครัวพร้อมกันครั้งแรก

account_circle

ครบรอบวันประสูติ 70 ชันษา เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์  ฉายพระรูปครอบครัวพร้อมหน้าครั้งแรก ประกอบไปด้วย คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอล (พระชายา) พร้อมด้วยพระโอรสทั้งสอง เจ้าชายวิลเลียมและ เจ้าชายแฮร์รี่ รวมถึงพระสุณิสา ดัชเชสเคทและ ดัชเชสเมแกน และที่ขาดไม่ได้เลยคือ พระราชนัดดาสุดที่รักของพระองค์ เจ้าชายจอร์จ,เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ และเจ้าชายหลุยส์

เจ้าฟ้าชายชาลส์

อบอวลไปด้วยความสุขและเต็มไปด้วยรอยยิ้มจริงๆ สำหรับภาพนี้ เรียกได้ว่าเป็นการฉายพระรูปแบบพร้อมหน้า พร้อมตา ครั้งแรก ท่ามกลางแสงแดดอุ่นๆ ทุกพระองค์ทรงยิ้มอย่างสดใส โดยมีเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และดัชเชสคามิลลา ทรงเป็นหัวใจของครอบครัว และเป็นจุดศูนย์กลางของภาพนี้ ซึ่งภาพเซ็ตนี้ถูกถ่ายโดย Chris Jackson ช่างภาพประจำราชวงศ์ ณ สวนในพระราชวังบัคกิงแฮม

เป็นอีกครั้งที่เราได้เห็นพระพักตร์ของเจ้าชายหลุยส์ เจ้าชายน้อยวัย 6 เดือน พระองค์ทรงเจริญวัยมากขึ้น อีกทั้งพระพักตร์ยังคล้ายพระมารดาไม่มีผิด โดยเฉพาะพระเนตร ฉายแววหล่อตามเจ้าชายจอร์จมาติดๆ

สำหรับธีมในวันนี้ ทุกๆ พระองค์มาในฉลองพระองค์โทนสีเดียวกัน คือ น้ำเงิน-ขาว อาจจะคุ้นตากันอีกแล้ว สำหรับฉลองพระองค์เดรสของดัชเชสเคท ซึ่งเดรสตัวนี้ ดัชเชสเคททรงใส่ซ้ำเป็นครั้งที่สอง โดยเดรสวินเทจลายจุดสีน้ำเงินตัวนี้เป็นของแบรนด์ Alessandra Rich ราคา £1,750 (74,784 บาท)

ด้านดัชเชสเมแกน ก็มาในฉลองพระองค์เดรสสีครีมขาว แบรนด์โปรดจาก Givenchy ซึ่งพระองค์ใส่ฉายพระรูปก่อนที่จะประกาศข่าวอันน่ายินดีว่าพระองค์ทรงตั้งพระครรภ์เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา

และอีกคนสำคัญในรูปคือ คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอล พระองค์ทรงฉลองพระองค์เดรสสีขาว ครีม จากแบรนด์ Fiona Clare ประดับด้วยเข็มกลัดแมลงปอทำจากเพชรและอัญมณีอื่นๆ จากแบรนด์ Libellule Van Cleef & Arpels ซึ่งเป็นของขวัญที่ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงมอบให้กับพระองค์

ทั้งนี้เจ้าชายวิลเวียม ยังทรงเผยความรู้สึกที่มีต่อพระบิดาว่า

‘My father’s focus on the environment is something I’ve looked up to all of my life, His passion for the environment and the natural world is something I want to repeat in the way I raise George, Charlotte and Louis.’

‘พระบิดา ทรงมุ่งเน้นที่จะรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นที่ข้าพเจ้าได้เห็นมาตลอดชีวิต ความหลงใหลของพระองค์ที่มีให้กับสิ่งแวดล้อมและ ธรรมชาติของโลก เป็นสิ่งที่ ข้าพเจ้าต้องการให้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง ในการเลี้ยงลูกทั้งสามของข้าพเจ้า จอร์จ, ชาร์ลอตต์ และ หลุยส์

ทั้งนี้ช่างภาพที่ทำการถ่ายรูปนี้ยังได้บอกถึงความรู้สึกในขณะถ่ายรูปอีกว่า “เป็นวันครอบครัว เป็นวันที่มีความสุขจริงๆ ทุกๆ พระองค์รักกันมาก เห็นได้ชัดถึงความผูกพันธ์ของ คุณปู่และหลานๆ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงรักพระราชนัดดามากเพียงใด

 

 

 

 

 

 

กระเป๋า Incase

ช้อปได้ในหลักพัน! กระเป๋า Incase รุ่นใหม่ ใช้เส้นใยจากขวดพลาสติกรีไซเคิล

กระเป๋า Incase
กระเป๋า Incase

ทำความรู้จัก “Diamond Ripstop” กระเป๋า Incase รุ่นที่เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับหนุ่มสาววัยทำงานเลยทีเดียว นอกจากจะอึด ทนทาน ก็ยังมีอีกหนึ่งความพิเศษ คือสามารถกันน้ำได้

สำหรับปลายฝนต้นหนาวนี้ใครที่ยังหากระเป๋าคู่ใจใบใหม่ไม่ได้ แนะนำ Incase (อินเคส) แบรนด์กระเป๋าและแก็ดเจ็ตชื่อดังสัญชาติอเมริกา ที่เหล่าสาวก Apple รู้จักกันดี ล่าสุดได้ออกแบบและผลิตผ้า รุ่น “Diamond Ripstop” (ไดมอน ริปสตอป) ผ้าที่มีนวัตกรรมสุดล้ำที่ถูกทอจากส่วนผสมของเส้นใยจากขวดพลาสติก PET รีไซเคิล ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อช่วยยกระดับการใช้งานให้ถึงขีดสุด โดยมีคุณสมบัติพิเศษที่ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าสามารถกันน้ำได้

กระเป๋า Incase

Diamond Ripstop ถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Reducing waste through good design ซึ่งยังคงเป็นหัวใจหลักในการดีไซน์ของแบรนด์กระเป๋าระดับโลกแบรนด์นี้ ด้วยนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาอย่างมุ่งมั่นเพื่อตอบสนองการใช้งานในทุกๆ ด้านของเหล่าแฟนพันธุ์แท้ของ Incase ผ้า Diamond Ripstop ได้ผ่านการทดสอบว่าสามารถกันน้ำและป้องกันการรั่วซึมของน้ำได้เป็นอย่างดี จุดเด่นคือเป็นผ้าที่ถูกทอจากส่วนผสมของเส้นใยจากขวดพลาสติก PET  รีไซเคิล 63% กับเส้นใยโพลีเอสเตอร์อีก 37% ที่ความหนาแน่น 300 D ด้วยโครงสร้างการทอที่ถูกออกแบบพิเศษเป็นลวดลายข้าวหลามตัดซึ่งมีความพรุนต่ำ ผสมผสานกับการใช้เส้นใยสังเคราะห์ จึงทำให้น้ำไม่รั่วซึม กระเป๋ามีน้ำหนักเบาขึ้น แต่ก็ยังแข็งแรงและคงทนต่อการฉีกขาดได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งยังช่วยลดปัญหาขยะและมลพิษที่เกิดจากกระบวนการผลิตกระเป๋าได้

ในคอลเล็คชั่น CityBackpack ซึ่งเป็นไอคอนิกของ Incase ได้นำนวัตกรรม Diamond Ripstop เข้ามาใช้ถึง 3 รุ่นพร้อมด้วยดีไซน์ซ่อนซิปอย่างดีชนิดที่เจอฝนตกยังไงก็ไม่ต้องกลัว คือ City Commuter Backpackwith Diamond Ripstop ราคา 6,690 บาท เป้ขนาดใหญ่สุดในคอลเล็คชั่นที่สามารถใส่แล็ปท็อปขนาด 15 นิ้วได้อย่างสบายๆ แบ่งช่องเก็บของเป็น 2 ช่อง เหมาะสำหรับคนที่ชอบพกของเยอะ แต่ยังต้องการความเป็นระเบียบ

ต่อกันที่ City Backpackwith Diamond Ripstop ราคา 5,690 บาท กระเป๋าเป้ขนาดกลางในคอลเล็คชั่น ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเอาใจวัยทำงาน มาพร้อมฟังก์ชั่นที่ช่วยปกป้องแล็ปท็อปขนาดจอ 17 นิ้ว ด้วยการบุนวม Padding Protect ข้างในรอบด้าน 360 องศา เก็บของได้เยอะจุใจด้วยช่องใส่อุปกรณ์ทำงาน 2 ช่อง แต่ไม่เทอะทะ

City Compact Backpackwith Diamond Ripstopราคา 4,490 บาท เป้น้องเล็กสุดไซส์ยอดนิยม ขายดีที่สุดในคอลเล็คชั่น สามารถใส่แล็ปท็อปขนาด 15 นิ้วได้ แต่มีขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับหนุ่มๆ สาวๆ ที่ชอบความคล่องตัว ซึ่งทั้งหมดวางจำหน่ายใน 2 สี คือ สีดำและสีเทา ถูกใจสายมินิมอลอย่างแน่นอน

กระเป๋า Incase

ปิดท้ายด้วย ICON Lite PackDiamond Ripstop ราคา 4,490 บาท เป้ทรงคลาสสิกสำหรับคนที่หลงรักในการดีไซน์เรียบๆ ของ incase ที่ดูธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา ด้วยดีไซน์ที่เพียบ ฟังก์ชั่นที่พร้อม สามารถจุแล็ปท็อปขนาด 15 นิ้ว และ iPad ได้

ส่วนสายฟิต สายเฮลธ์ตี้ที่อยากได้กระเป๋าเท่ๆ ใส่ไปยิมต้องรุ่น City Duffel With Diamond Ripstop ราคา 3,990 บาท เพียงแค่หยิบคุณก็พร้อมที่จะออกไปใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงได้ ทั้งยังสามารถใส่แล็ปท็อปขนาด 15 นิ้ว มาพร้อมสายสะพายไหล่ซึ่งมี Shoulder Pad ให้คุณสะพายได้โดยไม่เจ็บไหล่ ทั้งยังมีฟังก์ชั่นพิเศษช่องเสียบไม้ลากกระเป๋าเดินทาง เหมาะสำหรับหนุ่มๆ สาวๆ ที่เดินทางบ่อยและต้องการกระเป๋าที่คล่องตัว

กระเป๋า Incase

แต่สำหรับใครที่เป็นแล็ปท็อปเลิฟเวอร์ ที่กำลังมองหากระเป๋าใส่แล็ปท็อปคู่ใจอยู่ รุ่น City Briefwith Diamond Ripstop สำหรับแล็ปท็อปขนาด 13 และ 15 นิ้ว ราคา 3,190 บาท ที่จะช่วยปกป้องแล็ปท็อปของคุณไม่ให้เปียกน้ำ มีสายสะพายไหล่ที่ปรับสายสั้นยาวได้ตามใจชอบ

หรือถ้าอยากได้เคสสำหรับแล็ปท็อปขนาดบางก็ต้องรุ่น Slim Sleevewith Diamond Ripstop ราคา 1,890 – 2,990 บาท ที่ถูกออกแบบอย่างพรีเมี่ยม ป้องกันกระแทกได้เป็นอย่างดี

“เดอะบลูคาร์เพทโชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ”

รายการช่วยโลกเปลี่ยนแปลงชีวิต “เดอะบลูคาร์เพทโชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ”

Alternative Textaccount_circle
“เดอะบลูคาร์เพทโชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ”
“เดอะบลูคาร์เพทโชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ”

“เดอะบลูคาร์เพทโชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ” รายการวาไรตี้สดรูปแบบใหม่ ครั้งแรกของไทย ระดมเหล่าศิลปินไทย-ต่างประเทศ สร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตให้แก่เด็กทุกคน

“เดอะบลูคาร์เพทโชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ”

องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวรายการ “เดอะบลูคาร์เพทโชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ” รายการโทรทัศน์แนววาไรตี้รูปแบบใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย เฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 70 ปีขององค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้เด็กๆ ทั่วโลกที่กำลังเผชิญหน้ากับความเหลื่อมล้ำทางสังคม พร้อมยกทัพดารา-ศิลปินชั้นนำในประเทศไทยและต่างประเทศมาสร้างสาระและความบันเทิงหลากหลายรูปแบบตลอดทั้งรายการ และเปิดโอกาสให้ผู้ชมทุกท่านได้มีส่วนร่วมในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตของเด็กๆ ทั่วโลก

โดยรูปแบบรายการ เป็นโครงการพิเศษของยูนิเซฟทั่วโลก ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากจากผู้ชมในหลายประเทศทั่วโลก โดยฉีกกรอบรายการเพื่อการกุศลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในครั้งนี้ ยูนิเซฟ ประเทศไทย ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจาก ช่อง 7HD ที่ออกอากาศรายการในช่วงไพร์มไทม์ พร้อมส่งดาราในสังกัดมาร่วมงานอย่างคับคั่ง และได้รับความร่วมมือจากภาคธุรกิจอื่นๆ ที่ส่งศิลปินมาร่วมงานและแสดงมินิคอนเสิร์ตภายในงาน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่จะออกอากาศรายการรูปแบบนี้ เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนได้เห็นถึงปัญหาที่เด็กในประเทศไทยและทั่วโลกต้องเผชิญ พร้อมจัดทำหนังสั้น 6 เรื่องสุดพิเศษ โดยได้รับความร่วมมือจาก นายอานันท์ ปันยารชุน ทูตสันถวไมตรี องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย, ชเว ชีวอน ผู้แทนพิเศษ องค์การยูนิเซฟ ประเทศเกาหลีใต้ ที่เป็นตัวแทนส่งเสริมความร่วมมือครั้งแรกระหว่างยูนิเซฟ เกาหลีใต้กับประเทศไทย นิชคุณ หรเวชกุล Friend of UNICEF และแขกรับเชิญพิเศษของโครงการ มิน-พีชญา วัฒนามนตรี, เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร และ ตุ๊ยตุ่ย-พุทธชาด พงศ์สุชาติ ที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจตามที่ต่างๆ เพื่อถ่ายทอดปัญหาที่เด็กต้องเผชิญไปพร้อมๆ กับเปิดโอกาสให้ผู้ชม ทุกท่านได้มีส่วนร่วมในการส่งมอบรอยยิ้ม ความหวัง และอนาคตที่สดใสให้กับเด็กๆ ทั่วโลกผ่านหนังสั้นชุดนี้ ที่จะออกอากาศครั้งแรกในรายการ “เดอะบลูคาร์เพทโชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ” อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากเหล่าดารา ศิลปินมากมาย มาร่วมเดินพรมฟ้า ซึ่งเป็นที่มาของชื่อรายการ และร่วมเป็นกระบอกเสียงให้เด็กๆ ในรายการ พร้อมจัดโชว์พิเศษมาเพื่อรายการนี้โดยเฉพาะ อาทิ ชเว ชีวอน, นิชคุณ หรเวชกุล, เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร, ดา-ธนิดา ธรรมวิมล หรือ ดา เอ็นโดรฟิน, สมาชิกทั้ง 6 คนจากวง บีเอ็นเคโฟร์ตี้เอต (BNK48) โดยมี ป๋อมแป๋ม-นิติ ชัยชิตาทร และ ตุ๊ยตุ่ย-พุทธชาด พงศ์สุชาติ จับคู่เป็นพิธีกรสร้างความบันเทิงตลอดรายการ

“เดอะบลูคาร์เพทโชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ”

ด้าน ชเว ชีวอน ผู้แทนพิเศษ องค์การยูนิเซฟ ประเทศเกาหลีใต้ กล่าวว่า “ผมได้มีโอกาสเดินทางมาที่ประเทศนับครั้งไม่ถ้วน มาถ่ายโฆษณา พบปะแฟนคลับ รวมถึงมาพักผ่อน แต่ทริปที่ผมรู้สึกประทับใจที่สุดในการเดินทางมาที่ประเทศไทย คือ ทริปเมื่อเดือนสิงหาคม ตอนที่ผมได้ไปเยี่ยมและพูดคุยกับผู้พิการทางสติปัญญาที่จังหวัดอุบลราชธานีและสุรินทร์ ระหว่างการไปพบปะผู้พิการทางสติปัญญา ผมได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ที่เด็กเหล่านี้ต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความยากจน ความไม่เท่าเทียม และความยากลำบากในการเข้าถึงการบริการขั้นพื้นฐาน เด็กเหล่านี้แทบไม่เคยมีโอกาสที่จะได้พูดและทำให้ผู้อื่นได้รับรู้ถึงสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญ แต่ผมมาอยู่ที่นี่เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ The Blue Carpet Show for UNICEF เพื่อกระตุ้นให้สังคมรับรู้เกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ที่เด็กในประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ ณ ตอนนี้ โปรเจกต์นี้ถือเป็นความคิดริเริ่มของยูนิเซฟทั่วโลก ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในหลายประเทศ เช่น สวีเดน และ อาร์เจนติน่า สำหรับประเทศไทย ถือเป็นครั้งแรก ของรายการรูปแบบนี้ที่ได้นำเซเลบฯ และศิลปินจำนวนมากจากหลากหลายค่าย มารวมตัวกันเพื่อแสดงพลังเป็นเสียงเดียวในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้แก่เด็กๆ ในฐานะที่เป็นตัวแทนพิเศษของยูนิเซฟ เกาหลี ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์นี้ และส่งเสียงแทนเด็กๆ เพื่อบอกเรื่องราวของพวกเค้าให้กับคนไทยและทั่วโลก โปรเจกต์นี้ยังคงเป็นความร่วมมือระหว่างยูนิเซฟ ประเทศไทย และยูนิเซฟ เกาหลีใต้ ในโอกาสที่ยูนิเซฟประเทศไทยครบรอบ 70 ปี อีกด้วย”

“เดอะบลูคาร์เพทโชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ”

สำหรับหนังสั้นที่จะออกอากาศครั้งแรกนั้น เป็นภารกิจพิเศษของศิลปินที่ลงพื้นที่ไปสัมผัสความยากลำบากของเด็กๆในหลากหลายด้านทั่วทุกมุมทั่วโลก โดย ชเว ชีวอน ได้เดินทางไปเยี่ยมเด็กผู้พิการทางสติปัญญา ที่จังหวัดสุรินทร์และจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนทั่วโลกได้ตระหนักถึงความท้าทายของเด็กพิการในการเข้าถึงบริการต่างๆ ที่จำเป็น ขณะที่ นิชคุณ หรเวชกุล ได้เดินทางไปที่ชุมชนเสือใหญ่และคลองเตย ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อนำเสนอปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความยากจน การขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ของเด็กจำนวนมากในประเทศไทย ทางด้าน มิน-พีชญา วัฒนามนตรี และ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร ได้เดินทางไปประเทศเคนยา ซึ่งมีเด็กจำนวนมากกำลังเผชิญกับความเจ็บป่วยจากมาลาเรียและการขาดสารอาหาร ซึ่งคุกคามการอยู่รอดของเด็ก ส่วน ตุ๊ยตุ่ย-พุทธชาด พงศ์สุชาติ จะเดินทางไปประเทศอินเดียเร็วๆ นี้ เพื่อถ่ายทอดปัญหาความยากจนและการเสียชีวิตในเด็กเล็ก

“เดอะบลูคาร์เพทโชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ”

สามารถติดตามและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อคืนรอยยิ้มและสร้างอนาคตที่ดีให้กับเด็กๆ ทุกคนได้ ในรายการวาไรตี้พิเศษ “เดอะบลูคาร์เพทโชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ” ในวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2561 ทางช่อง 7HD ตั้งแต่เวลา 18.20 – 20.00 น


 

เอ็ม สืบสกุล

ซาร่า เล็กจ์ & เอ็ม สืบสกุล “เราคือแฟนคนแรกของกันและกัน”

Alternative Textaccount_circle
เอ็ม สืบสกุล
เอ็ม สืบสกุล

15 ปี ต้องผ่านเรื่องราวที่สุขและทุกข์ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ทว่า ซาร่า เล็กจ์ และ เอ็ม สืบสกุล ก็ยังคงจับมือเดินหน้าพัฒนาความสัมพันธ์อย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างมั่นคงและหนักแน่น จนถึงวันนี้! วันที่ตัดสินใจร่วมเคียงข้างกันไปตลอดชีวิต

นอกจากความรักจะทำให้โลกสดใสแล้ว บางครั้งความรักยังเป็นแรงบันดาลใจให้เราขับเคลื่อนตัวเองไปสู่ความสำเร็จได้ด้วย เช่นเดียวเรื่องราวความรักของนักร้องหนุ่ม เอ็ม-สืบสกุล ทวีผล หรือ เอ็ม OIC และนักแสดงสาว ซาร่า เล็กจ์ คู่รักวงการบันเทิงที่คบกันมาถึง 15 ปี พวกเขาไม่ได้คบหาดูใจกันไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าทั้งคู่มีเป้าหมายที่ชัดเจน จึงสามารถผ่านบททดสอบต่างๆ ไปได้ และวันนี้ วันที่ตัดสินใจร่วมเคียงข้างกันไปตลอดชีวิต โดยจะมีงานแต่งงานในวันที่ 25 มกราคม 2562 และจะมีงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสในวันที่ 26 มกราคม 2562

ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ซาร่าและเอ็มได้ฤกษ์ จูงมือเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยว่าที่เจ้าสาวซาร่าได้โพสต์ภาพพร้อมกับแคปชั่นว่า “ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และ ซาบซึ้งในพระเมตตา ที่ได้ทรงประกอบพิธีสมรสพระราชทาน ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน” ขณะที่ทางด้านเพื่อนพ้องในวงการมาร่วมแสดงความยินดีมากมาย อาทิ “นุ่น รมิดา”, “แพง ภิชาภัช”, “กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์”, “พอลล่า เทเลอร์”, “ก้อย รัชวิน” ฯลฯ

เอ็ม สืบสกุล

เข้ารับพระราชทานน้ำสังข์จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

เอ็ม สืบสกุล

เอ็ม สืบสกุล

สำหรับ ซาร่า เล็กจ์ และ เอ็ม เริ่มต้นศึกษาดูใจกันประมาณปี 2003-2004 หลังจากที่คุยกันมา 1 ปี ก็ตกลงที่จะคบหาดูใจกัน ทั้งคู่เปิดเผยว่า”เราเป็นแฟนคนแรกของกันและกัน” เอ็มหลงรักซาร่าตรงที่เป็นคนรักครอบครัว เธอคิดถึงครอบครัวเป็นอันดับแรกเสมอ ทั้งยังเป็นคนที่มีพลังบวกเยอะ เอ็มบอกอีกว่า ซาร่าเป็นคนปลูกฝังเขาเกี่ยวกับเรื่องการใช้เงิน ซาร่าเคยพูดถึงขั้นว่าถ้าจะมาขอต้องมีเงินเท่านี้ นั่นจึงทำให้เอ็มเปลี่ยนวิธีการใช้เงินของตัวเองจนตอนนี้ เอ็มมีเงินเก็บมากกว่าที่คุยกันในตอนแรกซะอีก (อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ใน แพรวเวดดิ้ง : จากวันแรก จนถึงวัน(ใกล้)แต่งงาน ของคู่รัก 15 ปี เอ็ม – ซาร่า)

เรียกว่าสมกับการเป็นคู่รักที่หลายคนชื่นชอบ เพราะใช้ความรักในทางที่ถูก เป็นพลังขับเคลื่อนให้ทั้งคู่ไปในทางที่ดีมากๆ เลยค่ะ

ซาร่า เล็กจ์

ซาร่า เล็กจ์

ซาร่า เล็กจ์


ภาพจาก : IG @sara_legge @m_suebsakul

PANDORA x Mickey Mouse

น่ารักเบอร์แรง! PANDORA x Mickey Mouse ฉลองครบรอบ 90 ปีตัวการ์ตูนดัง

PANDORA x Mickey Mouse
PANDORA x Mickey Mouse

น่ารักอะไรแบบนี้! คอลเล็คชั่นจิวเวลรี่สุดเอ็กซ์คลูซีฟ PANDORA x Mickey Mouse ที่ Disney (ดิสนีย์) และ PANDORA (แพนดอร่า) จับมือกันเพื่อฉลองวันเกิด Mickey Mouse (มิกกี้ เมาส์) ครบรอบ 90 ปี 

ฤดูกาลนี้ถือว่าพิเศษยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา เมื่อ PANDORA (แพนดอร่า) เครื่องประดับและจิเวลรี่แบรนด์ดังสัญชาติเดนมาร์กผู้สร้างสรรค์สร้อยข้อมือและชาร์มอันเปี่ยมเอกลักษณ์ระดับโลก จับมือกับ Mickey Mouse (มิกกี้ เมาส์) คาแร็คเตอร์การ์ตูนสุดน่ารักที่มักจะมาพร้อมความสดใสและมองโลกในแง่บวกจนทำให้ผู้คนทั่วโลกหลงรัก ในวาระพิเศษของการฉลองวันเกิดครบรอบ 90 ปีในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2018 นี้

เพื่อเฉลิมฉลองวาระพิเศษนี้ให้กับ Mickey Mouse คาแร็คเตอร์การ์ตูน Disney ที่เป็นที่รักที่สุดตลอดกาลในใจผู้คนทั่วโลก ทีมนักออกแบบของ PANDORA จึงได้ร่วมมือกับศิลปินผู้สร้างสรรค์คาแร็คเตอร์สุดน่ารักนี้ เพื่อสร้างสรรค์ชาร์มลิมิเต็ด เอดิชั่นที่จะมีวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟ

PANDORA x Mickey Mouse

PANDORA x Mickey Mouse

PANDORA x Mickey Mouse

โดยชาร์มจากคอลเล็คชั่นนี้เป็นรูปเจ้าหนู Mickey Mouse สวมใส่เสื้อผ้าชุดโปรดด้วยท่าทางขี้เล่นในสไตล์ที่ทุกคนชื่นชอบ รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันในแบบของ PANDORA โดยใช้เงินสเตอร์ลิงเป็นวัสดุหลักในการผลิต ส่วนรายละเอียดของการใช้ทอง 14 k รูปตัวเลข “90” นั้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงการเดินทางอันยาวไกลของคาแร็คเตอร์ Mickey Mouse ที่ได้กลายเป็นไอคอนที่อยู่เหนือกาลเวลาในวัฒนธรรมป๊อปมาจนถึงปัจจุบัน

ร่วมเฉลิมฉลองวันเกิดครบรอบ 90 ปีของ Mickey Mouse ในสไตล์ของคุณเองกับชาร์มรูป Mickey Mouse ลิมิเต็ด เอดิชั่น พร้อมเติมความสนุกให้เป็นสองเท่าโดยการนำชาร์มชิ้นนี้ไปสวมไว้บนสร้อยข้อมือและสร้อยคอในแบบของคุณได้อย่างโดดเด่นตามใจชอบ

PANDORA x Mickey Mouse

PANDORA x Mickey Mouse

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

 สิ่งที่ต้องรู้ ก่อนจะสอย กระเป๋า Gucci Soho Disco อีกหนึ่งรุ่นที่ครองตำแหน่งขายดีมาหลายปี

ยลโฉมช็อปใหม่ งานคุณภาพของ ‘โบเตก้า เวเนต้า’ ที่มาพร้อมไอเท็มละลานตา

รู้ไว้ก่อนช้อป! กระเป๋า Goyard Saint Louis Tote อีกหนึ่ง It Bag สุดคลาสสิกที่ไม่ควรพลาด

 5 ข้อควรรู้ ก่อนเสียเงินเปย์ Chanel Classic Flap Bag ไว้ครอบครอง

เช็คให้ดี…ดูให้ชัวร์ 5 สิ่งควรรู้ ก่อนลงทุนซื้อ กระเป๋า Lady Dior สักใบ

บอกราคาใบต่อใบ! กระเป๋า Valentino Candystud ถ้าอยากได้ ต้องรู้อะไรบ้าง

ใบเดียวได้ทุกลุค! แนะสิ่งควรรู้เกี่ยวกับ กระเป๋า Chloé Mily ที่ผู้หญิงควรมีในกรุ

โทนี่ ฤทธิไกร

โทนี่ ฤทธิไกร นักธุรกิจพันล้านทำเซอร์ไพร้ส์คุกเข่าขอ ปัทม์ กัลยพัชร แต่งงานที่อิตาลี

โทนี่ ฤทธิไกร
โทนี่ ฤทธิไกร

 หวานเวอร์! โทนี่ ฤทธิไกร ธรรมรักษ์ ทำเซอร์ไพร้ส์คุกเข่าขอแฟนสาว ปัทม์ กัลยพัชร ภักดีผดุงแดน แต่งงานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน ประเทศอิตาลี

โทนี่ ฤทธิไกรเตรียมลั่นระฆังวิวาห์กันอีกคู่แล้ว สำหรับ โทนี่ ฤทธิไกร ธรรมรักษ์ นักธุรกิจพันล้าน ผู้บริหารหนุ่มแห่ง Snail White (สเนลไวท์) ที่ไปทำเซอร์ไพร้ส์คุกเข่าขอแฟนสาว ปัทม์ กัลยพัชร ภักดีผดุงแดน แต่งงานถึงประเทศอิตาลี แถมยังเล่นใหญ่เพราะมีทั้งนักไวโอลิน ช่างภาพกล้องใหญ่ มีช่อดอกไม้ ตบท้ายด้วยแหวนเพชรเม็ดโต 3 กะรัต มูลค่ากว่า 2.4 ล้านบาท เรียกว่าเป็นการทำเซอร์ไพร้ส์ที่หวานเวอร์!

โทนี่ ฤทธิไกร

โดยงานนี้ คุณปัทม์ กัลยพัชร ได้โพสต์คลิปวินาทีที่ถูกเซอร์ไพร้ส์ของแต่งงานลงในอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมแคปชั่นว่า “Will You Marry Me” … And I Said Yes #iDontWantToCallYouMyBoyfriendAnymore #YouWillForeverBeMyAlways @tinotony #MarriageProposal ขอบคุณทุกคนมากมายที่แสดงความยินดีกับแพทตี้โทนี่ค่า ตอนนี้แพทตี้ยังตกใจอยู่เลยค่ะ เมื่อกี้พี่โทนี่คุกเข่าขอแต่งงานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตรในพระสันตะปาปา @ Saint Peter’s Basilica วาติกัน @ Rome Italy จุดกำเนิดของศาสนาโรมันคาทอลิก สถานที่นี้คือศักดิ์สิทธ์มาก เราชาวคาทอลิกก็ตื่นเต้นปลื้มปริ่มมากมายที่ได้มาที่นี่ครั้งแรกด้วยกัน”

โทนี่ ฤทธิไกร“แพทตี้เพิ่งสวดภาวนาและขอพรพระเจ้าในโบสถ์เสร็จ เดินออกมาแฟนก็ขอแต่งงานเลยค่า แถมเล่นใหญ่มีทั้งนักไวโอลิน ช่างภาพกล้องใหญ่ มีดอกไม้ด้วย ว้าย กรี๊ด #ThankYouBabe #YouKnowiLoveYouSoMuch  ขอบคุณคนดีที่ทำทุกอย่างให้หมูน้อยมีความสุขนะคะ ขอบคุณสำหรับความรักความจริงใจที่มีให้และความตั้งใจในวันนี้  ขอบคุณที่ยอมคุกเข่าขอแต่งงานทั้งๆ ที่เป็นคนขี้อายมากๆ นะคะ น้องปัทม์รักพี่โทนี่ที่สุดค่ะ และที่ขาดไม่ได้ ขอขอบคุณพี่อีส เพื่อนรักพี่โทนี่ที่อิตาลี ที่จัดการทุกสิ่งอย่างวันนี้ให้ออกมาPerfectขนาดนี้ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ #PattyTonyInItaly2018 #Proposal #9November2018 #iSaidYes #She_SaidYes @she_saidyes #PattyTony #เพราะเรานั้นคู่กัน  #แพทตี้โทนี่ #เขียนบันทึกไว้เป็นความทรงจำ #บันทึกการเดินทาง #WhenInVatican”

โทนี่ ฤทธิไกร“วันสำคัญในชีวิตอยากให้ครอบครัวและเพื่อนเลิฟมาอยู่ที่นี่ด้วยกันจัง #YouKnowWhoYouAre #HappyPatty #PatKanyapat #SaintPetersBasilica #StPeter #Vatican #Vaticano #Italy #Italia #ItalySweetEscape #วาติกัน #เมืองในฝัน #RomanCatholic #Catholic ขอขอบคุณทุกคนสำหรับคำอวยพรแสดงความยินดีให้เรา 2 คนนะคะ ขอพระเจ้าอวยพรและคุ้มครองทุกคนนะคะ : Angela Kanyapat Pakdipadungdan & Anthony Rittikrai Thammaraksa”

โทนี่ ฤทธิไกรสำหรับ คุณโทนี่-ฤทธิไกร กับ คุณปัทม์-กัลยพัชร หลังทำความรู้จักกัน ก็ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะเข้ากันได้เป็นอย่างดี เพราะชอบอะไรเหมือนๆ กันหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ชอบเลี้ยงน้องหมา และที่สำคัญคือชอบหาของอร่อยๆ ทานเหมือนกันอีกด้วย เรียกว่าความรักราบรื่น คุกเข่าขอแต่งงานเรียบร้อย สเต็ปต่อไปคือเตรียมงานแต่ง แพรวดอมคอม ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ

โทนี่ ฤทธิไกรโทนี่ ฤทธิไกร


ภาพจาก IG @patkanyapat

‘เจ้าชู้ เสน่ห์แพรวพราว แต่หากมีแฟนก็ต้องทำใจว่า ไม่มีเวลา’ดูดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 2561

ดูดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 2561 #ป้าเนาว์พยากรณ์ แม่นเป๊ะสายแข็ง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  ราบเรียบ ราบรื่น ไม่ค่อยมีอุปสรรคมากนัก ผู้ใหญ่ คนใกล้ชิดให้การสนับสนุนและช่วยเหลือท่านให้ได้ทำงานอย่างที่ฝันไว้ แต่คงต้องใช้ความอดทน รอคอย ในการขับเคลื่อนหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างละเอียดรอบคอบ ระวังอารมณ์โกรธ พยาบาท จะเป็นหนทางปิดบังพลังแห่งปัญญาจนอาจเกิดความเสียหายมากมายขึ้นในภายหลัง

การเงิน :  ได้มาจากความรู้ความสามารถ ไม่ค่อยมีโชคลาภ หากอยากมีเงินเก็บต้องลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

ความรัก : ท่านมีข้อแม้และกฎเกณฑ์เงื่อนไขมากมายเหลือเกินในการใช้ชีวิตคู่  โดยมองที่ความพร้อมและความเหมาะสมด้านฐานะและทัศนคติ โดยเฉพาะวิถีการดำรงชีวิต จนบางครั้งอาจไม่ได้รักกันเลยด้วยซ้ำ คนโสด เอาใจยาก เดาใจลำบาก ไม่ชอบให้แฟนมาจำกัดความคิดและอิสรภาพ

สุขภาพ :  หลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ หรือแซ่บเว่อร์ รวมถึงยาปฏิชีวนะในปริมาณที่มากเกินกว่าปกติ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์       

การงาน : ท่านต้องแบกรับภาระหน้าที่ที่หนักหน่วงหรือมีเนื้อหาค่อนข้างละเอียด อย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ระวังตกเป็นเหยื่อบุคคลอื่น ควรปล่อยวาง และรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น หรือขอคำปรึกษาจากผู้รู้ผู้มีประสบการณ์ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร

การเงิน : มีโชค มีวาจาเป็นทรัพย์ แต่ก็ระวังถูกหลอกและหลงคารมบุคคลอื่นที่เข้ามาตักตวงผลประโยชน์

ความรัก : จริงๆ แล้วท่านโชคดีได้คู่ที่มีฐานะ ทัศนคติ ความคิดเข้ากันได้ดี ธัมมะธัมโม และรักครอบครัวมาก แต่เพราะท่านมีพื้นฐานทางอารมณ์ไม่มั่นคง โลเล จึงทำให้ท่านสงสัยอยู่ตลอดเวลาว่าจะเป็นตัวจริงของเขาหรือเปล่า    คนโสด ท่านมีโอกาสได้พบเจอชายในฝันหรือพบรักแบบกระทันหัน ซึ่งท่านชอบแบบธรรมะสายแข็ง

สุขภาพ :  อาจมีอาการปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา และมึนงง ควรทำใจให้สบายผ่อนคลายความเครียด

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : ท่านกำลังริเริ่มงานใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบตกแต่งอาคารบ้านเรือน เป็นงานที่ท้าทายความสามารถ และแลกกับผลตอบแทนที่สูง โดยที่ท่านต้องแบกรับภาระหน้าที่ความรับผิดชอบที่หนักหนาสาหัสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ งานนี้ทนยาวกว่าจะประสบความสำเร็จ

การเงิน : ลงทุนแบบหวังกำไรก้อนใหญ่ โดยที่ยังไม่เห็นผล ระวังใช้เงินไปในทางที่ไม่ถูกต้องทำให้การเงินติดลบ

ความรัก :  ท่านให้ความสำคัญกับความรักและความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวอย่างดียิ่ง อาจมีโครงการตกแต่งบ้านใหม่ จึงเร่งหาเงินตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต ท่านอาจต้องทำใจนิดหนึ่งว่า จะไม่ได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน คนโสด ค่อนข้างทำตัวโดดเด่น เจ้าชู้ แต่หากถูกใจใครก็ต้องตัดใจ เพราะไม่มีเวลาให้

สุขภาพ :  โดยทั่วไปสุขภาพแข็งแรงดี แต่สิ่งที่ต้องระวังคือโหมงานหนัก จนล้มหมอนนอนเสื่อ กับอาการปวดหลัง ปวดตามข้อโดยเฉพาะเข่าและข้อเท้า

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  ท่านขยันและหมกมุ่นครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องงานตลอดเวลา มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จ วันนี้ท่านต้องใช้ความคิดทบทวนชั่งน้ำหนักหาเหตุผล ประกอบการตัดสินใจว่า จะทำงานคนเดียว หรือทำเป็นทีมเวิร์ค อันไหนที่จะเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด

การเงิน : ตอบจากข้างบน…หากท่านทำงานกับคู่หรือหุ้นส่วนจะมีผู้ใหญ่ให้การอุปถัมภ์

ความรัก :  ช่วงนี้งานยุ่ง ท่านจึงให้เวลากับงานเต็มที่ จนไม่มีเวลาที่จะสนใจเรื่องอื่นใด แม้กระทั่งตัวเอง เพราะฉะนั้นควรแบ่งเวลาให้ดี อย่าให้เวลากับอย่างใดอย่างหนึ่งมากไป คนโสด ท่านอยู่ระหว่างการเลือกว่าจะอยู่เดี่ยวหรือมีแฟนดี แต่แนวโน้มว่าจะไปทางโสดมากกว่า

สุขภาพ : ควรระมัดระวังโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบขับถ่าย โดยเฉพาะไตและกระเพาะปัสสาวะ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :   ท่านอยู่ในช่วงที่เรียกร้องขอความเห็นใจจากเจ้านาย จึงทำให้เครียด เพราะต้องการการตัดสินใจอย่างเร่งด่วน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง วันนี้ทางเลือกที่ท่านอาจคาดไม่ถึงว่าจะทำได้คือ โหราศาสตร์

การเงิน :  ใช้เงินเก่ง ระวังจะเสียรู้เสียเงินเพราะเชื่อใจคนอื่นมากไป

ความรัก :  ท่านอาจตกอยู่ในภาวะที่ต้องตามง้องอน เพราะความหึงหวง จู้จี้ขี้บ่นเอาแต่ใจ หรือกดดันในเรื่องที่ท่านคาดหวังหรือต้องการ ถึงสุดท้ายแล้วคู่ท่านก็ไม่กลับมา คนโสด  คนที่ท่านเจอไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง

สุขภาพ : มีโอกาสเจ็บป่วยจากการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะอวัยวะช่วงขาและข้อต่างๆ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : จริงๆ แล้วท่านน่าจะมีความสุขกับการทำงาน เพราะผู้ใหญ่ทั้งที่บ้านและที่ทำงานให้ความเมตตาเอ็นดูท่านอย่างดี รวมถึงเพื่อนฝูง คนใกล้ชิดก็พร้อมที่ช่วยเหลือและสนับสนุน แต่วันนี้ท่านถูกกดดันกับเรื่องการตกแต่งสถานที่จนเบื่อหน่ายกับการทำงานมากในช่วงนี้

การเงิน :  ผู้ใหญ่ให้โชค ซึ่งท่านก็นำไปกับการกินดื่มเที่ยวจนเงินไม่พอใช้

ความรัก : ในบ้านมีงานฉลองของครอบครัว ญาติๆ ทุกคนมาอยู่กันพร้อมหน้า แต่ท่านก็ไม่สนใจ ไปกินดื่มเที่ยวในที่ๆ อยากไปดีกว่า คนโสด มีโอกาสถูกขอแต่งงาน แต่ค่อนข้างเป็นงานใหญ่

สุขภาพ :  มักเจ็บป่วยเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :ท่านจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจทางด้านสื่อสาร โทรคมนาคม อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งหน้าตาขอไม่วิจารณ์  ดูกันเอง

การเงิน : จะหมดไปกับการให้ผู้อื่นจนตัวเองเดือดร้อน

ความรัก :  ท่านอยู่กับครอบครัวของฝ่ายชายที่ค่อนข้างเนี๊ยบ เฉียบ ขณะที่ท่านเพ้อฝันอ่อนไหวจนไม่สามารถบังคับความคิดให้อยู่ในร่องในรอยได้ ท่านจึงอาจเกิดความหึงหวง ชอบแสดงความเป็นเจ้าของจนกลายเป็นมีปัญหา คนโสด ทุ่มให้ความรักมากจนน่ากลัว เมื่ออกหักก็เลยเข็ดจนมาถึงวันนี้

สุขภาพ : ระวังเป็นโรคภูมิแพ้จากอาหาร อากาศ และฝุ่นละออง

โป๊แบบไฮคลาส 10 ลุค Damn hot! แหวกแซ่บจี๊ดสไตล์ แพร วทานิกา

account_circle

Damn hot! 10 ลุคแซ่บจี๊ด แพร วทานิกา แหวกหน้า แหวกหลัง โป๊แบบไฮคลาส สวย เซ็กซี่ งานนี้ไม่มีรีทัช ของแท้แม่ให้มา ไม่รู้จริงอย่าพูดเยอะ !!

แม่เจ้าโว้ยยยยย แซ่บกว่านี้มีอีกไหม สำหรับสาวแพร วทานิกา ดีไซเนอร์สุดแซ่บ ที่บินลัดฟ้าไปภูเก็ตโดยเครื่องบินเจ็ทกับแก๊งเพื่อนสาวคนสนิท เพื่อไปถ่ายทำรายการ #ThisIsMeVATANIKA Ep.ส่งท้ายของซีซั่นนี้

ซึ่งภาพล่าสุดที่เธอได้โพสต์ภาพลงอินสตาแกรมนั้นเผยให้เห็นบั้นท้ายงามๆ ที่ยิ่งใหญ่สุดอลังการ พร้อมกับแคปชั่นเด็ดว่า “พวกที่ไม่ชอบก็คงจะบอกว่ามันผ่านโฟโต้ช็อป”

แพร วทานิกา
Holy cow! She is so damn hot.

เป็นไงล่ะ หุ่นเซ็กซี่ ขยี้ใจ ประดุจคาร์เดเชี่ยน และเจนเนอร์มาเอง เห็นแล้วต้องกราบงามๆ ในบั้นท้ายของคุณแพรจริงๆ แต่คุณคะ อันที่จริงแล้วไลฟ์สไตล์และการแต่งตัวของสาวแพรนั้น ก็คงต้องบอกเลยว่า แซ่บแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แต่ละลุคเปรี้ยว เข็ดฟัน ยกมะนาวมาทั้งสวนยังยอมแพ้ เอาสิ!!

แพรวดอทคอมไม่รีรอคัด 10 ลุค ของสาวแพร เห็นแต่ละลุคแล้ว ต้องบอกเลยว่า ถึงจะโป๊ ก็โป๊แบบไฮคลาส Cause You can’t be me นะจ๊ะ

ลุคเรียบหรู เบลเซอร์สีดำคอวี ชายเสื้อจับจีบ จาก Vatanika คอลเล็คชั่น F/W 18
เซ็กซี่ สวยละมุน กับเดรสผ้าซิลค์ซาติน สีขาวออฟไวท์
เดรสสั้นแหวกอกด้านหน้า ดีไซน์น่ารัก แต่เซ็กซี่ในคราเดียวกัน

เป็นการใส่เดรสเชิ้ตของคุณแพร ที่แซ่บสุดในสามโลก
เบลเซอร์ สไตล์ No pants เทรนด์ที่กำลังฮิต ไม่แพ้เทรนด์อื่นเลยในตอนนี้
น่ารักมาก สำหรับ playsuit ปาดไหล่ ดีเทลฟรุ้งฟริ้งตัวนี้
หรูหรา กับเดรสเปิดหลังสีทอง แซ่บจี๊ด เกินใครจริงๆ
รักเลย ลุคนี้คุณแพร มีความ sex appeal สูงมาก ตายไปเลยจ้า ยิ่งมอง ยิ่งหลงรัก

ดูแฟชั่นแซ่บ กันแบบเพลินๆ ของสาวแพรไปแล้ว แพรวดอทคอม จัดชุดใหญ่ ต่อยกสอง รวมภาพชุดว่ายน้ำ ส่งท้าย ให้ไปซี้ดปากกันแบบรัว แม่เจ้าประคุณเอ้ยยย ทำบุญด้วยอะไร ถึงได้ครบเครื่องขนาดนี้

ถึงแม้ว่าสไตล์การแต่งตัวของสาวแพรจะออกแนวเซ็กซี่นั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า กาลเทศะ เป็นสิ่งสำคัญในการแต่งตัว ควรคำนึงถึงสถานที่ๆ ไป ควรเคารพสถานที่นั้นด้วย และควรเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับสถานที่ที่ไปจึงจะดีที่สุด

 

 

 

 

 

 

Stella McCartney เปิดตัว ชุดแต่งงาน คอลเลคชั่นใหม่ ตามแบบฉบับเทรนด์ Royal Wedding

account_circle

Stella McCartney คือแบรนด์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ เมแกน มาร์เคิล สวม ชุดแต่งงาน แบรนด์ดังกล่าวในวันแต่งงานของเธอ กับชุดเดรสผ้า silk-crepe แบบเข้ารูปดีไซน์คอสูงแบบเปิดหลังพร้อมชายกระโปรงลากยาว

ภาพจาก dailystar.co.uk

ซึ่งแน่นอนว่าชุดนั้นจาก Stella McCartney ได้ขึ้นแท่นเป็นชุดแต่งงานไอคอนิค และเป็นเทรนด์เซตเตอร์ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัย เรียบง่าย เหมาะกับสาวๆ ยุคใหม่ที่ไม่ต้องการความเป็นทางการมากนัก และล่าสุด Stella McCartney ได้เปิดตัวคอลเลคชั่น “Made With Love” ที่มีทั้งชุดแต่งงาน, ชุดแบบทักซิโด และชุดแบบจัมพ์สูท โดยทั้ง 17 ลุคนี้มาในสไตล์ที่มีเสน่ห์ เรียบง่าย แต่เก๋ไก๋ ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์

ชุดจัมพ์สูทที่โดดเด่นด้วยผ้าลูกไม้ทั้งชุด เนคไลน์แบบคอวีที่ช่วยให้เจ้าดูสูงโปร่ง มาพร้อมเข็มขัดโบว์ผ้าซาตินสุดหวาน

ซึ่งคอลเลคชั่นนี้นอกจากจะเต็มไปด้วยความสวยงาม เรียบง่ายสุดเก๋แล้ว ยังเป็นแฟชั่นแบบยั่งยืนที่เมื่อเสร็จสิ้นจากงานแต่งงานแล้ว สาวๆ สามารถนำชุดกลับมาสวมใส่ได้อีกครั้งในโอกาสพิเศษต่างๆ

เอาเป็นว่าสาวๆ ที่สนใจอยากได้ชุดแต่งงานแบบเรียบง่ายที่สามารถนำกลับมาใส่ได้อีก ก็ลองเข้าไปดูแรงบันดาลใจดีๆ ได้ที่ www.stellamccartney.com

ภาพจาก stellamccartney.com, vogue.com

8 เพลงงานแต่งงาน เอาใจบ่าวสาววัยรุ่นยุค 90s สาวก Backstreet Boys

account_circle

เพิ่งปล่อยเพลงใหม่ออกมาหมาดๆ สำหรับหนุ่มๆ Backstreet Boys ที่คัมแบ็คครบทั้ง 5 คน เราเลยเอาใจบ่าวสาว ที่เคยซึ้งกับเพลงของพวกเขาด้วย 8 เพลงงานแต่งงาน ที่หวานซึ้ง มาดูกันว่ามีเพลงอะไรบ้าง

1. As Long As You Love Me

เป็นเพลงที่ขาดไม่ได้สำหรับสาวก BsB กับเพลงดัง จังหวะสนุกๆ ที่จะเปิดในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ของบ่าวสาววัย 30 ก็สนุกได้แบบไม่เคอะเขิน กับเนื้อหาเพลงดีๆ มีความหมายว่า ไม่ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน ฉันก็รัก~~~

2. How Did I Fall In Love with You

เพลงช้าซึ้งๆ ที่มีความหมายกินใจ เป็นเพลงเปิดฟลอร์ให้บ่าวสาวได้เต้นรำกันก็หวาน และเหมาะมากสำหรับคู่บ่าวสาวที่เริ่มต้นความสัมพันธ์จากความเป็นเพื่อน เพราะเนื้อหาเพลงอารมณ์ประมาณรักซึมบ่อทราย “อยู่ใกล้เธอ เผลอไปรักได้ยังไงก็ไม่รู้” อิอิ

3. Anywhere For You

โอ้ยยย เพลงรักที่หวานซึ้ง หวานจริงๆ ค่ะคุณบ่าวสาวทั้งหลาย เปิดในงานแต่งแทนใจเจ้าบ่าวเมื่อไหร่ เชื่อสิมีน้ำตาร่วงในความซึ้ง ความโรแมนติคกันทั้งงาน

4. Get Down

เพลงดังจากยุค 90s ที่แท้ทรู ทั้งทำนอง เอ็มวี ยันเสื้อผ้าทรงผมนักร้อง ความ 90s หนักมาก แต่แบบนี้มีเสน่ห์นักล่ะ แถมความหมายก็ดีอีกต่างหาก เปิดในงาน After Party เมื่อไหร่ เชื่อได้เลยว่า เหล่าแขกวัยใกล้เคียงกันต้องยิ้มกริ่ม ย้อนยุคถึงวันวานสมัยซ่า จบเพลงรับรองว่ามีหอบจากการแดนซ์แน่นอน แล้วจะพลาดได้ยังไง จริงไหม?

5. Just To Be Close To You

เป็นอีกเพลงที่หวานฉ่ำมากๆ ทั้งเนื้อหา และตัวเพลง จนคิดว่าเพลงนี้มันควรต้องมีในงานแต่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะท่อน “I want to give you all my love (all my love) I gonna give it to you, I gonna give to you” ฟังแล้วละลายไปเลย

6. All I Have To Give

เพิ่มน้ำตาลในเส้นเลือดต่อด้วยเพลงนี้ กับเพลงจังหวะสบายๆ ที่เปิดคลอได้เรื่อยๆ ให้แขกไม่เหงาในช่วงก่อนเข้าสู่พิธีการ ซึ่งก็เป็นอีกเพลงที่มีความหมายซึ้งๆ

7. I Need You Tonight

หวานมาเยอะ มาถึงคราวเพลงที่มีความโรแมนติคขั้นสุด แบบไม่สนอะไรแล้ว รู้แค่ว่าฉันรักเธอ ต้องการเธอ อยากจะใช้เวลาที่เหลือไปกับเธอ ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ทำให้คนทั้งสองแต่งงานกันด้วยนี่นา แล้วเพลงนี้จะไม่อยู่ในงานแต่งได้อย่างไร

8. Chances

เพลงล่าสุดจากหนุ่มๆ กับทำนองเพลงเท่ๆ ที่พอให้โยกย้ายได้เบาๆ กับเนื้อหาที่พูดถึงโอกาสที่ทำให้เราได้พบกัน และรักกันในที่สุด เอาเป็นว่าแฟนคลับของหนุ่มๆ ไม่ควรพลาดเพลงนี้ด้วยประการทั้งปวง

หวังว่าบ่าวสาวที่กำลังทำเพลย์ลิสต์งานแต่งจะมีเพลงที่ถูกใจเอาไปเปิดให้แขกฟังแก้เหงาระหว่างรอพิธีการ หรือในช่วงพิธีการ และเราไม่ได้มีเพลย์ลิสต์เท่านี้ ยังมี 10 เพลงรักน่าเปิดในงานแต่งจากหนุ่มๆ เวสไลฟ์ด้วยนะ

ภาพ FB : backstreetboys

แฟชั่นสตรีทสไตล์ฉบับ “ดาวิกา” ลุคง่ายๆ แมทช์เสื้อครอปกับเกงยีนส์ คือดี!

account_circle

ส่องแฟชั่น “ดาวิกา” ลุคสตรีทสไตล์ แมทช์เสื้อครอป เสื้อยืด กับเกงยีนส์ง่ายๆ โนแอคเซสซอรี่ จบ ไม่ต้องเยอะ ! พร้อมลุยทุกสถานการณ์

เป็นอีกหนึ่งนางเอกสาวที่ล่าสุดโดนชาวเน็ต ตั้งคำถามว่าผอมเกินไป จนซี่โครงออกเลย อีกทั้งยังมีบางคอมเม้นต์ยังกล่าวว่า กลัวจะมีเยาวชนนำไปเป็นแบบต้นแบบนำไปสู่ อาการเสพติดความผอม เพราะอยากหุ่นเหมือนดาราสาว

ดาวิกา

งานนี้ ดาวิกาไม่รอช้า รีบออกมาชี้แจงว่า เธอไม่ได้คลั่งไคล้ความผอมแต่อย่างใด อาจจะเป็นที่รูปที่เธอโพสมากกว่า เพราะในความเป็นจริงแล้วเธอก็ไม่ผอมมากเหมือนในรูป เธอก็ยังมีไขมัน มีเนื้อมีหนัง แต่เป็นเพราะเธอดูแลสุขภาพด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์มาก อีกทั้งยังออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย ซึ่งเธอยังเสริมอีกว่า หากเธออ้วนขึ้น จะออกหน้าทันที รวมถึงใหม่ยังให้สัมภาษณ์อีกว่า เป็นเพราะงานที่เธอทำอยู่จุดนี้ เธอจึงต้องดูแลตัวเองให้มากเป็นพิเศษ

ฟังแบบนี้ หากใครที่กำลังสงสัยอยู่ ก็หายข้องใจกันได้แล้วนะจ๊ะ เพราะอันที่จริงแล้ว อย่างที่สา วใหม่ให้สัมภาษณ์ว่า เธอเป็นคนขยันออกกำลังกาย และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งกว่าจะได้หุ่นแบบนี้บอกเลยว่าต้องใช้เวลา ไม่ได้มาแค่หนึ่งถึงสองวันนะจ๊ะ

ผลจากการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ตอนนี้สาวใหม่มีหุ่นที่เป๊ะเว่อร์ ช่วงนี้เราเลยได้เห็นสไตล์การแต่งตัวที่เผยให้เห็นเอวเอส และซิคแพคของเธอเป็นประจำ แพรวดอทคอม ไม่พลาด นำแฟชั่นสตรีทสไตล์ฉบับดาวิลุคง่ายๆ แค่แมทช์เสื้อครอปกับเกงยีนส์ พร้อมลุยทุกสถานการณ์ เหมาะกับอากาศบ้านเรา ที่ถึงแม้จะเข้าหน้าหนาว แต่ก็ยังร้อนตับแตกอยู่ทุกวัน

ดาวิกา

สาวๆ ที่หน้าอก หน้าใจ ไม่ได้มีมาก ลุคนี้ก็สามารถแต่งตามกันได้ เห็นมะหน้าอกเล็กก็ดีไปอีกแบบน้าาาา อิอิ

ดาวิกา
เสื้อครอปแขนยาว แมทช์กับกางเกงยีนส์ เสริมด้วยเข็มขัดเก๋สักเส้น ก็ดีงาม

 

สบายๆ สไตล์ ใหม่ ดาวิกา ในวันหยุด เป็นลุคที่แต่งตามกันได้ง่าย เสื้อครอปแขนสั้น กับกางยีนส์จะขาสั้น หรือขายาว ก็ได้ไม่ว่ากัน เสริมด้วยรองเท้าผ้าใบ และกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กๆ ก็คอมพลีทลุคตามแบบฉบับดาวิได้แล้ว

เสื้อครอปแขนยาวสีขาวกับ กางเกงยีนส์สีอ่อน ดูลุยๆ ไม่ต้องคิดเยอะ
สวย ละมุน มากเลย ดาวิกาลุคนี้

แฟชั่นเสื้อครอปสไตล์สปอร์ต เหมาะกับสาวๆ จะใส่ไปเที่ยว หรือออกกำลังกายก็ได้ไม่ว่ากัน

เลิฟเลยลุคนี้ เสื้อครอปแขนตุ๊กตา ผ่านมากี่ปี ก็ยังอินได้เสมอ ใครมีรีบไปขุดมาใส่เลยนะ
เป๊ะ ปัง ปั๊วะ เว่อร์ แซ่บมากๆ

ปิดท้ายด้วยภาพนี้ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเสื้อครอป แต่เราชอบมากเพราะเป็นลุคที่แต่งง่ายสุด สามารถแต่งกันได้ทุกวัย เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ พร้อมลุยทุกสถานการณ์

ภาพ: davikah

 

 

 

 

AIS จัดให้! ทริปท่องเที่ยวสุดฟินอินจอร์เจีย กับ Serenade Exclusive ครั้งที่ 22

หากพูดถึงประเทศจอร์เจีย เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังนึกภาพว่าเป็นรัฐหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่จริงๆ แล้ว ประเทศจอร์เจียเป็นประเทศที่เพิ่งแย่งตัวออกมาจากสหภาพโซเวียต ตั้งอยู่ระหว่าง 2 ทวีป คือยุโรปตะวันออกและตะวันตก ซึ่งมีเทือกเขาคอเคซัสเป็นปราการธรรมชาติกั้นระหว่าง 2 ทวีป ซึ่งจอร์เจียมีประวัติและความเป็นมายาวนานกว่า 2,500 ปี งานนี้ AIS Serenade จึงไม่พลาดที่จะพาลูกค้าคนสำคัญไปเปิดประสบการณ์พิเศษ กับ Serenade Exclusive Trip ครั้งที่ 22 ณ ประเทศจอร์เจีย “ดินแดนแห่งประเทศ 2 ทวีป” โดยทริปนี้เดินทางด้วยสายการบิน Turkish Airlines (เตอร์กิช แอร์ไลน์) พร้อมที่พักระดับ 5 ดาว อีกทั้งยังได้เดินทางร่วมกับวิทยากรกิตติมศักดิ์ชื่อดังอย่าง อ.เผ่าทอง ทองเจือ ซึ่งสามารถมอบความรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อย่างลึกซึ้งและสนุกสนาน เรียกว่าทำให้มีความสุขกับการท่องเที่ยวและได้เปิดโลกกว้างอย่างแท้จริง โดยทริปนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17-23 ตุลาคมที่ผ่านมานี้ ซึ่งลูกค้าผู้ร่วมทริปทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ฟินมาก!

สำหรับตลอดการเดินทางท่องเที่ยวเป็นเวลาหลายวันนั้น ก็ต้องบอกเลยว่าลูกค้าคนพิเศษผู้ร่วมทริปต่างได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทั้งกินดีอยู่ดีและได้ท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ อย่างเต็มอิ่ม โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของประเทศจอร์เจีย เรียกว่าพาไปเก็บครบทุกที่จริงๆ

โดยวันแรกเริ่มท่องเที่ยวกันที่เมืองทบิลิซี ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของจอร์เจียร์ เพื่อเที่ยวชมไฮไลท์สำคัญอย่างย่านเมืองเก่าทบิลิซี (Tbilisi) ซึ่งมีแหล่งน้ำพุร้อนที่ผุดมาจากพื้นดินริมฝั่งแม่น้ำ Kura ที่ไหลผ่านใจกลางเมือง พร้อมชมวิหารศักดิ์สิทธิ์ของทบิลิซี (Holy Trinity Cathedral) โบสถ์หลักของคริสจักรออร์โธดอกจอร์เจีย อีกทั้งเป็นวิหารที่สวยที่สุด อันดับที่ 3 ของโบสถ์โธดอกในโลกอีกด้วย ต่อด้วย พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจอร์เจีย (Museum of Georgia) ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่รวบรวมมรดกของชาติสำคัญๆ ของจอร์เจีย ไม่ว่าเป็นประวัติศาสตร์ธรรมชาติ แหล่งโบราณคดี และซากสัตว์อายุราวๆ 40 ล้านปีให้ชมอีกด้วย จบกิจกรรมวันแรกด้วยการชมป้อมนาริกาลา (Narikala Fortress) ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือนครทบิลิซี ซึ่งเป็นจุดชมวิวนครทบิลิซีที่สวยงามอีกแห่ง

วันต่อมาเป็นการเดินทางสู่เมืองกุเดารี (Gudauri) ซึ่งต้องใช้ทางหลวง Georgian Military Highway เส้นทางเก่าแก่ที่ขนาบด้วยวิวพานอราม่าของเทือกเขาคอเคซัสซึ่งสวยงามติดอันดับโลก จนได้รับการเสนอชื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้

จากนั้นเดินทางสู่เมืองคาซเบกิ (Kazebeji) เพื่อไปยังโบสถ์สมินดา ซาเมบา (Tsminda Sameba) แลนด์มาร์คสำคัญของจอร์เจีย ซึ่งมีฉากหลังเป็นยอดเขาสูงถึง 5,043 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในเทือกเขาคอเคซัส จนได้รับการขนานนามว่าเป็น Little Switzerland วันถัดมาเป็นการเดินทางสู่เมืองมิสเคด้า (Mitskheta) เพื่อชมความสวยงามของเมืองมรดกโลกซึ่งเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดของจอร์เจียร์ อายุกว่า 3,000 ปี พร้อมชมมหาวิหารจวารี (Jvari Monastery) หรืออารามไม้กางเขน ที่สร้างขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 6 และชมวิหารสเวติสเคอรี (Svetitskhoveli Cathedral) ศูนย์กลางทางศาสนาที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ ภายในมีภาพเขียนสีเฟรสโก้อย่างงดงาม

ความตื่นตาตื่นใจของจอร์เจียยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เดินทางไปต่อกันที่เมืองกอรี (Goril) เพื่อเที่ยวชมไฮไลท์อย่างอุพลิสชิเค่ นครถ้ำเก่าแก่บนหินผาของจอร์เจีย อายุกว่า 3,000 ปี ซึ่งบอกเลยว่าสวยงามอลังการมาก จากนั้นไปชมความงดงามของโบสถ์เกลาติ โบสถ์มรดกโลกที่มีภาพเขียนจิตรกรรมอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี ที่เมืองคูทายสิ (Kutaisi) เพื่อชมถ้ำโพรมิธีอุส (Prometheus Cave) พบความสวยงามของหินงอกหินย้อยที่สะท้อนแสงสีตระการตา และส่งท้ายทริปกันที่เมืองบาทูมิ (Batumi) เมืองท่าชายทะเลดำ Black Sea เป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญและมีทัศนียภาพที่สวยงาม เดินทางต่อเพื่อชมสวนพฤกษศาสตร์บาตูมิ (Batumi Botanical Garden) ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคอเคซัส

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงไฮไลท์ของทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้เท่านั้น แต่ขอคอนเฟิร์มเลยว่าความสุข ความสนุกสนาน ความตื่นตาตื่นใจ พร้อมความประทับใจ อัดแน่นตลอดทริปจนบรรยายทั้งหมดไม่ไหวจริงๆ  ท่านใดอยากสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษเช่นนี้ ก็ไม่ยากเลย แค่มาร่วมเป็นลูกค้า AIS Serenade รับรองว่าความคุ้มค่าจากสิทธิประโยชน์มากมายรอทุกคนอยู่แน่นอน สามารถติดตามรายเอียดต่างๆ ของทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟครั้งต่อไปได้ที่ www.ais.co.th/serenadetrip

keyboard_arrow_up