Chanel ประกาศเลิกใช้หนัง exotic ในการผลิตสินค้า ทำให้กลายเป็นแบรนด์สุดหรูแบรนด์แรกที่จะไม่ใช้หนังสัตว์หายาก อย่าง หนังจระเข้ , ตะกวด , งู และปลากระเบน รวมถึงขนสัตว์ชนิดต่างๆ ด้วย
แม้ว่าหลายแบรนด์จะหันมารับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อย่างการงดใช้ขนสัตว์ในการผลิตสินค้าของตัวเอง แต่ก็ยังไม่มีแบรนด์ไหนออกมาประกาศยกเลิกการใช้หนังสัตว์ชนิดหายาก นอกจากแบรนด์หรูสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง Chanel ที่ออกมาประกาศจุดยืนชัดเจนว่าขอโบกมือลาจากหนังสัตว์หล่านี้ ทั้งที่สินค้าของแบรนด์ เช่น กระเป๋า , เสื้อโค้ท และรองเท้าที่ทำจากหนังงู , หนังจระเข้และปลากระเบน มีราคาสูง เช่นเดียวกับกระเป๋า Chanel มือสองที่ทำจากหนัง exotic สามารถขายได้มากถึง 20,000 ปอนด์ หรือประมาณ 836,594 บาทบนโลกออนไลน์
ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กระเป๋าหนัง Python ถูกนำออกจากเว็บไซต์ของชาเนลอย่างเป็นทางการ ในขณะที่กระเป๋ามือสองรุ่นนี้สามารถขายได้ในราคา 5,000 ปอนด์ หรือประมาณ 209,148 บาท แต่กระเป๋าที่ทำจากหนังสัตว์แปลกๆ ของชาเนล ก็ยังคงมีขายตามเว็บไซต์อื่นๆ ในราคาหลายหมื่นปอนด์


โดยบรูโน่ พาฟโลฟสกี้ (Bruno Pavlovsky ) หัวหน้าฝ่ายแฟชั่นของชาเนล กล่าวว่า “เราจะไม่ใช้หนังสัตว์หายากในการสร้างสรรค์คอลเล็คชั่นต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะการใช้หนังสัตว์เหล่านี้ มันขัดกับหลักจริยธรรม” ด้านกลุ่มองค์กรพิทักษ์สัตว์ PETA ที่ทำงานต่อต้านการทรมานสัตว์ทุกรูปแบบ ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นกับการประกาศยกเลิกใช้ exotic skins หรือหนังสัตว์แปลกๆ ของชาเนลว่า “มันเชยไปแล้ว สำหรับการใช้หนังสัตว์ที่ถูกทรมาน เพื่อนำมาผลิตเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับ ซึ่งในขณะเดียวกันแบรนด์อื่นๆ เช่น Louis Vuitton ก็กำลังปฏิบัติตามการนำของชาเนล เปลี่ยนไปใช้วัสดุที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งช่วยชีวิตสัตว์ที่ต้องทนอยู่กับความรุนแรง เจ็บปวดนับไม่ถ้วน”


ก่อนหน้านี้แบรนด์แฟชั่นชั้นนำก็ได้รับแรงกดดันอย่างหนัก จากการประกาศเลิกใช้ขนสัตว์ของ Gucci , Armani , Versace และ John Galliano แต่การการรณรงค์ด้านสิทธิสัตว์กับการหยุดใช้ผลิตภัณฑ์จากหนังจระเข้และหนังงูไม่ได้รับความร่วมมือจากแวดวงแฟชั่นมากนัก เพราะแบรนด์หรูบางแบรนด์ได้ลงทุนไปกับฟาร์มเลี้ยงสัตว์เลื้อยคลาน เพื่อให้สามารถรับประกันได้ว่าหนังที่นำมาใช้ไม่ผิดจริยธรรม
Claire Bass ผู้อำนวยการ Humane Society International กล่าวว่า “เฟอร์เป็นธุรกิจที่ทำให้สัตว์นับล้านตัวไปสู่ชีวิตอันน่าสังเวชในฟาร์มขนสัตว์ ดังนั้น HSI จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ชาเนลกลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ระดับโลกที่จะช่วยชีวิตสัตว์นับไม่ถ้วน อย่าง จระเข้ , ตะกวด , งู และปลากระเบน เพราะการเติบโตของแบรนด์หรูสามารถเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ โดยที่ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับการทนทุกข์ทรมานและการตายของสัตว์ ซึ่งจะนำไปสู่ยุคใหม่ของแฟชั่นที่มีจริยธรรม ส่วนแบรนด์ที่ใช้ขนสัตว์ เช่น Fendi , Dolce & Gabbana และ Louis Vuitton จำเป็นต้องเอาใจใส่และควรเลิกใช้ขนสัตว์ในอนาคตข้างหน้า”
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
รวม 6 ไฮไลท์เด็ด! แฟชั่นโชว์ Chanel Métiers d’Art 2018/19 สะท้อนชีวิตอียิปต์โบราณ
เปิด 5 เรื่อง (ไม่) ลับเกี่ยวกับไอเท็มยอดฮิตจาก Chanel ที่สาวกควรรู้
5 ข้อควรรู้ ก่อนเสียเงินเปย์ Chanel Classic Flap Bag ไว้ครอบครอง
ไอเท็มโปรดคนดัง! พาเช็คความชัวร์ก่อนฟาด ‘กระเป๋า Chanel Gabrielle’ ราคาหลักแสน
ภาพและที่มา : www.dailymail.co.uk