“พระราชพิธีบรมราชาภิเษก” เป็นโบราณราชประเพณีสำคัญ เพื่อความเป็นพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์ โดยได้รับอิทธิพลจากคติอินเดีย แต่ลักษณะการพระราชพิธีแต่เดิมมีแบบแผนรายละเอียดเป็นอย่างไร ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด แม้แต่การเรียกชื่อพิธีก็แตกต่างกันออกไปในแต่ละสมัย เช่น สมัยอยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เรียกว่า “พระราชพิธีราชาภิเษก” หรือ “พิธีราชาภิเษก” ส่วนในปัจจุบัน เรียกว่า “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก”
ทั้งนี้สิ่งหนึ่งที่สามารถบันทึกความศักดิ์สิทธิ์ ความยิ่งใหญ่ และความงดงามของโบราณราชประเพณีนี้ได้ คือพระบรมฉายาลักษณ์ของพระมหากษัตริย์แต่ละยุคสมัยในขณะทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แต่ด้วยในสมัยก่อนประเทศไทยยังไม่มีเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ก้าวไกล จึงเริ่มมีการบันทึกพระบรมฉายาลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ได้ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 4 ซึ่ง แพรวดอทคอม ได้รวบรวมภาพประวัติศาสตร์ดังกล่าวมาให้ชมกันดังต่อไปนี้
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2394
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
ครั้งแรก วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2411
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
ครั้งหลัง วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2416
สำหรับเหตุผลที่ ในหลวง รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2 ครั้ง เพราะครั้งแรกทรงมีพระชนมายุเพียง 16 พรรษา สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์จึงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จนทรงเจริญพระชนมายุครบ 20 พรรษา เสด็จออกทรงผนวช เมื่อทรงลาสิกขาแล้วจึงทรงมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอีกครั้ง เพื่อเป็นเครื่องแสดงว่าทรงพร้อมที่จะทรงรับพระราชภาระในฐานะพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์ ไม่จำต้องมีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แล้ว
พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2453
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2468
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9
วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10
วันที่ 4 พฤษภาคม 2562
ทั้งนี้สำหรับ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ในหลวงรัชกาลที่ 8 เสด็จสวรรคตก่อนทรงรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระอนุสรณ์คำนึงถึงสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลว่ายังพอจะสนองพระเดชพระคุณให้สมพระเกียรติได้ ด้วยการเฉลิมพระปรมาภิไธยและถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์บางองค์ เช่น นพปฎลมหาเศวตฉัตร ซึ่งใช้กางกั้นพระบรมศพและพระบรมอัฐิ ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2489 จึงประกาศเฉลิมพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลขึ้นเป็น พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
ภาพ : หนังสือ ประมวลภาพประวัติศาสตร์ไทย พระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมัยรัตนโกสินทร์
ติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกโดยสมบูรณ์
พระปฐมบรมราชโองการของ “ในหลวง รัชกาลที่ 10”
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯในการประกาศพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
สานต่อพระราชไมตรีจากรุ่นสู่รุ่น ราชวงศ์ไทย-ญี่ปุ่น ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยาวนาน
สมพระเกียรติ ขบวนเชิญพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ และพระราชลัญจกร
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
นักข่าวสายทหารเผย 10 พระปรีชาสามารถของ “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ”
ตามรอย “การสถาปนาสมเด็จพระราชินี” โบราณราชประเพณีที่เปี่ยมด้วยความหมาย
ภาพประวัติศาสตร์ พระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระราชินีสุทิดา ในรัชกาลที่ 10
ในหลวง ร.10 มีพระราชโองการ สถาปนาสมเด็จพระราชินี
“พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท” ที่ ในหลวง ร.10 จะเสด็จออก ณ สีหบัญชร
แผนการถ่ายทอดสด “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก” 4 วัน ผ่าน ทรท.
ที่มาและความหมาย “ทีปังกร” พระนามมงคลพระราชทานจากทูลกระหม่อมปู่
ย้อนชมภาพตราตรึงใจ พระราชไมตรีดุจพี่น้อง “ในหลวง ร.9 – จักรพรรดิอากิฮิโตะ”
เผยพระนาม ในหลวง รัชกาลที่ 10 จากพระราชกฤษฎีกา เหรียญเฉลิมพระเกียรติฯ
แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ความคืบหน้าพระอาการประชวรของ “พระองค์โสมฯ”