ปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายที่คอยช่วยอำนวยความสะดวกแก่มนุษย์จนทำให้เกิดการปลูกฝังพฤติกรรมรักความสะดวกสบาย เกิดพฤติกรรมการนั่ง กิน นอน มีการบริโภคที่มากจนเกินความต้องการ ไม่มีการออกกำลังกาย ส่งผลให้เกิดกลุ่มอาการ อ้วนลงพุง ตามมา
กลุ่มอาการอ้วนลงพุง (Metabolic Syndrome) คือ กลุ่มความผิดปกติที่พบร่วมกัน ได้แก่ ความผิดปกติของไขมันในเลือด ความดันโลหิต ระดับน้ำตาล ตลอดจนปัจจัยที่เป็นสารตั้งต้นของการอักเสบที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือด และโรคเรื้อรังต่าง ๆ
ในสหรัฐอเมริกา พบกลุ่มคนในช่วงอายุ 20 – มากกว่า 70 ปี มีกลุ่มอาการอ้วนลงพุงโดยรวมประมาณร้อยละ 22 โดยพบว่าหากอายุมากขึ้นจะยิ่งมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น
ส่วนข้อมูลกลุ่มอาการอ้วนลงพุงในประเทศไทย ในประชากรอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 35 ปี จำนวน 5,091 ราย พบประมาณร้อยละ 21.9 พบว่าเพศหญิงมีกลุ่มอาการอ้วนลงพุงมากกว่าเพศชายโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ และความผิดปกติที่พบบ่อยสุด คือ ไขมันดีต่ำ
วิธีรักษาภาวะอ้วนและดื้อต่ออินสุลิน สาเหตุ “อ้วนลงพุง” พบหญิงเป็นมากกว่าชาย
เราจะมีความเสี่ยงต่อภาวะอ้วนลงพุงได้เมื่อไหร่
เมื่อมีลักษณะที่เข้าได้กับเกณฑ์ NCEP ATP III 2005 มากกว่าหรือเท่ากับ 3 ข้อ ดังต่อไปนี้
- เมื่อมีเส้นรอบเอว : >/= 90 ในชาย และ >/= 80 ซม.ในหญิง (เกณฑ์คนเอเชีย)
- ความดันโลหิต : >/= 130/85 มม.ปรอทหรือได้รับการรักษาด้วยยาลดความดันโลหิต
- ระดับน้ำตาลในเลือด : >/= 100 มก./ดล. หรือได้รับการรักษาภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
- ระดับไขมันดี (HDL) : < 40 มก./ดล.ในชาย หรือ < 50 มก./ดล.ในหญิง หรือได้รับการรักษาภาวะไขมันดีต่ำด้วยการทานยา
- ระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ : >/= 150 มก./ดล.หรือได้รับการรักษาภาวะไขมันไตรกลีเซอไรด์สูงด้วยยา
สาเหตุของกลุ่มอาการอ้วนลงพุง
สาเหตุหลัก คือ ภาวะอ้วน และภาวะดื้อต่ออินสุลิน (คือภาวะที่ฮอร์โมนอินสุลินมีความผิดปกติ ไม่สามารถจับกับน้ำตาลในเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น) จะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือดตามมาได้
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดกลุ่มอาการอ้วนลงพุง
- น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น จัดเป็นปัจจัยหลักในการเพิ่มกลุ่มอาการอ้วนลงพุง
- เชื้อชาติ : ในสหรัฐอเมริกา พบประชากรที่จัดอยู่ในกลุ่มอาการอ้วนลงพุงมากกว่าคนยุโรปเนื่องจากคนอเมริกามีคนอ้วนมากกว่า
- วัยหลังหมดประจำเดือน
- สูบบุหรี่
- การทานอาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตในปริมาณมาก
- การไม่ออกกำลังกาย เช่น การนั่งทำงานตลอดทั้งวัน
- การใช้ยาจิตเวชบางชนิด โดยเฉพาะ ยา Clozapine
ความผิดปกติที่เกิดจากภาวะอ้วนลงพุง
- เสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน จากการรวบรวมศึกษาของกลุ่มคนหลายเชื้อชาติ พบอัตราความเสี่ยงเบาหวานในกลุ่มอาการอ้วนลงพุงประมาณ 3.53 – 5.17
- เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ภาวะไขมันสะสมคั่งในตับ ภาวะตับแข็ง
- โรคไตเรื้อรัง
- การนอนหลับผิดปกติ รวมถึงการหยุดหายใจขณะหลับ
- เก๊าท์และภาวะกรดยูริกสูง
- ภาวะสมองเสื่อม
การรักษากลุ่มอาการอ้วนลงพุง ที่เป็นสาเหตุโรคอ้วนและภาวะดื้อต่ออินสุลิน คือ
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- ลดน้ำหนัก ควบคุมอาหารที่ทาน ด้วยการควบคุมอาหารหรือจำกัดปริมาณพลังงานที่ได้จากอาหารให้เหมาะสม ลดขนาดของอาหารที่ทานในแต่ละมื้อ ควรทานอาหารที่มีกากใยอาหารให้มากกว่า 30 กรัมต่อวัน
- ออกกำลังกาย ด้วยความแรงระดับปานกลางอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 30 นาทีต่อวันและอย่างน้อย 3 – 5 วันต่อสัปดาห์
2. เมื่อตรวจพบความผิดปกติควรได้รับการรักษาปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ของโรคหัวใจและหลอดเลือด
ได้แก่ การรักษาไขมันในเลือดสูงผิดปกติ การรักษาความดันโลหิตสูง และรักษาระดับน้ำตาลในเลือดสูง ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและอาจจะต้องพิจารณารักษาด้วยยาตามความเสี่ยงของแต่ละบุคคล
กลุ่มอาการอ้วนลงพุง เป็นโรคไม่ติดต่อที่สามารถป้องกันได้ เพียงแค่มีความรู้ เข้าใจ ตระหนักถึงความสำคัญ ของความเสี่ยง ตลอดจนผลกระทบที่เกิดขึ้นในอนาคต เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ก่อนที่ภัยเงียบจะเข้าใกล้ตัวคุณ
ข้อมูล : พญ. พรรณราย เลอวัฒนกิจถาวร แพทย์ด้านเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์
ภาพ : Pixabay
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
Ketogenic Diet เข้าใจง่ายๆ ใน 4 นาที แต่วิธีนี้ไม่เหมาะกับทุกคน!!
ลดน้ำหนักแบบ Intermittent Fasting อิ่มบ้าง..อดบ้าง จะผอมไหม?
ลดหุ่นผิดวิธีหรือเปล่า? เพราะออกกำลังกายแล้ว “น้ำหนักลด แต่ไขมันไม่ลด”