ไม่ได้มีดีแค่ความสวย แต่ยังสตรองมากด้วย “แยม-มาศปรียา สุวรรณธารารัตน์” เล่าประสบการณ์ เปลี่ยนจากคนไม่อิน สู่การเป็นคนข่าวสายบันเทิงตัวจริง
ก่อนหน้ารายการ APOP บันเทิง 34 หรือ APOP Today ในปัจจุบัน แม้แยมจะเคยเป็นพิธีกรรายการวาไรตี้ แต่ความที่ไม่ค่อยอินกับเรื่องราวในแวดวงบันเทิง และไม่เคยสัมผัสบทบาทการเป็นผู้ประกาศข่าวรายการสด งานนี้เธอจึงต้องปรับตัวขนานใหญ่
“แยมเป็นผู้ประกาศข่าวเมื่อ 5 ปีที่แล้วค่ะ เรียกว่าเป็นงานที่ท้าทายพอสมควร เพราะเราไม่ได้โตมาในสายงานนี้โดยตรง ต้องปรับตัวเยอะ โดยเฉพาะพอมาทำรายการสด เรื่องยากคือการใช้ภาษาและคำพูดที่ไม่สามารถสั่งคัตได้ ช่วงแรกมีลิ้นพันกัน หรือบางทีเราใช้สมองมาตลอดทั้งวัน พอมาอ่านข่าวตอนเย็นก็อาจจะช้าๆ ไปบ้าง (หัวเราะ) จำได้ว่าช่วงแรกแยมพูดคำผิดซ้ำกันในรายการถึง 3 รอบ พยายามแก้แล้วแต่ก็ยังผิด แม้จะไม่โดนดุ เพราะทุกคนรู้ว่าแยมใหม่มาก พี่ๆ แค่กำชับว่าเราทำรายการสด เพราะฉะนั้นต้องระวังเรื่องการพูดให้มาก เคสนี้จัดเป็นเรื่องที่ฝังใจแยมมาก บอกตัวเองว่าจะไม่พูดผิดอย่างนั้นอีกแล้ว โดยใช้วิธีว่าคำไหนที่อ่านยากจะหัดออกเสียงให้ชินปาก ก็ช่วยได้เยอะ กับพยายามตั้งสติ ใช้สมาธิสูง เพราะการจัดรายการสด แยมต้องใส่หูฟัง เพื่อฟังทีมงานและโปรดิวเซอร์ ขณะเดียวกันก็ต้องควบคมุ เวลาในรายการให้ดี แล้วตั้งใจซักถามแขกกรณีที่มีสัมภาษณ์ เพื่อให้ได้ข้อมูลครบ
“ความยากลำดับต่อมา คือก่อนหน้านี้แยมไม่ค่อยอินข่าวบันเทิง พอรู้จักดาราบ้าง แต่บางเรื่องที่มีความซับซ้อน เช่น คู่นี้เคยมีกรณีกันมาก่อน หรือคู่นั้นเคยคบกัน เราไม่รู้ทั้งหมด ก็ต้องหาข้อมูลด้วยการถามทีมงานหรือให้โปรดิวเซอร์เล่าให้ฟัง และเพื่อให้การเล่าข่าวถูกต้องที่สุด แยมจะไม่สรุปความเอง ไม่แปลงสคริปต์ ไม่ใส่ความเห็นส่วนตัวลงไป รักษาความเป็นกลาง แยมให้ความสำคัญเรื่องนี้มาก เพราะเราเชื่อมั่นในทีมงาน เนื่องจากเขาทำงานตรงนี้มาก่อน อีกทั้งจะมีทีมเช็กข้อมูลด้วยว่านำเสนอข่าวได้ถูกต้องหรือไม่ อย่างที่รู้กันว่าในแวดวงนี้มักจะมีเรื่องกอสสิปเป็นประจำ ซึ่งบางทีก็ไม่รู้ว่าเรื่องไหนจริงหรือไม่จริง ทีมงานจะเช็กจากแหล่งข่าวทั้งสองฝ่าย ถ้าพบว่าข้อมูลไม่น่าเชื่อถือ ก็เลือกที่จะไม่นำเสนอเลยค่ะ แต่ถ้ามีส่วนไหนที่แยมควรจะสรุปความ เพื่อให้ผู้ชมเข้าใจง่าย ก็จะพูดให้ทีมงานฟังก่อนว่าถูกต้องหรือไม่
“เดี๋ยวนี้แยมอัพเดตข่าวในวงการบันเทิงทุกวัน คิดเสมอว่าต้องทำให้ดีกว่านี้ ต้องพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น โชคดีที่แยมได้เจอกับทีมงานคุณภาพและทุ่มเทกับการทำงานมาก เช่น มีหลายครั้งที่เราประชุมและกำหนดหัวข้อข่าวไว้แล้วว่าจะพูดเรื่องอะไรบ้าง แต่มีหมายด่วนเข้ามาว่าดารากำลังจัดโต๊ะแถลงข่าวอยู่ ทีมงานซึ่งจริงๆ อยู่อีกงานก็สามารถโยกไปทำข่าวแล้วรายงานเข้ามาได้อย่างรวดเร็ว ไม่ตกข่าว (ยิ้ม)
“ตั้งแต่ทำงานมามีเหตุการณ์หนึ่งที่แยมตื่นเต้นมากและยังจำได้ถึงตอนนี้ วันนั้นต้องไปรายงานสดบรรยากาศงานปีใหม่ที่เอเชียทีค พอพี่พุทธประกาศกับผู้ชมผ่านหน้าจอว่า ‘เราจะไปดูบรรยากาศสดๆ ที่เวทีเอเชียทีคกับวงค็อกเทลนะครับ’ ก็พอดีกับที่วงค็อกเทลจะต้องวิ่งขึ้นเวทีเพื่อให้ทันตอนเที่ยงคืน วินาทีนั้นแยมรีบวิ่งไปอ้อนพี่โอม (นักร้องนำวงค็อกเทล) ว่า ‘ขอสัมภาษณ์สั้นๆ ก่อนนะคะ’ พี่โอมใจดีมาก หันมาพูดกับกล้องว่า ‘แฮ็ปปี้นิวเยียร์แฟนๆ ทุกคนนะครับ’ เป็นประสบการณ์ที่แยมตื่นเต้นมาก เพราะถ้าพลาดไป เท่ากับว่าเราไม่ได้คุยกับศิลปิน จะค้านกับสิ่งที่รายการโปรยบอกผู้ชมไปแล้ว เรียกว่าเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในเวลาที่บีบคั้นมากๆ ค่ะ
“สิ่งที่แยมรักในงานผู้ประกาศ คือหลายครั้งเราได้เผยแพร่ความจริงให้เป็นที่รู้ในวงกว้าง อย่างดาราบางคนถูกนำชื่อไปใช้หลอกลวงคนอื่น พอเรานำเรื่องนั้นมาเผยแพร่ในทีวี ทำให้เกิดการรับรู้ข้อท็จจริง ช่วยหยุดความเสียหายนั้น แยมจึงรู้สึกเหมือนตัวเองได้เป็นกระบอกเสียง ช่วยเตือนภัยให้คนระวังและรับรู้ความจริงไปในตัว ตั้งใจไว้ว่าจะพัฒนาตัวเองและทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในทุกๆ วันค่ะ”
ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 963
ภาพเพิ่มเติม : yammaspreeya
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เปิดใจ “ไอซ์-สารวัตร” นักข่าวสายลุย พร้อมบุกทุกสนาม จากบ้านกกกอกถึงการชุมนุม
คนข่าวดาวรุ่ง “ฝ้าย-ธนญญ์นภสสร์” เล่าเบื้องหลังความหิน กว่าจะเป็นทุบโต๊ะข่าว
ขอบคุณที่คอยเรียกชื่อตลอด! ความในใจ “เจี๊ยบ-จิตดี” ผู้ประกาศข่าวหญิงมือรางวัล