วันนี้ที่รอคอย! 'ฟลุค เกริกพล & นาตาลี' จัดฉลองมงคลสมรสสุดอลัง มี 'น้องนาตาชา' อบอุ่นครบทีม

วันนี้ที่รอคอย! ‘ฟลุค เกริกพล & นาตาลี’ จัดฉลองมงคลสมรสสุดอลัง มี ‘น้องนาตาชา’ อบอุ่นครบทีม

Alternative Textaccount_circle
วันนี้ที่รอคอย! 'ฟลุค เกริกพล & นาตาลี' จัดฉลองมงคลสมรสสุดอลัง มี 'น้องนาตาชา' อบอุ่นครบทีม
วันนี้ที่รอคอย! 'ฟลุค เกริกพล & นาตาลี' จัดฉลองมงคลสมรสสุดอลัง มี 'น้องนาตาชา' อบอุ่นครบทีม

หลังจากคู่รักสุดหวาน “ฟลุค เกริกพล มัสยวาณิช และ นาตาลี เจียรวนนท์” เข้าพิธีวิวาห์เมื่อปี 2563 แต่ต้องเลื่อนงานพิธีฉลองมงคลสมรสเนื่องจากสถานการณ์โควิด ซึ่งผ่านมากว่า 4 ปี ล่าสุดมีข่าวดีรับปีมังกรทอง ทั้งคู่ถือฤกษ์ดีจูงมือกันเข้าสู่พิธีฉลองมงคลสมรสในวันที่ 9 มีนาคม 2567 ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ถูกถ่ายทอดผ่านแฮชแท็ก #LeeFlukeEverAfterแสดงถึงความรักเรื่องราวของบ่าวสาว ความหมายคือเราก็จะอยู่ในความรู้สึกแบบนี้ตลอดไป รักกันตลอดไป ท่ามกลางบรรยากาศของความรักแสนอบอุ่น สไตล์สวนอังกฤษ เต็มไปด้วยดอกไม้โทนสีชมพูอ่อน สีโปรดของเจ้าสาว ความพิเศษของงานแต่งในครั้งนี้ก็คือการได้มีลูกสาวลูกชายของทั้งคู่ร่วมเป็นสักขีพยานทั้ง น้องนาตาชา และ น้องอชิ พร้อมหน้าพร้อมตา ซึ่งพิธีการฉลองมงคลสมรสในช่วงเย็น น้องอชิ นำขบวนเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวเข้ามา และมี น้องนาตาชา รับหน้าที่โปรยดอกไม้ เจ้าสาว&เจ้าบ่าว (คุณพ่อและคุณแม่) สวยหล่อดุจดั่งเจ้าหญิงเจ้าชาย อบอุ่นสมกับเป็นงานแต่งในฝัน

สำหรับงานฉลองมงคลสมรสเจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้เผยความรู้สึกว่า
นาตาลี : “ตื่นเต้นค่ะ เพราะเราตั้งใจจะจัดงานนี้มาตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว มีความจำเป็นต้องเลื่อนไปเนื่องจากโควิด ด้วยเวลามาลงตัวเป็นตอนนี้ รอคอยวันที่จะได้จัดมานาน สมความตั้งใจแล้ว เราสองคนพยายามทำให้เต็มที่หวังว่าทุกอย่างจะผ่านอย่างราบรื่น แขกทุกท่านแฮปปี้มีความสุขได้ฉลองไปกับเราค่ะ”
ฟลุค : “รอคอยมายาวนานจริงๆ ครับ แล้วก็เป็นวันที่น้องลีรอคอยมา 4 ปี แต่จริงๆ สำหรับผู้หญิงทุกคนที่เกิดมาบนโลกน่าจะเป็นความฝันของทุกคนที่รอคอยวันแต่งงาน อยากเป็นเจ้าสาว รู้สึกดีใจครับที่ได้ทำในสิ่งที่เค้าตั้งใจจะทำ เราก็เต็มที่กับงานแต่งจริงๆ ครับ”

(ภาพ “ฟลุค & นาตาลี” ช่วงแถลงข่าวเรื่องพิธีฉลองมงคลสมรสในวันนี้ (9 มีนาคม 2567) กับสื่อมวลชนที่มากันอย่างคับคั่ง ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ)

หลังจากใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
นาตาลี : “เราค่อนข้างศึกษาดูใจกันมาเป็น 10 ปีเราเลยรู้จักกันและกันค่อนข้างเยอะมาก พอได้แต่งงานเมื่อสี่ปีที่แล้วแล้วได้ใช้ชีวิตอยู่กันจริงๆ แถมตอนนั้นเป็นโควิด หมายถึงว่าเป็นช่วงโควิดที่เค้ามีการกักตัวห้ามออกจากบ้าน คือช่วงเวลาที่เราแต่งงานเลยได้ใช้ชีวิตกันจริงๆ ก็คือดีนะคะ ไม่มีการทะเลาะใดๆ ก็รู้จักตัวตนกันมากขึ้นไปอีก เราค่อนข้างเป็นตัวเองกันอยู่แล้วเลยไม่มีอะไรให้เซอร์ไพรส์บวกกับเรามีลูกกันด้วยเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาก เหมือนเราดูแลลูกซะเยอะแล้วมาเจอโควิดอีก ชีวิตมันก็จะไม่ปกติมากเพิ่งจะมาปกติปีหลังๆ ที่แบบคนเริ่มชินกันแล้วก็..ถ้าถามว่าเปลี่ยนแปลงไหม ในความเป็นตัวเองก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง แต่มีความเป็นพ่อเป็นแม่มากขึ้น ห่วงลูกเยอะมาก เวลาของคนสองคนก็จะน้อยลงมากแล้วก็พยายามไปเติมความหวานด้วยกัน ออกไปเดทดินเนอร์กันบ้างที่มีสองคนหรือก็มีบ้างนานๆ ทีที่ไปทริป”

(ภาพ “ฟลุค & นาตาลี” ช่วงแถลงข่าวเรื่องพิธีฉลองมงคลสมรสในวันนี้ (9 มีนาคม 2567) กับสื่อมวลชนที่มากันอย่างคับคั่ง ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ)

ทั้งคู่มีอะไรอยากบอกซึ่งกันและกัน?
ฟลุค : “อยากขอบคุณที่เป็นภรรยาที่น่ารัก สม่ำเสมอ เป็นแม่ที่ดีกว่าที่หวังเอาไว้ด้วยซ้ำ รู้สึกโชคดีที่เราได้มีลูกที่น่ารักมาก แล้วลีก็เป็นแม่ที่น่ารักจริงๆ”
นาตาลี : “พี่ฟลุคเขาไม่ใช่คนที่หวานและก็โรแมนติก แต่เขาก็แสดงให้รู้ตลอดว่าเขารักนะ เขาห่วงนะ เขาก็จะมีวิธีดูแลเราในแบบของเขา ซึ่งไม่เหมือนใคร ทำให้เรารับรู้ได้ว่าเขารักแล้วห่วง ในขณะเดียวกันยิ่งตอนนี้เรามีลูก เราเป็นไม่ใช่แค่สามีภรรยาอย่างเดียว แต่เราเป็นพ่อและแม่ของลูกแล้ว ก็คือประทับใจว่าเขาก็เป็นพ่อที่น่ารักจริงๆ แล้วก็พยายามดูว่าเราขาดตรงไหนไหม เขาก็จะคอยดูแลเราแบบที่ไม่ได้หวานมากแต่รู้ว่าดูแล รวมถึงดูแลนาตาชาด้วย ก็ประทับใจที่ผ่านมาถ้านับจากวันที่คบกันจนวันนี้ก็ 14 ปีแล้ว เขาก็คือยังเป็นเขาคนเดิมที่ก็ทำให้เรารับรู้ได้ตลอดว่าเขารักเรานะด้วยวิธีของเขา ขอบคุณเค้ามากค่ะ”

ก่อนมาถึงวันนี้น้องนาตาชาตื่นเต้นไหม? เตรียมพร้อมยังไงบ้าง?
นาตาลี : “น้องนาตาชาก็ยังไม่รู้หรอกค่ะว่าการแต่งงานคืออะไร ก็บอกเขาตั้งแต่แรกแล้วค่ะว่านาตาชาจะไปงานแต่งงานของแม่แม่กับก่าก๊านะ ใส่ชุดสวยๆ สีขาวถือดอกไม้ ต้องทำแบบนี้นะ เราก็ไม่รู้ว่าเค้าจะทำได้แค่ไหน เป็นเด็กจะหวังอะไรมากก็ไม่ได้ เราตัดชุดให้นาตาชาให้คล้ายของแม่ที่สุด เอาไว้สองชุดซึ่งชุดแรกก็จะคล้ายแม่ได้มากหน่อยแต่ชุดที่สองที่เป็นชุดพิธีจะคล้ายมากไม่ได้เพราะชุดแม่มันหนักอลังการมาก ปักทั้งตัว ซึ่งจะให้นาตาชาใส่แบบนั้นคงไม่ไหว เพราะมันจะหนักและแบบไม่เหมาะกับเด็ก เราก็ดีไซน์ให้คล้ายเราให้มีความเป็นเด็กให้มากที่สุด ให้มีฟีลคล้ายๆ เรา ที่ลุ้นมากตอนนี้คือนาตาชาเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเองแล้วเค้าจะเลือกชุดเองอะไรเอง อยู่ดีๆ ช่วงหลังกลัวชุดฟู ไม่ใส่เลย เลยปรับแบบให้มินิมอลที่สุด หวังว่าเค้าจะใส่ เพราะเด็กบังคับไม่ได้ก็หวังว่าวันนี้จะราบรื่น แต่ก็ทำใจแล้วว่าอะไรจะเกิดก็เกิดอย่างน้อยเค้าก็ได้มาร่วมงานดีที่สุดแล้ว ไม่ได้บังคับใจเขาเกินไป ช่วยกันลุ้นหน่อยนะคะว่าจะได้ใส่ชุดที่เตรียมมาไว้หรือเปล่า”

น้องนาตาชาพูดเก่งน่ารักมาก เค้าบอกอะไรกับคุณพ่อคุณแม่ไหม?
นาตาลี : “ก็คือว่าพอรู้ว่าจะมีงานแต่งงานแม่แม่จะได้ใส่ชุดขาว จะได้ถือดอกไม้ เวลาที่บอกจากที่บ้าน เค้าก็จะตื่นเต้น ชาจะถือดอกไม้ ชาจะไปงานแม่แม่ แม่แม่จะต้องสวยสวย ชาจะต้องสวย ก๊าจะต้องหล่อมาก เพราะเราจะพูดแนวว่าไปงานเต้นรำ เพื่อบอกให้เค้าเห็นภาพว่าเป็นงานเต้นรำเป็นงานแต่งงาน เป็นงานพิเศษเพื่อจะบิวต์เค้า ให้เค้าใส่ชุดสวยๆ เค้าก็น่ารักทำเป็นตื่นเต้นใหญ่ ชาจะได้ไปงานจะได้ใส่ชุดสวย แม่จะสวย ก๊าจะหล่อ”

จะมีฮันนีมูนอีกไหม? จะมีน้องให้นาตาชาอีกไหม? (ถ้ามี) อยากได้ลูกสาวหรือลูกชาย อีกกี่คน? มีแพลนยังไง?
นาตาลี : “จะมีน้องให้นาตาชาอีกไหม อันนี้ยังเป็นเรื่องที่เรายังตกลงกันอยู่ เดี๋ยวถ้ายังไงถ้ามีจริงก็คงได้รู้อีกไม่นาน ถ้าไม่มีก็ไม่มีแล้วค่ะปีนี้ แต่ถ้าถามจำนวน ก็คือถ้าตกลงว่าจะมีก็จะมีอีกคนพอค่ะ ส่วนจะเป็นลูกชายหรือลูกสาวที่อยากได้ก็ไม่เลือกค่ะ ตอนแรกก่อนที่มีนาตาชาก็คิดไว้อยากมีลูกสองคนชายหนึ่งหญิงหนึ่งมันจะเฟอร์เฟคเลย แต่ว่าพอมีนาตาชามาปุ๊บ เหมือนเขาเติมเต็มมากจนเรารู้สึกว่ามีเขาคนเดียวก็พอแล้วเพราะเขาแบบสุดแล้วจริงๆ แล้วเอาเวลามาดูเขาเต็มที่ดีกว่าคนเดียว แต่ทีนี้คิดไปคิดมาควรมีน้องให้เขาไหมเขาจะเหงาไหม และถ้ามีจะมีผู้ชายผู้หญิง กลายเป็นว่าไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชายแล้วเพราะผู้หญิงก็น่ารักมาก ฉะนั้นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ถ้าจะมี”
ฟลุค : “แพลนหลังจากนี้คือเรายุ่งมากจริงๆ คือเรากำลังจะเปิดร้าน ที่กำลังจะไปอเมริกา เราจะต้องไปเทรนนิ่งที่อเมริกา ไม่ได้มีแพลนอะไรเป็นพิเศษ เพราะเราค่อนข้างยุ่งจริงๆ โดยเฉพาะผมยุ่งมาก แพลนก็ไปทำงาน อาจจะมีโอกาสได้เที่ยวบ้างในบางวันที่หยุดพัก ก็ไปกับครอบครัวครับ น้องนาตาชาก็ไปด้วยครับ”


Praew Recommend

keyboard_arrow_up