account_circleชีวิตยิ่งกว่านิยาย คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ษา-วรรณษา ทองวิเศษ สาวเก่งที่เลี้ยงดูลูกน้อยป่วยออทิสติกเพียงลำพังมากกว่า 14 ปี และเมื่อไม่นานมานี้ยังตรวจพบว่ามีเนื้องอกที่ปากมดลูกอีกด้วย ล่าสุดเจ้าตัวขอมาอัปเดตชีวิตสุดดราม่าแบบจัดเต็มกลางรายการ Z story ช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง34 แบบถึงพริกถึงขิง
มรสุมชีวิตครั้งใหม่ของ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ษา-วรรณษา ตรวจพบเนื้องอกที่มดลูก
กับชีวิตคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องสู้กันมา 14 ปีแล้ว ดูแลน้องที่เป็นเด็กพิเศษด้วย ?
“สำหรับชีวิตคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว 14 ปีแล้ว นานมากนะ (หัวเราะ) เหนื่อยมาก เหนื่อยเหมือนชีวิตแม่ คือมันเหมือนกับว่าเราต้องประคับประคองชีวิตเด็กคนหนึ่งให้โตขึ้นมา ต้องเป็นเด็กที่ดี ต้องเรียนโอเค ต้องเป็นคนดีนะ รู้จักมีน้ำใจ เราต้องใส่มันเข้าไป และนั้นคือเราต้องเป็นก่อน แล้วด้วยความที่น้องเป็นเด็กพิเศษด้วย เขาเป็นออทิสติกระดับต่ำ คือเป็นลักษณะสมาธิสั้น และก็จะมีการเรียนรู้ อ่านเขียนช้านิดหนึ่ง แต่ตอนนี้ษาปรับทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จะเหลือแค่ว่าพูดไม่รู้เรื่องเนอะ แม่จะต้องใจเย็นมาก ถ้าใครเย็นได้บอกเลยว่าจะเป็นของขวัญพิเศษ เพราะว่าเมื่อก่อนษาร้อนมาก พอเราเย็นลง เขาก็จะเย็นตาม”
ล่าสุดตรวจพบว่ามีเนื้องอกที่มดลูกอีก เป็นมรสุมชีวิตครั้งใหม่ ?
“การตรวจพบเนื้องอกในมดลูก ตอนนี้อยู่ในขั้นฉีดฮอร์โมนอยู่ ย้อนกลับไปปีที่แล้วคือไปพบว่าถุงน้ำรังไข่แตกกะทันหัน มันกะทันหันแล้วก็เข้าโรงพยาบาลไป ผ่าตัดเสร็จก็มีการรีฟด้วยกัน 3 รอบ ษาก็เช็คครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สองโอเค ครั้งที่สามเราไม่มีเวลา แต่ว่าไปเข้าโรงพยาบาลมาต้นปี เพราะปวดท้องเพราะโรคกระเพาะ คนหมอก็เลยแบบว่าเช็คแล้วว่าระบบทางเดินอาหารเช็กแล้ว ให้หมอสูตินารีแพทย์ เช็คหน่อยแล้วกัน เพราะว่ามันเหลืออีกครั้งหนึ่ง พอไปเช็คปุ๊บ คุณหมอก็บอกว่ามดลูกมันบิดตัวไปข้างซ้ายเพราะผิดตำแหน่ง แล้วเหมือนไปรั้งข้างซอย แล้วตรงยอดมดลูก มันจะมีเนื้องอกอยู่ประมาณ 8 มิลลิเมตร คำว่าเนื้องอกมันก็ทำให้เราตกใจมากเลย”
เครียดหรือกังวลกับอาการเนื้องอกที่มดลูกครั้งนี้ยังไงบ้าง ?
“ความจริงมันอาจจะไม่ได้ใหญ่มาก 8 มิลลิเมตร มันอาจจะเล็กนิดเดียว หมอให้คำแนะนำว่าหมอไม่ได้ซีเรียส คือบอกว่าเนื้องอกจริง แต่ว่าเราซีเรียสมาก หมอบกว่ามันไม่ใช่เนื้อร้ายหรือว่าเป็นมะเร็ง แต่เรากลัวเราซีเรียส ก็อึ้งไปเลย 2 วินาที แล้วก็ถามหมอต่อว่ารักษายังไง หมอก็เลยให้เลือกระหว่างกินหรือว่าฉีด กินยามันก็จะเหมือนกับว่าเรากินยาคุมปกติ มีลูกศรบอก เราก็กลัวจะกินผิดกินถูก เลยบอกหมอว่าเราไม่เอา เอาเป็นฉีดแล้วกัน ฉีดครั้งละ 3 เดือน 1 เข็ม หมอบอกต้องฉีด 3 รอบ ประมาณ 9 เดือน แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเลยคือน้ำหนักมันจะขึ้น ภายใน 1 เดือน ษาบวมขึ้นมา 7 เดือน จากน้ำหนัก 52 กิโลกรัม มาเป็น 59 กิโลกรัม”
ยอมรับการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างตัวเองได้ไหม กับการรักษา ?
“ความจริงขึ้นมาแค่ 1-2 กิโลกรัม เราก็ซีเรียสแล้ว เพราะเราอยู่ในวงการ พอขึ้นมา 7 กิโลกรัม ตู้เสื้อผ้าแบบว่าคือใส่อะไรไม่ได้เลย ต้องใส่เหมือนว่าชุดคลุมท้อง นอยด์มากแล้วก็เครียด มันเลยมีผลกระทบให้เราหงุดหงิดง่ายอะ คนข้างๆ ก็จะโดนไปหมด เหวี่ยงวีนไปหมดแล้วมันก็เลยเหมือนกับว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าอะ ทำไมฉันใส่ชุดนี้ไม่ได้ เครียดไปหมด ฮอร์โมนมันขึ้น มันเลยได้รับผลกระทบอาการแบบนี้ แค่หายใจก็อ้วนแล้ว (หัวเราะ) กำลังฉีดเข็มที่2เดือนหน้า”
สุดท้ายกับชีวิตรักล่าสุดหนุ่มรุ่นน้อง อาท-รณชัย ประทับใจตรงไหน ?
“คือจากประสบการณ์ชีวิตเราที่ผ่านมา (หัวเราะ) เลยขอให้เจอคนดี ที่เขารัก ไม่ใช่เรารักเขา แล้วเราก็มาเจอเขา เขาก็ดูแลเราแบบพี่น้อง แต่ที่ชอบเขาจริงๆ ก็คือว่าเขาเป็นคนดี ไม่ได้อวยกัน เขาเป็นคนดีและทำจิตอาสาด้วย ขับรถไปเจอรถชน คนเป็นลม ก็ลงไปช่วยหมด จิตใจดีมาก แม่เราก็รักเขา เป็นแม่ยก (หัวเราะ) ”
ภาพจาก : wannasa_thong
สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เปิดใจ ร.อ.หญิง แคท วันทิตา ซิงเกิ้ลมัมสุดสตรอง เผยการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ใช่เรื่องง่าย
ถอดบทเรียนเมียหลวง อร-อรอนงค์ ใช้ธรรมมะเข้าช่วย แก้ปัญหาโรคซึมเศร้า