Burberry ประกาศจุดยืน! ก้าวสู่ แบรนด์แฟชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Burberry ประกาศจุดยืน! ก้าวสู่ แบรนด์แฟชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Burberry ประกาศจุดยืน! ก้าวสู่ แบรนด์แฟชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Burberry ประกาศจุดยืน! ก้าวสู่ แบรนด์แฟชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Burberry ได้ประกาศเป้าหมายที่ทะเยอทะยานในการมุ่งหน้าเป็น แบรนด์แฟชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศภายในปี 2040 และยังมีเป้าหมายที่ต้องการลดผลกระทบต่างๆที่มีต่อสภาพแวดล้อมให้เป็น 0% เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในเรื่องภูมิอากาศจนถึงการช่วยเหลือสังคม

เพื่อเป็นการตอกย้ำความชัดเจนในการเป็นแบรนด์ที่เป็นมิตรต่อสภาพอากาศ (Climate Positive) ทางแบรนด์เองได้ตั้งเป้าหมายและมาตรการหลายอย่าง อาทิ การลดมลพิษในกระบวนการผลิตและซัพพลายเชนให้ได้ถึง 46% ภายในปี 2030 และยังศึกษาการพัฒนาเพื่อช่วยลดการสร้างมลพิษให้แก่ส่วนรวม

Burberry แบรนด์แฟชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Burberry แบรนด์แฟชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Burberry ประกาศจุดยืน! ก้าวสู่ แบรนด์แฟชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

มากไปกว่านั้นทางแบรนด์ยังได้ประกาศจะสนับสนุนแคมเปญ Fashion Avengers ซึ่งเป็นการร่วมมือกับองค์กรและแบรนด์แฟชั่นที่มีเป้าหมายเดียวกันในการขับเคลื่อนสังคมเพื่อสร้างสรรค์ความคิดและแรงบันดาลใจให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการพัฒนาความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs)

แบรนด์แฟชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แบรนด์แฟชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

“Burberry ถูกก่อตั้งมาด้วยความมุ่งมั่นในการผจญภัยโลกภายนอกและธรรมชาติอยู่เสมอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้เป็นแรงบันดาลใจของเรามาตลอด 150 ปี และเพื่อเป็นการสานต่อวัฒนธรรมที่นำเราไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ เรายึดมั่นในความทะเยอทะยานของเรา ที่จะกลายมาเป็นแบรนด์ที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อสภาพภูมิอากาศภายในปี 2040 และพวกเราจะร่วมใจเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาและปกป้องโลกของเราเพื่อคนรุ่นต่อๆไป” Marco Gobbetti กรรมการผู้จัดการประจำแบรนด์ Burberry กล่าว


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สไตล์วินเทจมาแรง! กระเป๋า FENDI Baguette 1997 ปรับโฉมจากรุ่นซิกเนเจอร์

ใช้ซ้ำวนไป! ถุงช้อปปิ้ง Balenciaga Grocery Shopper ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล

เบื้องหลัง รองเท้าแตะ AIR SLIDE ของ STELLA McCARTNEY มาจากการรีไซเคิล

 

จีน่า ญีนา ซาลาส ชุดไทยเจ้าสาว

งามอย่างไทย “จีน่า ญีนา ซาลาส” ถ่ายแฟชั่นชุดไทยเจ้าสาว สวยกลมกล่อม

Alternative Textaccount_circle
จีน่า ญีนา ซาลาส ชุดไทยเจ้าสาว
จีน่า ญีนา ซาลาส ชุดไทยเจ้าสาว

ถือว่าเป็นลูกครึ่งที่สวยคมเหมาะสมกับชุดไทยมากๆ สำหรับ “จีน่า ญีนา ซาลาส” นักแสดงสาวลูกครึ่งไทย-คิวบา ซึ่งถ่ายทอดความงดงามของชุดไทยเจ้าสาวจากแบรนด์ Coco Chic Wedding ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นชุดไทยโบราณที่โดดเด่นด้วยความวิจิตรของงานปักแบบจัดเต็ม ชุดไทยพระราชนิยมคัตติ้งเนี้ยบ หรือชุดไทยประยุกต์ดีไซน์เก๋และหรูหรา ว่าที่เจ้าสาวที่กำลังมองหาชุดไทยอยู่ ตามไปดูกันเลยค่ะ

งามอย่างไทย “จีน่า ญีนา ซาลาส” ถ่ายแฟชั่นชุดไทยเจ้าสาว สวยกลมกล่อม

จีน่า ญีนา ซาลาส ชุดไทยเจ้าสาว

จีน่า ญีนา ซาลาส ชุดไทยเจ้าสาว

จีน่า ญีนา ซาลาส ชุดไทยเจ้าสาว

จีน่า ญีนา ซาลาส ชุดไทยเจ้าสาว

จีน่า ญีนา ซาลาส ชุดไทยเจ้าสาว

จีน่า ญีนา ซาลาส ชุดไทยเจ้าสาว

จีน่า ญีนา ซาลาส ชุดไทยเจ้าสาว

จีน่า ญีนา ซาลาส ชุดไทยเจ้าสาว

เสื้อผ้า : Coco Chic Wedding 79/336 ถนนสาธุประดิษฐ์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120 โทร. 0-2115-8500, 09-9635-8585 เฟซบุ๊ก : Coco Chic Wedding ไอจี : @cocochicwedding

นางแบบ : ญีน่า ซาลาส

แต่งหน้า : จีรบุณฑ์ สีทนสา (IG : @tangmomakeup)

ทำผม : จิรวัฒน์ คงศรีทอง (IG : @gee_jiwat)

ช่างภาพ : ดวงพร ใบพลูทอง

ผู้ช่วยช่างภาพ : ชโนดม แต้ไพสิฐพงษ์

สไตลิสต์ : siridawedding

สถานที่ : Serealscapes ถนนฉิมพลี 12 โทร. 06-5925-6926, 09-0974-5727


‘มีดวงถูกอำนาจบางอย่างเข้าครอบงำ จนสตรองไม่ไหว ติดอยู่ในบ่วงรักต่อไป’ ดูดวงรายวัน 22 มิถุนายน 2564

ดูดวงรายวัน 22  มิถุนายน 2564 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘มีดวงถูกอำนาจบางอย่างเข้าครอบงำ จนสตรองไม่ไหว ติดอยู่ในบ่วงรักต่อไป’

ดูดวงรายวัน 22 มิถุนายน 2564

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานอสังหาริมทรัพย์ บ้าน ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง อาคารสำนักงาน มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้เริ่มต้นงานใหม่ หรือหาทางวิ่งเต้นโยกย้ายไปทำงานในหน่วยงานที่ท้าทาย และมีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายงานประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ นักทดลอง ช่างฝีมือทุกประเภท มีโอกาสที่คุณจะได้เข้าไปทำงานเพื่อสังคม ซึ่งถูกจริตคุณ แต่ต้องระวังความมั่นใจในตัวเองที่สูงเกินไป จะทำให้การตัดสินใจในการเลือกประกอบอาชีพผิดพลาด ซึ่งมีผลต่อทางเดินชีวิตที่จะหักเหได้เลย

การเงิน  :  มีรายได้จากการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ แต่ต้องระวังอย่าตกเป็นเหยื่อของเงินที่ไม่ถูกต้องหรือการเสี่ยงโชค เพราะจะทำให้การเงินของคุณติดลบทันที

ความรัก : คุณกำลังมีโครงการที่จะขยับขยายที่อยู่อาศัยให้กับสมาชิกในบ้าน ได้อยู่อย่างสบายขึ้น ซึ่งคุณจะแอบทำเงียบๆ อยากให้ทุกคนเซอร์ไพร์ส  คนโสด มีโอกาสได้เจอคนที่ถูกใจ จากความเกี่ยวข้องกันในเรื่องของอสังหาริมทรัพย์ คุณมีบุคลิกโดดเด่นใครเห็นก็สนใจ จึงมีโอกาสถูกจีบได้ง่ายๆ

สุขภาพ  :  ออฟฟิศซินโดรมถามหาแล้วนะคะ จะมีอาการปวดหลัง ปวดแขน คอ บ่า ไหล่ หากนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานๆ ก็ควรลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ 1 ชั่วโมง หรือทำโยคะ เหยียดยืด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อบ้าง

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำทีมทำงาน ในการเริ่มต้นโครงการใหม่ จนถึงมีโอกาสเปลี่ยนแปลงหรือโยกย้ายงานไปอยู่ในหน่วยงานที่มีความท้าทาย และแข่งขันสูง ถูกจริตของคุณ สิ่งที่ต้องระวังก็คือ ความมั่นใจในตัวเองที่สูงมากเกินไป จนไม่สนใจความรู้สึกนึกคิดของคนอื่น วันนี้มีโอกาสที่จะเกิดดราม่าขึ้นในที่ทำงาน จนกลายเป็นความขัดแย้งในเวลาต่อมา ทางที่ดีคุณควรใช้หลักธรรมภิบาลในการปกครองลูกทีม เพื่อให้ทำงานด้วยกันได้อย่างราบรื่น

การเงิน : คุณไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องตัวเงินมากกว่าตัวงาน ยิ่งหากทำเพื่อการกุศลหรือทำบุญ คุณก็ไม่เคยปฏิเสธ แต่วันนี้อย่าตกเป็นเหยื่อของเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง หรือการเสี่ยงโชค เพราะจะทำให้เงินคุณติดลบเลยทีเดียว

ความรัก :  วันนี้งานก็ยังยุ่งติดพัน จนคุณอาจต้องใช้หลักคิดในเรื่องของทางสายกลาง ความพอใจ พอเพียง เข้าข่มจิตใจ เพื่อให้เวลากับสมาชิกในครอบครัวอย่างเต็มที่ที่สุด  คนโสด คุณใช้การทำงานหนักเพื่อเป็นข้ออ้างที่จะได้ไม่ต้องมีโอกาสสร้างความสัมพันธ์กับใคร เพราะวันนี้คุณรู้แล้วว่า ‘มีรักก็มีทุกข์’

สุขภาพ  : ภูมิแพ้มาแล้วจ้า มีความเสี่ยงที่จะแพ้สารเคมีที่ผสมอยู่ในน้ำยาทำความสะอาดทุกชนิด ที่ใกล้ตัวที่สุด น่าจะเป็นแอลกอฮอลล์ ทั้งแบบเจล และสเปรย์ ซึ่งจะทำให้คุณเกิดผื่นคันบริเวณที่ใช้ จนถึงผิวหนังอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้ใช้ความรู้ ความสามารถ และทักษะความเชี่ยวชาญในการเจรจา ไม่ว่าจะเพื่อต่อรอง ประนีประนอม หรือติดต่อประสานงาน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่จะเข้ามาให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับสายเอ็นเทอร์เทน เช่น นักร้อง นักดนตรี ดีเจ พริตตี้ จนถึงผู้ประกอบการสถานบันเทิง วันนี้จะมีนารีขี่ม้าขาวมาช่วยสนับสนุนคุณด้วยอีกแรง หากคุณทำได้ดี ทำได้ปัง เธอก็พร้อมจะเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งให้คุณ

การเงิน : มีโอกาสได้รายได้จากงานสีเทาทุกประเภท กับมีนารีอุปถัมภ์ แต่วันนี้คุณมีความเสี่ยงที่จะหมดกับการเข้าสังคม การเดินทางท่องเที่ยว และการลงทุนใหม่ๆ

ความรัก :  คุณแบกรับปัญหาและเรื่องราวของสมาชิกในบ้านไว้อย่างหนักอึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้จะมีโอกาสเกิดเรื่องความสัมพันธ์ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้น โดยมีความเป็นไปได้ที่สมาชิกในครอบครัวจะมารวมตัวกัน เพื่อเปิดประเด็นหารือเรื่องนี้ คนโสด คุณชอบที่จะใช้เวลาในการคบหาดูใจกัน แต่วันนี้ผิดจากที่คุณตั้งใจไว้ เพราะไม่มีเวลารอแล้ว จึงมีความเสี่ยงที่จะชิงสุกก่อนห่ามไปอยู่ด้วยกันเลย

สุขภาพ  : มีความเสี่ยงที่จะปวดกล้ามเนื้อตั้งแต่เอวลงไป จนถึงข้อต่างๆ ก็เริ่มจะมีปัญหา จึงควรหลีกเลี่ยงการยืนหรือเดินติดต่อกันเป็นเวลานาน เพื่อยืดเวลาการใช้งานขาของคุณต่อไปอีกนานๆ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : ดวงบริวารของคุณก็ยังไม่ดีนะคะ ยิ่งวันนี้ต้องระวังคนใกล้ชิดหรือเพื่อนร่วมงานไว้ให้ดี เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาอย่างยากที่จะแก้ไขได้ทัน เช่น มีหนอนบ่อนไส้ขึ้นในที่ทำงาน โดยที่คุณก็อาจถูกแทงข้างหลัง หรือเลื่อยขาเก้าอี้ นอกจากนั้นเจ้านายคุณก็ยังกดดัน ให้ใช้ความรู้ ความสามารถ ทำงานให้หนักขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่มีกฎระเบียบเคร่งครัด มีขั้นตอนในการทำงานมากมาย เช่น หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ งานธุรการ บัญชี โรงพยาบาล ฯลฯ แม้คุณจะไม่ชอบเปลี่ยนงาน แต่วันนี้มีความเสี่ยงที่จะต้องเปลี่ยนงานเลยทีเดียว

การเงิน : มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้รับผลตอบแทนที่ไม่เป็นธรรม ก็ไม่ควรตกเป็นเหยื่อของเงินที่ไม่ถูกต้อง ทั้งบนโต๊ะและใต้โต๊ะ เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะถูกมิจฉาชีพหลอก หรือถูกโกง

ความรัก :  ก็ยังคงอยู่ที่ปัญหาเรื่องมือที่สามอยู่นะคะ ซึ่งวันนี้คู่คุณก็ยังทำตัวเป็นพ่อบ้านที่ดี ดูแลลูก เป็นคู่คิดให้คำแนะนำในการดำเนินชีวิตที่เป็นประโยชน์ เช่นนี้แล้วคุณก็ไม่ควรจะหวั่นไหว เพราะอย่างไรคุณก็ยืนหนึ่งอยู่แล้ว    คนโสด  มีโอกาสที่จะเข้าไปพัวพันกับปัญหามือที่สาม หรือไม่ก็ตกเป็นมือที่สามเสียเอง

สุขภาพ : ดูภายนอกแข็งแรง จึงไม่ค่อยสนใจดูแลเรื่องสุขภาพนัก จึงมีโอกาสที่จะเกิดความเจ็บป่วยสะสมอย่างไม่รู้ตัวมาก่อน จึงควรตรวจเช็กสุขภาพเป็นประจำ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  คุณมีความเป็นศิลปินอยู่เต็มตัว จึงเหมาะที่จะทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น งานในวงการบันเทิง งานโฆษณา ประชาสัมพันธ์ งานออร์กาไนซ์ สื่อมวลชน ดีไซเนอร์ ฯลฯ ซึ่งคุณมีความรู้ ความสามารถ ความรับผิดชอบ และความทะเยอทะยานที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน จึงทำให้คุณสามารถสร้างชื่อเสียงอย่างที่คาดหวังไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากวันนี้คุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องของกฎหมาย ความถูกต้อง ยุติธรรม เช่น ตำรวจ ทนายความ ผู้พิพากษา อัยการ ฯลฯ ก็มีแนวโน้มว่าจะชนะ

การเงิน : หากคุณจะลงทุนหรือร่วมหุ้นทำธุรกิจกับคนรัก วันนี้จะมีผู้ใหญ่ให้การอุปถัมภ์ ช่วยเหลือ แต่คุณก็จะหมดกับการเลี้ยงดูปูเสื่อญาติสนิทมิตรสหาย

ความรัก :  คุณมีภาวะผู้นำสูง จึงให้ความสำคัญกับการทำงานสร้างหลักฐานให้สมาชิกได้อยู่อย่างมั่นคง จึงให้ความสำคัญกับความรักความอบอุ่นเป็นเรื่องรองลงไป วันนี้จึงควรจัดสรรเรื่องเวลาใหม่ เพื่อไม่ให้เสียด้านใดด้านหนึ่ง คนโสด คุณเป็นประเภท work hard play hard ทางที่ดีควรจัดสรรเวลาให้สมดุล ไม่ควรสุดขั้วไปในทางใดทางหนึ่ง

สุขภาพ :  ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา หากในกรณีรุนแรงจะมีโอกาสติดเชื้อในกระแสเลือดได้เลย

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  มาแล้วค่ะ มีความเป็นไปได้ที่วันนี้คุณจะถูกเจ้านายกดดัน ให้ต้องใช้ความรู้ ความสามารถ รับผิดชอบงานที่หนักขึ้นกว่าเดิม ซึ่งคุณเป็นสาวสตรอง ลุยในทุกสถานการณ์อยู่แล้ว จึงไม่น่าจะหนักใจ แต่ก็ต้องระวังการตัดสินใจที่เฉียบขาด แต่ขาดความรอบคอบ จะทำให้งานเกิดความผิดพลาดอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเอกสารสัญญา กฎเกณฑ์ข้อบังคับ ควรพิจารณาให้รอบคอบ เพราะหากเกิดความผิดพลาด คุณไปทำงานที่ไหนต่อไม่ได้เลย

การเงิน :  คุณเป็นนักลงทุน ชอบเสี่ยง แต่ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง ทั้งบนโต๊ะและใต้โต๊ะ โดยเฉพาะไม่ควรเป็นตัวแทนไปกู้ยืมเงิน หรือรับค้ำประกันให้ใคร เพราะเสี่ยงที่จะต้องรับผิดชอบภาระหนี้สินแทน

ความรัก : มีโอกาสที่คุณจะถูกบุคคลที่สามเข้ามาตีสนิทนะคะ ซึ่งต้องการเพียงแค่หวังผลประโยชน์ แล้วก็ตีจาก ซึ่งวันนี้คู่คุณจะทำหน้าที่เป็นแฟมิลี่แมนที่ดี คอยให้คำปรึกษาและแนะนำแนวทางที่มีประโยชน์ ไม่ซ้ำเติม คนโสด  คุณเป็นผู้หญิงที่สตรองกับความรักและความสัมพันธ์ แต่วันนี้มีความเป็นไปได้ที่จะไม่เป็นเช่นที่ผ่านมา มีอำนาจบางอย่างที่ทำให้คุณตัดขาดจากเขาไม่ได้

สุขภาพ :  หากคุณมีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับสมอง และหัวใจ ต้องระวังนะคะ วันนี้มีโอกาสที่อาการจะกำเริบ ควรรับประทานยา หรือปฏิบัติตัวเพื่อควบคุมโรคให้ดี

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานเขียน งานทดลอง ค้นคว้า นักวิทยาศาสตร์ ฯลฯ หากที่ผ่านมาคุณตรากตรำทำงานหนัก จนเริ่มเข้าสู่ทางตันเข้ามาทุกทีทุกที  กำลังหาทางออกให้กับตัวเองอย่างรีบด่วนที่สุด วันนี้ถึงเวลาที่คุณจะได้ชื่นชมกับความสำเร็จเสียที เพราะมีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้ริเริ่มงานใหม่ หรือมีโอกาสได้พบช่องทางทำมาหากินใหม่ๆ นอกเหนือจากงานประจำ หากสามารถทำสำเร็จก็จะได้รับการยอมรับจากทุกคนรอบๆ ตัว

การเงิน : ช่วงแรกอาจติดขัด เพราะต้องสำรองเงินล่วงหน้าไปก่อน แต่เมื่องานเสร็จก็จะมีชื่อเสียงและเงินทองเข้ามา ซึ่งคุณก็ควรเก็บเงินไว้บ้าง ไม่ควรช่วยเหลือคนอื่นจนตัวเองเดือดร้อน

ความรัก : คุณกับคู่มีโลกส่วนตัวสูง ชอบที่จะอยู่ในพื้นที่ของใครของมัน พร้อมๆ กับความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ ห่างกันไป จนวันนี้เริ่มไม่แน่ใจว่า เรายังรักกันอยู่หรือเปล่า คนโสด คุณชอบที่จะค่อยๆ รดน้ำต้นรักของคุณวันละนิดละหน่อย แล้วก็ชื่นชมกับการเจริญงอกงาม แต่ยุคนี้อาจไม่ทันการณ์ เพราะคุณอาจพลาดโอกาสดีๆ ไป

สุขภาพ :  เดินดีๆ นะคะ มีสติทุกย่างก้าว เพราะคุณอาจก้าวพลาดตกจากขั้นบันได ขอบฟุตบาท แม้กระทั่งตกจากรองเท้าส้นสูง  ซึ่งจะมีโอกาสให้ข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลงได้

 

 

ฟื้นฟูปอด หลังรอดโควิด-19

ฟื้นฟูปอด หลังรอดโควิด-19 เพื่อทำให้การหายใจเป็นปกติ ไม่เหนื่อยง่าย

Alternative Textaccount_circle
ฟื้นฟูปอด หลังรอดโควิด-19
ฟื้นฟูปอด หลังรอดโควิด-19

ฟื้นฟูปอด หลังรอดโควิด-19 เพื่อทำให้การหายใจเป็นปกติ ไม่เหนื่อยง่าย

หลังเข้ารับการรักษาโควิดและหายดีแล้ว อาจจะยังมีรอยโรคหรือแผลเป็นในเนื้อปอด อาจจะมีทั้งข้างเดียวหรือสองข้าง พบคนไข้บางรายที่มีการอักเสบในร่างกายอย่างรุนแรง มักจะมีพังผืดหรือฝ้าขาวในเนื้อปอดอยู่เมื่อตรวจดูด้วย X-Ray หรือคนไข้บางรายมักจะรู้สึกร่างกายไม่สดชื่น ไม่แข็งแรง สามารถ ฟื้นฟูปอด หลังรอด Covid-19 ได้หรือไม่ ฟังคำตอบจาก นพ. พิเชษฐ์ เจริญศิริวัฒน์ อายุรแพทย์ ผู้ชำนาญการด้านโรคระบบทางเดินหายใจ และภาวะวิกฤตโรคระบบทางเดินหายใจ

ความรุนแรงของโรคโควิด-19 และสถานการณ์การระบาดของโรคนั้นยังคงอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง มีทั้งผู้ติดเชื้อหลักพัน และผู้เสียชีวิตในทุกๆ วัน รวมถึงการฉีดวัคซีนที่ยังฉีดได้น้อยหากเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศ ปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อโควิด-19 ได้ง่ายขึ้นและมีอาการที่รุนแรงได้ ส่งผลให้เกิดความเสียหายโดยตรงกับ “ปอด” ซึ่งถือเป็นอวัยวะที่สำคัญในระบบทางเดินหายใจ และส่งผลกระทบถึงการดำรงชีวิตที่อาจจะไม่เหมือนเดิมเมื่อหายจากโรคโควิด-19 แล้ว

ฟื้นฟูปอด หลังรอดโควิด-19

ปอดอักเสบ / ปอดถูกทำลายได้อย่างไรจากโรคโควิด-19

เชื้อก่อโรคโควิด-19 นั้นเข้าสู่ร่างกายของเราผ่านทางจมูกสู่ปอด ซึ่งแหล่งเก็บเชื้อนี้ก็คือปอดของมนุษย์เรา ดังนั้น เมื่อติดโควิด-19 แล้ว ก็จะส่งผลกระทบกับระบบทางเดินหายใจโดยตรง

ในระยะแรกๆ ผู้ป่วยจะมีอาการเหมือนติดเชื้อไวรัสทั่วไป เช่น มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยเนื้อตัว แต่อาการทางระบบทางเดินหายใจยังไม่ค่อยเด่นชัดนัก แต่หากผ่านไปสักระยะหนึ่ง ประมาณวันที่ 3-4 ของการติดเชื้อ ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการไอ เหนื่อยหอบ แบบค่อยเป็นค่อยไป เมื่อผู้ป่วยได้รับการเอกซเรย์ปอด จะเริ่มเห็นความผิดปกติ พบฝ้าขาวเกิดขึ้นในปอดจากฟิล์มเอกซเรย์ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ต้องกังวลเนื่องจากผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการขาดออกซิเจนแล้วเกิดการอักเสบของปอดจนกลายเป็นปอดอักเสบในที่สุด

โดยทั่วไปแล้วลักษณะเฉพาะของคนที่เป็นโรคโควิด-19 นั้น ปอดอักเสบจะเกิดขึ้นมากกว่า 1 ตำแหน่ง โดยมักจะเกิดขึ้น 3-4 ตำแหน่ง และจะเป็นที่ปอดทั้ง 2 ข้าง ทั้งนี้ หากในระยะนี้ทำการรักษาได้ทันท่วงที ให้ยาที่เหมาะสม ทั้งยาต้านไวรัส ยาสเตียรอยด์ และยาอื่นๆ ปอดจะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับไป จะมีอยู่ประมาณ 10% ที่จะเป็นปอดอักเสบรุนแรง และมีเพียงแค่ 1% เท่านั้นที่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

ปัจจัยที่ปอดถูกทำลาย

เมื่อเกิดการติดโควิด-19 จะเกิดปฏิกิริยาของร่างกายที่เกิดจากการอักเสบของปอด ทำให้มีพังผืดและแผลเป็นต่างๆ ในปอดตามมา ซึ่งจะมีมากน้อยแค่ไหน หรือสามารถฟื้นตัวหลังจากหายได้มากเท่าไหร่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับ

  1. ปริมาณของเชื้อหรือมีการติดเชื้อชนิดอื่นซ้ำซ้อนหรือไม่
  2. พื้นฐานของสุขภาพร่างกายหรือระบบการตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อเชื้อเป็นอย่างไร
  3. ความเร็วในการให้การรักษาอย่างทันท่วงที

สภาพของปอดหลังได้รับการรักษาจากโรคโควิด-19

เมื่อหายจากโรคโควิด-19 แล้ว การอักเสบของร่างกายอย่างรุนแรงจากเชื้อก่อโรคโควิด-19 จะมีผลทำให้เกิดเป็นรอยโรคพวกแผลเป็นหรือพังผืดต่างๆ ในเนื้อปอด ทำให้เนื้อปอดขาดความยืดหยุ่น และแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ไม่ค่อยดีนัก หากตรวจวัดสมรรถภาพปอด จะพบว่าสมรรถภาพปอดต่ำกว่าปกติ ซึ่งหากอยู่เฉยๆ อาจไม่ค่อยรู้สึก แต่หากต้องไปออกกำลังกายหรือทำอะไรกิจกรรมที่หนักๆ จะรู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าปกติมาก

ในส่วนของการฟื้นตัวของปอดหลังหายจากโรคโควิด-19 จะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรก เป็นช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังหายจากโรค สิ่งที่จะพบ คือ ยังพบฝ้าขาวที่ปอดในฟิล์มเอกซเรย์ แต่มีปริมาณเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงที่ติดเชื้อ และช่วงหลัง คือ ช่วงสัปดาห์ที่ 3-4 หลังจากที่หายจากโรค ร่างกายมีการฟื้นฟูกลับมาบ้างแล้ว แต่จะยังรู้สึกว่าร่างกายอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น ไม่แข็งแรง ไม่กะปรี้กะเปร่า

ฟื้นฟูปอด หลังรอดโควิด-19

การฟื้นฟูสมรรถภาพปอด 

ผู้ป่วยที่เพิ่งฟื้นตัวจากโรคโควิด-19 และมีอาการปอดอักเสบร่วมด้วย เนื้อปอดจะมีพังผืดและแผลเป็นเกิดขึ้น ในช่วงแรกระบบการหายใจและสมรรถภาพของปอดนั้นจะยังไม่เป็นปกติ ทั้งนี้ สามารถฟื้นฟูสมรรถภาพปอดได้โดยให้มีการเคลื่อนไหวหรือขยับช่วงปอด เพื่อให้เนื้อปอดและถุงลมต่างๆ ค่อยๆ ฟื้นฟูตัวเองกลับมามีความยืดหยุ่นมากขึ้น รวมถึงการออกกำลังกายเบาๆ เพื่อที่จะสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ดังเดิม ดังนี้

  1. การฝึกการหายใจ (Breathing Exercise) การฝึกการหายใจนั้นจำเป็นในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการฟื้นตัว ทำได้โดยการออกแรงในการหายใจเข้าทางจมูกจนสุด แล้วควบคุมลมที่หายใจออกมาทางปากช้าๆ หรือพูดคำว่า “อู” ยาวๆ ช้าๆ จนกระทั่งลมหมดปอด แล้วหายใจเข้าใหม่ให้เต็มปอดแล้วออกช้าๆ เช่นเดิม เนื่องจากพังผืดจะทำให้เนื้อปอดมีความแข็ง พังผืดที่แข็งเมื่อได้ขยับบ่อยๆ ก็จะมีการยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้ elasticity หรือความยืดหยุ่นของเนื้อปอดค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมา
  2. การบริหารปอด จำเป็นในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการฟื้นตัวเช่นกัน เรียกว่าเป็นกลยุทธ์การฟื้นฟูสมรรถภาพปอดอย่างหนึ่งที่ได้ผลดี ทำได้โดยการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ ที่เรียกว่า Triflow โดยให้คนไข้ดูดลูกปิงปองที่มีทั้งหมด 3 ลูก ใน 3 ช่อง ซึ่งจะลอยขึ้นกี่ลูกก็ขึ้นอยู่กับปริมาณลมที่สูดเข้าไป ยิ่งสูดลมเข้าไปมาก ลูกปิงปองก็จะลอยขึ้นเยอะ การดูดลมเข้าปอดโดยใช้เครื่อง Triflow นั้นจึงถือเป็นเทคนิคการบริหารปอดรูปแบบนึงที่ทำให้ปอดขยายเต็มที่ ช่วยให้ปอดมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และค่อยๆ ฟื้นตัวได้
  3. การออกกำลังกายเบาๆ สามารถทำได้ในสัปดาห์ที่ 3-4 เป็นต้นไป ในช่วงนี้ร่างกายอาจจะยังมีการอ่อนเพลีย แต่ปอดอาจจะเริ่มฟื้นตัวบ้างแล้ว ดังนั้น จึงต้องมีการออกกำลังกาย มีการเคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้น โดยอาจเริ่มจากการออกกำลังกายเบาๆ เช่น การลุกเดินบ่อยๆ ไม่อยู่เฉย พอร่างกายเริ่มชินแล้วค่อยขยับความหนักขึ้นไป อาจจะเดินให้ไวขึ้น หรือวิ่ง jogging เบาๆ ได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การฟื้นฟูสมรรถภาพปอดนั้น นอกจากการฝึกการหายใจ การบริหารปอดโดยใช้ Triflow และการออกกำลังกายเบาๆ แล้ว สิ่งที่จำเป็นและควรปฏิบัติตามเป็นประจำสม่ำเสมอเมื่ออยู่ในช่วงฟื้นตัวนั้นก็คือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการสูดควันบุหรี่และมลพิษต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่นานและมีอาการรุนแรง เพื่อให้มีสุขภาพปอดที่ดี ภูมิคุ้มกันของร่างกายที่แข็งแรง และสามารถกลับไปทำกิจกรรมต่างๆ ได้ดังเดิมได้เร็วที่สุด


ข้อมูล  : นพ. พิเชษฐ์ เจริญศิริวัฒน์ สาขาอายุรศาสตร์ อนุสาขาอายุรศาสตร์โรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤตโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท

ภาพ : Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

กรมการแพทย์เตือน ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ต้องวิธี rt-PCR เท่านั้น ที่ใช้ยืนยันเข้ารักษาได้

สรุปกินยา ไมเกรน ก่อนและหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้หรือไม่ เส้นเลือดจะหดตัวหรือเปล่า?

การรับมือกับ ‘ภาวะเครียด’ ทั้งก่อนและหลัง ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19

 

 

 

ตัวเต็ง MTW 2021 กานต์ ชนนิกานต์ นางสาวเชียงใหม่ โปรไฟล์ยาวเป็นหางว่าว!

account_circle

คอนเฟิร์มแล้ว หลังจากที่แฟนๆ นางงามหัวเมืองเหนือต่างลุ้นว่า  กานต์-ชนนิกานต์ สุพิทยาพร นักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ จากมหาวิทลัยเชียงใหม่ ที่คว้ามงกุฎจากเวที นางสาวเชียงใหม่ จะลงประกวดเวทีระดับประเทศเวทีไหน ซึ่งล่าสุดมีการเผยออกมาแล้วว่า สาวกานต์นั้นจาพาหน้าหวานๆ โปรไฟล์แน่นๆ ไปเวที มิสไทยแลนด์เวิล์ด 2021

นางสาวเชียงใหม่

ซึ่งหลังจากที่มีชื่อเธอออกมานั้น แฟนๆ นางงามก็ยกให้เธอเป็นหนึ่งในตัวเต็ง เนื่องด้วยใบหน้าสวยหวานจับใจจู อีกทั้งเธอยังเป็นนักกิจกรรมตัวยงของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งตรงกับบริบทเวที Miss World

นางสาวเชียงใหม่

สำหรับ กานต์-ชนนิกานต์ สุพิทยาพร ได้คว้ามงกุฎนางสาวเชียงใหม่คนที่ 88 ประจำปี 2564 อีกทั้งยังเป็นว่าที่เภสัชกรหญิง นักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่พกความสวย บวกโปรไลฟ์สุดปังที่ร่ายยาวเป็นหางว่าว ชนิดที่ว่าม้วนเดียวจบเต้าอั้น ทั้งนี้ก่อนที่เธอจะมาประกวดเวทีนางสาวเชียงใหม่นั้น เธอได้คว้าตำแหน่ง นางสาวเชียงราย ประจำปี 2563 มาแล้ว

นอกจากนี้สาวกานต์ยังเป็นนักกิจกรรมตัวยง ทำกิจกรรมแทบจะทุกชนิด โดยเธอยังเป็นอดีตนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ ผู้นำเชียร์ ของมหาวิทยาลัย รวมถึงยังได้รับรางวัลต่างๆ มามากมายไม่ว่าจะเป็น เยาวชนดีเด่นสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์,ยุวชนประชาธิปไตย รัฐสภา และ รางวัลลูกกตัญญูแห่งชาติ อีกด้วย

งามหมดตึงตั๋ว งามหมดตึงใจ๋ แถมยังเน็ด เฮียนเก่งขนาด ไม่มงก็บ่ฮู้จะอู้กำใดแล้วล่ะเจ้าา


ขอบคุณภาพจาก : กองประกวดนางสาวเชียงใหม่, Phubase Jitjing, Oats Pancharut

วีนา ปวีนา

วีนา ปวีนา เข้าพิธีหมั้นเรียบง่าย แต่อบอุ่นกับ แฟนหนุ่มนักธุรกิจ

account_circle
วีนา ปวีนา
วีนา ปวีนา

หลังจากที่ถูกแฟนหนุ่มคุกเข่าขอเซอร์ไพร้สแต่งงานไปเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุด วีนา ปวีนา ซิงค์ รองอันดับ 1 Miss Universe Thailand 2020 ก็เข้าพิธีหมั้นเป็นที่เรียบร้อย

ทั้งนี้ แฟนเพจเฟซบุ๊ก กระทรวงนางงามแห่งประเทศไทย ได้แชร์ภาพของ วีนา และ แฟนหนุ่มนักธุรกิจขณะเข้าพิธีสวมแหวน ซึ่งงานนี้จัดขึ้นภายในครอบครัว ท่ามกลางบรรยากาศสุดอบอุ่น และเรียบง่าย โดยทั้งคู่ยังได้ใส่ชุดส่าหรีสไตล์อินเดียเข้าพิธีหมั้นอีกด้วย

แพรวเวดดิ้งของแสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะคะ


 

5 กันแดด ปกป้องผิวดีและเป็นมิตรต่อปะการังใต้ท้องทะเล

ผิวสวยใสใส่ใจสิ่งแวดล้อม! 5 กันแดด ปกป้องผิวดีและเป็นมิตรต่อปะการังใต้ท้องทะเล

Alternative Textaccount_circle
5 กันแดด ปกป้องผิวดีและเป็นมิตรต่อปะการังใต้ท้องทะเล
5 กันแดด ปกป้องผิวดีและเป็นมิตรต่อปะการังใต้ท้องทะเล

ถ้าไม่อยากดูแก่ก่อนวัย ไม่ว่าฤดูไหนก็ต้องใช้กันแดดนะคะซิส!! รอบนี้ขอแนะ 5 กันแดด ที่สาวรักษ์โลกอย่าลืมใส่ไว้ในเช็กลิสต์ จะช็อปปิ้งกันแดดแบบไม่รู้สึกผิดบาปต้องเลือกกันแดดที่เป็นมิตรต่อปะการัง

เพราะรู้หรือไม่ว่าสารเคมีบางชนิดในครีมกันแดดนั้นสามารถฆ่าปะการังใต้น้ำให้ตายได้ รวมถึงการไปขัดขวางระบบสืบพันธุ์ ฆ่าตัวอ่อนปะการังหรือทำให้ตัวอ่อนปะการังโตแบบผิดรูป ช็อปคราวหน้าอย่าลืมเลือกกันแดดที่ปราศจากสารเคมีทำร้ายปะการัง ผิวสวยใสแล้วต้องใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วย ถึงจะสวยพร้อมครบองค์

ผิวสวยใสใส่ใจสิ่งแวดล้อม! 5 กันแดด ปกป้องผิวดีและเป็นมิตรต่อปะการังใต้ท้องทะเล

5 กันแดด ปกป้องผิวดีและเป็นมิตรต่อปะการังใต้ท้องทะเล

5 กันแดด ปกป้องผิวดีและเป็นมิตรต่อปะการังใต้ท้องทะเล
DRUNK ELEPHANT Umbra Sheer Physical Daily Defense SPF 30

DRUNK ELEPHANT Umbra Sheer Physical Daily Defense SPF 30

ครีมกันแดดของคนรักส่วนผสมจากธรรมชาติ ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ในทุกวันด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จาก Grape Juice Extract, Sunflower Shoot Extract, Raspberry Seed และ Marula Oils ฟื้นฟูความชุ่มชื้นพร้อมลดเลือนริ้วรอย โดยปราศจากสารกันเสียและซิลิโคน

5 กันแดด ปกป้องผิวดีและเป็นมิตรต่อปะการังใต้ท้องทะเล
SUPERGOOP! Everyday Sunscreen Broad Spectrum SPF 50

SUPERGOOP! Everyday Sunscreen Broad Spectrum SPF 50

อีกไอเท็มจากแบรนด์กันแดดรักษ์โลกที่สายคลีนบิวตี้ต้องหลงรัก โลชั่นกันแดดสูตรกันน้ำที่ใช้ได้กับทั้งใบหน้าและเรือนร่าง พร้อมปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ด้วย SPF 50 ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะด้วย สูตร Oil-Free ที่ยังช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิว ด้วยส่วนผสมจากไฮยาลูโรนิกแอซิด

5 กันแดด ปกป้องผิวดีและเป็นมิตรต่อปะการังใต้ท้องทะเล
CLARINS Dry Touch Sun Care Cream Face UVB/UVA 50+

CLARINS Dry Touch Sun Care Cream Face UVB/UVA 50+

กันแดดเพื่อผิวสวย แถมยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยส่วนผสมที่ปราศจากสารเคมีทำร้ายปะการัง ปกป้องพร้อมฟื้นบำรุงด้วยสารสกัดจากพืช 3 ชนิด ได้แก่ Senna, Plane Tree และ Baobab ที่อัดแน่นไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันทั้ง แสงแดดและริ้วรอยได้ดีเยี่ยม เหมาะกับการเล่นกีฬาทางน้ำได้อย่างสบายใจ เพราะสามารถทาทับได้แม้บนผิวที่เปียก

5 กันแดด ปกป้องผิวดีและเป็นมิตรต่อปะการังใต้ท้องทะเล
REREEF Reef-Safe Sunscreen SPF 50 PA+++

REREEF Reef-Safe Sunscreen SPF 50 PA+++

ครีมกันแดดสูตร Mineral Based Reef-Safe ที่ออกแบบเฉพาะเพื่อไม่ให้มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อปะการัง โดยใช้ซิงค์ออกไซด์เป็นสารตัวหลักในการป้องกันแสงแดด ร่วมกับไทเทเนียมไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสินแร่ตามธรรมชาติที่ป้องกันแสงแดดได้ดีเยี่ยม ร่วมกับการใช้สารสกัดจากธรรมชาติบำรุงผิว เช่น น้ำมันโจโจบา วิตามินบี 3 วิตามินอี ว่านหางจระเข้

5 กันแดด ปกป้องผิวดีและเป็นมิตรต่อปะการังใต้ท้องทะเล
MAD HIPPIE Facial SPF 30+

MAD HIPPIE Facial SPF 30+

กันแดดจากแบรนด์สกินแคร์ออร์แกนิกสัญชาติอเมริกัน ที่โดดเด่นในเรื่องของส่วนผสมจากธรรมชาติเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงเหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่ายและเป็นมิตรต่อปะการังใต้น้ำ ปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยซิงค์ออกไซด์จากธรรมชาติอย่างน้ำมัน เมล็ดแครอต น้ำมันอะโวคาโด และน้ำมันเมล็ดราสป์เบอร์รี่ ที่ช่วยปกป้องผิวจากอาการผิวไหม้ สีผิวไม่สม่ำเสมอ พร้อมการบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น


ข้อมูล : นิตยสารแพรว ฉบับ 969
ภาพบางส่วน : Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สาวผิวมันกดเลิฟ! “ไนอะซินาไมด์” วิตามินช่วยฟื้นฟูผิว คุมมัน สิวหาย กระชับรูขุมขน

สายผิวแห้งถูกใจสิ่งนี้! 5 ไฮยาลูรอน ตัวดังปังสุดๆ อัดความชุ่มชื้นให้ผิวแบบจัดเต็ม

วิตามินซี ใช้ร่วมกับอะไรแล้วไม่เริ่ด? พร้อมคัด 5 ไอเท็ม อยากหน้าใสต้องใช้แล้วแหละ

 

 

ลุค อิชิคาว่า

เปิดใจ “ลุค อิชิคาว่า” พระเอกน้องใหม่มาแรง! ที่ขโมยหัวใจแม่ยกอยู่ในตอนนี้

Alternative Textaccount_circle
ลุค อิชิคาว่า
ลุค อิชิคาว่า

ขึ้นแท่นพระเอกน้องใหม่ที่ฮ็อตไม่เบาเลย สำหรับ “ลุค อิชิคาว่า พลาวเด้น” พระเอกจากซีรี่ส์ นายคะ อย่ามาอ่อย Oh My Boss ที่กำลังขโมยหัวใจแม่ยกทั้งสาวน้อยสาวใหญ่อยู่ในตอนนี้ ด้วยใบหน้าหล่อคมแบบกร้าวใจ บวกกับผลงานการแสดงที่เข้าตา ทำให้ชื่อของเขาเป็นกระแสมาแรงอยู่ในโซเชียลมีเดีย ดังนั้น แพรว จึงไม่พลาดที่จะคว้าตัวหนุ่มคนนี้มาพูดคุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้สาวๆ ได้ฟินกันค่ะ

เปิดใจ “ลุค อิชิคาว่า” พระเอกน้องใหม่มาแรง! ที่ขโมยหัวใจแม่ยกอยู่ในตอนนี้

เข้าสู่วงการบันเทิงได้อย่างไรคะ

“ความจริงแล้วสมัยเด็กผมค่อนข้างเนิร์ดนะ ไม่มีวี่แววทางนี้เลย ช่วงไฮสกูลเนิร์ดและติดหนังสือมาก ความที่ผมเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน หน้าตาเรามีความเอเชียน แต่เรียนอยู่ที่อเมริกา ผมมีเพื่อนลูกครึ่งเอเชียนเยอะนะครับ ไม่ได้เป็นเด็กกิจกรรมอะไร ไม่โดดเด่น ออกไปทางตั้งใจเรียน ตั้งใจอ่านหนังสือ

“จนวันหนึ่งมีข้อความมาในไอจีของผมว่า คุณหน้าตาดี สามารถไปได้ไกลในเอเชียนะ ตอนนั้นรู้สึกว่า เฮ้ย! จริงเหรอ เพราะสไตล์ความหล่อของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ตอนอยู่ที่โน่นคือไม่โดดเด่นเลย แต่พอมาเมืองไทยตอนอายุ 22 ปีถึงเพิ่งรู้ตัวว่าลุคก็หล่อนะ (หัวเราะชอบใจ) ดีใจมากที่ได้ทำงานนายแบบและโฆษณาที่ไทยค่อนข้างเยอะ จากนั้นถึงมาเป็นนักแสดงครับ”

ลุค อิชิคาว่า

ในช่วงที่เริ่มทำงานแสดง ภาษาเป็นอุปสรรคสำหรับลุคไหมคะ

ลุคพยักหน้า “จำได้ว่าวันแรกที่ถ่ายละคร (นายคะ อย่ามาอ่อย) ผมนั่งอยู่ในรถตู้ตอน 6 โมงเช้า ตื่นเต้นมากๆ พยายามทำใจให้นิ่ง ถามตัวเองว่าจำบทได้ใช่ไหม ต้องทำให้ได้นะ อย่าตื่นเต้น หายใจเข้าลึกๆ พยายามพูดกับตัวเองตลอด (หัวเราะ) แล้วพอถึงเวลาเข้าฉากรู้สึกไม่ค่อยดีเลย ตื่นกล้องมาก เพราะก่อนหน้านี้ผมทำงานโฆษณามา แต่มันไม่เยอะขนาดนี้ ไหนจะทีมงานที่เยอะมากเช่นกัน

“แล้วฉากแรกที่ถ่ายเป็นช่วงเวลาที่ในบทผมกำลังจะขอเป็นแฟน ต้องส่งความรู้สึกกับผู้หญิงคนนั้น แล้วผมยังไม่เข้าใจภาษาไทยแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงยากมากๆ ครับ ตื่นเต้นมาก แต่หลังจากนั้นทำให้ผมรู้ว่าต้องทำการบ้านเยอะๆ อ่านบทให้ละเอียด จากนั้นส่งบทไปให้คุณครูช่วยตีความ อัดเสียงพูดไปให้ครูช่วยฟังด้วยว่าโอเคหรือยัง แล้วผมก็จะฟังซ้ำๆ หลายรอบก่อนเข้าฉาก เพื่อให้มั่นใจว่าเราเข้าใจบทนั้นจริงๆ นะ

“ซึ่งตอนนี้เรื่องภาษาไทยไม่ค่อยกังวลแล้วครับ แม้จะยังไม่เข้าใจแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ไม่กลัวแล้ว เมื่อก่อนเวลาต้องนั่งสัมภาษณ์แบบนี้ ผมกังวลมากเลยนะ กลัวพูดไม่ถูก ไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้สบายๆ แล้วครับ”

ลุค อิชิคาว่า

สไตล์การทำงานของลุคเป็นแบบไหนคะ 

“เมื่อก่อนผมเนิร์ด แต่เวลาทำงานผมไม่ค่อยเนิร์ดครับ ค่อนข้างสบายๆ แต่ตั้งใจนะ ในแบบที่ไม่ได้เครียดจนกดดันตัวเอง เพราะถ้าอย่างนั้นงานคงออกมาไม่ดี ผมเน้นทำการบ้านเยอะๆ เหมือนกัน เพราะถ้าเตรียมตัวดี เวลาถ่ายจะไม่เครียด แต่ถ้าเตรียมมาน้อย พอถึงเวลาทำงานจะตื่นเต้นและทำให้กังวล แล้วอาจพลอยทำให้คนอื่นมีปัญหาไปด้วย เพราะความสุขของผมอีกอย่างคืออยากเห็นทุกคนหัวเราะ มีความสุข สบายใจ ไม่เครียดครับ” (หัวเราะ)

ลุค อิชิคาว่า

ดูแลตัวเองอย่างไรบ้างคะ

“ผมเน้นนอนเยอะครับ ส่วนออกกำลังกายก็จะเข้ายิม ยกเวต เน้นรูปร่างในแต่ละจุดให้เหมาะสม และผมชอบว่ายน้ำครับ เพราะเป็นกิจกรรมที่เผาผลาญแคลอรีได้เยอะ เบิร์นไขมันได้ดีด้วย ทุกครั้งที่ว่ายน้ำเสร็จจะรู้สึกว่าตัวเองหุ่นดีมากๆ ไม่รู้ทำไม (หัวเราะ) อีกอย่างก็คือไปต่อยมวยครับ

“ส่วนอาหารผมไม่คลีนเท่าไหร่ เรื่องนี้ยากจริงๆ อย่างมีวันหนึ่งอยากกินเบอร์เกอร์มากๆ แม้จะรู้ว่าไม่ควร แต่ก็อดใจไม่ได้ ต้องสั่งมากิน พอได้กินก็เอนจอย (หัวเราะ) ลุคเป็นแบบนี้ครับ ถ้าอยากกินจริงๆ ค่อนข้างห้ามตัวเองยาก แม้จะรู้ว่าไม่ควรนะ (ทำเสียงเศร้า)

“อีกอย่างที่พยายามทำคือลุคดื่มน้ำเยอะ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร แล้วก็ควบคุมน้ำตาล ไม่กินขนม ไอศกรีม รวมถึงลดแป้งด้วยครับ”

ลุค อิชิคาว่า

ถ้ามีเวลาว่าง สิ่งแรกที่จะทำคืออะไรคะ

“ตื่น 9 โมงเช้าไปเล่นบาส แล้วก็ไปว่ายน้ำ ซึ่งไม่ได้ทำเพราะจำเป็นนะ แต่เป็นกิจกรรมที่สนุกสำหรับผม แล้วก็ชอบอ่านหนังสือครับ พวกนิยายกับการพัฒนาตัวเอง”

ตั้งเป้าหมายในอนาคตไว้อย่างไรบ้างคะ

“ผมอยากเป็นพระเอกของเมืองไทย แล้วก็อยากทำงานในระดับอินเตอร์ เพราะจริงๆ แล้วภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรกของผม อีกอย่างที่อยากทำคืออยากไปทำงานที่ญี่ปุ่นครับ อาจเริ่มจากไปเรียนภาษาญี่ปุ่นก่อน แล้วก็มีงานแสดงสักเรื่อง ไม่ต้องเป็นพระเอกก็ได้ อ้อ…อยากเรียนภาษาจีนด้วยครับ อยากหลายอย่างเลยใช่ไหม (หัวเราะ) และอยากเป็นพระเอกคู่กับใบเฟิร์น (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) หรือญาญ่า (อุรัสยา เสปอร์บันด์) ด้วยครับ”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 970

ภาพเพิ่มเติม : lukevoyage

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เปิดใจเอ็กซ์คลูซีฟ! ก้าวอีกขั้นของ “กลัฟ คณาวุฒิ” พระเอกลูกรักคนใหม่ของช่อง 3

รู้จักตัวตน “บิวกิ้น พุฒิพงศ์” เพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ เก่งครบเครื่อง สมฉายา “เทพบุตรบิวกิ้น”

11 ปี สู้เพื่อฝัน “มิว ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์” ผู้ชายที่ทำเต็มร้อยทุกเรื่องในทุกวัน

ชุดเด็ก Gucci น้องกวินท์ ลูกพ่อกรณ์-แม่ริต้า

หนูน้อย Gucci สุดน่ารัก! ส่องชุดแบรนด์เนม น้องกวินท์ ลูกพ่อกรณ์-แม่ริต้า

ชุดเด็ก Gucci น้องกวินท์ ลูกพ่อกรณ์-แม่ริต้า
ชุดเด็ก Gucci น้องกวินท์ ลูกพ่อกรณ์-แม่ริต้า

น่ารักอีกแล้วลูก เมื่อแฟชั่นนิสต้าตัวน้อย น้องกวินท์ ลูกพ่อกรณ์ แม่ริต้า มาในชุดเซ็ตพร้อมหมวกสำหรับเด็กจากแบรนด์หรู Gucci แถมยังใส่แว่นกันแดดซะด้วย

คุณพ่อกรณ์และคุณแม่ริต้าที่ถนัดเรื่องแต่งองค์ทรงเครื่อง เมื่อมีลูกน้อยก็ไม่น่าแปลกใจที่จะจับลูกชาย น้องกวินท์ ที่เพิ่งอายุครบ 3 เดือนไปหมาดๆ มาแต่งตัวน่ารักดูคูลฉบับเด็กเล็ก แต่ระดับพ่อกรณ์แม่ริต้าจะจัดแจงเสื้อผ้าให้ลูกชายคนแรกทั้งทีก็ต้องปัง เช่นเดียวกับทริปภูเก็ตที่บินไปพักผ่อนกันทั้งครอบครัว คุณแม่ริต้าก็ขอเลือกชุดที่สวมใส่สบายจาก Gucci ให้กับน้องกวินท์ ซึ่งเป็นชุดสำหรับเด็กที่มาพร้อมหมวก เรียกว่าเซ็ตเดียวได้ 2 ชิ้นคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย

หนูน้อย Gucci สุดน่ารัก! ส่องชุดแบรนด์เนม น้องกวินท์ ลูกพ่อกรณ์-แม่ริต้า

น้องกวินท์ ลูกพ่อกรณ์-แม่ริต้า น้องกวินท์ ลูกพ่อกรณ์-แม่ริต้า ชุด Gucci น้องกวินท์ ลูกพ่อกรณ์-แม่ริต้า ชุด Gucci น้องกวินท์ ลูกพ่อกรณ์-แม่ริต้า

โดยชุดของน้องกวินท์มีชื่อรุ่นว่า Baby gift set with Web and Interlocking G ราคาประมาณ 13,500 บาท เป็นชุดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคอลเล็คชั่นของผู้ใหญ่ เป็นผ้าฝ้ายยืดสีขาวชิ้นเดียว มีแถบสีเขียวที่คอเสื้อและช่องแขน พร้อมการปักแบบ Web and Interlocking G ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอิทธิพลแบบ preppy (สไตล์การแต่งตัวแบบสุภาพบุรุษ , ลูกคุณหนู) ชุดนี้จับคู่กับหมวกเด็ก ปักโลโก้ GG สัญลักษณ์ของกุชชี่

น้องกวินท์ ลูกพ่อกรณ์-แม่ริต้า

น้องกวินท์ ลูกพ่อกรณ์-แม่ริต้า


ภาพ : IG@sriritajensen

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สวยแรงแพงทะลุเมฆ! กระเป๋า Hermes ‘จอร์จิน่า โรดริเกซ’ ภรรยาโรนัลโด้

ซีทรูเซ็กซี่ระดับสิบ! ลุคล่าสุด ‘เมแกน ฟ็อกซ์’ ตัวแม่แห่งฮอลลีวู้ด

สดใส เรียบง่าย ‘ดัชเชสเคท’ พบปะ ‘จิล ไบเดน’ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งอเมริกา

 

ออย นันทิสา

ออย นันทิสา หวานใจ ต๊อบ อัยยวัฒน์ บินลัดฟ้าร่วมงาน รอยัล แอสคอต

account_circle
ออย นันทิสา
ออย นันทิสา

ออย นันทิสา หวานใจ ต๊อบ อัยยวัฒน์ บินลัดฟ้าร่วมงาน รอยัล แอสคอต งานแข่งขันม้าสุดยิ่งใหญ่ของสหราชอาณาจักร

รอยัล แอสคอต งานแข่งขันม้าสุดยิ่งใหญ่ของสหราชอาณาจักร งานรวมตัวเหล่าสมาชิกราชวงศ์ และคนในสังคมชั้นสูงของอังกฤษ โดยปีนี้จัดขึ้นในวันที่  15 – 19 มิถุนายน 2564 และเป็นประจำทุกปีที่สมาชิกครอบครัวศรีวัฒนประภาเดินทางไปร่วมงานด้วย

ออย นันทิสา หวานใจ ต๊อบ อัยยวัฒน์ บินลัดฟ้าร่วมงาน รอยัล แอสคอต

โดยครั้งนี้ต๊อบ อัยยวัฒน์ ประธานบริหารของคิง เพาเวอร์ และ ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ก็ได้ควงคู่หวานใจ ออย นันทิสา ไปร่วมงานด้วย โดยสาวออยมาในชุดเดรสยาวสีดำ คลุมทับด้วยเสื้อโค้ท และที่ลืมไม่ได้คือหมวกสไตล์ผู้ดีอังกฤษ ซึ่งเป็นธรรมเนียมและเป็นเอกลักษณ์ในการแต่งกายชั้นสูงของอังกฤษ

สำหรับ รอยัล แอสคอต ปีนี้แม้จะดูเงียบเหงากว่าทุกปี เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และยังเป็นปีที่ 2 ที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ไม่ได้เสด็จฯ ไปทรงร่วมงานด้วย

 

อย่างไรก็ตามสมาชิกราชวงศ์อังกฤษอย่าง  ‘เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์, คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์, เจ้าหญิงแอนน์, ซาร่าและไมค์ ทินดัลล์, เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดและ โซฟี เอิร์ลและเคาน์เตสแห่งเวสเซกส์ ก็ไม่พลาดมาร่วมงานนี้ พร้อมกับแฟชั่นเครื่องแต่งกาย และหมวกสไตล์ผู้ดีอังกฤษที่มีมาหลากหลายรูปแบบ


ภาพ : Getty Image, @oilnuntisa (Instagram)

ป๋อมแป๋ม-นิติ

ป๋อมแป๋ม-นิติ เข้าพิธีอุปสมบทเรียบง่าย ตั้งใจปฏิบัติธรรม 11 วัน

Alternative Textaccount_circle
ป๋อมแป๋ม-นิติ
ป๋อมแป๋ม-นิติ

พิธีกรมากความสามารถแห่งรายการ เทยเที่ยวไทย และ ทอล์ก-กะ-เทย Tonight วัย 39 ปี  ป๋อมแป๋ม-นิติ ชัยชิตาทร เข้าพิธีอุปสมบทเรียบง่าย ตั้งใจปฏิบัติธรรม 11 วัน

ป๋อมแป๋ม-นิติ เข้าพิธีอุปสมบทเรียบง่าย ตั้งใจปฏิบัติธรรม 11 วัน

พิธีกรมากความสามารถแห่งรายการ เทยเที่ยวไทย และ ทอล์ก-กะ-เทย Tonight วัย 39 ปี  ป๋อมแป๋ม-นิติ ชัยชิตาทร เจ้าของแฮชแท็ก #จะต้องเหมือนอีกกี่คนบนโลกใบนี้ ได้เข้าพิธีอุปสมบทอย่างเรียบง่ายที่ วัดเกาะนัมมทาปทวลัญชาราม จ.ราชบุรี เพื่อทดแทนคุณบุพการี เป็นเวลา11 วัน โดยได้ฉายาทางธรรม “ฐิติโก”

ซึ่งการบวชครั้งนี้ มีเพื่อนพ้องที่สนิทกันเท่านั้นที่ได้ไปร่วมงาน โดยฝนผู้จัดการส่วนตัว “เจนนี่ ปาหนัน” ซึ่งก็เป็นเพื่อนสนิทของยายป๋อมแป๋มด้วย ได้โพสต์ภาพลงอินสตาแกรมส่วนตัว @monsterfon ซึ่งเป็นภาพตัวเองกำลังปลงผมนาคป๋อมแป๋ม รวมถึงคุณแม่ของพิธีกรคนดังที่กำลังปลงผมนาคอยู่ พร้อมข้อความว่า “อนุโมทนาพระใหม่ @theniti” งานนี้ก็มีคนบันเทิง เข้ามาคอมเม้นต์อนุโมทนาบุญจำนวนมาก

ป๋อมแป๋ม-นิติ


 

ครีมทามือ Eucerin

เพราะผิวมือก็ฟ้องอายุเก่งไม่แพ้ผิวหน้า ครีมทามือ Anti-Aging จึงสำคัญกว่าที่คิด

ครีมทามือ Eucerin
ครีมทามือ Eucerin

เมื่อผู้หญิงอายุเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะวัยที่กำลังจะผ่านพ้นเลข 3 แล้วก้าวขึ้นไปแตะเลข 4 ขอบอกเลยว่าปัญหาหนักใจที่สาวรุ่นใหญ่ทั้งหลายต้องเผชิญ ยังไงๆ ก็หนีไม่พ้นปัญหาผิวแก่ ไม่ว่าจะเป็น ริ้วรอยร่องลึก ความเหี่ยวย่น ความหย่อนคล้อย รวมถึงฝ้า กระ และจุดด่างดำ ซึ่งผิวพรรณส่วนที่ฟ้องอายุของผู้หญิงได้ชัดเจนที่สุดคือ ผิวหน้า ผิวคอ และผิวมือ

โดยผู้หญิงส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับผิวหน้าเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือผิวคอ แต่ผิวมือกลับถูกมองข้ามและหลงลืมไปเสียสนิท ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วผิวมือเป็นส่วนที่ปกปิดยาก เรียกว่าฟ้องอายุเก่งไม่แพ้ผิวหน้าเลย แถมช่วงนี้ผิวมือยังถูกใช้งานหนักกว่าผิวส่วนอื่นๆ จนผิวมือเหี่ยว แห้งกร้าน หยาบกระด้าง จากทั้งอายุที่เพิ่มขึ้นและการล้างมือกันบ่อยๆ ที่จำเป็นมากในช่วงนี้

เอาเป็นว่าถ้าสาวๆ คนไหนยังไม่เก็ตว่าทำไมเราจึงควรดูแลผิวมือเป็นพิเศษ ชนิดที่ไม่น้อยไปกว่าผิวหน้าและผิวคอ แพรว ขอยกตัวอย่างสถานการณ์ที่สาวๆ จะปล่อยให้ผิวมือโป๊ะแตกฟ้องอายุไม่ได้เด็ดขาด! อย่างสาวๆ ที่ชอบใส่แหวน หรือชอบทำเล็บเป็นชีวิตจิตใจ ก็คงอยากให้ผิวมือเปล่งปลั่ง สดใส เพื่อขับความสวยโดดเด่นให้กับแหวนวงงาม หรือสีเล็บที่อุตส่าห์บรรจงทำ หรือหากเป็นสาวๆ ที่กำลังจะแต่งงาน ก็คงอยากให้ผิวมือในช็อตสวมแหวนตราตรึงใจเจ้าบ่าวตลอดไป ไหนจะกิจกรรมสุดฮ็อตของสาวๆ ยุคนี้ ที่มักรีวิวโน่นนี่ลงโซเชียลมีเดีย ทำให้ผิวมือถูกโชว์อยู่บ่อยๆ จึงไม่ควรปล่อยให้ผิวมือเหี่ยวฟ้องอายุ จริงไหมล่ะคะ

ครีมทามือ Eucerin

อ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าสาวๆ หลายคนน่าจะกำลังคิดถึงแฮนด์ครีม หรือครีมทามือดีๆ สักตัว และกำลังครุ่นคิดว่าจะเลือกใช้ครีมทามือยี่ห้อไหนดี ที่จะมาช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวมือได้แบบเอาอยู่ ทั้งช่วยเติมชุ่มชื้น ชะลอริ้วรอย และลดเลือนจุดด่างดำ แพรว จึงรีบหยิบ Eucerin Elasticity Hand Cream ซึ่งเป็น Anti-Aging Hand Cream ไอเท็มใหม่ล่าสุดจาก Eucerin มารีวิวให้สาวๆ รู้จัก เพราะแฮนด์ครีมตัวนี้เป็นครีมทามือโดยเฉพาะ ซึ่งเน้นช่วยแก้ปัญหาผิวมือแก่ ผิวมือเหี่ยวย่น พร้อมบำรุงให้ผิวมือนุ่มลื่นน่าสัมผัส และช่วยจัดการกับริ้วรอยและจุดด่างดำต่างๆ ได้อย่างเห็นผล ตอบโจทย์สาวๆ หลายคนอย่างแน่นอน

ครีมทามือ Eucerin Elasticity Hand Cream

ที่สำคัญคือเป็นแฮนด์ครีมที่ต่อยอดความสำเร็จมาจากเซรั่มบำรุงผิวหน้าขวัญใจสาวรุ่นใหญ่ Eucerin Hyaluron (HD) Radiance-Lift Filler 3D Serum ซึ่งขึ้นชื่อลือชาว่าช่วยจัดการกับ 3 ปัญหาผิวของผู้หญิงวัย 40+ ได้แบบครบจบในขวดเดียว ทั้งริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และจุดด่างดำ

ครีมทามือ Eucerin Hyaluron (HD) Radiance-Lift Filler 3D Serum

ถ้าให้พูดง่ายๆ ก็คือ Eucerin Elasticity Hand Cream ถอดดีเอ็นเอความเริ่ดมาจากเซรั่มรุ่นพี่เลยล่ะค่ะ โดยจัดเต็มส่วนผสมที่ดีต่อผิวเอาไว้แบบเน้นๆ ทั้งไฮยาลูรอน (Hyaluron) ที่ช่วยจัดการกับริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามติดมาด้วยอาร์คทิอิน (Arctiin) สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว จึงช่วยกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้เฟิร์มขึ้น และไฮไลท์สำคัญอย่างไทอามิดอล (Thiamidol) สารทรงพลังเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ Eucerin ซึ่งช่วยลดเลือนจุดด่างดำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอได้อย่างเห็นผล โดยสาวๆ สามารถสังเกตความเปลี่ยนแปลงของผิวมือที่แลดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ภายใน 2 สัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็น ผิวมือกระชับขึ้น ริ้วรอยแลดูตื้นขึ้น จุดด่างดำแลดูจางลง แถมผิวมือยังเนียนนุ่มและชุ่มชื้นอีกด้วย

ครีมทามือ Eucerin

ตอนนี้สาวๆ คนไหนที่กำลังพินิจพิจารณาผิวมือของตัวเองกันอยู่ล่ะก็ แปลว่าเริ่มเก็ตแล้วว่าทำไมเราจึงควรใส่ใจดูแลผิวมือเป็นพิเศษ และทำไมเราจึงไม่ควรปล่อยให้ผิวมือฟ้องอายุ ซึ่งถ้าเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วแบบนี้ สิ่งแรกที่สาวๆ สามารถทำได้เลย โดยไม่ต้องรอให้อายุพุ่งไปถึงเลข 4 คือตามไปหาซื้อครีมทามือ Eucerin Anti-Aging Hand Cream มาใช้กันตั้งแต่ตอนนี้เลย เพื่อคงความอ่อนเยาว์ของผิวมือเอาไว้ให้นานที่สุด เพราะผิวมือก็ฟ้องอายุเก่งไม่แพ้ผิวหน้าจริงๆ ค่ะ ถ้าไม่เชื่อล่ะก็ ลองยกมือขึ้นมาเทียบกับหน้าดูสิคะ

อีจงซอก

เขียวตัดส้มก็หล่อ! ‘อีจงซอก’ ลุคใหม่ผมสั้น ใส่แจ็คเก็ตตัวละ 2 แสน ชมโชว์ Prada

อีจงซอก
อีจงซอก

ลูกรักพระเจ้าตัวจริง แฟชั่นเขียว-ส้มก็ทำอะไรไม่ได้ แถมลุคใหม่ผมสั้นของ อีจงซอก ก็ทำเอาแฟนคลับเซอร์ไพร้ส์ เพราะเจ้าตัวไว้ผมยาวมาพักใหญ่ จนปรากฏตัวในงานเปิดตัวดิจิทัลคอลเล็คชั่นเสื้อผ้าผู้ชายของ Prada 

เมื่อวานนี้ 20 มิถุนายน 2564 นักแสดงชื่อดังของเกาหลีใต้ อีจงซอกเข้าร่วมงานเปิดตัวดิจิทัลคอลเล็คชั่นเสื้อผ้าผู้ชาย Prada Spring/Summer 2022 menswear collection เป็นครั้งแรก ด้วยลุคหล่อเท่ แม้แต่สีแซ่บๆ ก็เอายู่ พระเอกหนุ่มเลือกสวมแจ็คเก็ตสีเขียวเข้มรุ่น Oversized nappa leather bomber jacket ราคาประมาณ 207,500 บาท พร้อมกับถุงมือหนัง Nappa สีส้มจัดจ้าน ราคาประมาณ 35,500 บาท ทำให้ลุคออกมามีความเป็นไฮแฟชั่นตามสไตล์หนุ่ม Prada จริงๆ

ซึ่งเจ้าตัวก็ได้โพสต์ภาพและข้อความถึงแฟชั่นโชว์ในครั้งนี้ว่า “คอลเล็คชั่นของ Prada จะร่วมบริจาคเพื่ออนุรักษ์สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในท้องทะเล เราหวังว่าคุณจะสนุกกับการแสดงแฟชั่นโชว์ menswear SS22 โดย Prada ซึ่งเป็นสปอนเซอร์สำคัญของมูลนิธิ MEDSEA”

เขียวตัดส้มก็หล่อ! ‘อีจงซอก’ ลุคใหม่ผมสั้น ใส่แจ็คเก็ตตัวละ 2 แสน ชมโชว์ Prada

'อีจงซอก' ลุคใหม่ผมสั้น ชมโชว์ Prada

'อีจงซอก' ลุคใหม่ผมสั้น ชมโชว์ Prada

'อีจงซอก' ลุคใหม่ผมสั้น ชมโชว์ Prada

อีจงซอก

อีจงซอก


ภาพ : IG@jongsuk0206

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สวยแรงแพงทะลุเมฆ! กระเป๋า Hermes ‘จอร์จิน่า โรดริเกซ’ ภรรยาโรนัลโด้

ซีทรูเซ็กซี่ระดับสิบ! ลุคล่าสุด ‘เมแกน ฟ็อกซ์’ ตัวแม่แห่งฮอลลีวู้ด

ดีไซน์สวย ราคาดี! กระเป๋า Joy Gryson ‘ฮันโซฮี’ แบรนด์นี้นางเอกซีรีส์เกาหลีต้องถือ

เลอโนโว เปิดตัว Lenovo IdeaPad Slim 3i/3 แล็ปท็อปอัจฉริยะที่มาพร้อมเทคโนโลยีเพื่อการเรียนและการทำงานสำหรับ next normal

  • Lenovo IdeaPad Slim 3i/3 มาพร้อม Smart Learning ฟีเจอร์ช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้งานแล็ปท็อปเพื่อการเรียนและการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 18 มิถุนายน 2564  – เลอโนโว บริษัทผู้นำด้านคอมพิวเตอร์และสมาร์ทดีไวซ์ระดับโลก เปิดตัวผลิตภัณฑ์แล็ปท็อป Lenovo IdeaPad Slim 3i/3 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพของผู้ใช้งานทั้งเพื่อการศึกษา และการทำงาน ด้วยรูปทรงเครื่องที่เพรียวบาง กระทัดรัด แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน ทำให้สามารถพกพาไปใช้งานได้ทุกที่ ตอบสนองทุกการใช้งานด้วยโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุด มาพร้อมหน่วยความจุ ความจำที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุค next normal

ให้ประสิทธิภาพการประมวลผลด้วยตัวเลือกโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุดอย่าง 11th Gen Intel® Core™ หรือ AMD Ryzen™ 5000 Series ตัวเครื่องมาพร้อมหน่วยความจำเริ่มต้น 8 GB แบบ PCle NVMe Solid-State Drive (SSD) และขยายพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงสุดได้ถึง 1 TB

ฝาเลื่อนปิดกล้องเพื่อความเป็นส่วนตัว Privacy shutter

IdeaPad Slim 3i/3 มาพร้อมฟังก์ชั่นด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวแก่ผู้ใช้งาน อาทิฟังก์ชั่น สแกนลายนิ้วมือเพื่อล็อคอินเข้าเครื่องบนปุ่มเปิด-ปิด และยังเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้กล้องเว็บแคมด้วยฟังก์ชั่น Privacy Shutter ที่สามารถควบคุมการเปิด-ปิดกล้องได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัส ตัวกล้องเว็บแคมมาพร้อมความละเอียด 720 พิกเซล อีกทั้งเพิ่มความสะดวกให้การใช้งานในที่ที่มีแสงน้อยด้วยคีย์บอร์ดแบบ Backlit

ระบบสแกนลายนิ้วมือเพื่อล็อกอิน

คุณธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการเลอโนโว ประจำภูมิภาคอินโดจีน กล่าวว่า “Lenovo IdeaPad Slim 3i/3 ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในยุคปัจจุบันที่การทำงาน และการเรียนจากที่บ้านเป็นเรื่องที่ถูกปฏิบัติมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของหน่วยความจำ หรือหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ที่ช่วยให้การใช้งานสามารถทำได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้ทุกการใช้งานทำได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเหล่านี้คือความมุ่งมั่นของเลอโนโวในการสร้างเทคโนโลยีอันชาญฉลาดเพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงาน การเรียน และไลฟ์สไตล์ของผู้คนทั้งในส่วนของเอ็นเตอร์เทรนเม็นท์และสมาร์ท ลีฟวิ่ง”

นอกจากนี้ เลอโนโวยังได้มีการเปิดตัวแคมเปญส่งเสริมการเรียนรู้ Smart Learning ควบคู่กับแล็ปท็อป  IdeaPad Slim 3i/3 เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้แก่ผู้ที่กำลังเรียนออนไลน์หรือทำงานแบบออนไลน์ โดยเน้นการใช้งานจากฟังก์ชั่นและฟีเจอร์ที่โดดเด่น อาทิ ขอบจอบาง 4 ด้าน รับประสบการณ์การมองจอที่กว้างยิ่งกว่าเดิม ด้วยจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้วแบบ FHD คมชัดทุกรายละเอียด ปรับระดับความสว่างสูงสุดถึง 300 นิต และด้วยลักษณะตัวเครื่องที่บางกะทัดรัด ทำให้การพกพาเป็นเรื่องง่าย

ด้วยความเป็นสมาร์ทดีไวซ์ของ IdeaPad Slim 3i/3 ตัวเครื่องได้รับการพัฒนาซอฟต์แวร์อัจฉริยะอย่าง Lenovo Aware ที่จะแจ้งเตือนเมื่อผู้ใช้งานนั่งผิดสรีระ หรือมีระยะการมองจอที่ใกล้จนเกินไป เพื่อปรับปรุงท่าทางการนั่งทำงานให้ถูกต้อง ปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Break reminder ที่จะช่วยเตือนให้ผู้ใช้งานหยุดพักการใช้งานแล็ปท็อปเมื่อใช้งานไปได้ขณะหนึ่ง อัจฉริยะยิ่งขึ้นเมื่อมีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนรอบข้างอย่าง noise-cancelling ลดการรบกวนจากเสียงภายนอกระหว่างกำลังเรียนออนไลน์

ภายใต้แคมเปญ Smart Learning นอกจากที่ผู้ปกครองจะได้สัมผัสประสบการณ์ความอัจฉริยะของตัวแล็ปท็อป ยังสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการใช้งานได้ทางเลอโนโวออนไลน์ และยังเป็นแนวทางในการเลือกใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆให้เหมาะสมกับการใช้งานของบุตรหลานของท่าน เพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ

IdeaPad Slim 3i/3 มาพร้อมระบบปฏิบัติการณ์ Windows 10 Home(มีเฉพาะบางรุ่นเท่านั้น), Microsoft Office Home & Student 2019(มีเฉพาะบางรุ่นเท่านั้น) ตัวเครื่องได้รับการรับประกันสูงสุด 2 ปี Premium Care บริการแบบพรีเมี่ยมที่จะช่วยดูแลเครื่องของคุณให้ใช้งานได้ราบรื่น การรับประกันพรีเมี่ยมแคร์ประกอบด้วยการบริการสายด่วนถึงช่างเทคนิคโดยตรงตลอด 24 ชั่วโมง/ทุกวัน ครอบคลุมไปถึงการตรวจเช็คฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมถึงการตรวจเครื่องประจำปี ซึ่งมีความสำคัญต่อการบำรุงรักษาอุปกรณ์ของท่านในระยะยาว

ราคาและการจัดจำหน่าย

  • Lenovo IdeaPad Slim 3i หน่วยประมวลผล 11th Gen Intel® Core™ processors ราคา 18,990 บาท พร้อมจำหน่ายที่ตัวแทนจำหน่ายทุกสาขา
  • Lenovo IdeaPad Slim 3 หน่วยประมวลผล AMD Ryzen™ 5000 Series ราคาเริ่มต้น 15,990 บาทพร้อมจำหน่ายที่ตัวแทนจำหน่ายทุกสาขา

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลอโนโวที่ https://www.facebook.com/LenovoTH หรือhttps://www.lenovo.com/th/th/ideapad

สื่ออังกฤษเลือก พิมรี่พาย ติด 1 ใน 6 “เลือกที่จะท้าทาย” ฉลองวันสตรีสากล 2021

account_circle

ไปไกลระดับนานาชาติ Mintel เว็บไซต์จากประเทศอังกฤษเลือก พิมพี่พาย “พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์” ติด 1 ใน 6 จากหัวข้อ “Choose to Challenge” (เลือกที่จะท้าทาย) เฉลิมฉลองวันสตรีสากล 2021

สื่ออังกฤษเลือก พิมรี่พาย ติด 1 ใน 6 “เลือกที่จะท้าทาย” ฉลองวันสตรีสากล 2021

จัดว่าเป็นอินฟลูเอนเซอร์แห่งยุคที่ขยับตัวทำอะไรโซเชียลเป็นต้องสะเทือนสำหรับ พิมรี่พาย “พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์” แม่ค้าออนไลน์ฝีปากกล้า แต่นอกจากเธอจะดังระเบิดระเบ้อ ดังเป็นพลุแตกในประเทศไทยแล้ว

ล่าสุดพิมรี่มีชื่อไกลถึงต่างประเทศเมื่อ mintel.com ข่าวเว็บไซต์เกี่ยวกับผู้บริโภคและอุตสาหกรรม เทรนด์ยอดนิยม และมุมมองของตลาด ได้จัดอันดับผู้หญิงในอุตสาหกรรมออนไลน์ในห้วข้อ  “Choose to Challenge” (เลือกที่จะท้าทาย) เพื่อเฉลิมฉลองวันสตรีสากล 2021

โดยให้นักวิเคราะห์ Mintel ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจากออฟฟิศทั่วโลก ซึ่งในส่วนของประเทศไทยคือ พงษ์สงวน จิรเดชากุล (วุน) นักวิเคราะห์อาวุโส ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค ได้บรรยายถึงพิมรี่ว่า

พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ (พิมรี่พาย) – แม่ค้าออนไลน์และอินฟลูเอนเซอร์
เมื่อความรับผิดชอบต่อสังคม กลายเป็นเพียงแค่สิ่งที่ต้องทำใน To do list สำหรับหลายองค์กร แต่ก็มีบางคนที่รู้สึกอยากจะทำอย่างเป็นธรรมชาติ เช่น พิมรี่พายอินฟลูเอนเซอร์ อายุ 30 ปีที่ เปิดตัวสู่บนโลกออนไลน์ในฐานะแม่ค้าออนไลน์
พิมรี่พายได้รับความนิยมจากบุคลิกที่กล้าหาญ เข้มแข็ง และตรงไปตรงมาของเธอในฐานะผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์ เริ่มต้นด้วยการขายทุกอย่างตั้งแต่น้ำพริกไปจนถึงเครื่องสำอางผ่านการสตรีมสดในช่องออนไลน์ของเธอ พิมรี่พายได้รับชื่อเสียงในการใช้ภาษาที่ตรงไปตรงมาแต่จริงใจในการมีส่วนร่วมกับผู้ชมของเธอ ซึ่งเธอชนะใจเธอด้วยความจริงใจและซื่อสัตย์ วันนี้เธอมีผู้ติดตามมากกว่า 3 ล้านคนในช่อง YouTube ของเธอ
ไม่เพียงแค่ขายของเท่านั้น พิมรี่พายยังเป็นที่รู้จักในนามผู้ใจบุญอีกด้วย ในวันเด็ก เดือนมกราคม พ.ศ. 2564 เธอได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเกี่ยวกับการบริจาคสิ่งของให้กับเด็กด้อยโอกาสในอำเภออมก๋อย ซึ่งอยู่ห่างจากเชียงใหม่ 300 กิโลเมตร ซึ่งล้าหลังและกันดารกว่าส่วนอื่นๆ ของประเทศ ผู้คนที่นั่นอาศัยอยู่ในความยากจน ไม่มีไฟฟ้า และการศึกษาก็อยู่ไกลเกินเอื้อม พิมรี่พายบริจาคเงิน 550,000 บาท เพื่อจัดหาแผงโซลาร์เซลล์ รองเท้า แปลงผัก และโทรทัศน์จอใหญ่ เป้าหมายของเธอคือการพาพวกเขาออกไปสู่โลกภายนอกซึ่งหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาฝันใหญ่และทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต
พิมรี่พายยังเป็นตัวอย่างที่กล้าหาญในการแสดงออก มิวสิควิดีโอเพลงใหม่ของเธอ “อย่านะคะ” แปลว่า “อย่า” เล่าถึงความยากลำบากในชีวิตของเธอ และแสดงให้เห็นว่าเธอไม่สนใจเกี่ยวกับแง่ลบที่คนอื่นมีต่อเธอ
การกระทำของพิมรีพายเป็นการเรียกร้องให้ผู้คนเคารพตนเอง เธอเป็นผู้หญิงที่สร้างแรงบันดาลใจไม่เพียงแต่กับผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทุกคนจากทุกมิติของชีวิต ยอมรับในตัวเราเองและทำสิ่งที่ดีเพื่อโลก
ชารอน ชูเตอร์ ผู้ก่อตั้ง UOMA Beauty
ขณะเดียวกันสตรีอีก 5 คนนั้นอินฟลูเอนเซอร์ นักสังคมเคราะห์ และ นักธุรกิจไม่ว่าจะเป็น ชารอน ชูเตอร์ ผู้ก่อตั้ง UOMA Beauty กับเปิดตัวแคมเปญ ‘Pull Up For Change’ และ #PullUpOrShutUp ในช่วงฤดูร้อนปี 2020 เพื่อเรียกร้องให้แบรนด์ความงามเปิดเผยจำนวนพนักงานผิวดำที่พวกเขามี รวมถึงขับรณรงค์ในเรื่อง #BlackLivesMatter
Caroline Cotto และ Claire Schlemme  ผู้ก่อตั้ง Renewal Mill
Djamila Ribeiro  นักเคลื่อนไหว นักเขียน และนักปรัชญาทางสังคม
Caroline Cotto และ Claire Schlemme  ผู้ก่อตั้ง Renewal Mill ผลิตภัณฑ์อาหารจากธรรมชาติ จาก สหรัฐอเมริกา, Djamila Ribeiro  นักเคลื่อนไหว นักเขียน และนักปรัชญาทางสังคม จากบราซิล
Rina Ishii ผู้ก่อตั้ง Nagi และ CEO ของ BLAST Inc.
Magdalena Kubit  ผู้บริหาร Jogurty Magda
Rina Ishii จากญี่ปุ่น ผู้ก่อตั้ง Nagi และ CEO ของ BLAST Inc. แบรนด์ชุดชั้นใน โดยทางแบรนด์มุ่งเน้นการใช้อินสตาแกรม และ ทวิตเตอร์ เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้ติดตาม โดยครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ตั้งแต่ประเด็นทางสังคม สุขอนามัยของประจำเดือน ไปจนถึงสุขภาพทางเพศทำให้ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงสามารถพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อที่ปกติห้ามในญี่ปุ่นได้ ปิดท้ายที่ Magdalena Kubit  ผู้บริหาร Jogurty Magda นักธุรกิจหญิง ผู้ก่อตั้งแบรนด์โยเกิร์ตชื่อดังในประเทศโปแลนด์

ที่มา : www.mintel.com, พิมรี่พาย

ภาพ : @pimrypie (Instagram)

สวย เก่ง รอบด้าน ธัญญ่า เจียรวนนท์ หลานสาวคนแรกของ เจ้าสัวธนินท์ แห่ง CP

ไขความรวยและรายได้ของ เก๋ไก๋สไลเดอร์ ยูทูบเบอร์หญิงอันดับหนึ่ง

เปิดใจ เบส-รักษวนีย์ ยูทูบเบอร์-นางเอกน้องใหม่ ความสามารถสุดปัง

แพทย์เตือน ตรวจหาเชื้อ “โควิด-19” ต้องใช้วิธี “rt-PCR” เท่านั้น

กรมการแพทย์เตือน ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ต้องวิธี rt-PCR เท่านั้น ที่ใช้ยืนยันเข้ารักษาได้

Alternative Textaccount_circle
แพทย์เตือน ตรวจหาเชื้อ “โควิด-19” ต้องใช้วิธี “rt-PCR” เท่านั้น
แพทย์เตือน ตรวจหาเชื้อ “โควิด-19” ต้องใช้วิธี “rt-PCR” เท่านั้น

กรมการแพทย์ เตือนการตรวจหาเชื้อ COVID -19 ที่ใช้ยืนยันการเข้ารักษาในโรงพยาบาล ต้องเป็นการตรวจที่ใช้ “วิธี rt-PCR” เท่านั้น

อธิบดีกรมการแพทย์ เตือนการตรวจหาเชื้อจากคลินิก Lab เอกชนที่ไม่ได้การรับรองมาตรฐานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือ ด้วยวิธีที่อื่นที่ไม่ใช่ “วิธี rt-PCR” จะไม่สามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์ได้อย่างทันที เนื่องจากมีโอกาสเกิดผลบวกลวง (เป็นการตรวจวินิจฉัยว่าติดเชื้อโดยไม่ติดเชื้อจริง) เมื่อรับเข้าไปนอนโรงพยาบาลรวมกับผู้ติดเชื้อ อาจทำให้กลายเป็นติดเชื้อไปด้วย

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มของแรงงาน พนักงานบริษัทเอกชน ห้างร้าน ทำให้บริษัทต่างๆ มีความต้องการให้แรงงานเข้ารับการตรวจหาเชื้อก่อนเข้าทำงาน จึงหันไปเข้ารับการตรวจจาก Lab เอกชน ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์สายด่วน 1668 พบว่าขณะนี้ผู้ที่โทรเข้ามาเนื่องจากต้องการหาเตียงนอนโรงพยาบาล มีจำนวนมากที่ได้รับการตรวจโดย Lab เอกชนที่ไม่ได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือ วิธีที่อื่นที่ไม่ใช่ “วิธี rt-PCR” แต่มีราคาถูกกว่า เช่น การเจาะเลือดตรวจแบบ Rapid test หรือการทำ swab หา Antigen ทำให้ทางศูนย์ 1668 หรือโรงพยาบาล จึงยังไม่สามารถจัดสรรเตียงให้ได้ทันที และต้องให้ผู้ที่ต้องการเตียงกลับไปตรวจด้วยวิธีมาตรฐานคือ rt-PCR ใหม่เสียก่อน ทำให้เสียเวลาและต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน

อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวต่อไปว่า ขอให้ผู้ประกอบการบริษัทเอกชนที่มีความประสงค์จะให้แรงงาน พนักงาน ตรวจโควิด-19 ก่อนเข้ารับงาน ติดต่อไปยังหน่วยงานสถานพยาบาลของรัฐ หรือหากจะตรวจโดยคลินิก Lab เอกชน ต้องขอหลักฐานการได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพในการเป็นหน่วยตรวจหาการติดเชื้อโควิด 19 และต้องแน่ใจว่าเป็นการตรวจแบบ “วิธี rt-PCR” ซึ่งจะช่วยให้การวินิจฉัยเป็นไปอย่างถูกต้องและสามารถใช้เป็นหลักฐานในการขอจัดสรรเตียงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

rt-PCR คือ Real-time PCR เป็นการตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัส COVID-19 ที่ทางองค์การอนามัยโลกแนะนำ เนื่องจากมีความไวและความจำเพาะสูง ทราบผลภายใน 24 ชั่วโมง* และสามารถตรวจจับเชื้อไวรัสในปริมาณน้อยๆ ได้ ในรูปแบบของสารพันธุกรรม ไม่ว่าจะเชื้อเป็น หรือเชื้อตาย โดยเก็บจากสารคัดหลั่งทางเดินหายใจส่วนบนของผู้สงสัยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงเป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับการตรวจวินิจฉัยโรค เพื่อการรักษาที่รวดเร็ว ตั้งแต่ระยะแรกของการเกิดโรค


ข้อมูล : กรมการแพทย์

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เซฟตัวเอง! เตรียมตัวก่อนและหลังฉีด “วัคซีนป้องกันโควิด-19” ควร-ไม่ควร ทำอะไร?

สรุปกินยา ไมเกรน ก่อนและหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้หรือไม่ เส้นเลือดจะหดตัวหรือเปล่า?

คลายประเด็นที่สตรีสงสัย! หากใช้ ยาคุมกำเนิด หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 เสี่ยงแค่ไหน

 

‘มีดวงพึ่งสายมู เพื่อที่เขาจะได้เป็นของคุณคนเดียว’ ดูดวงรายวัน 21 มิถุนายน 2564

ดูดวงรายวัน 21  มิถุนายน 2564 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘มีดวงพึ่งสายมู เพื่อที่เขาจะได้เป็นของคุณคนเดียว’

ดูดวงรายวัน 21 มิถุนายน 2564

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับการศึกษา เช่น ครูบาอาจารย์ นักวิชาการ โค้ชชิ่ง ไลฟ์ โค้ช ติวเตอร์ เทรนเนอร์ ฯลฯ มีความเป็นไปได้ว่าคุณจะได้ใช้ความรู้ ความสามารถ และทักษะในการเจรจา จะประนีประนอม ต่อรอง หรือประสานงาน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ก็นับว่าโชคดีตั้งแต่วันแรกของการทำงาน เพราะผลการเจรจาเป็นที่น่าพอใจ ทำให้คุณมีโอกาสได้เพื่อนร่วมทีมที่ดี

การเงิน  :  รายได้หลัก ณ ตอนนี้อยู่ที่งานประจำ ซึ่งคุณก็ยังมีทีมงานและผู้บังคับบัญชาที่ดีที่จะหาช่องทางสร้างรายได้ให้กับคุณ โดยที่วันนี้คุณยังมีรายจ่ายอยู่ที่การเข้าสังคม การเดินทางท่องเที่ยว และการลงทุนใหม่ๆ

ความรัก :  หากคุณต้องแบกรับเรื่องราวและปัญหาของสมาชิกในบ้านไว้จนหนักอึ้ง วันนี้มีความเป็นไปได้ที่คุณจะรับต่อไปไม่ไหวแล้ว ก็อาจต้องเชิญผู้ใหญ่ในครอบครัวมาตั้งวงปรึกษา เพื่อช่วยกันหาทางออก คนโสด ผู้ใหญ่ตั้งวงปรึกษากันเรื่องจะหาคู่เดทที่ไหนให้ถูกใจคุณ เพราะคุณตั้งสเปคคู่ไว้สูงมาก คนนั้นก็ไม่ดี คนนี้ก็ไม่ใช่

สุขภาพ  : จะมีอาการปวดตั้งแต่เอวลงไป รวมถึงตามข้อต่างๆ เช่น ข้อเข่า ข้อเท้า ซึ่งอาจเป็นข้อเสื่อม หรือกล้ามเนื้ออักเสบ หลีกเลี่ยงการยืนและเดินเป็นเวลานาน รวมถึงควรปรึกษาหมอกายภาพ เพื่อรับการบำบัด

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่มีกฏระเบียบเคร่งครัด แต่ขั้นตอนวุ่นวาย เช่น งานราชการ รัฐวิสาหกิจ งานธุรการ งานบัญชี โรงพยาบาล ฯลฯ เปิดทำงานวันแรกของสัปดาห์ มีความเป็นไปได้ที่คุณจะทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการทำงาน จนไม่เหลือเวลาให้กับตัวเองเลย ซึ่งวันนี้มีโอกาสที่คุณจะได้ใช้ความรู้ ความสามารถ และความฉลาดขั้นเทพให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็ควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วย แทนที่จะยึดอยู่แต่ประโยชน์ของเพื่อนพ้องน้องพี่ของตัวเอง เพราะคุณจะได้ทำงานอย่างไม่มีอคติ

การเงิน : มีความสามารถในการจัดระบบการเงินของตัวเองได้ดี แต่ติดตรงที่คุณชอบช่วยเหลือคนอื่นมากจนตัวเองเดือดร้อน วันนี้ยิ่งไม่ควรหลงเชื่อคำพูดที่มีหลักการและเหตุผล ที่จะขอให้คุณช่วยเหลือ หรือทำธุรกิจ เพราะจะทำให้คุณถูกมิจฉาชีพหลอก หรือถูกโกง

ความรัก : ช่วงนี้งานก็จะยุ่งๆ หน่อย  จนคุณไม่มีเวลาให้กับครอบครัวเลย ซึ่งคู่คุณก็เป็นคนที่ยึดมั่นในหลักการและเหตุผล และอยู่ในขนบธรรมเนียมประเพณีเป๊ะมาก เพราะฉะนั้นหากคุณจะให้เขาช่วยดูแลครอบครัวแทน วันนี้ต้องมีเหตุผลมากพอมาสนับสนุน เขาจึงจะเชื่อ คนโสด คุณอาจกำลังเฝ้ามองพฤติกรรมของเพื่อนร่วมงานที่เป็นหนุ่มตี๋ฉลาดขั้นเทพอยู่เงียบๆ เพื่อตัดสินใจว่า จะรับเขาเป็นแฟนดีไหม เพราะจริงๆ แล้วคุณยังหวงความเป็นโสดอยู่ หากได้คนไม่ดี ก็จะได้ไม่ต้องจริงจัง

สุขภาพ  : คุณจริงจังและเครียดกับทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิต ซึ่งจะส่งผลให้คุณปวดศีรษะอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจ และระบบเส้นเลือด รวมถึงโรคผิวหนังด้วย

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่มีกฎระเบียบเป๊ะ แต่มีขั้นตอนมากมาย เช่น หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ งานธุรการ งานบัญชี งานโรงพยาบาล ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณอยู่ในตำแหน่งที่ต้องติดต่อประสานงาน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรืองานที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญทางด้านภาษาด้วยแล้ว มีความเป็นไปได้ที่เปิดงานวันแรกของสัปดาห์ คุณจะได้เริ่มต้นงานใหม่ หรือได้พบช่องทางทำมาหากินใหม่ๆ หรือหากกำลังเหน็ดเหนื่อยกับการสร้างสรรค์ผลงานมาเป็นเวลานาน วันนี้ถึงเวลาที่คุณจะได้ชื่นชมกับความสำเร็จเสียที

การเงิน : มีความมั่นคง ประหยัด และอดออม แต่จะมาพลาดตรงที่คุณเชื่อคนง่าย ยิ่งหากมีหลักการและเหตุผล คุณยิ่งคล้อยตาม มีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ง่าย วันนี้ต้องระวังคนรักหรือคนใกล้ชิดไว้ให้ดี

ความรัก : วันนี้คุณเดินทางมาถึงจุดที่อยู่กันอย่างเงียบๆ ชิลๆ ต่างคนต่างมีพื้นที่ของตัวเองมากกว่าจะแสดงความรักกัน ประมาณอยู่ห่างๆ แบบห่วงๆ  คนโสด คุณแอบหลงรักใครอยู่หรือเปล่าคะ แต่ก็ยังกล้าๆ กลัวๆ อยู่ เพราะรอยแผลจากความผิดหวังครั้งที่แล้วยังสดอยู่ ก็ไม่ต้องรีบร้อน เพราะเขาก็มีโลกส่วนตัวสูง

สุขภาพ  : ควรระวังตัวให้ดี ขับรถอย่างมีสติ ดื่มแล้วไม่ขับ เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาหากประมาท ในกรณีเบาสุดคือ เดินชนนั่นนี่ จนเกิดแผลฟกช้ำดำเขียว

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  คุณมีความเป็นจิตอาสา จึงมีความเป็นไปได้ที่คุณจะรับอาสาเจ้านายไปทำงานที่อ่อนไหว เสี่ยงต่อความผิดพลาดสูง ก็ควรระวังตัวด้วย เพราะวันนี้ดวงบริวารของคุณไม่ดี มีความเสี่ยงที่จะถูกทรยศหักหลังได้ง่ายๆ โดยเฉพาะหากคุณกำลังใช้ทักษะ ความสามารถของคุณเพื่อเริ่มต้นงานใหม่ หรือโยกย้ายเปลี่ยนแปลงไปอยู่ในหน่วยงานที่มีความมั่นคงมากขึ้นด้วยแล้ว คุณอาจเจอดราม่า เช่น ถูกแทงข้างหลัง หรือแอบเลื่อยขาเก้าอี้คุณอยู่ก็ได้ ใครจะรู้ จึงควระวังไว้ก่อน

การเงิน : นอกจากจะเข้ามือขวาออกมือซ้ายแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่คุณจะได้รับผลตอบแทนที่ไม่เป็นธรรม ไปทวงหนี้ก็เจอลูกหนี้ประเภทไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ร้ายสุดๆ ก็ถูกขโมยทรัพย์สิน ต้องระวังตัวให้มากๆ

ความรัก : มีความเป็นไปได้ที่จะมีมือที่สามเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตคู่ของคุณ ก็ทำใจร่มๆ นะคะ เพราะเป็นความสัมพันธ์แบบฉาบฉวย เป็นความหลงชั่วครู่ชั่วยาม เดี๋ยวก็ผ่านไป   คนโสด  มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดปัญหามือที่สาม หรือไม่คุณก็เป็นมือที่สามเสียเอง แต่ก็เป็นแค่ความหลงในรูปกายภายนอก ไม่ได้คิดที่จะคบจริงใจ

สุขภาพ : คาดว่าจะมีปัญหาลำไส้อักเสบ ระบบย่อยอาหาร ทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จนถึงเป็นโรคกระเพาะ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  มีความเป็นไปได้ที่คุณจะเครียดตั้งแต่วันแรกของสัปดาห์เลยทีเดียว เพราะจะถูกเจ้านายกดดันให้ใช้ความรู้ ความสามารถ ทำงานมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งวันนี้คุณจะรู้สึกร้อนรุ่ม อึดอัดไปหมด ทั้งบรรยากาศการทำงาน เพื่อนร่วมงาน และเจ้านาย จนอยากลาออกให้รู้แล้วรู้รอดไป ใจเย็นๆ ค่ะ ช่วงนี้คงต้องใช้ความอดทนให้มาก รอคอย จังหวะและโอกาส รวมถึงเซ้นส์ เพราะวันนี้แม่นพอๆ กับหมอดูเลยทีเดียว แต่ไม่ควรปล่อยให้โทสะหรือโมหะเข้าครอบงำ เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายมากมายขึ้นได้ในภายหลัง

การเงิน : แม้คุณจะเดือดร้อนเรื่องเงิน หรือต้องเหนื่อยกับการหมุนเงินโปะนั่นปะนี่แค่ไหน แต่ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง เพราะยิ่งจะทำให้เดือดร้อนหนักขึ้นไปอีก

ความรัก : อย่าเพิ่งวางใจในตัวคู่ที่ปฏิบัติต่อคุณอย่างดีนะคะ เพราะวันนี้คุณมีดวงที่จะมีปัญหาเรื่องมือที่สาม หึงหวง และปรับความเข้าใจไม่ได้ด้วย ก็มีโอกาสมาถึงจุดที่ใครก็ห้ามคุณไม่ได้ด้วย คนโสด  หากจิตใจคุณกำลังร้อนรุ่มด้วยความหึงหวง วันนี้คุณอาจกำลังคิดที่จะพึ่งสายมูเตลู เพื่อให้คนนั้นเป็นของคุณคนเดียว

สุขภาพ : อย่าเครียด ปล่อยวางบ้างนะคะ เพราะความเครียดจะมีผลต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้การทำงานของกระเพาะแปรปรวน ซึ่งหากคุณเครียดสะสม มีความเสี่ยงที่เนื้อดีจะกลายเป็นเนื้อร้ายได้

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องติดต่อประสานงาน การบริหารจัดการ การให้คำปรึกษาแนะนำในด้านต่างๆ  จากที่คุณมีอีโก้หนักๆ กล้าได้กล้าเสียอย่างน่ากลัว  แต่วันนี้คุณจะแผ่วลงอย่างน่ากลัวเช่นกัน  จนกลายเป็นความเฉื่อยชาตั้งแต่เริ่มต้นวันแรกของสัปดาห์ ก็อยู่ในสภาพนี้ได้ไม่นาน เดี๋ยวทีมงานที่เป็นผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายจะจุดไฟให้คุณเอง

การเงิน : คุณเป็นนักลงทุน ชอบเสี่ยงจนน่ากลัว แต่เพราะได้ผู้ร่วมงานและผู้บังคับบัญชาที่ดีจึงช่วยประคับประคองกันไปได้

ความรัก :  คุณคาดหวังถึงชีวิตคู่ไว้อย่างดีงาม แต่วันนี้มีโอกาสที่จะไม่เป็นอย่างที่หวังไว้ เพราะด้วยทัศนคติในการใช้ชีวิตคู่ที่ต่างกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะทำอะไรจึงกลายเป็นปัญหาไปหมด จนผู้ใหญ่ต้องตั้งวงให้คำปรึกษา  คนโสด คุณโรแมนติก และวาดฝันถึงความรักอย่างสวยสดงดงาม แต่วันนี้มีความเป็นไปได้ที่จะถูกผู้ใหญ่ดับฝัน เพราะกำลังจัดสรรคู่ให้คุณอยู่

สุขภาพ : อวัยวะที่คุณต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษคือ หัวใจ และโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจทุกประเภท และความเครียดกับการกดดันตัวเอง จนถึงขั้นเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่อยากไปพบเจอใครเลย

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : เริ่มต้นวันแรกของสัปดาห์ มีความเป็นไปได้ที่คุณจะตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องทำงานที่นอกเหนือจากที่ตกลงกันไว้ หรือตกเป็นแพะรับบาป ต้องรับผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ทางที่ดีวันนี้คุณควรใช้ปฏิภาณ ไหวพริบ และความคล่องตัวของคุณ ทำงานเพื่อเอาตัวรอดจากความเสียหายและความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น แม้จะต้องใช้เวลานาน แต่ผลตอบแทนที่ได้รับก็ถือว่าคุ้มค่า

การเงิน : ดวงการเงินดี แม้ไม่ต้องทำงานหนัก แต่ก็มีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ วันนี้ก่อนจะควักกระเป๋าจ่ายเงิน ควรมีสติ เพราะมีโอกาสที่คุณจะสูญเงินโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นอกจากนั้นก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินที่ไม่ถูกต้อง หรือการเสี่ยงโชค จะมีผลให้หน้าที่การงานของคุณมัวหมอง

ความรัก : วันอื่นไม่รู้ แต่วันนี้คู่คุณจะเข้าใจคุณเป็นอย่างดี ยอมตามใจทุกอย่าง ว่าอย่างไรว่าตามกัน แต่เพราะมีข่าวแซะมาว่า คู่คุณแอบมีกิ๊ก จะเป็นเพราะเหตุผลนี้หรือเปล่าที่ทำให้เขายอมคุณ คนโสด เสน่ห์ก็ยังคงอยู่กับคุณ ยิ่งวันนี้มีโอกาสได้พบคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกัน ก็คงต้องฟาดกันหน่อย

สุขภาพ :  วันนี้ต้องระวังเรื่องการรับประทานเลยล่ะ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่สดสะอาด สุกๆ ดิบๆ รสชาติแซ่บเว่อร์ เพราะมีความเสี่ยงที่ท้องไส้คุณจะมีปัญหา ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ จนถึงลำไส้อักเสบ

 

 

วีระศักดิ์  วิจิตร์แสงศรี

เดิมพันด้วยชีวิต ฝ่าวิกฤติโควิด-19 วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.สมุทรสาคร

Alternative Textaccount_circle
วีระศักดิ์  วิจิตร์แสงศรี
วีระศักดิ์  วิจิตร์แสงศรี

ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ที่คนทั่วโลกและประเทศไทยต้องเผชิญ หนึ่งในข่าวที่บีบหัวใจคนไทยเมื่อปลายปีที่แล้วคือ วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ที่ตะลุยทำงานรับมือการแพร่ระบาดของโควิดในคลัสเตอร์ตลาดกุ้ง กระทั่งติดเชื้อและอาการโคม่าอยู่หลายวัน

42 วันที่ชีวิตของผู้ว่าฯปูอยู่ระหว่างความเป็นความตาย  และอีก 40 วันที่ใช้เวลาในการฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรง  กระทั่งเราได้รับข่าวดี  “ผู้ว่าฯปูกลับมาแล้ว”  พร้อมเรื่องราวการทำงานสู้รบปรบมือกับโควิดในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด  ประสบการณ์การเป็นผู้ป่วยขั้นวิกฤติ ตลอดจนแนวทางการทำงานที่ผ่านมาของผู้ว่าฯที่ยึดมั่นว่า“ปัญหาของชุมชนไม่ได้มีแค่ในเวลาราชการ…ตรงไหนมีปัญหา  ตรงนั้นคือที่ทำงานของผม  เพราะทุกที่คือที่ทำงาน”

เดิมพันด้วยชีวิต ฝ่าวิกฤติโควิด-19 วีระศักดิ์  วิจิตร์แสงศรี ผวจ.สมุทรสาคร

วีระศักดิ์  วิจิตร์แสงศรี

ขอแสดงความยินดีกับผู้ว่าฯปูอีกครั้งที่หายป่วยและกลับมาทำงานเป็นปกติสุขภาพช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ

“ดีขึ้นเยอะครับ  เดือนแรกที่กลับมาผมเน้นทำงานแบบเวิร์คฟรอมโฮมเป็นหลัก  ผ่านไปสองเดือนผมก็กลับมาทำงานที่ศาลากลางได้แล้ว  แต่ยังลงพื้นที่มากเท่าแต่ก่อนไม่ได้  ความจริงคุณหมอสั่งห้ามลงพื้นที่เลย  เพราะยังไม่แข็งแรงเต็มที่  เนื่องจากผมจะติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนทั่วไป แต่พอลงมือทำงานจริงๆแล้วได้เห็นความเดือดร้อนของชาวบ้านก็อยากเข้าไปช่วย  จนคุณหมอต้องโทร.มาเตือนอยู่บ่อยครั้งว่าช่วยอยู่ประจำที่ศาลากลางด้วย  อย่าเพิ่งลงพื้นที่ (หัวเราะ) ก็ต้องขอบคุณในความห่วงใยของคุณหมอครับ  ถึงสุขภาพร่างกายผมจะยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้ก็ประมาณ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ได้แล้ว  แค่รอดชีวิตกลับมาทำงานที่เรารักและภูมิใจ  รวมถึงกลับมาช่วยเหลือประชาชนได้  ก็ถือว่ายิ่งกว่าปาฏิหาริย์แล้วครับ”

ย้อนเล่าถึงเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสมุทรสาครเมื่อปลายปีที่แล้วอีกครั้งนะคะว่า  ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น  แล้วท่านติดโควิดมาได้อย่างไร

“อย่างที่รู้กันว่าตอนนั้นเกิดการระบาดของโควิดที่ตลาดกุ้ง  ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหม่ในเมืองไทย  และมีจำนวนคนที่ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ  มีปัญหา
ประดังเข้ามาหลายอย่าง  ผมจึงต้องตระเวนไปดูหลายที่  อย่างตลาดกุ้งก็ไป 2 – 3ครั้ง  เพื่อทำความสะอาด  นำทีมไปเจรจากับทางทูตพม่า  ไปเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตามด่านต่างๆ  ไปแจกของและให้กำลังใจตามชุมชน  ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อก็เพิ่มสูงขึ้นเป็นหลักพัน  เราจึงต้องทำงานแข่งกับเวลาในการคัดแยกผู้ป่วย  ซึ่งปริมาณผู้ป่วยขนาดนี้  โรงพยาบาลไม่พอแน่นอน  ผมจึงเร่งจัดตั้งโรงพยาบาลสนามที่ใช้ชื่อว่า ‘ศูนย์ห่วงใยคนสาคร’  ตอนแรกมองไว้หลายแห่ง  อย่างสวนน้ำพันท้ายนรสิงห์ที่ว่างอยู่  เจ้าของที่ก็โอเคแล้ว  แต่ชุมชนแถวนั้นต่อต้าน  กลัวจะนำเชื้อโรคเข้าไปใกล้เขา  ผมใช้เวลาเจรจาอยู่นาน  แต่ที่สุดเจ้าของที่เปลี่ยนใจปฏิเสธ  จึงต้องย้ายมาที่มหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ  แต่ก็เจอปัญหาชาวบ้านรอบข้างรวมตัวกันประท้วง  ไม่ยอมให้ใช้สถานที่อีก”

“ที่สุดผมตัดสินใจใช้บริเวณหน้าบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัด  ซึ่งเป็นสนามกีฬาขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็น ‘ศูนย์ห่วงใยคนสาคร’ แห่งแรก  เพราะตอนนั้นสถานการณ์ที่ตลาดกุ้งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เราต้องเร่งจัดโรงพยาบาลสนามให้เร็วที่สุด  ซึ่งสถานที่สาธารณะในสมุทรสาครค่อนข้างน้อย  อย่างตรงนี้ก็เป็นพื้นที่หลักของคนในพื้นที่  ทั้งออกกำลังกาย  เตะฟุตบอลเต้นแอโรบิก  จัดกิจกรรมต่างๆ  แต่เมื่อไม่มีทางเลือกและไม่มีเวลาแล้ว  ก็ต้องใช้พื้นที่นี้แหละ  ทีนี้ระหว่างตั้งศูนย์โรงพยาบาลสนาม  ผมก็คุยกับผู้เกี่ยวข้องว่าผมไปตรวจร่างกายก่อนดีกว่า  เผื่อติดโควิดขึ้นมาจะได้พูดได้ว่าเราติดเชื้อก่อนที่จะมาตั้งศูนย์นะ  ไม่ใช่ตั้งเสร็จแล้วเดี๋ยวคนจะหาว่าโรงพยาบาลสนามเป็นแหล่งแพร่เชื้อ”

ตอนนั้นท่านคิดว่าติดไหมคะ 

“ผมคุยกับทีมเลขาฯว่ามีสิทธิ์ที่จะติด  เพราะไปหลายพื้นที่  พบปะผู้คนเยอะแม้จะป้องกันอย่างดี  แต่ถือว่ามีความเสี่ยงสูง  แล้วช่วงนั้นผมพักผ่อนค่อนข้างน้อย  กลางวันลงพื้นที่เป็นหลัก  กลางคืนกลับบ้านแล้วค่อยมาเซ็นแฟ้มงานหรืออ่านเอกสาร  ความที่อายุราชการเหลือแค่ 2 – 3 ปีก็จะหมดแล้ว  ก็กะว่าจะทำงานให้เต็มที่  หลังเกษียณคงได้พักผ่อน  อีกอย่างคิดเองว่าต่อให้ติดโควิดขึ้นมาจริงๆคงใช้เวลาไม่นาน  10 – 14 วันก็น่าจะหายเหมือนคนส่วนใหญ่  ซึ่งต้องยอมรับว่าผมคิดผิด  แม้ผลตรวจจะออกมาเป็นอย่างที่คิด…แต่ไม่คิดว่าจะสาหัสขนาดนี้”

ตอนที่ทราบว่าติดโควิดแล้ว  อาการเป็นอย่างไรบ้างคะ

“วันที่ไปตรวจผมปกติดีทุกอย่างนะ  แค่รู้สึกอ่อนเพลียนิดหน่อย  แต่ปรากฏว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก  กลายเป็นว่าวันรุ่งขึ้นผมไม่รู้สึกตัวเลย  แล้วก็ไม่รู้เรื่องไปอีก 42 วันเต็มๆ  ไปโรงพยาบาลศิริราชได้อย่างไรก็ไม่รู้  มาทราบทีหลังว่าทีมศิริราชพาผมออกมา  ต้องเล่าว่าทีมแพทย์และพยาบาลของศิริราชมาช่วยทำงานเรื่องโควิดกับทางสมุทรสาครอยู่ก่อนแล้ว  พอผมทรุด  เขาจึงแยกผมออกมา  เพราะถ้าผมซึ่งเป็นผู้นำจังหวัดยังอยู่ในพื้นที่  จะทำให้คนทำงาน โดยเฉพาะโรงพยาบาลสมุทรสาครห่วงหน้าพะวงหลัง  ถ้าเอาผมออกมาเสีย คนทำงานก็จะได้ทำงานเต็มที”

ช่วงที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลหนักหนาแค่ไหน  ท่านพอจำอะไรได้บ้างไหมคะ

“ถ้าเป็นช่วง 42 วันที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ  ผมแทบจะไม่รู้ตัวเลย  มีบางครั้งที่สะลึมสะลือ  พอจำได้เป็นห้วงๆ  เช่น  ตอนพยาบาลนำข้อความของลูกสาวหรือภรรยามาอ่านให้ฟัง  หรือเวลาที่ รศ. นพ.นิธิพัฒน์  เจียรกุล (คุณหมอเจ้าของไข้) มาดูอาการและคอยส่งข่าวเรื่องโรงพยาบาลสนามว่าไปถึงไหนแล้ว จำได้ว่าคุณหมอบอกว่า  ‘ผู้ว่าฯไม่ต้องเป็นห่วง  ตอนนี้มีความก้าวหน้าเยอะแล้ว’ แต่ผมยังตอบโต้ไม่ได้”

“ตอนฟื้นขึ้นมา  คุณหมอเล่าให้ฟังว่าผมเป็นคนไข้ที่ดื้อมาก  มีหลายครั้งที่ทั้งดิ้นและกระชากสายน้ำเกลือ  สายให้เลือด  และสายออกซิเจน  จนในที่สุดทางทีมแพทย์และพยาบาลต้องยึดมือผมไว้กับนวมข้างเตียงไม่ให้ขยับ  ไม่อย่างนั้นจะเป็นอันตรายต่อตัวผมเอง  ซึ่งผมเป็นอย่างนี้อยู่นานมาก  จำได้เป็นห้วงๆว่า รู้สึกทรมานเหลือเกิน  จึงพยายามดิ้นรน  มีอยู่ครั้งหนึ่งจำได้ว่าผมทั้งปีนป่ายทั้งถีบ  จนกระทั่งเสาน้ำเกลือล้มลงมากระแทกกับเตียง  โชคดีมากที่ไม่หล่นใส่หัว”

ยังจำครั้งแรกที่รู้สึกตัวได้ไหมคะ 

“ผมรู้สึกตัวครั้งแรกตอนย้ายจากห้องความดันลบออกมาอยู่ที่ห้อง RCU หรือหออภิบาลดูแลเกี่ยวกับการหายใจของผู้ป่วยที่โรงพยาบาลศิริราชได้เกือบสัปดาห์ความคิดแรกที่แว่บเข้ามาคือ‘เรารอดมาได้อย่างไร’  เพราะตอนนั้นแขนขาผมลีบไปหมดทุกส่วนเลย  ดูแล้วไม่น่าจะเดินหรือทำอะไรได้อีกแล้ว  มีชีวิตอยู่ได้ยังไงยังไม่รู้เลย  พูดก็ไม่ได้  เพราะไม่มีท่อเสียง (เนื่องจากถูกเจาะคอเพื่อให้ออกซิเจน)  ไม่สามารถทานอาหารเองได้  ต้องฟีดอาหารผ่านสายยาง  แต่หลังจากนั้นอาการก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ  หลายฝ่ายรวมถึงครอบครัวช่วยนำข้อความให้กำลังใจที่ได้จากหลายฝ่ายหลายคนมาให้ดู  ทำให้ผมมีกำลังใจไปต่อได้”

“อีกอย่างผมรู้สึกโชคดีมากที่ทีมหมอและพยาบาลเก่งมาก  ทำให้ผมรอดมาได้  เพราะเท่าที่ฟังคุณหมอเล่า ทางแพทย์เองก็คาดเดาไม่ถูก  ต้องรักษาอาการไปแบบวันต่อวัน  แต่หลัก ๆคือโรคโควิดส่งผลต่อการทำงานของปอด  และผมก็ติดเชื้อแบคทีเรียที่ปอดด้วย  แถมยังมีอาการดื้อยาหลายชนิดแต่โชคดีที่ ศ. นพ.ประสิทธิ์  วัฒนาภา  คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้คุยกับทีมแพทย์ว่านี่เป็นเคสที่ท้าทายหมอและพยาบาลของศิริราชนะ  ให้ช่วยกันดู  เพราะคนไข้อาการหนักมาก  แต่ใจยังสู้  ประการต่อมาคือที่สมุทรสาครเป็นคลัสเตอร์ใหม่  ถ้าทำให้ผู้ว่าฯซึ่งถือว่าเป็นผู้นำของจังหวัดสามารถรอดพ้นอันตรายได้  ก็เหมือนเป็นกำลังใจให้คนทั้งจังหวัดด้วย  ซึ่งผมต้องขอขอบคุณทางศิริราชพยาบาลไว้ณ โอกาสนี้อีกครั้งครับ”

“สุดท้ายคือกำลังใจจากครอบครัวและคนรอบข้าง  อย่างน้ำหวาน ลูกสาวคนโต  คอยเป็นธุระให้ทุกอย่าง  มาคอยเฝ้าดูและตั้งไลน์กลุ่มเพื่อให้บุคคล
ภายนอกส่งกำลังใจมาให้  ทำให้ผมได้รับกำลังใจจากคนสมุทรสาครและคนไทยทั้งประเทศ  ทั้งหมดนี้ล้วนมีส่วนช่วยผลักดันและเป็นแรงเสริมทำให้ผมฮึกเหิมเอาชนะโรคร้ายมาจนได้”

หลังจากนั้นต้องมีการฟื้นฟูร่างกายอย่างไรบ้างคะ

“ที่ต้องฟื้นฟูหนักๆมี2 เรื่อง  จุดแรกคือปอดที่โควิดเข้าไปทำลายจน สูญเสียประสิทธิภาพการใช้งานไปค่อนข้างมาก  ตอนนั้นปอดผมทำงานได้แค่
30 – 40 เปอร์เซ็นต์  ต้องฝึกเรื่องการเป่าลม  เป่าลูกบอล  ฝึกการหายใจ  เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปในปอดเพิ่มมากขึ้น  และฟื้นฟูให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น  อย่างตอนนั้นให้ผมมาพูดแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ  แค่ลุกมานั่งอยู่ข้างเตียงได้2 นาทีก็จะเป็นลมแล้ว  เหนื่อยมากเลย  อาหารก็ต้องกินผ่านสายที่ต่อไว้กับคออยู่2 สัปดาห์  หลังจากนั้นจึงค่อยๆหัดกลืนอาหารเหลว  เริ่มจากโจ๊กปั่นก่อน  แล้วก็เป็นข้าวต้ม  จากนั้นจึงเป็นอาหารปกติ  ถัดมาคือการทำกายภาพบำบัด  ซึ่งต้องทำอย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่มีโอกาสหรือตามที่หมอสั่งให้ทำ  เช้า  กลางวัน เย็น  ซึ่งในภาวะที่เราไม่ค่อยมีแรงนั้น  ต้องอาศัยความพยายามและกำลังใจสูงมาก  อย่างที่บอกว่าแค่ลุกนั่งก็จะแย่แล้ว  แต่ถ้าเรามีวินัยและความพยายามในการทำกายภาพบำบัดให้มีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง  ก็สามารถทำให้ร่างกายกลับมาใช้งานมากขึ้นได้ในที่สุด  จนไม่น่าเชื่อว่าจากวันนั้นถึงวันนี้  ภายในเวลา50–60 วัน  ผมสามารถพูดได้  เดินได้  รับประทานอาหารได้เป็นปกติแล้ว”

สำหรับผู้ว่าฯ  โควิดครั้งนั้นให้บทเรียนอะไรบ้างคะ

“มีอยู่ 3 ประการนะ  อย่างแรกคือ  เรื่องกำลังใจ  อาจฟังดูเป็นนามธรรมก็จริง  แต่สิ่งนี้มีคุณค่ามหาศาล  สามารถทำให้เราเดินหน้า  ถอยหลัง  หรือ
เดินซ้ายเดินขวาต่อได้  ผมเองได้กำลังใจที่ดีทั้งจากครอบครัวและคนรอบข้าง ได้รับความเมตตาจากคุณหมอประสิทธิ์ที่มาเยี่ยมวันเว้นวัน  ส่วนคุณหมอนิธิพัฒน์เจ้าของไข้มาทุกวัน  ทั้งเช้า  กลางวัน  เย็น  ไหนจะกำลังใจจากคนไทยทั้งประเทศซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เรามีกำลังใจที่ฮึกเหิมและมีสุขภาพจิตที่ดี  จนเอาชนะความยากลำบากทางร่างกายมาได้”

“สอง  ไม่ว่าอุปสรรคใดก็ต้องยอมแพ้ต่อความรักความสามัคคี  ถ้าวันนั้นเราตั้งโรงพยาบาลสนามไม่ได้  ถ้ายอมแพ้  ไม่มาตั้งที่หน้าบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัด  โรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2  3  4 จนถึงแห่งที่ 9 – 10 ก็คงเกิดขึ้นไม่ได้แต่เพราะความรักความสามัคคีของในจังหวัด  ที่สุดมันจึงเกิดขึ้นได้  แม้จะแลกมากับชีวิตของผู้ว่าราชการจังหวัดผมก็ยอม  ถือว่าคุ้มค่าแล้ว  ทำให้ผมอิ่มใจ ว่าโรงพยาบาลสนามที่ปลุกปั้นมามีส่วนช่วยให้เอาชนะโควิดได้”

“สุดท้ายจากประสบการณ์  โควิดไม่ใช่บัญญัติไตรยางศ์  ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ป่วยจะมีอาการเหมือนกันหรือเป็นหนักเท่ากัน  อย่างผมเคยคิดว่าแค่ 10 วัน
ก็น่าจะหาย  นอกจากไม่หาย  ยังหนักหนาสาหัสกว่าคนอื่นไปมาก  ปาเข้าไป42 วันที่ไม่รู้สึกตัว  อยู่โรงพยาบาลรวมแล้ว 82 วัน  ยิ่งมาฟังคุณหมอและครอบครัวเล่าเรื่องย้อนหลังให้ฟัง  ยิ่งรู้สึกว่าผมรอดมาได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด เพราะฉะนั้นอย่าประมาท  ผมไม่สามารถบอกให้ทุกคนเชื่อผมได้  ป่วยการจะไปบอกให้คนอื่นทำ  แต่อย่างน้อยสำคัญที่สุดคือเราบอกตัวเองได้ว่า ‘ป้องกันไว้ก่อน’  อย่าลืมสวมมาสก์  ล้างมือบ่อยๆ  เว้นระยะห่าง  อย่าไปในที่แออัด ถ้าทุกคนบอกตัวเองและทำได้แบบนี้  ผมเชื่อว่าอย่างไรโควิดก็แพ้เรา”

วันแรกที่กลับมาสมุทรสาครเป็นอย่างไรบ้างคะ

“ผมเดินทางกลับมาสมุทรสาครวันแรก 19 มีนาคม  มีคนมารอรับแบบโอ้โฮ  เยอะมาก (ยิ้ม)  ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไป  ผมรู้สึกว่าคนสมุทรสาคร
หลายๆคนดีใจที่ผมกลับมา  ก็ดีใจและภูมิใจที่ทุกคนมีน้ำใจกับผม  ผมตั้งใจมาตลอดตั้งแต่รู้สึกตัวว่าหายเมื่อไรก็อยากกลับมาสมุทรสาคร  ผมรู้ว่าทุกคนลำบากกันทั่วหน้า  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่หาเช้ากินค่ำ  เราเจอปัญหาตั้งแต่โควิดครั้งที่ 1  แล้วมาครั้งที่ 2  ผมว่าทุกคนล้วนเหนื่อยใจ  อย่างน้อยถ้าผู้ว่าราชการจังหวัดกลับมา  ก็หวังว่าจะช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้พวกเขาอย่ายอมแพ้  โอกาสที่เราจะชนะยังมีอยู่  ดูสิ…ขนาดผู้ว่าฯที่น่าจะตายยังไม่ตายเลย (ยิ้ม)  ถ้าชีวิตผมทำให้หลายคนมีใจสู้ได้  ก็คุ้มค่าต่อการเป็นข้าราชการคนหนึ่งแล้ว”

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร

ตอนนี้สถานการณ์โควิดที่สมุทรสาครเป็นอย่างไรคะ 

“ถ้าดูเฉพาะตัวเลข  ตอนนี้สมุทรสาครดีขึ้นเยอะ (ณ วันที่ 30 เมษายน2564)  หากเทียบกับตอนผมเข้าโรงพยาบาลปลายปีที่แล้ว  ตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ที่ประมาณ 15,000 – 17,000 คน  ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันถ้าเฉพาะตัวเลขผู้ติดเชื้อเดือนเมษายนก็ประมาณ 700 – 800 คน ซึ่งไม่น้อยหรอกนะ  แต่ถ้าเทียบกับปีที่แล้วที่เป็นหลักหมื่นก็เยอะ  แต่ใน 700 –800 คนนี้  มากกว่าครึ่งไม่ใช่คนสมุทรสาคร  แต่เป็นคนกรุงเทพฯที่ทางโรงพยาบาลเอกชนรับเข้ามา  เนื่องจากคนไข้ล้นมาจากกรุงเทพฯเยอะ

“ที่เห็นได้ชัดเลยคือผู้ติดเชื้อรอบนี้ส่วนใหญ่เป็นคนไทย  ทั้งยังเป็นการติดเชื้อระหว่างคนในครอบครัว  กลุ่มเพื่อนที่ไปปาร์ตี้หรือมีกิจกรรมกินข้าว
ด้วยกัน  นี่เป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าโควิดได้แพร่ระบาดเข้าไปถึงครอบครัวแล้ว  แต่ปัญหาคือหลายคนไม่ค่อยระมัดระวังตัวเอง  ถามคนที่เป็นโควิดทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ไม่มีใครคิดว่าตัวเองจะเป็นหรอก  ผมจึงอยากเตือนว่าเราต้องไม่ประมาท  ให้คิดว่าทุกครั้งที่เจอคนอื่นมีความเสี่ยงที่จะติดโควิดเสมอ เราต้องไม่ตระหนก  แต่ก็ป้องกันตัวให้เต็มที่”

แผนรับมือโควิดของผู้ว่าฯปูตอนนี้มีอะไรบ้างคะ 

“ผมตั้งเป้าว่าจะพยายามทำสมุทรสาครให้ปลอดโควิดให้ได้ก่อน  โดยมีแผนรับมือคือ  หนึ่ง  เรื่องมาตรการป้องกันเพื่อให้ประชากรมีคุณภาพ  เน้นย้ำ
ให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน  โดยเราเป็นจังหวัดแรกที่มีการปรับคนที่ไม่สวมมาสก์อย่างจริงจังตั้งแต่มีการระบาดครั้งแรก  จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ยกเลิก  ถัดมาคือห้ามดื่มสุราในร้านอาหาร  ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง สาม  ห้ามการจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์ต่างๆโดยไม่มีข้อยกเว้น  ถ้าทำได้ทั้งสามเรื่องนี้จะเป็นการตัดตอนการแพร่ระบาดโดยเฉพาะในครอบครัวได้

“สองคือ  การให้ความช่วยเหลือส่วนกลางผ่านการเปิดโรงพยาบาลสนามให้ผู้ป่วยที่มาจากส่วนกลางหรือจากจังหวัดอื่นๆ ได้เข้ามาใช้  เดิมเราเคยมี
โรงพยาบาลสนามกว่า 10 แห่ง  แต่ตอนนั้นมีไว้รองรับแรงงานต่างชาติเป็นหลัก ปัจจุบันเหลืออยู่ 3 แห่ง  ซึ่งใช้รองรับผู้ป่วยคนไทยเป็นหลักเลย  จุได้ประมาณกว่าพันคน  ผมคิดว่าต่างชาติเรายังรับมาแล้ว  ทำไมจะดูแลคนไทยไม่ได้ อย่างไรเสียทั้งสมุทรสาครและคนไทยทั้งประเทศต้องรอดไปด้วยกัน

“ส่วนเรื่องวัคซีน  ตอนนี้ในสมุทรสาครฉีดวัคซีนไปกว่าแสนรายแล้ว  จากคนไทยในจังหวัดทั้งหมดกว่า 5 แสนราย  คิดเป็นสัดส่วน 20 เปอร์เซ็นต์ของ
ประชากร  ถือว่าเป็นจังหวัดที่ฉีดวัคซีนได้มากที่สุดของประเทศ  แต่ถ้าถามว่ามีภูมิคุ้มกันหมู่หรือยัง  ยังหรอก  แต่มีโอกาสใกล้เคียงที่จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ในที่สุด  คือตามหลักทางการแพทย์  ภูมิคุ้มกันหมู่จะเกิดขึ้นได้ต้องฉีดวัคซีนไม่น้อยกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป  ซึ่งเรามีการผลักดันให้ฉีดวัคซีนตั้งแต่แรก ประกอบกับเรามีคลัสเตอร์ตลาดกุ้งจึงได้ฉีดก่อน  แต่ปัญหาที่น่าเป็นห่วงตอนนี้ไม่ใช่ได้วัคซีนช้าหรือเร็ว  แต่เรายังฉีดวัคซีนให้คนไทยไม่ทั่วถึง  ไหนจะคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเราอีกมาก  เมื่อไรจะถึงคิวเขา  เป็นเรื่องของการจัดสรรวัคซีน หลายคนพร้อมจะจ่าย  ทั้งบริษัท  ประกันสังคม  หรือตัวบุคคลเองก็พร้อมจ่าย แต่ปัญหาคือยังเข้าไม่ถึงวัคซีน”

ระหว่างการทำงานในช่วงเวลาวิกฤติ  รู้สึกท้อบ้างไหมคะ

“ไม่ถึงกับท้อ  แต่จะมีช่วงเวลาที่หนักใจ  เอาเป็นว่าไม่ว่าจะเป็นปัญหาอุปสรรค  หรือความสำเร็จใดๆที่เคยเกิดขึ้น  ไม่ได้อยู่ที่ผมเพียงคนเดียว  แต่
อยู่ที่หลายคนต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ หลายครั้งที่ผมก็อึดอัด อย่างเวลา ำงานแล้วมีคนตั้งความหวังให้ผมแก้ปัญหาบางเรื่อง  ซึ่งทำไม่ได้ทันที  เพราะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน  แต่โดนต่อว่าว่า ‘เป็นผู้ว่าฯ  หากผู้ว่าฯไม่ทำ  แล้วใครจะทำ’  สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือ  ไม่ใช่ผมไม่อยากทำ แต่ผมทำคนเดียวไม่ได้  เราต้องช่วยกัน  เช่น  ถ้าอยากให้โควิดหมดไปก็ต้องให้ความร่วมมือ  ถ้าอยากจะทำให้น้ำเสียกลายเป็นน้ำดี  จะให้ผู้ว่าฯไปไล่จับโรงงานกว่า 7,000 แห่งในสมุทรสาครก็จับไม่ได้หมดหรอก  ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา  หรือถ้าอยากแก้ปัญหายาเสพติด  แล้วบอกว่าเป็นหน้าที่ของตำรวจทั้งหมด  ประชาชนไม่กล้าทำอะไรเพราะกลัว  เขามีครอบครัว  มีลูกมีเมีย  อ้าว แล้วตำรวจไม่มีลูกเมียเหรอ  ถ้าประชาชนกลัวได้  ตำรวจก็กลัวได้  แต่ถ้าประชาชนกล้า  ตำรวจก็กล้า  ผู้ว่าฯก็กล้า  แล้วช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม  แต่ผมถือว่าปัญหามีไว้ให้แก้  การทำงานทุกอย่างมีปัญหา ก็ค่อยๆแก้ไปครับ”

ก่อนจะมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร  เส้นทางของการเป็นข้าราชการเป็นอย่างไรคะ 

“ผมสอบติดบรรจุเข้ารับราชการครั้งแรกเมื่อปี2526 ที่กรมการพัฒนาชุมชนกระทรวงมหาดไทย  ในตำแหน่งนักพัฒนาชุมชน  ที่อำเภอบางปลาม้า  จังหวัดสุพรรณบุรี  จากนั้นประมาณปี2539 ก็เข้าโรงเรียนนายอำเภอ  กระทั่งได้เป็นนายอำเภอครั้งแรกที่แม่วงก์  จังหวัดนครสวรรค์อยู่ 2 ปี  แล้วย้ายมาที่อำเภอเดิมบางนางบวช  จังหวัดสุพรรณบุรี  ทีนี้อยู่มายาวเลย10 กว่าปี  คือเป็นนายอำเภอเดิมบางนางบวช 5 ปี  เป็นนายอำเภอศรีประจันต์1 ปี  เป็นนายอำเภอเมืองสุพรรณบุรี1 ปี  เป็นปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี2 ปี  และเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดอีก 4 ปี  ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรเป็นครั้งแรกอยู่ 2 ปี  เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษอีก 1 ปี  แล้วจึงย้ายมาที่สมุทรสาคร  ซึ่งตอนนี้เข้าปีที่ 2 แล้วครับ”

วีระศักดิ์  วิจิตร์แสงศรี

ทราบว่าตลอดชีวิตการทำงาน  ผู้ว่าฯปูมักลงพื้นที่เป็นหลัก  วีรกรรมการลุยของท่านเป็นอย่างไรคะ

“สมัยอยู่สุพรรณบุรีผมได้ชื่อว่าเป็น‘รองผู้ว่าราชการจังหวัดฝ่ายผักตบชวา’ (หัวเราะ)  เพราะช่วงนั้นมีผักตบชวาอยู่เต็มแม่น้ำลำคลองผมก็เดินทางไปทุกอำเภอที่มีปัญหาเรื่องนี้  ไปดูแหล่งน้ำทุกที่  และเจรจาขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายในการกำจัดผักตบชวา  จนทำให้ช่วงหนึ่งแม่น้ำลำคลองใน
สุพรรณบุรีปลอดผักตบชวาไปได้  ซึ่งหลายคนก็บอกว่าไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ แต่ผมเชื่อว่าผมเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้การกำจัดผักตบชวาเห็นผลเป็นรูปธรรม สุดท้ายแล้วก็อยู่ที่ทุกคนช่วยกัน

“ส่วนที่จังหวัดพิจิตรผมจัดกิจกรรมค่อนข้างหลากหลาย  แต่ที่พลิกโฉมหน้าไปเลยคือการทำให้เมืองพิจิตรกลายเป็นเมืองเล็กแต่น่ารัก  มีกิจกรรมสำคัญขึ้นมาคือตึกโบราณ  ตำนานรถไฟ  ซึ่งเดิมไม่ค่อยมีใครรู้จักสถานีรถไฟพิจิตร  แถมสวนสาธารณะที่อยู่หน้าสถานีก็รกร้าง  เต็มไปด้วยขยะ  พอตกเย็นก็กลายเป็นที่ซ่องสุมเสพยาเสพติด  ผมก็เข้าไปลุยตรงนี้  ให้เก็บกวาดขยะให้เรียบร้อย  ปรับพื้นที่ใหม่ทำเป็นสวนสาธารณะที่มีชีวิตชีวา  จัดให้มีตลาดชุมชนไปขายของ  มีกิจกรรมสกายวอล์คบนสะพาน  พอเราปรับพื้นที่ให้มีทิวทัศน์สวยงาม  คนก็เข้ามาใช้งาน ภาพก็เปลี่ยนไปเลย  กลายเป็น‘ชานชาละวัน’  สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัด

“พอย้ายมาอยู่ที่ศรีสะเกษ  ผมก็ไปลุยเรื่องขี้หมู  ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคิดถึง  แต่ชาวบ้านเดือดร้อนกันมาก  คือฟาร์มหมูที่ชุมชนบ้านน้อยดงเมืองตำบลอีเซ  อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ  กลิ่นขี้หมูแรงมาก  เป็นอันตรายต่อการหายใจของคนในชุมชนที่มีทั้งผู้ใหญ่และเด็ก  ที่ผ่านมายังไม่มีใครคิดแก้ไขตรงนี้  เพราะแก้ลำบาก  เนื่องจากกระทบกับคนเลี้ยงหมู  ผมก็ลงไปเจรจาแก้ไข  แต่เนื่องจากกระบวนการต้องใช้เวลานาน  ผมอยู่ที่ศรีสะเกษแค่ปีเดียว  แต่เมื่อเดือนที่แล้วได้ข่าวว่าทางกรมอนามัยสั่งให้หยุดการเลี้ยงหมูตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเคยแจ้งไปแล้วจนกว่าจะมีการปรับปรุงให้ไม่มีกลิ่น  หรือลดกลิ่นให้น้อยที่สุดจนไม่มีผลกระทบต่อชุมชน  ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภาคภูมิใจว่าสิ่งที่ได้ดำเนินการไปมีผลลัพธ์ตอบกลับมา”

ตลอดการรับราชการ  ผู้ว่าฯทำผลงานได้รางวัลมาแล้วมากมายมีชิ้นไหนที่ภาคภูมิใจมากที่สุดคะ

“ผมยอมรับว่ารางวัลที่ได้อาจบ่งบอกได้ถึงคุณภาพของงานอยู่ส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด  ดังนั้นรางวัลที่ภาคภูมิใจมากที่สุดไม่ใช่โล่รางวัล  เกียรติบัตร หรือเงินรางวัลตอบแทน  แต่เป็นรางวัลที่ประชาชนให้การยอมรับ  ที่ถือว่ามีค่าสำหรับผมมากที่สุด  ถ้าเราไปอยู่ที่ไหนแล้วคนในจังหวัดไม่ยอมรับ  พอหมดวาระจะออกจากจังหวัดทีมีแต่คนโห่ไล่  ได้รางวัลไปก็ไม่มีความหมาย  แต่ถ้าชาวบ้านบอกว่ากลับมาเมื่อไร  ยินดีต้อนรับ  หรือเวลาที่เรากลับไปเยี่ยมแล้วเขาดีอกดีใจนี่เป็นความปีติยินดีที่มีคุณค่ามากกว่าโล่รางวัล  มากกว่าเกียรติบัตรใดๆ  อย่างน้อยผมก็ภูมิใจว่าใน 4 – 5 จังหวัด
ที่ผมเคยไปอยู่  ไม่ว่าจะนครสวรรค์  สุพรรณบุรี  พิจิตร ศรีสะเกษ  และสมุทรสาคร  ยังมีคนคิดถึงและต้อนรับอย่างที่สุพรรณบุรี  เวลากลับไปคนกยังนึกถึงรองฯผักตบชวาที่ไปตระเวนดูน้ำตามที่ต่างๆอยู่

“หรือที่ศรีสะเกษที่นอกจากเรื่องขี้หมู  ยังมีเรื่องทุเรียนภูเขาไฟ  ซึ่งเดิมขายไม่ออก  ส่วนตัวผมไม่ชอบทุเรียนหรอก (ยิ้ม)  แต่ก็ต้องคิดว่าจะช่วยอย่างไรให้เขาขายได้  ที่สุดจัดเป็นงานทุเรียนขึ้นมา  มีการประมูลทุเรียนกันจนขายได้หลายแสน  ทำให้ทุเรียนภูเขาไฟมีราคาสูงขึ้นมาได้  คิดถึงทีไรก็ภูมิใจ  พอมาอยู่สมุทรสาคร  ผมก็เข้ามาดูเรื่องการแก้ปัญหาน้ำเสีย  การจับกลุ่มในส่วนของโรงงานอุตสาหกรรม  หรือแม้กระทั่งเรื่องโควิด  ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวความทรงจำที่ผมรู้สึกประทับใจเป็นการส่วนตัว  จริงๆมีอีกหลายเรื่องที่คงเล่าได้ไม่หมด  แต่หากที่ไหนยังมีคนนึกถึงเราอยู่  ก็เป็นความรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งเลยครับ”สิ่งที่ท่านยึดถือมาตลอดชีวิตการทำงาน “ข้าราชการ” คืออะไรคะ

“สิ่งหนึ่งที่ผมพูดเสมอ  ทั้งกับกำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  นายอำเภอ  ข้าราชการฝ่ายปกครอง  และข้าราชการท้องถิ่น  คือ  ตำแหน่งของพวกเราไม่ได้มีไว้
ทอดผ้าป่า  ตัดริบบิ้น  หรือสวมพวงมาลัยให้คู่บ่าวสาว  นั่นเป็นเกียรติที่เขาให้เราสิ่งสำคัญคือการทำงานดูแลประชาชน  เพราะฉะนั้นบนเกียรตินี้  เรามีหน้าที่ที่ต้องทำด้วย  ต้องผสมผสานสองเรื่องนี้ให้ดี  ถ้าว่างไปงานที่เขาเชิญก็ไป  ถือว่าเป็นเกียรติแก่เจ้าภาพ  แต่ต้องทำงานที่เป็นหน้าที่ของเราก่อน  อย่าให้เสีย  และสิ่งที่ข้าราชการต้องคิดเสมอคือ  อย่าดูถูกเสียงเล็กเสียงน้อย  ต้องยอมรับความจริงว่าเสียงของคนในสังคมดังไม่เท่ากัน  เสียงคนรวยมักจะดังกว่าคนจน  เสียงคนมีตำแหน่งมักจะดังกว่าตาสีตาสา  เราจึงต้องมองมุมกลับว่าในเมื่อเสียงคนรวยดังอยู่แล้ว เราไม่ต้องไปช่วยกระพือให้เขาหรอก  ไปช่วยฟังเสียงตาสีตาสาเถอะ

“ดังนั้นทุกที่คือที่ทำงานของผม  ผมไม่ยึดติดว่าที่ทำงานของนายอำเภอ คือที่ว่าการอำเภอ  หรือผู้ว่าฯต้องไปทำงานที่ศาลากลางจังหวัด  เพราะความเดือดร้อนของชาวบ้านอยู่ที่ท้องไร่ท้องนา  โรงพยาบาล  ถนนหนทาง  เขาเดือดร้อนตรงไหนนั่นแหละคือที่ทำงานของเรา  เพราะฉะนั้นวันหนึ่งๆส่วนใหญ่ผมจะไม่ค่อยอยู่ศาลากลางจังหวัดหรอก  แต่ไปอยู่ในพื้นที่ที่ชุมชนนั้นมีปัญหา  งานแฟ้มงานเอกสารส่วนใหญ่ผมจะเก็บไปเซ็นช่วงสามสี่ทุ่มที่บ้านพัก  มีแค่ตอนป่วยแล้วนี่แหละที่คุณหมอห้าม”

ถ้าให้เล่าถึงวิธีการทำงานของผู้ว่าฯปูเป็นอย่างไรคะ

“ความที่ผมผ่านอะไรมาเยอะ  ทั้งโควิดที่เกือบไม่รอด  ก่อนหน้านี้ปี2539ตอนเป็นนายอำเภอที่เดิมบางนางบวช  จังหวัดสุพรรณบุรี  ก็เคยผ่าตัดสมองเพราะเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ  แต่ผ่าแล้วปรากฏว่าเส้นเลือดในสมองแตก  ทำให้สมองน้อยที่ควบคุมการเคลื่อนไหวตาย  หมอต้องตัดส่วนนั้นทิ้ง  ผมอยู่โรงพยาบาลเกือบสองเดือน  พูดและเดินไม่ได้  ช่วยตัวเองไม่ได้  ทุกคนลงความเห็นว่าน่าจะไม่รอด  แต่ผมก็รอดมาได้  หมอบอกว่าไม่น่าจะเดินได้  แต่ผมก็โขยกเขยกจนมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างทุกวันนี้ได้  เพราะฉะนั้นสัจธรรมที่ผมเรียนรู้จากการป่วยหนักมาคือ  อะไรก็ไม่แน่นอน  ถ้าคิดอยากจะทำอะไร  ต้อง ‘ท.ท.ท.’ คือทำทันที  อย่าผัดวันประกันพรุ่ง  อย่ามัวแต่คิดแล้วคิดอีก  ไม่ทำสักที ความทุกข์และปัญหาของชาวบ้านไม่มีวันหยุด  ไม่มีเสาร์- อาทิตย์  โควิดก็เหมือนกัน  ถ้าคิดอยากจะแก้ไข  ต้องลงมือแก้เลย  เพราะโควิดไม่มีวันหยุดราชการ  ไม่มีเวลาทำการว่าจะติดตอนตี5 หรือตอน 8 โมง  ปัญหาไม่รอเรา จะป้องกันหรือแก้ไขก็ต้องทำเลย”

“วิธีการของผมคือ  จะพยายามคิดก่อนว่าปัญหาอยู่ตรงไหน  ถ้าเราสามารถทำได้ก็จะทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้  ต้องยอมรับว่าฝั่งราชการถูกประชาชนดูถูกกันเยอะว่าเป็นไดโนเสาร์เต่าล้านปี  ทำงานเงอะงะงุ่มง่าม  ชักช้า  ไม่อยากเสียเวลาไปติดต่อราชการ  ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้ไดโนเสาร์ยุคนี้กระปรี้กระเปร่าจากเต่าล้านปีให้เหลือสักพันปีได้ไหม  อยากจะพลิกโฉมหน้าราชการไทย  เพียงแต่เราทำคนเดียวไม่ได้  ทุกคนต้องช่วยด้วย  โดยผมอาศัยทำให้ดูเป็นตัวอย่าง  ผมเชื่อว่าตัวอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอน  ถ้าผมอยากให้ทุกคนทุ่มเททำงานเต็มที่ให้สมกับที่ได้รับเงินเดือนจากประชาชน  ผมก็ต้องทุ่มเทให้เต็มที่ก่อน  หรือผมบอกว่าทำงานอย่ามีเสาร์-อาทิตย์  ผมเองก็ต้องไม่มีเสาร์-อาทิตย์  ต้องทำให้เขา
เห็น  ผมคิดว่าตรงนี้สำคัญมากที่สุด  จะได้ไม่พูดกันว่าผู้ว่าราชการจังหวัดดีแต่พูด”แนวทางใดที่ผู้ว่าฯปูยึดถือในการทำงานร่วมกับผู้อื่นจนได้รับการยอมรับคะ

“คำเดียวเลย  ‘ความจริงใจ’  เวลาทำงานหรือประสานงานอะไรก็ตาม  ส่วนใหญ่ผมจะพูดตรงๆ  บางคนอาจพูดแบบน้ำตาลฉาบหน้า  พูดหวาน  แต่ทำจริงๆแค่นิดเดียว  แต่ผมเป็นแนวเน้นเนื้อหาจริงจัง  อยากแก้ปัญหาเรื่องไหนก็จะยึดเรื่องนั้นเป็นหลัก  ผมคิดว่าเรื่องความจริงใจนั้นพิสูจน์ได้  แต่ต้องอาศัยระยะเวลาแค่ 1 – 2 วันคนคงสัมผัสไม่ได้  แต่ผ่านไปเป็นเดือนเป็นปี  เขาเริ่มรู้แล้วว่าผมเป็นอย่างไร  และความจริงใจที่มอบให้มีคุณค่ามหาศาลแค่ไหน  หลายคนที่ผมรู้จักกันมาตั้งแต่อยู่สุพรรณบุรี  พิจิตร  ศรีสะเกษ  หรือแม้กระทั่งที่สมุทรสาคร เห็นหน้ากันทีแรกบอกว่าผมเหมือนคนคุยยาก  เต๊ะท่า  แต่พอมาคุยด้วยจริง ๆแล้วเขาบอกว่าผมรับฟังทุกคน  ซึ่งกว่าจะรู้แบบนี้  บางคนใช้เวลาหลายเดือน  อย่างมีคนหนึ่งที่เคยทำงานด้วยกันที่ศรีสะเกษและทะเลาะกันมามากมาย  ปัจจุบันเขาบอกเพื่อนว่าคนที่จริงใจในการแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านมากที่สุดคือผู้ว่าฯวีระศักดิ์
เพราะเขารู้ว่าที่ทะเลาะกันเพราะเราอยากให้ชาวบ้านได้สิ่งที่ดีที่สุด  เขารู้แล้วว่าเราทำเพื่อประชาชน  ให้ชุมชนอย่างแท้จริง”คุยเรื่องงานเยอะแล้ว  ขออนุญาตถามถึงครอบครัวที่เป็นขวัญและกำลังใจบ้างนะคะ”

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร

“ผมกับภรรยา (ชุติพร  วิจิตร์แสงศรี) เป็นพัฒนากรด้วยกัน  เจอกันสมัยผมบรรจุเป็นข้าราชการครั้งแรกที่บางปลาม้า  จังหวัดสุพรรณบุรี  ส่วนเขาเข้าไปฝึกงานที่บางปลาม้าพอดี  การเป็นข้าราชการเหมือนกันทำให้เขามีส่วนช่วยซัพพอร์ตผมได้มาก  ความคิดเราค่อนข้างมาในแนวทางเดียวกัน  ตอนนี้เขาเป็นนายกเหล่ากาชาดที่สมุทรสาครและประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยสมุทรสาคร  ซึ่งก็ช่วยผมได้เยอะเลย  อย่างเรื่องโควิดที่ผ่านมา  ตอนผมออกจากโรงพยาบาลศิริราชแล้วพบว่าพวกสถานบันเทิง  ผับ  บาร์  คาราโอเกะในสมุทรสาครนั้นหยุดกิจการมานานมากตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว  ผมจึงเป็นห่วงพวกพนักงานในร้าน  เด็กเสิร์ฟ  แม่ครัว  ไม่รู้จะช่วยเขาอย่างไรดี  ก็ปรึกษาภรรยาและเหล่ากาชาดให้ช่วยประสานกับส่วนกลางเพื่อจัดหาถุงยังชีพช่วยเหลืออาหารไปมอบให้คนเหล่านี้  ซึ่งช่วยไปได้600 กว่าราย”

“ส่วนลูกๆ  ผมมีลูกสาวทั้งหมด 4 คน  คนโตทำงานอยู่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  อีกคนกำลังเรียนปริญญาโทด้านวิทยาศาสตร์ที่จุฬาลงกรณ์-
มหาวิทยาลัย  ส่วนคนเล็ก 2 คนเป็นฝาแฝด  คนหนึ่งเรียนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  อีกคนเรียนที่มศว  ประสานมิตร ต้องบอกว่าครอบครัวเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ของผม  แต่ก่อนผมอาจจะรู้สึกว่าเราเป็นหัวเรือใหญ่ของบ้าน  แต่การป่วยสองครั้งใหญ่ในชีวิต  ผมได้ภรรยาและลูกๆช่วยประคับประคอง  ทำให้รู้สึกว่าจริงๆแล้วทุกคนในบ้านสามารถช่วยกันและเป็นหัวเรือใหญ่ของบ้านได้หมด  ทำให้ผมภาคภูมิใจในครอบครัวมากและเป็นหัวเรือใหญ่ของบ้านได้หมด  ทำให้ผมภาคภูมิใจในครอบครัวมาก”

มีลูกสาวตั้ง 4 คน  หวงไหมคะ

“ไม่ค่อยหวงนะ  ไม่ค่อยมีคนมาจีบเท่าไร (หัวเราะ)  ถึงมาจีบก็ไม่เป็นไร เป็นสิทธิ์ของเขา  ผมไม่ค่อยได้กะเกณฑ์อะไรลูกมาก  กฎกติกาภายในบ้านมีแค่ ถ้ายังเรียนประถม-มัธยม  จะไปไหนต้องมาขออนุญาตพ่อกับแม่ก่อน  แต่ถ้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว  แค่แจ้งให้ทราบ  ไม่ต้องขออนุญาตแล้ว  เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะไปไหนก็ได้  ส่วนถ้าทำงาน  รับผิดชอบตัวเองได้แล้ว  ทีนี้แล้วแต่เขาเลย จะบอกหรือไม่บอกก็ได้

“ส่วนเรื่องอนาคต  ผมไม่เคยคาดหวัง  ลูกอยากจะเป็นอะไรก็ได้  ขอแค่เป็นคนดีและอย่าเป็นภาระของสังคม  ผมบอกลูกเสมอว่าพ่อเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง (หัวเราะ)  อีกไม่เท่าไรก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว  ฉะนั้นฝากอนาคตของประเทศชาติไว้ในมือของคนรุ่นลูก  จะคิดอ่านทำอะไรก็ขึ้นอยู่กับลูกเป็นหลัก พ่อไม่ห้าม  บ้านผมไม่มีข้อจำกัดเรื่องความคิดทางการเมืองเลย  เขามีสิทธิ์ที่จะเห็นต่าง  แล้วแต่เขาจะคิด  แต่ผมจะทำให้ลูกเห็นว่าผมในฐานะข้าราชการ เราให้คุณค่ากับประชาชน  ถ้าลูกจะเห็นต่างก็ได้  แต่เขาต้องเห็นว่าผมทำอะไรอยู่ ต้องยอมรับว่าบางเรื่อง  บางทัศนคติ  เราไปไม่ทันเด็กรุ่นใหม่หรอก  เพราะโลกเปลี่ยนไปเร็วมาก  เราไม่สามารถเปรียบเทียบยุคเราที่ยังไม่มีมือถือกับยุคปัจจุบันที่เด็กเล่นเกม  เล่นอินเทอร์เน็ต  ทำทุกอย่างผ่านออนไลน์ได้  มันคนละยุคกันแล้ว จะให้เขาคิดเหมือนกับเราคงเป็นไปไม่ได้  ต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลง  และยอมรับว่าโลกปัจจุบันเป็นโลกของคนรุ่นเขา”

ผู้ว่าฯคิดว่าอะไรคือปัจจัยหลักที่จะทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจาก วิกฤติโควิดไปได้ทั้งในแง่สุขภาพและเศรษฐกิจของประเทศคะ

“ผมว่าเราต้องยกเรื่องสุขภาพอนามัยไว้เป็นหลักก่อน  เพราะถ้าสามารถคุมการแพร่ระบาดของโรคได้  การผ่อนคลายมาตรการต่างๆทางเศรษฐกิจก็จะตามมา  แล้วคนก็จะใช้ชีวิตและประกอบอาชีพได้เป็นปกติ  อย่างถ้าใครเห็นภาพของคุณซิโก้- เกียรติศักดิ์  เสนาเมือง ที่ไปเป็นโค้ชสโมสรฟุตบอลที่เวียดนาม เขามีการเปิดให้ประชาชนสามารถเข้าไปดูเกมฟุตบอลได้เต็มความจุสนามเลย ประมาณ 7,000 – 8,000 คน  ซึ่งหลายคนเห็นภาพแล้วสงสัยว่าที่เวียดนามไม่มีโควิดเหรอ  ความจริงคือที่นั่นก็มีโควิด  แต่เขาล็อกดาวน์เป็นเมืองๆไป  ซึ่งระหว่างล็อกดาวน์ทุกคนให้ความร่วมมือปฏิบัติตามข้อกำหนด  จึงสามารถถอนการล็อกดาวน์ได้อย่างรวดเร็ว  จนกระทั่งสามารถใช้ชีวิตอย่างปกติได้  ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยด้วยซ้ำ  นี่เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นว่าถ้าบุคลากรหรือประชากรในประเทศมีคุณภาพ  การป้องกันในเรื่องอื่นๆหรือการผ่อนคลายเรื่อง
เศรษฐกิจก็จะตามมาโดยปริยาย”สุดท้ายขอกำลังใจให้พี่น้องประชาชนชาวไทยในการต่อสู้กับผลกระทบจากโควิดค่ะ”

“ทุกคนรู้ดีว่าวิกฤตินี้ทำให้หลายคนลำบาก  การต่อสู้ที่ยาวนานทำให้ทั้งหมดแรง  เหนื่อยและอ่อนล้า  แต่โปรดจงรู้ไว้เถอะครับว่าอุปสรรคหรือวิกฤติครั้งนี้คือบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ของชีวิตว่าเราจะสามารถก้าวข้ามผ่านไปได้หรือไม่  อุปสรรคนั้นมีอยู่ในทุกที่  ไม่มีการทำงานใดไม่มีปัญหา  ยิ่งทำมาก  ปัญหาก็ยิ่งมาก”

“แต่ถ้าพวกเราทุกคนร่วมมือและรวมใจกันเป็นหนึ่งเดียวให้ได้  เราจะสามารถผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้อย่างดี  แม้เส้นทางอาจไม่ราบรื่นสวยงามนัก  และ
ต้องใช้เวลาในการต่อสู้กับปัญหา  ต่อสู้ให้คนหลายคนเคารพในกติกา  ทำตามระเบียบสังคม  แต่อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ  พรุ่งนี้จะต้องดีกว่าวันนี้แน่นอน  ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ  ผมเชื่อว่ากำลังใจจะช่วยส่งเสริมให้พวกเราสามารถเอาชนะวิกฤติโควิดนี้ได้เหมือนที่ผมได้รับกำลังใจจากทุกคน””


ข้อมูลจาก นิตยสารแพรว ฉบับ 971

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เด็ดขาด รอบคอบ ทำจริง! วิสัยทัศน์ ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ จากบทเรียนถ้ำหลวง สู่วิกฤติโควิด-19

ทำความรู้จัก เอิร์ธ-พงศกร ลูกชายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

เบื้องหลังชีวิตแสนลำบากของ ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย

keyboard_arrow_up