โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน กรุงเทพฯ

โฉมล่าสุด โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน กรุงเทพฯ หลังรีโนเวทครั้งใหญ่

Alternative Textaccount_circle
โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน กรุงเทพฯ
โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน กรุงเทพฯ

ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) ทุ่ม 60-70 ล้านบาท รีแบรนด์ โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพฯ ฟอร์จูน เป็น “แกรนด์ฟอร์จูน กรุงเทพฯ”

 นายสุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร โรงแรมในเครือฟอร์จูน บริษัท     ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  มั่นใจการท่องเที่ยวยังคงเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งและศักยภาพของกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่จะเปิดให้บริการในประเทศไทย พร้อมเปิดตัวโรงแรมแกรนด์  ฟอร์จูน กรุงเทพ ซึ่งได้ทำการปรับปรุงพร้อมกับคอนเซปท์ที่ทันสมัย ภายใต้การออกแบบสไตล์ร่วมสมัยผสานเข้ากับความสง่างามคลาสสิค อันน่าประทับใจให้กับแขกผู้เข้าพักและผู้เข้าใช้

โฉมใหม่ไฉไลกว่าเก่า โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน กรุงเทพฯ หลังรีแบรนด์

โรงแรมแกรนด์  ฟอร์จูน กรุงเทพ ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษกใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร มีห้องพักจำนวน 402 ห้อง พร้อมทั้งให้บริการห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง ฟิตเนส สปา ห้องอาหารนานาชาติ วัน รัชดา  เมโทรเลาจน์ และห้องอาหารจีน หนาน หยวน ภายใต้การรับรองความสะอาดตามมาตรฐานของ SHA Plus จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน กรุงเทพ ฯ บริหารงานภายใต้แบรนด์ฟอร์จูนกรุ๊ป   หนึ่งใน13โรงแรม ในเครือฟอร์จูน เปิดให้บริการในรูปแบบใหม่ด้วยระบบฆ่าเชื้อ มีการติดตั้งเครื่องไบโอโซน (BIOZONE) เพื่อกำจัดเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานจาก BCS Laboratories, INC – Gaineville, Florida  ที่ได้ติดตั้งบริเวณห้องพัก ห้องอาหาร  สถานที่ต่างๆภายในโรงแรม  และที่สำคัญ เป็นโรงแรมต้นแบบในเครือฟอร์จูน แห่งแรกในประเทศไทยที่ติดตั้งเครื่องไบโอโซน (BIOZONE) ฆ่าเชื้อโรคได้ 99.99%

ปัจจุบันธุรกิจโรงแรมภายใต้แบรนด์”ฟอร์จูน” มีทั้งซื้อกิจการมาและมีการปรับปรุงใหม่ ลงทุนใหม่รวม 4-5 โรงแรม จำนวนห้องพักกว่า 400 ห้อง และปีนี้เปิดพร้อมให้บริการครบแล้ว 13 โรงแรม ใน 9 จังหวัด ห้องพักรวม 2,000 ห้องแบ่งการให้บริการออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

  1. City Hotel ระดับ 4-5 ดาว ได้แก่ โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน กรุงเทพ  โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน นครศรีธรรมราช โรงแรมฟอร์จูน โคราช จังหวัดนครราชสีมา  ฯลฯ
  2. Resort Hotel ระดับ 3-4 ดาว ได้แก่ โรงแรมฟอร์จูน เชียงของ โรงแรมฟอร์จูนริเวอร์วิวนครพนม โรงแรมฟอร์จูน วิวโขง นครพนม โรงแรมฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช ระยอง และ โรงแรมฟอร์ จูนคอร์ทยาร์ดเขาใหญ่  ฯลฯ
  3. Lifestyle and Convenient Hotel ระดับ 2-3 ดาว ได้แก่ โรงแรมฟอร์จูน ดี เขาใหญ่ โรงแรมฟอร์จูน ดี แม่สอด โรงแรมฟอร์จูน ดี เลย และ โรงแรมฟอร์จูน บุรีรัมย์ โรงแรม ฟอร์จูน พิษณุโลก ฯลฯ

 นายสุนทร กล่าวว่า แนวคิดการขยายธุรกิจโรงแรม เน้นจังหวัดเมืองท่องเที่ยว ด่านการค้าชายแดน แหล่งอุตสาหกรรมและมองภาพร่วม ที่เกิดจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวปัจจุบันที่เปลี่ยนไป มีรูปแบบท่องเที่ยวที่เป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น บริษัทจึงหันมาโฟกัสลงทุนในโรงแรมที่เจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้นทั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหรือกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ ที่นิยมเดินทางท่องเที่ยว เพื่อหาประสบการณ์ แต่ก็ยังชอบเรื่องความง่าย ความสะดวกสบายและสะอาดเป็นสำคัญ

อีกทั้ง  โรงแรมในเครือฟอร์จูน ยังตอบสนองของนโยบาลรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งโรงแรมในเครือฟอร์จูน เป็นโรงแรมอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ที่สะดวก ทันสมัย อาทิโรงแรมฟอร์จูน ดี เขาใหญ่, โรงแรมฟอร์จูน ดี แม่สอด, โรงแรมฟอร์จูน ดี เลย และ โรงแรม ฟอร์จูน พิษณุโลก โรงแรมฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช จ.ระยองและ โรงแรมฟอร์จูนคอร์ทยาร์ดเขาใหญ่  ฯลฯ เป็นต้น


 

Soneva​ Kiri

ผึ้ง​ บุญ​ญ​า​ดา พาเปิด​ประสบการณ์​สุดเอ็กซ์คลูซีฟ​ ห้องพักหรู 2 คืน 600,000​ ที่ Soneva​ Kiri​

account_circle
Soneva​ Kiri
Soneva​ Kiri

สัปดาห์นี้​ผึ้ง​จะพาทุกท่านบินลัด​ฟ้า​นั่งไพรเวทเจ็ทไปสัมผัส​ประสบการณ์​สุดพิเศษ​กันที่ Soneva​ Kiri​ โรงแรม​หรูระดับ 6 ดาวกับสนนราคา 2 คืน 600,000 บาทกันนะคะ

ผึ้ง​ บุญ​ญ​า​ดา พาเปิด​ประสบการณ์​สุดเอ็กซ์คลูซีฟ​ ห้องพักหรู 2 คืน 600,000​ ที่ Soneva​ Kiri​

Soneva​ Kiri

วิลล่าที่เราพักเป็น​ห้อง 2 Bedroom Ocean​View Pool Villa เป็น​ห้องที่เดินลงหาดได้เลย เราเดินทางไปโดยไพรเวทเจ็ทเช็คอินตรงเคาน์เตอร์​ Soneva ที่สนามบิน​สุวรรณภูมิ​ เดินทางไปถึงบัตเลอร์​ของเราจะมารับและพาเราข้ามฟากไปที่ท่าเรือของที่โรงแรม อยากบอกว่ากิมมิคนี้เหมือนกับที่ Soneva ที่มัลดีฟส์​เลย เมื่อเรือไปถึงที่ Jetty ทั้งพนักงาน​และผู้บริหาร​มายืนรอคอยต้อนรับเราอย่าง​อบอุ่น​ ลืมบอกไปว่าทุกวิลล่า​จะมีบัตเลอร์​คอยดู​แลเราพร้อมกับรถบักกี้ส่วนตัวให้เราไว้ใช้ขับตลอดเวลาที่เข้าพัก

Soneva​ Kiri

Soneva​ Kiri

อยากบอกว่า​เราหลงรักคอนเซ็ปต์ “Forest Friendly” ของ Soneva​ และการผสมผสานระหว่างธรรมชาติที่สมบู​รณ์กับความลักชัวรี่ได้อย่างลงตัวมากๆ เหมาะกับคนที่รักธรรมชาติ​จริงๆ ถึงแม้เราจะไปโรงแรมหรูมาทั่วไทยแต่อยู่ที่นี่รู้สึก​เหมือนไม่ได้อยู่​ใน​เมืองไทย เหมือนหลุดไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง ลืมบอกว่าเวลาที่นี่เร็วกว่าเวลาใน​เมือง​ไทย​ 1 ชั่วโมง ป่าและความเป็​น​ธรรมชาติ​ของที่นี่สมบูรณ์​มาก น้ำทะเลใสมากเห็นปลาหลากสีสันแหวกว่ายกันมากมาก หลงรักทุกครั้งที่ได้มาเยือน

Soneva​ Kiri

มาดู​ห้องพักของเรากัน วิลล่าที่​ผึ้ง​มาพักหลังนี้เป็น​ห้อง 2 Bedroom Ocean​View Pool Villa เป็น​ห้องที่เดินลงหาดได้เลย วิลล่าเรามีโถงด้านล่างเป็นโซนรับประทาน​อาหาร โซนนั่งพักผ่อน มี TV Room​ สำหรับ​ปาร์ตี้​ด้วยกัน เรานอนห้อง Master bedroom บอกเลยว่าห้องใหญ่มากกก!! มีห้องแต่งตัว walk in closet กว้างขวางเหมาะกับพวกบ้าหอบฟางขนกระเป๋า​มาหลายใบแบบเราที่สุดเลย มีห้องน้ำในห้องนอน มีโซนอาบน้ำอยู่​หลังห้องด้านนอก ซึ่งมีทั้ง จากุชชี่ และ Outdoor Shower สำหรับอาบน้ำท่ามกลางธรรมชาติ​กันแบบฟินๆ แต่มี Shower room แบบ อินดอร์ ให้ด้วยนะ เลือกเอาเลยว่าอยากได้แบบไหนแต่บอกเลยโซนอาบน้ำกว้างขวาง​มากกก มีเตียงสำหรับ​นอนพักหลังแช่น้ำและสำหรับ​นอนให้ เทอราปิสนวดแบบชิล​ล์ๆ

นอกจาก พูลวิลล่าที่เริ่ดแล้ว Soneva​Kiri​ ยังมีร้านอร่อยมากๆ ให้ทานแบบจริงจังเหมาะสำหรับ​นักชิมอย่างเรา อาทิ ครัวแม่ตุ๊ก อาหารไทยพื้นบ้านรสชาติ​จัดจ้าน​เสิร์ฟ​แบบเป็นคอร์ส​ บอกเลยว่าอร่อยทุกคอร์ส​เลย, The View อาหารฝรั่งในสไตล์​ฟิวชั่น คือมาที่นี่เราแนะนำว่าต้องมาดินเนอร์ชมพระอาทิตย์​ตกดิน​เห็นวิวแบบ 360 องศา ที่ The View , ส่วน Dinning room จะเป็น​ที่รับประทานอาหาร​เช้า ​เราชอบอาหารเช้า​ที่นี่มากเพราะมีเมนู​เพื่อสุขภาพ​พร้อมเครื่อง​ดื่มเพื่อสุขภาพ​ให้เลือกสรรเยอะมากเหมาะกับคนรักสุขภาพ​อย่างเรา ถ้าใครชอบอาหารทะเลสดๆ เราแนะนำให้นั่งเรือข้ามฟากไปทาน อูนิ กะ ซูชิสดๆ บนแพเพิงหมาแหงนที่เกาะแรด บอกเลยว่าสดมากก และสำหรับสายหวานอยากบอกว่าที่นี่คือสวรรค์​ของสายหวานเลยแหละ เพราะที่นี่มี โฮมเมดไอศกรีม พร้อมขนมและ ช็อคโกแลต อร่อยๆ ในห้อง Chocolate room ให้ทานฟรีตลอด​ทั้งวัน​เลย

นอกจากอาหารเด็ดที่ผึ้งแนะนำว่าห้ามพลาด ที่ Soneva​ ยังมีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก ที่ห้ามพลาดเลยคือ Tree Pot ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึง มันคือประสบการณ์​ที่เริ่ดมาก ถ้าอยากทาน Afternoon ​tea กันแบบสูงๆ ให้โลกจำ มีทาร์ซานโหนสลิงมาคอยเสิร์ฟ​อาหารแนะนำเลยว่าต้องลอง , Sunset Cruise เราแนะนำว่าควรมีอยู่ในโปรแกรม​เพราะมันดีงามมาก, หอดูดาว อยากให้ทุกคนไปดู​เพราะเขาลงทุนกับกล้องดูดาวและหอดูดาวสูงมาก ห้องดูดาวเริ่ดและไฮเทคมาก, อย่าลืมไปดูหนังกลางแปลงกินป๊อบคอร์น​ที่ Outdoor Theatre ดีมากนอก

จากนี้ยังมีกิจกรรมกีฬาทางน้ำเยอะมากพร้อมมีโค้ช​สอน ไม่ว่าจะเป็น Paddle board, เรือใบ, บานานา โบ๊ท, ดำน้ำแบบ Snorkeling คือเอาจริงๆ นะ ไป 3 วัน 2 คืนคิวแน่นมากๆ รู้สึก​ไม่อิ่ม บอกเลยว่าถ้าไปได้ 4-5 วันคือเริ่ดสุด เก็บทุกสิ่งได้หมดแบบสบายๆ อยากบอกว่าหลงรัก Soneva​ ทุกครั้งที่ได้มาเยือน


เรื่อง : ผึ้ง บุญญาดา

ซูมความแพงระยับ รีสอร์ทหรูบนเกาะกูด ที่ ชมพู่ อารยา พาครอบครัวเที่ยวหมาดๆ

‘มีดวงถูกหลอก เพราะอารมณ์เป็นเหตุ จึงควรแอบรักต่อไป’ ดวงรายวัน 20 พฤศจิกายน 2564

ดวงรายวัน 20 พฤศจิกายน 2564 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘มีดวงถูกหลอก เพราะอารมณ์เป็นเหตุ จึงควรแอบรักต่อไป’

ดวงรายวัน 20 พฤศจิกายน 2564

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :  ก็ยังอยู่ที่กลุ่มของผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ท้าทาย สลับซับซ้อนและต้องใช้เวลายาวนาน เช่น งานสืบสวน สอบสวน นักกฎหมาย นักประวัติศาสตร์ นักค้นคว้า วิจัย ฯลฯ ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการขัดแย้งกับบุคคลอื่นที่มีผลให้คุณเสียใจ ผิดหวัง และท้อแท้กับโชคชะตา วันนี้มีความเป็นไปได้ว่าจะยิ่งรุนแรง จนเก้าอี้ประจำตำแหน่งถึงกับสั่นคลอนเลยทีเดียว หากคุณเป็นประเภทที่ไม่ชอบเปลี่ยนงานบ่อยๆ ด้วยแล้ว ยิ่งต้องระวังคนใกล้ชิดและเพื่อนร่วมงานให้ดี เพราะมีความเสี่ยงสูงมาก

การเงิน  :  แม้คุณจะพยายามประหยัดสุดขีด แต่ก็ยังไม่วายตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ถูกหลอก ถูกโกง ถูกขโมย ทวงหนี้ก็ไม่สำเร็จ วันนี้มีความเป็นไปได้ว่าจะตกลงเรื่องผลประโยชน์ไม่ลงตัว

ความรัก :  จริงๆ แล้วคุณคาดหวังกับคู่สูง ซึ่งคุณก็พยายามจะผ่อนคลาย เพื่อไม่ให้เครียดเกินไป แต่วันนี้มีความเป็นไปได้ว่า จะมีเหตืมือที่สามเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตคู่ของคุณ   คนโสด ก็ยังรักๆ เลิกๆ เพื่อหาคนที่ดีที่สุดให้กับตัวเองอยู่ แต่วันนี้มีโอกาสที่คุณจะเข้าไปเป็นมือที่สาม หรือมีมือที่สามเข้ามายุ่งกับคนรักของคุณ

สุขภาพ  :  ปกติคุณแข็งแรง จึงไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ เพราะฉะนั้นหากป่วยจึงมีโอกาสที่จะลุกลามบานปลายถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ นอกจากนั้นยังต้องระวังจะได้รับอันตรายจากของมีคมบาดเป็นแผล หรือรอยฟกช้ำดำเขียว

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  คุณเป็นผู้หญิงเก่ง มีความรู้ ความสามารถ และมีอำนาจบารมีจากตำแหน่งหน้าที่การงาน แม้ที่ผ่านมาคุณจะประสบปัญหาและอุปสรรคที่รุมกระหน่ำเข้ามา จนเกิดการขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ส่งผลให้งานถูกยกเลิก หรือถึงขั้นถูกออกจากงาน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานในสายบริการ เช่น ร้านอาหาร เครื่องดื่ม พนักงานต้อนรับ สปา จนถึงธุรกิจสินค้าบริการที่เกี่ยวกับเด็ก  แต่คุณก็จะไม่ทุกข์ หรือวิตกกังวลจนไปต่อไม่ได้ เพราะวันนี้คุณเอาอยู่!!

การเงิน :  แม้คุณจะสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง แต่ก็ต้องระวังว่า จะสะดุดจนถึงขั้นวิกฤติ จากการจับจ่ายซื้อของที่ไม่มีสาระ

ความรัก :  หากคุณเป็นเวอร์กกิ้งวูแมนที่ทุกคนยอมรับในความสามารถ แต่วันนี้อาจไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องครอบครัว  มีโอกาสที่คุณจะทะเลาะมีปากเสียงกับลูกหลาน หรือบริวารในบ้านอย่างรุนแรง คนโสด  คุณเป็นผู้หญิงที่มีเกียรติ อำนาจ และบารมี ชอบคุยในเรื่องสร้างสรรค์ มีสาระ จึงมีความเป็นไปได้ว่า วันนี้เคมีจะไม่ตรงกันกับเด็กรุ่นน้อง มีความเสี่ยงที่จะขัดแย้งกันอย่างรุนแรง

สุขภาพ  :  คุณพลังเยอะ ไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วยกับใครเขา แต่ก็อย่าประมาท เพราะวันนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงโรคภัยไข้เจ็บที่มาจากการรับประทานแต่อาหารที่ชอบ จึงทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร โดยเฉพาะแคลเซียม

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่มีขั้นตอน มีรูปแบบ และมีวัฒนธรรมขององค์กร เช่น งานในหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ การเงินการธนาคาร การรักษาพยาบาล ฯลฯ มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการติดต่อประสานงาน การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน รวมถึงความเชี่ยวชาญชำนาญในการใช้ภาษา แต่ก็ต้องระวัง เพราะวันนี้คุณจะได้รับข่าวเซอร์ไพร์สที่ทำให้ถึงกับนั่งไม่ติด จะไปต่อก็ไปไม่ถูก ต้องเร่งหาทางออกให้กับตัวเองอย่างรีบด่วนที่สุด

การเงิน : ระวังจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาเป็นคนใกล้ชิดสนิทสนม จึงไม่ควรหลงเชื่อคำพูดที่มีหลักการและเหตุผลที่จะชักชวนให้คุณลงทุนในธุรกิจหรือธุรกรรมต่างๆ เพราะมีความเสี่ยงที่จะถูกหลอก ถูกโกง

ความรัก : วันเสาร์แล้ว คุณพยายามทำให้บรรยากาศในครอบครัวชิลๆ ชวนกันร้องรำทำเพลง หากอยากชิลกว่านี้ คุณควรลดความจู้จี้ลงมาอีกเบอร์ เพื่อไม่ให้อารมณ์สะดุด  คนโสด  คุณแอบรักใครอยู่หรือเปล่า ซึ่งวันนี้มีโอกาสที่ความรักจะเข้าตาจนซ่อนท่าทีไว้ไม่ไหวแล้ว ก็ระวังจะถูกหลอก เพราะเป็นเรื่องอารมณ์ล้วนๆ เลย

สุขภาพ :   ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะช่วงขาอาจบาดเจ็บจากการหกล้ม ลื่นปรื๊ด จนข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง จนถึงเป็นอัมพฤกษ์ เก๊า

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจทางด้านกฎหมายหรือความถูกต้อง เช่น ตำรวจ ทนายความ กฎหมาย อัยการ ผู้พิพากษา ฯลฯ มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับวงการการศึกษา เช่น อาจารย์ นักวิชาการ ไลฟ์ โค้ช เทรนเนอร์ ติวเตอร์ ฯลฯ หรือไม่คุณก็จะได้ศึกษาต่อหรือเทคคอร์สเพิ่ม เพราะมีโอกาสที่คุณจะได้ทำงานที่นอกเหนือจากงานประจำ ซึ่งมีความท้าทาย และมีการแข่งขันสูง เท่ากับเป็นการพิสูจน์ความสามารถให้ทุกคนยอมรับ

การเงิน :  รายได้หลักของคุณคืองานประจำ ซึ่งหากคิดจะทำธุรกิจเสริม ด้วยการร่วมหุ้นกับคนรัก ผู้ใหญ่จะช่วยส่งเสริมสนับสนุน แต่ก็ควรเก็บเงินไว้บ้าง เพราะวันนี้คุณใจดี ใจบุญ หาเงินได้เท่าไหร่ก็ให้คนอื่นใช้หมด

ความรัก :  หากคุณกำลังอยู่ในช่วงที่แยกกันอยู่ อาจแค่ชั่วคราว เพราะวันนี้คุณต้องการปลีกวิเวก หรือคร่ำเคร่งอยู่กับกองตำรับตำรา ก็นับเป็นเวลาที่มีประโยชน์ที่คุณจะได้ทบทวนความสัมพันธ์กับคู่ของคุณด้วย  คนโสด มีความเป็นไปได้ว่า วันนี้คุณจะได้พบกับชาวต่างชาติสูงวัยที่เจ้าระเบียบเคร่งครัดทุกสิ่ง ก็อย่าเพิ่งตัดสินใจลงเอยกับเขาล่ะ เพราะเดี๋ยวจะพลาดโอกาสดีๆ ที่กำลังจะมาถึง

สุขภาพ : ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา หากในกรณีรุนแรงจะมีโอกาสติดเชื้อในกระแสเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  หากคุณได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าทีมทำงาน มีความเป็นไปได้ว่า งานจะไม่ค่อยมีปัญหานัก ผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดจะสนับสนุนส่งเสริมคุณให้ได้ทำตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งจะเป็นหนทางแห่งความสำเร็จในที่สุด ตรงกันข้ามหากคุณยึดติดแต่อีโก้ตัวเองจนไม่สนใจความรู้สึกนึกคิดของคนอื่น มีโอกาสที่งานจะสะดุดหยุดลงกลางคัน สุดท้ายแล้วคุณจะแบกรับภาระงานหนักคนเดียวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยอยู่ภายใต้การติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย

การเงิน  :  คุณให้ความสำคัญกับผลของงาน มากกว่าผลประโยชน์ อาจเพราะมีผู้ใหญ่ช่วยดูแลให้อยู่ คุณจึงสามารถทำงานหาเงินได้อย่างเต็มที่

ความรัก :  วันนี้คุณให้เวลากับทำงานมากกว่าเวลาของครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณคิดว่าดีแล้ว โดยไม่ได้คิดถึงครอบครัวเลยว่า เขายินดีกับคุณด้วยหรือเปล่า คนโสด  วันนี้ในใจคุณมีแต่งานๆๆ มีแวบเดียวที่คิดถึงแฟน แต่ก็เพียงแวบเดียวจริงๆ

สุขภาพ :  คุณทำงานหนัก ใช้พลังเยอะ ก็รับประทานเยอะ จึงต้องระวังเรื่องน้ำหนักกับโรคที่จะตามมาด้วยนะ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  แม้คุณจะมีความคิดและจินตนาการที่ลึกซึ้ง จนยากที่จะร่วมงานกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่น แต่หากคุณจะทำธุรกิจของตนเอง หรือประกอบอาชีพอิสระ ก็ยังต้องอาศัยความรู้ ความสามารถ และความรับผิดชอบสูงมากเช่นกัน รวมถึงมีความเสี่ยงที่คุณจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสีเทาอีกด้วย ซึ่งวันนี้มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะได้รับการชักชวนให้เข้าไปทำงานร่วมกับธุรกิจของครอบครัว หรือคนรู้จัก ก็ควรเตรียมความพร้อมให้ดี วางแผนล่วงหน้าให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ผิดพลาด

การเงิน :  คุณใจบุญ ใจกว้างดุจแม่น้ำ ให้ใครยืมเงินแล้วมักไม่ได้คืนกลับ ซึ่งวันนี้คุณมีโอกาสได้รับเงินปันผลจากธุรกิจของครอบครัว

ความรัก :  คุณมีความคิดเป็นของตัวเองหนักแน่นมั่นคงมาก ชอบพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสังคมภายนอก ซึ่งคู่คุณก็ยอมรับในความเป็นคุณ แต่ก็มีโอกาสแค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น  คนโสด หากคุณชอบสังสรรค์ปาร์ตี้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับบุคคลอื่น วันนี้มีโอกาสที่คุณจะได้พบกับหนุ่มในฝันจนอยากจะจูงมือเขาไปคุยกันตามลำพัง

สุขภาพ :   มีโอกาสเป็นภูมิแพ้จากการแพ้อากาศ รวมถึงระบบหมุนเวียนเลือดในร่างกายทำงานไม่เต็มร้อย ส่งผลให้คุณหน้ามืด เวียนศีรษะ จนถึงเป็นลมปัจจุบันทันด่วนได้ ต้องระวัง!!

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ไม่แสวงหาผลกำไร เช่น งานทางด้านสาธารณประโยชน์ สาธารณกุศล  มูลนิธิ  จิตอาสา นักสังคมสงเคราะห์ ฯลฯ มีความเป็นไปได้ว่าคุณจะได้ใช้ความรู้ ความสามารถ และความรับผิดชอบอย่างสูงกับการทำงาน จนถึงมีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นงานในวงการบันเทิง โฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน สถาปนิก รวมถึงงานด้านวิชาการ นับว่าเป็นแนวของคุณ วันนี้คุณจะทำได้ดี มีโอกาสประสบความสำเร็จ

การเงิน :  คุณใจบุญ ทำบุญ บริจาคเงินช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้เดือดร้อน วันนี้บุญที่คุณทำจะส่งผลให้คุณมีโชค ได้รับมรดกเลยนะเนี่ย

ความรัก :  ชีวิตคู่ของคุณก็ราบเรียบและราบรื่นดี คู่คุณจากที่เคยเที่ยว วันนี้ก็อยู่บ้านเป็นแฟมิลี่แมนที่ดี จนคุณถึงกับไม่มั่นใจว่า นี่คู่ของคุณจริงหรือ คนโสด คุณมีเสน่ห์ในกลุ่มแบ๊ดบอย ซึ่งหนึ่งในนั้นจะเป็นผู้ชายซีรีวายปลอมตัวมา หากชอบแนวนี้ วันนี้ก็สมใจ

สุขภาพ :  มีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากของมีคม และความร้อน ซึ่งในกรณีร้ายแรงสุดๆ จะถึงกับผ่าตัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับลำไส้ กระเพาะอาหาร

 

 

กอล์ฟ ณัฐพล เกษมวิลาศ

รู้จัก “โรคเส้นเลือดขอดในสมอง” ผ่านการเฉียดตายของ “คุณกอล์ฟ-ณัฐพล เกษมวิลาศ”

Alternative Textaccount_circle
กอล์ฟ ณัฐพล เกษมวิลาศ
กอล์ฟ ณัฐพล เกษมวิลาศ

“ความเจ็บป่วย…ทำให้รู้ว่าชีวิตมีค่า” เป็นคำพูดของนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ คุณกอล์ฟ – ณัฐพล เกษมวิลาศ ผู้ที่ผ่านเส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตายของชีวิตมาแล้ว เขาเล่าให้ แพรว ฟังถึงเหตุการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต

“ครอบครัวผมทำธุรกิจโรงแรมที่ประเทศมอนเตเนโกร แถบยุโรปตะวันออก ชายแดนติดประเทศโครเอเชียและเซอร์เบีย มีธรรมชาติงดงาม หลังจากเรียนจบปริญญาตรีจากสวิตเซอร์แลนด์ กลับมาพักผ่อนที่ไทยได้ครึ่งปี ผมจึงรับอาสาไปดูแลกิจการของที่บ้าน ทำหน้าที่เป็นไดเร็กเตอร์ ดูแลภาพรวมและโอเปอเรชั่นของโรงแรมทั้งหมด โดยเดินทางไปทำงานคนเดียว ไม่ได้มีเพื่อนหรือครอบครัวไปด้วย เพราะฉะนั้นในการทำงานเราก็จะพบเพื่อนร่วมงานเป็นหลัก”

รู้จัก “โรคเส้นเลือดขอดในสมอง” ผ่านการเฉียดตายของ “คุณกอล์ฟ-ณัฐพล เกษมวิลาศ”

เผชิญ “โรคซึมเศร้า”

“ด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตผมค่อนข้าง Work Hard, Play Hard เวลา เที่ยวก็เต็มที่ ทำงานก็ทำเต็มที่ เพราะอยากให้ผลการดำเนินงานออกมาดี ทั้งๆ ที่ ครอบครัวไม่ได้กดดันในการทำงานเลยแม้แต่น้อย มีแต่เรากดดันตัวเอง ผมทำงาน ผ่านไปเกือบหกเดือนโดยไม่ได้เดินทางกลับไทยเลย กระทั่งวันหนึ่งรู้สึกเหมือนตัวเอง เป็นโรคซึมเศร้า เช่น ผมมักจะตั้งคำถามกับตัวเองว่าเกิดมาทำไม ทำไมเราถึง ไม่แฮ็ปปี้กับทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต เล่าให้แฟนฟัง เขาก็ไม่เข้าใจว่าเราเป็นอะไร จึงแนะนำว่าน่าจะไปหาหมอ เพื่อจะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง

“ผมตัดสินใจกลับไทยและไปพบจิตแพทย์ หลังจากพูดคุยกันทำให้รู้ว่า การป่วยเป็นโรคซึมเศร้าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะโรคนี้เกิดจากสารเคมีในสมองไม่ เท่ากัน คือไม่มีสารเคมีของความสุข มีแต่สารเคมีของความเศร้าหลั่งออกมามาก ทำให้เป็นโรคซึมเศร้า ผมไม่ได้บอกที่บ้าน ไม่อยากให้พ่อแม่เป็นห่วง หลังจาก พบหมอและรับยาเสร็จก็เดินทางกลับไปทำงานที่โรงแรมต่อ ผมเดินทางไป – กลับ เพื่อทำงานและรักษาตัวเกือบสองปีถึงพาแม่ไปพบหมอด้วยกัน จะได้อธิบายให้แม่ เข้าใจถึงอาการที่เป็น ผมทำงานโรงแรมที่มอนเตเนโกรได้สามปี จึงเดินทางกลับมา รับผิดชอบงานอีกบริษัทหนึ่งของครอบครัวซึ่งอยู่ที่ไทย

“อาการหนึ่งที่ผมเป็นมาตลอดตั้งแต่อายุ 18 ปีคือปวดหัวข้างเดียว เคยไป หาหมอเนื่องจากมีอาการปวดหัวซีกซ้ายและตาซ้ายมัว หมอวินิจฉัยว่าเป็นไมเกรน ซึ่งผมกินยาแก้อาการไมเกรนมาตลอด จึงไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นอะไรร้ายแรง ทุกครั้ง ที่เครียดหรือมีปัญหาเรื่องงานแล้วเกิดอาการปวดหัว ก็จะกินยาพาราเซตามอลแก้ ไมเกรน พอกินยาแล้วนอนพัก อาการปวดหัวก็หาย”

กอล์ฟ ณัฐพล เกษมวิลาศ

ปวดหัว อาเจียนต่อเนื่อง… “เส้นเลือดขอดในสมอง”

“กระทั่งปลายปี 2019 – 2020 ทุกครั้งที่ปวดหัวเริ่มมีอาการอาเจียนร่วม ด้วย และอาการค่อยๆ หนักขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดที่ผมลืมตาพูดโต้ตอบอยู่นี่แหละ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป จนประมาณเดือนมีนาคม 2020 ผมเตรียมจะขับรถ จากบ้านพ่อแม่กลับไปนอนคอนโดเพื่อเตรียมตัวไปทำงานวันรุ่งขึ้น แต่พ่อเห็น ว่าปวดหัวมาก จึงบอกให้ผมนอนค้างที่บ้าน

“ตื่นเช้ามาผมเดินไปหาแม่ที่ห้องนั่งเล่นเพื่อจะบอกว่าปวดหัวมาก ไม่ทัน ได้เห็นสภาพตัวเอง แม่บอกว่าตาขวาของผมเป็นปกติ แต่เปลือกตาซ้ายปิด ครึ่งหนึ่ง ขณะเดียวกันเริ่มมีอาการอาเจียนอีกแล้ว จนแม่บอกว่าให้ไปหาหมอ ผม ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลตอนห้าโมงเย็นด้วยอาการสะลึมสะลือ ไม่รู้ว่าตัวเองถูกพา ไปไหน อาการปวดหัวทวีความรุนแรงมากขึ้นร่วมกับอาเจียน และไม่รู้สึกตัวอีกเลย

“แม่เล่าให้ฟังทีหลังว่า หลังจากทำเอ็มอาร์ไอ หมอบอกแม่ว่าเหมือนผม เคยเลือดออกที่สมองมาก่อน ขอส่งต่อให้ผมรักษากับอาจารย์หมอ (รศ. นพ. ทวีศักดิ์ เอื้อบุญญาวัฒน์) ซึ่งเก่งมาก พอแม่ได้พบอาจารย์หมอถึงรู้ว่าผมเป็น ‘เส้นเลือดขอดในสมอง’ เป็นโรคที่ไม่มีสาเหตุ อาจเป็นตั้งแต่อยู่ในครรภ์แม่หรือ ตั้งแต่แรกเกิด ปัจจุบันพบมากในคนวัยทำงาน หมอเปรียบเทียบให้ฟังว่าเส้นเลือด ก็เหมือนท่อน้ำ ถ้ามีสิ่งอุดตัน ทำให้น้ำไหลช้า เส้นเลือดขอดที่พันกันขดไปมา เหมือนรากไม้จึงค่อยๆ แตกซึมออกมา

“จุดที่มีอาการเส้นเลือดขอดในสมองอาจส่งผลกระทบกับอวัยวะส่วนต่างๆ แต่กรณีของผมส่งผลกระทบต่อลานสายตา ทำให้สูญเสียการมองเห็นข้างละ 25 เปอร์เซ็นต์ อธิบายง่ายๆ คือแบ่งพื้นที่ดวงตา 1 ข้างเป็น 4 ส่วน ส่วนที่ผมได้รับผลกระทบคือมุมบนของตาซ้ายและมุมบนของตาขวา ซึ่งสายตาคนปกติ เวลาที่กลอกตาไปมาจะสามารถมองเห็นคนหรือสิ่งของข้างๆ แต่ผมมองไม่เห็น เพราะลานสายตาแคบกว่าปกติ”

2 สัปดาห์แห่งความทรมาน

“วิธีรักษามี 2 ขั้นตอน อย่างแรกคือต้องฉีดสีเข้าไปในกะโหลก เพื่อดูว่ามีเส้นเลือดสมองจุดไหนที่เลือดออกหรือรั่วซึม เพื่อจะได้ใช้กาวทางการแพทย์ (ของเหลวที่ฉีดทางสายสวนหลอดเลือดสมอง พอเจอเลือดจะแข็งตัวทันที) อุดเส้นเลือดที่รั่วซึม

“จากนั้นพ่อแม่ต้องตัดสินใจว่าจะรักษาผมด้วยวิธีไหน วิธีแรกคือผ่าตัดสมอง ซึ่งอาจกระทบลานสายตา ทำให้สูญเสียการมองเห็นเพิ่มอีกข้างละ 25 เปอร์เซ็นต์ เมื่อรวมกับการสูญเสียเดิมจะกลายเป็นข้างละ 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง เท่ากับว่าแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลยก็ว่าได้

“อีกวิธีคือการฉายแสง ซึ่งมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ กว่าจะรู้ผลการรักษา ต้องผ่านไปแล้วสองปี แต่ระหว่างสองปีนี้ต้องลุ้นว่าจะมีเส้นเลือดตรงไหนแตกอีกไหม หรือจะมีอาการปวดหัวอีกหรือไม่

“คุณแม่จึงถามหมอว่าถ้าเป็นลูกคุณหมอจะเลือกวิธีไหน คุณหมอบอกว่าเลือกการผ่าตัด ท่านจึงตัดสินใจให้ผมเข้ารับการผ่าตัด แต่ไม่สามารถทำได้ทันที เนื่องจากเส้นเลือดขอดในสมองอัดแน่นรวมกันที่ก้านสมองซีกซ้าย ส่งผลให้สมอง บวม จำเป็นต้องลดปริมาณเลือดที่คั่งในสมองออกก่อน ทำให้ต้องนอนห้อง ไอซียูสองสัปดาห์ ซึ่งตลอดเวลาที่อยู่ห้องไอซียูผมแทบไม่รู้สึกตัวเลย และการที่ สมองบวมส่งผลกระทบกับความจำระยะสั้น ช่วงที่รู้สึกตัวผมก็จะคอยถามทุกคน ว่าวันนี้วันที่เท่าไร ที่นี่ที่ไหน ใครมาเยี่ยมบ้าง พอถามแล้วก็จำไม่ได้ และหลับไป ในช่วงสั้นๆ ด้วยฤทธิ์ยา สภาพผมตอนนั้นจะตาลอยๆ เพราะรับยามอร์ฟีนทุกวัน เนื่องจากอาการปวดหัว ไม่อยากกินอาหาร จนน้ำหนักตัวลดไป 6 กิโลกรัม

“เมื่อเลือดในสมองค่อยๆ ไหลลงมาตามกระดูกไขสันหลัง คราวนี้อาการ ปวดหัวค่อยๆ ลดลง แต่กลับมีอาการปวดหลังและก้นกบมาแทน ผ่านไปสักพัก เริ่มปวดที่สะโพกและขา เพราะเลือดค่อยๆ ไหลลงมา ทำให้ต้องพึ่งมอร์ฟีนตลอด สุดท้ายจึงมีการฉีดสีเพื่อทำเอ็มอาร์ไออีกรอบ ก่อนย้ายมาพักห้องคนไข้ปกติ

“ตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาลไม่มีใครบอกผมเลยว่าเกิดอะไรขึ้นหรือผมเป็นอะไร จนหมอรู้ว่าผมพอจะเริ่มมีสติ พูดจารู้เรื่องแล้ว จึงพาผมไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ อธิบายเหตุการณ์ทุกอย่างว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งตอนที่หมออธิบาย ว่าการมองเห็นของผมอาจหายไป 25 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ผมไม่สามารถขับรถที่ผมรักได้อีก ฟังแล้วรู้สึกเสียใจ ได้แต่คิดกับตัวเองว่าต่อไปนี้เราไม่สามารถทำสิ่งที่ชอบได้อีกต่อไป ซึ่งทุกคนในบ้านรู้ดีว่าผมชอบขับรถและชอบรถซูเปอร์คาร์มาก จึงไม่มีใครกล้าบอกเรื่องนี้ ต้องให้คุณหมอช่วยบอกแทน”

กอล์ฟ ณัฐพล เกษมวิลาศ

ผ่าตัดเปิดกะโหลก

“ผมนอนอยู่โรงพยาบาลได้สองเดือน จึงกลับมาพักที่บ้านสองสัปดาห์ เพื่อรอเวลาผ่าตัด เพราะคุณหมออยากให้เปลี่ยนบรรยากาศ อาการปวดหัวยังมีเป็นพักๆ ต้องอาศัยกินยาที่มีส่วนผสมของมอร์ฟีนและคอยเฝ้าระวัง เพราะหมอบอกว่าโรคที่ผมเป็นอาจเกิดอาการชักได้ตลอดเวลา ซึ่งไม่ใช่การชักที่เกิดจากกล้ามเนื้อหดเกร็ง แต่เป็นอาการเหม่อลอยไม่รู้ตัวประมาณ 10 – 15 วินาที เนื่องจากกระแสไฟฟ้าใน สมองไม่แล่น โดยที่เราไม่มีทางรู้เลยว่าอาการชักจะเกิดขึ้นเวลาไหน จึงต้องกินยา ป้องกันการชักไว้ก่อน ถึงแม้ว่าการกินยาไม่ได้ช่วยเราร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าไม่ได้ กินยาอาจมีอาการชักถี่ขึ้นโดยที่ตัวเราและคนรอบตัวไม่รู้ ที่บ้านจึงค่อนข้างเป็นห่วง เรื่องนี้มาก ถึงกับสั่งว่าเวลานอนห้ามล็อกห้อง เวลาอาบน้ำต้องให้น้องชายเฝ้า ซึ่ง โชคดีว่าตลอดเวลาที่พักอยู่บ้านเพื่อรอผ่าตัด ผมไม่มีอาการชักเลย

“เมื่อถึงวันผ่าตัด คุณหมอใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง โดยผ่าเปิดกะโหลกเป็นรูปเกือกม้า เหนือท้ายทอยข้างซ้าย เพื่อนำก้อนเลือดที่พันกันออกมาทั้งก้อน จากนั้นเย็บแม็กที่หนังศีรษะ เพื่อไม่ให้มีแผลเป็น ผ่านไปกว่าหนึ่งสัปดาห์ต้องฉีดสีอีกครั้ง เพื่อดูว่าเส้นเลือดสมองมีรอยรั่วตรงไหนอีกหรือเปล่า”

ชีวิตใหม่ มุมมองใหม่

“ช่วงหกเดือนแรกหลังผ่าตัดต้องกระตุ้นสมองด้วยไฟฟ้า ซึ่งหมอบอกแม่ว่าก่อนหน้านี้ผม เคยชักมาแล้ว แต่ไม่มีใครรู้ว่านั่นคืออาการชัก ส่งผลให้ผมมีอาการนอนไม่หลับและรู้สึกเครียด เมื่อ มีการทดสอบสายตา ข่าวดีคือไม่ได้สูญเสียการมองเห็นเพิ่มอีกข้างละ 25 เปอร์เซ็นต์อย่างที่กังวล แต่ จนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังมองด้านข้างไม่เห็นเหมือนเดิม

“ทุกวันนี้ผมสามารถใช้ชีวิตได้เกือบปกติ มีแค่อาจหลงๆ ลืมๆ บ้าง สามารถออกกำลังกาย ได้ ยกเว้นกีฬาบางอย่างที่อาจสร้างแรงดันในร่างกาย เช่น การดำน้ำลึก ทั้งที่เป็นกิจกรรมสุดโปรด ถ้านอนน้อย นอนไม่หลับ หรือเครียด อาจทำให้เกิดอาการชักได้ จึงต้องกินยากันชักเป็นเวลา 2 – 5 ปี ทำให้ไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไปจากเดิมที่ผมค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูง ชอบเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว แต่หลังจากนี้ไม่สามารถใช้ชีวิต แบบนั้นได้แล้ว ชอบขับรถก็ขับไม่ได้ ต้องมีคนขับรถ

“ส่วนโรคซึมเศร้ายังคงรักษาต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันอาการค่อยๆ ดีขึ้นแล้ว จากที่ต้องพบแพทย์เดือนละครั้ง เริ่มนัดห่าง ออกไปเป็นสามเดือนครั้งและหกเดือนครั้ง แสดงว่าอาการเราค่อยๆ ดีขึ้น ซึ่งผมมั่นใจว่าตัวเองจะหายจากโรคนี้

“ความเจ็บป่วยครั้งนี้ทำให้ผมรู้ว่าครอบครัวและคนรอบข้าง ให้ใจและทุ่มเทในการดูแลอย่างดี โดยที่ไม่คิดว่าเขาจะทำเพื่อเรา ขนาดนี้ คุณยายผมอายุมากแล้ว ท่านก็ยังมาอยู่เป็นเพื่อน คุณแม่ มาคอยดูแลที่โรงพยาบาลตลอด แฟนช่วยสั่งซื้ออาหารที่ผม อยากกิน แม้ว่าพออาหารมาส่งจริงๆ ผมกลับกินได้แค่ 3 คำ มีเพื่อนฝูงและคนรู้จักมาเยี่ยมผมตลอดเวลาที่นอนอยู่โรงพยาบาล ทำให้ผมได้ข้อคิดเรื่องคุณค่าของชีวิต จากที่เมื่อก่อนเป็นโรค ซึมเศร้า เคยคิดว่าถ้าถูกรถชนตายไปก็ไม่เสียดายชีวิต แต่พอ มาถึงวันนี้ผมรู้สึกว่าชีวิตมีค่า จากที่คิดแค่อยากทำให้ชีวิตตัวเอง ดีขึ้น สิ่งที่เพิ่มขึ้นคือผมเชื่อว่าต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ทำให้ ผมได้กลับมาใช้ชีวิต ได้มีโอกาสทำความดี ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง ครอบครัว คนรอบข้าง แต่ต้องทำให้สังคมดีขึ้นด้วย

“อย่างช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก ผมร่วมกับเพื่อนๆ ที่ บริษัท (KAS International) ร่วมกันบริจาคเงินซื้อเครื่องช่วย หายใจและชุดพีพีอีให้โรงพยาบาลสมุทรสาครที่ขาดแคลนเตียง ผู้ป่วยและอุปกรณ์ทางการแพทย์

“นอกจากนี้บริษัทของเรายังวางแผนว่าต่อไปถ้าสามารถ เดินทางไปจังหวัดต่างๆ ได้ เราอาจตั้งเป็นกองทุนหรือมูลนิธิ เพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาให้เด็กๆ ตามต่างจังหวัด นำอุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น พร้อมกับมอบทุนการศึกษาโดยที่เขาไม่ จำเป็นต้องกลับมาคืนทุน เพราะผมเชื่อว่าการศึกษาเป็นต้นทุนชีวิต ที่จะช่วยให้เด็กๆ ได้เติบโตและใช้ชีวิตอย่างที่พวกเขาอยากจะเป็น และอาจมีโอกาส ‘ส่งต่อการให้’ อย่างที่เขาเคยได้รับ”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 975

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

คุณหมอโจ้ กับทิปส์ “ผู้นำ” แห่งวงการความงามที่ยืนหนึ่งได้อย่างยั่งยืน

ส่องโลกอินไซต์ คริปโตเคอร์เรนซี่ 2021 โดย ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล

เปิดชีวิตคุณแม่ฟูลไทม์ของ “เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร” ที่มีความสุขแบบเกินต้าน

โป๊ป ธนวรรธน์

เมื่อไหร่จะมีแฟน? ฟังจากปาก โป๊ป ธนวรรธน์ กับมุมมองความรักที่เปลี่ยนไป

Alternative Textaccount_circle
โป๊ป ธนวรรธน์
โป๊ป ธนวรรธน์

ถือเป็นการกลับมาให้สัมภาษณ์อีกครั้งกับนิตยสารแพรวสำหรับ “โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ” นักแสดงหนุ่มสุดฮ็อตที่มาอัปเดตชีวิตของเขาในตลอดปีที่ผ่านมา และเรื่องหัวใจที่บรรดาแม่ยกน้อยใหญ่อยากรู้กันมากที่สุด

ชีวิตปีที่ผ่านเป็นอย่างไรบ้างคะ

“ชีวิตปีที่ผ่านมาของผม คิดว่าคงคล้ายกับหลายคน ด้วยสถานการณ์บ้านเมือง สถานการณ์โควิด–19 ทำให้อะไรๆ ก็ไม่ค่อยดีกันหมด แต่เราจะไม่ได้รู้สึกว่าแย่มาก เพราะกระทบกันหมดทั่วโลก ชีวิตเปลี่ยนกันหมด อะไรที่เคยทำได้ก็ต้องชะงักกันไป ซึ่งตัวผมก็เหมือนคนอื่นที่อยู่บ้านเป็นหลัก จนรู้สึกแปลกๆ เพราะไม่เคยอยู่บ้านนานเป็นเดือนๆ ขนาดนั้น

“จากปกติต้องออกไปทำงานทุกวัน หรือถ้าช่วงที่ไม่มีงานก็ไปเจอเพื่อน ไปเตะฟุตบอล เล่นฟิตเนส พอทำอะไรแบบนั้นไม่ได้ก็มีอึดอัดบ้าง ตอนที่เริ่มออกจากบ้านได้จึงโล่งใจ แต่ก็ต้องระวังตัวเอง พอช่วงกลางปีก็ดีขึ้นหน่อย เริ่มได้กลับมาทำงานกัน”

โป๊ป ธนวรรธน์

 ตั้งเป้าชีวิตไว้อย่างไรบ้างคะ

“จะว่าอะไรไหม ถ้าผมจะบอกว่าไม่ได้ตั้งไว้เลย ผมชอบที่จะใช้ชีวิตแต่ละวันไปตามธรรมชาติ คือทำทุกวันให้ดี ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีและถูกต้องที่สุดเท่าที่จะทำได้ แค่นั้นแหละ (ยิ้ม) เราพาชีวิตเดินทางไปเรื่อยๆ เดี๋ยวอะไรจะเกิดมันก็เกิดไปตามธรรมชาติ แต่ถ้ามองตอนนี้ ปีนี้คือจะมีหนังกับละคร ซึ่งผมตั้งใจทำให้ดีที่สุด

“แต่ถ้าคิดในมุมตัวเอง อายุ 38 แล้ว ถามว่าใจคนเราคิดไหม ก็มีคิดแหละ แบบแก่ขึ้นอีกปีแล้วเว้ย! จะยังไงดี ครอบครัวจะเป็นอย่างไร เพื่อนจะยังอยู่ด้วยกันไหม หรือจะมีแฟนไหมนะ ใจก็คิดไปเรื่อยแหละ แต่ว่าคิดแล้วก็ปล่อย ไม่ได้นั่งคิดวนเวียนจนนอนไม่หลับอะไรแบบนั้น

“ผมเชื่อว่าทุกคนก็ต้องคิด แต่สิ่งที่สำคัญคือเราจะหยุดความคิดนั้นได้ยังไงมากกว่า ซึ่งสรุปแล้วยังไงเราก็ต้องใช้ชีวิตต่อไปอยู่ดี ฉะนั้นถ้าถามว่าแก่ขึ้นอีกปีนอยด์ไหม เวลาคิดก็มีความนอยด์นะ แต่เราปล่อยมันได้ สักพักก็ลุกขึ้นทำงานต่อ เดี๋ยวก็ไปเจอเพื่อนแล้ว เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านแล้ว เดี๋ยวก็หลับแล้ว ซึ่งพอตื่นมาใหม่ก็คิดใหม่ มันก็วนเวียนอยู่อย่างนี้ สรุปคือมีนอยด์นิดหน่อย แต่เดี๋ยวก็ลืม” (หัวเราะ)

เมื่อไหร่จะมีแฟน ? ฟังจากปาก โป๊ป ธนวรรธน์ สเป็คสาวและมุมมองความรักที่เปลี่ยนไป

ขยับมาที่เรื่องหัวใจกันบ้าง คำถามนี้ถามแทนใจทุกคนที่ยังอยากรู้เสมอว่าเมื่อไหร่ธนวรรธน์จะมีแฟน

“สำหรับตอนนี้ถ้าถามว่ามีคนที่จริงจังหรือคุยกันแบบจะเป็นแฟนไหม ตอบว่า…ไม่มีเลยจริงๆ คือผมไม่ได้ปิดนะ อยากจะมีคนคุยเหมือนกัน แต่ที่ผ่านมาคุยแล้วไม่ลงตัว ไม่คลิกกัน บางครั้งมีคนแนะนำมา ผมก็คุย แต่ว่าพอคุยแล้ว อยู่ดีๆ ก็หายกันไป ถ้าให้สรุปเองก็อาจเพราะยังไม่เจอคนที่ศีลเสมอกัน บอกไม่ถูกเหมือนกันครับ…ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร”

แล้วสเป็คสาวยังเหมือนเดิมไหมคะ

“เหมือนเดิมนะ…ยังชอบผู้หญิงสไตล์เดิม ชอบที่ดูสวย นิสัยน่ารัก ดูเป็นคนจิตใจดี มีที่เข้ามาคุยกันแล้วสักพักก็หายไป”

โป๊ป ธนวรรธน์

ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เขาจะหายไปเองเหรอคะ

“ใช่ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน ส่วนใหญ่เขาจะหายไปเอง ขณะที่เราก็ยังเหมือนเดิม คิดว่าเขาอาจจะมีผู้ชายจีบเยอะมั้ง ผมก็ไม่รู้ แต่ถ้าเขาเงียบหายไป ผมปล่อย ไม่ได้ไปตามตื๊อหรือหาเหตุผล เพราะผมรู้สึกว่าเขาคงมีเหตุผลของเขา ที่ไม่อยากคุยกับเราแล้ว

“ผมตื๊อไม่เป็นด้วยน่ะ เลยเหมือนไม่ง้อ สมมติว่าคุยกันแล้วเงียบหายไป ก็คงมีคำถามแค่ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ…แค่นั้นเลย ถ้าเขาไม่มีเหตุผล ก็ให้เขาไปเท่านั้นเอง เพราะไม่อย่างนั้นเราก็จะเป็นทาสของความรักไปตลอดชีวิต ถ้าเรายอมทำทุกอย่าง เพราะความที่เราอยากให้เป็น เราจะต้องเป็นทาสในสิ่งนั้น

“แต่ถ้าคนคนนั้นมีใจที่ใกล้เคียงกัน เราจะรู้สึกว่าไม่ต้องพยายามมาก แต่กับบางคนที่เราต้องพยายามมาก เราก็อาจจะเหนื่อย ท้อ แล้วเราจะทุกข์ทำไม ฉะนั้นรอคนที่ใช่ดีกว่า ผมก็เลยจะเป็นอย่างนี้ไง แต่อยู่คนเดียวก็มีความสุขไปอีกแบบนะ มีเพื่อน มีคนคุยบ้าง เพียงแต่ยังไม่เจอใครที่จะตกลงเป็นแฟนกันเท่านั้นเอง”

โป๊ปมีมุมหวานๆ หรือทำเซอร์ไพร้ส์ให้ใครบ้างไหมคะ

“ตอนเด็กๆ ก็มีแหละ วาดรูปให้เขา แอบเอาของไปไว้หลังรถเขา รอเขาเปิดมาเจอจะได้เซอร์ไพร้ส์ เคยมาหมดแล้ว ทั้งรัก ง้อ ร้องไห้ เสียใจ เขาง้อเรา เราง้อเขา ผ่านมาหมดแล้ว (หัวเราะ) แต่สุดท้ายเรารู้แล้วว่าสิ่งเหล่านั้นไม่มีจริงหรอก เป็นแค่ความสนุก ความอยากในช่วงแรกๆ เท่านั้นเอง”

โป๊ป ธนวรรธน์

แสดงว่ามุมมองความรักเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนค่อนข้างเยอะ

“แน่นอนครับ ต้องเปลี่ยนไปอยู่แล้ว ตอนนี้คือมีก็ได้ แต่ไม่มีก็อยู่ด้วยตัวเองได้ เป็นแบบนั้นมากกว่า หรือถ้าเมื่อไหร่มี คนคนนั้นก็ต้องอยู่กันแบบสบายใจ เข้าใจกัน ซึ่งคงหายากนะ เพราะสังคมสมัยนี้โซเชียลตลอดเวลา มีคนเข้าหาอยู่ตลอด ซึ่งชีวิตผมค่อนข้างเรียบๆ ไม่หวือหวา ฉะนั้นก็ยากอยู่นะที่จะเจอคนที่ใช่ แต่ก็ไม่ได้ทุกข์ ตอนนี้อยู่คนเดียวก็มีความสุขดีครับ”

ถ้าวัดเปอร์เซ็นต์ความสุขของโป๊ป คิดว่าเป็นอย่างไรคะ

“แฮ็ปปี้เกิน 70 เปอร์เซ็นต์นะ เพราะถ้าพูดว่า 100 เปอร์เซ็นต์ ก็ดูโกหกเกินไป ก็ต้องมีเรื่องครอบครัว เรื่องเพื่อนร่วมงานอะไรอย่างนี้ หลายอย่างที่ต้องคิด เพราะเรายังทำงานอยู่ ฉะนั้นอีก 30 เปอร์เซ็นต์ ก็ยังต้องเจอปัญหาต่างๆ ที่เข้ามา อย่างการเป็นนักแสดงก็ต้องคงสภาพหน้าตาและบุคลิกที่ดี เพื่อให้เหมาะสมกับบทบาทที่ได้รับ ซึ่งก็เป็นความทุกข์อีกแบบหนึ่งนะ จะทำอะไรก็ต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี อาจจะไม่ได้อิสระมาก แต่ก็แฮ็ปปี้ที่ยังได้อยู่ตรงนี้ (ยิ้ม) เอาเป็นว่าชีวิตโดยรวมมีความสุขสบาย จิตใจก็ดี ร่างกายก็ดี อาจจะมีปวดเข่า ปวดหลังบ้างเล็กน้อย” (หัวเราะ)


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 966

ญดา- นริลญา

นิตยสารไต้หวันพูดถึง อีมิ้ง ร่างทรง ในฐานะปาร์คมินยองไทยแลนด์

Alternative Textaccount_circle
ญดา- นริลญา
ญดา- นริลญา

เว็บไซต์นิตยสาร Cosmopolitan ไต้หวัน พูดถึง อีมิ้ง ร่างทรง  หรือ ดาริลญา กุลมงคลเพชร นักแสดงนำหญิงจากผลงานภาพยนตร์สุดฮ็อต ร่างทรง

แม้ไม่ได้มีพระเอก-นางเอกระดับแม่เหล็กมาดึงดูดความสนใจ แต่กลับเป็นหนังที่ได้กระแสตอบรับจากผู้ชมดีเกินคาดเลยจริงๆ สำหรับ ร่างทรง หรือ The Medium ภาพยนตร์สยองขวัญ ที่เป็นผลงานร่วมทุนระหว่างไทย-เกาหลี GDH และ SHOWBOX โดยได้ผู้กำกับหนังสยองขวัญจากเกาหลี นาฮงจิ มาเป็นโปรดิวเซอร์และผู้ควบคุมดูแลงานสร้างเรื่องนี้ ซึ่งความร้อนแรงของหนังเรื่องดังกล่าว ทำสถิติยอดจองตั๋วออนไลน์หมดภายใน 26 วินาที ทันทีที่เปิดรอบฉายพิเศษ นอกจากนี้ยังทำเงินไปถึง 184 ล้านภายใน 7 วัน เ้เรียกว่าเป็นภาพยนตร์ที่มาแรงจริงๆ

นริลญา กุลมงคลเพชร

นอกจากประเทศเกาหลีแล้วตอนนี้กระแสของเรื่องดังกล่าวยังได้รับความนิยมในไต้หวันด้วย โดยเว็บไซต์นิตยสาร Cosmopolitan ได้พูดถึงหนึ่งในนักแสดงนำของเรื่องก็คือ ดาริลญา กุลมงคลเพชร ซึ่งรับบทเป็น มิ้งค์ และแม้ว่าในภาพยนตร์บทของเธอจะค่อนข้างมืดหม่น แต่สำหรับในโลกความเป็นจริง เธอเป็นผู้หญิงที่สดใส ดวงตากลมโต และ รอยยิ้มแสนหวาน สดใสจับใจผู้คนที่เข้ามาติดตามเธอจริงๆ พร้อมกันนี้ชื่นชมเธอว่าเป็น ปาร์คมิยองไทยแลนด์ อีกด้วย

นิตยสารไต้หวันพูดถึง อีมิ้ง ร่างทรง  หรือ ญดา- นริลญา จากร่างทรง ในฐานะปาร์คมินยองไทยแลนด์

ญดา- นริลญา ญดา- นริลญา ญดา- นริลญา 01 ญดา- นริลญา 02

นริลญา กุลมงคลเพชร มีรูปหน้าที่โค้งมนหลายคนคิดว่าเธอมีใบหน้าคล้ายกับนางเอกเกาหลีใต้ ปาร์คมินยอง ขณะที่หากพูดถึงฝีมือการแสดงของญดาในเรื่องร่างทรงทำได้อย่างเป็นธรรมชาติมากๆ ไม่ไม่แปลกใจเลยที่เธอได้รับความสนใจในฐานะนักแสดงรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง

ร่างทรง ร่างทรง


ข้อมูลจาก : Cosmopolitan

เศรษฐี

สุดยอดบอส! เปลี่ยนพนักงาน 74 คนให้เป็น “เศรษฐี” ด้วย “หุ้น” 1 พันล้านปอนด์

account_circle
เศรษฐี
เศรษฐี

สุดปังอะไรอย่างนี้ล่ะพ่อคุณ! เมื่อ Matt Molding ผู้ก่อตั้ง The Hut Group  บริษัทอีคอมเมิร์ซของอังกฤษ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแมนเชสเตอร์ ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อดัง The Mirror ว่าเขาได้มอบหุ้นให้เป็นของขวัญกับพนักงานมาแล้ว 430 คน ซึ่งมีตำแหน่งตั้งแต่ ผู้จัดการ เลขานุการ รวมไปถึงพนักงานคลังสินค้า รวมแล้วกว่า 1 พันล้านปอนด์ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

สุดยอดบอส! เปลี่ยนพนักงาน 74 คนให้เป็นเศรษฐีด้วย “หุ้น” 1 พันล้านปอนด์

เศรษฐี

Matt Molding ได้กล่าวกับ The Mirror ว่า “เราได้สร้างเศรษฐีมากกว่าบริษัทอื่นๆ ในประวัติศาสตร์องค์กรของอังกฤษ หุ้นเป็นของขวัญ 100% ไม่มีใครต้องจ่ายอะไรเลย เราได้เปลี่ยนแปลงชีวิตมากมายอย่างแท้จริง”

ทั้งนี้ในจำนวน 430 คน มีพนักงาน 74 คน ที่เปลี่ยนจากลูกจ้างกลายเป็นเศรษฐี นอกจากนี้ยังมีจำนวนหุ้นอีก 175 ล้านปอนด์ ที่จัดไว้สำหรับพนักงาน แต่ยังไม่ได้ส่งมอบ โดยบางส่วนของผู้ที่ได้รับประโยชน์จากหุ้นจำนวนนี้จะเป็นบัณฑิตและนักเรียนที่กำลังจะจบการศึกษา

นายโมลดิ้ง นักธุรกิจวัย 48 ปี มีความสุขกับชีวิตของตัวเองที่เปลี่ยนไป กับความมั่งคั่งหลังจากสร้าง The Hut Group ให้เป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหราชอาณาจักร

ขณะเดียวกัน นายโมลดิ้ง ยังเล่าถึงชีวิตที่เปลี่ยนไปของพนักงานหลังจากที่พวกเขาได้รับหุ้นว่า คนขับรถที่ทำงานอยู่กับบริษัทไม่ถึงสองปีมีรายรับสุทธิ 40,000 ปอนด์ ซึ่งเขานำเงินใช้ในการซื้อรถใหม่ และจองทริปเพื่อไปเที่ยวในวันหยุดกับครอบครัวที่สหรัฐอเมริกาและแคนาดาในปีหน้า

หรือจะเป็นผู้จัดการอาวุโสคนหนึ่งซึ่งปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อได้ขายหุ้นมูลค่า 100,000 ปอนด์เพื่อจ่ายค่าจัดงานแต่งงานและค่ามัดจำบ้านในฝันหลังแรกของพวกเขา ปิดท้ายที่ชายหนุ่มวัย 30 ปี ที่เริ่มต้นจากการเป็นเด็กฝึกงานในบริษัท แต่ปัจจุบันยังคงถือหุ้นมูลค่า 600,000 ปอนด์ในมือ

นอกจากการมอบหุ้นให้กับพนักงานแล้ว นาย Molding ยังวางแผนที่จะบริจาคเงินเดือน 750,000 ปอนด์ให้กับองค์กรการกุศลที่ Colne ใกล้ Burnley ใน Lancashire

ความสำเร็จของ นายโมลดิ้ง ไม่ได้มาโดยง่าย งานแรกของเขาคือล้างจาน หลังจากถูกไล่ออกจากวิทยาลัยเพราะโดดเรียน ไม่นานเขาก็ได้ไปเป็นพนักงานที่โรงงาน จากนั้นจึงเริ่มขายซีดีออนไลน์ ก่อนที่จะเริ่มเปิดเว็บไซต์ให้กับร้านค้าปลีกรายอื่น จนกระทั่งกลายมาเป็น The Hut Group ซึ่งขายทุกอย่างตั้งแต่มาสคาร่าไปจนถึงโปรตีนบาร์มังสวิรัติ บริษัทของเขาได้เข้าตลาดหุ้นและมีมูลค่าสูงถึง 6.3 พันล้านปอนด์

เศรษฐี

นายโมลดิ้ง ยังเปิดเผยถึงความทะเยอทะยานที่จะสร้างงานเพิ่มอีก 9,000 ตำแหน่ง หรือ 3,000 อัตราต่อปี ภายในปี 2566 พนักงานในบริษัทของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีการคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นจาก 7,000 เป็น 10,000 คนในปีนี้ ซึ่งนายโมลดิ้งยังกล่าวด้วยว่า “เมื่อไม่นานมานี้เรามีพนักงานเพียง 1,000 คน”

ขณะที่ลูกค้าที่ใช้งาน The Hut Group เรียกได้ว่าพุ่งสูงขึ้นมากเช่นกัน โดยในเดือนพฤศจิกายน มีจำนวนถึง 1.7 ล้านคน และยังมากขึ้นถึง 74% ในช่วง Black Friday ขณะนี้รายได้ของบริษัททั้งปีคาดว่าจะสูงขึ้นระหว่าง 38% ถึง 40% เมื่อเทียบกับคำแนะนำก่อนหน้านี้ที่เติบโต 30% ถึง 33% และยังมีการคาดการณ์อีกด้วยว่า จะมีการประกาศในปลายสัปดาห์นี้เกี่ยวกับการลงทุนใหม่ในด้านการดำเนินการผลิต


 

ยายทำให้หลานขาย ร้านขนมไทยจากฝีมือ 2 เจเนอเรชั่น

account_circle

 “คุณยายสมใจ เต๊ะดอเลาะ” เจ้าของร้านขนมไทยสูตรเด็ด ที่มีมานานกว่า 50 ปี กับหลานสาวสองคนเป็นผู้นำมาประยุกต์สร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับครอบครัว จนกลายเป็นที่มาของแบรนด์ขนมไทย “ยายทำให้หลานขาย” โดย “คุณยายสมใจ” และหลานสาวทั้ง 2 คนได้เล่าว่า

ยายทำให้หลานขาย ร้านขนมไทยจากฝีมือ 2 เจเนอเรชั่น

“ยายทำขนมมาตั้งแต่อายุประมาณ 14 – 15 และยังอยู่โรงเรียน กลับมาจากโรงเรียนก็มาช่วยแม่ทำ ก็ทำมาประมาณ 50 กว่าปี เมื่อก่อนก็ขายตามคลอง เข้าบ้านโน้น เข้าบ้านนี้ แต่พอหน้าแล้งก็ทำขนมไปส่งตามร้านพี่น้องที่ขายของอยู่ เราไม่ได้ทำเยอะ แต่ตอนนี้จะเยอะมาก ถามว่ายายทำอะไรเก่ง ก็เก่งไปหมดทุกขนมเลยดีกว่า เพราะยายก็ทำได้หมดทุกอย่าง ก็ไม่รู้จะเอาขนมอะไรชนะ เอาว่าถ้าลูกค้ากินติดใจ ถูกใจ ก็ขอให้ลูกค้าได้กินกันไปเรื่อยๆ แต่ตอนนี้ยายก็แก่แล้ว อยากจะถ่ายทอดอาชีพให้หลานๆ เหลนๆ เขาไป แต่ว่าการทำขนมของยายก็ต้องให้ได้รสชาติของยายที่ทำมา เพื่อจะต่อยอดให้ขายดิบขายดี ลูกค้ากินแล้วเขาจะได้ติดใจ ยายก็จะไปไม่ค่อยไหว แต่พวกหลานๆ ก็บอกว่ายายสู้ๆ เราก็สู้แต่เราก็ยังดูแลอยู่ อย่าทำแบบว่านึกจะทำก็ทำเป็นขนมน่ะมันไม่ได้ มันต้องได้รสชาติของมัน ให้รสชาติกลมกล่อม ให้อร่อย ลูกค้าถึงจะติดใจ เมื่อตัวเรากินเองว่าอร่อย คนอื่นก็อร่อย แต่ถ้าเรากินไม่อร่อย คนอื่นก็บอกว่าไม่อร่อยเหมือนกัน”

ด้าน 2 หลานสาวผู้สร้างแบรนด์ขนมไทย “ยายทำให้หลานขาย” อย่าง “ปู-อนงค์นาฏ” และ “นัท-พัชริดา” ได้เปิดเผยว่า “เราสองคนมีงานประจำที่ทำกันอยู่ และมีรับงานถ่ายรูปกันบ้าง จนถึงช่วงโควิดรอบที่สองงานถ่ายรูปน้อยลง เราก็อยากหารายได้เสริม แล้วเห็นว่าบ้านเราทำขนมกันอยู่แล้ว เราก็เลยเริ่มจากเอาขนมของคุณยายมาถ่ายรูปเล่น แล้วลงโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวของตัวเองก่อน แล้วมีเพื่อนๆ ในระแวกบ้านสนใจ ก็เลยพรีออเดอร์แล้วก็ไปส่งเอา ตอนนั้นยังไม่มีเพจ จนมีลูกค้าเข้ามาพูดคุยกับเราเพราะเห็นว่าเราเป็นเด็ก เค้าถามว่าใครทำ ทำกันเองหรอ เราก็จะตอบว่า ยายทำค่ะ ขนมของที่บ้าน หนูเอามาขาย แล้วก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์คุณยายทำให้หลานขาย จากนั้นก็เลยเปิดเพจเพราะฐานลูกค้าเริ่มกว้างขึ้นแล้วก็สร้างแบรนด์มาจนถึงตอนนี้ค่ะ

จุดเด่นขนมของเราก็คือ เรื่องรสชาติ ที่มันรักษาความดั้งเดิมโบราณเอาไว้ สองก็คือเรื่องรูปลักษณ์ที่แตกต่าง วิธีการห่อขนมแต่ละชนิดจะไม่เหมือนที่อื่น อย่างขนมสอดไส้ก็ไม่มีเตี่ยวทางมะพร้าวคาด จะเป็นร้านเดียวเลยที่ไม่เหมือนใคร แล้วก็ขนมเทียนก็ใช้ไม้กลัด ที่อื่นก็จะใช้สอดใบตอง พอมารุ่นเราแพ็คเกจจิ้งของยายทำให้หลานขาย ก็จะไม่ใช่แบบธรรมดาทั่วไป เราก็จะมีใส่แพ็คเกจจิ้งชะลอมให้ดูถือแล้วรู้สึกว่าการถือขนมไทยไปฝากมันมีคุณค่านะ ด้วยรสชาติบวกกับความทันสมัยมันก็ไปด้วยกันได้ค่ะ”

ติดตามรับชมเรื่องราว แนวคิดการปรับเปลี่ยนของ “คุณยายสมใจ” และหลานสาวทั้ง 2 คน ได้ใน รายการ Next People คนไม่หมดไฟ” ในทุกช่องทางของ Mthai, youtube channel : mono29 และ เว็บไชต์ seeme.me

 

 

จัดเลี้ยงงานแต่ง ด้วยโต๊ะกลม

14 สไตล์ที่ควรหาทำ จัดเลี้ยงงานแต่ง ด้วยโต๊ะกลม สวยคลาสสิก ดูอบอุ่น

จัดเลี้ยงงานแต่ง ด้วยโต๊ะกลม
จัดเลี้ยงงานแต่ง ด้วยโต๊ะกลม

เมื่อพูดถึงงานแต่งงาน ช่วงเวลาที่สนุกที่สุดในการวางแผนก็คือการ จัดเลี้ยงงานแต่ง เนื่องจากแขกจะนั่งทานอาหารเย็นด้วยกัน เรียกว่าเป็นช่วงที่แขกในงานจะได้ใช้เวลาพูดคุยกันมากที่สุด และเพลิดเพลินไปกับอาหารแสนอร่อยตรงหน้า ดังนั้นคุณจะต้องแน่ใจว่างานเลี้ยงเป็นประสบการณ์ที่ดึงดูดสายตาและสนุกสนาน

หากคุณจะเลือกโต๊ะสำหรับงานเลี้ยงที่เหมาะสมกับช่วงเวลานี้ เราขอแนะนำโต๊ะกลม เพราะเป็นรูปทรงโต๊ะแบบคลาสสิก หนึ่งในตัวเลือกที่มีจำหน่ายทั่วไปตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ และเนื่องจากมันเข้าคู่ได้อย่างสวยงามกับสไตล์งานแต่งงานและเก้าอี้ทุกประเภท คุณจึงมั่นใจได้ว่างานจะออกมาดี

14 สไตล์ที่ควรหาทำ จัดเลี้ยงงานแต่ง ด้วยโต๊ะกลม สวยคลาสสิก ดูอบอุ่น


ภาพและที่มา : www.brides.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สายหวานต้องเซฟไว้! เค้กปาร์ตี้สละโสด โทนสีละมุน ประดับดอกไม้

ยกมาเลยทั้งต้น! ไอเดียจัดวาง Tree Centerpieces ให้งานแต่งมีชีวิตชีวา

10 ไอเดีย ตกแต่ง โต๊ะจัดเลี้ยงสไตล์วินเทจ สวยคลาสสิก แถมหรูหรา

 

ทัณฑ์นรก

4 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาด ทัณฑ์นรก ผลงานล่าสุดของ ยูอาอิน

Alternative Textaccount_circle
ทัณฑ์นรก
ทัณฑ์นรก

หลังโกยเอาเสียงฮือฮาไปเป็นกระบุงจากการฉายพรีเมียร์เป็นน้ำจิ้มในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติชั้นนำ ซีรีส์โดย Netflix เรื่องล่าสุดอย่าง ทัณฑ์นรก (Hellbound) ก็กำลังจะออนแอร์ในสัปดาห์นี้แล้วพร้อมพล็อตสดใหม่ที่บอกเล่าอีกมุมมองของการมอง “โลก” อันเป็นเอกลักษณ์ผ่านสายตาของผู้กำกับ ยอนซังโฮ ผ่านทางเรื่องราวของโลกที่ถูกครอบงำโดยปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติและการถือกำเนิดขึ้นของกลุ่มลัทธิทางศาสนากลุ่มใหม่ที่ชื่อว่า “กลุ่มสัจธรรมใหม่” ท่ามกลางความวุ่นวายโกลาหลเมื่อมีคนพบเห็นผู้ปฏิบัติการจากนรกที่ปรากฏกายขึ้นเพื่อส่งผู้คนไปลงนรก ก่อนจะไปพบเรื่องราวสุดระทึกใจในวันศุกร์ที่จะมาถึงนี้ เรามี 4 เหตุผลเน้นๆ ว่าทำไมคุณไม่ควรพลาดมาฝากกันค่ะ

4 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาด ทัณฑ์นรก ผลงานล่าสุดของ ยูอาอิน

1. ที่สุดของความระทึกใจในรูปแบบใหม่

ผลงานเรื่องนี้ถูกดัดแปลงจากผลงานเว็บตูนชื่อเดียวกันซึ่งผู้กำกับยอนซังโฮร่วมเขียน เรื่องราวเล่าถึงปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันใจกลางกรุงโซล สร้างความหวาดกลัวและความสับสนอลหม่านให้กับสังคม จนนำไปสู่การแบ่งแยกทางความเชื่อ และเปลี่ยนโลกใบเดิมที่เราอาศัยอยู่นี้ไปตลอดกาล ผู้กำกับยอนซังโฮเล่าถึงไอเดียของการสร้างผู้ปฏิบัติการจากนรกที่ปรากฏกายขึ้นตามประกาศิตและส่งคนบาปลงนรกว่า “ความเชื่อเรื่องนี้มีมาตั้งแต่โบราณเลยครับ คนโบราณเล่ากันว่าทุกร้อยปีหรือสองร้อยปี พวกเขาจะปรากฏกายให้เห็นในรูปของอสุรกายหรือยมทูต ผมพยายามใส่จินตนาการเสริมเข้าไป โดยอยากให้ผู้ชมเห็นรูปลักษณ์ของพวกเขาแล้วจินตนาการและเห็นภาพของนรกได้ชัดเจนยิ่งขึ้น”

ทัณฑ์นรก

2. คอมบิเนชันสุดปังระหว่างผู้กำกับฝีมือเยี่ยมและทัพนักแสดงชั้นนำ

หนึ่งในความพิเศษของซีรีส์เรื่องนี้คือเคมีที่ลงตัว และชวนให้ติดตาม ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวในการร่วมงานกันของผู้กำกับมือฉมัง ยอนซังโฮ ที่เคยฝากฝีมือในการหยิบเอาประเด็นความไม่แน่นอนและความอยุติธรรมในสังคมปัจจุบันมาบอกเล่าผ่านผลงานคุณภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง (Train to Busan) และ ฝ่านรกซอมบี้คลั่ง (Peninsula) ด้านนักแสดงก็หนาแน่นไปด้วยยอดฝีมือในวงการ ทั้ง ยูอาอิน, คิมฮยอนจู, พัคจองมิน, วอนจินอา และยังอิกจุน โดยผู้กำกับยอนซังโฮได้กล่าวชมนักแสดงในงานแถลงข่าวว่า “ผมว่าการแสดงบทลึกลับเป็นเรื่องที่ยากมาก บางครั้งการที่ยิ่งพยายามแสดงออกมาให้ดูลึกลับ กลับยิ่งทำให้ดูออกมาไม่เป็นธรรมชาติ แต่คุณยูอาอินแสดงออกมาได้ราวกับเป็นคนลึกลับจริงๆ ส่วนคุณคิมฮยอนจูนั้น ในฐานะที่เป็นแฟนติดตามผลงานของเธอมานาน ผมคิดว่าเธอสามารถสร้างรากฐานที่ดีให้กับตัวละครมินฮเยจินได้เป็นอย่างดีด้วยประสบการณ์การแสดงของเธอครับ”

Hellbound

3.จัดเต็มโปรดักชั่นและงานภาพสุดอลังการ

เพื่อที่จะถ่ายทอดปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่ผู้ชมไม่เคยพบเห็นมาก่อน ให้ออกมาดูเหมือนประสบการณ์จริง งานภาพและรายละเอียดต่างๆ ก็จะต้องดูสมจริง ซึ่งการใช้เทคนิคการจัดแสงก็มีส่วนช่วยอย่างยิ่งในการขับเน้นอารมณ์ลึกลับ รุนแรง และลุ้นระทึก ความอลังการและสมจริงของภาพที่ออกมาได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางนับตั้งแต่ปล่อยตัวอย่างบนโลกออนไลน์ รวมถึงในงานเทศกาลภาพยนตร์ชั้นนำระดับนานาชาติ ยูอาอิน กล่าวถึงครั้งแรกที่ได้เห็นผู้ปฏิบัติการจากนรกว่า “ผมคิดว่าแค่ภาพลักษณ์ของมันสามารถทำให้ผลงานนี้ดูน่าสนใจมากครับ” ขณะที่ยังอิกจุนกล่าวว่า “ผมมีโอกาสได้เห็นครั้งแรกที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่ปูซาน มันเหนือความคาดหมายและเกินที่ผมจินตนาการไว้มากเลยครับ”

4. บทซีรีส์ที่สร้างสรรค์ด้วยเมสเสจที่ล้ำลึก


Emily in Paris ซีซั่น 2

เคาะวันแล้ว! Emily in Paris ซีซั่น 2 กลับมาแบบจัดเต็ม เดือนธันวานี้

Emily in Paris ซีซั่น 2
Emily in Paris ซีซั่น 2

เตรียมไปพักร้อนแบบสุดชิคที่ฝรั่งเศสกับ Emily in Paris ซีซั่น 2 ออกเดินทางพร้อมกันทาง Netflix 22 ธันวาคมนี้

เมื่อใช้ชีวิตในกรุงปารีสมาสักพัก เอมิลี่ก็เริ่มคุ้นเคยกับเมืองแห่งนี้มากขึ้น แต่ก็ยังรู้สึกว่ายังมีเรื่องแปลกๆ ให้พบเจอและปรับตัวกับชีวิตสไตล์ชาวฝรั่งเศส หลังจากที่เข้าไปพัวพันกับรักสามเส้าระหว่างเพื่อนบ้านหนุ่มและเพื่อนชาวฝรั่งเศสคนแรกของเธอ เอมิลี่ก็หันมาโฟกัสเรื่องงาน ที่นับวันยิ่งซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ในคลาสเรียนภาษาฝรั่งเศส เอมิลี่ก็ได้พบเจอกับชาวต่างชาติคนหนึ่งที่ทั้งน่ารำคาญและน่าทำความรู้จักไปพร้อมๆ กัน

ดาร์เรน สตาร์ ผู้สร้างและผู้จัดมือรางวัล กลับมานำทัพซีซั่นที่ 2 ของซีรีส์ Emily In Paris (เอมิลี่ในปารีส) หลังจากที่ซีซั่นแรกได้เข้าชิงรางวัลเอมมี่ และเป็นซีรีส์แนวคอมเมดี้ที่มีผู้ชมมากที่สุดทาง Netflix ประจำปี 2020 ส่วนลิลี่ คอลลินส์ โปรดิวเซอร์และนักแสดงของซีรีส์กลับมารับบทเอมิลี่ คูเปอร์อีกครั้ง พร้อมด้วยนักแสดงจากซีซั่นแรก ได้แก่  ฟิลิปปีน เลอรัว-โบลิเออ, แอชลีย์ พาร์ค, ลูกัส บราโว, คามิลล์ ราซาต, ซามูเอล อาร์โนลด์, บรูโน กูเออรี และวิลเลี่ยม อเบดี้ พร้อมด้วยนักแสดงรับเชิญ เคท วอล์ช นอกจากนี้ยังมีนักแสดงใหม่ ได้แก่ ลูเซียน ลาวิสเคาท์, เจเรมี่ โอ แฮริส และ อาร์โนด์ บินาร์ด


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ฮ็อตไฟลุก! กระเป๋า Longchamp Filet ‘ลิลี่ คอลลินส์’ ในเบื้องหลัง Emily in Paris SS 2

ทุกชุดมีเรื่องราว! เจาะลุคแฟชั่นของ ลิลี่ คอลลินส์ จากซีรี่ส์ดัง Emily in Paris

เปิดสเต็ปบิวตี้รูทีนจัดเต็มของ Lily Collins เน้นงานผิวทั้งสกินแคร์และเมคอัพ

 

6 เซเลบหนุ่ม

เปิดวาร์ป 6 เซเลบหนุ่มคลื่นลูกใหม่ รูปหล่อ นามสกุลดัง โปรไฟล์ดีมาก-ก-ก

Alternative Textaccount_circle
6 เซเลบหนุ่ม
6 เซเลบหนุ่ม

รีบตามมาเลยค่ะสาวๆ แพรว จะพาไปทำความรู้จักกับ 6 เซเลบหนุ่มคลื่นลูกใหม่ไฟแรงจากตระกูลดัง ซึ่งนอกจากหน้าตาจะหล่อเหลาเอาการแล้ว โปรไฟล์ยังดี๊ดีมากแม่! เรียกว่ามีครบทั้งกึ๋นและเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจ รับรองว่าทำให้สาวๆ กระชุ่มกระชวยหัวใจได้อย่างแน่นอน

เปิดวาร์ป 6 เซเลบหนุ่มคลื่นลูกใหม่ รูปหล่อ นามสกุลดัง โปรไฟล์ดีมาก-ก-ก

 

พูม – ภานุกร ศรีอรทัยกุล

“พูม – ภานุกร ศรีอรทัยกุล” ลูกชายคนโตของคุณหนึ่ง – สุริยน และคุณเมก้า ศรีอรทัยกุล ที่แม้ลุคจะดูนิ่งๆ เท่ๆ แต่เจ้าตัวบอกว่า “ผมเป็นสายแอดเวนเจอร์นะครับ

“ตอนนี้ผมใกล้จะเรียนจบด้านเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยบอสตัน สหรัฐอเมริกา แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงต้องเรียนทางออนไลน์จากประเทศไทย และบางวันก็เข้าไปศึกษางานที่บริษัทกับคุณพ่อบ้างครับ (ยิ้ม)

พูม ภานุกร ศรีอรทัยกุล

“ผมแพลนไว้ว่าพอจบปริญญาตรีจะเรียน GIA (Gemological Institute of America) ซึ่งเป็นสถาบันอัญมณีและศึกษาทางด้านอัญมณีศาสตร์เพิ่มเติม เพราะในอนาคตผมตั้งใจว่าจะทำด้านนี้ต่อจากคุณพ่อ ซึ่งจริงๆ คุณพ่อไม่ได้บังคับนะครับ ท่านให้อิสระเต็มที่ ท่านบอกเสมอว่าให้ทำสิ่งที่ชอบและอยากทำจริงๆ

“สารภาพว่าผมเพิ่งสนใจด้านอัญมณีเมื่อประมาณ 2 ปีนี้เองครับ จริงอยู่ที่ผมโตมากับสิ่งนี้ แต่เมื่อก่อนเรายังไม่ได้ศึกษาละเอียด แค่รู้สึกว่าหินอะไรทำไมแพงขนาดนี้ (หัวเราะ) แต่พอได้ศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาว่าเพชรแต่ละชนิดเป็นอย่างไร มาจากไหน ทำให้ผมอินและอยากเรียนด้านนี้เพิ่มเติมอย่างละเอียด

“อีกอย่างที่ชอบและอยากทำคือสนามกอล์ฟครับ เพราะชอบตีกอล์ฟมาก เล่นมาตั้งแต่อายุ 13 ปี ผมรู้สึกว่ากอล์ฟเป็นกีฬาที่มีเสน่ห์ ทุกครั้งที่ไปออกรอบเราจะเจอสถานการณ์ที่ไม่เหมือนเดิม อย่างสนาม ทิศทางลม จะเลือกใช้ไม้ตีแบบไหน รวมถึงองค์ประกอบต่างๆ ที่ทำให้เราได้คิดอยู่ตลอด ซึ่งผมเคยเป็นนักกีฬาโรงเรียนตอนอยู่ไฮสกูล แต่ผมรู้สึกว่าถ้าถึงขั้นเป็นนักกีฬาคงซีเรียสเกินไป ขอทำเป็นงานอดิเรกดีกว่า

“และเมื่อปี 2559 ผมเคยจัดกิจกรรมแข่งกอล์ฟการกุศล ‘Golf for School’ เพื่อหารายได้สมทบทุนการศึกษาให้นักเรียนด้อยโอกาส เพราะผมชอบงานด้านการกุศล การช่วยเหลือคน ผมไม่ชอบเห็นคนเป็นทุกข์ เพราะผมก็เคยมีช่วงที่เศร้า เครียด ซึ่งผมไม่ชอบความรู้สึกนั้นเลย บวกกับผมชอบกีฬากอล์ฟมาก จึงนำไอเดียไปปรึกษาคุณพ่อกับคุณปู่ และท่านก็ช่วยจัดการจนเกิดเป็นงานครั้งนั้น ซึ่งผมพอใจและมีความสุขมากครับ แต่หลังจากนั้นผมก็ไปเรียนต่อ แต่กิจกรรมนั้นคุณพ่อยังจัดต่อเนื่องมาตลอด เพียงแต่ผมไม่ได้เข้าไปทำแล้ว ส่วนในอนาคตถ้ามีโอกาส ผมจะทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมอีกแน่นอน

“และช่วงนี้ผมอินกับการพัฒนาตัวเองมากๆ ในทุกด้าน ชอบดูสารคดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ เช่น แนวคิดของคนที่ประสบความสำเร็จ นักธุรกิจ การบริหาร ซึ่งย้อนไปสมัยเด็กผมค่อนข้างเกเร ขี้เล่น ไม่ตั้งใจเรียน ไม่ค่อยสนใจอะไร ดูไม่ค่อยจริงจังกับอะไรเท่าไร แต่พอเข้ามหาวิทยาลัย ผมจริงจังขึ้นเยอะเลยครับ เพราะรู้แล้วว่าการเรียนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ยิ่งจะเข้าสู่วัยทำงานแล้วด้วย จึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด

“ส่วนวันว่างผมชอบอ่านหนังสือ ฟังเพลง และออกกำลังกายด้วยการยกเวต (ยิ้ม) จริงๆ ผมเล่นกีฬาแทบทุกประเภท ชอบกิจกรรมเอ๊าต์ดอร์ อย่างสกี ดำน้ำ ต่อยมวย ฟุตบอล เทนนิส แต่ชอบที่สุดคือกอล์ฟ และเข้าฟิตเนสออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 วัน เพราะการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญมาก ฉะนั้นเริ่มดูแลตั้งแต่ตอนยังอายุไม่มากดีกว่า แต่ถ้าเรื่องการดูแลผิวพรรณ ความหล่อ ผมไม่เก่งเลย (หัวเราะ) ทาแค่ครีมกันแดดก่อนออกไปตีกอล์ฟเท่านั้น…เรื่องนี้ต้องยกให้คุณพ่อครับ

“ถ้ามองนิสัยตัวเอง ผมค่อนข้างเข้ากับคนง่ายนะครับ เฟรนด์ลี่ แต่ถ้าโมโหขึ้นมาก็น่ากลัวอยู่ครับ เพียงแต่ไม่ค่อยจะมีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ส่วนเรื่องหัวใจ ตอนนี้มีแฟนแล้วครับ (ยิ้ม) ผมชอบผู้หญิงที่มีความชัดเจนกับตัวเอง มีเป้าหมายว่าอยากทำอะไร ส่วนผม…คิดว่าตัวเองค่อนข้างโรแมนติก อย่างทุกวันสำคัญก็จะมีอะไรพิเศษให้ตลอด แต่จริงๆ เรื่องนี้ต้องให้คนอื่นตอบนะ” (หัวเราะ)

 

กัน – ณัฐภัทร สหวัฒน์

ณัฐภัทร สหวัฒน์ ลูกชายคนโต หนึ่งในสี่หนุ่มของคุณภัทท และคุณนีน่า – ณัฐนันท์ สหวัฒน์ ที่พกความหล่อมาเต็มอัตรา เขาคือผู้ชายสายลอง มีความชอบหลากหลาย ไม่ว่าจะกระโดดร่ม เล่นโยคะ ฝึกธรรมะ ไปจนถึงเป็นมังสวิรัติ

กัน ณัฐภัทร สหวัฒน์

“ตอนนี้ผมช่วยธุรกิจที่บ้านครับ อยู่ที่บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รวมไปถึงดูแลบริษัท วนชัย วู้ดสมิธ จำกัด ทำเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างและค้าไม้ โดยผมทำตำแหน่ง Communication on Cloud ดูแลช่องทางการขายและการสื่อสารผ่านทางออนไลน์ ทำมาได้ 1 ปีแล้ว ซึ่งต้องเรียนรู้เยอะ เพราะผมไม่ได้จบด้านออนไลน์มาโดยตรง บวกกับไม่ใช่สายเล่นโซเชียล ก็ต้องศึกษาหาวิธีว่าถ้าอยากให้คนเสิร์ชเจอบริษัทเราต้องทำอย่างไร มีวิธีไหนที่จะทำให้คนรู้จักมากขึ้น เพื่อที่จะได้ลูกค้าใหม่ๆ ยากเหมือนกัน แต่ก็ทำได้ครับ

“ผมเรียนจบด้านบริหารจาก Emmanuel College ที่บอสตัน โดยไปเรียนไฮสกูลตั้งแต่อายุ 11 ผมชอบนะ เพราะความที่โรงเรียนมีเด็กนักเรียนมาจากกว่า 50 ประเทศ จึงได้ฝึกเรื่องการปรับตัว กลายเป็นคนที่เข้ากับคนง่าย และสอนให้ผมไม่ตัดสินคนอื่น

“แต่นิสัยผมเบื่อง่ายครับ จึงชอบทดลองหากิจกรรมใหม่ๆ ทำอยู่เสมอ โดยเฉพาะแนวแอดเวนเจอร์ ชอบปีนเขา กระโดดร่ม ซึ่งช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยผมเคยไปลงเรียนคอร์สกระโดดร่มจริงจัง โชคดีที่ผมไม่กลัวความสูง แต่จะรู้สึกตื่นเต้นที่สุดตอนที่กำลังจะกระโดดลงจากเครื่องบิน ความสูงประมาณ 13,000 ฟตุ จากพื้นดิน ต้องมีสติ หมั่นดูสัญญาณมือจากครูผู้ฝึก ซึ่งการฝึกครั้งแรกจะมีครูจับมือแล้วกระโดดไปพร้อมกัน ถ้าเขาเห็นว่าเราทรงตัวได้ ไม่มีอาการตกใจก็จะปล่อยมือ สิ่งที่ต้องทำคือดูว่าตัวเองอยู่ที่ระดับความสูงเท่าไร และคอยเช็กว่าจุดแลนดิ้งคือตรงไหน เพื่อที่จะบังคับร่มให้ไปลงตรงจุด ซึ่งผมโชคดีมาก กระโดดร่มมา 6 ครั้งยังไม่เคยลงผิดจุด

“นอกจากกีฬาที่ตื่นเต้นแล้ว โยคะผมก็เล่น ที่สนใจเพราะช่วยฝึกการทรงตัว อย่างผมชอบเล่นกีฬา ทางน้ำ เช่น เซิร์ฟ เวคบอร์ด ต้องใช้กล้ามเนื้อทุกส่วน โยคะจะช่วยได้มาก หลายคนคิดว่าโยคะเป็นกีฬาช่วยผ่อนคลาย แต่ไม่นะ เหงื่อหยดติ๋งๆ เลย เหนื่อยกว่าวิ่งอีก ผมใช้วิธีฝึกฝนเอง โดยดูคลิปในยูทูบ เริ่มจากวันละ 10 นาที ขยับขึ้นมาเรื่อยๆ ตอนนี้อยู่ที่ 1 ชั่วโมงครึ่ง สามารถทำท่า Head Stand (ยืนด้วยศีรษะ) ได้แล้ว ผมอยากทำท่า Hand Stand (ยืนด้วยมือ) ให้ได้ด้วย กำลังฝึกอยู่ครับ

“อีกอย่างที่ผมทดลองทำได้ปีกว่าคือการกินมังสวิรัติครับ เดิมผมชอบเนื้อสัตว์มาก อยากลองดูว่าถ้าไม่กินผมจะโอเคไหม เป็นความท้าทายอีกแบบ ปรากฏว่าผลลัพธ์ดีกว่าที่คิด เพราะร่างกายตอบรับได้ดีมาก ช่วยให้รู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้น สำหรับใครที่รู้สึกว่ากินมังสวิรัติแล้วจะได้สารอาหารไม่เพียงพอ ผมแนะนำให้เสริมด้วยไขมันชนิดดีและกินวิตามินเสริม เพื่อทดแทนการกินเนื้อสัตว์ด้วยครับ

“อีกอย่างที่หลายคนไม่รู้คือผมชอบงานศิลปะด้วย ทั้งการปั้นดินน้ำมัน แกะสลักไม้ และวาดรูป ทั้งสีน้ำ สีอะคริลิก ตอนนี้อยากลองสีน้ำมันเพิ่ม พอวาดเสร็จบางครั้งก็ให้เป็นของขวัญวันเกิดกับคนในครอบครัว (ยิ้ม)

“นอกจากนี้ผมยังชอบปฏิบัติธรรม เริ่มไปวิปัสสนาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และทำต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้ ที่สนใจเพราะคิดว่าการวิปัสสนาเป็นประโยชน์กับตัวเอง ช่วงแรกยอมรับว่าทรมานมาก นึกว่าไปเข้าแคมป์คณิตศาสตร์ เพราะมัวแต่บวกลบคูณหารว่าจะได้กลับบ้านวันไหน (หัวเราะ) นับทุกอย่าง ต้องนอนกี่วัน กินอาหารกี่มื้อ แต่ศูนย์วิปัสสนาที่เชียงใหม่สอนดีมาก ถ้าเบื่อก็แค่กำหนดกับตัวเองว่าเบื่อหนอ อยากกลับบ้านหนอ ไม่อยากอยู่หนอ ทำตามนั้นจนรู้สึกดีขึ้น มันทำให้ผมมีสติ รู้จักสังเกตร่างกายตัวเอง รู้ว่ากำลังคิดอะไร จึงไปต่อเนื่องเรื่อยๆ

“ในอนาคตผมอยากมีธุรกิจของตัวเอง อยากทำเกี่ยวกับไม้หรือไม่ก็ทำฟาร์ม ผมชอบอยู่กับธรรมชาติ สมัยเรียนไฮสกูล คุณลุงของเพื่อนมีฟาร์มวัว เวลาปิดเทอมผมก็ไปช่วยเป็นลูกมือ ตื่นแต่เช้ามืดไปรีดนม ทำความสะอาดคอก ป้อนอาหาร ชอบมาก เป็นชีวิตในฝันเลยครับ”

 

ซีซาร์ – เปรมชนก วงศ์โชติสถิต

“ซีซาร์” ลูกชายของคุณไพบูลย์ – คุณอุบลวรรณ วงศ์โชติสถิต เจ้าของธุรกิจส่งออกผลไม้ไทย บริษัท โอพี ฟรุตส์ จำกัด เขากำลังศึกษาอยู่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก นอกจากจะเรียนเก่งแล้ว ยังมีความสามารถหลากหลาย ทั้งงานในวงการบันเทิง กีฬา และแฟชั่น เรียกว่าครบเครื่องจริงอะไรจริง

ซีซาร์ เปรมชนก วงศ์โชติสถิต

“ผมกำลังขึ้นปี 2 แลว้ ครับ หลายคนอาจคิดว่าผมไม่น่าเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ เพราะลุคผมค่อนข้างติสต์ (หัวเราะ) แต่เอาจริงๆ ผมก็สนใจงานอาร์ตและแฟชั่นมาก ที่จริงเกือบจะเลือกเรียนสายนั้นแล้ว แต่อีกใจผมก็ชอบเศรษฐศาสตร์เหมือนกัน และการเรียนสาขานี้จะสามารถกลับมาช่วยงานของที่บ้านได้ ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ทิ้งงานด้านที่ชอบครับ อยากเรียนอะไรที่เสริมความครีเอทีฟให้ตัวเองด้วย จึงลงเรียนวิชาด้านมีเดียควบคู่กันไป

“ผมเป็นผู้ชายสายแฟ อินกับแฟชั่นมาก สไตล์ผมคือสตรีท ชอบใส่เสื้อตัวใหญ่ กางเกงโคร่ง กับสนีกเกอร์ แต่วันนี้ขอเปลี่ยนลุคเพื่อ แพรว โดยเฉพาะ อย่างช่วงนี้ผมอินกับดีไซเนอร์ไทย ชอบแบรนด์ Painkiller และ Leisure Projects ที่สามารถนำความเป็นไทยให้โกอินเตอร์ได้ลงตัว ไม่ว่าจะออกคอลเล็คชั่นอะไรมา ก็น่าซื้อไปหมด เรื่องช็อปจึงเป็นของชอบครับ ตอนอยู่นิวยอร์กแค่มีเวลาว่างระหว่างคลาส ก็สามารถไปเล็งไว้ก่อนได้ ไอเท็มที่มีเยอะที่สุดในตู้คือรองเท้า หลากหลายมาก ทั้งบู๊ต สนีกเกอร์ หุ้มข้อ ฯลฯ แบรนด์ที่ชอบที่สุดตอนนี้คือ Nike ชอบที่เขาทำงานกับศิลปินหลากหลาย ทุกคู่ที่เขาดีไซน์ออกมาเป็นสไตล์ผมทั้งนั้นเลย (ยิ้ม)

“ถ้าเป็นเรื่องกีฬา ผมเคยเล่นบาสเกตบอลสมัยเรียนไฮสกูลที่อังกฤษ ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่ผมภูมิใจมาก ผมเริ่มเล่นบาสตั้งแต่อายุ 12 และตัวเล็กที่สุดในทีม ทั้งที่ผมสูง 180 ซึ่งถือว่าสูงสำหรับคนไทยแล้ว แต่เพื่อนในทีมตอนนั้นส่วนใหญ่สูง 190 กัน ความที่ตัวเล็กสุดจึงได้เล่นตำแหน่งพ้อยต์การ์ด ทำหน้าที่จ่ายลูกบอลเพื่อเริ่มบุกเกม และกันฝ่ายตรงข้าม ครั้งหนึ่งเกิดอุบัติเหตุขณะกำลังซ้อมกับเพื่อน แล้วเพื่อนอีกคน ซึ่งสูงกว่า 2 เมตร คือสูงที่สุดในทีม เขาล้มทับผมหัวโขกกันสนั่น โอ้โฮ…อย่างมึน แล้วสัปดาห์ถัดมาต้องสอบ ดีที่ไม่เป็นอะไรมาก

“บาสยังทำให้ผมประทับใจด้วย ตอนอายุ 17 ผมมีโอกาสไปร่วมแข่งที่ประเทศสเปน สนุกมาก เหมือนได้เปิดโลกใบใหม่ เพราะได้ร่วมฝึกกับทีมสเปน ซึ่งเป็นทีมมืออาชีพ เขาเล่นบาสกันเต็มเวลา ไม่ต้องแบ่งเวลาเรียนเหมือนพวกผม นักกีฬาที่นั่นมีแพสชั่นสูง เขาจะคอยผลักดันผมตลอดว่ายูต้องมีพลังนะ ถ้ารู้ว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องอะไร ต้องแก้ตอนนี้เลยนะ ถึงแมตช์นั้นทั้งแพ้และชนะ แต่ก็ทำให้ผมได้ทักษะใหม่ๆ และได้เพื่อนใหม่กลับมา

“ถ้าถามถึงแพสชั่นที่ผมอยากทำตอนนี้คืองานในวงการบันเทิงครับ นอกจากงานเดินแบบ ถ่ายแบบที่ผมทำอยู่แล้ว ผมยังชื่นชอบการเต้นและร้องเพลงด้วย รักการฟังเพลงตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะทำอะไรต้องเปิดเพลงตลอดเวลา ไอดอลคือ Jay Park ศิลปินเกาหลีที่มีความสามารถหลากหลาย แร็พเก่ง ร้องเพลงก็ดี เต้นก็ได้ และ บุคลิกเขาชัดมาก เวลาอยู่บนเวทีเราละสายตาจากเขาไม่ได้เลย เป็นแรงบันดาลใจให้ผมหัดเต้นและลองแร็พเล่นๆ ตอนนี้กำลังเรียนเพิ่มเติมอยู่ครับ นอกจากเพลง งานแสดงผมก็สนใจ ผมชอบดูนักแสดงที่สามารถสื่ออารมณ์ของตัวละครออกมาได้ดี อยากลองทำอย่างนั้นบ้าง ซึ่งที่บ้านก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่

“ส่วนเรื่องหัวใจ ผมไม่โสดแล้วครับ (ยิ้ม ) ผมเป็นแฟนที่ค่อนข้างตามใจ เรียกว่ายอมเลยแหละครับ เซย์โนไม่ค่อยเป็น แต่ถ้ามีเรื่องที่ผมไม่สบายใจก็จะพูดนะ เคลียร์ให้จบทันที สุดท้ายแล้วผมง้อได้ แม้จะไม่เก่งก็ตาม ถึงอย่างนั้นก็ได้ผลซะส่วนใหญ่นะครับ” (ยิ้ม)

 

เท็ดดี้ – อธิวัฒน์ ตั้งพูลสินธนา 

“เท็ดดี้” นอกจากจะเรียนเก่ง เขายังเด่นทั้งเรื่องกิจกรรมและมีแพสชั่นทำงานอาสา เรียกว่าหล่อ เก่ง ใจดี ครบสูตร

เท็ดดี้ อธิวัฒน์ ตั้งพูลสินธนา 

“ผมเป็นเด็กกิจกรรมตั้งแต่สมัยเรียนที่สาธิตจุฬาฯ เป็นทั้งนักกีฬาว่ายน้ำและแบดมินตันของโรงเรียน แมตช์ที่ภูมิใจคือชนะเลิศการแข่งขันแบดมินตันในงานสาธิตสามัคคี ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างโรงเรียนสาธิต ผมชนะครั้งแรกตอนเรียนชั้น ป.6 และอีกครั้งคือ ม.2 แต่ตอนหลัง อยากมุ่งเรื่องการเรียนให้เต็มที่จึงหยุดไว้ก่อน สุดท้ายก็สามารถเอนทรานซ์ติดคณะบัญชี ภาคอินเตอร์ จุฬาฯ ได้อย่างที่ตั้งใจครับ (ยิ้ม)

“ตอนนี้ผมเรียนอยู่ชั้นปี 3 กำลังอินกับสิ่งที่เรียนมาก เพราะมีโอกาสไปฝึกงานด้าน Investment Banking ที่ Jay Capital Advisory Limited ลองทำงานด้านไฟแนนซ์มาสักพัก สนุกดีครับ ทำให้อยากลองทำงานเป็นที่ปรึกษา ดูแลและแก้ไขปัญหาธุรกิจในแต่ละเคสมากกว่าจะลงทุนทำธุรกิจของตัวเอง เพราะผมไม่ชอบความเสี่ยง

“ผมยังสนใจงานในวงการบันเทิงด้วย เคยมีโอกาสไปแคสติ้งงานของช่อง One ช่วงที่เรียนอยู่ ปี 2 และได้เรียนคลาสการแสดงเพิ่มเติม ผมยังไม่แน่ใจว่าตัวเองรักงานด้านนี้จนอยากเอาจริงเลยไหม แต่เมื่อมีโอกาสก็อยากทำให้เต็มที่ที่สุด

“เรื่องที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตผมคือ เมื่อก่อนผมเป็นสายช็อปแบรนด์เนม เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วไม่ทำอะไรเลยนอกจากช็อปปิ้งทั้งวัน กระทั่งเรียนมหาวิทยาลัยแล้วมีโอกาสไปค่ายอาสา ซึ่งก่อนหน้านั้นชีวิตผมมีแต่เรื่องเรียนกับกีฬา ไม่ค่อยทำอะไรอย่างอื่น โดยเฉพาะงานอาสา จึงอยากลองออกไปช่วยคนและอยู่แบบลำบากบ้าง เพราะค่ายนี้กินอยู่ค่อนข้างลำบากและห้ามแตะมือถือ 7 วัน ตอนบอกคุณพ่อว่าจะไปค่าย ท่านยังแปลกใจ แต่ก็สนับสนุนให้ไปเรียนรู้เต็มที่ ซึ่งเป้าหมายของค่ายอาสาครั้งนั้นคือสร้างห้องสมุดให้เด็กๆ ที่จังหวัดมหาสารคามเป็นเวลา 7 วัน

“คืนแรกต้องปูเสื่อนอนในห้องเรียน แมลงเยอะมาก ต้องปัดกันทั้งคืน แย่สุดคืออาหาร ผมไม่กินผัก แต่ในค่ายมีแต่ผัก เมนูวันแรกคือแกงจืดแตงกวากับถั่วงอกแบบไม่ปรุงรส เห็นแล้วไม่อยากกินเลยครับ แต่กฎของค่ายคือต้องกินให้หมด ตอนนั้นคิดเลยนะว่าจะรอดไหม แต่ถ้าให้ชั่งน้ำหนัก เรื่องสนุกในค่ายมีเยอะกว่า จนผมเลิกโฟกัสเรื่องอาหาร คือนอกจากสร้างห้องสมุด ยังมีงานสอนหนังสือ กิจกรรมสัมพันธ์กับชุมชน และงานสวัสดิการ ทุกคนจะได้วนทำครบทุกอย่าง ผมได้ผสมปูน ก่ออิฐฉาบปูนเป็นครั้งแรกในชีวิต ได้ไปสอนหนังสือเด็กๆ ส่วนกิจกรรมสัมพันธ์ คือไปหาชุมชน พูดคุย เรียนรู้วัฒนธรรม และมอบของใช้ให้ผู้ป่วยติดเตียง วันสวัสดิการก็ทำความสะอาด ทำอาหาร ดูแลค่าย ทั้งหมดนี้ผมชอบการสอนมากที่สุด ที่แปลกคือผมเคยคิดว่าตัวเองไม่ชอบเด็กเลย แต่เด็กๆ ที่นี่น่ารักมาก จนผมรู้สึกอยากช่วยให้เขาได้รับอะไรสักอย่าง จะเป็นความรู้หรือความสุขก็ได้ พอใกล้ถึงวันกลับบ้านไม่อยากกลับเลยครับ พอขึ้นปี 2 และปี 3 ผมสมัครเป็นสต๊าฟทำหน้าที่จัดค่าย โดยดูแลเรื่องการสอนว่าแต่ละวันจะสอนเรื่องอะไร เช่น ความสามัคคี น้ำใจ ความอดทน การตั้งเป้าหมาย ฯลฯ

“สิ่งที่เปลี่ยนผมมากที่สุดจากการไปค่ายคือทำให้ผมรู้สึกขอบคุณชีวิตที่ผมมีอย่างทุกวันนี้ รู้จักพอใจในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวมากขึ้น อย่างมีวันหนึ่งที่ผมอยู่ค่าย ต้องกินแครอตกับหัวหอม จากคนที่ไม่กินผัก แต่วันนั้นผมกลับรู้สึกว่ามันอร่อย คือแค่รู้สึกอย่างนั้นเราก็มีความสุขได้ แล้วมันทำให้นิยามของความสุขเปลี่ยนไปจากเดิม เมื่อก่อนผมคิดว่าการซื้อของทำให้มีความสุข แต่ตอนนี้มันคงไม่ได้มากเท่ากับที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น ทุกวันนี้ผมช็อปปิ้งของแบรนด์เนมน้อยลง ถือว่าประหยัด ไปได้เยอะ (หัวเราะ) ผมใช้เงินไปกับการท่องเที่ยวหาประสบการณ์ชีวิตหรือกินของกินอร่อยๆ แทน

“ตอนนี้ผมอยากทำโปรเจ็กต์ที่เปิดโอกาสให้นิสิตไปทำกิจกรรมร่วมกับเด็กกำพร้าได้โดยไม่ต้องจำกัดจำนวนคน เพราะปกติเวลาทำกิจกรรมมักจะต้องจำกัดจำนวนด้วยเงื่อนไขต่างๆ ผมอยากทำให้สำเร็จ เพื่อนๆ น้องๆ จะได้มีประสบการณ์ในการออกไปช่วยเหลือผู้อื่นดูบ้าง เพราะมันทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ หลายอย่าง ผมเองยังไม่เคยลืมความประทับใจที่น้องๆ ชั้นประถมเดินมาขอบคุณที่เราช่วยสอนหนังสือ เป็นความรู้สึกดีที่ต้องสัมผัสด้วยตัวเองครับ”

 

อั๊น – ณพวุฒิ ขุนพินิจ 

“อั๊น” ทายาทคนสุดท้องของคุณอรรถกวี ขุนพินิจ และคุณอพัชชา รัตนนันท์ แห่งบริษัท ยูเนี่ยน เคมีคอล แอนด์ อีควิปเม้นท์ จำกัด ผู้ผลิตเอทิลแอลกอฮอล์ที่ได้การรับรองมาตรฐานอาหารและยารายเดียวในประเทศไทย (Food Grade) หลังจากเรียนจบจากอเมริกา ตอนนี้เขากำลังสนุกกับการแตกไลน์งานธุรกิจ

อั๊น ณพวุฒิ ขุนพินิจ 

“ผมไปเรียนไฮสกูลที่คอนเนตทิคัต อเมริกา ตั้งแต่อายุ 14 ปี ตอนแรกไม่อยากไป เมื่อมองย้อนไปก็เป็นเรื่องดีนะ ผมยังคิดเลยว่าถ้ามีลูกก็อยากส่งไปเรียนที่อเมริกา เพราะมันช่วยสอนให้ใช้ชีวิตด้วยตัวเอง อย่างโรงเรียนประจำที่ผมไปอยู่มีตารางเวรให้เด็กแต่ละคนว่าต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง เช่น ดูดฝุ่นในห้องเรียน ตักหิมะ เก็บจานหลังกินข้าว สอนให้ผมรู้จักรับผิดชอบ ฝึกวินัย พอไปเรียนมหาวิทยาลัยก็อยู่ได้สบายเลย

“ผมตัดสินใจเรียนต่อด้าน Arts and Science ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก จากนั้นก็เบนเข็มมาเรียนด้าน Public Policy โฟกัสเรื่องรัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ ศึกษาเกี่ยวกับนโยบายรัฐ รวมถึงเรื่องภาษี เพราะได้ลองเรียนแล้วชอบ ผมรู้สึกว่าการเรียนสาขานี้ตอบโจทย์ เพราะสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจที่บ้านได้เป็นอย่างดี

“ผมกับพี่สาว (เอิร์น – ธัญนิจ ขุนพินิจ) ยังร่วมก่อตั้งธุรกิจอีก 2 อย่าง คือ Avia by Union Alcohol ผลิต Hand Sanitizing Gel และ Alcohol Hand Spray ผลตอบรับค่อนข้างดี ส่วนอีกธุรกิจที่เพิ่งทำด้วยกันคือแบรนด์ Skin & Tonic เป็น Pillow Spray ใช้ฆ่าเชื้อและช่วยให้ผ่อนคลาย นอนหลับได้ดี ใช้สำหรับฉีดหมอนและเครื่องนอน ซึ่งทั้งสองธุรกิจนี้เราใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุดของธุรกิจในครอบครัวเรามาต่อยอด อย่าง Pillow Spray พี่สาวเลือกที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แต่ใช้เอสเซนเชียลออยล์อย่างดีที่นำเข้ามาจากฝรั่งเศส โดยขายทางออนไลน์ Line : @AviabyUnionAlcohol และ Line : @skinandtonic

“ผมเป็นคนชิลๆ ง่ายๆ ชอบดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายรูป ไม่ชอบความเครียด ถ้านอกเวลางานผมไม่เคยจัดตารางว่าต้องทำอะไร บางวันก็ขับรถเรื่อยๆ ไปโผล่ที่อยุธยาเลยก็มี แล้วก็ชอบความแอดเวนเจอร์ มีเรื่องนึงที่ผมภูมิใจมากคือ เมื่อปี 2019 ผมเดินขึ้นยอดเขาคิลิมันจาโรสำเร็จ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปแอฟริกา มีความสูง 5,895 เมตร ใช้เวลาเดินทั้งหมด 7 วัน คือ เดินขึ้นเขา 6 วัน และเดินลงจากเขา 1 วัน ไปกับเพื่อนและพี่สาว โดยมีไกด์ช่วยนำทาง เรียกว่าเป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่เคยทำ เพราะแม้ผมจะเข้ายิมบ้าง แต่ร่างกายไม่ได้ฟิตแบบนักกีฬา แล้วเราต้องเดินตลอดเวลา อย่างวันสุดท้ายคือเดิน 14 ชั่วโมง ต้องตื่นตอนกลางคืนแล้วเดินข้ามเขา เส้นทางไม่ได้ยาก แต่เพราะเป็นทางซิกแซ็ก และยิ่งขึ้นไปบนที่สูงยิ่งหายใจลำบาก ผมถึงขั้นอาเจียน บางวันนอนแล้วตอนเช้าลุกขยับตัวไม่ได้ เพราะปวดเมื่อยมาก โชคดีอย่างคือไม่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง

“วันที่ต้องเดินขึ้นยอดเขาเราเริ่มเดินตั้งแต่ 5 ทุ่ม อากาศหนาวมาก ทั้งลื่นและชัน ต้องใช้ ไม้เท้าช่วยให้ไต่ไปเรื่อยๆ แต่ก็เดินลำบาก เพราะเป็นทรายนิ่ม ก้าวลงไปแล้วเท้าจะจมถอยลงไป บรรยากาศรอบด้านมืดไปหมด มองไม่เห็นเพื่นร่วมทาง เห็นแค่แสงจากไฟฉายที่อยู่บนหัว ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วยังรู้สึกเหมือนอยู่ที่เดิม เหนื่อยแค่ไหนก็พักไม่ได้ เพราะไกด์บอกว่าพักแล้วอาจจะไม่ตื่น พวกผมไปถึงยอดเขาช่วงเช้า มองลงไปข้างล่างเห็นเมฆ บรรยากาศเงียบสงบมาก คุ้มกับความเหนื่อยครับ”

 

ซีซ่า – เบญจมินทร์ เบญจฤทธิ์

“ซีซ่า – เบญจมินทร์ เบญจฤทธิ์” หนุ่มนักกีฬามากความสามารถ ลูกชายของคุณอภิชาติ – คุณวีรนุช เบญจฤทธิ์ MD One & All Thailand และ MD Vera Allied Manufacturing Co. Ltd. ซึ่งนอกจากเขาจะมาพร้อมกับความสูงโปร่ง ยังมีเสน่ห์จากความน่ารัก ยิ้มเก่ง ใจดี และเป็นกันเอง

ซีซ่า เบญจมินทร์ เบญจฤทธิ์

“ผมเรียนอยูที่ Harrow School (Year 13) ประเทศอังกฤษ ซึ่งผมมาเรียนต่อที่นี่ตั้งแต่อายุ 13 ปี เป็นโรงเรียนประจำชายล้วน การที่ได้เข้าเรียนที่นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผมภูมิใจนะครับ เพราะต้องผ่านการสอบหลายรอบ ทั้งข้อเขียน ทั้งสัมภาษณ์ และได้รับทุนพิเศษในฐานะนักกีฬาว่ายน้ำ (Outstanding Talent Scholarship 2016 – 2021) และทุนเรียนดี A – Level (Honarary Academic Scholarship 2019 – 2021)

“ผมว่ายน้ำมาตั้งแต่ 3 ขวบ และเริ่มลงแข่งขันครั้งแรกตอน 6 ขวบ จากนั้นก็เป็นนักกีฬาว่ายน้ำของโรงเรียนมาตลอด มีตารางฝึกซ้อมสัปดาห์ละ 5 วันเพื่อเตรียมสำหรับแข่งขันรายการต่างๆ ความภูมิใจล่าสุดคือผมได้รับเลือกเป็นหัวหน้าชั้นประจำบ้าน คอยดูแลน้องๆ ปีแรก (Year 9) โดยมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย ให้คำปรึกษาน้องๆ เพราะเวลาเข้ามาเรียนโรงเรียนประจำใหม่ๆ นักเรียนอาจจะเกิดอาการซึมเศร้าหรือคิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัว ผมก็จะคอยให้คำปรึกษา แนะนำ เทคแคร์ เพราะผมก็เคยผ่านช่วงปีแรกของการเรียนมาก่อน ทำให้เข้าใจความรู้สึกน้องๆ ว่าต้องการอะไร เพียงแต่ตัวผมตอนนั้นไม่ได้โฮมซิกเท่าไร อาจเพราะไม่ค่อยมีเวลาว่าง กิจกรรมเยอะ และเจอเพื่อนใหม่ตลอด…เรียกว่าไม่ค่อยมีเวลาเหงาครับ (หัวเราะ)

“ตำแหน่งหัวหน้าชั้นนี้ 50 เปอร์เซ็นต์คุณครูเลือก แล้วอีก 50 เปอร์เซ็นต์มาจากการโหวตของลูกบ้านครับ ผมคิดว่าส่วนหนึ่งน่าจะเพราะนิสัยผมค่อนข้างเข้ากับคนง่าย คุยกับเพื่อนๆ ได้หมด เฟรนด์ลี่ ใจดี รับฟังปัญหาของคนอื่น ซึ่งผมชอบให้คนมาคุย มาปรึกษานะ ถ้าช่วยอะไรได้ก็จะช่วยเต็มที่ ถ้าปลอบใจแล้วยังไม่ดีขึ้น ก็อาจจะพาไปกินข้าว พาไปเที่ยว ให้เขาไม่คิดมากครับ (ยิ้ม)

“ถ้าผมมีเวลาว่างส่วนใหญ่ก็จะดูหนัง ฟังเพลง แต่หลักๆ จะอยู่กับการออกกำลังกาย เพราะเป็นนักกีฬา แต่ไม่เฉพาะว่ายน้ำนะครับ ผมชอบเล่นกีฬาแทบทุกประเภท อย่างวิ่งผมก็เคยลงวิ่งฮาล์ฟมาราธอน (21 กิโลเมตร) และล่าสุดลงวิ่ง Cross Country คือวิ่งผสมว่ายน้ำ เป็นงานการกุศลของโรงเรียน ซึ่งปีนี้ผมจะจบแล้ว ก็เลยขอจัดเต็มนิดนึง (หัวเราะ) ลงว่ายน้ำ 10 กิโลเมตร ต่อด้วยวิ่ง 20 กิโลเมตร เป็นการวิ่งขึ้นลงภูเขาในบริเวณโรงเรียน รวมเวลาประมาณ 5 – 6 ชั่วโมง ถือเป็นอีกหนึ่งรายการที่ประทับใจครับ (ยิ้ม)

“ถ้าพูดถึงประสบการณ์แปลกใหม่ ผมคิดว่าน่าจะเป็นตอนที่บินกลับจากอังกฤษช่วงธันวาคมที่ผ่านมา เพราะต้องกักตัวนาน 4 สัปดาห์เลย เริ่มจากกักตัวที่อังกฤษก่อน 15 วัน พอมาถึงเมืองไทยก็กักต่ออีก 15 วัน แต่ผมไม่มีปัญหา ครับ เพราะปกติอยู่โรงเรียนประจำจึงอยู่คนเดียวได้ ไม่เหงา (ยิ้ม) ถือว่าได้ใช้เวลากับตัวเองเต็มที่ มีเวลาเขียนโปรเจ็กต์ส่งมหาวิทยาลัย เรียนออนไลน์ ฯลฯ

“ตอนนี้ผมอยู่ในช่วงรอการตอบรับจากมหาวิทยาลัยที่อังกฤษกับสหรัฐอเมริกาครับ ผมอยากเรียนต่อด้านวิทยาศาสตร์เคมี เพราะครอบครัวทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผม คิดว่าพอเรียนจบด้านนี้ อยากเรียนต่อเป็นแพทย์ผิวหนัง เพื่อจะได้สานต่อธุรกิจของครอบครัวครับ (ยิ้ม)

“อย่างช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ผมอยู่เมืองไทยพอดี จึงใช้เวลาว่างทำผลิตภัณฑ์กับเพื่อน ชื่อแบรนด์ ZkinS (IG : @zkinsoffcial) เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า 3 ชิ้น คือ โฟมล้างหน้า ครีมบำรุง และครีมกันแดด ซึ่งคิดค้นมาจากความชอบและประสบการณ์ของตัวเองว่าส่วนผสมแบบไหนดี ควรมีอะไรบ้าง เพราะผมโตมาในห้องแล็บ อยู่ในโรงงาน ทำให้รู้จักส่วนผสมต่างๆ บวกกับศึกษาเพิ่มเติม ทดลองด้วยตัวเองมาตลอด แต่ตอนนั้นทำออกมาจำนวนไม่เยอะครับ เพราะมีเวลาว่างไม่กี่เดือนก็ต้องกลับไปเรียนต่อ แต่เร็วๆ นี้มีแพลนจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติม ฝากติดตามด้วยนะครับ (ยิ้ม)

“งานนี้ตรงกับความสนใจของผมที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองครับ ยิ่งเป็นนักกีฬาด้วย ยิ่งต้องดูแลผิวหน้าให้ดี (ยิ้ม) บิวตี้รูทีนของผมก็ไม่ได้เยอะนะครับ (คุณแม่แซวว่าจริงๆ แล้วเยอะ) ตอนเช้าเริ่มจากโฟมล้างหน้า ยาแต้มสิว เซรั่มลดเลือนจุดด่างดำ และครีมกันแดด แต่ถ้าวันไหนต้องไปงานก็เพิ่มคอนซีลเลอร์กลบรอยสิวนิดนึง

“ส่วนก่อนนอนเริ่มจากใช้คลีนซิ่งเช็ดสิ่งสกปรก และเพิ่มการสครับผิวหน้าสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง ตามด้วยยาแต้มสิว และเซรั่ม 2 ชนิดคือ ลดเลือนจุดด่างดำและเติมความชุ่มชื้น ประมาณนี้ครับ (หัวเราะ) เพียงแต่บนโต๊ะมีของเยอะมาก เพราะบางครั้งพี่คนขายแนะนำดี ผมเลยใจอ่อน ซื้อกลับมาลองตลอด” (หัวเราะ)


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 967

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สาวๆ ใจเต้นแรง! อีตั้น-ศักดิเดช บาริสต้าสุดหล่อ ดีกรีลูกชายแม่หมิว

ชีวิตคือ การเรียนรู้ เอม-สรรเพชญ์ ทายาทหนึ่งเดียวของ ดู๋-สัญญา คุณากร

เปิดใจ “ลุค อิชิคาว่า” พระเอกน้องใหม่มาแรง! ที่ขโมยหัวใจแม่ยกอยู่ในตอนนี้

 

สนีกเกอร์ Dior Vibe

ซูมความเท่ สนีกเกอร์ Dior Vibe ตีความใหม่จากรองเท้าวิ่ง

สนีกเกอร์ Dior Vibe
สนีกเกอร์ Dior Vibe

รองเท้าผ้าใบหรือ สนีกเกอร์ Dior Vibe ซึ่งออกแบบโดย มาเรีย กราเซีย คิอูริ (Maria Grazia Chiuri) สำหรับคอลเล็คชั่นครูซ 2022 เป็นการนำรองเท้าวิ่งมาตีความใหม่ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การนำวัสดุโปร่งใสมาเป็นลูกเล่น เสริมด้วยแถบสีทองหรือเงิน พร้อมพื้นรองเท้ายางที่มอบความยืดหยุ่น

ดวงดาวอันถือเป็นสัญลักษณ์อันเป็นที่รักของกูตูริเยร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์ดิออร์ จะถูกนำมาประดับประดาอยู่บนผลงานชิ้นนี้ ปิดท้ายด้วยชื่อ Christian Dior ถือเป็นการผสมผสานโลกของสปอร์ตแวร์เข้ากับสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของดิออร์ มีจำหน่ายภายในบูติกของดิออร์และทางเว็บไซต์ Dior.com สนนราคาคู่ละ 42,000 บาท

ซูมความเท่ สนีกเกอร์ Dior Vibe ตีความใหม่จากรองเท้าวิ่ง

สนีกเกอร์ Dior Vibe-1 สนีกเกอร์ Dior Vibe-2 สนีกเกอร์ Dior Vibe-3 สนีกเกอร์ Dior Vibe-4


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

หลักแสนก็ยอมจ่าย! กระเป๋า Dior Bobby รูปทรงใหม่แนวนอน ใบเดียวใช้คุ้ม

ไม่ได้ตาฝาด! กระเป๋า Balenciaga The Hacker หน้าตาเหมือน Gucci

หลายคนอาจไม่รู้! สไตลิสต์ BLACKPINK เผย 4 สาวเลือกคอสตูมเองหรือไม่

 

Katherine Langford

คนรักสวยไม่ได้ดูแลแค่ผิวหน้า Katherine Langford เผยทริคบำรุงผิวส่วนอื่นที่ไม่ควรละเลย

Alternative Textaccount_circle
Katherine Langford
Katherine Langford

ผิวสวยจังแม่คุณ ทำบุญด้วยอะไร! ไม่ใช่ว่าเหล่าเซเลบริตี้ประจำพรมแดงจะมีแต้มบุญสูงกว่าเราจึงมีผิวพรรณสวยกระจ่างไปทั้งตัว แต่เป็นเพราะการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดด้วยผลิตภัณฑ์และเทคนิคที่เหมาะสม แม้พวกเธอจะอยู่เมืองหนาว แต่ก็ยังมีผิวชุ่มชื้นนวลเนียนอ่อนเยาว์ ดังเช่นนักแสดงสาวสวย Katherine Langford (แคทเธอรีน แลงฟอร์ด)

Katherine Langford 5

คนรักสวยไม่ได้ดูแลแค่ผิวหน้า Katherine Langford เผยทริคบำรุงผิวส่วนอื่นที่ไม่ควรละเลย

คนรักสวยที่แท้ไม่ได้ดูแลแค่ผิวหน้า แต่มือและเท้าก็เป็นส่วนสำคัญที่ต้องดูแลในช่วงหน้าหนาว ละเลยแค่แป๊บเดียวผิวอาจหยาบกร้านจนกู้ยาก

“ฉันเคยมีช่วงเวลาที่ยุ่งกับตารางงานต่างๆ จนละเลยการดูแลตัวเองกับผิวหน้านั้นเคร่งครัดอยู่แล้ว แถมยังมีแพทย์ช่วยดูแล แต่ส่วนที่มักลืมคือมือและเท้า มาสะดุ้งอีกทีตอนที่เห็นภาพมือตัวเองถูกซูมในมอนิเตอร์ ซึ่งมันทั้งแห้งและดูหยาบ มีริ้วรอย เหมือนอายุมาก นึกสภาพว่าพอมันขึ้นจอใหญ่ใน โรงหนังจะสยองขวัญขนาดไหน

Katherine Langford 4

“จากนั้นฉันเปลี่ยนบิวตี้รูทีนเลยค่ะ ต้องดูแลมือและเท้ามากขึ้น เลิกล้างมือด้วยน้ำอุ่น เลือกใช้สบู่ที่อ่อนโยนและชุ่มชื้นมากๆ ก่อนนอนอัดครีมแน่นๆ แล้วสวมถุงมือและถุงเท้าเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ ไม่นานมือและเท้าก็คืนสภาพนุ่มนวลขึ้นค่ะ”

Katherine Langford 1 Katherine Langford 2 Katherine Langford 3


ข้อมูล : นิตยสารแพรว ฉบับ 976 เดือนพฤศจิกายน 2564
ภาพ : katherinelangford

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สาวผิวสวย “ยุนอา” เผยทริคคลีนผิวสะอาดใสแบบไม่เอี๊ยด แต่ยังคงความชุ่มชื้น

พาส่อง 4 ไอเท็มตอบโจทย์การอาบน้ำในแบบเซเลบริตี้ที่ไม่ธรรมดา

“จองโฮยอน” หรือ “คังแซบยอก” ผู้เล่นหมายเลข 067 Squid Game เผยทริคดูแลผิว

 

 

คิ้วต์บอย อโยธยา

ระวังตกหลุมรัก! เปิดโฉมหน้าพร้อมทำความรู้จัก 7 หนุ่ม คิ้วต์บอย อโยธยา 2021

Alternative Textaccount_circle
คิ้วต์บอย อโยธยา
คิ้วต์บอย อโยธยา

เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข และ เกรท-สพล อัศวมั่นคง นำทัพหนุ่มๆ  คิ้วต์บอย อโยธยา 2021 มาขโมยหัวใจผู้ชมในโปรเจ็คต์ “คิ้วท์บอย อโยธยา”

ก่อนหน้าที่หนังจะลงตัวที่ชื่อ “อโยธยา มหาละลวย” ครั้งหนึ่งทีมงานเคยเรียกหนังเรื่องนี้ว่า “คิวท์บอย อโยธยา” มาก่อน เนื่องจากหนังเต็มไปด้วยนักแสดงชายวัยรุ่นหน้าตาดี เพื่อสะท้อนความตั้งใจของผู้กำกับที่อยากนำเสนอ ความหลากหลายของเชื้อชาติในช่วงเวลาหนึ่ง และอยากให้มันเป็นหนังรักเรื่องหนึ่งที่มีฉากหลังเป็นอโยธยา

สุดท้ายแล้ว โปรเจ็คต์ “คิ้วท์บอย อโยธยา” ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น  “อโยธยา มหาละลวย” เพื่อให้สอดคล้องกับ ความตั้งใจของผู้กำกับที่จะทำเป็นหนังรักวัยรุ่น โดยมีฉากหลังเป็นอโยธยา และมนต์คาถาเป็นไอเทมลับพิชิตใจ ซึ่งคำว่า “มหาละลวย” ก็คือมนต์ที่ทำให้รักทำให้หลงนั่นเอง

นอกจากความสนุกของเรื่องราวแล้ว ในภาพยนตร์ที่หลายคนจับตามอง ยังมีบรรดานักแสดงหนุ่มหล่อล่ำ ที่ยกขบวนมารับบทในเรื่องนี้ด้วย เช่นนั้นครั้งนี้เราจะพาไปรู้จัก 7 หนุ่มหล่อจากผลงานเรื่องนี้กัน แต่ขอเตือนนิดหนึ่งว่า ระวังตกหลุมรักหนุ่มๆ ไม่รู้ตัวนะคะ

ระวังตกหลุมรัก! เปิดโฉมหน้าพร้อมทำความรู้จัก 7 หนุ่ม คิ้วต์บอย อโยธยา 2021

“เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข” หรือ “เจมส์จิ” พระเอกช่อง 3 วัย 28 ปี แจ้งเกิดในวงการจากผลงาน สุภาพบุรุษจุฑาเทพ เรื่องคุณชายพุฒิภัทร โดยหลังจากที่แจ้งเกิดในเรื่องนี้ก็ได้มีผลงานพิสูจน์ฝีมือการแสดงต่ออีกหลายเรื่อง ปดิวรัดา,หนึ่งในทรวง,เกมเสน่หา ฯลฯ สำหรับในเรื่องนี้เจมส์รับบท “เรียว” หนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่น ที่มีเชื้อสาย “ยามาดะ” (ยามาดะ นากามาซะ เป็นซามูไรคนสุดท้ายในสมัยอยุธยา) ที่ถูกชุบเลี้ยงมาโดยหลวงปู่เขียน ที่สอนวิชาคชสาร ซึ่งเป็นคาถาที่ น้อยคนนักจะสามารถเรียนรู้ได้ รวมถึงคาถาอาคมอื่นๆ ที่หลวงปู่สอนไว้ให้เขาใช้ป้องกันตัว

คิ้วต์บอย อโยธยา คิ้วต์บอย อโยธยา 2021

นักแสดงหนุ่มวัย 27 ปี “เกรท-สพล อัศวมั่นคง”ดาวรุ่งจากช่อง 7 สี มีผลงานเป็นที่รู้จักอาทิ สองนรี,พรหมพิศวาส ฯลฯ และภาพยนตร์เรื่อง  แสงกระสือ สำหรับในเรื่องนี้รับบทเป็นคู่หูของ เรียว ชื่อ “ทอง” เป็นคนที่หลวงปู่ให้มาดูแลและคอยช่วยเหลือ เรียว ยามเกิดอันตราย ทอง เติบโตมาพร้อมกับเรียว และเรียนรู้วิชา คาถาอาคมเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าเหมือนกระจกของกันและกัน เรียวไปไหน ทองก็ไปที่นั่น

เกรท-สพล อัศวมั่นคง เกรท-สพล อัศวมั่นคง 01

ดาราหนุ่มลูกครึ่งไทย-เวียดนามอายุ 24 ปี “ภีม- ธนบดี ใจเย็น” หรือ “เตอร์ ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น ซีซั่น 3” มาครั้งนี้เขาได้ที่สลัดลุคสุดคูลมารับบท “ขวัญ” เป็นบุตรชายของออกญาคชบาล เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ มีความ หล่อคมแบบแมนๆ ชอบสังสรรค์ และรักสาวนางเดียวกับเรียว

ภีม- ธนบดี ใจเย็น

“ฟลุ๊คจ์-พงศภัทร์ กันคำ” นักแสดงหนุ่มผู้มีภูมิลำเนาจากจังหวัดเชียงราย มีผลงานอาทิ ลองของเดอะซีรีส์ ,My Dream The Series นายในฝัน ฯลฯ ซึ่งในผลงานชิ้นนี้รับเป็น “แก้ว” น้องชายต่างมารดาของ “ขวัญ”

“โมสต์-วิศรุต หิมรัตน์” หรือ ไอ้จ้อย แห่ง บุพเพสันนิวาส ดาราหนุ่มผู้ขโมยซีน ในผลงานเรื่องนี้เขาพลิกบทบาทมารับคาแรกเตอร์ “จีนล้ง” ชาวจีน วัยรุ่นจากโพ้นทะเลที่มีนิสัยรักสนุก รักเพื่อน เฮไหนเฮนั่น และที่สำคัญเขาอยากเรียนคาถาอาคมเพื่อให้สาวรักสาวหลง

โมสต์-วิศรุต หิมรัตน์

“ฟลุค-พงศกร วงศ์เพียร” นักแสดงชายคนนี้เคยชนะเลิศการประกวดคว้ารางวัลใหญ่มาจากเวที GSB GEN CAMPUS STAR ประจำปี 2018 กหลังจากนั้นก็ได้รับงานในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว และสร้างชื่อเสียงจากผลงานภาพยนตร์สุดฟินที่สร้างมาจากนิยายแจ่มใสเรื่อง วุ่นนัก รักต้องประหยัด Make Money

 

ฟลุ๊คจ์-พงศภัทร์ กันคำ ฟลุ๊คจ์-พงศภัทร์ กันคำ

“โดม-เพชรธำรงชัย” หนุ่มเป็นลูกครึ่ง ไทย-ออสเตรเลีย อดีตผู้เข้าแข่งขันจาก THE FACE THAILAND ซีซั่น 5 และเคยขึ้นชกในรายการ 10 FIGHT 10 ด้วย นอกจากนี้เขายังเป็นหลานชายของ ต๊อกแต๊ก A4 หมอดูชื่อดัง สำหรับในเรื่อง อโยธยา มหาละลวย เขารับบทเป็น “ทวย” หนึ่งในแก๊งหนุ่มๆ ที่มาขโมยหัวใจผู้ชม

“เกรกัวร์ เดอ บ๊อด” นักแสดงลูกครึ่งไทย-เบลเยียม อีกหนึ่งผู้เข้าแข่งขันในรายการ THE FACE THAILAND ซีซั่น 5 มารับบทเป็นหนุ่ม ชาวฮอลันดา ชื่อ “คอง” ซึ่งจะมาเติมเต็มให้เรื่องราว ให้มีความ หลากหลายมากยิ่งขึ้นศิลปะมวยไทย นอกจากนี้ยังเคยชกบนเวที

อย่างไรก็ตามสำหรับภาพยนตร์ “อโยธยา มหาละลวย” เป็นเรื่องราวของ  เรียว (เจมส์ – จิรายุ ตั้งศรีสุข) ชายหนุ่ม ที่กำลังตามหารากเหง้า ของตัวเอง พ่อของเขาเป็นซามูไรที่ถูกทางการสังหารอย่างโหดเหี้ยม ส่วนแม่ถูกจับตัวไป และเขาได้รับการ เลี้ยงดูโดยหลวงปู่ ซึ่งสอนให้เขาได้เรียนรู้วิชาการต่อสู้และเวทมนตร์คาถา เพื่อใช้ป้องกันตัวในวันข้างหน้า ในวันที่เขาต้องการตามหาแม่ และตามหานางในดวงใจ ออสร้อย (โบว์-เมลดา สุศรี) หญิงสาวที่เขาช่วย จากการจมน้ำ เมื่อครั้งไปช่วยหลวงปู่ซ่อมวัดในอโยธยา การเดินทางตามหาครอบครัวและหัวใจของ เรียว ได้รับการปกป้องจาก ทอง (เกรท-สพล อัศวมั่นคง) ตามการมอบหมายของหลวงปู่ และระหว่างทางนั้นเอง พวกเขาพบเจอเรื่องราวมากมายที่ทำให้เรียวสึต้องงัดมนตร์คาถาที่เรียนรู้มาทั้งชีวิตจากหลวงปู่เพื่อการเอาตัวรอด


 

บีบสิวปลายจมูก

บีบสิวปลายจมูก เสี่ยงติดเชื้อในสมองเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่?

Alternative Textaccount_circle
บีบสิวปลายจมูก
บีบสิวปลายจมูก

ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ประจำศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทย ทั้งยังเป็นเจ้าของเพจดัง “หมอแล็บแพนด้า” โพสต์ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่อง บีบสิวปลายจมูก เสี่ยงติดเชื้อในสมอง ตามรายงานข่าวจากประเทศจีน ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งบีบสิวแล้วติดเชื้อลามเข้าสมอง

โดยหมอแล็บได้โพสต์ไว้ว่ากรณีนี้ “เป็นไปได้” แต่ในความเป็นจริงแล้วยังถือว่าพบได้น้อยมาก เพราะสิวมันมีหลายแบบ แบบที่ติดเชื้อแบคทีเรียก็มี และบริเวณรอบจมูกมีเยื่อบุต่อเนื่องเข้าไปภายในโพรงจมูก ซึ่งมีหลอดเลือดมาเลี้ยงจำนวนมาก หลอดเลือดพวกนี้ เชื่อมต่อไปดวงตา และสมองได้

บีบสิวปลายจมูก 01

และนอกจากไม่ควรบีบสิวแล้ว “ฝี”ก็เหมือนกันนะครับ เพราะฝีคือผิวที่ติดเชื้อแบคทีเรีย แล้วถ้าเราบีบฝี บางทีมันหนองมันไม่ได้พุ่งปรี๊ดออกมา มันกลับถูกผลักเข้าไปในเส้นเลือด แล้วหนองมีแต่แบคทีเรียทั้งนั้น อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่เข้าสู่กระแสเลือดได้

ฉะนั้น นักบีบทั้งหลาย หักห้ามใจกันไว้หน่อยนะครับ มันไม่ค่อยเกิด แต่มันก็เกิดขึ้นได้สำหรับบางคน เพื่อความปลอดภัยของตัวเองนะครับ


ข้อมูล : หมอแล็บแพนด้า
ภาพ : Pexels , Shutterstock

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ดูแล “สิววัยรุ่น” กับ “สิววัยทำงาน” ต่างและเหมือนกันอย่างไร

แพทย์เตือน “สารปรอท” ที่พบบ่อยในสกินแคร์ อันตรายมีผลกระทบต่อร่างกายหลายระบบ

จะได้ไม่งง! ฉีด “ฟิลเลอร์” แตกต่างจากการฉีด “โบท็อกซ์” อย่างไร? และข้อควรระวัง

 

 

‘มีดวงเหงาในคืนลอยกระทง ความสัมพันธ์ถึงกาลอวสาน แม้จะเจ็บ แต่ก็จบ’ ดวงรายวัน 19 พฤศจิกายน 2564

ดวงรายวัน 19 พฤศจิกายน 2564 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘มีดวงเหงาในคืนลอยกระทง ความสัมพันธ์ถึงกาลอวสาน แม้จะเจ็บ แต่ก็จบ’

ดวงรายวัน 19 พฤศจิกายน 2564

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ท้าทาย สลับซับซ้อนและต้องใช้เวลายาวนาน เช่น งานสืบสวน สอบสวน นักกฎหมาย นักประวัติศาสตร์ นักค้นคว้า วิจัย ฯลฯ หากคุณกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการขัดแย้งกับบุคคลอื่น ซึ่งทำให้คุณรู้สึกเสียใจ ผิดหวัง และท้อแท้กับโชคชะตา และมีความเป็นไปได้ว่ามีแต่จะรุนแรงขึ้นจนยากจะต้านทานไหว อาจถึงขั้นปิดจ็อบ หรือในกรณีร้ายแรงคือลาออก ก็ควรใจเย็นๆ อย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่นด่วนตัดสินใจ เพราะวันนี้มีโอกาสที่คุณจะได้ร่วมงานกับทีมงานที่ดีมีความรู้ขั้นเทพเลยทีเดียว

การเงิน  :  แม้คุณพยายามประหยัด ด้วยการใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างมีคุณค่าที่สุด แต่เงินก็ยังไม่พอใช้ วันนี้จะเบาขึ้น เพราะมีโอกาสได้รับความช่วยเหลือจากทีมงานและผู้บังคับบัญชาที่ดี

ความรัก :  คุณคาดหวังในชีวิตสูงจึงกลายเป็นกดดันทั้งตัวเองและคู่ จนมีโอกาสที่จะเกิดปากเสียงกันอย่างรุนแรง  มีความเป็นไปได้ว่า วันนี้ผู้ใหญ่จะเข้ามาไกล่เกลี่ย  คนโสด คุณรักๆ เลิกๆ เพื่อหาคนที่เหมาะสมกับคุณที่สุด แต่วันนี้มีความเสี่ยงที่จะมีปากเสียงกับผู้ใหญ่อย่างรุนแรง เพราะท่านพยายามจะหาคู่เดทให้คุณ

สุขภาพ  : ความเครียด ความกดดันในเรื่องต่างๆ จะส่งผลต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย เช่น ระบบย่อยอาหาร ทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก ท้องเสีย รวมถึงระบบประสาท ความดันโลหิต ไมเกรน นอกจากนั้นยังต้องระวังหกล้ม เท้าพลิก เท้าแพลง อีกด้วย

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  คุณมีความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญชำนาญงานขั้นเทพ หากกำลังยึดติดอยู่กับอีโก้ของตัวเองจนไม่เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นเลย มีความเป็นไปได้ว่า คุณกำลังจะตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะต้องทำงานที่นอกเหนือจากที่ตกลงกันไว้ หรือตกเป็นแพะรับบาปในความผิดที่ตัวเองไม่ได้กระทำ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้อีกว่า วันนี้คุณจะไม่มั่นคงทางภาวะอารมณ์พอจะแก้ไขปัญหาให้สำเร็จลุล่วงได้เลย

การเงิน :  คุณมีความสามารถบริหารจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วประกอบกับคุณโชคดีที่แม้ไม่ต้องทำงานหนัก ก็มีเงินให้จับจ่ายใช้สอยอย่างคล่องมือ แต่วันนี้ควรระวังจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ถูกหลอก ถูกโกง ทุกรูปแบบ

ความรัก :  คุณให้ความสำคัญกับหลักการและเหตุผล ยึดติดในขนบธรรมเนียมประเพณีมากกว่าจะเน้นการแสดงออกทางความรักแบบสามีภรรยา ซึ่งวันนี้คู่คุณก็ยอมรับในสิ่งที่คุณเป็นได้อย่างไม่มีปัญหาอันใด  คนโสด วันนี้คุณมีเสน่ห์มากมาย ไหนจะมีโอกาสได้พบกับชาวต่างชาติที่ฉลาดขั้นเทพ พร้อมๆ กับแฟนเก่าก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะติดต่อกลับมาขอคืนดีด้วย

สุขภาพ  :  วันนี้คุณเครียดง่าย จึงมีโอกาสที่จะปวดศีรษะอย่างต่อเนื่อง จึงควรระวังหัวใจและระบบเลือดจะมีปัญหา รวมถึงโรคผิวหนังด้วย

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  วันนี้ควรเตรียมตัวเตรียมใจให้ดี เพราะนอกจากคุณจะคงอยู่ท่ามกลางปัญหาที่ยากจะแก้ไขได้ทัน ยังมีความเสี่ยงที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งที่คุณนั่งอยู่จะสั่นคลอน รวมถึงหลังคุณก็กำลังพรุนจากการถูกแทง มีความเป็นไปได้ว่าจะถูกบังคับให้ทำงานที่ไม่อยากทำ โดยอยู่ภายใต้สัญญา ข้อตกลง และเงื่อนไข ทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษรหรือสัญญาใจ เมื่อถึงที่สุดแล้วมีความเป็นไปได้ว่า งานจะถูกปิดจ็อบเร็วกว่ากำหนด หรือในกรณีร้ายแรงคือถูกให้ออกจากงาน

การเงิน : มีความเสี่ยงที่จะตกลงในเรื่องผลประโยชน์ไม่ลงตัว รวมถึงมีโอกาสตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ จนเดือดร้อนเรื่องเงินถึงขั้นวิกฤติ

ความรัก :  ไม่ค่อยแฮปปี้ จะมีความเสี่ยงที่จะมีมือที่สามเข้ามาสร้างความวุ่นวายให้กับชีวิตคู่ของคุณ ซึ่งเธอมาเพื่อหลอกให้รักแล้วก็จากไป มีความเป็นไปได้ว่าจะทำให้ครอบครัวคุณแตกแยกในที่สุด ต้องระวังเธอคนนี้ไว้ให้ดี คนโสด  แม้จะรู้ว่าความสัมพันธ์ของคุณเริ่มมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็ยังตัดใจจากเขาไม่ขาด วันนี้โอกาสมาถึงแล้ว คุณจะจบแต่ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

สุขภาพ :  วันนี้ไปลอยกระทงต้องระวังตัวให้ดีเลยทีเดียว มีโอกาสที่คุณจะได้รับบาดเจ็บจากของมีคม รวมถึงเปลวไฟ ความร้อน หากประมาทมีความเสี่ยงที่จะลุกลามบานปลาย

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ งานในวงการบันเทิง งานศิลปะ งานโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน งานออกแบบ ดีไซน์ ฯลฯ มีความเป็นไปได้ว่า วันนี้คุณจะให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน ชื่อเสียง และเงินทองมากกว่าปกติ ก็นับว่าโชคดีที่คุณจะได้รับโอกาสที่ดีจากผู้ใหญ่ ส่วนเพื่อนร่วมงาน และเจ้านายก็เมตตาเอ็นดูคุณเป็นพิเศษ จนมีความเสี่ยงที่จะเกิดดราม่า ถูกอิจฉาริษยาจากผู้ไม่หวังดี

การเงิน :  มีโชค ลาภลอย ได้รับมรดก ซึ่งจริงๆ แล้วคุณก็คาดหวังอยู่แล้ว เพราะวันนี้คุณมีโอกาสที่จะต้องช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ใหญ่ และญาติสนิทมิตรสหาย จึงทำให้คุณต้องหาเงินสำรองไว้เยอะๆ

ความรัก :  วันนี้มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะรู้สึกไม่มั่นคงกับชีวิตคู่ จึงพยายามทุ่มเททำงานหนักขึ้น เพื่อเก็บเงินไว้ให้เยอะๆ ก็อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว กับญาติผู้ใหญ่ในบ้านนะ คนโสด  ที่ผ่านมาคุณไม่มั่นคงกับความรัก กับการมีแฟนเลย จึงทุ่มเวลาทั้งหมดกับการทำงานเก็บเงิน วันนี้มีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะหาคู่เดทเตรียมไปลอยกระทงกับคุณก็ได้นะ

สุขภาพ :  มีความเสี่ยงที่ลำไส้และน้ำย่อยจะมีปัญหา จึงควรรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ หรือหลักโภชนาการ นอกจากนั้นยังมีโอกาสปวดศีรษะ ไมเกรน และความดันขึ้น

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้วาทศิลป์ในการติดต่อประสานงาน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน พนักงานส่งเสริมการขายทุกประเภท นับว่าคุณประสบความสำเร็จในการทำงาน ได้พบช่องทางทำมาหากินใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเขียน นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย ค้นคว้า ทดลอง มีโอกาสที่ผลงานที่คุณตรากตรำมานานจะประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงโด่งดัง อย่างไรก็ตามต้องอยู่ภายใต้ความถูกต้อง และถูกหลักศีลธรรมอันดี

การเงิน  :  แฮปปี้ ใช้จ่ายซื้อความสุขให้กับตัวเองอย่างฟุ่มเฟือยหรูหรา ซึ่งวันนี้ก็ควรประหยัด ใช้จ่ายอย่างพอเพียงได้แล้ว

ความรัก :  ความสุขความสำเร็จในชีวิตคู่ของคุณต้องอาศัยเวลา ค่อยๆ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ขณะเดียวกันก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัวของกันและกันด้วย ที่สุดแล้ววันนี้คุณจะกลายเป็นกัลยาณมิตรที่ดีของกันและกัน คนโสด  วันนี้อารมณ์คุณแปรปรวน เหวี่ยงวีนได้ง่าย ดังนั้น ผู้ที่จะสามารถรับกับอารมณ์คุณได้ ควรเริ่มมาจากความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน แม้ไม่ใช่คนรัก แต่ก็จะเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน

สุขภาพ : หากคุณกำลังใช้ร่างกายทำงานหนักจนลืมคิดถึงสภาพที่แท้จริงของร่างกายตัวเอง ดังนั้น วันนี้มีความเสี่ยงที่คุณจะปวดเนื้อปวดตัวและตามข้อต่างๆ จนกระทั่งลุกไปทำงานไม่ไหว

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ท้าทาย สลับซับซ้อนและต้องใช้เวลายาวนาน เช่น งานสืบสวน สอบสวน นักกฎหมาย นักประวัติศาสตร์ นักค้นคว้า วิจัย ฯลฯ หากคุณกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการขัดแย้งกับบุคคลอื่น ซึ่งทำให้คุณรู้สึกเสียใจ ผิดหวัง และท้อแท้กับโชคชะตา ก็ใจเย็นๆ เพราะวันนี้คุณมีโอกาสได้ร่วมงานกับทีมงานที่ดีมีความรู้ประสบการณ์ขั้นเทพ ที่จะมาช่วยคุณเริ่มต้นทำงานชิ้นใหม่ หรือนำโครงการเดิมที่มีอยู่แล้วขึ้นมาพัฒนาและปรับปรุงใหม่

การเงิน :  คุณใช้เงินอย่างประหยัด มัธยัสถ์มาตลอด วันนี้คุณจะได้ทีมงานและผู้บังคับบัญชาให้ความช่วยเหลือด้วย แต่ก่อนจะรับปากหรือเซ็นสัญญาทำงานกับใคร ควรพิจารณาให้ดีว่าทำได้ตามนั้นไหม เพื่อป้องกันการเสียเครดิตและเงินค่าปรับ

ความรัก :  มีความเป็นได้ว่า คุณจะเครียด เพราะถูกคาดหวังจากผู้ใหญ่ที่อยากเห็นคุณสร้างครอบครัวให้เป็นปึกแผ่นมั่นคง จนกลายเป็นกดดันทั้งคุณและคู่ วันนี้มีโอกาสที่คุณจะปลีกวิเวกไปอยู่ตามลำพังแล้ว คนโสด  ที่ผ่านมาหากคุณรักๆ เลิกๆ เพราะอยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง แต่อย่างไรก็ยังไม่ถูกใจเสียที วันนี้ผู้ใหญ่จะเข้ามามีส่วนร่วมแล้วนะ

สุขภาพ :  วันหยุดนี้ควรบิ๊กคลีนนิ่งบ้านบ้าง เพราะฝุ่นผงจะทำให้สมาชิกในบ้านมีความเสี่ยงที่จะเป็นภูมิแพ้

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ศิลปะ วงการบันเทิง สถาปนิก ดีไซเนอร์ คุณมีอารมณ์ศิลปินอยู่ในตัวสูงจึงทำงานแนวนี้ได้ดี ประกอบกับมีผู้ให้ความช่วยเหลือได้รับโอกาสที่ดีมาตลอด วันนี้ก็เช่นกัน มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะได้รับงานใหม่ที่นอกเหนือจากงานประจำ เป็นงานที่ท้าทาย มีการแข่งขันสูง โดยอยู่ภายใต้การติดตามงานอย่างใกลชิดด้วย ซึ่งหากผ่านไปได้ ก็เท่ากับคุณสามารถพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนยอมรับได้

การเงิน :  มีเงินใช้จ่ายอย่างมีความสุขสำราญจากการทำงานหนัก ขณะเดียวกันคุณก็ใจดี ใจบุญ วันนี้วันพระ คุณมีโอกาสทำบุญและช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ที่เดือดร้อน จนเรียกว่าหาเงินได้เท่าไหร่ก็ช่วยเหลือจนหมด

ความรัก :  วันนี้คุณมีโอกาสใช้ชีวิตอย่างสุดโต่ง ทำงานหนัก ขณะที่คุณก็เฮฮาปาร์ตี้ในคืนลอยกระทงอย่างสุดเหวี่ยงเช่นกัน  คนโสด หากวันนี้ได้ไปเฮฮาปาร์ตี้ฉลองคืนวันลอยกระทงที่ไหน ก็อย่าเพิ่งเคลิบเคลิ้มไปกับบรรยากาศแสงจันทร์วันเพ็ญจนยอมรับรักใครง่ายๆ เพราะมีความเป็นไปได้ว่าคุณจะพลาดโอกาสดีๆ ไปอย่างน่าเสียดาย

สุขภาพ :  คุณเอ็นจอยกับการรับประทานอาหาร และการดื่มสังสรรค์ ควรเคี้ยวช้าๆ เพราะมีความเสี่ยงที่ฟันจะมีปัญหา ทำให้คุณต้องนัดพบทันตแพทย์อย่างรีบด่วน

 

 

จางเจ๋อฮั่น-จวีจิ้งอี กรุ่นรักกลิ่นบุปผา

คัมแบ็คความฟิน! จางเจ๋อฮั่น-จวีจิ้งอี กลับมาเจออีกครั้งในซีรีส์ กรุ่นรักกลิ่นบุปผา

จางเจ๋อฮั่น-จวีจิ้งอี กรุ่นรักกลิ่นบุปผา
จางเจ๋อฮั่น-จวีจิ้งอี กรุ่นรักกลิ่นบุปผา

หากเอ่ยชื่อของพระเอกหนุ่ม จางเจ๋อฮั่น และนางเอกสาว จวีจิ้งอี เชื่อว่าเหล่าสาวกซีรีส์จีนทั้งหลายต่างยกให้เป็นคู่จิ้นอันดับต้นๆ ของแดนมังกรไปซะแล้ว! ล่าสุด MONOMAX (โมโนแมกซ์) ขอเอาใจแฟนคลับของคู่จิ้น จางเจ๋อฮั่น-จวีจิ้งอี ด้วยการนำเสนอซีรีส์แนวพีเรียด-โรแมนติก The Blooms At Ruyi Pavilion กรุ่นรักกลิ่นบุปผา ทั้ง 44 EP. ที่ได้จางเจ๋อฮั่นและจวีจิ้งอี กลับมารับบทคู่กันอีกครั้ง

หลังจากสร้างความประทับมาแล้วจากซีรีส์ Legend of Yunxi หยุนซี หมอพิษหญิงยอดอัจฉริยะ แถมงานนี้ทั้งผู้เขียนบท จิน หยวนหยวน และผู้กำกับ หลิน เจียนหลง ก็เป็นทีมงานเดิมจากซีรีส์ Legend of Yunxi หยุนซี หมอพิษหญิงยอดอัจฉริยะ เช่นกัน

คัมแบ็คความฟิน! จางเจ๋อฮั่น-จวีจิ้งอี กลับมาเจออีกครั้งในซีรีส์ กรุ่นรักกลิ่นบุปผา

สำหรับซีรีส์ The Blooms At Ruyi Pavilion กรุ่นรักกลิ่นบุปผา เป็นเรื่องราวของ ฟู่หรง บุตรสาวคนรองของเจ้าเมืองเหิงจิง แห่งแคว้นต้าอวี๋ พลัดตกต้นไม้จนสลบไป แต่เมื่อเธอฟื้นขึ้นมาดันได้รับความสามารถในการฝันถึงอนาคตกลับมาด้วย แม้นิมิตฝันนั้นจะไม่ชัดเจนแต่ก็เป็นดั่งดาวหายนะ ครอบครัวจะพบโศกนาฏกรรม เธอจะต้องแต่งงานเข้าจวนอ๋องอย่างไม่มีทางเลือก และสุดท้ายยังต้องจบชีวิตลงด้วยการถูกฝังทั้งเป็นไปพร้อมสามีหลังท่านอ๋องตาย!

แต่ด้วยความแสบซนและก็แฝงด้วยความกล้าหาญมุทะลุของฟู่หรง ทำให้เธอตัดสินใจจะทำทุกวิถีทาง เพื่อหลีกหนีโชคชะตานี้ให้ได้ สุดท้ายฟู่หรงก็หนีชะตากรรมไม่พ้นอยู่ดี เธอบังเอิญได้พบกับ สวีจิ้น อ๋องซู่ องค์ชายสี่แห่งแคว้นต้าอวี๋ และได้ช่วยชีวิตเขาไว้โดยไม่ตั้งใจ ซ้ำร้ายยิ่งเธอใกล้ชิดกับ อ๋องซู่ มากเท่าไหร่ ภาพฝันนั้นก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเธอพบว่าจวนท่านอ๋องที่เธอต้องแต่งเข้าในความฝันนั้นคือจวนของ อ๋องซู่ นั่นเอง

เรื่องราวถาโถมเข้ามาอีก เมื่อ ฟู่หรง ได้รู้ว่าคุณชายจวีสุ่ย กวีชื่อดังผู้เป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ ในเมืองคือ “สมุนตัวน้อย” เพื่อนวัยเด็กของเธอ ที่พ่วงตำแหน่ง สวีผิง อ๋องอัน น้องชายของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันที่มีฐานะเป็นอาของ อ๋องซู่ มาด้วย แม้พ่อของ ฟู่หรง จะไม่ค่อยชอบให้เธอยุ่งเกี่ยวกับพวกอ๋องเท่าไหร่ เพราะไม่อยากให้เธอต้องเข้าไปพัวพันกับชีวิตอันวุ่นวายในวังหลัง

แต่ก็เหมือนหนีเสือปะจระเข้ ไม่เจอ อ๋องอัน ไปก็ยังเจออ๋องซู่ พ้นอ๋องซู่ ไปก็ยังมีอ๋องอันอยู่ดี  และเมื่อสืบสาวราวเรื่องเพื่อหนีโชคชะตาไปเรื่อยๆ ฟู่หรงกลับยิ่งพบว่าเหตุการณ์นี้มีเบื้องหลังมากกว่าที่เธอคิด เพราะมันเกี่ยวข้องไปถึงการแย่งชิงอำนาจในราชสำนักระหว่างเหล่าอ๋อง การแย่งชิงอำนาจในวังหลังของพระสนม และยังเกี่ยวข้องกับคนของหอหรูอี้ องค์กรลับที่ไม่รู้ที่มาที่ไปอีกด้วย!


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

คิดถึงการเดินทางอยู่ใช่ไหม? มัดรวม 6 ซีรีส์เกาหลีใต้ บรรเทาอาการอยากไปเที่ยว

จดลิสต์ด่วน! ปลายปีเตรียมไปพักร้อนที่ฝรั่งเศสกับ Emily in Paris ซีซั่น 2

เปิด 5 ตัวละคร The Whole Truth ปริศนารูหลอน ไขปมระทึกขวัญดราม่า

 

keyboard_arrow_up