Tu’i… Inspired by Art Deco



Tu’i… Inspired by Art Deco
เรื่อง : อภิญญา ภาพ: โยธา รัตนเจริญโชค

เรียกว่าเป็นความภาคภูมิใจที่มาพร้อมกับบทพิสูจน์ความสำเร็จของดีไซเนอร์สาวคนเก่ง ตุ๊ย-ทิพนันท์ (ไกรฤกษ์) ศรีเฟื่องฟุ้ง สำหรับกระเป๋าแบรนด์ Tu’i ที่มีดีไซน์โดดเด่น ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงได้หลากหลาย จึงไม่แปลกที่กลายเป็นหนึ่งในกระเป๋ายอดฮิตของสาวแฟชั่นนิสต้าทั้งหลายมา 5 ปีแล้ว

ตุ๊ย-ทิพนันท์ (ไกรฤกษ์) ศรีเฟื่องฟุ้ง เล่าถึงแฟลกชิพสโตร์แห่งแรกของทูอี้ “ก่อนหน้านี้มีหน้าร้านเป็นช็อปเล็กๆ อยู่ในห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทั้งสยามพารากอน เอ็มโพเรียม กับร้านมัลติแบรนด์ Cloud 9 กระทั้งได้พื้นที่บริเวณชั้น 1 โซน Atrium ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชอบตรงที่ลูกค้าสามารถเห็นคอนเซ็ปท์ร้านที่บ่งบอกสไตล์ และเอกลักษณ์ของทูอี้ ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป ส่วนความโดดเด่นของร้านอยู่ที่คอนเซ็ปท์ซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์คือ การได้แรงบันดาลใจจากยุค อาร์ตเดคโค (Art Deco) มาตกแต่งร้านด้วยรูปทรงเรขาคณิต ผสมผสานกับความโมเดิร์นที่เน้นในเรื่องของความโก้หรู นำเสนอในรูปแบบลวดลายจากการผสมผสานเส้นต่างๆ ทำให้เกิดแสงเงามิติที่ดูลึกลับน่าค้นหา ลายกราฟิกซิกแซกบนพื้นก็นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ดึงดูดทุกสายตาให้ย่างก้าวเข้ามาเยี่ยมชมความหรูหรา เคาน์เตอร์สีดำ ขาว ตัดกับความมันวาวของขอบทองเหลืองสีทอง ช่วยทำให้กระเป๋าแต่ละใบ และจิวเวลรี่ที่วางเรียงรายสะท้อนแสงระยิบระยับ มีสีสันดูโดดเด่นสะดุดตา พร้อมต้อนรับผู้หญิงทุกไลฟ์สไตล์

ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่นิตยสารแพรวฉบับ 813 วันที่ 10 กรกฎาคม 2556 คอลัมน์ Visit Shop

The Wonder Room



The Wonder Room
โดย Suvisa Chakkaphak / ภาพ Yota

เมื่อได้ยินเสียงลือในหมู่แฟชั่นนิสต้าถึงแหล่งช้อปชิคๆ แห่งใหม่ แพรวจึงขอตามไปพิสูจน์ความเก๋ที่ The Wonder Room ร้านมัลติแบรนด์ที่มีคอนเซ็ปท์เปลี่ยนธีมสินค้าทุกๆ 4 เดือน จนกลายเป็นแหล่งประจำของเหล่านักช้อปสำหรับอัพเดทเทรนด์ใหม่ๆ โดยปริยาย

เดอะ วอนเดอร์รูม (The Wonder Room) เป็นช็อปน้องใหม่มาแรงที่เพิ่งเปิดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา พร้อมๆ กับการรีโนเวทห้างสยามเซ็นเตอร์อันเป็นที่ตั้ง ส่วนเจ้าของไอเดียล้ำๆ เป็นของคุณแป๋ม – ชฎาทิพ จูตระกูล ที่เล็งเห็นการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของเทรนด์และความนิยมสินค้าแฟชั่นของคนรุ่นใหม่ จนเกิดเป็นร้านรวมแบรนด์เสื้อผ้าและแอ๊กเซสซอรีส์จากดีไซเนอร์ไทย ทั้งที่อาจจะเคยคุ้นหูกันมาบ้างจนถึงที่ไปดังไกลในต่างแดนภายใต้ธีมชิคๆ ที่จะเปลี่ยนไปตามกระแสโลกแฟชั่นทุก 4 เดือน

พอดีว่าในวันที่เราไปเยือน เดอะ วอนเดอร์รูม เพิ่งเปลี่ยนธีมสินค้าใหม่สดๆ ร้อนๆ จาก ‘Fresh Face’ ที่บันดาลให้ช็อปแห่งนี้ขึ้นแท่นทอล์คออฟเดอะทาวน์ จากการรวมแบรนด์เจ๋งๆ โดยนักออกแบบหน้าใหม่ไว้คับร้าน อย่างเช่น Kemissara, Rudimentary, Virgin Daisies และ Kiss De L’amour โดยธีมปัจจุบันคือ ‘Erstwhile : at one time of a time’ ฟังแค่ชื่อก็ชวนฝัน รับรองว่าโดนใจคอเสื้อผ้าวินเทจ เพราะเสื้อผ้าแต่ละมุมต่างสะท้อนรสนิยมแฟชั่นของสาวๆ ในยุคก่อน นำทัพโดย Rotsaniyom White Label แบรนด์เสื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์ของผ้าพิมพ์ลายและลูกไม้ กับคอลเล็คชั่นที่ไม่เคยวางขายในเมืองไทยมาก่อน และเมื่อมีเวลาว่างเราจึงชวน อ๊อฟ – พงศ์ศักดิ์ และ กิ๊ฟท์ – ฐิตา กอบรัตนสุข สองดีไซเนอร์ผู้บุกเบิกแบรนด์นี้มานั่งคุยถึงคอลเล็คชั่นเด็ด

ติดตามสัมภาษณ์จากสองดีไซเนอร์เพิ่มเติมได้ที่นิตยสารแพรวฉบับ 812 วันที่ 25 มิถุนายน 2556 คอลัมน์ Visit Shop

Charles & Keith แบรนด์ฮิตของสาวอินเทรนด์



Charles & Keith แบรนด์ฮิตของสาวอินเทรนด์
เรื่อง : apinya

สำหรับสาวๆ เวิร์คกิ้งวูแมนที่หลงใหลแฟชั่น และการแต่งตัว คงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์ดังจากสิงคโปร์อย่าง Charles & Keith ด้วยรูปลักษณ์ กับดีไซน์ที่ดูดีเกินราคา

อุ้ย-สุทัศนีย์ ซอโสตถิกุล มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่น เมเนเจอร์ อาสาให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของแบรนด์ “ชาร์ลส แอนด์ คีธ (Charles & Keith) ก่อตั้งขึ้นโดย 3 พี่น้อง ชาร์ลส, คีธ และเควิน ซึ่งเดิมธุรกิจทางบ้านเขาเปิดร้านขายส่งรองเท้ามาตั้งแต่รุ่นแม่ จนมาถึงรุ่นเขาความที่ ชาร์ลส กับ คีธ มีรสนิยม และไอเดียที่ดีเยี่ยม จึงต่อยอดธุรกิจด้วยการเปิดร้านขายรองเท้า กระเป๋าสำหรับผู้หญิงที่พวกเขาออกแบบเองภายใต้ชื่อ ชาร์ลส แอนด์ คีธ ในปี 1996 ซึ่งจะมีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจนคือ ชาร์ลสดูแลไลน์รองเท้าทั้งหมด ส่วนคีธดูเรื่องกระเป๋า แล้วเขาก็นำพาแบรนด์ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ขยายสาขาไป 250 สาขาทั่วโลก ในเมืองไทยมีทั้งหมด 23 สาขาจนกลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่น่าจับตามอง และเป็นหนึ่งในคนที่รวยที่สุดในสิงคโปร์

Flagship Store Concept@ Siam Center
“นับเป็นร้านพิเศษที่สุดในเมืองไทยสำหรับแบรนด์อิมพอร์ตจากสิงคโปร์อย่าง ชาร์ลส แอนด์ คีธ ด้วยการเปลี่ยนรูปโฉมร้านที่สยามเซ็นเตอร์บริเวณชั้น 1 ให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปท์ล้ำสมัย ซึ่งไอเดียการตกแต่งร้านนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากรังนก บนเนื้อที่กว่า 155 ตร.ม. ด้านนอกมีโครงเหล็กที่ถูกเชื่อมต่อและซ้อนทับกันจนดูเหมือนรังโดดเด่นสะดุดตา ส่วนภายในร้านดูโปร่ง สามารถมองเห็นทัศนียภาพโดยรอบได้ 360 องศา รวมทั้งวิธีการจัดวางสินค้าที่เห็นเด่นชัด และคอลเล็คชั่น Absolute Siam ไม่มีขายที่สาขาไหนนอกจากที่นี่ที่เดียว ช่วยอำนวยความสะดวกให้นักช้อปเลือกซื้อรองเท้า กระเป๋า และแอ๊กเซสซอร์รี่ส์สุดเก๋ได้อย่างเพลิดเพลิน

Signature Shoes
“แบรนด์นี้เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ชอบการแต่งตัวตามซีซั่น เพราะมีทั้งกระเป๋า รองเท้า ทำให้ลุคของผู้หญิงดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น ในราคาที่สามารถซื้อได้ โปรดักส์ส่วนใหญ่ออกแบบตามเทรนด์แฟชั่นต่างๆ แล้วคอลเล็คชั่นที่ถือเป็นซิกเนเจอร์จะมีจุดสังเกตที่ป้ายแบรนด์ด้านในรองเท้าจะเป็นลายเซ็นเขียนว่า Charles & Keith ความโดดเด่นอีกอย่างอยู่ที่วัสดุในการทำมีความประณีต และเท็กซ์เจอร์ที่แตกต่างไล่เรียงมาตั้งแต่เส้นใยถัก ไม้ก๊อก นำมาผสมผสาน รวมถึงกลิ่นอายสุดเอ็กซ์ซอติก โดยยังคงความคลาสสิก และนวัตกรรมใหม่ๆ ของแบรนด์เอาไว้อย่างครบถ้วน”

ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่นิตยสารแพรว ฉบับ 811 วันที่ 10 มิถุนายน 2556 คอลัมน์ Visit Shop

TWIGGY The Fashion Legend



TWIGGY The Fashion Legend

เรื่อง สิริอร

เชื่อได้ว่า หากคุณหรือพ่อแม่พี่น้องของคุณ เติบโตในยุค 60-70’s และเป็นผู้ที่ชื่นชอบ fashion แบบ vintage คงไม่มีใครไม่รู้จัก Fashion Icon ระดับตำนานคนนี้ (อย่างน้อยๆ ก็ต้องเห็นเธอจากการเป็นกรรมการในรายการ American Next Top Modelcycles 5-9 บ้างล่ะนะ)

Fashion Icon คนนี้จัดได้ว่าเป็น Icon ระดับโลก ได้ปรากฏตัวบนหน้าปกหนังสือแฟชั่นชั้นนำของทั่วโลก เธอผู้ซึ่งเป็น The faceof 1966’s เป็นผู้ปฏิวัติวงการแฟชั่นของโลก ที่กำหนดทิศทาง และรูปลักษณ์ของนางแบบมาถึงปัจจุบัน ที่เขียนอย่างนี้ไม่ได้เกินจริงเลยแต่อย่างใด เพราะTwiggy (เลสลี่ ฮอร์นบี ลอว์สัน) ถือเป็นจุดกำเนิดของนางแบบในอุดมคติ ว่าจะต้องมีรูปร่างบอบบาง ทรวดทรงกะทัดรัด และเป็นผู้นำเสนอเทรนด์แฟชั่นที่ไม่ระบุเพศ (เด็กผู้หญิงกึ่งเด็กผู้ชาย) แบบอ่อนใส ไร้เดียงสา ซึ่งเป็นต้นแบบของสไตล์ยุค Kate MossIconic look ของ Twiggy ที่โดดเด่นชัดเจนไปทั่วโลกคือ ร่างผอมบาง ตากลมโต ขนตาหนาขีดสุด (ทำให้มีการกำหนดชื่อเรียกการติดขนตายาวหนาอย่างนี้ว่า “Twiggy’s” กันเลยทีเดียว) แถมด้วยการติดขนตาล่าง และการ กรีดอายไลเนอร์ สูงลอยจากขอบตาบน ผมสั้นหวีเรียบ แสกข้างแบบทอมบอยและเดรสสั้นทรงเอ เรียกได้ว่าเธอเป็น ปรากฏการณ์ ผู้สร้างเทรนด์แฟชั่นในยุค 60 ให้โลกแฟชั่นของเรารู้จักเลยทีเดียว

ทวิกกี้เป็นผู้ที่ทำให้วงการออกแบบแฟชั่น หันมาตื่นตัวในการออกแบบเสื้อผ้า Unisex ให้เป็นที่นิยม ทำให้แบรนด์ชั้นนำ อย่าง YvesSaint Laurant หันมาออกแบบชุดสูท ทักซิโด้ให้ผู้หญิง หรือการนำชุดยูนิฟอร์มของทหาร ออกมาเป็นชุดให้ผู้หญิงใส่ เป็นการสร้างกระแสความนิยมให้ชุดเดรสหวานๆ ทรงเอ แบบมีปก และผ้าพันคอ รวมถึงจัมป์สูทที่ยังคงฮิตมาถึงปัจจุบันนี้

ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่นิตยสารแพรวฉบับ 811 วันที่ 10 มิถุนายน 2556 คอลัมน์ Fashion Icon

Roger Dubuis – Excellent Timepiece for Sophisticated Personality



Roger Dubuis – Excellent Timepiece for Sophisticated Personality
โดย Suvisa Chakkaphak / ภาพ Krittee

เมื่อได้ยินข่าวการปรับโฉมร้านใหม่ของนาฬิกาดีไซน์แรงจากสวิตเซอร์แลนด์ โรเจอร์ ดูบุยส์ แพรวจึงถือโอกาสนี้ตามไปชมสองแฟนพันธุ์แท้แบรนด์ดังเลือกนาฬิกาเรือนฮ็อต ภายในห้องรับแขกขนาดกะทัดรัดที่ตกแต่งอย่างหรูหราทะลุพื้นที่

แม้ โรเจอร์ ดูบุยส์ จะเป็นนาฬิกาดังสัญชาติสวิสที่มีอายุในวงการน้อยกว่าแบรนด์ฮิตติดลมแบรนด์อื่นๆ แต่เมื่อการันตีด้วยสัญลักษณ์ Geneva Seal หรือ Hallmark of Geneva บนกลไกของทุกรุ่น ซึ่งเป็นผู้ผลิตนาฬิการายแรกและรายเดียวที่สามารถผลิตนาฬิกาทุกแบบได้ตามมาตรฐานนี้ บวกกับรูปลักษณ์ซับซ้อนและงดงาม ทำให้ โรเจอร์ ดูบุยส์ เข้าไปนั่งอยู่กลางใจนักสะสมนาฬิการุ่นใหม่ ผู้ชื่นชอบนาฬิกาดีไซน์จัด หลายต่อหลายคน

ใครก็ตามที่เดินผ่านช็อปใหม่ของโรเจอร์ ดูบุยส์ ภายในศูนย์การค้าเกษร ชั้น 1 ต้องสะดุดตากับโทนสีร้อนแรงตัดกับโลหะสีทองมันขลับสะท้อนความหรูหรารับกับนาฬิการะดับเอ็กซ์คลูซีฟที่วางโชว์อยู่ภายในร้าน โชคดีที่วันนี้เราได้พบกับ คุณเปิ้ล – กุลฉัตร ชาญเศรษฐิกุล ผู้นำเข้านาฬิกาแบรนด์ดัง มีโอกาสให้คุณเปิ้ลแนะนำบริการสุดพิเศษของร้าน

“ช็อปโรเจอร์ ดูบุยส์ ในไทยเปิดมาได้ประมาณสามปีแล้ว โดยเราเพิ่งขยับขยายย้ายมาอยู่บริเวณใหม่ พร้อมกับรีโนเวทร้านให้ดูทันสมัยมากขึ้น แต่ยังมีบริการพิเศษหลังร้านแห่งเดียวในโลกเหมือนเดิมคือ ศูนย์บริการ watchmaker ที่ได้รับการเทรนด์มาจากสวิส ซึ่งปกติเวลาลูกค้านำนาฬิกามาเช็คสภาพหรือซ่อมแซมจะต้องถูกส่งต่อไปยังศูนย์บริการที่ไม่ได้ตั้งอยู่ภายในช็อป แต่ของเรามีที่นี่เลย”

ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่นิตยสารแพรวฉบับ 810 วันที่ 25 พฤษภาคม 2556 คอลัมน์ Visit Shop

PARKER…ปากกาแห่งประวัติศาสตร์โลก



PARKER…ปากกาแห่งประวัติศาสตร์โลก
เรื่อง : apinya

ยังคงครองตำแหน่งผู้นำด้านคุณภาพการเขียนระดับโลก สำหรับปากกาสัญชาติอเมริกันที่มีอายุยาวนานถึง 125 ปี อย่าง ‘Parker’ นอกจากรูปลักษณ์เรียบหรู ทันสมัย ยังมาพร้อมเทคโนโลยีที่ยกระดับการเขียนให้ไหลลื่นแบบไร้ขีดจำกัด

คุณปรีชา อาชามงคล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดให้ข้อมูลว่า “ป๊ากเกอร์ถูกผลิตขึ้นโดยมิสเตอร์ จอร์จ ซัฟฟอร์ด ป๊ากเกอร์ (George Safford Parker) ซึ่งเดิมมีอาชีพเป็นครูที่สังเกตเห็นปัญหาของเด็กนักเรียนที่ใช้ปากกาหมึกซึม ส่วนใหญใช้ไปสักพักก็พัง เขาจึงคิดค้นทำปากกาดีๆ ขึ้นมาให้เด็กใช้ จากนั้นก็เริ่มทำแบรนด์โดยชื่อว่า ป๊ากเกอร์ ภายหลังบริษัทนีเวลล์ รับเบอร์เมด (Newell Rubbermaid) ได้เข้าซื้อกิจการ

Madonna…Queen of Fashion



Madonna…Queen of Fashion

สาวคนโปรดที่จะเขียนถึงคราวนี้ เธอเป็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการดนตรีโลก นอกจากนี้เธอยังเป็นแดนเซอร์, นักแสดง, ผู้กำกับ, ป็อบสตาร์, แม่, นักธุรกิจ, สตรีผู้ทรงอิทธิพล และที่สำคัญเป็นแฟชั่นไอคอนที่มีสไตล์การแต่งตัวโดดเด่นที่สุดคนหนึ่งของวงการดนตรีมาหลายสิบปี ครบขนาดนี้จะไม่ให้เขียนถึงได้อย่างไร

เรากำลังพูดถึง ‘มาดอนน่า’ นอกจากผลงานเพลงที่เข้ากับทุกยุคสมัย กระทั่งถูกยกให้เป็นราชินีวงการเพลงป๊อปแล้ว เธอยังเป็นราชินีแห่งการสร้างรูปลักษณ์ให้ตัวเองดูใหม่ และก้าวไปพร้อมๆ กับกาลเวลา หรือพูดง่ายๆ คือ เธอคนนี้ไม่มีวันตกยุคนั่นเอง นอกจากความสามารถด้านดนตรีแล้ว มาดอนน่ายังเป็นแฟชั่นไอคอน ตั้งแต่ในยุคแรกที่ก้าวเข้าสู่วงการ จัดว่าเธอเป็นผู้นำเรื่องเทรนด์แฟชั่นของยุค 80’s ที่สาวๆ เกือบค่อนโลกต้องแต่งตัวตาม ไม่ว่าจะเป็นผมหยิกฟูย้อมสีอ่อน กระโปรงสั้นทับกับถุงน่องตาข่าย เสื้อตัวสั้นโคร่งๆ และเครื่องประดับหลากหลายชิ้นตั้งแต่ต่างหู ที่คาดผม สร้อยข้อมือที่ทำจากยาง สร้อยคอไม้กางเขนที่ยังอินจนมาถึงปัจจุบัน และต้องยอมรับว่านอกจากเรื่องแฟชั่นแล้วสิ่งที่เป็นอิทธิพลมาจากมาดอนน่าคือ การสร้างทัศนคติที่เข้มแข็ง การแสดงออกที่เปิดเผย และการเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง ให้โลกได้รับรู้ ความแข็งแกร่งที่ผสมผสานความเซ็กซี่ถูกแสดงออกอย่างชัดเจนผ่านทางเสื้อผ้า กล้ามเนื้อแข็งแรงเหมือนนักกีฬา และการแสดงบนเวทีของเธอ บ่อยครั้งที่เราจะเห็นเธอแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ต หรือสูทแนวผู้ชาย สื่อถึงความเท่าเทียมกันของทุกเพศ รวมถึงบรากรวยแหลมอันเป็นสัญลักษณ์ ก็เป็นการสื่อถึงความแข็งแกร่งของเพศหญิงอีกด้วย

keyboard_arrow_up