สายหม่ำเช็คอินด่วน! TACO BELL ร้านอาหารเม็กซิกันสุดชิลล์ ใจกลางเมือง

account_circle

สายหม่ำเช็คอินด่วนๆ ! TACO BELL ร้านอาหารเม็กซิกัน ชื่อดังแห่งรัฐเซาท์เทิร์นแคลิฟอร์เนีย บินลัดฟ้ามาเปิดให้คนไทยได้ลิ้มลองความเข้มข้น ในบรรยากาศสุดชิลล์ ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ กันแล้ว

หากพูดถึงอาหารเม็กซิกัน ใครที่ยังกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าลองชิมอาหารเม็กซิกันสักที เพราะเห็นชื่อเมนูไม่คุ้น  กลัวไม่ถูกปาก บอกเลยไม่ต้องลังเลอีกต่อไป เพราะอาหารเม็กซิกันไม่ได้กินยากอย่างที่คิด ถ้าไม่เชื่อลองไปทำความรู้จักกับอาหารเม็กซิกันซึ่งมีจุดเด่นที่ความจัดจ้านแบบที่คนไทยชอบ แล้วไปลองสักครั้งจะตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น!

ว่าแล้ว ไปทำความรู้จักต้นกำเนิดของอาหารเม็กซิกันกันก่อน ว่ากันว่าเก่าแก่ไม่เบา เพราะจุดเริ่มต้น สืบได้ไปถึงประวัติศาสตร์สมัยอาณาจักรมายาหรือย้อนไปเมื่อ 9,000 ปีก่อนเลยทีเดียว! จากการค้นคว้าพบว่า อาหารเม็กซิกันมีกรรมวิธีการปรุงและเทคนิคที่ซับซ้อนไม่แพ้วัฒนธรรมอาหารที่เก่าแก่อย่างจีน อินเดีย หรือ ญี่ปุ่น แถมยังมีการส่งต่อภูมิปัญญากันมาจากรุ่นสู่รุ่นนับหลายพันปี

สิ่งที่น่าสนใจคือ นอกจากวัตถุดิบที่นำมาใช้จะหลากหลายอันเนื่องจากการผสมผสานของหลายๆ ประเทศที่เข้ามามีอิทธิพลเหนือเม็กซิโก อาหารเม็กซิกันยังมีสูตรที่หลากหลายตามความแตกต่างใน 6 ภูมิภาคของเม็กซิโก ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของสภาพภูมิอากาศ ภูมิประเทศ และชนชาติพันธุ์ ยกตัวอย่างทางภาคเหนือของเม็กซิโก ส่วนใหญ่นิยมรับประทานเนื้อวัว แพะ และ นกกระจอกเทศ ในขณะที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเม็กซิโกซึ่งจรดกับทะเลแคริบเบียน นิยมเมนูจากปลา และเมนูผักรสเผ็ดและไก่ เป็นต้น

รู้จักที่มาที่ไปของอาหารเม็กซิกันมาพอหอมปากหอมคอแล้ว มาลองทำความรู้จักกับเมนูห้ามพลาด! ของ “ทาโก้ เบลล์” (Taco Bell) ร้านอาหารกึ่งเม็กซิกันสไตล์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากรัฐเซาท์เทิร์นแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาเสิร์ฟความอร่อยมายาวนานถึง 57 ปี โดยสาขาแรกที่มาเปิดในเมืองไทย ชั้น 1 ศูนย์การค้า เดอะ เมอร์คิวรี่ วิลล์ แอท ชิดลม และตอนนี้เขาเปิดสาขาที่ 2 แล้วนะที่

TACO BELL

เริ่มจาก ทาโก้ (Taco) เมนูกินง่าย คล้ายกับแฮมเบอร์เกอร์ แตกต่างตรงที่ทาโก้เป็นการนำแผ่นแป้งทาโก้หรือบางครั้งเรียกแป้งตอติญ่า ทำจากข้าวโพดและแป้งสาลี มี 2 เทกเจอร์ คือ แป้งนุ่มและแป้งกรอบ มาห่อไส้ด้านในซึ่งประกอบด้วยไก่ เนื้อ หมู เสริมทัพด้วยมะเขือเทศ ข้าวโพด หอมแดง ผักชี กะหล่ำปลี หรือ อโวคาโด ความสนุกคือ จะเลือกใส่ไส้กี่อย่างก็ได้ตามใจชอบ

อีกหนึ่งจุดเด่นของร้านต้องยกให้ “ซอส” ของ “ทาโก้ เบลล์” ซึ่งมีซอสหลากหลายชนิดให้เลือก ทั้ง ซาวครีม ที่ให้ความเปรี้ยว, กัวคาโมเล่ ที่มีความมัน, ซัลซ่า ให้ความสดชื่นชุ่มช่ำ และ ซอสเผ็ดมีให้เลือก 2 ระดับ hot sauce และ fire sauce ซึ่งถือว่าเป็นซอสที่เผ็ดที่สุดตั้งแต่ที่เคยทำมา สำหรับเมนูอาหารเด็ดที่อยากจะแนะนำ มีดังนี้

ทาโก้ ซูพรีม (Taco Supreme) นำแป้งตอติญ่าซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะฟินกับแบบกรอบหรือแบบนุ่ม ห่อด้วยไก่บดไก่ย่าง ไก่ทอด หรือ หมูฉีกสไตล์เม็กซิกัน ราดด้วยซอสเผ็ดสูตรเฉพาะของทางร้าน เพิ่มรสกลมกล่อมด้วยซาวครีม และเชดด้าชีส เสิร์ฟคู่กับผักสดและมะเขือเทศ

ถ้าฟินไม่พอ ขอแนะนำ คิกกิ้น ชิคเก้น ทาโก้ (Kickin’ Chicken Taco) เมนูพิเศษมีเฉพาะที่ไทย ทีเด็ดอยู่ที่ไก่ทอดกรอบนอก นุ่มใน ห่อในแป้งตอติญ่าแสนนุ่ม เพิ่มรสเผ็ดจัดจ้านด้วยคิกกิ้น ซอส (Kickin’ Sauce’) ซึ่งพัฒนาให้กลมกล่อมถูกปากคนไทยเป็นพิเศษ และซาวครีม ท็อปด้วยผักสด มะเขือเทศ และ เชดด้าชีส

ถัดมาคือ เคซาติญ่า (Quesadilla)เมนูนี้มองผิวเผินเหมือนพิซซ่าของอิตาลี บางครั้งจึงมีนิกเนมว่า พิซซ่าเม็กซิกัน นิยมรับประทานเป็นจานเรียกน้ำย่อย กรรมวิธีการทำจานนี้คือนำแผ่นแป้งตอติญ่าไปอุ่นให้ร้อนในกระทะ จากนั้นเติมเนื้อสัตว์ที่ชอบ ตามด้วยชีส แล้วปิดทับด้วยตอติญ่าอีกแผ่น อุ่นร้อนจนชีสละลายดี จึงเสิร์ฟด้วยการตัดเป็นสามเหลี่ยมเหมือนพิซซ่า อย่างเคซาติญ่าที่ร้าน “ทาโก้ เบลล์” โดดเด่นตรงที่นำแป้งตอติญ่ามาสอดไส้มอสซาเรลล่า และเชดด้าชีสเยิ้มๆ เพิ่มความลงตัวด้วยซอสเฮลาพิโน โดยสายหม่ำเลือกได้ว่าจะฟินกับไก่ย่าง, ไก่บดหมักเครื่องเทศ หรือหมูฉีกสไตล์เม็กซิกัน เมนูนี้น่าจะถูกใจคอชีสเลิฟเวอร์

TACO BELL

ต่อด้วย Chips & Dip and Nachos อีกหนึ่งเมนูสามัญประจำร้านอาหารสไตล์เม็กซิกัน เป็นการนำแผ่นแป้งตอติญ่าข้าวโพดหั่นเป็นสามเหลี่ยมเล็กๆ แล้วนำไปทอดหรืออบจนได้เป็นชิพส์ เสิร์ฟคู่กับดิปมะเขือเทศ ซัลซ่า หรือ กัวคาโมเล่ เป็นเมนูเรียกน้ำย่อย แต่สำหรับ “ทาโก้ เบลล์” เพื่อเรียกน้ำย่อยให้ทำงานหนักขึ้น เลยเพิ่มรสชาติและความเคี้ยวเพลิน ด้วยการรังสรรค์เป็นโล้ดเด็ด นาโช่ส์ (Loaded Nachos) ตอติญ่าชิพส์เสิร์ฟพร้อมกับ กัวคาโมเล่ซึ่งทำมาจากอโวคาโด ซัลซ่า ซาวครีม นาโชชีส และอย่าลืมเลือกท็อปปิ้งด้วย ไก่บดหมักเครื่องเทศ, ไก่ย่าง, ไก่กรอบ หรือ หมูฉีกสไตล์เม็กซิกัน

สำหรับ Burritos (เบอร์ริโต) ยังคงคอนเซปต์ความอร่อยของแป้งตอติญ่า เนื้อสัตว์ ข้าวสไตล์เม็กซิกัน ถั่วแดงหลวงบด และผักอย่างกะหล่ำไว้อย่างครบถ้วน แต่แปลงโฉมจากการห่อแป้งตอติญ่าด้วยการพับครึ่งวงกลมมาห่อเป็นม้วนซึ่งทางร้าน “ทาโก้ เบลล์” เอาใจคนรักเมนูนี้ ด้วยกริลด์สตัฟท์ เบอร์ริโต้ (Grilled Stuft Burrito) เมนูเอาใจคนชอบทานข้าว เพราะเป็นเมนูที่ผสมผสานความอร่อยระหว่างข้าวปรุงรสสไตล์เม็กซิกัน ทานคู่กับ ไก่บดหมักเครื่องเทศ, ไก่ย่าง, ไก่กรอบ หรือ หมูฉีกสไตล์เม็กซิกันก็เริ่ดไม่แพ้กัน เพิ่มรสจัดจ้านด้วย นาโชชีส ซอสเฮลาพิโน, ซัลซ่า และชีส 2 ชนิด ห่อด้วยแป้งตอติญ่าแบบนุ่มๆ

ปิดท้ายแนะนำให้ลอง ครั้นช์แรป ซูพรีม (Crunchwrap Supreme) เป็นเมนูที่สร้างความตื่นเต้นให้กับนักชิม เพราะความนุ่มจากแป้งตอติญ่า กลมกล่อมด้วยนาโชชีส และเนื้อในสลับชั้นด้วยแป้งทาโก้กรอบ ซึ่งเข้ากันได้ดีกับเนื้อไก่หมักสูตรเด็ด เพิ่มความฟินด้วยซาวครีม ซอสเผ็ด ผักสดและมะเขือเทศ…เมนูนี้รับรองว่าหากได้ลองแล้วต้องติดใจ

Queen of Cannes

ถอดเมคอัพลุคฟาดพรมแดงปีที่ 7 ของ “แม่ชม” สวยยืนหนึ่งแบบ Queen of Cannes

Alternative Textaccount_circle
Queen of Cannes
Queen of Cannes

ในทุกๆ โมเม้นท์ของผู้หญิงนั้น ไม่ว่าจะโอกาสใดๆ สำคัญในชีวิต ต้องยอมรับว่าการเมคอัพมักจะอยู่ในโอกาสสำคัญๆ ของชีวิตหญิงสาว ไม่ว่าจะเป็นวันรับปริญญา วันแรกในการทำงาน วันเกิด หรือแม้กระทั่งวันที่เราตั้งใจจะไปออกเดท อย่างที่บอกการแต่งหน้าไม่ใช่แค่การเสริมสร้างบุคลิกความมั่นใจเท่านั้น แต่ยังเป็นการเติมเต็มความรู้สึกให้ในบางครั้งที่ผู้หญิงลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อตนเองหรือเพื่อคนรอบข้างในแบบ Empowered Women ที่ไม่ได้สวยแค่จากภายนอก แต่ยังต้องเท่และมีเสน่ห์ทางความคิด ทัศนคติ และการกระทำที่ออกมาจากใจ รักในสิ่งที่ทำและพร้อมจะเต็มที่กับทุกสิ่ง

และในซีซั่นนี้เป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ลอรีอัล ปารีสจากทั่วโลกได้เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ภายใต้แนวความคิดที่ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งก็คือการให้ความสำคัญในเรื่องของแฟชั่นความงามในโลกของภาพยนตร์ และแน่นอนว่ามีเหล่าเซเลบริตี้ระดับโลกรวมทั้งตัวแทนจากประเทศไทยไปร่วมในเทศกาลเป็นประจำทุกปี และในปีนี้ก็เช่นกันเหมือนเคย ชมพู่ – อารยา เอ ฮาร์เก็ต ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์ตัวแทนจากประเทศไทยไปร่วมสร้างปรากฏการณ์เจิดจรัสบนพรมแดงอีกครั้งเป็นปีที่ 7  ภายใต้แคมเปญ  “My Empire. My Own Rule. Because I’m Worth it.”  โดยได้เปิดตัวลุคไปงานคานส์แล้วด้วยลุค Queen of Cannes ที่จะมาตอกย้ำความสวยแบบยืนหนึ่ง

ซึ่งเหลือเวลาอีกแค่ไม่ถึงหนึ่งเดือนจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว สำหรับเทศกาลแห่งโลกภาพยนตร์ Festival de Cannes ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 72 โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14 -25 พฤษภาคม 2562 และถ้าสาวๆ ไม่อยากตกเทรนด์สวยยืนหนึ่งแบบ Queen of Cannes ในปีนี้ ชี้เป้าไว้ตรงนี้เลยสำหรับสาวๆ ที่อยากได้ลุคสวยบัลลังก์สะเทือนแบบแม่! แอดมีไอเท็มเมคอัพมาแนะนำ ถือว่าเป็น Must-Have Item ของซีซั่นนี้ แถมแต่งตามกันแบบง่ายๆ เลยจ้า

เริ่มด้วยงานผิวแมทเนียนกริบให้สวยเฟอร์เฟคแบบควีนส์ ด้วยทรูแมช ลิควิด ฟาวน์เดชั่น เอสพีเอฟ 16 พีเอ++  และ ทรูแมช อีเว่น เพอร์เฟ็คติ้ง พาวเดอร์ เอสพีเอฟ 32 พีเอ+++ จากนั้นปาดเปลือกตาให้ให้สโม้กกี้ส้มอมชมพูด้วย ลา เปอติท พาเลท อายแชโดว์พาเลตต์ ที่อัดแน่นด้วยอณูพิกเมนต์เพื่อสีสดปังขั้นสุดถึง 5 เฉดสี ที่มีพิกเมนต์สีบริสุทธิ์ ผนึกด้วยออยล์เนื้อสัมผัสนุ่มลื่น ให้การเบลนด์และการเกลี่ยง่ายมากขึ้น ต่อด้วย วอลุ่มมินัส ลาช พาราไดซ์ มาสคาร่า ที่จะช่วยเนรมิตขนตาให้ดูหนาฟู แลดูมีมิติ ยาว งอน เรียงเส้น ปัดซ้ำกี่ครั้งก็ไม่เป็นก้อน ปิดท้ายด้วยการเสริมความมั่นใจขั้นสุด ให้ปากอวบอิ่มทรงพลังด้วย ลิปสติก บาย คัลเลอร์ ริช ลิปแมตต์ ฉดสีส้มอิฐทรงพลังดุจแสงอาทิตย์ที่กระทบพื้นดิน ให้ความอบอุ่น แต่หนักแน่น และทาทับด้วย นู้ด นาเครส บาย คัลเลอร์ ริช ลิปสติกเฉดสีนู้ดที่มาพร้อมประกายมุกหรูหรา มอบเรียวปากสีนู้ดสวยมีมิติ มอบปากลุคลิปแมตต์ส้มอิฐเหลือบนู้ดวาวเพิ่มมิติ แค่นี้สาวๆก็ได้ผิวแมตต์เนียน เปลือกตาสโม้กกี้ส้มอมชมพู พร้อมปากอวบอิ่มส้มอิฐทรงพลังเหลือบนู้ดวาวมีมิติ เป็นสาวปารีเซียงที่มีแอตทิจูดแบบ Empowered Women สวยพุ่งทะลุบัลลังก์ไปเลยจ้า

 

นอกจากเมคอัพแล้ว อย่าลืมว่าความคิด ทัศนคติ จากข้างในของเราก็จะช่วยเสริมเสน่ห์ให้น่ามองยิ่งขึ้นผ่านท่าทาง การพูดจาของสาวยุคใหม่ที่เป็นตัวของตัวเองและมีสไตล์นะคะซิส


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ชมพู่ ลุยพรมแดงคานส์ปีที่ 7 ลุ้น! ฟ่านปิงปิง จะกลับมาเฉิดฉายอีกครั้งหรือไม่?

แกะเมคอัพลุคเจ้าหญิง ชมพู่-อารยา เจิดจรัสปิดท้ายพรมแดงคานส์!

มารีญา ร่วมเทศกาลหนังเมืองคานส์ครั้งแรก กับภารกิจหนึ่งในตัวแทนของสาวปารีเซียง ชิค

โดดเด่นไม่แพ้ใคร 3 สาวซุปตาร์ “เจนี่-วุ้นเส้น-โยเกิร์ต” ร่วมเดินพรมแดง คานส์ 2018 (มีคลิป)

นางพญาเว่อร์ Day 4 แล้ว แต่ดีกรีความแซ่บของแม่ชมยังคงสวยสะท้านพรมแดงคานส์

ตะลึงทั้งคานส์! เมคอัพลุคแม่ชมวันที่ 2​ หน้า-ผม​ สวยเฉียบขาดกลางพรมแดง

ออร่าพุ่ง! ส่องเมคอัพลุคของ ฟ่านปิงปิง ประชันศึกพรมแดงคานส์ 2018 วันแรก

สวยทุกวันไม่ต้องรอเดินบนพรมแดง! ดูสิ 2 ลุคสวยชิลของ ขุ่นแม่ชม หลังจบคานส์วันแรก

 

 

ออนนี่ฟินเว่อร์ ซงฮเยคโย โพสต์มีความสุขมากๆ ขณะอยู่ในเมืองไทย

Alternative Textaccount_circle

นางเอกสาวซูเปอร์สตาร์แดนกิมจิ ซงฮเยคโย โพสต์ข้อความบนไอจีก่อนกลับเกาหลีใต้ “ฉันมีความสุขมากๆ ที่ได้มาพบปะแฟนๆ ของฉันทุกคนในประเทศไทย”

 

 ซงฮเยคโย

 ซงฮเยคโย  

เมื่อไม่นานมานี้นางเอกซูเปอร์สตาร์ ซงฮเยคโย แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Sulwhasoo ได้เดินทางมาเมืองไทยเพื่อร่วมงาน “โซลวาซู สตาร์ เซรั่มส์ ยูนิเวิร์ส วิธ ซอง เฮเคียว” (Sulwhasoo Star Serum’s Universe With Song Hye Kyo) เพื่อฉลองครบรอบ 22 ปี First Care Activating Serum EX ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยคืนความสมดุล เผยความอ่อนเยาว์ เปล่งประกาย มีชีวิตชีวาสู่ผิว ณ เจริญนครฮอลล์ Iconsiam  โดยในงานนี้ นักแสดงสาวชาวเกาหลีใต้ยังแชร์เคล็ดลับความงามให้กับสาวไทยได้ทราบกันด้วย

โดยภายในงานมีการจัดกิจกรรมความงามอีกมากมาย โดยผ่านแนวคิดจักรวาลแห่งความงาม อาทิ Sulwhasoo’s Dome ให้ผู้ร่วมงานได้ทดสอบความสมดุลของสภาพผิว หรือมุมหนังสืออิเล็คโทรนิคที่แสดงถึงประวัติความเป็นมาของแบรนด์ และ ผลิตภัณฑ์ First Care Activating Serum EX รุ่นลิมิตเต็ดอิดิชั่นขนาด 120 มล. ที่มาในขวดสีทองดีไซน์หรูแสดงถึงสัญลักษณ์แห่ง ‘ดวงดาว (The Star Serum)’ อันหมายถึงการมีผิวสวยสมดุลสมบูรณ์แบบด้วย 5 สัญญาณแห่งวัย นิยามใหม่แห่งโซลวาซู ปรับผิวที่ไม่สมดุลอันเกิดจากการสูญเสีย 5 สัญญาณแห่งวัย – ความยืดหยุ่น, ความมีชีวิตชีวา, ความเปล่งปลั่ง, ความกระจ่างใส และความแน่นกระชับ เริ่มขั้นตอนแรกในการดูแลด้วย First Care Activating Serum EX คืนความสมดุลสู่ผิวรับมือกับ 5 สัญญาณแห่งวัย เผยความอ่อนเยาว์ เปล่งประกาย มีชีวิตชีวาสู่ผิว

ทั้งนี้ก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด นางเอกซูเปอร์สตาร์ได้โพสต์ภาพทั้งหมด 6 ภาพลงในอินสตาแกรม ส่วนตัวที่มีผู้ติดตามมากกว่า 9.3 ล้านคน ให้เหล่าบรรดาแฟนคลับทั่วโลกที่คอยติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของเธอได้ดูชมเป็นขวัญตาด้วยเช่นกัน

โดยข้อความประกอบภาพดังกล่าว ระบุว่า “ฉันมีความสุขมากๆ ที่ได้มาพบปะแฟนๆ ของฉันทุกคนในประเทศไทย ต้องขอบคุณ โซลวาซู ด้วยค่ะ! ฉันหวังว่าทุกคนจะยังคงมีสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขจนกว่าเราจะได้พบกันอีกครั้ง”

  ซงฮเยคโย

สำหรับผลิตภัณฑ์First Care Activating Serum EX ผสมผสานศาสตร์ดั้งเดิมกับนวัตกรรมอันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของโซลวาซู JAUM Balancing Complex™ ซึ่งตรงเข้าแก้ปัญหาริ้วรอยแห่งวัยด้วยการผสานส่วนผสมจาก 5 ตำรับยาสมุนไพรชั้นเลิศ ได้แก่ ดอกโบตั๋น, บัวหลวงอินเดีย, โซโลมอนส์ซีล, ดอกลิลลี่ขาว และรากโกฐขี้แมว โดยการคัดสรรอย่างพิถีพิถันจากตำรับยาสมุนไพรกว่า 3,000 ชนิด เพื่อคืนความสมดุล ให้ผิวกระจ่างใส เปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่ง JAUM Balancing Complex™ คือที่สุดแห่งการค้นคว้าตำรับยาสมุนไพรตลอดระยะเวลา 50 ปีของโซลวาซู ในการค้นหาต้นเหตุของผิวที่แห้งกร้าน ให้กลับชุ่มชื้น เนียนนุ่ม มีชีวิตชีวา พร้อมคืนความสมดุลสู่ผิว ด้วยการรับมือกับทุกสัญญาณแห่งวัย

โดยโซลวาซูยังคงพัฒนาโดยผสานเทคโนโลยี PREXtract Process™ พัฒนา JAUM Balancing Complex™ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี ในปี 2015 ซึ่งผลลัพธ์คือ First Care Activating Serum EX รุ่นที่ 4 นั้น ให้เซรั่มที่เข้มข้นทุกหยดเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในการดูแล และสร้างความสมดุลให้กับผิวสูงสุด โดยโซลวาซูเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ JAUM Balancing Complex™ โดยการผสานเทคโนโลยี PREXtract Process™ ช่วยให้เซรั่มซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ First Care Activating Serum EX ยังเก็บกักความสมดุลผิว ให้ผิวเปล่งประกาย มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ปี 1997 First Care Activating Serum ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในฐานะ บู๊ทติ้งเซรั่ม (boosting serum) ชิ้นแรกของโลก ขั้นตอนแรกหลังทำความสะอาด ซึ่ง First Care Activating Serum EX เป็นที่ยอมรับในบทบาทในการปฏิวัติความงามของผู้หญิงทั่วโลก ตลอดระยะเวลา 22 ปีที่ผ่านมา First Care Activating Serum EX ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ขายดีอันดับหนึ่งในเกาหลีและต่างประเทศ โดยมีการบันทึกว่า First Care Activating Serum EX เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถครองใจผู้คนอย่างเหนียวแน่นด้วยยอดขายถึง 1 ล้านล้านวอนในปี 2014 และยอดขายสะสมเพิ่มเป็นสองเท่าคือ 2 ล้านล้านวอนในปี 2017 โดย First Care Activating Serum EX ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยรางวัลการันตีจากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก พร้อมยืนหยัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดได้ยาวนานด้วยกาลเวลาที่พิสูจน์

ซงฮเยคโย

ซงฮเยคโย


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

รวมโมเม้นต์หวานน้ำตาลเรียกพี่ ของคู่รักซูเปอร์สตาร์ SongSongCouple

 นางฟ้าตลอดกาล! ซองเฮเคียว ไอคอนยืนหนึ่ง ต้นแบบของสาวๆ สวยครบเครื่องรอบด้าน

หมดเวลาดื่มด่ำน้ำผึ้งพระจันทร์ Songsongcouple ได้ฤกษ์หวนคืนวงการบันเทิงซงฮเยคโย

Golden Place สาขาพระบรมมหาราชวัง

เปิดแล้ว Golden Place สาขาพระบรมมหาราชวัง ส่งเสริมสินค้าฝีมือคนไทยสู่ต่างชาติ

Alternative Textaccount_circle
Golden Place สาขาพระบรมมหาราชวัง
Golden Place สาขาพระบรมมหาราชวัง

เปิดแล้ว Golden Place สาขาพระบรมมหาราชวัง ส่งเสริมสินค้าฝีมือคนไทยสู่ต่างชาติ… วันนี้ (29 เมษายน 2562) สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พลอากาศเอกสถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นประธานในการเปิดร้านโกลเด้น เพลซ สาขาพระบรมมหาราชวัง ณ พระบรมมหาราชวัง โดยมีนางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการบริษัท สุวรรณชาด จำกัด ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะกรรมการรอรับประธานGolden Place สาขาพระบรมมหาราชวัง

Golden Place สาขาพระบรมมหาราชวัง
พลอากาศเอกสถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ร้านโกลเด้น เพลซ ภายใต้ บริษัท สุวรรณชาด จำกัด ในพระบรมราชูปถัมภ์ ก่อตั้งขึ้นจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงต้องการสร้างต้นแบบร้านค้าปลีกของคนไทย ให้เป็นตู้เย็นของประชาชน เพื่อจำหน่ายสินค้าจากโครงการส่วนพระองค์ โครงการในพระราชดำริ โครงการหลวง สินค้าแปรรูปหรือสินค้า OTOP จากชุมชนต่างๆ ตลอดจนสินค้าการเกษตรจากกลุ่มเกษตรกร ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสืบสานพระราชดำริดังกล่าว โดยมีพระราชปณิธานให้ร้านโกลเด้น เพลซ เป็นช่องทางที่ผู้บริโภคจะสามารถเข้าถึงสินค้าที่ดี มีคุณภาพ ราคาย่อมเยา ขณะเดียวกัน กลุ่มเกษตรกรหรือผู้ขายจากชุมชนต่างๆ ก็ได้มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้า

Golden Place สาขาพระบรมมหาราชวัง
คณะกรรมการ บริษัท สุวรรณชาด จำกัด ในพระบรมราชูปถัมป์ (จากซ้ายไปขวา) 1. นายวิชัย ชาญสาคร 2. นายพิพิธ พิชัยศรทัต 3. นางนวลพรรณ ล่ำซำ 4. นายสุเมธ ภิญโญสนิท 5. นายบุญชัย แสงจันทร์

Golden Place สาขาพระบรมมหาราชวัง

Golden Place สาขาพระบรมมหาราชวัง

บริษัท สุวรรณชาด จำกัด ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ดำเนินการเปิดร้านโกลเด้น เพลซ สาขาพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นร้านค้าสาขาลำดับที่ 15 ตั้งอยู่ภายในพระบรมมหาราชวัง บริเวณใกล้กับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระอารามหลวง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของประเทศไทย ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางมาชมความงดงามปีละกว่า 2,500,000 คน หรือเฉลี่ยวันละกว่า 17,000 คน ภายในตกแต่งด้วยสีทองเพื่อให้สอดคล้องกับสถาปัตยกรรมของพระบรมมหาราชวัง อีกทั้งยังใช้หินอ่อนขาวและหินอ่อนเขียว ซึ่งสื่อถึงแบรนด์โกลเด้น เพลซ ด้วยพื้นที่ถึง 700 ตารางเมตร จึงเหมาะแก่การเดินเลือกซื้อของฝาก หรือ นั่งรับประทานเครื่องดื่มเพื่อคลายร้อน ระหว่างเดินทางท่องเที่ยว

Golden Place สาขาพระบรมมหาราชวัง

สินค้าภายในร้านโกลเด้น เพลซ สาขาพระบรมมหาราชวัง ยังคงคอนเซ็ปต์ของร้าน คือ “นึกถึงสุขภาพ นึกถึงโกลเด้น เพลซ” อาทิ สินค้าเพื่อสุขภาพ ผลไม้สด น้ำผลไม้ สินค้าแปรรูปทางการเกษตร โดยร้านค้าสาขานี้ จะเน้นสินค้าการเกษตรแปรรูปเป็นหลัก เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่มักหาซื้อสินค้าเพื่อเป็นของฝาก อาทิ นมอัดเม็ด ทุเรียนทอดกรอบแปรรูป สตรอเบอร์รี่อบแห้ง ข้าวเกรียบฟักทอง กล้วยตาก เป็นต้น พร้อมกันนี้ได้เปิดมุม “Golden Coffee” เป็นแห่งที่ 3

Golden Place สาขาพระบรมมหาราชวัง

ทั้งนี้ คาดว่าการเปิดร้านโกลเด้น เพลซ สาขาพระบรมมหาราชวัง นอกจากจะเป็นการขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มเดิม ไปสู่กลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่จะได้มีโอกาสรู้จักและรับประทานสินค้าคุณภาพ จากฝีมือของคนไทย อันจะเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของไทย สู่นานาประเทศ อันจะสามารถเชื่อมโยงไปถึงการท่องเที่ยวเชิงวิถีไทยแล้ว ยังถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไทยด้วย

Golden Place สาขาพระบรมมหาราชวัง

Golden Place สาขาพระบรมมหาราชวัง

Golden Place สาขาพระบรมมหาราชวัง

Golden Place สาขาพระบรมมหาราชวัง

ร้านโกลเด้น เพลซ สาขาพระบรมมหาราชวัง เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 – 17.00 น. ข้อมูลเพิ่มเติม www.suvarnachad.co.th

นายแบบชาวบราซิลเสียชีวิต

ช็อกรันเวย์! นายแบบชาวบราซิลเสียชีวิต หลังล้มหมดสติระหว่างโชว์

นายแบบชาวบราซิลเสียชีวิต
นายแบบชาวบราซิลเสียชีวิต

นับเป็นเหตุการณ์ช็อกรันเวย์ เมื่อ นายแบบชาวบราซิลเสียชีวิต หลังจากสะดุดสายรองเท้าจนล้มหมดสติในงาน Sao Paulo Fashion Week 2019

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (27 เม.ย. 62) นายแบบชาวบราซิล Tales Soares วัย 26 ปี เสียชีวิตหลังจากล้มลงอย่างกระทันหันบนรันเวย์ระหว่างการแสดงในวันสุดท้ายของ Sao Paulo Fashion Week 2019 โดยสื่อต่างชาติรายงานว่าเขาสะดุดสายรัดรองเท้าจนล้มลงไป

นายแบบชาวบราซิลเสียชีวิต

ซึ่งในตอนแรกผู้ชมเข้าใจว่าการล้มลงเป็นส่วนหนึ่งของโชว์ แต่กลับไม่ใช่ เพราะเขาเริ่มมีฟองที่ปาก ทางทีมแพทย์จึงเข้ามาอย่างเร่งด่วนเพื่อพยายามช่วยชีวิตเขาไว้ และต่อมาก็ได้นำตัวส่งโรงพยาบาล สุดท้ายมีรายงานจากโรงพยาบาลว่าเขาได้เสียชีวิตแล้ว และในตอนนี้สาเหตุการตายของเขายังไม่ชัดเจน

นายแบบชาวบราซิลเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม โชว์ยังดำเนินต่อไป หลังจากนำตัวนายแบบชาวบราซิลส่งโรงพยาบาล โดยมีนางแบบเขียนข้อความไว้อาลัยบนป้ายแคทวอล์กด้วยลายมือว่า “Luto” (ไว้ทุกข์) และ “Amor” (รัก)

ด้านเจ้าหน้าที่ Sao Paulo Fashion Week กล่าวว่า “เราขอแสดงความเสียใจอย่างจริงใจต่อครอบครัวของ Tales Soares” ในขณะที่แบรนด์ Ocksa ได้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมว่า “ทีมงานทั้งหมดตกตะลึงจากการเสียชีวิตของ Tales Soares”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนเสียชีวิตระหว่างการแสดงบนรันเวย์ เพราะในปี 2017 นางแบบวัยรุ่นชาวรัสเซีย วัย 14 ปี Vlada Dzyuba ทรุดตัวลงด้วยความเหนื่อยล้าอย่างมาก หลังจากการแสดงแฟชั่นโชว์ 12 ชั่วโมงในเซี่ยงไฮ้

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ไขความลับ ‘ดัชเชสเมแกน’ สวมส้นสูงไซส์ใหญ่กว่าขนาดเท้าจริงเพราะอะไร

เปลี่ยน ‘เสื่อกก’ ให้เป็นกระเป๋า ไอเท็มดีไซน์โมเดิร์นฝีมือคนไทย ดังไกลถึงต่างแดน

ฮ็อตยิ่งกว่าอากาศ! ชุดว่ายน้ำลายผ้าไหม ผลงานสุดเก๋ที่เริ่มมาจากความชอบ

ทุกวันต้องชมพู! ส่องลุคสาวรัสเซีย นักสะสมบาร์บี้ มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท

ทริปนี้หลักล้าน! ‘เจมี ฉัว’ จัดแบรนด์เนมชุดใหญ่ ตะลุยป่าในแอฟริกาใต้

ฮ็อตยิ่งกว่าอากาศ! ชุดว่ายน้ำลายผ้าไหม ผลงานสุดเก๋ที่เริ่มมาจากความชอบ

ขายดีจนผลิตไม่ทัน! สร้อยคอลูกปัดราคาหลักร้อยที่ ลิซ่า BLACKPINK กำลังอิน

ตามรอยไอเท็ม! ลิซ่า BLACKPINK กับกระเป๋าโท้ทจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI

สวยหรูแบบสตรีหมายเลข 1 ‘เมลาเนีย ทรัมป์’ ฟาดค่าชุด 7 แสนบาทในเดือนเดียว

แม่ชมสายประหยัด! แมทช์เสื้อลายดอกจากตลาดนัดให้ สายฟ้า-พายุ ใส่ซ้ำจนคุ้ม

แฟชั่นนี้ควีนไม่ปลื้ม! เผยสไตล์ของสองดัชเชสที่ห้ามแต่งต่อหน้าควีน

งดงามไม่เปลี่ยน! เปิดภาพลุคสดใสของ ‘เจ้าหญิงเคท’ เมื่อ 12 ปีที่แล้ว

เรียกร้องมากไป? ควีนสั่งห้าม ‘ดัชเชสเมแกน’ ยืมเทียร่า Lover’s Knot

เอวบาง ร่างเพรียว! โรเซ่ BLACKPINK กับแฟชั่นเสื้อครอปที่แต่งแล้วปังทุกรอบ


ภาพและที่มา : www.telegraph.co.uk

สวยเบอร์แรง!! จันตา กรงกรรม สลัดลุคชาวบ้านชุมแสง มาใส่ชุดแต่งงานสวยๆ สไตล์ 2019

account_circle

ตัวละครลับของละคร กรงกรรม ที่โผล่มาในเกือบจะโค้งสุดท้ายก่อนละครจะลาจอ แต่กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากกับ “จันตา” สาวน้อยหน้าใสแต่มีอดีตที่คว้าหัวใจของอาซามาครอง จนทำเอาชาวเน็ตหาตัวกันยกใหญ่ว่าเธอคนนี้คือใคร

ซึ่งนักแสดงที่มารับบทบาทนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ ยิหวา – ปรียากานต์ ใจกันทะ หวานใจของหนุ่มเปอร์ สุวิกรม นั่นเอง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยฝากผลงานมาแล้วกับละครเรื่องเรือนร้อยเลห์ และนางบาป แต่ก็ยังไม่ได้เป็นที่พูดถึงมากเท่ากับเรื่องนี้

และหนึ่งในฉากที่เป็นที่พูดถึงของเธอจากละครเรื่องกรงกรรม คือฉากงานแต่งงานที่ล่มไม่เป็นท่า ซึ่งสิ่งหนึ่งที่สะดุดตาแพรว wedding ก็คือลุคของเธอในชุดแต่งงานสไตล์ย้อนยุคราวๆ ปี 2510 ซึ่งสาวยิหวาก็สวยสไตล์วินเทจได้ใจมากๆ และนี่คือ จันตา ในลุคชุดแต่งงาน 2019 ที่สวยหวานไม่แพ้จันตาในอดีตเลยจ้า

โอโห จันตา 2019 สวยเกินเบอร์จริงๆ ด้วย ^^

 

ดูลุคจันตาในชุดแต่งงานสวยๆ แล้ว ลองตามไปส่องลุค “พิไล” หรือ แพร์ พิชชาภา ในชุดไทยสวยๆ กันต่อเลย >>> แพร์ พิชชาภา เลิกร้ายแล้วจ้า! ส่องลุค “พิไล” เป็นหญิงไทยสวยหวานในชุดไทยแบบจัดเต็ม <<<

เสื้อผ้า : Mirror Mirror Bangkok
โทร. 09-7086-5512
เฟซบุ๊ก : ชุดแต่งงาน By MirrorMirror
ไอจี : @mirrormirrorbangkok

เครื่องประดับ : Vijittra’s Jewellery
โทร. 06-1614-5096

แพร์ พิชชาภา เลิกร้ายแล้วจ้า! ส่องลุค “พิไล” เป็นหญิงไทยสวยหวานในชุดไทยแบบจัดเต็ม

account_circle

นาทีนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก “พิไล” ตัวละครที่ชาวบ้านร้านตลาดเกลียดกันถ้วนหน้า ลามมาจนถึงกระแสในโซเชียลมีเดีย เรียกได้ว่านักแสดงสาว แพร์-พิชชาภา พันธุมจินดา ตีบทบาทนี้ได้แตกกระจุย และก่อนที่ละครเรื่องนี้จะลาจอไป แพรว wedding เลยนำภาพ แพร์ พิชชาภา ในลุค ชุดไทย แบบจัดเต็มที่สวยหวานจนอาจจะลืมไปเลยว่า นี่มันอิไพ คนที่ฉันเกลียดหรือเปล่านะ? 

เป็นไงล่ะ สวยหวานจนลืมว่าเธอหน่ะมันร้ายไปเลยใช่ไหม เอาเป็นว่าถึงในบทบาทเธอจะร้ายแค่ไหน แต่แพรว wedding ขอคอนเฟิร์มว่าตัวจริงของเธอนั้นน่ารักมากๆ เลยน้าาาา

 

ตามไปส่องลุคของ แพร์-พิชชาภ ในชุดไทยสวยๆ เพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์นี้เลย >>> แฟชั่นชุดแต่งงานไทยสวยๆ แบบหญิงไทยใจงามราวสตรีผู้สูงศักดิ์ <<<

 

เสื้อผ้า : Coco Chic Wedding
โทร. 0-2115-8500, 09-9635-8585
เฟซบุ๊ก : Coco Chic Wedding
ไอจี : @cocochicwedding

เปิดใจว่าที่เจ้าสาวคนล่าสุด จ๊ะจ๋า พริมรตา เดชอุดม หลังถูกแฟนหนุ่มขอแต่งงาน

Alternative Textaccount_circle

นักแสดงสาวมากความสามารถ จ๊ะจ๋า พริมรตา เปิดใจถึงความรู้สึก หลังถูกแฟนหนุ่มนักร้องรุ่นใหญ่ จิ๊บ- วสุ แสงสิงแก้ว ทำเซอร์ไพร้ส์คุกเข่าขอเธอแต่งงานที่ทิเบต

ปีนี้มีคนดังในวงการบันเทิงมีแววจะสละโสดเพียบ และหนึ่งในนั้นก็คือนักแสดงสาวมากความสามารถ จ๊ะจ๋า พริมรตา เดชอุดม  ที่เพิ่งจะประกาศข่าวดีเมื่อไม่กี่วันนี้ไปหมาดๆ ภายหลังจากถูกแฟนหนุ่มนักร้องรุ่นใหญ่ จิ๊บ- วสุ แสงสิงแก้ว ทำเซอร์ไพร้ส์คุกเข่าขอเธอแต่งงานที่ทิเบตอย่างโรแมนติก

ล่าสุดนักแสดงสาวได้เดินทางกลับมาจากทริปโรแมนติกเรียบร้อยแล้ว พร้อมให้สัมภาษณ์เปิดใจอย่างเป็นทางการในงานบวงสรวงละครเรื่อง”เรือนไหมมัจจุราช ที่ ล้ง 1919 ซึ่งเธอได้เผยว่ากับเหตุการณ์นี้ว่าเธอไม่เคยคิดฝันมาก่อน ทั้งยังเผยว่าอยากจะจัดงานภายในสิ้นปีนี้อีกด้วย

 จ๊ะจ๋า พริมรตา

อยากทราบความรู้สึกวันถูกขอแต่งงานเป็นอย่างไรบ้าง?
“เป็นเหตุการณ์ที่เซอร์ไพร้ส์มากๆ พี่จิ๊บขอแต่งงานระหว่างไปทริปหลังคาโลกที่ทิเบต ณ วันนี้ก็ยังตื่นเต้นไม่หายเลย

เอะใจมาก่อนบ้างไหม?
“ไม่เลย คือต้องขอเรียนแบบนี้ค่ะ ปกติเราไปทริปประจำปีอยู่แล้ว ทริปนี้เราก็เหมือนทริปอื่นๆ ที่จะไปจอยทัวร์กับคนอื่นๆ ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน ไม่ได้มีเพื่อนเรา ไม่ได้มีการเตรียมตัวแบบต้องมีชุดขาวต้องมี พร๊อพ คือไม่มีอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างปกติ”

ตอนถูกขอแต่งงานมีน้ำตาแตกเหมือนคู่อื่นๆ ไหม?
“ไม่ต่างกัน จ๋าเข้าใจแล้วในละครที่เขาร้องไห้กันเนี่ยยังไง คือมันออกมาเองด้วยความรู้สึกที่จ๋าก็บอกไม่ถูก จ๋ารู้แค่วินาทีที่พี่จิ๊บคุกเข่าลงไปอ่ะ แววตาของพี่จิ๊บที่มองมาอ่ะ มันเป็นเต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งมากๆ ความจริงใจ ความตั้งใจ แล้วพอเขาลงไปคุกเข่าเนี่ย จ๋าเกรงใจเพราะทุกครั้งเนี่ยจะเป็นจ๊ะจ๋านะที่ต้องคุกเข่า”

ทันทีที่เขาขอแต่งงานเราตอบตกลงเยสเลยไหม?
“ปฏิเสธไม่ได้แล้ว (ยิ้ม) ตอนนั้นมันมีหลายความรู้สึกเกิดขึ้นโดยที่เรารู้สึกว่านี่คือความจริงหรือเปล่าหรือว่าเราฝันอยู่ไหม”

 จ๊ะจ๋า พริมรตา

จำคำพูดพี่จิ๊บที่พูดอะไรไหม?
“ณ ตอนนั้น ยอมรับเลยว่าไม่รู้ว่าพูดอะไรบ้าง ต้องตั้งสติแล้วก็มาดูคลิปที่เขาถ่ายไว้ ก็เลยได้ทราบว่าพี่จิ๊บพูดอะไรบ้าง คือในเหตุการณ์เราหูอื้อเพราะอากาศมันหนาว อีกทั้งที่ทิเบตสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 5,000 กว่าๆ ซึ่งตอนไปเราได้รับคำแนะนำว่าอย่าตื่นเต้น อย่าทำอะไรเร็ว ก่อนจะเดินไปถึงตรงนั้นมันสูงมันจะมีความหอบความเหนื่อยอยู่ แล้วออกซิเจนน้อย ทีนี้พอพี่จิ๊บมาเริ่มต้นบอกว่า เราก็คบกันมาสักพักแล้วนะ หัวใจจ๋าเต้นแรงมากเพราะว่าไม่ได้มีสัญญาณอะไรเลยอ่ะ แล้วพอเขาเริ่มพูดก็เหมือนความตื่นเต้นมันมากขึ้น หูอื้อ”

เริ่มวางแพลนงานแต่งงานอย่างไรบ้าง?
“อยู่ในขั้นตอนการพูดคุยอยู่เลย เดี๋ยวต้องดูเรื่องงานอีกที แล้วก็ดูเรื่องความพร้อมของทุกๆ ฝั่งอีกทีค่ะ ถ้าเกิดว่าเป็นไปได้เป็นปลายปีนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ว่าถ้าปลายปีนี้ไม่ได้ก็คงต้องเขยิบออกไปอีก”

ได้ดูฤกษ์หรือยัง?
“ยังไม่ได้ดูค่ะ เพราะจ๋ากลัวว่าถ้าฤกษ์บอกพฤษภาเดือนหน้านี่เป็นลม(หัวเราะ) ก็เลยเดี๋ยวค่อยๆ ทำเป็นขั้นตอนไปละกัน”


หวานสะท้านหลังคาโลก “จิ๊บ-วสุ” ทำเซอไพร้ส์คุกเข่าขอ จ๊ะจ๋า แต่งงาน

2 คู่รักคนดัง “ฮิวโก้-ฮาน่า” “จิ๊บ-จ๊ะจ๋า” ควงแขนชมงานศิลป์ เปิดตัวหนังสือดินแดนของอียิปต์

'ดัชเชสเมแกน' สวมส้นสูงไซส์ใหญ่

ไขความลับ ‘ดัชเชสเมแกน’ สวมส้นสูงไซส์ใหญ่กว่าขนาดเท้าจริงเพราะอะไร

'ดัชเชสเมแกน' สวมส้นสูงไซส์ใหญ่
'ดัชเชสเมแกน' สวมส้นสูงไซส์ใหญ่

เปิดความลับของ  ‘ดัชเชสเมแกน’ หาคำตอบว่าทำไมดัชเชสจึงสวมรองเท้าส้นสูงไซส์ใหญ่กว่าขนาดเท้าจริง 1-2 ไซส์ เกือบทุกครั้งที่ต้องเสด็จฯ ออกงานต่างๆ

แฟชั่นของ ดัชเชสเมแกน นับเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจมาโดยตลอด ตั้งแต่ยังทรงเป็นพระคู่หมั้นของเจ้าชายแฮร์รี่จนเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ สไตล์ของดัชเชสก็ยังคงได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง จนเหล่าแฟชั่นนิสต้าตาดีสังเกตเห็นอะไรบางอย่างเข้าให้ ว่าทุกครั้งที่ดัชเชสเมแกนเสด็จฯ ออกงานต่างๆ มักจะสวมรองเท้าส้นสูงที่มีขนาดใหญ่กว่าเท้าจริงของพระองค์อยู่เสมอ และหากย้อนกลับไปดูภาพต่างๆ ที่ออกมา ก็จะเห็นได้ชัดว่าตั้งแต่วันประกาศพิธีหมั้นระหว่างเจ้าชายแฮร์รี่และดัชเชสเมแกน พระองค์ก็ทรงสวมรองเท้าไซส์หลวมมาตั้งแต่ตอนนั้น จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่

ไขความลับ ‘ดัชเชสเมแกน’ สวมส้นสูงไซส์ใหญ่กว่าขนาดเท้าจริงเพราะอะไร

'ดัชเชสเมแกน' สวมส้นสูงไซส์ใหญ่กว่าขนาดเท้าจริง

ซึ่งผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานอยู่ในแวดวงแฟชั่นได้เผยถึงกรณีนี้ว่า ถือเป็นเรื่องปกติที่ดัชเชสเมแกนจะสวมรองเท้าไซส์ใหญ่กว่าขนาดเท้าจริง เนื่องจากการสวมส้นสูงเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เกิดอาการเท้าบวมและรองเท้ากัดได้ หรือถ้าต้องสวมส้นสูงหลายๆ ชั่วโมง อาจทำให้เกิดภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียง เพราะหัวแม่เท้าถูกรองเท้าบีบรัดเป็นเวลานาน หากบ่อยเข้าจะส่งผลเสียได้ ดังนั้นดัชเชสจึงเลือกสวมรองเท้าที่ใหญ่กว่าไซส์ปกติ และถ้าถามว่ารองเท้าหลวมแบบนี้จะเดินเหินสะดวกหรือเปล่า วิธีที่จะช่วยให้เดินได้คล่องตัวขึ้นก็คือการใส่ทิชชู่หรือสำลีไว้ที่หัวรองเท้านั่นเอง

'ดัชเชสเมแกน' สวมส้นสูงไซส์ใหญ่กว่าขนาดเท้าจริง

'ดัชเชสเมแกน'

'ดัชเชสเมแกน'

'ดัชเชสเมแกน'

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รู้หรือไม่? สุภาพสตรีในราชวงศ์อังกฤษ ห้ามสวมหมวกหลัง 6 โมงเย็น

สวยพร้อมชิงมง! ฟ้าใส ปวีณสุดา MUT 2019 ยิ่งใกล้วันประกวด ยิ่งออร่าจับ

สวยยั่วกิเลส! อัพเดทดีไซน์พร้อมราคา กระเป๋า Chanel Boy ทรงคลาสสิก

ยกเลิกขนสัตว์จริง! ควีนเอลิซาเบธ ทรงมีรับสั่ง ต่อไปจะใช้ขนเทียมเท่านั้น

เพราะเหตุใด กระเป๋า Hermes ถึงเป็นที่ต้องการ แม้ราคาจะแพงหูฉี่

อยากได้แบรนด์นี้ ต้องซื้อรุ่นไหน! กระเป๋า Chanel 5 ตัวท็อปใช้ได้นาน คุ้มค่าเงิน

ไฮโซเซนต์พร้อมเปย์! ตามใจ มิว-นิษฐา เลือกชุดแต่งงานแบรนด์ดังจากนิวยอร์ก

ขายหมดเกลี้ยง! กระเป๋า Chanel ใบเก่งของ ‘ดัชเชสเคท’ ที่ทรงถือมาตลอด 3 ปี

เหตุใดหลังจากเสกสมรส​ ดัชเชสเมแกน​ ไม่ได้รับอนุญาตให้ยืมเทียร่าอีก

แฟชั่นหลักร้อยของ ลิซ่า BLACKPINK สวยเซ็กซี่รับลมทะเลภูเก็ต

#แม่ว่าแม่ได้ ชมพู่-อารยา 3 ลุคเซ็กซี่แหวกอก ร่วมงานอีเว้นท์ระดับไฮเอนด์

ซูมเครื่องประดับหรูของ ลิซ่า Blackpink ในงานอีเว้นท์ แต่ละชิ้นราคาโหดมาก


ที่มา : www.dailymail.co.uk

ภาพ : Getty Images , www.popsugar.com

ทรงดังโงะคู่

แบ๊วแพ็คคู่ “แม่แอฟ – หนูปีใหม่” กับผมทรง Double Bun สุดคิ้วต์

Alternative Textaccount_circle
ทรงดังโงะคู่
ทรงดังโงะคู่

เห็นคุณแม่คุณลูกคู่นี้ทีไร น่ารักทุกที รอบนี้ “แม่แอฟ ทักษอร – หนูปีใหม่ เอวาริณ” จัดผม ทรงดังโงะคู่ แบบแพ็คคู่แม่ลูกแบ๊วกรุบๆ มาเสิร์ฟความคิ้วต์อีกแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้คู่นี้เขาก็จัดทรง สวยซ่าส์แพ็คคู่ “แม่แอฟ – หนูปีใหม่” จัดทรงผมสไตล์ Undercut Braid สุดเท่ คู่กันมาแล้ว ก็อย่างที่เห็นว่ารอบก่อนเท่ๆ เฟี้ยสๆ ไปแล้ว รอบนี้ก็เลยมาหวานๆ ใสๆ ดูร่าเริงบ้าง

และเช่นเคยทรงผมแม่ลูกคู่นี้จัดให้โดยคุณเปิ้ล แฮร์สไตลิสต์ ที่ทำทรงดังโงะคู่หรือซาลาเปาคู่ บอกเลยว่าเป็นทรงที่ช่วยคีพลุคให้ดูหน้าเด็กด้วย ขั้นตอนการทำก็ง่ายๆ ไม่ยากมาก เริ่มจากแบ่งผมเป็นสองข้างซ้าย-ขวา แล้วรวบผมทีละข้างยกสูงโดยไม่ต้องใช้หวีให้ดูแมสซี่ๆ โดยเน้นมัดสูงๆ ใช้มือสาง ไม่ต้องให้เนี้ยบมาก จากนั้นม้วนผมวนเป็นช่อ โดยใช้มือช่วยนำผมมาพันรอบๆ เป็นวงกลมจนกลายเป็นก้อน ก่อนรัดด้วยหนังยางรัดผมเพื่อเก็บทรง เก็บรายละเอียด ติดกิ๊บกันหลุดรอบๆ ก้อนดังโงะ ทำแบบนี้เหมือนกันทั้งสองข้าง ยิ่งถ้าเป็นกิ๊บบางแบบหลบในได้ยิ่งดี จากนั้นดึงผมรอบศีรษะให้ดูพองๆ แต่ต้องเบามือนะ เดี๋ยวผมจะชี้เกินเรื่อง คราวนี้ต้องแก้ทรงทำใหม่ ส่วนด้านหน้าก็ค่อยๆ ดึงปอยผมให้คลอเคลียใบหน้า

โดยทรงดังโงะคู่ของแม่แอฟมาพร้อมหน้าม้า จากที่แบ๊วอยู่แล้วก็แบ๊วเข้าไปอีก ส่วนหนูปีใหม่ผมด้านหน้าที่เหลือก็ปล่อยพริ้วเบาๆ เพิ่มความใสๆ นิดๆ แค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะ ลองแชร์เก็บไว้เผื่อเป็นไอเดียให้คุณแม่และคุณลูกคู่ลองทำตามบ้าง นอกจากเสื้อผ้าคู่น่ารักๆ แล้ว ทรงผมก็คู่กันได้น่ารักไม่แพ้กันเลยค่ะ

แบ๊วแพ็คคู่ “แม่แอฟ – หนูปีใหม่” กับผม ทรงดังโงะคู่ (Double Bun) สุดคิ้วต์

 

View this post on Instagram

 

A post shared by plepattra888 (@plepattra888) on


เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพ IG : plepattra888

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

กระเป๋าเสื่อกก

เปลี่ยน ‘เสื่อกก’ ให้เป็นกระเป๋า ไอเท็มดีไซน์โมเดิร์นฝีมือคนไทย ดังไกลถึงต่างแดน

กระเป๋าเสื่อกก
กระเป๋าเสื่อกก

มาแรงจนดังไกลถึงต่างแดนเลยทีเดียว สำหรับสินค้าแบรนด์ไทยดีไซน์โมเดิร์นอย่าง กระเป๋า ‘เสื่อกก’ ธรรมชาติทอมือผสมหนังแท้ งานแฮนด์เมดฝีมือคนไทย ภายใต้การดูแลของ ตั้ม – จิรวัฒน์ มหาสาร ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Chaksarn ซึ่งเขาได้เล่าให้แพรวดอทคอมฟังเกี่ยวกับไอเท็มชิ้นนี้ว่า “สิ่งที่ต้องการให้ลูกค้าเห็นมากที่สุดคือคุณค่าของงานศิลปหัตถกรรมของไทยที่มีอยู่รอบตัว เราต้องการให้คนเห็นว่างานไทยๆ สามารถมีคุณค่าได้มากกว่าสิ่งที่เราเห็น ทางแบรนด์เองต้องการเพิ่มมูลค่าและมิติใหม่ให้คนไทยได้เห็นความงามและคุณค่าของสิ่งนี้ จุดเด่นของเราคือการเอาสิ่งธรรมดาที่เห็นได้ทั่วไปมาดัดแปลงให้เป็นสิ่งใหม่ที่ยังมีความเป็นไทย มองแล้วรู้เลยว่าเป็นฝีมือคนไทย แต่มันเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ใช่แค่เสื่อ แต่เป็นแฟชั่นไอเท็มที่ทุกคนสามารถถือและจับต้องได้

กระเป๋าเสื่อกก
ตั้ม – จิรวัฒน์ มหาสาร ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Chaksarn
กระเป๋าแบรนด์ Chaksarn

ทำไมอยากเปลี่ยนเสื่อให้เป็นกระเป๋า

“จุดเริ่มต้นมาจากความชอบและความหลงใหลความงามของเสื่อ เราเห็นเสื่อมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่มันจะมีบางลายที่เราเห็นแล้วก็คิดว่ามันไม่ควรเป็นแค่เสื่อ ตั้มเองก็เป็นเด็กจากมหาสารคาม เป็นเด็กภาคอีสาน เลยเห็นเสื่อกกจนชินตาตั้งแต่เด็ก คือบางลายมันสวยจนคิดว่าเรามานั่งบนลายที่สวยงามแบบนี้มันน่าเสียดาย นั่นเลยเป็นจุดเริ่มต้นความคิด แต่ตอนนั้นยังเป็นเด็กเลยไม่มีโอกาสได้ทำอะไรกับมันมากนัก พอโตขึ้นและทำงานมาก็เยอะ เลยอยากมีอะไรที่เป็นของตัวเอง จึงกลับไปเอาไอเดียเดิมมาพัฒนา”

กระเป๋า Chaksarn Mini
กระเป๋า Chaksarn Mini

เริ่มต้นจากศูนย์

“ไม่ได้เรียนมาด้านดีไซน์ ออกแบบ หรือแฟชั่น ตอนที่ตั้งใจจะทำกระเป๋าเสื่อกกขึ้นมาไม่ได้มีความรู้ด้านนี้เลย ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ก็คือเริ่มจากการเรียนทอเสื่อเบื้องต้น เหมือนเรามาด้วยใจ อยากทำตรงนี้จริงๆ เลยต้องไปเริ่มที่จุดเริ่มต้น เรียนรู้ข้อมูลของเสื่อให้มากที่สุด ไปเริ่มตั้งแต่ถักทอ ทอกี่ สร้างแบบ สร้างลาย จนทอเป็นเสื่อออกมาหนึ่งผืน พอได้เสื่อแล้วก็พยายามเอาเสื่อมาทำกระเป๋า แต่ตอนนั้นยังทำไม่ได้ เพราะพื้นผิวของเสื่อแข็งเกินไป เข้ารูปทรงแบบที่เราต้องการไม่ได้

ซึ่งมันจะทำได้ออกมาคล้ายๆ กับงานโอทอป แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เราคิดเอาไว้ มันยังดูไม่โมเดิร์น ไม่ใช่สิ่งที่วัยรุ่นทั่วไปอยากจะใช้ และยังไม่ตอบโจทย์ตัวเองด้วย เลยหาทางอื่นๆ ที่จะทำให้สินค้าตัวนี้ดูมีราคาขึ้น คนทั่วไปสามารถจับต้องและถือใช้ในชีวิตประจำวันได้ เลยคิดเอาหนังมาผสม แต่ตอนนั้นก็ยังไม่มีความรู้เรื่องการทำกระเป๋าหนัง เลยลงเรียนคอร์สทำกระเป๋าหนังอีกที เรียนอยู่สักพักก็พอจะมีความรู้เพิ่มมากขึ้น สุดท้ายเลยออกมาเป็นตัวกระเป๋าเสื่อกกรวมเข้ากับหนังอย่างที่เห็น”

กระเป๋า Chaksarn Ikat

กว่าจะออกมาเป็นกระเป๋าหนึ่งใบ

“เสื่อหนึ่งผืนใช้เวลาทอประมาณ 1 ถึง 2 สัปดาห์ แล้วแต่ความยากของลาย ถ้าเป็นลายหมากฮอตทั่วไปใช้เวลาไม่นานประมาณ 3-4 วัน แต่ถ้าเป็นลายขิดจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ไปจนถึง 2 สัปดาห์ เสื่อหนึ่งผืนจะทำกระเป๋าได้ประมาณ 2-3 ใบ ถ้าเป็นรุ่น Original นะครับ และหลังจากได้เสื่อมาแล้ว เราต้องนำไปตากแดดก่อน เตรียมวัตถุดิบในการทำค่อนข้างนานประมาณ 3-4 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็เอามาตัดเย็บและใช้เวลากับขั้นตอนนี้อีก 1 สัปดาห์ ทำให้ต่อเดือนสามารถผลิตกระเป๋าออกมาได้ไม่กี่ใบในช่วงเริ่มต้น เพราะช่างทอเสื่อและช่างทำกระเป๋าของเรายังไม่เยอะ ตอนนั้นลูกค้าต้องพรีออเดอร์ เพราะทำไม่ทัน

แต่ช่วงนี้ได้เพิ่มงานให้กับชาวบ้าน หาชุมชนที่เขาทำเสื่อกกเพิ่มขึ้น ตอนนี้เลยมีชาวบ้านที่คอยทอเสื่อให้ทางแบรนด์อยู่ 3 จังหวัดคือ บุรีรัมย์ ขอนแก่น อุบลราชธานี ตอนแรกมีแค่หนึ่งหมู่บ้าน ตอนนี้มีกระจายไป 3 จังหวัดแล้ว เราเลยมีเสื่อเข้ามาตลอด ส่วนช่างตัดเย็บก็มีเพิ่มขึ้น พยายามเพิ่มกำลังการผลิตให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้นกว่าเดิม”

กระเป๋า Chaksarn รุ่น Mini Limited Edition

ลายของเสื่อ

“ลายจะมีอยู่ 2 ประเภท คือลายโบราณที่ชาวบ้านทออยู่แล้ว เรานำลายนั้นมาทำเป็นกระเป๋า ส่วนอีกลายเป็นแบบที่เราคิดขึ้นมาเอง เป็นลายเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น ลายขิดที่ออกแบบเอง ก็ให้ชาวบ้านช่วยแกะแพทเทิร์นแล้วทอเป็นสื่อกกออกมา และจดลิขสิทธิ์ลายเรียบร้อย อย่างลายของกระเป๋ารุ่น Candy ทางแบรนด์ก็เป็นคนคิดค้นสีและลายเอง แล้วส่งให้ชาวบ้านทอตามที่เราต้องการ ทุกอันที่เป็นลายตารางหมากฮอตสีๆ จะมาจากทางแบรนด์เราทั้งหมดครับ

ปกติเสื่อจะไม่มีลายฉูดฉาด แต่เรานำความมีสีสันเข้ามาใส่ในกระเป๋าทำให้ดูวัยรุ่นมากขึ้น และเวลาเราหาช่างทอ เราจะไปตามหมู่บ้านที่ชำนาญการทอเสื่อ แต่เราต้องไปควบคุมในเรื่องของคุณภาพ เพราะปกติเวลาเขาทอจะเน้นไปใช้งานในครัวเรือน เสื่อปูนั่งจะไม่ได้เก็บรายละเอียดอะไรมากมาย แต่พอเราไปป้อนงานให้เขา เราก็ต้องควบคุมว่าอย่าให้ท้องเส้นกกขึ้นมาด้านบน เพราะเวลาเอาไปทำกระเป๋าถ้ามีตำหนินิดนึงก็จะดูไม่สวย แต่ชาวบ้านก็ให้ความร่วมมือดีมากครับ เพราะถ้าเขาทำให้เราดี งานก็จะเข้าไปหาเขา ต่างฝ่ายต่างช่วยเหลือกัน”

กระเป๋า Chaksarn Candy
กระเป๋า Chaksarn Small Tote

กระเป๋าใบแรกของแบรนด์ Chaksarn

“ใบแรกชื่อว่ารุ่น Original ซึ่งใช้เวลาออกแบบ แก้แบบประมาณ 10 รอบ เพราะช่วงแรกยังไม่รู้วิธีทำว่าการตัดเย็บเสื่อที่แข็งๆ ให้มาอยู่กับหนังนิ่มๆ ได้ยังไง เพราะมีลักษณะพื้นผิวที่ต่างกัน เราจะเลือกใช้ดามทรงแบบไหน เข้ารูปเข้าทรงยังไง เรายังไม่รู้ เลยใช้เวลาในการปรับแก้แบบกับช่างเกือบ 3-4 เดือน กว่าจะได้ออกมาเป็นใบออริจินัล ซึ่งช่วงแรกที่ออกมาก็ยังไม่สมบูรณ์แบบเท่าไหร่ ก็ค่อยๆ ปรับไป โดยวันที่เราปล่อยกระเป๋ารุ่นนี้คือวันที่ 1 เมษายน ปี 2561 มีผลตอบรับค่อนข้างดี แต่จะมีคอมเม้นต์จากลูกค้าว่าควรปรับปรุงส่วนไหนบ้าง เราก็เอาตรงนั้นมาปรับ มาพัฒนาจนกลายมาเป็นรุ่น Original ที่สมบูรณ์”

กระเป๋า Chaksarn Original

ดังไกลถึงต่างแดน

“มีต่างประเทศติดต่อเข้ามาเยอะครับ เพราะตอนแรกที่แบรนด์เราเปิดตัวไม่ได้มีชื่อเสียงที่เมืองไทย แบรนด์เป็นที่รู้จักในต่างประเทศมากกว่า เหมือนเป็นการบอกต่อของลูกค้า ซึ่งลูกค้ากลุ่มแรกๆ ก็เป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ เพราะเขาชอบ เขาอยากเอาไปใช้ไปถือในต่างประเทศ และลูกค้ากลุ่มแรกจะมีความภักดีกับแบรนด์มาก ข่าวเลยกระจายเป็นวงกว้างในกลุ่มของลูกค้าต่างประเทศในช่วงครึ่งปีแรก พอข่าวกระจายไปก็มีร้านค้าขายปลีกในต่างประเทศติดต่ออยากให้เรานำสินค้าไปวางขาย โดยส่วนมากจะเป็นโซนยุโรป อเมริกา

แต่พอมีคนติดต่อเข้ามาเยอะมากๆ ก็ไม่สามารถผลิตได้ทัน เราจึงปฏิเสธไปทั้งหมด ขอแค่ขายปลีกก่อน เพราะสินค้าเราเป็นงานฝีมือ แต่ละชิ้นแม้จะเป็นลายเดียวกัน แต่หน้าตาก็ออกมาไม่เหมือนกัน 100 เปอร์เซ็นต์ เราไม่อยากเอาตรงนี้ไปการันตีว่าพอลูกค้าสั่งไปขายต่างประเทศแล้วสินค้าจะไม่เหมือนเดิม ตอนนั้นการผลิตของเราก็ยังทำไม่ทัน และแบรนด์ค่อนข้างเติบโตเร็ว ตอนเปิดตัวมาก็ไม่คิดว่าจะได้รับการตอบรับดีขนาดนี้ และตอนนี้กำลังทำให้สต๊อกมีเสถียรภาพที่สุด การเตรียมตัวของเราก้าวกระโดดมาก จนเราเองก็ตั้งตัวไม่ทัน ช่วงนี้เลยพยายามทำระบบสต๊อกและการผลิตให้คงที่ลงตัวที่สุด เพราะเราอยากจะตีตลาดต่างประเทศให้มากกว่านี้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ตีตลาดกับลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติจริงๆ”

Chaksarn Clutch
กระเป๋า Chaksarn รุ่น Esquire Tote

สำหรับใครที่เข้ามาส่องแล้วเกิดถูกใจกระเป๋าเสื่อกกฝีมือคนไทย ก็เข้าไปอัพเดทต่อได้ตามนี้เลยค่า chaksarnofficial

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ฮ็อตยิ่งกว่าอากาศ! ชุดว่ายน้ำลายผ้าไหม ผลงานสุดเก๋ที่เริ่มมาจากความชอบ

ทุกวันต้องชมพู! ส่องลุคสาวรัสเซีย นักสะสมบาร์บี้ มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท

ทริปนี้หลักล้าน! ‘เจมี ฉัว’ จัดแบรนด์เนมชุดใหญ่ ตะลุยป่าในแอฟริกาใต้

ฮ็อตยิ่งกว่าอากาศ! ชุดว่ายน้ำลายผ้าไหม ผลงานสุดเก๋ที่เริ่มมาจากความชอบ

ขายดีจนผลิตไม่ทัน! สร้อยคอลูกปัดราคาหลักร้อยที่ ลิซ่า BLACKPINK กำลังอิน

ตามรอยไอเท็ม! ลิซ่า BLACKPINK กับกระเป๋าโท้ทจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI

สวยหรูแบบสตรีหมายเลข 1 ‘เมลาเนีย ทรัมป์’ ฟาดค่าชุด 7 แสนบาทในเดือนเดียว

แม่ชมสายประหยัด! แมทช์เสื้อลายดอกจากตลาดนัดให้ สายฟ้า-พายุ ใส่ซ้ำจนคุ้ม

แฟชั่นนี้ควีนไม่ปลื้ม! เผยสไตล์ของสองดัชเชสที่ห้ามแต่งต่อหน้าควีน

งดงามไม่เปลี่ยน! เปิดภาพลุคสดใสของ ‘เจ้าหญิงเคท’ เมื่อ 12 ปีที่แล้ว

เรียกร้องมากไป? ควีนสั่งห้าม ‘ดัชเชสเมแกน’ ยืมเทียร่า Lover’s Knot

เอวบาง ร่างเพรียว! โรเซ่ BLACKPINK กับแฟชั่นเสื้อครอปที่แต่งแล้วปังทุกรอบ


เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : Chaksarn

ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ

ย้อนชมภาพตราตรึงใจ พระราชไมตรีดุจพี่น้อง “ในหลวง ร.9 – จักรพรรดิอากิฮิโตะ”

Alternative Textaccount_circle
ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ
ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ

ย้อนชมภาพตราตรึงใจ พระราชไมตรีดุจพี่น้อง “ในหลวง ร.9 – จักรพรรดิอากิฮิโตะ”… ปีนี้นับเป็นปีมหามงคลของประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น ด้วยเหตุอันเป็นมงคลเดียวกัน นั่นคือการเสด็จขึ้นครองราชย์อย่างเป็นทางการของพระประมุขพระองค์ใหม่ นั่นคือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งจะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในวันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562 และเจ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ที่จะเสด็จขึ้นครองราชย์ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 และจะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในวันที่ 22 ตุลาคม 2562

ทั้งนี้อีกหนึ่งความน่าปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง คือการที่พระราชบิดาของทั้งสองพระองค์ นั่นคือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ทรงมีพระราชไมตรีต่อกันมาเป็นเวลาช้านานแล้ว อีกทั้งยังทรงมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นประดุจพระเชษฐาและพระอนุชาเลยทีเดียว ซึ่งนั่นทำให้ราชวงศ์ไทยและราชวงศ์ญี่ปุ่นเปรียบดั่งมิตรแท้ รวมถึงยังส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในด้านอื่นๆ อีกด้วย

ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ แพรวดอทคอม จึงขอพาทุกคนย้อนไปชมภาพประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและยาวนานของพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองพระองค์

ความสัมพันธ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ เริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤษภาคม ปี 2506 เมื่อครั้งที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จฯเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เพื่อเข้าเฝ้าฯสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ พระราชบิดาของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ซึ่งในขณะนั้นทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าชายอากิฮิโตะ มกุฎราชกุมาร โดยสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีนางาโกะ ทรงให้การต้อนรับในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 อย่างอบอุ่นและสมพระเกียรติ รวมถึงเจ้าชายอากิฮิโตะ มกุฎราชกุมาร ที่ถวายการต้อนรับเป็นอย่างดีเช่นกัน

ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ
ในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เสด็จฯถึงสนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว โดยมีสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีนางาโกะ ทรงรอรับเสด็จ
ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ
ในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงเยี่ยมสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีนางาโกะ ณ พระราชวังอิมพีเรียล
ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ
งานถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำอย่างเป็นทางการแด่สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินี ณ อาคารโคริน
ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ
เจ้าชายอากิฮิโตะ ประทับเคียงข้างสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9

ต่อมาในเดือนธันวาคม ปี 2507 ราชวงศ์ญี่ปุ่นจึงตอบแทนพระราชไมตรี ด้วยการเสด็จฯเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของเจ้าชายอากิฮิโตะ มกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยพระชายา เจ้าหญิงมิชิโกะ มกุฎราชกุมารี (พระอิสริยยศในขณะนั้นของทั้งสองพระองค์)

ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ
ในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้เจ้าชายอากิฮิโตะ และเจ้าหญิงมิชิโกะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ
นายกเทศมนตรีนครกรุงเทพทูลเกล้าฯถวายกุญแจเมืองแด่เจ้าชายอากิฮิโตะ
ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ
ในหลวง รัชกาลที่ 9 พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์แก่เจ้าหญิงมิชิโกะ
ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ
งานพระราชเลี้ยงพระกระยาหารค่ำอย่างเป็นทางการแก่เจ้าชายอากิฮิโตะและเจ้าหญิงมิชิโกะ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

 

ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ
งานพระราชเลี้ยงพระกระยาหารค่ำอย่างเป็นทางการแก่เจ้าชายอากิฮิโตะและเจ้าหญิงมิชิโกะ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

ในครั้งนั้นในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงนำเสด็จเจ้าชายอากิฮิโตะและเจ้าหญิงมิชิโกะ เพื่อเสด็จฯเยือนจังหวัดเชียงใหม่ โดยในระหว่างนั้นในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชกระแสถึงปัญหาด้านโภชนาการของประชาชนที่ไม่สมดุลแก่เจ้าชายอากิฮิโตะ ในปีถัดมาเจ้าชายอากิฮิโตะจึงน้อมเกล้าฯถวายปลานิลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 จำนวน 50 ตัว เพื่อทรงทดลองเลี้ยงต่อไป เหตุการณ์นี้จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ประเทศไทยมีปลานิลเป็นอาหาร และเป็นสัตว์เศรษฐกิจมาจนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงพระราชไมตรีของทั้งสองพระองค์ที่แน่นแฟ้นและงดงามยิ่งนัก

ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ
เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรกิจการของคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ
เสด็จพระราชดำเนินถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่
ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ
เจ้านายฝ่ายเหนือประกอบพิธีบายศรีถวายตามประเพณีของนครเชียงใหม่ ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ
เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการใช้ช้างในกิจการป่าไม้ ณ บริเวณวนอุทยานน้ำตกแม่สา

ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ

ในหลวง ร. 9 - จักรพรรดิอากิฮิโตะ
เจ้าชายอากิฮิโตะและเจ้าหญิงมิชิโกะกราบบังคมทูลลาในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9

ติดตามต่อคลิกหน้า 2

GOT7

เอ็กซ์คลูซีฟเพื่ออากาเซ่ คุยกับ “เจบี & ยูคยอม” สองหนุ่มสุดฮ็อตแห่ง GOT7

Alternative Textaccount_circle
GOT7
GOT7

อากาเซ่คะ ทางนี้ค่ะ! ร้อนกว่าแดดเมืองไทยตอนนี้ก็ต้องความฮ็อตปรอทแตกจากสองหนุ่ม “เจบี & ยูคยอม” พี่ใหญ่และน้องเล็กแห่งวง GOT7 ที่มาร่วมงานกันในยูนิตใหม่ Jus2 พร้อมปล่อยเพลง Focus On Me ออกมาเรียกเสียงกรี๊ดและความสนใจจากสาวๆ ให้จับจ้องและจับจองด่วนๆ ครั้งนี้ แพรว จัดเต็มบินไปเกาหลีเพื่อเก็บภาพทั้งคู่มาฝากแฟนๆ แบบให้จุใจกันไปข้าง ก่อนจะชวนทั้งคู่มานั่งคุยกันแบบเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อชาวอากาเซ่ทุกคน

GOT7

ก่อนอื่นขอถามถึงยูนิต (คำเรียกโปรเจ็กต์เพลงพิเศษของเกาหลี) Jus2 ที่ทั้งคู่มารวมตัวกันในครั้งนี้ว่า ลีดเดอร์กับน้องเล็กของวง GOT7 มารวมตัวกันได้อย่างไรคะ

เจบีตอบก่อน “ที่ผ่านมาเวลาขึ้นคอนเสิร์ต เราสองคนมักได้ร้องเพลงคู่กันบ่อยๆ แล้วเราก็ชอบคุยกันว่าครั้งหน้าเราจะทำยูนิตแนวไหนดี เวลาที่ไปกินเลี้ยงกันหลังเลิกคอนเสิร์ต ผู้ใหญ่ในบริษัทก็คุยกันว่าถ้าสองคนนี้ได้ออกเพลงคู่กันน่าจะสนุกดีเหมือนกันนะ จากจุดนั้นเลยพัฒนามาเป็นยูนิตคู่ในวันนี้ครับ”

ยูคยอมเสริมว่า “อีกอย่างเราสองคนก็มีแนวเพลงที่ชอบคล้ายกันอยู่บ้าง แต่ครั้งนี้เราอยากนำเสนอตัวตนของเราสองคนเป็นหลัก รวมถึงแนวดนตรีที่ยังไม่เคยเห็นใน GOT7 การทำงานครั้งนี้เราจึงพยายามมีส่วนร่วมในการทำเพลงทุกเพลงเลย นัดมาเจอกันแล้วก็คิดด้วยกันบ้าง หรือบางเพลงก็แยกกันทำบ้าง แต่ในส่วนของเพลงโปรโมตนั้นเราทำกัน 3 คน โดยได้นักแต่งเพลงชื่อ Cosmic Boy มาช่วยครับ หวังว่าทุกคนจะชอบ”

GOT7
ยูคยอม

คิดว่าแฟนๆ จะได้เห็นอะไรที่พิเศษจากยูนิตนี้คะ

เจบีเป็นตัวแทนตอบ “อย่างแรกคือด้านการแสดงโชว์บนเวที อย่างที่สองคือดนตรีจะเป็นสิ่งที่แฟนๆ ไม่เคยเห็นใน GOT7 ยูนิตนี้พวกผมพยายามเน้นเรื่องการสื่อสารอารมณ์ในเพลงให้มากขึ้น เราตั้งใจเต็มที่ที่จะถ่ายทอดความเป็นเราสองคนลงไปในมิวสิควิดีโอและสไตล์เพลงครับ”

ที่ว่าชอบแนวเพลงคล้ายกันคือแนวไหนบ้างคะ

ยูคยอมขอเริ่มก่อน “ผมชอบฟังเพลงแนวอาร์แอนด์บีกับฮิปฮ็อปครับ เวลาแต่งเพลงก็จะชอบแนวนี้แหละ ส่วนใหญ่จะเป็นอาร์แอนด์บี แล้วบางทีก็ใส่จังหวะ Trap ลงไปด้วย รู้จัก Trap ไหมครับ (เจอคำถามนี้ คนสัมภาษณ์เหวอเล็กน้อย) เป็นรูปแบบหนึ่งของเพลงฮิปฮ็อปนะครับ ซึ่งเราสามารถนำมาใส่ในเพลงอาร์แอนด์บีได้ ถ้าถามว่าศิลปินในดวงใจผมคือใคร มีอยู่สองคนครับ คนแรกคือ Chris Brown (ศิลปินแนวอาร์แอนด์บี) ส่วนอีกคนคือ Travis Scott เป็นนักร้องแนวฮิปฮ็อปครับ” (ยิ้ม)

เจบีแชร์บ้าง “สำหรับผมไม่ได้ชอบเพลงสไตล์ไหนเป็นพิเศษครับ ถ้าฟังแล้วเพราะก็ฟังได้หมดทุกสไตล์ เวลาร้องเพลงก็เหมือนกัน ถ้าผมชอบเพลงนั้น รู้สึกฟังแล้วเพราะและสามารถแสดงอารมณ์ออกมาได้ ผมก็ร้องได้หมดทุกแบบ แต่ถ้าพูดถึงศิลปินที่ชอบ ผมมี D’Angelo เป็นนักร้องต้นแบบ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมอยากจะทำเพลงเหมือนเขานะครับ (ยิ้ม) ส่วนอีกสองคนที่ช่วงนี้ผมชอบเพลงเขาก็คือ Toro y Moi และ Kaytranada ครับ”

GOT7
เจบี

ในฐานะที่ทั้งคู่อยู่ในวงการมา 7-8 ปีได้แล้ว ถ้าย้อนกลับไปยังจำได้ไหมว่าก่อนเข้าวงการ ความฝันของเราคืออะไร แล้วทุกวันนี้ความฝันนั้นเดินทางมาถึงไหนแล้วคะ

ยูคยอมตอบโดยไม่ลังเลว่า “ความฝันของผมเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน คืออยากเป็นนักร้องสายแดนซ์ จนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังคิดว่าต้องพัฒนาเรื่องเต้นและการร้องเพลงไปเรื่อยๆ รวมถึงการแสดงบนเวทีด้วย ผมคิดว่าถ้าเรามีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมมากขึ้น ทักษะด้านอื่นๆ ของเราก็จะพัฒนาไปด้วย”

เจบีตอบบ้าง “แต่ผมไม่เคยมีฝันเป็นเรื่องเป็นราวนะ แต่ก่อนเคยเป็นนักเต้นบีบอย อยากสัมผัสประสบการณ์ทุกอย่างเกี่ยวกับบีบอยและฮิปฮ็อป แต่ไม่เคยตั้งเป้าว่าอยากจะเป็นนักร้องที่โด่งดังเลย ถ้าดังก็ถือว่าโชคดี ผมแค่อยากเต้นในแนวที่ผมชอบ อยากทำเพลงได้อย่างอิสระ ไม่ได้อยากทำเพื่อชื่อเสียง แต่อยากใช้ความสามารถที่มีให้เต็มที่ อยากผลิตงานเพลงดีๆ ออกมามากกว่าครับ

“ทุกวันนี้ผมก็ยังคิดว่าตัวเองต้องประสบความสำเร็จให้มากกว่านี้ และที่มากกว่าความสำเร็จคือการได้ทำงานไปเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ใช่การทำอะไรเดิมๆ นะครับ ต้องหาสิ่งแปลกใหม่ไปเรื่อยๆ เราจะได้พัฒนาตัวเราเองทีละก้าว รวมถึงการได้เรียนรู้และพบเจอสิ่งใหม่ๆ ได้เปิดโลกกว้างที่ไร้ขอบเขตด้วย”

GOT7

ถ้านับจากจุดเริ่มต้นก็ถือว่ามาไกลแล้ว คิดว่าอะไรที่ทำให้คุณทั้งคู่เดินทางมาถึงจุดนี้คะ

เจบีตอบทันที “ความขยันครับ ผมคิดว่ายิ่งเวลาผ่านไป ผมยิ่งขยันขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีหลายครั้งที่ผมคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วรู้สึกว่าตอนนั้นเราน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ทำไมเราถึงไม่ทำนะ มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมไม่อยากเสียใจภายหลัง จึงตัดสินใจพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และดีขึ้นเรื่อยๆ จนแม้กระทั่งคนรอบข้างก็ยังพูดว่าผมตั้งใจและขยันมากๆ”

ยูคยอมเห็นด้วย “ใช่ครับ พยายามทำให้เต็มที่และทำอย่างเสมอต้นเสมอปลาย”

จะบอกคนที่มีความฝันอยากเป็นนักร้องที่มีคนรักและให้การสนับสนุนมากมายอย่าง GOT7 ว่า…

เจบีตอบในฐานะพี่ใหญ่ “ก่อนอื่นเลย เราควรรู้จักตัวเองให้มากที่สุดครับ เริ่มจากการหันกลับไปมองว่างานนี้เหมาะกับเราจริงไหม ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะระหว่างทางที่จะไปถึงฝัน ถ้าหากเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ หรือคิดว่าอาจจะเป็นไปไม่ได้แล้ว จะทำให้รู้สึกผิดหวังและเสียศูนย์ได้ แต่ถ้าคิดแล้วว่างานนี้ใช่สำหรับเราจริงๆ เรารู้แล้วว่าต้องการอะไร ก็ควรวิ่งตามฝันไปให้สุดทางเพื่อความสำเร็จที่รออยู่ข้างหน้า ไม่ว่าจะต้องเจอกับความยากลำบากอะไรก็ขอให้เราสู้กับมัน ทำให้ดี ทำให้เสมอต้นเสมอปลาย ต้องไม่ยอมแพ้ครับ”

GOT7

พวกคุณเคยมาเมืองไทยหลายครั้งแล้วและกำลังจะมาอีก อยาก ให้เล่าถึงความประทับใจในเมืองไทยหน่อยค่ะ

เจบียิ้มไปตอบไป “ผมชอบอาหารไทยมากๆ เลยครับ ยิ่งอาหารทะเลยิ่งชอบ ถ้ามีกุ้งเยอะๆ ยิ่งดี ส่วนที่ท่องเที่ยวผมชอบภูเก็ต แต่ก่อนเคยเห็นแต่โฆษณาเกี่ยวกับภูเก็ต จนกระทั่งผมได้มีโอกาสไปจริงๆ แล้วพบว่ามันดีมากๆ (ยูคยอมพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ๆ ที่นั่นคือที่สุดแล้ว”) อ้อ! มีอีกที่หนึ่งที่ผม อยากไปมากคือเกาะพีพี ได้ยินมาว่าต้องนั่งเรือไปจากภูเก็ต อยากจะไปให้ได้สักครั้งครับ”

ยูคยอมเล่าต่ออย่างกระตือรือร้น “ถ้าพูดถึงประเทศไทย ผมนึกถึงแฟนเพลงของพวกเราครับ เวลาผมไปทุกครั้งอากาเซ่จะให้การต้อนรับอย่างดีเสมอ ครั้งที่ประทับใจสุดๆ น่าจะเป็นตอนที่ไปทัวร์คอนเสิร์ต Eyes On You ในกรุงเทพฯ แล้วแฟนๆ ที่อยู่ตรงชั้น 3 ช่วยกันแปรอักษรไฟสีชมพูเป็นคำว่า GOT7 ซารังแฮ (รัก GOT7)”

เจบีช่วยยืนยัน “ใช่ๆ ผมจำได้แม่นเลยว่าก่อนขึ้นคอนเสิร์ต แบมแบมจะมาโม้ให้ฟังว่าวันนี้มีคนมากี่คน ที่นี่ประเทศไทยนะ พี่รู้ใช่ไหมว่านี่คือเมืองไทย ตอนนี้คนมาเต็มหมด 12,000 คนเลยนะ (หัวเราะ) ต้องบอกว่าแฟนๆ ชาวไทยต้อนรับเราได้อบอุ่นมากๆ เลยครับ อย่างถ้าเป็นฝั่งอเมริกา แฟนๆ จะเป็นแนวสนุกสนานเฮฮาไปด้วยกัน แต่แฟนๆ ชาวไทยเหมือนจะให้ใจเราสุดๆ ไปเลย”

ถ้าอย่างนั้นฝากอะไรถึงแฟนๆ ดีคะ

เจบีอ้อนก่อน “พวกเราคือ Jus2 ยูนิตจาก GOT7 นะครับ ขอฝากเพลง Focus On Me ของพวกเราด้วย หวังว่าแฟนๆ จะชอบและสนุกกับเพลงนี้นะครับ เพราะพวกเราได้ใส่ทั้งอารมณ์และความรู้สึกของเราเข้าไปในตัวเพลงด้วย ผมต้องขอขอบคุณทุกคนนะครับที่ให้การสนับสนุน ช่วงนี้อากาศเมืองไทยคงจะร้อนมาก ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ” (ยิ้ม)

ยูคยอมอ้อนกว่า “ทุกคนคงรอพวกเรามานานแล้ว ผมก็อยากไปหาทุกคนเร็วๆ ฝากยูนิต Jus2 ด้วยนะครับ ครั้งนี้พวกเราได้มีส่วนร่วมในการทำเพลงและคิดท่าเต้นด้วย หวังว่าจะถูกใจแฟนๆ ทุกคนนะครับ รักน้า….” (ภาษาไทย)


 

ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารแพรว ฉบับ 945


 

ติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่

ฟินหนักมาก! แบมแบม GOT7 กับ 5 เรื่องเล่าบนเตียงที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อน

แบมแบม GOT7 เล่าโมเมนต์โลกทั้งใบให้ ชูใจ คนเดียว เอ็นดูหนักมาก!

ติ่งอปป้าก็ไม่บอก! ช็อตนี้”น้องชูใจ”ละลาย เมื่อเจอ”แบมแบม GOT7″บอยแบนด์เกาหลีชื่อดัง

ขยันทำงานสมกับเป็นว่าที่สามี แบมแบม GOT7 เดินสายลุยงานที่ไทยแม้กลับมาพักผ่อน

แก้ม-วิชญาณี

เปิดใจติ่งเกาหลีตัวแม่ “แก้ม-วิชญาณี” ความติ่งนี้มีที่มาและเป้าหมาย

Alternative Textaccount_circle
แก้ม-วิชญาณี
แก้ม-วิชญาณี

“ถ้าเรื่องติ่งเกาหลี วิชญาณียืนหนึ่งค่ะ” วลีเด็ดของ “แก้ม-วิชญาณี เปียกลิ่น” หรือ แก้ม เดอะสตาร์ เมื่อ แพรว ถามถึงดีกรีความชื่นชอบ K-Pop ของเธอ ที่เรียกได้ว่าเข้าเส้นเลือดเลยทีเดียว โดยเฉพาะความรักที่มอบให้ Girls’ Generation

“ตอนแก้มเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ช่วงนั้นมีวงดงบังชินกิ ซูเปอร์จูเนียร์ บอยแบนด์จากเกาหลี ซึ่งเพื่อนๆ ชอบกันมาก แต่แก้มไม่ค่อยอิน จนช่วงที่แก้มเข้าวงการ ตอนนั้นวงวันเดอร์เกิร์ลส์กำลังดัง เริ่มชอบจากเพลงก่อน อย่าง Nobody ทำไมเพลงเขาติดหูอย่างนี้ ทำให้ติดตาม K-Pop มาตลอด ถือว่าเป็นยุคเฟื่องฟูของ K-Pop เลยทีเดียว แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นติ่ง กระทั่งได้ดูรายการหนึ่งชื่อ We Got Married เป็นรายการจับคู่ไอดอลของเกาหลีมาแต่งงานกันเล่นๆ ในรายการ เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นซอฮยอน สมาชิกในวง Girls’ Generation แล้วหลงรักเลย เพราะเขามีความพิเศษในตัวเอง ทั้งเป็นเด็กเรียน แต่สามารถร้องเพลงและเต้นได้ดี มีคนถามถึงไอดอลของเขา เขาบอกว่า บัน คีมุน ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ และเป็นเลขาธิการประจำสหประชาชาติ เราฟังแล้วคาดไม่ถึงจริงๆ รู้ได้ทันทีว่าเธอไม่ธรรมดา และอีกอย่างที่ทำให้ชอบมากคือซอฮยอนเป็นน้องเล็กที่สุดในวง ดูเป็นสาวใสๆ ไม่เคยมีแฟน เวลาอยู่กับผู้ชายเขาจะวางตัวดีมาก รู้สึกว่าคล้ายกับเราเลย (หัวเราะ)

“หลังจากนั้นแก้มก็ได้เป็นโซวอน (ชื่อเรียกแฟนคลับของวง Girls’ Generation) ตั้งแต่นั้นมาติดตามดูทุกรายการ ทุกช่องทาง Youtube, Twitter และ Pantip ถึงขั้นเข้าไปเป็นสมาชิกในเว็บไซต์ www.soshifanclub.com บ้านแฟนคลับของ Girls’ Generation”

แก้ม-วิชญาณี

จากนั้นโซวอนแก้มก็ตามไปให้กำลังใจตามเวทีคอนเสิร์ตที่สามารถจะไปได้

“คอนเสิร์ตแรกที่เขามาเล่นที่ไทยเป็นการรวม K-Pop ซึ่งแก้มรู้จักหมดทุกวง แต่ตั้งใจอยากไปเชียร์ Girls’ Generation โชคดีที่สปอนเซอร์ของคอนเสิร์ตทราบว่าแก้มชอบมากจึงเชิญไปดู แต่จริงๆ แล้วแก้มซื้อบัตรตลอดนะ ถือเป็นการสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้เขา

“อย่างครั้งแรกที่ซื้อบัตรเอง ตอนนั้น Girls’ Generation ยังไม่ได้มาแสดงที่เมืองไทย พอแก้มได้ข่าวว่าจะมีคอนเสิร์ตที่ฮ่องกง ตัดสินใจขอแม่เลย ‘แม่จ๋า ลูกขอไปดู Girls’ Generation ที่ฮ่องกง แล้วจะพาแม่ไปไหว้พระขอพรด้วย’ (หัวเราะ) คือถือโอกาสพาครอบครัวไปทำบุญไหว้พระพร้อมกับทำหน้าที่ติ่งด้วย

“ครั้งนั้นจองบัตรได้เพราะวานพี่ๆ ที่เป็นโซวอนเหมือนกันช่วยกดจองให้ ได้เป็นบัตรยืน แก้มไปดูกับน้องสาว กรี๊ดกันสุดเสียงเลย เตรียมอุปกรณ์พวกแท่งไฟไปเชียร์กันอย่างพร้อมเพรียง แม้จะอยู่ไกล แต่ก็ฟินและแฮ็ปปี้มาก

“ครั้งที่ใกล้ชิดมากคือคอนเสิร์ตล่าสุดที่เมืองไทยแบบครบวงครั้งสุดท้าย ฝากน้องๆ โซวอนช่วยกดบัตรให้ ซึ่งต้องใช้ความเร็วอย่างมาก ถ้าได้ที่นั่งตรงไหนก็ต้องเอาตรงนั้น โชคดีว่าตรงที่แก้มนั่ง ยุนอาเดินผ่านพอดี ก็ถือว่าใกล้ชิดสุดๆ

“ครั้งนั้นแก้มมีเพื่อนไปดูด้วย คือพี่เป๊ก (ผลิตโชค อายนบุตร) พอเขาทราบว่าแก้มชอบก็มาบอกว่า พี่ก็ชอบเหมือนกัน พี่ชอบฮโยยอน แก้มเลยชวนไปดูคอนเสิร์ตด้วยกันเสียเลย เตรียมแท่งไฟไปเผื่อพี่เป๊กด้วย พี่เป๊กตะโกน ‘ฮโยยอน ๆ ๆ’ แก้มก็ ‘ซอฮยอน ๆ ๆ’ ตามประสาคนรักอะไรเหมือนกัน”

แก้ม-วิชญาณี

แล้ววันหนึ่งเธอก็มีโอกาสร่วมงานกับโซชิแบบไม่คาดฝัน

“Girls’ Generation ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้สินค้าแบรนด์หนึ่ง แล้วทางแบรนด์จ้างแก้มกับพี่บุ๊คโกะ (ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล) ไปทำหน้าที่พิธีกรคู่ แต่ตอนนั้นมีโอกาสพูดคุยในฐานะพิธีกรได้อย่างเดียว เพราะการ์ดเขาเข้มมาก

“เหตุการณ์ที่ถือว่าเป็นที่สุดของที่สุดคือได้เป็นพิธีกรสัมภาษณ์ Girls’ Generation กับพี่วู้ดดี้ ตื่นเต้นมาก เสียดายน้องซอฮยอนนั่งห่างแก้มไปหน่อย แล้วมีตอนหนึ่งที่ซันนี่หันมาถามแก้มว่า ‘คุณชอบใครในวง’ แก้มตอบไปว่า ‘ชอบทุกคนเลย แต่ที่ชอบสุดคือซอฮยอน’ ซันนี่ก็ร้องว้าว! แล้วช่วยเรียกซอฮยอนให้มาถ่ายรูปคู่ น้องซอฮยอนจับมือแก้มด้วย บอกเลยว่านาทีนั้นมือเย็นมาก (หัวเราะ)

“ตอนนี้ก็ยังคงติดตามผลงานของซอฮยอนทางอินสตาแกรม เข้าไปกดไลค์และคอมเมนต์บ้าง อย่างตอนยินดีกับเขาที่ได้รางวัลนักแสดงหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากงาน MBC Drama Awards 2017 น้องซอฮยอนก็ไลค์หัวใจในคอมเมนต์ของแก้มด้วย เขาน่าจะจำได้ว่าเราชื่นชอบในตัวเขา

“ตอนที่ทราบว่าเขาแยกวงกัน ในฐานะโซวอนก็รู้สึกเสียใจ แต่ยังรู้สึกว่า Girls’ Generation ก็คือ Girls’ Generation แก้มยังชื่นชอบโซชิทั้ง 9 คน รวมถึงชอบผลงานของทุกคนอยู่ดี”

แต่เหนือสิ่งอื่นใด Girls’ Generation คือแรงบันดาลใจสำคัญของเธอ

“จะเห็นได้ว่าซอฮยอนดูแลตัวเองดีมาก แก้มอยากมีรูปร่างและสุขภาพที่ดีอย่างนั้นบ้าง พอเห็นว่าช่วงที่ลดน้ำหนัก ซอฮยอนกินมันเทศแทนมื้ออาหาร แก้มก็พยายามหามันเทศมากินแบบเขา แต่บ้านเราหามันหวานแบบเขาไม่ค่อยได้ และช่วงที่แก้มลดน้ำหนัก แก้มเปิดเพลงของพวกเขาเต้นทุกเพลง

“ตอนที่มีคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในชีวิต หนึ่งในลิสต์เพลงวันนั้น แก้มเลือกที่จะเล่นเปียโนเพลง Into the New World เป็นเวอร์ชั่นบัลลาด เพราะเป็นคอนเสิร์ตของแก้ม เลยอยากทำอะไรที่อยากทำ

“จริงๆ แล้วแก้มชื่นชอบ K-Pop ทุกวง เพราะกว่าแต่ละวงจะได้เดบิวต์ เขาต้องฝึกซ้อมหนักมากในทุกด้าน มีวินัยอย่างสูง และนอกจากนี้เอ็มวีของเขาจัดเต็มและมักจะล้ำกว่าคนอื่น จึงไม่แปลกใจว่าทำไมเขาไปไกลถึงฝั่งอเมริกา ยุโรป ไม่ว่าจะเป็น วง BTS หรือวง BLACKPINK ที่เราทราบกันดีว่าลิซ่า สมาชิกในวงเป็นคนไทยคนแรกที่สังกัดค่าย YG แก้มติดตามตั้งแต่เขาปล่อยทีเซอร์แนะนำสมาชิกแต่ละคน ก็คอยให้กำลังใจเขาตลอด รู้สึกภูมิใจและดีใจแทนน้องลิซ่า เพราะเป็นสิ่งที่เขาตั้งใจมาก แล้วสุดท้ายสามารถทำได้สำเร็จ เขาต้องอดทนและพัฒนาตัวเอง ถือเป็นแรงบันดาลใจให้แก้มด้วย”แก้ม-วิชญาณีเชื่อแล้วว่าสาย K-Pop เป็นทางของเธอจริงๆ เพราะล่าสุดแก้มได้มีโอกาสพบน้องลิซ่าหลังเวทีคอนเสิร์ต BLACKPINK

“แก้มซื้อบัตรไปดูคอนเสิร์ต BLACKPINK ก่อนวันงาน ครูก้อย ครูของน้องลิซ่าติดต่อมาว่า แก้มจะไปดูคอนเสิร์ตหรือเปล่า ไปหลังเวทีได้ไหม น้องลิซ่าเซ็นซีดีไว้แล้ว เขาอยากมอบให้ หลังจากคอนเสิร์ตก็เข้าไปหลังเวที น้องน่ารักมาก ได้กอด ถ่ายรูปด้วยกัน แล้วก็มอบซีดีให้ ที่จริงแก้มไม่อยากที่จะเข้าไปกวนเขา เพราะรู้ว่าน้องเหนื่อย แค่ต้องการชื่นชม พอมีโอกาสพบกันก็เข้าไปแสดงความยินดีด้วยการบอกเขาว่า ‘เป็นกำลังใจให้น้องนะคะ’ แล้วน้องลิซ่าก็บอกว่า ‘หนูดูรายการ 4 โพดำ ด้วยค่ะ’ เวลาที่ได้คุยกันน้อยมาก แต่ก็ได้ถ่ายรูปคู่ ถือเป็นโมเมนต์ที่ดีในชีวิต

“ทุกวงหรือทุกคนที่แก้มชอบ แก้มมีเหตุผลของความชอบนั้น ไม่ใช่แค่บุคลิก หน้าตา หรือบทเพลง แต่เพราะเขาเป็นแรงบันดาลใจในทุกด้าน ทั้งการทำงานที่ทุ่มเท ไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง รวมไปถึงการใช้ชีวิต เพราะการเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงคือการเป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้ผู้อื่น”


 

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 945

ดร.วาว

แพ้ใจรุ่นใหญ่แสนอบอุ่น น้ำชา เซย์เยส ดร.วาว เซอร์ไพร้ส์ขอแต่งงาน

Alternative Textaccount_circle
ดร.วาว
ดร.วาว

ไม่ต้องตั้งคำถามแล้วว่ารักแท้คืออะไร เพราะล่าสุดนักร้องสาว “น้ำชา ชีรณัฐ” ถูกแฟนหนุ่มรุ่นใหญ่ ดร.วาว เซอร์ไพร้ส์ขอแต่งงาน งานนี้ว่าที่เจ้าสาวน้ำตาท่วมหน้าเลยทีเดียว

หลังจากคบหาดูใจหนุ่มรุ่นใหญ่มานานกว่า 2 ปี “น้ำชา-ชีรณัฐ ยูสานนท์ ” นักร้องสาวเจ้าของเพลงฮิต “รักแท้ยังไง” ก็กลายเป็นว่าที่เจ้าสาวคนล่าสุดไปแล้ว เนื่องจากเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมาคนรักของเธอ ดร.วาว ดิลกะ ลัทธพิพัฒน์ ได้ทำเซอร์ไพร้ส์ขอแต่งงานที่เกาะยาวน้อย ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นที่มีเพื่อนๆ มาร่วมแสดงความยินดี

https://www.instagram.com/p/BwucuzRjc_D/

งานนี้นอกจากอบอวลไปด้วยความรัก ที่แม้จะมองลงมาจากดาวอังคารก็ยังเห็นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนพูดถึงก็คือแหวนเพชรเม็ดใหญ่มาก ที่ดร.หนุ่มใช้จับจองนักร้องสาว เห็นแล้วแสบตายิ่งกว่าดวงอาทิตย์อีก

อย่างไรก็ตามสำหรับคู่รักคู่นี้ถึงแม้ทั้งคู่จะอายุห่างกัน 14 ปี แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราสาวน้ำชาเคยบอกไว้ว่า การที่คุยกับคนอายุมากกว่าทำให้เธอต้องเกรงใจมากขึ้นด้วย แต่พอคุยกับคนที่อายุใกล้ๆ กัน มันก็เหมือนเพื่อนเกินไป น้ำชาเลยมองว่าคนที่จะคุยกับเธอได้ต้องเป็นผู้ใหญ่ และใจเย็นมาก ซึ่งหนุ่มวาวเป็นแบบนั้น

ดร.วาว

ดร.วาว

ดร.วาว


ภาพจาก : IG @pangkwankao

สามารถอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ใช่? ไม่ใช่? ไม่รู้ แต่อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น น้ำชา ชีรณัฐ เผยความรู้สึกที่มีต่อ ไฮโซวาว

หวานสะท้านหลังคาโลก “จิ๊บ-วสุ” ทำเซอไพร้ส์คุกเข่าขอ จ๊ะจ๋า แต่งงาน

มาออกเสียงกัน! ย้อนดู 8 ช็อต คุกเข่าขอแต่งงาน คู่ไหนทำต่อมโรแมนติกพุ่งกระฉูดที่สุด

ซากุระเป็นพยาน แมทธิว คุกเข่าทำเซอร์ไพร้ส์ ขอ “ปู-ไปรยา” แต่งงาน

ถูกขอแต่งงานอย่างมีชั้นเชิง “มัดมุก-แพรดาว” เผยเคล็ดลับมัดใจ “แดน เหตระกูล”

เธอคือจักรวาลของฉัน นิ้ง โศภิดา เตรียมเป็นเจ้าสาว แฟนหนุ่มคุกเข่าขอแต่งงาน

แต่งค่ะ! บี มาติกา ถูกแฟนหนุ่ม ‘กรกฤช จุฬางกูร’ ทายาทแสนล้าน คุกเข่าขอแต่งงาน

ซาร่า ยิ้มปนน้ำตา เต้ย ขอแต่งงาน ตอกย้ำคำพูดชาย ถ้าเรารักใครเราต้องรักไปเรื่อยๆ

วงการบันเทิงคึกคัก ดารา-เซเลบ พากันอวด ช็อตเด็ด! คุกเข่าขอแต่งงาน

 

 

 

 

 

 

เอ-ศุภชัย

เปิดชีวิตสุดขั้วของ “เอ-ศุภชัย” ผู้จัดการดาราที่ฮ็อตเทียบชั้นซุป’ตาร์ได้

Alternative Textaccount_circle
เอ-ศุภชัย
เอ-ศุภชัย

ถ้าต้องให้คำจำกัดความแบบกระชับที่สุดสำหรับ เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร ก็อาจเป็นประโยคที่บอกว่า ผู้จัดการดาราอันดับหนึ่งของเมืองไทย แต่ในหนึ่งชีวิตมีเรื่องราวมากกว่านั้น โดยเฉพาะผู้จัดการดาราคนนี้ที่ชีวิตอยู่ห่างไกลจากคำว่าธรรมดาแบบสุดขั้ว ไม่ว่าการทุ่มเงินปั้นดาราหน้าใหม่ในระดับหลายล้านบาท การเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก การช้อปปิ้งจนเสื้อผ้าล้นทะลักตู้ (ถึงขนาดต้องทุบห้อง ทำใหม่) หรือวันดีคืนดีก็ลุกขึ้นมาถ่ายวิดีโอเต้น Cover เพลงลงโซเชียลมีเดีย แต่อีกมุมเขาคือคนที่รักการทำงานอย่างบ้าคลั่ง คนที่จัดสรรการใช้เงินอย่างมีวินัย และดูแลศิลปินในสังกัดเหมือนเป็นลูก ซึ่งคงอยู่ที่ว่าเรามองเขาจากมุมไหน แต่ย้ำอีกครั้งว่า คำว่าธรรมดาไม่มีอยู่ในสารบัญชีวิตของผู้จัดการสายแซ่บคนนี้จริงๆ

เอ-ศุภชัย

ตารางชีวิตช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ทำธุรกิจหลายอย่างค่ะ ที่เห็นชัดเจนคือร้านอาหาร ตั้งแต่ร้านตำแหลที่เปิดมา 5-6 ปี และขยายสาขาไปเรื่อยๆ นอกจากนี้มีกินแหลชาบู ชาไต้หวันบับเบิ้ลทีที่เรานำมาเปิดเมืองไทย ร้านปิ้งย่าง Nice Two Meat U ร้านอาหารใต้ Let’s Sator ร้านลมโชย @ล้ง1919 ที่หุ้นกับเพื่อน ฯลฯ

ในอนาคตอาจนำธุรกิจอาหารเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่ยังไม่ได้วางแผนว่าเมื่อไร เพราะยังพอใจกับรูปแบบการทำงานในตอนนี้และกำไรที่ได้ ถ้าเข้า ตลาดหลักทรัพย์คงต้องใช้พลังในการทำงานเยอะขึ้น เหมือนมีใครนำไฟมาลนก้นตลอดเวลา ขอทำสบายๆ แบบนี้ก่อนดีกว่า

นอกจากนี้ก็ทำธุรกิจเสื้อผ้ากับขายข้าว เรามีโรงสีข้าวที่จังหวัดสุพรรณบุรี และที่ดินเกือบ 100 ไร่แถววัชรพล ตอนแรกวางแผนพัฒนาที่ดินเป็นอสังหาริมทรัพย์ แต่ตัดสินใจทำนาก่อน ข้าวสารที่ได้ก็นำมากินด้วย ขายด้วย

จัดตารางชีวิตให้ทำทุกอย่างได้ทันอย่างไร

จริงๆ ไม่ยากเลย ตื่นนอนก็ออกกำลังกาย เสร็จแล้วเข้าไปดูที่นาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไร ต่อด้วยโทร.เช็กกับคนดูแลศิลปินว่าน้องๆ เป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้น้องณเดชน์อยู่ไหน โฆษณาที่คุยไว้โอเคไหม ส่วนเรามีหน้าที่โทร.ไปคุยกับลูกค้าหรือเจ้าของแบรนด์ ซึ่งรู้จักกันมาตั้งแต่ทำงานใหม่ๆ ตอนนี้เป็นเพื่อนกันหมดแล้ว การที่เราคุยเองจึงง่ายกว่า ถามเขาว่าช่วงนี้ต้องใช้พรีเซ็นเตอร์อะไรบ้างไหม ก็เป็นหน้าที่ของเราในการบอกว่าศิลปินของเราดีอย่างไร ถ้าคุณใช้งานจะคุ้มค่ามาก

พอ 4-5 โมงเย็นก็เข้าบริษัทที่สยาม โทร.เช็กร้านอาหารแต่ละแห่งว่าเป็นอย่างไร ถ้าร้านไหนมีปัญหาก็จะส่งคนไปตรวจบัญชีและรายละเอียดต่างๆ ว่ามีการโกงเกิดขึ้นไหม พนักงานตั้งใจทำงานหรือเปล่า ถึงสิ้นเดือนก็ให้คนเข้าไปจ่ายเงินเดือน เพราะมีผู้จัดการบางสาขาเคยโกงโดยใช้วิธีให้หน้าม้ารับเงิน แทน

เอ-ศุภชัย

ในแต่ละวันตารางงานยาวเหยียดแบบนี้ กว่าจะได้พักคือกี่โมง

ถ้าไม่อยู่ออฟฟิศ เราจะตระเวนไปดูร้านอาหารต่างๆ จนถึง 4 ทุ่ม พร้อมกับหาธุรกิจใหม่ๆ ทำอยู่ตลอด อย่างน้ำจิ้มที่ร้านอาหารของเราอร่อย ก็เลยคิดโปรเจ็กต์ผลิตน้ำจิ้มแบ่งใส่ถุงขายด้วย นอกจากนี้ยังทำเครื่องสำอาง จับมือกันกับเพื่อนที่เกาหลีเปิดคลินิกศัลยกรรมที่โน่น

ความจริงคุณน่าจะมีเงินใช้ชีวิตได้แบบสบายๆ ทำไมยังคิดโปรเจ็กต์ใหม่ๆ อยู่ตลอด

มีคนถามเยอะเหมือนกัน ตอนนี้เราทำธุรกิจกับเด็กรุ่นใหม่เยอะ ซึ่งถามเราแบบนี้ว่า พี่เอไม่พออีกเหรอ เราจึงยกตัวอย่างเปรียบเทียบว่า น้องคิดดูนะ ถ้าพี่เอซื้อกระเป๋าวันละใบ ราคาใบละ 1 ล้านบาท แล้วพี่เอซื้อกระเป๋า 365 วัน เงินหมดไป 365 ล้านแล้ว แบบนี้จะหยุดทำงานได้อย่างไร

พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าซื้อกระเป๋าแบบนั้นจริงๆ นะ แต่อธิบายให้เห็นภาพว่าถ้าจู่ๆ หยุดทำงาน แล้วเกิดเรื่องฉุกเฉินกับธุรกิจหรือตัวเรา แล้วจะหาเงินที่ไหนมาจัดการ เพราะฉะนั้นในเมื่อวันนี้ยังแข็งแรงก็อยากทำงานให้มากที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องกังวล ถ้าพรุ่งนี้ต้องใช้เงิน ก็รู้ว่ามีเงินสแตนด์บายอยู่แล้ว หรือถ้าธุรกิจไหนไปไม่รอด จะได้ล้มบนฟูก ไม่ต้องลงบนพื้นแข็งๆ แต่ก็ต้องมีความสุขในการทำงานด้วยนะ ทุกวันนี้ก็ไม่ได้รู้สึกเหนื่อย มีความสุขทุกวัน ได้เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเดือนละครั้ง อยากกินอะไรก็ได้กิน

เอ-ศุภชัย

ถ้าคิดมุมกลับว่า ทำไมไม่ใช้เงินในแต่ละวันให้น้อยลงล่ะ

ไม่เอาอะ แบบนั้นไม่สนุก เหมือนไม่ใช่ตัวเอง เราว่าชีวิตเปลี่ยนไปตามเวลาด้วย อย่างย้อนกลับไปสมัยที่เข้ามาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯใหม่ๆ เรามาแค่ตัว พยายามหางานทำ เริ่มจากเป็นตัวประกอบละคร ได้เงินวันละ 300-500 บาท จากนั้นก็ค่อยๆ เก็บเล็กผสมน้อย จากเงินออม 500 บาทก็เป็น 50,000 บาท ซึ่งทุกครั้งที่หาเงินได้จะแบ่งเป็น 3 ก้อน ส่วนแรกฝากธนาคาร ส่วนที่สองนำไปลงทุน ส่วนที่สามใช้จ่ายเพื่อตัวเอง ซึ่งในวันนั้นเราก็ไม่ได้ใช้เงิน เท่าวันนี้ กินข้าวมื้อหนึ่งอย่างมากก็ 300 บาท

มาถึงวันนี้จริงๆ ก็ไม่ได้ใช้เงินเกินตัวหรือไม่ประหยัด แต่ที่กล้าใช้เยอะขึ้น เพราะทำงานหนักและหาเงินได้มากขึ้น แต่เราก็ยังมีวินัยในการแบ่งเงินเป็น 3 ก้อนเหมือนเดิม นอกจากใช้จ่ายเพื่อตัวเอง ยังมีเงินเก็บและส่วนที่ใช้ลงทุนทำธุรกิจ ซึ่งก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จทุกอย่าง ร้านอาหารที่เจ๊งก็มี เมื่อไปต่อไม่ได้ก็รีบปิด ไม่เก็บไว้เป็นเนื้อร้าย

และเมื่อชีวิตเดินทางถึงอายุ 60-70 ปี เราก็คงไม่ได้ไปเที่ยวไกลๆ หรือถือกระเป๋าหนักไม่ไหวแล้ว ทุกอย่างคงเป็นไปตามสเต็ป เอ-ศุภชัย ในวันนั้นก็อาจเป็นอีกแบบ แต่วันนี้ขอใช้ชีวิตเต็มที่ก่อน อย่างเวลาไปเที่ยวเมืองนอก ก็เตรียมเสื้อผ้าไปแบบจัดเต็ม บางทริปใส่ไม่หมดก็มี ช่วงนี้ชอบแบรนด์ Vetements ซื้อทุกตัวเลย แล้วก็ซูเปอร์แบรนด์ พวก Balenciaga กับ Prada

เอ-ศุภชัย

พูดถึงบทบาทผู้จัดการดาราบ้าง คุณยังดูแลน้องๆ นักแสดงใกล้ชิดเหมือนเดิมไหม

ใกล้ชิดค่ะ เราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน เด็กในสังกัดจะซื้อบ้านละแวกเดียวกัน เพราะเขาคุ้นเคยโลเกชั่นนี้ตั้งแต่สมัยอยู่บ้านเรา อย่างบ้านณเดชน์ก็อยู่ใกล้ๆ กัน บางทีแม่แก้วไปเที่ยวไหนก็ซื้อของมาฝาก หรือเวลาเราไปเที่ยวบ้างก็ซื้อของมาให้

ถ้าในความรู้สึกเรา เหมือนไม่ได้เป็นแค่ผู้จัดการกับดาราแล้ว เป็นคนในครอบครัวที่คอยดูแลกันมากกว่า เรื่องไหนที่เห็นว่าทำไม่ถูกต้องก็จะพูดกันตรงๆ และโทรศัพท์ถามสารทุกข์สุกดิบกันอยู่เสมอ แต่เราจะโทร.หาคนที่ดูแลนะ เช่น ถ้าคิดถึงเจมส์ มาร์ ก็จะโทร.บอกน้องอ๋าว่าพี่เอขอคุยกับเจมส์หน่อย จริงๆ มีเบอร์ตรงของน้องแหละ แต่รู้สึกว่าใช้วิธีนี้เป็นการให้เกียรติแม่ๆ ที่ดูแลน้องแต่ละคนด้วย

หรือน้องผู้หญิงหลายคนที่ออกจากบ้านไป เช่น เดียร์น่า ฟลีโป, เนย-โชติกา หรือกุ๊บกิ๊บที่แม้ว่าช่วงหลังเจอกันน้อยลง แต่พอเจอกันปุ๊บก็ต่อกันติดปั๊บ เพราะเคยนั่งล้อมวงกินข้าวและใช้ชีวิตด้วยกัน

เอ-ศุภชัย

กับอั้ม-พัชราภา ที่ทำงานมาด้วยกันตั้งแต่วันแรกล่ะ

แค่มองตาก็รู้ใจแล้ว อั้มนิสัยดีและรักพวกพ้องมาก เห็นชอบแกล้ง ชอบอำ แต่เวลาเรามีปัญหา อั้มจะเป็นคนแรกที่มาหา อย่างช่วงหนึ่งที่เรามีข่าวขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์เกี่ยวกับดาราที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือลูกน้องตัวเองนำดาราไปทำอะไรอย่างนี้ อั้มก็เป็นคนแรกที่ขับรถมาหาที่บ้านแล้วบอกว่า ฉันรู้สึกว่าเธอต้องไม่สบายใจแน่เลย เดี๋ยวมาทำกับข้าวกินกันนะ

ที่ผ่านมาเวลาปั้นดาราใหม่ คุณจะลงทุนเต็มที่ ทุกวันนี้ยังเป็นแบบนั้นไหม

เหมือนเดิม แต่การส่งเด็กออกมาก็ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาด้วย เปรียบเทียบง่ายๆ ว่าความรักของแฟนคลับต่อดาราก็เหมือนการมีแฟนอยู่แล้ว ในเมื่อแฟน ยังสวยแซ่บอยู่ ก็ยากที่จะชอบคนอื่น เราไม่อยากทำคนมาแข่งกันเองด้วย ตอนนี้จึงมีเด็กที่บ่มไว้ รอให้สุกเต็มที่ ถึงเวลาจริงๆ ค่อยพาออกมา

เราโชคดีที่ดาราที่ปั้นหลายคนยังอายุไม่เยอะด้วย อย่างน้องณเดชน์ที่ตอนนี้อายุ 27 ปี ซึ่งเท่ากับพี่ป๋อ-ณัฐวุฒิ สมัยเข้าวงการบันเทิง อย่างตอนที่เราพาพี่ป๋อมาสัมภาษณ์ แพรว ครั้งแรกก็อายุเท่าณเดชน์ในวันนี้ เขาจึงมีเวลาในการทำงานในวงการนี้อีกพอสมควร

เอ-ศุภชัย

การเป็นผู้จัดการดาราในปี 2019 ต่างจากวันแรกที่ก้าวเข้ามาในวงการนี้แค่ไหน

จริงๆ เหมือนเดิมนะ โจทย์ของเราคือการสร้างซูเปอร์สตาร์หรือไอดอล ซึ่งกินความหมายกว้าง ขณะที่บางคนอาจสร้างแค่ดาราหน้าตี๋ หรือจับมาร้องเพลงเป็นบอยแบนด์หรือเกิร์ลกรุ๊ป แล้วมีแฟนคลับบางกลุ่มตามไปทุกที่ ซึ่งไม่ได้ผิดนะ เราเข้าใจวิธีนั้น แต่ความที่เราตั้งโจทย์แต่แรกว่าทำอย่างไรให้ คนไทยทั้งประเทศรักคนของเรา เราต้องทำอย่างไรให้คนที่วิ่งตามศิลปินที่เขาชื่นชอบ แต่พอเห็นดาราของเราแล้วหันกล้องมาถ่ายรูป เหมือนวันหนึ่งที่มีศิลปินต่างชาติกลุ่มหนึ่งเดินทางไปสนามบิน ซึ่งอั้มก็เดินทางในวันนั้นพอดี พอแฟนคลับของศิลปินกลุ่มนั้นเห็นก็หันมาถ่ายรูปอั้ม ดาราของเราต้องเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกกลุ่ม

การเป็นผู้จัดการดารากับนักธุรกิจ อย่างไหนยากกว่ากัน

งานในวงการบันเทิงยากที่สุด ไม่ใช่เรื่องง่ายในการประคองความสำเร็จให้อยู่ได้นานๆ ซึ่งเราก็มั่นใจว่าตัวเองยังเป็นที่หนึ่งของสายงานนี้อยู่ สมัยตอน ก้าวเข้ามาใหม่ๆ คนยังมองไม่เห็น แต่พอเริ่มมีชื่อเสียงก็เหมือนอยู่ท่ามกลางแสงสปอตไลท์ ทำอย่างไรให้คนรักน้องๆ ของเรามากๆ และยาวนานเป็นเรื่องยากที่สุด

ภูมิใจกับเส้นทางของตัวเองแค่ไหน

คิดถึงเส้นทางของตัวเองทุกวันเลย (ยิ้ม) ช่วงต้นปีที่โลกออนไลน์เล่น 10 Year Challenge นำรูปสมัย 10 ปีก่อนมาเปรียบเทียบกับปัจจุบัน พอเราค้นรูปเก่าๆ ก็ทำให้เจอรูปสมัย 20-30 ปีก่อนด้วย พอดูแล้วก็ทำให้คิดว่า โห เราผ่านอะไรมาเยอะ เริ่มจากการเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่เรียนหนังสือที่โรงเรียน วัดทอนหงส์ อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช แล้วมาเรียนต่อที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด เป็นเด็กผู้ชายหัวโปก มาถึงวันนี้ที่แต่งหน้า ทำผม ใส่วิกผมโดยไม่ต้องอายแล้ว ซึ่งเราก็รู้สึกอิสระ และมีความสุขด้วย

หลังจากเรียนจบมัธยมก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯมาเรียนที่มหาวิทยาลัยรังสิต ได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ซึ่งสำหรับเราเหมือนไม่ได้ทำงาน เพราะสนุกมาก จากนั้นก็ทำงานและเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาตลอดจนมาถึงวันนี้

เอ-ศุภชัย

เหมือน 10 Year Challenge ทำให้ย้อนคิดถึงไทม์ไลน์ที่ สำคัญๆ ของชีวิต

ใช่ ไม่น่าเชื่อว่าเด็กคนหนึ่งที่มาจากภาคใต้ ครอบครัวทำอาชีพค้าขายในหมู่บ้านเล็กๆ แต่วันนี้มีบริษัทของตัวเอง วันดีคืนดีอยากไปเที่ยวเมืองนอก ก็ซื้อตั๋วเครื่องบินไปได้เลย แต่ขณะเดียวกันก็ยังกินข้าวข้างถนนอยู่เหมือนเดิม มีเงินไปทำบุญทอดกฐินที่วัดแถวบ้าน ไปช่วยเหลือโรงเรียนที่เคยเรียน พอตก กลางคืนก็คุยโทรศัพท์เมาท์มอยกับเพื่อนๆ บ้าง ไม่ต้องมานั่งคิดมากหรือเครียดว่าพรุ่งนี้จะเอาเงินที่ไหนใช้ เพราะเราหาเตรียมไว้แล้ว สำหรับเราทั้งหมดนี้คือความสุขนะ

ถ้าให้เลือกคีย์เวิร์ดเพียงคำเดียวที่ทำให้ เอ-ศุภชัย มาถึงวันนี้ได้ คำนั้นคือคำว่าอะไร

คำว่า อดทน ทุกวันนี้เราก็ยังใช้ความอดทนในทุกๆ เรื่อง ถ้ามีสิ่งนี้อยู่ในใจจะทำให้ผ่านอุปสรรคได้ทุกเรื่อง ทั้งทนคำพูดเสียดสีของคนอื่น ทนการเอาเปรียบ ทำร้าย แล้วไม่ตอบกลับ บางครั้งเราก็ต้องยอมอยู่เฉยๆ เพื่อให้ชีวิตเดินไปข้างหน้าต่อ เพื่อให้เขาตามไม่ทัน เราสอนทีมงานและน้องๆ นักแสดง ทุกคนว่าต้องอดทนนะ ถ้าวันนี้ยังไปไม่ถึงในสิ่งที่ต้องการ นอกจากความพยายามแล้ว ความอดทนจะทำให้คุณประสบความสำเร็จ


 

ติดตามบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารแพรว ฉบับ 945

ภาพเพิ่มเติม : @a_supachai1

ออกแดดบ่อย จัดหนักกับทริปหยุดยาว ต้องไม่ลืมฟื้นฟูผิวเจ้าสาวเพื่อวันสำคัญ

account_circle

วันหยุดยาวเหล่าคู่รักน่าจะจัดทริปกันไม่ใช่น้อย แถมบางคู่อาจจะจัดทริปท้าแดดกันไปเลย แต่แดดเมืองไทยธรรมดาซะที่ไหน โดนปุ๊ปคล้ำปั๊ปแบบเพื่อนเห็นแล้วต้องทักแน่นอน ยิ่งสำหรับสาวๆ ที่กำลังจะเป็นว่าที่เจ้าสาวด้วยแล้วอย่าปล่อยวางปล่อยให้ผิวฟื้นตัวเองนะจ๊ะ ถ้าเกิดไม่ทันการล่ะแย่เลย แพรว wedding เลยมาแนะนำผลิตภัณฑ์ดีๆ ที่จะช่วย ฟื้นฟูผิวเจ้าสาว ให้กลับมาสดใสอีกครั้ง แฮปปี้ยิ้มรับวันวิวาห์กันไปเลย

 

  • Dr. C. Tuna Tea Tree Series

นอกจากแสงแดดแล้ว สิ่งที่พ่วงมาด้วยคือปัญหาฝุ่น เจอทั้งแดดทั้งฝุ่นแบบนี้สิวตัวดีเลยบุกมาดื้อๆ Dr. C. Tuna เลยคิดสูตรลับจากธรรมชาติด้วยส่วนผสมหลักอย่าง ทีทรีออยล์ สูตรอ่อนโยนที่เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผู้ที่กำลังมีปัญหาสิวรุมเร้า แถมงานนี้เขาใจดีจัดมาให้เป็นเซตจะได้ปรนนิบัติผิวกันแบบขั้นสุด ไม่ว่าจะเป็น Dr. C. Tuna Tea Tree Face Wash ที่ช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินบนใบหน้ารวมถึงสารตกค้างต่างๆ จากเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด Dr. C. Tuna Tea Tree Face Cream ครีมบำรุงผิวหน้าเนื้อบางเบาที่ให้ความชุ่มชื้น ช่วยกระชับรูขุมขน ช่วยคืนและรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว Dr. C. Tuna  Tea Tree SOS Serum ช่วยกำจัดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว ช่วยกระชับรูขุมขน ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนกระจ่างใส และบรรเทาอาการอักเสบของผิว

หาซื้อได้ผ่านช่องทาง www.farmasithai.com, www.facebook.com/FarmasiThai, www.instagram.com/farmasithai/   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โทร. 099-278-0055 หรือ [email protected]   และไลน์ @Farmasithai

 

  • Shiseido White Lucent

White Lucent คือกลุ่มผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งของชิเซโด้ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความงามของดอกซากุระ ที่ช่วยเผยประกายความงามให้กับผิว และล่าสุดกับนวัตกรรมความงาม RENEURA TECHNOLOGY+™ เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะจากชิเซโด้ ที่ช่วยฟื้นผิวที่เฉื่อยชาและถดถอยให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยมี 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าลุดจากกลุ่ม White Lucent

Shiseido White Lucent Brightening Gel Cream (ราคา 3,200 บาท)

มอยส์เจอร์เนื้อเจลครีมไวท์เทนนิ่งสูตรใหม่ที่ช่วยดูแลผิวได้ตลอดวัน ด้วยประสิทธิภาพของเนื้อเจลจึงมอบความชุ่มชื่นให้กับผิวดูอ่อนนุ่มมีชีวิตชีวา ฟื้นบำรุงลดเลือนจุดด่างดำและผิวหมองคล้ำให้เรียบเนียน แลดูกระจ่างใส และไม่ทิ้งความรู้สึกเหนอะหนะผิวหลังการใช้

Shiseido White Lucent Overnight Cream And Mask (ราคา 3,600 บาท)

มอยส์เจอร์ครีมสูตรไวท์เทนนิ่งที่สามารถใช้เป็นมาส์กบำรุงผิวในยามค่ำคืน ช่วยฟื้นบำรุงผิวจากริ้วรอยจุดด่างดำ สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอและหมองคล้ำให้ดูกระจ่างใสและอ่อนนุ่ม เพื่อผิวที่ดูเปล่งปลั่งในยามเช้า

Shiseido White Lucent Brightening Day Emulsion (ราคา 3,100 บาท)

มอยส์เจอร์ดูแลผิวระหว่างวันสูตรไวท์เทนนิ่งในรูปแบบเนื้ออิมัลชั่นบางเบา ให้ผิวชุ่มชื่นตลอดวัน พร้อมช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ปรับโทนสีผิวให้สม่ำเสมอ เรียบเนียน ดูกระจ่างใส พร้อมปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและบีด้วย SPF 50+PA++++

หาซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ชิเซโด้ทุกสาขาทั่วประเทศ

 

  • BIODERMA Photoderm Aquafluide Neutral SPF50+

นอกจากการบำรุงผิวแล้วการปกป้องผิวจากแสงแดดก็เป็นสิ่งสำคัญและต้องทำทุกวันก่อนออกจากบ้าน ไม่ว่าจะเจอแดดมากแดดน้อยแค่ไหนก็ห้ามลืมทากันแดดเด็ดขาด ซึ่ง BIODERMA Photoderm Aquafluide Neutral ครีมกันแดดประสิทธิภาพสูงมาพร้อม SPF50+ แต่เนื้อบางเบาซึมซาบเร็ว เกลี่ยง่ายไม่เหนอะผิว และไม่มันวาว มาในสูตร water resistant กันน้ำกันเหงื่อนานถึง 40 นาที พร้อมนวัตกรรมจากสิทธิบัตร CELLULAR BIOPROTECTION ที่ช่วยปกป้องผิวจากการโดนแสงแดดทำร้าย 3 ประการ คือ ลดการเกิดจุดด่างดำ, ไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัยอันคสร และปกป้องสารต้านอนุมูลอิสระไม่ให้ถูกทำร้ายด้วยแสงแดด (ราคา 940 บาท)

หาซื้อได้ที่ร้านเพื่อสุขภาพและความงาม ร้านขายยาและโรงพยาบาลชั้นนำ วัตสัน บู๊ทส์อีฟแอนด์บอย บิวเทรี่ยม รวมทั้งร้านค้าออนไลน์ BIODERMA LazMall ที่ลาซาด้า

 

  • ULTIMA II Extraordinaire Supreme™ Precious Collagen

สาวๆ คนมีปัญหาผิวต่างกันและมาจากหลากหลายสาเหตุ ซึ่งล้วนเป็นอุปสรรคต่อความงาม แถมยังใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ อดหลับอดนอน ความเครียดจากงาน และปัญหาอื่นๆ ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ใบหน้าดูอิดโรย หมองคล้ำ ไม่สดใส แห้งกร้าน ขาดชีวิตชีวา โดยเฉพาะคนที่จะเป็นว่าที่เจ้าสาวที่ต้องทำงานประจำและเตรียมงานแต่งงานไปด้วย ถึงเวลาแล้วที่ต้องฟื้นฟูคอลลาเจนพร้อมคืนความอ่อนเยาว์และแก้ปัญหาผิวที่ต้นเหตุ ULTIMA II (อัลติม่า ทู) แบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางชื่อดังจาก New York ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีการค้นคว้า วิจัย และพัฒนาเกี่ยวกับ “คอลลาเจน” มากว่า 50 ปีจนได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกว่าคือแบรนด์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอลลาเจนอย่างแท้จริง โดดเด่นด้วยส่วนผสมจาก Signature Collagen อันเป็นหัวใจของแบรนด์ และ Extraordinaire Supreme™ Precious Collagen (ESPC) เซรั่มบูสเตอร์ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนระดับเข้มข้น ช่วยฟื้นบำรุงลึกถึงความต้องการแห่งผิวภายใน ช่วยให้รูขุมขนแลดูกระชับ ผิวเรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ ด้วยผลิตภัณฑ์ Pure  Extraordinaire  Collagen

หาซื้อได้ที่เซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 9 โซนโรบินสัน ชั้น 1, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต โซนโรบินสัน ชั้น G, เซ็นทรัลพลาซ่า เชียงใหม่ โซนโรบินสัน ชั้น 1, เซ็นทรัลพลาซ่า อุดรธานี โซนโรบินสัน ชั้น 1, เดอะมอลล์งามวงศ์วาน นนทบุรี แผนก Beauty Hall ชั้น 2, เดอะมอลล์โคราช นครราชสีมา แผนก Beauty Hall ชั้น 1, สยาม ทาคาชิมาย่า ไอคอนสยาม ชั้น M

 

RECOMMENDED

สาวๆ อย่ามัวแต่ดูแลตัวเองจนลืมใส่ใจคนข้างๆนะคะ สำหรับหนุ่มๆ ที่กำลังจะเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวก็ต้องดูแลตัวเองเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันผู้ชายยุคใหม่ก็หันมาใส่ใจและดูแลผิวพรรณกันมากขึ้น Shiseido เลยออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ชายโดยเฉพาะกับ Shiseido Men Total Revitalizer Light Fluid ที่สุดของมอยส์เจอไรเซอร์ลดริ้วรอยแห่งวัย บริหารผิวให้แข็งแรง แลดูสุขภาพดี พร้อมดูแลผิวให้ชุ่มชื่นในรูปแบบเนื้อผลิตภัณฑ์ใหม่แบบฟลูอิดที่ให้สัมผัสสดชื่น เบาสบาย ออกแบบมาเพื่อผู้ชายผิวมันถึงผิวผสมโดยเฉพาะ ส่วนวิธีใช้ก็ไม่ยุ่งยากเพียงแค่กด Total Revitalizer Light Fluid 1 ปั๊มแล้วลูบไล้ตามผิวหน้าให้ทั่วหลังล้างหน้าและโกนหนวดเป็นประจำทุกวันเช้า-เย็น  (ราคา 3,000 บาท)

สาวรัสเซีย นักสะสมบาร์บี้

ทุกวันต้องชมพู! ส่องลุคสาวรัสเซีย นักสะสมบาร์บี้ มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท

สาวรัสเซีย นักสะสมบาร์บี้
สาวรัสเซีย นักสะสมบาร์บี้

Tatiana Tanya Tuzova สาวรัสเซีย นักสะสมบาร์บี้ ที่มีตุ๊กตาตัวโปรดกว่าพันตัวกับลุคสดใสที่เต็มไปด้วยสีชมพู แต่ชีวิตกลับโดดเดี่ยว ไร้เพื่อน

“เสื้อผ้าทุกวันของฉันเป็นสีชมพู” ตาเตียนา สาวรัสเซีย วัย 32 ปีกล่าว เธอยอมรับว่าหลงใหลในตัวบาร์บี้มากๆ และใช้เงินไปกับมันถึง 120,000 ปอนด์ หรือประมาณ 5 ล้านบาท ทำให้เธอมีคอลเล็คชั่นตุ๊กตาบาร์บี้ 1,520 ตัว ทั้งยังวางแผนที่จะเปลี่ยนชื่อและนามสกุลเป็นตุ๊กตาบาร์บี้อีกด้วย เรียกได้ว่าพลังรักที่มีต่อตุ๊กตาบาร์บี้ช่างแรงกล้า ซึ่งเธอใช้เวลาไปกับความสนใจบาร์บี้มาเป็นอันดับแรก จนทำให้ชีวิตโดดเดี่ยวและไม่มีเพื่อน แต่เธอก็บอกว่า “ฉันชอบอยู่คนเดียว ไม่มีใครขัดขวางความคิดของฉัน ฉันชอบโลกของฉัน” และตอนนี้สามีคนที่ 5 ของเธอก็คือเพื่อนที่ดีที่สุด

หลายคนคงสงสัยว่าสาวผู้รักบาร์บี้เป็นชีวิตจิตใจอย่างตาเตียนา เธอทำงานอะไร เพราะชีวิตดีมากกก ซึ่งเธอได้ผลิตเสื้อผ้าสำหรับเด็กและวัยรุ่น รวมถึงเปิดให้เช่าสตูดิโอถ่ายภาพ แน่นอนว่าทั้งหมดนี้มันเกี่ยวข้องกับตุ๊กตาบาร์บี้ และเธอยังบอกอีกว่า “ตุ๊กตาบาร์บี้ไม่ใช่งานของฉัน แต่มันเป็นวิถีชีวิต ฉันทำงานกับสไตล์ของฉันมาหลายปีและลงทุนเป็นเงินจำนวนมาก” โดยก่อนหน้านี้เธอเคยมีแผนที่จะเป็นครูโรงเรียนอนุบาล แต่ก็พบว่าไม่สามารถมีชีวิตอยู่กับเงินเดือนละไม่กี่ปอนด์ได้

ทุกวันต้องชมพู! ส่องลุคสาวรัสเซีย นักสะสมบาร์บี้ มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท

 

สาวรัสเซีย นักสะสมบาร์บี้
ตาเตียนาในเดรสสีชมพูฟรุ้งฟริ้งและมงกุฎ
สาวรัสเซีย นักสะสมบาร์บี้
คลังแสงตุ๊กตาบาร์บี้ที่ใช้เงินไป 120,000 ปอนด์ หรือประมาณ 5 ล้านบาท
ฉากหลังจัดเต็มและไม่พ้นว่าต้องเป็นสีชมพู
ตาเตียนาได้สร้างห้องตุ๊กตาบาร์บี้ในบ้านของเธอ ซึ่งก็คือบ้านของตุ๊กตาบาร์บี้ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ประกอบฉากสีชมพู
เธอบอกว่าตุ๊กตาบาร์บี้ไม่ใช่งานของเธอ แต่เป็นรูปแบบการดำเนินชีวิต
สาวรัสเซียวัย 32 ปี กับรถมินิบาร์บี้สีชมพูของเธอ
สามีของเธอซื้อของขวัญสไตล์บาร์บี้ให้เมื่อเร็วๆ นี้ และมันคือ Mini Cabrio สีชมพู
เธอบอกว่าเสื้อผ้าทุกวันของเธอเป็นสีชมพู และเธอไม่เบื่อสีชมพู เพราะมีให้เลือกหลายเฉด
สาวผู้หลงรักตุ๊กตาบาร์บี้อวดรูปร่างในชุดบิกินี่ดอกไม้สุดหวานบนชายหาด
ด้วยผมสีบลอนด์ รูปร่างผอมบางและเสื้อผ้าสีชมพู ทำให้เธอดูคล้ายกับตุ๊กตาบาร์บี้
ตาเตียนาสวมชุดสีชมพูอีกชุด ยืนอยู่ด้านหน้ารถสีชมพูรุ่นคลาสสิก
ตาเตียนาเชื่อว่าเธอไม่เหมือนใครและสไตล์ของเธอก็ยากที่จะลอกเลียนแบบ เพราะเธอทำมันมาหลายปีแล้ว
แม้ตัวชุดจะเป็นพื้นสีขาว แต่ดีเทลสีชมพูคือสิ่งที่จะขาดไปไม่ได้
ตาเตียนาโพสต์ท่าเป็นตุ๊กตาบาร์บี้ โดยมีวิกผมสีชมพูและชุดลายดอกไม้
ตาเตียนากับสุนัขของเธอในชุดสีชมพูแสนหวาน

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ทริปนี้หลักล้าน! ‘เจมี ฉัว’ จัดแบรนด์เนมชุดใหญ่ ตะลุยป่าในแอฟริกาใต้

ฮ็อตยิ่งกว่าอากาศ! ชุดว่ายน้ำลายผ้าไหม ผลงานสุดเก๋ที่เริ่มมาจากความชอบ

ขายดีจนผลิตไม่ทัน! สร้อยคอลูกปัดราคาหลักร้อยที่ ลิซ่า BLACKPINK กำลังอิน

ตามรอยไอเท็ม! ลิซ่า BLACKPINK กับกระเป๋าโท้ทจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI

สวยหรูแบบสตรีหมายเลข 1 ‘เมลาเนีย ทรัมป์’ ฟาดค่าชุด 7 แสนบาทในเดือนเดียว

แม่ชมสายประหยัด! แมทช์เสื้อลายดอกจากตลาดนัดให้ สายฟ้า-พายุ ใส่ซ้ำจนคุ้ม

แฟชั่นนี้ควีนไม่ปลื้ม! เผยสไตล์ของสองดัชเชสที่ห้ามแต่งต่อหน้าควีน

งดงามไม่เปลี่ยน! เปิดภาพลุคสดใสของ ‘เจ้าหญิงเคท’ เมื่อ 12 ปีที่แล้ว

เรียกร้องมากไป? ควีนสั่งห้าม ‘ดัชเชสเมแกน’ ยืมเทียร่า Lover’s Knot

เอวบาง ร่างเพรียว! โรเซ่ BLACKPINK กับแฟชั่นเสื้อครอปที่แต่งแล้วปังทุกรอบ


ภาพและที่มา : www.dailymail.co.uk

keyboard_arrow_up