เรื่องของในหลวงรัชกาลที่ 9

19 เรื่องของในหลวงรัชกาลที่ 9 แรงบันดาลใจของพสกนิกร ทรงอุทิศทั้งชีวิตเพื่ออาณาประชาราษฎร์

เรื่องของในหลวงรัชกาลที่ 9
เรื่องของในหลวงรัชกาลที่ 9

เรื่องของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงอุทิศทั้งชีวิตเพื่ออาณาประชาราษฎร์

เรื่องของในหลวงรัชกาลที่ 9 แพรวดอทคอมขอรวบรวมเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องในพระองค์ท่านมาเรียบเรียงไว้ ณ ที่นี้ เพื่อเป็นข้อคิดสร้างแรงบันดาลใจให้พสกนิกรไทยทุกคนมีกำลังใจที่เข้มแข็ง ดําเนินชีวิต่อไปอย่างมีสติ ความสุข ความเจริญ มั่นคง และมีคุณธรรมสืบไป

เรื่องของในหลวงรัชกาลที่ 9
ทุกครั้งที่เสด็จฯไปทรงเยี่ยมราษฎรในท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ จะทรงไต่ถามทุกข์สุขหรือความต้องการของประชาชน เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพสกนิกร

1. หลังขึ้นครองราชย์ พระองค์ได้เสด็จฯกลับไปยังสวิตเซอร์แลนด์อีกครั้ง เพื่อทรงศึกษาวิชากฎหมายและการปกครอง เนื่องจากต้องรับพระราชภาระเป็นพระมหากษัตริย์ ในด้านวิชาภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ ทรงต้ังพระทัยศึกษาเปรียบเทียบระหว่างประเทศไทยกับนานาประเทศเกี่ยวกับพื้นฐานและวัฒนธรรมของแต่ละชาติ เพื่อนํามาเป็นแนวปรับปรุงแก้ไขประเทศไทยให้เจริญขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

2. ทรงเป็นตัวอย่างของผู้ที่เสียสละความสุขส่วนตนเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวมอย่างแท้จริง ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อบําเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ คอยบําบัดทุกข์บํารุงสุขของพสกนิกรมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เพราะทรงถือว่า “การให้และการเสียสละเป็นการกระทําอันมีผลกําไร” กล่าวคือ กําไรแห่งความอยู่ดีมีสุขของปวงประชา ซึ่งไม่สามารถประเมินเป็น “มูลค่า” แต่กลับมี “คุณค่า” ทางจิตใจมากกว่า เข้าทํานองที่ว่า “ขาดทุนคือกําไร”

3.ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีความเพียรพยายามอันเป็นหนึ่งในคุณธรรม จริยธรรมที่บริบูรณ์ยิ่ง สังเกตได้จากหลากหลายโครงการพระราชดําริที่ทรงริเริ่มขึ้น ล้วนประสบสัมฤทธิผลได้ด้วยพระราชวิริยอุตสาหะเป็นสําคัญ สอดคล้องกับวิริยบารมีของพระโพธิสัตว์ในบทพระราชนิพนธ์เรื่องมหาชนก แปลว่า “พ่อผู้ยิ่งใหญ่” ซึ่งมีพระราชประสงค์ในการปลูกฝังให้คนไทยทุกภาคส่วนมีความเพียรพยายามในการทํางานและทําความดี สอดคล้องกับพระราชปรารภที่ว่า “ขอจงมีความเพียรที่บริสุทธิ์ ปัญญาที่เฉียบแหลม กําลังกายที่สมบูรณ์”

4. พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร เคยเล่าถึงการจดจ่อทรงงานของในหลวงว่า “พระองค์ทรงประยุกต์พระสมาธิในการประกอบพระราชกรณียกิจทุกอย่างทั้งน้อยและใหญ่ จึงทรงสามารถเผชิญกับพระราชภาระอันหนักในตําแหน่งพระมหากษัตริย์ได้โดยไม่ทรงสะทกสะท้านหรือหวั่นไหว ไม่ทรงคาดการณ์ล่วงหน้าไปไกลๆ อย่างเลื่อนลอยและเปล่าประโยชน์ ไม่ทรงอาลัยอดีตหรืออนาคต ไม่ทรงเสียเวลาหวั่นไหวไปกับความสําเร็จหรือความล้มเหลวอันเป็นเรื่องที่ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ทรงจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน ทรงสนพระราชหฤทัยอยู่แต่กับพระราชกรณียกิจเฉพาะพระพักตร์เท่านั้น”

5.ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงตระหนักอยู่เสมอว่า ความทุกข์ยากของพสกนิกรย่อมเปรียบเสมือนความทุกข์ยากของพระองค์เอง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทําไมคนไทยจึงมักเห็นภาพพระพักตร์ของพระองค์ที่เต็มไปด้วยหยาดพระเสโท อันเป็นผลมาจากความตรากตรําพระวรกาย จนไพร่ฟ้าประชาชนต่างกล่าวขานกันว่าพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก ทรงเอาพระราชหฤทัยจดจ่อ ไม่ทรงยอมให้ขาดจังหวะจนกว่าจะเสร็จ และไม่ทรงทิ้งขว้างแบบทําๆ หยุดๆ ดังนั้นพระราชกรณียกิจทั้งหลายจึงสําเร็จลุล่วงไปเป็นส่วนใหญ่

6. ภาพที่พระองค์มักทรงถือแผนที่ด้วยพระหัตถ์ซ้าย พระหัตถ์ขวาทรงจับปากกา พระศอสะพายกล้องถ่ายรูป ได้กลายเป็นภาพที่ชินตาและอยู่ในหัวใจของราษฎรไทยทุกภาคส่วน อุทิศพระองค์เพื่อทรงงานหนักโดยไม่ทรงเห็นแก่ความตรากตรําพระวรกาย ในบางครั้งรถพระที่นั่งต้องฝ่าเข้าไปในกระแสน้ําที่เชี่ยวกราก หากรถไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำได้ พระองค์ก็เสด็จลงจากรถเพื่อทรงพระดําเนินต่อไปด้วยสองพระบาท

Praew Recommend

keyboard_arrow_up