UN หรือ องค์การสหประชาชาติเรียกร้องให้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แสดงหลักฐานที่เป็นรูปธรรมว่า เจ้าหญิงลาติฟา พระธิดาใน ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัลมักตูม เจ้าผู้ครองนครดูไบ ที่ถูกควบคุมตัวอยู่นั้นยังมีชีวิตอยู่
สำนักข่าว BBC รายงานว่า UN หรือ องค์การสหประชาชาติได้ออกแถลงการณ์ที่สำนักงานใหญ่ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เรียกร้องให้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แสดงหลักฐานว่า เจ้าหญิงลาติฟา ยังมีชีวิตอยู่ พร้อมกับกล่าวว่าเธอควรได้รับการปล่อยตัว “โดยด่วน”
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 5 มีนาคม UN กล่าวว่ายังคงรอรายละเอียดเพิ่มเติมจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นเวลากว่าสองสัปดาห์แล้ว หลังจากการร้องขอไปครั้งแรกสำหรับการพิสูจน์ว่าเจ้าหญิงลาติฟายังมีชีวิตอยู่
จากแถลงการณ์ครั้งแรกนั้น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ตอบเพียงแค่ว่า เธอได้รับการดูแลอย่างดีที่บ้าน แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะระบุได้ว่าเธอมีชีวิตอยู่ เจ้าหน้าที่ องค์การสหประชาชาติ กล่าวต่อไปว่า “เรารู้สึกตกใจหลังมีการเผยแพร่ภาพต่อสาธารณะในเดือนกุมภาพันธ์ว่า เจ้าหญิงลาติฟาถูกลิดรอนเสรีภาพ
ทั้งนี้ BBC Panorama ได้ออกมารายงานในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า เจ้าหญิงลาติฟาถูกจับเป็นตัวประกันใน “วิลล่าที่ถูกดัดแปลงเป็นห้องขัง” โดยเธอไม่สามารถขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ได้
เรื่องราวของ เจ้าหญิงลาติฟานั้นทรงเป็นพระธิดาในลำดับที่ 23 ทรงถูกทารุณกรรม และถูกจับขัง หลังจากที่ได้ทำการหลบหนีออกนอกประเทศโดยทางเรือเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ยังประเทศสหรัฐอเมริกา โดยการช่วยเหลือของชายชาวฝรั่งเศส
แต่การหนีไปครั้งนี้กลับไม่ประสบความสำเร็จ เพราะถึงแม้ว่าจะวางแผนไว้นานถึง 7 ปี แต่พระองค์ก็ทรงถูกวางยา และถูกกองกำลังพิเศษติดอาวุธ จับได้ขณะหลบหนีอยู่ที่ รัฐกัว ซึ่งตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกของประเทศอินเดีย และถูกลักพาตัวกลับมายังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่มีผู้ใดพบเห็นหรือรู้ข่าวคราวของพระองค์อีกเลย
ทั้งนี้ก่อนที่ เจ้าหญิงลาติฟาจะทรงหนีนั้นพระองค์ได้ทำการอัดคลิป เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งพระองค์ทรงอ้างว่า “ชายคนนึงว่าเกี่ยวพันกับสตรีหลายคน การเผาบ้านหลายหลังเพื่อทำลายหลักฐานบางอย่าง การทรมาน การช่วยญาติผู้หญิงของเธอหนีออกจาก ดูไบ ยูเออี”
พระองค์เล่าว่าทรงถูกขังเอาไว้ 3 ปี 4 เดือน ก่อนที่จะตัดสินใจหนีในครั้งนี้ โดยการอัดคลิปนี้จะเป็นหนทางสุดท้าย หนทางเดียว ที่จะทำให้เธอมีชีวิตรอดไปได้ ซึ่งพระองค์ยังได้บอกอีกด้วยว่า “สิ้นคลิปนี้อาจจะตายไปแล้วก็ไม่รู้”
จากการที่ เจ้าหญิงลาติฟา ถูกพาตัวกลับมานั้น สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มสิทธิมนุษยชนเป็นอย่างมาก โดยพวกเขาให้เหตุผลว่า เจ้าหญิงลาติฟาไม่ทรงยินยอมกลับมาด้วยตนเอง แต่ถูกลักพาตัวกลับมา
เจ้านครดูไบ ประณามพระชายา “เจ้าหญิงฮายา” หลังหนีพร้อมหอบเงินพันล้าน
เจ้าและลูกจะไม่มีวันปลอดภัย! เจ้านครดูไบ ถูกศาลตัดสิน ลักพาตัว-ข่มขู่ อดีตพระชายา
5เรื่อง ยิ่งรู้จักยิ่งหลงรัก ‘ชีกห์ฮัมเดน’ ต้าวความรัก มกุฎราชกุมารแห่งดูไบ