‘ข้าวแช่’ เมนูไฮไลท์ประจำฤดูร้อน จากร้านอาหาร ‘PROVENCE’
1

เปิดเคล็ดลับความอร่อย ข้าวแช่สูตรพิเศษ ‘PROVENCE’ 1 ปี มีครั้ง

account_circle
1
1

ในช่วงฤดูร้อน ‘ข้าวแช่’ ถูกยกให้เป็นหนึ่งในเมนูไฮไลท์ประจำเทศกาล และเมื่อพูดถึงลิสต์ร้านขึ้นชื่อความอร่อยอันดับต้น คงเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากร้านอาหาร ‘PROVENCE’

          วันนี้ ‘แพรว’ พามาเจาะลึกความอร่อยเมนู‘ข้าวแช่’ ที่ทำไมทุกปีเมื่อถึงเทศกาลข้าวแช่ ทุกคนจึงต้องมาเช็คอินที่ ‘PROVENCE’ เมนูพิเศษนี้ พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือน เม.ย. เท่านั้น

          ความอร่อยเริ่มจากการคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศจากหลายที่ พร้อมใส่ใจถึงความสะอาดและปลอดภัย โดยแต่ละองค์ประกอบในเมนู ไม่ว่าจะเป็นเม็ดข้าว, น้ำลอยดอกมะลิ, พริกหยวกสอดไส้, ลูกกะปิ, ปลาหวาน, หมูฝอย, เครื่องแนม ใช้เวลาเตรียมถึง 4 วัน ก่อนจะนำมาเสิร์ฟเป็นเมนูยอดฮิต

‘ข้าวแช่’ เลือกใช้เป็นข้าวกลางปี จากทุ่งกุลา จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งที่ร้านจะนำข้าวกลางปีมาค่อยๆ ขัดจนยางข้าวออกหมด จนได้ข้าวที่เม็ดขาวใส เมื่อนำข้าวมาแช่ในน้ำลอยดอกมะลิ ข้าวจะดูดกลิ่นหอมในน้ำลอยดอกมะลิได้ดี และจะไม่ทำให้น้ำขุ่น เวลาทานจะได้เท็กซ์เจอร์ของเม็ดข้าวที่นุ่มกำลังดี ซึ่งถ้าใช้เป็นข้าวสวยใหม่จะได้ข้าวที่เละเกินไป หรือถ้าใช้ข้าวเก่าก็จะได้ข้าวที่แข็งเกินไป

          ‘น้ำลอยดอกมะลิ’ ใช้น้ำแร่จากบ่อธรรมชาติ ผ่านการพักและกรองอย่างละเอียดถึง 3 ขั้นตอน เพื่อให้ได้น้ำบริสุทธิ์ที่สุดก่อนนำน้ำไปอบควันเทียน ซึ่งดอกไม้ที่ใช้ลอย คัดสรรเฉพาะออร์แกนิกเท่านั้น เช่น กุหลาบมอญ มะลิไทย ปลอดสารเคมีและยาฆ่าแมลง โดยจะลอยดอกไม้ในน้ำวันต่อวันก่อนเสิร์ฟเท่านั้น

          ‘พริกหยวกสอดไส้’ พริกเลือกขนาดกำลังดี ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป คว้านเมล็ดออกจนหมด สอดไส้หมูบะช่อ เลือกใช้หมูสันใน ซึ่งเป็นเนื้อหมูที่ไม่มีมันแทรกแต่เนื้อมีความนุ่มที่สุด หรุมที่ห่อพริกหยวก ใช้เฉพาะไข่แดงของไข่เป็ดเป็นหลักผสมไข่ไก่เล็กน้อย เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่เข้มข้นและหอม

          ‘ปลาหวาน’ เลือกสรรวัตถุดิบปลากระเบนหวาน ส่งตรงจากพัทลุง ซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชนประมงพื้นบ้าน นำเนื้อปลากระเบนจากธรรมชาติมายีก่อนนำไปเคี่ยวกับน้ำตาลธรรมชาติ ให้ความหวานค่อยซึมเข้าที่เนื้อปลา จนได้ปลาหวานที่ให้เนื้อสัมผัสร่วนไม่เหนียวและหวานกำลังดี

          ‘ลูกกะปิ’ เป็นการผสมผสานระหว่างปลาดุกย่างเนื้อล้วน แกะก้างและหนังออกจนหมด นำเนื้อมายีและตำกับกระชาย ปั่นรวมกันในขั้นตอนสุดท้ายจนได้เนื้อของสองวัตถุดิบที่เข้ากันจนละเอียด ก่อนนำไปเคี่ยวให้งวดที่สุด ซึ่งใช้เวลาถึงราวสามชั่วโมง จากนั้นค่อยนำมาปั้นเป็นลูกและพักไว้อีก 1 วัน ก่อนเสิร์ฟถึงจะนำมาชุบไข่เป็ดแล้วนำไปทอด

          ‘หมูฝอย’ สูตรโบราณจากอัมพวา ความหวานจากน้ำตาลธรรมชาติ ไม่ใช้น้ำตาลทรายขาว ส่วน ‘ไชโป้ว’ ใช้ไชโป้วอย่างดีชนิดหวานนำมาล้างให้สะอาดถึงสามสี่น้ำ ค่อยนำมาเคี่ยวน้ำตาลอีกเล็กน้อย

          ‘เครื่องแนม’ ทั้งหมดใช้วัตถุดิบออร์แกนิก ประกอบด้วยกระชาย, แตงกวา, มะม่วงแก้วขมิ้น, พริก และต้นหอม ที่แกะสลักอย่างสวยงาม

          เมนูข้าวแช่ที่ PROVENCE เสิร์ฟพร้อม‘ปลาแห้งแตงโม’ ที่มาช่วยเพิ่มความสดชื่นให้อีกระดับ ซึ่งที่ร้านเลือกใช้แตงโมออร์แกนิกที่ไม่หวานจัด เพื่อให้ลงตัวกับความหวานจากปลาแห้งที่โรยหน้าอยู่แล้ว โดยปลาแห้งเลือกใช้ปลาช่อนแม่ลา นำมาตำจนขึ้นฟูแล้วใส่หอมเจียวเคล้ากับน้ำตาล

ตบท้ายเมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาดสั่งมาทานคู่กัน นำผลไม้ไฮไลท์ของฤดูร้อนอย่าง ‘มะยงชิด’ มารังสรรค์ ทั้ง‘มะยงชิดยัดไส้ข้าวเหนียว’ และ‘น้ำมะยงชิดปั่น’ โดยมะยงชิดที่เลือกใช้เป็นพันธุ์ทูลเกล้า มีขนาดใหญ่เท่าไข่เป็ดและหอมหวาน ส่วนข้าวเหนียวมูล เลือกใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูผสมกับกะทิและน้ำตาลตามสูตรเฉพาะของที่ร้าน จนได้ข้าวเหนียวมูลที่หอมมันกะทิและไม่หวานมาก 

            ใครอยากสัมผัสความอร่อยที่คัดสรรจากวัตถุดิบสุดพรีเมี่ยม เช็คอินได้แล้ววันนี้ที่ร้าน PROVENCE ทั้งสองสาขา ชั้น L เกษร วิลเลจ และอาคารเคียนหงวน และชั้น 1 อาคารอัลม่า ลิงค์ ชิดลม

ภาพ : อิทธิศักดิ์ บุญปราศภัย

Praew Recommend

keyboard_arrow_up